เรื่อง

โปรตุเกส vs สวิตเซอร์แลนด์ : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

โปรตุเกส vs สวิตเซอร์แลนด์ : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : โปรตุเกส vs สวิตเซอร์แลนด์

อังคาร 6 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : GMM25

 

ผลการพบกัน : 25 นัด
โปรตุเกส ชนะ 9
เสมอ 5
สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 11

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โปรตุเกส
เนชั่นส์ ลีก แพ้ สเปน 0-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ไนจีเรีย 4-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ กาน่า 3-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ อุรุกวัย 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เกาหลีใต้ 1-2

 

สวิตเซอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1
อุ่นเครื่อง แพ้ กาน่า 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคเมอรูน 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ บราซิล 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เซอร์เบีย 3-2

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
โปรตุเกส : ชนะ 2 เกมซ้อนเหนือทั้ง กาน่า และ อุรุกวัย จนการันตีการเข้ารอบได้ตั้งแต่จบสองเกมแรก และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ไม่ได้เล่นดีมากแต่ก็มียิงประตูทำสถิติ จนเกมสุดท้ายแม้จะหลุดแพ้ เกาหลีใต้ แต่ก็ไม่ได้สั่นคลอนตำแหน่งแชมป์กลุ่ม
สวิตเซอร์แลนด์ : แสดงให้เห็นถึงเกมรับที่แข็งแกร่งทั้งในเกมชนะ แคเมอรูน 1-0 และยัน บราซิล 0-0 จนถึงนาที 83 (โดน กาเซมิโร่ สอย 1-0) ก่อนจะเจอเกมแลกหมัดกับ เซอร์เบีย ซึ่งทัพนาฬิกาก็ยังมีดีพอจะเบียดชนะ 3-2 ดังนั้นจึงเข้ารอบได้ตามสมควร

 

ความพร้อมก่อนเตะ โปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์

โปรตุเกส
แม้เกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 จะมีรตำหนิพอสมควรกับการทุบ กาน่า 3-2 แต่ก็ยังสร้างความต่อเนื่องด้วยการตบ อุรุกวัย อีก 2-0 จนสุดท้ายแม้จะแพ้ เกาหลีใต้ แต่ไม่ได้มากพอให้หลุดออกจากตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

 

โปรตุเกส เข้ารอบน็อกเอาต์ได้อีกครั้ง เป็นหนที่ 4 จากการเล่นฟุตบอลโลก 5 ทัวร์นาเมนต์หลัง โดยหนึ่งในนั้นมีเข้าไปเป็นอันดับ 4 (2006) ด้วย

 

เกมล่าสุด แฟร์นันโด ซานโตส ปรับ 11 คนแรกค่อนข้างเยอะหลังจากเข้ารอบไปแล้ว และเกมนี้จะกลับไปใช้ตัวจริงเต็มพิกัดอีกหน กระนั้นพวกเขาก็มีปัญหาตัวเจ็บ ทั้ง ดานิโล่ เปเรยร่า, โอตาวิโอ และ นูโน่ เมนเดส

 

ในราย นูโน่ เมนเดส แบ็กดาวรุ่งจากเปแอสเช เจ็บหนักที่ต้นขา รายงานระบุต้องพัก 2 เดือน เท่ากับปิดฉากฟุตบอลโลก 2022 ไปโดยปริยาย ขณะที่ ดานิโล่ เปเรยร่า ก็ยังไม่พร้อมคืนสังเวียน

 

การจัดทัพใช้ 4-3-1-2 ข้างหน้าวาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ชูเอา เฟลิกซ์ เข้าทำ รูเบน ดิอาส สนับสนุนเกมโดย บรูโน่ แฟร์นันเดส ขณะที่ผู้เฒ่า เปเป้ วัยย่าง 40 จะลงยืนเซนเตอร์แบ็กคู่ รูเบน ดิอาส

 

สวิตเซอร์แลนด์
เปิดสนาม เวิลด์ คัพ ด้วยการเฉือนชัย แคเมอรูน 1-0 แต่ว่าจากนั้นต้าน บราซิล ไม่อยู่ แพ้ไป 0-1

 

สุดท้ายเจอเกมแลกหมัดกับ เซอร์เบีย จนชนะ 3-2 ได้เข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เป็นการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายหนที่ 3 จาก 4 ทัวร์นาเมนต์หลัง

 

ความพร้อมของ มูรัต ยาคิน กุนซืออดีตดาวเตะคนดัง มีแค่ต้องเช็กอาการของ เรนาโต้ สเตฟเฟ่น ซึ่งเจ็บกล้ามเนื้อก่อนหน้านี้

 

ขณะที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่มีปัญหาความฟิตจนหายหน้าไปจากเกมแพ้ บราซิล กลับลงช่วยทีมไปแล้วแถมยิงประตูได้ด้วย และเกมนี้ก็จะยืนกลางรุกฝั่งขวา เล่นร่วมกับ ชิบริล โซว์ และ รูเบน วาร์กาส เพื่อสนับสนุนหน้าเป้า บรีล เอ็มโบโล่ ในระบบ 4-2-3-1

 

ตัวความหวัง
โปรตุเกส : บรูโน่ แฟร์นันเดส
ไม่ใช่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่โดดเด่นที่สุดเมื่อสวมชุด โปรตุเกส ลงสนามในช่วงหลัง แต่คือ บรูโน่ แฟร์นันเดส จอมทัพจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยิ่งเล่นยิ่งส่งอิทธิพล เผลอๆ ในภาพรวมจะเล่นได้ดีกว่าตอนรับใช้ปีศาจแดงต้นสังกัดด้วยซ้ำไป โดยสตาร์วัย 28 กดประตูในทีมชาติไปถึง 7 ลูกจากการเล่น 11 นัดในปีนี้ รวมถึง 2 ประตูที่เช็คบิล อุรุกวัย

 

สวิตเซอร์แลนด์ : บรีล เอ็มโบโล่
พังประตูนำชัยให้ สวิตเซอร์แลนด์ เชือด แคเมอรูน บ้านเกิดเมืองนอน (ก่อนโอนสัญชาติ) 1-0 ก่อนที่จะสร้างปัญหาให้เกมรับบราซิลได้พอตัว แล้วก็มายิงอีกเม็ดนัดสยบ เซอร์เบีย ซึ่งแสดงถึงความอันตรายที่หอกร่างบึกวัย 25 มี โดยถึงตอนนี้กดให้ทีมชาติไปแล้ว 13 ลูกจากการเล่น 62 เกม ขณะที่ในสโมสร เอ็มโบโล่ เพิ่งย้ายจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ไปเล่นกับ โมนาโก ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโรเมื่อซัมเมอร์ และยิงไปแล้ว 8 ประตูด้วยกัน

 

11 ตัวจริงที่คาด
โปรตุเกส (4-3-1-2, กุนซือ แฟร์นันโด ซานโตส) ดีโอโก้ คอสต้า – ชูเอา กันเซโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, ดีโอโก้ ดาโล่ต์ – รูเบน เนเวส, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – บรูโน่ แฟร์นันเดส – คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ชูเอา เฟลิกซ์
สวิตเซอร์แลนด์ (4-2-3-1, กุนซือ มูรัต ยาคิน) ยานน์ ซอมเมอร์ – ริคาร์โด้ โรดริเกซ, มานูเอล อคานจี, นิโก้ เอลเวดี้, ซิลวาน วิดเมอร์ – กรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรอยเลอร์ – รูเบน วาร์กาส, ชิบริล โซว์, เซอร์ดาน ชากิรี่ – บรีล เอ็มโบโล่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันบ่อยถึง 25 ครั้ง หรือตั้งแต่ 1938 เป็นต้นมาแล้ว โดย สวิตเซอร์แลนด์ เหนือกว่าที่ชนะ 11 เสมอ 5 ส่วนโปรตุเกสชนะ 9
• เพิ่งพบกันเหย้าเยือนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี โปรตุเกสเปิดบ้านชนะ 4-0 ก่อนสวิสส์เปิดบ้านชนะคืน 1-0
• 12 เกมในทุกรายการของปีนี้ สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ไปถึง 6
• โปรตุเกส ไม่เคยเข้าถึงชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาก่อนเลย ดีสุดคือเป็นอันดับ 3 และ 4
• นอกจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (118) มีอีกแค่ 2 คนที่ยิงเกิน 10 ลูกในทีมชาติโปรตุเกส คือ อันเดร ซิลวา (19) กับ บรูโน่ แฟร์นันเดส (13)

 

ความน่าจะเป็น
แม้ชนะ 2 เกมแรกและตีตั๋วเข้ารอบได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่เกมสามหลุดแพ้ เกาหลีใต้ รวมถึงก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ท็อปฟอร์มมากมาย ทำให้ โปรตุเกส ยังไม่ถูกยกเป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์โลก ซึ่งด้วยความเหนียวแน่นของเกมรับสวิสส์ และการที่เอาชนะกันได้มาแล้วไม่กี่เดือนก่อน ทำให้จะไม่ใช่เกมง่ายของทีมฝอยทอง และคงยากหน่อยถ้าคิดจะชนะใน 90 นาที

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1 ใน 90 นาที

โมร็อกโก vs สเปน : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก vs สเปน : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : โมร็อกโก vs สเปน

อังคาร 6 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 3 นัด
คัดบอลโลก 1961 สเปน ชนะ 1-0
คัดบอลโลก 1961 สเปน ชนะ 3-2
ฟุตบอลโลก 2018 เสมอ 2-2

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โมร็อกโก
อุ่นเครื่อง เสมอ ปารากวัย 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์เจีย 3-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โครเอเชีย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เบลเยียม 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 2-1

สเปน
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปรตุเกส 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์แดน 3-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ คอสตาริกา 7-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เยอรมนี 1-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ญี่ปุ่น 1-2

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม โมร็อกโก และ สเปน

โมร็อกโก : ม้ามืดตัวจริงของฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ก่อนสร้างเซอร์ไพรส์ปราบ เบลเยียม 2-0 และฟาดอีกสามแต้มด้วยการสยบ แคนาดา 2-1 จนเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม แบบที่ยิง 4 เสียแค่ 1
สเปน : เริ่มต้นดีเกินคาด ขยี้ คอสตาริกา 7-0 จากนั้นก็หวิดชนะ เยอรมนี แต่โดนทวงท้ายเกม 1-1 แต่ปรากฏว่านัดสุดท้าย เล่นแบบเอื่อยๆ จนโดน ญี่ปุ่น แซงเชือด 2-1 ท่ามกลางครหาว่าอันที่จริง พวกเขาตั้งใจแพ้เพื่อขวางไม่ให้ เยอรมนี หลุดเข้าไปเป็นเสี้ยนหนาม แถมตัวเองยังจะเลี่ยง โครเอเชีย หรือ บราซิล ในรอบถัดๆ ไปได้ด้วย

 

ความพร้อมก่อนเตะ โมร็อกโก และ สเปน

โมร็อกโก
มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่การเปลี่ยนโค้ชเหมือนเลือกหวยถูกใบ โมร็อกโก เกมแรกยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ต่อมาพลิกล็อกชนะ เบลเยียม 2-0 ตามด้วยตบ แคนาดา 2-1 จนเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม

 

เรกรากี มีตัวเจ็บเหลือในราย อับเดสซาหมัด เอซซาลซูลี่ กองหน้าโอซาซูน่า ในขณะที่ นูสแซร์ มาซราอุย แบ็กจากบาเยิร์น มิวนิค กับ อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กองกลางจากซามพ์โดเรีย ฟื้นฟิตพร้อมกลับมาเล่นตั้งแต่นัดก่อนแล้ว จนถือว่าค่อนข้างพร้อมรบดีทีเดียว

 

ระบบใช้ 4-3-3 อัชราฟ ฮาคิมี่ ประจำการแบ็กขวา แนวรุก ฮาคิม ซีเย็ค กับ โซฟียาน บูฟาล ขนาบข้างหอกเป้า ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่

 

สเปน
หลุยส์ เอ็นริเก้ พากระทิงดุเจ้าของแชมป์โลก 1 สมัยเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลงานค่อนข้างดี รวมถึงในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก็ครองแชมป์กลุ่ม ได้ไปต่อในรอบชิงแชมป์ ปีหน้า

 

จากนั้นเมื่อเริ่มเกมแรก ทำได้ดีเกินความคาดหมาย กราดยิง คอสตาริกา ดับอนาถ 7-0 เฟร์ราน ตอร์เรส ซัดสอง ที่เหลือช่วยกันยิงอีก 5 คน ต่อมา แบ่งแต้มด้วยผลเสมอ เยอรมนี 1-1 และนัดสุดท้าย พลิกพ่าย ญี่ปุ่น 1-2 ทำให้เข้าด้วยการเป็นที่สองของกลุ่ม

 

เอ็นริเก้ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บเพิ่มเติม และด้วยทีมที่เล่นกันดีอยู่แล้ว ทำให้คงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง ระบบ 4-3-3 ประตูเป็น อูไน ซิมอน แดนกลางบาร์ซ่าเหมาทั้ง เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี ส่วนแนวรุก ดานี่ โอลโม่ จะเล่นร่วมกับ เฟร์ราน ตอร์เรส และ อัลบาโร่ โมราต้า

 

