เรื่อง

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

ฟุตบอลโลก 2022 กับ 16 ทีมสุดท้าย รอบน็อกเอาต์ !

หากว่ารอบแรกผ่านไปเร็วแล้ว น็อกเอาต์นี่ต่างหากที่พุ่งพรวดแบบที่ถ้าไม่ทันตั้งตัว แต่ละเกมก็ผ่านไปเสียแล้ว และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งฉากหน้าฉากหลังและสิ่งสืบเนื่องที่ตามมา กับรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

 

‘กังหัน’ ร้อนผ่านมะกันไม่ยาก 3-1

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

หลุยส์ ฟาน กัล พา เนเธอร์แลนด์ ครองแชมป์กลุ่มเอด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โดยสยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 และปิดท้ายตบเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0 จนโคจรมาพบกับ สหรัฐอเมริกา ที่ไร้พ่ายในรอบแรก และชนะ อิหร่าน 1-0 เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 กลุ่มบี

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล จัดว่าอยู่ในจุดที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนใดให้ต้องเป็นกังวล ภายหลัง เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ ฟื้นฟิตกลับลงตัวจริงได้แล้วในนัดก่อน เกมนี้พร้อมลุยต่อเนื่อง

 

และรูปเกมก็ออกในทรง “ใสแจ๋วแวววับ” สำหรับทัพกังหัน โดยเฉพาะเมื่อ สหรัฐฯ พลาดโอกาสพังประตูนำ (ก้ำกึ่งล้ำหน้า) ไปในนาทีที่ 2 คริสเตียน พูลิซิช ทะลุแนวหลังดัตช์เข้าไปกดด้วยซ้าย ติดขา อันดรีส น็อพเพิร์ต หวุดหวิด

นาทีที่ 10 เดนเซล ดุมฟรีส์ ปาดจากขวามาที่จุดนัดพบใกล้จุดโทษให้ เมมฟิส เดอปาย กดเปรี้ยงพังสกอร์ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทดเจ็บครึ่งแรก น.45+1 ดาลี่ย์ บลินด์ จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 ด้วยลูกยิงลักษณะเดียวกับ เดอปาย และยังมาจากการแอสซิสต์ให้ของแบ็กขวา ดุมฟรีส์ คนเดิม

 

ครึ่งหลังแม้ สหรัฐฯ จะตีไข่แตกไม่มีปี่มีขลุ่ยจากการไขว้ยิงเข้าเสาสองแบบมีโชคของหอกสำรอง ฮาจี ไรท์ น.76 แต่ เดนเซล ดุมฟรีส์ ก็ลุยขึ้นซัดปิดกล่อง น.81 ทำให้เกมนี้ แบ็กขวาจากอินเตอร์ มิลาน ทั้งยิง 1 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์

 

เนเธอร์แลนด์ ของจารย์ปู่ ฟาน กัล สานต่อสถิติไร้พ่ายเพิ่มเป็นนัดที่ 19 พร้อมกับเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อีกครั้ง แก้ตัวจากฟุตบอลโลกหนก่อนที่ตกตั้งแต่รอบคัดเลือก ขณะที่ 2 ทัวร์นาเมนต์ก่อนหน้า ไปไกลถึงรองแชมป์โลก 2010 และอันดับสาม 2014

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ รอบ 16 ทีมเนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2) อันดรีส น็อพเพิร์ท – ยูร์เรี่ยน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (c), นาธาน อาเก้ (มัทไธส์ เดอ ลิกท์ 90+3) – เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รอน (เทน คอไมเนอร์ส 46), เฟรงกี้ เดอ ยอง, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น (สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ 46) – โคดี้ กัคโป (วู้ท เวกอร์สท์ 90+3), เมมฟิส เดอปาย (ชาฟี ซิมอนส์ 83)
สหรัฐอเมริกา (4-3-3) แม็ตต์ เทอร์เนอร์ – แซร์จินโญ่ เดสท์ (ดีอันเดร เยดลิน 75), วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน, ทิม รีม, แอนโทนี่ โรบินสัน (จอร์แดน มอร์ริส 90+2) – ยูนุส มูซาห์, ไทเลอร์ อดัมส์ (c), เวสตัน แม็คเคนนี่ (เบรนแดน อารอนสัน 67) – ทิโมธี เวอาห์ (ฮาจี ไรท์ 67), เฮซุส เปเรยร่า (โจวานนี่ เรย์น่า 46), คริสเตียน พูลิซิช

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : เดนเซล ดุมฟรีส์
• ที่จริง สหรัฐอเมริกา สร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าด้วยซ้ำ ยิง 18 ตรงกรอบ 7 ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ ยิง 11 ตรงกรอบ 6
• ยูนุส มูซาห์ วิ่งรวม 12.14 กม.
• ดาลี่ย์ บลินด์ ยิงในทีมชาติเป็นลูกที่ 3 และลูกแรกนับแต่ปี 2014
• เมมฟิส เดอปาย เพิ่งยิงประตูที่ 2 ในฤดูกาลนี้ หลังยิงให้ บาร์เซโลน่า ไปลูกเดียวจาก 3 เกม แต่ก็เป็นลูกที่ 43 ในทีมชาติ เหลืออีก 7 เม็ดจะเทียบเท่าดาวซัลโวสูงสุดของชาติ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ เนเธอร์แลนด์ 3-1 สหรัฐฯ
• เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นอย่างน้อย เป็นครั้งที่ 7 จากการเข้ารอบสุดท้าย 11 หน
• หลุยส์ ฟาน กัล สานต่อสถิติไร้พ่ายในการกลับมาทำทีมชาติรอบ 3 เพิ่มเป็นนัดที่ 19 (ชนะ 14 เสมอ 5)
• เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์ หมดสัญญากับ สหรัฐฯ แล้ว (หลังเริ่มคุมปี 2018) และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเซ็นใหม่อีกฉบับเพื่อต่อเวลาทำทีมหรือไม่
• ภารกิจสำคัญลำดับถัดๆ ไปของ สหรัฐฯ ก็คือการเตรียมทีมลุยฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับเพื่อนบ้านอย่าง แคนาดา และ เม็กซิโก ทำให้ได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ

 

 

‘ฟ้าขาว’ เบียดจิงโจ้เหนื่อย 2-1

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

แม้จะเริ่มต้นอย่างช็อกโลกด้วยการพลิกแพ้ต่อ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 แต่หลังจากนั้น ลิโอเนล เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาว ก็ฮึดขึ้นทันเวลา ตบทั้ง เม็กซิโก และ โปแลนด์ ด้วยสกอร์เดียวกัน 2-0 จนยึดแชมป์กลุ่มตามความคาดหมาย

 

ด้านจิงโจ้นอกสายตา ออสเตรเลีย โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มดี

 

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม ถือได้ว่า “ซอคเกอรูส์” ของ เกรแฮม อาร์โนลด์ สู้ได้อย่างยอดเยี่ยมและคู่ควรกับเสียงปรบมืออย่างยิ่ง เป็นฟอร์มการเล่นที่ฟ้องว่า ไอ้ที่กล้าๆ เขี่ย เดนมาร์ก ร่วงรอบแรกไป ไม่ใช่เรื่องฟลุ้คแต่ประการใด

 

ทั้งนี้ ลิโอเนล สคาโลนี่ จัด 11 คนแรกแบบไม่มีเซอร์ไพรส์ ลิโอเนล เมสซี่ นำเกมรุกฟ้าขาวร่วมกับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ อเลฮานโดร โกเมซ ที่เสียบตำแหน่งแทนตัวเจ็บอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ส่วนหลังบ้าน คริสเตียน โรเมโร่ กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยังคงเป็นตัวเลือกก่อน ลิซานโดร มาร์ติเนซ

 

แม้ในครึ่งแรก อาร์เจนติน่า จะคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ขึ้นนำ 1-0 จากการซัดด้วยซ้ายข้างถนัดของ ลิโอเนล เมสซี่ น.35 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 3 ในฟุตบอลโลกงวดนี้ของ เมสซี่ แต่ ออสเตรเลีย ก็ไม่ได้ปล่อยให้ อาร์เจนติน่า ขยำขยี้อย่างมันเท้า

 

ครึ่งหลัง อาร์เจนติน่า ฉีกสกอร์นำ 2-0 จากความผิดพลาดของ แม็ต ไรอัน นายทวารทีมจิงโจ้ ที่ยึกยักหน้าประตูจนโดนฉกลูก ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงง่ายๆ เข้าไปในนาที 57 จุดนี้เองที่ทำให้ลูกทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ อยู่เฉยไม่ได้ ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นจนกระทั่งตีไข่แตก 1-2 ในนาทีที่ 77 จากการซัด (แบบเสี่ยงดวง) ของ เคร็ก กู๊ดวิน ที่ไปโดนตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เข้าไป และนับเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของกองกลางฟ้าขาว

 

ช่วงเวลาที่เหลือ เกมเปิดอย่างยิ่ง ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสบวกประตูเพิ่ม โดยเฉพาะ อาร์เจนติน่า ที่น่าได้จาก 2 โอกาสทองของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แต่กลับพลาดไปทั้งสองหน ขณะที่ ออสเตรเลีย ก็หวิดตีเสมอได้ในเฮือกสุดท้ายของการทดเจ็บ 7 นาที กาแร็ง คูโอล หลุดไปยิงเน้นๆ ในจุดอันตราย ไม่ผ่านเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

เป็นเซฟสำคัญยิ่งที่ช่วยให้เกมจบใน 90 นาที ไม่ต้องยืดเยื้อไปถึงต่อเวลา และส่ง อาร์เจนติน่า เข้าไปบู๊กับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีม

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-3-3) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 80), คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์กอส อคุนย่า (นิโกลัส ตายาฟิโก้ 72) – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เอเซเกล ปาลาซิออส 80) – ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 71), อเลฮานโดร โกเมซ (ลิซานโดร มาร์ติเนซ 50)
ออสเตรเลีย (4-4-2) แม็ทธิว ไรอัน – มิลอส เดเกเน็ค (ฟราน คาราซิช 72), แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไคย์ โรวล์ส, อาซิซ เบฮิช – แม็ทธิว เลคกี้ (กาแร็ง คูโอล 72), คีอานู แบ็คคัส (ไอจ์ดิน ฮรุสติช 58), อารอน มอย, ไรลี่ย์ แม็คกรี (เคร็ก กู๊ดวิน 58) – แจ็คสัน เออร์ไวน์, มิตเชลล์ ดู๊ค (เจมี่ แม็คลาเรน 72)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ได้เตะมุมเกมนี้ ครั้งเดียวถ้วน
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงประตูที่ 14 ในการรับใช้ชาติ 11 นัดของปีนี้
• เปาโล ดีบาล่า มีจำนวนนาทีในฟุตบอลโลก 2022 เป็น 0
• ลิโอเนล สคาโลนี่ คุมทีม 54 นัด เพิ่งแพ้แค่ 5 เกม ที่เหลือชนะ 36 เสมอ 13

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 2-1 ออสเตรเลีย
• อาร์เจนติน่า ผ่านเข้าไปดวลกับ เนเธอร์แลนด์ ที่จะเจอกันเป็นครั้งที่ 10 โดยหนึ่งในนั้นเป็นนัดชิงบอลโลก 1978 ด้วย (อาร์เจนฯ ชนะ 3-1)
• อาร์เจนฯ เข้าถึง 8 ทีมบอลโลกเป็นอย่างน้อย หนที่ 5 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แม้ตกรอบแล้ว แต่ ออสเตรเลีย ชุดนี้ยังถูกยกว่าเป็น “นิว โกลเด้น เจเนอเรชั่น” และ เกรแฮม อาร์โนลด์ เตรียมขยายสัญญาทำทีมเพิ่มไปอีก

 

 

 

‘เอ็มบัปเป้’ สุดฮอตนำไก่สอยโปล 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้านบอลโลก 2022

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

ฝรั่งเศส ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำลาย “อาถรรพ์แชมป์เก่า” การันตีทะลุเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ตั้งแต่จบเกม 2 หลังชนะ 2 นัดรวด แต่ก็เสียรังวัดไปเล็กน้อยกับเกมสุดท้ายที่พ่าย ตูนิเซีย เพียงแต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นทีมชุดสองที่ลงสนาม รวมถึงว่าความพ่ายแพ้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตำแหน่งแชมป์กลุ่มแต่อย่างใด

 

ด้านคู่แข่งอย่าง โปแลนด์ ที่จริงก็นั่งเข่าทรุดคอตกกันแล้วสำหรับนักเตะและกองเชียร์ ตอนจบเกมปิดกลุ่มที่แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2 แต่ปรากฏว่าเมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ตีไข่แตก เม็กซิโก เป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บ 90+5 ก็ทำให้ เม็กซิโก ถูกฉุดตกรอบไปแทน และ โปแลนด์ ได้เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเฮง-เฮง-เฮง ด้วยผลงานครบถ้วนชนะ-เสมอ-แพ้

 

เดส์ชองส์ เรียกตัวหลัก 11 คนแรกที่ใช้ใน 2 เกมแรก กลับคืนสู่ไลน์อัพทั้งหมด นำโดยแผงรุก 4 ประสาน อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เพื่อสู้กับ โปแลนด์ ที่นำมาโดยตัวอันตรายอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

อย่างไรก็ตาม เกมออกมา “ขาด” กว่าที่คิด เลวานดอฟสกี้ ทำดีที่สุดแค่ยิงจุดโทษตีไข่แตก 1-3 ช่วงทดเจ็บ 90+9 โดยที่ต้องยิงใหม่รอบสองด้วย หลังรอบแรกไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่หลัง โยริส หลุดมาจากเส้นประตูทั้งสองเท้า

 

ส่วนก่อนหน้านั้น ฝรั่งเศส ดาหน้าเรียงยิงแบบไม่พัก เริ่มจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กดเสียบเสา น.44 และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เบิ้ลสอง น.74 และ 90+1 ทำให้ ฝรั่งเศส เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ไม่พลาด แถม เอ็มบัปเป้ ยังขึ้นนำดาวซัลโวฟุตบอลโลกงวดนี้ ด้วยการกดไป 5 ประตู

