8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]

 

ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วว่านอกจาก “กาตาร์ 2022” จะเป็นบอลโลกครั้งที่แปลกแปร่งที่สุด ด้วยการมาลงเตะปลายปีก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ไม่กี่วัน นี่ก็ยังเป็น เวิลด์ คัพ ที่โหดเฮี้ยนและผิดเพี้ยนที่สุดในคราวเดียวกัน ไม่เชื่อลองดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 สิจ๊ะ!

 

 

ช็อกโลก! แซมบ้าพ่ายโครแอตปิ๋ว 8 ทีมบอลโลก

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]

 

เกมคู่แรกของรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 วันศุกร์ที่ 9 ธ.ค. ผ่านมา ที่เมืองอัล รายยาน เป็นการดวลกันของม้านอกสายตา โครเอเชีย กับตัวเก็งเต็งหนึ่ง บราซิล ซึ่งฝ่ายแรกผ่าน ญี่ปุ่น มาอย่างหวุดหวิดเฉียดฉิวถึงดวลจุดโทษในรอบ 16 ทีม ส่วน “ลา เซเลเซา” กำราบ เกาหลีใต้ แบบสบายเท้า 4-1 ส่งทีมโสมขาวกลับบ้านไปในที่สุด

 

ที่จริงคู่นี้พบกันมา 4 ครั้ง บราซิล ไม่เคยแพ้ และชนะมา 3 เกมรวด ล่าสุดลับแข้งปี 2018 ที่แอนฟิลด์ บราซิลกด 2-0 และพบว่า เนย์มาร์ เคยยิงประตูทีมตาหมากรุกมาแล้ว 3 ลูกด้วยกัน

 

ปรากฏว่าตลอดเกม 90 นาทีเป็นไปอย่างอึดอัด ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสเข้าทำจำกัด ซึ่งที่ใกล้เคียงกว่าเป็น บราซิล แต่ทั้ง เนย์มาร์, ริชาร์ลิซอน, ราฟินญ่า, วินิซิอุส จูเนียร์ ฯลฯ ต่างก็ไม่อาจส่งลูกผ่านมือ โดมินิค ลิวาโควิช จอมหนึบตาหมากรุก ไปได้แต่อย่างใด จนจบที่ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษครึ่งชั่วโมง

 

ต่อเวลาเดินทางถึงทดเจ็บครึ่งแรก 105+1 กลายเป็นฝั่งของบราซิลมาได้ประตูขึ้นนำ จากความสามารถเฉพาะตัวของ เนย์มาร์ ที่หลุดเข้าเขตโทษไปแตะหลบ ลิวาโควิช แล้วยิงด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้อดีตแชมป์ 5 สมัยออกนำ 1-0

 

ทว่าก่อนจบเกมนาทีที่ 116 โครเอเชีย มาได้ประตูตีเสมอ จังหวะที่ มิสลาฟ ออร์ซิช ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ บรูโน่ เพ็ตโควิช ยิงด้วยซ้ายแฉลบ ติอาโก้ ซิลวา เปลี่ยนทางผ่าน ลิวาโควิช เข้าไป ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

 

120 นาทีจบที่ผลเสมอ 1-1 และต้องดวลจุดโทษตัดสิน เท่ากับ โครเอเชีย ต้องชี้ชะตาด้วยการดวลเป้า 2 รอบติด ส่วน บราซิล ไม่ได้ยิงจุดโทษมาพักใหญ่แล้ว หนล่าสุดคือบอลโลก 2014 ที่ชนะ ชิลี 3-2 รอบ 16 ทีม

 

โครเอเชีย เป็นฝ่ายยิงก่อน และ…
นิโกล่า วลาซิช ยิงยัดเข้ากลางประตู 1-0
โรดรีโก้ โกเอส ส่องติดเซฟ ลิวาโควิช อย่างจัง 1-0
ลอฟโร มาเยอร์ กดเข้ากลางประตูเช่นเดิม 2-0
กาเซมิโร่ ซัดเสียบมุมซ้ายไม่พลาด 2-1
ลูก้า โมดริช แปเข้ามุมเดียวกับกาเซมิโร่ 3-1
เปโดร แปเข้าไปแบบลิวาโควิชพุ่งผิดทิศ 3-2
มิสลาฟ ออร์ซิช กดเข้ามุมเดียวกับโมดริช 4-2
มาร์กินญอส ส่องไปทางเดียวกับโมดริช…แต่ชนเสาเต็มๆ 4-2

 

เมื่อ โครเอเชีย ยิงไม่พลาดเลยใน 4 มือสังหาร แต่ บราซิล พลาดถึง 2 จึงเท่ากับ โครเอเชีย ชนะ 4-2 แบบที่มือสังหารเบอร์สุดท้ายของแซมบ้าอย่าง เนย์มาร์ ไม่ทันได้ก้าวออกไปยิงแต่อย่างใด

 

โครเอเชีย ของกุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช ผ่านเข้าตัดเชือกได้อีกครั้ง และจะจบไม่เกินอันดับ 4 อย่างแน่นอนแล้ว เป็นความต่อเนื่องชั้นยอดจากฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งก็เข้าถึงชิงชนะเลิศมาแล้วเช่นกัน

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
โครเอเชีย (4-3-3) โดมินิค ลิวาโควิช – โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา (อันเต้ บูดิเมียร์ 110) – ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช (มิสลาฟ ออร์ซิช 114), มาเตโอ โควาซิช (ลอฟโร มาเยอร์ 105) – มาริโอ ปาซาลิช (นิโกล่า วลาซิช 72), อันเดรจ์ ครามาริช (บรูโน่ เพ็ตโควิช 72), อีวาน เปริซิช
บราซิล (4-2-3-1) อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เอแดร์ มิลิเตา (อเล็กซ์ ซานโดร 105), ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินญอส, ดานิโล่ – กาเซมิโร่, ลูคัส ปาเกต้า (เฟร็ด 105) – ราฟินญ่า (อันโตนี่ 56), เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์ (โรดรีโก้ โกเอส 64) – ริชาร์ลิซอน (เปโดร 84)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : โดมินิค ลิวาโควิช
• โดมินิค ลิวาโควิช เซฟจุดโทษที่ 4 ในบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดแล้วของการเล่นฟุตบอลโลก 1 สมัย เท่ากับ ดานิเยล ซูบาซิช รุ่นพี่โครแอต (2018) และ เซร์คิโอ กอยโคเชีย ของอาร์เจนติน่า (1990)
• โดมินิค ลิวาโควิช ยังทำสถิติเซฟมากสุดในเกมเดียวของฟุตบอลโลก 2022 รวม 11 ครั้ง สูงสุดในรอบ 8 ปี หรือตั้งแต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ทำไว้ 15 เซฟ นัดที่ สหรัฐอเมริกา แพ้ เบลเยียม 1-2 ในรอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2014
• สถิติของฟีฟ่า ระบุให้ ลิวาโควิช Goals Prevented เกมนี้ 21 ครั้ง

• ที่จริง โครเอเชีย ก็ยังเอาชนะ บราซิล ไม่ได้ต่อไป ถ้านับเกมในเวลา 90 นาที เสมอ 2 บราซิลชนะ 3
• บราซิล สร้างโอกาสยิง 20 ครั้ง ตรงกรอบ 11 ได้มาประตูเดียว
• เนย์มาร์ ยิงโครเอเชียเป็นลูกที่ 4 ของตัวเอง
• เนย์มาร์ ยิงประตูที่ 77 ในทีมชาติ สูงสุดตลอดกาลเทียบเท่า เปเล่ แล้ว
• มีการเผยว่า มาร์กินญอส มือยิงคนที่ 4 ของบราซิล (พลาด) ไม่เคยยิงจุดโทษในระดับอาชีพมาก่อนเลย
• โครเอเชีย ยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียวตลอดทั้งเกม เป็นประตูของ บรูโน่ เพ็ตโควิช ทันที
• มาร์เซโล่ โบรโซวิช วิ่งรวม 15.69 กม.
• นิโกล่า วลาซิช เป็นมือยิงคนแรกทั้งในเกมชนะญี่ปุ่น และนัดนี้ ซึ่งก็ยิงไม่พลาดเป้าทั้งสอง

• โครเอเชีย เป็นทีมแรกที่ชนะดวลจุดโทษ 4 นัดรวด
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีม – ชนะ เดนมาร์ก 3-2
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีม – ชนะ รัสเซีย 4-3
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม – ชนะ ญี่ปุ่น 3-1
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีม – ชนะ บราซิล 4-2

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ โครเอเชีย ชนะจุดโทษ บราซิล 4-2
• โครเอเชีย เข้าถึงตัดเชือกฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งสองหนที่ผ่านมา จบอันดับสาม (1998) และเป็นรองแชมป์ (2018)
• โครเอเชีย ชนะเกม 90 นาทีในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แค่ “นัดเดียวถ้วน” (4-1 แคนาดา) นอกนั้นเสมอหมด (4 นัด) แต่มาถึงตัดเชือกแล้ว
• บราซิล ยังไม่ได้วางโปรแกรมเตะของปี 2023 ไว้แต่อย่างใด
• บราซิล ยังต้องเฝ้ารอแชมป์โลกสมัยที่ 6 ต่อไปอีก 4 ปีเป็นอย่างน้อย ภายหลังได้แชมป์หนล่าสุดเมื่อ 20 ปีก่อนมาแล้ว กับฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น
• ตีเต้ ประกาศลาออกจากตำแหน่งกุนซือบราซิล เป็นที่เรียบร้อย ภายหลังเข้าคุมในปี 2016 แทนที่ คาร์ลอส ดุงก้า โดยลงไป 81 นัด ชนะ 60 เสมอ 15 แพ้ 6 มีดีกรีแชมป์โคปา อเมริกา 2019 กระนั้นในฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 ก็ไปถึงแค่รอบ 8 ทีมเท่านั้น
• เนย์มาร์ เคยเปรยไว้แล้วว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาจเป็น เวิลด์ คัพ หนสุดท้ายของตัวเขาแล้ว หลังต้องอกหักกับเป้าหมายแชมป์โลกมาตลอดตั้งแต่เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์หนแรกปี 2014 จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตากันต่อว่า เนย์มาร์ จะประกาศเลิกเล่นทีมชาติในเร็วๆ นี้หรือไม่

 

 

ฟ้าขาวแอบเสียวโดนทวง 2-2 ยังฮึดเฮดวลเป้า

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]

 

น่าเสียดายแทนใครที่สู้ไม่ไหว ปิดทีวีไปก่อน หรือเห็นว่าเกมขาดแล้ว เลยเข้านอนดีกว่า

 

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม นั้น บอกเลยว่า “โคตรเดือด” ยกกำลังสองกำลังสาม มีมาเสิร์ฟครบทุกอย่าง ขาดก็แต่ลงนวมฟาดปากกันเท่านั้น!

 

คู่ดึกของวันศุกร์ เป็นการดวลกันของสองทีมหัวแถวต่างทวีป เนเธอร์แลนด์ กับ อาร์เจนติน่า ซึ่งทัพอัศวินสีส้มยังไม่เคยแพ้ใครในยุค หลุยส์ ฟาน กัล ที่ทำทีมมา 19 นัด ส่วน ลิโอเนล สคาโลนี่ ทำทีมฟ้าขาวแพ้เกมเดียวถ้วนๆ จาก 40 นัดหลังสุด (ซึ่งคือเกมแรกที่แพ้ ซาอุฯ นั่นเอง)

 

หลุยส์ ฟาน กัล เลือกจัดทัพมาแบบเดิมๆ แนวรุกฝากความหวังที่ โคดี้ กัคโป, เมมฟิส เดอปาย และ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ผิดกับฝั่ง ลิโอเนล สคาโลนี่ ที่ปรับระบบหนแรกไปใช้สามเซนเตอร์แบ็ก 5-3-2 โดยตัด อเลฮานโดร โกเมซ หรือ อังเคล ดิ มาเรีย ออกจากแนวรุก แล้วเติม ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงไปช่วยหลังบ้านแทน

 

เกมดูเหมือนจะเป็นงานสบายหายห่วงของ อาร์เจนติน่า เมื่อขึ้นนำในเวลาเพียงไม่นานนัก น.35 ลิโอเนล เมสซี่ แทงทะลุช่องแบบเหนือๆ ให้ นาอูเอล โมลิน่า จิ้มสวนนายทวาร อันดรีส น็อพเพิร์ต เข้าประตูไปเป็น 1-0

 

จากนั้นตามด้วยครึ่งหลัง น.72 เดนเซล ดุมฟรีส์ ทำเสียฟาวล์ในเขตโทษ เป็นจุดโทษซึ่ง เมสซี่ กดเข้าไปไม่พลาดเป็น 2-0 เป็นประตูที่ 4 ในฟุตบอลโลก 2022

 

อย่างไรก็ตาม 7 นาทีท้ายรวมทดเจ็บ 10 นาที เนเธอร์แลนด์ ก็กลับคืนสู่เกมได้สำเร็จ จากลูกโขกเปลี่ยนทางของหอกสำรอง วู้ท เวกอร์สท์ ที่ผ่านมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เข้าไปในนาที 83

 

แล้วก่อนที่เกมจะจบด้วยชัยชนะของทีมฟ้าขาว พวกเขาก็มาเสียฟรีคิกอึดใจท้ายที่ เคร์มัน เปซเซลล่า โดนจับฟาวล์หน้าเขตโทษ และ เทน ค็อปไมเนอร์ส เล่นลูกสูตรทริกช็อต เขี่ยผ่านกำแพงขึ้นหน้าให้ เวกอร์สท์ รับลูกแล้วกลับตัวซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม ตีเสมอ 2-2 ตอนทดเจ็บ 90+11

 

ช่วงต่อเวลาพิเศษไม่มีการยิงเพิ่ม โดยนาทีสุดท้าย เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ซัดไกลหน้าเขตโทษไปชนเสาเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ 120 นาทีจบลง เสมอ 2-2 และต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษต่อเนื่องอีกเกม

 

เนเธอร์แลนด์ เป็นฝ่ายสังหารก่อน…
ก็แต่หัววัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กดติดเซฟ เอมี่ มาร์ติเนซ 0-0
ลิโอเนล เมสซี่ แปด้วยซ้ายนิ่มๆ เข้าไป 0-1
สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ ยังคงยิงไม่ผ่านมือ มาร์ติเนซ 0-1
เลอันโดร ปาเรเดส ส่องเข้าเสียบเสา 0-2
เทน ค็อปไมเนอร์ส อัดด้วยซ้ายเข้าอย่างแรง ไล่มา 1-2
กอนซาโล่ มอนเทียล แปเต็มเท้าเข้าทางขวา 1-3
วู้ท เวกอร์สท์ สังหารไม่พลาด 2-3
เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ส่องเบี่ยงเสาออกไปเอง 2-3
ลุค เดอ ยอง แปเบาๆ เข้าไป 3-3
ปิดท้าย เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ตะบันเต็มข้อเข้าทางซ้าย 3-4

 

อาร์เจนติน่า กำชัย 4-3 ยังคงรักษาความหวังแชมป์โลกสมัย 3 เอาไว้ ด้วยการผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ โครเอเชีย ซึ่งจะเล่นกันในวันอังคารที่ 13 ธ.ค.

 

ส่วน เนเธอร์แลนด์ ทั้งที่ไม่แพ้ใครเลยทั้งสิ้นใน 90 นาทีของฟุตบอลโลกหนนี้ รวมถึงในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล (คุมรอบสาม) แต่ก็ต้องว่ากันใหม่โอกาสหน้า ที่ฟ้าจะเป็นใจให้มากกว่านี้…

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2) อันดรีส น็อพเพิร์ท – ยูร์เรี่ยน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มาร์เท่น เดอ รอน (เทน ค็อปไมเนอร์ส 46), ดาลี่ย์ บลินด์ (ลุค เดอ ยอง 64) – โคดี้ กัคโป (โนอา ลัง 113) – เมมฟิส เดอปาย (วู้ท เวกอร์สท์ 78), สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ 46)
อาร์เจนติน่า (5-3-2) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 105), คริสเตียน โรเมโร่ (เคร์มัน เปซเซลล่า 78), นิโกลัส โอตาเมนดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ (อังเคล ดิ มาเรีย 112), มาร์กอส อคุนย่า (นิโกลัส ตายาฟิโก้ 78) – โรดริโก้ เด ปอล (เลอันโดร ปาเรเดส 66), เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 82)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• ลิโอเนล เมสซี่ ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 ไป 5 นัด คว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์แล้ว 3 เกม สูงสุดเท่า คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เพื่อนร่วมค่ายของทีมชาติฝรั่งเศส
• ลิโอเนล เมสซี่ ยังยิงแล้ว 4 ประตู ตามหลัง เอ็มบัปเป้ ลูกเดียว พร้อมกับแอสซิสต์ไปแล้ว 2
• นาอูเอล โมลิน่า ยิงประตูแรกในการรับใช้ชาติ 24 นัด
• วู้ท เวกอร์สท์ ยิงลูกที่ 4 และ 5 จากการเล่นทีมชาติ 19 เกม

• 17 ใบเหลือง 1 ใบแดง สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์บอลโลก ทำลายสถิติ 16 ใบ เกม เนเธอร์แลนด์-โปรตุเกส ในบอลโลก 2006
• 18 ใบจาก 120 นาที เท่ากับเฉลี่ยมีแจกทุกๆ 6 นาทีกว่าๆ จากผู้ตัดสินชาวสเปน อันโตนิโอ มาเตอู ลาออซ
• คนโดนประกอบด้วย
เนเธอร์แลนด์ 7 : ยูร์เรียน ทิมเบอร์ น.43, วู้ท เวกอร์สท์ น.45+2, เมมฟิส เดอปาย น.76, สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ น.88, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ น.90+13, โนอา ลัง น.120+9, เดนเซล ดุมฟรีส์ (สองเหลือง หนึ่งแดง)
อาร์เจนติน่า 9 : มาร์กอส อคุนย่า น.43, คริสเตียน โรเมโร่ น.45, ลิซานโดร มาร์ติเนซ น.76, เลอันโดร ปาเรเดส น.89, ลิโอเนล เมสซี่ น.90+10, นิโกลัส โอตาเมนดี้ น.90+11, กอนซาโล่ มอนเทียล น.109, เคร์มัน เปซเซลล่า น.112, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่ น.90

• หลุยส์ ฟาน กัล ทำทีมแพ้ดวลจุดโทษ อาร์เจนติน่า 2-4 จนตกรอบตัดเชือกบอลโลก 2014 และประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยในบอลโลกครั้งนี้
• 2014 คนพลาดจุดโทษคนแรกคือเซนเตอร์แบ็ก รอน ฟลาร์ มาครั้งนี้ก็ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
• หลุยส์ ฟาน กัล ทำทีมตกรอบบอลโลกครั้งนี้ ทั้งที่ไม่เคยแพ้ใครเลยในเวลาปกติ 20 เกมรวด นับแต่เข้าคุมแทน แฟร้งค์ เดอ บัวร์ กลางปีที่แล้ว ชนะ 14 เสมอ 6
• เนเธอร์แลนด์ ยังคงไปไม่ถึงแชมป์โลกอยู่ต่อไป ผลงานดีสุดคือรองแชมป์โลก 1974, 1978 และ 2010

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3
• หลุยส์ ฟาน กัล ลาออกจากการทำทีมกังหันลมอีกครั้ง และในวัย 71 ก็คงจะไม่มีการกลับเข้าคุมหน 4 หน 5 อีกแล้ว
• โรนัลด์ คูมัน เซ็นสัญญาไว้ตั้งแต่เดือน เม.ย. สำหรับการเข้าสานงานต่อจาก ฟาน กัล หลังบอลโลก โดยเป็นการคืนสู่งานนี้อีกครั้งหลังเคยทำทีมมาแล้วในช่วงปี 2018–2020
• อาร์เจนติน่า ยืนยันการเป็นราชาดวลเป้า King of penalty shoot-outs ด้วยการชนะดวลจุดโทษเป็นครั้งที่ 5 เหนือกว่าทุกทีมในโลก และเคยแพ้มาแค่หนเดียวเท่านั้น
3-2 ยูโกสลาเวีย, 8 ทีม 1990
4-3 อิตาลี, ตัดเชือก 1990
4-3 อังกฤษ, 16 ทีม 1998
4-2 เนเธอร์แลนด์, ตัดเชือก 2014
4-3 เนเธอร์แลนด์, 8 ทีม 2022
(แพ้ เยอรมนี 2-4, 8 ทีม 2006)
• อาร์เจนติน่า ทะลุเข้าไปดวล โครเอเชีย ในรอบตัดเชือก ซึ่งจะเป็นแมตช์ล้างตาจากฟุตบอลโลก 2018 ที่คราวนั้น โครเอเชีย ขยี้ฟ้าขาว 3-0 ในรอบแรก
• อาร์เจนติน่า ไม่เคยแพ้รอบตัดเชือกฟุตบอลโลกมาก่อน จากการมาถึง 4 ครั้ง โดยเข้าไปเป็นแชมป์โลก 2 หน และแพ้นัดชิง 3 รอบ
1930 ชนะ สหรัฐอเมริกา 6-1
1978 ไม่มีรอบตัดเชือก
1986 ชนะ เบลเยียม 2-0
1990 ชนะจุดโทษ อิตาลี 4-3
2014 ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
AP
GettyImages
AFP

 

เรื่องน่าอ่าน
16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์! (2)
16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !
บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

 

เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนติน่า : ตัวต่อตัว 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนติน่า : ตัวต่อตัว 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย : เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนติน่า
ศุกร์ 9 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : JKN18

 