ตัวความหวัง
โมร็อกโก : ฮาคิม ซีเย็ค & อัชราฟ ฮาคิมี่
ซีเย็ค เลิกเล่นทีมชาติไปช่วงหนึ่งเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัวกับโค้ชเก่า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งพอมีการเปลี่ยนเป็น วาลิด เรกรากี แล้วก็กลับสู่สารบบทีมชาติดังเดิม โดยแม้จะเจอปัญหาเข้าๆ ออกๆ จากทีมเชลซี แต่ก็คือตัวยืนของทีมชาติ มีผลงานยิง 19 ประตูจาก 46 เกม ด้าน ฮาคิมี่ พัฒนาตัวเองไปจนอยู่ในระดับแบ็กขวาตัวท็อปของวงการแล้ว พร้อมกับบางเสียงยกว่าเป็นเบอร์ 1 โลกยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 57 เกมทีมชาติ

 

สเปน : อัลบาโร่ โมราต้า
แมว 9 ชีวิตแห่งทัพกระทิงดุ เมื่อต่อให้ฟอร์มในระดับสโมสรจะออกทะเลขนาดไหน ก็ยังมีที่ยืนในทีมชาติอยู่ตลอดเวลา รวมถึงกับชุดปัจจุบันทั้งที่ผลงานกับ แอตเลติโก มาดริด ไม่ได้สวยหรูนัก (5 ประตูซีซั่นนี้) กระนั้นก็ต้องให้เครดิตกับหัวหอกวัย 30 ด้วยเหมือนกันว่าก็ทำผลงานได้ดีจริงในทีมชาติ สองปีหลังกดไป 12 ประตู รวมแล้วมี 30 ลูกจาก 60 นัด รวมถึงเป็นหนึ่งในสองคนที่ยิงตลอด 3 เกมรอบแรกฟุตบอลโลก 2022

 

11 ตัวจริงที่คาด
โมร็อกโก (4-3-3, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – นูสแซร์ มาซราอุย, นาเยฟ อาแกร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, อับเดลฮามิด ซาบิรี่ – ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่
สเปน (4-3-3, กุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้) อูไน ซิมอน – จอร์ดี้ อัลบา, อายเมอริก ลาป๊อร์กต์, โรดรี้, ดานี่ การ์บาฆัล – เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี – ดานี่ โอลโม่, อัลบาโร่ โมราต้า, เฟร์ราน ตอร์เรส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 3 เกม สเปน ไม่เคยแพ้
• ล่าสุดในฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ 2-2 ยาโก้ อัสปาส ยิงตีเสมอให้สเปนนาทีสุดท้าย
• โมร็อกโก อยู่ในทรงที่ดีเยี่ยม ชนะ 6 จาก 8 เกมหลังสุด และแพ้เกมเดียวเท่านั้นจาก 11 แมตช์หลัง
• สเปน ทำคลีนชีตได้แค่นัดเดียวจาก 4 เกมหลังสุด
• สเปน ชุดนี้ มีแค่ 2 คนที่ยิงประตูในทีมชาติได้เกิน 10 ลูก คือ อัลบาโร่ โมราต้า (30) กับ เฟร์ราน ตอร์เรส (15)

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะแพ้ ญี่ปุ่น มา แต่ทั้งปรับทัพเยอะ ทั้งดูเล่นไม่ค่อยเต็มที่ ทำให้เมื่อกลับมาใช้ชุดใหญ่และเน้นทุกเม็ดแล้ว สเปน คือทีมที่ใครก็ประมาทไม่ได้ทั้งนั้น และแม้ โมร็อกโก จะมาดี แข็งทั้งรุกรับ แต่ยังพอมีช่องให้เจาะเข้า และเกมรุกที่จัดจ้านของ สเปน ก็น่าจะทำให้พวกเขาได้ไปต่อ

 

ผลที่คาด : สเปน ชนะ 2-1

บราซิล เต็งแชมป์จะหยุดเส้นทางของเกาหลีใต้ ในฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม

บราซิล เต็งแชมป์จะหยุดเส้นทางของเกาหลีใต้ ในฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม บราซิล – เกาหลีใต้

6 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง CH8/ True Sport

บราซิล ฟุตบอลโลก 2022

ทีมเต็งตลอดกาล บราซิล จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ได้ไหมในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter @CBF_Futebol)

สถานการณ์ของบราซิลและเกาหลีใต้

บราซิลแชมป์ 5 สมัย และเต็งหนึ่งของฟุตบอลโลก 2022 เสียรังวัดไปเล็กน้อย เมื่อพ่ายแคเมอรูนส่งท้ายเกมรอบแรก ซึ่งตีเต้โค้ชของบราซิลมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น 11 คนแรกจากนัดเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ถึง 9 คน ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเข้ารอบเป็นที่ 1 ในกลุ่ม หากเทียบกันแล้วเกาหลีใต้ถือว่ากระเสือกกระสน ดิ้นรนกว่ามาก พวกเขาต้องลุ้นจนถึงนาทีที่ 91 ถึงได้ประตูชัย เอาชนะโปรตุเกส ที่กลายเป็นแชมป์กลุ่มไปเรียบร้อยแล้ว เบียดอุรุกวัยตกรอบ ด้วยประตูได้เสีย

หากมองว่า ชัยชนะเหนืออาร์เจนติน่าของซาอุดิอาระเบีย หรือชัยชนะเหนือสองอดีตแชมป์โลกของญี่ปุ่นเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์แล้ว หากเกาหลีใต้เอาชนะบราซิลได้ มันก็คงเป็นที่สุดของเรื่องเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลโลก 2022 เลยทีเดียว

แม้จะใช้ตัวสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ แต่บราซิลก็มีโอกาสทำประตูแคเมอรูนครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งก็ต้องให้เครดิตกับ เดวิส อีพาสซี ผู้รักษาประตูของทีมจากแอฟริกา และโทษการยิงทิ้งยิงขว้างของผู้เล่นบราซิลเองด้วย ที่ทำให้พวกเขาแพ้ส่งท้าย เมื่อวินเซนต์ อบูเบเคอร์ ทำประตูชัยให้แคเมอรูนจนได้ในนาทีที่ 92 แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอันดับอะไรในตาราง บราซิลคือที่ 1 ในกลุ่ม และสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่ 2 แต่สถิติชนะ 9 นัดรวดต้องจบลง และเป็นอีกหนึ่งยักษ์ที่เจอแจ็คเล่นงานในฟุตบอลโลกหนนี้

ดูฟอร์มการเล่นของบราซิลใน 3 นัดแรก อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ เกมรุกของพวกเขาไม่ได้ดุดันอย่างที่ใคร ๆ คิด รวมถึงเป็นทีมที่ออกสตาร์ตในแต่ละนัดแบบเผาหัวช้า และไม่น่าเชื่อว่า บราซิลยังยิงประตูในครึ่งแรกไม่ได้เลยที่กาตาร์​

สำหรับการเข้ารอบ 16 ทีมของบราซิลในครั้งนี้ ถือเป็น 9 ครั้งติดต่อกัน และพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายหนล่าสุดก็โน่น 32 ปีก่อน เมื่อแพ้คู่ปรับตลอดกาล อาร์เจนติน่า 1-0 ในปี 1990

นอกจากจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มสำเร็จ เกาหลีใต้ยังมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ เกมในรอบก่อนรองชนะเลิศของทีมจากเอเชีย หากญี่ปุ่นผ่านโครเอเชียสำเร็จ และพวกเขาคว่ำบราซิลได้ โดยเกาหลีเคยไปไกลที่สุดในฟุตบอลโลกก็ปี 2002 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น เมื่อลุยไปถึงรอบรองชนะเลิศ ท่ามกลางคำครหาในเรื่องของการตัดสิน และกับคู่แข่งอย่างบราซิล พวกเขาเพิ่มปะทะแข้งไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในเกมกระชับมิตรและพ่ายไป 5-1 ซึ่งเกมในฟุตบอลโลกจะแตกต่างไปแน่ ๆ

เกาหลีใต้ ฟุตบอลโลก 2022

เกาหลีใต้ และซนเฮืองมิน ต้องโชว์ฟอร์มแกร่งให้เร็วกว่าที่เคยเป็นในฟุตบอลโลก 2018 หากอยากผ่านเข้ารอบของฟุตบอลโกล 2022 (ภาพ: Getty Images)

เช็กสถิติบราซิลและเกาหลีใต้

บราซิลกับเกาหลีใต้ เคยเจอกันมาแล้วทั้งหมด 9 ครั้ง บราซิลชนะไปถึง 7 หน เสมอ 1และแพ้อีก 1 การเจอกันครั้งหลังสุดก็เมื่อเดือนมิถุนาฯ ที่เนย์มาร์ซัด 2 จุดโทษ ก่อนทีมแดนกาแฟจะชนะทมแดนกิมจิไป 5-1 สำหรับชัยชนะของเกาหลีใต้ที่มีต่อบราซิลเกิดขึ้นในปี 1999 ซึ่งบราซิลชุดนั้น มีผู้เล่นอย่าง คาฟู, จูนินโญ่, เซ โรแบร์โต้ และริวัลโด้

ห้าเกมหลังสุดของพวกเขา บราซิล ชนะ 4 แพ้แค่ 1 ส่วนเกาหลีใต้ ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1

เฟร็ด บราซิล ฟุตบอลโลก 2022

เล่นได้กระท่อนกระแท่นในระดับสโมสร แต่ในทีมชาติ เฟร็ดคือกลไกหลักของบราซิล ที่คงได้เห็นกันในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Paul Greenwood/BPI/Rex/Shutterstock)

สถานการณ์ผู้เล่นของบราซิลและเกาหลีใต้

ในความพ่ายแพ้ของบราซิล พวกเขาได้พักผู้เล่นหลาย ๆ ราย แต่หลังเกมกับแคเมอรูนพวกเขาก็มีรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่ม แบ็คซ้าย อเล็กซ์ เตลเลส และศูนย์หน้า แกเบรียล เชซุส ที่เจ็บเข่าขวาทั้งคู่ และเป็นไปได้ว่า ฟุตบอลโลก 2022 ของทั้งคู่จบลงแล้ว ทำให้บราซิลเหลือคนที่เล่นแบ็คซ้ายได้ไม่มากนัก แต่โชคดีที่ ดานิโล ซึ่งบาดเจ็บข้อเท้าจากเกมนัดแรกพร้อมลงสนาม ขณะที่แบ็คขวาจะเป็นเอเดอร์ มิลิเตา เนย์มาร์ที่บาดเจ็บข้อเท้าเหมือนกัน ทีมแพทย์บราซิลก็ออกมาแถลงว่า อาการดีขึ้นและอาจลงเล่นเจอเกาหลีได้ อเล็กซ์ ซานโดร ก็มีอาการบาดเจ็บที่สะโพก โดยแพทย์ประจำทีมบอกว่า โอกาสที่สองรายหลังจะได้ลงสนามยังไม่แน่นอน ส่วนเชซุสที่ได้รับบาดเจ็บจะถูกแทนที่โดย ริชาร์ลิสัน ที่ได้ลงเป็นตัวจริงใน 2 นัดแรก

ฮวางฮีชาน ที่พลาดลงเล่นในสองนัดแรกจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา แม้จะลงเล่นในฐานะตัวสำรองในเกมสุดท้ายและทำประตูชัยให้ทีม แต่ศูนย์หน้าจากวูล์ฟ ก็ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ และยังไม่แน่ว่าจะเป็น 11 คนแรกในนัดนี้หรือไม่ โดยถ้าลงเล่นไม่ได้ อีแจซุงจะได้เล่นแทน ส่วนกองหลังตัวเก่งจากนาโปลี คิมมินแจที่ไม่ได้ถูกส่งลงเจอกับโปรตุเกส เนื่องจากกลัวว่าอาการเจ็บน่องจะเป็นหนักขึ้น แต่กับเกมนี้อาจลงเล่นได้ เมื่อทางทีมเกาหลีใต้ออกมาบอกว่า ไม่ใช่อาการร้ายแรง คิมยังกวอนผู้ยิงประตูตีเสมอเกาหลี กับอีกังอิน ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับโปรตุเกส ยังการันตีไม่ได้ว่าจะลงเจอบราซิลไหวไหม นอกจากนี้ก็ไม่มีรายชื่อผู้เล่นเกาหลีใต้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของบราซิลและเกาหลีใต้

บราซิล ระบบ 4-2-3-1: อลีสซง; มิลิเตา, ซิลวา, มาร์ควินญอส, ดานิโล; เฟร็ด, คาเซมิโร; ราฟินญ่า, โรดรีโก้, วินิซิอุส; ริชาร์ลิสัน
เกาหลีใต้ ระบบ 4-3-3: คิมซึงกิว; คิมมูนฮวาน, กว็อกคยุงวัน, คิมมินแจ, คิมจินสุ; ฮวางอินบอม, จึงวูยัง, อีกางอิน; อีแจซุง, โชกิวซุง, ซนเฮืองมิน

ผลการแข่งขันระหว่างบราซิลและเกาหลีใต้

แดเนียล อัลเวส กองหลังมากประสบการณ์ของบราซิล บอกว่าการพ่ายแพ้แคเมอรูน ถือเป็นสัญญาณเตือน แต่กับเกมนั้น ตีเต้เลือกที่จะพักผู้เล่นตัวจริงของทีม และในเกมนี้พวกเขาจะเป็นทีมชุดที่เซอร์เบียกับสวิตเซอร์แลนด์มีโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ทีมละครั้ง