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – ชูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ เอร์นันเดซ – ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (ยุสซุฟ โฟฟาน่า 66), อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมัน เดมเบเล่ (คิงส์ลี่ย์ โกม็อง 76), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คุส ตูราม 76)
โปแลนด์ (3-4-3) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิออร์ (ยาน เบ๊ดนาเร็ค 87) – แม็ตตี้ แคช, เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค 64), เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (คริสเตียน บีลิค 71), เพอร์เซมิสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ (คามิล โกรซิคกี้ 87) – ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ยาคุบ คามินสกี้ (นิโกล่า ซาเลฟสกี้ 71)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัด 2 ประตูแถมทำ 1 แอสซิสต์
• อูโก้ โยริส ลงสนามทีมชาติ 142 นัด เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ ลิลิยอง ตูราม ดังนั้นเกมหน้า จะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 1 แล้ว
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เล่นทีมชาตินัดที่ 138 (78 ประตู) และเจ้าตัวเปรยว่า คงเลิกเล่นทีมชาติเสียที ในวัย 34

สืบเนื่องจากผลสกอร์ ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์
• ฝรั่งเศส เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปดวล อังกฤษ
• ฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ ซึ่งไม่มีใครทำได้มาตั้งแต่ บราซิล 1962
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มีโอกาสสูงทีเดียวในการคว้ารองเท้าทองคำ ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 หลังกดประตูที่ 5 ขณะที่คู่แข่งรายอื่น ( คน) ยิงได้ 3 ประตู

 

 

สบาย! ‘สิงโต’ ขย้ำเซเนกัลขาด 3-0

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

ภายหลังเปิดประเดิมถล่ม อิหร่าน 6-2 ก็แอบเสียวหน่อยๆ กับความหนืดในเกมสอง ที่ทัพสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทำได้แค่เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 แต่เกมสุดท้ายก็กลับคืนฟอร์มร้อน ทะลวงเพื่อนบ้าน เวลส์ 3-0 จนเข้ารอบด้วยการยึดแชมป์กลุ่มแบบหล่อๆ และยิงประตูได้มากถึง 9 ลูก (แม้จะมีเกมไร้สกอร์แทรกก็ตาม)

 

ฟากคู่แข่งของทัพสิงโตสามตัวอย่าง “สิงโตแห่งเตรังก้า” เซเนกัล เริ่มต้นได้แย่ด้วยการแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แต่สองเกมถัดมาก็ฟาด 6 แต้มเต็ม ชนะ กาตาร์ 3-1 และ เอกวาดอร์ 2-1 เข้ารอบด้วยการเป็นที่สองของกลุ่มเอ แม้จะหวิดร่วงอยู่เหมือนกันหลังโดน เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง ก็ตาม

 

แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับทัพเล็กๆ ส่ง ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงตัวจริง ซึ่งถือว่าผิดคาดที่เดียวซึ่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กด 2 ตุงใส่ เวลส์ กลับหลุดลงเป็นตัวสำรอง

 

ถ้าเกมฝรั่งเศสว่าง่ายแล้ว อังกฤษยิ่งง่ายกว่ากันเยอะ บุกใส่แทบจะฝ่ายเดียวจนได้ 3 ประตูจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.38, แฮร์รี่ เคน น.45+3 และ บูกาโย่ ซาก้า น.57 ซึ่งก็น่าเสียดายแทน เซเนกัล ไม่หาย ว่าถ้าพวกเขายังมี ซาดิโอ มาเน่ อยู่ ก็คงเล่นงาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และหลังบ้านอังกฤษได้มากกว่าที่เป็น

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อังกฤษ (4-3-3) จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ (เอริก ไดเออร์ 77), แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – จู๊ด เบลลิงแฮม (เมสัน เมาท์ 76), ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แคลวิน ฟิลลิปส์ 82) – บูกาโย่ ซาก้า (มาร์คัส แรชฟอร์ด 65), แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น (แจ๊ค กรีลิช 65)
เซเนกัล (4-2-3-1) เอดูอาร์ เมนดี้ – ยุสซุฟ ซาบาลี่, คาลิดู คูลิบาลี่, อับดู ดิยัลโล่, อิสมาอิล จาค็อบส์ (โฟเด้ บัลโล-ตูเร่ 84) – ปาเต้ ซิสส์ (ปาเป้ เกย์ 46), นัมปาลิส เมนดี้ – เกรแป็ง ดิยัตต้า (ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ 46), อิลิมาน เอ็นดิอาย (บัมบ้า เดียง 46), อิสไมล่า ซาร์ – บูลาย เดีย (ฟามาร่า ดีดิอู 72)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : แฮร์รี่ เคน
• 3 ประตูที่ อังกฤษ ได้ มาจากการยิงตรงกรอบแค่ 4 ครั้งเท่า นั้น
• อังกฤษ ชนะคู่แข่งด้วยการยิง 3 ประตูขึ้นไป เป็นเกมที่ 3 ในฟุตบอลโลก 2022
• อังกฤษ ไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน
• ขออีกประตูเดียว แฮร์รี่ เคน จะเป็นดาวยิงสูงสุดของอังกฤษ เทียบเท่า เวย์น รูนี่ย์ ที่ 53 ประตู
• บูกาโย่ ซาก้า ยิงลูกที่ 7 ในการเล่นทีมชาติ 23 นัด

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อังกฤษ 3-0 เซเนกัล
• อังกฤษ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นอย่างน้อย หนที่ 4 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แกเร็ธ เซาธ์เกต สร้างมาตรฐานทำ อังกฤษ เข้ารอบ 8 ทีมรายการใหญ่ (เป็นอย่างน้อย) 3 รายการซ้อน ถัดจากอันดับ 4 บอลโลก 2018, รองแชมป์ยูโร 2020 และถึง 8 ทีมบอลโลกหนนี้
• ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ออกจากแคมป์กลับบ้านที่ลอนดอนกลางคัน หลังครอบครัวถูกขโมยขึ้นบ้าน และยังไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาทันเกมกับ ฝรั่งเศส หรือไม่

 

ไกด์เถื่อน

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
Royal Blue Mersey
Premium Times Nigeria
REUTERS
The Northern Echo

เรื่องน่าอ่าน
บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด

โปรตุเกส จะชนะสวิตเซอร์แลนด์ ในเกมที่อาจยื้อถึงจุดโทษ ของรอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

โปรตุเกส จะชนะสวิตเซอร์แลนด์ ในเกมที่อาจยื้อถึงจุดโทษ ของรอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม โปรตุเกส – สวิตเซอร์แลนด์

วันที่ 7 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง GMM25/ True Sport

โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2022 คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ทีมชาติโปรตุเกส จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: portugoal.net)

สถานการณ์ของโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์

แม้จะพ่ายเกาหลีใต้ในเกมนัดสุดท้ายจากลูกยิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่โปรตุเกสก็ผ่านรอบแบ่งกลุ่มในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่มูรัต ยาคินที่คุมสวิสมาเล่นทัวร์นาเมนต์ระดับชาติหนแรก ก็พาทีมผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการเอาชนะเซอร์เบีย 3-2 เป็นที่ 2 ของกลุ่ม จี

ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2002 เป็นต้นมา โปรตุเกสผ่านรอบ 16 ทีมเข้าไปเล่นในรอบต่อไปเพียงหนเดียวในปี 2006 ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาจบด้วยอันดับ 4 ส่วนอันดับดีที่สุดที่เคยทำได้ ก็โน่นอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 1966 และแม้จะมีทีม “ยุคทอง” มาไม่รู้กี่ชุด โปรตุเกสก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกเลย

สวิสเปิดตัวในฟุตบอลโลก 2022 สุดสวยด้วยชัยชนะ 2 จาก 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเกมสุดท้ายพวกเขาสู้กับเซอร์เบียอย่างดุเดือด มีใบเหลืองปลิวว่อน 11 ใบ และกรานิต ซาก้ารอดใบแดงหวุดหวิด ที่น่าสนใจก็คือ สวิสไม่เคยชนะ 3 นัดในฟุตบอลโลกครั้งเดียวมาก่อน และ 7 ครั้งหลังที่ได้เข้าร่วมไม่เคยไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศสักครั้ง และการได้เจอทีมที่พบกันบ่อย ๆ น่าจะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายยุคใหม่

สวิตเซอร์แลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

สวิตเซอร์แลนด์ มีดีพอจะตามบราซิลเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022 ตามบราซิลไหม (ภาพ: Keystone / Urs Flueeler)

เช็กสถิติของโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์

ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันหมาด ๆ ในยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีกเมื่อต้นปี โดยที่ลิสบอนโปรตุเกสขย่มไป 4-0 ก่อนจะมาแพ้ที่บ้านฝ่ายหลัง 1-0 โดยในรายการนี้ สวิตเซอร์แลนด์ฉายความแข็งแกร่งให้เห็น เมื่อเอาชนะได้ทั้งสเปน และสาธารณรัฐเช็ก แต่ถ้าย้อนไปดูสถิติการเจอกันทั้งหมด พวกเขาปะทะกันเป็นประจำ ที่สำคัญสถิติของสวิสเหนือกว่าทีมฝอยทอง จาก 25 ครั้ง พวกเขาชนะถึง 11 หน ส่วนโปรตุเกสชนะแค่ 9 และอีก 5 ครั้งจบลงด้วยการเสมอกัน ส่วนฟอร์ม 5 เกมหลังสุด โปรตุเกสชนะ 3 แพ้ 2 (LWWWL) เท่ากับสวิส (WLWLW)

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ บรูโน่ เฟอร์นันด์ส โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ขวา) กับบรูโน่ เฟอร์นันด์ส เพื่อนร่วมทีมชาติและร่วมสโมสร (ภาพ: www.sportingnews.com)

สถานการณ์ของผู้เล่นโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์

หลังผ่านเข้ารอบแน่ ๆ เฟอร์นานโด ซานโต๊สโค้ชทีมฝอยทองได้โอกาสเปลี่ยนผู้เล่นตัวหลัก ๆ ไปพักถึง 6 รายในนัดสุดท้าย โดยไอ้หนูวัย 19 ที่เพิ่งลงเล่นนัดแรกให้เบนฟิก้า เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อันโตนิโอ ซิลวา ได้โอกาสลงเล่นคู่กับเปเป้ ตัวเก๋าที่ติดทีมชาติมาร่วม 20 ปีในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค แต่เกมนี้รูเบน ดิอาสจะกลับมาเป็นตัวจริง ส่วนดีโอโก้ ดาโลต์ที่โชว์ฟอร์มได้ดี อาจได้เป็น 11 คนแรกต่อ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1 ใน 3 ผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวหลังผ่าน 65 นาทีในเกมกับเกาหลีใต้ จะยังเป็นตัวหลักในแดนหน้า ส่วนอังเดร ซิลวากับผู้เล่นเบนฟิก้า กอนเซโล รามอส จะออกสตาร์ตที่ม้านั่งสำรอง

นูโน่ เมนเดส วิงแบ็คของปารีส แซ็งแฌร์กแม็งได้รับบาดเจ็บต้นขา และหมดโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลกหนนี้แล้ว ส่วนดานิโล เปไรร่า เพื่อนร่วมชาติและเพื่อนร่วมทีมของเมนเดส ที่ขยับจากเซนเตอร์แบ็คมาเล่นแทน เกิดเจ็บชี่โครงระหว่างซ้อม ยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ แต่โอตาวิโอที่ไม่ได้ลงเล่นสองเกมสุดท้ายในรอบแรก เพราะบาดเจ็บกล้ามเนื้อน่าจะกลับมาได้

ฝั่งสวิตเซอร์แลนด์ ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง เจ้าของ 30 คลีนชีต รวมถึงสารพัดเซฟจากการลงเล่น 76 นัดให้ทีมชาติ กับนิโก เอลเวดี้ เซนเตอร์แบ็ค ที่ไม่ได้ลงเจอเซอร์เบียเพราะป่วย หลังได้พัก 4 วันน่าจะพร้อมลงเล่นเกมนี้ แต่ถ้าซอมเมอร์ลงไม่ได้ เกรกอร์ โคเบล จากโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์จะทำหน้าที่แทน กรานิต ซาก้ากับเรโม่ ฟรูเลอร์ จเล่นในแผงมิดฟิลด์โดยปักหลักหน้าแผงรับ บรีลล์ เอ็มโบโล่จะเป็นหน้าเป้า ที่ได้รับการสนับสนุนทางกว้างจาก รูเบน วาร์กาสกับเซอร์แดน ชาคีรี่ โดยมีคริสเตียน ฟาสส์เน็ชต์กับเรนาโต้ สเตฟเฟ่น เป็นตัวเลือกทั้งสองกราบ

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์

โปรตุเกส ระบบ 4-3-3: คอสต้า; กันเซโล่, เปเป้, ดิอาส, เกวร์เรโร่; แบร์นาโด้, เนเวส, คาร์วัลโญ่; แฟร์นานด์ส, โรนัลโด้, เฟลิกซ์
สวิตเซอร์แลนด์ ระบบ 4-2-3-1: ซอมเมอร์; วิิดแมร์, เอลเวดี้, อะคันจ, ร็อดริเกวซ; ซาก้า, ฟรูเลอร์; ชาคีรี่, โซว์, วาร์กาส; เอ็มโบโล่

ผลการแข่งขันระหว่างโปรตุเกสและสวิตเซอร์แลนด์

เป็นการต่อสู้กันระหว่างทีมที่ผู้เล่นมีความสามารถเฉพาะตัวสูงมากมาย กับทีมที่มีผู้เล่นมากความสามารถน้อยกว่า แต่เน้นทีมเวิร์กและการร่วมแรงร่วมใจ ที่ 6 เกมซึ่งเป็นการแข่งขันในปี 2022 ของสวิส 2 นัดคือการเจอโปรตุเกสที่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ บ้านใครบ้านมัน ทีมฝอยทองมากาตาร์ด้วยผู้เล่นพรสวรรค์ในแนวรุกมากมาย ซึ่งจากที่เห็นพวกเขาไม่มีปัญหาในเรื่องทำประตู แต่เรื่องการป้องกันประตู ตกอยู่ในเครื่องหมายคำถาม และน่าจะเป็นโอกาสให้สวิตเซอร์แลนด์ยื้อสู้ได้ แต่นักเตะอย่าง เปเป้, โรนัลโด้ ที่เป็นพวกมากประสบการณ์ และเป็นผู้เล่นเกมใหญ่ จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผลแพ้-ชนะ หากเกมลากไปถึงการยิงจุดโทษ ซอมเมอร์ที่มีชื่อในการดวลเดี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนสำคัญขึ้นมาทันที

ด้วยศักยภาพของผู้เล่น โปรตุเกสน่าจะเก็บสวิตเซอร์แลนด์หวุดหวิด 1-0 หรือ 2-1 แต่อย่าลืมมองไปถึงโอกาสต่อเวลา ที่มีสิทธิไปไกลถึงยิงลูกโทษไม่น้อย

เรื่องน่าอ่าน
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่ 
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

48 แมตช์ของรอบแรกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ผ่านพ้นไปด้วยดี (และไม่ดีสำหรับบางทีม!) มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น จนเป็นสถิติตัวเลขสำคัญหลากหลาย ที่ได้ถูกจารึกไว้ทั้งกับ เวิลด์ คัพ หนนี้ และ เวิลด์ คัพ หนหน้า–ตลอดชั่วกาลนาน

 

สถิติน่าสนใจเมื่อสิ้นสุดรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• ดาวซัลโว
3 ประตู : เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์), มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส), โคดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์), อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน)
2 ประตู : ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า), ริชาร์ลิซอน (บราซิล), แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ (แคเมอรูน), อันเดรจ์ ครามาริช (โครเอเชีย), บูกาโย่ ซาก้า (อังกฤษ), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส), นิคลาส ฟุลล์ครุก (เยอรมนี), ไค ฮาแวร์ตซ์ (เยอรมนี), โมฮัมเหม็ด คูดุส (กาน่า), เมห์ดี้ ทาเรมี่ (อิหร่าน), ริตสึ โดอัน (ญี่ปุ่น), บรูโน่ แฟร์นันเดส (โปรตุเกส), ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี (ซาอุดีอาระเบีย), อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (เซอร์เบีย), โช กิว-ซุง (เกาหลีใต้), เฟร์ราน ตอร์เรส (สเปน), บรีล เอ็มโบโล่ (เบลเยียม), จอร์เจี้ยน เด อาร์รัสกาเอต้า (อุุรุกวัย)

 

• ทำเข้าประตูตัวเอง
มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมนี, นัดพบ คอสตาริกา), นายีฟ อาแกร์ด (โมร็อกโก, นัดพบ แคนาดา)

 

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• ดาวแอสซิสต์
3 ครั้ง : แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ)
2 ครั้ง : อีวาน เปริซิช (โครเอเชีย), เตโอ เอร์นันเดซ (ฝรั่งเศส), ดาวี่ คลาสเซ่น (เนเธอร์แลนด์), บรูโน่ แฟร์นันเดส (โปรตุเกส), ดูซาน ทาดิช (เซอร์เบีย), อันดริย่า ซิฟโควิช (เซอร์เบีย), จอร์ดี้ อัลบา (สเปน)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์
2 นัด : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส, นัดพบ ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก), ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย, นัดพบ โมร็อกโก และ เบลเยียม), คริสเตียน พูลิซิช (สหรัฐอเมริกา, นัดพบ อังกฤษ และ อิหร่าน)

 

• คลีนชีต (ผู้รักษาประตู)
2 นัด : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (บราซิล), ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เบลเยียม), อายเมน ดาห์เมน (ตูนิเซีย), โดมินิก ลิวาโควิช (โครเอเชีย), เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนติน่า), อันดรีส น็อพเพิร์ต (เนเธอร์แลนด์), จอร์แดน พิคฟอร์ด (อังกฤษ), เซร์คิโอ โรเช่ต์ (อุรุกวัย), แม็ต ไรอัน (ออสเตรเลีย), วอยเชียค เชสนี่ (โปแลนด์), แม็ตต์ เทอร์เนอร์ (สหรัฐอเมริกา)

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022ประตูแรกสุด ของฟุตบอลโลก 2022 เป็นผลงานของ เอนเนร์ วาเลนเซีย กองหน้าเอกวาดอร์ ที่ยิงจุดโทษเข้าไปได้ตั้งแต่นาทีที่ 16 ของเกมนัดเปิดสนาม 20 พ.ย. ที่ชนะเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0

 

ไม่มีทีมใดเลยทั้งสิ้น ที่สามารถเอาชนะได้ทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม หรือกวาด 9 คะแนนเต็ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา

 

• ตลอด 48 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม มีประตูเกิดขึ้นทั้งสิ้น 120 ลูก เฉลี่ยแล้วมีการยิงกันนัดละ 2.5 ประตู

 

• กระนั้น ก็มีเกมที่ออกหน้า 0-0 เกิดขึ้น 6 แมตช์ด้วยกัน
– อังกฤษ 0-0 สหรัฐอเมริกา
– เม็กซิโก 0-0 โปแลนด์
– เดนมาร์ก 0-0 ตูนิเซีย
– โมร็อกโก 0-0 โครเอเชีย
– โครเอเชีย 0-0 เบลเยียม
– อุรุกวัย 0-0 เกาหลีใต้

 

• กลุ่มอี แลกหมัดกันหน้าตาปูดบวม ยิงกันรวม 22 ประตูจาก 6 แมตช์ หรือเฉลี่ยนัดละ 3.6 ลูก โดยมีเกมที่ “สูงปรี๊ด” อย่าง
เยอรมนี 1-2 ญี่ปุ่น
สเปน 7-0 คอสตาริกา
ญี่ปุ่น 2-1 สเปน
คอสตาริกา 2-4 เยอรมนี

 

• นั่นยังส่งผลให้ สเปน เป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดในรอบแรก คือ 9 ประตู เช่นเดียวกับ อังกฤษ ยิง 9 ลูก

 

• ทีมที่ยิงได้น้อยที่สุดคือ กาตาร์, เวลส์, ตูนิเซีย, เดนมาร์ก และ เบลเยียม ยิงได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น

 

• โดนยิงมากที่สุดคือ คอสตาริกา ตาข่ายพรุนไป 11 ลูก ขณะที่ บราซิล, โครเอเชีย, โมร็อกโก, ตูนิเซีย โดนยิงน้อยสุดทีมละ 1 ประตูถ้วน

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022 โคดี้ กัคโป ของเนเธอร์แลนด์ กับ อัลบาโร่ โมราต้า ของสเปน เป็นเพียง 2 คนที่สามารถยิงประตูได้ทุกนัดของรอบแบ่งกลุ่ม นัดละลูก

 

• ไม่มีการทำแฮตทริกเกิดขึ้นเลย ขณะที่มีการยิงเบิ้ลสองเม็ดจากนักเตะ 14 คน

 

• มีการเป่าจุดโทษเกิดขึ้น 14 ครั้ง แต่ยิงเข้าแค่ 9 ครั้งเท่านั้น เฉลี่ยยิงเข้าแค่ 64.29%

 

อัลฟอนโซ่ เดวิส ของแคนาดา ทำประตูที่เร็วที่สุด (ในรอบแรก) เกมแพ้ โครเอเชีย 1-4 ในนาทีที่ 2 หรือเพียง 67 วินาทีหลังเป่าเริ่มเกม

 

• ประตูที่ช้าที่สุดเป็นของ เมห์ดี้ ทาเรมี่ กองหน้าอิหร่าน ที่ยิงตีตื้น อังกฤษ 2-6 ในช่วงทดเจ็บ 90+13

 

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• มีใบแดงเกิดขึ้นแค่ 3 ใบ โดยเป็นของนักเตะ 2 คนคือ เวย์น เฮนเนสซี่ นายประตูเวลส์ กับ แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ กองหน้าแคเมอรูน ส่วนอีกใบเป็นของ เปาโล เบนโต้ กุนซือเกาหลีใต้

 

กาตาร์ กับ ซาอุฯ ใช้นักเตะที่ค้าแข้งในประเทศทั้งหมด ตรงกันข้าม เซเนกัล ไม่มีนักเตะที่เล่นในประเทศอยู่เลยสักคน

 

• 29 จาก 32 ชาติ มีนักเตะ พรีเมียร์ลีก อยู่ในทีมอย่างน้อย 1 ราย และนักเตะที่สังกัดทีมในอังกฤษ ก็มีจำนวนเยอะที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (164 คน ทั้งพรีเมียร์ลีกและลีกรอง)

 

กาตาร์ เป็นเจ้าภาพทีมแรกที่แพ้ในนัดเปิดสนาม และเป็นเจ้าภาพที่กระเด็นตกรอบเร็วที่สุด หลังจากแพ้รวด 2 เกมแรก (0-2 เอกวาดอร์, 1-3 เซเนกัล)

 

กาตาร์, แคนาดา, เดนมาร์ก, เซอร์เบีย, เวลส์ ไม่ชนะใครทั้งสิ้นใน 3 นัดรอบแรก (และตกรอบแรกทั้งหมด) ตรงกันข้ามกับ อังกฤษ, โครเอเชีย, โมร็อกโก และ เนเธอร์แลนด์ ที่แพ้ไม่เป็น

ญี่ปุ่น แซงชนะ สเปน 2-1 ด้วยการครองบอลเพียง 17.7% เป็นสถิติทีมชนะที่ครองบอลน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ทำลายสถิติเดิมที่ เกาหลีใต้ ครองบอล 26% เอาชนะ เยอรมนี 2-0 บอลโลกหนก่อนที่รัสเซีย

 

• เกมที่ อาร์เจนติน่า ชนะ เม็กซิโก 2-0 ที่ ลูเซล ไอคอนิค สเตเดี้ยม เป็นเกมที่มีผู้ชมมากที่สุดถึง 88,966 คน มากที่สุดนับตั้งแต่เกม บราซิล-อิตาลี (91,194 คน) ฟุตบอลโลก 1994 ส่วนเกมผู้ชมน้อยสุดคือ สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ แคเมอรูน 1-0 ที่ อัล จานู้บ สเตเดี้ยม 39,089 คน

 

อินยากี้ วิลเลี่ยมส์ หัวหอกกาน่า กับ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ปีกทีมชาติสเปน เป็นคู่พี่น้องท้องเดียวกันคู่แรกที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งเดียวกัน แต่รับใช้ทีมชาติคนละทีม โดยทั้งคู่มีพ่อแม่เป็นชาวกานา ก่อนจะอพยพและมาให้กำเนิดทายาททั้ง 2 คนที่สเปน

 

• นับป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทีมซึ่งมาจากโซนเอเชีย ตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์พร้อมกันได้ถึง 3 ทีม คือ ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และ เกาหลีใต้

 

บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022• จากประตูที่ยิงได้ในเกมพบ กาน่า ทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถยิงประตูในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 5 สมัย แซงหน้า อูเว่ เซเลอร์, เปเล่, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำไว้ 4 สมัย

 

• 2006 หนึ่งลูก, 2010 หนึ่งลูก, 2014 หนึ่งลูก, 2018 สี่ลูก และ 2022 (อย่างน้อย) หนึ่งลูก เท่ากับ โรนัลโด้ ยิงไป 8 ประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 5 สมัย

 

ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ทำแอสซิสต์ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ 5 สมัย หลังจากผ่านบอลให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงประตูในเกมชนะ เม็กซิโก 2-0

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำสถิติเป็นนักเตะอายุมากสุดที่ยิงได้ในบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยวัย 37 ปี 292 วัน ในเกมชนะ กาน่า 3-2 (แต่จะพังสถิติตัวเองถ้ามียิงเพิ่มในรอบน็อกเอาต์)

 

กาบี กองกลางทีมชาติสเปน ยิง 1 ลูกในเกมถล่ม คอสตาริกา 7-0 ทำให้เขาขึ้นแท่นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลโลก ด้วยวัย 18 ปี 109 วัน เป็นรองเพียง เปเล่ (บราซิล) 17 ปี 249 วัน กับ มานูเอล โรซาส (เม็กซิโก) 18 ปี 93 วัน

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส), ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า), อันเดรส กวาร์ดราโด้ (เม็กซิโก) ลงเล่นฟุตบอลโลกสมัยที่ 5 ของตัวเอง เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ โลธ่าร์ มัทเธอุส (เยอรมนี) และ ราฟาเอล มาร์เกซ กับ อันโตนิโอ การ์บาฮัล (เม็กซิโกทั้งคู่)

 

• ยังมีนักเตะอีก 14 คนที่ลงเล่นฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ของตัวเอง ประกอบด้วย อังเคล ดิ มาเรีย, ลูก้า โมดริช, อูโก้ โยริส, โธมัส มุลเลอร์, มานูเอล นอยเออร์, ยูโตะ นางาโตโมะ, เอ็กตอร์ โมเรโน่, เปเป้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซอร์ดาน ชากิรี่, มาร์ติน กาเซเรส, ดีเอโก้ โกดิน, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่

 

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
Twitter
Football365
Gol.hr – Dnevnik
Malay Mail
Goal
CTV News
Sky Sports
Stuff.co.nz

เรื่องน่าอ่าน
บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ผ่านวันผ่านคืนแบบที่นาฬิกาหมุนเร็วเป็นพิเศษ จนรอบแรกแห่งฟุตบอลโลก 2022 ที่รอคอย ผ่านไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ไปย้อนดูกันสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

20 พฤศจิกายน 2022 หลังจากเสียงนกหวีดแรกแห่ง เวิลด์ คัพ 2022 ดังขึ้น ใครจะเชื่อว่าเจ้าภาพ กาตาร์ จะจัดความ “น่าเหลือเชื่อ” มาเสิร์ฟกันตั้งแต่แรก — ไม่ใช่ในแง่ดี แต่เป็นแง่ลบล้วนๆ

 

ไม่ต้องพูดถึงการจัดการส่วนอื่นๆ ของเจ้าภาพที่ก็ล้วนแต่มีเสียงตำหนิ จำกัดลงมาในแง่ของฟุตบอล ทีมของ เฟลิกซ์ ซานเชซ ได้ผลออกมาแบบที่ต้องถอนใจดังๆ และผิดหวังแทนแฟนเจ้าภาพ

 

กระนั้น กับตัวแทนเอเชียรายอื่น ทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ไปจนถึง ออสเตรเลีย ก็สร้างความน่าเหลือเชื่อไว้เช่นกัน และเป็นไปในทางที่ดีงามด้วย

 

ส่วนก้าวเดินของบรรดายักษ์ใหญ่ตัวเก็งเต็งแชมป์ทั้งหลายแหล่ ไปจนถึงม้ามืดที่ถูกจับตามอง ก็ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญของทัวร์นาเมนต์

 

บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำล้ำค่า กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022…

 

บทสรุปรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอ – กังหันลอยลำ ตามด้วยเซเนกัล
1. เนเธอร์แลนด์ คะแนน 7 ผลต่างประตู +4
2. เซเนกัล คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
3. เอกวาดอร์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +1
4. กาตาร์ คะแนน 0 ผลต่างประตู -6

 

เนเธอร์แลนด์ : เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเออย่างไม่ลำบาก ด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โคดี้ กัคโป ดาวรุ่งจากพีเอสวี แจ้งเกิดเต็มตัวด้วยการซัดนัดละเม็ด ครบทั้งสามเกม ยิงได้ 5 เสียแค่ประตูเดียว สำคัญคือ ตั้งแต่ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาทำทีมแทน แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หลังจบยูโร 2020 นั้น ฟาน กัล ก็ยังไม่ได้พาทีมกังหันแพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียว ลงสนาม 18 นัด ชนะ 13 เสมอ 5

 

เซเนกัล : เริ่มต้นได้แย่ด้วยการแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แต่สองเกมถัดมาก็ฟาด 6 แต้มเต็ม ชนะ กาตาร์ 3-1 และ เอกวาดอร์ 2-1 จนเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอ แม้จะหวิดร่วงอยู่เหมือนกันหลังโดน เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง ก็ตาม

 

เอกวาดอร์ : เปิดฉากอย่างเร้าใจสร้างเซอร์ไพรส์ให้หลายฝ่าย กับการชนะเจ้าภาพ กาตาร์ แล้วมายันเสมอ เนเธอร์แลนด์ จนเกมสุดท้ายขอแค่ไม่แพ้ก็ลอยลำ แต่สุดท้ายโดนทีเด็ดจาก คาลิดู คูลิบาลี่ และชาวคณะ จนตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

 

กาตาร์ : น่าผิดหวังอย่างรุนแรงกับผลงานที่ปรากฏกับบอลโลกในบ้าน เมื่อทั้งที่ซุ่มเก็บตัวเตรียมทีมอยู่เป็นปีๆ แถมมีดีกรีแชมป์ เอเชียน คัพ 2019 แต่ดันออกอาการสั่นไหว ตื่นเกร็งตั้งแต่เกมแรก จนแพ้ เอกวาดอร์ 0-2 และต่อมาก็ทำดีที่สุดแค่ยิง 1 ประตู โมฮัมเหม็ด มุนตารี่ ยิงตีไข่แตก เซเนกัล นัดแพ้ 1-3

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มบี – สิงโตไม่มีพลาด
1. อังกฤษ คะแนน 7 ผลต่างประตู +7
2. สหรัฐอเมริกา คะแนน 5 ผลต่างประตู +1
3. อิหร่าน คะแนน 3 ผลต่างประตู -3
4. เวลส์ คะแนน 1 ผลต่างประตู -5

 

อังกฤษ : เริ่มต้นได้อย่างสุดยอด รัว อิหร่าน ครึ่งโหล แต่ต่อมาก็เครื่องสะดุดไปดื้อๆ เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 เพียงแต่ว่าก็ฟื้นฟอร์มร้อนได้ทันเวลากะซวกเพื่อนบ้าน เวลส์ 3-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม โดยที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นดาวเด่น กดไป 3 ประตู ทั้งนี้ เบน ไวท์ กองหลังจากอาร์เซน่อล ถอนตัวจากบอลโลกไปด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่เป็นที่เปิดเผย

 

สหรัฐอเมริกา : ไม่ได้ถูกจับตามองนักว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ โดยเฉพาะ 2 เกมแรกแม้ไม่แพ้ แต่ก็เสมอทั้ง เวลส์ และ อังกฤษ กระนั้นนัดสุดท้ายก็เฉือนชัย อิหร่าน 1-0 คริสเตียน พูลิซิช สังหารเม็ดโทนส่งพญาอินทรีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

 

อิหร่าน : มีเกมที่เป็นประเด็นทุกนัด ตั้งแต่เปิดหัวโดน อังกฤษ อัดครึ่งโหล, นัดต่อมายิง เวลส์ 2-0 ตอนทดเจ็บ +8 กับ +11 ตามด้วยนัดสาม เล่น “เกมการเมือง” กับ สหรัฐอเมริกา แต่ต้านไม่อยู่ จนตกรอบแรก เป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม

 

เวลส์ : ทันทีที่ แกเร็ธ เบล สาวเท้าเข้าสังหารจุดโทษใส่ สหรัฐอเมริกา ช่วยให้ทีมมังกรแดงไล่ตีเสมอ 1-1 ท้ายเกม เขาและแฟนๆ เวลส์ก็คงไม่รู้ว่า นั่นคือการได้เฮหนแรกและหนเดียวตลอดรายการ เมื่อหลังจากนั้นแพ้ อิหร่าน และแพ้ อังกฤษ แบบโดนยิงรวม 5 ลูก เอาคืนไม่ได้เลยสักเม็ด

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มซี – ฟ้าขาวมาทันเวลา จังโก้ใจสลาย
1. อาร์เจนติน่า คะแนน 6 ผลต่างประตู +3
2. โปแลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
3. เม็กซิโก คะแนน 4 ผลต่างประตู -1
4. ซาอุดีอาระเบีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -2

 

อาร์เจนติน่า : เต็งแชมป์เบอร์ต้นที่มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 เริ่มต้นด้วยความพลิกล็อกช็อกโลก ลิโอเนล เมสซี่ ยิงจุดโทษนำก่อนแต่แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ทว่าหลังจากนั้นก็ฮึดขึ้น ปราบ เม็กซิโก 2-0 เช่นเดียวกับ โปแลนด์ สกอร์เดียวกัน จนยึดแชมป์กลุ่มได้ในที่สุด

 

โปแลนด์ : นั่งเข่าทรุดคอตกกันแล้วสำหรับนักเตะและกองเชียร์โปแลนด์ ตอนจบเกมสุดท้ายรอบแรกที่แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2 แต่ปรากฏว่าเมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ตีไข่แตก เม็กซิโก 1-2 ช่วงทดเจ็บ 90+5 ก็ทำให้ เม็กซิโก ถูกฉุดตกรอบไปแทน และ โปแลนด์ ได้เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเฮงๆ ด้วยผลงานครบถ้วนชนะ-เสมอ-แพ้

 

เม็กซิโก : หนึ่งคือหนืดเนือยไร้คมเอง สองคือก็โชคไม่เข้าข้าง เมื่อทั้งที่ยิง ซาอุฯ 2-0 ซึ่งเพียงพอต่อการเข้ารอบแล้วในเกมปิดกลุ่ม แต่สุดท้ายมาโดนตีไข่แตก 90+5 ทำให้ประตูได้เสียเป็นรอง โปแลนด์ ในพริบตา และตกรอบแรกเข้าจนได้จากที่เข้ารอบ 16 ทีมบอลโลกมา 8 ครั้งรวด

 

ซาอุฯ : เอาชนะ อาร์เจนติน่า แบบไม่น่าเชื่อ 2-1 แบบที่ทีมฟ้าขาวยิงเข้า 4 ครั้งได้มาลูกเดียว นอกนั้นล้ำหน้าหมด แต่ถัดมายุทธวิธีกับดักล้ำหน้าก็ใช้ไม่ได้แล้ว แพ้ 2 เกมรวดจนตกรอบด้วยการเป็นบ๊วย แถมสร้างความเจ็บแสบให้ เม็กซิโก อีกต่างหาก

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มดี – ตราไก่ใสแจ๋ว โคนมดิ้นพราด
1. ฝรั่งเศส คะแนน 6 ผลต่างประตู +3
2. ออสเตรเลีย คะแนน 6 ผลต่างประตู -1
3. ตูนิเซีย คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
4. เดนมาร์ก คะแนน 1 ผลต่างประตู -2

 

ฝรั่งเศส : เข้าสู่ทัวร์นาเมนต์อย่างหวาดเสียวด้วยอาถรรพ์แชมป์เก่าและปัญหาบาดเจ็บของขุมกำลัง เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ทยอยกันถอนตัวออกไป ไม่นับรวมที่เดี้ยงจนไม่ได้มาอยู่ก่อนแล้วอีก 4-5 คน ทว่าทีมตราไก่ก็ลบคำสบประมาททุกอย่างลงได้อย่างสวยงาม ชนะ ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก จนเข้ารอบน็อกเอาต์ได้เป็นทีมแรกสุด สุดท้ายแม้แพ้ ตูนิเซีย 0-1 แต่ก็เป็นทีมสำรอง แถมไม่ส่งผลกับการเป็นแชมป์กลุ่มด้วย

 

ออสเตรเลีย : โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 ด้วยประตูโทนของ แม็ทธิว เลคกี้ จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม

 

ตูนิเซีย : กลายเป็นทีมจอมเหนียวแน่นในทัวร์นาเมนต์นี้อย่างเซอร์ไพรส์ สามนัดเสียแค่ประตูเดียว แต่เวลาเดียวกันก็ยิงได้แค่ลูกเดียวถ้วน จนเข้าป้ายที่อันดับ 3 กลับบ้านค่ะพี่

 

เดนมาร์ก : หนึ่งในทีมที่น่าผิดหวังที่สุดของฟุตบอลโลก 2022 เมื่อทั้งที่เข้าถึงตัดเชือกยูโร ทั้งผลงานรอบคัดเลือกดีมาก ขั้นว่าเข้ารอบสุดท้ายเป็นทีมที่ 3 ของโลก และทั้งที่บางกูรูยกว่ามีสิทธิ์ถึงแชมป์โลก แต่กลับเกิดความสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกที่กาตาร์ ระบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และไม่ลงตัวสักอัน จนชนะใครไม่ได้เลย เสมอตูนิเซีย 0-0, แพ้ฝรั่งเศส 1-2 และแพ้ออสเตรเลีย 0-1 ตกรอบด้วยการเป็นบ๊วย

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มอี – ซามูไรไงล่ะเพื่อน!
1. ญี่ปุ่น คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
2. สเปน คะแนน 4 ผลต่างประตู +6
3. เยอรมนี คะแนน 4 ผลต่างประตู +1
4. คอสตาริกา คะแนน 3 ผลต่างประตู -8

 

ญี่ปุ่น : เซอร์ไพรส์แพ็คเกจประจำเวิลด์คัพ 2022 ที่การประกาศของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ว่าเป้าหมายของเขาคือการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ถูกหัวเราะเยาะใส่ แต่เมื่อเกมจริงมาถึง ญี่ปุ่น ก็พลิกสยบ เยอรมนี 2-1 ตั้งแต่เกมแรก ต่อมาแม้จะเจอความพลิกล็อกเล่นงานเองบ้างด้วยการแพ้ คอสตาริกา 0-1 แต่ก็ยังมาพลิกยิงแซงชนะ สเปน ในเกมที่บังคับต้องชนะอีก 2-1 จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มอย่างหล่อ

 

สเปน : มาดีเกินคาดอีกเหมือนกัน เริ่มต้นด้วยการขยำขยี้ คอสตาริกา 7-0 จากนั้นก็หวิดชนะ เยอรมนี แต่โดนทวงท้ายเกม 1-1 แต่ปรากฏว่านัดสุดท้าย เล่นแบบเอื่อยๆ จนโดน ญี่ปุ่น แซงเชือด 2-1 ท่ามกลางครหาว่าอันที่จริง พวกเขาตั้งใจแพ้เพื่อขวางไม่ให้ เยอรมนี หลุดเข้าไปเป็นเสี้ยนหนาม แถมตัวเองยังจะเลี่ยงทีมแข็งอย่าง โครเอเชีย หรือ บราซิล ในรอบถัดๆ ไปได้ด้วย

 

เยอรมนี : เล็งถึงแชมป์โลกสมัย 5 ฐานที่เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นทีมแรกสุด (ถัดจากเจ้าภาพ) แต่ปรากฏว่าอินทรีเหล็กเก๊กซิมตั้งแต่นัดแรก แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 และก็ทำได้เต็มที่แค่ตามทวง สเปน 1-1 สุดท้ายแม้จะชนะ คอสตาริกา ได้ตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่เพียงพอเมื่อ ญี่ปุ่น ยังสร้างปาฏิหาริย์ซ้ำสองได้อยู่

 

คอสตาริกา : ถูกกาชื่อทิ้งเมื่อจบเกมแรกที่โดน สเปน ยิง 7 เม็ด แต่ก็แก้ตัวได้อย่างสวยงามในนัดต่อมาที่ชนะ ญี่ปุ่น 1-0 และที่จริงจะเข้ารอบได้ด้วยถ้าตรึงสกอร์นำหน้า เยอรมนี 2-1 เอาไว้จนจบเกม แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว พ่าย 2-4 จนตกรอบแรกไปด้วยกัน

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอฟ – ม้ามืดตัวจริงที่ชื่อ…
1. โมร็อกโก คะแนน 7 ผลต่างประตู +3
2. โครเอเชีย คะแนน 5 ผลต่างประตู +3
3. เบลเยียม คะแนน 4 ผลต่างประตู -1
4. แคนาดา คะแนน 0 ผลต่างประตู -5

 

โมร็อกโก : ม้ามืดตัวจริงของฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ก่อนสร้างเซอร์ไพรส์ปราบ เบลเยียม 2-0 และฟาดอีกสามแต้มด้วยการสยบ แคนาดา 2-1 จนเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม แบบที่ยิง 4 เสียแค่ 1 ซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขามีดีทั้งรุกและรับ

 

โครเอเชีย : โชว์ความหลังเหนียวด้วยการไม่เสียประตูทั้งเกมกับ โมร็อกโก และ เบลเยียม โดยเฉพาะนัดหลังที่เป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ไม่พลาดท่าเสียที แม้โดยรวมอาจไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนครั้งก่อนที่ไปไกลถึงรองแชมป์โลก แต่ก็อย่าประมาทเชียวล่ะ

