เรื่อง

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ ‘เมสซี่’ แต่แข้งฟ้าขาว ‘ทุกคน’ ล้วนสำคัญ!

เปิดขุมกำลัง อาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลก 2022

ในเรื่องเล่าแชมป์โลกแต่ละสมัยของ อาร์เจนติน่า น่าแปลกไม่น้อยที่จะมี “พระเอก” เป็นเสมือนผู้นำทีมไปสู่ความสำเร็จ — ที่ให้บังเอิญว่า ต่างก็สวมเสื้อหมายเลข 10 ด้วยกันทั้งหมดเสียด้วย

 

1978 มาริโอ เคมเปส
1986 ดีเอโก้ มาราโดน่า
และ 2022 ลิโอเนล เมสซี่

 

แต่เอาเข้าจริง อาจ “ช็อตฟีล” ไปหน่อยที่ต้องบอกว่า… ฟุตบอล ไม่ใช่ “กีฬาชายเดี่ยว” แต่อย่างใด

 

ตราบใดที่ เมสซี่ ไม่อาจยิงประตูเสร็จแล้วคว้าถุงมือโกล์มาเฝ้าเสาได้ ก็เลิกพูดเสียทีว่า อาร์เจนติน่า ประสบความสำเร็จได้เพราะ เมสซี่ เพียงคนเดียว

 

เพราะไม่ใช่แค่ เมสซี่ แต่แข้งฟ้าขาว “ทุกคน” อีก 25 นักเตะ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ก็ล้วนแต่มีความสำคัญ มีประโยชน์และส่งอิทธิพลจากการเล่นในตำแหน่งของตัวเอง

 

ดังนั้น ฟุตบอลโลก 2022 จึงไม่ใช่ “ฟุตบอลโลกของเมสซี่”

 

แต่คือฟุตบอลโลกของ “ทีมชาติอาร์เจนติน่า”

 

และว่ากันถึงที่สุด ก็คงเป็นของชาวอาร์เจนไตน์…ทุกชีวิต!

 

 

ผู้รักษาประตู
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!1. ฟรังโก้ อาร์มานี่
ลงสนาม : 0
รวมนาที : 0
เสียประตู : 0
ถ้าจะมีใครไม่สำคัญในทีมชุดแชมป์โลกชุดนี้ ก็ ฟรังโก้ อาร์มานี่ นี่แหละ (ฮา) โดยนายประตูวัย 36 จาก ริเวอร์เพลท มาเข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในฐานะมือสองรองจาก เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ซึ่งโชคไม่ดีที่ทัวร์นาเมนต์นี้ อาร์เจนติน่า ไม่มีเกมในลักษณะ “ไม่ซีเรียส” อยู่เลย ทำให้โอกาสลงสนามทั้งหมดเป็นของมือหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!12. เคโรนิโม่ รุลลี่
ลงสนาม : 0
รวมนาที : 0
เสียประตู : 0
หนักกว่ามือสองอย่าง ฟรังโก้ อาร์มานี่ ก็คือมือสามอย่าง เคโรนิโม่ รุลลี่ จอมหนึบวัย 30 จาก บียาร์เรอัล ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่ว่าไว้ในท่อนขยายของ อาร์มานี่ ว่า อาร์เจนติน่า ไม่มีเกมขำๆ แต่อย่างใด ส่งผลให้ทั้งมือสองและมือสาม ได้แค่ร่วมซ้อมและรอสแตนด์บายข้างสนามเท่านั้น

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!23. เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริงทั้งหมด)
รวมนาที : 690
เสียประตู : 8
เซฟประตู : 6
สร้างชื่อทั้งในฐานะมือหนึ่งแชมป์โลก, จอมเซฟจุดโทษ และตัวตึงค่ายฟ้าขาว เจ้าของรางวัลนายประตูยอดเยี่ยม Golden Glove โดยแม้จะเสียประตูไปไม่น้อย 8 ลูกจาก 7 นัด แต่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ในวัย 30 (แล้ว) จาก แอสตัน วิลล่า ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือยอดนายทวารคนหนึ่งของวงการ ซึ่งนอกจากการเซฟจุดโทษของทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ คิงสลี่ย์ โกม็อง ในช่วงดวลเป้า (สองรอบ) แล้ว ก็ยังเซฟช็อตสำคัญมากๆ จากการยิงของ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ หอกสำรองฝรั่งเศส ในช่วงทดเจ็บ 120+3 ของการต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้ อาร์เจนติน่า ยื้อไปได้จนถึงดวลเป้า ไม่เช่นนั้นฟ้าขาวก็คงต้องรอแชมป์โลกไปอีก 4 ปีเป็นอย่างน้อย

 

 

 

กองหลัง
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!2. ฮวน ฟอยธ์
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 5
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กองหลังสารพัดประโยชน์จาก บียาร์เรอัล ได้ลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 แค่ 5 นาทีสุดท้ายของเกมที่ อาร์เจนติน่า ยิง โครเอเชีย ขาดลอยไปแล้ว 3-0 ในรอบตัดเชือก แต่ด้วยวัยแค่ 24 จึงยังถือว่ามีอนาคตอีกยาวไกลในทีมฟ้าขาว

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!3. นิโกลัส ตายาฟิโก้
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 3 สำรอง 3)
รวมนาที : 373
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แบ็กซ้ายวัย 30 จาก โอลิมปิก ลียง ออกสตาร์ทตัวจริงในนัดแรก แต่ผลแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างช็อกโลก 1-2 ก็ทำให้เขาโดนลงโทษอย่างกลายๆ ด้วยการโดนดร็อปจากทีมตัวจริงในเกมถัดๆ มา จนกระทั่งคืนสู่ 11 คนแรกอีกครั้งได้ในรอบตัดเชือกกับ โครเอเชีย ภายหลัง มาร์กอส อคุนย่า ติดโทษแบน แต่แม้รายหลังจะพ้นโทษพร้อมเล่นนัดชิง ก็ยังเป็นโอกาสของ ตายาฟิโก้ ได้ยืนตัวจริงต่ออย่างเซอร์ไพรส์ในนัดชิงแชมป์กับ ฝรั่งเศส

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!4. กอนซาโล่ มอนเทียล
ลงสนาม : 4 (ตัวจริง 1 สำรอง 3)
รวมนาที : 118
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หนึ่งในโจ๊กเกอร์ที่ ลิโอเนล สคาโลนี่ ให้ความไว้วางใจเป็นพิเศษสำหรับความนิ่งแน่นอนของการยิงจุดโทษ เมื่อแม้ว่าแบ็กขวาวัย 25 จากเซบีย่า จะได้เล่นตัวจริงแค่นัดเดียวกับ เม็กซิโก (2-0) แต่เมื่อเกมยืดเยื้อถึงดวลเป้าแล้ว มอนเทียล ก็จะถูกส่งลงไปเป็นมือสังหารเสมอ และยิงได้อย่างเฉียบขาดเข้าเป้าทั้งเกมชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-3 และชนะ ฝรั่งเศส 4-2 (แต่ก็โดนจับแฮนด์บอล เสียจุดโทษลูก 3-3)

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!6. เคร์มัน เปซเซลล่า
ลงสนาม : 3 (ตัวจริง 0 สำรอง 3)
รวมนาที : 60
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
เซนเตอร์แบ็กตัวสำรองวัย 31 จาก เรอัล เบติส ถูกส่งลงท้ายเกมแทนเพื่อนทั้ง 3 นัดของการเล่นฟุตบอลโลก 2022 ได้แก่รอบแรกที่ชนะ โปแลนด์ 2-0 (12 นาที), รอบ 8 ทีมชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 (43 นาที) และนัดชิง ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 ก็ได้ลงไปช่วยอุดเกมรับเฮือกท้าย นาที 116

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!8. มาร์กอส อคุนย่า
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 4 สำรอง 2)
รวมนาที : 373
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แบ็กซ้ายประสบการณ์สูงวัย 31 จากเซบีย่า เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นสำรองของ นิโกลัส ตายาฟิโก้ แต่ก็ก้าวขึ้นไปเป็นตัวจริงแทนที่ ตายาฟิโก้ ตั้งแต่นัดชนะ เม็กซิโก 2-0 เป็นต้นไป จนกระทั่งรอบ 8 ทีมที่มาโดนใบเหลืองเพิ่ม ทำให้ติดแบนอดเล่นรอบตัดเชือก จนกลายเป็นว่าต้องหลุดเป็นสำรองไปเสียในนัดชิงกับ ฝรั่งเศส เพียงแต่ก็ยังถูกเปลี่ยนลงไปช่วยเสริมเกมรับแทน อังเคล ดิ มาเรีย ในนาที 64

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!13. คริสเตียน โรเมโร่
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 6 สำรอง 1)
รวมนาที : 547
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แม้จะเข้าๆ ออกๆ ไม่ได้เป็นตัวจริงถาวรของ สเปอร์ส แต่กับทีมชาติแล้ว เซนเตอร์แบ็กวัย 24 จัดเป็นคนสำคัญในแผงหลัง เป็นตัวยืนมาตั้งแต่ โคปา อเมริกา 2021 ระดับติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ต่อมาในฟุตบอลโลก 2022 ก็เป็นตัวจริงถึง 6 จาก 7 นัดที่ อาร์เจนติน่า ลงสนาม รวมถึงก็เป็นตัวจริงแบบอยู่ครบเกม 120 นาทีของนัดชิงชนะเลิศ

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!19. นิโกลัส โอตาเมนดี้
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 7 สำรอง 0)
รวมนาที : 690
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 1
ทั้งที่ขวบวัยปาไป 34 ย่าง 35 และหลบไปสังกัดทีมเกรดรองอย่าง เบนฟิก้า แล้ว แต่ปรากฏว่า โอตาเมนดี้ แทรกลงตัวจริงในทีมของ สคาโลนี่ อย่างเซอร์ไพรส์ แถมสร้างสถิติน่าสะพรึงอย่างการลงเป็น 11 คนแรกครบถ้วนทั้ง 7 นัดและเล่นครบทุกนาทีของทั้ง 7 แมตช์ ไม่ถูกถอดออกแม้แต่ครั้งเดียว จนมีเพียง โอตาเมนดี้, เมสซี่ และนายประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เท่านั้น ที่ลงเล่นครบทั้ง 690 นาทีที่กาตาร์ ของทีมฟ้าขาว

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!25. ลิซานโดร มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 2 สำรอง 3)
รวมนาที : 303
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
สร้างชื่อเป็นปราการหลังจอมแกร่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา แต่กับทีมชาติแล้ว ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวเลือกที่ 3 รองจากทั้ง นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ คริสเตียน โรเมโร่ จนในเวิลด์คัพหนนี้ได้เล่นตัวจริงแค่ 2 นัด เกมรอบแรกกับ เม็กซิโก และลงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็กนัดชนะ เนเธอร์แลนด์ รอบ 8 ทีม

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!26. นาอูเอล โมลิน่า
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 6 สำรอง 1)
รวมนาที : 567
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
มีเส้นทางค้าแข้งพุ่งขึ้นดุจดั่งพลุไฟ เมื่อแบ็กขวาวัย 24 เพิ่งจะย้ายจาก อูดิเนเซ่ ไป แอตเลติโก มาดริด ซีซั่นนี้เอง รวมถึงก็เพิ่งเริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีก่อนเท่านั้น แต่ไม่มีใครหยุดอยู่จนกลายเป็นแบ็กขวาตัวเลือกแรกของ สคาโลนี่ ไปแล้ว ในฟุตบอลโลก 2022 ก็ลงตัวจริง 6 นัด สำรองหนเดียวนัดพบ เม็กซิโก และมี 1 ประตูในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ รวมถึง 1 แอสซิสต์กับ โปแลนด์ ด้วย

 

 

 

 

 

กองกลาง
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!5. เลอันโดร ปาเรเดส
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 2 สำรอง 3)
รวมนาที : 225
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
อันที่จริง กลางรับวัย 28 จาก ยูเวนตุส เป็นคนที่ติดทีมชาติมาเยอะที่สุด (45 นัด) ในบรรดามิดฟิลด์ที่ สคาโลนี่ เลือกมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงทัวร์นาเมนต์ก็ดันหลุดออกจาก 11 คนแรกไปเสีย เหตุผลอาจมาจากเกมแรกกับ ซาอุฯ ที่ ปาเรเดส ได้เล่นตัวจริงแต่เล่นไม่ค่อยดี ปิดเกมคู่แข่งไม่อยู่ โดนทะลวง 2 ประตูจนโดนถอดออกหลังจากนั้น แล้วก็หายหน้าไป ค่อยกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งตอนตัดเชือกกับ โครเอเชีย

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!7. โรดริโก้ เด ปอล
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 7 สำรอง 0)
รวมนาที : 599
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
โรดริโก้ “เดอะ บอดี้การ์ด” เด ปอล องครักษ์พิทักษ์เมสซี่ จัดเป็นหนึ่งในคีย์แมนชุดแชมป์โลกของทัพฟ้าขาว ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่างรุกก็ดีรับก็ได้ ขับเคลื่อนแดนกลางด้วยพลังแรงสูง แม้จะไม่มีทั้งประตูและแอสซิสต์ แต่มิดฟิลด์เชื้อสายอิตาลีวัย 28 จาก แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่หลุดจากทีมเลยแม้แต่นัดเดียว และมีนาทีในสนามเป็นรองแค่ 3 คนที่ได้ลงทุกนาที (เอมี่ มาร์ติเนซ, โอตาเมนดี้, เมสซี่) เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!14. เอเซเกล ปาลาซิออส
ลงสนาม : 3 (ตัวจริง 0 สำรอง 3)
รวมนาที : 50
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กลางรับตัวเลือกรองลงไปจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาฟุตบอลโลกในฐานะอะไหล่สำรองของพี่ๆ ส่งผลให้ได้เล่นแค่ 3 เกม (เม็กซิโก, ออสเตรเลีย, โครเอเชีย) เป็นตัวสำรองช่วงท้ายทั้งหมด และมีนาทีในสนามแค่ 50 นาทีเท่านั้น

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!16. ติอาโก้ อัลมาด้า
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 7
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มิดฟิลด์หนุ่มน้อยวัย 21 เด็กสุดในทีมแชมป์โลกชุดนี้ (อ่อนเดือนกว่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ) ได้มาฟุตบอลโลก 2022 อย่างส้มหล่น โดยถูกเรียกมาแทนตัวเจ็บอย่าง ฮัวกิน กอร์เรอา ซึ่งดาวรุ่งจาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ทีมในสหรัฐฯ ก็ได้สัมผัสเกมที่กาตาร์แค่ 7 นาทีถ้วน จากการลงสำรองท้ายเกมกับ โปแลนด์ ซึ่งนับเป็นการเล่นชุดใหญ่เกมที่ 3 เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!17. อเลฮานโดร โกเมซ
ลงสนาม : 2 (ตัวจริง 2 สำรอง 0)
รวมนาที : 107
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
ตัวรุกสูงวัย (34) จาก เซบีย่า เพิ่งจะมาติดทีมชาติอาร์เจนติน่าสม่ำเสมอก็ในช่วงที่มี สคาโลนี่ ทำทีมนี่เอง แต่ก็มีรอยด่างตรงที่ประตูสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปไกลถึงท้ายซีซั่นก่อนทีเดียว ส่วนที่กาตาร์ “ปาปู้” โกเมซ ได้เล่นตัวจริง 2 เกม กับ ซาอุฯ และ ออสเตรเลีย แต่ก็ไม่มีผลงานอะไรเท่าไหร่ โดนถอดออกต้นครึ่งหลังทั้งสองนัด

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!18. กีโด้ โรดริเกซ
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 1 สำรอง 0)
รวมนาที : 56
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กลางรับร่างโย่งวัย 28 จาก เรอัล เบติส เป็นตัวจริงชุดแชมป์ โคปา อเมริกา กลางปีที่แล้ว แต่หลุดลงเป็นสำรองของชุดแชมป์โลก ได้เล่นแค่เกมเดียว (ลงตัวจริง) นัดชนะ เม็กซิโก 2-0 ก่อนโดนถอดออกกลางครึ่งหลัง กระนั้นก็เหมือนเป็นการค้นพบของทัวร์นาเมนต์เหมือนกัน เมื่อตัวที่ลงแทนคือ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ผู้ซึ่งกลายเป็นดาวเด่นในที่สุด

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!20. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 6 สำรอง 0)
รวมนาที : 550
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
มิดฟิลด์จาก ไบรท์ตัน ได้ของขวัญวันเกิด (24 ธ.ค.) อายุครบ 24 ปีระดับพรีเมี่ยมอย่างเหรียญทองและโทรฟี่แชมป์โลก ภายหลังลูกชายของ คาร์ลอส “โคโล่” แม็ค อัลลิสเตอร์ อดีตตัวทีมชาติอาร์เจนติน่า 3 นัด (โบคา จูเนียร์ส 1992-1996) จัดเป็นหนึ่งในความเซอร์ไพรส์ของทีมแชมป์โลก ด้วยการที่ก่อนทัวร์นาเมนต์ อเล็กซิส เพิ่งติดธงชุดใหญ่มาแค่ 7 เกมเท่านั้น แต่ก็ถูกเลือกจาก สคาโลนี่ ให้ลงตัวจริงในฟุตบอลโลก 2022 นับตั้งแต่รอบแรกนัดสอง กับ เม็กซิโก เป็นต้นไป (มียิง 1 ลูกกับ โปแลนด์) จนกระทั่งถึงเกมชิงชนะเลิศ

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!24. เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 5 สำรอง 2)
รวมนาที : 564
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
หลังจากถูกส่งลงสำรองครึ่งชั่วโมงท้ายของเกมกับ เม็กซิโก แล้วสร้างผลงานได้ทันที ยิง 1 ประตูปิดกล่องให้ อาร์เจนติน่า กำชัย 2-0 ก็กลายเป็นเหมือนการค้นพบสุดสำคัญของ สคาโลนี่ ที่หลังจากนั้นก็ส่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 จาก เบนฟิก้า ลงตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และ เฟร์นานเดซ ทำอีก 1 แอสซิสต์นัดชนะ โปแลนด์ ก่อนจะช่วยให้ฟ้าขาวไปถึงฝั่งฝัน จนสุดท้ายก็ได้รับคัดเลือกให้คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของรายการ FIFA Young Player Award ไปครอง

 

 

 

 

 

กองหน้า
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!9. ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 5 สำรอง 2)
รวมนาที : 464
ประตู : 4
แอสซิสต์ : 0
ที่จริง ผู้คนก็พอรู้อยู่แล้วว่า ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ไม่ธรรมดา จากการจิ้มเลือกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ และก็มีผลงานยิง 7 ประตูในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่าเจ้าหนุ่มวัย 22 จะระเบิดเถิดเทิงได้ขั้นนี้ เริ่มจากฉกชิงตัวจริงมาจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แล้วก็ยึดเอาไว้แบบยาวๆ จนถึงแชมป์โลก โดยมีผลงานชิ้นโบว์แดงที่การซัด 2 ตุงในเกมสยบ โครเอเชีย 3-0 รอบตัดเชือก รวมสอยไป 4 ประตูในฟุตบอลโลกครั้งแรกของตัวเอง