ทีมของเปาโล เบนโต้ ยิงไม่เข้ากรอบเลยในเกมกับอุรุกวัย และอาจจะเจอสถานการณ์คล้าย ๆ กันอีกครั้ง เมื่อบราซิลแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาเล่นเกมรับได้ดีไม่แพ้เกมรุกเลย โดยเกมนี้พวกเขาน่าจะดาหน้าบุกเข้าใส่เสือร้ายแห่งเอเชีย ขณะที่เกาหลีใต้ก็หวังว่าน่าจะมีโอกาสเจาะกองหลังของบราซิล ที่กำลังมีปัญหาในตำแหน่งฟูลล์แบ็ค และภาวนาให้ซอนกับฮวางใช้โอกาสที่มีน้อยนิดได้อย่างคุ้มค่า

ผลลัพธ์ บราซิลชนะ 2-0 หรือ 3-1

เรื่องน่าอ่าน
ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก

 

ซามูไร ญี่ปุ่น จะไม่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอความเก๋าของทีมตราหมากรุก

ซามูไร ญี่ปุ่น จะไม่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอความเก๋าของทีมตราหมากรุก

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม ญี่ปุ่น – โครเอเชีย

วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง True4U/ True Sport

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ไม่ว่าฟุตบอลโลกหนนี้จะจบลงยังไง แต่ญี่ปุ่นก็คือทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์มากที่สุดของรายการ ทีมของโค้ชฮาจิเมะ โมริยาสุ รอดจากกลุ่มแห่งความตายมาได้ โดยเอาชนะอดีตสองแชมป์โลก เยอรมนี สเปน แถมยังเป็นที่ 1 ในกลุ่ม ขณะที่รองแชมป์หนที่แล้ว เข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม เอฟ ที่โมร็อกโกเป็นแชมป์กลุ่มในแบบสุดเซอร์ไพรส์ ด้วยการชนะแคนาดา เสมอโมร็อกโกและเบลเยี่ยมในนัดสุดท้าย ที่เกือบจะไปอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะหลังโรเมลู ลูกากูถูกส่งลงสนาม แต่พลาดการทำประตูในระยะที่ต้องได้ถึง 3-4 ครั้ง

การผ่านรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันของทีมซามูไร ต้องขอบคุณการแก้เกมในครึ่งหลังของโมริยาสุในสองเกมสำคัญ ที่ตามหลังคู่แข่ง อย่าง เยอรมนีและสเปน 1-0 แล้วพลิกกลับมาชนะได้ ซึ่งถ้าทำได้ขนาดนี้ คงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า ถ้าพวกเขาไม่ผ่านเข้ารอบ ที่น่าสนใจก็คือ หากญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้อีก จะเกิดการเจอกันหนแรกในฟุตบอลโลกของทีมจากเอเชีย โดยทีมจากแดนกิมจิต้องเจอกับบราซิล เต็งหนึ่งของรายการ ซึ่งญี่ปุ่นแม้จะเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็หลายครั้ง ยังไม่เคยไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเลย

โครเอเชียเองหวิดจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าลูกากูใช้โอกาสที่มีสำเร็จแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อทำไม่ได้ทีมตราหมากรุกคือทีมที่ได้ไปต่อ ซึ่งต้องให้เครดิตกับ 4 ประตูที่พวกเขาทำได้ในเกมกับแคนาดา รวมถึงแนวรับที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี เสียไปแค่ประตูเดียวและยังไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะจอสโก้ กวาร์ดิโอล จากอาร์เบ ไลป์ซิก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมยอด จนทีมของซลัตโก้ ดาลิก ผ่านเข้ารอบมาเจอกับทีมที่เล่นสวนกลับอย่างเยี่ยมยอด เช่น ญี่ปุ่น

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

เช็กสถิติของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ทั้งสองทีมเจอกันรวมทั้งหมด 3 ครั้ง และ 2 ครั้งเป็นเกมฟุตบอลโลก ทั้งคู่เจอกันหนแรกในปี 1997 เป็นศึกกิริน เจแพน คัพ ซึ่งญี่ปุ่นเอาชนะไป 4-3 ก่อนจะมาเจอกันในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งดาวอร์ ซูเคอร์ยิงประตูโทนให้ทีมตราหมากรุกชนะ ก่อนจะคว้าที่ 3 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หนต่อมา เป็นฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เสมอกันไป 0-0 โดยนักเตะโครแอตชุดนั้นก็มี ดาริโอ แซร์น่า ส่วนลูก้า โมดริซเป็นตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมา ญี่ปุ่นเป็นยุคของชุนซูเกะ นากามูระและฮิเดโตชิ นากาตะ

ส่วนห้าเกมหลังของทั้งคู่ ญี่ปุ่นชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1 (DLWLW) ส่วนโครเอเชีย ชนะ 3 เสมอ (WWDWD)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและโครเอเชีย
ฮิโรกิ ซากาอิ และทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาแต่น่าจะไม่รุนแรง เมื่อต่างก็เป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว โดยโทมิยาสุที่ลงเล่นครึ่งหลังและโชว์ฟอร์มได้ดี น่าจะได้ลงแทนโก อิตากูระ เซนเตอร์แบ็คตัวหลักถูกแบน ขณะที่ซากาอิก็ลงซ้อมได้แล้ว แต่ทาเกฟูซะ คูโบะ ยังมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ ไม่แน่ว่าจะลงเป็นตัวจริงได้หรือเปล่า วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางจากสตุ๊ตการ์ต จัดการเรื่องสภาพความฟิตได้แล้ว และเป็นตัวสำรองในเกมเจอสเปน น่าจะมีโอกาสลงเล่นเกมนี้

นี่ไม่ใช่หนแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่โมริยาสุมีปัญหากับการเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดในแนวรุก โดอันที่ทำได้ดีน่าจะได้เล่นแทนคูโบะ ส่วนมิโตมะก็เล่นได้ดีพอจะเสียบแทนไดอิชิ คามาดะ ที่สำคัญ 3จาก 4 ประตูของญี่ปุ่นในฟุตบอลโลกหนนี้มาจากผู้เล่นสำรอง เพราะฉะนั้นใครที่ถูกเก็บเอาไว้ก่อน ย่อมมีความสำคัญไม่แพ้บรรดานักเตะตัวจริง

ดาลิกโค้ชโครเอเชีย ออกมาบอกแล้วว่า จะเลือกผู้เล่นโดยเน้นที่ความฟิตเป็นหลัก สองผู้เล่นคนสำคัญของทีม ลูก้า โมดริชและเดยาน ลอฟเรนติดเหลืองคาดโทษอยู่ หากได้รับอีกใบจะพลาดลงเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะเป็นหน้าเดิม ๆ หากเปลี่ยนแปลงก็คงเป็นในแดนหน้าเพียงไม่กี่ตำแหน่ง อันเดรจ ครามาริชกับมาร์โก้ ลิวายา ทำอะไรไม่ได้เลยในเกมกับเบลเยี่ยม และดาลิกก็มีผู้เล่นแนวรุกให้เลือกเพียบ อย่าง บรูโน่ เพ็ตโควิก, มิสเลฟ ออร์ซิก, นิโกล่า วลาซิช และมาริโอ พาซาลิช

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; โทมิยาสุ, โยชิดะ, ฮิโรกิ อิโตะ; จุนยะ อิโตะ, เอ็นโดะ, ทานากะ, นากาโตโมะ; โดอัน, อาซาโนะ, คามาดะ
โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิช; จูราโนวิช, ลอฟเรน, กวาร์ดิโอล, โซซ่า; โมดริช, โบรโซวิช, โควาซิช; ครามาริช, ลิวาย่า, เปริซิช

ผลการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ญี่ปุ่นสร้างเหตุการณ์ช็อคโลกด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม อี ที่มีสเปนกับเยอรมนีเป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม โดยมีจุดเด่นในแนวรับที่จัดระเบียบกันเป็นอย่างดี บวกกับการเล่นโต้กลับอย่างได้ผล มีผู้เล่นสำรองที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ซึ่งคงไม่มีใครพูดอีกแล้วว่า เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผ่านรอบนี้ แต่ในขณะเดียวกันโครเอเชียก็เป็นทีมที่แนวรับแน่น ลึก กองกลางก็มีคุณภาพไม่แพ้สเปน แต่ไม่เล่นบอลมากจังหวะเท่า จะว่าไปแล้วรูปแบบในเกมรุกของพวกเขาคล้าย ๆ กับญี่ปุ่นด้วยซ้ำ กับการฉวยโอกาสเล่นโต้กลับอย่างรวดเร็ว

ด้วยรูปแบบการเล่น เป็นไปได้ว่าเกมนี้ จะยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ ที่หากไปถึงตรงนั้น โครเอเชียน่าจะหยุดทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยได้สำเร็จ แต่ถ้าให้ตัดสินใจว่า ใครที่จะชนะในเกม โครเอเชียอาจจะดูเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าพวกเขาชวนญี่ปุ่นเล่นเกมอดทน เชื้อเชิญให้บุกเข้ามาแต่ทำอะไรไม่ได้ เช่นที่คอสตาริก้าทำ รองแชมป์เก่าอาจจะชนะในสกอร์ 2-1 หรือ 1-0

เรื่องน่าอ่าน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก
ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

บราซิล vs เกาหลีใต้ : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

บราซิล vs เกาหลีใต้ : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : บราซิล vs เกาหลีใต้
จันทร์ 5 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่ายทอดสด : CH8

 

ผลการพบกัน : 7 นัด
อุ่นเครื่อง 1995 บราซิล ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 1997 บราซิล ชนะ 2-1
อุ่นเครื่อง 1999 เกาหลีใต้ ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2002 บราซิล ชนะ 3-2
อุ่นเครื่อง 2013 บราซิล ชนะ 2-0
อุ่นเครื่อง 2019 บราซิล ชนะ 3-0
อุ่นเครื่อง 2022 บราซิล ชนะ 5-1

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
บราซิล
อุ่นเครื่อง ชนะ กาน่า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ตูนิเซีย 5-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เซอร์เบีย 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ แคเมอรูน 0-1

เกาหลีใต้
อุ่นเครื่อง ชนะ แคเมอรูน 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ อุรุกวัย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ กาน่า 2-3
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ โปรตุเกส 2-1

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
บราซิล : เกมแรกอัด เซอร์เบีย จนน่าชนะมากกว่า 2-0 เกมสองฮึดเชือด สวิสตเซอร์แลนด์ ด้วยประตูเวิลด์คลาสจาก กาเซมิโร่ จากนั้นนัดสามปรับส่งสำรองลงหลังการันตีเข้ารอบได้แล้ว ปรากฏเจาะ แคเมอรูน ไม่เข้าก่อนโดนสวนถึงปลายคาง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นแชมป์กลุ่มได้ตามเป้า
เกาหลีใต้ : สร้างเซอร์ไพรส์ได้ไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่าง ญี่ปุ่น แต่ก็ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำมากกว่า เมื่อสองเกมแรกผ่านไปมีแต้มในมือแค่คะแนนเดียว จนสถานการณ์บังคับให้ต้องชนะ โปรตุเกส สถานเดียวพร้อมลุ้นผลอีกคู่ สุดท้ายทำสำเร็จด้วยการยิงแซง 2-1 และ อุรุกวัย ยิงไม่พอ

 

ความพร้อมก่อนเตะ
บราซิล
แชมป์โลก 5 สมัยและแชมป์รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาแบบไร้พ่าย และภาพรวมถือว่ายังอยู่ในฟอร์มที่ดีต่อเนื่อง ชนะติดต่อกันมา 9 เกมรวด รวมเกมแรกที่อัด เซอร์เบีย 2-0 และต่อมาเชือด สวิตเซอร์แลนด์ 1-0

 

และแม้จะหลุดแพ้ แคเมอรูน 0-1 จนต้องหยุดสถิติชนะรวดเอาไว้ที่ 9 เกม แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นทีมชุดสอง ตีเต้ ตั้งใจส่งสำรองลงไปเคาะสนิม หลังมีการันตีเข้ารอบแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ตีเต้ ต้องเสียนักเตะไปถึง 5 คน เริ่มจาก เนย์มาร์ (ข้อเท้า), ดานิโล่ (ข้อเท้า), อเล็กซ์ ซานโดร (สะโพก), กาเบรียล เชซุส (เข่า) และ อเล็กซ์ เตลเลส (เข่า) โดยสองรายหลังเจ็บจากเกมปิดกลุ่ม ต้องถอนตัวไปจากทัวร์นาเมนต์แล้ว

 

ตีเต้ เผยล่าสุดว่า มีโอกาสสูงที่ เนย์มาร์ จะฟื้นฟิตลงเล่นได้ในเกมนี้ แม้ยังต้องดูว่าจะเป็นตัวจริงเลย หรือสำรองไปก่อน ก็ตาม

 

ส่วน ดานิโล่ มีสิทธิ์คืนสนามเช่นกัน แต่สำหรับ อเล็กซ์ ซานโดร ยังต้องพัก

 

ตีเต้ จะกลับมาใช้ชุดใหญ่สุดอีกครั้ง ตัวหลักอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, กาเซมิโร่, ลูคัส ปาเกต้า, ริชาร์ลิซอน, ราฟินญ่า, วินิซิอุส จูเนียร์ กลับคืนสนาม

 