 

เบลเยียม : อีกหนึ่งยักษ์ล้มของฟุตบอลโลกงวดนี้ ทั้งที่เริ่มต้นด้วยชัยชนะเหนือ แคนาดา 1-0 แต่หลังจากนั้นกลับพลิกพ่าย โมร็อกโก ตามด้วยเสมอ โครเอเชีย แบบยิงไม่ได้ โรเมลู ลูกากู โดนถล่มหนักจากฟอร์มสุดทื่อในเกมสุดท้ายที่พลาดโอกาสทองไป 3-4 หน ขณะที่ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงความแตกร้าวภายในแคมป์ โดยเฉพาะเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ไปหลุดปากให้สัมภาษณ์ว่า เบลเยียมชุดนี้แก่เกินไป ยังไงไม่ถึงแชมป์โลก

 

แคนาดา : คืนสู่ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกถัดจากปี 1986 ซึ่งก็พอเข้าใจได้ถึงการที่บทสรุปจะออกแบบนี้ – รั้งบ๊วยด้วยการแพ้ 3 เกมรวด เนื่องด้วยขุมกำลังของพวกเขาไม่มีนักเตะคุณภาพอยู่เลย ยกเว้น อัลฟอนโซ่ เดวิส คนเดียวที่ก็แบกไม่ไหว แต่ก็เป็นการชิมลางที่ดีก่อนได้เป็นเจ้าภาพร่วม (กับสหรัฐฯ และเม็กซิโก) ในอีก 4 ปีข้างหน้า

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มจี – แซมบ้ามาตามนัด เซิร์บผิดฟอร์ม
1. บราซิล คะแนน 6 ผลต่างประตู +2
2. สวิตเซอร์แลนด์ คะแนน 6 ผลต่างประตู +1
3. แคเมอรูน คะแนน 4 ผลต่างประตู 0
4. เซอร์เบีย คะแนน 1 ผลต่างประตู -3

 

บราซิล : เป็นอีกทีมที่โดนปัญหาบาดเจ็บตามเล่นงาน เนย์มาร์ กับ ดานิโล่ เจ็บจากเกมแรกจนต้องพักตลอดรอบแรก กาเบรียล เชซุส กับ อเล็กซ์ เตลเลส ก็เจ็บจากเกมสามจนต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ แต่ภาพรวมก็ยังถือว่ายอดเยี่ยม เกมแรกอัด เซอร์เบีย จนน่าชนะมากกว่า 2-0 เกมสองก็ฮึดเชือด สวิสส์ ด้วยประตูเวิลด์คลาสจาก กาเซมิโร่ เสียแค่นัดสามที่ปรับส่งสำรองลง แล้วเจาะ แคเมอรูน ไม่เข้าก่อนโดนสวนถึงปลายคาง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นแชมป์กลุ่มได้ตามเป้า

 

สวิตเซอร์แลนด์ : แสดงให้เห็นถึงเกมรับที่แข็งแกร่งทั้งในเกมชนะ แคเมอรูน 1-0 และยัน บราซิล 0-0 จนถึงนาที 83 (โดน กาเซมิโร่ สอย 1-0) ก่อนจะเจอเกมแลกหมัดกับ เซอร์เบีย ซึ่งทัพนาฬิกาก็ยังมีดีพอจะเบียดชนะ 3-2 ด้วยทีมที่มี 11 คนแรกค่อนข้างตายตัว และตัวความหวังสูงสุดอย่าง บรีล เอ็มโบโล่ ก็เข้าฝักดี กดไปแล้ว 2 ตุง

 

แคเมอรูน : โชคไม่ดีนักที่ชัยชนะสุดพลิกล็อกเหนือ บราซิล 1-0 แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ โขกประตูโทน มาช้าเกินไปหน่อย หลังจากแพ้ สวิสส์ 0-1 ไปแล้ว และเสมอ เซอร์เบีย 3-3 ในนัดถัดมา ทำให้สี่แต้มที่มีในมือยังไม่มากพอต่อการได้ไปต่อ

 

เซอร์เบีย : น่าผิดหวังมากอีกทีม เมื่อทั้งที่มาด้วยฟอร์มชั้นยอดในรอบคัดเลือก แต่เมื่อถึงรอบสุดท้ายแล้วก็กลับไปไม่เป็น ดราแกน สตอยโควิช เหมือนจะวางแผนผิดในเกมแพ้ บราซิล 0-2 ต่อมาก็ทำพลาดปล่อยสกอร์นำ แคเมอรูน 3-1 ให้จบที่ 3-3 ก่อนสุดท้ายโดน สวิสส์ ยิงอีกสามเม็ด เท่ากับสามเกมโดนจ้วงยับ 8 ประตู

 

 

บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

กลุ่มเอช – ฝอยทองจองตั๋ว โสมขาวมาเฉย
1. โปรตุเกส คะแนน 6 ผลต่างประตู +2
2. เกาหลีใต้ คะแนน 4 ผลต่างประตู 0 (ยิงได้ 4)
3. อุรุกวัย คะแนน 4 ผลต่างประตู 0 (ยิงได้ 2)
4. กาน่า คะแนน 3 ผลต่างประตู -2

 

โปรตุเกส : ทำให้เห็นว่านี่ก็ไม่ได้เป็นกลุ่มแห่งความตายอะไรนักหนา ด้วยการชนะ 2 เกมซ้อนเหนือทั้ง กาน่า และ อุรุกวัย จนการันตีการเข้ารอบได้ตั้งแต่จบสองเกมแรก และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ไม่ได้เล่นดีมากแต่ก็มีประตูทำสถิติจารึกไว้ชั่วลูกชั่วหลาน จนเกมสุดท้ายแม้จะหลุดแพ้ เกาหลีใต้ แต่ก็ไม่ได้สั่นคลอนตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

 

เกาหลีใต้ : สร้างเซอร์ไพรส์ได้ไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่าง ญี่ปุ่น แต่ก็ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำมากกว่าเมื่อสองเกมแรกผ่านไปมีแต้มในมือแค่คะแนนเดียว (0-0 อุรุกวัย, 2-3 กาน่า) จนสถานการณ์บังคับให้ต้องชนะ โปรตุเกส สถานเดียวพร้อมลุ้นผลอีกคู่ สุดท้ายทำสำเร็จด้วยการยิงแซง 2-1 และ อุรุกวัย ยิงไม่พอ

 

อุรุกวัย : ถูกมองว่าจะไปได้ไกลจากการมีขุมกำลังน่าจับตาตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด แต่เอาเข้าจริงก็ถือเป็นทีมน่าผิดหวังอีกรายประจำทัวร์นาเมนต์ สองเกมแรกยิงใครไม่ได้ เสมอ เกาหลีใต้ 0-0 และแพ้ โปรตุเกส 0-2 ครั้นเร่งเครื่องขึ้นก็ไปไม่สุด นำ กาน่า 2-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้วผ่อนเกม จนยิงเพิ่มไม่สำเร็จ สุดท้ายตกรอบอย่างสุดช็อกด้วยการที่มีจำนวนประตูยิงได้น้อยกว่า เกาหลีใต้ เท่านั้นเอง

 

กาน่า : วูบวาบดีและก็สร้างความหนักใจให้คู่แข่งได้พอตัว ทั้งเกมที่แพ้ โปรตุเกส หวิวๆ 2-3 แล้วต่อมาสยบ เกาหลีใต้ 3-2 เพียงแต่ก็เครื่องช็อตไปในเกมสาม ที่แพ้ อุรุกวัย จนในที่สุดก็ตกรอบแรกแบบเป็นบ๊วยของกลุ่ม อินยากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่ฝากความหวังไว้ ยิงไม่ได้สักลูก ดาวเด่นกลับเป็น โมฮัมเหม็ด คูดุส ปีกดาวรุ่งจากอาแจ็กซ์ ที่กดไป 2 ตุงในเกมชนะโสมขาว

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

 

ภาพประกอบ
AFP
Doha News
Sky Sports
CNN
Football365
THE SPORTS ROOM
The West Australian
Reuters

 

เรื่องน่าอ่าน
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด
8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

บราซิล จะชนะแคเมอรูน เก็บชัย 100% ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

บราซิล จะชนะแคเมอรูน เก็บชัย 100% ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม จี วันที่ 3 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

แคเมอรูน – บราซิล ถ่ายทอดทาง True4U/ Nation TV/ True Sport 2

บราซิล ฟุตบอลโลก 2022

ทีมเต็งตลอดกาล บราซิล จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ได้ไหมในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter @CBF_Futebol)

สถานการณ์ของแคเมอรูนและบราซิล

นัดแรกแคเมอรูนแสดงให้เห็นว่า การทำเกมรุกของพวกเขา มีคุณภาพไม่เพียงพอ หลายต่อหลายครั้งที่นักเตะในแดนหน้าต้องเจอสถานการณ์ 1-2, 3 หรือ 4 กับกองหลังของสวิตเซอร์แลนด์ จนแพ้ไป 1-0 แต่ในเกมที่สอง พวกเขาเหมือนตื่นมารับรู้ความจริง และแสดงให้เห็นศักยภาพในตัว และแบ่
แต้มจากเซอร์เบียมาครองได้สำเร็จ และทำให้ความหวังในการเข้ารอบของพวกเขายังคงมีอยู่

ก่อนลงเตะนัดสุดท้าย แคเมอรูนคือทีมอันดับ 3 ในกลุ่ม และคู่แข่งที่พวกเขาต้องเจอก็คือ บราซิล เต็งหนึ่งของรายการ ที่สำคัญพวกเขาชนะยังไม่พอ (ถ้าทำได้) เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเกมระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์และเซอร์เบียด้วย เมื่อมีเรื่องของประตูได้เสีย ประตูได้ เข้ามาเกี่ยวข้อง

แต่ถ้าสวิตเซอร์แลนด์ชนะเซอร์เบีย แคเมอรูนจะตกรอบทันที โดยไม่ต้องไปวัดอะไรให้วุ่นวาย

บราซิลออกตัวด้วยชัยชนะเหนือเซอร์เบีย หลังพยายามเจาะประตูทีมที่หลาย ๆ คนมองข้ามจากยุโรปทีมนี้อยู่นาน จนนาทีที่ 62 พวกเขาถึงได้ประตูที่ต้องการ ก่อนจะตามด้วยประตูที่สองในอีก 11 นาทีต่อมา ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาเก็บ 3 แต้มเต็มแน่ ๆ ในนัดต่อมาที่ปราศจากเนย์มาร์ ทีมแซมบ้าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการคว้าชัยชนะ แม้จะเป็นเพียงประตูเดียวจากคาเซมิโร่ แต่ก็พอจะทำให้พวกเขาเก็บ 6 แต้มเต็ม มีฟอร์มการเล่นสมราคาเต็งแชมป์ และเดินเข้าสู่รอบน็อคเอาต์เรียบร้อย ในแบบที่แทบจะคว้าแชมป์กลุ่มไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ในทางทฤษฎีหากจะให้ชัวร์ ๆ พวกเขาควรเก็บอย่างน้อยอีก 1 แต้มจากแคเมอรูน หรือถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา สวิสก็ต้องพ่ายเซอร์เบียด้วย

แคเมอรูน ฟุตบอลโลก 2022

หลังจากฟุตบอลโลก 1990 แคเมอรูน ก็ไม่เคยสร้างซอร์ไพรส์อะไรได้อีกเลย พวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter @CAF_Online)

สถานการณ์ผู้เล่นของแคเมอรูนและบราซิล

ในเกมนี้ แคเมอรูนจะไม่ได้ใช้บริการ อังเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูที่มีเรื่องขัดแย้งกับริโกแบร์ต ซง จนต้องเก็บข้าวของออกจากที่พักไปก่อนเกมเสมอเซอร์เบีย 3-3 และทำให้เดวิส เอพาสซี ผู้รักษาประตูที่มีประสบการณ์น้อยกว่า ได้ทำหน้าที่แทนตั้งแต่เกมที่แล้ว ขณะที่ในแดนหน้า แวงซองต์ อะบูบาเคอร์ กองหน้าเก๋าประสบการณ์​ น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง หลังถูกเปลี่ยนลงสนามและสามารถทำประตูได้ และจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมอีก 1 ประตูในเกมที่ผ่านมา

บราซิลจะไม่มีเนย์มาร์และดานิโลในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มแน่ ๆ เพราะบาดเจ็บข้อเท้าทั้งคู่ แต่ก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นในบางตำแหน่ง จากเกมที่เอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อมีผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม โดยในตำแหน่งแบ็คซ้าย อเล็กซ์ เตลเลสน่าจะได้ลงเล่นแทนอเล็กซ์ ซานโดร ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วง 5 นาทีสุดท้าย และต้องเช็คอาการบาดเจ็บที่สะโพก ขณะที่เฟร็ดกับลูคัส ปาเกต้าจะได้ยืนในแดนกลาง ริชาร์ลิสันน่าจะได้พัก โดยแกเบรียล เชซุส มีโอกาสได้ลงมาเล่นแทน และโรดรีโก้น่าจะลงเล่นเป็นตัวจริง ในแนวรุกทางด้านขวา ส่วนบรูโน กีมาเรสและอันโตนี่ ก็น่าจะได้ลงมาสัมผัสเกม

เฟร็ด บราซิล ฟุตบอลโลก 2022

เล่นได้กระท่อนกระแท่นในระดับสโมสร แต่ในทีมชาติ เฟร็ดคือกลไกหลักของบราซิล ที่คงได้เห็นกันในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Paul Greenwood/BPI/Rex/Shutterstock)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของแคเมอรูนและบราซิล

แคเมอรูน ระบบ 4-3-3: เอพาสซี่; ฟาย, คาสเตลเล็ตโต้, เอ็นคูลู, โตโล; แอนกวิสซ่า, ฮงลา, คุนเด้; เอ็มโบโม, อะบูบาเคอร์, ชูโป-โมติ้ง
บราซิล ระบบ 4-1-4-1: อลีสซง; มิลิเตา, ธีอาโก้ ซิลวา, มาร์ควินญอส, เตลเลส; คาเซมิโร่; โรดรีโก้, กีมาเรส, ปาเกต้า, วินิซิอุส จูเนียร์; เชซุส