ผลการพบกัน : 9 นัด
อุ่นเครื่อง 1974 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 4-1
ฟุตบอลโลก 1974 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 4-0
ฟุตบอลโลก 1978 อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1
อุ่นเครื่อง 1979 เสมอ 0-0, อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ 8-7
ฟุตบอลโลก 1998 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-1
อุ่นเครื่อง 1999 เสมอ 1-1
อุ่นเครื่อง 2003 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0
ฟุตบอลโลก 2006 เสมอ 0-0
ฟุตบอลโลก 2014 เสมอ 0-0, อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ 4-2

 

ผลงานในฟุตบอลโลก 2022
เนเธอร์แลนด์
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เซเนกัล 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ เอกวาดอร์ 1-1
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ กาตาร์ 2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1

อาร์เจนติน่า
รอบแบ่งกลุ่ม แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เม็กซิโก 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ โปแลนด์ 2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ ออสเตรเลีย 2-1

 

ความพร้อมก่อนเตะ
เนเธอร์แลนด์
เห็นเงียบๆ แต่ฟอร์มเยี่ยมไปเลย หลุยส์ ฟาน กัล พา เนเธอร์แลนด์ ครองแชมป์กลุ่มเอด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โดยสยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 และปิดท้ายตบเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0 ต่อมารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ก็ผ่าน สหรัฐอเมริกา ไม่ลำบาก 3-1

 

ประเด็นก็คือ นับตั้งแต่ที่กลับเข้ามาสานงานต่อจาก แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฟาน กัล ยังไม่พาทีมกังหันลมแพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียว โดยลงสนาม 19 นัด ชนะ 14 เสมอ 5

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล อยู่ในจุดที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนใดทั้งสิ้น ภายหลัง เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ ฟื้นฟิตกลับลงตัวจริงได้ต่อเนื่องแล้ว

 

สำหรับนายประตู จะยังคงเป็น อันดรีส น็อพเพิร์ต จอมหนึบวัย 28 จากฮีเรนวีน ที่เพิ่งลงประเดิมทีมชาติใน เวิลด์ คัพ เที่ยวนี้ และเล่นได้อย่างน่าพอใจ

 

ระบบคงเดิม 3-4-2-1 หลังบ้านนำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ตรงกลางขยับ ดาวี่ คลาสเซ่น ขึ้นเสริมเกมรุก และหน้าคู่ เมมฟิส เดอปาย จับคู่ โคดี้ กัคโป ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูในฟุตบอลโลก 2022

 

อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตอนต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

ทว่าเกม 2 อาร์เจนฯ ก็ฮึดขึ้น ยิง เม็กซิโก 2-0 ตามด้วยเกมปิดกลุ่ม สยบ โปแลนด์ 2-0 ขณะที่รอบ 16 ทีม เหนื่อยหน่อยในการเจอจิงโจ้หลังพิงฝา แต่ก็ยังตรึงสกอร์ชนะ 2-1 ได้สำเร็จ

 

เกมนี้ ลิโอเนล สคาโลนี่ มีต้องเช็กอาการของ 3 แนวรุก ทั้ง อังเคล ดิ มาเรีย ที่เจ็บต้นขา, อเลฮานโดร โกเมซ เจ็บข้อเท้า และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เจ็บข้อเท้าเช่นกัน แต่ก็คาดว่าทั้งหมดจะพร้อมเป็นตัวเลือก

 

ระบบใช้ 4-3-3 และอาจมีปรับบางจุดจากเกมที่แล้วเพื่อเติมความสด แต่เกมรุกจะนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ตามเดิม เพิ่มเติมด้วย ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ อังเคล ดิ มาเรีย ที่น่าจะฟิตพร้อมคืนสนามแล้ว

 

ทั้งนี้ เปาโล ดีบาล่า สตาร์จากโรม่า ที่มาร่วมแคมป์หลังหายบาดเจ็บ ยังไม่ได้สัมผัสเกมบอลโลกเลยสักนาที เมื่อไม่ถูก สคาโลนี่ ใช้งานเลยตลอด 4 เกมที่ผ่านมา

 

ตัวความหวัง
เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
แจ้งเกิดในฟุตบอลโลก 2022 เต็มตัว ด้วยการกดไปนัดละลูกในรอบแรก ลุ้นรองเท้าทองคำเต็มตัว รวมแล้วยิงไป 6 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 13 นัด โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจ่มที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก ก่อนมาสร้างชื่อในเวิลด์คัพหนนี้อย่างที่ว่าไป

 

อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 14 ประตูจากการเล่นทีมชาติปีนี้ ในบอลโลกครั้งนี้ก็กดไปแล้ว 3 เม็ด อยู่ในเส้นทางการช่วงชิงรองเท้าทองคำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 เต็มตัวเช่นกัน

 

11 ตัวจริงที่คาด
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) อันดรีส น็อพเพิร์ต – ยูร์เรียน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มาร์เทน เดอ รอน, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น – โคดี้ กัคโป, เมมฟิส เดอปาย
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – มาร์กอส อคุนย่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – อังเคล ดิ มาเรีย, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ลิโอเนล เมสซี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาเยอะทีเดียว 9 นัด เนเธอร์แลนด์ข่มด้วยสถิติชนะ 4 และ อาร์เจนติน่า เอาชนะได้หนเดียวเท่านั้นใน 90 นาที
• พบกันล่าสุดในฟุตบอลโลกที่บราซิล รอบตัดเชือก อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ 4-2 หลังเสมอ 0-0 เกมนั้น หลุยส์ ฟาน กัล คุมทีมกังหันอยู่ (รอบสอง)
• ถ้านับเฉพาะ 90 นาที อาร์เจนติน่า ไม่ชนะ เนเธอร์แลนด์ มา 44 ปีแล้ว (ตั้งแต่ 1978)
• ประตูที่ เดนนิส เบิร์กแคมป์ สังหารชัยดับ อาร์เจนติน่า 2-1 นาทีสุดท้ายของรอบ 8 ทีม ฟร้องซ์ 98 ยังติดชาร์ตหนึ่งในประตูที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก จนวันนี้

 

• แม้จะถูกหยุดสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 36 นัด แต่การแพ้ ซาอุดีอาระเบีย ก็เป็นความพ่ายแพ้นัดเดียวเท่านั้นจาก 40 เกมหลังสุดของ อาร์เจนติน่า
• ดาลี่ย์ บลินด์ จะเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 99, เมมฟิส เดอปาย 86, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ 54, เฟรงกี้ เดอ ยอง 50 หากทั้งหมดได้เล่นเกมนี้
• ส่วน อันดรีส น็อพเพิร์ต จะรับใช้ชาติเป็นเกมที่ 5 ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 2022 (2 คลีนชีต, เสีย 2 ประตู)

 

• ถ้าได้ลงเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ จะเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 170, อังเคล ดิ มาเรีย 128, นิโกลัส โอตาเมนดี้ 98, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 45
• ลิโอเนล เมสซี่ จะเล่นเกมอาชีพนัดที่ 1,001 ของตัวเอง แบ่งเป็น 778 กับบาร์เซโลน่า, 170 กับอาร์เจนฯ และ 53 กับเปแอสเช

 

• นี่จะเป็นการดวลกันของกุนซือที่แก่ที่สุด (ของฟุตบอลโลก 2022) หลุยส์ ฟาน กัล 71 ปี กับอ่อนที่สุด ลิโอเนล สคาโลนี่ 44 ปี
• หลุยส์ ฟาน กัล คุมเนเธอร์แลนด์รอบสาม 19 นัด ไร้พ่าย (ชนะ 14 เสมอ 5) ฝั่ง ลิโอเนล สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 40 นัดหลังสุด (รวมทำทีม 54 นัด ชนะ 36 เสมอ 13 แพ้ 5)

 

ความน่าจะเป็น
อีกหนึ่งเกมที่คาดเดาผลได้ยากทีเดียว เมื่อแม้ อาร์เจนติน่า จะดูมีเกมรุกร้อนแรง นำโดยยอดแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ แต่ทีมกังหันก็มีดีที่เกมรับซึ่งนำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ดังนั้นเกมนี้จึงอาจตัดสินกันด้วยรายละเอียดเล็กๆ เช่นใครทำพลาดในช่วงชี้เป็นชี้ตาย ก็ถึงพัง รวมถึงว่ามีโอกาสสูงที่จะออกยืดเยื้อ กินกันไม่ลงใน 90 นาที

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1 ใน 90 นาที

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

ฟุตบอลโลก 2022 กับ 16 ทีมสุดท้าย รอบน็อกเอาต์ !

หากว่ารอบแรกผ่านไปเร็วแล้ว น็อกเอาต์นี่ต่างหากที่พุ่งพรวดแบบที่ถ้าไม่ทันตั้งตัว แต่ละเกมก็ผ่านไปเสียแล้ว และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งฉากหน้าฉากหลังและสิ่งสืบเนื่องที่ตามมา กับรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

 

‘กังหัน’ ร้อนผ่านมะกันไม่ยาก 3-1

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

หลุยส์ ฟาน กัล พา เนเธอร์แลนด์ ครองแชมป์กลุ่มเอด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โดยสยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 และปิดท้ายตบเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0 จนโคจรมาพบกับ สหรัฐอเมริกา ที่ไร้พ่ายในรอบแรก และชนะ อิหร่าน 1-0 เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 กลุ่มบี

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล จัดว่าอยู่ในจุดที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนใดให้ต้องเป็นกังวล ภายหลัง เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ ฟื้นฟิตกลับลงตัวจริงได้แล้วในนัดก่อน เกมนี้พร้อมลุยต่อเนื่อง

 

และรูปเกมก็ออกในทรง “ใสแจ๋วแวววับ” สำหรับทัพกังหัน โดยเฉพาะเมื่อ สหรัฐฯ พลาดโอกาสพังประตูนำ (ก้ำกึ่งล้ำหน้า) ไปในนาทีที่ 2 คริสเตียน พูลิซิช ทะลุแนวหลังดัตช์เข้าไปกดด้วยซ้าย ติดขา อันดรีส น็อพเพิร์ต หวุดหวิด

นาทีที่ 10 เดนเซล ดุมฟรีส์ ปาดจากขวามาที่จุดนัดพบใกล้จุดโทษให้ เมมฟิส เดอปาย กดเปรี้ยงพังสกอร์ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทดเจ็บครึ่งแรก น.45+1 ดาลี่ย์ บลินด์ จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 ด้วยลูกยิงลักษณะเดียวกับ เดอปาย และยังมาจากการแอสซิสต์ให้ของแบ็กขวา ดุมฟรีส์ คนเดิม

 

ครึ่งหลังแม้ สหรัฐฯ จะตีไข่แตกไม่มีปี่มีขลุ่ยจากการไขว้ยิงเข้าเสาสองแบบมีโชคของหอกสำรอง ฮาจี ไรท์ น.76 แต่ เดนเซล ดุมฟรีส์ ก็ลุยขึ้นซัดปิดกล่อง น.81 ทำให้เกมนี้ แบ็กขวาจากอินเตอร์ มิลาน ทั้งยิง 1 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์

 

เนเธอร์แลนด์ ของจารย์ปู่ ฟาน กัล สานต่อสถิติไร้พ่ายเพิ่มเป็นนัดที่ 19 พร้อมกับเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อีกครั้ง แก้ตัวจากฟุตบอลโลกหนก่อนที่ตกตั้งแต่รอบคัดเลือก ขณะที่ 2 ทัวร์นาเมนต์ก่อนหน้า ไปไกลถึงรองแชมป์โลก 2010 และอันดับสาม 2014

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ รอบ 16 ทีมเนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2) อันดรีส น็อพเพิร์ท – ยูร์เรี่ยน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (c), นาธาน อาเก้ (มัทไธส์ เดอ ลิกท์ 90+3) – เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รอน (เทน คอไมเนอร์ส 46), เฟรงกี้ เดอ ยอง, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น (สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ 46) – โคดี้ กัคโป (วู้ท เวกอร์สท์ 90+3), เมมฟิส เดอปาย (ชาฟี ซิมอนส์ 83)
สหรัฐอเมริกา (4-3-3) แม็ตต์ เทอร์เนอร์ – แซร์จินโญ่ เดสท์ (ดีอันเดร เยดลิน 75), วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน, ทิม รีม, แอนโทนี่ โรบินสัน (จอร์แดน มอร์ริส 90+2) – ยูนุส มูซาห์, ไทเลอร์ อดัมส์ (c), เวสตัน แม็คเคนนี่ (เบรนแดน อารอนสัน 67) – ทิโมธี เวอาห์ (ฮาจี ไรท์ 67), เฮซุส เปเรยร่า (โจวานนี่ เรย์น่า 46), คริสเตียน พูลิซิช

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : เดนเซล ดุมฟรีส์
• ที่จริง สหรัฐอเมริกา สร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าด้วยซ้ำ ยิง 18 ตรงกรอบ 7 ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ ยิง 11 ตรงกรอบ 6
• ยูนุส มูซาห์ วิ่งรวม 12.14 กม.
• ดาลี่ย์ บลินด์ ยิงในทีมชาติเป็นลูกที่ 3 และลูกแรกนับแต่ปี 2014
• เมมฟิส เดอปาย เพิ่งยิงประตูที่ 2 ในฤดูกาลนี้ หลังยิงให้ บาร์เซโลน่า ไปลูกเดียวจาก 3 เกม แต่ก็เป็นลูกที่ 43 ในทีมชาติ เหลืออีก 7 เม็ดจะเทียบเท่าดาวซัลโวสูงสุดของชาติ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ เนเธอร์แลนด์ 3-1 สหรัฐฯ
• เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นอย่างน้อย เป็นครั้งที่ 7 จากการเข้ารอบสุดท้าย 11 หน
• หลุยส์ ฟาน กัล สานต่อสถิติไร้พ่ายในการกลับมาทำทีมชาติรอบ 3 เพิ่มเป็นนัดที่ 19 (ชนะ 14 เสมอ 5)
• เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์ หมดสัญญากับ สหรัฐฯ แล้ว (หลังเริ่มคุมปี 2018) และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเซ็นใหม่อีกฉบับเพื่อต่อเวลาทำทีมหรือไม่
• ภารกิจสำคัญลำดับถัดๆ ไปของ สหรัฐฯ ก็คือการเตรียมทีมลุยฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับเพื่อนบ้านอย่าง แคนาดา และ เม็กซิโก ทำให้ได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ

 

 

‘ฟ้าขาว’ เบียดจิงโจ้เหนื่อย 2-1

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

แม้จะเริ่มต้นอย่างช็อกโลกด้วยการพลิกแพ้ต่อ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 แต่หลังจากนั้น ลิโอเนล เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาว ก็ฮึดขึ้นทันเวลา ตบทั้ง เม็กซิโก และ โปแลนด์ ด้วยสกอร์เดียวกัน 2-0 จนยึดแชมป์กลุ่มตามความคาดหมาย

 

ด้านจิงโจ้นอกสายตา ออสเตรเลีย โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มดี

 

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม ถือได้ว่า “ซอคเกอรูส์” ของ เกรแฮม อาร์โนลด์ สู้ได้อย่างยอดเยี่ยมและคู่ควรกับเสียงปรบมืออย่างยิ่ง เป็นฟอร์มการเล่นที่ฟ้องว่า ไอ้ที่กล้าๆ เขี่ย เดนมาร์ก ร่วงรอบแรกไป ไม่ใช่เรื่องฟลุ้คแต่ประการใด

 

ทั้งนี้ ลิโอเนล สคาโลนี่ จัด 11 คนแรกแบบไม่มีเซอร์ไพรส์ ลิโอเนล เมสซี่ นำเกมรุกฟ้าขาวร่วมกับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ อเลฮานโดร โกเมซ ที่เสียบตำแหน่งแทนตัวเจ็บอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ส่วนหลังบ้าน คริสเตียน โรเมโร่ กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยังคงเป็นตัวเลือกก่อน ลิซานโดร มาร์ติเนซ

 

แม้ในครึ่งแรก อาร์เจนติน่า จะคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ขึ้นนำ 1-0 จากการซัดด้วยซ้ายข้างถนัดของ ลิโอเนล เมสซี่ น.35 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 3 ในฟุตบอลโลกงวดนี้ของ เมสซี่ แต่ ออสเตรเลีย ก็ไม่ได้ปล่อยให้ อาร์เจนติน่า ขยำขยี้อย่างมันเท้า

 

ครึ่งหลัง อาร์เจนติน่า ฉีกสกอร์นำ 2-0 จากความผิดพลาดของ แม็ต ไรอัน นายทวารทีมจิงโจ้ ที่ยึกยักหน้าประตูจนโดนฉกลูก ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงง่ายๆ เข้าไปในนาที 57 จุดนี้เองที่ทำให้ลูกทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ อยู่เฉยไม่ได้ ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นจนกระทั่งตีไข่แตก 1-2 ในนาทีที่ 77 จากการซัด (แบบเสี่ยงดวง) ของ เคร็ก กู๊ดวิน ที่ไปโดนตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เข้าไป และนับเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของกองกลางฟ้าขาว

 

ช่วงเวลาที่เหลือ เกมเปิดอย่างยิ่ง ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสบวกประตูเพิ่ม โดยเฉพาะ อาร์เจนติน่า ที่น่าได้จาก 2 โอกาสทองของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แต่กลับพลาดไปทั้งสองหน ขณะที่ ออสเตรเลีย ก็หวิดตีเสมอได้ในเฮือกสุดท้ายของการทดเจ็บ 7 นาที กาแร็ง คูโอล หลุดไปยิงเน้นๆ ในจุดอันตราย ไม่ผ่านเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

เป็นเซฟสำคัญยิ่งที่ช่วยให้เกมจบใน 90 นาที ไม่ต้องยืดเยื้อไปถึงต่อเวลา และส่ง อาร์เจนติน่า เข้าไปบู๊กับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีม

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-3-3) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 80), คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์กอส อคุนย่า (นิโกลัส ตายาฟิโก้ 72) – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เอเซเกล ปาลาซิออส 80) – ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 71), อเลฮานโดร โกเมซ (ลิซานโดร มาร์ติเนซ 50)
ออสเตรเลีย (4-4-2) แม็ทธิว ไรอัน – มิลอส เดเกเน็ค (ฟราน คาราซิช 72), แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไคย์ โรวล์ส, อาซิซ เบฮิช – แม็ทธิว เลคกี้ (กาแร็ง คูโอล 72), คีอานู แบ็คคัส (ไอจ์ดิน ฮรุสติช 58), อารอน มอย, ไรลี่ย์ แม็คกรี (เคร็ก กู๊ดวิน 58) – แจ็คสัน เออร์ไวน์, มิตเชลล์ ดู๊ค (เจมี่ แม็คลาเรน 72)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ได้เตะมุมเกมนี้ ครั้งเดียวถ้วน
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงประตูที่ 14 ในการรับใช้ชาติ 11 นัดของปีนี้
• เปาโล ดีบาล่า มีจำนวนนาทีในฟุตบอลโลก 2022 เป็น 0
• ลิโอเนล สคาโลนี่ คุมทีม 54 นัด เพิ่งแพ้แค่ 5 เกม ที่เหลือชนะ 36 เสมอ 13

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 2-1 ออสเตรเลีย
• อาร์เจนติน่า ผ่านเข้าไปดวลกับ เนเธอร์แลนด์ ที่จะเจอกันเป็นครั้งที่ 10 โดยหนึ่งในนั้นเป็นนัดชิงบอลโลก 1978 ด้วย (อาร์เจนฯ ชนะ 3-1)
• อาร์เจนฯ เข้าถึง 8 ทีมบอลโลกเป็นอย่างน้อย หนที่ 5 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แม้ตกรอบแล้ว แต่ ออสเตรเลีย ชุดนี้ยังถูกยกว่าเป็น “นิว โกลเด้น เจเนอเรชั่น” และ เกรแฮม อาร์โนลด์ เตรียมขยายสัญญาทำทีมเพิ่มไปอีก

 

 

 

‘เอ็มบัปเป้’ สุดฮอตนำไก่สอยโปล 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้านบอลโลก 2022

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

ฝรั่งเศส ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำลาย “อาถรรพ์แชมป์เก่า” การันตีทะลุเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ตั้งแต่จบเกม 2 หลังชนะ 2 นัดรวด แต่ก็เสียรังวัดไปเล็กน้อยกับเกมสุดท้ายที่พ่าย ตูนิเซีย เพียงแต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นทีมชุดสองที่ลงสนาม รวมถึงว่าความพ่ายแพ้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตำแหน่งแชมป์กลุ่มแต่อย่างใด

 

ด้านคู่แข่งอย่าง โปแลนด์ ที่จริงก็นั่งเข่าทรุดคอตกกันแล้วสำหรับนักเตะและกองเชียร์ ตอนจบเกมปิดกลุ่มที่แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2 แต่ปรากฏว่าเมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ตีไข่แตก เม็กซิโก เป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บ 90+5 ก็ทำให้ เม็กซิโก ถูกฉุดตกรอบไปแทน และ โปแลนด์ ได้เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเฮง-เฮง-เฮง ด้วยผลงานครบถ้วนชนะ-เสมอ-แพ้

 

เดส์ชองส์ เรียกตัวหลัก 11 คนแรกที่ใช้ใน 2 เกมแรก กลับคืนสู่ไลน์อัพทั้งหมด นำโดยแผงรุก 4 ประสาน อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เพื่อสู้กับ โปแลนด์ ที่นำมาโดยตัวอันตรายอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

อย่างไรก็ตาม เกมออกมา “ขาด” กว่าที่คิด เลวานดอฟสกี้ ทำดีที่สุดแค่ยิงจุดโทษตีไข่แตก 1-3 ช่วงทดเจ็บ 90+9 โดยที่ต้องยิงใหม่รอบสองด้วย หลังรอบแรกไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่หลัง โยริส หลุดมาจากเส้นประตูทั้งสองเท้า

 