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!11. อังเคล ดิ มาเรีย
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 4 สำรอง 1)
รวมนาที : 288
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
น้อยแต่มาก… เกือบจะเป็นสุดยอดโจ๊กเกอร์แห่งฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเรียกจุดโทษ 1 และยิงประตูเองอีก 1 นำ อาร์เจนติน่า ฉีกสกอร์นำ ฝรั่งเศส 2-0 ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ด คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จนเจียนอยู่เจียนไปและต้องเสียน้ำตาบนม้านั่งสำรองหลายรอบ ซึ่งที่จริง ในวัยย่าง 35 และสภาพร่างกายไม่ได้ฟิตปั๋งเหมือนตอนรุ่งๆ ดิ มาเรีย ก็คงมาเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็มีแชมป์โลกติดมือเข้าจนได้

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!15. อังเคล กอร์เรอา
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 5
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มาลุยฟุตบอลโลก 2022 แบบที่ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากอยู่แล้ว ด้วยการเป็นมวยแทนของ นิโก้ กอนซาเลซ ที่เจ็บจนต้องถอนตัวไปก่อนทัวร์นาเมนต์ และกองหน้ากึ่งปีกวัย 27 จาก แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่ได้ขออะไรมากนอกจากให้ทีมประสบความสำเร็จ โดยที่เขาได้ลงสำรอง 5 นาทีท้ายของเกมกับ โครเอเชีย ภายหลังสกอร์ขาดไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!21. เปาโล ดีบาล่า
ลงสนาม : 2 (ตัวจริง 0 สำรอง 2)
รวมนาที : 18
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หวิดจะกลายเป็นผู้แพ้ในทีมผู้ชนะ จากการที่หัวหอกเพียบดีกรี (12 แชมป์สมัยอยู่ ยูเวนตุส, ติดทีมแห่งปี เซเรีย อา 4 รอบ) อย่าง ดีบาล่า ไม่ถูกเลือกจาก สคาโลนี่ ให้ได้ลงสนามเลย ด้วยเหตุผลเรียบๆ ง่ายๆ (แต่เจ็บปวด) ว่า ในสายตาของโค้ชอย่างเขา มีตัวเลือกที่ดีกว่าให้ใช้งาน แต่ในที่สุดแล้วก็ยังได้ลงสำรองในเกมกับ โครเอเชีย และ ฝรั่งเศส โดยที่ยังไว้ลายด้วยการสังหารจุดโทษเข้าอย่างไม่พลาดในช่วงดวลเป้าชี้ขาด จึงนับว่ามีส่วนสำคัญกับการเป็นแชมป์โลกครั้งนี้ด้วย

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!22. เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 2 สำรอง 4)
รวมนาที : 241
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มาลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่หน 3 (แต่บอลโลกครั้งแรก) ของตัวเองด้วยสถานะตัวจริง และมีสถิติดีด้วยในการรับใช้ชาติ (21 ประตูจาก 40 นัด) แต่เกือบๆ จะกลายเป็น Flop of the Tournament ไปเสีย ด้วย 2 ประตูที่ถูกยกเลิกด้วยวีเออาร์เกมเปิดหัวกับ ซาอุฯ ที่ดูจะส่งผลกับความมั่นใจโดยตรง จนเล่นได้อย่างย่้ำแย่ในเกมถัดๆ มา (โดนดร็อปสำรองตั้งแต่เกมกับ โปแลนด์ เป็นต้นไป) โดยเฉพาะนัดชนะ ออสเตรเลีย 2-1 ที่มีโอกาสถ่างสกอร์หลายหนแต่พลาดไปหมด และสุดท้ายไม่มีประตูเลยในเส้นทางสู่แชมป์โลก อย่างไรก็ตาม ถือว่า เลาตาโร่ ยังเล่นได้อย่างวูบวาบในนัดชิง อย่างน้อยมีส่วนร่วมกับประตูนำ 3-2 ที่เขาส่องติดเซฟ อูโก้ โยริส ก่อนบอลมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงเข้าไป

 

 

 

ตัวละครลับ
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!เซร์คิโอ อเกวโร่
อดีตดาวยิงวัย 34 อาศัยช่วงว่างๆ ภายหลังต้องเลิกเล่นอาชีพไปแบบช็อกวงการด้วยปัญหาหัวใจ เดินทางไปสมทบกับแคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินาที่ประเทศกาตาร์ โดยในช่วงแรกมีปัญหาไม่ได้อนุมัติบัตรผ่านจากฝ่ายจัดฯ แต่ในที่สุดก็ได้ไฟเขียวและอยู่ยาวมาจนจบรายการ โดยเป็นเสมือนสตาฟฟ์โค้ชอย่างไม่เป็นทางการ ให้คำปรึกษาน้องๆ โดยเฉพาะบรรดากองหน้า และเมื่อทีมได้แชมป์โลกก็สวมเสื้อเบอร์ 19 ซึ่งเคยใส่ลุยบอลโลก 2018 ไปร่วมฉลองอย่างออกนอกหน้าที่กลางสนาม

 

 

 

 

 

 

 

 

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง…กุนซือ
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!ลิโอเนล สคาโลนี่
ที่จริง นี่คือเพื่อนรุ่นพี่ร่วมทีมของ เมสซี่ ในชุดที่ อาร์เจนติน่า ลงเตะฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เพียงแต่ว่าแบ็กขวา/ปีกขวา (สร้างชื่อกับ ลา กอรุนญ่า, เวสต์แฮม, ลาซิโอ) อย่าง สคาโลนี่ ก็ได้เล่นแค่เกมเดียวในทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่ให้หลังมาอีก 9 ปี (2015) เขาจะแขวนสตั๊ดกับ อตาลันต้า

 

หนึ่งปีหลังจากนั้น สคาโลนี่ ได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้ช่วยของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่เซบีย่า และเมื่อเจ้านายใหญ่ขยับไปรับงานคุมทีมชาติ สคาโลนี่ ก็ติดสอยห้อยตามไปช่วยงาน ซัมเปาลี เช่นกัน

 

ครั้นเมื่อ อาร์เจนติน่า ล้มเหลวกับฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซัมเปาลี ถูกเด้งพ้นไป สคาโลนี่ ก็ยังคงได้จับงานกับทีมชาติต่อ–ในฐานะกุนซือรักษาการร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และถัดมาก็ขึ้นคุมเดี่ยวๆ หลังจากนั้นไม่นาน

 

เอาเข้าจริง การนั่งเก้าอี้แบบ “ไร้ดีกรี” ไม่เคยคุมสโมสรใดมาก่อนเลย ทำให้ สคาโลนี่ ถูกปรามาสถึงฝีมือไว้เยอะ เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกเสียงครหาก็เปลี่ยนเป็นเสียงปรบมือ และดังสนั่นหวั่นไหวเสียด้วย

 

สคาโลนี่ กลายเป็น “คนที่ใช่” ของ อาร์เจนติน่า ไปเสียเฉยๆ ด้วยผลงานประจักษ์ชัดอย่างแชมป์โคปา อเมริกา 2021 แถมจากแมตช์สู่แมตช์ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี อาร์เจนติน่า ของ สคาโลนี่ ก็กลายเป็นเบอร์ 2 “สถิติโลก” ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 36 นัดทีเดียว

 

ต่อเมื่อแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างพลิกล็อก 1-2 ในเกมเปิดหัวฟุตบอลโลก 2022 แล้ว หลังจากนั้น อาร์เจนติน่า ในมือกุนซือหนุ่มวัย 44 ก็ไม่แพ้ใครอีก…จนกระทั่งผงาดครองแชมป์โลกที่รอคอยมา 36 ปี

 

นั่นเท่ากับว่า สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 43 นัดหลังสุด!

 

43 นัดล่า
ชนะ 29
เสมอ 13
แพ้แค่ 1 เกมถ้วน

 

ที่สำคัญ จากโค้ชมือใหม่หัดขับ ไม่ค่อยประสีประสาแท็กติกอะไรในช่วงแรกๆ คงถือได้ว่า สคาโลนี่ เป็นหนึ่งใน “จอมแท็กติก” ของวงการ และการตัดสินใจเลือกบางสิ่งของเขาก็มักได้ผล “ถูกต้อง” เสียด้วย

 

ไม่ว่าจะ
• เปลี่ยนทีม 5 ตำแหน่งจากเกมแพ้ ซาอุฯ จนชนะ เม็กซิโก 2-0
• เลือกใช้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ เป็นตัวจริงต่อเนื่อง
• วางเด็ก 21 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เป็นแกนกลาง
• ถอดและดร็อป เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลังผ่านไปเกมครึ่ง เปิดทางให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงไปสร้างชื่อ
• หย่อน 3 เซนเตอร์แบ็กลงไปรับมือ เนเธอร์แลนด์ แล้วยันอยู่จน 7 นาทีท้าย (ค่อยมาโดน 2 เม็ดหลังจากนั้น แต่ก็ยังชนะดวลจุดโทษ)
• ปรับระบบมาเน้นรุกอีกครั้งในรอบตัดเชือก แล้วก็อัด โครเอเชีย ขาด 3-0
• ใช้เสือเฒ่าอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ในนัดชิง เพื่อปั่นป่วนเกมรับฝั่งขวาของ ฝรั่งเศส โดยเฉพาะ และ ดิ มาเรีย ก็ทำงานได้อย่างสุดยอด เรียกจุดโทษ 1 ยิงเอง 1

 

การเลือกตัวและการวางหมากเหล่านี้ของ สคาโลนี่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญสู่แชมป์โลกของ อาร์เจนติน่า

 

ฉะนั้น ก็อาจพูดได้ว่า ถ้าไม่ได้โค้ชคนนี้ เมสซี่ ก็อาจไปไม่ถึงแชมป์โลก

 

เช่นกัน หากปราศจากจิ๊กซอว์ทั้ง 24-25 ชิ้นที่เหลือ–นอกจากชิ้นใหญ่สุดอย่าง เมสซี่ แล้ว ก็คงไม่มีทางที่ อาร์เจนติน่า จะไปถึงเส้นชัยได้

 

ฉะนั้น แน่นอนที่สุด แชมป์โลกครั้งนี้ที่อยู่มือฟ้าขาว เครดิตต้องเป็นของ “ทุกคน” — ในฐานะของ “ทีม”

 

ไกด์เถื่อน

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA
fbref.com

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter
GettyImages

 

เรื่องน่าอ่าน
แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022 …!?!
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

ลิโอเนล เมสซี่ กับสารพัดสถิติ หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ กับสารพัดสถิติ หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ลิโอเนล เมสซี่ยังไม่อำลาทีมชาติ

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ กับถ้วยที่รอมานาน (ภาพ: www.eurosport.com)

ฟุตบอลโลก 2022 น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเมสซี่ เมื่ออีก 4 ปีข้างหน้าอายุเขาจะขยับไปเป็น 39 ปี ที่หากยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็น่าจะเป็นกำลังสนับสนุน หรือมีความสำคัญในแง่อื่นกับทีมมากกว่าเกมในสนาม ทำให้หลาย ๆ คนมองว่า หากคว้าแชมป์สำเร็จ ลิโอเนล เมสซี่จะอำลาสนาม

โดยก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น เมสซี่ให้สัมภาษณ์ว่า ทัวร์นาเมนท์นี้น่าจะเป็นฟุตบอลโลกสุดท้ายของเขา แต่ล่าสุดหลังพาทีมรับถ้วยที่รอคอย เมสซี่บอกกับสื่อว่า เขาตั้งใจที่จะเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าต่ออีกสักระยะ

“ผมคว้าแชมป์โคปา อเมริกาและแชมป์โลกในช่วงเวลาที่สั้นมาก” เมสซี่ กล่าว “ผมรักในสิ่งที่ผมทำ การได้ลงเล่นให้ทีมชาติ และผมอยากลงเล่นต่อไปหลาย ๆ เกมในฐานะแชมป์โลก” และ “ผมกำลังจะนำถ้วยแชมป์กลับอาร์เจนติน่า เพื่อความสุขของทุกคน”

เมสซี่ยังพูดอีกว่า มันเป็นเรื่องความฝันแบบเด็ก ๆ ในการพาอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์โลกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ดีเอโก้ มาราโดน่าทำได้ ที่เม็กซิโกเมื่อปี 1986

“มันเป็นความฝันแบบเด็ก ๆ ของใครก็ได้” เมสซี่บอก “ผมโชคดีที่ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างในการทำงาน และหนึ่งในสิ่งที่หายไปก็อยู่ตรงนี้แล้ว” เขากล่าว “มันบ้าบอดี ดูถ้วยแชมป์นี่ซิ เธอสง่างามมาก ผมอยากได้เธอมาก ๆ ผมเคยมองว่า นี่คงจะเป็นอีกถ้วยหนึ่ง… แล้วเธอก็เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ” เมสซี่ย้ำด้วยว่า “พวกเราเจออะไรร้าย ๆ แต่ในที่สุดเราก็คว้าแชมป์จนได้ ผมอยากปิดชีวิตการทำงานของตัวเองด้วยแชมป์นี้ ผมคงไม่สามารถขออะไรได้อีก ขอบคุณพระเจ้า ที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับผม”

ลิโอเนล สคาโลนี่ โค้ชของอาร์เจนติน่า ก็พูดในการให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า เมสซี่จะได้รับการต้อนรับเสมอสำหรับการเล่นให้ทีมชาติ

ลิโอเนล เมสซี่ กับสถิติมากมายในฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโ,ก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ กับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 2022 ลูกฟุตบอลทองคำ (ภาพ: www.goalzz.com)

นอกจากจะเดินตามรอยตำนานนักเตะของอาร์เจนติน่าและของโลก ที่คว้าแชมป์โลกสำเร็จ เมสซี่ยังทำให้สถานภาพของตัวเองในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดในโลกมั่นคงยิ่งขึ้น แม้จะพลาดรองเท้าทองคำ รางวัลสำหรับดาวซัลโวให้กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่เขาก็เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของรายการ ซึ่งเป็นหนที่ 2 แล้วที่เขาได้รับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำ โดยในฟุตบอลโลก 2022 เมสซี่ยิงไป 7 ประตู และจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีกสาม

ในตอนนี้จากการลงเล่นทุกเกมรวม 1,003 นัดทั้งในระดับชาติและสโมสร เจ้าของบัลลงดอร์ 7 สมัยทำประตูไปถึง 793 ประตู แล้วยังกลายเป็นเจ้าของสถิติมากมายในฟุตบอลโลกให้ได้เล่าขานถึง และนี่คือ สถิติเหล่านั้น

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้น เมสซี่ที่เป็นหนึ่งใน 11 ผู้เล่นตัวจริงของอาร์เจนติน่าคือนักเตะคนแรกที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 26 เกม มากกว่าเจ้าของสถิติเดิม โลธ่าร์ มัตเทอุส กองกลางเยอรมนี ที่ทำไว้ 25 นัด โดยเมสซี่เล่นฟุตบอลโลกนัดแรกในเดือนมิถุนายน 2006 และลงเล่นแค่ 3 เกมที่เยอรมนีในฐานะซูเปอร์ซับ ตามด้วยการเป็นตัวจริงทุกนัดของอาร์เจนติน่าในฟุตบอลโลก 2010, 2014, 2018 และ 2022

โดยเมสซี่ยังทำลายสถิตินักเตะอาร์เจนไตน์ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุด 21 นัดของมาราโดน่าลงด้วย

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะที่เล่นฟุตบอลโลกด้วยจำนวนนาทีมากที่สุด

เปาโล มัลดินี่ อิตาลี

ปาโล มัลดินี่ กองหลังอมตะของทีมชาติอิตาลี (ภาพ: www.skysports.com)

นอกจากจะลงเล่นฟุตบอลโลกด้วยจำนวนนัดที่มากที่สุดแล้ว เมสซี่ยังลงเล่นโดยคิดเป็นนาทีมากที่สุดอีกด้วย โดยเจ้าของสถิติเดิมก็คือ เปาโล มัลดินี่ กองหลังอมตะของทีมชาติอิตาลี เมื่อเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 มาถึงการดวลจุดโทษ นั่นหมายความว่า เมสซี่ลงเล่นไปแล้ว 2,314 นาทีจาก 26 นัด ส่วนมัลดินี่ลงเล่น 2,216 นาทีจาก 23 นัดในฟุตบอลโลก

ลิโอเนล เมสซี่คือนักเตะที่มีส่วนกับการได้ประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม ก่อนนัดชิงจะเริ่มขึ้น (ภาพ:  Ariel Schalit/AP)

มาถึงสถิติที่ว่าด้วยศักยภาพในการทำเกมรุกในแนวรับของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นดาวยิงที่เยี่ยมยอดและผู้สร้างสรรค์ประตูที่ยอดเยี่ยมของเมสซี่ เมสซี่ทำประตูในฟุตบอลโลกไปถึง 13 ประตู และจ่ายให้เพื่อนอีก 8 ประตู ทำให้เขามีส่วนโดยตรงกับการทำประตูในฟุตบอลโลกถึง 21 ประตู มากที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติในปี 1966

โดยเจ้าของสถิติก่อนหน้านี้คือ มิโรสลาฟ โคลเซ จากเยอรมนี ที่ยิงไป 16 จ่ายไป 3 ประตู, โรนัลโด้ แห่งบราซิล ยิง 15 ส่งให้เพื่อน 4 และเกิร์ด มุลเลอร์ ยิง 14 และส่งให้เพื่อนอีก 5 ประตู

ลิโอเนล เมสซี่คือนักเตะที่มีส่วนกับประตูในฟุตบอลโลกด้วยจำนวนนัดที่มากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ (ภาพ: AFP)

การมีส่วนร่วมกับ 21 ประตูของเมสซี่เกิดจาก 14 เกมที่ลงเล่น และการยิงจุดโทษลูกแรกในนัดชิง ก็ทำให้เมสซี่เป็นนักเตะที่ลงเล่นฟุตบอลโลกแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูด้วยจำนวนเกมที่มากที่สุด เมสซี่มีส่วนร่วมอย่างน้อย 1 ประตูใน 6 จาก 7 เกมที่ลงเล่นในกาตาร์ พลาดไปเกมเดียวคือวันที่ฟ้า-ขาวเอาชนะโปแลนด์ในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอีก 8 เกมเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 2006 – 2018

ลิโอเนล เมสซี่คือผู้เล่นที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ในฟุตบอลโลกมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2006

ลิโอเนล เมสซี่ จากฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลโลกหนแรกในชีวิตของเขา (ภาพ: www.planetfootball.com)

เมสซี่เป็นนักเตะคนแรกที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในนัดเดียวกัน จากฟุตบอลโลกถึง 4 นัด นับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติกันในปี 1966 เมสซี่จารึกชื่อตัวเองในฐานะผู้เล่นที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนแรกของตัวเองเมื่อปี 2006 ในเกมกับเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร แล้วก็ต้องรอถึง 16 ปีกว่าจะทำได้อีกในปีนี้ จากเกมรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะเม็กซิโก ตามด้วยเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์ และเกมรอบรองชนะเลิศกับโครเอเชีย

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดและมากที่สุด ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ในฟุตบอลโลก
การที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกที่ยาวนานถึง 5 ครั้ง ทำให้เมสซี่เป็นทั้งนักเตะที่อายุน้อยสุดและมากสุด ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในนัดเดียวกันของทัวร์นาเมนต์

โดยตอนอายุแค่ 18 ปีกับ 357 วัน เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ยิงและจ่ายในเกมเดียวกัน จากฟุตบอลโลก 2006 ที่อาร์เจนติน่าชนะเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร 6-0 และวันที่เจอกับโครเอเชียในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 เขาก็กลายเป็นนักเตะที่อายุมากสุดที่ทำได้ ด้วยวัย 35 ปีกับ 172 วัน

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะอาร์เจนติน่าที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด

แกเบรียล บาติสตูต้า อาร์เจนติน่า

แกเบรียล บาติสตูต้า อดีตดาวซัลโว ฟ้า-ขาว อาร์เจนติน่า (ภาพ: www.reuters.com)

นอกจากจะเป็นนักเตะอาร์เจนติน่าที่ยิงให้ทีมชาติมากที่สุด ฟุตบอลโลกหนนี้ยังทำให้เมสซี่เป็นนักเตะอาร์เจนไตน์ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด หลังจากทำสถิติทาบแกเบรียล บาติสตูต้าในฐานะนักเตะอาร์เจนติน่าที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด 11 ประตู จากเกมรอบรองชนะเลิศกับโครเอเชีย และเมื่อรวมประตูจากเกมนัดชิง เขาก็กลายเป็นเจ้าของสถิติเพียงผู้เดียว ด้วยจำนวน 13 ประตู

โดยตอนนี้เมสซี่แซงหน้า เปเล่ ตำนานนักเตะจากบราซิลที่ทำไป 12 ประตู และเสมอกับดาวยิงระดับตำนานของฝรั่งเศส จุสต์ ฟองแต็ง – 13 ประตู ในรายชื่อผู้ทำประตูมากที่สุดของฟุตบอลโลก โดยเป็นรองแค่มิโรสลาฟ โคลเซ่ จากเยอรมนีที่ทำไว้ 16 ประตูเพียงคนเดียว

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูในทุกรอบของฟุตบอลโลกในครั้งเดียว

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022

7 ประตูของเมสซี่ในกาตาร์ เกิดขึ้นใน 6 นัด (ภาพ: AFP)

7 ประตูของเมสซี่ในกาตาร์ เกิดขึ้นใน 6 นัด แยกเป็น 2 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มกับซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก, 1 ประตูจากรอบ 16 ทีมกับออสเตรเลีย, 1 ประตูจากรอบก่อนรองชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์, 1 ประตูจากรอบรองชนะเลิศกับโครเอเชีย และ 2 ประตูในนัดชิงกับฝรั่งเศส ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูทุกรอบของฟุตบอลโลกครั้งเดียว จากรูปแบบการจัดการแข่งขัน 32 ทีม

โดยก่อนหน้านี้ แจร์ซินโญ่ นักเตะบราซิลเคยทำประตูในทุกรอบของฟุตบอลโลก 1970 แต่ตอนนั้นมีทีมเข้าร่วมเพียง 16 ทีม ขณะที่เมสซี่ทำได้จากเกมทั้งหมด 5 รอบ

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะจ่ายให้เพื่อนทำประตูจากฟุตบอลโลกต่างครั้งมากที่สุด

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

ไม่ใช่แค่ยิงประตู เมสซี่ยังเป็นผู้สร้างสรรค์ประตูชั้นดี โดยเขาจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูในฟุตบอลโลกได้ถึง 8 ประตู ซึ่งเท่ากับที่ดิเอโก้ มาราโดน่าตำนานนักเตะชาติเดียวกันทำไว้ แต่การจ่ายให้เพื่อน ๆ ยิงถึง 3 ประตูในกาตาร์ เริ่มจากเกมกับเม็กซิโกทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่จ่ายให้เพื่อนทำประตูในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง 2006, 2010, 2014, 2018 ทำลายสถิติที่ตัวเองทำไว้ 4 ครั้ง

ลิโอเนล เมสซี่ ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมที่มากที่สุดจากฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียว

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเมสซี่ในฟุตบอลโลก 2022 ทำให้เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกม (Man of the Match) ถึง 5 นัด (ภาพ: FIFA)

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเมสซี่ในฟุตบอลโลก 2022 ทำให้เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกม (Man of the Match) ถึง 5 นัด โดยนับตั้งแต่มีการมอบรางวัลนี้ในฟุตบอลโลกปี 2002 ไม่มีนักเตะคนไหนได้รางวัลนี้จากฟุตบอลโลกหนเดียวมากกกว่าเมสซี่อีกแล้ว โดยเจ้าของสถิติเดิมคือ เวสลีย์ สไนเดอร์ – 4 นัด

หากนับรวมจากฟุตบอลโลกทุกครั้ง เมสซี่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมในฟุตบอลโลกถึง 8 ครั้ง แซงหน้าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ของโปรตุเกส ที่ทำไว้ 7 นัด

ลิโอเนล เมสซี่ ได้รับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2014

ลิโอเนล เมสซี่ กับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำครั้งแรกในปี 2014 (ภาพ: AP Images)

นอกจากจะคว้าแชมป์โลกแล้ว เมสซี่ยังเป็นนักเตะยอดเยี่ยม ได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำอีกด้วย ซึ่งเป็นหนที่สองแล้ว หลังจากครั้งแรกในปี 2014 ทำให้เป็นนักเตะที่รับรางวัลนี้มากที่สุด และเป็นนักเตะอาร์เจนติน่าคนแรกที่ได้รางวัลนี้ หลังจากมาราโดน่าเคยคว้ามาครองในปี 1986

ในฟุตบอลโลกหนนี้ ยังมีนักเตะอาร์เจนติน่าอีก 2 รายที่คว้ารางวัลส่วนตัวพร้อมแชมป์โลกไปครองก็คือ เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ที่เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยม และอีมิเลียโน มาร์ติเนซ ที่เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม รางวัลถุงมือทองคำ

ข้อมูล: www.sportsmole.co.uk
ภาพปก: Showkat Shafi/Al Jazeera

เรื่องน่าอ่าน
พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : อาร์เจนติน่า เสมอ ฝรั่งเศส 3-3, ดวลจุดโทษ อาร์เจนติน่า ชนะ 4-2

 

“บ้าบอเป็นที่สุด” ใครบางคนหล่นนิยามถึงเกมนี้ไว้

 

แม้จะพอคาดเดาได้ถึงผลเสมอ แต่ก็ยากจะมีใครคาดคิดว่าตัวเลขสกอร์บอร์ดจะขยับขึ้นพรวดๆ แบบนี้ และต้องตัดสินกันแบบเอาอกแตะเส้นชัยในท้ายที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะว่า ฝรั่งเศส มีรูปเกมที่แย่ น่าส่ายหัวเป็นที่สุดถึงกว่า 70 นาที

 

นี่คือเกมประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

 

นัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 เกมที่ทำให้โลกได้รู้ซึ้งอีกครั้งว่า “ฟุตบอล” มันโคตรจะดราม่าและลุ้นระทึกกว่าหนังฮอลลีวู้ดเป็นไหนๆ…

 

เกมชิงแชมป์โลกที่ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ทีมฟ้าขาวในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ที่แพ้แค่เกมเดียวจาก 42 นัดหลัง จัดเต็มกำลังทัพลงแต่ปรับระบบจาก 4-1-3-2 มาเป็น 4-3-3 เมื่อได้ อังเคล ดิ มาเรีย ฟิตคืนตัวจริงมาเดิมเกมรุกร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ส่วนตรงกลาง เลอันโดร ปาเรเดส โดนดร็อป และแบ็กซ้ายยังยึด นิโกลัส ตายาฟิโก้ ลงต่อแม้ มาร์กอส อคุนย่า จะพ้นแบนแล้วก็ตาม

 

ฝั่งแชมป์เก่าของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ที่เข้าชิงบอลโลกถึง 4 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง มาด้วย 11 คนแรกชุดเดิมทั้งสิ้น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บติดตัว พร้อมกับที่ อาเดรียง ราบิโอต์ และ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ หายป่วยกลับคืนตำแหน่ง เช่นเดียวกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ ลงตามเดิม

 

เริ่มเกมขึ้น 5 นาที อาร์เจนติน่า ได้ทักทายก่อนจากลูกส่องไกลเต็มข้อของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ บอลพุ่งแรงเข้าหากรอบประตู แต่ก็เข้าซอง อูโก้ โยริส แบบไม่กระฉอก

 

ช่วงสิบนาทีแรกเป็น อาร์เจนติน่า ที่ครองบอลลุยเข้าใส่ก่อน โดยช่วงนาทีที่ 9 เกมต้องหยุดลงชั่วครู่ หลัง คริสเตียน โรเมโร่ เข้าปะทะแบบทิ่มศอกใส่กลางลำตัว อูโก้ โยริส จนนายด่านตราไก่ล้มลงไปกอง แต่ปฐมพยาบาลแล้วก็เล่นต่อได้ตามปกติ

 

นาที 20 เพิ่งเป็นโอกาสแรกของ ฝรั่งเศส จากฟรีคิกข้างเขตโทษ อองตวน กรีซมันน์ เปิดให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โถมโขกที่เสาไกลข้ามคานไป แต่ก็มีเสียงนกหวีดเป่าฟาวล์หัวหอกตราไก่ดังขึ้นมาด้วย

 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

แต่เพียงนาทีเดียวถัดมา ฝรั่งเศส ก็งานเข้าเสียดื้อๆ อังเคล ดิ มาเรีย ล็อกหลบ อุสมัน เดมเบเล่ ที่สุดเส้นหลังซ้ายแล้วโดน เดมเบเล่ ตามมารวบจากด้านหลัง ผู้ตัดสิน ซิมอน มาร์ซิเนี้ยค จากโปแลนด์ เป่าจุดโทษทันทีอย่างมั่นใจ และ ลิโอเนล เมสซี่ ก็รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าเสียบเสาอย่างมั่นใจเช่นกัน ส่ง อาร์เจนติน่า ขึ้นนำ 1-0 เร็วในนาทีที่ 23 ซึ่งก็ทำให้ เมสซี่ ขึ้นนำดาวซัลโวแล้วที่ 6 ประตู

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

จากนั้น ฝรั่งเศส พยายามตั้งเกมสู้ แต่ยังไม่ทันได้มีโอกาสยิงครั้งแรกสกอร์ก็ขยับขึ้นเป็น 2-0 ของ อาร์เจนติน่า เสียแล้วในนาที 37 จังหวะสวนเร็ว เมสซี่ แปะออกขวาให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ทิ่มขึ้นหน้าให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ปาดต่อไปเสาไกลถึง อังเคล ดิ มาเรีย ยิงไม่จับสวนตัว โยริส เข้าไปอย่างเฉียบคม ฟ้าขาวทิ้ง 2-0 ตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

โดนไปสองเม็ด เดส์ชองส์ ปรับเกมส่งสำรองกองหน้า 2 คนรวดทันทีในนาที 41 ถอดทั้ง ชิรูด์ กับ เดมเบเล่ ออกให้ มาร์คุส ตูราม กับ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ลงไปแทน หวังแก้คืนให้เร็วที่สุด

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ท้ายครึ่งแรกและทดเจ็บ 7 นาที ฝรั่งเศส เกมกระเตื้องขึ้นบ้างแต่ก็ยังหาโอกาสเจาะแนวรับฟ้าขาวไปลุ้นสกอร์ไม่ได้ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ แทบไม่ได้ออกจอ จนสิ้นครึ่งแรกลงไปที่ อาร์เจนติน่า นำห่าง 2-0 ขึ้นแท่นรอชูถ้วยแชมป์โลกตั้งแต่ตรงนี้

 

ต่อครึ่งหลังยังไม่มีเปลี่ยนตัวเพิ่ม เกมของ ฝรั่งเศส ไม่ได้ดีขึ้นหรือคุมสถานการณ์อะไรมากมาย รวมถึงว่าไม่ได้สร้างอันตรายอะไรให้ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ต้องหนักใจหรือออกแรงเซฟไว้ด้วย ตัวความหวังสูงสุดอย่าง เอ็มบัปเป้ ยังเงียบฉี่ บางจังหวะมีจ่ายติดเองก็มี

 

ครบชั่วโมง ฝรั่งเศส ยังมีโอกาสจบเป็นศูนย์ ผิดกับ อาร์เจนติน่า ที่ลุยขึ้นไปได้เสียว 2-3 หน จนนาที 64 สคาโลนี่ ขยับส่งสำรองลงคนแรก มาร์กอส อคุนย่า ลงไปเติมเกมรับแทน ดิ มาเรีย

 

นาที 68 ฝรั่งเศส ได้จบหนแรกจากเตะมุม ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ โขกโดนไม่ดีหลุดกรอบไปไม่ใกล้เคียง และต่อมาอีกสามนาที เอ็มบัปเป้ สบโอกาสส่องด้วยซ้าย ข้ามคานไป เป็นจังหวะซัดแรกของเขาในเกมนี้

 

จากนั้น เดส์ชองส์ เปลี่ยนเพิ่มอีกสอง คิงสลี่ย์ โกม็อง กับ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ลงแทน อองตวน กรีซมันน์ กับ เตโอ เอร์นันเดซ ตามลำดับ

 

แต่แล้วจากเกมที่ดูไม่มีอะไร ฝรั่งเศส ก็มาได้จุดโทษคืนบ้างในนาที 79 เมื่อ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ไปเหนี่ยว ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษคืนให้ตราไก่ ซึ่งก็เป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กดเสียบมุมไม่พลาด ไล่มากระชั้น 1-2 และเป็นเม็ดที่ 6 เท่ากับ เมสซี่ 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

แล้วก็กลายเป็นว่า ฝรั่งเศส กลับสู่เกมได้ทันทีด้วยประตูตีเสมอ 2-2 ในอีกสองนาทีให้หลัง คิงสลี่ย์ โกม็อง เบียดชนะแย่งบอลจาก เมสซี่ ได้ที่ฝั่งขวา แล้วถ่ายให้ ราบิโอต์ เคาะขึ้นหน้า เอ็มบัปเป้ โขกทำชิ่งกับ มาร์คุส ตูราม จนทะลุขึ้นทางซ้ายแล้วล้มตัวยิงวอลเลย์เร็วจังหวะเดียว บอลพุ่งผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ เข้าเสาไกลพอดิบพอดี ฝรั่งเศส กลับสู่เกมด้วยประตูที่ 7 ของ เอ็มบัปเป้ ในรายการนี้

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ถึงทดเจ็บ 90+4 ฝรั่งเศส หวิดแซงนำด้วยจากจังหวะซัดของ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ติดเซฟ มาร์ติเนซ ที่เสาแรก ขณะที่ อาร์เจนติน่า ก็มีลุ้นตอน 90+7 เมสซี่ ใส่เต็มข้อด้วยซ้าย ติดปลายมือ อูโก้ โยริส นิดเดียว ส่งผลให้ 90 นาทีจบลงอย่างสนุก 2-2 และต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อตัดสิน

 

เข้าช่วงต่อเวลา สคาโลนี่ ถอด นาอูเอล โมลิน่า ออกให้ กอนซาโล่ มอนเทียล ลงคุมเกมรับริมเส้นขวาแทน และรูปเกมกลายเป็นเหมือนช่วงครึ่งชั่วโมงท้าย ที่ ฝรั่งเศส ครองบอลคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า ขาดก็แต่จังหวะลุ้นสกอร์เหมาะๆ

 

เข้าครึ่งหลังต่อเวลาได้แว้บเดียว นาที 109 กลายเป็น อาร์เจนติน่า นำอีกหน 3-2 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แทงให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลุดเข้าทางขวาไปส่องเต็มแรงติดเซฟ โยริส แต่บอลเด้งมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงข้ามเส้นประตูเข้าไปแม้มี ชูลส์ กุนเด้ ควักออกมาก็ตาม และเช็กวีเออาร์แล้วไม่ล้ำหน้า อาร์เจนติน่า เฮสนั่น 3-2

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

อย่างไรก็ตาม อีกอึดใจเดียวถัดมา นาที 116 ฝรั่งเศสก็มาได้จุดโทษที่สอง เอ็มบัปเป้ ยิงไปชนแขน กอนซาโล่ มอนเทียล ผู้ตัดสินชี้จุดโทษแฮนด์บอล ซึ่งก็เป็น เอ็มบัปเป้ คว้าลูกมาสังหารเองอย่างมั่นใจเบียดเสาเข้าไปแบบไม่เผื่อให้ลุ้น ตีเสมอ 3-3 เป็นแฮตทริกพร้อมลูกที่ 8 ของ เอ็มบัปเป้

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ทดเจ็บต่อเวลา 120+3 ตราไก่เกือบแซงเข้าป้าย ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ หลุดเข้าส่องเน้นๆ ติดซูเปอร์เซฟ เอมี่ มาร์ติเนซ ไม่น่าเชื่อ และฟ้าขาวสวนไปก็ถึงจบ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้โหม่งในจุดอันตรายแต่โดนไม่ดีจนหลุดกรอบไปเอง สุดท้าย 120 นาทีจบอย่างสุดตื่นเต้น 3-3 ต้องชี้ขาดแชมป์โลกด้วยการดวลจุดโทษ

 

ถึงจุดโทษ อูโก้ โยริส เสี่ยงทายชนะเลือกยิงก่อน
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงเข้าไปแม้ มาร์ติเนซ จะพุ่งถึงแต่ปัดไม่ออก 1-0
ลิโอเนล เมสซี่ กดเรียดเข้าไปโดยที่ โยริส มาไม่ถึงแค่เสี้ยววินาที 1-1
คิงสลี่ย์ โกม็อง ซัดติดเซฟ มาร์ติเนซ เต็มๆ 1-1
เปาโล ดีบาล่า ส่องด้วยซ้ายเข้ากลางประตู 1-2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ตะบันหลุดเสาไปเอง 1-2
เลอันโดร ปาเรเดส กดเสียบมุมไม่พลาด 1-3
ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงเสยแสกกลาง 2-3
และ กอนซาโล่ มอนเทียล สังหารนำชัยเข้ามุมประตู 4-2

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

อาร์เจนติน่า ชนะดวลจุดโทษ 4-2 ครองแชมป์โลกสมัย 3 ที่ห่างหายมา 36 ปี หรือตั้งแต่ 1986 และ ลิโอเนล เมสซี่ ไปถึงโทรฟี่แชมป์โลกที่ตามหามาทั้งชีวิต ในเกมสุดท้ายที่ลงเล่นฟุตบอลโลกสำหรับตัวเขา

 

สำหรับ ฝรั่งเศส มีรางวัลปลอบใจแค่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้รองเท้าทองคำ ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 จากการซัดไป 8 ประตูด้วยกัน

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-3-3) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นิโกลัส ตายาฟิโก้ (เปาโล ดีบาล่า 120), นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 91) – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรดริโก้ เด ปอล (เลอันโดร ปาเรเดส 102), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เคร์มัน เปซเซลล่า 116) – อังเคล ดิ มาเรีย (มาร์กอส อคุนย่า 64), ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 102), ลิโอเนล เมสซี่
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ (เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า 71), ราฟาแอล วาราน (อิบราฮิมา โกนาเต้ 113), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ชูลส์ กุนเด้ (อักเซล ดิซาซี่ 120) – อาเดรียง ราบิโอต์ (ยุสซูฟ โฟฟาน่า 96), ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่ (มาร์คุส ตูราม 41), อองตวน กรีซมันน์ (คิงสลี่ย์ โกม็อง 71), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ 41)

 

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ลงเตะฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด เมสซี่ คว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ 5 หน ที่เหลือเป็นของ โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส (ของซาอุฯ) นัดแพ้ซาอุฯ กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นัดชนะโปแลนด์
• 5 แมนออฟเดอะแมตช์ ยังสูงสุดในฟุตบอลโลก 2022 รองจากนั้นคือ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ 3
• เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติ 17 ประตูจากการลงสนามแค่ 11 นัดหลัง เป็นในฟุตบอลโลก 2022 เจ็ดประตู
• เมสซี่ ยึดสถิติดาวซัลโวสูงสุดของอาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก แทนที่ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วยการยิงไป 13 ประตู
• เมสซี่ เป็นคนที่ 9 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และบัลลง ดอร์ ได้ในเส้นทางอาชีพ ร่วมกับ ตำนานอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน, แกร์ด มุลเลอร์, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า

 

• เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ “ครบทุกรอบ” ตั้งแต่รอบแรกยันนัดชิง ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
• เมสซี่ ได้แชมป์โลกในการเล่นเกมอาชีพนัดที่ 1,003 ของตัวเอง แบ่งเป็น 778 กับบาร์เซโลน่า, 172 กับอาร์เจนติน่า และ 53 กับเปแอสเช
• เมสซี่ ทำสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย สูงสุดเป็นจำนวน 26 เกม ตั้งแต่ 2006 – 2022 เหนือกว่า โลธ่าร์ มัทเธอุส 25, มิโรสลาฟ โคลเซ่ 24, เปาโล มัลดินี่ 23 และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 22

 

• ลิโอเนล สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 43 นัดหลังสุด (รวมทำทีม 57 นัด ชนะ 37 เสมอ 15 แพ้ 5)
• สคาโลนี่ เป็นกุนซือแชมป์โลกที่วัยอ่อนเยาว์สุด 44 ปี 216 วัน
• ที่จริง งานทำทีมอาร์เจนติน่า ก็คืองานใหญ่จ๊อบแรกสุดของ สคาโลนี่ หลังแขวนสตั๊ดกับ อตาลันต้า ปี 2015 แล้วมาเป็นผู้ช่วยของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ทั้งที่ เซบีย่า และในทีมชาติอาร์เจนติน่า (ฟุตบอลโลก 2018) รวมถึงเคยได้คุมอาร์เจนฯ เยาวชนยู-20 มาก่อนเท่านั้น

 

• อังเคล ดิ มาเรีย เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถยิงประตูได้ทั้งในนัดชิงโคปา อเมริกา และฟุตบอลโลก
• ตอนหมดครึ่งแรก อาร์เจนติน่า ข่มขาดด้วยโอกาสยิงรวม 6:0 และยิงตรงกรอบ 3:0 รวมถึงเตะมุม 2:0 ด้วย
• ตลอด 120 นาที อาร์เจนติน่า สร้างโอกาสยิงรวม 20 ครั้ง ตรงกรอบ 10 ส่วน ฝรั่งเศส 10/5

 

• อาร์เจนติน่า หยุดสถิติแย่ๆ อย่างการแพ้นัดชิงบอลโลกไว้ที่ 2 หนติด 1990 กับ 2014
• อาร์เจนติน่า เป็นรายที่ 2 ที่แพ้เกมแรกแล้วครองแชมป์ในท้ายที่สุด ถัดจาก สเปน 2010
• อาร์เจนติน่า ตอกย้ำการเป็นราชาดวลเป้า King of penalty shoot-outs ด้วยการชนะดวลจุดโทษเป็นครั้งที่ 6 เหนือกว่าทุกทีมในโลก และเคยแพ้มาแค่หนเดียวเท่านั้น
3-2 ยูโกสลาเวีย, 8 ทีม 1990
4-3 อิตาลี, ตัดเชือก 1990
4-3 อังกฤษ, 16 ทีม 1998
4-2 เนเธอร์แลนด์, ตัดเชือก 2014
4-3 เนเธอร์แลนด์, 8 ทีม 2022
4-2 ฝรั่งเศส, ชิงชนะเลิศ 2022
(แพ้ เยอรมนี 2-4, 8 ทีม 2006)

 

• ฝรั่งเศส เป็นเพียงทีมที่ 2 ที่ตามหลัง 0-2 ในนัดชิงชนะเลิศ แล้วกลับมาได้ ถัดจาก เยอรมนี ที่ทำไว้สองหนในปี 1954 และ 1986
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำแฮตทริกในนัดชิงชนะเลิศเป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ถัดจาก เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ ของอังกฤษ 1966
• เอ็มบัปเป้ คว้าดาวซัลโวด้วยการยิงไป 8 ประตู สูงสุดนับแต่ โรนัลโด้ (บราซิล) 2002
• ออเรเลียง ชูอาเมนี่ วิ่งรวม 15.8 กม. ในเกมนี้ ก่อนมายิงจุดโทษและซัดออกไปเอง
• อูโก้ โยริส กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากสุด ที่จำนวน 20 นัด เหนือ มานูเอล นอยเออร์ 19 และ เซปป์ ไมเออร์ 18

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ปากคำหลังเกม อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส
ลิโอเนล สคาโลนี่ : “ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ผมอาจรู้สึกตื่นเต้นน้อยกว่าวันอื่นๆ แต่วันนี้ผมได้รับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่”
“ทีมชุดนี้ทำให้ผมภาคภูมิใจเป็นที่สุด ความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นของพวกเขา ผมอยากบอกทุกคนว่ามีความสุขให้เต็มที่ เพราะนี่คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์”

 

ลิโอเนล เมสซี่ : “นี่คือแชมป์ที่ขาดหายไปของผม ตอนนี้ผมได้มาครองแล้ว มันบ้ามากๆ ตอนนี้ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะกลับไปฉลองแชมป์ที่ประเทศของผม เพื่อพบเจอกับความบ้าคลั่งของที่นั่น”
“เราเจอกับความยากลำบากมากมาย วันนี้คุณต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่บ้าคลั่งมาก การคว้าแชมป์โลกเป็นความฝันของเด็กๆ ทุกคน นี่คือแชมป์สำหรับประชาชนชาวอาร์เจนไตน์”

 

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ : “ที่จริง เราเอาเกมมาอยู่ในการควบคุมได้แล้ว แต่ทีมของเรากลับถูกกำหนดให้ต้องเจอกับความยากลำบากอย่างแสนสาหัส ฝรั่งเศสเกือบทำประตูชัยได้เช่นกัน แต่ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรามาอยู่ตรงนี้”
“ฟุตบอลโลกเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันถึงมาตลอด ตอนนี้ผมไม่มีคำพูดมาอธิบายถึงความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นกับผมในเวลานี้ได้เลย”

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ : “เราไม่ได้พลิกสถานการณ์ (ในช่วง 70 นาทีแรก) ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างตลอด 4 วันที่ผ่านมา อาการป่วยและจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมด้วย”

 

อูโก้ โยริส : “เราตอบสนองได้ดีมาก มันเกือบจะเหมือนการแข่งขันชกมวย เราแลกกันหมัดต่อหมัด สิ่งเดียวที่เราเสียใจคงเป็นผลงานในครึ่งแรก แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเราก็ยังไม่ยอมแพ้ เราเชื่อมั่นไปจนจบ มันเป็นการตัดสินผู้ชนะจากการดวลจุดโทษ”
“มันเป็นเรื่องเจ็บปวดเสมอเมื่อต้องมาอยู่อีกฝั่ง (ของผู้ชนะ) แต่เราทุ่มเททุกอย่างลงไปในรายการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการแข่งขัน มันเป็นการแข่งขันที่ยาวนานนับเดือน”
“ในรอบชิงชนะเลิศ เราสามารถตามหลัง 0-2 ได้ แต่เรายังคงเชื่อมั่นไปจนจบ เราสามารถพลิกสถานการณ์ แต่มันกลับไม่มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะโอกาสในนาที 120 (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงติดเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ) ซึ่งน่าจะทำให้เราพลิกนำ 4-3”
“มันคือฟุตบอล เราต้องยินดีกับอาร์เจนติน่าที่ประสบความสำเร็จในรายการที่ยอดเยี่ยม รอบชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยม”

 

ราฟาแอล วาราน : “แน่นอน เราผิดหวังกันมาก เราทุ่มเทกันเต็มที่แล้ว เราเจอกับอุปสรรคมากมายตลอดที่ลงเล่นรายการนี้ เราไม่เคยเอามาเป็นข้ออ้างหรือยอมแพ้ เราไม่ได้อยู่ในเกมนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ท้ายสุดเราน่าจะชนะ ผมภูมิใจกับกลุ่มนี้และการเป็นคนฝรั่งเศสมาก”
“เราจะรักษาความภาคภูมิใจนี้ไว้ มัน (การตามหลัง 0-2) เกิดขึ้นรวดเร็วมาก หลังจากนั้นสภาพร่างกายเราดีขึ้นกว่าเดิม เราดันกลับและเชื่อมั่นไปจนจบเกม เราเกือบจะเปลี่ยนเกมได้แล้วหลังจากมีการออกตัวที่แย่”
“มันเป็นการเดินทางที่คดเคี้ยว แต่ทีมนี้มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความห้าวหาญ นั่นทำให้เรากลับมาสู่เกม เราผิดหวังแต่มีความภาคภูมิใจในตัวเองมาก”

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 3-3 (4-2) ฝรั่งเศส
• 6 ประตูที่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ กาตาร์ 2022 กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำประตูกันได้มากที่สุด 172 ลูก ทำลายสถิติของ ฟร้องซ์ 98 และ บราซิล 2014 ที่มียิงกัน 171 ประตู
• ดาวบนโลโก้ทีมชาติอาร์เจนติน่า จะเพิ่มขึ้นเป็นดวงที่ 3 ตามจำนวนแชมป์โลกที่ได้มา 3 สมัย
• ลิโอเนล เมสซี่ ยืนยันยังไม่มีแผนอำลาทีมชาติในเร็วๆ นี้ แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่า ต่อให้ลากยาวขนาดไหนก็ไปไม่ถึงฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 ที่สหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา

• ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เผยจะขอตัดสินอนาคต อยู่หรือไปจากทีมชาติฝรั่งเศส หลังผ่านช่วงปีใหม่นี้ไปแล้ว ภายหลังคุมมาตั้งแต่ 2012 ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่มา 5 ครั้ง

 

ทำเนียบแชมป์โลก ตลอดหน้าประวัติศาสตร์
1930 อุรุกวัย
1934 อิตาลี
1938 อิตาลี
1950 อุรุกวัย
1954 เยอรมนีตะวันตก
1958 บราซิล
1962 บราซิล
1966 อังกฤษ
1970 บราซิล
1974 เยอรมนีตะวันตก
1978 อาร์เจนติน่า
1982 อิตาลี
1986 อาร์เจนติน่า
1990 เยอรมนีตะวันตก
1994 บราซิล
1998 ฝรั่งเศส
2002 บราซิล
2006 อิตาลี
2010 สเปน
2014 เยอรมนี
2018 ฝรั่งเศส
2022 อาร์เจนติน่า

 

ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022
8 ประตู : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)
7 ประตู : ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
4 ประตู : ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (อาร์เจนติน่า), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส)
3 ประตู : ริชาร์ลิซอน (บราซิล), บูกาโย่ ซาก้า (อังกฤษ), มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ), อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน), เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์), โคดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์), กอนซาโล่ รามอส (โปรตุเกส)

 

รางวัลต่างๆ ของฟุตบอลโลก 2022
นักเตะยอดเยี่ยม
Golden Ball – ลิโอเนล เมสซี่
Silver Ball – คีลิยัน เอ็มบัปเป้
Bronze Ball – ลูก้า โมดริช

 

ดาวซัลโว
Golden Boot – คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (8 ประตู 2 แอสซิสต์)
Silver Boot – ลิโอเนล เมสซี่ (7 ประตู 3 แอสซิสต์)
Bronze Boot – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (4 ประตู 0 แอสซิสต์)

 

ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม Golden Glove – เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม FIFA Young Player Award – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
แฟร์เพลย์ FIFA Fair Play Trophy – ทีมชาติอังกฤษ

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022 …!?!
โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

เกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า ฟ้าขาวจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ด้วยชัยชนะเหนือตราไก่ ฝรั่งเศส

เกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า ฟ้าขาวจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ด้วยชัยชนะเหนือตราไก่ ฝรั่งเศส

ทำนายผลเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส

วันที่ 18 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U/ 7HD/ True Sports 2

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

หลังฟาดแข้งมาตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2022 ฟุตบอลโลก 2022 ก็เดินทางมาถึงเกมสุดท้าย วันสุดท้าย ที่เป็นการพบกันระหว่าง อาร์เจนติน่าและแชมป์เก่า ฝรั่งเศส

นอกจากจะเป็นการแย่งแชมป์หนที่สามของทั้งสองชาติ เกมในนัดนี้ยังเชื่อกันว่าจะเป็นการวัดความสามารถของสองนักเตะจากทีม ปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็ง ลิโอเนล เมสซี่และคิลิยัน เอ็มบัปเป้ ทั้งในการแย่งตำแหน่งแชมป์โลก, ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของการแข่งขัน และรางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ โดยรางวัลหลังนักเตะอาร์เจนไตน์ได้เปรียบนิดหน่อยจากการจ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 3 ประตู ส่วนดาวรุ่งยอดเยี่ยมฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ทำไปแค่ 2 เท่านั้น และถ้าอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จะเป็นการปิดฉากอาชีพที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยสำหรับเมสซี่

ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดฟุตบอลโลก 2022 ที่หลายคนไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะได้รับบาดเจ็บ (ภาพ: www.pulse.ng)

ฝรั่งเศสแชมป์เก่ามากาตาร์โดยที่มีปัญหาให้แก้ไขตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บ ทีมมีปัญหานอกสนาม ฟอร์มในเนชั่นส์ ลีกย่ำแย่ และในที่สุดพวกเขาก็เข้าชิงสำเร็จ โดยไม่มีปอล ป็อกบา ไม่มีเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไม่มีคาริม เบนเซม่า แต่ดิดิเยร์ เดส์ช็องป์ส หนึ่งในสามคนที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกทั้งในฐานะนักเตะและโค้ชจัดการกับปัญหาทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อย กลายเป็นแชมป์เก่ารายแรก ที่ได้เข้าชิงฟุตบอลโลกในปีต่อมา นับตั้งแต่บราซิลทำได้ในปี 1998 หลังจากคว้าแชมป์ในปี 1994 และมีโอกาสเป็นชาติที่สามต่อจากอิตาลี และบราซิล ในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกัน

เช็กสถิติของอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

อาร์เจนติน่าเข้าชิงฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 โดยคว้าแชมป์ได้ 2 หนในปี 1978 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ และในปี 1986 ที่เม็กซิโก โดยพวกเขาเข้าชิงหนล่าสุดเมื่อปี 2014 และแพ้นัดชิงให้กับเยอรมนี และถ้าพวกเขาแพ้ในหนนี้ จะทำสถิติที่ไม่น่าจดจำเท่ากับเยอรมนี คือแพ้ในรอบชิงถึง 4ครั้ง แต่อย่างน้อย การยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูขึ้นไป ตั้งแต่เปิดสนามด้วยความพ่ายแพ้ ก็เป็นสถิติที่น่าจะทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่า ตัวเองจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จโดยก่อนหน้านี้ มีแค่สเปนในปี 2010 เท่านั้นที่ลงสนามนัดแรกด้วยความพ่ายแพ้ แล้วกลายเป็นแชมป์โลกในท้ายที่สุด

ทีมของสคาโลนี่ยังทำสถิติโดนส่องประตูไม่เกิน 6 ครั้งต่อเกมที่กาตาร์อีกต่างหาก ซึ่งงานนี้แนวรับของฟ้าขาวต้องเผชิญหน้ากับเอ็มบัปเป้และเพื่อนพ้อง ซึ่งน่าจะเป็นบททดสอบสำคัญของพวกเขา

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

จากดาวรุ่งยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 เอ็มบัปเป้ เป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว (ภาพ: 24hoursworlds.com)

การเจอกันที่กาตาร์ จะเป็นการพบกันหนที่ 13 ของทั้งสองทีมจากทุกรายการ โดยทีมจากอเมริกาใต้ทำได้ดีกว่า เมื่อชนะไป 6 ครั้ง เสมอ 3 โดยเกมสุดท้ายที่ทั้งคู่เจอกัน เป็นเกมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ในรอบ 16 ทีม ที่จบลงอย่างน่าตื่นเต้นด้วยชัยชนะของทีมตราไก่ 4-3 ส่วนการเจอกันในฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในปี 1930 และ 1978 ซึ่งอาร์เจนติน่าชนะฝรั่งเศสไปทั้งสองนัด 1-0 และ 2-1 ตามลำดับ

ในการเจอกัน 12 นัด นักเตะอาร์เจนไตน์ยิงทีมตราไก่ได้ถึง 15 ประตู ส่วนนักเตะฝรั่งเศสยิงทีมฟ้าขาวได้เพียง 11 ประตู

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม (ภาพ: Ariel Schalit/AP)

ลิโอเนล สคาโลนี่ จะได้มาร์คอส อะคูญ่ากับกอนซาโล มอนทีล กลับมาหลังจากสองฟูลล์แบ็คเจอแบนในเกมรอบรองชนะเลิศ โดยอะคูญ่าน่าจะทวงตำแหน่งมาจากนิโคลาส ทากลิอาฟิโก้ได้ ส่วนมอนทีลก็ต้องแย่งตำแหน่งแบ็คขวากับนาฮูเอล โมลิน่า และถ้าทีมเลือกจะเล่นแบ็คโฟร์ ลิซานโดร มาร์ติเนซจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองไปก่อน

อเลฮานโดร โกเมซกับอังเจล ดิ มาเรีย มีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้าและกล้ามเนื้อตามลำดับ ดาวเตะจากยูเวนตุสที่ไม่ได้ลงในเกมรอบรองชนะเลิศน่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงครั้งแรก หลังผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งจะส่งลีอันโดร ปาเรเดสกลับไปนั่งสำรองอีกครั้ง ส่วนโกเมซจะต้องเช็คอาการกันอีกที และน่าจะเริ่มด้วยการเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับเปาโล ดีบาล่าและเลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่ลงเป็นตัวสำรองและทำได้ดี เรื่องน่าเป็นห่วงของทีมฟ้าขาวมีเรื่องเดียวคือ ข่าวที่ว่า เมสซี่มีปัญหากับกล้ามเนื้อโคนขาหลัง ที่กำเริบขึ้นมาอีกครั้งในเกมรอบรองชนะเลิศ แต่ก็ไม่น่าจะหนักหนาถึงขั้นลงเล่นไม่ได้ และทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ลงสนามในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุด 26 นัด

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

ฝรั่งเศสเจอปัญหานักเตะป่วยกันระนาว แอเดรียน ราบิโอต์ต้องดูเพื่อนเล่นในเกมที่แล้วจากโรงแรม ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ไปที่สนามแต่ก็ทำได้แค่นั่งดูเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เดส์ช็องป์สเชื่อว่าทั้งคู่น่าจะพร้อมสำหรับนัดชิง แต่มีรายงานข่าวว่า ราฟาเอล วารานและอิบราฮิมา โกนาเต้ เป็น 2 ผู้เล่นที่ตรวจพบอาการป่วย รวมถึงคิงสลีย์ โกมัน ทำให้ทั้งสามคนยังมีปัญหาว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่

ถ้าราบิโอต์พร้อมลงสนาม ยูสซูฟ โฟฟาน่าจะกลับไปเป็นตัวสำรอง ปัญหาของเดส์ช็องป์สอยู่ที่แผงหลัง โกนาเต้ที่ได้รับคำชมอย่างมากในเกมกับโมร็อกโก อาจถูกแทนที่โดยอูปาเมกาโน่ เมื่อข่าวระบุว่า อาการของเขาหนักกว่าวาราน ส่วนโกมันไม่ใช่นักเตะ 11 คนแรกของทีมอยู่แล้ว แบ็คซ้ายเธโอ เอร์น็องเดซถูกอัดแถวหัวเข่าหนัก ๆ 2-3 หนในเกมก่อน แต่ไม่น่าจะมีปัญหาในการลงเล่นเป็นตัวจริง

แดนหน้าคิลิยัย เอ็มบัปเป้ พร้อมลงเล่นวัดกับเมสซี่เพื่อนร่วมทีมเปเอสเฌ ซึ่งถ้าเขาทำประตูในนัดนี้ได้ จะกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด ที่ยิงประตูในนัดชิงฟุตบอลโลกมากกว่า 1 ครั้ง โดยผู้ช่วยคนสำคัญของเขาคือ อองตวน กรีซมันน์ ที่สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมไปแล้วถึง 21 ครั้ง มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมี่ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ
ฝรั่งเศส ระบบ 4-3-3: โญริส; คุนเด้, วาราน, อูปาเมกาโน่, เอร์น็องเดซ; กรีซมันน์, ชูอาเมนี่, ราบิโอต์; เด็มเบเล่, ชิรูด์, เอ็มบัปเป้

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อูโก้ โญริส ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

อูโก้ โญริส กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และผู้รักษาประตู (ภาพ: Visionhaus/ Getty Images)

เกมน่าจะออกมาสนุก โดยเฉพาะการดวลเดี่ยวของผู้เล่นในหลาย ๆ ตำแหน่ง ที่นอกจากเอ็มบัปเป้กับเมสซี่แล้ว เราจะได้เห็นการปะทะกันของ เฟอร์นานเดซและชูอาเมนี่, กรีซมันน์กับแม็ก อัลลิสเตอร์ รวมไปถึงการวัดความเหนียวของอีมี่ มาร์ติเนซและโญริส

แน่นอนว่าปัญหานักเตะป่วยอาจทำให้แผงหลังของตราไก่ไม่แน่นปึ้กเหมือนเคย แต่อย่างน้อยเดส์ช็องป์สก็แสดงให้เห็นการแก้ไขที่ทำได้ดีมาตลอด เช่นที่เห็นในเกมกับโมร็อกโก หากนี่คืออาร์เจนติน่าที่คุณภาพของแนวรุกแตกต่างกันอย่างชัดเจน และปัจจัยสำคัญในการชนะหรือแพ้ก็อาจจะอยู่ที่ตรงนี้ เมื่อความผิดพลาดเพียงหนเดียวในแผงหลังกลายเป็นที่มาของประตูชัย

และทำให้เส้นทางอาชีพของลิโอเนล เมสซี่จบลงในแบบเทพนิยาย เมื่อเกมสุดท้ายในฟุตบอลโลกของเขาคือนัดชิงชนะเลิศ ที่เขาคว้าแชมป์สุดท้ายในชีวิตมาครองได้สำเร็จ หลังอาร์เจนติน่าคว่ำฝรั่งเศสไป 2-1

เรื่องน่าอ่าน
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

 

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปนัดชิงอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 : โครเอเชีย 2-1 โมร็อกโก

 

ไม่ได้ถือว่าผิดไปจากความคาดหมาย ด้วยมาตรฐานก็ดี ด้วยปัญหาที่ โมร็อกโก ต้องเผชิญเอาในช่วงท้ายของ ฟุตบอลโลก 2022 ก็ดี

 

ที่สุดแล้ว เหรียญทองแดงได้ถูกคล้องลงบนคอนักเตะโครเอเชีย และ ซลัตโก้ ดาลิช

 

และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ณ คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม คืนเสาร์ 17 ธันวาคม…

 

เกมชิงอันดับ 3 แมตช์นี้ ทั้ง ซลัตโก้ ดาลิช และ วาลิด เรกรากี แม้ต่างก็ยังต้องการชัยชนะเพื่อคว้ารางวัลปลอบใจ ให้หลังจากความพ่ายแพ้ในรอบตัดเชือก แต่ก็เลือกที่จะเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งทั้งคู่ โครเอเชีย เปิดทางให้สำรองอย่าง มิสลาฟ ออร์ซิช, มาร์โก ลิวาย่า, ลอฟโร มาเยอร์, โยซิป ซูตาโล่, โยซิป สตานิซิช ลงสนาม พร้อมปรับระบบเป็น 3-5-2

 

ด้าน โมร็อกโก สถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยนเมื่อทั้ง โรแม็ง ซาอิสส์, นาเยฟ อาแกร์ด, นูสแซร์ มาซราอุย ต่างบาดเจ็บ แต่แนวรุกยังคงเดิมที่ ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, โซฟียาน บูฟาล

 

เริ่มเกมขึ้นเพียง 9 นาที โครเอเชีย ก็ขยับนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากฟรีคิกลูกสูตร เปิดขึ้นหน้าให้ อีวาน เปริซิช โหม่งกลับเข้าตรงกลาง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล พุ่งโขกต่อเน้นๆ ส่งบอลเสียบเสาโดยที่ ยาสซีน บูนู ตามไม่ทัน ตาหมากรุกนำหน้า 1-0

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

แต่ว่าสองนาทีให้หลัง โมร็อกโก ก็ตามทวงคืนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จากฟรีคิกริมเส้นขวาเปิดเข้าใน ลอฟโร มาเยอร์ โหม่งสกัดกลายเป็นบอลทะลักกลับหลังเข้าจุดอันตราย อัชราฟ ดารี จึงสบช่องเข้าชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

จากนั้นเกมเป็นอย่างคู่คี่สูสี ผลัดกันครองบอล แต่โอกาสลุ้นสกอร์ใกล้เคียงก็มีไม่มากนัก

 

แต่ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบเสมอกัน โครเอเชีย ก็ขึ้นนำได้อีกครั้งจากการเสียบอลหน้าเขตตัวเองของ บิลัล เอล คันนุส ไปจบที่ มิสลาฟ ออร์ซิช เอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาส่งลูกกระแทกเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม โครเอเชีย นำ 2-1 เมื่อสิ้นครึ่งแรก

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

ต่อครึ่งหลัง เกมยังเป็น โครเอเชีย ที่ทำได้ดีกว่าชัด หาจังหวะเข้าทำใกล้เคียงได้ 2-3 หน แต่ยังไม่เข้าเป้าเท่าที่ควร ขณะที่เกมก็หยุดค่อนข้างบ่อยเมื่อต่างฝ่ายต่างทยอยเปลี่ยนส่งสำรองลงเป็นระยะ

 

ล่วงมาช่วงท้าย นาที 87 โครเอเชีย น่าได้เพิ่มอย่างยิ่ง มาเตโอ โควาซิช ทะลุเข้ายิงโล่งๆ ทางซ้ายเขตโทษ แต่แปหลุดเสาไกลออกไปเอง

 

เฮือกท้าย โมร็อกโก ลุยแหลกหวังทวงคืนให้ได้ จนทดเจ็บ 90+6 ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ สบโอกาสขึ้นโหม่งโล่งๆ ในกรอบหกหลา ลูกลอยไปตกเพดานตาข่ายอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้เกมจบลง โครเอเชีย ชนะ 2-1 ครองอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 และเป็นหนที่ 2 ถัดจาก 1998

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
โครเอเชีย (3-5-2) โดมินิก ลิวาโควิช – โยซิป ซูตาโล่, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, โยซิป สตานิซิช – อีวาน เปริซิช, มาเตโอ โควาซิช, ลูก้า โมดริช, ลอฟโร มาเยอร์ (มาริโอ ปาซาลิช 66), มิสลาฟ ออร์ซิช (คริสติยาน ยาคิช 90+5) – อันเดรจ์ ครามาริช (นิโกล่า วลาซิช 61), มาร์โก ลิวาย่า (บรูโน่ เพ็ตโควิช 66)
โมร็อกโก (4-3-3) ยาสซีน บูนู – ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์, จาวัด เอล ยามิก (เซลิม อมัลลาห์ 66), อัชราฟ ดารี (บาเดอร์ เบนูน 64), อัชราฟ ฮาคิมี่ – บิลัล เอล คันนุส (อัซซาดีน อูนาฮี 56), โซฟียาน อัมราบัต, อับเดลฮามิด ซาบิรี่ (อิเลียส แชร์ 46) – ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, โซฟียาน บูฟาล (อานาสส์ ซารูรี่ 64)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ยอสโก้ กวาร์ดิโอล
• ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ทำประตูในอายุ 20 ปี 328 วัน น้อยสุดของโครเอเชีย
• อีวาน เปริซิช แอสซิสต์ที่ 5 สูงสุดในบอลโลกของ โครเอเชีย พร้อมกับยิง 6 ลูก สูงสุดเช่นกัน
• มิสลาฟ ออร์ซิช เพิ่งยิงประตูที่ 2 ในการรับใช้ชาติ 27 นัด
• ลูก้า โมดริช ลงสนามครบ 90 นาทีในการเล่นทีมชาตินัดที่ 162 ซึ่งคงจะเป็นเกมฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายของชายวัย 37 อย่างเขา
• โมร็อกโก ทำคลีนชีต 4 จาก 5 เกมแรกในฟุตบอลโลก 2022 แต่สองเกมหลังเสียนัดละสองลูก จนเข้าป้ายอันดับ 4

 

ปากคำหลังเกม โครเอเชีย 2-1 โมร็อกโก
ซลัตโก้ ดาลิช : “นี่คือเหรียญทองแดงที่มีประกายสีทอง เราคว้าชัยชนะในเกมที่ยากลำบากมากได้ ดังนั้นนี่คือเหรียญรางวัลสำหรับชาวโครแอตทุกคน มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ที่เราได้เหรียญรางวัลทั้งสองครั้งในสองทัวร์นาเมนต์หลังสุด และผมก็ขอแสดงความยินดีกับลูกทีมของผมทุกคนด้วย”

 

วาลิด เรกรากี : “ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ ทุกคนสงสัยเรา แต่เรามาได้ไกลเกินความคาดหมาย แต่มันก็ยังดีไม่พอ เราจำเป็นต้องสร้างตัวอย่างเพื่ออนาคต”
“มีบางเรื่องที่กินใจผมมาก ตอนที่ผมเห็นภาพเด็กๆ เพราะฟุตบอลทำให้ผู้คนมีฝัน เราปล่อยให้เด็กๆ ฝัน เราต้องรักษาฝันให้มีชีวิต เด็กๆ ในโมร็อกโก และทั่วโลก ฝันที่จะได้แชมป์โลก และมันมีความหมายต่อผมยิ่งกว่าการชนะในเกมฟุตบอลโลกจริงๆ ซะอีก”
“เราประสบความสำเร็จอย่างวิเศษ แต่เราต้องการทำให้ได้อย่างนี้อีก หากเราผ่านเข้ารอบแปดทีม หรือรอบตัดเชือกเป็นประจำ สักวันเราก็จะได้แชมป์โลก”

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ โครเอเชีย 2-1 โมร็อกโก
• โครเอเชีย ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 8 เสีย 7 คลีนชีต 2 ใบเหลือง 8 ใบแดง 0
• โมร็อกโก ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 2 ยิงได้ 6 เสีย 5 คลีนชีต 4 ใบเหลือง 9 ใบแดง 1
• โมร็อกโก ทำคลีนชีตสูงสุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่ 4 แมตช์ แต่ ยาสซีน บูนู คลีนชีต 3 นัด เนื่องจากเกมชนะ เบลเยียม 2-0 เป็นมือสอง มูเนียร์ โมฮาเมดี้ ลงเฝ้าเสา
• จบอันดับ 4 แต่ก็ถือเป็นผลงานสุดยอดของ โมร็อกโก อยู่ดี ที่เป็นทีมแอฟริกา/อาหรับ รายแรกที่มาถึงตรงนี้ รวมถึงเป็นผลงานดีสุดของตัวเองด้วย ถัดจากการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายปี 1986

 

• กุนซือสองฝั่ง ซลัตโก้ ดาลิช และ วาลิด เรกรากี จะยังอยู่คุมทีมต่อไปอย่างแน่นอน โดย โครเอเชีย มีภารกิจถัดไปคือ รอบคัดเลือก ยูโร 2024 และรอบชิงแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2023 ด้าน โมร็อกโก อยู่ในเส้นทางรอบคัดเลือก AFCON 2023 โดยเตะไปแล้ว 2 นัด
• ลูก้า โมดริช ยืนยันแล้วว่าจะยังคงเล่นทีมชาติจนถึงรอบชิงแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2023 กลางปีหน้า เป็นอย่างน้อย จากนั้นจะดูอีกครั้งว่าอยากไปต่อ ยูโร 2024 หรือไม่
• โครเอเชีย ถ้าไม่ตกรอบแรก ก็มาจนถึงสุดทางในฟุตบอลโลกทุกครั้งที่ผ่านมา (แยกจาก ยูโกสลาเวีย มาเข้าร่วมปี 1998)
1998 อันดับ 3
2002 ตกรอบแรก
2006 ตกรอบแรก
2014 ตกรอบแรก
2018 รองแชมป์
2022 อันดับ 3

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022
โครเอเชีย vs โมร็อกโก : ชิงอันดับ 3 รางวัลปลอบใจ ฟุตบอลโลก 2022
ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022
ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

เกมชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 โมร็อกโกจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งที่กาตาร์

เกมชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 โมร็อกโกจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งที่กาตาร์

ทำนายผลเกมนัดชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 โครเอเชีย – โมร็อกโก

วันที่ 17 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U/ PPTV/ True Sports 2

สถานการณ์ของโครเอเชีย – โมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

การเจอกันของ 2 ทีมที่อกหักมาจากรอบรองชนะเลิศ ในเกมที่เปรียบเสมือนรางวัลปลอบใจ โดยทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วในเกมรอบแรก ซึ่งเสมอกันไป 0-0 ก่อนที่จะเดินตามเส้นทางของตัวเอง มาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย โดยโครเอเชียพ่ายอาร์เจนติน่าไป 3-0 ส่วนโมร็อกโกแพ้แชมป์เก่า ฝรั่งเศส 2-0

ในรอบรองชนะเลิศทีมของซลัตโก้ ดาลิซ แพ้ให้กับความสามารถของลิโอเนล เมสซี่ ที่เอาชนะจอสโก้ กวาร์ดิโอล เซนเตอร์แบ็คตัวแกร่งที่กลายเป็นที่ต้องการของทีมใหญ่ ๆ ในยุโรปตอนนี้ ซึ่งอายุน้อยกว่าร่วม ๆ 15 ปีได้อย่างสบาย ๆ ส่งให้อาร์เจนติน่าได้เข้าชิง เมสซี่มีโอกาสปิดทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกด้วยการคว้าแชมป์ ส่วนทีมตราหมากรุกก็หมดโอกาสเข้าชิงเป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน

โครเอเชียผ่านเข้าชิงในปี 2018 และเข้ารอบรองชนะเลิศในครั้งนี้ โดยไม่เคยชนะรอบน็อคเอาต์ในเวลาปกติ แล้วพวกเขาเคยลงเล่นเกมชิงที่ 3 และคว้าชัยนะมาได้สำเร็จในฟุตบอลโลก 1998 ครั้งแรกที่โครเอเชียเข้าแข่งฟุตบอลโลก โดยเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 2-1

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

ขณะที่การขาดสัญชาตญาณนักฆ่าในแนวรุก และการขาด 3 ดาวเตะคนสำคัญ นูสซาอีร์ มาซราอุย, โรเมน ซาอิสส์ และนาเยฟ อะเกิร์ด ทำให้โมร็อกโกทำได้แค่เป็นชาติแรกจากแอฟริกาที่มาถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก (และอาจเป็นแอฟริกาชาติแรกที่คว้าอันดับ 3 หรือ 4 ของฟุตบอลโลก) โดยทีมของวาลิด เรกรากุยทำได้แค่สร้างความหวาดเสียวให้กองเชียร์ฝรั่งเศส ก่อนที่จะโดนเธโอ เอร์น็อนงเดซ เบิกประตูแรก และโคโล มูอานี่ยิงประตูปิดกล่องในช่วงท้ายเกม ดับฝันที่จะได้เข้าชิงฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก

แต่ไม่ว่าผลการแข่งขันในเกมชิงที่สามจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะกลับบ้านอย่างวีรบุรุษแน่นอน และคงจะดีไม่น้อยหากมีเหรียญทองแดงคล้องที่คอกลับไปด้วย

เช็กสถิติโครเอเชียและโมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชียและโมร็อกโกเพิ่งเจอกันหมาด ๆ ในเกมเปิดสนามของกลุ่ม เอฟ และเสมอกันไป ซึ่งทีมตราหมากรุกมีโอกาสยิงโมร็อกโกแค่ 5 ครั้ง ขณะที่ทีมจากแอฟริกาก็แสดงให้เห็นถึงการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น และรวดเร็ว ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของพวกเขาในฟุตบอลโลกหนนี้

ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้ว 2 ครั้ง และเสมอกันไปทั้งสองนัด หนแรกในวันที่ 11 ธันวาคม 1996 เกมชิงถ้วยฮัสซันที่ 2 เสมอกันไป 2-2 ก่อนที่โครเอเชียจะชนะจากการยิงลูกโทษที่จุดโทษ และล่าสุดก็คือเกมในรอบแรกของกลุ่ม เอฟ ที่เสมอกันไป 0-0

สถานการณ์ผู้เล่นของโครเอเชียและโมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะได้ที่ 3 หรือ 4 โมร็อกโก ที่ทีมในดวงใจของหลาย ๆ คน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AP Photo/Martin Meissner)

ดาลิซที่ให้สัมภาษณ์ว่า “เราต้องการนักเตะที่ฟิต เราจะไม่ส่งใครก็ตามที่ต่อให้แค่เจ็บขนตาลงเล่น” ส่งสัญญานที่แสดงว่า เกมนี้เขาจะไม่เสี่ยงส่งผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บลงสนาม

โดยอาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่คุกคามทีมตราหมากรุกมาตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ โดยในเกมนั้น มาร์เซโลก บรอโซวิซ ถูกเปลี่ยนตัวออกตอนต้นครึ่งหลังในเกมรอบรองชนะเลิศ จากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้กองกลางจากอินเตอร์ มิลาน พลาดเกมในกัลโช่ ซีเรีย อา อยู่บ่อยครั้ง ขณะที่กวาร์ดิโอล กองหลังตัวแกร่งก็ต้องลงเล่นโดยฉีดยาระงับอาการปวดที่เท้า ทำให้โอกาสลงเล่นตกอยู่ในเครื่องหมายคำถาม ถ้าทั้งคู่ลงเล่นไม่ได้ ลอฟโร มาเจอร์ หรือคริสติจาน จาคิซ จะได้ลงแทนบรอโซวิซ และโจซิป ซูตาโล เซนเตอร์แบ็คฟอร์มดีอีกคน จะได้เล่นในตำแหน่งของกวาร์ดิโอล

ส่วนอิวาน เปริซิซ จะได้ออกสตาร์ตทางกราบซ้าย และอาจจะกลายเป็นผู้เล่นโครเอเชียที่ทำประตูในฟุตบอลโลกได้มากที่สุดในเกมนี้ โดยตอนนี้เขาครองสถิติร่วมกับดาวอร์ ซูเคอร์ ที่ 6 ประตู ขณะที่แบ็คขวา โจซิป จูราโนวิซ ซึ่งไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันศุกร์ อาจทำให้โจซิป สตานิสติซได้ลงเล่นแทน

ในเกมรอบรองชนะเลิศ โมร็อกโกเริ่มต้นด้วยข่าวดี เมื่อ 3 ผู้เล่น อะเกิร์ด, มาซราอุย และซาอิสส์ พร้อมลงเล่น แต่อาการบาดเจ็บก็เล่นงานพวกเขาไปทีละคน เริ่มจากอะเกิร์ด ที่บาดเจ็บก่อนเกมจะเริ่ม ตามด้วยซาอิสส์ ที่ลงเล่นได้แค่ 20 นาที แล้วก็โดนการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาหลังเล่นงาน ตามด้วยมาซราอุยที่ป่วยและมีปัญหาที่สะโพกอยู่แล้ว ซึ่งในเกมชิงที่ 3 ก็ยังไม่แน่ว่าเรกรากุยจะเสี่ยงส่งมาซราอุยหรืออะเกิร์ดลงเป็นตัวจริงหรือเปล่า แต่ถ้าทีมกลับมาเล่นในระบบ 4-3-3 ยาเฮีย อัตติยา อัลลาห์ และเซลิม อะมัลลาห์ น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็น 11 คนแรก โดยซาอิสส์น่าจะต้องพักต่อไป

หลังเกมพ่ายฝรั่งเศส เรกรากุยให้สัมภาษณ์ว่า “เรามีผู้เล่นบาดเจ็บมากเกินไป ถึงราว ๆ 60% หรือ 70%” ซึ่งก็คงต้องดูกันว่า โมร็อกโกมีผู้เล่นกี่คนที่ผ่านความฟิต เอาชนะอาการบาดเจ็บพร้อมลงเล่นในเกมนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของโครเอเชียและโมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิซ; จูราโนวิซ, ลอฟเร็น, ซูตาโล่, โซซ่า; มาเจอร์, โมดริซ, โควาซิซ; เปริซิซ, ครามาริซ, เปริซิซ
โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: โบโน่; ฮาคิมี่, ดารี่, เอล ยามิกว์, อัตติยาห์ อัลลาห์; อูนาฮี, อัมราบัต, อะมัลลาห์; ซีเย็ค, เอ็น-เนซีรี่, บูฟัล

ผลการแข่งขันระหว่างโครเอเชีย – โมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ กัปตันทีมชาติโครเอเชีย นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

เจอกันในเกมปกติก็ยากจะคาดผลการแข่งขันอยู่แล้ว และกับเกมชิงที่ 3 ก็ต้องวัดใจกันด้วยอีกว่า ทีมไหนจะ “เอา” หรือ “ไม่เอา” แต่หากทั้งคู่ส่งผู้เล่นตัวจริงได้ครบ เอาแค่ตามที่เห็นในเกมรอบรองชนะเลิศโดยขาดไปเพียงไม่กี่คน

แนวรับโมร็อกโกแสดงให้เห็นแล้วว่า ผู้เล่นที่ส่งลงมาเล่นแทนตัวจริงนั้น ทำหน้าที่ได้ดี และกับแนวรุกของโครเอเชีย พวกเขาน่าจะเอาอยู่ และเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขากลับบ้านพร้อมอันดับ 3 ฟุตบอลโลก นอกเหนือไปจากความมุ่งมั่นที่น่าจะมีมากกว่าโครเอเชียที่นักเตะหลาย ๆ รายเป็น “รองแชมป์” ฟุตบอลโลกมาแล้ว

เกมน่าจะยิงประตูกันไม่มากนัก ผลลัพธ์น่าจะอยู่ที่ 1-0 และต่างก็มีโอกาสพอ ๆ กันที่จะคว้าชัยชนะ แต่อย่างที่บอกความมุ่งมั่น จะทำให้โมร็อกโกสร้างประวัติศาสตร์ชาติจนถึงวันสุดท้ายของตัวเองในฟุตบอลโลก 2022

เรื่องน่าอ่าน
ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ – ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

 

 

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนบุคคล

เหลือเพียง 2 นัด ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ก็จะปิดฉาก โดยสองเกมสุดท้ายก็คือ เกมชิงที่ 3 ระหว่างโครเอเชีย – โมร็อกโก กับการเจอกันของอาร์เจนติน่าและแชมป์เก่าฝรั่งเศสในวันสุดท้าย

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 คือเกมสุดท้ายในฟุตบอลโลกของลิโอเนล เมสซี่ ไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้ และจากสิ่งที่เป็นไป ดูเหมือนเมสซี่ในวัย 35 ปีน่าจะได้รางวัลที่เป็นจุดสูงสุดทางอาชีพ แต่อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสก็มีเรื่องราวของตัวเองเช่นกัน เพราะพวกเขาอาจจะเป็นแชมป์โลกรายแรก ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 หนซ้อน นับตั้งแต่บราซิลทำได้ในปี 1958 และ 1962 โดยมีซูเปอร์สตาร์คนสำคัญ คิลิอัน เอ็มบัปเป้ เป็นกำลังหลัก

นั่นคือเรื่องของรางวัลสำหรับทีม ฟุตบอลโลกยังมีรางวัลส่วนบุคคลอีกหลายรางวัล รองเท้าทองคำ, ถุงมือทองคำ และลูกฟุตบอลทองคำ ที่จะมีการมอบกันหลังเกมนัดชิงจบลง โดยทั้ง 3 รางวัลยังต้องดูกันจนถึง 2 นัดสุดท้ายว่าใครกันที่เหมาะสม

รองเท้าทองคำ – รางวัลสำหรับดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม (ภาพ: Ariel Schalit/AP)

รองเท้าทองคำเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุด ซึ่งมาถึงตอนนี้ นักเตะที่ยิงได้มากที่สุด ที่กาตาร์ก็คือ เมสซี่และเอ็มบัปเป้ ที่ทำได้คนละ 5 ประตูเท่ากัน และทั้งคู่ยังลงสนามเจอกันในนัดชิงอีกด้วย

แต่นักเตะที่มีโอกาสคว้ารางวัลนี้ ยังมีมากกว่านั้น เพราะเพื่อนร่วมทีมของทั้งคู่ จูเลียน อัลวาเรซ จากอาร์เจนติน่า และโอลิวิแยร์ ชิรูด์ ของฝรั่งเศส ต่างก็ทำประตูตามมาติด ๆ คนละ 4 ประตู โดยชิรูด์ยังกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว เมื่อยิงประตูแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิม เธียร์รี่ อองรีในฟุตบอลโลกหนนี้นี่เอง

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ มีลุ้นรางวัลสามรางวัลในฟุตบอลโลก 2018 ดาวซัลโว, นักเตะยอดเยี่ยม และแชมป์โลก (ภาพ: Official twitter handle of FIFA)

ซึ่งถ้ามีนักเตะที่ทำประตูสูงสุดมากกว่า 1 ราย เกณฑ์ที่จะนำมาใช้วัดว่าใคร จะได้รางวัลรองเท้าทองคำก็คือ การจ่ายให้เพื่อนทำประตู และถ้ายังเท่ากันอีก นักเตะที่ลงเล่นด้วยเวลาที่น้อยกว่าจะคว้ารางวัลไป ที่เมื่อดูการจ่ายให้เพื่อนทำประตู เมสซี่คือคนที่ได้เปรียบ เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงถึง 3 ประตู ขณะที่เอ็มบัปเป้จ่ายไป 2 ประตู แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเวลาในการลงสนาม เอ็มบัปเป้ได้เปรียบ เมื่อลงเล่นแค่ 477 นาที แต่เมสซี่ลงเล่นไปแล้ว 570 นาที

ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ที่ต้องวัดกันมากกว่าประตูเกิดขึ้นมาแล้ว ในฟุตบอลโลก 2010 มีคนทำประตูได้มากที่สุดถึง 4 ราย คือ โธมัส มุลเลอร์, เวสลีย์ สไนเดอร์, ดาวิด บีญ่า และดีเอโก้ ฟอร์ลัน ทุกคนทำได้ 5 ประตู แต่คนที่คว้ารองเท้าทองคำคือ มุลเลอร์ เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงมากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยสถิติ 3 ประตู

นอกจาก 4 ผู้เล่นจากคู่ชิงแล้ว แม้โอกาสจะไม่มากนัก แต่สองนักเตะในเกมชิงที่ 3 อันเดรจ์ ครามาริซ ของโครเอเชีย และยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ของโมร็อกโก ก็พอมีโอกาส เมื่อทำประตูตุนไว้คนละ 2 ประตู

ถุงมือทองคำ – รางวัลสำหรับผู้รักษาประตู ฟุตบอลโลก 2022

ลิวาโควิซ ฟุตบอลโลก 2022 โครเอเชีย

ลิวาโควิซ นายประตูโครเอเชีย (ภาพ: Matthew Ashton/ Getty Images)

ถุงมือทองคำเป็นรางวัลสำหรับผู้รักษาประตู ที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลก ที่มีการมอบให้ครั้งแรกในปี 1994 ซึ่งเจ้าของรางวัลนี้ในอดีต ก็คือผู้เล่นระดับตำนานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โอลิเวอร์ คาห์น, อิเกอร์ คาซิญาส, มานูเอล นอยเออร์, จิอันลุยจิ บุฟฟอน

การหาผู้ชนะรางวัลนี้จะซับซ้อนมากกว่ารองเท้าทองคำ เมื่อจะตัดสินโดยทีมเทคนิคของฟีฟ่า หรือ คณะกรรมการด้านเทคนิค ที่เรียก ๆ กัน ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้จะดูฟอร์มการเล่นของผู้เล่นอย่างเงียบ ๆ โดยคนที่ได้รางวัลก็คือ ผู้รักษาประตูที่ไปได้ไกลที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และหากเกิดการเสมอกันขึ้นมา คนที่ได้รางวัลก็คือ คนที่มีลูกเซฟประตูมากที่สุด หากยังเท่ากัน ก็ต้องไปดูเวลาในการลงเล่น ใครที่เล่นนานกว่าคือผู้ที่คว้ารางวัล

อูโก้ โญริส ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

อูโก้ โญริส กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และผู้รักษาประตู (ภาพ: Visionhaus/ Getty Images)

อีมี่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนติน่า), อูโก้ โญริส (ฝรั่งเศส), โดมินิก ลิวาโควิซ (โครเอเชีย) และยาสซีน โบโน (โมร็อกโก) คือผู้รักษาประตูที่ลงเล่นจนถึง 2 เกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 โดยโบโน, ลิวาโควิซ และมาร์ติเนซ ล้วนเคยคว้าชัยในเกมดวลจุดโทษอย่างน้อยก็ 1 นัด แต่โญริสก็มีเซฟมหัศจรรย์อยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่พาฝรั่งเศสมาถึงนัดสุดท้ายได้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน

ลูกฟุตบอลทองคำ – รางวัลสำหรับนักเตะยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ กัปตันทีมชาติโครเอเชีย นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 (ภาพ: Getty Images)

สำหรับนักเตะที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก รางวัลที่จะได้กลับบ้านก็คือ ลูกฟุตบอลทองคำ ที่การสรรหาก็ถือว่าซับซ้อน โดยบรรดาสมาชิกของสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกจะลงคะแนนให้กับผู้เล่น ที่คณะกรรมการด้านเทคนิคของฟีฟ่า เลือกมาให้

งานนี้คนที่ได้รางวัล มักจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากนัดชิง ซึ่งดูแล้วเมสซี่กับเอ็มบัปเป้คือ 2 ผู้เล่นที่น่าจะชิรางวัลนี้กัน และทำให้เกมนัดชิงระหว่างอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส มีการชิงรางวัลส่วนบุคคลควบคู่กันไปด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นการปิดโอกาสผู้เล่นคนอื่น ๆ เพราะ ลูก้า โมดริซและอองตวน กรีซมันน์ ต่างก็น่าจะอยู่ในข่ายได้รับการพิจารณาด้วย เช่นเดียวกับ ลิวาโควิซและอาชราฟ ฮาคิมี่ แต่ประตูที่เปิดกว้างคือบานของเมสซี่และเอ็มบัปเป้

รางวัลลูกฟุตบอลทองคำ มีการมอบให้หนแรกในปี 1982 โดยปีนั้นเปาโล รอซซี่ ดาวยิงอิตาลี ที่ได้รางวัลรองเท้าทองคำด้วยคว้าไป โดยตำนานหลายรายก็คว้ารางวัลนี้มาแล้ว เช่น ดีเอโก้ มาราโดน่า (1986), โนัลโด้ (1998) และโมดริซ (2018) กระทั่งเมสซี่ ก็เคยได้รางวัลนี้ในปี 2014 หลังพ่ายเยอรมนีในนัดชิง ที่ทำให้เกิดภาพการรับรางวัลที่ดูกระอักกระอ่วน เมื่อเขาต้องรับรางวัลด้วยสีหน้าที่ดูผิดหวัง ท่ามกลางการฉลองของนักเตะเยอรมัน ซึ่งก็คล้าย ๆ กับเมื่อครั้งที่ซีเนอดีน ซีดานคว้ารางวัลนี้ หลังถูกไล่ออกในนัดชิงปี 2006 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะแพ้ดวลจุดโทษต่ออิตาลี

โอลิเวอร์ คาห์น เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2002

โอลิเวอร์ คาห์น คือผู้รักษาประตูคนเดียว ที่ได้รับรางวัลถุงมือทองคำ และลูกฟุตบอลทองคำ (ภาพ: www.fifa.com)

คาห์น คือผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวที่เคยได้รางวัลนี้ ซึ่งต้องให้เครดิตกับฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเหลือเกินในฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งแน่นอนว่า เขาได้รับรางวัลถุงมือทองคำไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากสามรางวัลนี้แล้ว ยังมีการมอบรางวัล นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ซึ่งในฟุตบอลโลก 2018 เป็นของคิลิอัน เอ็มบัปเป้, รางวัล แฟร์เพลย์ อวอร์ด ให้กับทีม, รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน, ทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน ซึ่งจะคัดนักเตะที่เล่นได้ยอดเยี่ยมในตำแหน่งต่าง ๆ มารวมกันเป็นหนึ่งทีม, ทีมที่สร้างความบันเทิงมากที่สุดในการแข่งขัน ที่จะตกอยู่กับทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: Ariel Schalit/AP, Official twitter handle of FIFA, Matthew Ashton/ Getty Images, Getty Images, Visionhaus/Getty Images

ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ - ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ – ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

คู่ชิงที่เป็นมากกว่าคู่ชิงของฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ของเจ้าภาพ กาตาร์ ในนัดเปิดสนาม ต่อเอกวาดอร์ทีมจากอเมริกาใต้ 2-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน และฟาดแข้งกันมาอย่างต่อเนื่อง จนได้คู่ชิงชนะเลิศที่ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ทีมตราไก่ – ฝรั่งเศส แชมป์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว กับอาร์เจนติน่า – ฟ้าขาว ที่เป็นหนึ่งตัวเก็งลำดับต้น ๆ ของทัวร์นาเมนต์ ที่ยังเป็นการปะทะกันของสองดาวเตะต่างยุค ที่เล่นร่วมกันในทีมปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็ง และถูกมองว่า จะมีการส่งผ่าน ทดแทนกันในฐานะซูเปอร์สตาร์บนสนามหญ้าสีเขียว ลิโอเนล เมสซี่ กับฟุตบอลโลกที่น่าจะเป็นหนสุดท้าย และคิลิอัน เอ็มบัปเป้ เจ้าของตำแหน่งดาวรุ่งของฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

โดยการแข่งขันนัดนี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 4 ทุ่มตรง (ตามเวลาในบ้านเรา) โดยสามารถชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U, 7HD และ True Sports 2

ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดฟุตบอลโลก 2022 ที่หลายคนไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะได้รับบาดเจ็บ (ภาพ: www.pulse.ng)

ที่หากอาร์เจนติน่าของเมสซี่คว้าแชมป์ เขาจะทำได้เช่นเดียวกันตำนานนักเตะของอาร์เจนติน่า และของโลก ดีเอโก้ มาราโดน่า ทำได้ ซึ่งจะทำให้สถานภาพในการเป็น หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก (GOAT – Greatest of All Time) มั่นคงและสมค่ามากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นเอ็มบัปเป้และเพื่อนพ้องพี่น้องตราไก่ จะทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ติดต่อกัน 2 ปีซ้อนได้สำเร็จ นับตั้งแต่เปเล่และบราซิลทำเอาไว้เมื่อ 60 ปีก่อน

ก่อนเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 เมสซี่-อาร์เจนติน่าปะทะเอ็มบัปเป้-ฝรั่งเศส

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

หลังจบเกมรอบรองชนะเลิศทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศสจะมีเวลาพักก่อนเจอกันในนัดชิงอย่างน้อย 3 วันเต็ม ๆ และสำหรับทีมที่ได้เข้าชิงที่ 3 โครเอเชียและโมร็อกโกจะเหลือมีเวลาอย่างน้อย 2 วันเต็ม ๆ ที่แม้จะเป็นวันพัก หากก็มีเรื่องราวมากมายให้ได้เขียนถึง

เว็บไซต์ FiveThirtyEight ได้วิเคราะห์ออกมาว่า อาร์เจนติน่าเหนือกว่าแชมป์เก่าฝรั่งเศสอยู่เล็กน้อย เมื่อให้โอกาสฟ้าขาว คว้าแชมป์ 53% และตราไก่ 47%

ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองทีมต่างกำลังล่าดาวดวงที่ 3 ประดับอก โดยฝรั่งเศสเป็นเจ้าของแชมป์ในปี 1998 และ 2018 ส่วนอาร์เจนติน่า เป็นแชมป์ในปี 1978 และ 1986 โดยมีเพียงเยอรมนีกับอิตาลี และบราซิล เท่านั้นที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า โดยสองทีมจากยุโรปเป็นแชมป์ 4 สมัย ส่วนบราซิล 5 สมัย นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสหรืออาร์เจนติน่า หากคว้าแชมป์สำเร็จจะเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 2 โดยไม่ใช่เจ้าภาพหนที่สองของพวกเขา ขณะที่แชมป์ครั้งแรกของทั้งสองทีม ต่างได้มาในปีที่เป็นเจ้าภาพเหมือนกัน

อาร์เจนติน่าเคยเจอกับฝรั่งเศสมาแล้ว 4 ครั้งในฟุตบอลโลก โดยทีมฟ้าขาวเอาชนะทีมตราไก่ได้ในรอบแบ่งกลุ่มปี 1930 และ 1978 ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุด ฝรั่งเศสคว่ำอาร์เจนติน่าในรอบ 16 ทีมของฟุตบอลโลก 2018 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน และสถิติการเจอกันทั้งหมด อาร์เจนติน่าทำได้ดีกว่า ด้วยสถิติชนะ 6 แพ้ 3 เสมอ 3

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

จากดาวรุ่งยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 เอ็มบัปเป้ เป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว (ภาพ: 24hoursworlds.com)

ทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส ต่างก็เป็นทีมที่มีสตาร์ดังล้นทีม แต่แน่นอนว่าสายตาทุกคู่ย่อมจับจ้องไปที่ เมสซี่และเอ็มบัปเป้ ที่นอกจากเป็นเพื่อนร่วมสโมสรปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็งแล้ว ยังนำดาวซัลโวในฟุตบอลโลกหนนี้ร่วมกัน หลังต่างยิงกันไปแล้วคนละ 5 ประตู

โดยก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกันที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ อันดับ 1 และ 2 ในฟุตบอลโลก แต่ถ้าเกมนัดชิงจบลงด้วยการที่ทั้งเมสซี่และเอ็มบัปเป้ยังคงยิงประตูเท่ากัน การตัดสินจะไปอยู่ที่การจ่ายให้เพื่อนทำประตู หากยังเสมอกันอีก ก็จะดูเวลาในการลงสนาม ที่ใครได้ลงเล่นน้อยกว่า จะคว้ารางวัลไป

แต่ที่แน่ ๆ การลงสนามในนัดชิงของเมสซี่ วัย 35 ปี จะทำให้เขาแซงโลธ่าร์ มัตเธอุส ของทีมชาติเยอรมนี เป็นนักเตะชายที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด ด้วยจำนวน 26 นัด ขณะที่การยิงประตูโครเอเชียในรอบรองชนะเลิศของเมสซี่ ก็ทำให้เขาแซงแกเบรียล บาติสตูต้า เป็นผู้เล่นอาร์เจนติน่า ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด สำหรับทีมชาย ด้วยจำนวน 11 ประตู ส่วนตำนานอย่างมาราโดน่า ทำเอาไว้ 8 ประตู

เอ็มบัปเป้เองก็มีโอกาสเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์โลกได้ 2 สมัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจสำหรับดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ โดยเจ้าของสถิติเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยด้วยอายุน้อยที่สุดคือ เปเล่ ด้วยวัย 22 ปี

โมร็อกโก คือหนึ่งในความประทับใจของฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะได้ที่ 3 หรือ 4 โมร็อกโก ที่ทีมในดวงใจของหลาย ๆ คน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AP Photo/Martin Meissner)

กับเกมชิงที่ 3 ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง นักเตะโมร็อกโกชุดนี้ก็ได้จารึกชื่อของพวกเขาในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเอาไว้เรียบร้อย ในฐานะทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ นอกจากนี้สิงโตจากเทือกเขาแอตลาสยังเป็นทีมอาหรับทีมแรก ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกอีกด้วย

หลังเอาชนะทีมเต็ง เบลเยี่ยม, กระทิงดุ – สเปน และโปรตุเกส โมร็อกโกแสดงให้เห็นว่า ทีมที่อยู่นอกทวีปขาประจำ ยุโรปและอเมริกาใต้ ก็สามารถเข้ารอบลึก ๆ ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับนี้ได้ แม้เส้นทางของพวกเขาจะลงด้วยการชิงที่ 3 หลังพ่ายฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้ว

วาลิด เรกรากีย์ โค้ชของโมร็อกโก มาถึงกาตาร์พร้อมกับนักเตะที่มีความโดดเด่นอย่างมากในระดับสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ฮาคิม ชีเย็คจากเชลซี หรือ อาชราฟ ฮาคิมี่ จากแปเอสเช ขณะที่กองกลางจากฟิออเรนติน่า ซอฟิยาน อัมราบัต และอองเฌร์ – อัซซาดีน อูนาฮี แจ้งเกิดได้เต็ม ๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้ และน่าจะได้ย้ายไปอยู่ทีมที่ใหญ่กว่าเดิมในอนาคต

หลังเสียประตูไปตั้งแต่ต้นเกม จากการยิงของเธโอ เอร์น็องเดซ โมร็อกโกก็ทำให้ทีมแชมป์โลกมีเสียวอยู่เป็นระยะ ๆ จนกระทั่ง โคโล มูอานี่ มายิงประตูปิดกล่องส่งทีมตราไก่เข้าชิงเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน การกลับบ้านหนนี้ของโมร็อกโก นักเตะและทีมงานทุกคนคือวีรบุรุษ แม้พวกเขาจะไม่ได้ลงสนามในวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ก็ตามที และถึงเกมกับโครเอเชียอาจจะเป็นเหมือนเกมปลอบใจ แต่ก็เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้พวกเขาปิดฟุตบอลโลก 2022 ของตัวเอง ด้วยสถิติที่สวยงาม และฉายแสงออกมาเป็นครั้งสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: www.skysports.com, 24hoursworlds.com

เรื่องน่าอ่าน
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

บทสรุปรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก

 

เมื่อปาฏิหาริย์ไม่ได้มีขายตามร้านสะดวกซื้อ ม้ามืดอย่าง โมร็อกโก (ที่สู้สุดใจในรอบที่ผ่านๆ มา จนเสียขุนพลเดี้ยงกันไปทีละรายๆ) แม้จะมาแรงแค่ไหน ก็ไม่ไหวเหมือนกันเมื่อต้องเจอ “ของจริง” เข้าในเกมตัดเชือก

 

อันที่จริง โมร็อกโก ก็ทำได้ดีไม่น้อยในการต่อกรเปิดหน้าแลกหมัดต่อหมัดกับแชมป์เก่า

 

แต่เมื่อทีเด็ดทีขาดขึ้นกับฝั่ง ฝรั่งเศส ฝ่ายเดียว

 

“ดรีมแมตช์” อย่าง ฝรั่งเศส v อาร์เจนติน่า จึงเกิดขึ้นในท้ายที่สุด…

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

กับเกมตัดสินอยู่หรือไป จะได้ชิงแชมป์หรือชิงเหรียญทองแดง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ อัล เบย์ท สเตเดี้ยม กลางดึกคืนพุธ 14 ธ.ค. การจัดทีมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เจอปัญหาอย่างที่มีรายงานปูดมา เมื่อทั้ง ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ป่วยไข้ไม่พร้อมเล่นเกมนี้ ทำให้ต้องปรับส่ง อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ ยุสซูฟ โฟฟาน่า เสียบตำแหน่งแทนตามลำดับ

 

แต่นอกนั้นคงเดิม แนวรุกให้ อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สนับสนุนหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

ฟาก วาลิด เรกรากี หายใจโล่งอกเฮือกใหญ่ ได้ทั้ง โรแม็ง ซาอิสส์ กับ นูสแซร์ มาซราอุย ผ่านความฟิตคืนสนามในเกมรับพร้อมกัน พร้อมกับเลือกปรับระบบการเล่นเป็นครั้งแรกของทัวร์นาเมนต์ จาก 4-3-3 ไปใช้ 5-4-1 ตั้งรับเต็มกำลัง ถ่าง ฮาคิม ซีเย็ค กับ โซฟียาน บูฟาล ออกเล่นตัวริมเส้นแดนกลาง ทิ้งหอกเป้า ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ค้ำไว้ข้างหน้ารายเดียว

 

กระนั้นในราย นาเยฟ อาแกร์ด ที่ตอนแรกมีชื่อในไลน์อัพ กลับเจ็บซ้ำตอนวอร์ม ทำให้สุดท้ายต้องเป็น อัชราฟ ดารี ลงไปเล่นแทน

 

เริ่มเกมไปเพียง 5 นาที ฝรั่งเศส ก็ได้เฮทันทีจากการจบหนแรกของเกม อองตวน กรีซมันน์ ถ่ายลูกให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดสองจังหวะไปแฉลบกองหลังเด้งขึ้นหน้า กลายเป็นเข้าทางแบ็กซ้าย เตโอ เอร์นันเดซ เติมขึ้นมาลอยตัววอลเลย์ผ่าน ยาสซีน บูนู เข้าไปอย่างยอดเยี่ยม เป็น 1-0 ของตราไก่อย่างรวดเร็ว

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

ห้านาทีให้หลังเป็นโอกาสของ โมร็อกโก ที่ต้องเปิดเกมสู้บ้าง อัซเซดีน อูนาฮี ซัดเปรี้ยงระยะไกลส่งบอลเข้าหาเสาสอง ไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส ที่กระโดดปัดไว้ได้สวยๆ

 

สกอร์ที่มาเร็วทำให้เกมเปิดแลกกันตั้งแต่ต้น นาที 16 ฮาคิม ซีเย็ค ทะลุเข้าไปส่องทางขวาออกไปเองแบบไร้กดดัน ฝรั่งเศส ตั้งเกมสวนขึ้นมาจบที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หลุดเข้าส่องเน้นๆ ทางฝั่งซ้าย บอลพุ่งแรงกระแทกเสาแรกอย่างจัง พลาดโอกาสฉีกสกอร์หนีห่างอย่างน่าเสียดาย

 

ข่าวร้ายของ โมร็อกโก ยังมีต่อเนื่อง เมื่อถึงนาที 20 ปรากฏว่ากัปตันทีม โรแม็ง ซาอิสส์ ก็ส่งสัญญาณไปข้างสนามว่าฝืนเล่นต่อไม่ไหวแล้ว ต้องกะเผลกออกให้ เซลิม อมัลลาห์ ลงสำรองไปแทน

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

เกมลดความเร็วลงไปในช่วงกลางครึ่งแรก แต่ก็ยังคงเป็น ฝรั่งเศส ที่ใกล้เคียงกับการได้เม็ดสองในนาที 36 บอลยัดเข้าจุดอันตรายมาจบที่ ชิรูด์ ตวัดยิงโล่งๆ ไม่เข้าเป้า หลุดเสาแรกไปเอง

 

โมร็อกโก เกือบได้เหมือนกันในนาที 44 จากเตะมุมที่ปลิ้นมาเข้าทาง จาวัด เอล ยามิก โชว์กระโดดโอเวอร์เฮดคิกสุดงาม บอลลอยเข้าติดปลายมือ โยริส ที่เสาประตู

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

จากนั้นครึ่งแรกสิ้นสุดลงไป ฝรั่งเศส ยังไม่ได้เพิ่มมากไปกว่า 1-0 แต่ก็ถือว่าเล่นด้วยความสบายใจพอสมควร

 

ต่อครึ่งหลัง โมร็อกโก มีเปลี่ยนเพิ่ม ถอด นูสแซร์ มาซราอุย ที่ไม่สมบูรณ์ ออกไปให้ ยาห์ย่า อัตติอัต-อัลลาห์ ลงเล่นแทน

 

สิบนาทีแรกของครึ่งหลังเป็น โมร็อกโก ที่ลุยเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแล้ว ฝรั่งเศส ต้องหาโอกาสโต้กลับเป็นระยะ เพียงแต่พายุเกมบุกของทีมสิงโตแอตลาสก็ยังไม่อาจหาโอกาสจะแจ้งที่จะเปลี่ยนสกอร์ได้แต่อย่างใด

 

ถึงนาที 65 ฝรั่งเศส เปลี่ยนเกมเติมความสดแดนหน้าบ้าง ให้ มาร์คุส ตูราม ลงไปแทน ชิรูด์ ที่ไร้บทบาทในครึ่งหลัง

 

เกมเปิดแลกกันต่อเนื่องเมื่อเข้ายี่สิบนาทีท้าย โดยที่ทาง ฝรั่งเศส มีลุ้น 2-3 หนที่จะบวกสกอร์เพิ่ม แต่ไม่เฉียบคมพอ ส่วน โมร็อกโก เกมสะดุดไป และมักเสียบอลในพื้นที่สุดท้าย

 

แต่แล้วเมื่อถึงนาที 79 ฝรั่งเศส ก็ฉีกสกอร์เป็น 2-0 เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เอ็มบัปเป้ พยายามยิงฝ่าแนวรับแต่ไม่ผ่าน ทว่าก็กลายเป็นลูกแฉลบขึ้นหน้าไปเสาไกลคล้ายประตูแรก และเสร็จหอกสำรองอีกรายที่เพิ่งลงไปไม่กี่วินาที ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ วิ่งเข้าชาร์จนิ่มๆ พาตราไก่สยายปีก 2-0 กำตั๋วเข้าชิงบอลโลกไว้อยู่มือ

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

ท้ายเกมที่มีทดเจ็บให้ 6 นาที โมร็อกโก เกือบฮึดตีไข่แตกได้เหมือนกันตอน 90+4 จังหวะซัดของ อูนาฮี ที่แฉลบไปติดตัวคุมเส้น ชูลส์ กุนเด้ หวุดหวิด ที่สุดจึงจบที่ ฝรั่งเศส กำชัย 2-0 ลุยเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะชิงชัยกับ อาร์เจนติน่า วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.

 

ด้าน โมร็อกโก ไปชิงอันดับ 3 ปลอบใจกับ โครเอเชีย ซึ่งจะเตะกันวันเสาร์ 17 ธ.ค.

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อิบราฮิมา โกนาเต้, ชูลส์ กุนเด้ – ยุสซูฟ โฟฟาน่า, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่ (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ 78), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คุส ตูราม 65)
โมร็อกโก (5-4-1) ยาสซีน บูนู – นูสแซร์ มาซราอุย (ยาห์ย่า อัตติอัต-อัลลาห์ 46), โรแม็ง ซาอิสส์ (เซลิม อมัลลาห์ 20, อับเด เอซซัลซูลี่ 79), อัชราฟ ดารี, จาวัด เอล ยามิก, อัชราฟ ฮาคิมี่ – โซฟียาน บูฟาล (ซากาเรีย อบูคลัล 66), อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, ฮาคิม ซีเย็ค – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ (อับเดอร์ราซัค ฮัมดัลลาห์ 66)

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

• แมนออฟเดอะแมตช์ : อองตวน กรีซมันน์
• อองตวน กรีซมันน์ ลงไปช่วยงานเกมรับ (Defensive Pressures Applied) ถึง 69 ครั้งในเกมนี้
• ฝรั่งเศส ยิงตรงกรอบ 2 ครั้งเท่านั้น เป็น 2 ประตู จากโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้ง ด้าน โมร็อกโก ยิงรวม 13 หน ตรงกรอบครั้งเดียว
• ฝรั่งเศส ไม่โดนใบเหลืองในเกมนี้ เท่ากับโดนไปแค่ 5 ใบตลอดทัวร์นาเมนต์ น้อยสุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ (แฟร์เพลย์ อังกฤษ 1 เหลือง 0 แดง)
• ฝรั่งเศส ไม่แพ้เกมฟุตบอลโลกเป็นนัดที่ 26 (ชนะ 25 เสมอ 1) หากเป็นฝ่ายขึ้นนำเมื่อสิ้นครึ่งแรก

 

• 4 จาก 5 ประตูล่าสุดในรอบตัดเชือกของ ฝรั่งเศส (คิดเป็น 80%) มาจากกองหลัง – 1998 ลิลิยอง ตูราม (2 ลูก), 2018 ซามูแอล อุมติตี้, 2022 เตโอ เอร์นันเดซ
• ประตูของ เตโอ เอร์นันเดซ เกิดขึ้นตอน 4 นาที 39 วินาที เป็นประตูเร็วที่สุดของรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ลูกยิงของ วาว่า เกมบราซิลชนะฝรั่งเศส 5-2 ปี 1958
• เตโอ เอร์นันเดซ ยิงประตูที่ 2 ในการเล่นทีมชาติ 12 นัด
• ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงประตูแรกสุด ในการเล่นทีมชาติเกมที่ 4

 

• ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ใช้เวลา 44 วินาทีในสนาม ยิงลูก 2-0 เป็นสถิติเร็วสุดอันดับ 3 ของฟุตบอลโลก (ตัวสำรองพังประตู) ถัดจาก ริชาร์ด โมราเลส (อุรุกวัย) 2002 และ เอ๊บเบ้ ซานด์ (เดนมาร์ก) 1998
• ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ มาเล่นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเป็นมวยแทน เสียบโควตาของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่เจ็บจนต้องถอนตัวไป
• เตโอ เอร์นันเดซ (25) ก็กลายมาเป็นแบ็กซ้ายตัวเลือกแรก แทนที่พี่ชาย ลูคัส เอร์นันเดซ (26) ที่เจ็บจากเกมกับ ออสเตรเลีย จนต้องถอนตัวไป
• ฝรั่งเศส และ อูโก้ โยริส เพิ่งจะทำคลีนชีตหนแรกในฟุตบอลโลก 2022

 

• โมร็อกโก ยังมีสิทธิ์คว้าอันดับ 3 ได้ถ้าชนะ โครเอเชีย วันเสาร์นี้ แต่ก็จัดเป็นทีมประวัติศาสตร์ของแอฟริกา/อาหรับ อยู่แล้ว หลังมาไกลถึงรอบตัดเชือก
• วาลิด เรกรากี เพิ่งทำทีมแพ้นัดแรกจากการเล่น 9 นัด (ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 1)
• ถัดจากการยิงตัวเองของ นาเยฟ อาแกร์ด เท่ากับ โมร็อกโก เพิ่งเสีย 2 ประตูแรกจากฝีมือของคู่แข่ง ในเกมนี้

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

ปากคำหลังเกม ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ : “มันให้ทั้งอารมณ์ตื้นตันใจและภาคภูมิใจ แน่นอนว่า นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญ แต่เราก็ยังเหลืออีกหนึ่งก้าว เราทำงานร่วมกันมานานนับเดือน ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่สุดท้ายเราก็มีความสุขกัน และบรรดานักเตะของผมต่างก็ได้รับรางวัลตอบแทนความพยายาม”
“ตั้งแต่ที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้เริ่มขึ้น เมสซี่ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผมเชื่อว่าหลังจากผ่านไป 4 ปี พวกเขาเป็นทีมที่แตกต่างออกไปจากเดิม เมื่อ 4 ปีก่อนผมได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเขา (เมสซี่) จะไปเล่นในตำแหน่งไหน และท้ายที่สุดเขาพัฒนาตัวเองให้ไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวกลางในการดวลกับพวกเรา”
“จากจุดนั้น เขาดูต่อเนื่องมากกว่าเดิมในการเล่นร่วมกับกองหน้าอีกราย และเขามีอิสระมาก เขาสัมผัสบอลหลายครั้ง เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมากจริงๆ
“เราจะทำให้แน่ใจว่าได้จำกัดขอบเขตการเล่นของเขากับการมีอิทธิพลต่อเกมให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งพวกเขาก็คงจะพยายามทำบางอย่างกับนักเตะของพวกเราเช่นกัน”