ผลการแข่งขันระหว่างแคเมอรูนและบราซิล

เกมที่ “ต้อง” ชนะสำหรับแคเมอรูน แต่เมื่อเทียบทุกมุม ทุกด้านกับบราซิลแล้ว พวกเขาไม่มีอะไรที่เหนือกว่าเลย แล้วก็ไม่สามารถเล่นตั้งรับลึก ที่สร้างปัญหาให้แชมป์โลก 5 สมัยเช่นที่สองทีมจากยุโรปแสดงให้ดูได้แน่ ๆ สิ่งเดียวที่นักเตะจากแอฟริกาสามารถทำได้ในนัดนี้ก็คือ ทุ่มเท และพยายามอย่างที่สุด ซึ่งจะว่าไปแล้ว คงไม่พอที่จะเอาชนะทีมเมืองกาแฟได้แน่นอน

บราซิลชนะ 2-0 เป็นอย่างน้อย

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร

2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม จี งานสบายของทีมเมืองกาแฟ แต่ใครที่จะตามพวกเขาเข้ารอบ 
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่ 
4. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
5. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน 

เซอร์เบีย สวิตเซอร์แลนด์ จะแย่งตั่วเข้ารอบน็อคเอาต์ใบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022

เซอร์เบีย สวิตเซอร์แลนด์ จะแย่งตั่วเข้ารอบน็อคเอาต์ใบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม จี วันที่ 3 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

เซอร์เบีย – สวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายทอดทาง ONE 31/ True Sport 2

เซอร์เบีย ฟุตบอลโลก 2022

เซอร์เบีย ไปฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ โดยมีดาวเด่นอย่าง อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิก และมิลาน ทาดิก (ภาพ: Twitter @FSSrbije)

สถานการณ์ของเซอร์เบียและสวิตเซอร์แลนด์

เซอร์เบียถูกมองว่าเป็นม้ามืดในตอนที่ทัวร์นาเมนต์เริ่มต้นขึ้น แต่เมื่อได้ลงสนามจริง ๆ พวกเขาก็กลายเป็นอีกทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในเกมแรกที่ต้องเจอกับบราซิล พวกเขาโชว์สปิริตให้เห็น แต่ก็ยังไม่มีคุณภาพมากพอที่จะยันเสมอทีมแซมบ้า ในเกมต่อมาพวกเขานำแคเมอรูนไปถึง 3-1 แต่ท้ายที่สุดเกมก็จบลงที่ 3-3 ซึ่งถือว่าเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงสำหรับทีมจากยุโรปตะวันออกทีมนี้ เมื่อเก็บได้แค่แต้มเดียวจากการลงสนาม 2 นัดแรก และไปกองอยู่ท้ายตารางคะแนนก่อนที่เกมนัดสุดท้ายจะเริ่มต้น

โดยนัดนี้สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือ ชัยชนะเท่านั้น แล้วทุกอย่างก็เรียบร้อย ยกเว้นว่า แคเมอรูนเกิดทำเรื่องช็อคโลกขึ้นมาด้วยการคว่ำบราซิล

สถิติในฟุตบอลโลกของสวิตเซอร์แลนด์ แสดงให้เห็นว่า พวกเขาเป็นชาติที่ต้องดิ้นรนเพื่อผ่านเข้ารอบทุกครั้ง โดยใน 4 ครั้งหลัง พวกเขาทำสำเร็จถึง 3 และในครั้งนี้พวกเขาก็เริ่มต้นได้ดีด้วยการอาชนะแคเมอรูน จากประตูโทนของบรีลล์ เอ็มโบโล่ ที่เกิดในแคเมอรูน และทำให้พวกเขาได้เป็นที่สองในกลุ่มรองจากบราซิล แม้จะแพ้ทีมเมืองกาแฟในนัดที่สอง แบบที่เรียกได้ว่า โชคไม่ดี ก็ตามที เมื่อเกิดความผิดพลาดในแนวรับ และทำให้ถูกลงโทษโดยคาเซมิโร่

แต่ 3 แต้มในมือก็ทำให้โอกาสเข้ารอบของพวกเขา อยู่ที่ตัวเองมากกว่าจะต้องไปพึ่งพาใคร ชนะได้เข้ารอบไปกับบราซิลแน่ ๆ เสมอก็เพียงพอถ้าแคเมอรูนไม่สร้างปาฏิหาริย์ช็อคโลกขึ้นมา

สวิตเซอร์แลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

สวิตเซอร์แลนด์ มีดีพอจะตามบราซิลเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022 ตามบราซิลไหม (ภาพ: Keystone / Urs Flueeler)

สถานการณ์ผู้เล่นของเซอร์เบียและสวิตเซอร์แลนด์

เซอร์เบียต้องเช็คอาการบาดเจ็บของ สตราฮินยา พาฟโลวิก กองหลังคนสำคัญ ที่ต้องออกจากสนามในเกมเสมอแคเมอรูน 3-3 โดยทีมหวังว่าน่าจะหายทัน แต่ถ้าไม่ สเตฟาน มิโตรวิก จะทำหน้าที่แทน ศูนย์หน้า อเล็กซานดาร์ มิโตรวิก ยิงประตูแรกในฟุตบอลโลกได้แล้ว และสภาพร่างกายก็ฟิตเต็มที่ พร้อมลงเป็น 11 คนแรก โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง เซอร์เกจ มิลินโควิก-ซาวิก ที่กำลังเล่นได้ดีกับลาซิโอ และกัปตันทีมดูซาน ทาดิก ที่เล่นทางด้านขวา

แนวรับเซนเตอร์แบ็ค 3 ตัว นอกจากตำแหน่งของพาฟโลวิกแล้ว อีกสองคนจะเป็น มิลอส เวลจ์โควิกกับนิโคล่า มิเล็นโควิก

สวิตเซอร์แลนด์ ไม่มีข่าวผู้เล่นบาดเจ็บหนัก ๆ ออกมา ดังนั้นเป็นไปได้ว่า พวกเขาจะลงสนามด้วยผู้เล่นหน้าเดิม ๆ เป็นส่วนใหญ่ ภายใต้ระบบเดิม โดยมีโนอาห์ โอกาฟอร์ เป็นคนเดียวที่มีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อ แต่ก็ไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริงอยู่แล้ว และเพิ่งลงเล่นได้แค่ 20 นาทีในเกมกับแคเมอรูน นอกจากนี้ตัวเก๋า เซอร์แดน ชาคีรี่ น่าจะถูกเลือกมารับมือเซอร์เบีย ทำให้ฟาเบียน รีเดอร์ ต้องนั่งข้างสนาม เมื่อดูว่าแค่แต้มเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาได้เข้ารอบ กรานิต ซาก้ากับรีโม่ ฟรูเลอร์ น่าเล่นในแบบเดียวกับเกมที่เจอกับบราซิล โดยปักหลังอยู่ที่หน้าแผงหลัง

บรีลล์ เอ็มโบโล น่าจะจะได้ลงสนาม โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวของทีม ที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกคราวนี้ โดยจะมีฌิบริล โซว์ ให้การสนับสนุนด้านหลัง และรูเบน วาร์กาสกับชาคีรี่ประจำการที่ด้านข้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของเซอร์เบียและสวิตเซอร์แลนด์

เซอร์เบีย ระบบ 3-4-2-1: วานย่า มิลิโควิก-ซาวิก; พาฟโลวิก, มิเลนโควิก, เวลจ์โควิก; ซิฟโควิก, มักซิโมวิก, ลูคิก, คอสติก; เซอร์เกจ์ มิลินโควิก-ซาวิก, ทาดิก; อเล็กซานดาร์ มิโตรวิก
สวิตเซอร์แลนด์ ระบบ 4-2-3-1: ซอมเมอร์; วิดแมร์, อะคานจิ, เอลเวดี้, ร็อดริเกวซ; ซาก้า, ฟรูเลอร์; ชาคีรี่, โซว์, วาร์กาส; เอ็มโบโล

ผลการแข่งขันระหว่างเซอร์เบียและสวิตเซอร์แลนด์

เป็นเกมที่เปรียบได้กับเกมน็อคเอาต์ และทั้งสองทีมก็มีศักยภาพที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน จนเกมอาจจะออกมาในรูปไหนก็ได้ ที่สำคัญทั้งสองทีมยังมีปัญหาทางการเมือง เกี่ยวพันกับผู้เล่นหลัก ๆ บางคนของสวิตเซอร์แลนด์ เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สู้กันด้วยพละกำลัง และบรรดาดาวเตะคนสำคัญของทั้งสองทีม คือคนที่จะตัดสินเกม แต่ด้วยประสบการณ์ของผู้เล่น และทีมที่เจอกับสถานการณ์บีบคั้นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง สวิสน่าจะเอาชนะไปได้หวุดหวิด

สวิตเซอร์แลนด์ 1 เซอร์เบีย 0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร

2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม จี งานสบายของทีมเมืองกาแฟ แต่ใครที่จะตามพวกเขาเข้ารอบ 
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่ 
4. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
5. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน 

อุรุกวัย จะเบียด ดาวดำ กาน่า เข้ารอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022

อุรุกวัย จะเบียด ดาวดำ กาน่า เข้ารอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม เอช วันที่ 2 ธันวาคม เวลาลงสนาม 22:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

กานา – อุรุกวัย ถ่ายทอดทาง Nation TV/ True Sport 2

กาน่า ฟุตบอลโลก 2022

กาน่าถูกมองว่าน่าจะมีโอกาสผ่านรอบ 16 ทีมของฟุตบอลโลก 2022 ได้น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมกลุ่ม (ภาพ: infoguidenigeria.com)

สถานการณ์ของกานาและอุรุกวัย

กานา ถือว่าเป็นทีมโชคร้ายที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ ในการลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนถึงเกมสุดท้าย เมื่อวีเออาร์และกรรมการไม่เป็นใจในเกมแรกที่พ่ายโปรตุเกส 3-2 ซึ่งพวกเขาสมควรที่จะได้สักแต้มก็ยังดี แต่ชัยชนะในนัดต่อมาเหนือเกาหลีใต้ ก็ทำให้กาน่ากลับมาเข้าที่เข้าทาง และยังอยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเป็นอันดับ 2 ในตารางก่อนเกมชี้ชะตา ที่สำคัญพวกเขาจะได้ไปต่อหรือไม่ทุกอย่างอยู่ในมือของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น ทีมที่กานาต้องเจอก็คืออุรุกวัย ที่ทำให้เส้นทางฟุตบอลโลก 2010 ของพวกเขาจบลงที่รอบก่อนรองชนะเลิศ ในเกมที่ถูกโจษจันมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้ากาน่าชนะอุรุกวัย พวกเขาจะได้เข้ารอบแน่ ๆ แต่ถ้าอยากเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ก็ต้องลุ้นให้อีกคู่เกาหลีใต้ชนะโปรตุเกส

อุรุกวัยมากาตาร์ ด้วยผู้เล่นลูกผสมระหว่างรุ่นเก๋ากับรุ่นใหม่ มีทั้งซูเปอร์สตาร์ค้างฟ้าและดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ยังรอการพิสูจน์​ แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ มาถึงตอนนี้พวกเขายังยิงประตูไม่ได้เลย หลังเริ่มด้วยการเสมอกับเกาหลีใต้ 0-0 ในเกมที่แม้ไม่มีการยิงเข้ากรอบเลย แต่ก็เต็มไปด้วยความระทึก เกมที่สองกับโปรตุเกส อุรุกวัยพ่ายไปในแบบที่พวกเขาทำประตูไม่ได้ 2-0 และกลายเป็นทีมท้ายตารางของกลุ่ม หากก็ไม่ได้หมดหวังที่จะเข้ารอบน็อคเอาต์

โอกาสของอุรุกวัยยังมีอยู่ในมือ เพียงแต่ต้องยืมมือชาวบ้านด้วย หากอย่างแรกพวกเขาต้องชนะกาน่า แล้วก็ไปลุ้นให้เกาหลีใต้เอาชนะโปรตุเกสไม่ได้ แต่ถ้าเกิดทีมจากเอเชียสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมา อุรุกวัยก็ต้องชนะกาน่าด้วยผลต่างประตูที่มากกว่า 2 ลูก เพื่อที่จะเข้ารอบ และส่งเกาหลีใต้กลับบ้าน

อุรุกวัย ฟุตบอลโลก 2022

สองกองหน้าเสือเฒ่า คาวานี่-ซัวเรซ จะพาอุรุกวัยไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Alex Pantling/Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของกานาและอุรุกวัย

แบ็คซ้าย กิเดียน เมนซาห์ของกาน่า ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงท้ายเกมกับเกาหลีใต้ ได้รับการยืนยันแล้วว่า เป็นแค่ตะคริว และน่าจะฟิตพอลงเล่นในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มได้ นอกจากนี้ยังไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมเช่นกัน ซึ่งเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากนัดที่แล้วในเกมนี้

โมฮัมเม็ด คุดุส ที่โชว์ฟอร์มได้แจ่มในนัดที่แล้ว และยิงได้ 2ประตูจนไปเข้าตาแมวมองของบาร์เซโลน่าและลิเวอร์พูล ไม่น่าจะพลาดการเป็น 11 คนแรก โดยเขาจะเล่นร่วมกับสองพี่น้องอายิว เป็นสามกำลังในแนวรุกที่อยู่หลังหน้าเป้า อินากี้ วิลเลียมส์ ส่วนโธมัส ปาร์เตย์กับซาลิส อับดุล ซาเม็ด จะยืนปักหลังเป็นห้องเครื่องในแดนกลาง

อุรุกวัยยังไม่มีข่าวดีจาก โรนัลด์ อาราอูโฮ เซนเตอร์แบ็คจากบาร์เซโลน่า ที่ได้รับบาดเจ็บซ้ำในช่วงพักฟื้น ซึ่งเกือบจะทำให้เขาไม่ติดทีมมากาตาร์แล้วด้วยซ้ำ และตอนนี้โอกาสที่จะได้เห็นเขาลงสนามน่าจะหมดไปแล้ว ยกเว้นทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ แต่ด้วยสถานการณ์ของทีมไม่ว่าจะในตอนนี้ หรือรอบต่อไป ดูแล้วเขาไม่น่าจะได้สัมผัสเกมในฟุตบอลโลก 2022

สองตัวเก๋า ลุยส์ ซัวเรซและเอดินสัน คาวานี่ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ ที่น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับชาติหนสุดท้าย และเป็นไปได้ว่าเกมนี้ ทั้งคู่จะเริ่มจากการนั่งดูไปก่อน โดยคนที่ได้โอกาสลงเล่นก่อน น่าจะเป็นดาร์วิน นูนเญซ ที่จะมีแม็กซี โกเมซ ที่ลงเป็นตัวสำรองและเล่นได้ดีในเกมพ่ายโปรตุเกสเป็นกองหนุน ส่วนสองผู้เฒ่าค่อยลงเล่นในช่วงท้ายของเกม ขณะที่ผู้เล่นในแดนกลาง ไม่ว่าจะเป็นเฟเดริโก้ วัลเวอร์เด้, ร็อดริโก้ เบนทาเคอร์ และโฮเซ่ จิมีเนซ น่าจะออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

อุรุกวัย จะเบียด ดาวดำ กาน่า เข้ารอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022
ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของกานาและอุรุกวัย

กาน่า ระบบ 4-2-3-1: อะติ-ซิกี; แลมป์ตี้ย์, อมาร์ตี้ย์, ซาลิซู, เมนซาห์; ปาร์เตย์, อับดุล ซาเม็ด; คุดุส, อังเดร อายิว, จอร์แดน อายิว; วิลเลียมส์
อุรุกวัย ระบบ 3-5-2: โรเช็ต; จิมิเนซ, โคอาเตส, โกดิน; วาเลรา, เดอ อาร์ราสคาเอต้า, วัลเวอร์เด้, เบนตาเคอร์, นูนเญซ; โกเมซ, โอวิเวียร่า

อุรุกวัย จะเบียด ดาวดำ กาน่า เข้ารอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022

หลุยส์ ซัวเรซ กับฟุตบอลโลก ครั้งสุดท้ายของเขา

ผลการแข่งขันระหว่างกานาและอุรุกวัย

จากฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีมก่อนหน้านี้ เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุก อุรุกวัยต้องการชัยชนะ ขณะที่กาน่าก็ต้องไม่แพ้ เพราะเพียงแค่แต้มเดียว พวกเขาก็สามารถก้าวสู่รอบต่อไปได้ ถ้าเกาหลีใต้เอาชนะโปรตุเกสไม่สำเร็จ รูปเกมคงเป็นอุรุกวัยที่เดินหน้าเข้าใส่ และกานาก็รอจังหวะสวนกลับเอาเจ็บ ๆ ซึ่งจากที่ได้เห็นในสองเกมแรก เกมรุกของพวกเขามีประสิทธิภาพที่ใช้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน แดนหลังของพวกเขาก็ใช่ว่าจะเหนียวแน่น และนั่นคือหัวใจสำคัญในการชี้ชะตาเลยว่า พวกเขาจะอยู่หรือไป

หลังอัดอั้นมานาน อุรุกวัยน่าจะเก็บชัยชนะได้สักนัด สกอร์น่าจะจบลงตรงที่ 2 หรือ 3-1

เรื่องน่าอ่าน
1.
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอช กลุ่มของสิงห์เฒ่า การล้างแค้นของกาน่า และโอกาสของซน
3. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?
4. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่

5. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

 



โปรตุเกส จะคว้าชัยส่งท้ายเกมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

โปรตุเกส จะคว้าชัยส่งท้ายเกมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม เอช วันที่ 2 ธันวาคม เวลาลงสนาม 22:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

เกาหลีใต้ – โปรตุเกส ถ่ายทอดทาง True4U/ True Sport 2

ชาติเอเชีย - เกาหลีใต้

เกาหลีใต้ ขาประจำของฟุตบอลโลก จากเอเชีย (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของเกาหลีใต้และโปรตุเกส

เกาหลีใต้เป็นอีกทีมหนึ่งที่โชว์ฟอร์มได้ดีในฟุตบอลโลก 2022 ที่มาถึงตอนนี้ เจ้าตัวเองก็คงสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมพวกเขาถึงหาชัยชนะไม่เจอ จากเกมนัดแรกที่เสมอกับอุรกวัย ที่ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นเกมที่ไม่ช่วยอะไรพวกเขาเลย ขณะที่เกมนัดที่ 2 แม้จะถูกนำไปก่อน แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไล่กลับมาได้ แต่ไป ๆ มา ๆ แทนที่จะได้สักแต้ม กาน่ากลับคว้าชัยชนะได้สำเร็จ

ด้วยคะแนนเดียวที่มีอยู่ในมือ และเกมที่ต้องเจอกับโปรตุเกสที่ผ่านเข้ารอบไปแล้ว บางทีอาจจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับเกาหลีใต้ ในการคว้าชัยชนะเช่นเดียวกับที่ตูนิเซียได้รับจากฝรั่งเศส แต่เงื่อนไขในการเข้ารอบมันซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะพวกเขาแค่ชนะยังไม่พอ ถ้ากาน่าคว่ำอุรุกวัยสำเร็จ ความพยายามของเกาหลีใต้ก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้าอุรุกวัยขนะ เกาหลีก็ต้องชนะโปรตุเกสด้วยสกอร์เท่ากันเป็นอย่างน้อย พูดง่าย ๆ คือ สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือ เอาชนะก่อน แล้วค่อยมาหวังให้สถานการณ์ต่าง ๆ เข้าข้าง

โปรตุเกสไม่ต่างไปจากฝรั่งเศส พวกเขาเข้ารอบไปแล้วจากชัยชนะ 2 นัด แต่เพื่อความชัวร์ว่าจะได้เข้าเป็นที่ 1 ในกลุ่ม ผลเสมอคือสิ่งที่พวกเขาน่าจะพอใจ

โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2022 คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ทีมชาติโปรตุเกส จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: portugoal.net)

สถานการณ์ผู้เล่นของเกาหลีใต้และโปรตุเกส

คนที่จะหายไปจากทีมแน่ ๆ ของเกาหลีใต้ในเกมนี้ ก็คือ เปาโล เบนโต้ โค้ชและอดีตผู้เล่นทีมชาติโปรตุเกส ที่ถูกใบแดงหลังเกมกับกาน่าจบลง เพราะไปประท้วงการเป่าหมดเวลาของแอนโธนี่ เทย์เลอร์ ขณะที่ฮวางฮีชานอาจจะไม่ได้ลงเล่น เพราะเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา ที่ต้องรอเช็คสภาพร่างกายอีกที ซนเฮืองมินพร้อมลงเล่นเป็น 11 คนแรก ซึ่งจะทำให้เขาติดทีมชาตินัดที่ 107 ส่วนคิมมินแจจะได้ลงเป็นหัวใจในปราการหลัง โชกิวซังที่ซัด 2 ประตูในเกมแพ้กาน่า น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง โดยมีควอนชางฮุนลงเล่นในทางกว้าง และในกลางสนามจะเป็นพื้นที่ของฮวางอินบอม

ด้วยสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าทุกอย่างจบไปแล้ว โปรตุเกสสามารถพักผู้เล่นบางรายได้ โดยเฉพาะบรรดาตัวหลัก ๆ เพื่อเซฟร่างกาย แล้วก็ปล่อยให้บรรดาตัวสำรองทั้งหลายได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย โดยพวกเขาจะหมดสิทธิ์ใช้งาน แบ็คซ้าย นูโน่ เมนเดส ที่ได้รับบาดเจ็บในครึ่งแรกของเกมเจออุรุกวัย และหายไม่ทันลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว ต่อให้ได้เข้าชิงก็ตาม ดานิโล่ เปไรร่ากับโอตาวิโอ ก็ไม่พร้อมลงเล่นในเกมนี้ รายแรกมีปัญหาเรื่องซี่โครง ส่วนรายหลังมีอาการบาดเจ็บ โดยราฟาเอล เกวร์เรโร น่าจะได้ลงเล่นในตำแหน่งของเมนเดส ดิโอโก้ ดาโลต์, ชูเอา ปาลินญ่า และกอนเซโล รามอส มีสิทธิได้ลงสนาม ส่วนโรนัลโด้อาจจะได้พัก หลังไม่ได้ลงซ้อมกับทีม

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ บรูโน่ เฟอร์นันด์ส โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ขวา) กับบรูโน่ เฟอร์นันด์ส เพื่อนร่วมทีมชาติและร่วมสโมสร (ภาพ: www.sportingnews.com)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของเกาหลีใต้และโปรตุเกส

เกาหลีใต้ ระบบ 4-2-3-1: คิมซึงกิว; คิมมุนฮวาน, คิมมินแจ, คิมยังกวอน, คิมจินสุ; ฮวางอินบอม, จุงวูยัง; ควอนชางฮุน, นาซังโฮ, ซนเฮืองมิน; โชกิวซัง
โปรตุเกส ระบบ 4-2-3-1: คอสต้า; ดาโล่ต์, ซิลวา, ดิอาส, เกวร์เรโร่; ปาลินญ่า, คาร์วัลโญ่; ซิลวา, เฟลิกซ์, เลเอา; โรนัลโด้

เกาหลีใต้ ฟุตบอลโลก 2022

เกาหลีใต้ และซนเฮืองมิน ต้องโชว์ฟอร์มแกร่งให้เร็วกว่าที่เคยเป็นในฟุตบอลโลก 2018 หากอยากผ่านเข้ารอบของฟุตบอลโกล 2022 (ภาพ: Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่างเกาหลีใต้และโปรตุเกส

เกาหลีใต้ ไม่ใช่แค่ชนะเท่านั้น แต่พวกเขาต้องชนะด้วยการยิงประตูเยอะ ๆ อีกต่างหาก ซึ่งไม่ใช่งานง่ายสำหรับทีมที่กว่าจะยิงเขากรอบได้ ก็ลงสนามไปแล้ว 135 นาที และกับการที่ต้องเล่นเกมรุกมากขึ้น ทำให้แนวรับของพวกเขาไม่แข็งแกร่งอย่างที่เคยเป็น ถึงแดนหน้าจะแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถสร้างปัญหาให้คู่แข่งได้ แต่วันนี้ทีมที่พวกเขาต้องเจอคือโปรตุเกส ไม่ใช่กาน่า ที่พร้อมลงโทษพวกเขาได้ทุกเมื่อ

ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เกาหลีใต้จะกลับจากกาตาร์โดยคว้าชัยชนะไม่ได้แม้แต่นัดเดียว โดยปิดท้ายด้วยการแพ้โปรตุเกส 2-0 หรือ 3-0

เรื่องน่าอ่าน
1.
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอช กลุ่มของสิงห์เฒ่า การล้างแค้นของกาน่า และโอกาสของซน
3. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?
4. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่

5. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

 

เยอรมนี อินทรีเหล็ก จะชนะคอสตาริก้า ก่อนไปลุ้นผลอีกคู่เพื่อเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี อินทรีเหล็ก จะชนะคอสตาริก้า ก่อนไปลุ้นผลอีกคู่เพื่อเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม อี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

คอสตาริก้า – เยอรมนี ถ่ายทอดทาง Thairath TV/ True Sport 2

คอสตาริก้า ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

คอสตาริก้ามาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟชนะนิว ซีแลนด์ (ภาพ: www.concacaf.com)

สถานการณ์ของคอสตาริก้าและเยอรมนี

เป็นทีมที่ออกสตาร์ตในฟุตบอลโลกหนนี้ได้ย่ำแย่ที่สุด เมื่อแพ้ถึง 7 ประตู จนใคร ๆ กาชื่อว่าพวกเขาคงหมดสิทธิ์ไปต่อ และน่าจะกลายเป็นของหวานให้ทีมที่เหลือในกลุ่ม แต่ไป ๆ มาๆ คอสตาริก้ายังมีลุ้นในกลุ่มแห่งความตายจนถึงนัดสุดท้าย เมื่อสลัดความล้มเหลวในเกมแรกทิ้ง และเอาชนะญี่ปุ่นหด้ในเกมนัดที่สอง เมื่อเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับรอเวลาอย่างอดทน จนถึงในที่สุดก็ทำประตูชัยได้จาก คีย์เชอร์ ฟูลเลอร์ ที่ทำให้พวกเขายังมีลมหายใจมาถึงตอนนี้ แถมยังไม่ใช่ทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

เรื่องดี ๆ สำหรับคอสตาริก้าในนัดนี้ก็คือ ถ้าชนะพวกเขาจะได้เข้ารอบ แล้วจะหรูหราหมาเห่ายิ่งขึ้น หากญี่ปุ่นกับสเปนเสมอกัน เพราะพวกเขาจะได้เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มอีกต่างหาก แน่นอนว่าสถานการณ์ไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะคู่แข่งที่พวกเขาต้องเจอคือเยอรมนี

ในกรณีที่เสมอ คอสตาริก้าจะเข้ารอบถ้าญี่ปุ่นแพ้สเปน แต่ถ้าสเปนแพ้ ในทางทฤษฎี คอสตาริก้ายังมีโอกาสเข้ารอบ แต่สเปนต้องแพ้เกิน 13 ประตูขึ้นไป!!! เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าเป็นที่สอง แล้วถ้าคอสตาริก้าแพ้ หรือทั้งสองคู่จบด้วยการเสมอกัน ก็ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น ตีตั๋วกลับบ้านได้เลย

เยอรมนีดูเหมือนจะยังช็อคจากการเป็นแชมป์เก่า แล้วตกรอบแรกจากฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ที่ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงครั้งนี้ ที่เริ่มจากการพ่ายญี่ปุ่นแบบสุดช็อค ยังดีที่สามารถตีเสมอสเปนต่อลมหายใจได้มาถึงตอนนี้ ที่การจมอยู่อันดับท้ายสุดในกลุ่ม ทำให้โอกาสเข้ารอบของพวกเขามีไม่มากนัก และดูจะซับซ้อนกว่าอีก 3 ทีมที่เหลือ

โดยถ้าสเปนและเยอรมนีชนะทั้งคู่ พวกเขาจะกลายเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ถ้าเยอรมนีชนะและสเปนแพ้ อันดับ 2 พวกเขาจะต้องมาแย่งที่ 2 ของกลุ่มกัน ด้วยการนำสถิติต่าง ๆ มาวัด แต่นี่ยังไม่ซับซ้อนเท่ากับหากญี่ปุ่นกับสเปนเสมอกัน 0-0 แล้วเยอรมนีชนะพวกเขาจะได้เข้ารอบ ถ้าญี่ปุ่นกับสเปนเสมอกันแบบมีประตู อันดับ 2 ของกลุ่มจะถูกจัดด้วยการวัดสถิติต่าง ๆ แล้วถ้าเยอรมนีชนะ 2 ประตูขึ้นไป พวกเขาจะขึ้นที่ 2 ของกลุ่มและส่งญี่ปุ่นลงมาที่ 3 ทันที

เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

เยอรมันนี จะล้างอายจากฟุตบอลโลก 2018 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้หรือไม่ (ภาพ: thedailyguardian.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของคอสตาริก้าและเยอรมนี

คอสตาริก้าไม่น่าจะเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากนักในเกมนัดสุดท้าย ที่ยังต้องชิงการเข้ารอบ 16 ทีมของทุกทีมในสาย ยกเว้น ฟรานซิสโก้ คัลโว เซนเตอร์แบ็คคนเก่งจะไม่ได้ลงสนามเพราะติดโทษแบน แดเนียล ชาคอนดาวเตะวัย 21 ปี ที่เข้ามาเสริมแนวหลังของทีมได้เป็นอย่างดีในเกมเจอกับญี่ปุ่น อาจจะต้องนั่งข่างสนามก่อน เมื่อทีมน่าจะอยากได้ประสบการณ์ของตัวเก่า ฮวน พาโบล วาร์กาส ในการรับมือกับเยอรมนีมากกว่า

เจวิสัน เบนเน็ตต์ ดาวรุ่งจากซันเดอร์แลนด์ เป็นตัวสำรองในเกมเจอกับญี่ปุ่น แต่เมื่อเกอร์สัน ตอร์เรส และแอนโธนี่ คอนเตราส โชว์ฟอร์มไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ไอ้หนูวัย 18 ปีน่าจะได้รับโอกาส

เยอรมนี ฮันซี่ ฟลิคมีข่าวดีเมื่อได้เลรอย ซาเน่กลับมา และส่งลงเล่นเป็นตัวสำรอในเกมที่แล้วเรียบร้อย แต่เพราะเพิ่งหายจากอาการเจ็บเข่า ดาวเตะบาเยิร์น มิวนิกรายนี้น่าจะสตาร์ตด้วยการเป็นผู้เล่นสำรองก่อน ข่าวดีอีกอย่างของฝั่งเยอรมนีก็คือ ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่มีข่าวร้ายที่โค้ชส่วนใหญ่ชอบ นั่นก็คือ ไม่รู้จะเลือกใครเล่นเป็นศูนย์หน้า ระหว่างฟัลล์ครูก กับโธมัส มุลเลอร์

ถ้าซาเน่ได้ลงเล่น อิลกาย กุนโดกันจะลงเล่นต่ำลงมาอีก และทำให้ลีออน กอเร็ตซ์ก้าต้องไปอยู่ที่ม้านั่งสำรอง ส่วนตำแหน่งแบ็คขวา ลูคัส คลอสเตอร์มานน์ กับนิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค อาจต้องแย่งกันเพื่อลงเล่นแทนธิโล เคห์เรอร์

ทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลยูโร 2020

แม้จะเข้ารอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ แต่ก็จบแค่รอบนี้ ในยูโร 2020 ที่เยอรมนีต้องกู้ชื่อมาให้ได้ในฟุตบอลโลก 2020 (ภาพ: www.sportsadda.com)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของคอสตาริก้าและเยอรมนี

คอสตาริก้า ระบบ 5-4-1: นาวาส; ฟูลเลอร์, ดูอาร์เต้, วัตสัน, ชาคอน, โอวีโด้; ทอร์เรส, บอร์เกส, เทเจดา, แคมป์เบลล์; คอนเตราส
เยอรมนี ระบบ 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, ซูเล่, รือดิเกอร์, รอม; กุนโดกัน, คิมมิช; กนาร์บรี้, มูเซียล่า, ซาเน่; ฟัลล์ครูก

ผลการแข่งขันระหว่างคอสตาริก้าและเยอรมนี

แม้จะเล่นได้ดีขึ้นในนัดที่สอง โดยเฉพาะการประสานงานในเกมรับ แต่คอสตาริก้ายังคงมีปัญหาในเรื่องแนวรุก และการทำประตู ที่น่าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเยอรมนี ที่ฝ่ายหลังนอกจากจะได้ซาเน่กลับมา ยังได้ผู้เล่นที่น่าจะยืนหน้าเป้าได้แล้ว งานนี้อินทรีเหล็กเยอรมัน จะผ่านคอสตาริก้าได้ ส่วนจะได้เข้ารอบหรือไม่ ก็ต้องไปดูผลอีกสนาม

เยอรมนีชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร

2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
5. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?

สเปน กระทิงดุ จะเอาชนะซามูไรญี่ปุ่น เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

สเปน กระทิงดุ จะเอาชนะซามูไรญี่ปุ่น เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม อี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

ญี่ปุ่น – สเปน ถ่ายทอดทาง True4U/ CH7/ True Sport 2

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและสเปน

ญี่ปุ่นไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ในกลุ่มนี้ที่ถูกมองว่าจะผ่านเข้ารอบอย่างแน่นอน หลังผลจับสลากแบ่งสายออกมา โดยทีมอย่างสเปนและเยอรมนีคือสองตัวเก็ง แต่เมื่อพวกเขาคว่ำอินทรีเหล็กได้ในนัดแรก สายตาที่มองพวกเขาก็เปลี่ยนไป หากสถานการณ์มาพลิกผันในนัดที่ 2 เมื่อพวกเขาที่บดคอสตาริก้าอยู่นานกลับทำประตูไม่ได้ และถูกทีมซึ่งพ่ายยับในนัดแรกเอาชนะไปหวุดหวิดในช่วงท้ายเกม ทำให้ต้องมาลุ้นแบบเหนื่อยนักกว่าที่เคยในเกมสุดท้าย ที่ต้องเจอกับสเปน

3 แต้มในมือของทีมจากแดนอาทิตย์อุทัย มากพอจะทำให้อยู่ในอันดับ 2 ของกลุ่ม อี และถ้าชนะสเปนก็จะผ่านเข้ารอบแน่ ๆ และจะเป็นแชมป์กลุ่มเลยด้วยซ้ำ หากคอสตาริก้าไม่ชนะเยอรมนี แต่ถ้าญี่ปุ่นกับคอสตาริก้าชนะทั้งคู่ ก็ต้องมาดูสถิติอื่น ๆ ที่เริ่มจากประตูได้เสีย ซึ่งทีมซามูไรเหนือกว่าบานเบอะ เมื่อคอสตาริก้าพ่ายสเปนยับ ทำให้ไม่ต้องไปดูกันต่อถึงผลในการเจอกัน

หากญี่ปุ่นเสมอกับสเปน ก็ต้องลุ้นให้คอสตาริก้าเสมอกับเยอรมนีด้วย เพื่อดึงมาเทียบสถิติต่าง ๆ กัน แต่ถ้าญี่ปุ่นเสมอและคอสตาริก้าชนะ คอสตาริก้ากับสเปนจะได้ผ่านเข้ารอบ

ในกรณีที่ญี่ปุ่นเสมอและเยอรมนีชนะแค่ประตูเดียว ทั้งกลุ่มต้องมาวัดกันด้วยลูกได้เสีย ที่จะทำให้ญี่ปุ่นเข้ารอบด้วยการเป็นที่ 2 และหากพวกเขาแพ้สเปน ไม่ต้องคิดอะไรต่อเลย เพราะจะตกรอบทันที

มาดูฝั่งสเปนที่เปิดตัวแบบสุดหรูด้วยชัยชนะ 7-0 โดยเล่นแบบไม่มีหน้าเป้า ทำให้ทีมมีประตูได้มหาศาล ก่อนที่จะมาเสมอเยอรมนีแบบสนุกในนัดที่สอง มีแต้มเก็บในมือ 4 คะแนน ทำให้อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบสำหรับการเข้ารอบ เพราะขอแค่เสมอญี่ปุ่น กระทิงดุก็จะได้อาละวาดในรอบต่อไป และถ้าชนะก็จะกลายเป็นแชมป์กลุ่ม หรือต่อให้เสมอก็ยังเข้าเป็นที่ 1 ได้ หากคอสตาริก้าไม่ชนะ

ในกรณีที่เกิดแพ้ขึ้นมา แล้วคอสตาริก้ากับเยอรมนีเสมอกัน สเปนจะเป็นที่ 2 ของกลุ่มถ้าแพ้ญี่ปุ่นเกิน 13 ประตู!!! แต่ถ้าสเปนแพ้ และคอสตาริก้าชนะ สเปนจะตกรอบ แล้วหากเป็นเยอรมนีชนะ สองทีมจากยุโรปจะมาจัดอันดับกันจากสถิติต่าง ๆ ซึ่งด้วยประตูได้มโหฬาร สเปนน่าจะกลายเป็นที่ 1 ในกลุ่ม

สเปน ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

กระทิงดุ สเปน จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและสเปน

โค้ช โมริยาสุของญี่ปุ่น มีการปรับระบบระหว่างเกม มาเล่นเซนเตอร์แบ็คสามคนในครึ่งหลังของทั้งสองเกมแรก ขณะที่สองกองหลัง ฮิโรกิ ซากาอิกับทาเคฮิโร โทมิยาสุ ต้องนั่งดูเกมข้างสนามในนัดที่แพ้คอสตาริก้า เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อโคนขา และยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้ไหมในเกมนี้ วาตารุ เอนโดะก็ไม่ได้ลงซ้อมกับทีม เนื่องจากเจ็บเข่า โดย อาโอะ ทานากะกับกากุ ชิบาซากิ คนใดคนหนึ่งจะได้เล่นแทนเอนโดะในตำแหน่งกองกลาง ส่วนริตสุ โดอันกับทาคูมะ อาซาโนะผู้ทำประตูได้ในเกมกับเยอรมนี น่าจะได้เล่นตามกราบ แม้ทาเคฟุซะ คูโบะ จากเรอัล โซซิดัดพร้อมลงเล่นแล้วก็ตาม ส่วนไดอิชิ คามาดะผู้เล่นของไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต น่าจะได้เล่นในตำแหน่งหมาย 10 สนับสนุนตัวรุกอบ่างไดเซ็น มาเอดะ หรืออายาเซะ อูเอดะ

ขณะที่กัปตันทีม มายะ โยชิดะ ถ้าลงเล่นจะเป็นเกมทีมชาตินัดที่ 125 เป็นหนึ่ง 4 นักเตะที่เล่นให้ทีมชาติมากที่สุด ร่วมกับมิกิ ยามาเนะ, โก อิตากูระ และยูโตะ นากาโตโมะ ที่รายหลังลงเล่นถึง 140 นัด

ในเกมเสมอเยอรมนี ลุยส์ เอ็นริเก้มีผู้เล่นให้ใช้งานครบ 26 คน และไม่มีรายงานผู้เล่นได้รับบาดเจ็บออกมาจากแคมป์กระทิงดุ โดยอัลวาโร โมราต้า ที่ถูกเปลี่ยนไปเล่นในครึ่งหลังสามารถทำประตูได้ทั้ง 2 นัด เป็นไปได้ว่าวันนี้เขาจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ ร่วมกับแฟร์ราน ตอร์เรส และดานี่ โอลโม่ โดยมาร์โก้ อะเซนซิโอ คงต้องนั่งสำรองต่อ

ส่วนกาบี้ห้องเครื่องวัย 18 ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้ง 2 นัด อาจจะได้พัก หลังมีข่าวว่าไม่ได้ลงซ้อมกับทีม เพราะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย โดยโกเก้ที่ลงแทนดาวรุ่งรายนี้ในครึ่งหลังของเกมกับเยอรมนีทำหน้าที่แทน

กัปตันทีมเซอร์จิโอ บุสเก็ตส์ ที่ติดใบเหลืองอยู่ ก็น่าจะได้พัก ทำให้คาร์ลอส โซแลร์ และมาร์คอส ยอเรนเต้ ต้องแย่งตำแหน่งกัน ซึ่งจะกลายเป็นเกมแรกในกาตาร์ของทั้งคู่ ไม่ว่าใครจะได้ลงเล่น แต่ก็เป็นไปได้ว่า เอ็นริเก้จะขยับโรดรี้จากเซนเตอร์แบ็คขึ้นมาแทนบุสเก็ตส์ และเปาตอร์เรสหรืออีริก การ์เซียจะเล่นเซนเตอร์แบ็คคู่กับอายเมริก ลาปอร์ตแทน

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของญี่ปุ่นและสเปน

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; อิตากูระ, โยชิดะ, ฮิโรกิ อิโตะ; ยามาเนะ, โดอัน, ทานากะ, นากาโตโมะ; จุนยะ อิโตะ, อาซาโนะ, คามาดะ
สเปน ระบบ 4-3-3: ซิมอน; คาร์บาฆาล, เปาตอร์เรส, ลาปอร์ต, อัลบา; เปดรี้, โรดรี้, โกเก้; แฟร์ราน ตอร์เรส, โมราต้า, โอลโม่

ผลการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นและสเปน

ผลลัพธ์และฟอร์มการเล่นของญี่ปุ่นในฟุตบอลโลก 2022 พลิกผัน แตกต่างกันอย่างชัดเจนใน 2 นัดที่ผ่านมา และกับคู่แข่งที่แกร่งที่สุดในกลุ่ม ก็คาดเดาได้ยากว่า ญี่ปุ่นจะทำได้ขนาดไหน แม้พวกเขาจะเป็นทีมที่ใช้ความเร็วจัดการกับทีมที่เน้นครองบอลได้ดี และน่าจะเล่นได้ดีกว่าหากตกเป็นรอง แต่ทีมของเอ็นริเก้ก็มีผู้เล่นจอมเทคนิค ที่พาตัวเองพ้นจากสถานการณ์คับขันได้มากมาย และน่าจะทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้ในนัดนี้

สเปนชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
5. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?