ส่วนก่อนหน้านั้น ฝรั่งเศส ดาหน้าเรียงยิงแบบไม่พัก เริ่มจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กดเสียบเสา น.44 และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เบิ้ลสอง น.74 และ 90+1 ทำให้ ฝรั่งเศส เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ไม่พลาด แถม เอ็มบัปเป้ ยังขึ้นนำดาวซัลโวฟุตบอลโลกงวดนี้ ด้วยการกดไป 5 ประตู

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – ชูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ เอร์นันเดซ – ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (ยุสซุฟ โฟฟาน่า 66), อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมัน เดมเบเล่ (คิงส์ลี่ย์ โกม็อง 76), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คุส ตูราม 76)
โปแลนด์ (3-4-3) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิออร์ (ยาน เบ๊ดนาเร็ค 87) – แม็ตตี้ แคช, เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค 64), เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (คริสเตียน บีลิค 71), เพอร์เซมิสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ (คามิล โกรซิคกี้ 87) – ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ยาคุบ คามินสกี้ (นิโกล่า ซาเลฟสกี้ 71)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัด 2 ประตูแถมทำ 1 แอสซิสต์
• อูโก้ โยริส ลงสนามทีมชาติ 142 นัด เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ ลิลิยอง ตูราม ดังนั้นเกมหน้า จะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 1 แล้ว
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เล่นทีมชาตินัดที่ 138 (78 ประตู) และเจ้าตัวเปรยว่า คงเลิกเล่นทีมชาติเสียที ในวัย 34

สืบเนื่องจากผลสกอร์ ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์
• ฝรั่งเศส เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปดวล อังกฤษ
• ฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ ซึ่งไม่มีใครทำได้มาตั้งแต่ บราซิล 1962
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มีโอกาสสูงทีเดียวในการคว้ารองเท้าทองคำ ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 หลังกดประตูที่ 5 ขณะที่คู่แข่งรายอื่น ( คน) ยิงได้ 3 ประตู

 

 

สบาย! ‘สิงโต’ ขย้ำเซเนกัลขาด 3-0

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

ภายหลังเปิดประเดิมถล่ม อิหร่าน 6-2 ก็แอบเสียวหน่อยๆ กับความหนืดในเกมสอง ที่ทัพสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทำได้แค่เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 แต่เกมสุดท้ายก็กลับคืนฟอร์มร้อน ทะลวงเพื่อนบ้าน เวลส์ 3-0 จนเข้ารอบด้วยการยึดแชมป์กลุ่มแบบหล่อๆ และยิงประตูได้มากถึง 9 ลูก (แม้จะมีเกมไร้สกอร์แทรกก็ตาม)

 

ฟากคู่แข่งของทัพสิงโตสามตัวอย่าง “สิงโตแห่งเตรังก้า” เซเนกัล เริ่มต้นได้แย่ด้วยการแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แต่สองเกมถัดมาก็ฟาด 6 แต้มเต็ม ชนะ กาตาร์ 3-1 และ เอกวาดอร์ 2-1 เข้ารอบด้วยการเป็นที่สองของกลุ่มเอ แม้จะหวิดร่วงอยู่เหมือนกันหลังโดน เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง ก็ตาม

 

แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับทัพเล็กๆ ส่ง ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงตัวจริง ซึ่งถือว่าผิดคาดที่เดียวซึ่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กด 2 ตุงใส่ เวลส์ กลับหลุดลงเป็นตัวสำรอง

 

ถ้าเกมฝรั่งเศสว่าง่ายแล้ว อังกฤษยิ่งง่ายกว่ากันเยอะ บุกใส่แทบจะฝ่ายเดียวจนได้ 3 ประตูจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.38, แฮร์รี่ เคน น.45+3 และ บูกาโย่ ซาก้า น.57 ซึ่งก็น่าเสียดายแทน เซเนกัล ไม่หาย ว่าถ้าพวกเขายังมี ซาดิโอ มาเน่ อยู่ ก็คงเล่นงาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และหลังบ้านอังกฤษได้มากกว่าที่เป็น

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อังกฤษ (4-3-3) จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ (เอริก ไดเออร์ 77), แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – จู๊ด เบลลิงแฮม (เมสัน เมาท์ 76), ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แคลวิน ฟิลลิปส์ 82) – บูกาโย่ ซาก้า (มาร์คัส แรชฟอร์ด 65), แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น (แจ๊ค กรีลิช 65)
เซเนกัล (4-2-3-1) เอดูอาร์ เมนดี้ – ยุสซุฟ ซาบาลี่, คาลิดู คูลิบาลี่, อับดู ดิยัลโล่, อิสมาอิล จาค็อบส์ (โฟเด้ บัลโล-ตูเร่ 84) – ปาเต้ ซิสส์ (ปาเป้ เกย์ 46), นัมปาลิส เมนดี้ – เกรแป็ง ดิยัตต้า (ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ 46), อิลิมาน เอ็นดิอาย (บัมบ้า เดียง 46), อิสไมล่า ซาร์ – บูลาย เดีย (ฟามาร่า ดีดิอู 72)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : แฮร์รี่ เคน
• 3 ประตูที่ อังกฤษ ได้ มาจากการยิงตรงกรอบแค่ 4 ครั้งเท่า นั้น
• อังกฤษ ชนะคู่แข่งด้วยการยิง 3 ประตูขึ้นไป เป็นเกมที่ 3 ในฟุตบอลโลก 2022
• อังกฤษ ไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน
• ขออีกประตูเดียว แฮร์รี่ เคน จะเป็นดาวยิงสูงสุดของอังกฤษ เทียบเท่า เวย์น รูนี่ย์ ที่ 53 ประตู
• บูกาโย่ ซาก้า ยิงลูกที่ 7 ในการเล่นทีมชาติ 23 นัด

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อังกฤษ 3-0 เซเนกัล
• อังกฤษ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นอย่างน้อย หนที่ 4 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แกเร็ธ เซาธ์เกต สร้างมาตรฐานทำ อังกฤษ เข้ารอบ 8 ทีมรายการใหญ่ (เป็นอย่างน้อย) 3 รายการซ้อน ถัดจากอันดับ 4 บอลโลก 2018, รองแชมป์ยูโร 2020 และถึง 8 ทีมบอลโลกหนนี้
• ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ออกจากแคมป์กลับบ้านที่ลอนดอนกลางคัน หลังครอบครัวถูกขโมยขึ้นบ้าน และยังไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาทันเกมกับ ฝรั่งเศส หรือไม่

 

ไกด์เถื่อน

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
Royal Blue Mersey
Premium Times Nigeria
REUTERS
The Northern Echo

เรื่องน่าอ่าน
บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด

เนเธอร์แลนด์ vs สหรัฐอเมริกา : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs สหรัฐอเมริกา : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : เนเธอร์แลนด์ vs สหรัฐอเมริกา
เสาร์ 3 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
อุ่นเครื่อง 1998 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-0
อุ่นเครื่อง 2002 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-0
อุ่นเครื่อง 2004 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2010 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-1
อุ่นเครื่อง 2015 สหรัฐอเมริกา ชนะ 4-3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เนเธอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 2-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เบลเยียม 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เซเนกัล 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เอกวาดอร์ 1-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ กาตาร์ 2-0

สหรัฐอเมริกา
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ญี่ปุ่น 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เวลส์ 1-1
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ อังกฤษ 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ อิหร่าน 1-0

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
เนเธอร์แลนด์ : แชมป์กลุ่มเอ, เข้ารอบอย่างไม่ลำบากด้วยการชนะ 2 เสมอ 1
สหรัฐอเมริกา : อันดับ 2 กลุ่มบี, ลุ้นถึงนัดสุดท้ายที่่บังคับต้องชนะ อิหร่าน (ซึ่งก็ทำได้จริง) หลังเสมอ 2 เกมแรก

 

ความพร้อมก่อนเตะ
เนเธอร์แลนด์
เห็นเงียบๆ แต่ฟอร์มเยี่ยมไปเลย หลุยส์ ฟาน กัล พา เนเธอร์แลนด์ ครองแชมป์กลุ่มเอด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โดยสยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 และปิดท้ายตบเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0

 

ประเด็นก็คือ นับตั้งแต่ที่กลับเข้ามาสานงานต่อจาก แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หลังจบยูโร 2020 นั้น ฟาน กัล ยังไม่ได้พาทีมกังหันลมแพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียว โดยลงสนาม 18 นัด ชนะ 13 เสมอ 5

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล อยู่ในจุดที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนใดทั้งสิ้น ภายหลัง เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ ฟื้นฟิตกลับลงตัวจริงได้แล้วในนัดก่อน เกมนี้พร้อมลุยต่อเนื่อง

 

สำหรับนายประตู จะยังคงเป็น อันดรีส น็อพเพิร์ต จอมหนึบวัย 28 จากฮีเรนวีน ที่เพิ่งลงประเดิมทีมชาติใน เวิลด์ คัพ เที่ยวนี้ และเล่นได้อย่างน่าพอใจ

 

ระบบคงเดิม 3-4-2-1 หลังบ้านนำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ตรงกลางขยับ ดาวี่ คลาสเซ่น ขึ้นเสริมเกมรุก และหน้าคู่ เมมฟิส เดอปาย จับคู่ โคดี้ กัคโป ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูในฟุตบอลโลก 2022 นำดาวซัลโวร่วมกับอีก 4 นักเตะ

สหรัฐอเมริกา
ทีมพญาอินทรี สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดๆ เสมอกับ เวลส์ 1-1 จากนั้นทำเซอร์ไพรส์ยันเสมอ อังกฤษ 0-0 ก่อนฮึดเชือด อิหร่าน 1-0 จนจบที่อันดับ 2 กลุ่มบี

 

ทีมของ เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์ เข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน (แต่ยกเว้น 2018 ที่ตกรอบคัดเลือก) โดยผลงานดีสุดในช่วงโมเดิร์นฟุตบอลคือปี 2002 ที่ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

สำหรับความพร้อมในการลงดวล เนเธอร์แลนด์ เกมนี้ สหรัฐฯ มีต้องเช็กฟิต 2 ตัวรุกคนสำคัญ ทั้ง จอช ซาร์เจนท์ และ คริสเตียน พูลิซิช แต่ เบอร์ฮัลเตอร์ ก็ยืนยันแล้วว่า พูลิซิช ดาวเตะจากเชลซี เจ้าของประตูโทนนัดดับ อิหร่าน 1-0 จะพร้อมลงสนามไปตามปกติ

 

แม้ระบบจะใช้ 4-3-3 แต่ก็จะลงไปเน้นเพลย์เซฟ ตั้งรับลึกเป็นหลัก ข้างหน้าวาง คริสเตียน พูลิซิช, ทิโมธี เวอาห์ และ เฮซุส แฟร์เรยร่า เข้าทำ

 

ตัวความหวัง
เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
แจ้งเกิดในฟุตบอลโลก 2022 เต็มตัว ด้วยการกดไปนัดละลูก สามนัด 3 ประตู ยืนแท่นนำดาวซัลโวร่วม รวมแล้วยิงไป 6 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 12 นัด โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจ่มที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก ก่อนมาสร้างชื่อในเวิลด์คัพหนนี้อย่างที่ว่าไป

 

สหรัฐอเมริกา : คริสเตียน พูลิซิช
เจอปัญหาเปลี่ยนโค้ชในทีม เชลซี จนไม่ได้เล่นสม่ำเสมอมากนัก แต่ถ้านับจำนวนเกมก็ถือว่าไม่เลว ครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมาได้เล่น 18 นัด มียิง 1 ประตู ซึ่งแน่นอนว่าประสบการณ์จากพรีเมียร์ลีก จากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จนถึงจากบุนเดสลีกาในช่วงเวลาค้าแข้งกับ ดอร์ทมุนด์ คือแต้มต่อของ พูลิซิช ในวัย 24 ซึ่งมีสถิติน่าสนใจทีเดียวกับทีมชาติ อย่างการยิง 22 ประตูใน 55 นัด หรือคิดเฉลี่ยเป็น 0.4 ประตูต่อเกม

 

11 ตัวจริงที่คาด
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) อันดรีส น็อพเพิร์ต – ยูร์เรียน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มาร์เทน เดอ รอน, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น – โคดี้ กัคโป, เมมฟิส เดอปาย
สหรัฐอเมริกา (4-3-3, กุนซือ เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์) แม็ตต์ เทอร์เนอร์ – แซร์จินโย่ เดสท์, ทิม รีม, คาเมรอน คาร์เตอร์-วิคเกอร์ส, แอนโทนี่ โรบินสัน – เวสตัน แม็คเคนนี่, ไทเลอร์ อดัมส์, ยูนุส มูซาห์ – ทิโมธี เวอาห์, เฮซุส แฟร์เรยร่า, คริสเตียน พูลิซิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 5 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ชนะ 4 สหรัฐฯ ชนะ 1
• เจอล่าสุดปี 2015 สหรัฐฯ เฉือนชัย 4-3 ชนิดยิง 3 ลูกรวดในยี่สิบนาทีท้าย เมมฟิส เดอปาย ยิง 1 ตุงในวันนั้น
• เนเธอร์แลนด์ แพ้ครั้งสุดท้ายที่คือพ่าย สาธารณรัฐเช็ก 0-2 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 ช่วงกลางปีที่แล้ว
• สหรัฐฯ ชนะได้เสียที (เหนืออิหร่าน) หลังไม่ได้เฮมาถึง 5 เกมซ้อน (เสมอ 4 แพ้ 1)
• เมมฟิส เดอปาย ยิงในทีมชาติไปถึง 42 ประตู เหลืออีกแค่ 8 ลูกจะเท่าสถิติสูงสุดของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะแพ้ไม่เป็นมานานถึง 18 เกม แต่ เนเธอร์แลนด์ ก็ยังถูกตำหนิอยู่บ้างเรื่องเกมรุกที่ไม่จัดจ้านอย่างที่ควรจะเป็น แต่การเล่นแบบ “บอลเน้นผล” ก็เป็นสิ่งที่ หลุยส์ ฟาน กัล โปรแกรมให้กับลูกทีมอยู่แล้ว และการเจอกับ สหรัฐอเมริกา ก็มีสิทธิ์ออกทรงเดิมๆ คือเกมไม่ได้เร่งเร้าสร้างความบันเทิงนัก แต่ทัพกังหันก็น่าจะเอาอยู่ภายใน 90 นาที

 

ผลที่คาด : เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0

 

เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์ : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์ : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอ : เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม, อัล คอร์
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เนเธอร์แลนด์
แชมป์กลุ่มจี โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 33 เสีย 8

กาตาร์
ไม่ต้องเล่นรอบคัดเลือก ในฐานะชาติเจ้าภาพ

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เนเธอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 3-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 2-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เบลเยียม 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เซเนกัล 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เอกวาดอร์ 1-1

กาตาร์
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ปานามา 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ อัลเบเนีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เอกวาดอร์ 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เซเนกัล 1-3

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อน

 

ตารางคะแนนกลุ่มเอ
1. เนเธอร์แลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
2. เอกวาดอร์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
3. เซเนกัล คะแนน 3 ผลต่างประตู 0
4. กาตาร์ คะแนน 0 ผลต่างประตู -4 (ตกรอบแล้ว)

 

สภาพทีม
เนเธอร์แลนด์
หลุยส์ ฟาน กัล เรียกตัว 26 คนสุดท้ายมาโดยมองข้ามดาวดังไปหลายราย แต่ก็ยังออกสตาร์ทในฟุตบอลโลก 2022 ได้ไม่เลว สยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1

 

สี่แต้มในมือ ทำให้ เนเธอร์แลนด์ อยู่ในจุดที่ดีต่อการเข้ารอบ เกมนี้ขอแค่ไม่แพ้เป็นพอ ส่วนถ้าชนะแล้ว เอกวาดอร์ ยังชนะด้วย ก็ต้องมาดูผลต่างประตูได้เสียกันว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล ยังมีปัญหาเล็กๆ ตรงที่ เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ เจ็บแฮมสตริงติดพัน เช่นเดียวกับ มาร์เทน เดอ รอน มิดฟิลด์จากอตาลันต้า

 

สำหรับนายประตู จะยังคงเป็น อันดรีส น็อพเพิร์ต จอมหนึบวัย 28 จากฮีเรนวีน ที่เพิ่งลงประเดิมทีมชาติใน เวิลด์ คัพ เที่ยวนี้ และเล่นได้อย่างน่าพอใจ ขณะที่ส่วนอื่นๆ อาจมีการปรับเล็กน้อย เพิ่มเติมความสดในทีม

 

กาตาร์
เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 อย่าง กาตาร์ เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์นี้อย่างน่าจับตา ด้วยผลงานชนะรวด 5 นัดในเกมลับแข้ง แต่เมื่อเจอเกมจริงแล้ว ก็แพ้ต่อ เอกวาดอร์ 0-2 ชนิดรูปเกมสู้ไม่ได้ ต่อด้วยแพ้ เซเนกัล สบาย 1-3

 

แง่ดีอย่างเดียวของ เฟลิกซ์ ซานเชซ โค้ชชาวสแปนิช คือไม่มีปัญหาใหญ่ให้น่าเป็นกังวล สามารถใช้งานนักเตะชุดที่ดีที่สุดได้

 

ซานเชซ จะยังคงมาในระบบ 3-5-2 ฝากความหวังไว้ที่คู่กองหน้า อัลโมเอซ อาลี กับ อัคราม อาฟิฟ ที่ยิงรวมกัน 68 ประตู ในการรับใช้กาตาร์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้จะยังไร้สกอร์ในฟุตบอลโลกเที่ยวนี้ก็ตาม

 

ตัวความหวัง
เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
ตอบแทนความไว้ใจจากเจ้านายได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย 2 ประตูจาก 2 เกมแรก ทำให้ยิงไปแล้ว 5 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 11 นัด โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจมที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก และกำลังทำใบแจ้งเกิดเต็มตัวในฟุตบอลโลก 2022

 

กาตาร์ : อัลโมเอซ อาลี
กองหน้าวัยเพียง 26 ปีจาก อัล-ดูฮาอิล ตัวแปลงสัญชาติจากซูดาน เคยเล่นในสเปนช่วงสั้นๆ กับ กุลตูรัล เลโอเนซ่า แม้ตัวไม่ได้สูงใหญ่นัก แต่มีจุดเด่นที่ความเร็ว จนทำสถิติน่าสะพรึงเอาไว้ในทีมชาติ (เริ่มต้นติดธงตั้งแต่ปี 2016) ด้วยการยิงไปถึง 42 ประตูจากการลงสนาม 86 นัด

 

11 ตัวจริงที่คาด
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) อันดรีส น็อพเพิร์ต – มัทไธส์ เดอ ลิกท์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น – โคดี้ กัคโป, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์
กาตาร์ (3-5-2, กุนซือ เฟลิกซ์ ซานเชซ) เมร์ชาล บาแชม – อับเดลการิม ฮัสซัน, บัสซัม อัล-ราวี, บูอาเล็ม คูคี่ – โฮมัม อาห์เหม็ด, คาริม บูเดียฟ, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, โมฮัมเหม็ด มุนตารี่, อิสมาอีล โมฮัมหมัด – อัลโมเอซ อาลี, อัคราม อาฟิฟ

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้ไม่เคยพบกันมาก่อนแม้ในเกมอุ่นเครื่อง
• เนเธอร์แลนด์ เคยเจอกับทีมเอเชียมา 4 หนในฟุตบอลโลก และชนะ 100% ยิงได้ 11 เสียลูกเดียว
• เมมฟิส เดอปาย ยิงในทีมชาติไปถึง 42 ประตู เหลืออีกแค่ 8 ลูกจะเท่าสถิติสูงสุดของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
• รวมเกมลับแข้งแบบไม่เป็นทางการ กาตาร์ ลงสนามในปี 2022 ไปมากถึง 23 นัด มากที่สุดในบรรดาทีมชาติทั่วทั้งโลก โดยได้ผลชนะ 10 เสมอ 8 และแพ้ 5
• นอกจากเป็นดาวซัลโว คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2021 (4 ประตู) กับเอเชียน คัพ 2019 (9 ประตู) แล้ว อัลโมเอซ อาลี ยังติดทีมยอดเยี่ยมในทั้งสองรายการ โดยเฉพาะยังได้รางวัลนักเตะดีเด่น Best Player ของ เอเชียน คัพ ครั้งนั้นด้วย

 

ความน่าจะเป็น
การที่ กาตาร์ เก็บเอาโปรแกรมเจอ เนเธอร์แลนด์ เอาไว้ทีหลังสุด นั่นก็เพราะชัดเจนว่าทัพอัศวินสีส้มคือของแข็งสุดนั่นเอง เพียงแต่ความหมายของเกมนี้ก็ไม่เหลือมากนักแล้ว และระดับของสองฝั่งก็ต่างกันเยอะด้วย ถ้าไม่หนืดเนือยกันไปเอง เนเธอร์แลนด์ ชนะขาดได้อยู่แล้ว

 

ผลที่คาด : เนเธอร์แลนด์ ชนะ 4-0

เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ : เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : พีพีทีวี

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เนเธอร์แลนด์
แชมป์กลุ่มจี โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 33 เสีย 8

เอกวาดอร์
อันดับ 4 โซนอเมริกาใต้
ลงสนาม 18 ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เนเธอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก เสมอ โปแลนด์ 2-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 3-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 2-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เบลเยียม 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เซเนกัล 2-0

เอกวาดอร์
อุ่นเครื่อง ชนะ เคป เวิร์ด 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ญี่ปุ่น 0-0
อุ่นเครื่อง เสมอ อิรัก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ กาตาร์ 2-0

 

ผลการพบกัน (2 นัด)
อุ่นเครื่อง 2006 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2014 เสมอ 1-1

 