 

อองตวน กรีซมันน์ : “ในตอนที่ อาร์เจนติน่า มี เลโอ (เมสซี่) อยู่ด้วย มันเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน เราได้เห็นมาเกือบทุกๆ เกม เรารู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร นี่คือทีมที่ยากในการต่อกรอย่างมาก พวกเขาอยู่ในทรงที่ดี มันเป็นกลุ่มนักเตะที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา”
“มันจะเป็นเกมที่ไม่ง่าย พวกเขาจะมีกองเชียร์ที่คอยอยู่ข้างๆ แล้วเราจะได้รู้ว่าเราสามารถทำอะไรกันได้บ้าง”

 

เตโอ เอร์นันเดซ : “เมสซี่? เราไม่กลัวหรอก พวกเขามีทีมที่ยอดเยี่ยม แต่เราก็ยังมีเวลาเตรียมตัวอีก 2-3 วัน เกมนี้ถือเป็นเกมที่ยากของเรา โมร็อกโก มีทีมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่สุดท้ายเราชนะ และตอนนี้เราจำเป็นต้องคิดถึงนัดชิงฯ เท่านั้น เราทำงานหนักมานานร่วมเดือนเพื่อมาถึงจุดนี้ ผมเหนื่อย แต่มันก็เป็นอะไรที่งดงาม”

 

วาลิด เรกรากี : “เรามีนักเตะบาดเจ็บหลายราย บางคนซ้อมไม่ได้ บางคนต้องพลาดการลงสนาม หรือไม่ก็เจ็บระหว่างเกม แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย แต่มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว”
“เราแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของฟุตบอลโมร็อกโกแล้ว และเรามีแฟนบอลที่น่าทึ่ง เราคิดว่าเราอยู่ไม่ไกลเลยจากการที่เราสามารถต่อสู้ได้ในเกมระดับท็อป เราเล่นกันอย่างเต็มที่แล้ว มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
“เราเสีย อาแกร์ด ตอนวอร์มอัพ รวมทั้ง ซาอิสส์ และ มาซราอุย แต่มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว เราต้องจ่ายค่าตอบแทนจากการก่อความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เราทิ้งโอกาสไปในครึ่งแรก และประตูที่สองฆ่าเรา แต่มันไม่อาจพรากทุกอย่างที่เราทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้”

 

ยาสซีน บูนู : “เกมออกมาไม่ง่ายเลย เราใฝ่ฝันที่จะไปถึงชิงชนะเลิศ และเรามีความมั่นใจในการเอาชนะ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทุกๆ คนเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม ทุ่มเทความพยายามลงไปอย่างมาก”
“เรายังคงเหลือเกมให้ลงสนามอีกหนึ่งนัด ซึ่งเป็นเกมที่เราต้องเล่นอย่างเอาจริงเอาจังเหมือนกับที่แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้”
“เราแสดงให้เห็นถึงศักยภาพระดับสูงที่สามารถต่อกรกับชาติใหญ่ๆ ได้สูสี ประตูแรก (ของฝรั่งเศส) ทำให้เกมของเรายุ่งยากซับซ้อน แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงบุคลิกและมีโอกาสหลังจากเสียประตูไป หลังจากนั้น มีประตูที่สองเกิดขึ้นพร้อมกับโชคช่วยพวกเขาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรายังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม”

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

สืบเนื่องจากผลสกอร์ ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
• ฝรั่งเศส เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 โดยเตรียมพบ อาร์เจนติน่า ที่เจอกันมาแล้วใน รัสเซีย 2018 ฝรั่งเศสชนะ 4-3 รอบ 16 ทีมสุดท้าย (คีลิยัน เอ็มบัปเป้ 2 ประตู, อองตวน กรีซมันน์ 1)
• ฝรั่งเศส เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก เป็นครั้งที่ 4 ในเพียง 7 ทัวร์นาเมนต์หลังสุด
1998 ชนะ บราซิล 3-0
2006 แพ้ดวลจุดโทษ อิตาลี 3-5
2018 ชนะ โครเอเชีย 4-2
2022 เตรียมพบ อาร์เจนติน่า
• ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เป็นกัปตันทีมชุดแชมป์โลก 1998, เป็นกุนซือชุดแชมป์โลก 2018 และยังนำทีมเข้าชิงได้อีกหน ปีนี้
• เริ่มคุมทีมปี 2012 จนถึงวันนี้ เดส์ชองส์ พาทัพตราไก่ลงสนาม 138 นัด ชนะ 89 เสมอ 27 แพ้ 22 เปอร์เซ็นต์ชนะ 64.49%

 

• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ไม่ยิงเพิ่มมา 2 เกมติด คงสถิติไว้ที่ 5 ประตูเท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่ และคู่นี้จะเผชิญหน้ากันโดยตรงในนัดชิงชนะเลิศ
• เช่นเดียวกับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่กดไปคนละ 4 ตุงเท่ากัน
• อองตวน กรีซมันน์ ยังทำ 3 แอสซิสต์ เท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่
• มีกระแสข่าวว่า เรอัล มาดริด พร้อมเปิดไฟเขียวกรณีพิเศษให้ คาริม เบนเซม่า กลับเข้าสู่แคมป์ทีมชาติฝรั่งเศส มาเป็นตัวเลือกสำรองของกองหน้าตราไก่นัดชิงชนะเลิศ หลังยอดดาวยิงวัย 34 เจ้าของบัลลง ดอร์ 2022 ฟิตกลับมาลงซ้อมกับทีมชุดขาวได้แล้ว

 

• ในการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2018 ฝรั่งเศส ผ่านทั้ง ออสเตรเลีย (2-1), เดนมาร์ก (0-0) และ อาร์เจนติน่า (4-3) ในทัวร์นาเมนต์ เหมือนครั้งนี้ที่ชนะ ออสเตรเลีย 4-1, เดนมาร์ก 2-1 และเตรียมเจอ อาร์เจนติน่า นัดชิง
• ทีมตัวจริงนัดชิงปี 2018 (4-2 โครเอเชีย) ของ ฝรั่งเศส มีทั้ง อูโก้ โยริส, ราฟาแอล วาราน, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ทั้ง 5 คนนี้ก็จะได้เล่นนัดชิงฟุตบอลโลก 2 สมัยติดต่อกัน
• ยังมี เบนชาแม็ง ปาวาร์ ลงตัวจริง 2018 แต่เป็นสำรองของทีมชุดนี้ ส่วนทาง สตีฟ ม็องด็องด้า, อัลฟงส์ อเรโอล่า และ อุสมัน เดมเบเล่ เป็นสำรองไม่ได้ใช้ของนัดชิงเมื่อ 4 ปีก่อน
• ฝรั่งเศส เป็นชาติแรกถัดจาก บราซิล 1998 ที่มีโอกาสป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ
• อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส ก็ต้องเอาชนะ อาร์เจนติน่า ให้ได้เท่านั้นในวันอาทิตย์นี้ เพื่อยืนยันการเป็นทีมแรกถัดจาก บราซิล 1962 ยุค เปเล่ ที่ป้องกันแชมป์โลกได้จริง

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

เรื่องน่าอ่าน
ฝรั่งเศส vs โมร็อกโก : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022
ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022
คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?!?
เต็ง ‘แชมป์โลก’ และความน่าจะเป็น

ตราไก่ ฝรั่งเศส จะเข้าชิง 2 ปีซ้อนหรือไม่ โมร็อกโก รอให้คำตอบในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022

ตราไก่ ฝรั่งเศส จะเข้าชิง 2 ปีซ้อนหรือไม่ โมร็อกโก รอให้คำตอบในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศส – โมร็อกโก

วันที่ 15 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง ONE31/ True Sports 2

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

ทีมแชมป์โลก ฝรั่งเศส ทีมวางในกลุ่ม ดี (ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

สถานการณ์ของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

เรียกว่าเป็นศึกสายเลือดก็ว่าได้ เมื่อฝรั่งเศสแชมป์เก่าจะต้องตัดกับโมร็อกโกอดีตชาติอาณานิคม ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ที่กว่าจะมาถึงรอบนี้ได้ ทีมของดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความขัดแย้งของผู้เล่น, ปัญหาการบาดเจ็บ รวมถึงอาถรรพ์แชมป์โลก ที่ในหลายครั้งหลังมักจะจอดแค่รอบแรก ขณะที่โมร็อกโกของโค้ช วาลิด เรกรากุย ก็กลายเป็นทีมขวัญใจมหาชนไปเรียบร้อย หลังคว้าชัยชนะแบบพลิกล็อกมาอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นทีมมหัศจรรย์ ม้ามืดตัวจริงของฟุตบอลโลกในครั้งนี้

สิงโตจากเทือกเขาแอตลาส คว่ำสเปนด้วยการดวลจุดโทษในรอบ 16 ทีม ก่อนชนะโปรตุเกสได้ 1-0 แม้จะขาดนักเตะคนสำคัญ อย่าง นาเยฟ อะเกิร์ดและนูสแซร์ มาซราอุย แต่นักเตะที่ลงเล่นแทนก็รับมือผู้เล่นฝอยทองที่เพิ่งขย่มสวิตเซอร์แลนด์มาได้ 6-1 ได้เป็นอย่างดี ส่วนทีมตราไก่ เอาชนะอังกฤษหวุดหวิด 2-1 ซึ่งต้องขอบคุณการพลาดจุดโทษในเกมของแฮร์รี่ เคนที่ทำให้เกมไม่ต้องยืดเยื้อ และความหวังในการป้องกันแชมป์ยังคงอยู่

และไม่ว่าเกมนัดนี้จะจบลงอย่างไร โมร็อกโกก้กลายเป็นตำนานของทวีปและตำนานของฟุตบอลโลกไปแล้ว เมื่อเป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ แล้วกับการผ่านทีมอย่าง เบลเยี่ยม, สเปน และโปรตุเกสมาได้ พวกเขาก็ดีพอจะเป็นหนึ่งในสองทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่สำคัญพวกเขามาถึงรอบรองชนะเลิศโดยคู่แข่งยังยิงประตูพวกเขาไม่ได้เลย –

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

เช็กสถิติของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

สถิติในรอบรองชนะเลิศ 3 หนแรกของฝรั่งเศสไม่ได้สวยหรูนัก เมื่อแพ้ทุกครั้ง แต่กับ 3 หนหลัง ในปี 1998, 2006 และ 2018 พวกเขาชนะทุกครั้ง และถ้าพวกเขาไปถึงรอบชิงและคว้าแชมป์สำเร็จ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 84 ปีที่ทีมจากยุโรปป้องกันแชมป์ได้ นับตั้งแต่อิตาลีทำเอาไว้ในฟุตบอลโลก 1934 และ 1938

แม้จะผ่านมาถึงรอบสี่ทีมได้สำเร็จ แต่ฝรั่งเศสก็มีสถิติที่ไม่สวยงามอยู่อย่างหนึ่งคือ พวกเขาเสียประตูทุกนัด ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะตรงกันข้ามกับคู่แข่ง เมื่อโมร็อกโกเสียประตูไปแค่ 1 ลูก แถมเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของอะเกิร์ด ในเกมกับแคนาดา โดยเก็บคลีนชีตได้ถึง 4 เกม และในอดีตที่ผ่านมา สองทีมสุดท้ายที่เก็บคลีนชีตถึง 5 นัดในฟุตบอลโลกครั้งเดียว มี 2 ทีมคือ อิตาลี ในปี 2006 และสเปน ในปี 2010 ซึ่งทั้งคู่กลายเป็นแชมป์โลก แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เป็นทีมที่ใช้โอกาสได้อย่างฟุ่มเฟือย จากการยิงทั้งหมด 45 ครั้งในฟุตบอลโลกหนนี้ พวกเขายิงเข้ากรอบแค่ 9 ครั้ง และการเจอกับฝรั่งเศส พวกเขาต้องใช้โอกาสที่มีได้อย่างคุ้มค่า

ในอดีตทั้งสองทีมเจอกันมาทั้งหมด 5 ครั้ง ฝรั่งเศสชนะ 3 แพ้ 1 และเสมอกันไปอีก 1 ครั้ง

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะตราไก่ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ไปแล้ว นับตั้งแต่แจ้งเกิดแบบปัง ๆ ที่รัสเซีย และในฟุตบอลโลก 2022 เขาคือกองหน้าตัวหลักของเดส์ชองส์แน่ ๆ (ภาพ: Franck Fife/AFP/Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

ในเกมกับอังกฤษ ทีมตราไก่ใข้ผู้เล่นสำรองเพียงคนเดียว ซึ่งดูแล้วในเกมนี้ พวกเขาก็น่าจะยังคงใช้ผู้เล่น 11 คนแรกชุดเดิม เมื่อไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีใครที่ถูกแบน

โดยชูลส์ คุนเด้ น่าจะยึดตำแหน่งแบ็คขวาจากเบนจามิน ปาวารด์ได้เป็นการถาวร ส่วนเธโอ แอร์น็องเดซ ก็ทดแทนการขาดหายของพี่น้องร่วมสายเลือด ลูก้าส์ ที่เอ็นไขว้หน้าฉีกขาดตั้งแต่นัดเปิดสนามกับออสเตรเลียได้เรียบร้อย ขณะที่เจ้าของสถิติทำประตูให้ทีมชาติฝรั่งเศสมากที่สุด โอลิวิเยร์ ชีรูด์ มีสิทธิกลายเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ถึง 5 ประตูในฟุตบอลโลกหนเดียว หากทำประตูได้ในนัดนี้ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่เงียบ ๆ ไปในเกมกับอังกฤษ จะยังเป็น 11 คนแรก โดยทีมตราไก่ชนะทุกเกมที่เอ็มบัปเป้ลงเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 10 นัด

ขณะที่โมร็อกโกไม่ต่างไปจากสิงโตบาดเจ็บ มาซราอุยและอะเกิร์ด พลาดเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ แถมในเกมชนะทีมฝอยทอง กัปตันทีม โรเมน ซาอิสส์ เล่นได้แค่ 50 นาทีก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา แต่เขาออกมายืนยันแล้วว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อลงเล่นเกมนี้ให้ได้ โดยมาซราอุย ฟูลล์แบ็คจากบาเยิร์น มิวนิค ที่ทั้งบาดเจ็บสะโพกและมีอาการป่วย น่าจะฟื้นตัวเล่นเกมนี้ได้ ส่วนอะเกิร์ดเซนเตอร์แบ็คจากเวสต์แฮม ที่มีอาการเจ็บขาหนีบ มีรายงานว่า ต้องการลงเล่นในเกมกับโปรตุเกส แต่ฟิตไม่พอ โดยเรกรากุยหวังว่าการได้พักถึง 4 วันอาการของเขาอาจจะดีขึ้น จนพร้อมลงสนาม อย่างไรก็ตามโค้ชของโมร็อกโกก็พอจะเบาใจได้บ้าง เมื่อนักเตะที่ลงเล่นแทน อย่าง ยาห์ย่า อัตติยัต อัลลาห์ และจาวัด เอล ยามิกว์ โชว์ฟอร์มได้ดี และเป็นไปได้ว่า หนึ่งในสองคนนี้จะได้เป็นตัวจริง

ฮาคิม ชีเย็คที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับโปรตุเกส ก็น่าจะพร้อมลงเล่นในนัดนี้ แต่วาลิด เช็ดดิร่า กองหน้าสำรองที่ใช้โอกาสเปลืองเหลือเกิน จะพลาดเกมนัดนี้เพราะได้รับสองเหลืองจากเกมที่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเขาไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริงอยู่แล้ว

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ นักเตะตราไก่รายนี้ผ่านทีมชุดเยาวชนตราไก่มาทุกชุด กับการที่ป็อกบาและก็องเต้บาดเจ็บจนติดทีมมาไม่ได้ เขาคือกองกลางคนสำคัญในทีมของเดส์ชองส์ (ภาพ: Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

ฝรั่งเศส ระบบ 4-2-3-1: โญริส; คุนเด้, วาราน, อูปาเมกาโน่, เธโอ แอร์น็องเดซ; ชูอาเมนี่, ราบิโอต์; เด็มเบเล่, กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้; ชีรูด์
โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: โบโน่; ฮาคิมี่, เอล ยามิกว์, เบนูน, อัตติยัต อัลลาห์; อูนาฮี, อัมราบัต, อมับลาห์; ซีเย็ค, เอ็น-เนซี่รี, บูฟอล

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่างฝรั่งเศสและโมร็อกโก

เรกรากุยพูดถึง ทีมของตัวเองว่า เปรียบเสมือน ร็อคกี้ บัลเบา ในหนัง Rocky และทำให้การเจอกันของโมร็อกโกกับฝรั่งเศสแชมป์เก่า ไม่ต่างไปจากการเจอกันของร็อคกี้กับอะพอลโล ครีดในหนัง ซึ่งเรกรากุยอาจจะลืมไปว่า ท้ายที่สุดของหนังภาคแรก ร็อคกี้ชนะใจผู้ชม แต่เขาแย่งแชมป์จากครีดไม่สำเร็จ

แม้จะไม่ใช่ทีมที่ถูกจับตามองตั้งแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ หากโมร็อกโกก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในสองทีมที่ลงเล่นในวันสุดท้าย จากการเล่นที่มีวินัย เกมรับที่เหนียวแน่น และทำได้ดีในเกมโต้กลับ

ส่วนฝรั่งเศสถึงจะมากาตาร์ในฐานะแชมป์เก่า แต่พวกเขาก็ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เช่นที่เป็นเมื่อ 4 ปีก่อน เพราะฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป และปัญหาผู้เล่นตัวหลักได้รับบาดเจ็บ แต่ในที่สุด ด้วยความเขี้ยวของประสบการณ์ ทำให้พวกเขาผ่านมาถึงตรงนี้ได้ โดยเฉพาะในเกมชนะอังกฤษ ที่ฝ่ายตรงข้ามเล่นได้น่าประทับใจมากกว่า แต่ดุดันไม่มากพอ ซึ่งน่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้พวกเขาเอาชนะทีมจากแอฟริกาได้ โดยเฉพาะเมื่อสิงโตอีกตัวจากเทือกเขาแอตลาส อาจจะขาดผู้เล่นคนสำคัญ หรือลงเล่นโดยไม่สมบูรณ์มากพอ ในเกมโคตรสำคัญของตัวเองเกมนี้

และท้ายที่สุดฝรั่งเศสจะเอาชนะโมร็อกโกไปได้ 1-0

เรื่องน่าอ่าน
พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน