บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ผ่านวันผ่านคืนแบบที่นาฬิกาหมุนเร็วเป็นพิเศษ จนรอบแรกแห่งฟุตบอลโลก 2022 ที่รอคอย ผ่านไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ไปย้อนดูกันสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

20 พฤศจิกายน 2022 หลังจากเสียงนกหวีดแรกแห่ง เวิลด์ คัพ 2022 ดังขึ้น ใครจะเชื่อว่าเจ้าภาพ กาตาร์ จะจัดความ “น่าเหลือเชื่อ” มาเสิร์ฟกันตั้งแต่แรก — ไม่ใช่ในแง่ดี แต่เป็นแง่ลบล้วนๆ

 

ไม่ต้องพูดถึงการจัดการส่วนอื่นๆ ของเจ้าภาพที่ก็ล้วนแต่มีเสียงตำหนิ จำกัดลงมาในแง่ของฟุตบอล ทีมของ เฟลิกซ์ ซานเชซ ได้ผลออกมาแบบที่ต้องถอนใจดังๆ และผิดหวังแทนแฟนเจ้าภาพ

 

กระนั้น กับตัวแทนเอเชียรายอื่น ทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ไปจนถึง ออสเตรเลีย ก็สร้างความน่าเหลือเชื่อไว้เช่นกัน และเป็นไปในทางที่ดีงามด้วย

 

ส่วนก้าวเดินของบรรดายักษ์ใหญ่ตัวเก็งเต็งแชมป์ทั้งหลายแหล่ ไปจนถึงม้ามืดที่ถูกจับตามอง ก็ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญของทัวร์นาเมนต์

 

บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำล้ำค่า กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022…

 

บทสรุปรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอ – กังหันลอยลำ ตามด้วยเซเนกัล
1. เนเธอร์แลนด์ คะแนน 7 ผลต่างประตู +4
2. เซเนกัล คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
3. เอกวาดอร์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +1
4. กาตาร์ คะแนน 0 ผลต่างประตู -6

 

เนเธอร์แลนด์ : เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเออย่างไม่ลำบาก ด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โคดี้ กัคโป ดาวรุ่งจากพีเอสวี แจ้งเกิดเต็มตัวด้วยการซัดนัดละเม็ด ครบทั้งสามเกม ยิงได้ 5 เสียแค่ประตูเดียว สำคัญคือ ตั้งแต่ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาทำทีมแทน แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หลังจบยูโร 2020 นั้น ฟาน กัล ก็ยังไม่ได้พาทีมกังหันแพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียว ลงสนาม 18 นัด ชนะ 13 เสมอ 5

 

เซเนกัล : เริ่มต้นได้แย่ด้วยการแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แต่สองเกมถัดมาก็ฟาด 6 แต้มเต็ม ชนะ กาตาร์ 3-1 และ เอกวาดอร์ 2-1 จนเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอ แม้จะหวิดร่วงอยู่เหมือนกันหลังโดน เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง ก็ตาม

 

เอกวาดอร์ : เปิดฉากอย่างเร้าใจสร้างเซอร์ไพรส์ให้หลายฝ่าย กับการชนะเจ้าภาพ กาตาร์ แล้วมายันเสมอ เนเธอร์แลนด์ จนเกมสุดท้ายขอแค่ไม่แพ้ก็ลอยลำ แต่สุดท้ายโดนทีเด็ดจาก คาลิดู คูลิบาลี่ และชาวคณะ จนตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

 

กาตาร์ : น่าผิดหวังอย่างรุนแรงกับผลงานที่ปรากฏกับบอลโลกในบ้าน เมื่อทั้งที่ซุ่มเก็บตัวเตรียมทีมอยู่เป็นปีๆ แถมมีดีกรีแชมป์ เอเชียน คัพ 2019 แต่ดันออกอาการสั่นไหว ตื่นเกร็งตั้งแต่เกมแรก จนแพ้ เอกวาดอร์ 0-2 และต่อมาก็ทำดีที่สุดแค่ยิง 1 ประตู โมฮัมเหม็ด มุนตารี่ ยิงตีไข่แตก เซเนกัล นัดแพ้ 1-3

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มบี – สิงโตไม่มีพลาด
1. อังกฤษ คะแนน 7 ผลต่างประตู +7
2. สหรัฐอเมริกา คะแนน 5 ผลต่างประตู +1
3. อิหร่าน คะแนน 3 ผลต่างประตู -3
4. เวลส์ คะแนน 1 ผลต่างประตู -5

 

อังกฤษ : เริ่มต้นได้อย่างสุดยอด รัว อิหร่าน ครึ่งโหล แต่ต่อมาก็เครื่องสะดุดไปดื้อๆ เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 เพียงแต่ว่าก็ฟื้นฟอร์มร้อนได้ทันเวลากะซวกเพื่อนบ้าน เวลส์ 3-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม โดยที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นดาวเด่น กดไป 3 ประตู ทั้งนี้ เบน ไวท์ กองหลังจากอาร์เซน่อล ถอนตัวจากบอลโลกไปด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่เป็นที่เปิดเผย

 

สหรัฐอเมริกา : ไม่ได้ถูกจับตามองนักว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ โดยเฉพาะ 2 เกมแรกแม้ไม่แพ้ แต่ก็เสมอทั้ง เวลส์ และ อังกฤษ กระนั้นนัดสุดท้ายก็เฉือนชัย อิหร่าน 1-0 คริสเตียน พูลิซิช สังหารเม็ดโทนส่งพญาอินทรีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

 

อิหร่าน : มีเกมที่เป็นประเด็นทุกนัด ตั้งแต่เปิดหัวโดน อังกฤษ อัดครึ่งโหล, นัดต่อมายิง เวลส์ 2-0 ตอนทดเจ็บ +8 กับ +11 ตามด้วยนัดสาม เล่น “เกมการเมือง” กับ สหรัฐอเมริกา แต่ต้านไม่อยู่ จนตกรอบแรก เป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม

 

เวลส์ : ทันทีที่ แกเร็ธ เบล สาวเท้าเข้าสังหารจุดโทษใส่ สหรัฐอเมริกา ช่วยให้ทีมมังกรแดงไล่ตีเสมอ 1-1 ท้ายเกม เขาและแฟนๆ เวลส์ก็คงไม่รู้ว่า นั่นคือการได้เฮหนแรกและหนเดียวตลอดรายการ เมื่อหลังจากนั้นแพ้ อิหร่าน และแพ้ อังกฤษ แบบโดนยิงรวม 5 ลูก เอาคืนไม่ได้เลยสักเม็ด

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มซี – ฟ้าขาวมาทันเวลา จังโก้ใจสลาย
1. อาร์เจนติน่า คะแนน 6 ผลต่างประตู +3
2. โปแลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
3. เม็กซิโก คะแนน 4 ผลต่างประตู -1
4. ซาอุดีอาระเบีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -2

 

อาร์เจนติน่า : เต็งแชมป์เบอร์ต้นที่มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 เริ่มต้นด้วยความพลิกล็อกช็อกโลก ลิโอเนล เมสซี่ ยิงจุดโทษนำก่อนแต่แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ทว่าหลังจากนั้นก็ฮึดขึ้น ปราบ เม็กซิโก 2-0 เช่นเดียวกับ โปแลนด์ สกอร์เดียวกัน จนยึดแชมป์กลุ่มได้ในที่สุด

 

โปแลนด์ : นั่งเข่าทรุดคอตกกันแล้วสำหรับนักเตะและกองเชียร์โปแลนด์ ตอนจบเกมสุดท้ายรอบแรกที่แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2 แต่ปรากฏว่าเมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ตีไข่แตก เม็กซิโก 1-2 ช่วงทดเจ็บ 90+5 ก็ทำให้ เม็กซิโก ถูกฉุดตกรอบไปแทน และ โปแลนด์ ได้เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเฮงๆ ด้วยผลงานครบถ้วนชนะ-เสมอ-แพ้

 

เม็กซิโก : หนึ่งคือหนืดเนือยไร้คมเอง สองคือก็โชคไม่เข้าข้าง เมื่อทั้งที่ยิง ซาอุฯ 2-0 ซึ่งเพียงพอต่อการเข้ารอบแล้วในเกมปิดกลุ่ม แต่สุดท้ายมาโดนตีไข่แตก 90+5 ทำให้ประตูได้เสียเป็นรอง โปแลนด์ ในพริบตา และตกรอบแรกเข้าจนได้จากที่เข้ารอบ 16 ทีมบอลโลกมา 8 ครั้งรวด

 

ซาอุฯ : เอาชนะ อาร์เจนติน่า แบบไม่น่าเชื่อ 2-1 แบบที่ทีมฟ้าขาวยิงเข้า 4 ครั้งได้มาลูกเดียว นอกนั้นล้ำหน้าหมด แต่ถัดมายุทธวิธีกับดักล้ำหน้าก็ใช้ไม่ได้แล้ว แพ้ 2 เกมรวดจนตกรอบด้วยการเป็นบ๊วย แถมสร้างความเจ็บแสบให้ เม็กซิโก อีกต่างหาก

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มดี – ตราไก่ใสแจ๋ว โคนมดิ้นพราด
1. ฝรั่งเศส คะแนน 6 ผลต่างประตู +3
2. ออสเตรเลีย คะแนน 6 ผลต่างประตู -1
3. ตูนิเซีย คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
4. เดนมาร์ก คะแนน 1 ผลต่างประตู -2

 

ฝรั่งเศส : เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์อย่างหวาดเสียวด้วยอาถรรพ์แชมป์เก่าและปัญหาบาดเจ็บของขุมกำลัง เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ทยอยกันถอนตัวออกไป ไม่นับรวมที่เดี้ยงจนไม่ได้มาอยู่ก่อนแล้วอีก 4-5 คน ทว่าทีมตราไก่ก็ลบคำสบประมาททุกอย่างลงได้อย่างสวยงาม ชนะ ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก จนเข้ารอบน็อกเอาต์ได้เป็นทีมแรกสุด สุดท้ายแม้แพ้ ตูนิเซีย 0-1 แต่ก็เป็นทีมสำรอง แถมไม่ส่งผลกับการเป็นแชมป์กลุ่มด้วย

 

ออสเตรเลีย : โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 ด้วยประตูโทนของ แม็ทธิว เลคกี้ จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม

 

ตูนิเซีย : กลายเป็นทีมจอมเหนียวแน่นในทัวร์นาเมนต์นี้อย่างเซอร์ไพรส์ สามนัดเสียแค่ประตูเดียว แต่เวลาเดียวกันก็ยิงได้แค่ลูกเดียวถ้วน จนเข้าป้ายที่อันดับ 3 กลับบ้านค่ะพี่

 

เดนมาร์ก : หนึ่งในทีมที่น่าผิดหวังที่สุดของฟุตบอลโลก 2022 เมื่อทั้งที่เข้าถึงตัดเชือกยูโร ทั้งผลงานรอบคัดเลือกดีมาก ขั้นว่าเข้ารอบสุดท้ายเป็นทีมที่ 3 ของโลก และทั้งที่บางกูรูยกว่ามีสิทธิ์ถึงแชมป์โลก แต่กลับเกิดความสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกที่กาตาร์ ระบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และไม่ลงตัวสักอัน จนชนะใครไม่ได้เลย เสมอตูนิเซีย 0-0, แพ้ฝรั่งเศส 1-2 และแพ้ออสเตรเลีย 0-1 ตกรอบด้วยการเป็นบ๊วย

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มอี – ซามูไรไงล่ะเพื่อน!
1. ญี่ปุ่น คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
2. สเปน คะแนน 4 ผลต่างประตู +6
3. เยอรมนี คะแนน 4 ผลต่างประตู +1
4. คอสตาริกา คะแนน 3 ผลต่างประตู -8

 

ญี่ปุ่น : เซอร์ไพรส์แพ็คเกจประจำเวิลด์คัพ 2022 ที่การประกาศของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ว่าเป้าหมายของเขาคือการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ถูกหัวเราะเยาะใส่ แต่เมื่อเกมจริงมาถึง ญี่ปุ่น ก็พลิกสยบ เยอรมนี 2-1 ตั้งแต่เกมแรก ต่อมาแม้จะเจอความพลิกล็อกเล่นงานเองบ้างด้วยการแพ้ คอสตาริกา 0-1 แต่ก็ยังมาพลิกยิงแซงชนะ สเปน ในเกมที่บังคับต้องชนะอีก 2-1 จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มอย่างหล่อ

 

สเปน : มาดีเกินคาดอีกเหมือนกัน เริ่มต้นด้วยการขยำขยี้ คอสตาริกา 7-0 จากนั้นก็หวิดชนะ เยอรมนี แต่โดนทวงท้ายเกม 1-1 แต่ปรากฏว่านัดสุดท้าย เล่นแบบเอื่อยๆ จนโดน ญี่ปุ่น แซงเชือด 2-1 ท่ามกลางครหาว่าอันที่จริง พวกเขาตั้งใจแพ้เพื่อขวางไม่ให้ เยอรมนี หลุดเข้าไปเป็นเสี้ยนหนาม แถมตัวเองยังจะเลี่ยงทีมแข็งอย่าง โครเอเชีย หรือ บราซิล ในรอบถัดๆ ไปได้ด้วย

 

เยอรมนี : เล็งถึงแชมป์โลกสมัย 5 ฐานที่เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นทีมแรกสุด (ถัดจากเจ้าภาพ) แต่ปรากฏว่าอินทรีเหล็กเก๊กซิมตั้งแต่นัดแรก แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 และก็ทำได้เต็มที่แค่ตามทวง สเปน 1-1 สุดท้ายแม้จะชนะ คอสตาริกา ได้ตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่เพียงพอเมื่อ ญี่ปุ่น ยังสร้างปาฏิหาริย์ซ้ำสองได้อยู่

 

คอสตาริกา : ถูกกาชื่อทิ้งเมื่อจบเกมแรกที่โดน สเปน ยิง 7 เม็ด แต่ก็แก้ตัวได้อย่างสวยงามในนัดต่อมาที่ชนะ ญี่ปุ่น 1-0 และที่จริงจะเข้ารอบได้ด้วยถ้าตรึงสกอร์นำหน้า เยอรมนี 2-1 เอาไว้จนจบเกม แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว พ่าย 2-4 จนตกรอบแรกไปด้วยกัน

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอฟ – ม้ามืดตัวจริงที่ชื่อ…
1. โมร็อกโก คะแนน 7 ผลต่างประตู +3
2. โครเอเชีย คะแนน 5 ผลต่างประตู +3
3. เบลเยียม คะแนน 4 ผลต่างประตู -1
4. แคนาดา คะแนน 0 ผลต่างประตู -5

 

โมร็อกโก : ม้ามืดตัวจริงของฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ก่อนสร้างเซอร์ไพรส์ปราบ เบลเยียม 2-0 และฟาดอีกสามแต้มด้วยการสยบ แคนาดา 2-1 จนเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม แบบที่ยิง 4 เสียแค่ 1 ซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขามีดีทั้งรุกและรับ

 

โครเอเชีย : โชว์ความหลังเหนียวด้วยการไม่เสียประตูทั้งเกมกับ โมร็อกโก และ เบลเยียม โดยเฉพาะนัดหลังที่เป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ไม่พลาดท่าเสียที แม้โดยรวมอาจไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนครั้งก่อนที่ไปไกลถึงรองแชมป์โลก แต่ก็อย่าประมาทเชียวล่ะ

 

เบลเยียม : อีกหนึ่งยักษ์ล้มของฟุตบอลโลกงวดนี้ ทั้งที่เริ่มต้นด้วยชัยชนะเหนือ แคนาดา 1-0 แต่หลังจากนั้นกลับพลิกพ่าย โมร็อกโก ตามด้วยเสมอ โครเอเชีย แบบยิงไม่ได้ โรเมลู ลูกากู โดนถล่มหนักจากฟอร์มสุดทื่อในเกมสุดท้ายที่พลาดโอกาสทองไป 3-4 หน ขณะที่ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงความแตกร้าวภายในแคมป์ โดยเฉพาะเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ไปหลุดปากให้สัมภาษณ์ว่า เบลเยียมชุดนี้แก่เกินไป ยังไงไม่ถึงแชมป์โลก

 

แคนาดา : คืนสู่ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกถัดจากปี 1986 ซึ่งก็พอเข้าใจได้ถึงการที่บทสรุปจะออกแบบนี้ – รั้งบ๊วยด้วยการแพ้ 3 เกมรวด เนื่องด้วยขุมกำลังของพวกเขาไม่มีนักเตะคุณภาพอยู่เลย ยกเว้น อัลฟอนโซ่ เดวิส คนเดียวที่ก็แบกไม่ไหว แต่ก็เป็นการชิมลางที่ดีก่อนได้เป็นเจ้าภาพร่วม (กับสหรัฐฯ และเม็กซิโก) ในอีก 4 ปีข้างหน้า

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มจี – แซมบ้ามาตามนัด เซิร์บผิดฟอร์ม
1. บราซิล คะแนน 6 ผลต่างประตู +2
2. สวิตเซอร์แลนด์ คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
3. แคเมอรูน คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
4. เซอร์เบีย คะแนน 1 ผลต่างประตู -3

 

บราซิล : เป็นอีกทีมที่โดนปัญหาบาดเจ็บตามเล่นงาน เนย์มาร์ กับ ดานิโล่ เจ็บจากเกมแรกจนต้องพักตลอดรอบแรก กาเบรียล เชซุส กับ อเล็กซ์ เตลเลส ก็เจ็บจากเกมสามจนต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ แต่ภาพรวมก็ยังถือว่ายอดเยี่ยม เกมแรกอัด เซอร์เบีย จนน่าชนะมากกว่า 2-0 เกมสองก็ฮึดเชือด สวิสส์ ด้วยประตูเวิลด์คลาสจาก กาเซมิโร่ เสียแค่นัดสามที่ปรับส่งสำรองลง แล้วเจาะ แคเมอรูน ไม่เข้าก่อนโดนสวนถึงปลายคาง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นแชมป์กลุ่มได้ตามเป้า

 

สวิตเซอร์แลนด์ : แสดงให้เห็นถึงเกมรับที่แข็งแกร่งทั้งในเกมชนะ แคเมอรูน 1-0 และยัน บราซิล 0-0 จนถึงนาที 83 (โดน กาเซมิโร่ สอย 1-0) ก่อนจะเจอเกมแลกหมัดกับ เซอร์เบีย ซึ่งทัพนาฬิกาก็ยังมีดีพอจะเบียดชนะ 3-2 ด้วยทีมที่มี 11 คนแรกค่อนข้างตายตัว และตัวความหวังสูงสุดอย่าง บรีล เอ็มโบโล่ ก็เข้าฝักดี กดไปแล้ว 2 ตุง

 

แคเมอรูน : โชคไม่ดีนักที่ชัยชนะสุดพลิกล็อกเหนือ บราซิล 1-0 แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ โขกประตูโทน มาช้าเกินไปหน่อย หลังจากแพ้ สวิสส์ 0-1 ไปแล้ว และเสมอ เซอร์เบีย 3-3 ในนัดถัดมา ทำให้สี่แต้มที่มีในมือยังไม่มากพอต่อการได้ไปต่อ

 

เซอร์เบีย : น่าผิดหวังมากอีกทีม เมื่อทั้งที่มาด้วยฟอร์มชั้นยอดในรอบคัดเลือก แต่เมื่อถึงรอบสุดท้ายแล้วก็กลับไปไม่เป็น ดราแกน สตอยโควิช เหมือนจะวางแผนผิดในเกมแพ้ บราซิล 0-2 ต่อมาก็ทำพลาดปล่อยสกอร์นำ แคเมอรูน 3-1 ให้จบที่ 3-3 ก่อนสุดท้ายโดน สวิสส์ ยิงอีกสามเม็ด เท่ากับสามเกมโดนจ้วงยับ 8 ประตู

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอช – ฝอยทองจองตั๋ว โสมขาวมาเฉย
1. โปรตุเกส คะแนน 6 ผลต่างประตู +2
2. เกาหลีใต้ คะแนน 4 ผลต่างประตู 0 (ยิงได้ 4)
3. อุรุกวัย คะแนน 4 ผลต่างประตู 0 (ยิงได้ 2)
4. กาน่า คะแนน 3 ผลต่างประตู -2

 

โปรตุเกส : ทำให้เห็นว่านี่ก็ไม่ได้เป็นกลุ่มแห่งความตายอะไรนักหนา ด้วยการชนะ 2 เกมซ้อนเหนือทั้ง กาน่า และ อุรุกวัย จนการันตีการเข้ารอบได้ตั้งแต่จบสองเกมแรก และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ไม่ได้เล่นดีมากแต่ก็มีประตูทำสถิติจารึกไว้ชั่วลูกชั่วหลาน จนเกมสุดท้ายแม้จะหลุดแพ้ เกาหลีใต้ แต่ก็ไม่ได้สั่นคลอนตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

 

เกาหลีใต้ : สร้างเซอร์ไพรส์ได้ไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่าง ญี่ปุ่น แต่ก็ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำมากกว่าเมื่อสองเกมแรกผ่านไปมีแต้มในมือแค่คะแนนเดียว (0-0 อุรุกวัย, 2-3 กาน่า) จนสถานการณ์บังคับให้ต้องชนะ โปรตุเกส สถานเดียวพร้อมลุ้นผลอีกคู่ สุดท้ายทำสำเร็จด้วยการยิงแซง 2-1 และ อุรุกวัย ยิงไม่พอ

 

อุรุกวัย : ถูกมองว่าจะไปได้ไกลจากการมีขุมกำลังน่าจับตาตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด แต่เอาเข้าจริงก็ถือเป็นทีมน่าผิดหวังอีกรายประจำทัวร์นาเมนต์ สองเกมแรกยิงใครไม่ได้ เสมอ เกาหลีใต้ 0-0 และแพ้ โปรตุเกส 0-2 ครั้นเร่งเครื่องขึ้นก็ไปไม่สุด นำ กาน่า 2-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้วผ่อนเกม จนยิงเพิ่มไม่สำเร็จ สุดท้ายตกรอบอย่างสุดช็อกด้วยการที่มีจำนวนประตูยิงได้น้อยกว่า เกาหลีใต้ เท่านั้นเอง

 

กาน่า : วูบวาบดีและก็สร้างความหนักใจให้คู่แข่งได้พอตัว ทั้งเกมที่แพ้ โปรตุเกส หวิวๆ 2-3 แล้วต่อมาสยบ เกาหลีใต้ 3-2 เพียงแต่ก็เครื่องช็อตไปในเกมสาม ที่แพ้ อุรุกวัย จนในที่สุดก็ตกรอบแรกแบบเป็นบ๊วยของกลุ่ม อินยากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่ฝากความหวังไว้ ยิงไม่ได้สักลูก ดาวเด่นกลับเป็น โมฮัมเหม็ด คูดุส ปีกดาวรุ่งจากอาแจ็กซ์ ที่กดไป 2 ตุงในเกมชนะโสมขาว

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

 

ภาพประกอบ
AFP
Doha News
Sky Sports
CNN
Football365
THE SPORTS ROOM
The West Australian
Reuters

 

เรื่องน่าอ่าน
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด
8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบทีมสุดท้าย :ฉบับสมบูรณ์ UPDATED

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบทีมสุดท้าย :ฉบับสมบูรณ์ UPDATED

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รวมทีมที่เข้ารอบ พร้อมช่องถ่ายทดสด

ขยับเข้ามาใกล้เราท่านเพียงเอื้อมมือ เหลือแค่หลับไม่กี่ตื่น ฟุตบอลโลก 2022 ที่รอคอยก็จะเดินทางมาถึงขอบจอทีวีเป็นที่เรียบร้อย โอกาสนี้ ไปสำรวจโปรแกรมการแข่งขันอย่างละเอียดกันอีกสักครั้ง

 

ตั้งแต่วันอาทิตย์ 18 พ.ย. นี้เป็นต้นไป ที่โลกทั้งโลกจะหยุดหมุนเพื่อเฝ้าดูการโรมรันประชันขันแข่ง มหกรรมฟุตบอลของมวลมนุษยชาติ ที่ประเทศกาตาร์

 

ตามโปรแกรมที่วางไว้ ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก 2 นัดแรก จะมีเตะถึง 4 แมตช์ 4 เวลาในระหว่างวัน คือ 5 โมงเย็น, สองทุ่ม, ห้าทุ่ม และตีสองตรง ตามเวลาไทย

 

แต่เมื่อเข้าสู่นัดที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่มแล้ว ก็จะมีการปรับเปลี่ยนตารางเวลาใหม่เล็กน้อย เป็น 4 ทุ่ม กับตี 2

 

ด้านล่างนี้ จัดให้ดูกันแบบครบๆ เลยว่า วันไหนมีใครเตะเวลาใดบ้าง

 

UPDATED : ภายหลัง กสทช. ปิดดีลซื้อลิขสิทธิ์ได้แล้วด้วยมูลค่า 1,400 ล้านบาท ช่องถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีประเทศไทย ก็ได้มีการเปิดเผยออกมาแล้ว โดยเป็น ทรู ผู้ร่วมลงทุน 300 ล้านบาท ได้โควตาไปถึง 32 เกม หรือ 50% ของแมตช์แข่งขันทั้งหมด

 

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 จำแนกตามวันและเวลา
อาทิตย์ 20 พฤศจิกายน 2565
23.00 น. กลุ่มเอ กาตาร์ vs เอกวาดอร์True4U / T Sports 7

จันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565
20.00 น. กลุ่มบี อังกฤษ vs อิหร่านTrue4U
23.00 น. กลุ่มเอ เซเนกัล vs เนเธอร์แลนด์JKN18
02.00 น. กลุ่มบี สหรัฐอเมริกา vs เวลส์T Sport 7

อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มซี อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบียTrue4U
20.00 น. กลุ่มดี เดนมาร์ก vs ตูนิเซียTrue4U
23.00 น. กลุ่มซี เม็กซิโก vs โปแลนด์CH3
02.00 น. กลุ่มดี ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลียMONO29

พุธ 23 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มเอฟ โมร็อกโก vs โครเอเชียTrue4U
20.00 น. กลุ่มอี เยอรมนี vs ญี่ปุ่นCH7
23.00 น. กลุ่มอี สเปน vs คอสตาริกาTrue4U
02.00 น. กลุ่มเอฟ เบลเยียม vs แคนาดาThairath TV

พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มจี สวิตเซอร์แลนด์ vs แคเมอรูน THAI PBS
20.00 น. กลุ่มเอช อุรุกวัย vs เกาหลีใต้True4U
23.00 น. กลุ่มเอช โปรตุเกส vs กาน่าTrue4U
02.00 น. กลุ่มจี บราซิล vs เซอร์เบียCH8

ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มบี เวลส์ vs อิหร่านTrue4U
20.00 น. กลุ่มเอ กาตาร์ vs เซเนกัลTrue4U
23.00 น. กลุ่มเอ เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์ PPTV
02.00 น. กลุ่มบี อังกฤษ vs สหรัฐอเมริกาTrue4U

เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มดี ตูนิเซีย vs ออสเตรเลียTrue4U
20.00 น. กลุ่มซี โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบียTrue4U
23.00 น. กลุ่มดี ฝรั่งเศส vs เดนมาร์กT Sports 7
02.00 น. กลุ่มซี อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโกNBT

อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มอี ญี่ปุ่น vs คอสตาริกาGMM25
20.00 น. กลุ่มเอฟ เบลเยียม vs โมร็อกโก9MCOT
23.00 น. กลุ่มเอฟ โครเอเชีย vs แคนาดาTrue4U
02.00 น. กลุ่มอี สเปน vs เยอรมนีNation TV

จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565
17.00 น. กลุ่มจี แคเมอรูน vs เซอร์เบียAmarin TV
20.00 น. กลุ่มเอช เกาหลีใต้ vs กาน่าTrue4U
23.00 น. กลุ่มจี บราซิล vs สวิตเซอร์แลนด์ One31
02.00 น. กลุ่มเอช โปรตุเกส vs อุรุกวัยCH5

อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565
22.00 น. กลุ่มเอ เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์True4U
22.00 น. กลุ่มเอ เอกวาดอร์ vs เซเนกัลCH8
02.00 น. กลุ่มบี เวลส์ vs อังกฤษTrue4U
02.00 น. กลุ่มบี อิหร่าน vs สหรัฐอเมริกาGMM25

พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
22.00 น. กลุ่มดี ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศสTrue4U
22.00 น. กลุ่มดี ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก NBT
02.00 น. กลุ่มซี โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่าTrue4U
02.00 น. กลุ่มซี ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโกMONO29

พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
22.00 น. กลุ่มเอฟ โครเอเชีย vs เบลเยียมTrue4U
22.00 น. กลุ่มเอฟ แคนาดา vs โมร็อกโก Thai PBS
02.00 น. กลุ่มอี ญี่ปุ่น vs สเปนTrue4U
02.00 น. กลุ่มอี คอสตาริกา vs เยอรมนี Thairath TV

ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565
22.00 น. กลุ่มเอช เกาหลีใต้ vs โปรตุเกสTrue4U
22.00 น. กลุ่มเอช กาน่า vs อุรุกวัยNation TV
02.00 น. กลุ่มจี แคเมอรูน vs บราซิลTrue4U
02.00 น. กลุ่มจี เซอร์เบีย vs สวิตเซอร์แลนด์One31

เสาร์ 3 ธันวาคม 2565
22.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 49 1A vs 2B)True4U
02.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 50 1C vs 2D)CH3

อาทิตย์ 4 ธันวาคม 2565
22.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 51 1D vs 2C)True4U
02.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 52 1B vs 2A)MONO29

จันทร์ 5 ธันวาคม 2565
22.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 53 1E vs 2F)True4U
02.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 54 1G vs 2H)CH8

อังคาร 6 ธันวาคม 2565
22.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 55 1F vs 2E)True4U
02.00 น. รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 56 1H vs 2G)GMM25

พุธ 7 ธันวาคม 2565
พักการแข่งขัน

พฤหัสบดี 8 ธันวาคม 2565
พักการแข่งขัน

ศุกร์ 9 ธันวาคม 2565
22.00 น. รอบ 8 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 57 53 vs 54)True4U
02.00 น. รอบ 8 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 58 49 vs 50)JKN18

เสาร์ 10 ธันวาคม 2565
22.00 น. รอบ 8 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 59 55 vs 56)True4U
02.00 น. รอบ 8 ทีมสุดท้าย (แมตช์ที่ 60 51 vs 52)Thairath TV 

อาทิตย์ 11 ธันวาคม 2565
พักการแข่งขัน

จันทร์ 12 ธันวาคม 2565
พักการแข่งขัน

อังคาร 13 ธันวาคม 2565
02.00 น. รอบรองชนะเลิศ (57 vs 58)True4U

พุธ 14 ธันวาคม 2565
02.00 น. รอบรองชนะเลิศ (59 vs 60) One31

พฤหัสบดี 15 ธันวาคม 2565
พักการแข่งขัน

ศุกร์ 16 ธันวาคม 2565
พักการแข่งขัน

เสาร์ 17 ธันวาคม 2565
22.00 น. นัดชิงอันดับ 3 True4U

อาทิตย์ 18 ธันวาคม 2565
22.00 น. นัดชิงชนะเลิศTrue4U / T Sport 7

 

 

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบทีมสุดท้าย :ฉบับสมบูรณ์ UPDATED

 

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบทีมจำแนกตามกลุ่ม
กลุ่มเอ
อาทิตย์ 20 พฤศจิกายน 2565 23.00 น. กาตาร์ vs เอกวาดอร์ — 
จันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565 23.00 เซเนกัล vs เนเธอร์แลนด์ — 
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565 20.00 กาตาร์ vs เซเนกัล — 
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565 23.00 เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์ — 
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565 22.00 เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์ — 
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565 22.00 เอกวาดอร์ vs เซเนกัล — 

 

กลุ่มบี
จันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565 20.00 อังกฤษ vs อิหร่าน — 
จันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565 02.00 สหรัฐอเมริกา vs เวลส์ — 
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565 17.00 เวลส์ vs อิหร่าน — 
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565 02.00 อังกฤษ vs สหรัฐอเมริกา — 
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565 02.00 เวลส์ vs อังกฤษ — 
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565 02.00 อิหร่าน vs สหรัฐอเมริกา — 

 

กลุ่มซี
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565 17.00 อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย — 
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565 23.00 เม็กซิโก vs โปแลนด์ — 
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 20.00 โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย — 
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 02.00 อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก — 
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 02.00 โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า — 
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 02.00 ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก — 

 

กลุ่มดี
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565 20.00 เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย — 
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565 02.00 ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย — 
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 17.00 ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย — 
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 23.00 ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก — 
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 22.00 ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส — 
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 22.00 ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก — 

กลุ่มอี
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565 20.00 เยอรมนี vs ญี่ปุ่น — 
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565 23.00 สเปน vs คอสตาริกา — 
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 17.00 ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา — 
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 02.00 สเปน vs เยอรมนี — 
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 02.00 ญี่ปุ่น vs สเปน — 
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 02.00 คอสตาริกา vs เยอรมนี — 

 

กลุ่มเอฟ
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565 17.00 โมร็อกโก vs โครเอเชีย — 
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565 02.00 เบลเยียม vs แคนาดา — 
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 20.00 เบลเยียม vs โมร็อกโก — 
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 23.00 โครเอเชีย vs แคนาดา — 
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 22.00 โครเอเชีย vs เบลเยียม — 
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 22.00 แคนาดา vs โมร็อกโก — 

 

กลุ่มจี
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565 17.00 สวิตเซอร์แลนด์ vs แคเมอรูน — 
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565 02.00 บราซิล vs เซอร์เบีย — 
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 17.00 แคเมอรูน vs เซอร์เบีย — 
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 23.00 บราซิล vs สวิตเซอร์แลนด์ — 
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 02.00 แคเมอรูน vs บราซิล — 
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 02.00 เซอร์เบีย vs สวิตเซอร์แลนด์ — 

 

กลุ่มเอช
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565 20.00 อุรุกวัย vs เกาหลีใต้ — 
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565 23.00 โปรตุเกส vs กาน่า — 
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 20.00 เกาหลีใต้ vs กาน่า — 
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 02.00 โปรตุเกส vs อุรุกวัย — 
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 22.00 เกาหลีใต้ vs โปรตุเกส — 
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 22.00 กาน่า vs อุรุกวัย — 

 

 

ไกด์เถื่อน เรียบเรียง

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Soccerway

ภาพประกอบ
FIFA

เรื่องน่าอ่าน
• สำรวจความพร้อม กาตาร์ vs เอกวาดอร์ ฟุตบอลโลก 2022 นัดเปิดสนาม
• สำรวจความพร้อม อังกฤษ vs อิหร่าน
• สำรวจความพร้อม เซเนกัล vs เนเธอร์แลนด์

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

กังหัน, สิงโต, ฟ้าขาว, ตราไก่, กระทิง, อินทรีเหล็ก, ปีศาจแดง, ฝอยทอง ใครกัน จะเข้าใกล้ความสำเร็จแห่งฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด…เมื่อพิจารณาจากขุมกำลังนักเตะที่เผยออกมา

 

นับถอยหลังแค่ไม่กี่คืน ทัวร์นาเมนต์ที่โลกรอคอยอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ก็จะมาถึง และเกือบทุกทีมก็เผยชื่อนักเตะ 26 คนสุดท้ายที่จะไปแอ่วกาตาร์ ออกมาแล้ว

 

ด้านล่างนี้คือ 26 รายชื่อชุดสุดท้ายของบรรดาชาติยักษ์ใหญ่ มีเอี่ยวลุ้นแชมป์โลก ที่ทยอยประกาศออกมาก่อนที่ เวิลด์ คัพ จะเริ่มโรมรันประชันแข้งกันราว 1 สัปดาห์

 

ใครเป็นใคร ใครไปบอลโลก ใครหลุดโผ ใครจัดให้ครบถ้วนกว่านี้ มาบอก!

 

 

กังหันลม เนเธอร์แลนด์ กับความหวังถึง ‘ครั้งแรก’
แม้จะผลิตยอดดาวเตะขึ้นสู่วงการได้แบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลกได้มาก่อน โดยต้องเจ็บปวดกับการเป็น “พระรอง” ถึง 3 ครั้ง คือฟุตบอลโลก 1974, 1978 และ 2010 ที่ถึงชิงชนะเลิศแล้วแต่กลับแพ้ทั้งสามครั้ง

 

ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นตรงที่ฟุตบอลโลกครั้งก่อน รัสเซีย 2018 เนเธอร์แลนด์ ตกต่ำสุดถึงขั้นตกรอบคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้น มาคราวนี้ในการทำทีมของคนคุ้นเคยอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาจึงพกความมุ่งมั่นมาอย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก ร่วมกับเจ้าภาพ กาตาร์, เอกวาดอร์ และ เซเนกัล แม้อาจเป็นบอลต่างสไตล์ไม่ค่อยได้เจอนัก แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ จากนั้นในรอบน็อกเอาต์ก็ต้องมาตามลุ้นกันว่าจะได้คู่แข่งเป็นใครในแต่ละรอบ ดูกันแต่ละแมตช์ แล้วถึงเวลาจะเห็นเองว่า “แชมป์โลกสมัยแรก” มีความเป็นไปได้มากขนาดไหน

 

สำหรับขุมกำลังที่ ฟาน กัล หิ้วไปกาตาร์ ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดิมๆ ที่ใช้มาตลอดปีหลังๆ แต่ก็น่าเสียดายแทนตัวที่หลุดออกไป ทั้ง สเวน บ็อตมัน, ฮานส์ ฮาเตบัวร์, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (ส่วน จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ปกติต้องได้ไป แต่ดันเจ็บหนักพักยาวเสียก่อน) ซึ่งมองว่า ถ้าบางคนได้ไป น่าจะมีประโยชน์กับทัพกังหันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ บ็อตมัน เซนเตอร์แบ็กวัย 22 ที่เล่นดีมากกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้

 

โผ 26 แข้งเนเธอร์แลนด์ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยุสติน ไบจ์โลว์ / อายุ 24 / เฟเยนูร์ด / เล่นทีมชาติ 6 นัด
เรมโก้ พาสเฟียร์ / 39 / อาแจ็กซ์ / 2
อันเดรียส น็อพเพิร์ต / 28 / ฮีเรนวีน / 0

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ / 32 / อาแจ็กซ์ / 94 – 2
สเตฟาน เดอ ฟราย / 30 / อินเตอร์ / 59 – 3
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม) / 31 / ลิเวอร์พูล / 49 – 6
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ / 23 / บาเยิร์น / 38 – 2
เดนเซล ดุมฟรีส์ / 26 / อินเตอร์ / 37 – 5
นาธาน อาเก้ / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 29 – 3
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ / 21 / อาแจ็กซ์ / 10 – 0
ไทเรลล์ มาลาเซีย / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 0
เยเรมี่ ฟริมปง / 21 / เลเวอร์คูเซ่น / 0 – 0

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง / 25 / บาร์เซโลน่า / 45 – 1
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ / 30 / อาแจ็กซ์ / 39 – 2
ดาวี่ คลาสเซ่น / 29 / อาแจ็กซ์ / 35 – 9
มาร์เท่น เดอ รอน / 31 / อตาลันต้า / 30 – 0
เทน โคปไมเนอร์ส / 24 / อตาลันต้า / 10 – 1
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ / 20 / อาแจ็กซ์ / 2 – 0
ชาบี ซิมอนส์ / 19 / พีเอสวี / 0-0

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย / 28 / บาร์เซโลน่า / 81 – 42
ลุค เดอ ยอง / 32 / พีเอสวี / 38 – 8
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ / 25 / อาแจ็กซ์ / 24 – 7
วินเซนต์ ยานส์เซ่น / 28 / อันท์เวิร์ป / 20 – 7
วู้ท เวกอร์ทส์ / 30 / เบซิคตัส / 15 – 3
โคดี้ กัคโป / 23 / พีเอสวี / 9 – 3
โนอา ลัง / 23 / คลับ บรูช / 5 – 1

หลุดโผ
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (เอ็นอีซี), ทิม ครูล (นอริช), สเวน บ็อตมัน (นิวคาสเซิ่ล), ปาสกาล สเตราค์ (ลีดส์), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮานส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), ยอร์ดี้ คลาซี่ (อาแซด), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), ไรอัน กราเฟนเบิร์ค (บาเยิร์น), จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ดอนเยลล์ มาเลน (ดอร์ทมุนด์), อาร์โนต์ ดันยูม่า (บียาร์เรอัล), ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (อาแจ็กซ์)

 

 

 

สิงโตคำราม อังกฤษ กับฟุตบอลโลก 2022 และคำปรามาส
ท่ามกลางคำปรามาสที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเผชิญ อันที่จริง อดีตนายใหญ่มิดเดิ้ลโบรช์ ก็พา อังกฤษ เข้ารอบลึกมาแล้ว 2 รายการติดต่อกัน ทั้งฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกตัดเชือก (และเป็นอันดับ 4) ต่อด้วยยูโร 2020 ที่ถึงชิงมาแล้ว ก่อนแพ้อย่างหวุดหวิดมากๆ เพียงการดวลจุดโทษต่อ อิตาลี เท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลค่อนข้างเป็นกังวล คือฟอร์มช่วงหลังที่สิงโตออกทรงฟุบอย่างชัดเจน เอาชนะใครไม่เป็นเลยใน 6 เกมของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จนตกชั้น และน่าหวั่นเกรงว่าจะเร่งเครื่องฮึดขึ้นทันไหมเมื่อฟุตบอลโลก 2022 มาถึง

 

และกับขุมกำลัง 26 สิงโตคำราม ที่ เซาธ์เกต เลือกไป ก็ก่อให้เกิดคำถามในหลายจุดเหมือนกัน ตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด ทั้งการที่ยังคงเชื่อใจในจอมรั่วอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ถึงขั้นที่น่าจะยังคงยัดลงตัวจริงไม่เปลี่ยน, แดนกลางที่หิ้ว แคลวิน ฟิลลิปส์ ผู้ซึ่งเจ็บออดๆ แอดๆ มาทั้งซีซั่น ติดไปด้วย หรือข้างหน้าที่ไม่แคล้วคงต้องพึ่งพา แฮร์รี่ เคน เป็นสำคัญ

 

คำถามทั้งหมด จะปรากฏคำตอบในเกมกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์ และรอบถัดๆ ไป หากไม่เกิดข้อผิดพลาดหนักหนาจนร่วงรอบแรกแบบช็อกโลกไปเสียก่อน

 

โผ 26 แข้งอังกฤษ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. จอร์แดน พิคฟอร์ด / 28 / เอฟเวอร์ตัน / 45
13. นิค โป๊ป / 10 / นิวคาสเซิ่ล / 10
23. อารอน แรมส์เดล / 24 / อาร์เซน่อล / 3

กองหลัง
2. ไคล์ วอล์คเกอร์ / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 70 – 0
3. ลุค ชอว์ / 27 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 23 – 3
5. จอห์น สโตนส์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 59 – 3
6. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 7
12. คีแรน ทริปเปียร์ / 32 / นิวคาสเซิ่ล / 37 – 1
15. เอริก ไดเออร์ / 28 / สเปอร์ส / 47 – 3
16. โคเนอร์ คอดี้ / 29 / เอฟเวอร์ตัน / 10 – 1
18. เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ / 24 / ลิเวอร์พูล / 17 – 1
21. เบน ไวท์ / 25 / อาร์เซน่อล / 4 – 0

กองกลาง
4. ดีแคลน ไรซ์ / 23 / เวสต์แฮม / 34 – 2
8. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน / 32 / ลิเวอร์พูล / 70 – 2
14. แคลวิน ฟิลลิปส์ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 23 – 0
19. เมสัน เมาท์ / 23 / เชลซี / 32 – 5
22. จู๊ด เบลลิงแฮม / 19 / ดอร์ทมุนด์ / 17 – 0
26. โคเนอร์ กัลลาเกอร์ / 22 / เชลซี / 4 – 0

กองหน้า
7. แจ๊ค กรีลิช / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 24 – 1
9. แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม) / 29 / สเปอร์ส / 75 – 51
10. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง / 27 / เชลซี / 79 – 19
11. มาร์คัส แรชฟอร์ด / 25 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 46 – 12
17. บูกาโย่ ซาก้า / 21 / อาร์เซน่อล / 20 – 4
20. ฟิล โฟเด้น / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 18 – 2
24. คัลลั่ม วิลสัน / 30 / นิวคาสเซิ่ล / 4 – 1
25. เจมส์ แมดดิสัน / 26 / เลสเตอร์ / 1 – 0

หลุดโผ
ดีน เฮนเดอร์สัน (ฟอเรสต์), เบน ชิลเวลล์ (เชลซี), รีซ เจมส์ (เชลซี), ฟิคาโย่ โทโมรี่ (มิลาน), เจมส์ จัสติน (เลสเตอร์), ไทโรน มิงส์ (วิลล่า), ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เซาธ์แฮมป์ตัน), แอชลี่ย์ ยัง (วิลล่า), ไรอัน แซสเซยง (สเปอร์ส), ติโน่ ลอฟราเมนโต้ (เซาธ์แฮมป์ตัน), ทาริค แลมป์ตี้ย์ (ไบรท์ตัน), เคอร์ติส โจนส์ (ลิเวอร์พูล), เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), โอลิเวอร์ สคิปป์ (สเปอร์ส), แฮร์รี่ วิงค์ส (ซามพ์โดเรีย), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ลิเวอร์พูล), แอนโธนี่ กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน), แทมมี่ อบราแฮม (โรม่า), จาร์ร็อด โบเว่น (เวสต์แฮม), ไอแวน โทนี่ย์ (เบรนท์ฟอร์ด), โอลลี่ วัตกิ้นส์ (วิลล่า), แดนนี่ เวลเบ็ค (ไบรท์ตัน), เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ชุดนี้…ถึงแชมป์โลก???
ทั้งเอไอ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, โปรแกรมซิมูเลชั่นของเกมฟีฟ่า หรือการคาดหมายของหลากหลายกูรู ต่างก็ได้บทสรุปเดียวกันคือ แชมป์โลกประจำปีนี้ ได้แก่ ทีมชาติเมสซี่-เอ๊ย-ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่

 

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อมีความคาดหวังสูงขนาดนี้ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว จะสามารถนำโทรฟี่แชมป์โลกมาเสิร์ฟได้หรือไม่ เมื่ออย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายสิบปี (จากแชมป์โลกหนสุดท้าย 1986) ว่าพวกเขามักไม่ “ขาด” ก็ “ล้นเกิน” ในบางอย่างหรือบางจุด จนไม่ประสบความสำเร็จซ้ำรอยยุค ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้อีกเลย

 

แต่กระนั้น อาร์เจนติน่า ชุดนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” กำลังอยู่ในการต่อยอดสถิติไร้พ่ายให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งขุมกำลังที่ สคาโลนี่ เลือกมา ก็ดูจะไม่ได้ขาดอะไรไปนัก มีแค่ โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์บียาร์เรอัล ที่เป็นแกนหลักแดนกลางในรอบคัดเลือก ซึ่งต้องถอนตัวไปเนื่องจากบาดเจ็บ กับเด็กใหม่มาแรงอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ถูกเรียกตัว ทว่าอันที่จริงก็ไม่เคยติดธงมาก่อนแต่อย่างใด

 

โผ 26 แข้งอาร์เจนติน่า ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ / 30 / วิลล่า / 18
ฟรังโก้ อาร์มานี่ / 36 / ริเวอร์เพลท / 18
เคโรนิโม่ รุลลี่ / 30 / บียาร์เรอัล / 4

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ / 34 / เบนฟิก้า / 92 – 4
มาร์กอส อคุนย่า / 31 / เซบีย่า / 42 – 0
นิโกลัส ตายาฟิโก้ / 30 / ลียง / 42 – 0
เคร์มัน เปซเซลล่า / 31 / เรอัล เบติส / 31 – 2
นาอูเอล โมลิน่า / 24 / แอตฯ มาดริด / 19 – 0
กอนซาโล่ มอนเทียล / 25 / เซบีย่า / 17 – 0
ฮวน ฟอยธ์ / 24 / บียาร์เรอัล / 15 – 0
คริสเตียน โรเมโร่ / 24 / สเปอร์ส / 12 – 1
ลิซานโดร มาร์ติเนซ / 24 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 9 – 0

กองกลาง
เลอันโดร ปาเรเดส / 28 / ยูเวนตุส / 45 – 4
โรดริโก้ เด ปอล / 28 / แอตฯ มาดริด / 43 – 2
กีโด้ โรดริเกซ / 28 / เรอัล เบติส / 25 – 1
เอเซเกล ปาลาซิออส / 24 / เลเวอร์คูเซ่น / 20 – 0
อเลฮานโดร โกเมซ / 34 / เซบีย่า / 15 – 3
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ / 23 / ไบรท์ตัน / 7 – 0
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ / 21 / เบนฟิก้า / 2 – 0

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม) / 35 / เปแอสเช / 164 – 90
อังเคล ดิ มาเรีย / 34 / ยูเวนตุส / 123 – 25
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ / 25 / อินเตอร์ / 40 – 21
เปาโล ดีบาล่า / 29 / โรม่า / 34 – 3
นิโกลัส กอนซาเลซ / 24 / ฟิออเรนติน่า / 21 – 3
ฮัวกิน กอร์เรอา / 28 / อินเตอร์ / 18 – 3
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 11 – 2

หลุดโผ
ฮวน มุสโซ่ (อตาลันต้า), ลูคัส มาร์ติเนซ (ฟิออเรนติน่า), มาร์กอส เซเนซี่ (บอร์นมัธ), โจวานี่ โล เซลโซ่ (บียาร์เรอัล), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (วิลล่า), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), อังเคล กอร์เรอา (แอตฯ มาดริด), โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ตราไก่ ฝรั่งเศส กับหลายคำถามซึ่งต้องพิสูจน์
น่าสนใจ…น่าสนใจมากกับก้าวเดินของ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ เมื่อมีอย่างน้อย 4-5 คำถามที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ และบรรดาแข้งตราไก่ จะต้องตอบให้ได้ เช่นว่า

 

1. อาถรรพ์แชมป์เก่า ทั้ง อิตาลี, สเปน, เยอรมนี ต่างเอาตัวไม่รอด เป็นแชมป์โลกมาแล้วก็ร่วงเพียงรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ถัดมาทั้งหมด ฝรั่งเศสล่ะ จะเข้าทรงเดียวกันหรือเปล่า

 

2. ขุมกำลัง พร้อมจริงๆ ไหม เมื่อตัวเจ็บสำคัญ อดไปบอลโลกมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และล่าสุดกับ เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ เซนเตอร์แบ็กเปแอสเช ที่ต้องถอนตัวจากการศึกครั้งนี้ไป แถม คาริม เบนเซม่า กับ ราฟาแอล วาราน ที่่ต่างก็เป็นคีย์แมนในเกมรุกและรับ ยังบาดเจ็บติดพัน ไม่ได้ช่วย เรอัล มาดริด ตลอดสี่ซ้าห้าเกมหลังอีกต่างหาก

 

3. ความเปลี่ยนแปลง ที่มีค่อนข้างเยอะจากชุดแชมป์โลก จะส่งผลดีหรือเสีย อย่างน้อยแผงกลางทั้งแผง เปลี่ยนหมด หรือจากชุดลุยยูโร 2020 ก็มีแค่ อาเดรียง ราบิโอต์ คนเดียวที่หลงเหลือมาอยู่ในทีมชุดนี้

 

4. การต้องเจอทีมของแสลงอย่าง เดนมาร์ก อีกแล้ว หลังแพ้มาทั้งเหย้าเยือนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (1-2, 0-2) รอบปีที่ผ่านมา หากยังคงซ้ำแผลเก่า แพ้ทีมโคนมเป็นครั้งที่ 3 ติดกันขึ้นมา ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งร่วงรอบแรก หรือเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ไปเจอกระดูกชิ้นโตตั้งแต่รอบ 16 ทีม

 

5. ฟอร์มช่วงหลัง น่าเป็นห่วงใช่ย่อย ชนะเกม เนชั่นส์ ลีก แค่นัดเดียวเหนือ ออสเตรีย 2-0 นอกนั้นเสมอ 2 แพ้ 3 แม้ข้อดีคือการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก อย่างน้อยน่าผ่าน ออสเตรเลีย กับ ตูนิเซีย ได้ แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าไปเจอของแข็งในรอบน็อกเอาต์แล้ว ก็เสียวว่า เอ็มบัปเป้ และชาวคณะ จะไปไม่เป็น

 

โผ 26 แข้งฝรั่งเศส ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
อูโก้ โยริส / 35 / สเปอร์ส / 139
สตีฟ ม็องด็องด้า / 37 / แรนส์ / 34
อัลฟงส์ อเรโอล่า / 29 / เวสต์แฮม / 5

กองหลัง
ราฟาแอล วาราน / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 87 – 5
เบนชาแม็ง ปาวาร์ / 26 / บาเยิร์น / 46 – 2
ลูคัส เอร์นันเดซ / 26 / บาเยิร์น / 32 – 0
อักเซล ดิซาซี่ / 24 / โมนาโก / 0 – 0
ชูลส์ กุนเด้ / 24 / บาร์เซโลน่า / 12 – 0
เตโอ เอร์นันเดซ / 25 / มิลาน / 7 – 1
วิลเลี่ยม ซาลิบา / 21 / อาร์เซน่อล / 7 – 0
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ / 24 / บาเยิร์น / 7 – 1
อิบราฮิมา โกนาเต้ / 23 / ลิเวอร์พูล / 2 – 0

กองกลาง
อาเดรียง ราบิโอต์ / 27 / ยูเวนตุส / 29 – 2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ / 22 / เรอัล มาดริด / 14 – 1
มัตเตโอ เก็นดูซี่ / 23 / มาร์กเซย / 6 – 1
จอร์แดน เวเรตูต์ / 29 / มาร์กเซย / 5 – 0
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า / 20 / เรอัล มาดริด / 4 – 1
ยุสซูฟ โฟฟาน่า / 23 / โมนาโก / 2 – 0

กองหน้า
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ / 36 / มิลาน / 114 – 49
อองตวน กรีซมันน์ / 31 / แอตฯ มาดริด / 110 – 42
คาริม เบนเซม่า / 34 / เรอัล มาดริด / 97 – 37
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ / 23 / เปแอสเช / 59 – 28
คิงสลี่ย์ โกม็อง / 26 / บาเยิร์น / 40 – 5
อุสมัน เดมเบเล่ / 25 / บาร์เซโลน่า / 28 – 4
คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู / 25 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 8 – 0
มาร์คัส ตูราม / 25 / กลัดบัค / 4 – 0

หลุดโผ
ไมค์ เมนยอง (มิลาน), เบอนัวต์ คอสติล (โอแซร์), เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ (เปแอสเช), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เรอัล มาดริด), เบนชาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้), โชนาต็อง เคลาส์ (มาร์กเซย), ลูก้าส์ ดีญ (วิลล่า), เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม), บูบาการ์ กามาร่า (วิลล่า), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี), ปอล ป๊อกบา (ยูเวนตุส), สตีเว่น เอ็นซอนซี่ (อัล-รายยาน), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (อินเตอร์ ไมอามี่), นาบิล เฟคีร์ (เบติส), โตมัส เลอมาร์ (แอตฯ มาดริด), วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น)

 

 

 

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จากแชมป์โลกสู่รอบแรก, จากรอบแรกสู่…
ภายหลังเข้ามาสานต่องานของ โยอัคคิม เลิฟ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฮันซี่ ฟลิค ก็สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพอินทรีเหล็ก ด้วยการพาทีมชนะรวดถึง 7 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหนนี้ จนเป็นทีมแรกของยุโรปที่การันตีเข้ารอบสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม กับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในรอบปีที่ผ่านมา เยอรมนี ก็ถือว่าเสียรังวัดไปพอสมควร เมื่อกลับเอาชนะคู่แข่งได้แค่เกมเดียว (5-2 อิตาลี) นอกนั้นเสมอรัวๆ 4 เกม และแพ้พลิกล็อกคาบ้านต่อ ฮังการี หนึ่งนัด เรียกว่าพวกเขามุ่งหน้าสู่กาตาร์แบบที่ระดับความมั่นใจไม่ได้สูงมาก ทั้งยังต้องเสีย 2 คีย์แมนเกมรุกอย่าง มาร์โก รอยส์ จอมทัพดอร์ทมุนด์ กับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ล้มเจ็บอดไปบอลโลกทั้งคู่ด้วย

 

จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา, เริ่มต้นตั้งแต่รอบแรกที่ต้องอยู่ในสายแข็งร่วมกับ สเปน-ญี่ปุ่น-คอสตาริกา, ว่าถัดจากการร่วงรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ครั้งก่อนแล้ว อินทรีเหล็ก 2022 จะไปได้ไกลถึงไหน

 

โผ 26 แข้งเยอรมนี ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. มานูเอล นอยเออร์ / 36 / บาเยิร์น / 113
12. เควิน ทรัปป์ / 32 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 6
22. มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น / 30 / บาร์เซโลน่า / 30

กองหลัง
2. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ / 29 / เรอัล มาดริด / 54 -2
3. ดาวิด เราม์ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 11 – 0
4. มัทธีอัส กินเทอร์ / 28 / ไฟรบวร์ก / 46 – 2
5. ติโล เคห์เรอร์ / 26 / เวสต์แฮม / 22 – 0
15. นิคลาส ซูเล่ / 27 / ดอร์ทมุนด์ / 42 – 1
16. ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ / 26 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 18 – 0
20. คริสเตียน กุนเทอร์ / 29 / ไฟรบวร์ก / 6 – 0
23. นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค / 22 / ดอร์ทมุนด์ / 5 – 0
25. อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป / 20 / เซาธ์แฮมป์ตัน / 1 – 0

กองกลาง
6. โยชัว คิมมิช / 27 / บาเยิร์น / 70 – 5
7. ไค ฮาแวร์ตซ์ / 23 / เชลซี / 30 – 10
8. เลออน โกเร็ตซ์ก้า / 27 / บาเยิร์น / 44 – 14
11. มาริโอ เกิทเซ่ / 30 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 63 – 17
14. จามาล มูเซียล่า / 19 / บาเยิร์น / 17 – 1
17. ยูเลี่ยน บรันท์ / 26 / ดอร์ทมุนด์ / 38 – 3
18. โยนาส ฮอฟมันน์ / 30 / กลัดบัค / 16 – 4
21. อิลคาย กุนโดกัน / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 62 – 16

กองหน้า
9. นิคลาส ฟุลล์ครุก / 29 / เบรเมน / 0 – 0
10. แซร์จ นาบรี้ / 27 / บาเยิร์น / 36 – 20
13. โธมัส มุลเลอร์ / 33 / บาเยิร์น / 118 – 44
19. เลรอย ซาเน่ / 26 / บาเยิร์น / 47 – 11
24. คาริม อเดเยมี่ / 20 / ดอร์ทมุนด์ / 4 – 1
26. ยุสซูฟา มูโกโก้ / 18 / ดอร์ทมุนด์ / 0 – 0

หลุดโผ
แบร์นด์ เลโน่ (ฟูแล่ม), มัตส์ ฮุมเมิลส์ (ดอร์ทมุนด์), เยโรม บัวเต็ง (ลียง), โรบิน โกเซนส์ (อินเตอร์), เบนจามิน เฮนริกส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น), โรบิน ค็อก (ลีดส์), มาร์โก รอยส์ (ดอร์ทมุนด์), ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (เบนฟิก้า), ฟลอเรียน นอยเฮาส์ (กลัดบัค), ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล (กลัดบัค), ติโม แวร์เนอร์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก)

 

 

 

กระทิงดุ สเปน ในระบบเผด็จการของ หลุยส์ เอ็นริเก้
หนึ่งคือทรัพยากรนักเตะดีๆ ของ สเปน มีเยอะมาก และอีกหนึ่งก็คือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มีแนวทางและการตัดสินใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมาก ไม่สนกระแสสังคมใดๆ ทั้งสิ้น เราจึงได้เห็นแข้งสแปนิชตกขบวนอดไปฟุตบอลโลก 2022 อื้อซ่าตามรายชื่อด้านล่าง ชนิดไปรวมตัวเป็นอีกทีมได้ง่ายๆ

 

แต่ก็แน่นอนว่า การเลือกตัวแบบไม่ฟังเสียงใครของ เอ็นริเก้ ย่อมจะนำมาซึ่งความเสี่ยง ถ้าผลงานที่กาตาร์ไปได้สวย ก็รับเสียงปรบมือไป แต่ถ้าล้มเหลวขึ้นมา ไม่ต้องสงสัย… เละ

 

น่าสนใจมากเสียด้วยกับการที่ต้องอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย เจองานหนักทุกนัดในรอบแรก ไล่ตั้งแต่กับ คอสตาริกา ไปต่อกับ เยอรมนี ปิดท้ายด้วยเกมกับ ญี่ปุ่น

 

กระทิงดุในระบบเผด็จการของ เอ็นริเก้ จะออกหัวออกก้อย เดี๋ยวรู้กัน — เริ่มตั้งแต่รอบแรกนี่เลย!

 

โผ 26 แข้งสเปน ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
อูไน ซิมอน / 25 / บิลเบา / 27
โรเบิร์ต ซานเชซ / 25 / ไบรท์ตัน / 1
ดาบิด ราย่า / 27 / เบรนท์ฟอร์ด / 1

กองหลัง
จอร์ดี้ อัลบา / 33 / บาร์เซโลน่า / 86 – 9
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า / 33 / เชลซี / 41 – 1
ดานี่ การ์บาฆัล / 30 / เรอัล มาดริด / 30 – 0
เปา ตอร์เรส / 25 / บียาร์เรอัล / 21 – 1
โฆเซ่ กาย่า / 27 / บาเลนเซีย / 18 – 3
เอริก การ์เซีย / 21 / บาร์เซโลน่า / 18 – 0
อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 15 – 1
อูโก้ กียามอน / 22 / บาเลนเซีย / 3 – 1

กองกลาง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ / 34 / บาร์เซโลน่า / 139 – 2
โกเก้ / 30 / แอตฯ มาดริด / 67 – 0
โรดรี้ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 34 – 1
มาร์กอส ยอเรนเต้ / 27 / แอตฯ มาดริด / 17 – 0
เปดรี้ / 19 / บาร์เซโลน่า / 14 – 0
กาบี / 18 / บาร์เซโลน่า / 12 – 1
คาร์ลอส โซเลร์ / 25 / เปแอสเช / 11 – 3

กองหน้า
อัลบาโร่ โมราต้า / 30 / แอตฯ มาดริด / 57 – 27
เฟร์ราน ตอร์เรส / 22 / บาร์เซโลน่า / 30 – 13
มาร์โก อเซนซิโอ / 26 / เรอัล มาดริด / 29 – 1
ปาโบล ซาราเบีย / 30 / เปแอสเช / 24 – 9
ดานี่ โอลโม่ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 24 – 4
เยเรมี่ ปิโน่ / 20 / บียาร์เรอัล / 6 – 1
อันซู ฟาติ / 20 / บาร์เซโลน่า / 4 – 1
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ / 20 / บิลเบา / 2 – 0

หลุดโผ
ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (ลีดส์), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), อเลฆานโดร บัลเด้ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), เซร์จี้ โรเบร์โต้ (บาร์เซโลน่า), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), มิเกล เมริโน่ (โซเซียดัด), เซร์คิโอ กานาเลส (เบติส), แบรส เมนเดซ (โซเซียดัด), ปาโบล ฟอร์นัลส์ (เวสต์แฮม), บราฮิม ดิอาซ (มิลาน), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด), ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า), เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล), ราอูล เด โตมัส (ราโย บาเยกาโน่)

 

 

 

ปีศาจแดง เบลเยียม กับยุคทองหนสุดท้าย
อย่างที่ได้เอ่ยถึงไปแล้วใน คำให้การของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ว่า เบลเยียม ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ด้วยเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ กับการเป็น เวิลด์ คัพ หนสุดท้ายของยุคทอง เบลเจี้ยน โกลเด้น เจเนอเรชั่น เนื่องจากอีก 4 ปีข้างหน้า ยังไม่รู้ว่าพวก เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ติโบต์ กูร์กตัวส์, โรเมลู ลูกากู จะยังพร้อมรับใช้ชาติอยู่หรือไม่

 

รอบแรก ไม่น่าใช่ปัญหา แข็งหน่อยมี โครเอเชีย แต่ก็ยังแข็งไม่เท่าพวกเขา ส่วนอีกสองคู่แข่งอย่าง แคนาดา กับ โมร็อกโก ทิศทางออกไปในทางว่า จะชนะมากหรือชนะน้อย ดังนั้น คงต้องจับตาดูต่อในรอบน็อกเอาต์ ทีละแมตช์ ทีละก้าว

 

สำหรับขุมกำลังที่ มาร์ติเนซ เลือกมา ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไร แค่น่าเป็นห่วงที่ความฟิตของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งได้เล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ไปแค่ 5 นัดในซีซั่นนี้ รวมถึงการเรื้อสนามของ เอแด็น อาซาร์ ที่ช่วงหลังกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ในแนวรุกเรอัล มาดริด ไปแล้ว จะส่งผลเสียมากน้อยประการใด

 

โผ 26 แข้งเบลเยียม ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
ติโบต์ กูร์กตัวส์ / 30 / เรอัล มาดริด / 96
ซิมง มินโยเล่ต์ / 34 / คลับ บรูช / 35
โคเอน คาสตีลส์ / 30 / โวล์ฟสบวร์ก / 4

กองหลัง
ยาน แฟร์ตองเก้น / 35 / อันเดอร์เลทช์ / 141 – 9
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ / 33 / อันท์เวิร์ป / 123 – 5
โธมัส มูนิเยร์ / 31 / ดอร์ทมุนด์ / 58 – 8
ทิโมธี คาสตันเย่ / 26 / เลสเตอร์ / 25 – 2
อาร์เธอร์ เธียเต้ / 22 / แรนส์ / 3 – 0
เซโน่ เดบาสต์ / 19 / อันเดอร์เลทช์ / 2 – 0
วู้ท ฟาเอส / 24 / เลสเตอร์ / 1 – 0

กองกลาง
อักเซล วิตเซล / 33 / แอตฯ มาดริด / 126 – 12
เควิน เดอ บรอยน์ / 31 / แมนฯ ซิตี้ / 93 – 25
ยานนิค การ์รัสโก้ / 29 / แอตฯ มาดริด / 59 – 8
ยูรี่ ตีเลอมันส์ / 25 / เลสเตอร์ / 54 – 5
เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ / 27 / วิลล่า / 29 – 1
ฮานส์ ฟานาเก้น / 30 / คลับ บรูช / 22 – 5
เลอันโดร ทรอสซาร์ / 27 / ไบรท์ตัน / 21 – 5
ชาร์ลส์ เด คาตาแลร์ / 21 / มิลาน / 10 – 1
อมาดู โอนาน่า / 21 / เอฟเวอร์ตัน / 2 – 0

กองหน้า
เอแด็น อาซาร์ / 31 / เรอัล มาดริด / 122 – 33
ดรีส เมอร์เท่นส์ / 35 / กาลาตาซาราย / 106 – 21
โรเมลู ลูกากู / 29 / อินเตอร์ / 102 – 68
มิชี่ บัตชูอายี่ / 29 / เฟเนร์บาห์เช่ / 47 – 26
ธอร์แกน อาซาร์ / 29 / ดอร์ทมุนด์ / 45 – 9
เยเรมี่ โดกู / 20 / แรนส์ / 10 – 2
โลอิส โอเพ็นด้า / 22 / ล็องส์ / 4 – 1

หลุดโผ
มัตซ์ เซลส์ (สตราส์บูร์ก), เจสัน เดนาเยอร์ (ชาบับ อัล-อาห์ลี), เดดริค โบยาต้า (คลับ บรูช), โธมัส โฟเก็ต (แร็งส์), อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส (มิลาน), เดนนิส ปราเอ้ต์ (เลสเตอร์), อัลแบร์ แซมบี้ โลกอนก้า (อาร์เซน่อล), นาเซอร์ ชาดลี่ (เวสเตอร์โล), คริสเตียน เบนเตเก้ (ดีซี ยูไนเต็ด), ดิว็อค โอริกี้ (มิลาน), อัดนาน ยานาไซ (เซบีย่า)

 

 

 

โปรตุเกส กับบอลโลกครั้งสั่งลา CR7
สั่นสะเทือนวงการดีเหลือเกินกับการทิ้งระเบิดลูกนาปาล์มเดธของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านการให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีของอังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นตอนนี้ คือเรื่อง ฟุตบอลโลก 2022 การช่วยชาติไปให้ถึงฝั่งฝัน — ที่น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของชายวัยย่าง 38 อย่าง โรนัลโด้ ด้วย

 

ว่ากันตามตรง ชื่อนักเตะชุดลุยกาตาร์ของ แฟร์นันโด ซานโตส แข็งแกร่งน่าเกรงขามไม่เบา ดูหนั่นแน่นตั้งแต่หลังสุดมาหน้าสุด โดยเฉพาะเกมรุกที่เลือกลำบากเลย เมื่อคงต้องกันโควตาหนึ่งที่ไว้ให้ โรนัลโด้ ส่วนที่เหลือ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ราฟาแอล เลเอา (เอซี มิลาน) ไปแย่งกันเอา

 

แต่ก็ต้องว่ากันตามตรงเพิ่มอีกว่า โปรตุเกส มีสิทธิ์จะแข็งขึ้นกว่านี้อีก ถ้าบรรดาตัวที่หลุดไปอย่าง มาริโอ รุย, เซดริก โซอาเรส, เนลซอน เซเมโด้, ชูเอา มูตินโญ่, เรนาโต้ ซานเชส, เปโดร เนโต้, กอนซาโล่ เกเดส ไม่นับ ดีโอโก้ โชต้า (บาดเจ็บ) ถูกหอบหิ้วไปกาตาร์ด้วย

 

แน่นอน ก็คงต้องตามดูกันว่า การตัดสินใจของ แฟร์นันโด ซานโตส ในการเลือกจิ้มขุมกำลังมาแบบนี้ จะปรากฏผลในท้ายที่สุดว่าอย่างไร

 

โผ 26 แข้งโปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
รุย ปาตริซิโอ / 34 / โรม่า / 104
ดีโอโก้ คอสต้า / 23 / ปอร์โต้ / 7
โชเซ่ ซา / 29 / วูล์ฟส์ / 0

กองหลัง
เปเป้ / 39 / ปอร์โต้ / 128 – 7
ดานิโล เปเรยร่า / 31 / เปแอสเช / 63 – 2
ราฟาแอล เกร์เรยโร่ / 28 / ดอร์ทมุนด์ / 56 – 3
รูเบน ดิอาส / 25 / แมนฯ ซิตี้ / 39 – 2
ชูเอา กันเซโล่ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 37 -7
นูโน่ เมนเดส / 20 / เปแอสเช / 16 – 0
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 2
อันโตนิโอ ซิลวา / 19 / เบนฟิก้า / 0 – 0

กองกลาง
วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / 30 / เบติส / 75 – 5
แบร์นาร์โด้ ซิลวา / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 72 – 8
ชูเอา มาริโอ / 29 / เบนฟิก้า / 52 – 2
บรูโน่ แฟร์นันเดส / 28 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 9
รูเบน เนเวส / 25 / วูล์ฟส์ / 32 – 0
ชูเอา ปาลินญ่า / 27 / ฟูแล่ม / 15 – 2
มาเตอุส นูเนส / 24 / วูล์ฟส์ / 9 – 1
โอตาวิโอ / 27 / ปอร์โต้ / 7 – 2
วิตินญ่า / 22 / เปแอสเช / 4 – 0

กองหน้า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / 37 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 191 – 117
อันเดร ซิลวา / 27 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 51 – 19
ชูเอา เฟลิกซ์ / 23 / แอตฯ มาดริด / 23 – 3
ราฟาแอล เลเอา / 23 / มิลาน / 11 – 0
ริคาร์โด้ ออร์ต้า / 28 / บราก้า / 5 – 1
กอนซาโล่ รามอส / 21 / เบนฟิก้า / 0 – 0

หลุดโผ
อันโธนี่ โลเปส (ลียง), รุย ซิลวา (เบติส), มาริโอ รุย (นาโปลี), โดมิงกอส ดูอาร์เต้ (เคตาเฟ่), โชเซ่ ฟอนเต้ (ลีลล์), เซดริก โซอาเรส (อาร์เซน่อล), เนลซอน เซเมโด้ (วูล์ฟส์), ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์), เรนาโต้ ซานเชส (เปแอสเช), ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล), เปโดร เนโต้ (วูล์ฟส์), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง)

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Olympics

 

 

เรื่องน่าอ่าน
• บราซิลลิ่วแชมป์โลก…? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022
• และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
• เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว : สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022 บ้างแล้ว?

บราซิลลิ่วแชมป์โลก...? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022

บราซิลลิ่วแชมป์โลก…? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022

กับเป้าหมายคว้าแชมป์โลกสมัย 6 โทรฟี่ที่รอคอยมา 2 ทศวรรษ บราซิล ในมือ ตีเต้ ได้ขุมกำลัง 26 คนสุดท้ายที่จะเดินทางไปลุยฟุตบอลโลก 2022 แล้วเป็นที่เรียบร้อย คำถามก็คือ…

 

ก่อนจะไปลงลึกถึงรายละเอียดและประเด็นที่เกี่ยวข้อง ก็ไปสำรวจกันเลยกับโผ 26 นักเตะ final squad ทีมชาติบราซิล ชุดไล่ล่าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งมีการประกาศออกมาเมื่อ 7 พ.ย. และยังยืนยันเบอร์เสื้อมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

 

26 ขุนพลบราซิล ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. อลิสซอน เบ็คเกอร์ / อายุ 30 / ลิเวอร์พูล / เล่นทีมชาติ 57 นัด
12. เวแวร์ตอน / 34 / พัลไมรัส / 8
23. เอแดร์ซอน โมราเอส / 29 / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / 18

 

กองหลัง
2. ดานิโล่ / 31 / ยูเวนตุส / เล่นทีมชาติ 46 นัด 1 ประตู
3. ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม) / 38 / เชลซี / 109 – 7
4. มาร์กินญอส / 28 / ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / 71 – 5
6. อเล็กซ์ ซานโดร / 31 / ยูเวนตุส / 37 – 2
13. ดานี่ อัลเวส / 39 / พูมาส อูนัม / 124 – 8
14. เอแดร์ มิลิเตา / 24 / เรอัล มาดริด / 23 – 1
16. อเล็กซ์ เตลเลส / 29 / เซบีย่า / 8 – 0
22. เบรเมอร์ / 25 / ยูเวนตุส / 1 – 0

 

กองกลาง
5. กาเซมิโร่ / 30 / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / 65 – 5
7. ลูคัส ปาเกต้า / 25 / เวสต์แฮม ยูไนเต็ด / 35 – 7
8. เฟร็ด / 29 / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / 28 – 0
15. ฟาบินโญ่ / 29 / ลิเวอร์พูล / 28 – 0
17. บรูโน่ กิมาไรส์ / 24 / นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด / 8 – 1
26. เอแวร์ตอน ริเบยโร่ / 33 / ฟลาเมงโก้ / 21 – 3

 

กองหน้า
9. ริชาร์ลิซอน / 25 / ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ / 38 – 17
10. เนย์มาร์ / 30 / ปารีส แซงต์-แชร์กแมง / 121 – 75
11. ราฟินญ่า / 25 / บาร์เซโลน่า / 11 – 5
18. อันโตนี่ / 22 / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / 11 – 2
19. กาเบรียล เชซุส / 25 / อาร์เซน่อล / 56 – 19
20. วินิซิอุส จูเนียร์ / 22 / เรอัล มาดริด / 16 – 1
21. โรดรีโก้ โกเอส / 21 / เรอัล มาดริด / 5 – 1
24. กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ / 21 / อาร์เซน่อล / 3 – 0
25. เปโดร / 25 / ฟลาเมงโก้ / 2 – 1

 

บราซิลลิ่วแชมป์โลก...? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022

 

กองหน้าบราซิล เต็มโควตา 9 ที่นั่ง
จัดมาแบบเต็มเหยียดสำหรับ ตีเต้ ที่เลือกเอาบรรดาตัวรุกกองหน้ามาถึง 9 ราย สูงสุดในโควต้าทีมชุดนี้ มากกว่ากองหลัง (8) และกองกลาง (6) จนโดนแซวว่า หรือพวกพี่จะมาในระบบ 1-0-9 หรือ 0-1-9 อะไรแบบนั้น

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกตำแหน่งการยืนและธรรมชาติของแต่ละคนแล้ว จะพบว่า ตัวเลข 9 คนนี้ ก็ออกจะเหมาะสมดีอยู่แล้ว

 

หน้าเป้า – ริชาร์ลิซอน, กาเบรียล เชซุส, เปโดร
ปีกซ้าย – วินิซิอุส จูเนียร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
ปีกขวา – ราฟินญ่า, อันโตนี่, โรดรีโก้ โกเอส
หน้าต่ำ/กลางรุก – เนย์มาร์

 

เพราะ ตีเต้ มีหมากการเล่นชัดเจนเสมอมา และเขาไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเปลี่ยน เมื่อ บราซิล เดินหน้าชนะคู่แข่งมาแล้ว 7 เกมซ้อนในทุกรายการ และแพ้ใครไม่เป็นเลยจาก 17 เกมของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 โซนอเมริกาใต้

 

หมากการเล่นนั้นก็คือ 4-2-3-1 หรือไม่ก็ 4-2-1-3

 

เนย์มาร์ คือตัวยืน เป็นแกนหลักอย่างแท้จริงในเกมรุก ลา เซเลเซา แต่ตำแหน่งที่ยืนในทีมชาติสำหรับเขา คือการเล่น “มิดฟิลด์ตัวรุก” คอยพุ่ง (พุ่งจริง!) เข้าทำจากแถวสอง เช่นเดียวกับการเป็นตัวสร้างสรรค์เกม กำหนดทิศทางเกมบุก ประสานงานกับกองหน้าตัวเป้าและริมเส้นทั้งสองฝั่ง

 

สำหรับหน้าเป้า หากฟิตสมบูรณ์เต็มที่ ริชาร์ลิซอน จะเป็นตัวเลือกแรกสุด ขณะที่ กาเบรียล เชซุส แม้จะผ่านการรับใช้ชาติมามากกว่า (56:38) แต่ฟอร์มกับ อาร์เซน่อล ซีซั่นนี้มาแรงแค่ช่วงแรกๆ มาตอนหลังเริ่มออกลูกฝืด ยิงใครไม่ได้มา 9 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ ดังนั้นน่าจะเป็นตัวเลือกรองจาก ริชาร์ลิซอน — ย้ำว่าถ้าดาวเตะจาก สเปอร์ส มีสภาพร่างกาย 100%

 

ส่วน เปโดร กิเยร์เม่ อาบรู โดส ซานโตส “เปโดร” ชื่อเซอร์ไพรส์จาก ฟลาเมงโก้ (เคยอยู่ ฟิออเรนติน่า แว้บนึง แต่แจ้งเกิดไม่สำเร็จ) เป็นกองหน้าประเภทสูงใหญ่ 185 ซ.ม. ซึ่งไม่ค่อยมีในทีมชุดนี้ ดังนั้น ตีเต้ จึงน่าจะเล็งเห็นประโยชน์ด้านลูกกลางอากาศของเจ้าตัว รวมถึงว่าในเกมลับแข้งนัดล่าสุดที่ถล่ม ตูนิเซีย 5-1 เปโดร ก็ลงสำรองไปจัด 1 เม็ดด้วย ยิ่งเป็นเครดิตเสริมในการเลือกตัวของกุนซือแซมบ้าขึ้นไปอีก

 

ด้านตัวริมเส้น 5 รายชื่อ วินิซิอุส จูเนียร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ราฟินญ่า, อันโตนี่ และ โรดรีโก้ โกเอส เข้าข่าย “ใครก็ได้” ตัวนั้นก็ดีตัวนี้ก็มัน แต่ก็คาดว่า วินิซิอุส จูเนียร์ จากเรอัล มาดริด จะเป็นตัวเลือกแรกฝั่งซ้าย และ ราฟินญ่า จากบาร์เซโลน่า จะเป็นตัวจริงฝั่งขวา ที่เหลืออีก 3 เป็นตัวสลับ และต้องสร้างผลงานให้ได้เพื่อโอกาสในการแย่งชิงตำแหน่งตัวจริง

 

จะเห็นได้ว่า เมื่อจำแนกแต่ละตำแหน่งเกมรุกตามผังการเล่นของ ตีเต้ จริงๆ แล้วก็มีตัวเลือกเพียงที่ละ 2-3 รายเท่านั้น ดังนั้น 9 คนที่ถูกจิ้มเลือกไปกาตาร์ จึงไม่ถือว่า “ล้น” แต่อย่างใด

 

 

กองกลางบราซิล หิ้วไปตั้ง 6 คน
เวลาเดียวกัน การเลือกมิดฟิลด์ตัวกลาง 6 รายไปติดธง บราซิล ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 กลับอาจจะ “มากเกินไป” เสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับ 9 กองหน้าอย่างที่ว่าไป

 

เพราะก็ชัดเจนอีกเช่นกันว่า ระบบของ ตีเต้ คือ 4-2-3-1 (หรือ 4-2-1-3 หรือ 4-3-3) ที่มี เนย์มาร์ เป็นตัวปั้นเกมจากตรงกลาง ดังนั้นโควตาที่ว่างอยู่จึงเหลือเพียง “2 ที่” สำหรับคู่มิดฟิลด์ตัวกลาง ตำแหน่งที่จะช่วยงานเกมรับ คอยปัดเป่าตัดตอนเกมบุกคู่ต่อสู้ รวมถึงลำเลียงบอลจากหลังไปหน้า

 

และง่ายมาก ว่า กาเซมิโร่ กลางรับแถวหน้าของโลก จาก แมนฯ ยูไนเต็ด คือตัวเลือกแรกของ ตีเต้ ส่วนคู่ขาของ กาเซมิโร่ สามารถออกได้ทั้ง เฟร็ด และ ฟาบินโญ่

 

ส่วนอีก 3 ตัวเลือกอย่าง ลูคัส ปาเกต้า, บรูโน่ กิมาไรส์ และ เอแวร์ตอน ริเบยโร่ มีแค่สองทางคือ 1) รอโอกาสในฐานะสำรอง หรือไม่ก็ 2) หวังว่า ตีเต้ จะเน้นเกมรุกมากขึ้นไปอีก ด้วยการส่งพวกเขาไปเล่นคู่ กาเซมิโร่ — อันจะทำให้มิดฟิลด์ตัวรับแท้ๆ เหลือแค่คนเดียวในสนาม

 

 

กองหลัง-นายทวาร ล้วนมาตามนัด
ในส่วนของตัวเลือกกองหลัง 8 ราย ไม่ได้ถือว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์มากมาย นำโดยกัปตันทีม ติอาโก้ ซิลวา จากเชลซี ที่จะได้ลงแน่นอนในแดนหลัง ส่วนอีก 3 เซนเตอร์แบ็กอย่าง มาร์กินญอส, เอแดร์ มิลิเตา หรือ เบรเมอร์ ก็ล้วนมีดีกรีในตัวเอง

 

ที่เหลืออีก 4 ก็แบ่งลงตัวพอดี แบ็กซ้าย 2 อเล็กซ์ ซานโดร & อเล็กซ์ เตลเลส กับแบ็กขวา 2 ดานี่ อัลเวส & ดานิโล่

 

สำหรับ ดานี่ อัลเวส จอมเก๋าวัย 39 ของพูมาส อูนัม ยังคงได้ไปสั่งลาบอลโลก เนื่องด้วยหนึ่งคือแบ็กขวาบราซิลนาทีนี้ ตัวเลือกมีไม่มาก และอีกหนึ่งคือ อัลเวส ก็ยัง “พึ่งพาได้อยู่” แม้อายุจะล่วงเลยขนาดนี้ — เพิ่งจะห้อตะบึงพาน้องๆ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก โตเกียว เกมส์ กลางปีที่แล้วนี่เอง

 

ด้านนายทวาร ไม่ต้องพูดถึงแบ็กอัพอย่าง เวแวร์ตอน จากพัลไมรัส ก็ได้

 

เมื่อข้อถกเถียงมีเพียงอย่างเดียว — ระหว่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ กับ เอแดร์ซอน โมราเอส ที่จริงแล้ว ใครควรเป็น “มือหนึ่ง” กันแน่?

 

บราซิลลิ่วแชมป์โลก...? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022

 

รวมพลคนอกหัก…ตีเต้ไม่รักต้องทำไง?!?
แน่นอนที่สุด เมื่อมีคนสมหวังถูกเรียกตัวไปกาตาร์ ก็ต้องมีกลุ่มแข้งแซมบ้าที่ผิดหวัง ไม่ได้รับหมายเรียกจาก ตีเต้ และต้องดูฟุตบอลโลก 2022 ผ่านจอตู้ไม่ต่างจากเราท่าน

 

นี่คือรายชื่อทั้งหมดที่หลุดโผ

– ลูคัส มูร่า (กองหน้า, สเปอร์ส)
– โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (กองหน้า, ลิเวอร์พูล)
– มาเตอุส คุนญ่า (กองหน้า, แอตเลติโก มาดริด)
– กาเบรียล “กาบิโกล” บาร์โบซ่า (กองหน้า, ฟลาเมงโก้)
– ดาวิด เนเรส (กองหน้า, เบนฟิก้า)
– มัลคอม (กองหน้า, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก)
– ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (กองกลาง, แอสตัน วิลล่า)
– ดั๊กลาส ลุยซ์ (กองกลาง, แอสตัน วิลล่า)
– อาร์ตูร์ เมโล่ (กองกลาง, ลิเวอร์พูล)
– กาเบรียล มากัลเญส (กองหลัง, อาร์เซน่อล)
– โรเชร์ อิบันเญซ (กองหลัง, โรม่า)
– ดีเอโก้ คาร์ลอส (กองหลัง, แอสตัน วิลล่า)
– เรนัน โลดี้ (กองหลัง, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์)
– เอแมร์ซอน โรยัล (กองหลัง, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ของแอสตัน วิลล่า กับ อาร์ตูร์ เมโล่ จากลิเวอร์พูล อดไปบอลโลกหนนี้เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บติดพัน ส่วน กาเบรียล มากัลเญส เซนเตอร์แบ็กอาร์เซน่อล แม้ฟอร์มดีกับปืนซีซั่น แต่ก็ยังไม่เคยติดทีมชาติมาก่อนเลย จึงไม่แปลกนักที่จะไม่ได้ไปกาตาร์

 

ที่เป็นประเด็นสำคัญสุดคือ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ยอดกองหน้าเจ้าของท่า “โนลุค” จากลิเวอร์พูล ผู้ซึ่งรับใช้ชาติไปแล้วไม่น้อยถึง 55 นัด ซัด 17 ประตู และถูกยกย่องเสมอมาว่า “เล่นเพื่อทีม” มากกว่าเพื่อตัวเอง กลับถูกมองข้ามไปเสีย

 

แต่ก็อย่างที่ได้ร่ายไว้ในย่อหน้า “9 กองหน้า” ข้างต้น ว่า ตีเต้ มีตัวเลือกในใจตัวเองที่ค่อนข้างชัด ไม่ว่าจะกับทั้งแท็กติกการเล่นหรือตัวลูกทีม — ริชาร์ลิซอน คือหอกเป้าเบอร์แรก ตามด้วย กาเบรียล เชซุส รวมถึงว่าก็ยังมีตัวเล่นลูกโด่งอย่าง เปโดร เป็นเบอร์ 3 ดังนั้นแล้ว แม้ ฟีร์มิโน่ จะมีดีพอสามารถเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติไหนก็ได้ในโลก แต่ก็ไม่ใช่กับ บราซิล ชุดนี้ ที่หัวหอกวัย 31 จะเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น และกุนซืออย่าง ตีเต้ ก็เลือกจะไปต่อกับชอยส์อื่นอย่างที่ว่า

 

เอวังจึงมีด้วยประการฉะนี้

 

ตัวที่ไม่ติดชุดนี้ทุกคน คงไม่อาจทำอะไรได้นอกจากต้องพยายามทำผลงานของตัวเองกับต้นสังกัดให้ดีที่สุด พร้อมหวังว่าหลุดคราวนี้แล้ว จะไม่ใช่หลุดเลยตลอดกาล

 

และเราคงต้องจับตาดูกันต่อว่าด้วยขุมกำลังแบบนี้ที่ ตีเต้ เลือกสรร บราซิล จะไปได้ไกลขนาดไหนที่กาตาร์

 

แชมป์โลกที่ห่างมือมานาน 20 ปี จะถึงเวลาสิ้นสุดการรอคอยเสียทีไหม…

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
CBF
VOI
Marca

 

เรื่องน่าอ่าน
• เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว : สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022 บ้างแล้ว?
• และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
• กองหน้าบราซิลคนไหน…ได้ไป-ไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2022
• ดานี่ อัลเวส : แชมป์โลกสักครั้ง…คงตายตาหลับ

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้...คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022

เจ็บปวดกว่าโดนหมางเมิน คือการที่รู้ว่าตัวเองมีที่ยืนเต็มเท้าอยู่แล้วแท้ๆ ในทีม แต่กลับโดนขวางไว้ไม่ให้ไปฟุตบอลโลก 2022 ด้วยเรื่องของโชคชะตา…อาการบาดเจ็บที่ไม่เข้าใครออกใคร

 

หากว่าเป็นฟุตบอลโลกปกติเหมือนที่เคยเป็นมา เวลานี้ แทบทุกอย่างในโลกลูกหนังจะหยุดพัก หยุดนิ่งแล้ว (คงเหลือแค่การเข้าแคมป์เตรียมทีม) เพื่อรอการมาถึงของ เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เสียงนกหวีดแรกของมหกรรมลูกหนังโลกที่รอคอย ก็จะดังขึ้น

 

ทว่าก็อย่างที่ทราบกัน นี่คือ ฟุตบอลโลกครั้งพิเศษใส่ไข่ เตะกันตอนปลายปีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นเกมระดับสโมสรที่ต้องหลีกทางให้ แม้จะต้องพักรบกันกลางศึกสงครามก็ตาม

 

อย่างที่บอก ถ้าเป็นบอลโลกปกติ ซีซั่นจะปิดลงแล้ว ทุกทีมเริ่มเข้าแคมป์เก็บตัวแล้ว และไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจากปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อนในสนามซ้อม

 

แต่ในเมื่อเป็นบอลโลกครั้งสุดพิเศษ ก็ทำให้ทั้งฟุตบอลลีกยุโรปแทบทุกประเทศ ไปจนถึงฟุตบอลถ้วยของบางแห่ง ยังคงโรมรันพันตูกันอย่างซีเรียสเคร่งเครียด โดยจะหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022 เพียง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เท่านั้น

 

สิ่งที่ตามมาจากเรื่องนี้ ก็คือการที่นักเตะหลายรายสาดแข้งกันจนสะบักสะบอม และทยอยล้มเจ็บอย่างโชคร้าย จนมีหลายรายเหลือเกินที่จะทำได้แค่ดูบอลโลกที่กาตาร์ ผ่านจอทีวีไม่ต่างจากเราๆ ท่านๆ

รวมรายชื่อนักเตะคนดังที่ไม่ได้ไป บอลโลก 2022

ถึงตรงนี้มีใครบ้างที่ทั้งอดไปชัวร์ๆ และอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยงต้องลุ้นใจหาย FIFA2022match.com รวบรวมเอาไว้แล้วตรงนี้…

รายชื่อนักเตะอังกฤษ
วืดชัวร์ : เบน ชิลเวลล์
สุ่มเสี่ยง : รีซ เจมส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, บูกาโย่ ซาก้า, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน

 

ยืนยันจากทาง เชลซี แล้วว่า วิงแบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ จะไม่ได้ไปแอ่ว กาตาร์ ในฐานะลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ภายหลังมีการตรวจปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงที่เจ้าตัวได้รับจากเกมถ้วยยุโรปอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ใช่เรื่องขำๆ แบบพัก 3-4 วันหายแต่อย่างใด

 

ส่วน รีซ เจมส์ ก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ด้วยปัญหาบาดเจ็บเข่าที่ได้รับจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน แต่ดูจะเบากว่าเพื่อนร่วมค่ายหน่อย ยังมีลุ้นได้ไปบอลโลก

 

ด้าน ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังคนสำคัญจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พักแข้งมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ แต่เจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะเรียกฟิตทันติดธงสิงโต เช่นเดียวกับ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่หลังย้ายจาก ลีดส์ สู่ แมนฯ ซิตี้ แล้วก็เจ็บออดๆ แอดๆ จนได้เล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น ก็ยังเชื่อว่าตัวเองยังอยู่ในข่ายพิจารณาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

 

ขณะที่ บูกาโย่ ซาก้า ออกจากสนามนัดที่ อาร์เซน่อล ชนะ ฟอเรสต์ 5-0 เมื่อสิ้นเดือน ต.ค. หลังเล่นไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทว่าก็ฟิตลงสำรองในเกมกับ เอฟซี ซูริค ได้ใน 4 วันให้หลัง ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการไปฟุตบอลโลก 2022

 

โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน หัวหอกเอฟเวอร์ตัน ก็เจ็บแฮมสตริง จนต้องออกจากสนามตอนกลางครึ่งหลังเกมแพ้ เลสเตอร์ 0-2 และจะต้องเข้ารับการสแกนอย่างละเอียดต่อไปเพื่อประเมินว่า ฟุตบอลโลก 2022 ยังเป็นไปได้สำหรับศูนย์หน้าวัย 25 อยู่หรือไม่

 

แต่สำหรับทาง ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ฟูลแบ็กจากเซาธ์แฮมป์ตัน แม้บาดเจ็บแฮมสตริงไม่หนักมาก แต่การที่แทบไม่อยู่ในสารบบทีมชาติ ที่ผ่านมาเคยเล่นให้อังกฤษแค่ 2 นัดเท่านั้น ทำให้โอกาสถูกคัดทิ้งมีมากกว่าได้ไป

 

 

รายชื่อนักเตะฝรั่งเศส
วืดชัวร์ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, บูบาการ์ กามาร่า
สุ่มเสี่ยง : เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลูคัส เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

แชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2018 อาการเพียบสุดในบรรดาทีมหัวแถวตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ภายหลังส่อแววไม่สู้ดีมาตั้งแต่คิวเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก หนล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ที่มีกลุ่มแข้งบาดเจ็บครึ่งค่อนทีม

 

ยืนยันแล้วว่า 2 คีย์แมนแดนกลางทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จากเชลซี และ ปอล ป๊อกบา จากยูเวนตุส ต่างต้องตกขบวน อดไปช่วยตราไก่ป้องกันแชมป์โลกอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อรายแรกต้องเข้าผ่าตัดแฮสมตริง ส่วนรายหลังผ่าตัดเข่ามาแล้วพักใหญ่ แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับการเรียกความฟิตจนถึงระดับ จนซีซั่นนี้ยังไม่ได้เล่นให้ ยูเว่ แม้แต่เกมเดียว

 

ส่วน บูบาการ์ กามาร่า กองกลางดาวรุ่งวัย 22 จากแอสตัน วิลล่า เข่าพังหลังเล่นให้สิงห์ผงาดไปแค่ 8 นัด บอลโลกครั้งนี้จึงเป็นได้แค่ผู้ชม

 

ยังมีกลุ่มสุ่มเสี่ยง ต้องรักษาตัวและเรียกฟิตให้ทันเวลาอีกหลายราย ไม่ว่าจะ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (เชลซี), ลูคัส เอร์นันเดซ (บาเยิร์น) และ ราฟาแอล วาราน กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งคู่) ที่ ณ ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ด้วยว่าจะพร้อมหรือไม่

 

 

รายชื่อนักเตะบราซิล
วืดชัวร์ : อาร์ตูร์ เมโล่
สุ่มเสี่ยง : ริชาร์ลิซอน, เบรเมอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

เส้นกราฟชีวิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ คล้อยลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่อำลา บาร์เซโลน่า ไปเล่นกับ ยูเวนตุส อย่างเซอร์ไพรส์เมื่อสองปีก่อน จนซีซั่นนี้ถูกส่งยืมมา ลิเวอร์พูล ก็ยังแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไร ลงสนามไปนัดเดียวถ้วน และใกล้ชิดกับห้องพยาบาลมากกว่าสนามฟุตบอล เมื่อมีปัญหาบาดเจ็บต้นขา โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยว่ามิดฟิลด์วัย 26 อาการ “ค่อนข้างซีเรียส” และ “ต้องพักยาว” ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

ฝั่ง ริชาร์ลิซอน หนึ่งในตัวความหวังแนวรุกของ ลา เซเลเซา (ลงสนาม 38 นัดซัดแล้ว 17 ประตู) บาดเจ็บจากเกม สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อ 15 ต.ค. แต่ทั้งเจ้าตัวและ อันโตนิโอ คอนเต้ ยังมองแง่ดีว่าจะเรียกฟิตทันไป เวิลด์ คัพ

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเจ้าของค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ล่าสุดไม่ได้อยู่ในทีม แอสตัน วิลล่า ชุดเปิดบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และจะไม่พร้อมเล่นนัดหน้าด้วย แม้ยังไม่ทราบระยะพักที่แน่ชัดแต่ก็มากพอที่จะสั่นคลอนโอกาสไปบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า คูตินโญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในทีมของ ตีเต้ บ่อยนักด้วย สองปีหลังได้รับใช้ชาติแค่ 5 นัดเท่านั้น ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงทีเดียวที่จะถูกกาชื่อทิ้ง 

 

สำหรับ เบรเมอร์ เซนเตอร์แบ็กยูเวนตุส พลาดช่วยทีมมา 5-6 เกมแล้ว แม้คาดหมายว่าจะฟิตทันเกมสัปดาห์นี้ แต่ด้วยการที่ ติเต้ มีตัวเลือกเซนเตอร์แซมบ้าในมืออยู่ไม่น้อย ก็ทำให้เสี่ยงมากว่าอดีตแข้งโตริโน่จะอดไปบอลโลกในที่สุด

 

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, เลอันโดร ปาเรเดส, คริสเตียน โรเมโร่, ลิโอเนล เมสซี่

 

แม้ในระดับชาติ เปาโล ดีบาล่า ยังจะไม่ค่อยฉายแสงเท่าที่ควรจะเป็น ยิงได้แค่ 3 ลูกจากการลงสนาม 34 นัด แต่ด้วยชื่อชั้นและคุณภาพฝีเท้า มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เพียงแต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อย ภายหลังดาวเตะวัย 28 ดวงแตก เจ็บต้นขาไปเองระหว่างยิงจุดโทษให้กับ โรม่า

 

รายงานจากสื่อ ณ ตอนนี้ ยังออกไปในทางเห็นแย้งกัน ฝั่งหนึ่งบอกว่า ดีบาล่า จะฟิตทันกลับมาเล่นให้ โรม่า ได้ในเกมสุดท้ายช่วงสัปดาห์หน้า ดังนั้นก็ยังได้ลุ้นไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ แต่อีกฝั่งก็บอกว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ ตัดสินใจปล่อยนักเตะพักแล้ว และจะเลือกจิ้มกองหน้าคนอื่นที่ฟิตกว่า ไปบอลโลกแทน

 

ในราย อังเคล ดิ มาเรีย ตัวเก๋าวัย 34 จากยูเวนตุส เจ็บต้นขา แต่ยังถูกคาดหมายว่าจะไปช่วยงานทีมชาติได้ทันเวลา รวมถึง เลอันโดร ปาเรเดส กับ คริสเตียน โรเมโร่ ก็ไม่ได้เจ็บหนัก ยังเชื่อว่าจะฟิตทัน

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดดาวเตะผู้เป็นแทบทุกอย่างในความหวังสอยแชมป์โลกสมัย 3 ของทัพฟ้าขาว ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องพักแข้งไประยะหนึ่ง อดช่วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เล่นกับ ลอริยองต์ และแม้ว่า เปแอสเช จะยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมสซี่ น่าจะกลับมาพร้อมรบในเร็ววัน แต่ก็ต้องห้ามลืมว่าฟุตบอลโลก 2022 กำลังคอยท่าอยู่ในเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้เท่านั้น หากว่าต้องไปลุยบอลโลกแบบไม่สมบูรณ์ 100% ย่อมเป็นความเสียหายโดยตรงของ อาร์เจนติน่า 

 

 

รายชื่อนักเตะเยอรมนี
วืดชัวร์ : ติโม แวร์เนอร์
สุ่มเสี่ยง : มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน่, มานูเอล นอยเออร์

 

อุตส่าห์ย้ายจาก เชลซี ไปหาโอกาสลงสนามสม่ำเสมอกับต้นสังกัดเก่า แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อเตรียมตัวรับใช้ทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งอันที่จริงก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ยิง 9 ประตูจากการเล่น 16 นัด แต่ปรากฏว่า ติโม แวร์เนอร์ กลับได้รับบาดเจ็บข้อเท้าอย่างหนักจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชนะ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 4-0 และ ไลป์ซิก ยืนยันว่า แวร์เนอร์ ต้องพักยาว หมดสิทธิ์ไปช่วยชาติที่กาตาร์โดยปริยาย

 

อีกสองตัวรุกจากต่างค่าย มาร์โก รอยส์ จากดอร์ทมุนด์ กับ เลรอย ซาเน่ จากบาเยิร์น อยู่ในจุดที่ดีกว่า แวร์เนอร์ พอสมควร หลังทั้งคู่เริ่มเรียกฟิตได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว มีโอกาสได้ไปกาตาร์มากกว่าที่จะพลาด

 

ส่วนยอดจอมหนึบวัย 36 อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนสุดท้าย เป็นข่าวใหญ่จากการที่มีอาการของมะเร็งผิวหนังบนใบหน้า แถมช่วงหลังยังเจ็บไหล่อยู่เป็นระยะ ทว่าล่าสุดก็ฟิตกลับมาลงช่วย บาเยิร์น บุกเตะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ได้แล้ว ดังนั้นถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็น่าจะได้ไปกาตาร์ตามปกติ

 

 

รายชื่อนักเตะสเปน
วืดชัวร์ : มิเกล โอยาร์ซาบัล
สุ่มเสี่ยง : เซร์คิโอ เรกีลอน, เคราร์ด โมเรโน่, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

 

แม้ในรายชื่อ 55 แข้งสเปนชุดเบื้องต้นที่หลุดออกมา (หลุยส์ เอ็นริเก้ ตั้งใจไม่เผยจนกว่าจะตัดตัวชุดสุดท้าย) มิเกล โอยาร์ซาบัล ปีกตัวเก่งจาก เรอัล โซเซียดัด จะยังติดอยู่ แต่ด้วยความที่ดาวเตะวัย 25 เข่าพังมาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อน แล้วยังต้องพักมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เล่นเกมซีซั่นนี้แม้แต่เกมเดียว ก็ทำให้จะเรียกฟิตไม่ทันเป็นแน่

 

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันคือ เกป้า “เดอะโค้ช” อาร์ริซาบาลาก้า จากการอัพเดตล่าสุดของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ปรากฏว่า เกป้า จะไม่ได้เล่นให้ เชลซี จนกว่าจะกลับมาเจอกันใหม่หลังบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บเท้า ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นการยืนยันว่านายด่านสแปนิชจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่ๆ แต่ด้วยการที่ เอ็นริเก้ มี 3 นายทวารอยู่แล้วในทีมชุดเตะ เนชั่นส์ ลีก เดือน ก.ย. (อูไน ซิมอน, โรเบิร์ต ซานเชซ, ดาบิด ราย่า) ก็ทำให้ยิ่งง่ายสำหรับ เอ็นริเก้ ไปอีกในการจะตัดชื่อ เกป้า ทิ้งไป หลังจากมือระดับ ดาบิด เด เคอา ก็ไม่ได้อยู่ใน 55 คนแรกก่อนแล้ว

 

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์
วืดชัวร์ : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
สุ่มเสี่ยง : เมมฟิส เดอปาย, มาร์เทน เดอ รอน, มัทไธส์ เดอ ลิกท์

 

มีปัญหาบาดเจ็บเกิดขึ้นในช่วงหลังทั้ง เมมฟิส เดอปาย (บาร์เซโลน่า), มาร์เทน เดอ รอน (อตาลันต้า) และ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส) แต่โอกาสที่ทั้งสามจะเรียกฟิตทันเวลาไปช่วยชาติที่กาตาร์ ยังมีมากกว่าไม่ได้ไป

 

แต่ที่พลาดแล้วตั้งแต่ต้นและน่าเจ็บใจแทน ได้แก่ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์อดีตดาวเด่นลิเวอร์พูล ที่อุตส่าห์ตัดใจย้ายหนีการเป็นคนไม่สำคัญที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หวังมาเกิดใหม่กับ โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่กลับบาดเจ็บหนักขั้นขาหักตั้งแต่ต้น พักยาวลืมวันลืมคืนไม่พอ ยังได้แค่ดูบอลโลกในฐานะกองเชียร์ด้วย

 

 

รายชื่อนักเตะเบลเยียม
วืดชัวร์ : โธมัส มูนิเยร์, อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส
สุ่มเสี่ยง : โรเมลู ลูกากู

 

เพราะไอ้ยักษ์เจ้าของสถิติถล่มประตู 68 ลูกในทีมชาติอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็ “ยุบ” เป็นเหมือนกัน ซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 5 นัด เนื่องจากเจ็บแฮมสตริง ครั้นเรียกฟิตลงสนามได้ก็ดันเจ็บซ้ำเสียอีกรอบ จนต้องลุ้นถึงวันท้ายๆ เลยว่าจะเรียกฟิตทันช่วยปีศาจแดงแห่งยุโรปสั่งลายุคทองกับบอลโลกได้หรือไม่

 

ส่วนที่วืดแล้ว และสำคัญกับทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ทั้งสองคน คือ โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวากำลังหลักจากดอร์ทมุนด์ โหนกแก้มฉีก ฟิตไม่ทันบอลโลก และ อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส ตัวรุกเอซี มิลาน เข่าพัง จะกลับมาเล่นได้อีกทีก็ต้นปีหน้า

 

 

รายชื่อนักเตะโปรตุเกส
วืดชัวร์ : ดีโอโก้ โชต้า, เปโดร เนโต้
สุ่มเสี่ยง : เปเป้, นูโน่ เมนเดส

 

ทำผลงานได้ดีกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นที่แล้ว (21 ประตู) จนหลายเดือนหลังถูกวางให้เป็นกองหน้าตัวจริงของโปรตุเกสอยู่ตลอด ทว่านอกจากความฝืดในซีซั่นนี้ (0 ประตู) แล้ว สำคัญคือ โชต้า เจ็บต้นขาจนต้องถูกหามออกในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อกลางเดือน ต.ค. ส่งผลให้ แฟร์นันโด ซานโตส เลี่ยงไม่ได้ต้องตัดชื่อทิ้งไปตั้งแต่ชุดเบื้องต้น 55 คน เช่นเดียวกับ เปโดร เนโต้ กองหน้าวูล์ฟส์ ที่เจ็บข้อเท้าจนต้องเข้าผ่าตัด

 

ด้าน เปเป้ ป.ประมุข ในวัย 39 ยังเป็นแกนหลักในแนวรับฝอยทองอยู่ แต่ช่วงหลังมีปัญหาเจ็บเข่ามารบกวน ส่วน นูโน่ เมนเดส เด็กเปแอสเช เจ็บกล้ามเนื้อ และทั้งคู่ต้องรีบเรียกฟิต พร้อมหวังว่าอาการของตัวเองจะไม่หนักหนาจนเกินไปนัก

 

 

รายชื่อนักเตะเดนมาร์ก
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์

 

ต้องจับตากับ 2 เซนเตอร์แบ็กกำลังสำคัญ ทั้งกัปตันทีม ซิมอน เคียร์ จากเอซี มิลาน ที่เจ็บหนักและต้องพักมายาว ยังไม่แน่ชัดว่าจะเรียกความฟิตได้ถึงระดับที่เหมาะสมสำหรับการคุมหลังบ้านของทัพโคนมหรือไม่ ส่วน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ของบาร์เซโลน่า ก็เริ่มมีปัญหาความฟิตในช่วงหลัง แม้จะไม่ได้มีรายงานว่าเจ็บหนักก็ตาม

 

 

รายชื่อนักเตะเวลส์
วืดชัวร์ : ทอม ลอว์เรนซ์, รีส นอร์ริงตัน-เดวิส
สุ่มเสี่ยง : แกเร็ธ เบล, โจ อัลเลน

 

กับการกลับเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี เลี่ยงไม่ได้ที่มังกรแดง เวลส์ ยังจำเป็นต้องพึ่งพาพลังสังหารของ แกเร็ธ เบล ที่แม้จะหลบฉากจาก เรอัล มาดริด ไปเล่นกับ แอลเอ เอฟซี ในสหรัฐฯ แล้วก็ตาม กระนั้น กัปตันวัย 33 ก็มีปัญหาความฟิตและไม่ถูกใช้งานสม่ำเสมอนักในช่วงหลัง ต้องดูต่อว่าสภาพร่างกายจะเข้าที่เข้าทางหรือไม่ อันเป็นกรณีเดียวกับอีกคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โจ อัลเลน (สวอนซี)

 

 

รายชื่อนักเตะสหรัฐอเมริกา
วืดชัวร์ : ไมล์ส โรบินสัน
สุ่มเสี่ยง : แดริล ไดค์, เวสตัน แม็คเคนนี่

 

ไมล์ส โรบินสัน เซนเตอร์แบ็กแอตแลนต้า ยูไนเต็ด เจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก พักยาวอดไปบอลโลกแล้ว ส่วน แดริล ไดค์ กองหน้าเวสต์บรอมวิช กับ เวสตัน แม็คเคนนี่ คีย์แมนแดนกลางจากยูเวนตุส ต้องเร่งเครื่องเรียกฟิตหน่อยในโค้งสุด้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022

 

 

รายชื่อนักเตะเม็กซิโก
วืดชัวร์ : เฮซุส โคโรน่า
สุ่มเสี่ยง : ราอูล ฮิมิเนซ

 

ปีกตัวเก่งจากเซบีย่า เฮซุส โคโรน่า ที่เล่นทีมชาติไปแล้ว 71 เกม ต้องพลาดเวิลด์คัพครั้งนี้อย่างน่าเสียดายภายหลังขาหักเมื่อกลางปี และฟิตไม่ทันไปรับใช้ชาติ ส่วนดาวยิงเบอร์ 1 ของชาติอย่าง ราอูล ฮิมิเนซ จากวูล์ฟส์ ก็มีปัญหาโคนขาหนีบ โอกาสตอนนี้อยู่ที่ 50:50

 

 

รายชื่อนักเตะเกาหลีใต้
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : ซน ฮึง-มิน

 

เดินกุมหน้าออกจากเกม ชปล. กับมาร์กเซย ซึ่งตอนแรกเหมือนจะเป็นการบาดเจ็บขาแข้งเหมือนทั่วไป แต่ปรากฏว่าหนักถึงขั้นเบ้าตาซ้ายแตก จากจังหวะเข้าปะทะกับคู่แข่งอย่างจัง และต้องเข้ารับการผ่าตัด เพียงแต่ก็ยังพอมองแง่ดีได้ว่าต่อให้ไม่ 100% ก็ยังน่าจะพอใส่หน้ากากเป็นแบทแมนลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 ได้

 

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น
วืดชัวร์ : ยูตะ นากายามะ
สุ่มเสี่ยง : –

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ ประกาศรายชื่อ 26 คนสุดท้ายแบบไม่รีรอมาก่อนใครเพื่อน แต่ปรากฏว่าไม่ทันไรก็ต้องปรับไลน์อัพเสียแล้ว เมื่อ ยูตะ นากายามะ กองหลังจากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เจ็บส้นเท้าอย่างหนักระดับที่ต้องพักทั้งซีซั่น แน่นอนว่าก็ต้องถอนตัวไปโดยปริยาย และถึงตอนนี้ยังไม่มีการเรียกใครเข้ามาทดแทน

 

 

รายชื่อนักเตะโครเอเชีย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

มิดฟิลด์ตัวเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ลงช่วยงูใหญ่มาร่วม 1 เดือนแล้วจากการบาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติรอบที่แล้ว (เนชั่นส์ ลีก) แต่ก็คาดว่าจากที่พักมาระยะหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเพียงพอให้ได้เรียกฟิตทันเวลา

 

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : โรนัลด์ อเราโฮ

 

บาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติหนก่อนเมื่อเดือน ก.ย. จนอดช่วย บาร์เซโลน่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา แถมยังต้องเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาด ทว่ารายงานช่วงหลังชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า โรนัลด์ อเราโฮ มีพัฒนาการที่ดี ถ้าไม่มัวไปติดไฟแดงเสียก่อน ก็น่าจะทะลุเข้าอ่อนนุช-เอ๊ย-ไปบอลโลกได้อยู่

 

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์
วืดชัวร์ : ยาคุบ โมเดอร์
สุ่มเสี่ยง : –

 

เอ็นฉีกตั้งแต่เดือน เม.ย. และต้องพักยาวหลายเดือน กองกลางจากไบรท์ตันจึงฟิตไม่ทันช่วยชาติในฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

 

รายชื่อนักเตะแคนาดา
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อาติบา ฮัทชินสัน

 

กัปตันทีมชาติตัวเก๋าวัย 39 ยังไม่อาจฟื้นฟิตลงช่วย เบซิคตัส ได้เลยแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ภายหลังเจ็บกระดูกร้าวตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น แม้ยังพอได้ลุ้นกลับมาทัน แต่ก็น่าเสียวไส้ว่าจะฟิตไม่ถึงระดับ

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BBC
Mirror Sports
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Getty Images
ESPN
beIN SPORTS

 

เรื่องน่าอ่าน : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
แบโผเบื้องต้น ‘โปรตุเกส’ ลุยฟุตบอลโลก 2022
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด

ราบชื่อ 26 นักเตะของทีมชาติญี่ปุ่น เพื่อลุยฟุตบอลโลก 2022 

เพราะแม้ช้าๆ อาจได้พร้าเล่มงาม แต่ดูเหมือนว่า “ซามูไรสีน้ำเงิน” ทีมชาติญี่ปุ่นในการดูแลของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะไม่อยากเสียเวลารอใครอะไรทั้งสิ้น ประกาศตัว 26 แข้งชุดสุดท้ายสำหรัยลุยฟุตบอลโลก 2022 ออกมาเปรี้ยงเดียว ก่อนใครเพื่อน

 

ก่อนจะไปลงลึกถึงรายละเอียดและประเด็นที่เกี่ยวข้อง ก็ไปสำรวจกันเลยกับโผ 26 นักเตะ final squad ทีมชาติญี่ปุ่น ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งพวกเขานับเป็นชาติแรกสุดที่ยืนยันทีมชุดสุดท้ายออกมาแล้ว มาเร็วกว่าทุกชาติ เร็วกว่าแม้กระทั่งเจ้าภาพ กาตาร์ ด้วย

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น ล่าสุด ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

ผู้รักษาประตู
เออิจิ คาวาชิมะ / อายุ 39 / สตราส์บูร์ก / เล่นทีมชาติ 95 นัด
ชูอิจิ กอนดะ / 33 / ชิมิสุ เอสพัลส์ / 33
ดาเนี่ยล ชมิดท์ / 30 / แซงต์-ทรุยดอง / 11

 

กองหลัง
ยูโตะ นางาโตโมะ / 36 / เอฟซี โตเกียว / 137 นัด 4 ประตู
มายะ โยชิดะ / 34 / ชาลเก้ / 121 – 12
ฮิโรกิ ซากาอิ / 32 / อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส / 71 – 1
ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ / 23 / อาร์เซน่อล / 29 – 1
ยูตะ นากายามะ / 25 / ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ / 17 – 0
มิกิ ยามาเนะ / 28 / คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ / 14 – 2
โชโง ทานิงูจิ / 31 / คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ / 13 – 0
โค อิตาคุระ / 25 / โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค / 12 – 1
ฮิโรกิ อิโตะ / 23 / สตุ๊ตการ์ท / 5 – 0

 

กองกลาง
กาคุ ชิบาซากิ / 30 / เลกาเนส / 59 – 3
วาตารุ เอ็นโดะ / 29 / สตุ๊ตการ์ท / 43 – 2
ทาคุมิ มินามิโนะ / 27 / โมนาโก / 43 – 17
จุนยะ อิโตะ / 29 / แร็งส์ / 38 – 9
ริตสึ โดอัน / 24 / ไฟรบวร์ก / 28 – 3
ไดอิจิ คามาดะ / 26 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 21 – 6
ทาเคฟุสะ คุโบะ / 21 / เรอัล โซเซียดัด / 19 – 1
ฮิเดมาสะ โมริตะ / 27 / สปอร์ติ้ง ลิสบอน / 17 – 2
อาโอะ ทานากะ / 24 / ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ / 14 – 2
คาโอรุ มิโตมะ / 25 / ไบรท์ตัน / 9 – 5
ยูกิ โซมะ / 25 / นาโงย่า แกรมปัส / 7 – 3

 

กองหน้า
ทาคุมะ อาซาโนะ / 27 / โบคุ่ม / 36 – 7
อายาเสะ อุเอดะ / 24 / แซร์ก บรูซ / 10 – 0
ไดเซน มาเอดะ / 25 / เซลติก / 8 – 1

 

ประวัตินักเตะทีมชาติญี่ปุ่น ที่จะออกศึก บอลโลกปี 2022 นี้

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• เริ่มต้นที่ตัวกุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ โค้ชชาวเมืองชิซุโอกะ วัย 54 จะนำ ญี่ปุ่น ลงสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นสมัยแรกของตัวเขา ภายหลังเป็นมือขวาของ อากิระ นิชิโนะ ในบอลโลกครั้งก่อนที่รัสเซีย และขึ้นคุมแทนหลังจบทัวร์นาเมนต์นั้น โดยจากวันนั้นถึงวันนี้ โมริยาสุ มีพาทีมเข้าชิง เอเชียน คัพ 2019 หนึ่งหน (แพ้ กาตาร์ 1-3) และได้แชมป์รายการย่อย สี่เส้าชิงแชมป์เอเชียตะวันออก EAFF E-1 Football Championship 2022 เมื่อกลางปี

 

• ส่วนสถิติถึงวันนี้ โมริยาสุ พาทีมลงสนาม 57 เกม ชนะ 39 เสมอ 8 แพ้ 10 เปอร์เซ็นต์ชนะอยู่ที่ 68.42%

 

• ในการประกาศรายชื่อ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022 แบบไม่ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดกับชุดเบื้องต้นสี่ซ้าห้าสิบคน โมริยาสุ จำแนกลูกทีมตามตำแหน่ง ประกอบด้วย 3 ผู้รักษาประตู, 9 กองหลัง, 11 กองกลาง และอีก 3 กองหน้า ซึ่งการที่เรียกศูนย์หน้าติดธงไปน้อยแค่นี้ เพราะหมากการเล่นโดยส่วนใหญ่ของพวกเขามักใช้หอกเป้ารายเดียว เช่น 4-3-3 หรือ 4-5-1 และเน้นการโจมตีริมเส้นเป็นหลัก

 

• น่าสนใจว่าจาก 26 รายชื่อ มีตัว “เจลีก” เล่นในประเทศ หลงเหลืออยู่เพียง 6 รายเท่านั้น โดยมาจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ 2 คน และ นาโงย่า แกรมปัส, ชิมิซุ เอส-พัลส์, อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส, เอฟซี โตเกียว ทีมละคน นอกนั้นอีก 20 คน เล่นอยู่ในลีกยุโรปทั้งสิ้น
– บุนเดสลีกา เยอรมนี 8 คน
– พรีเมียร์ลีก + แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ 3
– ลีก เอิง ฝรั่งเศส 3
– ลา ลีกา สเปน 2
– โปรลีก เบลเยียม 2
– พรีเมียร์ชิพ สกอตแลนด์ กับ ปรีเมร่า ลีกา โปรตุเกส อย่างละ 1

 

• ชุดนี้ จัดว่าไม่มี “หน้าใหม่” แม้แต่รายเดียว ทั้งหมดล้วนแต่เคยเล่นทีมชาติมาแล้ว อย่างน้อยที่สุด 5 นัด (ฮิโรกิ อิโตะ กองหลังสตุ๊ตการ์ท) รวมถึงว่าก็แทบไม่มีดาวรุ่งด้วย ที่เข้าข่ายมีแค่ ทาเคฟุสะ คุโบะ เจ้าหนูมหัศจรรย์วัย 21 จากเรอัล โซเซียดัด แต่เจ้าตัวก็เล่นทีมชาติมาแล้ว 19 นัด แถมยังผ่านประสบการณ์ใน ลา ลีกา สเปน มาเกิน 100 นัดไปแล้วด้วย

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• ขุมกำลังผู้รักษาประตู นำมาโดยจอมเก๋าวัยปาเข้าไป 39 เออิจิ คาวาชิมะ จอมหนึบสตราส์บูร์ก ผู้ซึ่งกำลังจะได้เล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน (2010, 2014, 2018, 2022) ขณะที่มือสาม ดาเนี่ยล ชมิดท์ จากแซงต์-ทรุยด็อง แม้ชื่อจะออกฝรั๊งฝรั่ง แต่ที่จริงชื่อเต็มคือ “ดาเนี่ยล ยูจิ ยาบูกิ ชมิดท์” เป็นลูกครึ่งคุณพ่อเยอรมัน-แม่ญี่ปุ่น โตที่สหรัฐอเมริกา แล้วย้ายมาตั้งรกรากในแดนอาทิตย์อุทัยตั้งแต่ 2 ขวบ จากนั้นเทิร์นโปรกับ เวกัลตะ เซนได ก่อนย้ายไปเล่นที่เบลเยียมตั้งแต่ 2019 เป็นต้นมา

 

• กองหลัง ไม่พลาดอยู่แล้วกับ มายะ โยชิดะ กัปตันทีมชุดนี้ ที่แม้จะสูงวัย 34 แล้ว แต่ก็ยังยืนระยะกับ ชาลเก้ 04 ได้อยู่ภายหลังเพิ่งย้ายมาจาก ซามพ์โดเรีย เมื่อซัมเมอร์ ส่วนรายอื่นๆ ก็ถือเป็นชื่อที่คุ้นหูแฟนบอลดีแทบทั้งหมด ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ จากอาร์เซน่อล, โค อิตาคุระ จากกลัดบัค, ฮิโรกิ ซากาอิ จากอุราวะ รวมถึง ยูโตะ นางาโตโมะ ในวัย 36 ก็ยังได้มาเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 เช่นกัน

 

• ในราย นางาโตโมะ ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย กลับไปเล่นให้ต้นสังกัดแรก เอฟซี โตเกียว เมื่อปี 2021 แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ รวมถึงเป็นตัวที่เล่นทีมชาติสูงสุดในชุดนี้ ผ่านการรับใช้ชาติมามากถึง 137 เกม หรือเป็นอันดับ 2 นักเตะที่เล่นให้ญี่ปุ่นสูงสุดตลอดกาล เป็นรองเพียง ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ ที่ลงสนาม 152 นัด รายเดียวเท่านั้น

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• นางาโตโมะ วัย 36 ยังนับเป็นหนึ่งใน 8 “ซามูไรซีเนียร์” อายุเกินหลักสามร่วมกับ เออิจิ คาวาชิมะ (39), มายะ โยชิดะ (34), ชูอิจิ กอนดะ (34), ฮิโรกิ ซากาอิ (32), โชโง ทานิกูจิ (31), ดาเนี่ยล ชมิดท์ (30) และ กาคุ ชิบาซากิ (30) ที่จะได้เข้าร่วมศึก กาตาร์ 2022

 

• กองกลาง นอกจาก ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่ได้เอ่ยถึงไปแล้ว ตัวน่าจับตาอยู่ที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ดาวซัลโวสูงสุดของทีมชุดนี้ ที่กดไปแล้ว 17 ประตูจาก 43 เกมทีมชาติ อย่างไรก็ตาม มินามิโนะ ยังโชว์ฟอร์มในซีซั่นนี้กับทาง โมนาโก ไม่สวยนัก ลงสนาม 13 นัดเพิ่งยิงได้ลูกเดียว

 

• ด้านกองหน้า ต้องดูว่าระหว่าง ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม) กับ ไดเซน มาเอดะ (เซลติก) ใครจะได้เป็นตัวยืนในไลน์อัพแรก เมื่อตัวเลือกที่ 3 อย่าง อายาเสะ อุเอดะ (แซร์ก บรูช) ยังไม่เคยยิงประตูในนามทีมชาติได้มาก่อน จากการเล่น 10 นัด

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• อีกจุดที่น่าสนใจคือการที่ โมริยาสุ กล้าๆ จะมองข้ามตัวที่เล่นในลีกยุโรปไปหลายรายมาก โดยเฉพาะ เกงคิ ฮารางุจิ มิดฟิลด์อูนิโอน เบอร์ลิน ที่ติดทีมชาติไปแล้วถึง 74 นัด (11 ประตู) หลุดไป (ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า มีตัวเลือกอื่นฟอร์มเข้าตากว่า) เช่นเดียวกับ เรโอ ฮาตาเตะ & เคียวโง ฟุรุฮาชิ (เซลติกทั้งคู่), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือสองกองหน้าตัวเก๋า ยูยะ โอซาโกะ กับ โยชิโนริ มุโตะ (วิสเซิล โกเบ ทั้งคู่) ก็ไม่ถูกเรียกตัวด้วย

 

• สำหรับการลุยฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ โมริยาสุ ตั้งเป้าไว้สูงถึงการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย “เป้าหมายของเราในการร่วมเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ คือการไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้…เป็นอย่างน้อย” เขาว่า “แต่เราก็รู้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย”

 

 

แต่เหนืออื่นใด ผ่านรอบแรก “กลุ่มแห่งความตาย” ให้ได้เสียก่อนนะ ซามูไรบลู…
23/11 เยอรมนี – ญี่ปุ่น
27/11 ญี่ปุ่น – คอสตาริกา
01/12 ญี่ปุ่น – สเปน

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Republic World

ภาพประกอบ
Getty Images
Japan Football Fans
Goal
AFP

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่…

อดใจรอกันอีกแค่เดี๋ยวเดียว สิ่งที่โลกลูกหนังเฝ้าคอยกันมา 4 ปีอย่าง “ฟุตบอลโลก 2022” ก็จะถึงเวลาโรมรันกันแล้ว และโดยไม่ต้องพึ่งแม่หมอพ่อเดา เราก็ทราบผล “แชมป์โลก” ล่วงหน้าเรียบร้อย…ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์สุดอัจฉริยะ!

 

เดินทางเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนกันแล้ว ซึ่งหมายถึงว่าอีกเพียงไม่กี่วันกี่คืนเท่านั้น เสียงนกหวีดแรกแห่ง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ก็จะดังขึ้น

 

20 พฤศจิกายน ลากยาวไปจนเกือบหนึ่งเดือนเต็ม 18 ธันวาคม ที่โลกลูกหนังจะหยุดหมุน เพื่อเว้นวรรคและเป็นสักขีพยานของการช่วงชิงแชมป์รายการที่สำคัญที่สุดของเมืองมนุษย์

 

และก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จริงจะมาถึง เราก็ทราบผลบทสรุปของ กาตาร์ 2022 เรียบร้อยแล้ว… ผ่านการทำนายประมวลผลคิดวิเคราะห์แยกแยะของ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” ในการดูแลของ บีซีเอ รีเสิร์ช (BCA Research) สถาบันวิเคราะห์การลงทุนระดับโลก แห่งประเทศแคนาดา

 

บทวิเคราะห์นี้มีชื่ออันแสนยาวเหยียดว่า “The Most Important Of All Unimportant Forecasts 2nd Edition: 2022 FIFA World Cup ซึ่งเป็นการประมวลผลสถิติตัวเลขหลากหลาย เช่น ผลการแข่งขัน 192 นัดของรอบแรก กับสกอร์ของอีก 64 เกมรอบน็อกเอาต์ ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่ 2006 – 2018, อายุอานามของนักเตะแต่ละทีม จนถึง “ค่าพลัง” ความเร็วและค่าเฉลี่ย Team Average Player Rating ที่ปรากฏอยู่ในเกมฟุตบอลเลื่องชื่ออย่าง FIFA (อันมาจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ชั้นหนึ่งแล้วจากค่ายเจ้าของเกม EA Sport)

 

ข้อมูลทั้งหมดที่มี จะถูกแปลงเป็นสมการยากๆ เช่น yi* = χi’β + ϵi หรือ Pr(yi = win | χi, β, γ) = 1 – ϕ(γ2 – χi’ β) อันจะถูกส่งต่อเข้าสู่ซูเปอร์คอมพิเตอร์อัจฉริยะ เพื่อแปลงผลให้ออกมาจนได้ข้อสรุป

 

“สี่ปีก่อน เราได้เผลผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2018 เอาไว้ นั่นคือครั้งแรกที่เราได้ลองทำนายผลฟุตบอลโลกกันเป็นครั้งแรก” BCA Research ระบุ “มาตอนนี้ เราได้พัฒนาแบบจำลองเชิงปริมาณขึ้นอีก เพื่อคาดการณ์การแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก”

 

“นอกจากแง่ของเกมกีฬาแล้ว เราเราหวังว่ารายงานชิ้นนี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากความผันผวนของตลาดสินทรัพย์, ความตกต่ำอย่างรุนแรงของ ธนาคารกลาง, อัตราเงินเฟ้อที่สูงในรอบหลายสิบปี จนถึงกระทั่งสงครามในยูเครน”

 

สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ผลจากการประมวลคิดวิเคราะห์แยกแยะของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ออกมาว่า “แทบไม่มีเซอร์ไพรส์” บรรดาทีมใหญ่พาเหรดเข้าน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด ไม่มีชาติหัวแถวรายไหนที่หลุดออกจากรอบแรก รวมถึงแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่ยุติ “อาถรรพ์แชมป์เก่า” ลงได้ — แม้จะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มดี ตามหลังของแสลงส่วนตัวอย่าง เดนมาร์ก ก็ตาม

 

ส่วนกลุ่มรวมตัวขาโหด “Group of Death” อย่างกลุ่มอี ที่ประกอบด้วย สเปน, เยอรมนี, คอสตาริกา และ ญี่ปุ่น นั้น ก็เป็น 2 ยักษ์ใหญ่ทวีปยุโรปที่กอดคอเข้ารอบไปด้วยกัน ปล่อยให้ทีมกล้วยหอมจอมซนและ “ซามูไรบลู” สิ้นสุดการผจญภัยในฟุตบอลโลก 2022 ที่เพียงรอบแรก

 

ขณะที่ทีมขวัญใจมหาชน สิงโตคำราม อังกฤษ ไม่เจอปัญหาใดทั้งสิ้นในการผ่านรอบแรก “แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม และ บูกาโย่ ซาก้า อยู่ในฟอร์มที่ดีมากตั้งแต่ซีซั่นนี้เริ่มขึ้น และคุณภาพโดยรวมของคนอื่นๆ จะช่วยให้ อังกฤษ ครองแชมป์กลุ่มอย่างไม่ลำบาก”

 

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

ผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2022 โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ BCA Research

รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ : กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เนเธอร์แลนด์ 2. เซเนกัล

 

กลุ่มบี : อังกฤษ, อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อังกฤษ 2. สหรัฐอเมริกา

 

กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า, ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อาร์เจนติน่า 2. เม็กซิโก

 

กลุ่มดี : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนิเซีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เดนมาร์ก 2. ฝรั่งเศส

 

กลุ่มอี : สเปน, คอสตาริกา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. สเปน 2. เยอรมนี

 

กลุ่มเอฟ : เบลเยียม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เบลเยียม 2. โครเอเชีย

 

กลุ่มจี : บราซิล, เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. บราซิล 2. สวิตเซอร์แลนด์

 

กลุ่มเอช : โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. โปรตุเกส 2. อุรุกวัย

 

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – สหรัฐอเมริกา
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เนเธอร์แลนด์
แม้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เมื่อหนึ่งในตัวเต็งอย่าง เนเธอร์แลนด์ ได้คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็น สหรัฐอเมริกา ที่คู่นี้ไม่เคยได้เจอกันในทัวร์นาเมนต์เป็นทางการมาก่อนเลย (เจอในนัดลับแข้ง 5 ครั้ง) ซึ่งผลก็เป็น “อัศวินสีส้ม” กำชัยได้ตามคาด

 

อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์การเจอกันเมื่อครั้งก่อน รัสเซีย 2018 คราวนั้น ฝรั่งเศส สอนเชิงถล่มเอาชนะ อาร์เจนติน่า สี่เม็ด กระนั้นมาคราวนี้ อาร์เจนติน่า ชำระแค้นได้สำเร็จ ด้วยความลงตัวและคุณภาพที่ชัดกว่าแชมป์เก่า “ฝรั่งเศสมีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากเกินไป โดยเฉพาะในแดนกลาง นี่คือจุดสำคัญทำให้ อาร์เจนติน่า ฉกฉวยความได้เปรียบ”

 

สเปน – โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : สเปน
เพิ่งงัดกันมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 และต้องยืดเยื้อกันถึงต่อเวลา สเปน ถึงเอาชนะได้ 5-3 ภายหลังเสมอสุดเดือด 3-3 ใน 90 นาที มาครั้งนี้ในบอลโลกที่กาตาร์ ไม่เดือดปุดขนาดนั้น และยังคงเป็น สเปน คว้าชัยได้ไปต่อรอบ 8 ทีม

 

บราซิล – อุรุกวัย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
ไม่มีอะไรพลิกโผสำหรับการตัดกันเองของ 2 ตัวแทนจากอเมริกาใต้ หลังจากการพบกันช่วงหลัง ก็เป็น “ลา เซเลเซา” ที่กินขาดอยู่แล้ว — ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บราซิล ไม่แพ้ อุรุกวัย มา 20 ปีเข้าไปแล้ว (ชนะรวด 4 เกมหลัง) และเกมนี้ก็ออกทรงเดิมเช่นเคย

 

อังกฤษ – เซเนกัล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
อาจต้องระแวดระวังหน่อยกับพลังรุกของ ซาดิโอ มาเน่ และความหนักแน่นในเกมรับของ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ แฮร์รี่ เคน และพลพรรคสิงโตคำราม ก็ยังกรีธาทัพผ่าน เซเนกัล ได้อย่างไร้ปัญหา

 

เดนมาร์ก – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เม็กซิโก
ทั้งที่อุตส่าห์คว้าแชมป์กลุ่มมาครองได้เหนือ ฝรั่งเศส แต่เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว โคนมเดนมาร์กของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็กลับเครื่องสะดุดเพลาหักสลักหายฯ ไปเสียดื้อๆ แพ้พลิกล็อกต่อ เม็กซิโก จนร่วงตกรอบ หมดลายม้ามืดที่หลายฝ่ายคาดหมาย เป็นทัพจังโก้อันตรายที่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

เบลเยียม – เยอรมนี
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เยอรมนี
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ของรอบ 16 ทีม เบลเยียม ลงสนามไปด้วยความหวังตั้งใจจะคว้าชัยชนะเพื่อส่งต่อ “ยุคทอง” ของตัวเองไปให้ไกลที่สุด ทว่า เยอรมนี ก็เป็นคู่แข่งที่หนักหนาสาหัสเกินไปเสียแล้ว บทสรุปคือยุคทองปีศาจแดงฯ (เดอ บรอยน์, ลูกากู, อาซาร์, กูร์กตัวส์ ฯลฯ) ต้องจากลาฟุตบอลโลกหนนี้ไปโดยไม่ประสบความสำเร็จอีกตามเคย

 

โปรตุเกส – สวิตเซอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เจอกันรัวๆ ในช่วงหลัง รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ซึ่งต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันได้ในบ้าน มาคราวนี้ที่สนามกลางต่างแดน ก็เป็น โปรตุเกส ของ โรนัลโด้ และชาวคณะ ที่ได้ไปต่อ

 

 

รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – อาร์เจนติน่า
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์เกมสุดคลาสสิกจาก ฟร้องซ์ 98 ที่มีลูกยิงของ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ เป็นช็อตตัดสินเกมอันสุดตรึงตราตรึงใจ ซึ่ง อาร์เจนติน่า ก็ต้องรอคอยมาถึง 24 ปี ถึงจะสามารถชำระแค้นได้เป็นผลสำเร็จ ลิโอเนล เมสซี่ ดีเกินกว่าที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะต้านทานอยู่

 

สเปน – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
อีกหนึ่งซูเปอร์แมตช์ของรายการ สเปน กับ บราซิล โคจรมาเจอกันเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ทศวรรษหลัง ปรากฏเป็น เนย์มาร์, กาเบรียล เชซุส, วินิซิอุส, อันโตนี่, กาเซมิโร่, เฟร็ด ได้ชูธงชาติฉลองชัย

 

อังกฤษ – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
รอบที่แล้ว เซเนกัล มารอบนี้ เม็กซิโก ซึ่งล้วนแต่เป็นรอง อังกฤษ ในหลากหลายแง่มุม สุดท้ายก็เป็นสิงโตคำรามของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่คว้าชัยต่อเนื่อง ลุยไปถึงรอบตัดเชือก กาตาร์ 2022

 

เยอรมนี – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
ผ่านเกมสุดโหดกับ สเปน ในรอบแรก ต่อด้วยกับ เบลเยียม ในรอบสอง ส่งผลให้ “อินทรีเหล็ก” ออกลูกยุบในตัวเอง พลังลด ร่างกายล้า จนที่สุดแล้ว โปรตุเกส ก็เบียดกำชัยได้อย่างสนุกตื่นเต้น ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

 

 

รอบรองชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
“ซูเปอร์กลาซิโก้” ฉะกันทีไร โลกต้องหยุดหมุนเพื่อเฝ้ามองเมื่อนั้น และแน่นอนกับคราวนี้ที่มีเดิมพันใหญ่ถึงขั้น “ตั๋วเข้าชิงบอลโลก” ให้ได้แย่งชิง และเกมก็ดุเดือดขั้นสุดจนแทบจะยกพวกตีกันเสียให้รู้ดำรู้แดง ซึ่งสุดท้ายก็เป็น อาร์เจนติน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ฝากรอยแค้นใหญ่เอาไว้ให้กับ บราซิล ด้วยชัยชนะ–และการได้เข้าชิงฟุตบอลโลก

 

อังกฤษ – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เกมสุดคู่คี่สูสีในแง่ของศักดิ์ของศรี การปะทะกันของ 2 ทีมหัวแถวทวีปยุโรปที่เคยมีประวัติฟาดฟันกันมาพอท้วมๆ สิ่งที่น่าสนใจคือภายหลัง อังกฤษ ผ่านทีมรองบ่อนอย่าง เซเนกัล และ เม็กซิโก มาได้ ก็ถึงคราวต้องหยุดความฝันเอาไว้เท่านี้เมื่อต้องเจอของแข็งจริงจังอย่างทัพฝอยทอง แต่ว่าเกมลากยาวถึงดวลจุดโทษ และ โปรตุเกส เฉือนหวิว “ทั้งสองทีมจะยิงได้ โดยที่ โปรตุเกส มีโอกาส 56% ในการเข้ารอบ และ อังกฤษ จะเข้าสู่การดวลจุดโทษแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก พวกเขาชนะแค่หนเดียวจากการดวลเป้า 4 ครั้งในฟุตบอลโลก”

 

 

นัดชิงอันดับ 3
บราซิล – อังกฤษ
ผู้ชนะ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
เกมปลอบใจที่ไม่ใคร่จะมีใครสนใจสักเท่าไร อังกฤษ มาถึงตรงนี้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน ภายหลังแพ้ เบลเยียม 0-2 ในนัดชิงที่สามที่รัสเซีย และก็ยังคงซ้ำรอยกับหนนี้ ที่ บราซิล กำชัย ได้เหรียญทองแดงไปครอง

 

 

นัดชิงชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – โปรตุเกส
แชมป์โลก โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
สุดยอดเกม “แมตช์ในฝัน” ที่โลกจับตา นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อันเป็นเกมสั่งลา เวิลด์ คัพ ของ 2 เสือเฒ่า ลิโอเนล เมสซี่ (35) กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (37) ผู้ชนะจะไปถึงฝั่งฝันที่ตามหามานานตลอดเส้นทางอาชีพ และยังจะได้เลิกเล่นไปพร้อมดีกรี “แชมป์โลก” ติดตัว

 

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คำนวณผลเกมชิงดำนัดนี้ออกมาว่า “ยืดเยื้อ” กินกันไม่ลงทั้งใน 90 และ 120 นาที จนสุดท้าย ต้องตัดสินแชมป์กันด้วยการดวลจุดโทษ — ซึ่งไม่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 (อิตาลี ชนะดวลเป้าเหนือ ฝรั่งเศส)

 

และผลสุดท้าย… เมสซี่ คือผู้ชนะ อาร์เจนติน่า ผงาดครองแชมป์โลกสมัยที่ 3 และหนแรกนับจากปี 1986

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI 1986

 

“อันที่จริง การเลือกระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ มันก็เหมือนการต้องเลือกระหว่าง โมสาร์ท กับ บีโธเฟ่น หรือไม่ก็ ดา วินชี่ กับ ไมเคิ่ลแอนเจโล่”

 

“แต่ภายหลังการวิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เราเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างแห่งฟุตบอลโลก 2022 เสร็จสิ้นลง อาร์เจนติน่า และ ลิโอเนล เมสซี่ จะเป็นผู้ได้ชูถ้วยแชมป์โลกขึ้นที่กาตาร์” BCA Research ทิ้งท้าย

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

…ทั้งนี้ทั้งนั้น การคำนวณต่อฟุตบอลโลก 2022 ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ว่า ก็เหมือนเช่นเคยว่าเป็นการวิเคราะห์ด้วยสถิติตัวเลข โดยขาดไปซึ่งสิ่งสำคัญอย่าง “ความพลิกล็อก” และ “เหนือคาด” อันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลเสมอมา

 

ดังนั้น บทสรุปที่ว่า เมสซี่ จะมาชิงแชมป์โลกกับ โรนัลโด้ และผู้ได้ชูโทรฟี่คือ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว ในท้ายที่สุด ก็คงเชื่อถือไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

 

เอาเป็นว่า อดใจรออีกเดี๋ยว อีกไม่กี่สิบวันก็ได้เห็นของจริง

 

เผลอๆ ทั้ง อาร์เจนติน่า ทั้ง โปรตุเกส อาจตกรอบแรกพร้อมกันทั้งคู่ก็ได้…ใครจะรู้!

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BCA Research
FourFourTwo
DohaNews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
ShutterStock
Bulgaria Posts English
MassLive
AFP

ทีมชาติโปรตุเกส โผรายชื่อนักเตะ ลุยฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติโปรตุเกส โผรายชื่อนักเตะ ลุยฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทีมชาติโปรตุเกส นำทีมบุกบอลโลก

แบกความหวังชิ้นโตหอบใส่กระเป๋า นำมาโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าเก่าที่คงจะเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้าย แต่คำถามสำคัญก็คือ โปรตุเกส จะไปได้ไกลขนาดไหน ที่กาตาร์…

 

ก่อนจะไปลงลึกถึงรายละเอียดและประเด็นที่เกี่ยวข้อง ก็ดูกันเลยกับโผ 55 นักเตะเบื้องต้น preliminary squad ทีมชาติโปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของกุนซือ แฟร์นันโด ซานโตส ที่เปิดเผยออกมาเมื่อ 23 ตุลาคม ก่อนที่พวกเขาจะตัดตัวให้เหลือไม่เกิน 26 คนสุดท้าย final squad เพื่อส่งรายชื่อให้กับ ฟีฟ่า ภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน

 

รายชื่อนักเตะทีมชาติโปรตุเกส ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
รุย ปาตริซิโอ / อายุ 34 / โรม่า / เล่นทีมชาติ 104 นัด
อันโธนี่ โลเปส / 32 / ลียง / 14
ดีโอโก้ คอสต้า / 23 / ปอร์โต้ / 7
รุย ซิลวา / 28 / เบติส / 1
โชเซ่ ซา / 29 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 0

 

กองหลัง
เปเป้ / 39 / ปอร์โต้ / เล่นทีมชาติ 128 นัด ยิง 7 ประตู
ดานิโล่ เปเรยร่า / 31 / เปแอสเช / 63 – 2
ราฟาแอล เกร์เรยโร่ / 28 / ดอร์ทมุนด์ / 56 – 3
โชเซ่ ฟอนเต้ / 38 / ลีลล์ / 50 – 1
รูเบน ดิอาส / 25 / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / 39 – 2
ชูเอา กันเซโล่ / 28 / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / 37 – 7
เซดริก โซอาเรส / 31 / อาร์เซน่อล / 34 – 1
เนลซอน เซเมโด้ / 28 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 24 – 0
นูโน่ เมนเดส / 20 / เปแอสเช / 16 – 0
มาริโอ รุย / 31 / นาโปลี / 12 – 0
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ / 23 / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / 6 – 2
โดมิงกอส ดูอาร์เต้ / 27 / เคตาเฟ่ / 3 – 0
ฟาบิโอ การ์โดโซ่ / 28 / ปอร์โต้ / 0 – 0
ดาวิด การ์โม่ / 23 / ปอร์โต้ / 0 – 0
เธียร์รี่ กอร์เรอา / 23 / บาเลนเซีย / 0 – 0
ติอาโก้ ชาโล่ / 22 / ลีลล์ / 0 – 0
กอนซาโล่ อินาซิโอ / 21 / สปอร์ติ้ง / 0 – 0
ดีโอโก้ เลอิเต้ / 23 / อูนิโอน เบอร์ลิน / 0 – 0
นูโน่ ซานโตส / 27 / สปอร์ติ้ง / 0 – 0
อันโตนิโอ ซิลวา / 18 / เบนฟิก้า / 0 – 0
นูโน่ ตาวาเรส / 22 / มาร์กเซย / 0 – 0

 

กองกลาง
ชูเอา มูตินโญ่ / 36 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 146 – 7
วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / 30 / เบติส / 75 – 5
แบร์นาร์โด้ ซิลวา / 28 / แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / 72 – 8
ชูเอา มาริโอ / 29 / เบนฟิก้า / 52 – 2
บรูโน่ แฟร์นันเดส / 28 / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / 48 – 9
เรนาโต้ ซานเชส / 25 / เปแอสเช / 32 – 3
รูเบน เนเวส / 25 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 32 – 0
ชูเอา ปาลินญ่า / 27 / ฟูแล่ม / 15 – 2
แซร์โจ้ โอลิเวียร่า / 30 / กาลาตาซาราย / 13 – 0
มาเตอุส นูเนส / 24 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 9 – 1
โอตาวิโอ / 27 / ปอร์โต้ / 7 – 2
วิตินญ่า / 22 / เปแอสเช / 4 – 0
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ / 20 / ลิเวอร์พูล / 0 – 0
ฟลอเรนติโน่ หลุยส์ / 23 / เบนฟิก้า / 0 – 0
ฟาบิโอ วิเอร่า / 22 / อาร์เซน่อล / 0 – 0

 

กองหน้า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / 37 / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / 191 – 117
อันเดร ซิลวา / 26 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 51 – 19
กอนซาโล่ เกเดส / 25 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 32 – 7
ชูเอา เฟลิกซ์ / 22 / แอตเลติโก มาดริด / 23 – 3
ราฟาเอล เลเอา / 23 / เอซี มิลาน / 11 – 0
ฟรานซิสโก้ ตรินเกา / 22 / สปอร์ติ้ง / 7 – 0
ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า / 28 / บราก้า / 5 – 1
เปาลินโญ่ / 29 / สปอร์ติ้ง / 3 – 2
เปโดร กอนซัลเวส / 24 / สปอร์ติ้ง / 2 – 0
ดาเนี่ยล โปเดนเซ่ / 27 / วูล์ฟแฮมป์ตัน / 1 – 0
เบโต้ / 24 / อูดิเนเซ่ / 0 – 0
โชต้า / 23 / เซลติก / 0 – 0
กอนซาโล่ รามอส / 21 / เบนฟิก้า / 0 – 0
วิตินญ่า / 22 / บราก้า / 0 – 0

 

• ภายหลังผ่าน “ยุคมืด” ที่ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกแบบรัวๆ 3 ครั้งซ้อนระหว่างปี 1990-1998 (ทั้งที่ก็มียอดแข้งอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า, เจา ปินโต้, แฟร์นันโด เคาโต้, แซร์โจ้ คอนไซเซา, เปาโล ซูซ่า, วิเตอร์ บาย่า ฯลฯ ในทีม) โปรตุเกส ก็พลิกกระดานได้สำเร็จ เข้ารอบสุดท้ายบอลโลกหนนี้เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน

 

• อย่างไรก็ตาม โปรตุเกส ไม่เคยไปถึงแชมป์โลกมาก่อน ผลงานดีสุดยังคงเป็นในฟุตบอลโลก 1966 ที่แดนผู้ดี ซึ่งตำนานอย่าง ยูเซบิโอ พาทีมฝอยทองผยองเดชยึดอันดับ 3

 

• จากนั้นรองลงมาคือเป็นอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2006 อันเป็นการเล่นบอลโลกสมัยแรกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

• จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หากไม่เกิดดวงแตกบาดเจ็บในเดือนสุดท้ายก่อน “กาตาร์ 2022” มาถึง โรนัลโด้ ก็จะได้เล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 5 อันเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลเทียบเท่า อันโตนิโอ การ์บาฮัล (เม็กซิโก), โลธ่าร์ มัทเธอุส (เยอรมนี), ราฟาเอล มาร์เกซ (เม็กซิโก) และรวมถึง ลิโอเนล เมสซี่ คนดีคนเดิมของอาร์เจนติน่า

 

• สมัยที่ 5 และก็น่าจะเป็นสมัยสุดท้ายของ โรนัลโด้ ในวัย 37

 

ทีมชาติโปรตุเกส โผรายชื่อนักเตะ ลุยฟุตบอลโลก 2022• ซึ่งก็แน่นอนว่า แฟร์นันโด ซานโตส ยังคงมี โรนัลโด้ เป็นคีย์แมนแดนหน้าอยู่ในชุดนี้ แม้ผลงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะค่อนข้างดร็อปในซีซั่นนี้ (ลง 12 ยิง 2) ก็ตาม

 

• โรนัลโด้ จะไม่ถูกคัดทิ้งแน่ เช่นเดียวกับตัวประสบการณ์สูงอย่าง อันเดร ซิลวา, กอนซาโล่ เกเดส หรือ ชูเอา เฟลิกซ์ ไปจนถึง ราฟาเอล เลเอา ที่สร้างชื่อกับ เอซี มิลาน ได้อย่างน่าจับตาตลอดปีหลังๆ แม้จะเพิ่งได้โอกาสรับใช้ทีมชาติไปเพียง 11 เกมก็ตาม

 

• แต่นอกจากกลุ่มข้างต้น บรรดารายชื่อกองหน้าที่เรียกมาในชุดเบื้องต้น รวมถึง 14 ราย อาจมีมากถึงครึ่งที่ถูกคัดทิ้ง โดยเฉพาะพวกดาวรุ่งไม่เคยติดธงมาก่อนเลยอย่าง เบโต้ (24), โชต้า (23), กอนซาโล่ รามอส (21) หรือ วิตินญ่า (22)

 

ทีมชาติโปรตุเกส โผรายชื่อนักเตะ ลุยฟุตบอลโลก 2022• ในราย โชต้า นับเป็นข่าวฮือฮาเล็กๆ ในสื่ออังกฤษ เมื่อ “Jota Out / Jota In” ดีโอโก้ โชต้า กองหน้าลิเวอร์พูล (เล่นทีมชาติ 29 นัด 10 ประตู) เจ็บหนักพักยาว อดไปช่วย โปรตุเกส เตะบอลโลกหนนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมี ชูเอา เปโดร เนเวส ฟิลิเป้ “โชต้า” ปีกเด็กจาก กลาสโกว์ เซลติก ติดอยู่ในชุดเบื้องต้น ภายหลังยิง 18 ประตูให้ทีมม้าลายเขียวขาว ในระยะหนึ่งซีซั่นครึ่ง

 

• ที่จะถูกคัดทิ้งอีกเพียบเป็นสิบคนคือกลุ่มกองหลัง ที่ แฟร์นันโด ซานโตส เรียกไปอยู่ในชุดเบื้องต้นถึง 21 ราย โดยมี 9 คนในนั้นไม่เคยผ่านประสบการณ์ทีมชาติมาก่อนเลย แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าที่สุดแล้ว ตัวเก๋าๆ ก็ได้ไปกันหมด นำมาโดย เปเป้ ป.ประมุข ที่ปาเข้าไป 39 แล้วยังเตะปากกองหน้าคู่แข่งได้อยู่ เช่นเดียวกับ โชเซ่ ฟอนเต้ ในวัย 38 ที่ก็ยังมีที่ทางในทีมชาติ นอกนั้นตัวดังๆ อย่าง รูเบน ดิอาส, ชูเอา กันเซโล่, ดีโอโก้ ดาโล่ต์, ดานิโล่ เปเรยร่า, มาริโอ รุย ก็จะไม่พลาดแน่

 

ทีมชาติโปรตุเกส โผรายชื่อนักเตะ ลุยฟุตบอลโลก 2022• เด็กสุดในชุดเบื้องต้นนี้ เป็น อันโตนิโอ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กวัยเพียง 18 จากเบนฟิก้า ที่เพิ่งขึ้นชุดใหญ่ในซีซั่นนี้ แต่มีค่าฉีกสัญญาสูงถึง 100 ล้านยูโร และถูกคาดหมายว่าจะเป็นแกนหลักของ โปรตุเกส ในระยะยาว

 

• สำหรับกลุ่มกองกลางโปรตุเกส ก็เป็นชุดเดิมๆ อย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ชูเอา มูตินโญ่, รูเบน เนเวส, เรนาโต้ ซานเชส ที่จะได้ไปชัวร์ แต่หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ มาเตอุส นูเนส ดาวเตะรูปหล่อขวัญใจคนไทย เจ้าของค่าตัวสถิติสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 38 ล้านปอนด์ ยังไม่มีการันตีว่าจะได้ไปฟุตบอลโลกแน่ๆ ภายหลังเพิ่งติดธงไปแค่ 9 นัด และฟอร์มกับทัพหมาป่าหลังย้ายมา ก็ยังไม่น่าประทับใจนัก

 

• ส่วนทาง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ เจ้าหนูวัย 20 จากลิเวอร์พูล แม้จะไม่เคยติดธงมาก่อน แต่คาดว่ามีโอกาสได้ไปสูง หลังลงเล่นสม่ำเสมอกับหงส์แดงในตลอดช่วงที่ผ่านมา

 

• ย้ำอีกทีว่าจากชุดเบื้องต้น 55 คน แฟร์นันโด ซานโตส จะตัดเหลือชุดสุดท้ายไม่เกิน 26 คน ภายใน 10 พ.ย.

 

• ทั้งนี้ โปรตุเกส อยู่ในกลุ่มเอช ร่วมกับของแข็งจากต่างทวีปทั้งสิ้น โดยมีคิวเตะดังนี้
24/11 โปรตุเกส – กาน่า
28/11 โปรตุเกส – อุรุกวัย
02/12 เกาหลีใต้ – โปรตุเกส

 

• ด้วยความที่อยู่ในกลุ่มแข็งพอตัว และไม่เคยเป็นแชมป์โลกมาก่อน ทำให้ โปรตุเกส ไม่ถูกมองว่ามีภาษีดีนักในการผงาดแชมป์สมัยแรกที่กาตาร์ เวลานี้เป็นตัวเต็งลำดับที่ 8-9 เท่านั้น ในราคาประมาณ 15/1 หรือ 16/1

 

• ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์มการเล่นช่วงเดือนหลังๆ ที่วูบลงไป มีหลุดแพ้ทั้ง สวิตเซอร์แลนด์ 0-1 และแพ้ สเปน สกอร์เดียวกันใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก็ทำให้เป็นงานหนักอึ้งของ โรนัลโด้ และชาวคณะฝอยทอง ไม่น้อยเลย สำหรับความหวังสูงสุดในการผงาดบัลลังก์แชมป์โลกสมัยแรก ภายหลังครองแชมป์ทวีปยุโรป ยูโร 2016 สำเร็จมาแล้วในยุคสมัยของ CR7.

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Oddschecker

ภาพประกอบ
AP
Nike
Glasgow Live
FootballTransfers

มิโตรวิชกับฟุตบอลโลก 2022 : "สิ่งที่ดีที่สุดของ เซอร์เบีย ยังมาไม่ถึง"

มิโตรวิชกับฟุตบอลโลก 2022 : “สิ่งที่ดีที่สุดของ เซอร์เบีย ยังมาไม่ถึง”

อเล็กซานดาร์ มิโตรวิชช่วยให้ทีมชาติบ้านเกิดเซอร์เบียผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

อยู่ในฐานะทีมนอกสายตาม้ามืดของฟุตบอลโลก 2022 แต่ เซอร์เบีย จะมีทัวร์นาเมนต์ที่ดีจริงๆ หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช เป็นสำคัญ …แต่งานนี้ เจ้าตัวก็มั่นใจว่า “เดี๋ยวเจอแน่!”

 

โด่งดังอย่างเงียบๆ ในฐานะตัวความหวังสูงสุดของ ฟูแล่ม ชนิดยิงถึง 43 ประตูในฤดูกาลก่อน และสานต่อความยอดเยี่ยมด้วยการตะบันในพรีเมียร์ลีกไปแล้วอีกไม่น้อยในซีซั่นนี้

 

สำคัญกว่าฟอร์มระดับสโมสร ก็คือการเป็นดาวยิง “เบอร์ 1” ของชนชาติเซอร์เบีย — อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

 

ในวัย 28 เจ้าเวหาอย่าง มิโตรวิช กระหน่ำไปแล้ว 50 ประตูในนามทีมชาติ นับเป็นเจ้าของสถิติลั่นไกสูงสุดตลอดกาลของ เซอร์เบีย เหนือกว่าทุกตำนานไม่ว่าจะ สเตปัน โบเบ็ค (38 ประตู), ซาโว มิโลเซวิช (37) หรือ เปแดร๊ก มิยาโตวิช (27)

 

ซึ่งก็พร้อมๆ กับความพีคในชุดเจ้าสัวน้อย มิโตรวิช ยังยิงให้ เซอร์เบีย ไปถึง 8 กับ 6 ลูกใน 2 ปีปฏิทินหลังสุด ช่วยให้ทีมชาติบ้านเกิดครองแชมป์กลุ่มรอบคัดเลือก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 เช่นเดียวกับแชมป์กลุ่มของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

 

สิ่งที่น่าจับตาต่อก็คือ ฟุตบอลโลก 2022 โดยที่ มิโตรวิช มั่นใจว่า สิ่งที่ดีที่สุดของ เซอร์เบีย กำลังรอให้มาถึงอยู่…ที่กาตาร์!

 

 

มิโตรวิชกับฟุตบอลโลก 2022 : "สิ่งที่ดีที่สุดของ เซอร์เบีย ยังมาไม่ถึง"

หลังจากช่วงโควิด-19 ที่ทำให้เกมทีมชาติหายไปนาน มันเป็นความรู้สึกอย่างไรในการกลับไปยังประเทศบ้านเกิด เพื่อลงซ้อมและลงสนามเล่นให้เซอร์เบีย?
อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช : เป็นเรื่องจริงที่เกมทีมชาติถูกเว้นวรรคเป็นเวลานาน แต่เมื่อคุณเป็นตัวแทนของประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเวลา สถานที่ หรือความรู้สึกของคุณ ก็ล้วนแต่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือการได้เล่นให้ทีมชาติ ทุกเกมสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นแมตช์กระชับมิตรหรือเกมเป็นทางการ

 

การเล่นให้เซอร์เบีย มีความหมายต่อคุณอย่างไร?
เป็นเกียรติอย่างยิ่งในอาชีพการงานของผม การสวมเสื้อทีมชาติและเป็นตัวแทนประเทศของผมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ถือเป็นเรื่องประเมินค่าไม่ได้ ไม่ใช่แค่ในฟุตบอล แต่ในทุกกีฬา เป็นความพึงพอใจสูงสุดของทุกคนเสมอ สิ่งที่ผมเข้าใจเสมอมาคือ การได้เป็นตัวแทนของประชาชนและได้เล่นเพื่อประเทศของผม ถือเป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

หลังจากได้เล่นและยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไปแล้ว การได้กลับไปเล่นอีกครั้งมีความหมายกับคุณมากแค่ไหน?
มันมีความหมายมาก เพราะในฐานะผู้เล่น คุณย่อมต้องการมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและแข่งขันกับคู่ต่อสู้ที่เก่งที่สุดเสมอ ต้องขอบคุณที่ผมได้มีโอกาสเล่นและทำประตูในฟุตบอลโลก เพื่อรับประสบการณ์ที่มากขึ้น ผมคิดว่านักเตะทีมของเราส่วนใหญ่ผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว นั่นทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่ดี ดังนั้นเราจะเตรียมพร้อมและหวังว่าผลลัพธ์จะดีขึ้น

 

คราวที่แล้วเราโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (ฟุตบอลโลก 2018, ชนะ คอสตาริกา 1-0 เกมแรก จากนั้นแพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 1-2 และ บราซิล 0-2 จนตกรอบแรก) บางสิ่งไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง อาจเป็นเพราะเราขาดประสบการณ์ แต่คราวนี้เราพร้อมแล้ว ทั้งนักเตะ ทีมชาติ และคนทั้งประเทศ ทุกคนต่างตื่นเต้นกับฟุตบอลโลกหนนี้

 

จากฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ คุณรู้สึกว่าคุณได้เปลี่ยนไปในฐานะผู้เล่นหรือในฐานะบุคคลหรือไม่อย่างไร?
ใช่ ผมคิดว่าผมเปลี่ยนไปมาก ผมเติบโตขึ้นในทุกแง่ และเมื่อคุณโตขึ้น วิธีคิดของคุณจะเปลี่ยนไปด้วย ในฐานะผู้เล่น ผมแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ผมใจเย็นขึ้นและเรียนรู้ที่จะเล่นโดยใช้สมองมากขึ้น การแข่องขันแต่ละแมตช์ล้วนให้ประสบการณ์กับคุณ ดังนั้นผมคิดว่าผมเป็นผู้เล่นที่แตกต่างและดีกว่าเมื่อสี่ปีก่อนอย่างแน่นอน

 

ด้วยสถิติการทำประตูที่ยอดเยี่ยม คุณมั่นใจแค่ไหนในการไปกาตาร์ในฐานะตัวความหวังของเซอร์เบีย?
ผมรู้สึกมั่นใจมาก มันเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่นทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกองหน้า เมื่อคุณอยู่ในสนามและทำประตูได้ คุณก็อยากจะลงเล่นให้ต่อเนื่องที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรารู้ว่าฟุตบอลโลกรออยู่ข้างหน้า และยังมีอีกหลายแมตช์ให้เล่นก่อน แต่ผม เพื่อนร่วมทีม และคนทั้งประเทศต่างหฌตั้งตารอการแข่งขัน

 

เราแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้น เรามีกลุ่มที่แข็งแกร่งพร้อมทีมที่แข็งแกร่งและผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม แต่นั่นก็คือเหตุผลที่เราเล่นเกมนี้ เราต้องการที่จะอยู่ที่นั่นและแข่งขันกับสิ่งที่ดีที่สุด – เราแทบรอกันไม่ไหวแล้ว ผมมั่นใจมาก ซึ่งผมก็คิดว่าทั้งทีมและคนทั้งประเทศรู้สึกเหมือนกัน

 

คุณเป็นฮีโร่สำหรับประเทศของคุณ และชาวเซอร์เบียก็คาดหวังให้คุณทำประตูอยู่เสมอ มันรู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นไอคอนของทีมแบบนี้?
มันเป็นงานของผม เมื่อผมเล่นให้กับทีมชาติ เล่นให้ฟูแล่ม หรือที่อื่นๆ ผู้คนต่างก็คาดหวังให้ผมทำประตู มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำ คุณอยู่ภายใต้แรงกดดันมากมายเมื่อคุณเป็นกองหน้า คุณไม่สามารถเล่นได้ดีเสมอไป แต่คุณต้องยิงประตูให้ได้ ความกดดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาจากการที่ต้องทำประตูให้ได้ทุกนัด เพียงแต่ตลอดอาชีพการงานของผม ผมก็เคยชินกับสิ่งเหล่านี้ดี

 

ผมชอบความกดดัน และสิ่งที่ผมสามารถทำได้กับมัน ผมชอบทำคะแนนและรู้สึกกดดันบนไหล่ของผม ผมรู้ว่าทุกคนคาดหวังอะไรจากผม ความรู้สึกที่ดีที่สุดคือเมื่อทุกคนมีความสุขเพราะสิ่งที่คุณทำ ผมชอบที่จะทำประตูและผมชอบที่ทุกคนคาดหวังให้ผมทำประตู เพราะนั่นแปลว่าผมเก่งในสิ่งนี้

 

ในความเห็นของคุณ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งนี้ของเซอร์เบีย คืออะไร?
มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมากมาย และช่วงเวลาที่ยากลำบาก ช่วงที่สำคัญ ทุกแมตช์มีความซับซ้อนในแบบของตัวเอง แม้แต่แมตช์กับทีมเล็กๆ เช่นกับ ลักเซมเบิร์ก หรือคู่ต่อสู้ที่คล้ายคลึงกัน แมตช์ประเภทนี้มีความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากคุณต้องการแรงจูงใจพิเศษ แมตช์ที่มีความต้องการน้อยกว่าคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่ทีมมักจะทำพลาด โดยไม่มีข้อแก้ตัว

 

เรามักพลาดในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ด้วยเหตุนี้ เกมกับ อาเซอร์ไบจาน และ ลักเซมเบิร์ก ล้วนมีความสำคัญต่อการคัดเลือกไปเล่นที่กาตาร์ แน่นอนว่าการเอาชนะ โปรตุเกส ก็สำคัญเช่นกัน แต่ในเกมอย่างการเจอ ไอร์แลนด์ เดิมพันมันสูงมาก และความกดดันก็สูงเช่นกัน แต่บางทีมันก็เล่นง่ายกว่าเกมกับทีมเล็ก นั่นก็คือทุกนัดมีความยากซ่อนอยู่ และทุกชัยชนะต่างก็มีความสำคัญ

 

การมีทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะประสบการณ์สูง และผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ มาแล้วนั้น มีความสำคัญเพียงใด?
ผมคิดว่ามันเป็นข้อได้เปรียบที่ยอดเยี่ยมเลย เพราะเราทุกคนผ่านการคัดเลือกช่วงแรกมาแล้ว เราเล่นด้วยกันมานาน นั่นคือสิ่งสำคัญ และเราได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ผู้เล่นของเราหลายคนโตมาด้วยกันจริงๆ เรารู้จักกันเป็นอย่างดี และสิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเพื่อนร่วมทีมของคุณ เรารู้ว่าเราคิดอย่างไร เราไม่ต้องใช้เวลามากในการเริ่มเล่นด้วยกันเป็นทีม และเป็นสิ่งสำคัญในทีมชาติสำหรับผู้เล่นที่จะรู้ว่าทุกคนเล่นและคิดอย่างไร

 

เรามั่นใจว่าสิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง เราอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของเรา เราทุกคนหวังว่าเราจะอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อที่จะได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่รออยู่ข้างหน้า เหมือนที่เราทำได้ในเกมกับโปรตุเกส โชคดีที่เรามีความทรงจำดีๆ มากมาย แต่เราก็มั่นใจว่าเราสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้จริงๆ

 

 

ไกด์เถื่อน เรียบเรียง

 

 

มิโตรวิชกับฟุตบอลโลก 2022 : "สิ่งที่ดีที่สุดของ เซอร์เบีย ยังมาไม่ถึง"

ถึงเวลา “พลิกชะตา” ของเซอร์เบีย?
ผ่านการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาหลายต่อหลายครั้ง จาก ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย จนมาเป็น เซอร์เบีย ในวันนี้ ซึ่งอันที่จริง พวกเขาเข้าร่วมฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ครั้งแรกสุด 1930 ทีเดียว เพียงแต่ก็ล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง ถึงขั้นว่าตกรอบคัดเลือกอยู่เรื่อยๆ

 

ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย / Kingdom of Yugoslavia
1930 อันดับ 4
1934 ตกรอบคัดเลือก
1938 ตกรอบคัดเลือก
สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย / SFR Yugoslavia
1950 รอบแรก
1954 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
1958 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
1962 อันดับ 4
1966 ตกรอบคัดเลือก
1970 ตกรอบคัดเลือก
1974 รอบสอง
1978 ตกรอบคัดเลือก
1982 รอบแรก
1986 ตกรอบคัดเลือก
1990 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย / FR Yugoslavia
1994 ติดโทษแบน
1998 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
2002 ตกรอบคัดเลือก
เซอร์เบีย-มอนเตเนโกร / Serbia and Montenegro
2006 รอบแรก
เซอร์เบีย / Republic of Serbia
2010 รอบแรก
2014 ตกรอบคัดเลือก
2018 รอบแรก

 

ในฐานะ เซอร์เบีย หรือ Republic of Serbia ที่เริ่มตั้งแต่ 2010 เป็นต้นมา พวกเขายังไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบแรกมาก่อน เมื่อแม้จะชนะได้ 1 เกมในรอบแรกแต่ละครั้ง แต่ก็ดันแพ้ซะ 2 เกมในแต่ละทัวร์นาเมนต์เช่นกัน

 

จนมายังฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ถือว่าทีมของ ดราแกน สตอยโควิช (ยูโกฯ 1983-2001, เคยคุม นาโงย่า แกรมปัส และ กว่างโจว อาร์&เอฟ) ที่มีขุนพลเอกอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช, ดูซาน วลาโฮวิช, ลูก้า โยวิช, ดูซาน ทาดิช, ฟิลิป คอสติช, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช มาดีอย่างน่าแปลกใจ ในรอบคัดเลือกพวกเขาไม่แพ้ใครเลย ชนะ 6 เสมอ 2 โกยเข้ากระเป๋า 20 แต้ม เป็นแชมป์กลุ่มเอเหนือ โปรตุเกส พร้อมกับเขี่ย ไอร์แลนด์ ร่วงคัดเลือกไปอีกสมัย

 

ประเด็นสำคัญคือการเปิดบ้านเสมอ โปรตุเกส 2-2 ภายหลังโดนนำ 2-0 ในครึ่งชั่วโมงแรก จากนั้นก็บุกไปสยบ โปรตุเกส ถึงลิสบอน ในเกมปิดกลุ่ม 2-1 อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (ดาวซัลโวสูงสุด 8 ประตู) สังหารประตูชัยในนาทีสุดท้าย

 

มาตรฐานที่ยอดเยี่ยมของทัพ “ดิ อีเกิ้ลส์” ยังยืนระยะต่อมาใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ที่ เซอร์เบีย ผงาดครองแชมป์กลุ่ม 4 ลีกบี เหนือ นอร์เวย์, สโลวีเนีย และ สวีเดน

 

ก็พร้อมๆ กันกับความตกต่ำเหลือเชื่อของ สวีเดน (จมบ๊วย ร่วงตกชั้นสู่ลีกซี) และความเก่งกาจที่ยังไม่มากพอของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ กับพรรคพวก เป็นทาง เซอร์เบีย นี่เองที่เข้าป้ายเถลิงแชมป์กลุ่ม และได้เลื่อนชั้นไปเล่นในลีกเอ ร่วมกับยักษ์ใหญ่ร่วมทวีปทั้งหลายแหล่

 

แน่นอน เมื่อ “ทรง” มาดีๆ แบบนี้ เซอร์เบีย จึงถูกมองว่ามีสิทธิ์สร้างผลงานดีๆ ได้ในเวิลด์คัพงวดนี้ — ต่างไปจากหนก่อนๆ

 

แต่แรกสุดก็คือ ต้องผ่านรอบแรกไปให้ได้เสียก่อน

 

สำหรับที่กาตาร์ พวกเขาได้อยู่กลุ่มจีร่วมกับแชมป์โลก 5 สมัย/ตัวเก็งเต็งแชมป์อย่าง บราซิล พร้อมด้วยเพื่อนร่วมทวีป สวิตเซอร์แลนด์ และทีมหัวแถวของแอฟริกาอย่าง แคเมอรูน

 

24 พ.ย. บราซิล v เซอร์เบีย
28 พ.ย. แคเมอรูน v เซอร์เบีย
2 ธ.ค. เซอร์เบีย v สวิตเซอร์แลนด์

 

แน่อยู่แล้วว่าในหน้ากระดาษ เซอร์เบีย เป็นรอง บราซิล พอตัว เพียงแต่ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่า เมื่อเจอกันจริงๆ ในสนามแล้ว จะห่างกันอย่างที่ใครคาดไว้หรือเปล่า — เพียงแต่ก็อย่าลืมว่า ลูกกลางอากาศของ มิโตรวิช เล่นงานได้ทุกทีมในโลก ไม่เว้นแต่ บราซิล ที่จะมี ติอาโก้ ซิลวา กับ มาร์กินญอส คอยตั้งรับ

 

แล้วหากแม้ว่าจะพ่าย บราซิล ในเกมแรก เซอร์เบีย ก็ยังจะมีโอกาสแก้มือในสองเกมถัดไปกับ แคเมอรูน และ สวิตเซอร์แลนด์ (อริเก่ามีความหลังกันมาจากบอลโลกหนก่อน เซอร์ดาน ชากิรี่ ลั่นไกสยบ เซอร์เบีย 2-1 นาทีสุดท้าย) อยู่

 

ดังนั้นนั่นหมายถึงว่า เซอร์เบีย มีโอกาสไปต่อรอบน็อกเอาต์อยู่ไม่น้อย เมื่อมองจากตรงนี้

 

อดใจรอไม่กี่วัน ก็ได้เห็นกันแล้วว่า เซอร์เบีย จะเป็นม้ามืดตัวจริงของรายการ หรือทำตัวน่าผิดหวังเข้าอีหรอบเดิม…

 

 

อ้างอิง
FIFA
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Norway Posts English
Sportstar
MARCA

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

6 ชาติเผยรายชื่อ “ชุดเบื้องต้น” ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นตรียมตัดตัวชุดสุดท้ายลุยฟุตบอลโลก 2022

หนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนนกหวีดแรกแห่งฟุตบอลโลก 2022 จะดังขึ้น นั่นหมายถึงการเตรียมความพร้อมทุกอย่างกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายเต็มทีแล้ว นั่นรวมถึงการประกาศรายชื่อนักเตะเบื้องต้น เพื่อเตรียมตัดตัวชุดสุดท้ายลุยกาตาร์ด้วย

 

โดยไม่ต้องปล่อยให้ใครเผลอ วันเวลาก็พาเรามาใกล้กับ ฟุตบอลโลก 2022 เต็มแก่ ชนิดที่เหลืออีกเพียง 4 สุดสัปดาห์เท่านั้น เป็นอันจบ — จบเวลาของบอลลีก และเริ่มต้น เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ อย่างเป็นทางการ

 

แน่นอน ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ ยิ่งต้องจับตากันมากขึ้นกับทุกแมตช์ของบอลลีก (และถ้วยยุโรป) ที่ผ่านไป จะมีใครที่ “ดวงแตก” บาดเจ็บขึ้นมาจนอดไปฟุตบอลโลกบ้าง

 

และถึงตรงนี้–หนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก–ก็เริ่มมีบางชาติสมาชิกรอบสุดท้าย ที่เปิดเผยรายชื่อนักเตะลุยกาตาร์ “ชุดเบื้องต้น” (provisional squad) ออกมาแล้ว

 

สำหรับชุดเบื้องต้น เป็นเรื่องของแต่ละชาติ แต่ละสมาคม ที่จะกำหนดตัวเลขออกมาเอง อยาก 30, 40 หรือ 50 ก็ได้หมด (สูงสุด 55)

 

แต่จากนั้น ทุกชาติจะต้องทำการตัดตัว และส่งรายชื่อชุดสุดท้าย (final squad) 23-26 นักเตะให้กับ ฟีฟ่า ภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน

 

ส่วนเมื่อส่งรายชื่อชุดสุดท้ายแล้ว จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีมีตัวเจ็บเพิ่มหรือติดโควิด-19 ก็ต้องทำก่อนลงสนามนัดแรก (ของตัวเอง) 24 ชั่วโมง เท่านั้น.

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

 

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ : กลุ่มเอ
กุนซือ : หลุยส์ ฟาน กัล (เนเธอร์แลนด์)
ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์นักกับรายชื่อแข้ง 39 รายเบื้องต้นของทัพกังหันลม เนเธอร์แลนด์ ที่จารย์ปู่ หลุยส์ ฟาน กัล ประกาศออกมา โดยบรรดาแกนหลักที่ใช้ตลอดหลายเดือนหลัง ล้วนแต่มาครบ

 

อัศวินสีส้ม นำมาโดยกัปตัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เช่นเดียวกับ มัทไธส์ เดอ ลิกท์, เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, ดอนเยลล์ มาเลน, โคดี้ กัคโป หรือ วินเซนต์ ยานส์เซ่น ที่กลับมาอยู่ในสารบบอีกครั้ง

 

ตัวที่ติดไม่ถือว่าน่าเซอร์ไพรส์ แต่ตัวที่หลุดโผ อดไปบอลโลกนี่สิ เอามาเขียนเป็นหนึ่งคอลัมน์ได้ง่ายๆ เลยไม่ว่าจะ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่บาดเจ็บ, ฮันส์ ฮาเตบัวร์ ของอตาลันต้า, ริค คาร์สดอร์ป ของโรม่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จอมอาภัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวีเท่านั้น

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (33) เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น (เล่นทีมชาติ 63 นัด)
ยุสติน ไบจ์โลว์ (24) เฟเยนูร์ด (6)
มาร์ค เฟล็คเค่น (29) ไฟรบวร์ก (4)
เรมโก้ พาสเฟียร์ (38) อาแจ็กซ์ (2)
อันเดรียส น็อพเพิร์ต (28) ฮีเรนวีน (0)

 

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ (32) อาแจ็กซ์ (เล่นทีมชาติ 94 นัด 2 ประตู)
สเตฟาน เดอ ฟราย (30) อินเตอร์ มิลาน (59 / 3)
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (31) ลิเวอร์พูล (49 / 6)
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (23) บาเยิร์น มิวนิค (38 / 2)
เดนเซล ดุมฟรีส์ (26) อินเตอร์ มิลาน (37 / 5)
นาธาน อาเก้ (27) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (29 / 3)
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (21) อาแจ็กซ์ (10 / 0)
ไทเรลล์ มาลาเซีย (23) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (6 / 0)
เดวีน เรนช์ (19) อาแจ็กซ์ (1 / 0)
มิตเชล บาคเกอร์ (22) เลเวอร์คูเซ่น (0 / 0)
สเวน บ็อตมัน (22) นิวคาสเซิ่ล (0 / 0)
เยเรมี่ ฟริมปง (21), เลเวอร์คูเซ่น (0 / 0)
ปาสกาล สไตรค์ (23) ลีดส์ (0 / 0)
มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน (21) โวล์ฟสบวร์ก (0 / 0)

 

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง (25) บาร์เซโลน่า (45 / 1)
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ (30) อาแจ็กซ์ (39 / 2)
ดาวี่ คลาสเซ่น (29) อาแจ็กซ์ (35 / 9)
มาร์เท่น เดอ รอน (31) อตาลันต้า (30 / 0)
ยอร์ดี้ คลาซี่ (31) อาแซด อัล์คมาร์ (17 / 0)
ไรอัน กราเฟนเบิร์ก (20) บาเยิร์น มิวนิค (11 / 1)
เทน คูปไมเนอร์ส (24) อตาลันต้า (10 / 1)
กุส ทิล (24) พีเอสวี (5 / 1)
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ (20) อาแจ็กซ์ (2 / 0)
ชาบี ซิมอนส์ (19) พีเอสวี (0 / 0)

 

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย (28) บาร์เซโลน่า (81 / 42)
ลุค เดอ ยอง (32) พีเอสวี (38 / 8)
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (25) อาแจ็กซ์ (24 / 7)
วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) รอยัล อันท์เวิร์ป (20 / 7)
ดอนเยลล์ มาเลน (23) ดอร์ทมุนด์ (19 / 4)
วู้ท เวกอร์สท์ (30) เบซิคตัส (15 / 3)
โคดี้ กัคโป (23) พีเอสวี (9 / 3)
อาร์โนต์ ดันยูม่า (25) บียาร์เรอัล (6 / 2)
โนอา ลัง (23) คลับ บรูช (5 / 1)
ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (20) อาแจ็กซ์ (0 / 0)

 

หลุดโผ
ทิม ครูล (นอริช), โยเอล เฟลท์มัน (ไบรท์ตัน), พาทริค ฟาน อานโฮลท์ (กาลาตาซาราย), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮันส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), โอเว่น วินจ์ดัล (อาแจ็กซ์), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ควินซี่ โพรเมส (สปาร์ตัก มอสโก), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์ : กลุ่มเอ
กุนซือ : เฟลิกซ์ ซานเชซ (สเปน)
ชาติเจ้าภาพในการนำทัพของกุนซือสแปนิช เฟลิกซ์ ซานเชซ มีกลุ่มนักเตะที่ชัดเจนเป็นแกนมาตลอดนานนับปี และชุดเบื้องต้น 30 คนที่เผยไว้แล้ว ก็เป็นหน้าเดิมๆ แทบทั้งสิ้น โดยพวกเขาจะไปเข้าแคมป์เก็บตัวกันที่ประเทศสเปนและออสเตรีย ก่อนตัดชื่อสี่ซ้าห้าคนออกไป ก่อนยื่นให้ฟีฟ่า

 

รายชื่อนักเตะกาตาร์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ชาอัด อัล ชีเอ็บ (32) อัล-ซาดด์ (75)
เมชาล บาร์ชัม (24) อัล-ซาดด์ (13)
ยูเซฟ ฮัสซัน (26) อัล-การาฟา (7)
ซาลาห์ ซากาเรีย (23) อัล-ดูฮาอิล (1)

 

กองหลัง
อับเดลการิม ฮัสซัน (29) อัล-ซาดด์ (125 /15)
บูอาเล็ม คูคี่ (32) อัล-ซาดด์ (100 / 20)
เปโดร มิเกล กอร์เรอา “โร-โร” (32) อัล-ซาดด์ (79 / 1)
ทาเร็ค ซัลมาน (24) อัล-ซาดด์ (58 / 0)
บัสซัม อัล-ราวี (24) อัล-ดูฮาอิล (53 / 2)
มูซับ เคเดอร์ (29) อัล-ซาดด์ (29 / 0)
โฮมัม อาห์เหม็ด (23) อัล-การาฟา (27 / 2)
โมฮัมหมัด อีหมัด (21) อัล-วาครา (0 / 0)
ยัสเซ็ม กาเบอร์ (20) อัล-อาราบี (0 / 0)

 

กองกลาง
คาริม บูเดียฟ (32) อัล-ดูฮาอิล (111 / 5)
อับดุลลาซิช ฮาเต็ม (31) อัล-รายยาน (98 / 11)
อาลี อัสซาดัลลา (29) อัล-ซาดด์ (58 / 12)
โมฮัมเหม็ด วาอัด (23) อัล-ซาดด์ (20 / 0)
อับเดลราห์มัน มุสตาฟา (25) อัล-ดูฮาอิล (4 / 0)
โอซาม่า อัล-ไทรี (20) อัล-รายยาน (0 / 0)
อาห์เหม็ด ฟาเดล (29) อัล-วาครา (0 / 0)
มอสตาฟา ทาเร็ค (21) อัล-ซาดด์ (0 / 0)

 

กองหน้า
ฮัสซัน อัล-ไฮดอส (31) อัล-ซาดด์ (165 / 34)
อัคราม อาฟิฟ (25) อัล-ซาดด์ (86 / 26)
อัลโมเอซ อาลี (26) อัล-ดูฮาอิล (76 / 39)
อิสมาอีล โมฮัมหมัด (32) อัล-ดูฮาอิล (68 / 4)
โมฮัมเหม็ด มุนตารี่ (28) อัล-ดูฮาอิล (47 / 13)
อาห์เหม็ด อลาเอลดิน (29) อัล-การาฟา (46 / 1)
ยูซุฟ อับดูริซัก (23) อัล-ซาดด์ (7 / 1)
คาลิด มูเนียร์ (23) อัล-วาครา (2 / 0)
นาอิฟ อัล-ฮาดรามี่ (21) อัล-รายยาน (2 / 0)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า : กลุ่มซี
กุนซือ : ลิโอเนล สคาโลนี่ (อาร์เจนติน่า)
ประกาศโครมมาตับใหญ่ 40 ราย นั่นจึงหมายถึงว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ มีงานที่ต้องทำเยอะทีเดียวสำหรับการคัดเข้าคัดออก ให้เหลือไม่เกิน 26 คนในชุดสุดท้ายสำหรับลุยฟุตบอลโลก 2022

 

ฟ้าขาว นำมาโดย ลิโอเนล เมสซี่ แน่นอนอยู่แล้ว และซูเปอร์สตาร์รายอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายติดธงตลอดช่วงหลังก็ไม่หายไปไหน อันรวมถึง เปาโล ดีบาล่า ที่ล่าสุดล้มเจ็บไปกับ โรม่า ก็ยังได้โอกาสจาก สคาโลนี่ อยู่–ด้วยมองแง่ดีว่าจะฟิตทันรอบสุดท้าย

 

สำหรับตัวหลุดโผ อาจมีชื่อดังพอตัวอย่าง มานูเอล ลันซินี่ ของเวสต์แฮม หรือ โรแบร์โต้ เปเรยร่า ของอูดิเนเซ่ จนถึง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ถือว่าน่าแปลกใจนัก เมื่อตัวเลือกดีๆ ในชั่วโมงนี้ของอาร์เจนติน่า มีเยอะแบบไหล่ชนไหล่ทีเดียว

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (30) แอสตัน วิลล่า (18)
ฟรังโก้ อาร์มานี่ (36) ริเวอร์เพลท (18)
อกุสติน มาร์เคซิน (34) เซลต้า บีโก้ (8)
เคโรนิโม่ รุลลี่ (30) บียาร์เรอัล (4)
ฮวน มุสโซ่ (28) อตาลันต้า (2)

 

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ (34) เบนฟิก้า (92 / 4)
มาร์กอส อคุนย่า (30) เซบีย่า (42 / 0)
นิโกลัส ตายาฟิโก้ (30) โอลิมปิก ลียง (42 / 0)
เคร์มัน เปซเซลล่า (31) เรอัล เบติส (31 / 2)
นาอูเอล โมลิน่า (24) แอตเลติโก มาดริด (19 / 0)
กอนซาโล่ มอนเทียล (25) เซบีย่า (17 / 0)
ฮวน ฟอยธ์ (24) บียาร์เรอัล (15 / 0)
คริสเตียน โรเมโร่ (24) สเปอร์ส (12 / 1)
ลูคัส มาร์ติเนซ กวาร์ต้า (26) ฟิออเรนติน่า (11 / 0)
ลิซานโดร มาร์ติเนซ (24) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (9 / 0)
ฟาคุนโด้ เมดิน่า (23) ล็องส์ (2 / 0)
มาร์กอส เซเนซี่ (25) บอร์นมัธ (1 / 0)
นาอูเอน เปเรซ (22) อูดิเนเซ่ (1 / 0)

 

กองกลาง
อังเคล ดิ มาเรีย (34) ยูเวนตุส (123 / 25)
เลอันโดร ปาเรเดส (28) ยูเวนตุส (45 / 4)
โรดริโก้ เด ปอล (28) แอตเลติโก มาดริด (43 / 2)
โจวานี่ โล เซลโซ่ (26) บียาร์เรอัล (41 / 2)
กีโด้ โรดริเกซ (28) เรอัล เบติส (25 / 1)
นิโกลัส กอนซาเลซ (24) ฟิออเรนติน่า (21 / 3)
เอเซเกล ปาลาซิออส (24) เลเวอร์คูเซ่น (20 / 0)
อเลฮานโดร โกเมซ (34) เซบีย่า (15 / 3)
นิโกลัส โดมิงเกซ (24) โบโลญญ่า (11 / 1)
ลูคัส โอคัมโปส (28) อาแจ็กซ์ (10 / 2)
อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ (23) ไบรท์ตัน (7 / 0)
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (21) เบนฟิก้า (2 / 0)
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (25) แอสตัน วิลล่า (1 / 0)
ติอาโก้ อัลมาด้า (21) แอตแลนต้า ยูไนเต็ด (1 / 0)

 

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (35) เปแอสเช (164 / 90)
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (25) อินเตอร์ มิลาน (40 / 21)
เปาโล ดีบาล่า (28) โรม่า (34 / 3)
อังเคล กอร์เรอา (27) แอตเลติโก มาดริด (22 / 3)
ฮัวกิน กอร์เรอา (28) อินเตอร์ มิลาน (18 / 3)
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (22) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (11 / 2)
ลูคัส อลาริโอ (30) แฟร้งค์เฟิร์ต (9 / 3)
โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (27) นาโปลี (5 / 1)

 

หลุดโผ
เอสเตบัน อันดราดร้า (มอนเตอร์เรย์), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), คริสเตียน เมดิน่า (โบคา จูเนียร์ส), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), ลูคัส โบเย่ (เอลเช่)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ : กลุ่มซี
กุนซือ : เชสลาฟ มิชนีวิซ (โปแลนด์)
ไม่พลาดอยู่แล้วสำหรับตัวความหวังอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงบาร์เซโลน่า หรือตัวความหวังเบอร์รองอย่าง อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (ยูเวนตุส) และ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค (ซาแลร์นิตาน่า) ที่จะมีชื่อติดทีมทั้งในชุดเบื้องต้น 47 คน และชุดสุดท้ายไปบอลโลก

 

และที่จริงแล้ว ชุดสุดท้ายของ โปแลนด์ ก็คาดเดาไม่ยากนัก ว่าบรรดานักเตะที่ติดธงมาแค่สี่ซ้าห้านัด (อยู่ในทีมชุดเบื้องต้นนับสิบราย) จะถูกคัดออก การเรียกตัวพวกนี้มาติดทีมชุดเบื้องต้น ก็เผื่อว่าจะได้มาเรียนงานก่อนเรียกใช้มากขึ้นไปในอนาคต

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
วอยเชียค เชสนี่ (32) ยูเวนตุส (66)
ลูคัส สโครุปสกี้ (31) โบโลญญ่า (7)
บาร์ทโลเมียจ ดราคอฟสกี้ (25) สเปเซีย (2)
คามิล กราบาร่า (23) โคเปนเฮเก้น (1)
ราโดสลาฟ มาเย็คกี้ (22) แซร์เคิล บรูช (1)

 

กองหลัง
คามิล กลิค (34) เบเนเวนโต้ (98 / 6)
บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้ (30) ซามพ์โดเรีย (45 / 0)
ยาน เบ๊ดนาเร็ค (26) แอสตัน วิลล่า (44 / 1)
อาร์ตูร์ เยเดอซีร์เซียค (34) ลีเกีย วอร์ซอว์ (40 / 3)
โทมัสซ์ เคดซิโอร่า (28) ดินาโม เคียฟ (26 / 1)
อาร์คาดิอุสซ์ เรก้า (27) สเปเซีย (15 / 0)
ทิโมเตอุส ปูชาซ (23) อูนิโอน เบอร์ลิน (12 / 0)
พาเวล ดาวิโดวิซ (27) เวโรน่า (8 / 0)
แม็ตตี้ แคช (25) แอสตัน วิลล่า (7 / 1)
มิชาล เฮลิค (27) ฮัดเดอร์สฟิลด์ (7 / 0)
นิโกล่า ซาเลฟสกี้ (20) โรม่า (7 / 0)
โรเบิร์ต กุมมี่ (24) เอาก์สบวร์ก (4 / 0)
ยาคุบ คีวิออร์ (22) สเปเซีย (4 / 0 )
มิชาล คาร์บอฟนิค (21) ดุสเซลดอร์ฟ (3 / 0)
พาเวล บอชนีวิซ (26) ฮีเรนวีน (2 / 0)
มาเตอุสซ์ วีเตสก้า (25) แกลร์กมงต์ ฟุต (1 / 0)
พาทริค คุน (27) ราคอฟ (0 / 0)
มาอิค นาฟร็อคกี้ (21) ลีเกีย วอร์ซอว์ (0 / 0)

 

กองกลาง
เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (32) อัล-ชาบับ (93 / 5)
คามิล โกรซิคกี้ (34) โปกอน (86 / 17)
ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ (28) นาโปลี (74 / 9)
คาโรล ลิเน็ตตี้ (27) โตริโน่ (42 / 5)
มาเตอุสซ์ คลิช (32) ลีดส์ (41 / 2)
เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ (27) ล็องส์ (25 / 1)
คามิล ยอซเวียค (24) ชาร์ล็อตต์ (22 / 3)
ยาเซ็ค โกรัลสกี้ (30) โบคุ่ม (21 / 1)
เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (23) เฟเยนูร์ด (17 / 1)
ดาเมียน ซีมานสกี้ (27) เออีเค เอเธนส์ (8 / 1)
คาสเปอร์ คอซลอฟสกี้ (19) วิเทสส์ (6 / 0)
ซีมอน ซูร์คอฟสกี้ (25) ฟิออเรนติน่า (6 / 0)
คริสเตียน บีลิค (24) เบอร์มิงแฮม (5 / 0)
ยาคุบ คามินสกี้ (20) โวล์ฟสบวร์ก (3 / 1)
มาเตอุสซ์ เลคอฟสกี้ (19) โปกอน (1 / 0)
มิชาล สโคราส (22) เลซ พอซนาน (1 / 0)
พาทริค ซีเซ็ค (24) เพียสท์ กลีวิซ (0 / 0)
ยาคุบ ปิโอตรอฟสกี้ (25) ลูโดโกเร็ตส์ (0 / 0)

 

กองหน้า
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (34) บาร์เซโลน่า (134 / 76)
อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (28) ยูเวนตุส (63 / 16)
คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค (27) ซาแลร์นิตาน่า (24 / 10)
คาโรล ซวิเดอร์สกี้ (25) ชาร์ล็อตต์ (17 / 8)
อดัม บุคซ่า (26) ล็องส์ (9 / 5)
ดาวิด คอฟนัคกี้ (25) ดุสเซลดอร์ฟ (7 / 1)

 

หลุดโผ
มาร์ซิน คามินสกี้ (ชาลเก้), เซบาสเตียน วาลูคีวิซ (เอ็มโปลี), บาร์ตอสซ์ ซาลามอน (เลซ พอซนัน), เพอร์เซมีสลาฟ พลาเชต้า (เบอร์มิงแฮม), ยาคุบ โมเดอร์ (ไบรท์ตัน)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

ซาอุดี อาระเบีย : กลุ่มซี
กุนซือ : แอร์กเว เรอนาร์ (ฝรั่งเศส)
หนึ่งในทีมแข็งของทวีปเอเชีย แอบลุ้นเข้ารอบได้อยู่เหมือนกันกับการได้อยู่ร่วมกลุ่มกับ โปแลนด์ และ เม็กซิโก ส่วน อาร์เจนติน่า ยกขึ้นหิ้งไปก่อนทีมหนึ่งก็ได้

 

ในการเผยชื่อชุดเบื้องต้น 33 คนของ แอร์กเว เรอนาร์ อดีตนายใหญ่โมร็อกโก-ไอวอรี่โคสต์-แซมเบีย ฯลฯ ทั้งหมดก็เป็นชุดที่ใช้ตลอดช่วงหลัง ซึ่งไม่ว่าใครจะหลุดหรือติดไปรอบสุดท้าย คุณภาพก็อาจไม่แตกต่างกันนัก

 

รายชื่อนักเตะซาอุฯ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ (31) อัล-ฮิลาล (37)
ฟาวาซ อับ-การ์นี่ (30) อัล-ชาบาบ (10)
โมฮัมเหม็ด อัล รูบาอี (25) อัล-อาห์ลี (6)
นาวาฟ อัล-อาคิดี้ (22) อัล-นาสเซอร์ (0)

 

กองหลัง
ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี่ (30) อัล-ฮิลาล (70 / 2)
โมฮัมเหม็ด อัล-เบรอิค (30) อัล-ฮิลาล (35 / 1)
อาลี อัล-บูไลฮี (32) อัล-ฮิลาล (32 / 0)
ซุลตาน อัล-กานัม (28) อัล-นาสเซอร์ (23 / 0)
ซาอุด อับดุลฮามิด (23) อัล-ฮิลาล (17 / 0)
อับดุลเลลาห์ อัล-อัมรี (25) อัล-นาสเซอร์ (14 / 1)
ฮัสซัน ทัมบัคตี (23) อัล-ชาบาบ (14 / 0)
อับดุลลาห์ มาดู (29) อัล-นาสเซอร์ (12 / 0)
อาห์เหม็ด บัมซาอุด (26) อัล-อิตติฮัด (1 / 0)

 

กองกลาง
ฟาฮัด อัล-มูวาลัด (28) อัล-ชาบาบ (71 / 17)
ซัลมาน อัล-ฟาราจ (33) อัล-ฮิลาล (68 / 8)
ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี (31) อัล-ฮิลาล (66 / 17)
นาวาฟ อัล-อาเบ็ด (32) อัล-ชาบาบ (50 / 8)
อับดุลลาห์ โอตาฟ (30) อัล-ฮิลาล (44 / 1)
ฮัตตัน บาเฮบรี (30) อัล-ชาบาบ (37 / 4)
โมฮาเหม็ด คันโน (28) อัล-ฮิลาล (33 / 1)
อับดุลเลลาห์ อัล-มัลกี (28) อัล-ฮิลาล (21 / 0)
ซามี อัล-นาเจ (25) อัล-นาสเซอร์ (15 / 2)
อาลี อัล-ฮัสซัน (25) อัล-นาสเซอร์ (9 / 1)
นาสเซอร์ อัล-ดอว์ซารี (23) อัล-ฮิลาล (8 / 0)
อายมาน ยาห์ย่า (21) อัล-นาสเซอร์ (6 / 0)
อับดุลราห์มาน อัล-อาบูด (27) อัล-อิตติฮัด (2 / 0)
ริยาดห์ ชาราฮิลี่ (29) อาบา (2 / 0)

 

กองหน้า
ฟิราส อัล-บูไรคาน (22) อัล-ฟาเตห์ (24 / 6)
อับดุลลาห์ อัล-ฮัมดัน (23) อัล-ฮิลาล (20 / 5)
ซาเลห์ อัล-เชห์รี (28) อัล-ฮิลาล (16 / 8)
ไฮตัม อาซีรี่ (21) อัล-อาห์ลี (4 / 0)
อับดุลลาห์ ราดีฟ (19) อัล-ทาวูน (3 / 0)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

อุรุกวัย : กลุ่มเอช
กุนซือ : ดีเอโก้ อลอนโซ่ (อุรุกวัย)
น่าจับตาอย่างยิ่งกับ อุรุกวัย ในการทำทีมของอดีตดาวเตะบาเลนเซีย-แอตฯ มาดริด อย่าง ดีเอโก้ อลอนโซ่ ที่เข้ามาดูแลทีมชาติแทนที่คุณตา ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ (75) ที่คุมทัพจอมโหดอยู่นานเหลือเกินในระหว่างปี 2006–2021

 

สำหรับชุดเบื้องต้นที่ อลอนโซ่ เผยออกมา มีมากถึง 55 ราย และชื่อที่คุ้นหูต่างอยู่ครบถ้วนไม่ว่าจะ หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่, ดาร์วิน นูนเยซ, โรนัลด์ อเราโฮ หรือกระทั่ง ดีเอโก้ โกดิน และ แฟร์นันโด มุสเลร่า ในวัย 36

 

ซึ่งด้วยการประกาศแบบเต็มแม็กซ์ 55 รายชื่อ จึงทำให้จะมีถึงกว่า 29 คน ที่อกหัก อดไปฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับทีมชาติบ้านเกิด นั่นเอง

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
แฟร์นันโด มุสเลร่า (36) กาลาตาซาราย (133)
เซร์คิโอ โรเช่ต์ (29) นาซิอองนาล (8)
เซบาสเตียน โซซ่า (36) อินดิเพนเดียนเต้ (1)
กิเยร์โม่ เด อโมเรส (28) ลานุส (0)
ซานติอาโก้ เมเล่ (25) อูนิโอน (0)
กาสตัน โอลิเวียร่า (29) โอลิมเปีย (0)

 

กองหลัง
ดีเอโก้ โกดิน (36) เวเลซ ซาร์สฟิลด์ (159 / 8)
มาร์ติน กาเซเรส (35) แอลเอ แกแล็กซี่ (115 / 4)
โฮเซ่ คิมิเนซ (27) แอตเลติโก มาดริด (78 / 8)
เซบาสเตียน โกอาเตส (32) สปอร์ติ้ง (47 / 1)
มาติอัส วินย่า (24) โรม่า (26 / 0)
โจวานนี่ กอนซาเลซ (28) มายอร์ก้า (16 / 0)
โรนัลด์ อเราโฮ (23) บาร์เซโลน่า (12 / 0)
กิเยร์โม่ วาเรล่า (29) ฟลาเมงโก้ (9 / 0)
มาติอัส โอลิเวร่า (24) นาโปลี (8 / 0)
ฮัวกิน ปิเกเรซ (24) พัลไมรัส (7 / 0)
ดาเมียน ซัวเรซ (34) เคตาเฟ่ (7 / 0)
เซบาสเตียน กาเซเรส (23) อเมริกา (2 / 0)
บรูโน่ เมนเดซ (23) โครินเธียนส์ (2 / 0)
อกุสติน โรเคล (25) แฮร์ธ่า (1 / 0)
กาสตัน อัลวาเรซ (22) เคตาเฟ่ (0 / 0)
ซานติอาโก้ บวยโน่ (23) คิโรน่า (0 / 0)
เลอันโดร กาเบรร่า (31) เอสปันญ่อล (0 / 0)
อัลฟอนโซ่ เอสปิโน่ (30) กาดิซ (0 / 0)
ลูคัส โอลาซ่า (28) เรอัล บายาโดลิด (0 / 0)
เฟเดริโก้ เปเรยร่า (22) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)
โฮเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ (25) นาซิอองนาล (0 / 0)

 

กองกลาง
มาติอัส เวซิโน่ (31) ลาซิโอ (62 / 4)
โรดริโก้ เบนตันกูร์ (25) สเปอร์ส (51 / 1)
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ (24) เรอัล มาดริด (44 / 4)
จอร์เจียน เด อาร์รัสแซต้า (28) ฟลาเมงโก้ (40 / 8)
ลูคัส ตอร์เรยร่า (26) กาลาตาซาราย (40 / 0)
นิโกลัส เด ลา ครูซ (25) ริเวอร์เพลท (17 / 2)
เมาโร อารัมบาร์รี่ (27) เคตาเฟ่ (12 / 0)
แฟร์นันโด กอร์เรียราน (27) ซานโตส ลากูน่า (7 / 0)
มานูเอล อูร์กาเต้ (21) สปอร์ติ้ง (6 / 0)
เซซ่าร์ อเราโฮ (21) ออร์แลนโด้ ซิตี้ (0 / 0)
มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ (22) ปวยบลา (0 / 0)
เฟลิเป้ การ์บาโย่ (26) นาซิอองนาล (0 / 0)
ฟาบริซิโอ ดิอาซ (19) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)

 

กองหน้า
หลุยส์ ซัวเรซ (35) นาซิอองนาล (134 / 68)
เอดินสัน คาวานี่ (35) บาเลนเซีย (133 / 58)
โฮนาธาน โรดริเกซ (29) อเมริกา (29 / 3)
มักซี่ โกเมซ (26) แทร็บซอนสปอร์ (27 / 4)
ดาร์วิน นูนเยซ (23) ลิเวอร์พูล (13 / 3)
ฟาคุนโด้ ตอร์เรส (22) ออร์แลนโด้ ซิตี้ (10 / 0)
ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ (20) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (7 / 0)
อกุสติน อัลวาเรซ มาร์ติเนซ (21) ซาสซูโอโล่ (4 / 1)
ดีเอโก้ รอสซี่ (24) เฟเนร์บาห์เช่ (4 / 1)
อกุสติน คาน็อบบิโอ (24) ปาราเนนเซ่ (3 / 0)
ดาวิด เตรันส์ (28) ปาราเนนเซ่ (2 / 0)
ไบรอัน โอคัมโป้ (23) กาดิซ (1 / 0)
มาร์ติน ซาเตรียโน่ (21) เอ็มโปลี (1 / 0)
ติอาโก้ บอร์บาส (20) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)
นิโกลัส โลเปซ (29) ยูเอเอ็นแอล (0 / 0)

 

หลุดโผ
โรดริโก้ ซาลาซาร์ (ชาลเก้), กาสตัน เปเรยโร่ (กายารี่), นาฮิตัน นานเดซ (กายารี่), คริสเตียน สตูอานี่ (คิโรน่า)

 

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Daily Mail

ภาพประกอบ
Newsdelivers
Sporting News
VOI
US Soccer
PokerStars News