สภาพทีม
เนเธอร์แลนด์
หลุยส์ ฟาน กัล เรียกตัว 26 คนสุดท้ายมาโดยมองข้ามดาวดังไปหลายราย ช่น ดอนเยลล์ มาเลน ของดอร์ทมุนด์, อาร์โนต์ ดันยูม่า ของบียาร์เรอัล, ไรอัน กราเวนเบิร์ช ของบาเยิร์น, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ ของอตาลันต้า, สเวน บ็อตมัน ของนิวคาสเซิ่ล ไม่นับรวมคีย์แมนแดนกลางอย่าง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ที่เจ็บหนักพักยาวหลังย้ายไป โรม่า ได้ไม่กี่วัน

 

แต่แม้กระนั้น ทัพอัศวินสีส้มก็ยังออกสตาร์ทในฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างยอดเยี่ยม สยบ เซเนกัล 2-0 ด้วยสองประตูในช่วงห้านาทีสุดท้าย

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล ยังมีปัญหาเล็กๆ ตรงที่ เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ เจ็บแฮมสตริงติดพัน เช่นเดียวกับ มาร์เทน เดอ รอน แต่ว่าทั้งคู่ก็ลงสำรองเกมแรกได้มาแล้ว ดังนั้นเกมนี้มีโอกาสที่จะแทรกลงตัวจริงได้ โดยเฉพาะในราย เดอปาย

 

สำหรับนายประตู จะยังคงเป็น อันดรีส น็อพเพิร์ต จอมหนึบวัย 28 จากฮีเรนวีน ที่เกมก่อนเพิ่งลงประเดิมทีมชาติ และเล่นได้อย่างน่าพอใจ

 

เอกวาดอร์
สร้างผลงานน่าประทับใจ เข้าป้ายเป็นอันดับ 4 ในรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ และก็เริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ได้แจ๋วด้วย สยบเจ้าภาพ กาตาร์ นิ่มแข้ง 2-0 จากการเหมาซัดของเสือเฒ่า เอนเนร์ วาเลนเซีย

 

แต่กุนซือ กุสตาโว่ อัลฟาโร่ ก็ต้องเช็กสภาพของ วาเลนเซีย ก่อนเกมนี้ว่าถึงระดับ 100% หรือไม่ ภายหลังเจ็บจนต้องออกจากสนามในช่วงท้ายเกมของนัดแรก

 

ไลน์อัพจะยึดชุดเดิมที่ลงเล่นเกมแรก แต่หากว่า วาเลนเซีย ไม่พร้อม จะเป็น มิชาเอล เอสตราด้า เสียบแทน

 

ตัวความหวัง
เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
ตอบแทนความไว้ใจจากเจ้านายได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยลูกโขก 1-0 ใส่เซเนกัล ทำให้เป็นประตูที่ 4 จากการเล่นทีมชาติ 10 นัด โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจมที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก และมีสิทธิ์แจ้งเกิดเต็มตัวได้ในฟุตบอลโลก 2022

 

เอกวาดอร์ : เอนเนร์ วาเลนเซีย
เสือเฒ่าวัย 33 ที่คงมาสั่งลาฟุตบอลโลกหนนี้เป็นครั้งสุดท้าย ยังคงเป็นทีเด็ดของเกมรุก เอกวาดอร์ อยู่เสมอ และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมด้วยการกดไป 15 ประตูให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในช่วงครึ่งซีซั่นที่ผ่านมา ยืนเด่นเป็นผู้นำดาวซัลโวของซูเปอร์ลีก ตุรกี ก่อนจะสานต่อความร้อนแรงด้วยการซัด 2 เม็ดใส่เจ้าภาพ กาตาร์ ในเกมแรก

 

11 ตัวจริงที่คาด
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) อันดรีส น็อพเพิร์ต – มัทไธส์ เดอ ลิกท์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์, ดาลี่ย์ บลินด์ – โคดี้ กัคโป – สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, เมมฟิส เดอปาย
เอกวาดอร์ (4-4-1-1, กุนซือ กุสตาโว่ อัลฟาโร่) อเล็กซานเดร์ โดมิงเกซ – เปร์วิส เอสตูปินยาน, เฟลิกซ์ ตอร์เรส, ปิเอโร่ อินคาปี้, โรเบิร์ต อาร์บอเลด้า – โรมาริโอ อิบาร์ร่า, มอยเซส ไกเซโด้, คาร์ลอส กรวยโซ่, อันเคโล่ เปรเซียโด้ – เยเรมี่ ซาร์เมียนโต้ – เอนเนร์ วาเลนเซีย

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เนเธอร์แลนด์ ชนะ 12 จาก 15 แมตช์หลัง
• เนเธอร์แลนด์ ยังไม่เสียประตูมา 3 นัดซ้อน และยิงได้ 5 ลูก
• เมมฟิส เดอปาย ยิงในทีมชาติไปถึง 42 ประตู เหลืออีกแค่ 8 ลูกจะเท่าสถิติสูงสุดของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
• เอนเนร์ วาเลนเซีย เคยผ่านฟุตบอลโลก 2014 มาแล้ว และยิงรวม 3 ประตู ใส่สวิตเซอร์แลนด์ (1) กับฮอนดูรัส (2) ก่อนจะมาบวกกาตาร์เพิ่ม 2 เม็ด

 

ความน่าจะเป็น
ชนะมาทั้งคู่ อยู่ในฟอร์มที่ดีและมั่นใจสูงด้วยกันทั้งสอง กระนั้นอันที่จริงในเกมแรก เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่ได้เล่นดีมากนัก หวิดเสมออยู่แล้วก่อนได้สองเม็ดรวดท้ายเกม ดังนั้นถ้า เอกวาดอร์ มาแบบเน้นๆ เก็บทุกเม็ดและไม่พลาดเอง ก็มีสิทธิ์คิดดึงแต้มได้ แม้จะลุ้นถึงชนะลำบากก็ตาม

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1, เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565
22.00 — เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์
22.00 — เอกวาดอร์ vs เซเนกัล

เซเนกัล vs เนเธอร์แลนด์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เซเนกัล vs เนเธอร์แลนด์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ : เซเนกัล vs เนเธอร์แลนด์
จันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม, โดฮา

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เซเนกัล
ชนะจุดโทษเหนือ อียิปต์ 3-1 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนแอฟริกา
(นัดแรกแพ้ 0-1 นัดสองชนะ 1-0)

เนเธอร์แลนด์
แชมป์กลุ่มจี รอบคัดเลือกโซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 33 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เซเนกัล
โคซาฟา คัพ เสมอ เอสวาตินี่ 1-1, ชนะจุดโทษ 10-9
โคซาฟา คัพ แพ้ แซมเบีย 3-4
โคซาฟา คัพ เสมอ โมซัมบิก 1-1, ชนะจุดโทษ 4-2
อุ่นเครื่อง ชนะ โบลิเวีย 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ อิหร่าน 1-1

เนเธอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 2-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ โปแลนด์ 2-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 3-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 2-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เบลเยียม 1-0

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อนแม้แต่เกมอุ่นเครื่อง

 

สภาพทีม
เซเนกัล
เจอข่าวร้ายผ่าเข้ากลางใจก่อนเตะนัดแรกแค่ 3-4 วัน เมื่อต้องเสีย ซาดิโอ มาเน่ ยอดหัวหอกคนสำคัญจาก บาเยิร์น มิวนิค เดี้ยงต้องถอนตัวไปจากฟุตบอลโลกแล้ว เนื่องจากเข้าผ่าตัดเข่า จากที่ก่อนหน้านี้คาดหมายกันว่าจะแค่พลาดเกมแรกเท่านั้น

ขณะเดียวกัน อับดู ดิยัลโล่ กองหลังแอร์เบ ไลป์ซิก ก็ต้องเช็กสภาพร่างกายว่าจะพร้อมหรือไม่ในเกมแรกนัดนี้

การขาด มาเน่ ทำให้จะเป็นโอกาสของ บูลาย เดีย กองหน้าของทีมซาแลร์นิตาน่า ในการลงเดินเกมรุกร่วมกับ อิสไมล่า ซาร์ และ ฟามาร่า ดีดิอู

นอกนั้นสมาชิกรายอื่นพร้อมรบ ทั้ง เอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูเชลซี กับ คาลิดู คูลิบาลี่ ปราการหลังจากเชลซีเช่นกัน รวมถึงสองกองกลาง นัมปาลิส เมนดี้ จากเลสเตอร์ และ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ จากเอฟเวอร์ตัน

 

เนเธอร์แลนด์
หลุยส์ ฟาน กัล เรียกตัว 26 คนสุดท้ายมาโดยมองข้ามดาวดังไปหลายรายทีเดียว เช่น ดอนเยลล์ มาเลน ของดอร์ทมุนด์, อาร์โนต์ ดันยูม่า ของบียาร์เรอัล, ไรอัน กราเวนเบิร์ช ของบาเยิร์น, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ ของอตาลันต้า, สเวน บ็อตมัน ของนิวคาสเซิ่ล ไม่นับรวมคีย์แมนแดนกลางอย่าง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ที่เจ็บหนักพักยาวหลังย้ายไป โรม่า ได้ไม่กี่วัน

สภาพทีมของ ฟาน กัล ยังมีปัญหาใหญ่ตรงที่ เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ เจ็บแฮมสตริงติดพันมา และจะไม่พร้อมลงสนามเกมแรก รวมถึงต้องเช็กฟิต เดนเซล ดุมฟรีส์ และ มาร์เทน เดอ รอน

อย่างไรก็ตาม แข้งระดับคุณภาพยังอัดแน่นในทีมกังหัน ซึ่งจะมาในระบบ 3-4-3 นายทวารใช้จอมเก๋าวัย 39 จากอาแจ็กซ์ เรมโก้ พาสเฟียร์ เฝ้าเสา หลังบ้านนำโดยกัปตันทีม เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แดนกลางมี เฟรงกี้ เดอ ยอง เป็นหลัก และแผงรุกวาง โคดี้ กัคโป, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, ลุค เดอ ยอง เข้าทำ

 

ตัวความหวัง
เซเนกัล : อิสไมล่า ซาร์
เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ ไม่อยู่ คนที่ เซเนกัล ต้องยึดโยงในเกมรุก (นอกจากเกมรับที่ต้องพึ่งพา คาลิดู คูลิบาลี่ กับความเหนียวหนึบของ เอดูอาร์ เมนดี้ แล้ว) ก็คงเป็น อิสไมล่า ซาร์ ปีกวัยรุ่นจาก วัตฟอร์ด ที่รับใช้ชาติไปแล้ว 48 นัด ซัด 10 ประตูด้วยกัน ทั้งนี้ ซาร์ ย้ายจาก แรนส์ มาสร้างชื่อกับ “แตนอาละวาด” ตั้งแต่เมื่อปี 2019 และที่ผ่านมาได้โชว์ฟอร์มในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 2 ซีซั่น ยิงรวม 11 ประตู ซึ่งความวูบวาบและคุณสมบัติต่างๆ อันพึงมีของตัวริมเส้นจาก ซาร์ ก็ทำให้เขาถูกเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล รวมทั้งทีมอื่นๆ มาแล้ว

เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
เป็นกรณีเดียวกันกับที่ เซเนกัล ไม่มี มาเน่ เมื่อ เนเธอร์แลนด์ ก็จะไม่มี เมมฟิส เดอปาย ในเกมแรกนี้เช่นกัน และความหวังในการเข้าทำจะเปลี่ยนถ่ายมาอยู่ที่ โคดี้ กัคโป แทน โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจมที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก ด้านการรับใช้ชาติก็ยิงแล้ว 3 เม็ดจากการเล่น 9 นัด

 

11 ตัวจริงที่คาด
เซเนกัล (4-3-3, กุนซือ อาลิยู ซิสเซ่) เอดูอาร์ เมนดี้, ยุสซูฟ ซาบาลี่, ปาเป้ อาบู ซิสเซ่, คาลิดู คูลิบาลี่ (C), โฟเด้ บัลโล-ตูเร่ – ปาเป้ มาตาร์ ซาร์, นัมปาลิส เมนดี้, อิดริสซ่า เกย์ – อิสไมล่า ซาร์, บูลาย เดีย, ฟามาร่า ดีดิอู
เนเธอร์แลนด์ (3-4-3, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) เรมโก้ พาสเฟียร์ – ยูร์เรียน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (C), นาธาน อาเก้ – เยเรมี่ ฟริมปง, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เทน คอปไมเนอร์ส, ดาลี่ย์ บลินด์ – โคดี้ กัคโป, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, ลุค เดอ ยอง

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เซเนกัล ไม่ชนะใครมาใน 3 เกมหลัง ที่เป็นเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด และนี่เพิ่งเป็นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหนที่ 3 ของพวกเขาเท่านั้น
• อิสไมล่า ซาร์ กับ ฟามาร่า ดีดิอู ยิงในทีมชาติรวมกัน 20 ประตู (คนละ 10 พอดี)
• เมมฟิส เดอปาย ยิงในทีมชาติไปถึง 42 ประตู เหลืออีกแค่ 8 ลูกจะเท่าสถิติสูงสุดของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
• เกมบอลโลกรอบสุดท้าย เกมสุดท้ายของ เนเธอร์แลนด์ คือนัดชิงอันดับ 3 บอลโลก 2014 ที่ยิงชนะ บราซิล ขาดลอย 3-0

 

ความน่าจะเป็น
ตัวแปรสำคัญของเกมนี้อยู่ที่ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งเมื่อยอดดาวยิงจากบาเยิร์น เจ็บหนักจนต้องถอนตัวจากฟุตบอลโลกไปแล้ว ก็ทำให้ เซเนกัล ลดความอันตรายลงไปเยอะ และแม้แดนกลาง-แดนหลังจะยังพอมีตัวดีๆ อยู่ แต่คุณภาพของทัพอัศวินสีส้ม จัดว่าเหนือกว่าเยอะ มีโอกาสจะชนะมากกว่าออกหน้าอื่น

 

ผลที่คาด : เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-1

 

โปรแกรมถัดไป
เซเนกัล
25 พ.ย. พบ กาตาร์
29 พ.ย. พบ เอกวาดอร์

เนเธอร์แลนด์
25 พ.ย. พบ เอกวาดอร์
29 พ.ย. พบ กาตาร์

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

กังหัน, สิงโต, ฟ้าขาว, ตราไก่, กระทิง, อินทรีเหล็ก, ปีศาจแดง, ฝอยทอง ใครกัน จะเข้าใกล้ความสำเร็จแห่งฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด…เมื่อพิจารณาจากขุมกำลังนักเตะที่เผยออกมา

 

นับถอยหลังแค่ไม่กี่คืน ทัวร์นาเมนต์ที่โลกรอคอยอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ก็จะมาถึง และเกือบทุกทีมก็เผยชื่อนักเตะ 26 คนสุดท้ายที่จะไปแอ่วกาตาร์ ออกมาแล้ว

 

ด้านล่างนี้คือ 26 รายชื่อชุดสุดท้ายของบรรดาชาติยักษ์ใหญ่ มีเอี่ยวลุ้นแชมป์โลก ที่ทยอยประกาศออกมาก่อนที่ เวิลด์ คัพ จะเริ่มโรมรันประชันแข้งกันราว 1 สัปดาห์

 

ใครเป็นใคร ใครไปบอลโลก ใครหลุดโผ ใครจัดให้ครบถ้วนกว่านี้ มาบอก!

 

 

กังหันลม เนเธอร์แลนด์ กับความหวังถึง ‘ครั้งแรก’
แม้จะผลิตยอดดาวเตะขึ้นสู่วงการได้แบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลกได้มาก่อน โดยต้องเจ็บปวดกับการเป็น “พระรอง” ถึง 3 ครั้ง คือฟุตบอลโลก 1974, 1978 และ 2010 ที่ถึงชิงชนะเลิศแล้วแต่กลับแพ้ทั้งสามครั้ง

 

ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นตรงที่ฟุตบอลโลกครั้งก่อน รัสเซีย 2018 เนเธอร์แลนด์ ตกต่ำสุดถึงขั้นตกรอบคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้น มาคราวนี้ในการทำทีมของคนคุ้นเคยอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาจึงพกความมุ่งมั่นมาอย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก ร่วมกับเจ้าภาพ กาตาร์, เอกวาดอร์ และ เซเนกัล แม้อาจเป็นบอลต่างสไตล์ไม่ค่อยได้เจอนัก แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ จากนั้นในรอบน็อกเอาต์ก็ต้องมาตามลุ้นกันว่าจะได้คู่แข่งเป็นใครในแต่ละรอบ ดูกันแต่ละแมตช์ แล้วถึงเวลาจะเห็นเองว่า “แชมป์โลกสมัยแรก” มีความเป็นไปได้มากขนาดไหน

 

สำหรับขุมกำลังที่ ฟาน กัล หิ้วไปกาตาร์ ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดิมๆ ที่ใช้มาตลอดปีหลังๆ แต่ก็น่าเสียดายแทนตัวที่หลุดออกไป ทั้ง สเวน บ็อตมัน, ฮานส์ ฮาเตบัวร์, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (ส่วน จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ปกติต้องได้ไป แต่ดันเจ็บหนักพักยาวเสียก่อน) ซึ่งมองว่า ถ้าบางคนได้ไป น่าจะมีประโยชน์กับทัพกังหันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ บ็อตมัน เซนเตอร์แบ็กวัย 22 ที่เล่นดีมากกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้

 

โผ 26 แข้งเนเธอร์แลนด์ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยุสติน ไบจ์โลว์ / อายุ 24 / เฟเยนูร์ด / เล่นทีมชาติ 6 นัด
เรมโก้ พาสเฟียร์ / 39 / อาแจ็กซ์ / 2
อันเดรียส น็อพเพิร์ต / 28 / ฮีเรนวีน / 0

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ / 32 / อาแจ็กซ์ / 94 – 2
สเตฟาน เดอ ฟราย / 30 / อินเตอร์ / 59 – 3
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม) / 31 / ลิเวอร์พูล / 49 – 6
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ / 23 / บาเยิร์น / 38 – 2
เดนเซล ดุมฟรีส์ / 26 / อินเตอร์ / 37 – 5
นาธาน อาเก้ / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 29 – 3
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ / 21 / อาแจ็กซ์ / 10 – 0
ไทเรลล์ มาลาเซีย / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 0
เยเรมี่ ฟริมปง / 21 / เลเวอร์คูเซ่น / 0 – 0

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง / 25 / บาร์เซโลน่า / 45 – 1
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ / 30 / อาแจ็กซ์ / 39 – 2
ดาวี่ คลาสเซ่น / 29 / อาแจ็กซ์ / 35 – 9
มาร์เท่น เดอ รอน / 31 / อตาลันต้า / 30 – 0
เทน โคปไมเนอร์ส / 24 / อตาลันต้า / 10 – 1
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ / 20 / อาแจ็กซ์ / 2 – 0
ชาบี ซิมอนส์ / 19 / พีเอสวี / 0-0

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย / 28 / บาร์เซโลน่า / 81 – 42
ลุค เดอ ยอง / 32 / พีเอสวี / 38 – 8
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ / 25 / อาแจ็กซ์ / 24 – 7
วินเซนต์ ยานส์เซ่น / 28 / อันท์เวิร์ป / 20 – 7
วู้ท เวกอร์ทส์ / 30 / เบซิคตัส / 15 – 3
โคดี้ กัคโป / 23 / พีเอสวี / 9 – 3
โนอา ลัง / 23 / คลับ บรูช / 5 – 1

หลุดโผ
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (เอ็นอีซี), ทิม ครูล (นอริช), สเวน บ็อตมัน (นิวคาสเซิ่ล), ปาสกาล สเตราค์ (ลีดส์), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮานส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), ยอร์ดี้ คลาซี่ (อาแซด), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), ไรอัน กราเฟนเบิร์ค (บาเยิร์น), จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ดอนเยลล์ มาเลน (ดอร์ทมุนด์), อาร์โนต์ ดันยูม่า (บียาร์เรอัล), ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (อาแจ็กซ์)

 

 

 

สิงโตคำราม อังกฤษ กับฟุตบอลโลก 2022 และคำปรามาส
ท่ามกลางคำปรามาสที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเผชิญ อันที่จริง อดีตนายใหญ่มิดเดิ้ลโบรช์ ก็พา อังกฤษ เข้ารอบลึกมาแล้ว 2 รายการติดต่อกัน ทั้งฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกตัดเชือก (และเป็นอันดับ 4) ต่อด้วยยูโร 2020 ที่ถึงชิงมาแล้ว ก่อนแพ้อย่างหวุดหวิดมากๆ เพียงการดวลจุดโทษต่อ อิตาลี เท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลค่อนข้างเป็นกังวล คือฟอร์มช่วงหลังที่สิงโตออกทรงฟุบอย่างชัดเจน เอาชนะใครไม่เป็นเลยใน 6 เกมของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จนตกชั้น และน่าหวั่นเกรงว่าจะเร่งเครื่องฮึดขึ้นทันไหมเมื่อฟุตบอลโลก 2022 มาถึง

 

และกับขุมกำลัง 26 สิงโตคำราม ที่ เซาธ์เกต เลือกไป ก็ก่อให้เกิดคำถามในหลายจุดเหมือนกัน ตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด ทั้งการที่ยังคงเชื่อใจในจอมรั่วอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ถึงขั้นที่น่าจะยังคงยัดลงตัวจริงไม่เปลี่ยน, แดนกลางที่หิ้ว แคลวิน ฟิลลิปส์ ผู้ซึ่งเจ็บออดๆ แอดๆ มาทั้งซีซั่น ติดไปด้วย หรือข้างหน้าที่ไม่แคล้วคงต้องพึ่งพา แฮร์รี่ เคน เป็นสำคัญ

 

คำถามทั้งหมด จะปรากฏคำตอบในเกมกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์ และรอบถัดๆ ไป หากไม่เกิดข้อผิดพลาดหนักหนาจนร่วงรอบแรกแบบช็อกโลกไปเสียก่อน

 

โผ 26 แข้งอังกฤษ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. จอร์แดน พิคฟอร์ด / 28 / เอฟเวอร์ตัน / 45
13. นิค โป๊ป / 10 / นิวคาสเซิ่ล / 10
23. อารอน แรมส์เดล / 24 / อาร์เซน่อล / 3

กองหลัง
2. ไคล์ วอล์คเกอร์ / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 70 – 0
3. ลุค ชอว์ / 27 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 23 – 3
5. จอห์น สโตนส์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 59 – 3
6. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 7
12. คีแรน ทริปเปียร์ / 32 / นิวคาสเซิ่ล / 37 – 1
15. เอริก ไดเออร์ / 28 / สเปอร์ส / 47 – 3
16. โคเนอร์ คอดี้ / 29 / เอฟเวอร์ตัน / 10 – 1
18. เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ / 24 / ลิเวอร์พูล / 17 – 1
21. เบน ไวท์ / 25 / อาร์เซน่อล / 4 – 0

กองกลาง
4. ดีแคลน ไรซ์ / 23 / เวสต์แฮม / 34 – 2
8. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน / 32 / ลิเวอร์พูล / 70 – 2
14. แคลวิน ฟิลลิปส์ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 23 – 0
19. เมสัน เมาท์ / 23 / เชลซี / 32 – 5
22. จู๊ด เบลลิงแฮม / 19 / ดอร์ทมุนด์ / 17 – 0
26. โคเนอร์ กัลลาเกอร์ / 22 / เชลซี / 4 – 0

กองหน้า
7. แจ๊ค กรีลิช / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 24 – 1
9. แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม) / 29 / สเปอร์ส / 75 – 51
10. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง / 27 / เชลซี / 79 – 19
11. มาร์คัส แรชฟอร์ด / 25 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 46 – 12
17. บูกาโย่ ซาก้า / 21 / อาร์เซน่อล / 20 – 4
20. ฟิล โฟเด้น / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 18 – 2
24. คัลลั่ม วิลสัน / 30 / นิวคาสเซิ่ล / 4 – 1
25. เจมส์ แมดดิสัน / 26 / เลสเตอร์ / 1 – 0

หลุดโผ
ดีน เฮนเดอร์สัน (ฟอเรสต์), เบน ชิลเวลล์ (เชลซี), รีซ เจมส์ (เชลซี), ฟิคาโย่ โทโมรี่ (มิลาน), เจมส์ จัสติน (เลสเตอร์), ไทโรน มิงส์ (วิลล่า), ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เซาธ์แฮมป์ตัน), แอชลี่ย์ ยัง (วิลล่า), ไรอัน แซสเซยง (สเปอร์ส), ติโน่ ลอฟราเมนโต้ (เซาธ์แฮมป์ตัน), ทาริค แลมป์ตี้ย์ (ไบรท์ตัน), เคอร์ติส โจนส์ (ลิเวอร์พูล), เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), โอลิเวอร์ สคิปป์ (สเปอร์ส), แฮร์รี่ วิงค์ส (ซามพ์โดเรีย), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ลิเวอร์พูล), แอนโธนี่ กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน), แทมมี่ อบราแฮม (โรม่า), จาร์ร็อด โบเว่น (เวสต์แฮม), ไอแวน โทนี่ย์ (เบรนท์ฟอร์ด), โอลลี่ วัตกิ้นส์ (วิลล่า), แดนนี่ เวลเบ็ค (ไบรท์ตัน), เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ชุดนี้…ถึงแชมป์โลก???
ทั้งเอไอ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, โปรแกรมซิมูเลชั่นของเกมฟีฟ่า หรือการคาดหมายของหลากหลายกูรู ต่างก็ได้บทสรุปเดียวกันคือ แชมป์โลกประจำปีนี้ ได้แก่ ทีมชาติเมสซี่-เอ๊ย-ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่

 

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อมีความคาดหวังสูงขนาดนี้ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว จะสามารถนำโทรฟี่แชมป์โลกมาเสิร์ฟได้หรือไม่ เมื่ออย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายสิบปี (จากแชมป์โลกหนสุดท้าย 1986) ว่าพวกเขามักไม่ “ขาด” ก็ “ล้นเกิน” ในบางอย่างหรือบางจุด จนไม่ประสบความสำเร็จซ้ำรอยยุค ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้อีกเลย

 

แต่กระนั้น อาร์เจนติน่า ชุดนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” กำลังอยู่ในการต่อยอดสถิติไร้พ่ายให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งขุมกำลังที่ สคาโลนี่ เลือกมา ก็ดูจะไม่ได้ขาดอะไรไปนัก มีแค่ โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์บียาร์เรอัล ที่เป็นแกนหลักแดนกลางในรอบคัดเลือก ซึ่งต้องถอนตัวไปเนื่องจากบาดเจ็บ กับเด็กใหม่มาแรงอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ถูกเรียกตัว ทว่าอันที่จริงก็ไม่เคยติดธงมาก่อนแต่อย่างใด

 

โผ 26 แข้งอาร์เจนติน่า ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ / 30 / วิลล่า / 18
ฟรังโก้ อาร์มานี่ / 36 / ริเวอร์เพลท / 18
เคโรนิโม่ รุลลี่ / 30 / บียาร์เรอัล / 4

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ / 34 / เบนฟิก้า / 92 – 4
มาร์กอส อคุนย่า / 31 / เซบีย่า / 42 – 0
นิโกลัส ตายาฟิโก้ / 30 / ลียง / 42 – 0
เคร์มัน เปซเซลล่า / 31 / เรอัล เบติส / 31 – 2
นาอูเอล โมลิน่า / 24 / แอตฯ มาดริด / 19 – 0
กอนซาโล่ มอนเทียล / 25 / เซบีย่า / 17 – 0
ฮวน ฟอยธ์ / 24 / บียาร์เรอัล / 15 – 0
คริสเตียน โรเมโร่ / 24 / สเปอร์ส / 12 – 1
ลิซานโดร มาร์ติเนซ / 24 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 9 – 0

กองกลาง
เลอันโดร ปาเรเดส / 28 / ยูเวนตุส / 45 – 4
โรดริโก้ เด ปอล / 28 / แอตฯ มาดริด / 43 – 2
กีโด้ โรดริเกซ / 28 / เรอัล เบติส / 25 – 1
เอเซเกล ปาลาซิออส / 24 / เลเวอร์คูเซ่น / 20 – 0
อเลฮานโดร โกเมซ / 34 / เซบีย่า / 15 – 3
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ / 23 / ไบรท์ตัน / 7 – 0
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ / 21 / เบนฟิก้า / 2 – 0

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม) / 35 / เปแอสเช / 164 – 90
อังเคล ดิ มาเรีย / 34 / ยูเวนตุส / 123 – 25
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ / 25 / อินเตอร์ / 40 – 21
เปาโล ดีบาล่า / 29 / โรม่า / 34 – 3
นิโกลัส กอนซาเลซ / 24 / ฟิออเรนติน่า / 21 – 3
ฮัวกิน กอร์เรอา / 28 / อินเตอร์ / 18 – 3
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 11 – 2

หลุดโผ
ฮวน มุสโซ่ (อตาลันต้า), ลูคัส มาร์ติเนซ (ฟิออเรนติน่า), มาร์กอส เซเนซี่ (บอร์นมัธ), โจวานี่ โล เซลโซ่ (บียาร์เรอัล), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (วิลล่า), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), อังเคล กอร์เรอา (แอตฯ มาดริด), โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ตราไก่ ฝรั่งเศส กับหลายคำถามซึ่งต้องพิสูจน์
น่าสนใจ…น่าสนใจมากกับก้าวเดินของ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ เมื่อมีอย่างน้อย 4-5 คำถามที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ และบรรดาแข้งตราไก่ จะต้องตอบให้ได้ เช่นว่า

 

1. อาถรรพ์แชมป์เก่า ทั้ง อิตาลี, สเปน, เยอรมนี ต่างเอาตัวไม่รอด เป็นแชมป์โลกมาแล้วก็ร่วงเพียงรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ถัดมาทั้งหมด ฝรั่งเศสล่ะ จะเข้าทรงเดียวกันหรือเปล่า

 

2. ขุมกำลัง พร้อมจริงๆ ไหม เมื่อตัวเจ็บสำคัญ อดไปบอลโลกมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และล่าสุดกับ เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ เซนเตอร์แบ็กเปแอสเช ที่ต้องถอนตัวจากการศึกครั้งนี้ไป แถม คาริม เบนเซม่า กับ ราฟาแอล วาราน ที่่ต่างก็เป็นคีย์แมนในเกมรุกและรับ ยังบาดเจ็บติดพัน ไม่ได้ช่วย เรอัล มาดริด ตลอดสี่ซ้าห้าเกมหลังอีกต่างหาก

 

3. ความเปลี่ยนแปลง ที่มีค่อนข้างเยอะจากชุดแชมป์โลก จะส่งผลดีหรือเสีย อย่างน้อยแผงกลางทั้งแผง เปลี่ยนหมด หรือจากชุดลุยยูโร 2020 ก็มีแค่ อาเดรียง ราบิโอต์ คนเดียวที่หลงเหลือมาอยู่ในทีมชุดนี้

 

4. การต้องเจอทีมของแสลงอย่าง เดนมาร์ก อีกแล้ว หลังแพ้มาทั้งเหย้าเยือนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (1-2, 0-2) รอบปีที่ผ่านมา หากยังคงซ้ำแผลเก่า แพ้ทีมโคนมเป็นครั้งที่ 3 ติดกันขึ้นมา ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งร่วงรอบแรก หรือเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ไปเจอกระดูกชิ้นโตตั้งแต่รอบ 16 ทีม

 

5. ฟอร์มช่วงหลัง น่าเป็นห่วงใช่ย่อย ชนะเกม เนชั่นส์ ลีก แค่นัดเดียวเหนือ ออสเตรีย 2-0 นอกนั้นเสมอ 2 แพ้ 3 แม้ข้อดีคือการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก อย่างน้อยน่าผ่าน ออสเตรเลีย กับ ตูนิเซีย ได้ แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าไปเจอของแข็งในรอบน็อกเอาต์แล้ว ก็เสียวว่า เอ็มบัปเป้ และชาวคณะ จะไปไม่เป็น

 

โผ 26 แข้งฝรั่งเศส ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
อูโก้ โยริส / 35 / สเปอร์ส / 139
สตีฟ ม็องด็องด้า / 37 / แรนส์ / 34
อัลฟงส์ อเรโอล่า / 29 / เวสต์แฮม / 5

กองหลัง
ราฟาแอล วาราน / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 87 – 5
เบนชาแม็ง ปาวาร์ / 26 / บาเยิร์น / 46 – 2
ลูคัส เอร์นันเดซ / 26 / บาเยิร์น / 32 – 0
อักเซล ดิซาซี่ / 24 / โมนาโก / 0 – 0
ชูลส์ กุนเด้ / 24 / บาร์เซโลน่า / 12 – 0
เตโอ เอร์นันเดซ / 25 / มิลาน / 7 – 1
วิลเลี่ยม ซาลิบา / 21 / อาร์เซน่อล / 7 – 0
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ / 24 / บาเยิร์น / 7 – 1
อิบราฮิมา โกนาเต้ / 23 / ลิเวอร์พูล / 2 – 0

กองกลาง
อาเดรียง ราบิโอต์ / 27 / ยูเวนตุส / 29 – 2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ / 22 / เรอัล มาดริด / 14 – 1
มัตเตโอ เก็นดูซี่ / 23 / มาร์กเซย / 6 – 1
จอร์แดน เวเรตูต์ / 29 / มาร์กเซย / 5 – 0
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า / 20 / เรอัล มาดริด / 4 – 1
ยุสซูฟ โฟฟาน่า / 23 / โมนาโก / 2 – 0

กองหน้า
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ / 36 / มิลาน / 114 – 49
อองตวน กรีซมันน์ / 31 / แอตฯ มาดริด / 110 – 42
คาริม เบนเซม่า / 34 / เรอัล มาดริด / 97 – 37
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ / 23 / เปแอสเช / 59 – 28
คิงสลี่ย์ โกม็อง / 26 / บาเยิร์น / 40 – 5
อุสมัน เดมเบเล่ / 25 / บาร์เซโลน่า / 28 – 4
คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู / 25 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 8 – 0
มาร์คัส ตูราม / 25 / กลัดบัค / 4 – 0

หลุดโผ
ไมค์ เมนยอง (มิลาน), เบอนัวต์ คอสติล (โอแซร์), เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ (เปแอสเช), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เรอัล มาดริด), เบนชาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้), โชนาต็อง เคลาส์ (มาร์กเซย), ลูก้าส์ ดีญ (วิลล่า), เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม), บูบาการ์ กามาร่า (วิลล่า), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี), ปอล ป๊อกบา (ยูเวนตุส), สตีเว่น เอ็นซอนซี่ (อัล-รายยาน), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (อินเตอร์ ไมอามี่), นาบิล เฟคีร์ (เบติส), โตมัส เลอมาร์ (แอตฯ มาดริด), วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น)

 

 

 

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จากแชมป์โลกสู่รอบแรก, จากรอบแรกสู่…
ภายหลังเข้ามาสานต่องานของ โยอัคคิม เลิฟ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฮันซี่ ฟลิค ก็สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพอินทรีเหล็ก ด้วยการพาทีมชนะรวดถึง 7 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหนนี้ จนเป็นทีมแรกของยุโรปที่การันตีเข้ารอบสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม กับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในรอบปีที่ผ่านมา เยอรมนี ก็ถือว่าเสียรังวัดไปพอสมควร เมื่อกลับเอาชนะคู่แข่งได้แค่เกมเดียว (5-2 อิตาลี) นอกนั้นเสมอรัวๆ 4 เกม และแพ้พลิกล็อกคาบ้านต่อ ฮังการี หนึ่งนัด เรียกว่าพวกเขามุ่งหน้าสู่กาตาร์แบบที่ระดับความมั่นใจไม่ได้สูงมาก ทั้งยังต้องเสีย 2 คีย์แมนเกมรุกอย่าง มาร์โก รอยส์ จอมทัพดอร์ทมุนด์ กับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ล้มเจ็บอดไปบอลโลกทั้งคู่ด้วย

 

จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา, เริ่มต้นตั้งแต่รอบแรกที่ต้องอยู่ในสายแข็งร่วมกับ สเปน-ญี่ปุ่น-คอสตาริกา, ว่าถัดจากการร่วงรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ครั้งก่อนแล้ว อินทรีเหล็ก 2022 จะไปได้ไกลถึงไหน

 

โผ 26 แข้งเยอรมนี ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. มานูเอล นอยเออร์ / 36 / บาเยิร์น / 113
12. เควิน ทรัปป์ / 32 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 6
22. มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น / 30 / บาร์เซโลน่า / 30

กองหลัง
2. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ / 29 / เรอัล มาดริด / 54 -2
3. ดาวิด เราม์ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 11 – 0
4. มัทธีอัส กินเทอร์ / 28 / ไฟรบวร์ก / 46 – 2
5. ติโล เคห์เรอร์ / 26 / เวสต์แฮม / 22 – 0
15. นิคลาส ซูเล่ / 27 / ดอร์ทมุนด์ / 42 – 1
16. ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ / 26 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 18 – 0
20. คริสเตียน กุนเทอร์ / 29 / ไฟรบวร์ก / 6 – 0
23. นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค / 22 / ดอร์ทมุนด์ / 5 – 0
25. อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป / 20 / เซาธ์แฮมป์ตัน / 1 – 0

กองกลาง
6. โยชัว คิมมิช / 27 / บาเยิร์น / 70 – 5
7. ไค ฮาแวร์ตซ์ / 23 / เชลซี / 30 – 10
8. เลออน โกเร็ตซ์ก้า / 27 / บาเยิร์น / 44 – 14
11. มาริโอ เกิทเซ่ / 30 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 63 – 17
14. จามาล มูเซียล่า / 19 / บาเยิร์น / 17 – 1
17. ยูเลี่ยน บรันท์ / 26 / ดอร์ทมุนด์ / 38 – 3
18. โยนาส ฮอฟมันน์ / 30 / กลัดบัค / 16 – 4
21. อิลคาย กุนโดกัน / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 62 – 16

กองหน้า
9. นิคลาส ฟุลล์ครุก / 29 / เบรเมน / 0 – 0
10. แซร์จ นาบรี้ / 27 / บาเยิร์น / 36 – 20
13. โธมัส มุลเลอร์ / 33 / บาเยิร์น / 118 – 44
19. เลรอย ซาเน่ / 26 / บาเยิร์น / 47 – 11
24. คาริม อเดเยมี่ / 20 / ดอร์ทมุนด์ / 4 – 1
26. ยุสซูฟา มูโกโก้ / 18 / ดอร์ทมุนด์ / 0 – 0

หลุดโผ
แบร์นด์ เลโน่ (ฟูแล่ม), มัตส์ ฮุมเมิลส์ (ดอร์ทมุนด์), เยโรม บัวเต็ง (ลียง), โรบิน โกเซนส์ (อินเตอร์), เบนจามิน เฮนริกส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น), โรบิน ค็อก (ลีดส์), มาร์โก รอยส์ (ดอร์ทมุนด์), ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (เบนฟิก้า), ฟลอเรียน นอยเฮาส์ (กลัดบัค), ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล (กลัดบัค), ติโม แวร์เนอร์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก)

 

 

 

กระทิงดุ สเปน ในระบบเผด็จการของ หลุยส์ เอ็นริเก้
หนึ่งคือทรัพยากรนักเตะดีๆ ของ สเปน มีเยอะมาก และอีกหนึ่งก็คือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มีแนวทางและการตัดสินใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมาก ไม่สนกระแสสังคมใดๆ ทั้งสิ้น เราจึงได้เห็นแข้งสแปนิชตกขบวนอดไปฟุตบอลโลก 2022 อื้อซ่าตามรายชื่อด้านล่าง ชนิดไปรวมตัวเป็นอีกทีมได้ง่ายๆ

 

แต่ก็แน่นอนว่า การเลือกตัวแบบไม่ฟังเสียงใครของ เอ็นริเก้ ย่อมจะนำมาซึ่งความเสี่ยง ถ้าผลงานที่กาตาร์ไปได้สวย ก็รับเสียงปรบมือไป แต่ถ้าล้มเหลวขึ้นมา ไม่ต้องสงสัย… เละ

 

น่าสนใจมากเสียด้วยกับการที่ต้องอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย เจองานหนักทุกนัดในรอบแรก ไล่ตั้งแต่กับ คอสตาริกา ไปต่อกับ เยอรมนี ปิดท้ายด้วยเกมกับ ญี่ปุ่น

 

กระทิงดุในระบบเผด็จการของ เอ็นริเก้ จะออกหัวออกก้อย เดี๋ยวรู้กัน — เริ่มตั้งแต่รอบแรกนี่เลย!

 

โผ 26 แข้งสเปน ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
อูไน ซิมอน / 25 / บิลเบา / 27
โรเบิร์ต ซานเชซ / 25 / ไบรท์ตัน / 1
ดาบิด ราย่า / 27 / เบรนท์ฟอร์ด / 1

กองหลัง
จอร์ดี้ อัลบา / 33 / บาร์เซโลน่า / 86 – 9
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า / 33 / เชลซี / 41 – 1
ดานี่ การ์บาฆัล / 30 / เรอัล มาดริด / 30 – 0
เปา ตอร์เรส / 25 / บียาร์เรอัล / 21 – 1
โฆเซ่ กาย่า / 27 / บาเลนเซีย / 18 – 3
เอริก การ์เซีย / 21 / บาร์เซโลน่า / 18 – 0
อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 15 – 1
อูโก้ กียามอน / 22 / บาเลนเซีย / 3 – 1

กองกลาง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ / 34 / บาร์เซโลน่า / 139 – 2
โกเก้ / 30 / แอตฯ มาดริด / 67 – 0
โรดรี้ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 34 – 1
มาร์กอส ยอเรนเต้ / 27 / แอตฯ มาดริด / 17 – 0
เปดรี้ / 19 / บาร์เซโลน่า / 14 – 0
กาบี / 18 / บาร์เซโลน่า / 12 – 1
คาร์ลอส โซเลร์ / 25 / เปแอสเช / 11 – 3

กองหน้า
อัลบาโร่ โมราต้า / 30 / แอตฯ มาดริด / 57 – 27
เฟร์ราน ตอร์เรส / 22 / บาร์เซโลน่า / 30 – 13
มาร์โก อเซนซิโอ / 26 / เรอัล มาดริด / 29 – 1
ปาโบล ซาราเบีย / 30 / เปแอสเช / 24 – 9
ดานี่ โอลโม่ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 24 – 4
เยเรมี่ ปิโน่ / 20 / บียาร์เรอัล / 6 – 1
อันซู ฟาติ / 20 / บาร์เซโลน่า / 4 – 1
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ / 20 / บิลเบา / 2 – 0

หลุดโผ
ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (ลีดส์), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), อเลฆานโดร บัลเด้ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), เซร์จี้ โรเบร์โต้ (บาร์เซโลน่า), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), มิเกล เมริโน่ (โซเซียดัด), เซร์คิโอ กานาเลส (เบติส), แบรส เมนเดซ (โซเซียดัด), ปาโบล ฟอร์นัลส์ (เวสต์แฮม), บราฮิม ดิอาซ (มิลาน), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด), ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า), เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล), ราอูล เด โตมัส (ราโย บาเยกาโน่)

 

 

 

ปีศาจแดง เบลเยียม กับยุคทองหนสุดท้าย
อย่างที่ได้เอ่ยถึงไปแล้วใน คำให้การของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ว่า เบลเยียม ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ด้วยเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ กับการเป็น เวิลด์ คัพ หนสุดท้ายของยุคทอง เบลเจี้ยน โกลเด้น เจเนอเรชั่น เนื่องจากอีก 4 ปีข้างหน้า ยังไม่รู้ว่าพวก เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ติโบต์ กูร์กตัวส์, โรเมลู ลูกากู จะยังพร้อมรับใช้ชาติอยู่หรือไม่

 

รอบแรก ไม่น่าใช่ปัญหา แข็งหน่อยมี โครเอเชีย แต่ก็ยังแข็งไม่เท่าพวกเขา ส่วนอีกสองคู่แข่งอย่าง แคนาดา กับ โมร็อกโก ทิศทางออกไปในทางว่า จะชนะมากหรือชนะน้อย ดังนั้น คงต้องจับตาดูต่อในรอบน็อกเอาต์ ทีละแมตช์ ทีละก้าว

 

สำหรับขุมกำลังที่ มาร์ติเนซ เลือกมา ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไร แค่น่าเป็นห่วงที่ความฟิตของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งได้เล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ไปแค่ 5 นัดในซีซั่นนี้ รวมถึงการเรื้อสนามของ เอแด็น อาซาร์ ที่ช่วงหลังกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ในแนวรุกเรอัล มาดริด ไปแล้ว จะส่งผลเสียมากน้อยประการใด

 

โผ 26 แข้งเบลเยียม ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
ติโบต์ กูร์กตัวส์ / 30 / เรอัล มาดริด / 96
ซิมง มินโยเล่ต์ / 34 / คลับ บรูช / 35
โคเอน คาสตีลส์ / 30 / โวล์ฟสบวร์ก / 4

กองหลัง
ยาน แฟร์ตองเก้น / 35 / อันเดอร์เลทช์ / 141 – 9
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ / 33 / อันท์เวิร์ป / 123 – 5
โธมัส มูนิเยร์ / 31 / ดอร์ทมุนด์ / 58 – 8
ทิโมธี คาสตันเย่ / 26 / เลสเตอร์ / 25 – 2
อาร์เธอร์ เธียเต้ / 22 / แรนส์ / 3 – 0
เซโน่ เดบาสต์ / 19 / อันเดอร์เลทช์ / 2 – 0
วู้ท ฟาเอส / 24 / เลสเตอร์ / 1 – 0

กองกลาง
อักเซล วิตเซล / 33 / แอตฯ มาดริด / 126 – 12
เควิน เดอ บรอยน์ / 31 / แมนฯ ซิตี้ / 93 – 25
ยานนิค การ์รัสโก้ / 29 / แอตฯ มาดริด / 59 – 8
ยูรี่ ตีเลอมันส์ / 25 / เลสเตอร์ / 54 – 5
เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ / 27 / วิลล่า / 29 – 1
ฮานส์ ฟานาเก้น / 30 / คลับ บรูช / 22 – 5
เลอันโดร ทรอสซาร์ / 27 / ไบรท์ตัน / 21 – 5
ชาร์ลส์ เด คาตาแลร์ / 21 / มิลาน / 10 – 1
อมาดู โอนาน่า / 21 / เอฟเวอร์ตัน / 2 – 0

กองหน้า
เอแด็น อาซาร์ / 31 / เรอัล มาดริด / 122 – 33
ดรีส เมอร์เท่นส์ / 35 / กาลาตาซาราย / 106 – 21
โรเมลู ลูกากู / 29 / อินเตอร์ / 102 – 68
มิชี่ บัตชูอายี่ / 29 / เฟเนร์บาห์เช่ / 47 – 26
ธอร์แกน อาซาร์ / 29 / ดอร์ทมุนด์ / 45 – 9
เยเรมี่ โดกู / 20 / แรนส์ / 10 – 2
โลอิส โอเพ็นด้า / 22 / ล็องส์ / 4 – 1

หลุดโผ
มัตซ์ เซลส์ (สตราส์บูร์ก), เจสัน เดนาเยอร์ (ชาบับ อัล-อาห์ลี), เดดริค โบยาต้า (คลับ บรูช), โธมัส โฟเก็ต (แร็งส์), อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส (มิลาน), เดนนิส ปราเอ้ต์ (เลสเตอร์), อัลแบร์ แซมบี้ โลกอนก้า (อาร์เซน่อล), นาเซอร์ ชาดลี่ (เวสเตอร์โล), คริสเตียน เบนเตเก้ (ดีซี ยูไนเต็ด), ดิว็อค โอริกี้ (มิลาน), อัดนาน ยานาไซ (เซบีย่า)

 

 

 

โปรตุเกส กับบอลโลกครั้งสั่งลา CR7
สั่นสะเทือนวงการดีเหลือเกินกับการทิ้งระเบิดลูกนาปาล์มเดธของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านการให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีของอังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นตอนนี้ คือเรื่อง ฟุตบอลโลก 2022 การช่วยชาติไปให้ถึงฝั่งฝัน — ที่น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของชายวัยย่าง 38 อย่าง โรนัลโด้ ด้วย

 

ว่ากันตามตรง ชื่อนักเตะชุดลุยกาตาร์ของ แฟร์นันโด ซานโตส แข็งแกร่งน่าเกรงขามไม่เบา ดูหนั่นแน่นตั้งแต่หลังสุดมาหน้าสุด โดยเฉพาะเกมรุกที่เลือกลำบากเลย เมื่อคงต้องกันโควตาหนึ่งที่ไว้ให้ โรนัลโด้ ส่วนที่เหลือ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ราฟาแอล เลเอา (เอซี มิลาน) ไปแย่งกันเอา

 

แต่ก็ต้องว่ากันตามตรงเพิ่มอีกว่า โปรตุเกส มีสิทธิ์จะแข็งขึ้นกว่านี้อีก ถ้าบรรดาตัวที่หลุดไปอย่าง มาริโอ รุย, เซดริก โซอาเรส, เนลซอน เซเมโด้, ชูเอา มูตินโญ่, เรนาโต้ ซานเชส, เปโดร เนโต้, กอนซาโล่ เกเดส ไม่นับ ดีโอโก้ โชต้า (บาดเจ็บ) ถูกหอบหิ้วไปกาตาร์ด้วย

 

แน่นอน ก็คงต้องตามดูกันว่า การตัดสินใจของ แฟร์นันโด ซานโตส ในการเลือกจิ้มขุมกำลังมาแบบนี้ จะปรากฏผลในท้ายที่สุดว่าอย่างไร

 

โผ 26 แข้งโปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
รุย ปาตริซิโอ / 34 / โรม่า / 104
ดีโอโก้ คอสต้า / 23 / ปอร์โต้ / 7
โชเซ่ ซา / 29 / วูล์ฟส์ / 0

กองหลัง
เปเป้ / 39 / ปอร์โต้ / 128 – 7
ดานิโล เปเรยร่า / 31 / เปแอสเช / 63 – 2
ราฟาแอล เกร์เรยโร่ / 28 / ดอร์ทมุนด์ / 56 – 3
รูเบน ดิอาส / 25 / แมนฯ ซิตี้ / 39 – 2
ชูเอา กันเซโล่ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 37 -7
นูโน่ เมนเดส / 20 / เปแอสเช / 16 – 0
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 2
อันโตนิโอ ซิลวา / 19 / เบนฟิก้า / 0 – 0

กองกลาง
วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / 30 / เบติส / 75 – 5
แบร์นาร์โด้ ซิลวา / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 72 – 8
ชูเอา มาริโอ / 29 / เบนฟิก้า / 52 – 2
บรูโน่ แฟร์นันเดส / 28 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 9
รูเบน เนเวส / 25 / วูล์ฟส์ / 32 – 0
ชูเอา ปาลินญ่า / 27 / ฟูแล่ม / 15 – 2
มาเตอุส นูเนส / 24 / วูล์ฟส์ / 9 – 1
โอตาวิโอ / 27 / ปอร์โต้ / 7 – 2
วิตินญ่า / 22 / เปแอสเช / 4 – 0

กองหน้า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / 37 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 191 – 117
อันเดร ซิลวา / 27 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 51 – 19
ชูเอา เฟลิกซ์ / 23 / แอตฯ มาดริด / 23 – 3
ราฟาแอล เลเอา / 23 / มิลาน / 11 – 0
ริคาร์โด้ ออร์ต้า / 28 / บราก้า / 5 – 1
กอนซาโล่ รามอส / 21 / เบนฟิก้า / 0 – 0

หลุดโผ
อันโธนี่ โลเปส (ลียง), รุย ซิลวา (เบติส), มาริโอ รุย (นาโปลี), โดมิงกอส ดูอาร์เต้ (เคตาเฟ่), โชเซ่ ฟอนเต้ (ลีลล์), เซดริก โซอาเรส (อาร์เซน่อล), เนลซอน เซเมโด้ (วูล์ฟส์), ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์), เรนาโต้ ซานเชส (เปแอสเช), ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล), เปโดร เนโต้ (วูล์ฟส์), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง)

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Olympics

 

 

เรื่องน่าอ่าน
• บราซิลลิ่วแชมป์โลก…? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022
• และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
• เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว : สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022 บ้างแล้ว?

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้...คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022

เจ็บปวดกว่าโดนหมางเมิน คือการที่รู้ว่าตัวเองมีที่ยืนเต็มเท้าอยู่แล้วแท้ๆ ในทีม แต่กลับโดนขวางไว้ไม่ให้ไปฟุตบอลโลก 2022 ด้วยเรื่องของโชคชะตา…อาการบาดเจ็บที่ไม่เข้าใครออกใคร

 

หากว่าเป็นฟุตบอลโลกปกติเหมือนที่เคยเป็นมา เวลานี้ แทบทุกอย่างในโลกลูกหนังจะหยุดพัก หยุดนิ่งแล้ว (คงเหลือแค่การเข้าแคมป์เตรียมทีม) เพื่อรอการมาถึงของ เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เสียงนกหวีดแรกของมหกรรมลูกหนังโลกที่รอคอย ก็จะดังขึ้น

 

ทว่าก็อย่างที่ทราบกัน นี่คือ ฟุตบอลโลกครั้งพิเศษใส่ไข่ เตะกันตอนปลายปีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นเกมระดับสโมสรที่ต้องหลีกทางให้ แม้จะต้องพักรบกันกลางศึกสงครามก็ตาม

 

อย่างที่บอก ถ้าเป็นบอลโลกปกติ ซีซั่นจะปิดลงแล้ว ทุกทีมเริ่มเข้าแคมป์เก็บตัวแล้ว และไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจากปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อนในสนามซ้อม

 

แต่ในเมื่อเป็นบอลโลกครั้งสุดพิเศษ ก็ทำให้ทั้งฟุตบอลลีกยุโรปแทบทุกประเทศ ไปจนถึงฟุตบอลถ้วยของบางแห่ง ยังคงโรมรันพันตูกันอย่างซีเรียสเคร่งเครียด โดยจะหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022 เพียง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เท่านั้น

 

สิ่งที่ตามมาจากเรื่องนี้ ก็คือการที่นักเตะหลายรายสาดแข้งกันจนสะบักสะบอม และทยอยล้มเจ็บอย่างโชคร้าย จนมีหลายรายเหลือเกินที่จะทำได้แค่ดูบอลโลกที่กาตาร์ ผ่านจอทีวีไม่ต่างจากเราๆ ท่านๆ

รวมรายชื่อนักเตะคนดังที่ไม่ได้ไป บอลโลก 2022

ถึงตรงนี้มีใครบ้างที่ทั้งอดไปชัวร์ๆ และอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยงต้องลุ้นใจหาย FIFA2022match.com รวบรวมเอาไว้แล้วตรงนี้…

รายชื่อนักเตะอังกฤษ
วืดชัวร์ : เบน ชิลเวลล์
สุ่มเสี่ยง : รีซ เจมส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, บูกาโย่ ซาก้า, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน

 

ยืนยันจากทาง เชลซี แล้วว่า วิงแบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ จะไม่ได้ไปแอ่ว กาตาร์ ในฐานะลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ภายหลังมีการตรวจปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงที่เจ้าตัวได้รับจากเกมถ้วยยุโรปอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ใช่เรื่องขำๆ แบบพัก 3-4 วันหายแต่อย่างใด

 

ส่วน รีซ เจมส์ ก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ด้วยปัญหาบาดเจ็บเข่าที่ได้รับจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน แต่ดูจะเบากว่าเพื่อนร่วมค่ายหน่อย ยังมีลุ้นได้ไปบอลโลก

 

ด้าน ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังคนสำคัญจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พักแข้งมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ แต่เจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะเรียกฟิตทันติดธงสิงโต เช่นเดียวกับ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่หลังย้ายจาก ลีดส์ สู่ แมนฯ ซิตี้ แล้วก็เจ็บออดๆ แอดๆ จนได้เล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น ก็ยังเชื่อว่าตัวเองยังอยู่ในข่ายพิจารณาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

 

ขณะที่ บูกาโย่ ซาก้า ออกจากสนามนัดที่ อาร์เซน่อล ชนะ ฟอเรสต์ 5-0 เมื่อสิ้นเดือน ต.ค. หลังเล่นไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทว่าก็ฟิตลงสำรองในเกมกับ เอฟซี ซูริค ได้ใน 4 วันให้หลัง ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการไปฟุตบอลโลก 2022

 

โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน หัวหอกเอฟเวอร์ตัน ก็เจ็บแฮมสตริง จนต้องออกจากสนามตอนกลางครึ่งหลังเกมแพ้ เลสเตอร์ 0-2 และจะต้องเข้ารับการสแกนอย่างละเอียดต่อไปเพื่อประเมินว่า ฟุตบอลโลก 2022 ยังเป็นไปได้สำหรับศูนย์หน้าวัย 25 อยู่หรือไม่

 

แต่สำหรับทาง ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ฟูลแบ็กจากเซาธ์แฮมป์ตัน แม้บาดเจ็บแฮมสตริงไม่หนักมาก แต่การที่แทบไม่อยู่ในสารบบทีมชาติ ที่ผ่านมาเคยเล่นให้อังกฤษแค่ 2 นัดเท่านั้น ทำให้โอกาสถูกคัดทิ้งมีมากกว่าได้ไป

 

 

รายชื่อนักเตะฝรั่งเศส
วืดชัวร์ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, บูบาการ์ กามาร่า
สุ่มเสี่ยง : เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลูคัส เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

แชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2018 อาการเพียบสุดในบรรดาทีมหัวแถวตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ภายหลังส่อแววไม่สู้ดีมาตั้งแต่คิวเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก หนล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ที่มีกลุ่มแข้งบาดเจ็บครึ่งค่อนทีม

 

ยืนยันแล้วว่า 2 คีย์แมนแดนกลางทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จากเชลซี และ ปอล ป๊อกบา จากยูเวนตุส ต่างต้องตกขบวน อดไปช่วยตราไก่ป้องกันแชมป์โลกอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อรายแรกต้องเข้าผ่าตัดแฮสมตริง ส่วนรายหลังผ่าตัดเข่ามาแล้วพักใหญ่ แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับการเรียกความฟิตจนถึงระดับ จนซีซั่นนี้ยังไม่ได้เล่นให้ ยูเว่ แม้แต่เกมเดียว

 

ส่วน บูบาการ์ กามาร่า กองกลางดาวรุ่งวัย 22 จากแอสตัน วิลล่า เข่าพังหลังเล่นให้สิงห์ผงาดไปแค่ 8 นัด บอลโลกครั้งนี้จึงเป็นได้แค่ผู้ชม

 

ยังมีกลุ่มสุ่มเสี่ยง ต้องรักษาตัวและเรียกฟิตให้ทันเวลาอีกหลายราย ไม่ว่าจะ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (เชลซี), ลูคัส เอร์นันเดซ (บาเยิร์น) และ ราฟาแอล วาราน กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งคู่) ที่ ณ ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ด้วยว่าจะพร้อมหรือไม่

 

 

รายชื่อนักเตะบราซิล
วืดชัวร์ : อาร์ตูร์ เมโล่
สุ่มเสี่ยง : ริชาร์ลิซอน, เบรเมอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

เส้นกราฟชีวิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ คล้อยลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่อำลา บาร์เซโลน่า ไปเล่นกับ ยูเวนตุส อย่างเซอร์ไพรส์เมื่อสองปีก่อน จนซีซั่นนี้ถูกส่งยืมมา ลิเวอร์พูล ก็ยังแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไร ลงสนามไปนัดเดียวถ้วน และใกล้ชิดกับห้องพยาบาลมากกว่าสนามฟุตบอล เมื่อมีปัญหาบาดเจ็บต้นขา โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยว่ามิดฟิลด์วัย 26 อาการ “ค่อนข้างซีเรียส” และ “ต้องพักยาว” ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

ฝั่ง ริชาร์ลิซอน หนึ่งในตัวความหวังแนวรุกของ ลา เซเลเซา (ลงสนาม 38 นัดซัดแล้ว 17 ประตู) บาดเจ็บจากเกม สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อ 15 ต.ค. แต่ทั้งเจ้าตัวและ อันโตนิโอ คอนเต้ ยังมองแง่ดีว่าจะเรียกฟิตทันไป เวิลด์ คัพ

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเจ้าของค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ล่าสุดไม่ได้อยู่ในทีม แอสตัน วิลล่า ชุดเปิดบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และจะไม่พร้อมเล่นนัดหน้าด้วย แม้ยังไม่ทราบระยะพักที่แน่ชัดแต่ก็มากพอที่จะสั่นคลอนโอกาสไปบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า คูตินโญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในทีมของ ตีเต้ บ่อยนักด้วย สองปีหลังได้รับใช้ชาติแค่ 5 นัดเท่านั้น ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงทีเดียวที่จะถูกกาชื่อทิ้ง 

 

สำหรับ เบรเมอร์ เซนเตอร์แบ็กยูเวนตุส พลาดช่วยทีมมา 5-6 เกมแล้ว แม้คาดหมายว่าจะฟิตทันเกมสัปดาห์นี้ แต่ด้วยการที่ ติเต้ มีตัวเลือกเซนเตอร์แซมบ้าในมืออยู่ไม่น้อย ก็ทำให้เสี่ยงมากว่าอดีตแข้งโตริโน่จะอดไปบอลโลกในที่สุด

 

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, เลอันโดร ปาเรเดส, คริสเตียน โรเมโร่, ลิโอเนล เมสซี่

 

แม้ในระดับชาติ เปาโล ดีบาล่า ยังจะไม่ค่อยฉายแสงเท่าที่ควรจะเป็น ยิงได้แค่ 3 ลูกจากการลงสนาม 34 นัด แต่ด้วยชื่อชั้นและคุณภาพฝีเท้า มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เพียงแต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อย ภายหลังดาวเตะวัย 28 ดวงแตก เจ็บต้นขาไปเองระหว่างยิงจุดโทษให้กับ โรม่า

 

รายงานจากสื่อ ณ ตอนนี้ ยังออกไปในทางเห็นแย้งกัน ฝั่งหนึ่งบอกว่า ดีบาล่า จะฟิตทันกลับมาเล่นให้ โรม่า ได้ในเกมสุดท้ายช่วงสัปดาห์หน้า ดังนั้นก็ยังได้ลุ้นไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ แต่อีกฝั่งก็บอกว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ ตัดสินใจปล่อยนักเตะพักแล้ว และจะเลือกจิ้มกองหน้าคนอื่นที่ฟิตกว่า ไปบอลโลกแทน

 

ในราย อังเคล ดิ มาเรีย ตัวเก๋าวัย 34 จากยูเวนตุส เจ็บต้นขา แต่ยังถูกคาดหมายว่าจะไปช่วยงานทีมชาติได้ทันเวลา รวมถึง เลอันโดร ปาเรเดส กับ คริสเตียน โรเมโร่ ก็ไม่ได้เจ็บหนัก ยังเชื่อว่าจะฟิตทัน

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดดาวเตะผู้เป็นแทบทุกอย่างในความหวังสอยแชมป์โลกสมัย 3 ของทัพฟ้าขาว ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องพักแข้งไประยะหนึ่ง อดช่วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เล่นกับ ลอริยองต์ และแม้ว่า เปแอสเช จะยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมสซี่ น่าจะกลับมาพร้อมรบในเร็ววัน แต่ก็ต้องห้ามลืมว่าฟุตบอลโลก 2022 กำลังคอยท่าอยู่ในเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้เท่านั้น หากว่าต้องไปลุยบอลโลกแบบไม่สมบูรณ์ 100% ย่อมเป็นความเสียหายโดยตรงของ อาร์เจนติน่า 

 

 

รายชื่อนักเตะเยอรมนี
วืดชัวร์ : ติโม แวร์เนอร์
สุ่มเสี่ยง : มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน่, มานูเอล นอยเออร์

 

อุตส่าห์ย้ายจาก เชลซี ไปหาโอกาสลงสนามสม่ำเสมอกับต้นสังกัดเก่า แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อเตรียมตัวรับใช้ทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งอันที่จริงก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ยิง 9 ประตูจากการเล่น 16 นัด แต่ปรากฏว่า ติโม แวร์เนอร์ กลับได้รับบาดเจ็บข้อเท้าอย่างหนักจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชนะ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 4-0 และ ไลป์ซิก ยืนยันว่า แวร์เนอร์ ต้องพักยาว หมดสิทธิ์ไปช่วยชาติที่กาตาร์โดยปริยาย

 

อีกสองตัวรุกจากต่างค่าย มาร์โก รอยส์ จากดอร์ทมุนด์ กับ เลรอย ซาเน่ จากบาเยิร์น อยู่ในจุดที่ดีกว่า แวร์เนอร์ พอสมควร หลังทั้งคู่เริ่มเรียกฟิตได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว มีโอกาสได้ไปกาตาร์มากกว่าที่จะพลาด

 

ส่วนยอดจอมหนึบวัย 36 อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนสุดท้าย เป็นข่าวใหญ่จากการที่มีอาการของมะเร็งผิวหนังบนใบหน้า แถมช่วงหลังยังเจ็บไหล่อยู่เป็นระยะ ทว่าล่าสุดก็ฟิตกลับมาลงช่วย บาเยิร์น บุกเตะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ได้แล้ว ดังนั้นถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็น่าจะได้ไปกาตาร์ตามปกติ

 

 

รายชื่อนักเตะสเปน
วืดชัวร์ : มิเกล โอยาร์ซาบัล
สุ่มเสี่ยง : เซร์คิโอ เรกีลอน, เคราร์ด โมเรโน่, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

 

แม้ในรายชื่อ 55 แข้งสเปนชุดเบื้องต้นที่หลุดออกมา (หลุยส์ เอ็นริเก้ ตั้งใจไม่เผยจนกว่าจะตัดตัวชุดสุดท้าย) มิเกล โอยาร์ซาบัล ปีกตัวเก่งจาก เรอัล โซเซียดัด จะยังติดอยู่ แต่ด้วยความที่ดาวเตะวัย 25 เข่าพังมาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อน แล้วยังต้องพักมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เล่นเกมซีซั่นนี้แม้แต่เกมเดียว ก็ทำให้จะเรียกฟิตไม่ทันเป็นแน่

 

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันคือ เกป้า “เดอะโค้ช” อาร์ริซาบาลาก้า จากการอัพเดตล่าสุดของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ปรากฏว่า เกป้า จะไม่ได้เล่นให้ เชลซี จนกว่าจะกลับมาเจอกันใหม่หลังบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บเท้า ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นการยืนยันว่านายด่านสแปนิชจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่ๆ แต่ด้วยการที่ เอ็นริเก้ มี 3 นายทวารอยู่แล้วในทีมชุดเตะ เนชั่นส์ ลีก เดือน ก.ย. (อูไน ซิมอน, โรเบิร์ต ซานเชซ, ดาบิด ราย่า) ก็ทำให้ยิ่งง่ายสำหรับ เอ็นริเก้ ไปอีกในการจะตัดชื่อ เกป้า ทิ้งไป หลังจากมือระดับ ดาบิด เด เคอา ก็ไม่ได้อยู่ใน 55 คนแรกก่อนแล้ว

 

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์
วืดชัวร์ : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
สุ่มเสี่ยง : เมมฟิส เดอปาย, มาร์เทน เดอ รอน, มัทไธส์ เดอ ลิกท์

 

มีปัญหาบาดเจ็บเกิดขึ้นในช่วงหลังทั้ง เมมฟิส เดอปาย (บาร์เซโลน่า), มาร์เทน เดอ รอน (อตาลันต้า) และ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส) แต่โอกาสที่ทั้งสามจะเรียกฟิตทันเวลาไปช่วยชาติที่กาตาร์ ยังมีมากกว่าไม่ได้ไป

 

แต่ที่พลาดแล้วตั้งแต่ต้นและน่าเจ็บใจแทน ได้แก่ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์อดีตดาวเด่นลิเวอร์พูล ที่อุตส่าห์ตัดใจย้ายหนีการเป็นคนไม่สำคัญที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หวังมาเกิดใหม่กับ โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่กลับบาดเจ็บหนักขั้นขาหักตั้งแต่ต้น พักยาวลืมวันลืมคืนไม่พอ ยังได้แค่ดูบอลโลกในฐานะกองเชียร์ด้วย

 

 

รายชื่อนักเตะเบลเยียม
วืดชัวร์ : โธมัส มูนิเยร์, อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส
สุ่มเสี่ยง : โรเมลู ลูกากู

 

เพราะไอ้ยักษ์เจ้าของสถิติถล่มประตู 68 ลูกในทีมชาติอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็ “ยุบ” เป็นเหมือนกัน ซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 5 นัด เนื่องจากเจ็บแฮมสตริง ครั้นเรียกฟิตลงสนามได้ก็ดันเจ็บซ้ำเสียอีกรอบ จนต้องลุ้นถึงวันท้ายๆ เลยว่าจะเรียกฟิตทันช่วยปีศาจแดงแห่งยุโรปสั่งลายุคทองกับบอลโลกได้หรือไม่

 

ส่วนที่วืดแล้ว และสำคัญกับทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ทั้งสองคน คือ โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวากำลังหลักจากดอร์ทมุนด์ โหนกแก้มฉีก ฟิตไม่ทันบอลโลก และ อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส ตัวรุกเอซี มิลาน เข่าพัง จะกลับมาเล่นได้อีกทีก็ต้นปีหน้า

 

 

รายชื่อนักเตะโปรตุเกส
วืดชัวร์ : ดีโอโก้ โชต้า, เปโดร เนโต้
สุ่มเสี่ยง : เปเป้, นูโน่ เมนเดส

 

ทำผลงานได้ดีกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นที่แล้ว (21 ประตู) จนหลายเดือนหลังถูกวางให้เป็นกองหน้าตัวจริงของโปรตุเกสอยู่ตลอด ทว่านอกจากความฝืดในซีซั่นนี้ (0 ประตู) แล้ว สำคัญคือ โชต้า เจ็บต้นขาจนต้องถูกหามออกในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อกลางเดือน ต.ค. ส่งผลให้ แฟร์นันโด ซานโตส เลี่ยงไม่ได้ต้องตัดชื่อทิ้งไปตั้งแต่ชุดเบื้องต้น 55 คน เช่นเดียวกับ เปโดร เนโต้ กองหน้าวูล์ฟส์ ที่เจ็บข้อเท้าจนต้องเข้าผ่าตัด

 

ด้าน เปเป้ ป.ประมุข ในวัย 39 ยังเป็นแกนหลักในแนวรับฝอยทองอยู่ แต่ช่วงหลังมีปัญหาเจ็บเข่ามารบกวน ส่วน นูโน่ เมนเดส เด็กเปแอสเช เจ็บกล้ามเนื้อ และทั้งคู่ต้องรีบเรียกฟิต พร้อมหวังว่าอาการของตัวเองจะไม่หนักหนาจนเกินไปนัก

 

 

รายชื่อนักเตะเดนมาร์ก
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์

 

ต้องจับตากับ 2 เซนเตอร์แบ็กกำลังสำคัญ ทั้งกัปตันทีม ซิมอน เคียร์ จากเอซี มิลาน ที่เจ็บหนักและต้องพักมายาว ยังไม่แน่ชัดว่าจะเรียกความฟิตได้ถึงระดับที่เหมาะสมสำหรับการคุมหลังบ้านของทัพโคนมหรือไม่ ส่วน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ของบาร์เซโลน่า ก็เริ่มมีปัญหาความฟิตในช่วงหลัง แม้จะไม่ได้มีรายงานว่าเจ็บหนักก็ตาม

 

 

รายชื่อนักเตะเวลส์
วืดชัวร์ : ทอม ลอว์เรนซ์, รีส นอร์ริงตัน-เดวิส
สุ่มเสี่ยง : แกเร็ธ เบล, โจ อัลเลน

 

กับการกลับเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี เลี่ยงไม่ได้ที่มังกรแดง เวลส์ ยังจำเป็นต้องพึ่งพาพลังสังหารของ แกเร็ธ เบล ที่แม้จะหลบฉากจาก เรอัล มาดริด ไปเล่นกับ แอลเอ เอฟซี ในสหรัฐฯ แล้วก็ตาม กระนั้น กัปตันวัย 33 ก็มีปัญหาความฟิตและไม่ถูกใช้งานสม่ำเสมอนักในช่วงหลัง ต้องดูต่อว่าสภาพร่างกายจะเข้าที่เข้าทางหรือไม่ อันเป็นกรณีเดียวกับอีกคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โจ อัลเลน (สวอนซี)

 

 

รายชื่อนักเตะสหรัฐอเมริกา
วืดชัวร์ : ไมล์ส โรบินสัน
สุ่มเสี่ยง : แดริล ไดค์, เวสตัน แม็คเคนนี่

 

ไมล์ส โรบินสัน เซนเตอร์แบ็กแอตแลนต้า ยูไนเต็ด เจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก พักยาวอดไปบอลโลกแล้ว ส่วน แดริล ไดค์ กองหน้าเวสต์บรอมวิช กับ เวสตัน แม็คเคนนี่ คีย์แมนแดนกลางจากยูเวนตุส ต้องเร่งเครื่องเรียกฟิตหน่อยในโค้งสุด้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022

 

 

รายชื่อนักเตะเม็กซิโก
วืดชัวร์ : เฮซุส โคโรน่า
สุ่มเสี่ยง : ราอูล ฮิมิเนซ

 

ปีกตัวเก่งจากเซบีย่า เฮซุส โคโรน่า ที่เล่นทีมชาติไปแล้ว 71 เกม ต้องพลาดเวิลด์คัพครั้งนี้อย่างน่าเสียดายภายหลังขาหักเมื่อกลางปี และฟิตไม่ทันไปรับใช้ชาติ ส่วนดาวยิงเบอร์ 1 ของชาติอย่าง ราอูล ฮิมิเนซ จากวูล์ฟส์ ก็มีปัญหาโคนขาหนีบ โอกาสตอนนี้อยู่ที่ 50:50

 

 

รายชื่อนักเตะเกาหลีใต้
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : ซน ฮึง-มิน

 

เดินกุมหน้าออกจากเกม ชปล. กับมาร์กเซย ซึ่งตอนแรกเหมือนจะเป็นการบาดเจ็บขาแข้งเหมือนทั่วไป แต่ปรากฏว่าหนักถึงขั้นเบ้าตาซ้ายแตก จากจังหวะเข้าปะทะกับคู่แข่งอย่างจัง และต้องเข้ารับการผ่าตัด เพียงแต่ก็ยังพอมองแง่ดีได้ว่าต่อให้ไม่ 100% ก็ยังน่าจะพอใส่หน้ากากเป็นแบทแมนลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 ได้

 

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น
วืดชัวร์ : ยูตะ นากายามะ
สุ่มเสี่ยง : –

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ ประกาศรายชื่อ 26 คนสุดท้ายแบบไม่รีรอมาก่อนใครเพื่อน แต่ปรากฏว่าไม่ทันไรก็ต้องปรับไลน์อัพเสียแล้ว เมื่อ ยูตะ นากายามะ กองหลังจากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เจ็บส้นเท้าอย่างหนักระดับที่ต้องพักทั้งซีซั่น แน่นอนว่าก็ต้องถอนตัวไปโดยปริยาย และถึงตอนนี้ยังไม่มีการเรียกใครเข้ามาทดแทน

 

 

รายชื่อนักเตะโครเอเชีย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

มิดฟิลด์ตัวเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ลงช่วยงูใหญ่มาร่วม 1 เดือนแล้วจากการบาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติรอบที่แล้ว (เนชั่นส์ ลีก) แต่ก็คาดว่าจากที่พักมาระยะหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเพียงพอให้ได้เรียกฟิตทันเวลา

 

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : โรนัลด์ อเราโฮ

 

บาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติหนก่อนเมื่อเดือน ก.ย. จนอดช่วย บาร์เซโลน่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา แถมยังต้องเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาด ทว่ารายงานช่วงหลังชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า โรนัลด์ อเราโฮ มีพัฒนาการที่ดี ถ้าไม่มัวไปติดไฟแดงเสียก่อน ก็น่าจะทะลุเข้าอ่อนนุช-เอ๊ย-ไปบอลโลกได้อยู่

 

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์
วืดชัวร์ : ยาคุบ โมเดอร์
สุ่มเสี่ยง : –

 

เอ็นฉีกตั้งแต่เดือน เม.ย. และต้องพักยาวหลายเดือน กองกลางจากไบรท์ตันจึงฟิตไม่ทันช่วยชาติในฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

 

รายชื่อนักเตะแคนาดา
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อาติบา ฮัทชินสัน

 

กัปตันทีมชาติตัวเก๋าวัย 39 ยังไม่อาจฟื้นฟิตลงช่วย เบซิคตัส ได้เลยแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ภายหลังเจ็บกระดูกร้าวตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น แม้ยังพอได้ลุ้นกลับมาทัน แต่ก็น่าเสียวไส้ว่าจะฟิตไม่ถึงระดับ

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BBC
Mirror Sports
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Getty Images
ESPN
beIN SPORTS

 

เรื่องน่าอ่าน : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
แบโผเบื้องต้น ‘โปรตุเกส’ ลุยฟุตบอลโลก 2022
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

6 ชาติเผยรายชื่อ “ชุดเบื้องต้น” ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นตรียมตัดตัวชุดสุดท้ายลุยฟุตบอลโลก 2022

หนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนนกหวีดแรกแห่งฟุตบอลโลก 2022 จะดังขึ้น นั่นหมายถึงการเตรียมความพร้อมทุกอย่างกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายเต็มทีแล้ว นั่นรวมถึงการประกาศรายชื่อนักเตะเบื้องต้น เพื่อเตรียมตัดตัวชุดสุดท้ายลุยกาตาร์ด้วย

 

โดยไม่ต้องปล่อยให้ใครเผลอ วันเวลาก็พาเรามาใกล้กับ ฟุตบอลโลก 2022 เต็มแก่ ชนิดที่เหลืออีกเพียง 4 สุดสัปดาห์เท่านั้น เป็นอันจบ — จบเวลาของบอลลีก และเริ่มต้น เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ อย่างเป็นทางการ

 

แน่นอน ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ ยิ่งต้องจับตากันมากขึ้นกับทุกแมตช์ของบอลลีก (และถ้วยยุโรป) ที่ผ่านไป จะมีใครที่ “ดวงแตก” บาดเจ็บขึ้นมาจนอดไปฟุตบอลโลกบ้าง

 

และถึงตรงนี้–หนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก–ก็เริ่มมีบางชาติสมาชิกรอบสุดท้าย ที่เปิดเผยรายชื่อนักเตะลุยกาตาร์ “ชุดเบื้องต้น” (provisional squad) ออกมาแล้ว

 

สำหรับชุดเบื้องต้น เป็นเรื่องของแต่ละชาติ แต่ละสมาคม ที่จะกำหนดตัวเลขออกมาเอง อยาก 30, 40 หรือ 50 ก็ได้หมด (สูงสุด 55)

 

แต่จากนั้น ทุกชาติจะต้องทำการตัดตัว และส่งรายชื่อชุดสุดท้าย (final squad) 23-26 นักเตะให้กับ ฟีฟ่า ภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน

 

ส่วนเมื่อส่งรายชื่อชุดสุดท้ายแล้ว จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีมีตัวเจ็บเพิ่มหรือติดโควิด-19 ก็ต้องทำก่อนลงสนามนัดแรก (ของตัวเอง) 24 ชั่วโมง เท่านั้น.

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

 

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ : กลุ่มเอ
กุนซือ : หลุยส์ ฟาน กัล (เนเธอร์แลนด์)
ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์นักกับรายชื่อแข้ง 39 รายเบื้องต้นของทัพกังหันลม เนเธอร์แลนด์ ที่จารย์ปู่ หลุยส์ ฟาน กัล ประกาศออกมา โดยบรรดาแกนหลักที่ใช้ตลอดหลายเดือนหลัง ล้วนแต่มาครบ

 

อัศวินสีส้ม นำมาโดยกัปตัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เช่นเดียวกับ มัทไธส์ เดอ ลิกท์, เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, ดอนเยลล์ มาเลน, โคดี้ กัคโป หรือ วินเซนต์ ยานส์เซ่น ที่กลับมาอยู่ในสารบบอีกครั้ง

 

ตัวที่ติดไม่ถือว่าน่าเซอร์ไพรส์ แต่ตัวที่หลุดโผ อดไปบอลโลกนี่สิ เอามาเขียนเป็นหนึ่งคอลัมน์ได้ง่ายๆ เลยไม่ว่าจะ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่บาดเจ็บ, ฮันส์ ฮาเตบัวร์ ของอตาลันต้า, ริค คาร์สดอร์ป ของโรม่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จอมอาภัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวีเท่านั้น

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (33) เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น (เล่นทีมชาติ 63 นัด)
ยุสติน ไบจ์โลว์ (24) เฟเยนูร์ด (6)
มาร์ค เฟล็คเค่น (29) ไฟรบวร์ก (4)
เรมโก้ พาสเฟียร์ (38) อาแจ็กซ์ (2)
อันเดรียส น็อพเพิร์ต (28) ฮีเรนวีน (0)

 

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ (32) อาแจ็กซ์ (เล่นทีมชาติ 94 นัด 2 ประตู)
สเตฟาน เดอ ฟราย (30) อินเตอร์ มิลาน (59 / 3)
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (31) ลิเวอร์พูล (49 / 6)
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (23) บาเยิร์น มิวนิค (38 / 2)
เดนเซล ดุมฟรีส์ (26) อินเตอร์ มิลาน (37 / 5)
นาธาน อาเก้ (27) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (29 / 3)
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (21) อาแจ็กซ์ (10 / 0)
ไทเรลล์ มาลาเซีย (23) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (6 / 0)
เดวีน เรนช์ (19) อาแจ็กซ์ (1 / 0)
มิตเชล บาคเกอร์ (22) เลเวอร์คูเซ่น (0 / 0)
สเวน บ็อตมัน (22) นิวคาสเซิ่ล (0 / 0)
เยเรมี่ ฟริมปง (21), เลเวอร์คูเซ่น (0 / 0)
ปาสกาล สไตรค์ (23) ลีดส์ (0 / 0)
มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน (21) โวล์ฟสบวร์ก (0 / 0)

 

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง (25) บาร์เซโลน่า (45 / 1)
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ (30) อาแจ็กซ์ (39 / 2)
ดาวี่ คลาสเซ่น (29) อาแจ็กซ์ (35 / 9)
มาร์เท่น เดอ รอน (31) อตาลันต้า (30 / 0)
ยอร์ดี้ คลาซี่ (31) อาแซด อัล์คมาร์ (17 / 0)
ไรอัน กราเฟนเบิร์ก (20) บาเยิร์น มิวนิค (11 / 1)
เทน คูปไมเนอร์ส (24) อตาลันต้า (10 / 1)
กุส ทิล (24) พีเอสวี (5 / 1)
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ (20) อาแจ็กซ์ (2 / 0)
ชาบี ซิมอนส์ (19) พีเอสวี (0 / 0)

 

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย (28) บาร์เซโลน่า (81 / 42)
ลุค เดอ ยอง (32) พีเอสวี (38 / 8)
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (25) อาแจ็กซ์ (24 / 7)
วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) รอยัล อันท์เวิร์ป (20 / 7)
ดอนเยลล์ มาเลน (23) ดอร์ทมุนด์ (19 / 4)
วู้ท เวกอร์สท์ (30) เบซิคตัส (15 / 3)
โคดี้ กัคโป (23) พีเอสวี (9 / 3)
อาร์โนต์ ดันยูม่า (25) บียาร์เรอัล (6 / 2)
โนอา ลัง (23) คลับ บรูช (5 / 1)
ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (20) อาแจ็กซ์ (0 / 0)

 

หลุดโผ
ทิม ครูล (นอริช), โยเอล เฟลท์มัน (ไบรท์ตัน), พาทริค ฟาน อานโฮลท์ (กาลาตาซาราย), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮันส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), โอเว่น วินจ์ดัล (อาแจ็กซ์), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ควินซี่ โพรเมส (สปาร์ตัก มอสโก), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์ : กลุ่มเอ
กุนซือ : เฟลิกซ์ ซานเชซ (สเปน)
ชาติเจ้าภาพในการนำทัพของกุนซือสแปนิช เฟลิกซ์ ซานเชซ มีกลุ่มนักเตะที่ชัดเจนเป็นแกนมาตลอดนานนับปี และชุดเบื้องต้น 30 คนที่เผยไว้แล้ว ก็เป็นหน้าเดิมๆ แทบทั้งสิ้น โดยพวกเขาจะไปเข้าแคมป์เก็บตัวกันที่ประเทศสเปนและออสเตรีย ก่อนตัดชื่อสี่ซ้าห้าคนออกไป ก่อนยื่นให้ฟีฟ่า

 

รายชื่อนักเตะกาตาร์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ชาอัด อัล ชีเอ็บ (32) อัล-ซาดด์ (75)
เมชาล บาร์ชัม (24) อัล-ซาดด์ (13)
ยูเซฟ ฮัสซัน (26) อัล-การาฟา (7)
ซาลาห์ ซากาเรีย (23) อัล-ดูฮาอิล (1)

 

กองหลัง
อับเดลการิม ฮัสซัน (29) อัล-ซาดด์ (125 /15)
บูอาเล็ม คูคี่ (32) อัล-ซาดด์ (100 / 20)
เปโดร มิเกล กอร์เรอา “โร-โร” (32) อัล-ซาดด์ (79 / 1)
ทาเร็ค ซัลมาน (24) อัล-ซาดด์ (58 / 0)
บัสซัม อัล-ราวี (24) อัล-ดูฮาอิล (53 / 2)
มูซับ เคเดอร์ (29) อัล-ซาดด์ (29 / 0)
โฮมัม อาห์เหม็ด (23) อัล-การาฟา (27 / 2)
โมฮัมหมัด อีหมัด (21) อัล-วาครา (0 / 0)
ยัสเซ็ม กาเบอร์ (20) อัล-อาราบี (0 / 0)

 

กองกลาง
คาริม บูเดียฟ (32) อัล-ดูฮาอิล (111 / 5)
อับดุลลาซิช ฮาเต็ม (31) อัล-รายยาน (98 / 11)
อาลี อัสซาดัลลา (29) อัล-ซาดด์ (58 / 12)
โมฮัมเหม็ด วาอัด (23) อัล-ซาดด์ (20 / 0)
อับเดลราห์มัน มุสตาฟา (25) อัล-ดูฮาอิล (4 / 0)
โอซาม่า อัล-ไทรี (20) อัล-รายยาน (0 / 0)
อาห์เหม็ด ฟาเดล (29) อัล-วาครา (0 / 0)
มอสตาฟา ทาเร็ค (21) อัล-ซาดด์ (0 / 0)

 

กองหน้า
ฮัสซัน อัล-ไฮดอส (31) อัล-ซาดด์ (165 / 34)
อัคราม อาฟิฟ (25) อัล-ซาดด์ (86 / 26)
อัลโมเอซ อาลี (26) อัล-ดูฮาอิล (76 / 39)
อิสมาอีล โมฮัมหมัด (32) อัล-ดูฮาอิล (68 / 4)
โมฮัมเหม็ด มุนตารี่ (28) อัล-ดูฮาอิล (47 / 13)
อาห์เหม็ด อลาเอลดิน (29) อัล-การาฟา (46 / 1)
ยูซุฟ อับดูริซัก (23) อัล-ซาดด์ (7 / 1)
คาลิด มูเนียร์ (23) อัล-วาครา (2 / 0)
นาอิฟ อัล-ฮาดรามี่ (21) อัล-รายยาน (2 / 0)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า : กลุ่มซี
กุนซือ : ลิโอเนล สคาโลนี่ (อาร์เจนติน่า)
ประกาศโครมมาตับใหญ่ 40 ราย นั่นจึงหมายถึงว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ มีงานที่ต้องทำเยอะทีเดียวสำหรับการคัดเข้าคัดออก ให้เหลือไม่เกิน 26 คนในชุดสุดท้ายสำหรับลุยฟุตบอลโลก 2022

 

ฟ้าขาว นำมาโดย ลิโอเนล เมสซี่ แน่นอนอยู่แล้ว และซูเปอร์สตาร์รายอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายติดธงตลอดช่วงหลังก็ไม่หายไปไหน อันรวมถึง เปาโล ดีบาล่า ที่ล่าสุดล้มเจ็บไปกับ โรม่า ก็ยังได้โอกาสจาก สคาโลนี่ อยู่–ด้วยมองแง่ดีว่าจะฟิตทันรอบสุดท้าย

 

สำหรับตัวหลุดโผ อาจมีชื่อดังพอตัวอย่าง มานูเอล ลันซินี่ ของเวสต์แฮม หรือ โรแบร์โต้ เปเรยร่า ของอูดิเนเซ่ จนถึง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ถือว่าน่าแปลกใจนัก เมื่อตัวเลือกดีๆ ในชั่วโมงนี้ของอาร์เจนติน่า มีเยอะแบบไหล่ชนไหล่ทีเดียว

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (30) แอสตัน วิลล่า (18)
ฟรังโก้ อาร์มานี่ (36) ริเวอร์เพลท (18)
อกุสติน มาร์เคซิน (34) เซลต้า บีโก้ (8)
เคโรนิโม่ รุลลี่ (30) บียาร์เรอัล (4)
ฮวน มุสโซ่ (28) อตาลันต้า (2)

 

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ (34) เบนฟิก้า (92 / 4)
มาร์กอส อคุนย่า (30) เซบีย่า (42 / 0)
นิโกลัส ตายาฟิโก้ (30) โอลิมปิก ลียง (42 / 0)
เคร์มัน เปซเซลล่า (31) เรอัล เบติส (31 / 2)
นาอูเอล โมลิน่า (24) แอตเลติโก มาดริด (19 / 0)
กอนซาโล่ มอนเทียล (25) เซบีย่า (17 / 0)
ฮวน ฟอยธ์ (24) บียาร์เรอัล (15 / 0)
คริสเตียน โรเมโร่ (24) สเปอร์ส (12 / 1)
ลูคัส มาร์ติเนซ กวาร์ต้า (26) ฟิออเรนติน่า (11 / 0)
ลิซานโดร มาร์ติเนซ (24) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (9 / 0)
ฟาคุนโด้ เมดิน่า (23) ล็องส์ (2 / 0)
มาร์กอส เซเนซี่ (25) บอร์นมัธ (1 / 0)
นาอูเอน เปเรซ (22) อูดิเนเซ่ (1 / 0)

 

กองกลาง
อังเคล ดิ มาเรีย (34) ยูเวนตุส (123 / 25)
เลอันโดร ปาเรเดส (28) ยูเวนตุส (45 / 4)
โรดริโก้ เด ปอล (28) แอตเลติโก มาดริด (43 / 2)
โจวานี่ โล เซลโซ่ (26) บียาร์เรอัล (41 / 2)
กีโด้ โรดริเกซ (28) เรอัล เบติส (25 / 1)
นิโกลัส กอนซาเลซ (24) ฟิออเรนติน่า (21 / 3)
เอเซเกล ปาลาซิออส (24) เลเวอร์คูเซ่น (20 / 0)
อเลฮานโดร โกเมซ (34) เซบีย่า (15 / 3)
นิโกลัส โดมิงเกซ (24) โบโลญญ่า (11 / 1)
ลูคัส โอคัมโปส (28) อาแจ็กซ์ (10 / 2)
อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ (23) ไบรท์ตัน (7 / 0)
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (21) เบนฟิก้า (2 / 0)
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (25) แอสตัน วิลล่า (1 / 0)
ติอาโก้ อัลมาด้า (21) แอตแลนต้า ยูไนเต็ด (1 / 0)

 

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (35) เปแอสเช (164 / 90)
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (25) อินเตอร์ มิลาน (40 / 21)
เปาโล ดีบาล่า (28) โรม่า (34 / 3)
อังเคล กอร์เรอา (27) แอตเลติโก มาดริด (22 / 3)
ฮัวกิน กอร์เรอา (28) อินเตอร์ มิลาน (18 / 3)
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (22) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (11 / 2)
ลูคัส อลาริโอ (30) แฟร้งค์เฟิร์ต (9 / 3)
โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (27) นาโปลี (5 / 1)

 

หลุดโผ
เอสเตบัน อันดราดร้า (มอนเตอร์เรย์), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), คริสเตียน เมดิน่า (โบคา จูเนียร์ส), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), ลูคัส โบเย่ (เอลเช่)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ : กลุ่มซี
กุนซือ : เชสลาฟ มิชนีวิซ (โปแลนด์)
ไม่พลาดอยู่แล้วสำหรับตัวความหวังอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงบาร์เซโลน่า หรือตัวความหวังเบอร์รองอย่าง อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (ยูเวนตุส) และ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค (ซาแลร์นิตาน่า) ที่จะมีชื่อติดทีมทั้งในชุดเบื้องต้น 47 คน และชุดสุดท้ายไปบอลโลก

 

และที่จริงแล้ว ชุดสุดท้ายของ โปแลนด์ ก็คาดเดาไม่ยากนัก ว่าบรรดานักเตะที่ติดธงมาแค่สี่ซ้าห้านัด (อยู่ในทีมชุดเบื้องต้นนับสิบราย) จะถูกคัดออก การเรียกตัวพวกนี้มาติดทีมชุดเบื้องต้น ก็เผื่อว่าจะได้มาเรียนงานก่อนเรียกใช้มากขึ้นไปในอนาคต

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
วอยเชียค เชสนี่ (32) ยูเวนตุส (66)
ลูคัส สโครุปสกี้ (31) โบโลญญ่า (7)
บาร์ทโลเมียจ ดราคอฟสกี้ (25) สเปเซีย (2)
คามิล กราบาร่า (23) โคเปนเฮเก้น (1)
ราโดสลาฟ มาเย็คกี้ (22) แซร์เคิล บรูช (1)

 

กองหลัง
คามิล กลิค (34) เบเนเวนโต้ (98 / 6)
บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้ (30) ซามพ์โดเรีย (45 / 0)
ยาน เบ๊ดนาเร็ค (26) แอสตัน วิลล่า (44 / 1)
อาร์ตูร์ เยเดอซีร์เซียค (34) ลีเกีย วอร์ซอว์ (40 / 3)
โทมัสซ์ เคดซิโอร่า (28) ดินาโม เคียฟ (26 / 1)
อาร์คาดิอุสซ์ เรก้า (27) สเปเซีย (15 / 0)
ทิโมเตอุส ปูชาซ (23) อูนิโอน เบอร์ลิน (12 / 0)
พาเวล ดาวิโดวิซ (27) เวโรน่า (8 / 0)
แม็ตตี้ แคช (25) แอสตัน วิลล่า (7 / 1)
มิชาล เฮลิค (27) ฮัดเดอร์สฟิลด์ (7 / 0)
นิโกล่า ซาเลฟสกี้ (20) โรม่า (7 / 0)
โรเบิร์ต กุมมี่ (24) เอาก์สบวร์ก (4 / 0)
ยาคุบ คีวิออร์ (22) สเปเซีย (4 / 0 )
มิชาล คาร์บอฟนิค (21) ดุสเซลดอร์ฟ (3 / 0)
พาเวล บอชนีวิซ (26) ฮีเรนวีน (2 / 0)
มาเตอุสซ์ วีเตสก้า (25) แกลร์กมงต์ ฟุต (1 / 0)
พาทริค คุน (27) ราคอฟ (0 / 0)
มาอิค นาฟร็อคกี้ (21) ลีเกีย วอร์ซอว์ (0 / 0)

 

กองกลาง
เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (32) อัล-ชาบับ (93 / 5)
คามิล โกรซิคกี้ (34) โปกอน (86 / 17)
ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ (28) นาโปลี (74 / 9)
คาโรล ลิเน็ตตี้ (27) โตริโน่ (42 / 5)
มาเตอุสซ์ คลิช (32) ลีดส์ (41 / 2)
เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ (27) ล็องส์ (25 / 1)
คามิล ยอซเวียค (24) ชาร์ล็อตต์ (22 / 3)
ยาเซ็ค โกรัลสกี้ (30) โบคุ่ม (21 / 1)
เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (23) เฟเยนูร์ด (17 / 1)
ดาเมียน ซีมานสกี้ (27) เออีเค เอเธนส์ (8 / 1)
คาสเปอร์ คอซลอฟสกี้ (19) วิเทสส์ (6 / 0)
ซีมอน ซูร์คอฟสกี้ (25) ฟิออเรนติน่า (6 / 0)
คริสเตียน บีลิค (24) เบอร์มิงแฮม (5 / 0)
ยาคุบ คามินสกี้ (20) โวล์ฟสบวร์ก (3 / 1)
มาเตอุสซ์ เลคอฟสกี้ (19) โปกอน (1 / 0)
มิชาล สโคราส (22) เลซ พอซนาน (1 / 0)
พาทริค ซีเซ็ค (24) เพียสท์ กลีวิซ (0 / 0)
ยาคุบ ปิโอตรอฟสกี้ (25) ลูโดโกเร็ตส์ (0 / 0)

 

กองหน้า
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (34) บาร์เซโลน่า (134 / 76)
อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (28) ยูเวนตุส (63 / 16)
คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค (27) ซาแลร์นิตาน่า (24 / 10)
คาโรล ซวิเดอร์สกี้ (25) ชาร์ล็อตต์ (17 / 8)
อดัม บุคซ่า (26) ล็องส์ (9 / 5)
ดาวิด คอฟนัคกี้ (25) ดุสเซลดอร์ฟ (7 / 1)

 

หลุดโผ
มาร์ซิน คามินสกี้ (ชาลเก้), เซบาสเตียน วาลูคีวิซ (เอ็มโปลี), บาร์ตอสซ์ ซาลามอน (เลซ พอซนัน), เพอร์เซมีสลาฟ พลาเชต้า (เบอร์มิงแฮม), ยาคุบ โมเดอร์ (ไบรท์ตัน)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

ซาอุดี อาระเบีย : กลุ่มซี
กุนซือ : แอร์กเว เรอนาร์ (ฝรั่งเศส)
หนึ่งในทีมแข็งของทวีปเอเชีย แอบลุ้นเข้ารอบได้อยู่เหมือนกันกับการได้อยู่ร่วมกลุ่มกับ โปแลนด์ และ เม็กซิโก ส่วน อาร์เจนติน่า ยกขึ้นหิ้งไปก่อนทีมหนึ่งก็ได้

 

ในการเผยชื่อชุดเบื้องต้น 33 คนของ แอร์กเว เรอนาร์ อดีตนายใหญ่โมร็อกโก-ไอวอรี่โคสต์-แซมเบีย ฯลฯ ทั้งหมดก็เป็นชุดที่ใช้ตลอดช่วงหลัง ซึ่งไม่ว่าใครจะหลุดหรือติดไปรอบสุดท้าย คุณภาพก็อาจไม่แตกต่างกันนัก

 

รายชื่อนักเตะซาอุฯ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ (31) อัล-ฮิลาล (37)
ฟาวาซ อับ-การ์นี่ (30) อัล-ชาบาบ (10)
โมฮัมเหม็ด อัล รูบาอี (25) อัล-อาห์ลี (6)
นาวาฟ อัล-อาคิดี้ (22) อัล-นาสเซอร์ (0)

 

กองหลัง
ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี่ (30) อัล-ฮิลาล (70 / 2)
โมฮัมเหม็ด อัล-เบรอิค (30) อัล-ฮิลาล (35 / 1)
อาลี อัล-บูไลฮี (32) อัล-ฮิลาล (32 / 0)
ซุลตาน อัล-กานัม (28) อัล-นาสเซอร์ (23 / 0)
ซาอุด อับดุลฮามิด (23) อัล-ฮิลาล (17 / 0)
อับดุลเลลาห์ อัล-อัมรี (25) อัล-นาสเซอร์ (14 / 1)
ฮัสซัน ทัมบัคตี (23) อัล-ชาบาบ (14 / 0)
อับดุลลาห์ มาดู (29) อัล-นาสเซอร์ (12 / 0)
อาห์เหม็ด บัมซาอุด (26) อัล-อิตติฮัด (1 / 0)

 

กองกลาง
ฟาฮัด อัล-มูวาลัด (28) อัล-ชาบาบ (71 / 17)
ซัลมาน อัล-ฟาราจ (33) อัล-ฮิลาล (68 / 8)
ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี (31) อัล-ฮิลาล (66 / 17)
นาวาฟ อัล-อาเบ็ด (32) อัล-ชาบาบ (50 / 8)
อับดุลลาห์ โอตาฟ (30) อัล-ฮิลาล (44 / 1)
ฮัตตัน บาเฮบรี (30) อัล-ชาบาบ (37 / 4)
โมฮาเหม็ด คันโน (28) อัล-ฮิลาล (33 / 1)
อับดุลเลลาห์ อัล-มัลกี (28) อัล-ฮิลาล (21 / 0)
ซามี อัล-นาเจ (25) อัล-นาสเซอร์ (15 / 2)
อาลี อัล-ฮัสซัน (25) อัล-นาสเซอร์ (9 / 1)
นาสเซอร์ อัล-ดอว์ซารี (23) อัล-ฮิลาล (8 / 0)
อายมาน ยาห์ย่า (21) อัล-นาสเซอร์ (6 / 0)
อับดุลราห์มาน อัล-อาบูด (27) อัล-อิตติฮัด (2 / 0)
ริยาดห์ ชาราฮิลี่ (29) อาบา (2 / 0)

 

กองหน้า
ฟิราส อัล-บูไรคาน (22) อัล-ฟาเตห์ (24 / 6)
อับดุลลาห์ อัล-ฮัมดัน (23) อัล-ฮิลาล (20 / 5)
ซาเลห์ อัล-เชห์รี (28) อัล-ฮิลาล (16 / 8)
ไฮตัม อาซีรี่ (21) อัล-อาห์ลี (4 / 0)
อับดุลลาห์ ราดีฟ (19) อัล-ทาวูน (3 / 0)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

อุรุกวัย : กลุ่มเอช
กุนซือ : ดีเอโก้ อลอนโซ่ (อุรุกวัย)
น่าจับตาอย่างยิ่งกับ อุรุกวัย ในการทำทีมของอดีตดาวเตะบาเลนเซีย-แอตฯ มาดริด อย่าง ดีเอโก้ อลอนโซ่ ที่เข้ามาดูแลทีมชาติแทนที่คุณตา ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ (75) ที่คุมทัพจอมโหดอยู่นานเหลือเกินในระหว่างปี 2006–2021

 

สำหรับชุดเบื้องต้นที่ อลอนโซ่ เผยออกมา มีมากถึง 55 ราย และชื่อที่คุ้นหูต่างอยู่ครบถ้วนไม่ว่าจะ หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่, ดาร์วิน นูนเยซ, โรนัลด์ อเราโฮ หรือกระทั่ง ดีเอโก้ โกดิน และ แฟร์นันโด มุสเลร่า ในวัย 36

 

ซึ่งด้วยการประกาศแบบเต็มแม็กซ์ 55 รายชื่อ จึงทำให้จะมีถึงกว่า 29 คน ที่อกหัก อดไปฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับทีมชาติบ้านเกิด นั่นเอง

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
แฟร์นันโด มุสเลร่า (36) กาลาตาซาราย (133)
เซร์คิโอ โรเช่ต์ (29) นาซิอองนาล (8)
เซบาสเตียน โซซ่า (36) อินดิเพนเดียนเต้ (1)
กิเยร์โม่ เด อโมเรส (28) ลานุส (0)
ซานติอาโก้ เมเล่ (25) อูนิโอน (0)
กาสตัน โอลิเวียร่า (29) โอลิมเปีย (0)

 

กองหลัง
ดีเอโก้ โกดิน (36) เวเลซ ซาร์สฟิลด์ (159 / 8)
มาร์ติน กาเซเรส (35) แอลเอ แกแล็กซี่ (115 / 4)
โฮเซ่ คิมิเนซ (27) แอตเลติโก มาดริด (78 / 8)
เซบาสเตียน โกอาเตส (32) สปอร์ติ้ง (47 / 1)
มาติอัส วินย่า (24) โรม่า (26 / 0)
โจวานนี่ กอนซาเลซ (28) มายอร์ก้า (16 / 0)
โรนัลด์ อเราโฮ (23) บาร์เซโลน่า (12 / 0)
กิเยร์โม่ วาเรล่า (29) ฟลาเมงโก้ (9 / 0)
มาติอัส โอลิเวร่า (24) นาโปลี (8 / 0)
ฮัวกิน ปิเกเรซ (24) พัลไมรัส (7 / 0)
ดาเมียน ซัวเรซ (34) เคตาเฟ่ (7 / 0)
เซบาสเตียน กาเซเรส (23) อเมริกา (2 / 0)
บรูโน่ เมนเดซ (23) โครินเธียนส์ (2 / 0)
อกุสติน โรเคล (25) แฮร์ธ่า (1 / 0)
กาสตัน อัลวาเรซ (22) เคตาเฟ่ (0 / 0)
ซานติอาโก้ บวยโน่ (23) คิโรน่า (0 / 0)
เลอันโดร กาเบรร่า (31) เอสปันญ่อล (0 / 0)
อัลฟอนโซ่ เอสปิโน่ (30) กาดิซ (0 / 0)
ลูคัส โอลาซ่า (28) เรอัล บายาโดลิด (0 / 0)
เฟเดริโก้ เปเรยร่า (22) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)
โฮเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ (25) นาซิอองนาล (0 / 0)

 

กองกลาง
มาติอัส เวซิโน่ (31) ลาซิโอ (62 / 4)
โรดริโก้ เบนตันกูร์ (25) สเปอร์ส (51 / 1)
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ (24) เรอัล มาดริด (44 / 4)
จอร์เจียน เด อาร์รัสแซต้า (28) ฟลาเมงโก้ (40 / 8)
ลูคัส ตอร์เรยร่า (26) กาลาตาซาราย (40 / 0)
นิโกลัส เด ลา ครูซ (25) ริเวอร์เพลท (17 / 2)
เมาโร อารัมบาร์รี่ (27) เคตาเฟ่ (12 / 0)
แฟร์นันโด กอร์เรียราน (27) ซานโตส ลากูน่า (7 / 0)
มานูเอล อูร์กาเต้ (21) สปอร์ติ้ง (6 / 0)
เซซ่าร์ อเราโฮ (21) ออร์แลนโด้ ซิตี้ (0 / 0)
มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ (22) ปวยบลา (0 / 0)
เฟลิเป้ การ์บาโย่ (26) นาซิอองนาล (0 / 0)
ฟาบริซิโอ ดิอาซ (19) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)

 

กองหน้า
หลุยส์ ซัวเรซ (35) นาซิอองนาล (134 / 68)
เอดินสัน คาวานี่ (35) บาเลนเซีย (133 / 58)
โฮนาธาน โรดริเกซ (29) อเมริกา (29 / 3)
มักซี่ โกเมซ (26) แทร็บซอนสปอร์ (27 / 4)
ดาร์วิน นูนเยซ (23) ลิเวอร์พูล (13 / 3)
ฟาคุนโด้ ตอร์เรส (22) ออร์แลนโด้ ซิตี้ (10 / 0)
ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ (20) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (7 / 0)
อกุสติน อัลวาเรซ มาร์ติเนซ (21) ซาสซูโอโล่ (4 / 1)
ดีเอโก้ รอสซี่ (24) เฟเนร์บาห์เช่ (4 / 1)
อกุสติน คาน็อบบิโอ (24) ปาราเนนเซ่ (3 / 0)
ดาวิด เตรันส์ (28) ปาราเนนเซ่ (2 / 0)
ไบรอัน โอคัมโป้ (23) กาดิซ (1 / 0)
มาร์ติน ซาเตรียโน่ (21) เอ็มโปลี (1 / 0)
ติอาโก้ บอร์บาส (20) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)
นิโกลัส โลเปซ (29) ยูเอเอ็นแอล (0 / 0)

 

หลุดโผ
โรดริโก้ ซาลาซาร์ (ชาลเก้), กาสตัน เปเรยโร่ (กายารี่), นาฮิตัน นานเดซ (กายารี่), คริสเตียน สตูอานี่ (คิโรน่า)

 

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Daily Mail

ภาพประกอบ
Newsdelivers
Sporting News
VOI
US Soccer
PokerStars News