เรื่อง

สิงโตคำรามอังกฤษจะขย้ำอิหร่านจมเขี้ยว นัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ของทั้งสองทีม และในกลุ่ม บี

สิงโตคำรามอังกฤษจะขย้ำอิหร่านจมเขี้ยว นัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ของทั้งสองทีม และในกลุ่ม บี

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 วันที่สอง อังกฤษ ปะทะ อิหร่าน 

เกมในกลุ่ม บี วันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 20:00 . (ตามเวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด True4U/ True Sports 2: วันที่ 2 ของฟุตบอลโลก 2022 อังกฤษสิงโตคำราม ที่เดินทางมากาตาร์ในฐานะรองแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 จะลงนัดแรกซึ่งเป็นเกมนัดเปิดสนามของกลุ่ม บี เจอกับทีมจากเอเชีย อิหร่าน ที่สนามคาลิฟา ตามเวลา 2 ทุ่มของบ้านเรา จากชื่อชั้นแล้ว อังกฤษดูเหนือกว่าอิหร่านมาก แต่เมื่อดูฟอร์มการเล่นในช่วงหลัง ก็น่าเป็นห่วงทีมของแกเร็ธ เซาธ์เกตไม่น้อย เพราะกับการลงเล่นในนัดแรก ๆ ของฟุตบอลโลก ทีมเต็ม ตัวเก็งทั้งหลายมักกลับกลายเป็นตัวเกร็งเสมอ เพราะโดนอาถรรพ์เกมนัดแรกประจำ ชนะแบบหืดจับ หรือกลายเป็นติดเสมอเฉย แล้วบางทีก็โดนแร้งเกาะถึงขั้นแพ้ไปเลยก็มี

อังกฤษ สิงโตคำราม ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

อังกฤษคือ เต็งหนึ่งแชมป์กลุ่ม บี ที่มีโอกาสเข้ารอบลึก ๆ ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ภาพ: worldinsport.com)

 

ชาติเอเชีย - อิหร่าน

อิหร่าน ทีมแกร่งของเอเชีย ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: iranpress.com)

เส้นทางก่อนการเจอกันของ อังกฤษและอิหร่าน

การเจอกันของทั้งสองทีมเป็นการเจอกันครั้งแรก และแม้จะพกพาชื่อชั้น เครดิตที่เหนือกว่ามาเต็มกระเป๋า แต่เกมนัดนี้คือ เกมนัดแรกของอังกฤษ หลังจากเอาชนะใครไม่ได้เลย 5 นัดรวดในเกมเนชันส์ ลีก ทำให้เสียรังวัดไปพอสมควร และทีมถูกตั้งคำถามว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ผิดกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อน ๆ หน้านี้ ที่สิงโตคำรามเข้าสู่การแข่งขันแบบได้ยินเสียงคำรามมาแต่ไกล ส่วนอิหร่านเดินทางมากาตาร์แบบดูดีกว่า ด้วยสถิติชนะสอง เสมอสอง แพ้หนึ่ง โดยเป็นทีมในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกถึง 3 ทีม เซเนกัล-ที่จบด้วยการเสมอเช่นเดียวกับแคนาดา และชนะอุรุกวัยทีมแกร่งจากอเมริกาใต้ ทำให้ดูไม่ห่างชั้นจากรองแชมป์ยูโร 2022 มากนัก และเกมนัดนี้จะดูสนุกยิ่งขึ้น ถ้าอังกฤษยังไม่ฟื้นจากอาการเมาหมัด ที่น่าสนใจก็คือ สถิติการเจอทีมจากตะวันออกกลางและแอฟริกาของอังกฤษ สิงโตคำรามไม่เคยแพ้ ในฟุตบอลโลก 4 หนสุดท้าย พวกเขาเจอทั้ง อียิปต์, อัลจีเรีย, ไนจีเรีย และตูนิเซีย โดยชนะ 2 แพ้ 2 ส่วนอิหร่านที่เจอกับโปรตุเกส 2 หน, บอสเนีย เฮอร์เซโกวิน่า และสเปน ปรากฏว่าแพ้เรียบวุธ ยิงได้แค่ 2 ประตู

ความพร้อมของนักเตะอังกฤษและอิหร่าน

แฮร์รี่ เคน สิงโตคำราม ฟุตบอลโลก 2022

แฮร์รี เคน กัปตันและดาวยิงของทีมสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Images)

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ หายเจ็บ ลงซ้อม ลงสนามให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อนแล้ว น่าจะได้เป็น 11 คนแรก โดยเฉพาะถ้าเซาธ์เกตเลือกจะเล่นเซนเตอร์แบ็ค 3 คน แม็กไกวร์คือคนสำคัญในแผงหลังของโค้ชรายนี้ แม้ฟอร์มระดับสโมสรจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่กับในทีมชาตินักเตะเจ้าของฉายา “ไอ้หัวแตงโม” ทำได้ดีเสมอ ขณะที่ลุก ชอว์ นักเตะผีแดงอีกคนที่เป็นแบ็คซ้ายธรรมชาติเพียงคนเดียวที่ติดทีมมาด้วย น่าจะได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรก เช่นเดียวกับตัวหลัก อย่าง แฮร์รี เคน ที่น่าจะเพิ่มสถิติการยิงประตูให้ทีมชาติมากขึ้นไปอีก, จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าประจำของเซาธ์เกต, ดีแคลน ไรซ์ กลางรับตัวเก่ง และจอห์น สโตน ที่น่าจะยังไม่พร้อมลงสนามก็คงเป็น ไคล์ วอลเกอร์ และคัลวิน ฟิลลิปส์ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บรบกวน ที่กว่าจะลงเล่นได้คงต้องให้สิงโตคำรามผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ด้วยนักเตะที่มีอยู่พร้อมลงเล่น เซาธ์เกตที่มีนักเตะคนโปรดอยู่ในใจอยู่แล้ว ยังสามารถจัดทีมได้อย่างหลากหลาย

ซาร์ดาร์ อัซมูน อิหร่าน ฟุตบอลโลก 2022

ซาร์ดาร์ อัซมูน นักเตะอิหร่านที่ทำประตูได้มากที่สุดในฟุตบอลยูเอฟ่า แชมเปี้ยนลีก (ภาพ: www.the-afc.com)

ในฝั่งของอิหร่าน ซาร์ดาร์ อัซมูนดาวเตะตัวเก่งของทีมที่ทำประตูในรอบคัดเลือกไป 10 ประตูจาก 14 แม็ตช์ น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแม้จะไม่ได้ลงเล่นให้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เนื่องจากเจ็บน่อง หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เมห์ดี ทาเร็มหัวใจในแดนกลางก็เป็นอีกคนที่น่าจะได้สตาร์ต 11 คนแรก แต่กุญแจสำคัญในนัดนี้ของอิหร่านอยู่ที่บรรดาแนวรับ ที่มีซาเด็กห์ โมฮาร์รามี เป็นแกนหลัก

รายชื่อผู้เล่นที่น่าจะลงสนาม 11 คนแรกของอังกฤษและอิหร่าน

อังกฤษ ระบบ 3-4-2-1: พิคฟอร์ด; ดายเออร์, แม็กไกวร์, สโตนส์; ทริปเปียร์, เบลลิงแฮม, ไรซ์, ชอว์; โฟเด้น, สเตอร์ลิง; เคน
อิหร่าน ระบบ 4-3-3: บีแรนแวนด์; โมฮาร์รามี่, คานานี่, ฮอสไซนี, ฮัจซาฟี; เอซาโตอาฮี, นูโรลลาฮี, กอลิซาเดห์; จาฮานบัคช์, ทาเรมี่, อัซมูน

ผลการแข่งขันระหว่างอังกฤษและอิหร่าน

ถึงฟอร์มห้านัดหลังจะไม่สวย แต่ด้วยผู้เล่นที่ชื่อชั้นเหนือกว่า และแท็กติกของเซาธ์เกตที่เน้นรัดกุมไว้ก่อน ต่อให้ขาดผู้เล่นสำคัญบางราย แต่อังกฤษก็มีดีเกินกว่าอิหร่านจะแย่งแต้มไปได้ และน่าจะชนะได้ในแบบไม่เสียประตู และยิงได้ 2 ลูกขึ้น 

เรื่องน่าอ่าน:
1. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม บี สิงโต อินทรี มังกร และทีมแกร่งตะวันออกกลาง ใครจะอยู่ ใครจะไป
2. รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022
3. ห้าดาวเตะอิหร่าน ความหวังของชาติในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้ามังกรแดง ที่จะแผลงฤทธิ์พาเวลส์ร้อนแรงในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าพญาอินทรี ที่จะพาสหรัฐอเมริกาบินสูงในฟุตบอลโลก 2022
6. เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 

อังกฤษ vs อิหร่าน : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

อังกฤษ vs อิหร่าน : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
จันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อังกฤษ
แชมป์กลุ่มไอ รอบคัดเลือกโซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 8 เสมอ 2 ยิง 39 เสีย 3

อิหร่าน
แชมป์กลุ่มเอ รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิง 15 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อังกฤษ
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เยอรมนี 1-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ อิตาลี 0-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮังการี 0-4
เนชั่นส์ ลีก แพ้ อิตาลี 0-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เยอรมนี 3-3

อิหร่าน
คัดบอลโลก ชนะ เลบานอน 2-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แอลจีเรีย 1-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุรุกวัย 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เซเนกัล 1-1
อุ่นเครื่อง ชนะ นิคารากัว 1-0

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อนเลย แม้กระทั่งนัดอุ่นเครื่อง

 

สภาพทีม
อังกฤษ
เดินทางถึงกาตาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยไม่ได้วางคิวลับแข้งเพิ่มเติมอะไรไว้ก่อนฟุตบอลโลกมาถึง จึงหมายถึงว่าฟอร์มล่าสุดของพวกเขา คือผลงานแย่ๆ ใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่ไม่ชนะใครเลยใน 6 เกม (เสมอ 3 แพ้ 3) จนตกชั้นสู่ลีกบี

 

ในส่วนของความพร้อม แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังไม่เสียใครไปจากปัญหาบาดเจ็บเพิ่มเติม นอกเหนือจาก รีซ เจมส์ กับ เบน ชิลเวลล์ ที่ถอนตัวไปตั้งแต่ยังไม่ตัดตัว 26 คนสุดท้าย ขณะที่ แทมมี่ อบราแฮม, ไอแวน โทนี่ย์ หรือ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ไม่ถูกเลือกมากาตาร์

 

สิ่งที่ต้องกังวลคือความฟิตของ แฮร์รี่ เคน ยอดดาวยิงกัปตันทีม ว่าจะ 100% หรือไม่ แต่ก็คาดว่าจะพร้อมเมื่อถึงเวลา ส่วนทาง ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็มีปัญหาติดพันอยู่เช่นกัน ทว่าแนวหลังก็มีตัวเลือกเยอะอยู่แล้ว หากไม่พร้อมจะเป็น เอริก ไดเออร์ เล่นแทน

 

ยังเชื่อว่า เซาธ์เกต จะวางระบบ 3-4-3 ให้กับทัพสิงโตคำราม เหมือนที่ใช้มาตลอดช่วงหลัง แม้จะโดนตำหนิว่านักเตะในทีมไม่ค่อยคุ้นเคยก็ตาม โดยหลังบ้าน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังคงเป็นตัวยืน เช่นเดียวกับข้างหน้าที่มี แฮร์รี่ เคน เข้าทำ ขนาบข้างด้วย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ ฟิล โฟเด้น

 

อิหร่าน
ทรงดีเลยทีเดียวสำหรับ อิหร่าน ในการทำทีมของ คาร์ลอส เคยรอซ อดีตนายใหญ่เรอัล มาดริด ที่กลับมาคุมทีมรอบสอง และช่วงหลังเตะ 5 นัดแพ้แค่เกมเดียว

 

เคยรอซ สามารถใช้งานชุดที่ดีที่สุดของตัวเองได้ โดยที่กว่าครึ่งทีมเป็นตัวที่ค้าแข้งในยุโรป เช่น ซาร์ดาร์ อัซมูน (เลเวอร์คูเซ่น), เมห์ดี้ ทาเรมี่ (ปอร์โต้), ซามาส ก๊อดดอส (เบรนท์ฟอร์ด), อาลีเรซ่า จาฮานบัคช์ (เฟเยนูร์ด)

 

คาดว่า อิหร่าน จะลงสนามด้วยระบบ 4-3-3 ข้างหน้าวางอาวุธหนักเข้าทำทั้ง เมห์ดี้ ทาเรมี่, คาริม อันซาริฟาด และ ซาร์ดาร์ อัซมูน ที่ยิงรวมกันในการรับใช้ชาติถึง 98 ประตู (ทาเรมี่ 28, อันซาริฟาด 29, อัซมูน 41)

 

ทั้งนี้ อัซมูน มีปัญหาบาดเจ็บเล็กๆ เมื่อเดือน ต.ค. แต่จะไม่มีปัญหาในการฟื้นฟิตทันลงชน อังกฤษ

 

ตัวความหวัง
อังกฤษ : แฮร์รี่ เคน
ฟอร์มแผ่วไปก็จริงในช่วง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ครั้งล่าสุด แต่สิ่งที่ควรยึดโยงมากกว่าคือฟอร์มที่ร่ายให้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซีซั่นนี้ ซึ่งออกมาไม่เลวเลยคือ 13 ประตูจาก 22 นัด ที่สำคัญ เคน ยังพิสูจน์ตัวเองในฟุตบอลโลกมาแล้วด้วยการกด 6 ลูก คว้าดาวซัลโวรัสเซีย 2018 รวมถึงสถิติ 51 ลูกใน 75 เกมทีมชาติ ก็เป็นอีกสิ่งที่ยืนยันได้ว่า เขาคือกองหน้าระดับท็อปของจริง

อิหร่าน : ซาร์ดาร์ อัซมูน
พูดได้ว่า อัซมูน คือนักเตะที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันของ อิหร่าน ภายหลังปักหลักโชว์ฟอร์มในลีกรัสเซียมาอย่างยาวนาน ก็ได้ย้ายสู่ลีกชั้นนำอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมนี ไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงตลาดหน้าหนาวซีซั่นที่แล้ว เพียงแต่กองหน้าวัย 27 ก็ยังอยู่ในระยะปรับตัว ยังลงหลักปักฐานได้ไม่ดีนัก ซีซั่นก่อนมียิง 1 ลูก ซีซั่นนี้ยังยิงไม่ได้ กระนั้น สถิติพังตาข่าย 41 ประตูในนามทีมชาติ ก็คือจุดที่บอกว่า ใครก็ไม่อาจปรามาสฝีเท้าของเขาได้

 

11 ตัวจริงที่คาด
อังกฤษ (3-4-3, กุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต) จอร์แดน พิคฟอร์ด – จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ไคล์ วอล์คเกอร์ – ลุค ชอว์, ดีแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม, คีแรน ทริปเปียร์ – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร์รี่ เคน (C), ฟิล โฟเด้น
อิหร่าน (4-3-3, กุนซือ คาร์ลอส เคยรอซ) อามีร์ อาเบดซาเด – ซาเด็กห์ โมฮาร์รามี่, ฮอสไซ คานานีซาเดกาน, มาจี๊ด ฮอสไซนี่, เอห์ซาน ฮัจซาฟี (C) – อาลีเรซ่า จาฮานบัคช์, ซาอิด เอซาโตลาอี, ซามาน ก๊อดดอส – เมห์ดี้ ทาเรมี่, คาริม อันซาริฟาด, ซาร์ดาร์ อัซมูน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• บอลโลกครั้งก่อน อิหร่าน เจอกับทีมยุโรป 2 เกม แพ้ สเปน 0-1 และเสมอ โปรตุเกส 1-1
• อิหร่าน ยังไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบแรก จากการเข้ารอบสุดท้ายมา 5 ครั้งก่อนหน้านี้ (1978, 1998, 2006, 2014, 2018)
• อังกฤษ ไม่ได้เตะกับทีมจากเอเชียมาเลยนับสิบปีแล้ว จากหนล่าสุดที่ลับแข้งกับ ญี่ปุ่น (ชนะ 2-1) เมื่อปี 2010 โดยไม่นับเกมพบ ออสเตรเลีย (2-1) ในปี 2016
• จากการที่ไม่ชนะใครเลยใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ทำให้ชัยชนะหนสุดท้ายของ อังกฤษ ต้องย้อนไปถึงเดือน มี.ค. ที่อุ่นเครื่องชนะ ไอวอรี่โคสต์ 3-0

 

ความน่าจะเป็น
ความที่ช่วงหลัง อังกฤษ ฟอร์มค่อนข้างหนืดเนือย และบรรดานักเตะก็กรำศึกหนักในพรีเมียร์ลีกและรายการต่างๆ มาตลอดครึ่งซีซั่นแรก ทำให้อะไรๆ อาจไม่ได้ไหลลื่นปรู๊ดปร๊าดดังที่ตั้งใจไว้ เพียงแต่อย่างไรเสีย ระดับชั้นของ อังกฤษ ก็ยังเหนือกว่า อิหร่าน อยู่มาก อย่างน้อยเม็ดแรกต้องมี แล้วลุ้นต่อเม็ดสองในช่วงเวลาที่เหลือของเกม

 

ผลที่คาด : อังกฤษ ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
อังกฤษ
25 พ.ย. พบ สหรัฐอเมริกา
29 พ.ย. พบ เวลส์

อิหร่าน
25 พ.ย. พบ เวลส์
29 พ.ย. พบ สหรัฐอเมริกา

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

กังหัน, สิงโต, ฟ้าขาว, ตราไก่, กระทิง, อินทรีเหล็ก, ปีศาจแดง, ฝอยทอง ใครกัน จะเข้าใกล้ความสำเร็จแห่งฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด…เมื่อพิจารณาจากขุมกำลังนักเตะที่เผยออกมา

 

นับถอยหลังแค่ไม่กี่คืน ทัวร์นาเมนต์ที่โลกรอคอยอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ก็จะมาถึง และเกือบทุกทีมก็เผยชื่อนักเตะ 26 คนสุดท้ายที่จะไปแอ่วกาตาร์ ออกมาแล้ว

 

ด้านล่างนี้คือ 26 รายชื่อชุดสุดท้ายของบรรดาชาติยักษ์ใหญ่ มีเอี่ยวลุ้นแชมป์โลก ที่ทยอยประกาศออกมาก่อนที่ เวิลด์ คัพ จะเริ่มโรมรันประชันแข้งกันราว 1 สัปดาห์

 

ใครเป็นใคร ใครไปบอลโลก ใครหลุดโผ ใครจัดให้ครบถ้วนกว่านี้ มาบอก!

 

 

กังหันลม เนเธอร์แลนด์ กับความหวังถึง ‘ครั้งแรก’
แม้จะผลิตยอดดาวเตะขึ้นสู่วงการได้แบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลกได้มาก่อน โดยต้องเจ็บปวดกับการเป็น “พระรอง” ถึง 3 ครั้ง คือฟุตบอลโลก 1974, 1978 และ 2010 ที่ถึงชิงชนะเลิศแล้วแต่กลับแพ้ทั้งสามครั้ง

 

ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นตรงที่ฟุตบอลโลกครั้งก่อน รัสเซีย 2018 เนเธอร์แลนด์ ตกต่ำสุดถึงขั้นตกรอบคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้น มาคราวนี้ในการทำทีมของคนคุ้นเคยอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาจึงพกความมุ่งมั่นมาอย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก ร่วมกับเจ้าภาพ กาตาร์, เอกวาดอร์ และ เซเนกัล แม้อาจเป็นบอลต่างสไตล์ไม่ค่อยได้เจอนัก แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ จากนั้นในรอบน็อกเอาต์ก็ต้องมาตามลุ้นกันว่าจะได้คู่แข่งเป็นใครในแต่ละรอบ ดูกันแต่ละแมตช์ แล้วถึงเวลาจะเห็นเองว่า “แชมป์โลกสมัยแรก” มีความเป็นไปได้มากขนาดไหน

 

สำหรับขุมกำลังที่ ฟาน กัล หิ้วไปกาตาร์ ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดิมๆ ที่ใช้มาตลอดปีหลังๆ แต่ก็น่าเสียดายแทนตัวที่หลุดออกไป ทั้ง สเวน บ็อตมัน, ฮานส์ ฮาเตบัวร์, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (ส่วน จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ปกติต้องได้ไป แต่ดันเจ็บหนักพักยาวเสียก่อน) ซึ่งมองว่า ถ้าบางคนได้ไป น่าจะมีประโยชน์กับทัพกังหันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ บ็อตมัน เซนเตอร์แบ็กวัย 22 ที่เล่นดีมากกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้

 

โผ 26 แข้งเนเธอร์แลนด์ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยุสติน ไบจ์โลว์ / อายุ 24 / เฟเยนูร์ด / เล่นทีมชาติ 6 นัด
เรมโก้ พาสเฟียร์ / 39 / อาแจ็กซ์ / 2
อันเดรียส น็อพเพิร์ต / 28 / ฮีเรนวีน / 0

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ / 32 / อาแจ็กซ์ / 94 – 2
สเตฟาน เดอ ฟราย / 30 / อินเตอร์ / 59 – 3
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม) / 31 / ลิเวอร์พูล / 49 – 6
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ / 23 / บาเยิร์น / 38 – 2
เดนเซล ดุมฟรีส์ / 26 / อินเตอร์ / 37 – 5
นาธาน อาเก้ / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 29 – 3
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ / 21 / อาแจ็กซ์ / 10 – 0
ไทเรลล์ มาลาเซีย / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 0
เยเรมี่ ฟริมปง / 21 / เลเวอร์คูเซ่น / 0 – 0

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง / 25 / บาร์เซโลน่า / 45 – 1
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ / 30 / อาแจ็กซ์ / 39 – 2
ดาวี่ คลาสเซ่น / 29 / อาแจ็กซ์ / 35 – 9
มาร์เท่น เดอ รอน / 31 / อตาลันต้า / 30 – 0
เทน โคปไมเนอร์ส / 24 / อตาลันต้า / 10 – 1
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ / 20 / อาแจ็กซ์ / 2 – 0
ชาบี ซิมอนส์ / 19 / พีเอสวี / 0-0

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย / 28 / บาร์เซโลน่า / 81 – 42
ลุค เดอ ยอง / 32 / พีเอสวี / 38 – 8
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ / 25 / อาแจ็กซ์ / 24 – 7
วินเซนต์ ยานส์เซ่น / 28 / อันท์เวิร์ป / 20 – 7
วู้ท เวกอร์ทส์ / 30 / เบซิคตัส / 15 – 3
โคดี้ กัคโป / 23 / พีเอสวี / 9 – 3
โนอา ลัง / 23 / คลับ บรูช / 5 – 1

หลุดโผ
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (เอ็นอีซี), ทิม ครูล (นอริช), สเวน บ็อตมัน (นิวคาสเซิ่ล), ปาสกาล สเตราค์ (ลีดส์), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮานส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), ยอร์ดี้ คลาซี่ (อาแซด), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), ไรอัน กราเฟนเบิร์ค (บาเยิร์น), จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ดอนเยลล์ มาเลน (ดอร์ทมุนด์), อาร์โนต์ ดันยูม่า (บียาร์เรอัล), ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (อาแจ็กซ์)

 

 

 

สิงโตคำราม อังกฤษ กับฟุตบอลโลก 2022 และคำปรามาส
ท่ามกลางคำปรามาสที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเผชิญ อันที่จริง อดีตนายใหญ่มิดเดิ้ลโบรช์ ก็พา อังกฤษ เข้ารอบลึกมาแล้ว 2 รายการติดต่อกัน ทั้งฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกตัดเชือก (และเป็นอันดับ 4) ต่อด้วยยูโร 2020 ที่ถึงชิงมาแล้ว ก่อนแพ้อย่างหวุดหวิดมากๆ เพียงการดวลจุดโทษต่อ อิตาลี เท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลค่อนข้างเป็นกังวล คือฟอร์มช่วงหลังที่สิงโตออกทรงฟุบอย่างชัดเจน เอาชนะใครไม่เป็นเลยใน 6 เกมของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จนตกชั้น และน่าหวั่นเกรงว่าจะเร่งเครื่องฮึดขึ้นทันไหมเมื่อฟุตบอลโลก 2022 มาถึง

 

และกับขุมกำลัง 26 สิงโตคำราม ที่ เซาธ์เกต เลือกไป ก็ก่อให้เกิดคำถามในหลายจุดเหมือนกัน ตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด ทั้งการที่ยังคงเชื่อใจในจอมรั่วอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ถึงขั้นที่น่าจะยังคงยัดลงตัวจริงไม่เปลี่ยน, แดนกลางที่หิ้ว แคลวิน ฟิลลิปส์ ผู้ซึ่งเจ็บออดๆ แอดๆ มาทั้งซีซั่น ติดไปด้วย หรือข้างหน้าที่ไม่แคล้วคงต้องพึ่งพา แฮร์รี่ เคน เป็นสำคัญ

 

คำถามทั้งหมด จะปรากฏคำตอบในเกมกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์ และรอบถัดๆ ไป หากไม่เกิดข้อผิดพลาดหนักหนาจนร่วงรอบแรกแบบช็อกโลกไปเสียก่อน

 

โผ 26 แข้งอังกฤษ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. จอร์แดน พิคฟอร์ด / 28 / เอฟเวอร์ตัน / 45
13. นิค โป๊ป / 10 / นิวคาสเซิ่ล / 10
23. อารอน แรมส์เดล / 24 / อาร์เซน่อล / 3

กองหลัง
2. ไคล์ วอล์คเกอร์ / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 70 – 0
3. ลุค ชอว์ / 27 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 23 – 3
5. จอห์น สโตนส์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 59 – 3
6. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 7
12. คีแรน ทริปเปียร์ / 32 / นิวคาสเซิ่ล / 37 – 1
15. เอริก ไดเออร์ / 28 / สเปอร์ส / 47 – 3
16. โคเนอร์ คอดี้ / 29 / เอฟเวอร์ตัน / 10 – 1
18. เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ / 24 / ลิเวอร์พูล / 17 – 1
21. เบน ไวท์ / 25 / อาร์เซน่อล / 4 – 0

กองกลาง
4. ดีแคลน ไรซ์ / 23 / เวสต์แฮม / 34 – 2
8. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน / 32 / ลิเวอร์พูล / 70 – 2
14. แคลวิน ฟิลลิปส์ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 23 – 0
19. เมสัน เมาท์ / 23 / เชลซี / 32 – 5
22. จู๊ด เบลลิงแฮม / 19 / ดอร์ทมุนด์ / 17 – 0
26. โคเนอร์ กัลลาเกอร์ / 22 / เชลซี / 4 – 0

กองหน้า
7. แจ๊ค กรีลิช / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 24 – 1
9. แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม) / 29 / สเปอร์ส / 75 – 51
10. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง / 27 / เชลซี / 79 – 19
11. มาร์คัส แรชฟอร์ด / 25 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 46 – 12
17. บูกาโย่ ซาก้า / 21 / อาร์เซน่อล / 20 – 4
20. ฟิล โฟเด้น / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 18 – 2
24. คัลลั่ม วิลสัน / 30 / นิวคาสเซิ่ล / 4 – 1
25. เจมส์ แมดดิสัน / 26 / เลสเตอร์ / 1 – 0

หลุดโผ
ดีน เฮนเดอร์สัน (ฟอเรสต์), เบน ชิลเวลล์ (เชลซี), รีซ เจมส์ (เชลซี), ฟิคาโย่ โทโมรี่ (มิลาน), เจมส์ จัสติน (เลสเตอร์), ไทโรน มิงส์ (วิลล่า), ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เซาธ์แฮมป์ตัน), แอชลี่ย์ ยัง (วิลล่า), ไรอัน แซสเซยง (สเปอร์ส), ติโน่ ลอฟราเมนโต้ (เซาธ์แฮมป์ตัน), ทาริค แลมป์ตี้ย์ (ไบรท์ตัน), เคอร์ติส โจนส์ (ลิเวอร์พูล), เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), โอลิเวอร์ สคิปป์ (สเปอร์ส), แฮร์รี่ วิงค์ส (ซามพ์โดเรีย), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ลิเวอร์พูล), แอนโธนี่ กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน), แทมมี่ อบราแฮม (โรม่า), จาร์ร็อด โบเว่น (เวสต์แฮม), ไอแวน โทนี่ย์ (เบรนท์ฟอร์ด), โอลลี่ วัตกิ้นส์ (วิลล่า), แดนนี่ เวลเบ็ค (ไบรท์ตัน), เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ชุดนี้…ถึงแชมป์โลก???
ทั้งเอไอ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, โปรแกรมซิมูเลชั่นของเกมฟีฟ่า หรือการคาดหมายของหลากหลายกูรู ต่างก็ได้บทสรุปเดียวกันคือ แชมป์โลกประจำปีนี้ ได้แก่ ทีมชาติเมสซี่-เอ๊ย-ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่

 

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อมีความคาดหวังสูงขนาดนี้ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว จะสามารถนำโทรฟี่แชมป์โลกมาเสิร์ฟได้หรือไม่ เมื่ออย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายสิบปี (จากแชมป์โลกหนสุดท้าย 1986) ว่าพวกเขามักไม่ “ขาด” ก็ “ล้นเกิน” ในบางอย่างหรือบางจุด จนไม่ประสบความสำเร็จซ้ำรอยยุค ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้อีกเลย

 

แต่กระนั้น อาร์เจนติน่า ชุดนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” กำลังอยู่ในการต่อยอดสถิติไร้พ่ายให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งขุมกำลังที่ สคาโลนี่ เลือกมา ก็ดูจะไม่ได้ขาดอะไรไปนัก มีแค่ โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์บียาร์เรอัล ที่เป็นแกนหลักแดนกลางในรอบคัดเลือก ซึ่งต้องถอนตัวไปเนื่องจากบาดเจ็บ กับเด็กใหม่มาแรงอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ถูกเรียกตัว ทว่าอันที่จริงก็ไม่เคยติดธงมาก่อนแต่อย่างใด

 

โผ 26 แข้งอาร์เจนติน่า ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ / 30 / วิลล่า / 18
ฟรังโก้ อาร์มานี่ / 36 / ริเวอร์เพลท / 18
เคโรนิโม่ รุลลี่ / 30 / บียาร์เรอัล / 4

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ / 34 / เบนฟิก้า / 92 – 4
มาร์กอส อคุนย่า / 31 / เซบีย่า / 42 – 0
นิโกลัส ตายาฟิโก้ / 30 / ลียง / 42 – 0
เคร์มัน เปซเซลล่า / 31 / เรอัล เบติส / 31 – 2
นาอูเอล โมลิน่า / 24 / แอตฯ มาดริด / 19 – 0
กอนซาโล่ มอนเทียล / 25 / เซบีย่า / 17 – 0
ฮวน ฟอยธ์ / 24 / บียาร์เรอัล / 15 – 0
คริสเตียน โรเมโร่ / 24 / สเปอร์ส / 12 – 1
ลิซานโดร มาร์ติเนซ / 24 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 9 – 0

กองกลาง
เลอันโดร ปาเรเดส / 28 / ยูเวนตุส / 45 – 4
โรดริโก้ เด ปอล / 28 / แอตฯ มาดริด / 43 – 2
กีโด้ โรดริเกซ / 28 / เรอัล เบติส / 25 – 1
เอเซเกล ปาลาซิออส / 24 / เลเวอร์คูเซ่น / 20 – 0
อเลฮานโดร โกเมซ / 34 / เซบีย่า / 15 – 3
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ / 23 / ไบรท์ตัน / 7 – 0
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ / 21 / เบนฟิก้า / 2 – 0

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม) / 35 / เปแอสเช / 164 – 90
อังเคล ดิ มาเรีย / 34 / ยูเวนตุส / 123 – 25
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ / 25 / อินเตอร์ / 40 – 21
เปาโล ดีบาล่า / 29 / โรม่า / 34 – 3
นิโกลัส กอนซาเลซ / 24 / ฟิออเรนติน่า / 21 – 3
ฮัวกิน กอร์เรอา / 28 / อินเตอร์ / 18 – 3
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 11 – 2

หลุดโผ
ฮวน มุสโซ่ (อตาลันต้า), ลูคัส มาร์ติเนซ (ฟิออเรนติน่า), มาร์กอส เซเนซี่ (บอร์นมัธ), โจวานี่ โล เซลโซ่ (บียาร์เรอัล), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (วิลล่า), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), อังเคล กอร์เรอา (แอตฯ มาดริด), โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ตราไก่ ฝรั่งเศส กับหลายคำถามซึ่งต้องพิสูจน์
น่าสนใจ…น่าสนใจมากกับก้าวเดินของ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ เมื่อมีอย่างน้อย 4-5 คำถามที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ และบรรดาแข้งตราไก่ จะต้องตอบให้ได้ เช่นว่า

 

1. อาถรรพ์แชมป์เก่า ทั้ง อิตาลี, สเปน, เยอรมนี ต่างเอาตัวไม่รอด เป็นแชมป์โลกมาแล้วก็ร่วงเพียงรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ถัดมาทั้งหมด ฝรั่งเศสล่ะ จะเข้าทรงเดียวกันหรือเปล่า

 

2. ขุมกำลัง พร้อมจริงๆ ไหม เมื่อตัวเจ็บสำคัญ อดไปบอลโลกมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และล่าสุดกับ เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ เซนเตอร์แบ็กเปแอสเช ที่ต้องถอนตัวจากการศึกครั้งนี้ไป แถม คาริม เบนเซม่า กับ ราฟาแอล วาราน ที่่ต่างก็เป็นคีย์แมนในเกมรุกและรับ ยังบาดเจ็บติดพัน ไม่ได้ช่วย เรอัล มาดริด ตลอดสี่ซ้าห้าเกมหลังอีกต่างหาก

 

3. ความเปลี่ยนแปลง ที่มีค่อนข้างเยอะจากชุดแชมป์โลก จะส่งผลดีหรือเสีย อย่างน้อยแผงกลางทั้งแผง เปลี่ยนหมด หรือจากชุดลุยยูโร 2020 ก็มีแค่ อาเดรียง ราบิโอต์ คนเดียวที่หลงเหลือมาอยู่ในทีมชุดนี้

 

4. การต้องเจอทีมของแสลงอย่าง เดนมาร์ก อีกแล้ว หลังแพ้มาทั้งเหย้าเยือนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (1-2, 0-2) รอบปีที่ผ่านมา หากยังคงซ้ำแผลเก่า แพ้ทีมโคนมเป็นครั้งที่ 3 ติดกันขึ้นมา ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งร่วงรอบแรก หรือเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ไปเจอกระดูกชิ้นโตตั้งแต่รอบ 16 ทีม

 

5. ฟอร์มช่วงหลัง น่าเป็นห่วงใช่ย่อย ชนะเกม เนชั่นส์ ลีก แค่นัดเดียวเหนือ ออสเตรีย 2-0 นอกนั้นเสมอ 2 แพ้ 3 แม้ข้อดีคือการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก อย่างน้อยน่าผ่าน ออสเตรเลีย กับ ตูนิเซีย ได้ แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าไปเจอของแข็งในรอบน็อกเอาต์แล้ว ก็เสียวว่า เอ็มบัปเป้ และชาวคณะ จะไปไม่เป็น

 

โผ 26 แข้งฝรั่งเศส ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
อูโก้ โยริส / 35 / สเปอร์ส / 139
สตีฟ ม็องด็องด้า / 37 / แรนส์ / 34
อัลฟงส์ อเรโอล่า / 29 / เวสต์แฮม / 5

กองหลัง
ราฟาแอล วาราน / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 87 – 5
เบนชาแม็ง ปาวาร์ / 26 / บาเยิร์น / 46 – 2
ลูคัส เอร์นันเดซ / 26 / บาเยิร์น / 32 – 0
อักเซล ดิซาซี่ / 24 / โมนาโก / 0 – 0
ชูลส์ กุนเด้ / 24 / บาร์เซโลน่า / 12 – 0
เตโอ เอร์นันเดซ / 25 / มิลาน / 7 – 1
วิลเลี่ยม ซาลิบา / 21 / อาร์เซน่อล / 7 – 0
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ / 24 / บาเยิร์น / 7 – 1
อิบราฮิมา โกนาเต้ / 23 / ลิเวอร์พูล / 2 – 0

กองกลาง
อาเดรียง ราบิโอต์ / 27 / ยูเวนตุส / 29 – 2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ / 22 / เรอัล มาดริด / 14 – 1
มัตเตโอ เก็นดูซี่ / 23 / มาร์กเซย / 6 – 1
จอร์แดน เวเรตูต์ / 29 / มาร์กเซย / 5 – 0
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า / 20 / เรอัล มาดริด / 4 – 1
ยุสซูฟ โฟฟาน่า / 23 / โมนาโก / 2 – 0

กองหน้า
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ / 36 / มิลาน / 114 – 49
อองตวน กรีซมันน์ / 31 / แอตฯ มาดริด / 110 – 42
คาริม เบนเซม่า / 34 / เรอัล มาดริด / 97 – 37
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ / 23 / เปแอสเช / 59 – 28
คิงสลี่ย์ โกม็อง / 26 / บาเยิร์น / 40 – 5
อุสมัน เดมเบเล่ / 25 / บาร์เซโลน่า / 28 – 4
คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู / 25 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 8 – 0
มาร์คัส ตูราม / 25 / กลัดบัค / 4 – 0

หลุดโผ
ไมค์ เมนยอง (มิลาน), เบอนัวต์ คอสติล (โอแซร์), เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ (เปแอสเช), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เรอัล มาดริด), เบนชาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้), โชนาต็อง เคลาส์ (มาร์กเซย), ลูก้าส์ ดีญ (วิลล่า), เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม), บูบาการ์ กามาร่า (วิลล่า), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี), ปอล ป๊อกบา (ยูเวนตุส), สตีเว่น เอ็นซอนซี่ (อัล-รายยาน), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (อินเตอร์ ไมอามี่), นาบิล เฟคีร์ (เบติส), โตมัส เลอมาร์ (แอตฯ มาดริด), วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น)

 

 

 

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จากแชมป์โลกสู่รอบแรก, จากรอบแรกสู่…
ภายหลังเข้ามาสานต่องานของ โยอัคคิม เลิฟ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฮันซี่ ฟลิค ก็สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพอินทรีเหล็ก ด้วยการพาทีมชนะรวดถึง 7 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหนนี้ จนเป็นทีมแรกของยุโรปที่การันตีเข้ารอบสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม กับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในรอบปีที่ผ่านมา เยอรมนี ก็ถือว่าเสียรังวัดไปพอสมควร เมื่อกลับเอาชนะคู่แข่งได้แค่เกมเดียว (5-2 อิตาลี) นอกนั้นเสมอรัวๆ 4 เกม และแพ้พลิกล็อกคาบ้านต่อ ฮังการี หนึ่งนัด เรียกว่าพวกเขามุ่งหน้าสู่กาตาร์แบบที่ระดับความมั่นใจไม่ได้สูงมาก ทั้งยังต้องเสีย 2 คีย์แมนเกมรุกอย่าง มาร์โก รอยส์ จอมทัพดอร์ทมุนด์ กับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ล้มเจ็บอดไปบอลโลกทั้งคู่ด้วย

 

จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา, เริ่มต้นตั้งแต่รอบแรกที่ต้องอยู่ในสายแข็งร่วมกับ สเปน-ญี่ปุ่น-คอสตาริกา, ว่าถัดจากการร่วงรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ครั้งก่อนแล้ว อินทรีเหล็ก 2022 จะไปได้ไกลถึงไหน

 

โผ 26 แข้งเยอรมนี ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. มานูเอล นอยเออร์ / 36 / บาเยิร์น / 113
12. เควิน ทรัปป์ / 32 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 6
22. มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น / 30 / บาร์เซโลน่า / 30

กองหลัง
2. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ / 29 / เรอัล มาดริด / 54 -2
3. ดาวิด เราม์ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 11 – 0
4. มัทธีอัส กินเทอร์ / 28 / ไฟรบวร์ก / 46 – 2
5. ติโล เคห์เรอร์ / 26 / เวสต์แฮม / 22 – 0
15. นิคลาส ซูเล่ / 27 / ดอร์ทมุนด์ / 42 – 1
16. ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ / 26 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 18 – 0
20. คริสเตียน กุนเทอร์ / 29 / ไฟรบวร์ก / 6 – 0
23. นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค / 22 / ดอร์ทมุนด์ / 5 – 0
25. อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป / 20 / เซาธ์แฮมป์ตัน / 1 – 0

กองกลาง
6. โยชัว คิมมิช / 27 / บาเยิร์น / 70 – 5
7. ไค ฮาแวร์ตซ์ / 23 / เชลซี / 30 – 10
8. เลออน โกเร็ตซ์ก้า / 27 / บาเยิร์น / 44 – 14
11. มาริโอ เกิทเซ่ / 30 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 63 – 17
14. จามาล มูเซียล่า / 19 / บาเยิร์น / 17 – 1
17. ยูเลี่ยน บรันท์ / 26 / ดอร์ทมุนด์ / 38 – 3
18. โยนาส ฮอฟมันน์ / 30 / กลัดบัค / 16 – 4
21. อิลคาย กุนโดกัน / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 62 – 16

กองหน้า
9. นิคลาส ฟุลล์ครุก / 29 / เบรเมน / 0 – 0
10. แซร์จ นาบรี้ / 27 / บาเยิร์น / 36 – 20
13. โธมัส มุลเลอร์ / 33 / บาเยิร์น / 118 – 44
19. เลรอย ซาเน่ / 26 / บาเยิร์น / 47 – 11
24. คาริม อเดเยมี่ / 20 / ดอร์ทมุนด์ / 4 – 1
26. ยุสซูฟา มูโกโก้ / 18 / ดอร์ทมุนด์ / 0 – 0

หลุดโผ
แบร์นด์ เลโน่ (ฟูแล่ม), มัตส์ ฮุมเมิลส์ (ดอร์ทมุนด์), เยโรม บัวเต็ง (ลียง), โรบิน โกเซนส์ (อินเตอร์), เบนจามิน เฮนริกส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น), โรบิน ค็อก (ลีดส์), มาร์โก รอยส์ (ดอร์ทมุนด์), ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (เบนฟิก้า), ฟลอเรียน นอยเฮาส์ (กลัดบัค), ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล (กลัดบัค), ติโม แวร์เนอร์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก)

 

 

 

กระทิงดุ สเปน ในระบบเผด็จการของ หลุยส์ เอ็นริเก้
หนึ่งคือทรัพยากรนักเตะดีๆ ของ สเปน มีเยอะมาก และอีกหนึ่งก็คือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มีแนวทางและการตัดสินใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมาก ไม่สนกระแสสังคมใดๆ ทั้งสิ้น เราจึงได้เห็นแข้งสแปนิชตกขบวนอดไปฟุตบอลโลก 2022 อื้อซ่าตามรายชื่อด้านล่าง ชนิดไปรวมตัวเป็นอีกทีมได้ง่ายๆ

 

แต่ก็แน่นอนว่า การเลือกตัวแบบไม่ฟังเสียงใครของ เอ็นริเก้ ย่อมจะนำมาซึ่งความเสี่ยง ถ้าผลงานที่กาตาร์ไปได้สวย ก็รับเสียงปรบมือไป แต่ถ้าล้มเหลวขึ้นมา ไม่ต้องสงสัย… เละ

 

น่าสนใจมากเสียด้วยกับการที่ต้องอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย เจองานหนักทุกนัดในรอบแรก ไล่ตั้งแต่กับ คอสตาริกา ไปต่อกับ เยอรมนี ปิดท้ายด้วยเกมกับ ญี่ปุ่น

 

กระทิงดุในระบบเผด็จการของ เอ็นริเก้ จะออกหัวออกก้อย เดี๋ยวรู้กัน — เริ่มตั้งแต่รอบแรกนี่เลย!

 

โผ 26 แข้งสเปน ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
อูไน ซิมอน / 25 / บิลเบา / 27
โรเบิร์ต ซานเชซ / 25 / ไบรท์ตัน / 1
ดาบิด ราย่า / 27 / เบรนท์ฟอร์ด / 1

กองหลัง
จอร์ดี้ อัลบา / 33 / บาร์เซโลน่า / 86 – 9
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า / 33 / เชลซี / 41 – 1
ดานี่ การ์บาฆัล / 30 / เรอัล มาดริด / 30 – 0
เปา ตอร์เรส / 25 / บียาร์เรอัล / 21 – 1
โฆเซ่ กาย่า / 27 / บาเลนเซีย / 18 – 3
เอริก การ์เซีย / 21 / บาร์เซโลน่า / 18 – 0
อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 15 – 1
อูโก้ กียามอน / 22 / บาเลนเซีย / 3 – 1

กองกลาง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ / 34 / บาร์เซโลน่า / 139 – 2
โกเก้ / 30 / แอตฯ มาดริด / 67 – 0
โรดรี้ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 34 – 1
มาร์กอส ยอเรนเต้ / 27 / แอตฯ มาดริด / 17 – 0
เปดรี้ / 19 / บาร์เซโลน่า / 14 – 0
กาบี / 18 / บาร์เซโลน่า / 12 – 1
คาร์ลอส โซเลร์ / 25 / เปแอสเช / 11 – 3

กองหน้า
อัลบาโร่ โมราต้า / 30 / แอตฯ มาดริด / 57 – 27
เฟร์ราน ตอร์เรส / 22 / บาร์เซโลน่า / 30 – 13
มาร์โก อเซนซิโอ / 26 / เรอัล มาดริด / 29 – 1
ปาโบล ซาราเบีย / 30 / เปแอสเช / 24 – 9
ดานี่ โอลโม่ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 24 – 4
เยเรมี่ ปิโน่ / 20 / บียาร์เรอัล / 6 – 1
อันซู ฟาติ / 20 / บาร์เซโลน่า / 4 – 1
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ / 20 / บิลเบา / 2 – 0

หลุดโผ
ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (ลีดส์), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), อเลฆานโดร บัลเด้ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), เซร์จี้ โรเบร์โต้ (บาร์เซโลน่า), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), มิเกล เมริโน่ (โซเซียดัด), เซร์คิโอ กานาเลส (เบติส), แบรส เมนเดซ (โซเซียดัด), ปาโบล ฟอร์นัลส์ (เวสต์แฮม), บราฮิม ดิอาซ (มิลาน), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด), ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า), เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล), ราอูล เด โตมัส (ราโย บาเยกาโน่)

 

 

 

ปีศาจแดง เบลเยียม กับยุคทองหนสุดท้าย
อย่างที่ได้เอ่ยถึงไปแล้วใน คำให้การของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ว่า เบลเยียม ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ด้วยเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ กับการเป็น เวิลด์ คัพ หนสุดท้ายของยุคทอง เบลเจี้ยน โกลเด้น เจเนอเรชั่น เนื่องจากอีก 4 ปีข้างหน้า ยังไม่รู้ว่าพวก เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ติโบต์ กูร์กตัวส์, โรเมลู ลูกากู จะยังพร้อมรับใช้ชาติอยู่หรือไม่

 

รอบแรก ไม่น่าใช่ปัญหา แข็งหน่อยมี โครเอเชีย แต่ก็ยังแข็งไม่เท่าพวกเขา ส่วนอีกสองคู่แข่งอย่าง แคนาดา กับ โมร็อกโก ทิศทางออกไปในทางว่า จะชนะมากหรือชนะน้อย ดังนั้น คงต้องจับตาดูต่อในรอบน็อกเอาต์ ทีละแมตช์ ทีละก้าว

 

สำหรับขุมกำลังที่ มาร์ติเนซ เลือกมา ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไร แค่น่าเป็นห่วงที่ความฟิตของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งได้เล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ไปแค่ 5 นัดในซีซั่นนี้ รวมถึงการเรื้อสนามของ เอแด็น อาซาร์ ที่ช่วงหลังกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ในแนวรุกเรอัล มาดริด ไปแล้ว จะส่งผลเสียมากน้อยประการใด

 

โผ 26 แข้งเบลเยียม ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
ติโบต์ กูร์กตัวส์ / 30 / เรอัล มาดริด / 96
ซิมง มินโยเล่ต์ / 34 / คลับ บรูช / 35
โคเอน คาสตีลส์ / 30 / โวล์ฟสบวร์ก / 4

กองหลัง
ยาน แฟร์ตองเก้น / 35 / อันเดอร์เลทช์ / 141 – 9
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ / 33 / อันท์เวิร์ป / 123 – 5
โธมัส มูนิเยร์ / 31 / ดอร์ทมุนด์ / 58 – 8
ทิโมธี คาสตันเย่ / 26 / เลสเตอร์ / 25 – 2
อาร์เธอร์ เธียเต้ / 22 / แรนส์ / 3 – 0
เซโน่ เดบาสต์ / 19 / อันเดอร์เลทช์ / 2 – 0
วู้ท ฟาเอส / 24 / เลสเตอร์ / 1 – 0

กองกลาง
อักเซล วิตเซล / 33 / แอตฯ มาดริด / 126 – 12
เควิน เดอ บรอยน์ / 31 / แมนฯ ซิตี้ / 93 – 25
ยานนิค การ์รัสโก้ / 29 / แอตฯ มาดริด / 59 – 8
ยูรี่ ตีเลอมันส์ / 25 / เลสเตอร์ / 54 – 5
เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ / 27 / วิลล่า / 29 – 1
ฮานส์ ฟานาเก้น / 30 / คลับ บรูช / 22 – 5
เลอันโดร ทรอสซาร์ / 27 / ไบรท์ตัน / 21 – 5
ชาร์ลส์ เด คาตาแลร์ / 21 / มิลาน / 10 – 1
อมาดู โอนาน่า / 21 / เอฟเวอร์ตัน / 2 – 0

กองหน้า
เอแด็น อาซาร์ / 31 / เรอัล มาดริด / 122 – 33
ดรีส เมอร์เท่นส์ / 35 / กาลาตาซาราย / 106 – 21
โรเมลู ลูกากู / 29 / อินเตอร์ / 102 – 68
มิชี่ บัตชูอายี่ / 29 / เฟเนร์บาห์เช่ / 47 – 26
ธอร์แกน อาซาร์ / 29 / ดอร์ทมุนด์ / 45 – 9
เยเรมี่ โดกู / 20 / แรนส์ / 10 – 2
โลอิส โอเพ็นด้า / 22 / ล็องส์ / 4 – 1

หลุดโผ
มัตซ์ เซลส์ (สตราส์บูร์ก), เจสัน เดนาเยอร์ (ชาบับ อัล-อาห์ลี), เดดริค โบยาต้า (คลับ บรูช), โธมัส โฟเก็ต (แร็งส์), อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส (มิลาน), เดนนิส ปราเอ้ต์ (เลสเตอร์), อัลแบร์ แซมบี้ โลกอนก้า (อาร์เซน่อล), นาเซอร์ ชาดลี่ (เวสเตอร์โล), คริสเตียน เบนเตเก้ (ดีซี ยูไนเต็ด), ดิว็อค โอริกี้ (มิลาน), อัดนาน ยานาไซ (เซบีย่า)

 

 

 

โปรตุเกส กับบอลโลกครั้งสั่งลา CR7
สั่นสะเทือนวงการดีเหลือเกินกับการทิ้งระเบิดลูกนาปาล์มเดธของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านการให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีของอังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นตอนนี้ คือเรื่อง ฟุตบอลโลก 2022 การช่วยชาติไปให้ถึงฝั่งฝัน — ที่น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของชายวัยย่าง 38 อย่าง โรนัลโด้ ด้วย

 

ว่ากันตามตรง ชื่อนักเตะชุดลุยกาตาร์ของ แฟร์นันโด ซานโตส แข็งแกร่งน่าเกรงขามไม่เบา ดูหนั่นแน่นตั้งแต่หลังสุดมาหน้าสุด โดยเฉพาะเกมรุกที่เลือกลำบากเลย เมื่อคงต้องกันโควตาหนึ่งที่ไว้ให้ โรนัลโด้ ส่วนที่เหลือ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ราฟาแอล เลเอา (เอซี มิลาน) ไปแย่งกันเอา

 

แต่ก็ต้องว่ากันตามตรงเพิ่มอีกว่า โปรตุเกส มีสิทธิ์จะแข็งขึ้นกว่านี้อีก ถ้าบรรดาตัวที่หลุดไปอย่าง มาริโอ รุย, เซดริก โซอาเรส, เนลซอน เซเมโด้, ชูเอา มูตินโญ่, เรนาโต้ ซานเชส, เปโดร เนโต้, กอนซาโล่ เกเดส ไม่นับ ดีโอโก้ โชต้า (บาดเจ็บ) ถูกหอบหิ้วไปกาตาร์ด้วย

 

แน่นอน ก็คงต้องตามดูกันว่า การตัดสินใจของ แฟร์นันโด ซานโตส ในการเลือกจิ้มขุมกำลังมาแบบนี้ จะปรากฏผลในท้ายที่สุดว่าอย่างไร

 

โผ 26 แข้งโปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
รุย ปาตริซิโอ / 34 / โรม่า / 104
ดีโอโก้ คอสต้า / 23 / ปอร์โต้ / 7
โชเซ่ ซา / 29 / วูล์ฟส์ / 0

กองหลัง
เปเป้ / 39 / ปอร์โต้ / 128 – 7
ดานิโล เปเรยร่า / 31 / เปแอสเช / 63 – 2
ราฟาแอล เกร์เรยโร่ / 28 / ดอร์ทมุนด์ / 56 – 3
รูเบน ดิอาส / 25 / แมนฯ ซิตี้ / 39 – 2
ชูเอา กันเซโล่ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 37 -7
นูโน่ เมนเดส / 20 / เปแอสเช / 16 – 0
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 2
อันโตนิโอ ซิลวา / 19 / เบนฟิก้า / 0 – 0

กองกลาง
วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / 30 / เบติส / 75 – 5
แบร์นาร์โด้ ซิลวา / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 72 – 8
ชูเอา มาริโอ / 29 / เบนฟิก้า / 52 – 2
บรูโน่ แฟร์นันเดส / 28 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 9
รูเบน เนเวส / 25 / วูล์ฟส์ / 32 – 0
ชูเอา ปาลินญ่า / 27 / ฟูแล่ม / 15 – 2
มาเตอุส นูเนส / 24 / วูล์ฟส์ / 9 – 1
โอตาวิโอ / 27 / ปอร์โต้ / 7 – 2
วิตินญ่า / 22 / เปแอสเช / 4 – 0

กองหน้า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / 37 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 191 – 117
อันเดร ซิลวา / 27 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 51 – 19
ชูเอา เฟลิกซ์ / 23 / แอตฯ มาดริด / 23 – 3
ราฟาแอล เลเอา / 23 / มิลาน / 11 – 0
ริคาร์โด้ ออร์ต้า / 28 / บราก้า / 5 – 1
กอนซาโล่ รามอส / 21 / เบนฟิก้า / 0 – 0

หลุดโผ
อันโธนี่ โลเปส (ลียง), รุย ซิลวา (เบติส), มาริโอ รุย (นาโปลี), โดมิงกอส ดูอาร์เต้ (เคตาเฟ่), โชเซ่ ฟอนเต้ (ลีลล์), เซดริก โซอาเรส (อาร์เซน่อล), เนลซอน เซเมโด้ (วูล์ฟส์), ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์), เรนาโต้ ซานเชส (เปแอสเช), ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล), เปโดร เนโต้ (วูล์ฟส์), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง)

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Olympics

 

 

เรื่องน่าอ่าน
• บราซิลลิ่วแชมป์โลก…? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022
• และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
• เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว : สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022 บ้างแล้ว?

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้...คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022

เจ็บปวดกว่าโดนหมางเมิน คือการที่รู้ว่าตัวเองมีที่ยืนเต็มเท้าอยู่แล้วแท้ๆ ในทีม แต่กลับโดนขวางไว้ไม่ให้ไปฟุตบอลโลก 2022 ด้วยเรื่องของโชคชะตา…อาการบาดเจ็บที่ไม่เข้าใครออกใคร

 

หากว่าเป็นฟุตบอลโลกปกติเหมือนที่เคยเป็นมา เวลานี้ แทบทุกอย่างในโลกลูกหนังจะหยุดพัก หยุดนิ่งแล้ว (คงเหลือแค่การเข้าแคมป์เตรียมทีม) เพื่อรอการมาถึงของ เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เสียงนกหวีดแรกของมหกรรมลูกหนังโลกที่รอคอย ก็จะดังขึ้น

 

ทว่าก็อย่างที่ทราบกัน นี่คือ ฟุตบอลโลกครั้งพิเศษใส่ไข่ เตะกันตอนปลายปีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นเกมระดับสโมสรที่ต้องหลีกทางให้ แม้จะต้องพักรบกันกลางศึกสงครามก็ตาม

 

อย่างที่บอก ถ้าเป็นบอลโลกปกติ ซีซั่นจะปิดลงแล้ว ทุกทีมเริ่มเข้าแคมป์เก็บตัวแล้ว และไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจากปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อนในสนามซ้อม

 

แต่ในเมื่อเป็นบอลโลกครั้งสุดพิเศษ ก็ทำให้ทั้งฟุตบอลลีกยุโรปแทบทุกประเทศ ไปจนถึงฟุตบอลถ้วยของบางแห่ง ยังคงโรมรันพันตูกันอย่างซีเรียสเคร่งเครียด โดยจะหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022 เพียง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เท่านั้น

 

สิ่งที่ตามมาจากเรื่องนี้ ก็คือการที่นักเตะหลายรายสาดแข้งกันจนสะบักสะบอม และทยอยล้มเจ็บอย่างโชคร้าย จนมีหลายรายเหลือเกินที่จะทำได้แค่ดูบอลโลกที่กาตาร์ ผ่านจอทีวีไม่ต่างจากเราๆ ท่านๆ

รวมรายชื่อนักเตะคนดังที่ไม่ได้ไป บอลโลก 2022

ถึงตรงนี้มีใครบ้างที่ทั้งอดไปชัวร์ๆ และอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยงต้องลุ้นใจหาย FIFA2022match.com รวบรวมเอาไว้แล้วตรงนี้…

รายชื่อนักเตะอังกฤษ
วืดชัวร์ : เบน ชิลเวลล์
สุ่มเสี่ยง : รีซ เจมส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, บูกาโย่ ซาก้า, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน

 

ยืนยันจากทาง เชลซี แล้วว่า วิงแบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ จะไม่ได้ไปแอ่ว กาตาร์ ในฐานะลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ภายหลังมีการตรวจปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงที่เจ้าตัวได้รับจากเกมถ้วยยุโรปอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ใช่เรื่องขำๆ แบบพัก 3-4 วันหายแต่อย่างใด

 

ส่วน รีซ เจมส์ ก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ด้วยปัญหาบาดเจ็บเข่าที่ได้รับจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน แต่ดูจะเบากว่าเพื่อนร่วมค่ายหน่อย ยังมีลุ้นได้ไปบอลโลก

 

ด้าน ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังคนสำคัญจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พักแข้งมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ แต่เจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะเรียกฟิตทันติดธงสิงโต เช่นเดียวกับ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่หลังย้ายจาก ลีดส์ สู่ แมนฯ ซิตี้ แล้วก็เจ็บออดๆ แอดๆ จนได้เล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น ก็ยังเชื่อว่าตัวเองยังอยู่ในข่ายพิจารณาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

 

ขณะที่ บูกาโย่ ซาก้า ออกจากสนามนัดที่ อาร์เซน่อล ชนะ ฟอเรสต์ 5-0 เมื่อสิ้นเดือน ต.ค. หลังเล่นไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทว่าก็ฟิตลงสำรองในเกมกับ เอฟซี ซูริค ได้ใน 4 วันให้หลัง ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการไปฟุตบอลโลก 2022

 

โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน หัวหอกเอฟเวอร์ตัน ก็เจ็บแฮมสตริง จนต้องออกจากสนามตอนกลางครึ่งหลังเกมแพ้ เลสเตอร์ 0-2 และจะต้องเข้ารับการสแกนอย่างละเอียดต่อไปเพื่อประเมินว่า ฟุตบอลโลก 2022 ยังเป็นไปได้สำหรับศูนย์หน้าวัย 25 อยู่หรือไม่

 

แต่สำหรับทาง ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ฟูลแบ็กจากเซาธ์แฮมป์ตัน แม้บาดเจ็บแฮมสตริงไม่หนักมาก แต่การที่แทบไม่อยู่ในสารบบทีมชาติ ที่ผ่านมาเคยเล่นให้อังกฤษแค่ 2 นัดเท่านั้น ทำให้โอกาสถูกคัดทิ้งมีมากกว่าได้ไป

 

 

รายชื่อนักเตะฝรั่งเศส
วืดชัวร์ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, บูบาการ์ กามาร่า
สุ่มเสี่ยง : เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลูคัส เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

แชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2018 อาการเพียบสุดในบรรดาทีมหัวแถวตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ภายหลังส่อแววไม่สู้ดีมาตั้งแต่คิวเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก หนล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ที่มีกลุ่มแข้งบาดเจ็บครึ่งค่อนทีม

 

ยืนยันแล้วว่า 2 คีย์แมนแดนกลางทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จากเชลซี และ ปอล ป๊อกบา จากยูเวนตุส ต่างต้องตกขบวน อดไปช่วยตราไก่ป้องกันแชมป์โลกอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อรายแรกต้องเข้าผ่าตัดแฮสมตริง ส่วนรายหลังผ่าตัดเข่ามาแล้วพักใหญ่ แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับการเรียกความฟิตจนถึงระดับ จนซีซั่นนี้ยังไม่ได้เล่นให้ ยูเว่ แม้แต่เกมเดียว

 

ส่วน บูบาการ์ กามาร่า กองกลางดาวรุ่งวัย 22 จากแอสตัน วิลล่า เข่าพังหลังเล่นให้สิงห์ผงาดไปแค่ 8 นัด บอลโลกครั้งนี้จึงเป็นได้แค่ผู้ชม

 

ยังมีกลุ่มสุ่มเสี่ยง ต้องรักษาตัวและเรียกฟิตให้ทันเวลาอีกหลายราย ไม่ว่าจะ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (เชลซี), ลูคัส เอร์นันเดซ (บาเยิร์น) และ ราฟาแอล วาราน กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งคู่) ที่ ณ ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ด้วยว่าจะพร้อมหรือไม่

 

 

รายชื่อนักเตะบราซิล
วืดชัวร์ : อาร์ตูร์ เมโล่
สุ่มเสี่ยง : ริชาร์ลิซอน, เบรเมอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

เส้นกราฟชีวิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ คล้อยลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่อำลา บาร์เซโลน่า ไปเล่นกับ ยูเวนตุส อย่างเซอร์ไพรส์เมื่อสองปีก่อน จนซีซั่นนี้ถูกส่งยืมมา ลิเวอร์พูล ก็ยังแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไร ลงสนามไปนัดเดียวถ้วน และใกล้ชิดกับห้องพยาบาลมากกว่าสนามฟุตบอล เมื่อมีปัญหาบาดเจ็บต้นขา โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยว่ามิดฟิลด์วัย 26 อาการ “ค่อนข้างซีเรียส” และ “ต้องพักยาว” ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

ฝั่ง ริชาร์ลิซอน หนึ่งในตัวความหวังแนวรุกของ ลา เซเลเซา (ลงสนาม 38 นัดซัดแล้ว 17 ประตู) บาดเจ็บจากเกม สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อ 15 ต.ค. แต่ทั้งเจ้าตัวและ อันโตนิโอ คอนเต้ ยังมองแง่ดีว่าจะเรียกฟิตทันไป เวิลด์ คัพ

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเจ้าของค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ล่าสุดไม่ได้อยู่ในทีม แอสตัน วิลล่า ชุดเปิดบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และจะไม่พร้อมเล่นนัดหน้าด้วย แม้ยังไม่ทราบระยะพักที่แน่ชัดแต่ก็มากพอที่จะสั่นคลอนโอกาสไปบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า คูตินโญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในทีมของ ตีเต้ บ่อยนักด้วย สองปีหลังได้รับใช้ชาติแค่ 5 นัดเท่านั้น ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงทีเดียวที่จะถูกกาชื่อทิ้ง 

 

สำหรับ เบรเมอร์ เซนเตอร์แบ็กยูเวนตุส พลาดช่วยทีมมา 5-6 เกมแล้ว แม้คาดหมายว่าจะฟิตทันเกมสัปดาห์นี้ แต่ด้วยการที่ ติเต้ มีตัวเลือกเซนเตอร์แซมบ้าในมืออยู่ไม่น้อย ก็ทำให้เสี่ยงมากว่าอดีตแข้งโตริโน่จะอดไปบอลโลกในที่สุด

 

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, เลอันโดร ปาเรเดส, คริสเตียน โรเมโร่, ลิโอเนล เมสซี่

 

แม้ในระดับชาติ เปาโล ดีบาล่า ยังจะไม่ค่อยฉายแสงเท่าที่ควรจะเป็น ยิงได้แค่ 3 ลูกจากการลงสนาม 34 นัด แต่ด้วยชื่อชั้นและคุณภาพฝีเท้า มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เพียงแต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อย ภายหลังดาวเตะวัย 28 ดวงแตก เจ็บต้นขาไปเองระหว่างยิงจุดโทษให้กับ โรม่า

 

รายงานจากสื่อ ณ ตอนนี้ ยังออกไปในทางเห็นแย้งกัน ฝั่งหนึ่งบอกว่า ดีบาล่า จะฟิตทันกลับมาเล่นให้ โรม่า ได้ในเกมสุดท้ายช่วงสัปดาห์หน้า ดังนั้นก็ยังได้ลุ้นไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ แต่อีกฝั่งก็บอกว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ ตัดสินใจปล่อยนักเตะพักแล้ว และจะเลือกจิ้มกองหน้าคนอื่นที่ฟิตกว่า ไปบอลโลกแทน

 

ในราย อังเคล ดิ มาเรีย ตัวเก๋าวัย 34 จากยูเวนตุส เจ็บต้นขา แต่ยังถูกคาดหมายว่าจะไปช่วยงานทีมชาติได้ทันเวลา รวมถึง เลอันโดร ปาเรเดส กับ คริสเตียน โรเมโร่ ก็ไม่ได้เจ็บหนัก ยังเชื่อว่าจะฟิตทัน

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดดาวเตะผู้เป็นแทบทุกอย่างในความหวังสอยแชมป์โลกสมัย 3 ของทัพฟ้าขาว ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องพักแข้งไประยะหนึ่ง อดช่วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เล่นกับ ลอริยองต์ และแม้ว่า เปแอสเช จะยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมสซี่ น่าจะกลับมาพร้อมรบในเร็ววัน แต่ก็ต้องห้ามลืมว่าฟุตบอลโลก 2022 กำลังคอยท่าอยู่ในเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้เท่านั้น หากว่าต้องไปลุยบอลโลกแบบไม่สมบูรณ์ 100% ย่อมเป็นความเสียหายโดยตรงของ อาร์เจนติน่า 

 

 

รายชื่อนักเตะเยอรมนี
วืดชัวร์ : ติโม แวร์เนอร์
สุ่มเสี่ยง : มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน่, มานูเอล นอยเออร์

 

อุตส่าห์ย้ายจาก เชลซี ไปหาโอกาสลงสนามสม่ำเสมอกับต้นสังกัดเก่า แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อเตรียมตัวรับใช้ทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งอันที่จริงก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ยิง 9 ประตูจากการเล่น 16 นัด แต่ปรากฏว่า ติโม แวร์เนอร์ กลับได้รับบาดเจ็บข้อเท้าอย่างหนักจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชนะ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 4-0 และ ไลป์ซิก ยืนยันว่า แวร์เนอร์ ต้องพักยาว หมดสิทธิ์ไปช่วยชาติที่กาตาร์โดยปริยาย

 

อีกสองตัวรุกจากต่างค่าย มาร์โก รอยส์ จากดอร์ทมุนด์ กับ เลรอย ซาเน่ จากบาเยิร์น อยู่ในจุดที่ดีกว่า แวร์เนอร์ พอสมควร หลังทั้งคู่เริ่มเรียกฟิตได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว มีโอกาสได้ไปกาตาร์มากกว่าที่จะพลาด

 

ส่วนยอดจอมหนึบวัย 36 อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนสุดท้าย เป็นข่าวใหญ่จากการที่มีอาการของมะเร็งผิวหนังบนใบหน้า แถมช่วงหลังยังเจ็บไหล่อยู่เป็นระยะ ทว่าล่าสุดก็ฟิตกลับมาลงช่วย บาเยิร์น บุกเตะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ได้แล้ว ดังนั้นถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็น่าจะได้ไปกาตาร์ตามปกติ

 

 

รายชื่อนักเตะสเปน
วืดชัวร์ : มิเกล โอยาร์ซาบัล
สุ่มเสี่ยง : เซร์คิโอ เรกีลอน, เคราร์ด โมเรโน่, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

 

แม้ในรายชื่อ 55 แข้งสเปนชุดเบื้องต้นที่หลุดออกมา (หลุยส์ เอ็นริเก้ ตั้งใจไม่เผยจนกว่าจะตัดตัวชุดสุดท้าย) มิเกล โอยาร์ซาบัล ปีกตัวเก่งจาก เรอัล โซเซียดัด จะยังติดอยู่ แต่ด้วยความที่ดาวเตะวัย 25 เข่าพังมาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อน แล้วยังต้องพักมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เล่นเกมซีซั่นนี้แม้แต่เกมเดียว ก็ทำให้จะเรียกฟิตไม่ทันเป็นแน่

 

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันคือ เกป้า “เดอะโค้ช” อาร์ริซาบาลาก้า จากการอัพเดตล่าสุดของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ปรากฏว่า เกป้า จะไม่ได้เล่นให้ เชลซี จนกว่าจะกลับมาเจอกันใหม่หลังบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บเท้า ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นการยืนยันว่านายด่านสแปนิชจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่ๆ แต่ด้วยการที่ เอ็นริเก้ มี 3 นายทวารอยู่แล้วในทีมชุดเตะ เนชั่นส์ ลีก เดือน ก.ย. (อูไน ซิมอน, โรเบิร์ต ซานเชซ, ดาบิด ราย่า) ก็ทำให้ยิ่งง่ายสำหรับ เอ็นริเก้ ไปอีกในการจะตัดชื่อ เกป้า ทิ้งไป หลังจากมือระดับ ดาบิด เด เคอา ก็ไม่ได้อยู่ใน 55 คนแรกก่อนแล้ว

 

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์
วืดชัวร์ : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
สุ่มเสี่ยง : เมมฟิส เดอปาย, มาร์เทน เดอ รอน, มัทไธส์ เดอ ลิกท์

 

มีปัญหาบาดเจ็บเกิดขึ้นในช่วงหลังทั้ง เมมฟิส เดอปาย (บาร์เซโลน่า), มาร์เทน เดอ รอน (อตาลันต้า) และ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส) แต่โอกาสที่ทั้งสามจะเรียกฟิตทันเวลาไปช่วยชาติที่กาตาร์ ยังมีมากกว่าไม่ได้ไป

 

แต่ที่พลาดแล้วตั้งแต่ต้นและน่าเจ็บใจแทน ได้แก่ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์อดีตดาวเด่นลิเวอร์พูล ที่อุตส่าห์ตัดใจย้ายหนีการเป็นคนไม่สำคัญที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หวังมาเกิดใหม่กับ โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่กลับบาดเจ็บหนักขั้นขาหักตั้งแต่ต้น พักยาวลืมวันลืมคืนไม่พอ ยังได้แค่ดูบอลโลกในฐานะกองเชียร์ด้วย

 

 

รายชื่อนักเตะเบลเยียม
วืดชัวร์ : โธมัส มูนิเยร์, อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส
สุ่มเสี่ยง : โรเมลู ลูกากู

 

เพราะไอ้ยักษ์เจ้าของสถิติถล่มประตู 68 ลูกในทีมชาติอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็ “ยุบ” เป็นเหมือนกัน ซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 5 นัด เนื่องจากเจ็บแฮมสตริง ครั้นเรียกฟิตลงสนามได้ก็ดันเจ็บซ้ำเสียอีกรอบ จนต้องลุ้นถึงวันท้ายๆ เลยว่าจะเรียกฟิตทันช่วยปีศาจแดงแห่งยุโรปสั่งลายุคทองกับบอลโลกได้หรือไม่

 

ส่วนที่วืดแล้ว และสำคัญกับทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ทั้งสองคน คือ โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวากำลังหลักจากดอร์ทมุนด์ โหนกแก้มฉีก ฟิตไม่ทันบอลโลก และ อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส ตัวรุกเอซี มิลาน เข่าพัง จะกลับมาเล่นได้อีกทีก็ต้นปีหน้า

 

 

รายชื่อนักเตะโปรตุเกส
วืดชัวร์ : ดีโอโก้ โชต้า, เปโดร เนโต้
สุ่มเสี่ยง : เปเป้, นูโน่ เมนเดส

 

ทำผลงานได้ดีกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นที่แล้ว (21 ประตู) จนหลายเดือนหลังถูกวางให้เป็นกองหน้าตัวจริงของโปรตุเกสอยู่ตลอด ทว่านอกจากความฝืดในซีซั่นนี้ (0 ประตู) แล้ว สำคัญคือ โชต้า เจ็บต้นขาจนต้องถูกหามออกในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อกลางเดือน ต.ค. ส่งผลให้ แฟร์นันโด ซานโตส เลี่ยงไม่ได้ต้องตัดชื่อทิ้งไปตั้งแต่ชุดเบื้องต้น 55 คน เช่นเดียวกับ เปโดร เนโต้ กองหน้าวูล์ฟส์ ที่เจ็บข้อเท้าจนต้องเข้าผ่าตัด

 

ด้าน เปเป้ ป.ประมุข ในวัย 39 ยังเป็นแกนหลักในแนวรับฝอยทองอยู่ แต่ช่วงหลังมีปัญหาเจ็บเข่ามารบกวน ส่วน นูโน่ เมนเดส เด็กเปแอสเช เจ็บกล้ามเนื้อ และทั้งคู่ต้องรีบเรียกฟิต พร้อมหวังว่าอาการของตัวเองจะไม่หนักหนาจนเกินไปนัก

 

 

รายชื่อนักเตะเดนมาร์ก
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์

 

ต้องจับตากับ 2 เซนเตอร์แบ็กกำลังสำคัญ ทั้งกัปตันทีม ซิมอน เคียร์ จากเอซี มิลาน ที่เจ็บหนักและต้องพักมายาว ยังไม่แน่ชัดว่าจะเรียกความฟิตได้ถึงระดับที่เหมาะสมสำหรับการคุมหลังบ้านของทัพโคนมหรือไม่ ส่วน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ของบาร์เซโลน่า ก็เริ่มมีปัญหาความฟิตในช่วงหลัง แม้จะไม่ได้มีรายงานว่าเจ็บหนักก็ตาม

 

 

รายชื่อนักเตะเวลส์
วืดชัวร์ : ทอม ลอว์เรนซ์, รีส นอร์ริงตัน-เดวิส
สุ่มเสี่ยง : แกเร็ธ เบล, โจ อัลเลน

 

กับการกลับเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี เลี่ยงไม่ได้ที่มังกรแดง เวลส์ ยังจำเป็นต้องพึ่งพาพลังสังหารของ แกเร็ธ เบล ที่แม้จะหลบฉากจาก เรอัล มาดริด ไปเล่นกับ แอลเอ เอฟซี ในสหรัฐฯ แล้วก็ตาม กระนั้น กัปตันวัย 33 ก็มีปัญหาความฟิตและไม่ถูกใช้งานสม่ำเสมอนักในช่วงหลัง ต้องดูต่อว่าสภาพร่างกายจะเข้าที่เข้าทางหรือไม่ อันเป็นกรณีเดียวกับอีกคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โจ อัลเลน (สวอนซี)

 

 

รายชื่อนักเตะสหรัฐอเมริกา
วืดชัวร์ : ไมล์ส โรบินสัน
สุ่มเสี่ยง : แดริล ไดค์, เวสตัน แม็คเคนนี่

 

ไมล์ส โรบินสัน เซนเตอร์แบ็กแอตแลนต้า ยูไนเต็ด เจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก พักยาวอดไปบอลโลกแล้ว ส่วน แดริล ไดค์ กองหน้าเวสต์บรอมวิช กับ เวสตัน แม็คเคนนี่ คีย์แมนแดนกลางจากยูเวนตุส ต้องเร่งเครื่องเรียกฟิตหน่อยในโค้งสุด้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022

 

 

รายชื่อนักเตะเม็กซิโก
วืดชัวร์ : เฮซุส โคโรน่า
สุ่มเสี่ยง : ราอูล ฮิมิเนซ

 

ปีกตัวเก่งจากเซบีย่า เฮซุส โคโรน่า ที่เล่นทีมชาติไปแล้ว 71 เกม ต้องพลาดเวิลด์คัพครั้งนี้อย่างน่าเสียดายภายหลังขาหักเมื่อกลางปี และฟิตไม่ทันไปรับใช้ชาติ ส่วนดาวยิงเบอร์ 1 ของชาติอย่าง ราอูล ฮิมิเนซ จากวูล์ฟส์ ก็มีปัญหาโคนขาหนีบ โอกาสตอนนี้อยู่ที่ 50:50

 

 

รายชื่อนักเตะเกาหลีใต้
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : ซน ฮึง-มิน

 

เดินกุมหน้าออกจากเกม ชปล. กับมาร์กเซย ซึ่งตอนแรกเหมือนจะเป็นการบาดเจ็บขาแข้งเหมือนทั่วไป แต่ปรากฏว่าหนักถึงขั้นเบ้าตาซ้ายแตก จากจังหวะเข้าปะทะกับคู่แข่งอย่างจัง และต้องเข้ารับการผ่าตัด เพียงแต่ก็ยังพอมองแง่ดีได้ว่าต่อให้ไม่ 100% ก็ยังน่าจะพอใส่หน้ากากเป็นแบทแมนลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 ได้

 

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น
วืดชัวร์ : ยูตะ นากายามะ
สุ่มเสี่ยง : –

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ ประกาศรายชื่อ 26 คนสุดท้ายแบบไม่รีรอมาก่อนใครเพื่อน แต่ปรากฏว่าไม่ทันไรก็ต้องปรับไลน์อัพเสียแล้ว เมื่อ ยูตะ นากายามะ กองหลังจากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เจ็บส้นเท้าอย่างหนักระดับที่ต้องพักทั้งซีซั่น แน่นอนว่าก็ต้องถอนตัวไปโดยปริยาย และถึงตอนนี้ยังไม่มีการเรียกใครเข้ามาทดแทน

 

 

รายชื่อนักเตะโครเอเชีย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

มิดฟิลด์ตัวเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ลงช่วยงูใหญ่มาร่วม 1 เดือนแล้วจากการบาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติรอบที่แล้ว (เนชั่นส์ ลีก) แต่ก็คาดว่าจากที่พักมาระยะหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเพียงพอให้ได้เรียกฟิตทันเวลา

 

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : โรนัลด์ อเราโฮ

 

บาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติหนก่อนเมื่อเดือน ก.ย. จนอดช่วย บาร์เซโลน่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา แถมยังต้องเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาด ทว่ารายงานช่วงหลังชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า โรนัลด์ อเราโฮ มีพัฒนาการที่ดี ถ้าไม่มัวไปติดไฟแดงเสียก่อน ก็น่าจะทะลุเข้าอ่อนนุช-เอ๊ย-ไปบอลโลกได้อยู่

 

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์
วืดชัวร์ : ยาคุบ โมเดอร์
สุ่มเสี่ยง : –

 

เอ็นฉีกตั้งแต่เดือน เม.ย. และต้องพักยาวหลายเดือน กองกลางจากไบรท์ตันจึงฟิตไม่ทันช่วยชาติในฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

 

รายชื่อนักเตะแคนาดา
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อาติบา ฮัทชินสัน

 

กัปตันทีมชาติตัวเก๋าวัย 39 ยังไม่อาจฟื้นฟิตลงช่วย เบซิคตัส ได้เลยแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ภายหลังเจ็บกระดูกร้าวตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น แม้ยังพอได้ลุ้นกลับมาทัน แต่ก็น่าเสียวไส้ว่าจะฟิตไม่ถึงระดับ

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BBC
Mirror Sports
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Getty Images
ESPN
beIN SPORTS

 

เรื่องน่าอ่าน : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
แบโผเบื้องต้น ‘โปรตุเกส’ ลุยฟุตบอลโลก 2022
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022

รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022

ทีมสิงโตคำราม หรือทีมชาติอังกฤษ อาจจะเป็นชาติที่มีนักเตะเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกมากที่สุด เมื่อดูจากความนิยมของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แต่ในเวทีฟุตบอลโลก พวกเขาทำได้ดีที่สุดก็คือ การคว้าแชมป์ในบ้านของตัวเองเมื่อปี 1966 กับเข้าวินเป็นที่ 4 อีกสองหน ทั้ง ๆ ที่ในหลาย ๆหนพวกเขาก้าวเข้าสู่ฟุตบอลโลกด้วยกลุ่มนักเตะที่ได้ชื่อว่า ดีที่สุดของยุค ซึ่งทำให้มีความคาดหวังที่สูงลิบลิ่วตามมา ก่อนที่จะคว้าน้ำเหลวไปซะทุกครั้ง แล้วกับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ พวกเขาคือรองแชมป์ทวีป และอันดับ 4 จากฟุตบอลโลกหนก่อน ส่วนบรรดานักเตะสิงโตคำรามชุดนี้ ก็คืออีกหนึ่ง “ยุคทอง” เมื่อมีนักเตะมากพรสวรรค์มากมาย ที่เก็บเกี่ยวความสำเร็จมาตั้งแต่ยังเป็นสิงโตน้อย ไล่ระดับมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่รุ่นอายุ 17, 19 และ 20 ปี และนี่คือ 5 ดาวเตะสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษไปถึงดวงดาวในฟุตบอลโลก 2022

จู๊ด เบลลิงแฮม ตำแหน่ง: กองกลาง อายุ: 19 ปี

จู๊ด เบลลิงแฮม สิงโตคำราม

นักเตะกองกลางของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์รายนี้ คือผู้เล่นอายุน้อยเป็นอันดับ 3 ที่ติดทีมชาติสิงโตคำราม (ภาพ: www.football365.com)

นักเตะกองกลางของโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์รายนี้ คือผู้เล่นอายุน้อยเป็นอันดับที่ติดทีมชาติสิงโตคำราม ตอนลงเล่นนัดแรกในปี 2020 ซึ่งคาดหวังอะไรดี ๆ จากเด็กหนุ่มคนนี้ได้เลย ต่อให้เขาจะไม่ใช่ผู้เล่น 11 คนแรกของทีม แต่ความสามารถในการพาบอล, สภาพร่างกายที่เป็นนักกีฬาเต็มตัว และความคิดอ่านที่โตเกินวัย เขาพร้อมแล้วที่จะเป็นนักเตะแกนนำของทีม เช่นที่เห็นในทีมเสือเหลือง และการลงเล่นในบุนเดสลีก้า ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก แล้วการที่แกเร็ธ เซาธ์เกตเป็นโค้ชที่ชอบผู้เล่นกองกลางที่เล่นได้หลากหลาย และถ้าคัลวิน ฟิลลิปส์ยังเรียกฟอร์มกลับมาไม่ได้ จู๊ดก็มีศักยภาพมากพอที่จะเสียบแทน

ฟิล โฟเด้น ตำแหน่ง: กองกลาง/ กองหน้า อายุ: 22 ปี

ฟิล โฟเด้น สิงโตคำราม

นักเตะมหัศจรรย์ของทีมสิงโตคำราม ที่เป๊ป กอร์ดิโอล่าโค้ชทีมเรือใบสีฟ้าบอกว่า เป็น “นักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น” (ภาพ: Getty Images)

นักเตะมหัศจรรย์ของทีมสิงโตคำราม ที่เป๊ป กอร์ดิโอล่าโค้ชทีมเรือใบสีฟ้าบอกว่า เป็น “นักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น” เป็นนักเตะตัวหลักของทั้งสโมสรและทีมชาติอังกฤษเรียบร้อยแล้ว โฟเด้นคือดาวเตะแห่งทัวร์นาเมนต์ เมื่อครั้งทีมสิงโตคำรามน้อยคว้าแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีที่อินเดีย เมื่อ 5 ปีก่อน นี่คือนักเตะอีกคนที่มีครบ ทักษะ, วิสัยทัศน์ และความคิดสร้างสรรค์ และจะเป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญมาก ๆ หากอังกฤษต้องการประสบความสำเร็จที่กาตาร์

เซาธ์เกตพูดถึงดาวเตะสิงโตคำรามรายนี้ว่า “เรารู้จักเขาตั้งแต่อายุ 15, 16 ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง และตอนนี้เราจะได้เห็นกัน” โค้ชทีมชาติอังกฤษย้ำ “เขาเป็นนักเตะที่มีความพิเศษ อย่างไม่ต้องสงสัย

แฮร์รี่ เคน ตำแหน่ง: ศูนย์หน้า อายุ: 29 ปี

แฮร์รี่ เคน สิงโตคำราม

กัปตันทีมสิงโตคำรามที่หากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ก็คือ 1 ในผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติอังกฤษแน่ ๆ (ภาพ: Getty Images)

กัปตันทีมสิงโตคำรามที่หากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ก็คือ 1 ในผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติอังกฤษแน่ ๆ และไม่ใช่เพราะเป็นกัปตันทีม เคนคือหนึ่งในดาวเตะหมายเลข 9 ที่เยี่ยมที่สุดของโลก และเป็นดาวเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดทั้งในการลงเล่นในแม็ตช์ที่เป็นการแข่งขันและในทัวร์นาเมนต์ มากกว่าดาวยิงคนไหน ๆ ในประวัติศาสตร์ของทีมสิงโตคำรามเรียบร้อยแล้ว โดยตอนนี้เขาทำสถิติไล่บี้ตัวเลขยิงประตูรวมสูงสุดของเวย์น รูนีย์ 53 ประตู เข้าไปทุกที นอกจากนี้เขาคือนักเตะเจ้าของรางวัลสตั้ดทองคำจากฟุตบอลโลก 2018 ที่กลายเป็นชื่อแรก ๆ ของโต๊ะพนันในฐานะผู้เล่นที่จะกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดอีกครั้งในฟุตบอลโลก 2022 แม้ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกจะไม่เคยมีใครทำได้ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครกล้ามองข้ามกัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้

ดีแคลน ไรซ์ ตำแหน่ง: กองกลาง​ อายุ: 23 ปี

ดีแคลน ไรซ์ สิงโตคำราม

ไรซ์เป็นนักเตะตัวคุมเกมที่มีศักยภาพในระดับต้น ๆ และช่วยให้งานของเคนสัมฤทธิ์ผลในทีมชาติอังกฤษ (ภาพ: www.beinsports.com)

จากปากโค้ชในระดับสโมสร ไรซ์คือ “กองกลางที่ดีที่สุดในยุโรป” และในยูโร 2020 เขาคือผู้เล่นระดับท็อปของสิงโตคำราม แม้อาจจะมีเสียงโต้แย้งคำเยินยอของเดวิด มอยส์ที่มีต่อผู้เล่นในทีมของตัวเอง แต่ก็ไม่ใครกล้าปฏิเสธว่า กัปตันทีมขุนค้อนคือผู้เล่นสำคัญ ในการขึ้นเกมจากแดนกลางของทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเซาธ์เกตเองก็ชื่นชมความแข็งแรง และความเยี่ยมยอดในการพาบอลกลับมาเล่นของไรซ์​ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะตัวคุมเกมที่มีศักยภาพในระดับต้น ๆ และช่วยให้งานของเคนสัมฤทธิ์ผลในทีมชาติอังกฤษ “ถึงจะเป็นนักเตะอายุน้อย เขาก็เป็นผู้เล่นที่ีมีความเป็นผู้นำในตัวสูง” โค้ชทีมสิงโตคำราม กล่าว “เขาเป็นกัปตันของสโมสร ด้วยอายุที่น้อยมาก ๆ ดังนั้นคุณสามารถมองเห็นได้เลยว่า เขาจะทำอะไรให้เกิดขึ้นได้บ้าง”

บูกาโย ซาก้า ตำแหน่ง: กองหน้าอายุ: 20 ปี

บูกาโย ซาก้า สิงโตคำราม

ผู้เล่นที่ไม่สนใจคำสรรญเสริญ ก้มหน้าก้มตาเล่น เป็นผู้เล่นตัวรุกที่ทำงานหนัก แบบลงสนามไป “ทำงานของตัวเองอย่างเงียบ ๆ” ของทีมสิงโตคำราม (ภาพ: Michael Regan/Getty Images)

เซาธ์เกตรู้ดีว่า ซาก้าเป็นนักเตะที่ “คนชอบน้อย” และสนุกกับชื่อเสียงที่ “ไม่เหมือนผู้เล่นในแนวรุกคนอื่น ๆ ของทีมเรา” ในฐานะผู้เล่นที่ไม่สนใจคำสรรญเสริญ ก้มหน้าก้มตาเล่น เป็นผู้เล่นตัวรุกที่ทำงานหนัก แบบลงสนามไป “ทำงานของตัวเองอย่างเงียบ ๆ” “เขาเป็นเด็กมหัศจรรย์” เซาธ์เกตพูดถึงดาวเตะสิงโตคำรามรายนี้ “ถ้าลูกสาวคุณพาเขาเข้าบ้าน คุณจะยิ่งกว่ามีความสุขอีก” แต่ถ้าดูจากทักษะ, ความเร็ว และความชาญฉลาด ที่ซาก้ามี มันแตกต่างจากภาพลักษณ์ของเขาสุดขั้ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ทำให้เขาน่าจะเป็นนักเตะ 11 คนแรกของทีมที่กาตาร์ สมกับที่โค้ชทีมชาติชื่นชม “นักเตะที่น่าตื่นเต้น”, “พรสวรรค์แสนมหัศจรรย์” และบรรดากองหลังฝ่ายตรงข้ามในศึกฟุตบอลโลก 2022 ก็อาจจะพบว่า พวกเขาต้องเห็นพ้อง ด้วยความเจ็บปวด

ที่คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สิงโตคำรามห้าตัวนี้ จะทำให้อังกฤษ คำรามได้ดังกว่าที่เคยหรือไม่

ข้อมูล: FiFA.com
ภาพปก: www.football365.com, Getty Images, Getty Imageswww.beinsports.comMichael Regan/Getty Images

เรื่องน่าอ่าน: ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม บี สิงโต อินทรี มังกร และทีมแกร่งตะวันออกกลาง ใครจะอยู่ ใครจะไป

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ - กลุ่มดี

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี

หลังทั้ง 32 ทีมในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายเปิดตัวชุดแข่งขันที่จะใช้ลงฟาดแข้งมาให้เห็นกันครบทุกทีมเรียบร้อยแล้ว จากที่ได้เห็นแต่ละแบบ แต่ละสี จากแต่ละผลิตภัณฑ์เครื่องกีฬาก็ดูสวยงามไม่แพ้กัน และทำให้เวทีแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ร้อนระอุไม่แพ้เกมการแข่งขัน ที่แต่ละทีมก็หวังว่าจะทำให้ดีที่สุด หลังได้ทำนายกันไปแล้วว่า ในแต่ละกลุ่มทีมไหนที่น่าจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หนนี้ก็มาดูกันว่าบรรดาชุดแข่งขันของทีมต่าง ๆ ทีมไหนที่ดูเข้าตาบ้าง

กลุ่ม เอ: กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
บนเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์เจ้าภาพ มาแบบเรียบ ๆ แต่เสื้อชุดเหย้าสีแดง มีลูกเล่นตรงปลายแขนเลียนแบบลายธงชาติ คัตติ้งของเสื้อเป็นฟอร์แม็ตเดียวกันเสื้อทีมอื่น ๆ ที่ไนกี้ออกแบบให้  ส่วนเนเธอร์แลนด์ ที่ใช้บริการไนกี้เหมือนกัน จากภาพเสื้อดูเป็นสีส้มแบบใช้ผ้ามัน ดูเป็นเลื่อม ๆ ส่วนชุดเยือนสีพื้นคือน้ำเงินเข้ม แล้วมีเล่นสีดำบริเวณคอ ซึ่งเป็นแพ็ทเทิร์นที่หลาย ๆ ทีมใช้ เซเนกัลใช้บริการของพูม่า เสื้อชุดเหย้าสีขาวสวย ด้วยการเล่นลายลูกศรสีธงชาติบริเวณหน้าอก แต่ชุดเยือนเป็นแพ็ทเทิร์นเดียวกับชุดเยือนที่พูม่าทำให้กับทีมอื่น ๆ จนดูไร้เสน่ห์ ปิดท้ายด้วยเอกวาดอร์ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ มาราธอน เสื้อชุดเหย้าสีเหลืองดูไม่มีลูกเล่นอะไรมากนัก ผิดกับชุดเยือนที่เล่นลายในเนื้อผ้าได้สวยเลย

เสื้อทีมกาตาร์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์เจ้าภาพ จะใช้สีแดงเป็นชุดเหย้าและสีขาวเป็นชุดเยือน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเนเธอร์แลนด์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ มากับสีส้มสมฉายา สำหรับชุดเหย้า ส่วนชุดเยือนเป็นเสื้อสีน้ำเงิน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเซเนกัล ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เสื้อแข่งของเซเนกัล ในฟุตบอลโลก 2022 เสื้อชุดเหย้าสีขาว และชุดเยือนสีเขียว (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเอกวาดอร์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เอกวาดอร์ ใช้ชุดเหย้าสีเหลืองเหมือนเคย ขณะที่ชุดเยือนเป็นสีน้ำเงินเข้ม (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม บี: อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, อิหร่าน, เวลส์
ไนกี้ยังแสดงความเป็นเจ้าแฟชันฟุตบอลโลก 2022 เมื่อมี 2 ทีมใช้บริการ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ทีมชาติอังกฤษชุดเหย้าเป็นสีขาว เล่นสีน้ำเงินเข้มไล่เฉดตั้งแต่บริเวณบ่ามาถึงอก ตามคัตติ้งของเสื้อ ที่เป็นฟอร์แม็ตของไนกี้ในฟุตบอลโลกหนนี้ ส่วนชุดเยือนสีแดง เอาชุดเมื่อปี 1990 ของอัมโบรมาปรับดีไซน์ ซึ่งก็สวยแต่เมื่อมองไปถึงตัวต้นแบบแล้ว ก็ต้องยกให้งานต้นฉบับ ของสหรัฐฯ เหมือนใช้ลูกเล่นสลับกับชุดของเนเธอร์แลนด์ เสื้อชุดเหย้าสีขาว จะเล่นสีบริเวณคอแบบเดียวกับชุดเยือนของอัศวินสีส้ม ส่วนชุดเยือนสีน้ำเงินเข้มก็มาในแพ็ทเทิร์นเดียวกับชุดเหย้าเนเธอร์แลนด์ แต่เปลี่ยนสี ซึ่งถือว่าน่าผิดหวัง อิหร่านที่ใช้บริการแบรนด์ท้องถิ่นมาจิด เน้นเรียบ ๆ แต่เล่นกับสีธงชาติเขียว-ขาว-แดง โดยใช้เส้นสีเขียวเล่นเฉดที่บิดเป็นอีกสีหนึ่งเมื่อพาดกลางหน้าอกไปรับกับอีกฝั่ง ปิดท้ายด้วยอดิดาส ที่เหมือนจะเงียบ ๆ ไปหน่อยในปีนี้ ชุดเยือนสีแดงของเวลส์ ดูจะเล่นกับลายผ้า ส่วนชุดเหย้าจะเด่นที่บริเวณลายกราฟิกคอเสื้อ ซึ่งเป็นมุกเดียวกับเสื้อของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ทีมชาติอังกฤษ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 2022 ของอังกฤษ ที่มีสไตล์แตกต่างกัน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติสหรัฐอเมริกา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในฟุตบอลโลก 2022 เหมือนเอาเสื้อของทีมเนเธอร์แลนด์มาสลับฝั่ง ส่วนคัตติ้งก็เป็นฟอร์แม็ตเดียวกัน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติอิหร่าน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แม้จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่น แต่เรื่องดีไซน์ ชุดของทีมชาติอิหร่านก็ดูดี (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติเวลส์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เวลส์มาพร้อมกับเสื้อทีมที่ไม่หวือหวา แต่มีกิมมิกจาก อดิดาส (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม ซี: อาร์เจนติน่า, ซาอุดิอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ถือว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายของแฟชั่นฟุตบอลโลก เพราะสองยักษ์ ไนกี้และอดิดาสดวลกันเพียวร์ ๆ โดยฝ่ายหลังมีอาร์เจนติน่ากับเม็กซิโก ที่หนนี้เม็กซิโกมาดีเหลือเกินเรื่องเสื้อผ้า ชุดเหย้าสีเขียว เล่นกับการเล่นสีเขียวเข้มสลับกับสีเขียวพื้น พิมพ์ลายเหมือนลูกศร ส่วนชุดเยือนสีขาวก็เล่นลายที่ทำให้นึกถึงศิลปะของเผ่าแอชเต็ก อาร์เจนติน่า ชุดเหย้าฟ้าขาวถือว่าตามมาตรฐาน แต่ชุดเยือนก็เข้าตาเหลือเกิน กับลายเหมือนเปลวเพลิงที่ไล่ขึ้นมาจากชายเสื้อ ไนกี้เองก็ออกมาดีไม่แพ้กัน ชุดเหย้าสีขาวของซาอุดิอาระเบีย ถึงจะดูจืด ๆ แต่ก็มีเล่นลายผ้าหากก็ไม่โดดเด่นนัก ถึงกระนั้นก็ดูคลาสสิก ส่วนชุดเหย้าสีเขียวก็เล่นสีเขียวเข้มกับสีเขียวพื้นได้สนุกในอารมณ์หลายพราง ขณะที่ชุดเยือนของโปแลนด์สีแดง มาในทางคลาสสิก ชุดเหย้าสีขาวที่เล่นลายบริเวณไหล่ก็ทำให้เสื้อที่คัตติ้งมาเป็นฟอร์แม็ต ดูมีสไตล์ ไม่น่าเบื่อขึ้นมาได้

ทีมชาติอาร์เจนติน่า แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเหย้าของอาร์เจนติน่า อาจจะไม่ว้าวนัก แต่กับชุดเยือนแล้ว ลายเปลวเพลิงที่ไล่มาจากชายเสื้อดูเตะตาดี (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

 

ทีมชาติเม็กซิโก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

อดิดาสทำเสื้อทีมชาติเม็กซิโกในฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างมีคลาสส์ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แบบถือว่าธรรมดา แต่เสื้อทีมชาติซาอุดิอาระเบีย มาพร้อมกับการเล่นลายในเนื้อผ้า (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติโปแลนด์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเยือนสีแดงดูคลาสสิก และชุดเหย้าที่มีเสน่ห์ตรงบ่าของโปแลนด์ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม ดี: ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนีเซีย
แม้ฝรั่งเศสจะเป็นทีมวางของกลุ่มและมีทีมที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของไนกี้ถึงสองชาติ แต่เดนมาร์กก็ได้พื้นที่แฟชั่นฟุตบอลโลกไปได้เต็ม ๆ เมื่อร่วมกับฮุมเมล แบรนด์ท้องถิ่น ใช้โอกาสนี้ประท้วงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าภาพกาตาร์ ด้วยการออกแบบเสื้อที่อิงกับดีไซน์เสื้อทีมชุดคว้าแชมป์ยูโร แต่แทนที่จะใช้สีขาวแดง กลับทำเป็นสีเดียวกัน หากตัวลายใช้สีที่มีน้ำหนักมากขึ้นแทน แถมยังมีชุดแข่งแบบที่ 3 สีดำ ที่ระบุว่าเป็นสีของการไว้ทุกข์ออกมาอีก ทำให้เสื้อทีมชาติอื่น ๆ หมองไปเลย โดยฝรั่งเศสมาแบบเรียบ ๆ เป็นสีพื้นทั้งชุดเหย้าและเยือน ส่วนออสเตรเลียก็เป็นคัตติ้งสำเร็จรูปของไนกี้สำหรับฟุตบอลโลกหนนี้ ชุดเหย้าเน้นสีพื้น ส่วนชุดเยือนมีลูกเล่นตรงคอเสื้อ ปิดท้ายด้วยตูนีเซียที่เป็นงานของคัปป้า ดูเหมือนจะไม่มีลูกเล่นอะไรมาก แต่ดูดีจะพบว่า มีการเล่นกับลายผ้าเป็นกราฟฟิกแบบงานอาร์ตแอฟริกัน

ทีมชาติฝรั่งเศส แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แชมป์เก่าฝรั่งเศส มาแบบเรียบ ๆ ทั้งชุดเหย้าและเยือน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติออสเตรเลีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ทีมจิงโจ้ กับเสิ้อทีมที่มาเป็นฟอร์แม็ตของไนกี้ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติเดนมาร์ก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ในแง่ของความฮือฮาของเสื้อทีมชาติในฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติเดนมาร์ก นำมา (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022

เหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ในเนื้อผ้าของทีมชาติตูนีเซีย มีลาย มีลูกเล่น (ภาพ: www.footyheadlines.com)

ข้อมูล: www.footyheadlines.com , www.bbc.com
ภาพปก: www.footyheadlines.com

เรื่องน่าอ่าน: แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022

ถ้าไม่ใช่ ‘เจ้าพ่อคอนเทนต์’ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022

จะกี่เสียงที่บอกให้เปลี่ยน จะกี่คนที่เร้าให้ดร็อป แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่สนใจ ยังคงใช้งาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อย่างสม่ำเสมอ จนเป็นคำถามว่า เอ…หรือมันเพราะ อังกฤษ ขาดแคลนผู้เล่นตำแหน่ง “เซนเตอร์แบ็ก” อย่างนั้นหรือ???

 

กลายเป็นเรื่องลึกลับของโลกลูกหนัง ว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับยอดดาวเตะที่ชื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กันแน่?

 

เพราะจากเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่งฝีเท้าจัดจ้าน เจ้าของรางวัลนักเตะแห่งปี เลสเตอร์ ซิตี้ 2017/18, เจ้าของค่าตัว 80 ล้านปอนด์ในตอนย้ายสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัมเมอร์ 2019 และเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมปีศาจแดง

 

วันผ่านคืนผัน แม็กไกวร์ กลับกลายเป็น “เจ้าพ่อคอนเทนต์” ในแง่ลบ เป็นตัวตลกกลางสนาม และเป็นจุดอ่อนที่คู่แข่งสามารถตักตวงได้อย่างเต็มที่ในแทบทุกเกมที่ลงเล่น

 

พอเข้าใจได้กับฟอร์มที่ดาวน์ลงไปในฤดูกาลที่แล้ว (2021/22) เมื่อแนวรับแต่ละคนรอบข้างของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ฟอร์มหลุด ไว้วางใจได้ยากกันแทบทุกคน ที่สุดแล้วผลงานที่ต้นสังกัดเข้าป้ายเพียงอันดับ 6 ในลีก ไม่มีแชมป์รายการใดติดมือ ไปจนถึงการเปลี่ยนตัวกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดนเด้ง ราล์ฟ รังนิค ก็อยู่ไม่ยืด ยังผลเสียในเรื่องของ “ความมั่นใจ” ที่ลดระดับลงของ แม็กไกวร์

 

แต่ครั้นซีซั่นใหม่นี้มาถึง กุนซือใหม่ เอริก เทน ฮาก เข้ามา–พร้อมการันตีปลอกแขนให้ แม็กไกวร์ ว่าจะยังคงได้เป็นหัวหน้าทีมผีแดงต่อไป ดาวเตะวัย 29 ก็กลับไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งที่เคยมีออกมาได้ ยังคงเล่นผิดเล่นพลาด เชื่องช้า สมาธิหลุด และอะไรต่างๆ นานา จนยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าค่าตัว 80 ล้านปอนด์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายไปนั้น กลายเป็นการลงทุนที่เหลวไหลไม่ได้ความอีกหนึ่งดีล

 

นัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก แม็กไกวร์ ลงตัวจริงจับคู่เพื่อนใหม่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปรากฏ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ไบรท์ตัน คาบ้าน 1-2

 

สัปดาห์ถัดมา แม็กไกวร์ ลงตัวจริงต่อเนื่องในเกมบุกเตะ เบรนท์ฟอร์ด ปรากฏโดนผึ้งต่อยแบบไม่ต้องเล่นมุกว่า “ต่อยนานยัง” แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ขาด 0-4

 

ถัดมา เทน ฮาก ตัดสินใจดร็อป แม็กไกวร์ ลงนั่งสำรอง เปิดทางให้ ราฟาแอล วาราน ลงมายืนคู่ มาร์ติเนซ บ้าง และทันใดนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เดินหน้าชนะ 4 เกมติดต่อกันทันที!

 

ยิ่งตลกร้ายกับตัว แม็กไกวร์ ขึ้นไปอีก เมื่อการกลับสู่ไลน์อัพตัวจริงอีกหน ในเกมยูฟ่า ยูโรป้า ลีก นัดเปิดบ้านรับมือ เรอัล โซเซียดัด จากสเปน ก็ปรากฏเป็น โซเซียดัด บุกกำชัยถึงแมนเชสเตอร์ 1-0

 

สรุปสั้นๆ คือ “ทุกนัด” ที่ แม็กไกวร์ ลงตัวจริง แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เรียบ
และ “ทุกนัด” ที่ แม็กไกวร์ โดนดร็อป แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กำชัยได้ทั้งหมด
(เลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนแซวยับ ว่าจุดเปลี่ยนในฟอร์มดีๆ ของผี ก็คือการถอด แม็กไกวร์ ออกจากทีมนี่เอง)

 

ประเด็นก็คือ เห็นแบบนี้ กุนซือทีมชาติอังกฤษ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ยังคงมอบความไว้วางใจให้กับ แม็กไกวร์ อย่างเต็มที่ในคิวทีมชาติ 2 นัดของเดือนนี้ (กันยายน 2022) คิวที่เป็นการเตรียมตัวหนท้ายๆ มากๆ ก่อน ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จะมาถึง

 

23 ก.ย. อังกฤษ บุกเตะ อิตาลี ที่ซาน ซิโร่ — แม็กไกวร์ ลงตัวจริงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็ก ร่วมกับ เอริก ไดเออร์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์

 

แม้ไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไร แต่ อังกฤษ ก็แพ้ 0-1

 

26 ก.ย. อังกฤษ กลับมาเปิดเวมบลีย์รับมือ เยอรมนี — แม็กไกวร์ ยังคงลงตัวจริงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็ก ร่วมกับ เอริก ไดเออร์ และ จอห์น สโตนส์ (ก่อน ไคล์ วอล์คเกอร์ เปลี่ยนลงแทน สโตนส์ ที่บาดเจ็บท้ายครึ่งแรก)

 

เกมนี้เองที่ แม็กไกวร์ โชว์ฟอร์ม “สร้างคอนเทนต์” เข้าให้อีกแล้ว

 

ขณะเกมเสมอ 0-0 น.50 แม็กไกวร์ รับบอลจาก ไดเออร์ แล้วจ่ายไปติด จามาล มูเซียล่า มันดื้อๆ วินาทีต่อมาที่ มูเซียล่า เลี้ยงจี้เข้าใส่ แม็กไกวร์ ก็ไปรวบดาวรุ่งเยอรมันล้มลงอย่างเสียท่า ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วเป่าจุดโทษ อิลคาย กุนโดกัน สังหารไม่พลาด 1-0

 

น.67 แม็กไกวร์ โดนตัดลูกในแดนคู่แข่ง บอลถูกลำเลียงสวนเร็วขึ้นมาจบที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปั่นโค้งหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบเสาอย่างงดงาม 2-0

 

ยังดีที่เกมไม่ได้จบแค่ตรงนี้ (ไม่งั้นยิ่งโดนด่าเละขึ้นอีก) อังกฤษ ยังฮึดขึ้นยิงแซงนำ 3-2 ในยี่สิบนาทีท้าย กระทั่งเกมสิ้นสุดอย่างระทึกที่ 3-3 ไค ฮาแวร์ตซ์ ซัดเม็ดสองทวงเจ๊า น.87 (เป็นความผิดพลาดซองแตกของ นิค โป๊ป บ้าง)

 

แต่ถึงจะไม่แพ้คารัง อังกฤษ ก็ยังสั่งลา เนชั่นส์ ลีก 2022/23 อย่างช้ำเลือดช้ำหนองอยู่ดี — ชนะใครไม่เป็น เสมอ 3 แพ้ 3 รั้งบ๊วยกลุ่ม 3 ลีกเอ ที่หมายถึงว่าต้อง “ตกชั้น” ไปเล่นในลีกบีร่วมกับทีมเกรดรองๆ ทั้งหลายแหล่ใน UNL งวดหน้า 2024/25

 

สำหรับ แม็กไกวร์ ได้รับการตัดเกรดฟอร์มการเล่นจากสื่อผู้ดี ดังนี้…
บีบีซี 2.58/10
สกาย สปอร์ตส์ 5/10
อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด 3/10
เทเลกราฟ 4/10
เดอะ ซัน 4/10

 

นอกจากการตัดเกรด สื่อทุกสำนักยังแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เซาธ์เกต พลาดอย่างแรงที่ยังคงไว้วางใจในตัว แม็กไกวร์ อยู่ — บีบีซี ถึงกับพาดหัวว่า “แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คือปัญหาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต” ทีเดียว

 

ฟอร์มที่ยังคงผุพัง ความมั่นใจที่ลดระดับจนแทบเหลือ 0 บวกกับ ฟุตบอลโลก 2022 กำลังคืบคลานใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

นั่นจึงกลายเป็นคำถามสำคัญว่า การที่ แม็กไกวร์ ยังได้โอกาสจาก เซาธ์เกต นั่นเพราะว่าหรือจริงๆ แล้ว อังกฤษ ขาดแคลนนักเตะตำแหน่ง “เซนเตอร์แบ็ก” หรืออย่างไร?

 

และถ้าไม่ใช่เจ้าพ่อคอนเทนต์อย่าง แม็กไกวร์ แล้ว ยังมีตัวอื่นที่สามารถเป็นหลักในแนวรับสิงโตคำราม ได้อีกหรือไม่?

 

ลองไปสำรวจตรวจตรากันหน่อยน่าจะดี…

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022จอห์น สโตนส์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
รับใช้ชาติ 59 นัด
หนึ่งในตัวยืนของ แกเร็ธ เซาธ์เกต อีกรายนั่นแหละ ถ้าไม่เจ็บหนักไปเสียก่อนก็จะได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แบบ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ด้วยดีกรีเล่นทีมชาติ 59 นัด กับความสำเร็จเพียบรายการกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เจ้าตัวย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาเล่นด้วยตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

 

ซีซั่นนี้ สโตนส์ ยังแสดงให้เห็นถึงความสารพัดประโยชน์ด้วยการขยับขึ้นยืน “มิดฟิลด์ตัวรับ” กับทาง แมนฯ ซิตี้ เพียงแต่โดยธรรมชาติก็ยังคงเป็นเซนเตอร์แบ็กอยู่นั่นเอง

 

นี่คือหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ของ เซาธ์เกต และสามารถเป็นคีย์แมนในแดนหลังได้อย่างแน่นอน หากว่าจะหมางเมิน แม็กไกวร์ ไปหาคนอื่นเพื่อมาเติมเต็มหลังบ้าน

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เอริก ไดเออร์ : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
รับใช้ชาติ 47 นัด
เว้นระยะการรับใช้ชาติไปตลอดปี 2021 ก่อนถูกเรียกกลับมาลงตัวจริงทั้ง 2 เกมที่พบกับ อิตาลี และ เยอรมนี ในเดือนนี้

 

ที่จริง อดีตเด็กปั้นสปอร์ติ้ง ลิสบอน เริ่มต้นเส้นทางอาชีพที่การเป็นมิดฟิลด์ แต่เวลาถัดมาก็ถอยลงต่ำ มายืนแบ็กขวาบ้าง เซนเตอร์แบ็กบ้าง

 

แม้ในภาพรวมของการเล่น ไดเออร์ ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญในเกมรับที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะให้เป็นตัวจริงหรือสำรองก็ตาม

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ไคล์ วอล์คเกอร์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
รับใช้ชาติ 70 นัด
อีกหนึ่งขาประจำของ เซาธ์เกต สำหรับการเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวขวาสุดในหมาก 3 กองหลัง หรือจะรับบทแบ็กขวาในแผงแบ็กโฟร์ก็สามารถทำได้อย่างไม่เคอะเขิน เมื่อโดยปกติก็ยืนตรงนี้อยู่แล้วในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

 

ด้วยดีกรีติดทีมยอดเยี่ยม ยูโร 2020 และการรับใช้ชาติมากถึง 70 นัด สูงที่สุดในบรรดาแผงรับชุดนี้ ทำให้ไม่ต้องห่วงเช่นกันว่า วอล์คเกอร์ จะไม่ได้ไปกาตาร์ เพียงแต่ด้วยอายุอานาม 32 แล้ว ก็ทำให้มีสิทธิ์ว่านี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวได้

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022คอนเนอร์ โคดี้ : เอฟเวอร์ตัน
รับใช้ชาติ 10 นัด
ย้ายออกจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ไปสู่สัญญายืมตัวที่ เอฟเวอร์ตัน อย่างเซอร์ไพรส์ในตลาดล่าสุด เมื่อทั้งที่เป็นกัปตันทีมหมาป่า และลงเล่นอย่างสม่ำเสมอปีละไม่ต่ำกว่า 40 นัดมาหลายปีดีดัก

 

ส่วนเมื่อย้ายสู่ กูดิสัน พาร์ค แล้ว เซนเตอร์แบ็กวัย 29 ก็ยังคงได้เล่นต่อเนื่อง ลงสนามไปแล้ว 6 เกมให้ทีมทอฟฟี่ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

 

อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของ โคดี้ คือการที่ไม่ค่อยได้โอกาสลงสนามในระดับนานาชาติมากนัก ไม่ว่าจะเป็นในถ้วยยุโรปหรือกับทีมชาติ ที่เขาเคยได้เล่นให้สิงโตคำรามมาแค่ 10 เกมเท่านั้น

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022มาร์ก เกฮี : คริสตัล พาเลซ
รับใช้ชาติ 3 นัด
คริสตัล พาเลซ ทุ่ม 18 ล้านปอนด์ซื้อ เกฮี มาจาก เชลซี ในปีที่แล้ว และมีส่วนสำคัญในเกมรับของ ปาทริค วิเอร่า มาตลอด จนซีซั่นนี้ก็เริ่มได้ปลอกแขนกัปตันทีมไปสวมใส่บ้างแล้ว

 

ด้วยวัยเพียง 22 คงต้องถือว่า เกฮี ยังอยู่ในขั้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และยังไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะไม่ว่าจะในระดับสโมสรหรือทีมชาติ

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ฟิคาโย่ โทโมรี่ : เอซี มิลาน
รับใช้ชาติ 3 นัด
นี่คือคนที่หลายฝ่ายมองว่า นี่ต่างหากตัวที่ เซาธ์เกต ควรยึดโยงและมอบความไว้วางใจให้ และโชคดีแค่ไหนแล้วที่นักเตะเลือกรับใช้ อังกฤษ ไม่เป็นทีมชาติบ้านเกิดจริงๆ อย่าง แคนาดา

 

ปราการหลังวัย 24 เจ้าของชื่อเต็มยาวเหยียด “โอลูวาฟิคาโยมี่ โอลูวาดามิโลล่า โทโมรี่” เป็นเด็กปั้นของ เชลซี ที่ถูกส่งออกยืมตัวไปฝึกงานอย่างสม่ำเสมอกับหลายค่ายในช่วงที่่ผ่านมา ทั้งกับ ไบรท์ตัน, ฮัลล์ ซิตี้, ดาร์บี้ และ เอซี มิลาน

 

จนซีซั่น 2020/21 ที่ไปยืมตัวกับ มิลาน แล้วโชว์ฟอร์มเข้าตา ยักษ์ใหญ่แดนมะกะโรนีจึงควัก 25 ล้านปอนด์ซื้อขาด และซีซั่นที่แล้วก็ลงสนามถึง 40 นัด มีส่วนสำคัญช่วยให้ มิลาน คว้าสคูเด็ตโต้มาครองได้สำเร็จในรอบสิบปี จนมาซีซั่นนี้ก็ยังได้เล่นต่อเนื่อง มีตำแหน่งตัวจริงการันตี

 

ทั้งดีกรีแชมป์กัลโช่ ทั้งประสบการณ์ระดับสูงในลีกเลี่ยนและ ชปล. จนถึงการเล่นได้ดีกับ มิลาน วีกแล้ววีกเล่า ล้วนเป็นจุดที่ทำให้ เซาธ์เกต ควรเปิดที่ทางให้ โทโมรี่ มากกว่าที่เป็น

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022คริส สมอลลิ่ง : โรม่า
รับใช้ชาติ 31 นัด
อีกหนึ่งคนที่ไปได้ดีกับการเล่นต่างแดน แต่ไม่รู้ว่าช้าไปแล้วหรือยังกับการหวนมารับใช้ชาติ ในวัย 32 ย่าง 33

 

อำลา แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างถาวรไปแจ้งเกิดใหม่กับ โรม่า เมื่อปี 2020 (ภายหลังยืมตัวมาแล้ว 1 ปี) ด้วยค่าตัวไม่ใช่เบา 15+5 ล้านยูโร แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่ดีของทัพหมาป่า โดยเฉพาะเมื่อ สมอลลิ่ง เด่นถึงขั้นเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2022 ที่ชนะ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม 1-0

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เบน ไวท์ : อาร์เซน่อล
รับใช้ชาติ 4 นัด
ไม่อยู่ในทีมชุดเตะ UNL เดือนนี้อย่างเซอร์ไพรส์ ทั้งที่นักเตะกำลังเล่นได้ดีกับ อาร์เซน่อล ไม่ว่าจะยืนเซนเตอร์แบ็กหรือถ่างออกมาเล่นแบ็กขวาก็ตาม

 

เคยถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่โอเวอร์เกินไปของ อาร์เซน่อล ที่จ่าย 50 ล้านปอนด์ซื้อจาก ไบรท์ตัน ปีที่แล้ว แต่นี่คือการจ่ายเพื่ออนาคต เมื่อ ไวท์ สามารถอยู่โยงรับใช้ทีมได้นับสิบปี จากที่ตอนนี้เพิ่ง 24 เท่านั้น

 

เช่นกัน มาตรฐานระดับนี้ คุณสมบัติแบบนี้ ถ้า เซาธ์เกต จะวางให้ ไวท์ เป็นตัวหลักหลังบ้านชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ก็จะยิ่งดีต่อตัวนักเตะมากขึ้นไปอีก

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ไทโรน มิงส์ : แอสตัน วิลล่า
รับใช้ชาติ 17 นัด
อยู่ในทีมชุดรองแชมป์ยูโร 2020 แต่ก็กลับถูกมองข้ามไปในระยะหลัง ซึ่งอาจจะด้วยฟอร์มกับ แอสตัน วิลล่า ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก รวมถึงการมีตัวเลือกเซนเตอร์แบ็กค่อนข้างเยอะของ เซาธ์เกต

 

แต่หากได้อยู่ในทีม มิงส์ ก็น่าจะสร้างประโยชน์กับลูกกลางอากาศได้มาก กับส่วนสูงถึง 196 เซนติเมตร ใหญ่ที่สุดในทัพสิงโตคำราม

 

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส : เบิร์นลี่ย์
รับใช้ชาติ 0 นัด
ดาวรุ่งชื่อเรียกยากอายุเพียง 20 ขวบที่ เบิร์นลี่ย์ ยืมตัวมาใช้จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่เคยก้าวขึ้นมาเล่นสิงโตคำรามชุดใหญ่มาก่อน ภายหลังตระเวนเล่นชุดเล็กไล่ระดับจาก ยู-16 ไปจนถึง ยู-21 มาแล้วเป็นสิบๆ เกม

 

ยังจัดเป็นเพียงอนาคตของทีมชาติอังกฤษ แต่ก็น่าจับตามองไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อ ฮาร์วู้ด-เบลลิส กำลังได้รับการโค้ชโดยตรงจากตำนานเรือใบอย่าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่เบิร์นลี่ย์

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เลวี่ คอลวิลล์ : ไบรท์ตัน
รับใช้ชาติ 0 นัด
เช่นกันกับ เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส ว่า เลวี่ คอลวิลล์ ก็คงยังเป็นอนาคตระยะยาวของสิงโตคำราม ไม่ใช่กับชุดนี้ ที่คงเซอร์ไพรส์มากๆ หาก เซาธ์เกต จะชายตามอง

 

คอลวิลล์ อายุแค่ 19 เท่านั้น และซีซั่นนี้ย้ายยืมจาก เชลซี ไป ไบรท์ตัน ซึ่งก็ได้ลงสนามสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 2 นัด

 

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022แกรี่ เคฮิลล์ : ฟรีเอเยนต์
รับใช้ชาติ 61 นัด
อยู่ในสถานะ “กึ่งเลิกเล่น” ภายหลังแยกทางกับ บอร์นมัธ เมื่อหมดสัญญาหลังจบซีซันที่แล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับใครใหม่

 

ดาวเตะวัย 36 อาจผ่านวันวัยพีคๆ ของตัวเองมาแล้ว (และสภาพร่างกายก็คงไม่ 100%) แต่เรื่องประสบการณ์คงถือได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร กับการรับใช้ชาติ 61 นัด ผ่านฟุตบอลโลกมา 2 สมัย ยูโรอีก 1 หน รวมถึงการอยู่โยงเล่นกับ เชลซี ยาวนาน 6-7 ปีก่อนหน้านี้

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ฟิล โจนส์ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รับใช้ชาติ 27 นัด
ตัวละครลับค่ายปีศาจแดง…ลับเสียจนซีซั่นนี้ เอริก เทน ฮาก ยังไม่ใช้งานแม้แต่นาทีเดียว แถมไม่ถูกลงทะเบียนเป็นหนึ่งใน 25 รายชื่อทีมชุดใหญ่เพื่อเล่นพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุอานามแค่ 30 ถ้วน หากว่า โจนส์ เรียกความฟิตกลับมาอยู่ในทีมผีแดง ชุดลงเล่นบอลถ้วยรายการต่างๆ ได้ ก็อาจมีสิทธิ์คืนสู่ทำเนียบทีมชาติได้เหมือนกัน หลังได้สวมชุดสิงโตคำรามหนสุดท้าย ก็ฟุตบอลโลก 2018 โน่น

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022จอห์น เทอร์รี่ & ริโอ เฟอร์ดินานด์
รับใช้ชาติรวมกัน 159 นัด
อันนี้ขายขำแล้วจ้า เมื่อแต่ละคนเลิกเล่นไปนานโข แถมอายุเลยหลักสี่เข้าไปแล้ว (41 กับ 43) แต่ถ้าจะเรียกตัวมาเป็นทีมสตาฟฟ์ ช่วยติวเข้มกองหลังที่มี ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

สรุป
จากลิสต์ที่ร่ายมาทั้งหน้า ชัดเจนว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ได้ขาดไร้ซึ่งตัวเลือกเลย กับปราการหลังที่เข้าข่ายนับสิบราย เขาสามารถจิ้ม “ใครก็ได้ทั้งนั้น” มาแทน แม็กไกวร์ ไม่ว่าจะใช้ระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กที่ชอบ หรือกลับไปใช้แผงแบ็กโฟร์ก็ตาม

 

โทโมรี่ – ไดเออร์ – สโตนส์
วอล์คเกอร์ – ไดเออร์ – สโตนส์
วอล์คเกอร์ – โทโมรี่ – สโตนส์
ไดเออร์ – สโตนส์ – โทโมรี่
ไวท์ – ไดเออร์ – สโตนส์
โทโมรี่ – ไวท์ – ไดเออร์
ฯลฯ และ ฯลฯ

 

แต่ก็อีกนั่นแหละ การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับ เซาธ์เกต เพียงคนเดียว

 

ซึ่งก็ดูเหมือนว่า จากที่ตะบี้ตะบันส่งลงมาตลอด ไม่ดร็อปไม่เปลี่ยนออก ก็ไม่มีทีท่าเลยว่า เซาธ์เกต จะเปลี่ยนใจไปจากชายคนนี้

 

แถมในการให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ เยอรมนี นายใหญ่สิงโตคำราม ก็ยังเอ่ยปากหนุนหลัง แม็กไกวร์ เข้าให้อีก “ผมรู้ ทุกคนสนใจแต่ความผิดพลาดของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่พวกเขาไม่ได้สนใจเลยว่า แฮร์รี่ ทำได้ดีแค่ไหนในสองเกมที่ผ่านมา เขามีจังหวะที่ช่วยทีมได้หลายครั้ง แต่ทุกอย่างถูกบดบังโดยความผิดพลาดไม่กี่ครั้ง”

 

“มันมีประเด็นให้ได้ถกเถียงกันอยู่เสมอ แต่ผมคิดว่าช่วงเวลาแบบนี้ เราต้องสนับสนุนนักเตะที่ดีที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดของเราอย่างเต็มที่”

 

เพราะนั้น, ในกรณีที่ถ้า แม็กไกวร์ ไม่อาจเรียกฟอร์มที่ดีและเรียกความมั่นใจของตัวเองได้จริงๆ ในสองเดือนท้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022, สุดท้ายท้ายสุดจริงๆ ทางเดียวที่จะทำให้ เซาธ์เกต เปลี่ยนใจได้

 

กองเชียร์สิงโตก็คงต้องแช่งชักหักกระดูกให้ แม็กไกวร์ ดวงแตกเจ็บหนักจนอดไปบอลโลกเท่านั้นเอง!

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
BBC
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Sports Illustrated
Getty Images
Twitter

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"

“4 สิ่งที่อังกฤษต้อง ‘เปลี่ยน’ เพื่อฟุตบอลโลก 2022”

ทั้งที่อยู่ในสถานะรองแชมป์ยูโร 2020 แต่ปรากฏว่า อังกฤษ ฟุบหนักมากเหลือเกินในหลายเดือนหลัง–จนถึงขั้น “ตกชั้น” จากยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เห็นดังนี้ แดนนี่ เมอร์ฟี่ จึงมีคำแนะนำบางอย่างถึง แกเร็ธ เซาธ์เกต ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้า…

 

อาจพอเข้าใจได้ถึงการสะดุดล้มหน้าทิ่มหน้าตำ — แต่พอสังเขป สำหรับทีมที่เพิ่งไปถึงระดับ “รองแชมป์” (หรือแชมป์) ทัวร์นาเมนต์สำคัญก่อนหน้า เมื่อไม่ต้องมองไกล ก็ฟุตบอลโลกนี่เองที่ (ดูเหมือนจะ) มี  “อาถรรพ์แชมป์เก่า”  หลายปีหลังนอกจากป้องกันแชมป์ไม่ได้ ยังพาเหรดกันตกรอบแรกอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

แต่ก็ยากที่ใครจะคาดคิดถึงชะตากรรมแบบนี้ของ อังกฤษ

 

แพ้ ฮังการี 0-1
เสมอ เยอรมนี 1-1
เสมอ อิตาลี 0-0
แพ้ ฮังการี 0-4
แพ้ อิตาลี 0-1

 

หนึ่งคือ ดันมาเจอ ฮังการี ชุดคึกเป็นม้า ชุดกัญชาเสรี แข็งที่สุดและดีที่สุดในรอบหลายสิบปี
สองคือ โชคดวงอาจไม่เป็นใจในบางเกม
และสามคือ ก็ห่วยเองนั่นแหละจะโทษใคร!

 

ผลคือ 5 นัดผ่านไปใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 สิงโตคำรามกลายร่างเป็นแมวเหมียว ชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 3 ยิงได้ลูกเดียวถ้วน–แถมเป็นจุดโทษ ไม่มีประตูจากโอเพ่นเพลย์ พร้อมการันตีการจบ “บ๊วยของกลุ่ม” โดยไม่ต้องสนใจเกมปิดท้ายกับ เยอรมนี ที่เวมบลีย์ ในวันที่ 26 ก.ย. แต่อย่างใด (เยอรมนีมี 6 แต้ม ส่วน ฮังการี – อิตาลี ชิงแชมป์กลุ่มกัน)

 

และการรั้งบ๊วยนั่น หมายถึงว่าพวกเขาต้อง “ตกชั้น” ไปเล่นในลีก B ร่วมกับพวก จอร์เจีย, กรีซ, คาซัคสถาน, มอนเตเนโกร หรืออีกหลายทีมเกรดรองของทวีป ใน UNL หนถัดไป 2024/25 (เพื่อชิงสิทธิ์เลื่อนชั้นกลับสู่ลีก A อีกครั้งให้ได้)

 

แต่ที่สำคัญกว่านั้น ก็คือ ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะมาถึงในอีกไม่เต็ม 2 เดือน เท่ากับ อังกฤษ จะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ด้วยฟอร์มภาพรวมอันน่าผิดหวัง และบรรยากาศทะมึนทึมภายในทีม

 

“นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญมากสำหรับ แกเร็ธ เซาธ์เกต” แดนนี่ เมอร์ฟี่ ในฐานะคอมเมนเตเตอร์, อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ (2001-2003) 9 นัด และอดีตขวัญใจเด็กหงส์ ลิเวอร์พูล เกริ่นกับ เดลี่ เมล “การเล่นที่ไร้ความดุดันและขาดความคิดสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาที่ฟุตบอลโลกกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย และก่อให้เกิดความกังวลอย่างแท้จริง”

 

“คำถามก็คือ แล้วเขาควรทำอย่างไร? ควรยึดติดกับสิ่งที่มี — ที่ไม่นานนี้เขาพา อังกฤษ ไปถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลกและเข้าชิงชนะเลิศยูโร หรือเขาควรเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง?”

 

“ในสายตาของผม เขาควรรีบลงมือเปลี่ยนก่อนที่จะสาย กล้าเสี่ยงกว่าที่เคยเป็น และนี่คือแผนการ 4 ลำดับขั้นของผม ในการจะช่วยเซฟอังกฤษของเซาธ์เกต”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"1. หันหลังให้ความเพลย์เซฟ
สำคัญคือ เนชั่นส์ ลีก ที่สิงโตคำรามกลายร่างเป็นน้อนแมว ลงสนาม 5 นัดชนะใครใม่เป็น ในขณะที่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ กำลังจะมาถึงในอีกไม่ครบ 2 เดือนเต็ม

 

สำหรับในรอบแรกที่กาตาร์ อังกฤษ จะอยู่ร่วมสายกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา และเพื่อนบ้านอย่าง เวลส์ ซึ่ง เมอร์ฟี่ มองว่า “เราโชคดีมากพอที่ได้อยู่ในกลุ่มที่กาตาร์ซึ่งเราสามารถครองแชมป์กลุ่มได้แม้ว่าเราอาจจะเล่นได้ไม่ดีนักก็ตาม แต่หลังจากนั้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นในรอบน็อคเอาท์?”

 

“เราจะทำได้แค่หวังว่า มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นซ้ำรอยทัวร์นาเมนต์เก่าๆ หรือเราจะฉกฉวยโอกาสจากรอบแบ่งกลุ่ม เปิดใช้พรสวรรค์ที่เรามีในแนวรุก สร้างความมั่นใจและโมเมนตัมจากตรงนั้น?”

 

“สมมุติว่าเราต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการเจอกับทีมแข็งๆ สักราย และเราเล่นได้ไม่ดีพอ ถึงตรงนั้น เซาธ์เกต จะเจอปัญหากับหน้าที่การงานของเขาแน่ แต่ขณะเดียวกัน แฟนๆ จะยอมรับเรื่องราวที่โชคร้ายหากพวกเขารู้สึกว่าเราแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้า ถ้าเราทุ่มเทพยายามกันแล้วและเล่นได้น่าดูชม”

 

“ผมเป็นแฟนตัวยงของสิ่งที่แกเร็ธทำ เขาประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผมคาดไว้ แต่คุณไม่สามารถยืนนิ่งเฉยได้ ทุกอย่างต้องมีวิวัฒนาการ ถึงเวลาแล้วที่จะเสี่ยง ที่จะบิดให้เกิดความแตกต่าง การอยู่เฉยในตอนนี้อาจทำให้เกิดปัญหาได้”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"2. โยนแผน 3 เซนเตอร์แบ็กทิ้งไปซะ
จะบอกว่า “ติดมาจากยูโร” ก็คงไม่ใช่ เพราะที่จริง แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ใช้ระบบ 3 เซนเตอร์แบ็ก 3-4-3 ในยูโร 2020 แค่ไม่กี่นัด เช่นเกมชนะ เยอรมนี 2-0 หรือนัดชิงชนะเลิศกับ อิตาลี เป็นต้น

 

แต่เมื่อมาถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก มีอย่างน้อย 2-3 เกมที่ เซาธ์เกต เลือกใช้ 3 เซนเตอร์แบ็กลงสนาม อย่างเกมล่าสุดที่แพ้ อิตาลี 0-1 ก็ใช่ — ไคล์ วอล์คเกอร์, เอริก ไดเออร์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขนาบข้างด้วยวิงแบ็ก รีซ เจมส์ – บูกาโย่ ซาก้า

 

จุดนี้คือสิ่งที่ เมอร์ฟี่ มองว่าต้อง “โละทิ้ง” สถานเดียว “ทุกคนต่างรู้ว่า อังกฤษ ไม่ได้ประตูจากการเล่นโอเพ่นเพลย์นานกว่าเจ็ดชั่วโมงเข้าไปแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เป็นเพราะเราถูกคาดเดารูปแบบการโจมตีได้ง่ายเกินไป ดังนั้นการเปลี่ยนระบบการเล่นจะช่วยได้”

 

“แกเร็ธ ต้องกลับไปเล่นด้วยแนวรับ 4 คน มีไม่กี่ทีมที่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการใช้ 3 เซนเตอร์แบ็ก มันเป็นการเล่นที่ระมัดระวังเกินไป การใช้หลังบ้าน 4 คนจะช่วยให้คุณมีความคล่องตัวมากขึ้น มันจะทำให้มีผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มากขึ้นด้วย รวมทั้งเหมาะกับการเล่นของ จู๊ด เบลลิงแฮม หรือ เมสัน เมาท์ เช่นเดียวกัน”

 

“ระบบ 4 กองหลังจะทำให้มีตัวมากขึ้นในเกมรุก และยังเป็นสิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่คุ้นเคย นักเตะจากแมนฯ ซิตี้ เล่นในระบบนี้ ลิเวอร์พูลก็เช่นกัน สโมสรชั้นนำส่วนใหญ่ใช้ระบบนี้ทั้งนั้น”

 

“ไคล์ วอล์คเกอร์ ไม่ได้เล่นด้วยระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กกับ ซิตี้ ในทุกสัปดาห์ ไม่ต่างกันกัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ยูไนเต็ด ส่วนทาง เบลลิงแฮม เล่นแบบ 3 กองกลางกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ บูกาโย่ ซาก้า ก็ไม่ได้เป็นวิงแบ็กกับ อาร์เซน่อล อีกแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ แกเร็ธ กำลังทำ เหมือนเขากำลังขุดหลุมฝังกลบตัวเอง”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"3. กลับมาใช้งานแบ็กโฟร์
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว อดีตเจ้าพ่อฟรีคิกแห่งแอนฟิลด์ ย้ำว่า 4-4-2 ปกติ หรือไม่ก็ 4-3-3 หรืออะไรก็ได้–ให้เป็นแผงแบ็กโฟร์ คือหมากการเล่นที่เหมาะสมสุดแล้วของ อังกฤษ อย่าไปคิดอะไรซับซ้อนให้ปวดหัว

 

“หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ เซาธ์เกต คือเขาดูไม่แน่ใจว่าจะดึงเอาสิ่งที่ดีที่สุดจากฟูลแบ็กของเขาออกมาได้อย่างไร เมื่อเขาดูเหมือนว่าจะมีตัวเลือกมากเกินไป”

 

“รีซ เจมส์ เป็นเพียงคนเดียวที่เล่นทางด้านขวาในระบบวิงแบ็กเป็นประจำ ส่วนที่เหลือค่อนข้างคุ้นเคยกับแบ็กโฟร์มากกว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ คีแรน ทริปเปียร์ ต่างเสนอในสิ่งที่แตกต่างออกไป”

 

“ผมรู้สึกประหลาดใจที่ไม่เห็น เบน ชิลเวลล์ ทางซ้าย เขารู้ระบบ 3 กองหลังดี เขาได้ลงสนามพอสมควรในซีซั่นนี้ เขาเปลี่ยนเกมให้เชลซีในนัดที่เจอกับเวสต์แฮม ทำประตูหนึ่งลูกและมีส่วนกับอีกหนึ่งประตูด้วย”

 

แต่ที่สำคัญนอกจากการกลับมาใช้แผงแบ็กโฟร์ ก็คือ เซาธ์เกต ต้องตัดสินใจเลือก “ฟูลแบ็กตัวจริง” ของตัวเอง ได้แล้ว — มาช้ายังดีกว่าไม่มา

 

“ถึงเวลาแล้วที่ แกเร็ธ จะต้องเลือกฟูลแบ็ก และมอบความไว้วางใจกับพวกเขาอย่างเต็มที่ สำหรับทีมที่เริ่มจะยิงประตูได้ยากขึ้นอย่างพวกเขา ยิ่งมีตัวสร้างสรรค์เกมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น”

 

“ถ้าเขาเลือกจะปรับเป็นแผงแบ็กโฟร์ เซนเตอร์แบ็กของเขาจะสบายใจขึ้นกับการยืนตำแหน่ง แม็กไกวร์ อาจดูแข็งแกร่งในเกมกับอิตาลี แต่เขาไม่อาจหลีกหนีปัญหากับ ยูไนเต็ด ไปได้ และผมอยากเห็น ฟิคาโย่ โทโมรี่ ได้โอกาสลงสนามกับทีมของ เซาธ์เกต มากกว่านี้”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"4. เชื่อใน เจมส์ แมดดิสัน
ปิดท้าย แดนนี่ เมอร์ฟี่ ชี้ไปที่จุดน่าสนใจอย่างการขาด “ตัวสร้างสรรค์เกม” ของทัพ ทรี ไลออนส์

 

เพราะแม้จะมีตัวดีๆ อย่าง เมสัน เมาท์, เจมส์ วอร์ด-เพราส์ หรือ ฟิล โฟเด้น ไปจนถึงตัวที่ไม่ถูกเลือกมาในทีมชุดเดือนนี้อย่าง แจ็ค กรีลิช, คอนเนอร์ กัลลาเกอร์, เจสซี่ ลินการ์ด แต่ผลงานของ อังกฤษ ก็เป็นอย่างที่เห็นกัน พวกเขาไม่อาจปฏิเสธความดีความชอบ (หรอ?!?) ของการที่ยิงใครไม่ได้เลยในรูปแบบโอเพ่นเพลย์ ของ เนชั่นส์ ลีก งวดนี้

 

เมอร์ฟี่ มองว่า คนที่จะตอบโจทย์นี้ได้ คือคนที่ เซาธ์เกต มองข้ามไปตลอดช่วงหลัง — เจมส์ แมดดิสัน

 

“จากเดิมที่สามารถใส่ชื่อได้ 23 คน ฟุตบอลโลกครั้งนี้ แกเร็ธ สามารถยกขบวนนำทีม 26 คนไปกาตาร์ได้ และมันควรจะต้องมีพื้นที่สำหรับ เจมส์ แมดดิสัน”

 

“แม้ซีซั่นนี้ เลสเตอร์ จะดูมีปัญหาในทีม แต่ก็ยังไม่มีกองกลางชาวอังกฤษคนใดที่สามารถทำประตูและแอสซิสต์ได้มากไปกว่า แมดดิสัน เขามีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการเปิดแนวรับคู่แข่ง แม้ว่าเขาอาจไม่ได้เริ่มด้วยการเป็นตัวจริง แต่คุณก็รู้ว่าเขาจะลงมาและทำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้นได้ เขาดีในระดับนั้น”

 

“การเล่นที่ไม่ต้องกังวลกับการทำผิดพลาด คือกุญแจสำคัญในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ผู้เล่นจำนวนมากเมื่อพวกเขาเปลี่ยนจากการเล่นในระดับสโมสรไปสู่ระดับชาติ จะกังวลเรื่องการสูญเสียบอลเพราะจังหวะจ่ายบอลเสี่ยงๆ แต่ แมดดิสัน ไม่เป็นแบบนั้น”

 

สำหรับ แมดดิสัน วัย 25 สร้างผลงานสุดเจ๋งในซีซั่นที่แล้ว ด้วยการตะบันไปถึง 18 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีม (เจมี่ วาร์ดี้ 17, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ 11, แพ็ทสัน ดาก้า 11) ส่วนซีซั่นนี้ ท่ามกลางฟอร์มบู่ๆ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็ยังยิงได้ถึง 3 ลูกจาก 6 เกมพรีเมียร์ลีก

 

แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมา เจ้าของเบอร์ 10 เลสเตอร์ ได้โอกาสลงสนามรับใช้ชาติไปเพียง 1 เกมถ้วนเท่านั้น ด้วยการลงเป็นสำรองครึ่งหลังนัดพบ มอนเตเนโกร ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022

 

“ไม่สำคัญว่าเขาจะไม่อยู่ในทีมชุดล่าสุดนี้ ไม่สำคัญว่าเขาจะไม่ได้เล่นให้อังกฤษก่อนฟุตบอลโลก แกเร็ธ ควรยกเว้นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อ แมดดิสัน”

 

“และก็ไม่สำคัญว่าเขาเคยมีความผิดทางวินงวินัยมาก่อนหรือไม่ หลายคนในทีมชุดนี้ก็เคยได้รับโอกาสครั้งที่สอง ไม่ว่าจะ แจ๊ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น หรือแม้แต่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เองก็เคยถูกตัดชื่อภายหลังมีเรื่องมีราวกับ โจ โกเมซ ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็มีประเด็นที่กรีซเหมือนกัน”

 

“ฟุตบอลต้องนำหน้าเรื่องอื่นแล้ว และเราจะยิ่งเห็นว่า อังกฤษ ต้องการ แมดดิสัน มากๆ หากว่าพวกเขายังคงล้มเหลวอยู่อีกในเกมกับ เยอรมนี”

 

 

ไกด์เถื่อน เรียบเรียง

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"

“อังกฤษยังเป็นแชมป์โลกได้!”
แต่ในขณะที่หลายๆ ฝ่ายเริ่มจะกาชื่อ อังกฤษ ทิ้งจากสารบบแชมป์โลกที่กาตาร์ ทางฝั่ง โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือทีมชาติอิตาลี ที่เป็นผู้สยบสิงโตโดยตรงใน เนชั่นส์ ลีก กลับมองต่างไปจากคนอื่นๆ เมื่อเชื่อว่า เจ้าของแชมป์โลก 1 สมัย (1966) ยังคงมีโอกาสดีในการจะเพิ่มจำนวนโทรฟี่ขึ้นในช่วงปลายปีนี้

 

มันโช่ เอ่ยหลังเกมที่ ซาน ซิโร่ ว่า การเปลี่ยนแท็กติกของตนจาก 4-3-3 มาเป็น 3-5-2 ไม่ใช่ประเด็นสำคัญสุดของชัยชนะ “ระบบเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญกว่าคือเรื่องแคแรกเตอร์ ความมุ่งมั่นในการเล่นเกมบุกและควบคุมเกม เรายังขาดประสบการณ์กันอยู่บ้าง นักเตะบางคนของเขาอายุน้อยมาก แต่เราก็เล่นกันได้ดีในวันนี้”

 

“ชัยชนะเกมนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อมันช่วยให้เรามีความสงบนิ่งที่จะมุ่งสู่การเป็นแชมป์กลุ่ม เราเอาชนะ อังกฤษ ได้ ซึ่งนี่คือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก”

 

“ในสายตาของผม อังกฤษ คือหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้พวกเขาจะแพ้เกมนี้ก็ตาม พวกเขาก็ยังมีโอกาสดีในการคว้าแชมป์โลก”

 

 

 

 

อ้างอิง
DAILY MAIL
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Teamtalk
Sky Sports
Futbol on FanNation

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022

เบรคสุดท้าย…ก่อนฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะเผลอหรือไม่ วันเวลาก็พาเรามาถึงเบรคทีมชาติช่วงสุดท้ายท้ายสุดแล้ว ก่อนรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 จะโรมรัน

 

ในขณะที่เรากำลังตกตะลึงไปกับความร้อนแรงยิงสลุตไม่แผ่วของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์
กำลังจับตาการฟื้นคืนชีพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค เอริก เทน ฮาก
กำลังเป็นพยานการเดินด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของ เรอัล มาดริด
กำลังเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ ยูเวนตุส ของ แม็กซ์ อัลเลกรี
หรือกำลังต้องปาดเหงื่อลุ้นหนักกับเส้นทางของ เชลซี ในถ้วยบิ๊กเอียร์

 

ใครบางคนคงแอบส่ายหัว… แหม่วุ้ย ทีมชงทีมชาติช่างมาขัดจังหวะกันเสียจริง

 

แต่อย่างที่ได้เอ่ยถึงไว้ในเรื่อง “ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?” เมื่อสักสองเดือนก่อน ว่านี่คือคิวทีมชาติที่สุดแสนจะ “จำเป็น” และ “ต้องมี” แบบไม่อาจเลี่ยงหรือบอกผ่านได้ เพื่อที่จะให้บรรดา 32 ชาติสมาชิกผู้เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ได้เตรียมทีมลองของกันเป็นหนท้ายๆ มากๆ ก่อนที่ เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ จะมาถึงในอีกแค่ 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น

 

หลุดจากงวดนี้ไปจะเหลือเพียงช่วง “เตรียมทีม” ลุยรอบสุดท้ายปลายเดือน 11 (20 พ.ย. เปิดสนามบอลโลก) ประมาณไม่เกิน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น และหลายๆ ทีมก็ยังไม่ได้วางโปรแกรมลับแข้งเป็นทางการไว้ในช่วงนั้นด้วย

 

เบรคทีมชาติเดือนนี้ ชาติยุโรปหลายชาติยังต้องเคลียร์ตอนจบของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ว่าจะจบด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว ส่วน 2 ยักษ์ใหญ่อเมริกาใต้ บราซิล-อาร์เจนติน่า เดิมทีมีคิวต้องรีแมตช์กันเอง แต่ปรากฏว่า “งานล่ม” เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างแยกไปเตะเกมลับแข้งของตัวเอง — เพราะอะไร งานนี้มีคำตอบ

 

อย่างที่ว่า นี่คือโปรแกรมอย่างเป็นทางการหนสุดท้ายจริงๆ แล้วก่อน ฟุตบอลโลก 2022 จะมา ความหมายที่เชื่อมโยงต่อเนื่องก็คือ นักเตะรายไหนจะได้ไปบอลโลกแน่ๆ หรือคนไหนมีแนวโน้มหลุดโผ ได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวี ก็สามารถ “จับสังเกต” ได้เหมือนกันจากการเรียกตัวคราวนี้

 

ฉะนั้น เมื่อความสำคัญของ “เบรคทีมชาติ” กันยายน 2022 มีมากขนาดนี้ จึงสมควรสอดส่ายสายตาหากันหน่อยว่าแต่ละทีมมีคิวแบบใด สถานการณ์เป็นอย่างไร ขุมกำลังสภาพทีมมาทรงไหน แบบครบจบในตอนเดียว!

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อังกฤษ

23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อิตาลี (ซาน ซิโร่, มิลาน)

26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เยอรมนี (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนคนรักบอลบ้านเรา เหลือโปรแกรมเช็คบิล เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 3 สองนัดสุดท้าย แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “เสื่อมความหมาย” ไปพอตัว จากการที่เตะ 4 นัดแรกชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งบ๊วยของกลุ่ม

 

อังกฤษ หมดลุ้นคว้าแชมป์กลุ่มเพื่อเข้ารอบชิงแชมป์ไปเรียบร้อย ที่ยังเหลืออยู่มีแค่ต้อง “หนีบ๊วย” ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้นสู่ ลีกบี 2024/25 เท่านั้นเอง

 

ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเบรคทีมชาติงวดนี้ จึงอาจไม่ได้อยู่ที่แมตช์หรือผลลัพธ์สักเท่าไร แต่เป็นโฉมหน้าของขุมกำลังที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวไปติดธง มากกว่า

 

โฟกัสอยู่ที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่ง…ที่เอาฟอร์มไปทิ้งแถวทะเลจีนใต้มาเป็นปีๆ แล้ว

 

ซีซั่นนี้ลงตัวจริง 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้มันซะ 3 เกม (1-2 ไบรท์ตัน, 0-4 เบรนท์ฟอร์ด, 0-1 เรอัล โซเซียดัด) ตรงกันข้าม เกมไหนที่ เอริก เทน ฮาก ไม่ใช้งานกัปตันทีมวัย 29 รายนี้ ปีศาจแดงก็มีเฮมันทุกนัด!

 

ด้วยฟอร์มที่ออกทะเลแบบเห็นจัดชัดจริง ทำให้หลายฝ่ายมองว่า เซาธ์เกต ไม่ควรเรียก แม็กไกวร์ มาติดธงอีกแล้ว และควรเปิดทางให้ เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล) หรือ ไทโรน มิงส์ (วิลล่า) มากกว่า

 

แต่ก็น่าสนใจว่า เซาธ์เกต เรียกตัวนักเตะตำแหน่งกองหลังมาร่วมทีมมากถึง 12 ราย ในจำนวนนี้มีเซนเตอร์แบ็ก 6-7 รายด้วยกัน (แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เอริก ไดเออร์, คอนเนอร์ คอดี้, ฟิคาโย่ โทโมรี่, มาร์ก เกฮี รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์) ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่า แม็กไกวร์ จะได้เล่นแน่ๆ …แต่ถ้ายังได้ลงตัวจริงอีก ก็ตัวใครตัวมัน!

 

squad สิงโตชุดล่าสุดนี้ หน้าใหม่จริงๆ มีแค่ ไอแวน โทนี่ย์ ตัวจบสกอร์หลักของ เบรนท์ฟอร์ด รายเดียวที่ไม่เคยถูกเรียกตัวมาก่อน ในขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด หลุดไปเนื่องจากบาดเจ็บ

 

ส่วนที่โดนมองข้าม มีทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), เจดอน ซานโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี) และ เจสซี่ ลินการ์ด (ฟอเรสต์)

 

แน่นอนว่า 7-8 รายหลังสุดนี้ คงต้องใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กับสองเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก จะได้ไปแอ่วกาตาร์หรือไม่ ล้วนแต่อยู่ในข่าย “ต้องลุ้นหนัก”

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ฝรั่งเศส
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ออสเตรีย (สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เดนมาร์ก (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

แชมป์โลก 2 สมัย ตราไก่ ฝรั่งเศส ตกที่นั่งเดียวกับสิงโตคำราม อังกฤษ ไม่ผิดเพี้ยน จากการเสมอ 2 แพ้ 2 ในสี่เกมแรก หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว เหลือแค่เตะหนีบ๊วย ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้น

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผู้ซึ่งกุมบังเหียนตราไก่มาครบ 10 ปีเต็มไปเรียบร้อย (130 นัด ชนะ 83 มี 2 โทรฟี่แชมป์) ขาดขาประจำที่มีอาการบาดเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง ปอล ป๊อกบา, อูโก้ โยริส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, เตโอ กับ ลูคัส เอร์นันเดซ, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, อิบราฮิมา โกนาเต้, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, คิงสลี่ย์ โกม็อง และ คาริม เบนเซม่า

 

เพียงแต่ตัวที่ยังอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่ฝีเท้าไม่ธรรมดาทั้งสิ้น นำขบวนโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมัน เดมเบเล่ ยุคกลับมาแจ้งเกิดใหม่, จอมเก๋า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์, คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู, ราฟาแอล วาราน, ชูลส์ คุนเด้ ฯลฯ

 

จุดน่าสนใจอยู่ที่แดนกลาง เป็นหน้าใหม่แทบทั้งแผง ตัวเลขห้อยท้ายคือจำนวนการติดทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (เรอัล มาดริด) 12
มัตเตโอ เก็นดูซี่ (มาร์กเซย) 6
จอร์แดน เวเรตูต์ (มาร์กเซย) 5
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (เรอัล มาดริด) 3
ยุสซูฟ โฟฟาน่า (โมนาโก) 0

 

ด้านพวกที่หลุดเนื่องด้วยการพิจารณาของ เดส์ชองส์ และอยู่ในความเสี่ยงจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก ประกอบด้วย วิสซาม เบน เยแดร์ (เซบีย่า), เกลม็องต์ ลองเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม) หรือแม้แต่ มาร์กซิยาล (แมนฯ ยูไนเต็ด) ถ้ายังออดๆ แอดๆ อยู่แบบนี้ บอลโลกก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022สเปน
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สวิตเซอร์แลนด์ (ลา โรมาเรด้า, ซาราโกซ่า)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปรตุเกส (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

ต้องชิงแชมป์กลุ่ม 2 ลีกเอ กับทาง โปรตุเกส แต่เกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็สำคัญกับทัพ กระทิงดุ สเปน ไม่แพ้กัน เนื่องจากถ้าชนะสวิสส์ได้ จะต้องการเพียงผลเสมอเท่านั้นในเกมกับทีมฝอยทอง (แต่ก็ห้ามแพ้แหละ)

 

หลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนทีมอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว นอกเหนือตัวที่บาดเจ็บ (ลาป๊อร์กต์, ติอาโก้, โอยาร์ซาบัล) แล้ว ที่หลุดโผไปอย่าง อันซู ฟาติ, โรดริโก้ โมเรโน่, ดานี่ โอลโม่, เซร์จี้ โรเบร์โต้, มาร์กอส อลอนโซ่ หรือ เซร์คิโอ เรกีลอน ล้วนเหมือนมี “คำเตือน” แปะหน้าว่าต้องรีบเร่งเค้นฟอร์มโดยด่วน ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกเป็นแน่

 

แต่ที่น่าจะ “พลาดบอลโลก” ค่อนข้างแน่–อย่างน่าประหลาดใจ ดูเหมือนจะมีแน่ๆ แล้ว หนึ่งราย นั่นคือ ดาบิด เด เคอา

 

แม้จะมาตรฐานสูงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด (สลับกับออกลูกเหวอเป็นพักๆ) แต่ช่วง 2-3 ปีหลังก็ได้ลงสนามรับใช้ชาติอย่างจำกัดมาตลอด (ไม่ได้เล่นเลยในชุดตกตัดเชือก ยูโร 2020) ครั้นมาชุดนี้ก็หลุดออกมาเลย ไม่เป็นหนึ่งในสามตัวเลือกนายทวารของ หลุยส์ เอ็นริเก้ อีกแล้ว

 

คนที่ เอ็นริเก้ เลือกไปติดธง มี อูไน ซิมอน (บิลเบา), โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน) และ ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เยอรมนี
23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฮังการี (เร้ดบูลล์อารีน่า, ไลป์ซิก)
26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อังกฤษ (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

ตามหลัง ฮังการี 1 แต้ม แต่ก็ได้ลุ้นแชมป์กลุ่ม 3 ลีกเอ เต็มเหนี่ยว โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดกับ ฮังการี โดยตรงในวันศุกร์ ถ้าชนะได้จะแซงขึ้นจ่าฝูงทันที ก่อนเกมสุดท้าย

 

ฮันซี่ ฟลิค ที่ยังทำทีมไม่แพ้ใครสักนัดหลังผ่านไป 13 เกม (ชนะ 9 เสมอ 4) แทบไม่ได้เปลี่ยนทีมจากช่วงหลังๆ โดยขาดสำคัญๆ แค่ มาร์โก รอยส์ ที่บาดเจ็บ รายเดียว

 

นั่นหมายความว่า โฉมหน้าทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของ เยอรมนี ก็จะเป็นทีมประมาณนี้แหละ – นอยเออร์, สเตเก้น, ทรัปป์, รูดิเกอร์, ซูเล่, กินเทอร์, ชล็อตเตอร์เบ็ค, คิมมิช, กุนโดกัน, โกเร็ตซ์ก้า, ฮาแวร์ตซ์, มูเซียล่า, มุลเลอร์, แวร์เนอร์, ซาเน่, นาบรี้

 

ที่ยังไม่ชัวร์จะได้ไปกาตาร์ (แต่อยู่ในทีมชุดนี้นะ) อาจมีอย่างพวก ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก) หรือ อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป (เซาธ์แฮมป์ตัน) ประมาณนี้

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เนเธอร์แลนด์
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปแลนด์ (นาโรโดวี่, วอร์ซอว์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เบลเยียม (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

อีกหนึ่งทีมที่มีแฟนเยอะในบ้านเรา แต่ยังไม่เคยไปถึงแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งก็น่าเป็นห่วงเล็กๆ ว่าด้วยความที่ เนชั่นส์ ลีก ยังไม่จบ แต่รอบสุดท้ายบอลโลกมาคอยท่าแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมกลุ่มกับทีม “ต่างทวีป” ทั้งสิ้น ทั้ง เซเนกัล, เอกวาดอร์ และเจ้าภาพ กาตาร์ ก็ทำให้อาจเจอปัญหากับบอลต่างสไตล์ ไม่ค่อยรู้หน้าค่าตาแบบนี้ได้เหมือนกัน

 

สำหรับในเนชั่นส์ ลีก ทีมกังหันอยู่ในจุดที่ดีของการคว้าแชมป์กลุ่ม จากการมีแต้มเหนือ เบลเยียม 3 คะแนน (10:7) นั่นหมายถึงถ้าชนะ โปแลนด์ ได้ จะต้องการแค่ผลเสมอจากเกมส่งท้าย ปะทะปีศาจแดงแห่งยุโรป เท่านั้น

 

ส่วนขุมกำลังชุดนี้ คุณปู่ หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนทีมพอสมควรจากชุดก่อนๆ ที่หลุดไปด้วยหลายเหตุผล (เจ็บบ้าง ฟอร์มไม่เข้าตาบ้าง) มีทั้ง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ลุค เดอ ยอง, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า, ไรอัน กราเฟนเบิร์ก, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ถ้ายังคงนั่งสำรองก้นด้านกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ด้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มัทไธส์ เดอ ลิกท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ดาลี่ย์ บลินด์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เมมฟิส เดอปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, โคดี้ กัคโป ยังมีที่ทางในทีมตามเดิม เพิ่มเติมด้วย วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) อดีตดาวดับของ สเปอร์ส ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ รอยัล อันท์เวิร์ป คืนสู่ทำเนียบทีมชาติหนแรกในรอบหลายปี

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เบลเยียม
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เวลส์ (คิง โบดวง, บรัสเซลส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เนเธอร์แลนด์ (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

ปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่เวลานี้หล่นจากเบอร์ 1 มาเป็นเบอร์ 2 อันดับโลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง (เสียตำแหน่งให้บราซิล) อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทั้ง 2 เกมที่เหลือ เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มมาจาก เนเธอร์แลนด์ ให้ได้ จากการตามหลังอยู่ 3 แต้มในตอนนี้

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยังคงยึดทีมเดิมๆ เป็นแกน ชนิดหลับตาก็นึกชื่อออก ไม่ว่าจะ เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ธอร์แกน อาซาร์, ยานนิค การ์รัสโก้, ยูรี่ ตีเลอมันส์, ดรีส เมอร์เทนส์ หรือ ติโบต์ กูร์กตัวส์

 

อย่างไรก็ตาม โรเมลู ลูกากู ดาวยิงอินเตอร์ มิลาน บาดเจ็บจนไม่อยู่ในทีมชุดนี้ ในขณะที่ ดิว็อค โอริกี้ ที่เงียบฉี่กับ เอซี มิลาน หรือ คริสเตียน เบนเตเก้ ที่ไปแสวงโชคในสหรัฐฯ กับ ดี.ซี. ยูไนเต็ด แล้วนั้น ไม่ถูกเรียกตัวมาติดธง แต่กลับยังมี มิชี่ บัตชูอายี่ (28) ที่ย้ายจาก เชลซี ไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ อยู่ในทีม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022โปรตุเกส
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สาธารณรัฐเช็ก (ซิโนโบ, ปร้าก)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สเปน (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

เจ้าของแชมป์ยูโร 2016 ถูกประเมินเป็นเพียง “ม้านอกสายตา” สำหรับการคั่วแชมป์โลกที่กาตาร์ ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไปค่อนข้างเยอะของตัวชูโรงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ว่าในขณะเดียวกันยังมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ชูเอา เฟลิกซ์, ราฟาเอล เลเอา หรือ ดีโอโก้ โชต้า เป็นตัวความหวัง ก็ตาม

 

รายชื่อข้างต้น ต่างยังคงอยู่ในทีมของ แฟร์นันโด ซานโตส ทั้งหมด ส่วนที่หลุดไปมีอาทิ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง), เรนาโต้ ซานเชซ (เปแอสเช) รวมถึง ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์) ที่อายุปาไป 36 แล้ว

 

สำหรับสถานการณ์ใน เนชั่นส์ ลีก ทีมฝอยทองอยู่ในสถานะเป็นรอง สเปน จากการมีแต้มตามหลัง 1 คะแนน หมายถึงอย่างน้อยต้องชนะ สาธารณรัฐเช็ก เป็นอันดับแรก แล้วก็มีโอกาสสูงที่ยังต้อง “บังคับชนะ” สเปน ในเกมสุดท้ายอีกทีเพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เดนมาร์ก
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โครเอเชีย (มักซิเมียร์, ซาเกร็บ)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฝรั่งเศส (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

อีกหนึ่งชาติยุโรปที่ถูกมองจากหลายฝ่ายว่ามีสิทธิ์ทำเซอร์ไพรส์ ถัดจากการเข้าถึงตัดเชือกยูโร 2020, การตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นชาติที่ 3 (ถัดจาก กาตาร์ และ เยอรมนี) และการลุ้นแชมป์กลุ่ม 1 ลีกเอ อย่างเต็มตัว ด้วยมีโอกาสสูงจะทำสำเร็จ จากการที่มี 9 แต้ม นำหน้าทั้ง โครเอเชีย (7), ออสเตรีย (4) และ ฝรั่งเศส (2) ที่หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว

 

แต่แม้กระนั้น เกมเยือน โครเอเชีย ในวันพฤหัสบดี สำคัญแบบโคตรๆ เมื่อทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ไม่อาจหลุดแพ้ได้เลย หากพลาดพลั้งขึ้นมามีอันหล่นจากจ่าฝูงทันที แถมนัดสุดท้ายยังต้องเจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส อีกด้วย

 

ความเปลี่ยนแปลงในขุมกำลังของ ฮูลมันด์ มีเยอะ–ในหน้าตลาด เมื่อหลายต่อหลายแข้งคนสำคัญถึงเวลาเปลี่ยนสังกัด ไม่ว่าจะ คริสเตียน เอริคเซ่น, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, มิคเคล ดัมส์การ์ด, มาร์ติน เบรธเวท หรือ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

แต่พวกที่เอ่ยถึงทั้งหมดต่างยังคงอยู่เป็นแกนของทีมโคนมตามปกติ ที่หลุดไปไม่โดนเรียกมีอาทิ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น, ปิโอเน่ ซิสโต้, โมฮาเหม็ด ดารามี่

 

ส่วนทาง อันเดรียส คอร์เนเลียส, โรเบิร์ต สคอฟ, โยนาส วินด์, คริสเตียน นอร์การ์ด บาดเจ็บทั้งหมด

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022บราซิล
23/09 อุ่นเครื่องพบ กาน่า (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ตูนิเซีย (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)

 

ที่จริงแล้ว ฟีฟ่า ได้สั่งให้ บราซิล มาลงเตะรีแมตช์กับ อาร์เจนติน่า (เกมเจ้าปัญหาเมื่อ 5 ก.ย. 2021 คู่นี้ลงสนามกันแค่ 5 นาทีก็โดนแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบราซิล จนลุกลามบานปลายเป็นการวอล์คเอาต์ของแข้งฟ้าขาว และเกมต้องยกเลิกในที่สุด) ในเบรคทีมชาติงวดนี้ แต่ปรากฏว่าทั้ง บราซิล และ อาร์เจนติน่า ได้ปฏิเสธการลงเล่นเกมนี้ซ้ำ เมื่อต่างก็มองไม่เห็นว่าการรีแมตช์จะเกิดประโยชน์อันใด สู้ปล่อยให้แยกกันไปเล่นเกมลับแข้ง เตรียมทีมสู้ศึกบอลโลก จะเป็นเรื่องดีกับทั้งสองมากกว่า

 

ตีเต้ ที่ถูไม้ถูมือจะนำทีมครองแชมป์โลกให้ได้ในรอบ 20 ปี กำลังมีตัวเลือกนักเตะดีๆ ล้นมือ จนทำให้ต้องหมางเมินหลายๆ คนไป ไม่ว่าจะ กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อาร์ตูร์ เมโล่, เฟลิเป้ มอนเตโร่, ดานี่ อัลเวส แต่กลุ่มนี้ก็ยังอยู่ในข่ายพิจารณาไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ (หรือบางคนก็จะได้ไปแน่ๆ แต่แค่ว่า “ได้พัก” สำหรับเดือนนี้เท่านั้นเอง)

 

ประเด็นของทีมชุดล่าสุดนี้ คงมีประมาณ 2 ข้อ
1) แนวรุก ต่อให้ไม่นับ เปโดร ตัวใหม่จากฟลาเมงโก้ ก็ยังยืนเบียดไหล่ชนไหล่ ใครจะลงใครจะนั่ง เป็นเรื่องปวดหัวของ ตีเต้ ดีแท้
เนย์มาร์ (เปแอสเช) 119 นัด / 74 ประตู
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล) 55 / 17
ริชาร์ลิซอน (สเปอร์ส) 36 / 14
วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) 14 / 1
ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า) 9 / 3
อันโตนี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 9 / 2
มาเตอุส คุนญ่า (แอตฯ มาดริด) 7 / 0
โรดรีโก้ โกเอส (เรอัล มาดริด) 5 / 1

 

กับ 2) ทั้งที่ตัวเลือกมีบานเบอะ ตรงกลาง เฟร็ด ก็ยังอุตส่าห์จะติดอยู่อีก!

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อาร์เจนติน่า
23/09 อุ่นเครื่องพบ ฮอนดูรัส (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)
27/09 อุ่นเครื่องพบ จาไมก้า (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)

 

เช่นเดียวกันกับ บราซิล ที่เกมรีแมตช์ “ซูเปอร์กลาซิโก้” ระหว่างคู่รักคู่แค้นแดนละติน ได้ถูกยกเลิกคิวไปแม้ ฟีฟ่า จะสั่งการมา

 

อาร์เจนติน่า วางโปรแกรมเล่นในเบรคทีมชาติงวดนี้เอาไว้ 2 นัด เป็นการยกพลไปเก็บตัวและลงสนามที่สหรัฐอเมริกา โดยจะเล่นที่ ไมอามี่ ฟลอริด้า และ แฮร์ริสัน นิว เจอร์ซี่ย์ ตามลำดับ

 

ทีมฟ้าขาวตั้งใจเรียก 2 ทีมจากคอนคาเคฟอย่าง ฮอนดูรัส และ จาไมก้า มาทดสอบฝีเท้าลองเชิง ก่อนที่ในรอบสุดท้ายพวกเขาจะต้องดวลกับ เม็กซิโก มหาอำนาจของโซนคอนคาเคฟ ในเกมที่ 2 นั่นเอง (นอกเหนือจากการพบ ซาอุฯ และ โปแลนด์)

 

สำหรับทีมชุดนี้ของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ เช่นเดิม ร่วมด้วยซูเปอร์สตาร์ชื่อคุ้นหูอย่าง เปาโล ดีบาล่า, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย, อเลฮานโดร โกเมซ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ หรือประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

ส่วนที่หลุดออกไปมีอาทิ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), ลูคัส อลาริโอ (แฟร้งค์เฟิร์ต), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), ฮวน ฟอยธ์ (บียาร์เรอัล) ที่แน่นอนว่าพวกนี้ก็คงต้องเร่งฟอร์มในระดับสโมสรช่วงโค้งสุดท้ายกันหน่อย ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกแหงๆ

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ญี่ปุ่น
23/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ สหรัฐอเมริกา (สนามกลางที่เยอรมนี)
27/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ เอกวาดอร์ (สนามกลางที่เยอรมนี)

 

โยกมาดูทางฝั่งเอเชียกันบ้างพอกล้อมแกล้ม “ซามูไรสีน้ำเงิน” วางคิวช่วงนี้เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ กิริน ชาลเลนจ์ คัพ โดยเชิญ สหรัฐอเมริกา กับ เอกวาดอร์ มาเป็นแขก ซึ่งจะลงเล่นกันที่ ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

 

กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ปรับทัพพอสมควร เปิดที่ทางให้นักเตะจากเจลีกมาติดทีมหลายราย ส่วนตัวนอกที่เล่นในลีกยุโรป ถูกเมินไปหลายคนจนน่าอิจฉาในทรัพยากรอันเพียบพร้อม ไม่ว่าจะ ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), โค อิตาคุระ (กลัดบัค), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือ เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์)

 

แต่แม้จะเมินไปอื้อ ตัวนอกอีกหลายต่อหลายรายก็ยังคงอยู่เป็นแกนหลัก ไม่ว่าจะ 3 แข้งเซลติก เคียวโง ฟุรุฮาชิ – ไดเซน มาเอดะ – เรียว ฮาตาเตะ, ริตสึ โดอัน (ไฟรบวร์ก), ไดจิ คามาดะ (แฟร้งค์เฟิร์ต), ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก), ทาเคฟุสะ คุโบะ (โซเซียดัด), เกงกิ ฮารางูจิ (อูนิโอน), กาคุ ชิบาซากิ (เลกาเนส), วาตารุ เอนโดะ (สตุ๊ตการ์ท), ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ (อาร์เซน่อล) หรือกัปตันทีม มายะ โยชิดะ ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ ชาลเก้ ในวัย 34

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เกาหลีใต้
23/09 อุ่นเครื่องพบ คอสตาริกา (โกยัง สเตเดี้ยม, โกยัง)
27/09 อุ่นเครื่องพบ แคเมอรูน (โซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม, โซล)

 

นัด คอสตาริกา กับ แคเมอรูน มาลับแข้ง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนต้องเจอ อุรุกวัย, กาน่า และ โปรตุเกส ในรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

 

โสมขาวของกุนซือ เปาโล เบนโต้ แทบไม่เปลี่ยนทีมจากชุดก่อนๆ นำโดย ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมจากสเปอร์ส ที่เพิ่งจัดแฮตทริกใส่เลสเตอร์ และตัวลีกยุโรปเพียบ ไม่ว่า ฮวาง ฮี-ชาน (วูล์ฟส์), อี แจ-ซุง (ไมนซ์), จอง วู-ยอง (ไฟรบวร์ก), อี คัง-อิน (มายอร์ก้า), ฮวาง อุย-โจ (โอลิมเปียกอส) หรือ คิม มิน-แจ (นาโปลี)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022กาตาร์
20/09 อุ่นเครื่องพบ โครเอเชีย ยู-23 (สนามกลางที่ออสเตรีย)
23/09 อุ่นเครื่องพบ แคนาดา (สนามกลางที่ออสเตรีย)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ชิลี (สนามกลางที่ออสเตรีย)

 

ปิดท้ายที่เจ้าภาพ กาตาร์ ซึ่งเดินหน้าเตะลับแข้งแบบรัวๆ ทั้งอุ่นเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยเดือนนี้จัดไปเน้นๆ 3 นัด (เตะที่ออสเตรียทั้งหมด) ก่อนที่เดือน พ.ย. จะจัดอีก 2 นัด พบ ปานามา และ อินเดีย ก่อนรอบสุดท้ายมาถึงช่วงปลายเดือน

 

ส่วนในแง่ขุมกำลัง เฟลิกซ์ ซานเชซ กุนซือทัพ The Maroon ไม่อาจปรับเปลี่ยนอะไรได้มาก เมื่อไม่ได้มีตัวส่งออกไปเล่นลีกยุโรปอย่างใครเขา ทัพนักเตะชุดนี้ 100% เป็นตัวในลีกกาตาร์เองทั้งหมด และแข้งหน้าเดิมๆ เช่น อัลโมเอซ อาลี, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, อัคราม อาฟีฟ, อับดุลลาซิซ ฮาเต็ม, อับเดลคาริม ฮัสซัน มาตามนัดทั้งหมด

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

สรุปโปรแกรมเบรคทีมชาติเดือนกันยายน 2022

พุธ 21/09

FM เวียดนาม – สิงคโปร์ 19:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สกอตแลนด์ – ยูเครน 01:45

 

พฤหัสบดี 22/09

FM ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ 17:00
FM เวเนซุเอล่า – ไอซ์แลนด์ 23:00
UNL โครเอเชีย – เดนมาร์ก 01:45
UNL ฝรั่งเศส – ออสเตรีย 01:45
UNL เบลเยียม – เวลส์ 01:45
UNL โปแลนด์ – เนเธอร์แลนด์ 01:45
UNL คาซัคสถาน – เบลารุส 21:00
UNL ลิธัวเนีย – หมู่เกาะแฟโร 01:45
UNL ตุรเคีย – ลักเซมเบิร์ก 01:45
UNL สโลวาเกีย – อาเซอร์ไบจาน 01:45
UNL ลัตเวีย – มอลโดว่า 23:00
UNL ลิกเตนสไตน์ – อันดอร์ร่า 01:45
KC ตรินิแดดฯ – ทาจิกิสถาน 17:30
KC ไทย – มาเลเซีย 20:30

 

ศุกร์ 23/09

FM เกาหลีใต้ – คอสตาริกา 18:00
FM ญี่ปุ่น – สหรัฐอมริกา 19:25
FM อิหร่าน – อุรุกวัย 23:00
FM กาตาร์ – แคนาดา 00:00
FM ปารากวัย – ยูเออี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – เอกวาดอร์ 01:00
FM บราซิล – กาน่า 01:30
FM โมร็อกโก – ชิลี 02:00
FM แอลจีเรีย – กินี 02:00
UNL เยอรมนี – ฮังการี 01:45
UNL อิตาลี – อังกฤษ 01:45
UNL บอสเนียฯ – มอนเตเนโกร 01:45
UNL ฟินแลนด์ – โรมาเนีย 01:45
UNL จอร์เจีย – มาซิโดเนียเหนือ 23:00
UNL บัลแกเรีย – ยิบรอลตาร์ 01:45
UNL เอสโตเนีย – มอลต้า 23:00

เสาร์ 24/09

FM อาร์เจนติน่า – ฮอนดูรัส 07:00
FM แอฟริกาใต้ – เซียร์ร่า ลีโอน 20:00
FM คีร์กีสถาน – รัสเซีย 21:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – โตโก 23:00
FM โบลิเวีย – เซเนกัล 00:00
FM อินเดีย – สิงคโปร์ 19:00
FM ลาว – มัลดีฟส์ 15:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สาธารณรัฐเช็ก – โปรตุเกส 01:45

UNL สเปน – สวิตเซอร์แลนด์ 01:45
UNL อาร์เมเนีย – ยูเครน 20:00
UNL ไอซ์แลนด์ – รัสเซีย (เลื่อน)
UNL สโลวีเนีย – นอร์เวย์ 23:00
UNL สกอตแลนด์ – ไอร์แลนด์ 01:45
UNL อิสราเอล – อัลเบเนีย 01:45
UNL เซอร์เบีย – สวีเดน 01:45
UNL ไอร์แลนด์เหนือ – โคโซโว 23:00
UNL ไซปรัส – กรีซ 01:45

 

อาทิตย์ 25/09

FM โคลอมเบีย – กัวเตมาลา 06:30
FM เม็กซิโก – เปรู 08:00
FM นิวซีแลนด์ – ออสเตรเลีย 10:00
UNL ออสเตรีย – โครเอเชีย 01:45
UNL เดนมาร์ก – ฝรั่งเศส 01:45
UNL เนเธอร์แลนด์ – เบลเยียม 01:45
UNL เวลส์ – โปแลนด์ 01:45
UNL สโลวาเกีย – เบลารุส 23:00
UNL อาเซอร์ไบจาน – คาซัคสถาน 23:00
UNL หมู่เกาะแฟโร – ตุรเคีย 01:45
UNL ลักเซมเบิร์ก – ลิธัวเนีย 01:45
UNL อันดอร์ร่า – ลัตเวีย 20:00
UNL มอลโดว่า – ลิกเตนสไตน์ 20:00
KC นัดชิงที่ 3 17:30
KC นัดชิงชนะเลิศ 20:30

 

จันทร์ 26/09

UNL อังกฤษ – เยอรมนี 01:45
UNL ฮังการี – อิตาลี 01:45
UNL มอนเตเนโกร – ฟินแลนด์ 01:45
UNL โรมาเนีย – บอสเนียฯ 01:45
UNL ยิบรอลตาร์ – จอร์เจีย 01:45
UNL มาซิโดเนียเหนือ – บัลแกเรีย 01:45
UNL ซานมาริโน่ – เอสโตเนีย 01:45

 

อังคาร 27/09

FM เม็กซิโก – โคลอมเบีย 09:00
FM เกาหลีใต้ – แคเมอรูน 18:00
FM เอกวาดอร์ – ญี่ปุ่น 18:55
FM แอฟริกาใต้ – บอตสวาน่า 20:00
FM แคนาดา – อุรุกวัย 23:00
FM บาห์เรน – ปานามา 23:00
FM กาตาร์ – ชิลี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – สหรัฐอเมริกา 01:00
FM อุซเบกิสถาน – คอสตาริกา 01:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – กินี 01:00
FM บราซิล – ตูนิเซีย 01:30
FM ปารากวัย – โมร็อกโก 02:00
FM แอลจีเรีย – ไนจีเรีย 02:00
UNL โปรตุเกส – สเปน 01:45
UNL สวิตเซอร์แลนด์ – สาธารณรัฐเช็ก 01:45
UNL ไอร์แลนด์ – อาร์เมเนีย 01:45
UNL ยูเครน – สกอตแลนด์ 01:45
UNL อัลเบเนีย – ไอซ์แลนด์ 01:45
UNL รัสเซีย – อิสราเอล (เลื่อน)
UNL นอร์เวย์ – เซอร์เบีย 01:45
UNL สวีเดน – สโลวีเนีย 01:45
UNL กรีซ – ไอร์แลนด์เหนือ 01:45
UNL โคโซโว – ไซปรัส 01:45

 

พุธ 28/09

FM จาไมก้า – อาร์เจนติน่า 07:00
FM เปรู – เอล ซัลวาดอร์ 07:00
FM ฮอนดูรัส – กัวเตมาลา 08:00

หมายเหตุ – UNL ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก / FMเกมอุ่นเครื่อง / KC คิงส์คัพ

 

 

อ้างอิง
Soccerway
WIKIPEDIA
The Statesman

ภาพประกอบ
Sports Brief
Footy Headlines
Goal

มองฟุตบอลโลก 2022 กับ เดวิด เบ็คแฮม

มองฟุตบอลโลก 2022 กับ เดวิด เบ็คแฮม

ในขวบวัย 47 และการแขวนสตั๊ดเลิกเล่นไปแล้วร่วมสิบปีของ เดวิด เบ็คแฮม

 

อันที่จริง เขาก็ไม่ได้ข้องแวะกับฟุตบอลมากไปกว่าการลงทุนเปิดแฟรนไชส์ เป็นเจ้าของสโมสรร่วมกับเพื่อนๆ หุ้นส่วน ในเอ็มแอลเอส สหรัฐอเมริกา

 

แม้กระนั้น ชื่อเสียงเรียงนาม “เดวิด เบ็คแฮม” ยังดึงดูดความสนใจได้อยู่เสมอ

 

กับฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะมาถึง เบ็คแฮม ก็จะมีส่วนร่วมด้วย

 

ไม่ใช่ทีมงานของ แกเร็ธ เซาธ์เกต หรือคนเบื้องหลังสิงโตคำราม แต่เบ็คแฮมคือ “แขกคนสำคัญ” ของรัฐบาลกาตาร์ ผ่านโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปยังกาตาร์เฉลี่ยมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2030

 

ว่าแต่ในฐานะอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ และผู้ผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาถึง 3 สมัย เบ็คแฮม มองเห็นอะไรใน ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ บ้าง ไปง้างปากซุปตาร์อย่างเขากัน…

 

 

มองฟุตบอลโลก 2022 กับ เดวิด เบ็คแฮม

 

ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะมาถึงในอีกไม่กี่สิบวัน มันน่าตื่นเต้นอย่างไรสำหรับทั้งนักฟุตบอลและแฟนๆ?
มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ และเป็นสิ่งที่คุณตั้งตารออยู่ไม่ว่าจะในฐานะนักเตะหรือแฟนบอล มันน่าตื่นเต้นสำหรับผู้เล่นเมื่อคุณได้รู้ว่าคุณเตรียมต้องเผชิญหน้ากับใคร และใครที่คุณกำลังต้องเตรียมตัวให้พร้อมเจอ นี่เป็นช่วงเวลาสำหรับผู้เล่นและแฟนๆ ที่จะตระหนักว่าฟุตบอลโลกใกล้จะมาถึงเต็มทีแล้ว และความตื่นเต้นก็เริ่มที่จะก่อตัวขึ้น

 

นี่คือฟุตบอลโลกครั้งแรกในตะวันออกกลางและโลกอาหรับ มันมีความสำคัญอย่างไร?
เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนในกาตาร์ และจะเป็นแรงบันดาลใจอย่างมาก ผมพูดเสมอมาเกี่ยวกับมรดกของการแข่งขันฟุตบอลโลกสำหรับกาตาร์ และมันยังรวมถึงมรดกของฟุตบอลโลกทุกหนทุกแห่งด้วย นั่นคือสิ่งที่ฟุตบอลโลกนำมาสู่ชาติเจ้าภาพ – มันเป็นช่วงเวลาที่สร้างแรงบันดาลใจ สำหรับกาตาร์ นี่คือโอกาสที่จะอวดโฉมประเทศ ความรักในฟุตบอล ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของพวกเขาสู่สายตาชาวโลก การได้มีผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา มารวมตัวกันที่กาตาร์ จะเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศและภูมิภาค

 

มันจะเป็นฟุตบอลโลกที่ค่อนข้างกะทัดรัด เมื่อสนามแข่งขันทั้งหมดอยู่ใกล้ๆ กัน สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นอย่างไร?
เป็นประโยชน์มากเลยล่ะ ทีมที่ต้องเดินทางไกลที่สุดจะใช้เวลาแค่ประมาณ 40-45 นาทีโดยรถบัสเท่านั้นเอง ย้อนไปในฟุตบอลโลกที่ผมเล่น มันอาจต้องใช้เวลา 2 หรือ 3 วันในการฟื้นตัวจากแมตช์แข่งขันและการเดินทาง สำหรับผู้เล่น กาตาร์ได้เสนอการเตรียมความพร้อมที่สมบูรณ์แบบแล้ว

 

การแข่งขันจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม สำหรับหลายๆ ประเทศ ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล มันจะมีประโยชน์อะไรบ้าง?
ในฐานะนักเตะทีมชาติอังกฤษ เราเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกทุกครั้งหลังจากผ่านฤดูกาลที่ทรหดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นหนึ่งในลีกที่หนักหน่วงที่สุดในโลก เมื่อคุณมาถึงช่วงสิ้นสุดฤดูกาล คุณจะเหนื่อยล้าและต้องใช้เวลาพักฟื้น บางทีก็ต้องการมากกว่า 2-3 สัปดาห์ แต่คราวนี้จะเป็นช่วงกลางฤดูกาล ดังนั้นนี่จึงเหมาะสำหรับผู้เล่นชาวอังกฤษ และทีมอื่นๆ ที่สามารถเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ด้วยโอกาสที่แท้จริง

 

แล้วด้วยการที่นักเตะจะมาร่วมแข่งขันในสภาพร่างกายที่สดชื่น มันทำให้คุณคาดหวังถึงมาตรฐานการเล่นที่ดีขึ้นในช่วงฟุตบอลโลกครั้งนี้หรือไม่?
ไม่ต้องสงสัยเลย คุณจะคาดหวังถึงมาตรฐานที่สูงเสมอในฟุตบอลโลก แต่การมาเล่นกันกลางฤดูกาลแบบนี้ มาตรฐานมีแต่จะสูงขึ้นไปอีก สภาพอากาศก็กำลังจะสมบูรณ์แบบ สนามแข่งขันน่าทึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวกก็น่าทึ่ง แฟนๆ จะมีช่วงเวลาที่ดี มันถูกตระเตรียมไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

มองฟุตบอลโลก 2022 กับ เดวิด เบ็คแฮม

 

คุณคาดหวังถึงผลงานจากทีมของคุณ อังกฤษ ประมาณไหน?
ความคาดหวังของผมสำหรับทีมชาติอังกฤษนั้นสูงเสมอ แฟนๆ ของเราก็จะมีความคาดหวังสูงไม่ต่างกัน และถูกต้อง ผมรู้สึกว่า แกเร็ธ (เซาธ์เกต) ทำงานได้อย่างเหลือเชื่อ เรามีทีมที่รวมตัวกันมาหลายปีพอสมควร และคุณไม่สามารถเรียกพวกเขาว่าทีมอายุน้อยได้อีกต่อไปแล้ว – แต่ก็เป็นความจริงที่นักเตะหลายคนยังอายุน้อย แล้วเราก็ยังมีตัวประสบการณ์สูงอย่าง แฮร์รี่ เคน ด้วยเช่นกัน ผมรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่แท้จริงสำหรับเรา เรากำลังเข้าสู่การแข่งขันด้วยฟอร์มที่ดี เราแค่ต้องรักษามันไว้ให้ตลอดรอดฝั่ง

 

ใครจะเป็นคีย์แมนของอังกฤษ?
ก็ต้องบอกว่า แฮร์รี่ เคน เขาเป็นผู้นำ เป็นกัปตันของเรา และเป็นคนทำประตูให้กับเรา เมื่อเขาโชว์ฟอร์มได้ในระดับสูงสุด เขาจะมีความสำคัญมากต่อทีมของเรา

 

อังกฤษ จะเป็นหนึ่งในทีมตัวเต็งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 แต่คุณมองว่าชาติไหนที่มีโอกาสอีกบ้าง?
เมื่อคุณนึกถึงฟุตบอลโลก คุณจะพูดถึง บราซิล อาร์เจนติน่า และฝรั่งเศส โดยอัตโนมัติ พวกเขาเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่ครองแชมป์มามากมาย อีกประเทศหนึ่งที่ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นการเล่นขอวพวกเขาคือ เดนมาร์ก ผมคิดว่าพวกเขาอาจสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ได้ พวกเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี และก็มักทำได้ดีเสมอในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ผมยังรอคอยที่จะได้เห็นทีมเจ้าภาพ กาตาร์ ด้วยเหมือนกัน พวกเขามีทีมอายุน้อยที่อยู่ด้วยกันมานาน พวกเขารู้จักกันดี และยังจะได้รับแรงหนุนพิเศษจากบรรยากาศในสนามด้วย

 

ในฐานะที่ผ่านฟุตบอลโลกมามากถึง 3 สมัย คุณมีอะไรจะแนะนำกับนักเตะที่จะเล่นในฟุตบอลโลกของพวกเขาเป็นครั้งแรก?
จงสนุกกับมัน ฟุตบอลโลกคือจุดสูงสุด เป็นอะไรที่อยู่ยอดบนสุด และเป็นระดับที่ดีที่สุดที่ผู้เล่นทุกคนจะสามารถไปถึงได้ คำแนะนำของผมคือจงสนุกกับมัน เพราะคุณอาจจะได้ข้องเกี่ยวกับมันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

 

คุณได้เข้าเยี่ยมชมสนามแข่งขันหลายแห่งของกาตาร์ในช่วงที่ผ่านมา แล้ว ณ ช่วงเวลาที่คุณก้าวลงในสนาม คุณอยากให้ตัวเองยังเล่นอยู่รึเปล่า?
ผมอายุ 47 แต่ผมยังรู้สึกเสมอว่าสามารถปัดฝุ่นรองเท้าสตั๊ดที่มี เอามาสวมและลงเล่นในฟุตบอลโลกได้ แม้ในตอนนี้ของผม ซึ่งไม่แก่เลยนะ (หัวเราะ) ผมยังรู้สึกว่าสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีก หรือลา ลีกา หรือทีมชาติอังกฤษได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อผมเดินเข้าไปในสนาม ผมก็อยากลงไปในฐานะนักเตะอยู่เสมอ

 

ท้ายสุด คุณอยากส่งข้อความถึงแฟนๆ ที่เตรียมจะเดินทางไปกาตาร์เพื่อเข้าชมฟุตบอลโลกครั้งนี้ ว่าอะไร?
พวกเขาจะได้พบเจอกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ในอดีต แฟนบอลต้องเสียเวลาเดินทางไปมาระหว่างเกม แต่ในกาตาร์ พวกเขาสามารถเข้าชมได้มากกว่าหนึ่งนัดต่อวัน เพราะมันเป็นทัวร์นาเมนต์ที่กะทัดรัด เดินทางไม่ไกล ผมคิดว่าแฟนๆ จะเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่กาตาร์นำเสนอ จะมีอาหารเลิศรส การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนในท้องถิ่น และสิ่งต่างๆ มากมายให้ชมและเพลิดเพลิน นอกเหนือไปจากฟุตบอล

 

 

ไกด์เถื่อน เรียบเรียง

 

 

อ้างอิงและภาพประกอบ
FIFA.com