เกาหลีใต้
โสมขาวหลุดแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 8 เกมของรอบคัดเลือก และนัดแรกที่เสมอ อุรุกวัย ไข่ไม่แตก 0-0 ก็ถือว่าทำได้ดี และแม้จะทำพลาดโดน กาน่า ยิงตัดสินชัย 3-2 ในเกมสอง ก็ยังฮึดสยบ โปรตุเกส 2-1 (กับอีกคู่ อุรุกวัย ชนะแค่ 2-0) จนเข้ารอบมาได้ด้วยการเป็นอันดับ 2

 

เกาหลีใต้ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อีกครั้ง หลังจาก 2 ทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ตกรอบแรกทั้งที่บราซิลและรัสเซีย

 

เปาโล เบนโต้ กุนซือชาวโปรตุเกสของเกาหลีใต้ ไม่มีปัญหาสภาพทีมเมื่อ ฮวาง ฮี-ชาน กองหน้าตัวเก่งจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน หายเจ็บแฮมสตริงลงพังประตูชัยเหนือ โปรตุเกส มาแล้ว ส่วนทาง ซน ฮึง-มิน ดาวยิงตัวความหวังจากสเปอร์ส ต้องลงสนามแบบสวมหน้ากากกันกระแทก แต่สภาพความฟิตไม่เป็นปัญหา

 

ดังนั้นทำให้จะเป็นทีมเดิมๆ ในระบบ 4-2-3-1 ซน ฮึง-มิน ถอยลงมาเป็นแผงเกมรุกทางซ้าย สนับสนุนหอกเป้า โช กิว-ซุง ที่กดไปแล้ว 2 ประตูใน เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์

 

ตัวความหวัง
บราซิล : ริชาร์ลิซอน
ยืนยันการเป็นหัวหอกตัวเป้าหมายเลข 1 ของ บราซิล ชั่วโมงนี้ ด้วยการซัด 2 ประตูใส่ เซอร์เบีย โดยเฉพาะลูก 2 ที่โชว์ท่ายากตีลังกายิงอย่างงาม เพิ่มสถิติเล่นทีมชาติเป็น 40 นัดซัด 19 ประตู หรือร่วมๆ 2 เกมต้องมี 1 ตุง ทั้งนี้กองหน้าทรงแบ๊ดบอยวัย 25 ไต่ระดับสร้างชื่อจาก วัตฟอร์ด มา เอฟเวอร์ตัน และล่าสุดมาอยู่กับ สเปอร์ส ซึ่งในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา ยิงไป 2 ประตูจาก 15 นัด

 

เกาหลีใต้ : ซน ฮึง-มิน & โช กิว-ซุง
ซน ฮึง-มิน ถูกยกว่าเป็นแข้งเบอร์ 1 ของเอเชียยุคนี้ จากผลงานที่ร่ายให้ สเปอร์ส ต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ถึงขั้นคว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกซีซั่นก่อนมาแล้ว โดยในทีมชาติ โอปป้าซนยิงไป 35 ลูกจาก 107 นัด และพร้อมกันนั้น ฟุตบอลโลก 2022 ได้กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดเดอะสตาร์ค้นฟ้าคว้าดาวของ โช กิว-ซุง หัวหอกหน้าหล่อบอยแบนด์เค-ป๊อป วัย 24 จาก ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ซึ่งเริ่มติดธงในปีที่แล้ว และยิงไปแล้ว 6 ประตูจากการเล่น 19 นัด รวม 2 เม็ดที่จัดใส่ กาน่า

 

11 ตัวจริงที่คาด
บราซิล (4-3-3, กุนซือ ตีเต้) อลิสซอน เบ็คเกอร์ – มาร์กินญอส, ติอาโก้ ซิลวา, เอแดร์ มิลิเตา, ดานิโล่ – ฟาบินโญ่, กาเซมิโร่, ลูคัส ปาเกต้า – วินิซิอุส จูเนียร์, ริชาร์ลิซอน, ราฟินญ่า
เกาหลีใต้ (4-2-3-1, กุนซือ เปาโล เบนโต้) คิม ซุง-กิว – คิม จิน-ซู, คิม ยัง-กวอน, คิม มิน-แจ, คิม มุน-วาน – ฮวาง อิน-บอม, จุง วู-ยัง – ซน ฮึง-มิน, จอง วู-ยอง, ควอน ชาง-ฮุน – โช กิว-ซุง

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เตะลับแข้งเจอกันมาเยอะทีเดียวที่ 7 ครั้ง บราซิลชนะ 6 เกาหลีใต้ได้เฮหนเดียว
• ล่าสุดเจอเมื่อเดือน มิ.ย. บราซิล ต้อนขาด 5-1 เนย์มาร์ซัดสอง ริชาร์ลิซอนหนึ่งเม็ด
• บราซิล ถูกหยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 9 เกมทุกรายการ หลังแพ้พลิกต่อ แคเมอรูน
• แม้ส่วนใหญ่เป็นนักเตะในประเทศ แต่ตัวอิมพอร์ตเล่นลีกยุโรปของ เกาหลีใต้ ก็มีอยู่ถึง 8 ราย
• เนย์มาร์ พังตาข่ายในทีมชาติแล้วถึง 75 ลูก ส่วน ริชาร์ลิซอน 19, อันโตนี่ 2 ส่วน วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ยิงให้ เรอัล มาดริด 47 ประตูตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพิ่งกดเม็ดเดียวเท่านั้นในทีมชาติ

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะสยบ โปรตุเกส เข้ารอบมาได้ แต่ข้อเท็จจริงที่เป็นคือ โปรตุเกส ไม่ได้ใช้ทีมชุดใหญ่เต็มที่แต่อย่างใด ดังนั้นเงื่อนไขอยู่ที่ว่า บราซิล จะพร้อมรบขนาดไหนในสภาพทีมตัวเจ็บมีเยอะและต้องเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง กระนั้นก็เชื่อว่าด้วยความแข็งโป๊กของ 11 คนแรกแซมบ้า เกาหลีใต้ จึงไม่น่าเอาอยู่แต่อย่างใด

 

ผลที่คาด : บราซิล ชนะ 2-1

 

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย
จันทร์ 5 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 3 นัด
กิริน คัพ 1997 ญี่ปุ่น ชนะ 4-3
ฟุตบอลโลก 1998 โครเอเชีย ชนะ 1-0
ฟุตบอลโลก 2006 เสมอ 0-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ คอสตาริกา 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ สเปน 2-1

โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 4-1
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เบลเยียม 0-0

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
ญี่ปุ่น : มหาเซอร์ไพรส์ประจำฟุตบอลโลก 2022 พลิกสยบ เยอรมนี 2-1 ตั้งแต่เกมแรก ต่อมาแม้จะเจอความพลิกล็อกเล่นงานเองบ้างด้วยการแพ้ คอสตาริกา 0-1 แต่ก็ยังมาพลิกยิงแซงชนะ สเปน ในเกมที่บังคับต้องชนะอีก 2-1 จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มอีอย่างงดงาม
โครเอเชีย : โชว์ความหลังเหนียวด้วยการไม่เสียประตูทั้งเกมกับ โมร็อกโก และ เบลเยียม โดยเฉพาะนัดหลังที่เป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ไม่พลาดท่าเสียที แม้ส่วนหนึ่งอาจต้องชี้ว่า เบลเยียม ไม่คมเองด้วยก็ตาม จน โครเอเชีย เข้ารอบมาด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอฟ

 

ความพร้อมก่อนเตะ
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

จากนั้นเกมถัดมา แม้จะบุกใส่แทบพับสนาม แต่กลับพลิกแพ้ คอสตาริกา 0-1 ส่งผลให้บังคับชนะ สเปน เพื่อเข้ารอบ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้จริงๆ แซงชนะ 2-1 จนผงาดยึดแชมป์กลุ่มทันที

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอาไว้ตั้งแต่แรก และขอชนะอีกนัดก็จะไปได้ถึงที่วางไว้ ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่น ก็ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมแต่อย่างใด

 

สภาพทีมของ โมริยาสุ เกมนี้ มีปัญหาที่ โค อิตาคุระ เซนเตอร์แบ็กตัวจริง ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบ ทำให้ต้องปรับส่งตัวเลือกอื่นลงแทน

 

ยังเชื่อว่า โมริยาสุ จะปรับระบบไปด้วยเลย ใช้เป็น 3-4-3 เน้นเกมรับเหนียวแน่นไว้ก่อน อัด 3 เซนเตอร์ลงไปอย่าง มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ และ โชโง ทานิงูจิ ขณะที่เกมรุกให้ ไดอิจิ คามาดะ กับ ทาเคฟุสะ คุโบะ คอยช่วยงานหอกเป้า ไดเซน มาเอดะ

 

โครเอเชีย
ชนะติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0 ก่อนเร่งเครื่องกราดยิง แคนาดา 4-1 แล้วก็กลับไปหนืดอีกครั้ง เสมอ เบลเยียม 0-0

 

เพียงแต่ผลเสมอ เบลเยียม ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังมาจากบ้าน เมื่อเป็นแต้มที่ทำให้ได้เข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง ถัดจากหนก่อนที่ไปไกลถึงรองแชมป์โลกทีเดียว

 

ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือตาหมากรุก ไม่มีปัญหาสภาพทีม สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดได้ เมื่อ อีวาน เปริซิช จอมเก๋าจากสเปอร์ส ฟิตพร้อมลงสนามได้ตามปกติ

 

ระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าใช้ อีวาน เปริซิช เดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ มาร์โก ลิวาย่า

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ริตสึ โดอัน
ไม่ธรรมดา…ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ กับฟอร์มของ ริตสึ โดอัน มิดฟิลด์ตัวโจ๊กเกอร์วัย 24 จาก ไฟรบวร์ก ที่ลงสำรองไปพังประตูใส่ทั้ง เยอรมนี และ สเปน ได้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจบสกอร์และการหาตำแหน่งชั้นยอด โดยสองเม็ดล่าสุดทำให้ โดอัน สะสมสกอร์ในนามทีมชาติไปแล้ว 5 ลูกจาก 32 เกม ขณะที่ในสโมสร ก็ยิงให้ ไฟรบวร์ก ไปแล้ว 4 ประตูจาก 22 นัดซีซั่นนี้

 

โครเอเชีย : อันเดรจ์ ครามาริช
เคยเป็นหัวหอกผู้แพ้ ส่วนเกินของ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างชื่อกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมถึงในทีมชาติ โดยถึงตรงนี้เล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาเป็นซีซั่นที่ 8 แล้ว ยิงทะลุหลักร้อยประตูแล้วเช่นกัน (106) ขณะที่ก็ยิง 22 ประตูให้กับทัพตาหมากรุก รวมถึง 2 เม็ดในเกมปราบ แคนาดา ด้วย โดยแม้จะไม่โหดดุครบเครื่องเหมือน ดาวอร์ ซูเคอร์ แต่ก็เป็นคนที่กองหลังไม่อาจประมาทได้เหมือนกัน

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (3-4-3, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ, โชโง ทานิงูจิ – ยูโตะ นางาโตโมะ, วาตารุ เอ็นโดะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, จุนยะ อิโตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, ไดเซน มาเอดะ
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, มาร์โก ลิวาย่า

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 3 ครั้ง เป็นอุ่นเครื่อง 1 และฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2
• บอลโลก 1998 พบกันในรอบแรก โครเอเชีย เบียด 1-0 ดาวอร์ ซูเคอร์ ซัดโทน
• บอลโลก 2006 เจอรอบแรกเช่นกัน คราวนี้ไข่ไม่แตก เสมอ 0-0
• ญี่ปุ่น เข้ารอบ 16 ทีมสลับกับตกรอบแรกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1998 แต่ไม่เคยไปไกลกว่านี้
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู ส่วน ทาคุมะ อาซาโนะ 8 ลูก, ไดเซน มาเดะ 1, ทาเคฟุสะ คุโบะ 1, อายาเสะ อุเอดะ 0
• อีวาน เปริซิช กดแล้ว 32 ประตูในทีมชาติ ส่วน ลูก้า โมดริช 23 และ อันเดรจ์ ครามาริช 22

 

ความน่าจะเป็น
ไม่อาจมองข้ามได้แล้วสำหรับ ญี่ปุ่น ที่ชนะ 2 ทีมหัวแถวยุโรปมาได้ทั้ง เยอรมนี และ สเปน และพวกเขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งนั้นแล้วด้วย แค่ต้องเล่นอย่างมีวินัย รัดกุม และใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งการเจอ โครเอเชีย ที่เกมรุกไม่ได้ดุดัน แต่มีดีตรงแดนกลางนั้นทำให้เกมอาจออกรูปอึดอัด จนมีโอกาสสูงที่จะยืดเยื้อถึงต่อเวลา ถึงตอนนั้นก็ต้องพึ่งโชคดวงกันแล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายได้ไปต่อ

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1 ใน 90 นาที

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

48 แมตช์ของรอบแรกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ผ่านพ้นไปด้วยดี (และไม่ดีสำหรับบางทีม!) มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น จนเป็นสถิติตัวเลขสำคัญหลากหลาย ที่ได้ถูกจารึกไว้ทั้งกับ เวิลด์ คัพ หนนี้ และ เวิลด์ คัพ หนหน้า–ตลอดชั่วกาลนาน

 

