ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022

ถ้าไม่ใช่ ‘เจ้าพ่อคอนเทนต์’ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022

จะกี่เสียงที่บอกให้เปลี่ยน จะกี่คนที่เร้าให้ดร็อป แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่สนใจ ยังคงใช้งาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อย่างสม่ำเสมอ จนเป็นคำถามว่า เอ…หรือมันเพราะ อังกฤษ ขาดแคลนผู้เล่นตำแหน่ง “เซนเตอร์แบ็ก” อย่างนั้นหรือ???

 

กลายเป็นเรื่องลึกลับของโลกลูกหนัง ว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับยอดดาวเตะที่ชื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กันแน่?

 

เพราะจากเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่งฝีเท้าจัดจ้าน เจ้าของรางวัลนักเตะแห่งปี เลสเตอร์ ซิตี้ 2017/18, เจ้าของค่าตัว 80 ล้านปอนด์ในตอนย้ายสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัมเมอร์ 2019 และเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมปีศาจแดง

 

วันผ่านคืนผัน แม็กไกวร์ กลับกลายเป็น “เจ้าพ่อคอนเทนต์” ในแง่ลบ เป็นตัวตลกกลางสนาม และเป็นจุดอ่อนที่คู่แข่งสามารถตักตวงได้อย่างเต็มที่ในแทบทุกเกมที่ลงเล่น

 

พอเข้าใจได้กับฟอร์มที่ดาวน์ลงไปในฤดูกาลที่แล้ว (2021/22) เมื่อแนวรับแต่ละคนรอบข้างของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ฟอร์มหลุด ไว้วางใจได้ยากกันแทบทุกคน ที่สุดแล้วผลงานที่ต้นสังกัดเข้าป้ายเพียงอันดับ 6 ในลีก ไม่มีแชมป์รายการใดติดมือ ไปจนถึงการเปลี่ยนตัวกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดนเด้ง ราล์ฟ รังนิค ก็อยู่ไม่ยืด ยังผลเสียในเรื่องของ “ความมั่นใจ” ที่ลดระดับลงของ แม็กไกวร์

 

แต่ครั้นซีซั่นใหม่นี้มาถึง กุนซือใหม่ เอริก เทน ฮาก เข้ามา–พร้อมการันตีปลอกแขนให้ แม็กไกวร์ ว่าจะยังคงได้เป็นหัวหน้าทีมผีแดงต่อไป ดาวเตะวัย 29 ก็กลับไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งที่เคยมีออกมาได้ ยังคงเล่นผิดเล่นพลาด เชื่องช้า สมาธิหลุด และอะไรต่างๆ นานา จนยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าค่าตัว 80 ล้านปอนด์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายไปนั้น กลายเป็นการลงทุนที่เหลวไหลไม่ได้ความอีกหนึ่งดีล

 

นัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก แม็กไกวร์ ลงตัวจริงจับคู่เพื่อนใหม่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปรากฏ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ไบรท์ตัน คาบ้าน 1-2

 

สัปดาห์ถัดมา แม็กไกวร์ ลงตัวจริงต่อเนื่องในเกมบุกเตะ เบรนท์ฟอร์ด ปรากฏโดนผึ้งต่อยแบบไม่ต้องเล่นมุกว่า “ต่อยนานยัง” แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ขาด 0-4

 

ถัดมา เทน ฮาก ตัดสินใจดร็อป แม็กไกวร์ ลงนั่งสำรอง เปิดทางให้ ราฟาแอล วาราน ลงมายืนคู่ มาร์ติเนซ บ้าง และทันใดนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เดินหน้าชนะ 4 เกมติดต่อกันทันที!

 

ยิ่งตลกร้ายกับตัว แม็กไกวร์ ขึ้นไปอีก เมื่อการกลับสู่ไลน์อัพตัวจริงอีกหน ในเกมยูฟ่า ยูโรป้า ลีก นัดเปิดบ้านรับมือ เรอัล โซเซียดัด จากสเปน ก็ปรากฏเป็น โซเซียดัด บุกกำชัยถึงแมนเชสเตอร์ 1-0

 

สรุปสั้นๆ คือ “ทุกนัด” ที่ แม็กไกวร์ ลงตัวจริง แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เรียบ
และ “ทุกนัด” ที่ แม็กไกวร์ โดนดร็อป แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กำชัยได้ทั้งหมด
(เลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนแซวยับ ว่าจุดเปลี่ยนในฟอร์มดีๆ ของผี ก็คือการถอด แม็กไกวร์ ออกจากทีมนี่เอง)

 

ประเด็นก็คือ เห็นแบบนี้ กุนซือทีมชาติอังกฤษ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ยังคงมอบความไว้วางใจให้กับ แม็กไกวร์ อย่างเต็มที่ในคิวทีมชาติ 2 นัดของเดือนนี้ (กันยายน 2022) คิวที่เป็นการเตรียมตัวหนท้ายๆ มากๆ ก่อน ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จะมาถึง

 

23 ก.ย. อังกฤษ บุกเตะ อิตาลี ที่ซาน ซิโร่ — แม็กไกวร์ ลงตัวจริงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็ก ร่วมกับ เอริก ไดเออร์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์

 

แม้ไม่ได้ก่อความผิดพลาดอะไร แต่ อังกฤษ ก็แพ้ 0-1

 

26 ก.ย. อังกฤษ กลับมาเปิดเวมบลีย์รับมือ เยอรมนี — แม็กไกวร์ ยังคงลงตัวจริงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็ก ร่วมกับ เอริก ไดเออร์ และ จอห์น สโตนส์ (ก่อน ไคล์ วอล์คเกอร์ เปลี่ยนลงแทน สโตนส์ ที่บาดเจ็บท้ายครึ่งแรก)

 

เกมนี้เองที่ แม็กไกวร์ โชว์ฟอร์ม “สร้างคอนเทนต์” เข้าให้อีกแล้ว

 

ขณะเกมเสมอ 0-0 น.50 แม็กไกวร์ รับบอลจาก ไดเออร์ แล้วจ่ายไปติด จามาล มูเซียล่า มันดื้อๆ วินาทีต่อมาที่ มูเซียล่า เลี้ยงจี้เข้าใส่ แม็กไกวร์ ก็ไปรวบดาวรุ่งเยอรมันล้มลงอย่างเสียท่า ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วเป่าจุดโทษ อิลคาย กุนโดกัน สังหารไม่พลาด 1-0

 

น.67 แม็กไกวร์ โดนตัดลูกในแดนคู่แข่ง บอลถูกลำเลียงสวนเร็วขึ้นมาจบที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปั่นโค้งหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบเสาอย่างงดงาม 2-0

 

ยังดีที่เกมไม่ได้จบแค่ตรงนี้ (ไม่งั้นยิ่งโดนด่าเละขึ้นอีก) อังกฤษ ยังฮึดขึ้นยิงแซงนำ 3-2 ในยี่สิบนาทีท้าย กระทั่งเกมสิ้นสุดอย่างระทึกที่ 3-3 ไค ฮาแวร์ตซ์ ซัดเม็ดสองทวงเจ๊า น.87 (เป็นความผิดพลาดซองแตกของ นิค โป๊ป บ้าง)

 

แต่ถึงจะไม่แพ้คารัง อังกฤษ ก็ยังสั่งลา เนชั่นส์ ลีก 2022/23 อย่างช้ำเลือดช้ำหนองอยู่ดี — ชนะใครไม่เป็น เสมอ 3 แพ้ 3 รั้งบ๊วยกลุ่ม 3 ลีกเอ ที่หมายถึงว่าต้อง “ตกชั้น” ไปเล่นในลีกบีร่วมกับทีมเกรดรองๆ ทั้งหลายแหล่ใน UNL งวดหน้า 2024/25

 

สำหรับ แม็กไกวร์ ได้รับการตัดเกรดฟอร์มการเล่นจากสื่อผู้ดี ดังนี้…
บีบีซี 2.58/10
สกาย สปอร์ตส์ 5/10
อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด 3/10
เทเลกราฟ 4/10
เดอะ ซัน 4/10

 

นอกจากการตัดเกรด สื่อทุกสำนักยังแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เซาธ์เกต พลาดอย่างแรงที่ยังคงไว้วางใจในตัว แม็กไกวร์ อยู่ — บีบีซี ถึงกับพาดหัวว่า “แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คือปัญหาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต” ทีเดียว

 

ฟอร์มที่ยังคงผุพัง ความมั่นใจที่ลดระดับจนแทบเหลือ 0 บวกกับ ฟุตบอลโลก 2022 กำลังคืบคลานใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

นั่นจึงกลายเป็นคำถามสำคัญว่า การที่ แม็กไกวร์ ยังได้โอกาสจาก เซาธ์เกต นั่นเพราะว่าหรือจริงๆ แล้ว อังกฤษ ขาดแคลนนักเตะตำแหน่ง “เซนเตอร์แบ็ก” หรืออย่างไร?

 

และถ้าไม่ใช่เจ้าพ่อคอนเทนต์อย่าง แม็กไกวร์ แล้ว ยังมีตัวอื่นที่สามารถเป็นหลักในแนวรับสิงโตคำราม ได้อีกหรือไม่?

 

ลองไปสำรวจตรวจตรากันหน่อยน่าจะดี…

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022จอห์น สโตนส์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
รับใช้ชาติ 59 นัด
หนึ่งในตัวยืนของ แกเร็ธ เซาธ์เกต อีกรายนั่นแหละ ถ้าไม่เจ็บหนักไปเสียก่อนก็จะได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แบบ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ด้วยดีกรีเล่นทีมชาติ 59 นัด กับความสำเร็จเพียบรายการกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เจ้าตัวย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาเล่นด้วยตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

 

ซีซั่นนี้ สโตนส์ ยังแสดงให้เห็นถึงความสารพัดประโยชน์ด้วยการขยับขึ้นยืน “มิดฟิลด์ตัวรับ” กับทาง แมนฯ ซิตี้ เพียงแต่โดยธรรมชาติก็ยังคงเป็นเซนเตอร์แบ็กอยู่นั่นเอง

 

นี่คือหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ของ เซาธ์เกต และสามารถเป็นคีย์แมนในแดนหลังได้อย่างแน่นอน หากว่าจะหมางเมิน แม็กไกวร์ ไปหาคนอื่นเพื่อมาเติมเต็มหลังบ้าน

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เอริก ไดเออร์ : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
รับใช้ชาติ 47 นัด
เว้นระยะการรับใช้ชาติไปตลอดปี 2021 ก่อนถูกเรียกกลับมาลงตัวจริงทั้ง 2 เกมที่พบกับ อิตาลี และ เยอรมนี ในเดือนนี้

 

ที่จริง อดีตเด็กปั้นสปอร์ติ้ง ลิสบอน เริ่มต้นเส้นทางอาชีพที่การเป็นมิดฟิลด์ แต่เวลาถัดมาก็ถอยลงต่ำ มายืนแบ็กขวาบ้าง เซนเตอร์แบ็กบ้าง

 

แม้ในภาพรวมของการเล่น ไดเออร์ ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญในเกมรับที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะให้เป็นตัวจริงหรือสำรองก็ตาม

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ไคล์ วอล์คเกอร์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
รับใช้ชาติ 70 นัด
อีกหนึ่งขาประจำของ เซาธ์เกต สำหรับการเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวขวาสุดในหมาก 3 กองหลัง หรือจะรับบทแบ็กขวาในแผงแบ็กโฟร์ก็สามารถทำได้อย่างไม่เคอะเขิน เมื่อโดยปกติก็ยืนตรงนี้อยู่แล้วในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

 

ด้วยดีกรีติดทีมยอดเยี่ยม ยูโร 2020 และการรับใช้ชาติมากถึง 70 นัด สูงที่สุดในบรรดาแผงรับชุดนี้ ทำให้ไม่ต้องห่วงเช่นกันว่า วอล์คเกอร์ จะไม่ได้ไปกาตาร์ เพียงแต่ด้วยอายุอานาม 32 แล้ว ก็ทำให้มีสิทธิ์ว่านี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวได้

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022คอนเนอร์ โคดี้ : เอฟเวอร์ตัน
รับใช้ชาติ 10 นัด
ย้ายออกจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ไปสู่สัญญายืมตัวที่ เอฟเวอร์ตัน อย่างเซอร์ไพรส์ในตลาดล่าสุด เมื่อทั้งที่เป็นกัปตันทีมหมาป่า และลงเล่นอย่างสม่ำเสมอปีละไม่ต่ำกว่า 40 นัดมาหลายปีดีดัก

 

ส่วนเมื่อย้ายสู่ กูดิสัน พาร์ค แล้ว เซนเตอร์แบ็กวัย 29 ก็ยังคงได้เล่นต่อเนื่อง ลงสนามไปแล้ว 6 เกมให้ทีมทอฟฟี่ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

 

อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของ โคดี้ คือการที่ไม่ค่อยได้โอกาสลงสนามในระดับนานาชาติมากนัก ไม่ว่าจะเป็นในถ้วยยุโรปหรือกับทีมชาติ ที่เขาเคยได้เล่นให้สิงโตคำรามมาแค่ 10 เกมเท่านั้น

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022มาร์ก เกฮี : คริสตัล พาเลซ
รับใช้ชาติ 3 นัด
คริสตัล พาเลซ ทุ่ม 18 ล้านปอนด์ซื้อ เกฮี มาจาก เชลซี ในปีที่แล้ว และมีส่วนสำคัญในเกมรับของ ปาทริค วิเอร่า มาตลอด จนซีซั่นนี้ก็เริ่มได้ปลอกแขนกัปตันทีมไปสวมใส่บ้างแล้ว

 

ด้วยวัยเพียง 22 คงต้องถือว่า เกฮี ยังอยู่ในขั้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และยังไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะไม่ว่าจะในระดับสโมสรหรือทีมชาติ

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ฟิคาโย่ โทโมรี่ : เอซี มิลาน
รับใช้ชาติ 3 นัด
นี่คือคนที่หลายฝ่ายมองว่า นี่ต่างหากตัวที่ เซาธ์เกต ควรยึดโยงและมอบความไว้วางใจให้ และโชคดีแค่ไหนแล้วที่นักเตะเลือกรับใช้ อังกฤษ ไม่เป็นทีมชาติบ้านเกิดจริงๆ อย่าง แคนาดา

 

ปราการหลังวัย 24 เจ้าของชื่อเต็มยาวเหยียด “โอลูวาฟิคาโยมี่ โอลูวาดามิโลล่า โทโมรี่” เป็นเด็กปั้นของ เชลซี ที่ถูกส่งออกยืมตัวไปฝึกงานอย่างสม่ำเสมอกับหลายค่ายในช่วงที่่ผ่านมา ทั้งกับ ไบรท์ตัน, ฮัลล์ ซิตี้, ดาร์บี้ และ เอซี มิลาน

 

จนซีซั่น 2020/21 ที่ไปยืมตัวกับ มิลาน แล้วโชว์ฟอร์มเข้าตา ยักษ์ใหญ่แดนมะกะโรนีจึงควัก 25 ล้านปอนด์ซื้อขาด และซีซั่นที่แล้วก็ลงสนามถึง 40 นัด มีส่วนสำคัญช่วยให้ มิลาน คว้าสคูเด็ตโต้มาครองได้สำเร็จในรอบสิบปี จนมาซีซั่นนี้ก็ยังได้เล่นต่อเนื่อง มีตำแหน่งตัวจริงการันตี

 

ทั้งดีกรีแชมป์กัลโช่ ทั้งประสบการณ์ระดับสูงในลีกเลี่ยนและ ชปล. จนถึงการเล่นได้ดีกับ มิลาน วีกแล้ววีกเล่า ล้วนเป็นจุดที่ทำให้ เซาธ์เกต ควรเปิดที่ทางให้ โทโมรี่ มากกว่าที่เป็น

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022คริส สมอลลิ่ง : โรม่า
รับใช้ชาติ 31 นัด
อีกหนึ่งคนที่ไปได้ดีกับการเล่นต่างแดน แต่ไม่รู้ว่าช้าไปแล้วหรือยังกับการหวนมารับใช้ชาติ ในวัย 32 ย่าง 33

 

อำลา แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างถาวรไปแจ้งเกิดใหม่กับ โรม่า เมื่อปี 2020 (ภายหลังยืมตัวมาแล้ว 1 ปี) ด้วยค่าตัวไม่ใช่เบา 15+5 ล้านยูโร แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่ดีของทัพหมาป่า โดยเฉพาะเมื่อ สมอลลิ่ง เด่นถึงขั้นเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2022 ที่ชนะ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม 1-0

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เบน ไวท์ : อาร์เซน่อล
รับใช้ชาติ 4 นัด
ไม่อยู่ในทีมชุดเตะ UNL เดือนนี้อย่างเซอร์ไพรส์ ทั้งที่นักเตะกำลังเล่นได้ดีกับ อาร์เซน่อล ไม่ว่าจะยืนเซนเตอร์แบ็กหรือถ่างออกมาเล่นแบ็กขวาก็ตาม

 

เคยถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่โอเวอร์เกินไปของ อาร์เซน่อล ที่จ่าย 50 ล้านปอนด์ซื้อจาก ไบรท์ตัน ปีที่แล้ว แต่นี่คือการจ่ายเพื่ออนาคต เมื่อ ไวท์ สามารถอยู่โยงรับใช้ทีมได้นับสิบปี จากที่ตอนนี้เพิ่ง 24 เท่านั้น

 

เช่นกัน มาตรฐานระดับนี้ คุณสมบัติแบบนี้ ถ้า เซาธ์เกต จะวางให้ ไวท์ เป็นตัวหลักหลังบ้านชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ก็จะยิ่งดีต่อตัวนักเตะมากขึ้นไปอีก

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ไทโรน มิงส์ : แอสตัน วิลล่า
รับใช้ชาติ 17 นัด
อยู่ในทีมชุดรองแชมป์ยูโร 2020 แต่ก็กลับถูกมองข้ามไปในระยะหลัง ซึ่งอาจจะด้วยฟอร์มกับ แอสตัน วิลล่า ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก รวมถึงการมีตัวเลือกเซนเตอร์แบ็กค่อนข้างเยอะของ เซาธ์เกต

 

แต่หากได้อยู่ในทีม มิงส์ ก็น่าจะสร้างประโยชน์กับลูกกลางอากาศได้มาก กับส่วนสูงถึง 196 เซนติเมตร ใหญ่ที่สุดในทัพสิงโตคำราม

 

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส : เบิร์นลี่ย์
รับใช้ชาติ 0 นัด
ดาวรุ่งชื่อเรียกยากอายุเพียง 20 ขวบที่ เบิร์นลี่ย์ ยืมตัวมาใช้จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่เคยก้าวขึ้นมาเล่นสิงโตคำรามชุดใหญ่มาก่อน ภายหลังตระเวนเล่นชุดเล็กไล่ระดับจาก ยู-16 ไปจนถึง ยู-21 มาแล้วเป็นสิบๆ เกม

 

ยังจัดเป็นเพียงอนาคตของทีมชาติอังกฤษ แต่ก็น่าจับตามองไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อ ฮาร์วู้ด-เบลลิส กำลังได้รับการโค้ชโดยตรงจากตำนานเรือใบอย่าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่เบิร์นลี่ย์

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022เลวี่ คอลวิลล์ : ไบรท์ตัน
รับใช้ชาติ 0 นัด
เช่นกันกับ เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส ว่า เลวี่ คอลวิลล์ ก็คงยังเป็นอนาคตระยะยาวของสิงโตคำราม ไม่ใช่กับชุดนี้ ที่คงเซอร์ไพรส์มากๆ หาก เซาธ์เกต จะชายตามอง

 

คอลวิลล์ อายุแค่ 19 เท่านั้น และซีซั่นนี้ย้ายยืมจาก เชลซี ไป ไบรท์ตัน ซึ่งก็ได้ลงสนามสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 2 นัด

 

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022แกรี่ เคฮิลล์ : ฟรีเอเยนต์
รับใช้ชาติ 61 นัด
อยู่ในสถานะ “กึ่งเลิกเล่น” ภายหลังแยกทางกับ บอร์นมัธ เมื่อหมดสัญญาหลังจบซีซันที่แล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับใครใหม่

 

ดาวเตะวัย 36 อาจผ่านวันวัยพีคๆ ของตัวเองมาแล้ว (และสภาพร่างกายก็คงไม่ 100%) แต่เรื่องประสบการณ์คงถือได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร กับการรับใช้ชาติ 61 นัด ผ่านฟุตบอลโลกมา 2 สมัย ยูโรอีก 1 หน รวมถึงการอยู่โยงเล่นกับ เชลซี ยาวนาน 6-7 ปีก่อนหน้านี้

 

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022ฟิล โจนส์ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รับใช้ชาติ 27 นัด
ตัวละครลับค่ายปีศาจแดง…ลับเสียจนซีซั่นนี้ เอริก เทน ฮาก ยังไม่ใช้งานแม้แต่นาทีเดียว แถมไม่ถูกลงทะเบียนเป็นหนึ่งใน 25 รายชื่อทีมชุดใหญ่เพื่อเล่นพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุอานามแค่ 30 ถ้วน หากว่า โจนส์ เรียกความฟิตกลับมาอยู่ในทีมผีแดง ชุดลงเล่นบอลถ้วยรายการต่างๆ ได้ ก็อาจมีสิทธิ์คืนสู่ทำเนียบทีมชาติได้เหมือนกัน หลังได้สวมชุดสิงโตคำรามหนสุดท้าย ก็ฟุตบอลโลก 2018 โน่น

 

 

 

 

ถ้าไม่ใช่ 'เจ้าพ่อคอนเทนต์' แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อังกฤษควรใช้ใครในฟุตบอลโลก 2022จอห์น เทอร์รี่ & ริโอ เฟอร์ดินานด์
รับใช้ชาติรวมกัน 159 นัด
อันนี้ขายขำแล้วจ้า เมื่อแต่ละคนเลิกเล่นไปนานโข แถมอายุเลยหลักสี่เข้าไปแล้ว (41 กับ 43) แต่ถ้าจะเรียกตัวมาเป็นทีมสตาฟฟ์ ช่วยติวเข้มกองหลังที่มี ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

สรุป
จากลิสต์ที่ร่ายมาทั้งหน้า ชัดเจนว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ได้ขาดไร้ซึ่งตัวเลือกเลย กับปราการหลังที่เข้าข่ายนับสิบราย เขาสามารถจิ้ม “ใครก็ได้ทั้งนั้น” มาแทน แม็กไกวร์ ไม่ว่าจะใช้ระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กที่ชอบ หรือกลับไปใช้แผงแบ็กโฟร์ก็ตาม

 

โทโมรี่ – ไดเออร์ – สโตนส์
วอล์คเกอร์ – ไดเออร์ – สโตนส์
วอล์คเกอร์ – โทโมรี่ – สโตนส์
ไดเออร์ – สโตนส์ – โทโมรี่
ไวท์ – ไดเออร์ – สโตนส์
โทโมรี่ – ไวท์ – ไดเออร์
ฯลฯ และ ฯลฯ

 

แต่ก็อีกนั่นแหละ การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับ เซาธ์เกต เพียงคนเดียว

 

ซึ่งก็ดูเหมือนว่า จากที่ตะบี้ตะบันส่งลงมาตลอด ไม่ดร็อปไม่เปลี่ยนออก ก็ไม่มีทีท่าเลยว่า เซาธ์เกต จะเปลี่ยนใจไปจากชายคนนี้

 

แถมในการให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ เยอรมนี นายใหญ่สิงโตคำราม ก็ยังเอ่ยปากหนุนหลัง แม็กไกวร์ เข้าให้อีก “ผมรู้ ทุกคนสนใจแต่ความผิดพลาดของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่พวกเขาไม่ได้สนใจเลยว่า แฮร์รี่ ทำได้ดีแค่ไหนในสองเกมที่ผ่านมา เขามีจังหวะที่ช่วยทีมได้หลายครั้ง แต่ทุกอย่างถูกบดบังโดยความผิดพลาดไม่กี่ครั้ง”

 

“มันมีประเด็นให้ได้ถกเถียงกันอยู่เสมอ แต่ผมคิดว่าช่วงเวลาแบบนี้ เราต้องสนับสนุนนักเตะที่ดีที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดของเราอย่างเต็มที่”

 

เพราะนั้น, ในกรณีที่ถ้า แม็กไกวร์ ไม่อาจเรียกฟอร์มที่ดีและเรียกความมั่นใจของตัวเองได้จริงๆ ในสองเดือนท้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022, สุดท้ายท้ายสุดจริงๆ ทางเดียวที่จะทำให้ เซาธ์เกต เปลี่ยนใจได้

 

กองเชียร์สิงโตก็คงต้องแช่งชักหักกระดูกให้ แม็กไกวร์ ดวงแตกเจ็บหนักจนอดไปบอลโลกเท่านั้นเอง!

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
BBC
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Sports Illustrated
Getty Images
Twitter

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"

“4 สิ่งที่อังกฤษต้อง ‘เปลี่ยน’ เพื่อฟุตบอลโลก 2022”

ทั้งที่อยู่ในสถานะรองแชมป์ยูโร 2020 แต่ปรากฏว่า อังกฤษ ฟุบหนักมากเหลือเกินในหลายเดือนหลัง–จนถึงขั้น “ตกชั้น” จากยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เห็นดังนี้ แดนนี่ เมอร์ฟี่ จึงมีคำแนะนำบางอย่างถึง แกเร็ธ เซาธ์เกต ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้า…

 

อาจพอเข้าใจได้ถึงการสะดุดล้มหน้าทิ่มหน้าตำ — แต่พอสังเขป สำหรับทีมที่เพิ่งไปถึงระดับ “รองแชมป์” (หรือแชมป์) ทัวร์นาเมนต์สำคัญก่อนหน้า เมื่อไม่ต้องมองไกล ก็ฟุตบอลโลกนี่เองที่ (ดูเหมือนจะ) มี  “อาถรรพ์แชมป์เก่า”  หลายปีหลังนอกจากป้องกันแชมป์ไม่ได้ ยังพาเหรดกันตกรอบแรกอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

แต่ก็ยากที่ใครจะคาดคิดถึงชะตากรรมแบบนี้ของ อังกฤษ

 

แพ้ ฮังการี 0-1
เสมอ เยอรมนี 1-1
เสมอ อิตาลี 0-0
แพ้ ฮังการี 0-4
แพ้ อิตาลี 0-1

 

หนึ่งคือ ดันมาเจอ ฮังการี ชุดคึกเป็นม้า ชุดกัญชาเสรี แข็งที่สุดและดีที่สุดในรอบหลายสิบปี
สองคือ โชคดวงอาจไม่เป็นใจในบางเกม
และสามคือ ก็ห่วยเองนั่นแหละจะโทษใคร!

 

ผลคือ 5 นัดผ่านไปใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 สิงโตคำรามกลายร่างเป็นแมวเหมียว ชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 3 ยิงได้ลูกเดียวถ้วน–แถมเป็นจุดโทษ ไม่มีประตูจากโอเพ่นเพลย์ พร้อมการันตีการจบ “บ๊วยของกลุ่ม” โดยไม่ต้องสนใจเกมปิดท้ายกับ เยอรมนี ที่เวมบลีย์ ในวันที่ 26 ก.ย. แต่อย่างใด (เยอรมนีมี 6 แต้ม ส่วน ฮังการี – อิตาลี ชิงแชมป์กลุ่มกัน)

 

และการรั้งบ๊วยนั่น หมายถึงว่าพวกเขาต้อง “ตกชั้น” ไปเล่นในลีก B ร่วมกับพวก จอร์เจีย, กรีซ, คาซัคสถาน, มอนเตเนโกร หรืออีกหลายทีมเกรดรองของทวีป ใน UNL หนถัดไป 2024/25 (เพื่อชิงสิทธิ์เลื่อนชั้นกลับสู่ลีก A อีกครั้งให้ได้)

 

แต่ที่สำคัญกว่านั้น ก็คือ ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะมาถึงในอีกไม่เต็ม 2 เดือน เท่ากับ อังกฤษ จะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ด้วยฟอร์มภาพรวมอันน่าผิดหวัง และบรรยากาศทะมึนทึมภายในทีม

 

“นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญมากสำหรับ แกเร็ธ เซาธ์เกต” แดนนี่ เมอร์ฟี่ ในฐานะคอมเมนเตเตอร์, อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ (2001-2003) 9 นัด และอดีตขวัญใจเด็กหงส์ ลิเวอร์พูล เกริ่นกับ เดลี่ เมล “การเล่นที่ไร้ความดุดันและขาดความคิดสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาที่ฟุตบอลโลกกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย และก่อให้เกิดความกังวลอย่างแท้จริง”

 

“คำถามก็คือ แล้วเขาควรทำอย่างไร? ควรยึดติดกับสิ่งที่มี — ที่ไม่นานนี้เขาพา อังกฤษ ไปถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลกและเข้าชิงชนะเลิศยูโร หรือเขาควรเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง?”

 

“ในสายตาของผม เขาควรรีบลงมือเปลี่ยนก่อนที่จะสาย กล้าเสี่ยงกว่าที่เคยเป็น และนี่คือแผนการ 4 ลำดับขั้นของผม ในการจะช่วยเซฟอังกฤษของเซาธ์เกต”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"1. หันหลังให้ความเพลย์เซฟ
สำคัญคือ เนชั่นส์ ลีก ที่สิงโตคำรามกลายร่างเป็นน้อนแมว ลงสนาม 5 นัดชนะใครใม่เป็น ในขณะที่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ กำลังจะมาถึงในอีกไม่ครบ 2 เดือนเต็ม

 

สำหรับในรอบแรกที่กาตาร์ อังกฤษ จะอยู่ร่วมสายกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา และเพื่อนบ้านอย่าง เวลส์ ซึ่ง เมอร์ฟี่ มองว่า “เราโชคดีมากพอที่ได้อยู่ในกลุ่มที่กาตาร์ซึ่งเราสามารถครองแชมป์กลุ่มได้แม้ว่าเราอาจจะเล่นได้ไม่ดีนักก็ตาม แต่หลังจากนั้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นในรอบน็อคเอาท์?”

 

“เราจะทำได้แค่หวังว่า มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นซ้ำรอยทัวร์นาเมนต์เก่าๆ หรือเราจะฉกฉวยโอกาสจากรอบแบ่งกลุ่ม เปิดใช้พรสวรรค์ที่เรามีในแนวรุก สร้างความมั่นใจและโมเมนตัมจากตรงนั้น?”

 

“สมมุติว่าเราต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการเจอกับทีมแข็งๆ สักราย และเราเล่นได้ไม่ดีพอ ถึงตรงนั้น เซาธ์เกต จะเจอปัญหากับหน้าที่การงานของเขาแน่ แต่ขณะเดียวกัน แฟนๆ จะยอมรับเรื่องราวที่โชคร้ายหากพวกเขารู้สึกว่าเราแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้า ถ้าเราทุ่มเทพยายามกันแล้วและเล่นได้น่าดูชม”

 

“ผมเป็นแฟนตัวยงของสิ่งที่แกเร็ธทำ เขาประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผมคาดไว้ แต่คุณไม่สามารถยืนนิ่งเฉยได้ ทุกอย่างต้องมีวิวัฒนาการ ถึงเวลาแล้วที่จะเสี่ยง ที่จะบิดให้เกิดความแตกต่าง การอยู่เฉยในตอนนี้อาจทำให้เกิดปัญหาได้”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"2. โยนแผน 3 เซนเตอร์แบ็กทิ้งไปซะ
จะบอกว่า “ติดมาจากยูโร” ก็คงไม่ใช่ เพราะที่จริง แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ใช้ระบบ 3 เซนเตอร์แบ็ก 3-4-3 ในยูโร 2020 แค่ไม่กี่นัด เช่นเกมชนะ เยอรมนี 2-0 หรือนัดชิงชนะเลิศกับ อิตาลี เป็นต้น

 

แต่เมื่อมาถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก มีอย่างน้อย 2-3 เกมที่ เซาธ์เกต เลือกใช้ 3 เซนเตอร์แบ็กลงสนาม อย่างเกมล่าสุดที่แพ้ อิตาลี 0-1 ก็ใช่ — ไคล์ วอล์คเกอร์, เอริก ไดเออร์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขนาบข้างด้วยวิงแบ็ก รีซ เจมส์ – บูกาโย่ ซาก้า

 

จุดนี้คือสิ่งที่ เมอร์ฟี่ มองว่าต้อง “โละทิ้ง” สถานเดียว “ทุกคนต่างรู้ว่า อังกฤษ ไม่ได้ประตูจากการเล่นโอเพ่นเพลย์นานกว่าเจ็ดชั่วโมงเข้าไปแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เป็นเพราะเราถูกคาดเดารูปแบบการโจมตีได้ง่ายเกินไป ดังนั้นการเปลี่ยนระบบการเล่นจะช่วยได้”

 

“แกเร็ธ ต้องกลับไปเล่นด้วยแนวรับ 4 คน มีไม่กี่ทีมที่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการใช้ 3 เซนเตอร์แบ็ก มันเป็นการเล่นที่ระมัดระวังเกินไป การใช้หลังบ้าน 4 คนจะช่วยให้คุณมีความคล่องตัวมากขึ้น มันจะทำให้มีผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มากขึ้นด้วย รวมทั้งเหมาะกับการเล่นของ จู๊ด เบลลิงแฮม หรือ เมสัน เมาท์ เช่นเดียวกัน”

 

“ระบบ 4 กองหลังจะทำให้มีตัวมากขึ้นในเกมรุก และยังเป็นสิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่คุ้นเคย นักเตะจากแมนฯ ซิตี้ เล่นในระบบนี้ ลิเวอร์พูลก็เช่นกัน สโมสรชั้นนำส่วนใหญ่ใช้ระบบนี้ทั้งนั้น”

 

“ไคล์ วอล์คเกอร์ ไม่ได้เล่นด้วยระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กกับ ซิตี้ ในทุกสัปดาห์ ไม่ต่างกันกัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ยูไนเต็ด ส่วนทาง เบลลิงแฮม เล่นแบบ 3 กองกลางกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ บูกาโย่ ซาก้า ก็ไม่ได้เป็นวิงแบ็กกับ อาร์เซน่อล อีกแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ แกเร็ธ กำลังทำ เหมือนเขากำลังขุดหลุมฝังกลบตัวเอง”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"3. กลับมาใช้งานแบ็กโฟร์
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว อดีตเจ้าพ่อฟรีคิกแห่งแอนฟิลด์ ย้ำว่า 4-4-2 ปกติ หรือไม่ก็ 4-3-3 หรืออะไรก็ได้–ให้เป็นแผงแบ็กโฟร์ คือหมากการเล่นที่เหมาะสมสุดแล้วของ อังกฤษ อย่าไปคิดอะไรซับซ้อนให้ปวดหัว

 

“หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ เซาธ์เกต คือเขาดูไม่แน่ใจว่าจะดึงเอาสิ่งที่ดีที่สุดจากฟูลแบ็กของเขาออกมาได้อย่างไร เมื่อเขาดูเหมือนว่าจะมีตัวเลือกมากเกินไป”

 

“รีซ เจมส์ เป็นเพียงคนเดียวที่เล่นทางด้านขวาในระบบวิงแบ็กเป็นประจำ ส่วนที่เหลือค่อนข้างคุ้นเคยกับแบ็กโฟร์มากกว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ คีแรน ทริปเปียร์ ต่างเสนอในสิ่งที่แตกต่างออกไป”

 

“ผมรู้สึกประหลาดใจที่ไม่เห็น เบน ชิลเวลล์ ทางซ้าย เขารู้ระบบ 3 กองหลังดี เขาได้ลงสนามพอสมควรในซีซั่นนี้ เขาเปลี่ยนเกมให้เชลซีในนัดที่เจอกับเวสต์แฮม ทำประตูหนึ่งลูกและมีส่วนกับอีกหนึ่งประตูด้วย”

 

แต่ที่สำคัญนอกจากการกลับมาใช้แผงแบ็กโฟร์ ก็คือ เซาธ์เกต ต้องตัดสินใจเลือก “ฟูลแบ็กตัวจริง” ของตัวเอง ได้แล้ว — มาช้ายังดีกว่าไม่มา

 

“ถึงเวลาแล้วที่ แกเร็ธ จะต้องเลือกฟูลแบ็ก และมอบความไว้วางใจกับพวกเขาอย่างเต็มที่ สำหรับทีมที่เริ่มจะยิงประตูได้ยากขึ้นอย่างพวกเขา ยิ่งมีตัวสร้างสรรค์เกมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น”

 

“ถ้าเขาเลือกจะปรับเป็นแผงแบ็กโฟร์ เซนเตอร์แบ็กของเขาจะสบายใจขึ้นกับการยืนตำแหน่ง แม็กไกวร์ อาจดูแข็งแกร่งในเกมกับอิตาลี แต่เขาไม่อาจหลีกหนีปัญหากับ ยูไนเต็ด ไปได้ และผมอยากเห็น ฟิคาโย่ โทโมรี่ ได้โอกาสลงสนามกับทีมของ เซาธ์เกต มากกว่านี้”

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"4. เชื่อใน เจมส์ แมดดิสัน
ปิดท้าย แดนนี่ เมอร์ฟี่ ชี้ไปที่จุดน่าสนใจอย่างการขาด “ตัวสร้างสรรค์เกม” ของทัพ ทรี ไลออนส์

 

เพราะแม้จะมีตัวดีๆ อย่าง เมสัน เมาท์, เจมส์ วอร์ด-เพราส์ หรือ ฟิล โฟเด้น ไปจนถึงตัวที่ไม่ถูกเลือกมาในทีมชุดเดือนนี้อย่าง แจ็ค กรีลิช, คอนเนอร์ กัลลาเกอร์, เจสซี่ ลินการ์ด แต่ผลงานของ อังกฤษ ก็เป็นอย่างที่เห็นกัน พวกเขาไม่อาจปฏิเสธความดีความชอบ (หรอ?!?) ของการที่ยิงใครไม่ได้เลยในรูปแบบโอเพ่นเพลย์ ของ เนชั่นส์ ลีก งวดนี้

 

เมอร์ฟี่ มองว่า คนที่จะตอบโจทย์นี้ได้ คือคนที่ เซาธ์เกต มองข้ามไปตลอดช่วงหลัง — เจมส์ แมดดิสัน

 

“จากเดิมที่สามารถใส่ชื่อได้ 23 คน ฟุตบอลโลกครั้งนี้ แกเร็ธ สามารถยกขบวนนำทีม 26 คนไปกาตาร์ได้ และมันควรจะต้องมีพื้นที่สำหรับ เจมส์ แมดดิสัน”

 

“แม้ซีซั่นนี้ เลสเตอร์ จะดูมีปัญหาในทีม แต่ก็ยังไม่มีกองกลางชาวอังกฤษคนใดที่สามารถทำประตูและแอสซิสต์ได้มากไปกว่า แมดดิสัน เขามีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการเปิดแนวรับคู่แข่ง แม้ว่าเขาอาจไม่ได้เริ่มด้วยการเป็นตัวจริง แต่คุณก็รู้ว่าเขาจะลงมาและทำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้นได้ เขาดีในระดับนั้น”

 

“การเล่นที่ไม่ต้องกังวลกับการทำผิดพลาด คือกุญแจสำคัญในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ผู้เล่นจำนวนมากเมื่อพวกเขาเปลี่ยนจากการเล่นในระดับสโมสรไปสู่ระดับชาติ จะกังวลเรื่องการสูญเสียบอลเพราะจังหวะจ่ายบอลเสี่ยงๆ แต่ แมดดิสัน ไม่เป็นแบบนั้น”

 

สำหรับ แมดดิสัน วัย 25 สร้างผลงานสุดเจ๋งในซีซั่นที่แล้ว ด้วยการตะบันไปถึง 18 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีม (เจมี่ วาร์ดี้ 17, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ 11, แพ็ทสัน ดาก้า 11) ส่วนซีซั่นนี้ ท่ามกลางฟอร์มบู่ๆ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็ยังยิงได้ถึง 3 ลูกจาก 6 เกมพรีเมียร์ลีก

 

แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมา เจ้าของเบอร์ 10 เลสเตอร์ ได้โอกาสลงสนามรับใช้ชาติไปเพียง 1 เกมถ้วนเท่านั้น ด้วยการลงเป็นสำรองครึ่งหลังนัดพบ มอนเตเนโกร ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022

 

“ไม่สำคัญว่าเขาจะไม่อยู่ในทีมชุดล่าสุดนี้ ไม่สำคัญว่าเขาจะไม่ได้เล่นให้อังกฤษก่อนฟุตบอลโลก แกเร็ธ ควรยกเว้นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อ แมดดิสัน”

 

“และก็ไม่สำคัญว่าเขาเคยมีความผิดทางวินงวินัยมาก่อนหรือไม่ หลายคนในทีมชุดนี้ก็เคยได้รับโอกาสครั้งที่สอง ไม่ว่าจะ แจ๊ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น หรือแม้แต่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เองก็เคยถูกตัดชื่อภายหลังมีเรื่องมีราวกับ โจ โกเมซ ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็มีประเด็นที่กรีซเหมือนกัน”

 

“ฟุตบอลต้องนำหน้าเรื่องอื่นแล้ว และเราจะยิ่งเห็นว่า อังกฤษ ต้องการ แมดดิสัน มากๆ หากว่าพวกเขายังคงล้มเหลวอยู่อีกในเกมกับ เยอรมนี”

 

 

ไกด์เถื่อน เรียบเรียง

 

 

 

"4 สิ่งที่อังกฤษต้อง 'เปลี่ยน' เพื่อฟุตบอลโลก 2022"

“อังกฤษยังเป็นแชมป์โลกได้!”
แต่ในขณะที่หลายๆ ฝ่ายเริ่มจะกาชื่อ อังกฤษ ทิ้งจากสารบบแชมป์โลกที่กาตาร์ ทางฝั่ง โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือทีมชาติอิตาลี ที่เป็นผู้สยบสิงโตโดยตรงใน เนชั่นส์ ลีก กลับมองต่างไปจากคนอื่นๆ เมื่อเชื่อว่า เจ้าของแชมป์โลก 1 สมัย (1966) ยังคงมีโอกาสดีในการจะเพิ่มจำนวนโทรฟี่ขึ้นในช่วงปลายปีนี้

 

มันโช่ เอ่ยหลังเกมที่ ซาน ซิโร่ ว่า การเปลี่ยนแท็กติกของตนจาก 4-3-3 มาเป็น 3-5-2 ไม่ใช่ประเด็นสำคัญสุดของชัยชนะ “ระบบเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญกว่าคือเรื่องแคแรกเตอร์ ความมุ่งมั่นในการเล่นเกมบุกและควบคุมเกม เรายังขาดประสบการณ์กันอยู่บ้าง นักเตะบางคนของเขาอายุน้อยมาก แต่เราก็เล่นกันได้ดีในวันนี้”

 

“ชัยชนะเกมนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อมันช่วยให้เรามีความสงบนิ่งที่จะมุ่งสู่การเป็นแชมป์กลุ่ม เราเอาชนะ อังกฤษ ได้ ซึ่งนี่คือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก”

 

“ในสายตาของผม อังกฤษ คือหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้พวกเขาจะแพ้เกมนี้ก็ตาม พวกเขาก็ยังมีโอกาสดีในการคว้าแชมป์โลก”

 

 

 

 

อ้างอิง
DAILY MAIL
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Teamtalk
Sky Sports
Futbol on FanNation