สถิติน่าสนใจเมื่อสิ้นสุดรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• ดาวซัลโว
3 ประตู : เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์), มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส), โคดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์), อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน)
2 ประตู : ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า), ริชาร์ลิซอน (บราซิล), แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ (แคเมอรูน), อันเดรจ์ ครามาริช (โครเอเชีย), บูกาโย่ ซาก้า (อังกฤษ), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส), นิคลาส ฟุลล์ครุก (เยอรมนี), ไค ฮาแวร์ตซ์ (เยอรมนี), โมฮัมเหม็ด คูดุส (กาน่า), เมห์ดี้ ทาเรมี่ (อิหร่าน), ริตสึ โดอัน (ญี่ปุ่น), บรูโน่ แฟร์นันเดส (โปรตุเกส), ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี (ซาอุดีอาระเบีย), อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (เซอร์เบีย), โช กิว-ซุง (เกาหลีใต้), เฟร์ราน ตอร์เรส (สเปน), บรีล เอ็มโบโล่ (เบลเยียม), จอร์เจี้ยน เด อาร์รัสกาเอต้า (อุุรุกวัย)

 

• ทำเข้าประตูตัวเอง
มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมนี, นัดพบ คอสตาริกา), นายีฟ อาแกร์ด (โมร็อกโก, นัดพบ แคนาดา)

 

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• ดาวแอสซิสต์
3 ครั้ง : แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ)
2 ครั้ง : อีวาน เปริซิช (โครเอเชีย), เตโอ เอร์นันเดซ (ฝรั่งเศส), ดาวี่ คลาสเซ่น (เนเธอร์แลนด์), บรูโน่ แฟร์นันเดส (โปรตุเกส), ดูซาน ทาดิช (เซอร์เบีย), อันดริย่า ซิฟโควิช (เซอร์เบีย), จอร์ดี้ อัลบา (สเปน)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์
2 นัด : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส, นัดพบ ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก), ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย, นัดพบ โมร็อกโก และ เบลเยียม), คริสเตียน พูลิซิช (สหรัฐอเมริกา, นัดพบ อังกฤษ และ อิหร่าน)

 

• คลีนชีต (ผู้รักษาประตู)
2 นัด : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (บราซิล), ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เบลเยียม), อายเมน ดาห์เมน (ตูนิเซีย), โดมินิก ลิวาโควิช (โครเอเชีย), เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนติน่า), อันดรีส น็อพเพิร์ต (เนเธอร์แลนด์), จอร์แดน พิคฟอร์ด (อังกฤษ), เซร์คิโอ โรเช่ต์ (อุรุกวัย), แม็ต ไรอัน (ออสเตรเลีย), วอยเชียค เชสนี่ (โปแลนด์), แม็ตต์ เทอร์เนอร์ (สหรัฐอเมริกา)

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022ประตูแรกสุด ของฟุตบอลโลก 2022 เป็นผลงานของ เอนเนร์ วาเลนเซีย กองหน้าเอกวาดอร์ ที่ยิงจุดโทษเข้าไปได้ตั้งแต่นาทีที่ 16 ของเกมนัดเปิดสนาม 20 พ.ย. ที่ชนะเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0

 

ไม่มีทีมใดเลยทั้งสิ้น ที่สามารถเอาชนะได้ทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม หรือกวาด 9 คะแนนเต็ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา

 

• ตลอด 48 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม มีประตูเกิดขึ้นทั้งสิ้น 120 ลูก เฉลี่ยแล้วมีการยิงกันนัดละ 2.5 ประตู

 

• กระนั้น ก็มีเกมที่ออกหน้า 0-0 เกิดขึ้น 6 แมตช์ด้วยกัน
– อังกฤษ 0-0 สหรัฐอเมริกา
– เม็กซิโก 0-0 โปแลนด์
– เดนมาร์ก 0-0 ตูนิเซีย
– โมร็อกโก 0-0 โครเอเชีย
– โครเอเชีย 0-0 เบลเยียม
– อุรุกวัย 0-0 เกาหลีใต้

 

• กลุ่มอี แลกหมัดกันหน้าตาปูดบวม ยิงกันรวม 22 ประตูจาก 6 แมตช์ หรือเฉลี่ยนัดละ 3.6 ลูก โดยมีเกมที่ “สูงปรี๊ด” อย่าง
เยอรมนี 1-2 ญี่ปุ่น
สเปน 7-0 คอสตาริกา
ญี่ปุ่น 2-1 สเปน
คอสตาริกา 2-4 เยอรมนี

 

• นั่นยังส่งผลให้ สเปน เป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดในรอบแรก คือ 9 ประตู เช่นเดียวกับ อังกฤษ ยิง 9 ลูก

 

• ทีมที่ยิงได้น้อยที่สุดคือ กาตาร์, เวลส์, ตูนิเซีย, เดนมาร์ก และ เบลเยียม ยิงได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น

 

• โดนยิงมากที่สุดคือ คอสตาริกา ตาข่ายพรุนไป 11 ลูก ขณะที่ บราซิล, โครเอเชีย, โมร็อกโก, ตูนิเซีย โดนยิงน้อยสุดทีมละ 1 ประตูถ้วน

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022 โคดี้ กัคโป ของเนเธอร์แลนด์ กับ อัลบาโร่ โมราต้า ของสเปน เป็นเพียง 2 คนที่สามารถยิงประตูได้ทุกนัดของรอบแบ่งกลุ่ม นัดละลูก

 

• ไม่มีการทำแฮตทริกเกิดขึ้นเลย ขณะที่มีการยิงเบิ้ลสองเม็ดจากนักเตะ 14 คน

 

• มีการเป่าจุดโทษเกิดขึ้น 14 ครั้ง แต่ยิงเข้าแค่ 9 ครั้งเท่านั้น เฉลี่ยยิงเข้าแค่ 64.29%

 

อัลฟอนโซ่ เดวิส ของแคนาดา ทำประตูที่เร็วที่สุด (ในรอบแรก) เกมแพ้ โครเอเชีย 1-4 ในนาทีที่ 2 หรือเพียง 67 วินาทีหลังเป่าเริ่มเกม

 

• ประตูที่ช้าที่สุดเป็นของ เมห์ดี้ ทาเรมี่ กองหน้าอิหร่าน ที่ยิงตีตื้น อังกฤษ 2-6 ในช่วงทดเจ็บ 90+13

 

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• มีใบแดงเกิดขึ้นแค่ 3 ใบ โดยเป็นของนักเตะ 2 คนคือ เวย์น เฮนเนสซี่ นายประตูเวลส์ กับ แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ กองหน้าแคเมอรูน ส่วนอีกใบเป็นของ เปาโล เบนโต้ กุนซือเกาหลีใต้

 

กาตาร์ กับ ซาอุฯ ใช้นักเตะที่ค้าแข้งในประเทศทั้งหมด ตรงกันข้าม เซเนกัล ไม่มีนักเตะที่เล่นในประเทศอยู่เลยสักคน

 

• 29 จาก 32 ชาติ มีนักเตะ พรีเมียร์ลีก อยู่ในทีมอย่างน้อย 1 ราย และนักเตะที่สังกัดทีมในอังกฤษ ก็มีจำนวนเยอะที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (164 คน ทั้งพรีเมียร์ลีกและลีกรอง)

 

กาตาร์ เป็นเจ้าภาพทีมแรกที่แพ้ในนัดเปิดสนาม และเป็นเจ้าภาพที่กระเด็นตกรอบเร็วที่สุด หลังจากแพ้รวด 2 เกมแรก (0-2 เอกวาดอร์, 1-3 เซเนกัล)

 

กาตาร์, แคนาดา, เดนมาร์ก, เซอร์เบีย, เวลส์ ไม่ชนะใครทั้งสิ้นใน 3 นัดรอบแรก (และตกรอบแรกทั้งหมด) ตรงกันข้ามกับ อังกฤษ, โครเอเชีย, โมร็อกโก และ เนเธอร์แลนด์ ที่แพ้ไม่เป็น

ญี่ปุ่น แซงชนะ สเปน 2-1 ด้วยการครองบอลเพียง 17.7% เป็นสถิติทีมชนะที่ครองบอลน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ทำลายสถิติเดิมที่ เกาหลีใต้ ครองบอล 26% เอาชนะ เยอรมนี 2-0 บอลโลกหนก่อนที่รัสเซีย

 

• เกมที่ อาร์เจนติน่า ชนะ เม็กซิโก 2-0 ที่ ลูเซล ไอคอนิค สเตเดี้ยม เป็นเกมที่มีผู้ชมมากที่สุดถึง 88,966 คน มากที่สุดนับตั้งแต่เกม บราซิล-อิตาลี (91,194 คน) ฟุตบอลโลก 1994 ส่วนเกมผู้ชมน้อยสุดคือ สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ แคเมอรูน 1-0 ที่ อัล จานู้บ สเตเดี้ยม 39,089 คน

 

อินยากี้ วิลเลี่ยมส์ หัวหอกกาน่า กับ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ปีกทีมชาติสเปน เป็นคู่พี่น้องท้องเดียวกันคู่แรกที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งเดียวกัน แต่รับใช้ทีมชาติคนละทีม โดยทั้งคู่มีพ่อแม่เป็นชาวกานา ก่อนจะอพยพและมาให้กำเนิดทายาททั้ง 2 คนที่สเปน

 

• นับป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทีมซึ่งมาจากโซนเอเชีย ตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์พร้อมกันได้ถึง 3 ทีม คือ ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และ เกาหลีใต้

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• จากประตูที่ยิงได้ในเกมพบ กาน่า ทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถยิงประตูในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 5 สมัย แซงหน้า อูเว่ เซเลอร์, เปเล่, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำไว้ 4 สมัย

 

• 2006 หนึ่งลูก, 2010 หนึ่งลูก, 2014 หนึ่งลูก, 2018 สี่ลูก และ 2022 (อย่างน้อย) หนึ่งลูก เท่ากับ โรนัลโด้ ยิงไป 8 ประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 5 สมัย

 

ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ทำแอสซิสต์ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ 5 สมัย หลังจากผ่านบอลให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงประตูในเกมชนะ เม็กซิโก 2-0

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำสถิติเป็นนักเตะอายุมากสุดที่ยิงได้ในบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยวัย 37 ปี 292 วัน ในเกมชนะ กาน่า 3-2 (แต่จะพังสถิติตัวเองถ้ามียิงเพิ่มในรอบน็อกเอาต์)

 

กาบี กองกลางทีมชาติสเปน ยิง 1 ลูกในเกมถล่ม คอสตาริกา 7-0 ทำให้เขาขึ้นแท่นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลโลก ด้วยวัย 18 ปี 109 วัน เป็นรองเพียง เปเล่ (บราซิล) 17 ปี 249 วัน กับ มานูเอล โรซาส (เม็กซิโก) 18 ปี 93 วัน

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส), ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า), อันเดรส กวาร์ดราโด้ (เม็กซิโก) ลงเล่นฟุตบอลโลกสมัยที่ 5 ของตัวเอง เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ โลธ่าร์ มัทเธอุส (เยอรมนี) และ ราฟาเอล มาร์เกซ กับ อันโตนิโอ การ์บาฮัล (เม็กซิโกทั้งคู่)

 

• ยังมีนักเตะอีก 14 คนที่ลงเล่นฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ของตัวเอง ประกอบด้วย อังเคล ดิ มาเรีย, ลูก้า โมดริช, อูโก้ โยริส, โธมัส มุลเลอร์, มานูเอล นอยเออร์, ยูโตะ นางาโตโมะ, เอ็กตอร์ โมเรโน่, เปเป้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซอร์ดาน ชากิรี่, มาร์ติน กาเซเรส, ดีเอโก้ โกดิน, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่

 

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
Twitter
Football365
Gol.hr – Dnevnik
Malay Mail
Goal
CTV News
Sky Sports
Stuff.co.nz

เรื่องน่าอ่าน
บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ผ่านวันผ่านคืนแบบที่นาฬิกาหมุนเร็วเป็นพิเศษ จนรอบแรกแห่งฟุตบอลโลก 2022 ที่รอคอย ผ่านไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ไปย้อนดูกันสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

20 พฤศจิกายน 2022 หลังจากเสียงนกหวีดแรกแห่ง เวิลด์ คัพ 2022 ดังขึ้น ใครจะเชื่อว่าเจ้าภาพ กาตาร์ จะจัดความ “น่าเหลือเชื่อ” มาเสิร์ฟกันตั้งแต่แรก — ไม่ใช่ในแง่ดี แต่เป็นแง่ลบล้วนๆ

 

ไม่ต้องพูดถึงการจัดการส่วนอื่นๆ ของเจ้าภาพที่ก็ล้วนแต่มีเสียงตำหนิ จำกัดลงมาในแง่ของฟุตบอล ทีมของ เฟลิกซ์ ซานเชซ ได้ผลออกมาแบบที่ต้องถอนใจดังๆ และผิดหวังแทนแฟนเจ้าภาพ

 

กระนั้น กับตัวแทนเอเชียรายอื่น ทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ไปจนถึง ออสเตรเลีย ก็สร้างความน่าเหลือเชื่อไว้เช่นกัน และเป็นไปในทางที่ดีงามด้วย

 

ส่วนก้าวเดินของบรรดายักษ์ใหญ่ตัวเก็งเต็งแชมป์ทั้งหลายแหล่ ไปจนถึงม้ามืดที่ถูกจับตามอง ก็ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญของทัวร์นาเมนต์

 

บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำล้ำค่า กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022…

 

บทสรุปรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอ – กังหันลอยลำ ตามด้วยเซเนกัล
1. เนเธอร์แลนด์ คะแนน 7 ผลต่างประตู +4
2. เซเนกัล คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
3. เอกวาดอร์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +1
4. กาตาร์ คะแนน 0 ผลต่างประตู -6

 

เนเธอร์แลนด์ : เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเออย่างไม่ลำบาก ด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โคดี้ กัคโป ดาวรุ่งจากพีเอสวี แจ้งเกิดเต็มตัวด้วยการซัดนัดละเม็ด ครบทั้งสามเกม ยิงได้ 5 เสียแค่ประตูเดียว สำคัญคือ ตั้งแต่ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาทำทีมแทน แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หลังจบยูโร 2020 นั้น ฟาน กัล ก็ยังไม่ได้พาทีมกังหันแพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียว ลงสนาม 18 นัด ชนะ 13 เสมอ 5

 

เซเนกัล : เริ่มต้นได้แย่ด้วยการแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แต่สองเกมถัดมาก็ฟาด 6 แต้มเต็ม ชนะ กาตาร์ 3-1 และ เอกวาดอร์ 2-1 จนเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอ แม้จะหวิดร่วงอยู่เหมือนกันหลังโดน เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง ก็ตาม

 

เอกวาดอร์ : เปิดฉากอย่างเร้าใจสร้างเซอร์ไพรส์ให้หลายฝ่าย กับการชนะเจ้าภาพ กาตาร์ แล้วมายันเสมอ เนเธอร์แลนด์ จนเกมสุดท้ายขอแค่ไม่แพ้ก็ลอยลำ แต่สุดท้ายโดนทีเด็ดจาก คาลิดู คูลิบาลี่ และชาวคณะ จนตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

 

กาตาร์ : น่าผิดหวังอย่างรุนแรงกับผลงานที่ปรากฏกับบอลโลกในบ้าน เมื่อทั้งที่ซุ่มเก็บตัวเตรียมทีมอยู่เป็นปีๆ แถมมีดีกรีแชมป์ เอเชียน คัพ 2019 แต่ดันออกอาการสั่นไหว ตื่นเกร็งตั้งแต่เกมแรก จนแพ้ เอกวาดอร์ 0-2 และต่อมาก็ทำดีที่สุดแค่ยิง 1 ประตู โมฮัมเหม็ด มุนตารี่ ยิงตีไข่แตก เซเนกัล นัดแพ้ 1-3

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มบี – สิงโตไม่มีพลาด
1. อังกฤษ คะแนน 7 ผลต่างประตู +7
2. สหรัฐอเมริกา คะแนน 5 ผลต่างประตู +1
3. อิหร่าน คะแนน 3 ผลต่างประตู -3
4. เวลส์ คะแนน 1 ผลต่างประตู -5

 

อังกฤษ : เริ่มต้นได้อย่างสุดยอด รัว อิหร่าน ครึ่งโหล แต่ต่อมาก็เครื่องสะดุดไปดื้อๆ เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 เพียงแต่ว่าก็ฟื้นฟอร์มร้อนได้ทันเวลากะซวกเพื่อนบ้าน เวลส์ 3-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม โดยที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นดาวเด่น กดไป 3 ประตู ทั้งนี้ เบน ไวท์ กองหลังจากอาร์เซน่อล ถอนตัวจากบอลโลกไปด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่เป็นที่เปิดเผย

 

สหรัฐอเมริกา : ไม่ได้ถูกจับตามองนักว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ โดยเฉพาะ 2 เกมแรกแม้ไม่แพ้ แต่ก็เสมอทั้ง เวลส์ และ อังกฤษ กระนั้นนัดสุดท้ายก็เฉือนชัย อิหร่าน 1-0 คริสเตียน พูลิซิช สังหารเม็ดโทนส่งพญาอินทรีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

 

อิหร่าน : มีเกมที่เป็นประเด็นทุกนัด ตั้งแต่เปิดหัวโดน อังกฤษ อัดครึ่งโหล, นัดต่อมายิง เวลส์ 2-0 ตอนทดเจ็บ +8 กับ +11 ตามด้วยนัดสาม เล่น “เกมการเมือง” กับ สหรัฐอเมริกา แต่ต้านไม่อยู่ จนตกรอบแรก เป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม

 

เวลส์ : ทันทีที่ แกเร็ธ เบล สาวเท้าเข้าสังหารจุดโทษใส่ สหรัฐอเมริกา ช่วยให้ทีมมังกรแดงไล่ตีเสมอ 1-1 ท้ายเกม เขาและแฟนๆ เวลส์ก็คงไม่รู้ว่า นั่นคือการได้เฮหนแรกและหนเดียวตลอดรายการ เมื่อหลังจากนั้นแพ้ อิหร่าน และแพ้ อังกฤษ แบบโดนยิงรวม 5 ลูก เอาคืนไม่ได้เลยสักเม็ด

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มซี – ฟ้าขาวมาทันเวลา จังโก้ใจสลาย
1. อาร์เจนติน่า คะแนน 6 ผลต่างประตู +3
2. โปแลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
3. เม็กซิโก คะแนน 4 ผลต่างประตู -1
4. ซาอุดีอาระเบีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -2

 

อาร์เจนติน่า : เต็งแชมป์เบอร์ต้นที่มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 เริ่มต้นด้วยความพลิกล็อกช็อกโลก ลิโอเนล เมสซี่ ยิงจุดโทษนำก่อนแต่แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ทว่าหลังจากนั้นก็ฮึดขึ้น ปราบ เม็กซิโก 2-0 เช่นเดียวกับ โปแลนด์ สกอร์เดียวกัน จนยึดแชมป์กลุ่มได้ในที่สุด

 

โปแลนด์ : นั่งเข่าทรุดคอตกกันแล้วสำหรับนักเตะและกองเชียร์โปแลนด์ ตอนจบเกมสุดท้ายรอบแรกที่แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2 แต่ปรากฏว่าเมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ตีไข่แตก เม็กซิโก 1-2 ช่วงทดเจ็บ 90+5 ก็ทำให้ เม็กซิโก ถูกฉุดตกรอบไปแทน และ โปแลนด์ ได้เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเฮงๆ ด้วยผลงานครบถ้วนชนะ-เสมอ-แพ้

 

เม็กซิโก : หนึ่งคือหนืดเนือยไร้คมเอง สองคือก็โชคไม่เข้าข้าง เมื่อทั้งที่ยิง ซาอุฯ 2-0 ซึ่งเพียงพอต่อการเข้ารอบแล้วในเกมปิดกลุ่ม แต่สุดท้ายมาโดนตีไข่แตก 90+5 ทำให้ประตูได้เสียเป็นรอง โปแลนด์ ในพริบตา และตกรอบแรกเข้าจนได้จากที่เข้ารอบ 16 ทีมบอลโลกมา 8 ครั้งรวด

 

ซาอุฯ : เอาชนะ อาร์เจนติน่า แบบไม่น่าเชื่อ 2-1 แบบที่ทีมฟ้าขาวยิงเข้า 4 ครั้งได้มาลูกเดียว นอกนั้นล้ำหน้าหมด แต่ถัดมายุทธวิธีกับดักล้ำหน้าก็ใช้ไม่ได้แล้ว แพ้ 2 เกมรวดจนตกรอบด้วยการเป็นบ๊วย แถมสร้างความเจ็บแสบให้ เม็กซิโก อีกต่างหาก

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มดี – ตราไก่ใสแจ๋ว โคนมดิ้นพราด
1. ฝรั่งเศส คะแนน 6 ผลต่างประตู +3
2. ออสเตรเลีย คะแนน 6 ผลต่างประตู -1
3. ตูนิเซีย คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
4. เดนมาร์ก คะแนน 1 ผลต่างประตู -2

 

ฝรั่งเศส : เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์อย่างหวาดเสียวด้วยอาถรรพ์แชมป์เก่าและปัญหาบาดเจ็บของขุมกำลัง เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ทยอยกันถอนตัวออกไป ไม่นับรวมที่เดี้ยงจนไม่ได้มาอยู่ก่อนแล้วอีก 4-5 คน ทว่าทีมตราไก่ก็ลบคำสบประมาททุกอย่างลงได้อย่างสวยงาม ชนะ ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก จนเข้ารอบน็อกเอาต์ได้เป็นทีมแรกสุด สุดท้ายแม้แพ้ ตูนิเซีย 0-1 แต่ก็เป็นทีมสำรอง แถมไม่ส่งผลกับการเป็นแชมป์กลุ่มด้วย

 

ออสเตรเลีย : โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 ด้วยประตูโทนของ แม็ทธิว เลคกี้ จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม

 

ตูนิเซีย : กลายเป็นทีมจอมเหนียวแน่นในทัวร์นาเมนต์นี้อย่างเซอร์ไพรส์ สามนัดเสียแค่ประตูเดียว แต่เวลาเดียวกันก็ยิงได้แค่ลูกเดียวถ้วน จนเข้าป้ายที่อันดับ 3 กลับบ้านค่ะพี่

 

เดนมาร์ก : หนึ่งในทีมที่น่าผิดหวังที่สุดของฟุตบอลโลก 2022 เมื่อทั้งที่เข้าถึงตัดเชือกยูโร ทั้งผลงานรอบคัดเลือกดีมาก ขั้นว่าเข้ารอบสุดท้ายเป็นทีมที่ 3 ของโลก และทั้งที่บางกูรูยกว่ามีสิทธิ์ถึงแชมป์โลก แต่กลับเกิดความสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกที่กาตาร์ ระบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และไม่ลงตัวสักอัน จนชนะใครไม่ได้เลย เสมอตูนิเซีย 0-0, แพ้ฝรั่งเศส 1-2 และแพ้ออสเตรเลีย 0-1 ตกรอบด้วยการเป็นบ๊วย

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มอี – ซามูไรไงล่ะเพื่อน!
1. ญี่ปุ่น คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
2. สเปน คะแนน 4 ผลต่างประตู +6
3. เยอรมนี คะแนน 4 ผลต่างประตู +1
4. คอสตาริกา คะแนน 3 ผลต่างประตู -8

 

ญี่ปุ่น : เซอร์ไพรส์แพ็คเกจประจำเวิลด์คัพ 2022 ที่การประกาศของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ว่าเป้าหมายของเขาคือการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ถูกหัวเราะเยาะใส่ แต่เมื่อเกมจริงมาถึง ญี่ปุ่น ก็พลิกสยบ เยอรมนี 2-1 ตั้งแต่เกมแรก ต่อมาแม้จะเจอความพลิกล็อกเล่นงานเองบ้างด้วยการแพ้ คอสตาริกา 0-1 แต่ก็ยังมาพลิกยิงแซงชนะ สเปน ในเกมที่บังคับต้องชนะอีก 2-1 จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มอย่างหล่อ

 

สเปน : มาดีเกินคาดอีกเหมือนกัน เริ่มต้นด้วยการขยำขยี้ คอสตาริกา 7-0 จากนั้นก็หวิดชนะ เยอรมนี แต่โดนทวงท้ายเกม 1-1 แต่ปรากฏว่านัดสุดท้าย เล่นแบบเอื่อยๆ จนโดน ญี่ปุ่น แซงเชือด 2-1 ท่ามกลางครหาว่าอันที่จริง พวกเขาตั้งใจแพ้เพื่อขวางไม่ให้ เยอรมนี หลุดเข้าไปเป็นเสี้ยนหนาม แถมตัวเองยังจะเลี่ยงทีมแข็งอย่าง โครเอเชีย หรือ บราซิล ในรอบถัดๆ ไปได้ด้วย

 

เยอรมนี : เล็งถึงแชมป์โลกสมัย 5 ฐานที่เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นทีมแรกสุด (ถัดจากเจ้าภาพ) แต่ปรากฏว่าอินทรีเหล็กเก๊กซิมตั้งแต่นัดแรก แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 และก็ทำได้เต็มที่แค่ตามทวง สเปน 1-1 สุดท้ายแม้จะชนะ คอสตาริกา ได้ตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่เพียงพอเมื่อ ญี่ปุ่น ยังสร้างปาฏิหาริย์ซ้ำสองได้อยู่

 

คอสตาริกา : ถูกกาชื่อทิ้งเมื่อจบเกมแรกที่โดน สเปน ยิง 7 เม็ด แต่ก็แก้ตัวได้อย่างสวยงามในนัดต่อมาที่ชนะ ญี่ปุ่น 1-0 และที่จริงจะเข้ารอบได้ด้วยถ้าตรึงสกอร์นำหน้า เยอรมนี 2-1 เอาไว้จนจบเกม แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว พ่าย 2-4 จนตกรอบแรกไปด้วยกัน

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอฟ – ม้ามืดตัวจริงที่ชื่อ…
1. โมร็อกโก คะแนน 7 ผลต่างประตู +3
2. โครเอเชีย คะแนน 5 ผลต่างประตู +3
3. เบลเยียม คะแนน 4 ผลต่างประตู -1
4. แคนาดา คะแนน 0 ผลต่างประตู -5

 

โมร็อกโก : ม้ามืดตัวจริงของฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ก่อนสร้างเซอร์ไพรส์ปราบ เบลเยียม 2-0 และฟาดอีกสามแต้มด้วยการสยบ แคนาดา 2-1 จนเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม แบบที่ยิง 4 เสียแค่ 1 ซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขามีดีทั้งรุกและรับ

 

โครเอเชีย : โชว์ความหลังเหนียวด้วยการไม่เสียประตูทั้งเกมกับ โมร็อกโก และ เบลเยียม โดยเฉพาะนัดหลังที่เป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ไม่พลาดท่าเสียที แม้โดยรวมอาจไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนครั้งก่อนที่ไปไกลถึงรองแชมป์โลก แต่ก็อย่าประมาทเชียวล่ะ

 

เบลเยียม : อีกหนึ่งยักษ์ล้มของฟุตบอลโลกงวดนี้ ทั้งที่เริ่มต้นด้วยชัยชนะเหนือ แคนาดา 1-0 แต่หลังจากนั้นกลับพลิกพ่าย โมร็อกโก ตามด้วยเสมอ โครเอเชีย แบบยิงไม่ได้ โรเมลู ลูกากู โดนถล่มหนักจากฟอร์มสุดทื่อในเกมสุดท้ายที่พลาดโอกาสทองไป 3-4 หน ขณะที่ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงความแตกร้าวภายในแคมป์ โดยเฉพาะเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ไปหลุดปากให้สัมภาษณ์ว่า เบลเยียมชุดนี้แก่เกินไป ยังไงไม่ถึงแชมป์โลก

 

แคนาดา : คืนสู่ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกถัดจากปี 1986 ซึ่งก็พอเข้าใจได้ถึงการที่บทสรุปจะออกแบบนี้ – รั้งบ๊วยด้วยการแพ้ 3 เกมรวด เนื่องด้วยขุมกำลังของพวกเขาไม่มีนักเตะคุณภาพอยู่เลย ยกเว้น อัลฟอนโซ่ เดวิส คนเดียวที่ก็แบกไม่ไหว แต่ก็เป็นการชิมลางที่ดีก่อนได้เป็นเจ้าภาพร่วม (กับสหรัฐฯ และเม็กซิโก) ในอีก 4 ปีข้างหน้า

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มจี – แซมบ้ามาตามนัด เซิร์บผิดฟอร์ม
1. บราซิล คะแนน 6 ผลต่างประตู +2
2. สวิตเซอร์แลนด์ คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
3. แคเมอรูน คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
4. เซอร์เบีย คะแนน 1 ผลต่างประตู -3

 

บราซิล : เป็นอีกทีมที่โดนปัญหาบาดเจ็บตามเล่นงาน เนย์มาร์ กับ ดานิโล่ เจ็บจากเกมแรกจนต้องพักตลอดรอบแรก กาเบรียล เชซุส กับ อเล็กซ์ เตลเลส ก็เจ็บจากเกมสามจนต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ แต่ภาพรวมก็ยังถือว่ายอดเยี่ยม เกมแรกอัด เซอร์เบีย จนน่าชนะมากกว่า 2-0 เกมสองก็ฮึดเชือด สวิสส์ ด้วยประตูเวิลด์คลาสจาก กาเซมิโร่ เสียแค่นัดสามที่ปรับส่งสำรองลง แล้วเจาะ แคเมอรูน ไม่เข้าก่อนโดนสวนถึงปลายคาง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นแชมป์กลุ่มได้ตามเป้า

 

สวิตเซอร์แลนด์ : แสดงให้เห็นถึงเกมรับที่แข็งแกร่งทั้งในเกมชนะ แคเมอรูน 1-0 และยัน บราซิล 0-0 จนถึงนาที 83 (โดน กาเซมิโร่ สอย 1-0) ก่อนจะเจอเกมแลกหมัดกับ เซอร์เบีย ซึ่งทัพนาฬิกาก็ยังมีดีพอจะเบียดชนะ 3-2 ด้วยทีมที่มี 11 คนแรกค่อนข้างตายตัว และตัวความหวังสูงสุดอย่าง บรีล เอ็มโบโล่ ก็เข้าฝักดี กดไปแล้ว 2 ตุง

 

แคเมอรูน : โชคไม่ดีนักที่ชัยชนะสุดพลิกล็อกเหนือ บราซิล 1-0 แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ โขกประตูโทน มาช้าเกินไปหน่อย หลังจากแพ้ สวิสส์ 0-1 ไปแล้ว และเสมอ เซอร์เบีย 3-3 ในนัดถัดมา ทำให้สี่แต้มที่มีในมือยังไม่มากพอต่อการได้ไปต่อ

 

เซอร์เบีย : น่าผิดหวังมากอีกทีม เมื่อทั้งที่มาด้วยฟอร์มชั้นยอดในรอบคัดเลือก แต่เมื่อถึงรอบสุดท้ายแล้วก็กลับไปไม่เป็น ดราแกน สตอยโควิช เหมือนจะวางแผนผิดในเกมแพ้ บราซิล 0-2 ต่อมาก็ทำพลาดปล่อยสกอร์นำ แคเมอรูน 3-1 ให้จบที่ 3-3 ก่อนสุดท้ายโดน สวิสส์ ยิงอีกสามเม็ด เท่ากับสามเกมโดนจ้วงยับ 8 ประตู

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอช – ฝอยทองจองตั๋ว โสมขาวมาเฉย
1. โปรตุเกส คะแนน 6 ผลต่างประตู +2
2. เกาหลีใต้ คะแนน 4 ผลต่างประตู 0 (ยิงได้ 4)
3. อุรุกวัย คะแนน 4 ผลต่างประตู 0 (ยิงได้ 2)
4. กาน่า คะแนน 3 ผลต่างประตู -2

 

โปรตุเกส : ทำให้เห็นว่านี่ก็ไม่ได้เป็นกลุ่มแห่งความตายอะไรนักหนา ด้วยการชนะ 2 เกมซ้อนเหนือทั้ง กาน่า และ อุรุกวัย จนการันตีการเข้ารอบได้ตั้งแต่จบสองเกมแรก และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ไม่ได้เล่นดีมากแต่ก็มีประตูทำสถิติจารึกไว้ชั่วลูกชั่วหลาน จนเกมสุดท้ายแม้จะหลุดแพ้ เกาหลีใต้ แต่ก็ไม่ได้สั่นคลอนตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

 

เกาหลีใต้ : สร้างเซอร์ไพรส์ได้ไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่าง ญี่ปุ่น แต่ก็ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำมากกว่าเมื่อสองเกมแรกผ่านไปมีแต้มในมือแค่คะแนนเดียว (0-0 อุรุกวัย, 2-3 กาน่า) จนสถานการณ์บังคับให้ต้องชนะ โปรตุเกส สถานเดียวพร้อมลุ้นผลอีกคู่ สุดท้ายทำสำเร็จด้วยการยิงแซง 2-1 และ อุรุกวัย ยิงไม่พอ

 

อุรุกวัย : ถูกมองว่าจะไปได้ไกลจากการมีขุมกำลังน่าจับตาตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด แต่เอาเข้าจริงก็ถือเป็นทีมน่าผิดหวังอีกรายประจำทัวร์นาเมนต์ สองเกมแรกยิงใครไม่ได้ เสมอ เกาหลีใต้ 0-0 และแพ้ โปรตุเกส 0-2 ครั้นเร่งเครื่องขึ้นก็ไปไม่สุด นำ กาน่า 2-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้วผ่อนเกม จนยิงเพิ่มไม่สำเร็จ สุดท้ายตกรอบอย่างสุดช็อกด้วยการที่มีจำนวนประตูยิงได้น้อยกว่า เกาหลีใต้ เท่านั้นเอง

 

กาน่า : วูบวาบดีและก็สร้างความหนักใจให้คู่แข่งได้พอตัว ทั้งเกมที่แพ้ โปรตุเกส หวิวๆ 2-3 แล้วต่อมาสยบ เกาหลีใต้ 3-2 เพียงแต่ก็เครื่องช็อตไปในเกมสาม ที่แพ้ อุรุกวัย จนในที่สุดก็ตกรอบแรกแบบเป็นบ๊วยของกลุ่ม อินยากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่ฝากความหวังไว้ ยิงไม่ได้สักลูก ดาวเด่นกลับเป็น โมฮัมเหม็ด คูดุส ปีกดาวรุ่งจากอาแจ็กซ์ ที่กดไป 2 ตุงในเกมชนะโสมขาว

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

 

ภาพประกอบ
AFP
Doha News
Sky Sports
CNN
Football365
THE SPORTS ROOM
The West Australian
Reuters

 

เรื่องน่าอ่าน
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด
8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

อังกฤษ สิงโตคำราม จะชนะเซเนกัล สิงโตแห่งเทรังก้า เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

อังกฤษ สิงโตคำราม จะชนะเซเนกัล สิงโตแห่งเทรังก้า เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม อังกฤษ – เซเนกัล

วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง MONO29 / True Sport

อังกฤษ สิงโตคำราม ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

อังกฤษคือ เต็งหนึ่งแชมป์กลุ่ม บี ที่มีโอกาสเข้ารอบลึก ๆ ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ภาพ: worldinsport.com)

สถานการณ์ของอังกฤษและเซเนกัล

ศึกสองสิงโต สิงโตคำราม อังกฤษที่ยังไม่แพ้ใครในศึกฟุตบอลโลก 2022กับสิงโตแห่งเทรังก้า เซเนกัล อังกฤษเก็บ 7 แต้มจากเกมรอบแรก ด้วยการชนะอิหร่านและเวลส์ เสมอสหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์กลุ่ม ส่วนเซเนกัลเก็บได้ 6 แต้ม จากเกมชนะกาตาร์เจ้าภาพ และเฉือนเอกวาดอร์เข้ารอบมาในในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วนอังกฤษมาแบบหรู ๆ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม

แม้จะได้ผลที่ดูดี แต่ฟอร์มการเล่นของอังกฤษก็ยังไม่เนี้ยนัก อาจจะเยี่ยมในนัดแรกที่ถล่มอิหร่านยับ แต่สหรัฐอเมริกาก็ทำให้พวกเขาปั่นป่วนได้เหมือนกัน ก่อนจะมาดูดีอีกครั้งในครึ่งหลังของเกมกับเพื่อนบ้านเวลส์

เซเนกัลมากาตาร์พร้อมข่าวร้าย ดาวเตะประจำทีม ซาดิโอ มาเน่ บาดเจ็บจนต้องถอนตัว ประเดิมนัดแรกด้วยการแพ้เนเธอร์แลนด์ในแบบที่เกือบจะแบ่งแต้มอยู่แล้ว แต่ในที่สุดแชมป์จากแอฟริกาก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของชาติ ด้วยการคุมทีมของอลิอู ซิสเซ่ ที่มีผู้ช่วยอย่าง เอล ฮาดิจ ดิยุฟ สองผู้เล่นเซเนกัล ในชุดที่ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002

อังกฤษ สิงโตคำราม จะชนะเซเนกัล สิงโตแห่งเทรังก้า เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติเซเนกัล ทีมแกร่งของแอฟริกา (ภาพ: https://www.beinsports.com)

เช็กสถิติอังกฤษและเซเนกัล

สิงโตสองตัวจากสองทวีปเจอกันครั้งแรก แต่สถิติในการเล่นกับทีมจากแอฟริกาของอังกฤษในฟุตบอลโลกครั้งก่อน ๆ ดูดีมาก ๆ ไม่ว่าจะชนะแคเมอรูน 3-2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศปี 1990 ส่วนการเจอกับไนจีเรียและอัลจีเรีย ในปี 2002 และ 2010 ก็จบแบบไม่มีประตูเกิดขึ้น ล่าสุดในฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาก็ชนะตูนิเซียไป 2-1 หลังพบกับทีมจากแอฟริกามา 20 ครั้ง อังกฤษยังไม่เคยแพ้

เซเนกัลที่เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 3 แจ้งเกิดจากครั้งแรกด้วยการคว่ำฝรั่งเศสแชมป์เก่าในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2002 ที่ตะลุยไปจนถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ แล้วโดนตุรเคียดับฝัน ส่วนหนที่สองคือฟุตบอลโลกหนที่แล้ว 2018 ซึ่งตกรอบแรก และเมื่อดูจากสถิติในการเจอกันระหว่างทีมจากแอฟริกาและยุโรปในรอบน็อคเอาต์ฟุตบอลโลกทั้งหมด 9 นัด ทีมจากแอฟริกาพ่ายไปถึง 8 นัด นัดเดียวที่ชนะก็คือการเจอกันระหว่างเซเนกัลและสวีเดนในปี 2002 นั่นเอง

ส่วนห้าเกมหลังสุด อังกฤษชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 ( England: LDWDW) และเซเนกัล ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 (WDLWW)

อังกฤษ สิงโตคำราม จะชนะเซเนกัล สิงโตแห่งเทรังก้า เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022
สถานการณ์ผู้เล่นของอังกฤษและเซเนกัล

เบน ไวต์ เซนเตอร์แบ็คอังกฤษ ต้องบินกลับบ้านด้วยเหตุผลส่วนตัวหลังจบเกมกับเวลส์ แต่ก็ไม่น่าจะทำให้แกเร็ธ เซาธ์เกตมีปัญหาในการจัดทีม เมื่อได้ไคล์ วอลเกอร์กลับมาทันเวลาพอดี ขณะที่ผู้เล่นอย่าง ฟิล โฟเด้น, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงในเกมเจอกับเวลส์ก็โชว์ฟอร์มได้ดี จนอาจทำให้เซาธ์เกตเกิดรักพี่เสียดายน้องในการจัดทีม เมื่อยังมีผู้เล่นอย่าง คีแรน ทริปเปียร์, บูกาโย ซาก้า และลูกรัก – ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยังสมบูรณ์พร้อมลงสนาม

นัดนี้เซาธ์เกตอาจจะปรับแผงหลังจากมาเป็นระบบสามเซนเตอร์แบ็ค ขณะที่แดนกลางจู๊ด เบลลิงแฮม น่าจะได้จับคู่กับเดแคลน ไรซ์และเฮนเดอร์สัน เมื่อคัลวิน ฟิลลิปส์และเจมส์ แมดดิสันยังต้องเรียกความฟิต ในแดนหน้าดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2018 แฮร์รี่ เคน อาจจะยังยิงประตูแรกไม่ได้ในฟุตบอลโลกหนนี้ แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดี และคงยืนเป็นศูนย์หน้าเหมือนเคย

อลิอู ซิสเซ่ แม้จะได้ผู้เล่นมาทำหน้าที่แทนซาดิโอ มาเน่ไปแล้วเรียบร้อย ต้องเจอปัญหาเมื่ออิดริสซ่า กานา เกย์ สะสมใบเหลืองครบ 2 ใบทำให้พลาดเกมในรอบน็อคเอาต์ ทำให้อิสไมล่า ซาร์ร์ ปีกจากวัตฟอร์ดจะได้ลงเล่นกับอิลิแมน เอ็นเดีย จากเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ก็ต้องวัดกับฟามารา ดีดิอู และเครปิน ดิแอตตต้า สำหรับหน้าเป้า เป็นบูเลย์ เดียจากซาแลร์นิตาน่า ส่วนรายชื่อผู้เล่นได้รับบาดเจ็บมีชีกฮู คูยาเต้จากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ถูกหามออกจากเกมกับเนเธอร์แลนด์ เพราะบาดเจ็บข้อเท้าเพียงคนเดียวและยังลงซ้อมไม่ได้ โดยนัมปาลีส์ เม็นดี้จะได้ลงเล่นแทน

ในแนวรับสองผู้เล่นสำคัญ เอดูอาร์ด เม็นดี้ และคาลิดู คูลิบาลี่ จะยังยืนเป็นหลักเหมือนเดิม

แฮร์รี่ เคน สิงโตคำราม ฟุตบอลโลก 2022

กัปตันทีมสิงโตคำรามที่หากไม่เจ็บ ไม่ป่วย ก็คือ 1 ในผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติอังกฤษแน่ ๆ (ภาพ: Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของอังกฤษและเซเนกัล

อังกฤษ ระบบ 4-2-3-1: พิคฟอร์ด; ทริปเปียร์, สโตนส์, แม็กไกวร์, ชอว์; ไรซ์, เบลลิงแฮม; แรชฟอร์ด, เมานต์, สเตอร์ลิง; เคน
เซเนกัล ระบบ 4-3-3: เอดูอาร์ด เม็นดี้; ซาบาลี่, คูลิบาลี่, ดิอัลโล, จาค็อบส์; นัมปาลีส์ เม็นดี้, ซิสส์, ปาเป้ เกย์; เอ็นเดีย, เดีย, ซาร์ร์

ผลการแข่งขันระหว่างอังกฤษและเซเนกัล

อังกฤษดูเหนือกว่าในทุกแดน โดยเฉพาะการเล่นที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ตัวเลือกในแดนกลางของทั้งสองทีมก็เห็นได้ชัดว่า คู่ของอังกฤษน่าจะครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ ปีกสองข้างของเซเนกัล ซาร์ร์และเอ็นเดีย ที่เป็นผู้เล่นระดับแชมเปี้ยนชิพ อาจจะใช้ความเร็วสร้างปัญหาให้กับกองหลังของอังกฤษได้บ้าง แต่ก็ไม่น่าจะคุกคามได้อย่างต่อเนื่อง และน่ากลัวมากนัก นี่คือเกมที่สู้กันระหว่าง ทีมประสบการณ์ และทีมที่เชี่ยวชาญในการเล่นฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ซึ่งด้วยอย่างหลังอังกฤษน่าจะได้เข้ารอบต่อไป ด้วยชัยชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก
ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน

ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ตราไก่ จะกำชัยเหนือ โปแลนด์ ในรอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ตราไก่ จะกำชัยเหนือ โปแลนด์ ในรอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม ฝรั่งเศส – โปแลนด์

วันที่ 4 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง True4U/ True Sport

แชมป์โลก ฝรั่งเศส
สถานการณ์ของฝรั่งเศสและโปแลนด์

ทั้งสองทีมจบรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการพ่ายเพียงนัดเดียว แชมป์เก่า ฝรั่งเศสเข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มดี และได้เข้ารอบ 16 ทีมเป็นทีมแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ส่วนทีมของเซสลอว์ มิชนีวิกซ์เป็นที่ 2 ของกลุ่ม ซี

ในนัดสุดท้ายดิดิเยร์ เดส์ชองป์สส่งผู้เล่นสำรองลงเล่นกับตูนิเซีย โดยผู้เล่นอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมาน เดมเบเล่ และอันทวน กรีซมันน์ นั่งอยู่ในม้านั่งสำรอง และแพ้ไปหวุดหวิด 1-0 เข้ารอบมาแบบมีประตูได้-เสียมากกว่าออสเตรเลีย ทำให้แชมป์โลกปี 1998 และ 2018 เข้ารอบน็อคเอาต์เป็นหนที่สามติดต่อกันเป็นครั้งแรก และเป็นแชมป์เก่ารายแรก ที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มสำเร็จนับตั้งแต่บราซิลทำได้ในปี 2006

ถึงจะเก็บได้แค่ 4 แต้มจากกลุ่ม ซี ที่มีอาร์เจนติน่า, ซาอุดิอาระเบีย และเม็กซิโก เป็นทีมร่วมสาย แต่โปแลนด์ก็เข้ารอบตามทีมฟ้าขาวมาได้ ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าเม็กซิโก และเป็นการเข้ารอบ 16 ทีมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986 ซึ่งครั้งนั้นฟุตบอลโลกจัดกันที่เม็กซิโก โดยมีที่เข้าร่วมทั้งหมด 24 ทีม ทีมของมิชนีวิกซ์แม้จะมีดาวยิงระดับแถวหน้าของโลก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ติดทีมมาด้วย แต่ก็ไม่ใช่ทีมที่ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ จากเกมในรอบแรก พวกเขายิงเข้าเป้าแค่ 5 หน โดย 3 ครั้งมาจากเกมในนัดที่ 2 กับซาอุดิอาระเบีย แต่พวกเขาก็เก็บคลีนชีตมาได้ติดต่อกันถึง 4 นัด ก่อนที่จะโดนแม็ก อัลลิสเตอร์ของอาร์เจนติน่าเจาะประตู

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

เช็กสถิติฝรั่งเศสและโปแลนด์

ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้ว 16 ครั้ง และฝรั่งเศสทำได้ดีกว่าโปแลนด์ เมื่อเอาชนะไปได้ 8 ครั้ง กับเสมออีก 5 ครั้ง และแพ้เพียง 3 ครั้ง แต่ผลการแข่งขันในช่วงหลังดูจะหนักไปทางเสมอกัน โดยหนสุดท้ายที่ทีมตราไก่พบกับโปแลนด์ก็คือปี 2011 ซึ่งฝรั่งเศสชนะไป 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ โทมัสซ์ จอดโลวีก โดยผู้เล่นตราไก่ในชุดนั้นก็มียูเนส คาบูล, มาร์วิน มาร์แต็ง และกิลลอเม่ โอรัว ส่วนฝั่งโปแลนด์ มีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้กับวอจเชก เชสนี อยู่ในทีมด้วย ส่วนในฟุตบอลโลก พวกเขาเจอกันหนเดียวในรอบชิงที่ 3 ปี 1982 โปแลนด์ชนะไป 3-2 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด ที่พวกเขาทำได้ ซึ่งเวลาผ่านมา 40 ปีแล้ว โดยในช่วงเวลาหนึ่งฝรั่งเศสไม่แพ้โปแลนด์ติดต่อกันถึง 7 เกม

สำหรับสถิติห้านัดหลังสุดของทั้งสองทีม ฝรั่งเศสชนะ 3 แพ้ 2 (WLWWL) ส่วนโปแลนด์ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 (WWDWL)

สถานการณ์ผู้เล่นของฝรั่งเศสและโปแลนด์

หลังเจออาถรรพ์ผู้เล่นบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนจนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เดสชองป์สถึงกับต้องดูแลบรรดานักเตะในทีมเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนผู้เล่นในเกมสุดท้ายของรอบแรก ที่ทีมเล่นไม่เป็นเรื่องเป็นราว จนกระทั่งส่งตัวจริงลงไป ซึ่งทำให้เดสชองป์สอาจจะไม่อยากส่งผู้เล่นแถวสอง ลงเป็นตัวจริงมากนัดหากไม่จำเป็น ส่วนเซสลอว์ มิชนีวิกซ์น่าจะส่งผู้เล่นตัวจริงลงสนามได้แบบจัดเต็ม แต่จากการให้สัมภาษณ์ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ไม่ค่อยมั่นใจในคุณภาพของทีมสักเท่าไหร่ “ผมไม่สามารถเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ได้หรอก ถึงกระนั้นมันก็มีประโยชน์อยู่นะ”

ผู้รักษาประตูสำรอง อัลฟอนเซ่ อารีโอล่า หายจากอาการเจ็บหลัง และนั่งเป็นตัวสำรองในเกมกับตูนิเซียแล้ว เดสชองป์สจะส่งผู้เล่นตัวจริงที่ฟิตพร้อมลงสนาม สตาร์ตเป็น 11 คนแรกทั้งหมด โดยเธโอ แอร์น็องเดซ ที่เจ็บข้อเท้าจนทำให้ลงซ้อมไม่ได้เมื่อวันศุกร์อาจจะได้ลงเล่น ขณะที่ในตำแหน่งอื่น ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่จากเกมนัดล่าสุด ที่บรรดาตัวสำรองได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย เอ็มบัปเป้, กรีซมันน์, เดมเบเล่ และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่รายหลังต้องการอีกแค่ประตูเดียว เพื่อทุบสถิติของเธียร์นี่ อองรี จะได้กลับมาลงสนาม

จอร์แดน แวร์ตูต์กับยูสซูฟ โฟฟานาตกเป็นตัวสำรองตามเดิม เมื่อออเรเลียง ชูอาเมนี่และแอเดรียน ราบิโอต์ จะกลับมาลงเล่นในแผงกลางตามเดิม

มิชนีวิกซ์ มีผู้เล่นพร้อมใช้งานทั้ง 26 คน แต่ก็ต้องระวังเมื่อมีถึง 6 คนที่ติดใบเหลืองอยู่ และอาจพลาดเกมนัดต่อไปถ้าพวกเขาเข้ารอบ เมื่อโดนคาดโทษอีกในนัดนี้ หากเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นหลักในการเลือกตัวผู้เล่น โดยพเรซมีสลอว์ ฟรานคอฟสกี้และแครอล สวีเดอร์สกี้ ที่ลงเล่นครึ่งหลังในเกมพบอาร์เจนติน่า รายแรกน่าจะได้ออกสตาร์ต ส่วนรายหลังอาร์คาดิอุสซ์ มิลิกกับคริสตอฟ เพียเท็ก พร้อมลงเล่นแทนในตำแหน่งปีก เพื่อประสานงานกับเลวานดอฟสกี้ในแนวรุก

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โปแลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงวัย 34 ปี ที่ไร้ประตูในฟุตบอลโลก หลังเพิ่งลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติเพียงครั้งเดียว ที่รัสเซีย 2018 (ภาพ: Rafal Oleksiewicz/PressFocus/MB Media/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของฝรั่งเศสและโปแลนด์

ฝรั่งเศส ระบบ 4-2-3-1: โญริส; คุนเด้, วาราน, อูปาเมกาโน่, เธโอ แอร์น็องเดซ, ชูอาเมนี่, ราบิโอต์; เดมเบเล่, กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้; ชิรูด์
โปแลนด์ ระบบ 4-2-3-1: เซสนี; แค็ช, กลิก, คิวิออร์, บาเรสซินสกี้; ครีโชเวียก, บีลิก; ฟรานคอฟสกี้, ซีลินสกี้, คามินสกี้; เลวานดอฟสกี้

ผลการแข่งขันระหว่างฝรั่งเศสและโปแลนด์

การส่งผู้เล่นตัวสำรองลงเล่นในเกมเจอกับตูนิเซีย น่าจะส่งผลดีกับทีมตราไก่ เมื่อผู้เล่นตัวจริงส่วนใหญ่จะได้พักเต็ม ๆ ถึง 4 วัน ขณะที่โปแลนด์ ในเกมนี้ต้องใช้โอกาสที่มีให้คุ้มค่าที่สุด ถ้ายังทำได้เท่าเดิม แนวรุกของฝรั่งเศสที่แข็งแกร่งกว่าเม็กซิโกและซาอุดิอาระเบีย พร้อมลงโทษแน่นอน การเก็บบอลไว้กับตัวและสัญชาตญาณนักล่าประตูของเลวานดอฟสกี้ ต้องได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมมากกว่าที่เคย ในเกมที่จะได้เผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมสโมสรหลายคนแบบนี้

ฝรั่งเศสจะกลับมาเล่นแบบแชมป์เปี้ยนอีกครั้ง และชนะไป 2-0 หรืออาจทะลุถึง 3-0

เรื่องน่าอ่าน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก
ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน