เรื่อง

ซามูไร ญี่ปุ่น จะไม่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอความเก๋าของทีมตราหมากรุก

ซามูไร ญี่ปุ่น จะไม่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอความเก๋าของทีมตราหมากรุก

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม ญี่ปุ่น – โครเอเชีย

วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง True4U/ True Sport

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ไม่ว่าฟุตบอลโลกหนนี้จะจบลงยังไง แต่ญี่ปุ่นก็คือทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์มากที่สุดของรายการ ทีมของโค้ชฮาจิเมะ โมริยาสุ รอดจากกลุ่มแห่งความตายมาได้ โดยเอาชนะอดีตสองแชมป์โลก เยอรมนี สเปน แถมยังเป็นที่ 1 ในกลุ่ม ขณะที่รองแชมป์หนที่แล้ว เข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม เอฟ ที่โมร็อกโกเป็นแชมป์กลุ่มในแบบสุดเซอร์ไพรส์ ด้วยการชนะแคนาดา เสมอโมร็อกโกและเบลเยี่ยมในนัดสุดท้าย ที่เกือบจะไปอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะหลังโรเมลู ลูกากูถูกส่งลงสนาม แต่พลาดการทำประตูในระยะที่ต้องได้ถึง 3-4 ครั้ง

การผ่านรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันของทีมซามูไร ต้องขอบคุณการแก้เกมในครึ่งหลังของโมริยาสุในสองเกมสำคัญ ที่ตามหลังคู่แข่ง อย่าง เยอรมนีและสเปน 1-0 แล้วพลิกกลับมาชนะได้ ซึ่งถ้าทำได้ขนาดนี้ คงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า ถ้าพวกเขาไม่ผ่านเข้ารอบ ที่น่าสนใจก็คือ หากญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้อีก จะเกิดการเจอกันหนแรกในฟุตบอลโลกของทีมจากเอเชีย โดยทีมจากแดนกิมจิต้องเจอกับบราซิล เต็งหนึ่งของรายการ ซึ่งญี่ปุ่นแม้จะเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็หลายครั้ง ยังไม่เคยไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเลย

โครเอเชียเองหวิดจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าลูกากูใช้โอกาสที่มีสำเร็จแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อทำไม่ได้ทีมตราหมากรุกคือทีมที่ได้ไปต่อ ซึ่งต้องให้เครดิตกับ 4 ประตูที่พวกเขาทำได้ในเกมกับแคนาดา รวมถึงแนวรับที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี เสียไปแค่ประตูเดียวและยังไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะจอสโก้ กวาร์ดิโอล จากอาร์เบ ไลป์ซิก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมยอด จนทีมของซลัตโก้ ดาลิก ผ่านเข้ารอบมาเจอกับทีมที่เล่นสวนกลับอย่างเยี่ยมยอด เช่น ญี่ปุ่น

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

เช็กสถิติของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ทั้งสองทีมเจอกันรวมทั้งหมด 3 ครั้ง และ 2 ครั้งเป็นเกมฟุตบอลโลก ทั้งคู่เจอกันหนแรกในปี 1997 เป็นศึกกิริน เจแพน คัพ ซึ่งญี่ปุ่นเอาชนะไป 4-3 ก่อนจะมาเจอกันในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งดาวอร์ ซูเคอร์ยิงประตูโทนให้ทีมตราหมากรุกชนะ ก่อนจะคว้าที่ 3 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หนต่อมา เป็นฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เสมอกันไป 0-0 โดยนักเตะโครแอตชุดนั้นก็มี ดาริโอ แซร์น่า ส่วนลูก้า โมดริซเป็นตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมา ญี่ปุ่นเป็นยุคของชุนซูเกะ นากามูระและฮิเดโตชิ นากาตะ

ส่วนห้าเกมหลังของทั้งคู่ ญี่ปุ่นชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1 (DLWLW) ส่วนโครเอเชีย ชนะ 3 เสมอ (WWDWD)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและโครเอเชีย
ฮิโรกิ ซากาอิ และทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาแต่น่าจะไม่รุนแรง เมื่อต่างก็เป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว โดยโทมิยาสุที่ลงเล่นครึ่งหลังและโชว์ฟอร์มได้ดี น่าจะได้ลงแทนโก อิตากูระ เซนเตอร์แบ็คตัวหลักถูกแบน ขณะที่ซากาอิก็ลงซ้อมได้แล้ว แต่ทาเกฟูซะ คูโบะ ยังมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ ไม่แน่ว่าจะลงเป็นตัวจริงได้หรือเปล่า วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางจากสตุ๊ตการ์ต จัดการเรื่องสภาพความฟิตได้แล้ว และเป็นตัวสำรองในเกมเจอสเปน น่าจะมีโอกาสลงเล่นเกมนี้

นี่ไม่ใช่หนแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่โมริยาสุมีปัญหากับการเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดในแนวรุก โดอันที่ทำได้ดีน่าจะได้เล่นแทนคูโบะ ส่วนมิโตมะก็เล่นได้ดีพอจะเสียบแทนไดอิชิ คามาดะ ที่สำคัญ 3จาก 4 ประตูของญี่ปุ่นในฟุตบอลโลกหนนี้มาจากผู้เล่นสำรอง เพราะฉะนั้นใครที่ถูกเก็บเอาไว้ก่อน ย่อมมีความสำคัญไม่แพ้บรรดานักเตะตัวจริง

ดาลิกโค้ชโครเอเชีย ออกมาบอกแล้วว่า จะเลือกผู้เล่นโดยเน้นที่ความฟิตเป็นหลัก สองผู้เล่นคนสำคัญของทีม ลูก้า โมดริชและเดยาน ลอฟเรนติดเหลืองคาดโทษอยู่ หากได้รับอีกใบจะพลาดลงเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะเป็นหน้าเดิม ๆ หากเปลี่ยนแปลงก็คงเป็นในแดนหน้าเพียงไม่กี่ตำแหน่ง อันเดรจ ครามาริชกับมาร์โก้ ลิวายา ทำอะไรไม่ได้เลยในเกมกับเบลเยี่ยม และดาลิกก็มีผู้เล่นแนวรุกให้เลือกเพียบ อย่าง บรูโน่ เพ็ตโควิก, มิสเลฟ ออร์ซิก, นิโกล่า วลาซิช และมาริโอ พาซาลิช

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; โทมิยาสุ, โยชิดะ, ฮิโรกิ อิโตะ; จุนยะ อิโตะ, เอ็นโดะ, ทานากะ, นากาโตโมะ; โดอัน, อาซาโนะ, คามาดะ
โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิช; จูราโนวิช, ลอฟเรน, กวาร์ดิโอล, โซซ่า; โมดริช, โบรโซวิช, โควาซิช; ครามาริช, ลิวาย่า, เปริซิช

ผลการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ญี่ปุ่นสร้างเหตุการณ์ช็อคโลกด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม อี ที่มีสเปนกับเยอรมนีเป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม โดยมีจุดเด่นในแนวรับที่จัดระเบียบกันเป็นอย่างดี บวกกับการเล่นโต้กลับอย่างได้ผล มีผู้เล่นสำรองที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ซึ่งคงไม่มีใครพูดอีกแล้วว่า เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผ่านรอบนี้ แต่ในขณะเดียวกันโครเอเชียก็เป็นทีมที่แนวรับแน่น ลึก กองกลางก็มีคุณภาพไม่แพ้สเปน แต่ไม่เล่นบอลมากจังหวะเท่า จะว่าไปแล้วรูปแบบในเกมรุกของพวกเขาคล้าย ๆ กับญี่ปุ่นด้วยซ้ำ กับการฉวยโอกาสเล่นโต้กลับอย่างรวดเร็ว

ด้วยรูปแบบการเล่น เป็นไปได้ว่าเกมนี้ จะยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ ที่หากไปถึงตรงนั้น โครเอเชียน่าจะหยุดทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยได้สำเร็จ แต่ถ้าให้ตัดสินใจว่า ใครที่จะชนะในเกม โครเอเชียอาจจะดูเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าพวกเขาชวนญี่ปุ่นเล่นเกมอดทน เชื้อเชิญให้บุกเข้ามาแต่ทำอะไรไม่ได้ เช่นที่คอสตาริก้าทำ รองแชมป์เก่าอาจจะชนะในสกอร์ 2-1 หรือ 1-0

เรื่องน่าอ่าน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก
ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย
จันทร์ 5 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 3 นัด
กิริน คัพ 1997 ญี่ปุ่น ชนะ 4-3
ฟุตบอลโลก 1998 โครเอเชีย ชนะ 1-0
ฟุตบอลโลก 2006 เสมอ 0-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ คอสตาริกา 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ สเปน 2-1

โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 4-1
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เบลเยียม 0-0

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
ญี่ปุ่น : มหาเซอร์ไพรส์ประจำฟุตบอลโลก 2022 พลิกสยบ เยอรมนี 2-1 ตั้งแต่เกมแรก ต่อมาแม้จะเจอความพลิกล็อกเล่นงานเองบ้างด้วยการแพ้ คอสตาริกา 0-1 แต่ก็ยังมาพลิกยิงแซงชนะ สเปน ในเกมที่บังคับต้องชนะอีก 2-1 จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มอีอย่างงดงาม
โครเอเชีย : โชว์ความหลังเหนียวด้วยการไม่เสียประตูทั้งเกมกับ โมร็อกโก และ เบลเยียม โดยเฉพาะนัดหลังที่เป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ไม่พลาดท่าเสียที แม้ส่วนหนึ่งอาจต้องชี้ว่า เบลเยียม ไม่คมเองด้วยก็ตาม จน โครเอเชีย เข้ารอบมาด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอฟ

 

ความพร้อมก่อนเตะ
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

จากนั้นเกมถัดมา แม้จะบุกใส่แทบพับสนาม แต่กลับพลิกแพ้ คอสตาริกา 0-1 ส่งผลให้บังคับชนะ สเปน เพื่อเข้ารอบ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้จริงๆ แซงชนะ 2-1 จนผงาดยึดแชมป์กลุ่มทันที

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอาไว้ตั้งแต่แรก และขอชนะอีกนัดก็จะไปได้ถึงที่วางไว้ ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่น ก็ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมแต่อย่างใด

 

สภาพทีมของ โมริยาสุ เกมนี้ มีปัญหาที่ โค อิตาคุระ เซนเตอร์แบ็กตัวจริง ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบ ทำให้ต้องปรับส่งตัวเลือกอื่นลงแทน

 

ยังเชื่อว่า โมริยาสุ จะปรับระบบไปด้วยเลย ใช้เป็น 3-4-3 เน้นเกมรับเหนียวแน่นไว้ก่อน อัด 3 เซนเตอร์ลงไปอย่าง มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ และ โชโง ทานิงูจิ ขณะที่เกมรุกให้ ไดอิจิ คามาดะ กับ ทาเคฟุสะ คุโบะ คอยช่วยงานหอกเป้า ไดเซน มาเอดะ

 

โครเอเชีย
ชนะติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0 ก่อนเร่งเครื่องกราดยิง แคนาดา 4-1 แล้วก็กลับไปหนืดอีกครั้ง เสมอ เบลเยียม 0-0

 

เพียงแต่ผลเสมอ เบลเยียม ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังมาจากบ้าน เมื่อเป็นแต้มที่ทำให้ได้เข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง ถัดจากหนก่อนที่ไปไกลถึงรองแชมป์โลกทีเดียว

 

ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือตาหมากรุก ไม่มีปัญหาสภาพทีม สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดได้ เมื่อ อีวาน เปริซิช จอมเก๋าจากสเปอร์ส ฟิตพร้อมลงสนามได้ตามปกติ

 

ระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าใช้ อีวาน เปริซิช เดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ มาร์โก ลิวาย่า

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ริตสึ โดอัน
ไม่ธรรมดา…ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ กับฟอร์มของ ริตสึ โดอัน มิดฟิลด์ตัวโจ๊กเกอร์วัย 24 จาก ไฟรบวร์ก ที่ลงสำรองไปพังประตูใส่ทั้ง เยอรมนี และ สเปน ได้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจบสกอร์และการหาตำแหน่งชั้นยอด โดยสองเม็ดล่าสุดทำให้ โดอัน สะสมสกอร์ในนามทีมชาติไปแล้ว 5 ลูกจาก 32 เกม ขณะที่ในสโมสร ก็ยิงให้ ไฟรบวร์ก ไปแล้ว 4 ประตูจาก 22 นัดซีซั่นนี้

 

โครเอเชีย : อันเดรจ์ ครามาริช
เคยเป็นหัวหอกผู้แพ้ ส่วนเกินของ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างชื่อกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมถึงในทีมชาติ โดยถึงตรงนี้เล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาเป็นซีซั่นที่ 8 แล้ว ยิงทะลุหลักร้อยประตูแล้วเช่นกัน (106) ขณะที่ก็ยิง 22 ประตูให้กับทัพตาหมากรุก รวมถึง 2 เม็ดในเกมปราบ แคนาดา ด้วย โดยแม้จะไม่โหดดุครบเครื่องเหมือน ดาวอร์ ซูเคอร์ แต่ก็เป็นคนที่กองหลังไม่อาจประมาทได้เหมือนกัน

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (3-4-3, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ, โชโง ทานิงูจิ – ยูโตะ นางาโตโมะ, วาตารุ เอ็นโดะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, จุนยะ อิโตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, ไดเซน มาเอดะ
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, มาร์โก ลิวาย่า

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 3 ครั้ง เป็นอุ่นเครื่อง 1 และฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2
• บอลโลก 1998 พบกันในรอบแรก โครเอเชีย เบียด 1-0 ดาวอร์ ซูเคอร์ ซัดโทน
• บอลโลก 2006 เจอรอบแรกเช่นกัน คราวนี้ไข่ไม่แตก เสมอ 0-0
• ญี่ปุ่น เข้ารอบ 16 ทีมสลับกับตกรอบแรกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1998 แต่ไม่เคยไปไกลกว่านี้
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู ส่วน ทาคุมะ อาซาโนะ 8 ลูก, ไดเซน มาเดะ 1, ทาเคฟุสะ คุโบะ 1, อายาเสะ อุเอดะ 0
• อีวาน เปริซิช กดแล้ว 32 ประตูในทีมชาติ ส่วน ลูก้า โมดริช 23 และ อันเดรจ์ ครามาริช 22

 

ความน่าจะเป็น
ไม่อาจมองข้ามได้แล้วสำหรับ ญี่ปุ่น ที่ชนะ 2 ทีมหัวแถวยุโรปมาได้ทั้ง เยอรมนี และ สเปน และพวกเขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งนั้นแล้วด้วย แค่ต้องเล่นอย่างมีวินัย รัดกุม และใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งการเจอ โครเอเชีย ที่เกมรุกไม่ได้ดุดัน แต่มีดีตรงแดนกลางนั้นทำให้เกมอาจออกรูปอึดอัด จนมีโอกาสสูงที่จะยืดเยื้อถึงต่อเวลา ถึงตอนนั้นก็ต้องพึ่งโชคดวงกันแล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายได้ไปต่อ

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1 ใน 90 นาที

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า วัดกับเบลเยี่ยม อันดับ 3 ฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ใครจะเข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า วัดกับเบลเยี่ยม อันดับ 3 ฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ใครจะเข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม เอฟ วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 22:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

โครเอเชีย – เบลเยี่ยม ถ่ายทอดทาง True4U/ 9MCOT/ True Sport 2

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

สถานการณ์ของโครเอเชียและเบลเยี่ยม

ทีมรองแชมป์และทีมอันดับ 3 จากฟุตบอลโลก 2018 ต้องมาวัดกันว่า ใครจะได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมของฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ที่ในกลุ่มแคนาดาตกรอบไปแล้วเรียบร้อย

นัดแรกของกลุ่ม โครเอเชียเจอลูกตื้อของโมร็อกโกเล่นงานจนต้องแบ่งแต้มกันไป มาถึงนัดที่ 2 พวกเขาก็ได้เวลาระเบิดความอัดอั้น แม้จะโดนนำไปก่อน แต่พอตั้งเกมได้ก็จัดการแคนาดาทีมละอ่อนในรอบสุดท้ายไป 4-1 ด้วย 4 แต้มในมือทำให้ทีมตราหมากรุกขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม และขอแค่เสมอก็จะผ่านเข้ารอบ แต่ถ้าแพ้ขึ้นมา ทีมของสลัตโก้ ดาลิกก็ต้องลุ้นให้แคนาดาชนะโมร็อกโก แล้วค่อยมานับลูกได้-เสีย เช่นเดียวกับถ้าโครเอเชียและโมร็อกโกชนะด้วยกันทั้งคู่ แต่เพื่อหาที่ 1 ของกลุ่ม

ฝั่งเบลเยี่ยมกันบ้าง พวกเขามากาตาร์ด้วยทีมที่อ่อนลงแต่คงไม่มีใครคิดว่าจะเป็นอย่างที่เห็น นัดแรกใคร ๆ ต่างบอกว่าปีศาจแดงแห่งยุโรปโชคดีมากที่เอาชนะแคนาดาได้ ก่อนจะโดนโมร็อกโกอัดในนัดต่อมา และส่งให้โอกาสเข้ารอบต้องมาวัดในนัดนี้ ที่เพื่อความแน่นอนพวกเขาต้องชนะไว้ก่อน หากเสมอก็ต้องให้แคนาดาชนะโมร็อกโก 4 ประตูขึ้นไป แล้วถ้าอยากเป็นแชมป์กลุ่ม เบลเยี่ยมต้องชนะโครเอเชียก่อน ส่วนอีกคู่โมร็อกโกเอาชนะแคนาดาไม่ได้

เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ทีมยุคทองของเบลเยี่ยม อาจจะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเองหนสุดท้าย (ภาพ: Twitter @BelRedDevils)

สถานการณ์ผู้เล่นของโครเอเชียและเบลเยี่ยม

นิโคลา วลาซิซที่เป็นตัวจริงในนัดแรก ก่อนโดนเปลี่ยนออกเพราะเจ็บน่องในครึ่งหลัง กลับมานั่งสำรองได้ตั้งแต่เกมชนะแคนาดาแล้ว แต่เมื่อตัวแทนของเขามาร์โก ลิวาจา ยิงประตูได้และโชว์ฟอร์มได้ดี วลาซิซอาจต้องรอโอกาสที่ม้านั่งสำรองต่อ การมาถึงของลิวาจายังเบียดแอนเดรจ ครามาริกไปเป็นปีกขวา แต่กลับเป็นเรื่องดีเมื่อเขาทำได้ 2 ประตูจากตำแหน่งนี้ โดยดาลิก โค้ชของโครเอเชียคงเปลี่ยนแปลงผู้เล่นไม่มากนัก และน่าจะยึดทีมชุดถล่มแคนาดาเป็นหลัก เพราะฉะนั้นในแนวรุก ลิวาจาจะยังเป็นหน้าเป้า ขวา-ซ้ายเป็นครามาริซและอิวาน เปริซิซ

กัปตันทีมวัย 37 ปี ลูก้า โมดริซ แม้จะมีใบเหลืองติดตัว สุ่มเสี่ยงต่อการโดนแบนในนัดต่อไปหากได้เข้ารอบ ยังได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในแผงกลางร่วมกับมาเตโอ โควาซิซและมาร์เซโล บรอโซวิซ

ในแนวรับ เดยาน ลอฟเรนกับจอสโก้ กวาร์ดิออล จะยืนคู่กันในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค และโจซิป จูราโนวิซกับบอร์นา โซซ่า น่าจะถูกเลือกเป็นฟูลล์แบ็คก่อน โจซิป สตาซินิซกับบอร์นา บาริซิซตามลำดับ

ฝั่งเบลเยี่ยม โรเบอร์โต้ มาร์ติเนซ ถูกบีบให้เปลี่ยนผู้เล่นอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง เมื่ออามาดู โอนาน่า ผู้เล่นกองกลางถูกแบน โดยยูรี ตีเลอมองส์ น่าจะลงเล่นร่วมกับแอ็กเซิล วิตเซลแทน โรเมลู ลูกากูที่เจ็บกล้ามเนื้อโคนขา จนไม่ได้ลงสนามมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมกับโมร็อกโก และน่าจะยังไม่ฟิตพอลงเจอโครเอเชียได้ตั้งแต่ต้นเกม ทำให้มิชี่ บัตชูอายี่ยังคงเป็นตัวเลือกแรก ส่วนเดอ บรอยน์กับเอเด็น อาซาร์ดจะได้เป็น 11 ตัวแรก แม้จะเล่นตกลงไปในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ในแนวรับทิโมธี คาสตาญจน์ จะยังได้เล่นร่วมกับ 2 จอมเก๋าโทบี้ อัลเคอร์ไวเรลด์และแยน แฟร์ตองเก้น ผู้รักษาประตูยังเป็นติโบ คูร์ตัวส์ ซึ่งจะลงเล่นทีมชาตินัดที่ร้อยในเกมนี้

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า วัดกับเบลเยี่ยม อันดับ 3 ฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ใครจะเข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริช ดาวเตะที่ดีที่สุดของโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของโครเอเชียและเบลเยี่ยม

โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิซ; จูราโนวิซ, ลอฟเรน, กวาร์ดิโอล, โซซ่า; โมดริซ, บรอโซวิซ, โควาซิซ; ครามาริซ, ลิวาจา, เปริซิซ
เบลเยี่ยม ระบบ 3-4-2-1: คูร์ตัวส์; อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเก้น, คาสตาญจน์; มูนิเยร์, ตีเลอมองส์, วิตเซล, ทรอสซาร์ด; เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์ด; บัตชูอายี่

เอเด็น อาซาร์ เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

กลายเป็นนักเตะตัวรองของสโมสรไปแล้ว ซึ่งผิดจากทีมชาติ และเช็คความเยี่ยมยอดของอาซาร์ได้ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AFP)

ผลการแข่งขันระหว่างโครเอเชียและเบลเยี่ยม

ขณะที่โครเอเชียขอแค่เสมอเพื่อเข้ารอบ เบลเยี่ยมที่มีผู้เล่นในเกมแพ้ฝรั่งเศส ในรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2018 ติดทีมมาถึง 10 คน ต้องการชัยชนะสถานเดียว ทำให้ความกดดันตกไปอยู่กับอันดับ 3 ของฟุตบอลโลกหนก่อน เมื่อดูจากรายชื่อผู้เล่น เบลเยี่ยมเต็มไปด้วยสตาร์ดัง ที่สามารถสร้างความแตกต่างขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสำคัญ แต่โครเอเชียก็แข็งแกร่งกว่าในเรื่องของทีมเวิร์ก และแสดงให้เห็นมาแล้วจากสองนัดที่ผ่านมา ขณะที่พลังสตาร์ของเบลเยี่ยมยังเก็บเงียบ

และทำให้โครเอเชียน่าจะเก็บชัยชนะ ผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ในกลุ่มสำเร็จ ด้วยสกอร์ 

เรื่องน่าอ่าน
1. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร

2. กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา
3. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
5. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?

โครเอเชีย vs เบลเยียม : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย vs เบลเยียม : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย : โครเอเชีย vs เบลเยียม
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

เบลเยียม
แชมป์กลุ่มอี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 25 เสีย 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 4-1

เบลเยียม
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1
อุ่นเครื่อง แพ้ อียิปต์ 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ โมร็อกโก 0-2

 

ผลการพบกัน : 8 นัด
โครเอเชีย ชนะ 3
เสมอ 2
เบลเยียม ชนะ 3

 

ตารางคะแนนกลุ่มเอฟ หลังผ่าน 2 นัด
1. โครเอเชีย คะแนน 4 ผลต่างประตู +3
2. โมร็อกโก คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
3. เบลเยียม คะแนน 3 ผลต่างประตู -1
4. แคนาดา คะแนน 0 ผลต่างประตู -4 (ตกรอบแล้ว)

 

สภาพทีม
โครเอเชีย
ชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0 ก่อนเร่งเครื่องกราดยิง แคนาดา 4-1

 

สองนัด 4 แต้มนำจ่าฝูงของกลุ่ม หมายถึงว่า โครเอเชีย ขอแค่เสมอเกมนี้เป็นพอ หรือกระทั่งแพ้ก็ยังมีสิทธิ์เข้า หากว่าอีกคู่ โมร็อกโก พลิกแพ้ แคนาดา ขึ้นมา

 

ซลัตโก้ ดาลิช มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มเติมเล็กๆ กับราย อีวาน เปริซิช จอมเก๋าจากสเปอร์ส เจ็บจนต้องเปลี่ยนออกนัดก่อน เกมนี้ถ้าไม่ไหวจะเป็น มิสลาฟ ออร์ซิช เล่นแทนในตำแหน่งปีกซ้าย

 

คาดว่าระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าใช้ มิสลาฟ ออร์ซิช เดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ นิโกล่า วลาซิช

 

เบลเยียม
ผ่านเข้ารอบแบบไร้พ่ายจากรอบคัดเลือกโซนยุโรป และเกมแรกก็เบียดชนะ แคนาดา 1-0 แต่ถัดมาเล่นผิดฟอร์มจนแพ้ โมร็อกโก 0-2

 

ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 แต้ม ปีศาจแดงแห่งยุโรปจึงตกที่นั่งลำบากทันที ผลเสมอเกมนี้อาจไม่เพียงพอ เมื่อ โมร็อกโก (4 แต้ม) จะเจอกับทีมตกรอบไปแล้วอย่าง แคนาดา ดังนั้น เบลเยียม ต้องเอาชนะเกมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อจะไม่ต้องสนผลอีกคู่

 

ประเด็นสำคัญคือ ภายในแคมป์เบลเยียมดูเหมือนจะมีรอยร้าว ต่อกรณีที่ เควิน เดอ บรอยน์ ไปให้สัมภาษณ์ว่าทีมตนไม่มีลุ้นแชมป์โลกเนื่องจากนักเตะแก่ๆ กันแล้ว ต่อมา ยาน แฟร์ตองเก้น ก็เอ่ยหลังเกมแพ้ โมร็อกโก แบบเหน็บแนมว่าที่ทีมยิงไม่ได้ เพราะเกมรุกแก่เกินไป ก่อนจะมีรายงานว่า เดอ บรอยน์, แฟร์ตองเก้น จนถึง เอแด็น อาซาร์ ทะเลาะกันในแคมป์ หวิดจะจ้วงปากกันทีเดียว

 

ในส่วนความพร้อม โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ไม่อาจใช้งาน อมาดู โอนาน่า ที่สะสมครบ 2 ใบเหลือง ติดแบน 1 นัด แต่มีลุ้นจะได้ โรเมลู ลูกากู ดาวยิงเบอร์หนึ่งเจ้าของสถิติ 68 ประตูในนามทีมชาติ คืนตัวจริง หลังลงสำรองได้แล้วในเกมก่อน

 

หากว่า ลูกากู พร้อมรบ จะลงค้ำหน้าเป้าในระบบ 3-4-2-1 โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เอแด็น อาซาร์ เป็นตัวปั้นเกมสนับสนุน

 

ตัวความหวัง
โครเอเชีย : อันเดรจ์ ครามาริช
เคยเป็นหัวหอกผู้แพ้ ส่วนเกินของ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างชื่อกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมถึงในทีมชาติ โดยถึงตรงนี้เล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาเป็นซีซั่นที่ 8 แล้ว ยิงทะลุหลักร้อยประตูแล้วเช่นกัน (106) ขณะที่ก็ยิง 22 ประตูให้กับทัพตาหมากรุก รวมถึง 2 เม็ดในเกมปราบ แคนาดา ด้วย โดยแม้จะไม่ดุดันครบเครื่องเหมือน ดาวอร์ ซูเคอร์ แต่ก็เป็นคนที่กองหลังไม่อาจประมาทได้เหมือนกัน

 

เบลเยียม : เควิน เดอ บรอยน์
สร้างชื่อขึ้นเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก และมาตรฐานสูงๆ ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมในซีซั่นนี้ ที่ยิง 3 ประตู แอสซิสต์อีกถึง 13 กับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 19 นัด สำหรับในทีมชาติ (96 นัด 25 ประตู) เดอ บรอยน์ ก็ถือเป็นทีเด็ดทีขาดที่ทุกคู่แข่งต้องระวังอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การที่ เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์สื่อว่า เบลเยียม ชุดนี้ไม่ดีพอจะคว้าแชมป์โลก เนื่องจากสูงวัยกันเกินไป ก็น่าหวาดเสียวว่าจะเป็นจุดที่ทำให้กลุ่มนักเตะมองหน้ากันไม่ค่อยติด อย่างที่มีข่าวว่าเริ่มทะเลาะกันในแคมป์แล้ว

 

11 ตัวจริงที่คาด
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – มิสลาฟ ออร์ซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, นิโกล่า วลาซิช
เบลเยียม (3-4-2-1, กุนซือ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ) ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ยาน แฟร์ตองเก้น, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ทิโมธี คาสตันเย่ – เลอันโดร ทรอสซาร์, อักเซล วิตเซล, ยูรี่ ตีเลมันส์, โธมัส มูนิเยร์ – เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ – โรเมลู ลูกากู

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาทั้งหมด 8 ครั้ง ต่างฝ่ายต่างชนะได้ 3 หน
• แต่ เบลเยียม ไม่แพ้ โครเอเชีย มา 3 หนซ้อนแล้ว รวมเกมอุ่นเครื่องล่าสุดปีที่แล้ว ที่เฉือนชนะ 1-0 จากการยิงของ โรเมลู ลูกากู
• โครเอเชีย มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไป 8 คน ส่วน เบลเยียม มีอยู่ถึง 11 คน
• จากกลุ่มนักเตะทั้งสองทีม ลูก้า โมดริช อาวุโสสุดที่ 37 ปี
• โรเมลู ลูกากู เล่นให้ อินเตอร์ แค่ 5 นัดในครึ่งซีซั่นแรกที่่ผ่านมา และเล่นทีมชาติแค่ 2 เกมในรอบปี 2022

 

ความน่าจะเป็น
ถ้าวัดกันในหน้ากระดาษ เบลเยียม ไม่เป็นรอง หรือออกจะเหลื่อมๆ กว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่รูปทรงที่เป็นในฟุตบอลโลก 2022 และการที่เกิดคำถามเรื่องความเหนียวแน่นในทีมแล้ว ก็ทำให้นาทีนี้ เอียงข้าง โครเอเชีย เอาไว้สบายใจกว่า ว่าอย่างน้อยที่สุดก็คงไม่แพ้ ซึ่ง 1 แต้มก็เป็นสิ่งที่ โครเอเชีย พึงพอใจแล้วด้วย

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะแบ่งแต้มกับทีมพลังหนุ่ม วิ่ง-สู้-ฟัด แคนาดา ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอฟ

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะแบ่งแต้มกับทีมพลังหนุ่ม วิ่ง-สู้-ฟัด แคนาดา ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอฟ

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม เอฟ โครเอเชีย – แคนาดา

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: True4U/ Ch3/ True Sports 2

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

สถานการณ์ของโครเอเชียและแคนาดา

รองแชมป์เก่า โครเอเชีย ที่มากาตาร์ด้วยการใช้นักเตะรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่ผสมผสานกัน โดยมีลูก้า โมดริชเป็นแกนหลัก ภายใต้การคุมทีมของซลัตโก้ ดาลิก ออกตัวในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเสมอกับโมร็อกโก และทำให้พวกเขาต้องเก็บชัยชนะให้ได้ในนัดที่สองของทีมเพื่อโอกาสเข้ารอบ เมื่อเกมนัดสุดท้ายต้องไปเจอกับเบลเยี่ยม ทีมแกร่งจากยุโรป เจ้าของตำแหน่งอันดับสามของฟุตบอลโลกหนที่ผ่านมา โดยคู่ต่อสู้ที่พวกเขาต้องรับมือก็คือ แคนาดา ที่แสดงให้เห็นถึงพลังในตัวตั้งแต่นัดแรก เมื่อกดดันเบลเยี่ยมได้ตลอดทั้งเกม แต่ด้วยประสบการณ์ และความเขี้ยวของปีศาจแดงแห่งยุโรป ทำให้พวกเขาไม่สามารถเก็บแต้มได้แม้แต่คะแนนเดียว แม้จะกระหน่ำยิงเบลเยี่ยมไปถึง 22 ครั้ง แต่เรียกประตูไม่ได้เลย กระทั่งลูกจุดโทษอัลฟอนโซ เดวิส ก็ถูกติโบร์ คูร์ตัวส์ เซฟเอาไว้ได้

และหากแคนาดาเก็บแต้มไม่ได้ในนัดนี้ นัดสุดท้ายที่พวกเขาจะเจอกับโมร็อกโกคือ นัดเก็บประสบการณ์ ก่อนจะได้เป็นเจ้าภาพร่วมในอีก 4 ปีข้างหน้า

แคนาดา ฟุตบอลโลก 2022

เจ้าภาพฟุตบอลโลกหนต่อไป จะสร้างชื่อให้โลกรับรู้ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 เลยหรือไม่ (ภาพ: Canada Soccer / Martin Bazyl)

สถานการณ์ผู้เล่นของโครเอเชียและแคนาดา

ดาลิกอาจจะไม่มีนิโคล่า วลาซิก ที่มีอาการเจ็บน่องจากเกมกับโมร็อกโก แต่คู่หูในกองหน้ามาร์โก ลิวาจา ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนทำให้พลาดเกมไปหลายนัดในระดับสโมสร ที่ลงเล่นในครึ่งหลัง น่าจะได้โอกาส นอกจากนี้ยังมี มาริโอ พาซาลิซ, มิสลาฟ ออร์ซิซ ที่พร้อมลงเล่นในแนวรุก ขณะที่อันเดรจ ครามาริซ น่าจะได้สตาร์ทเป็นตัวจริง โดยมาร์โก ลิวาจาเป็นคู่แข่งในการแย่งตำแหน่ง

ทีมตราหมากรุกไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม ลอฟโร มาเจอร์ กองกลางจากเรนส์ น่าจะเตรียมพร้อมอยู่ในม้านั่งสำรอง ส่วนลูก้า โมดริซ, มาร์เซโล บรอโซวิซ และมาเตโอ โควาซิซ จะได้สตาร์ตัวจริงเหมือนเดิม

แคนาดายังต้องเช็คอาการอัลฟอนโซ เดวิส ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา ส่วนสตีเฟน ยูสตาควิโอ และมิลาน บอร์ญาน ผู้รักษาประตู ที่ยังไม่ฟิตตั้งแต่นัดแรก น่าจะลงเล่นได้ ไคล์ ลาริน ที่ลงมาแล้วสร้างโอกาสทำประตูได้หลายครั้งในเกมกับเบลเยี่ยม ก็พร้อมเป็น 11 คนแรก ดาวเตะวัย 39 อติยา ฮัตชินสัน หากได้ลงเล่น ก็จะกลายเป็นผู้เล่นคนแรกของแคนาดาที่เล่นทีมชาติถึง 100 นัด แต่หากต้องพักหรือสตาร์ตจากม้านั่งสำรอง ก็มีอิสมาเอล โคน และโจนาธาน โอโซริโอ เป็นตัวแตนด์บาย นอกจากเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บแล้ว ปัญหาอีกอย่างของแคนาดาคือรูปแบบการเล่น ที่ดูจะใช้พละกำลังมากจนเกินไป ที่พอมาถึงเกมที่สองแล้ว พวกเขาอาจยืนระยะได้ไม่นานเช่นที่เคยทำได้ในนัดแรก

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะแบ่งแต้มกับทีมพลังหนุ่ม วิ่ง-สู้-ฟัด แคนาดา ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอฟ

ลูก้า โมดริช ดาวเตะที่ดีที่สุดของโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของโครเอเชียและแคนาดา

โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิซ; จูราโนวิซก, ลอฟเรน, กวาดิโอล, โซซ่า; โมดริซ, บรอโซวิซ, โควาซิซ; พาซาลิซ, ครามาริซ, เปริซิซ
แคนาดา ระบบ 3-4-3: บอร์ยาน; จอห์นสตัน, วิโตเรีย, มิลเลอร์; ลาร์ยี, ยูสตาควิโอ, ฮัตชินสัน, เดวิส; บูคานัน, เดวิด, ฮอยเล็ตต์

อัลฟอนโซ เดวีส์ นักเตะดาวรุ่งของแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งของแคนาดาเท่านั้น แต่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของชาตินี้ด้วย (ภาพ: Getty Image)

สถานการณ์ของเกมระหว่างโครเอเชียและแคนาดา

ด้วยคะแนนเดียวในมือ จากการเสมอในนัดแรก ที่ทีมมีโอกาสยิงประตูทีมจากแอฟริกาไม่มากนัก ทำให้เกมนัดนี้ของโครเอเชีย แม้ชนะก็ไม่ได้หมายความว่า จะได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม เพียงแค่ทำให้มีโอกาสในการเข้ารอบมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญพวกเขาดูจะพึ่งพาลูก้า โมดริซอย่างมาก ในแบบที่ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ของโครเอเชียรายนี้เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วก็ว่าได้ ทั้งรับ – รุก วิ่งพล่านไปทั่วสนามด้วยวัย 37 ปี ที่บางที หากไม่มีใครมาแบ่งเบาภาระของเขา จุดเด่นก็อาจกลายเป็นจุดอ่อน เมื่อแคนาดาที่เป็นทีมพลังหนุ่มบดใส่หัวใจสำคัญของทีมจนเล่นไม่ออก

จากฟอร์มการเล่นที่แสดงออกมาในนัดแรก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับแคนาดาที่เก็บแต้มไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่เป็นทีมที่ยิงประตูมากเป็นอันดับ 3 จากเกมนัดแรกของทุกกลุ่ม ด้วยสถิติ 22 ครั้ง แต่มีแค่ 3 ครั้งเท่านั้นที่เข้ากรอบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่คมพอในแดนหน้า และอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้เล่นฟุตบอลโลก 2022 เพียง 3 นัด ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่า แนวรุกของแคนาดาจะทำได้ดีกว่าในนัดแรกหรือไม่ เพราะโครเอเชีย แม้จะมาพร้อมกับตำแหน่งรองแชมป์โลกในกระเป๋า แต่พวกเขาก็ไม่แกร่งเท่ากับที่เคยเป็นเมื่อ 4ปีก่อน และด้วยการเล่นที่บดขยี้คู่ต่อสู้แทบจะตลอดทั้งเกม น่าจะเป็นของแสลงสำหรับโครเอเชียไม่น้อย

แต่ด้วยความเก๋า ที่ไม่ต่างไปจากเบลเยี่ยม ขอแค่โอกาสไม่กี่ครั้ง ทีมตราหมากรุกน่าจะเก็บชัยเหนือเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ได้แบบฉิวเฉียด โดยที่โอกาสจมเกมด้วยการเสมอกันไป ก็มีไม่น้อย

โครเอเชียชนะ 1-0 หรือ 2-1 ในแบบที่มีโอกาสเสมอกันแบบมีสกอร์

เรื่องน่าอ่าน:
1. กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา

2. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
3. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
4. แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

โครเอเชีย vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : โครเอเชีย vs แคนาดา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

แคนาดา
แชมป์รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 23 เสีย 7

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0

แคนาดา
อุ่นเครื่อง ชนะ กาตาร์ 2-0
อุ่นเครื่อง แพ้ อุรุกวัย 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ บาห์เรน 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ ญี่ปุ่น 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เบลเยียม 0-1

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อน

 

สภาพทีม
โครเอเชีย
ชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0

 

ซลัตโก้ ดาลิช ไม่มีปัญหาตัวผู้เล่นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากที่นายทวาร ลอฟเร่ คาลินิช เจ็บอยู่ก่อนแล้วจนหลุดโผไปตั้งแต่ก่อนประกาศรายชื่อ รวมถึงตัวที่ถูกกาทิ้งอย่าง ดูเย่ กาเลต้า-คาร์ หรือ โยซิป เบรคาโล่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับทีม

 

คาดว่าระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าดัน อีวาน เปริซิช ไปเดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ นิโกล่า วลาซิช

 

แคนาดา
ทัพเมเปิ้ลได้กลับมาโชว์ตัวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง หลังหายหน้าไปตั้งแต่ได้เล่นหนแรกเมื่อปี 1986 ก่อนจะแพ้ เบลเยียม แบบหวิวๆ 0-1 ในเกมเปิดหัวของฟุตบอลโลก 2022

 

แต่มาคราวนี้ถือว่า แคนาดา น่าเกรงขามทีเดียว ด้วยการผงาดแชมป์ของรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ เหนือขั้วอำนาจเก่าทั้ง เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา

 

แคนาดา คุมทีมโดย จอห์น เฮิร์ดแมน โค้ชชาวอังกฤษ ที่ขยับจากทีมชาติฝ่ายหญิง (2011-2018) มารับงานนี้ และในทีมมีดาวเด่นอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส (บาเยิร์น), โจนาธาน เดวิด (ลีลล์), ไคล์ ลาริน (คลับ บรูช), สตีเฟ่น ยุสตากิโต้ (ปอร์โต้) เป็นแกนนำ

 

เฮิร์ดแมน ไม่มีปัญหาในการจัดทีมเกมนี้เช่นกัน โดยจะวางระบบเปิดหน้าแลก 3-4-3 อัลฟอนโซ่ เดวิส ขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ส่วนสามกองหน้าเป็น โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน และ จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์

 

ตัวความหวัง
โครเอเชีย : อีวาน เปริซิช
แม้การเป็นลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนต้ ที่สเปอร์ส เปริซิช จะถูกใช้งานเป็นวิงแบ็กฝั่งซ้าย แต่กับการรับใช้ชาติแล้ว เขาคือปีกซ้ายที่มีหน้าที่เล่นเกมรุกเต็มอัตรา หรือจะเรียกว่ากองหน้าไปเลยก็ไม่ผิด ทั้งนี้สิ่งที่เราเห็นกันมาตลอดกับ สเปอร์ส รวมถึง อินเตอร์ มิลาน คือ เปริซิช แค่ต้องปรับความคมให้เพิ่มมากขึ้นอีกนิด สกอร์จะไหลมาเทมามากกว่าที่เป็น แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็นำดาวซัลโวของทีมชุดนี้อยู่แล้ว หลังยิงไป 32 ลูก

 

แคนาดา : อัลฟอนโซ่ เดวิส
นักเตะที่ดีที่สุดในยุคนี้ของ แคนาดา หรือกระทั่งอาจจะดีที่สุดตลอดกาล โตมากับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ก่อนที่มหาอำนาจบอลเยอรมันอย่าง บาเยิร์น มิวนิค จะทุ่มเงินเป็นสถิติ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมโบนัสเสริม) คว้าตัวไปปั้นต่อตอนที่ เดวิส อายุได้แค่ 17-18 เท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีคำว่าผิดหวังเมื่อเจ้าหนูเชื้อสายกาน่าพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด เป็นตัวหลักให้กับทัพเสือใต้มาแล้วเป็นปีที่ 4 พร้อมกระแสยกย่องว่าเป็น “แบ็กซ้ายเบอร์ 1 โลก” จากบางฝ่าย ที่สำคัญ ยังสารพัดประโยชน์ เล่นได้หมดทางกราบซ้ายด้วย

 

11 ตัวจริงที่คาด
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, นิโกล่า วลาซิช
แคนาดา (3-4-3, กุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน) มิลาน บอร์ยาน – คามาล มิลเลอร์, สตีเว่น วิตอเรีย, อลิสแตร์ จอห์นสตัน – อัลฟอนโซ่ เดวิส, สตีเฟ่น ยุสตาคิโอ, อติบา ฮัทชินสัน, ริชี่ ลาร์เยีย – จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ โครเอเชีย เคยเล่นกับทีมโซนคอนคาเคฟมา 3 หนในฟุตบอลโลก ชนะ 1 แพ้ 2
• โครเอเชีย มีถึง 3 คนที่เล่นทีมชาติทะลุร้อยนัด คือ ลูก้า โมดริช (156), อีวาน เปริซิช (117) และ โดมากอย วิด้า (100)
• ดาวซัลโวชุดนี้ของ โครเอเชีย เป็นวิงแบ็กอย่าง อีวาน เปริซิช ที่กดไป 32 ประตู
• อติบา ฮัทชินสัน กัปตันแคนาดา อ่อนกว่ากุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน แค่ 7-8 ปี
• ไคล์ ลาริน ยิงในทีมชาติ 25 ประตู ส่วน โจนาธาน เดวิด 22 ลูก

 

ความน่าจะเป็น
ตามหน้าเสื่อ โครเอเชีย เหนือกว่า แต่ก็ยังไม่อาจมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะชนะแน่ๆ เมื่อ แคนาดา ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หมู เล่นงาน เบลเยียม ได้ชนิดโอนไปเอนมา แต่สุดท้ายกลับแพ้ (แบบไม่น่าแพ้) ดังนั้น ก็จะไม่ใช่งานง่ายๆ ของ โครเอเชีย เช่นกัน โอกาสเสมอมี โอกาสที่โครเอเชียจะชนะก็มี แต่เต็มที่จะแค่ออกเฉือน

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม
22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะเอาชัยเหนือโมร็อกโก ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของพวกเขา

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะเอาชัยเหนือโมร็อกโก ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของพวกเขา

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรก ของกลุ่ม เอฟ โมร็อกโก – โครเอเชีย

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

เกมในกลุ่ม เอฟ วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด True4U/ True Sports 2: เกมนัดแรกของกลุ่ม เอฟ การโชว์ตัวของโครเอเชีย รองแชมป์เมื่อ 4 ปีก่อน โดยพวกเขาจะเจอกับโมร็อกโก ทีมจากแอฟริกา ที่ในช่วงฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า ทีมตราหมากรุกนั้น อยู่ในช่วงกำลังโรยราและเปลี่ยนผ่าน ที่การส่งต่อไม่ได้ราบรื่นและลงตัวนัก เมื่อยังอาศัยผู้เล่นในชุดรองแชมป์โลกเป็นแกนหลักเหมือนเดิม จนหลาย ๆ คนมองว่า พวกเขาไม่น่าจะไปได้ไกลอย่างที่เคยทำได้

เส้นทางก่อนการเจอกันของโมร็อกโก – โครเอเชีย

ทั้งสองทีมเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวในปี 1996 เป็นเกมกระชับมิตรและจบลงด้วยสกอร์ 2-2 ที่มีการดวลจุดโทษตามมา ซึ่งโครเอเชียคว้าชัยไปได้ ซึ่งไม่สามารถเอามาเป็นมาตรฐานวัดการเจอกันครั้งนี้ได้ เพราะเวลาก็ผ่านมาตั้ง 26 ปีแล้ว ส่วนสถิติในฟุตบอลโลกทีมสิงโตจากแอตลาส เคยสร้างเซอร์ไพรส์ไว้ในฟุตบอลโลก 1986 เมื่อเป็นที่หนึ่งในสาย ที่ประกอบด้วย อังกฤษ, โปแลนด์ และโปรตุเกส ซึ่งนั่นคือครั้งที่พวกเขาไปได้ไกลที่สุด ที่รอบ 16 ทีม ซึ่งตอนนั้นประเทศโครเอเชียยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ส่วนทีมตราหมากรุก ครั้งแรกที่เข้าร่วมพวกเขาก็เป็นทีมอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 1998 ก่อนจะตกรอบแรกในอีก 3 ครั้งต่อมา แล้วเป็นรองแชมป์ในปีที่โมร็อกโกทำได้แค่ตกรอบแรก

โมร็อกโกถือว่ามาดีในรอบคัดเลือก ทำให้พอมีความหวังว่า จะทำได้อย่างที่ทีมชุด 1986 ทำได้ ซึ่งพวกเขาต้องเอาชนะโครเอเชียหรือไม่ก็เบลเยี่ยมสองทีมจากยุโรปให้ได้ หรือไม่ก็แบ่งแต้มจากทั้งสองนัด แล้วไปเอาชนะแคนาดา

ห้านัดล่าสุดของทั้งคู่ โมร็อกโกชนะ 3 เสมอ 2 โดยหนึ่งในนั้นคือการปราบชิลี 2-0 แต่เมื่อเทียบกับทีมตราหมากรุก ต้องบอกว่าคนละเรื่อง เพราะพวกเขาชนะรวด และ 4 ทีมที่เจอก็คือ เสือ-สิงห์-กระทิง-แรดของยุโรปทั้งนั้นในเกมเนชั่นส์ ลีก ไม่ว่าจะเป็นโคนมที่พวกเขาชนะทั้งไปและกลับ, ฝรั่งเศส แชมป์โลก และออสเตรีย ส่วนนัดหลังสุดก็เก็บซาอุดิอาระเบีย หนึ่งใน 32 ทีมของฟุตบอลโลกครั้งนี้ และการที่โมร็อกโกไม่ได้เจอทีมระดับหัวแถวมากนัก งานของพวกเขาเลยดูยากไปเลย

ความพร้อมของนักเตะโมร็อกโกและโครเอเชีย

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะเอาชัยเหนือโมร็อกโก ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของพวกเขา

ลูก้า โมดริช ดาวเตะที่ดีที่สุดของโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018

สิ่งหนึ่งที่เป็นความเปลี่ยนแปลงของโมร็อกโกก็คือ ฮาคิม ซีเย็ก ที่กลับมาเล่นทีมชาติ หลังมีปัญหากับโค้ชวาฮิด ฮาลิฮอดซิซ จนเลิกเล่น แต่เมื่อฮาลิฮอดซิซถูกปลด แม้จะทำทีมไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของฟุตบอลแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เขาก็กลับมา ที่น่าจะทำให้เกมของทีมยกระดับจากเดิมได้ โดยเฉพาะเกมตามกราบเมื่อยังมีผู้เล่นในแดนนี้อย่าง อาชราฟ ฮาคิมี่ ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดของโลกยุคนี้, นูสแซร์ มาซราอุย จากบาเยิร์น มิวนิก แล้วก็มีผู้เล่นเด่น ๆ จากลีกระดับหัวแถวของยุโรป อย่าง โรเมน ซาอิสส์ หรือยูสเซฟ เอ็น-เนสรี น่าเสียดายที่ไม่มีอามีน ฮาริต เพราะบาดเจ็บจากเกมลีกเอิงนัดสุดท้ายก่อนฟุตบอลโลก แต่ก็เรียก อานาสส์​ ซารูรี จากเบิร์นลีย์ มาแทน ส่วนเซลิม อามาลลาห์ จากสตองดาร์ด ลีเอช ซึ่งไม่ได้เล่นให้สโมสรเลย ตั้งแต่เดือนกันยาฯ ถูกเรียกมาติด และอาจได้ลงเล่น แต่วาลิด เรเกรกุย ที่ยังมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้ออยู่ น่าจะพลาดเกมนัดแรกของทีม

ฝั่งโครเอเชียที่จุดแข็งต่างไปจากโมร็อกโก เมื่อแดนกลางแข็งปั้ก ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บในลิสต์และฟอร์มก็มาดีเหลือเกิน แม้เกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายกับซาอุดิ อาระเบีย มาร์โก ลิวายากับคริสติยาน จากิซ ไม่ติดทีม แต่ก็ไม่มีข่าวเรื่องการได้รับบาดเจ็บ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของโมร็อกโกและโครเอเชีย

โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: บูนู; ฮาคิมี่, อะการ์ด, ซาอิสส์, มาซซาราอุย; อมาลลาห์, อามราบัต, โอนูไฮ; ซิเย็ก, เอ็น-เนยสรี่, โบฟาล
โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิก; จูราโนวิก, ซูตาโล่, กวาร์ดิออล, โซซ่า; โมดริซ, บรอโซวิซ, โควาซิซ ; วลาซิซ, ครามาริก, เปริซิซ

ผลการแข่งขันระหว่างโมร็อกโก – โครเอเชีย

ด้วยสภาพผู้เล่น สภาพฟอร์ม ทีมตราหมากรุกเหนือกว่าสิงโตจากแอตลาสอย่างเห็นได้ชัด และน่าจะเอาชนะไปได้ ในเกมที่พวกเขาน่าจะครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ เล่นเอาแน่นอนเป็นหลัก ซึ่งเป็นมาตรฐานของโครเอเชียไปแล้วก็ว่าได้ แต่สกอร์ไม่น่าจะสูงมากนัก เมื่อดูจากเกมหลัง ๆ ที่พวกเขามักเก็บชัยแบบหวุดหวิด 1-0 เป็นส่วนใหญ่ หากจะมากกว่านี้ ผลต่างประตูได้เสียก็ไม่น่าจะเกิน 2 ลูก

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา
2. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?

โมร็อกโก vs โครเอเชีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก vs โครเอเชีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : โมร็อกโก vs โครเอเชีย
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม, อัล คอร์
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โมร็อกโก
ชนะ ดีอาร์ คองโก รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกเสมอ 1-1, นัดสองชนะ 4-1

โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โมร็อกโก
คัด AFCON ชนะ แอฟริกาใต้ 2-1
คัด AFCON ชนะ ไลบีเรีย 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปารากวัย 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์เจีย 3-0

โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0

 

ผลการพบกัน (1 นัด)
อุ่นเครื่อง 1996 โมร็อกโก 2-2 โครเอเชีย

 

สภาพทีม
โมร็อกโก
มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่ โมร็อกโก ก็อยู่ในทรงที่ดีทีเดียว ชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุด และแพ้เกมเดียวเท่านั้นจาก 8 แมตช์หลัง

 

กับนัดเปิดหัวฟุตบอลโลก 2022 เกมนี้ เรกรากี มีปัญหาตัวเจ็บอยู่ 2 ราย อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กองกลางจากซามพ์โดเรีย กับ อับเดสซาหมัด เอซซาลซูลี่ กองหน้าโอซาซูน่า ไม่พร้อมเล่น

 

แต่ขุนพลตัวหลักอย่าง ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, นูสแซร์ มาซราอุย หรือ อัชราฟ ฮาคิมี่ พร้อมรบตามปกติทั้งหมด

 

โครเอเชีย
กำลังอยู่ในร่างทอง ซูเปอร์ไซย่า เมื่อชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อน ทั้งใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และเกมอุ่นเครื่องล่าสุดเมื่อกลางเดือน ที่เบียด ซาอุฯ 1-0 จากประตูโทนของ อันเดรจ์ ครามาริช ท้ายเกม

 

ซลัตโก้ ดาลิช ไม่มีปัญหาตัวผู้เล่นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากที่นายทวาร ลอฟเร่ คาลินิช เจ็บอยู่ก่อนแล้วจนหลุดโผไปตั้งแต่ก่อนประกาศรายชื่อ รวมถึงตัวที่ถูกกาทิ้งอย่าง ดูเย่ กาเลต้า-คาร์ หรือ โยซิป เบรคาโล่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับทีม

 

คาดว่าระบบจะใช้ 4-3-3 แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าดัน อีวาน เปริซิช ไปเดินเกมรุกร่วมกับ มาร์โก ลิวาย่า และ นิโกล่า วลาซิช

 

ตัวความหวัง
โมร็อกโก : ฮาคิม ซีเย็ค & อัชราฟ ฮาคิมี่
ฮาคิม ซีเย็ค เลิกเล่นทีมชาติไปช่วงหนึ่งเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัวกับโค้ชเก่า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งพอมีการเปลี่ยนตัวกุนซือเป็น วาลิด เรกรากี แล้วก็กลับสู่สารบบทีมชาติดังเดิม โดยแม้เขาจะเจอปัญหาเข้าๆ ออกๆ จากทีมเชลซี จนซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 9 นัด แต่ก็คือตัวยืนของทีมชาติ มีผลงานยิง 18 ประตูจาก 43 เกม ด้าน ฮาคิมี่ พัฒนาตัวเองไปจนอยู่ในระดับแบ็กขวาตัวท็อปของวงการแล้ว พร้อมกับบางเสียงยกว่าเป็นเบอร์ 1 โลกยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 54 เกมทีมชาติ

 

โครเอเชีย : อีวาน เปริซิช
แม้การเป็นลูกทีมของ อันตนิโอ คอนต้ ที่สเปอร์ส เปริซิช จะถูกใช้งานเป็นวิงแบ็กฝั่งซ้าย แต่กับการารับใช้ชาติแล้ว เขาคือปีกซ้ายที่มีหน้าที่เล่นเกมรุกเต็มอัตรา หรือจะเรียกว่ากองหน้าไปเลยก็ได้ไม่ผิด เช่นเดียวกับเกมนี้ที่ถูกคาดหมายว่าจะถูกใช้เป็นกองหน้าฝั่งซ้ายอีกครั้งในระบบ 3 ตัวรุก ซึ่งสิ่งที่เราเห็นกันมาตลอดกับ สเปอร์ส รวมถึง อินเตอร์ มิลาน คือ เปริซิช แค่ต้องปรับความคมให้เพิ่มมากขึ้นอีกนิด สกอร์จะไหลมาเทมามากกว่าที่เป็น แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็นำดาวซัลโวของทีมชุดนี้อยู่แล้ว

 

11 ตัวจริงที่คาด
โมร็อกโก (4-2-3-1, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – นูสแซร์ มาซราอุย, นาเยฟ อาแกร์ด, โรแม็ง ไซส์, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต – ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, เซลิม อมัลลาห์ – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, โยซิป ซูตาโล่, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, มาร์โก ลิวาย่า, นิโกล่า วลาซิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เคยพบกันมาแค่ครั้งเดียวถ้วน ตั้งแต่ปี 1996 ยุค โรเบิร์ต โปรซิเนซกี้, โรเบิร์ต ยาร์นี่, ซโวนิเมียร์ ซอลโด้, มุสตาฟา ฮัดจิ ซึ่งลงเอยด้วยผลเสมอ 2-2 และมีเตะจุดโทษตัดสิน โครเอเชียชนะ 7-6
• โมร็อกโกชุดนี้มีเด็กอายุ 18 ด้วย อย่าง บิลาล เอล คานนุส กองกลางดาวรุ่งจาก เกงค์ ซึ่งไม่เคยเล่นชุดใหญ่มาก่อน แต่เคยเล่นให้ทั้ง เบลเยียม และ โมร็อกโก ในชุดเยาวชน
• โครเอเชีย มีถึง 3 คนที่เล่นทีมชาติทะลุร้อยนัด คือ ลูก้า โมดริช (155), อีวาน เปริซิช (116) และ โดมากอย วิด้า (100)
• ดาวซัลโวชุดนี้ของ โครเอเชีย เป็นวิงแบ็กอย่าง อีวาน เปริซิช ที่กดไป 32 ประตู

 

ความน่าจะเป็น
คู่คี่สูสีกันมาก ทั้ง โมร็อกโก และ โครเอเชีย ที่ต่างก็แข็งแกร่งหนั่นแน่นในทุกขุมกำลังตั้งแต่หลังมาหน้าสุด ทำให้เกมนี้เป็นอะไรที่คาดเดาลำบาก และแม้ โครเอเชีย จะมีดาวเด่นอย่าง ลูก้า โมดริช, มาเตโอ โควาซิช หรือ อีวาน เปริซิช ในทีม แต่ โมร็อกโก ชุดนี้ก็นำขบวนมาโดย ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบ็กขวาระดับโลกอย่าง อัชราฟ ฮาคิมี่ ทำให้จะสู้กันอย่างดุเดือด ผลสามารถออกได้ทั้งสามหน้า และอาจตัดสินกันด้วยประตูเดียว

ผลที่คาด : 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
โมร็อกโก
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 20.00 — เบลเยียม vs โมร็อกโก
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

โครเอเชีย
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — โครเอเชีย vs แคนาดา
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม

 

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตอน 2

เสื้อบอลโลก 2022 ส่งกล้องมองผ้า เสื้อทีมในรอบสุดท้ายของกลุ่ม อี – เอช

เสื้อฟุตบอลโลก 2022 ของกลุ่มอี-เอช

จาก 16 ทีมในกลุ่ม เอ – ดี ที่อวดโฉมชุดแข่งในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายออกมาให้เห็น ซึ่งแต่ละทีมก็ทำออกมาได้อย่างฉูดฉาดจับตาและทำให้สนามหญ้าสีเขียวของกาตาร์​ กลายเป็นเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ที่บรรดาดีไซเนอร์ของแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาทั้งหลายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าใหญ่ อย่าง ไนกี้, อดิดาส หรือว่าเจ้าเล็ก ๆ อย่าง มาราธอน, ฮุมเมล, คัปป้า หรือว่าแบรนด์ท้องถิ่น เช่น มาจิด ต่างเค้นไอเดีย ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่มาทำให้เสื้อของทีมที่ตัวเองดูแลมีสีสัน ที่จะว่าไปแล้วไม่แพ้เกมการเล่นอย่างแน่นอน

และวันนี้เราจะมาดูแฟชั่นฟุตบอลโลกของอีก 16 ทีมที่เหลือในกลุ่ม อี – เอช

เสื้อบอลโลก ส่องแฟชั่นของแต่ละกลุ่ม

กลุ่มอี: สเปน, คอสตาริก้า, เยอรมนี, ญี่ปุ่น

3 ใน 4 ทีมของสายนี้ ใช้บริการของอดิดาส แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในโลกของฟุตบอล ที่ในฟุตบอลโลกหนนี้ดูจะเสียรังวัดไปไม่น้อย เพราะคู่แข่ง อย่าง ไนกี้ ครองแค็ตวอล์กแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ไปเรียบร้อยเมื่อมีทีมใช้บริการมากที่สุด ขณะที่หนึ่งเดียวในกลุ่มนี้ที่ไม่เข้าพวกก็คือ คอสตาริก้า ที่ใช้บริการของนิวบาลานซ์ ซึ่งตัวเสื้อก็มาแบบเรียบ ๆ ดูคลาสสิกเน้นสีธงชาติ ชุดเหย้าสีแดง ชุดเยือนสีขาว และมีลูกเล่นที่ปลายแขนสีฟ้า ที่ดูเหมือนต่อออกมาจากตัวเสื้อ ส่วนสามทีมที่อดิดาสส่งเข้าประกวด เยอรมนีดูเก๋ด้วยแถบสีดำพาดกลางเสื้อสีขาวบริเวณหน้าอก จากคอถึงชายเสื้อ แต่ที่แปลกตาก็คือชุดเยือนที่ใช้สีแดงเลือดนกสลับดำเล่นลายกราฟิก สเปนชุดเหย้าเป็นสีแดงที่ดูเรียบ ๆ แต่ชุดเยือนสีขาวสลับกับกราฟิกในเนื้อผ้าสีฟ้าอ่อน ดูสวยดีทีเดียว ปิดท้ายด้วยญี่ปุ่น ที่ดูเตะตาทั้งชุดเหย้าสีน้ำเงินเข้มสลับน้ำเงินอ่อน และชุดขาวที่กราฟิกบริเวณไล่มาถึงปลายแขน ทำให้เสื้อที่ดูเหมือนไม่อะไรตัวนี้เตะตาขึ้นมาทันที

สเปน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เสื้อทีมชาติสเปน ที่ชุดเยือนดูเตะตามาก ๆ (ภาพ: Footy Headlines)

คอสตาริก้า แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ในฟุตบอลโลก 2022 หรือแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 นิวบาลานซ์ มีทีมเข้าประกวดแค่ทีมเดียวคือ คอสตาริก้า (ภาพ: Footy Headlines)

เยอรมนี แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเหย้าของเยอรมนีมีแถบตามยาวลากจากคอมาถึงชายเสื้อ ดูมีเสน่ห์ ส่วนชุดเหย้าก็เล่นสีได้มันส์ (ภาพ: Footy Headlines)

ญี่ปุ่น แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น หนึ่งในขาประจำเสื้อสวย ที่ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ก็ยังสวยงามเหมือนเดิม (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม เอฟ: เบลเยี่ยม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
มีถึงสามแบรนด์มาประชันกัน พูม่าสินค้าตราเสือดูแลเสื้อให้ทีมจากแอฟริกา เสื้อชุดเหย้ายังคงเอกลักษณ์เดิม สีแดงและมีแถบสีเขียวคาดกลางหน้าอก ชุดเยือนแม้จะเป็นแพ็ทเทิร์นเหมือน ๆ ทีมอื่น ๆ ที่ใช้บริการแบรนด์เดียวกัน แต่การที่ไม่มีกรอบและพิมพ์ลายสีสีเทาอ่อน ๆ ลงในเนื้อผ้า ก็ทำให้แตกต่าง อดิดาสที่ใช้บริการโดยเบลเยี่ยม ชุดเหย้าสีแดงมีสีดำบริเวณไหล่ไปถึงแขน แล้วมีกิมมิกที่ปลายแขนเป็นกราฟิกเปลวเพลิง ชุดเยือนสีขาวดูเผิน ๆ เหมือนจะเรียบ ๆ แต่การเล่นสีบริเวณคอและปลายแขนก็ทำให้ดูดีขึ้นมา ส่วนแคนาดาที่ใช้บริการไนกี้ และไม่ได้ออกเสื้อใหม่รับฟุตบอลโลก ทำให้ตกแค็ตวอล์กแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ไปเรียบร้อยมาแบบเรียบ ๆ สีแดงและขาว โดยคัตติ้งเป็นแพ็ทเทิร์นเดียวกับเสื้อหลาย ๆ ทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ ส่วนโครเอเชีย โดดเด่นเสมอด้วยตารางหมากรุก แต่ไม่ได้ปูเต็มตัวเหมือนเคย โดยเฉพาะในชุดเยือนสีน้ำเงินเข้ม ตารางสีพื้นสลับกับฟ้า ก็ดูไม่ต่างจากงานอาร์ต

เบลเยี่ยม แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ปีศาจแดงเบลเยี่ยม มาพร้อมพลังเพลิงสำหรับชุดเหย้า ขณะที่ชุดเยือนก็มาแบบเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นที่คอและปลายแขน (ภาพ: Footy Headlines)

แคนาดา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แคนาดาเป็นชาติเดียวที่ไม่มีเสื้อใหม่สำหรับแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Footy Headlines)

โมร็อกโก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

พูม่ายังคงเอกลักษณ์ชุดเหย้าของโมร็อกโก ที่มีแถบสีเขียวพาดกลางหน้าอกเอาไว้ ชุดเยือนก็มีลูกเล่นนิดหน่อย ทำให้ไม่เหมือนเสื้อฟอร์แม็ตนัก (ภาพ: Footy Headlines)

โครเอเชีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ตารางหมากรุกคือลายเซ็นบนเสื้อของโครเอเชียมาตลอด และหนนี้ก็ยังไม่หายไปไหน แต่ชุดเยือนดูเหมือนจะเข้าตามากกว่าชุดเหย้า (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม จี: บราซิล, เซอร์เบีย, สวิสเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
แคเมอรูนคือชาติเดียวในฟุตบอลโลก 2022เดียวที่ยังไม่เปิดตัวเสื้อทีม แม้จะมาถึงเดือนตุลาคมแล้ว พวกเขาให้วันออลสปอร์ตส์ แบรนด์ที่มีเครดิตจากสายมอเตอร์สปอร์ตดูแลให้ ถึงจะยังไม่มีเสิื้อทีม แต่ก็ปล่อยชุดในวาระต่าง ๆ ของแคเมอรูนออกมาให้เห็นพอสมควร ส่วนชาติอื่น ๆ บราซิลยังใช้บริการไนกี้ ซึ่งตัวเสื้อคราวนี้ ชุดเยือนดูเด่นกว่าชุดหย้าในเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 เซอร์เบียกับสวิสเซอร์แลนด์ ใช้บริการของพูม่า ตัวชุดเยือนมาในคอนเซ็ปต์เดียวกับเสื้อชาติอื่น ที่ใช้บริการพูม่า มีตราทีมชาติกลางหน้าอก แล้วก็ต้องมีกรอบสี่เหลี่ยมหรือวงกลมที่มีเบอร์ผู้เล่นอยู่ข้างใน แต่สวิสฯ ดูจะฉีกออกไปเล็กน้อย เมื่อเป็นแถบคาดสีแดงขวางหน้าอก ตราทีมชาติกับโลโก้พูม่าขยับลงมาเล็กน้อย ก็ทำให้ฉีกไปจากฟอร์แม็ตที่ดูซ้ำ ๆ ได้พอสมควร ขณะที่เสื้อทีมเหย้าซึ่งใช้สีแดงเหมือนกันสวิสฯ ดูจะมีลูกเล่นมากกว่าตรงกราฟิกลายเส้นที่ขาวที่ไหล่

บราซิล แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเยือนของบราซิล ดูเตะตากว่าชุดเหย้าที่ออกไปทางคลาสสิก อย่างเห็นได้ชัด (ภาพ: Footy Headlines)

สวิสเซอร์แลนด์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

สวิสเซอร์แลนด์ ยังคงใช้บริการของพูม่า ที่ทำชุดเยือนออกมาเป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกันทุกทีมก็ว่าได้ (ภาพ: Footy Headlines)

เซอร์เบีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เซอร์เบีย กับชุดที่ดูเรียบ ๆ ทั้งชุดเหย้า และชุดเยือน (ภาพ: Footy Headlines)

แคเมอรูน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แคเมอรูน คือชาติเดียวที่ยังไม่เผยเสื้อทีมออกมาให้เห็นเต็มตาจนถึงขณะนี้ (ตุลาคม) (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม เอช: โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ปิดท้ายการส่งเสื้อทีมในแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ด้วยกลุ่มที่เป็นการดวลระหว่างไนกี้กับพูม่า ที่ฝ่ายแรกส่งโปรตุเกสและเกาหลีใต้เข้าประกวด เสื้อชุดเหย้าของโปรตุเกสมาแบบเรียบ ๆ แต่เล่นกับสีธงชาติโดยสีพื้นเป็นแดงแต่มีสีเขียวพาดจากปลายแขนขวาต่อมาถึงช่วงล่างของเสื้อ ขณะที่ชุดเยือนดูเตะตากว่า สีขาวปลายแขนดำ และมีสีธงชาติแดง-เขียว พาดขวางหน้าอก เกาหลีใต้ชุดเหย้ามาในฟอร์แม็ตเดียวกับเหย้าของโปแลนด์แต่เปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นแดง แต่ชุดเยือนถือว่าแซ่บมาก มีอารมณ์แบบงานอาร์ต สาดสีใส่ผืนผ้าใบสีดำ กานากับอุรุกวัยที่ให้พูม่าดูแล ชุดเยือนมาตามสูตรของพูม่าขณะที่ชุดเหย้าก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษ ถือว่าไม่ค่อยมีเสน่ห์โดนตาสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ

โปรตุเกส แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

จากสีแดงเต็มตัว หนนี้ชุดเหย้าของโปรตุเกส จะมีสีเขียวของธงพาด ขณะที่ชุดเยือนก็ออกมาดูดี และเล่นกับสีธงชาติเช่นกัน (ภาพ: Footy Headlines)

กานา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

กานามาเรียบ ๆ ชุดเหย้าคล้าย ๆ กับเซอร์เบีย แต่เปลี่ยนสี มีสันที่ปลายแขน และแน่นอนชุดเยือนก็มาฟอร์แม็ตเดียวกับชุดทีมอื่น ๆ ที่พูม่าดูแล (ภาพ: Footy Headlines)

อุรุกวัย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

มาแบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา คือนิยามของเสื้อทีมอุรุกวัยในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Footy Headlines)

เกาหลีใต้ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ดูดีทั้งชุดเหย้าและเยือนสำหรับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เหลือก็คือฟอร์มการเล่นของทีม (ภาพ: Footy Headlines)

และนี่คือบรรดาเสื้อทีมชาติต่าง ๆ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ทำให้กาตาร์และทัวร์นาเมนต์นี้เป็นสนามแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ไปในคราวเดียวกัน

ภาพปก: FOOTYHEADLINES
เรื่องน่าอ่าน: แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี

กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา

กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา

มาถึงกลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 ที่ดูจากทีมในกลุ่มแล้ว นี่คืออีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเหมือนกับมีภาพลวงตาบาง ๆ เมื่อดูเผิน ๆ สองทีมแกร่งจากยุโรปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เบลเยี่ยมกับโครเอเชียน่าจะเข้ารอบน็อกเอาต์ได้สบาย ๆ โดยปีศาจแดงแห่งยุโรป อันดับ 3 จากฟุตบอลโลก 2018 อยู่ในช่วงพีกมานานแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยวถ้วยรางวัลได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง สมกับทีมที่เป็น “ยุคทอง” หรือ Golden Generation ส่วนขุนพลตาหมากรุก คือรองแชมป์เก่า แถมทั้งคู่ยังมีดาวเตะระดับโลก อย่าง เควิน เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู สำหรับเบลเยี่ยม และลูก้า โมดริล, อิวาน เปริซิซ สำหรับโครเอเชีย อยู่ในทีม แต่พวกเขาก็ดูเปราะบางไม่น้อย ดาวเตะยุคทองของเบลเยี่ยม อยู่ในช่วงบั้นปลายแล้ว และฟุตบอลโลก 2022 ก็น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง ส่วนพลพรรคโครแอ็ตก็เต็มไปด้วยนักเตะสว. (สูงวัย) ทำให้โมร็อกโกและแคนาดา ก็มีโอกาสเหมือนกัน

กลุ่ม เอฟ: เบลเยี่ยม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย

เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ทีมยุคทองของเบลเยี่ยม อาจจะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเองหนสุดท้าย (ภาพ: Twitter @BelRedDevils)

แน่นอนว่า สองทีมเต็งของกลุ่ม เอฟ คือเบลเยี่ยมและโครเอเชีย แต่แคนาดาที่รอเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมานานถึง 36 ปี หลังจากเข้ามาถึงรอบนี้หนแรกเมื่อปี 1986 โดยตกรอบไปแบบไม่มีแต้มและไม่มีประตู ซึ่งเต็มไปด้วยดาวเตะรุ่นกระทง และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ภายใต้การดูแลของโค้ช จอห์น เฮิร์ดแมน ก็น่าจะสร้างความประทับใจอะไรให้เกิดขึ้นได้กับทีมในฟุตบอลโลก 2022 ก่อนจะไปเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก อย่างน้อย ๆ พวกเขาน่าจะมีแต้ม มีประตู และน่าจะทำให้ตัวเก็งทีมหนึ่งทีมใดหรือทั้งสองทีมติดคอได้ แล้วกับเกมในระดับโลกแบบนี้ ดาวเตะแคนาดาอย่าง อัลฟอนโซ เดวีส์, ไคล์ ลาริน และโจนาธาน เดวิด ก็จะได้โอกาสโชว์ของครั้งสำคัญ ที่หากทุกอย่างเป็นใจ แคนาดาก็น่าจะมีโอกาสเข้ารอบต่อไป สมกับที่จะกลายเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกหนหน้า

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

ขณะที่โมร็อกโก อีกทีมในกลุ่ม เอฟ มาฟุตบอลโลก 2022 อัดแน่นไปด้วยดาวดังจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอาชราฟ ฮาคิมี แบ็กจากปารีส แซงต์ แฌร์กแม็ง, กัปตันทีม โรเมน ซาอิสส์ เซนเตอร์ตัวแกร่งของวูลฟ์ และยูสเซฟ เอ็น-เนสยรี่ กองหน้าจากเซบีญ่า ขณะที่ดาวเตะอย่าง ฮาคิม ซีเย็คที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในวัยแค่ 28 ปีจะกลับมาร่วมทีมไหม เมื่อโค้ชคนเก่า วาฮิด ฮาลิฮ็อดซิก ออกจาทีมไปแล้ว และถ้าเขากลับมา ก็จะทำให้โมร็อกโกแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

แคนาดา ฟุตบอลโลก 2022

เจ้าภาพฟุตบอลโลกหนต่อไป จะสร้างชื่อให้โลกรับรู้ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 เลยหรือไม่ (ภาพ: Canada Soccer / Martin Bazyl)

เมื่อมองมาถึงตรงนี้ ขาลงของอดีตทีมที่เคยอยู่ในอันดับ1 จากการจัดอันดับของฟีฟ่า และขาลงกว่าของทีมที่เคยแข็งแกร่งอย่างโครเอเชีย ที่เต็มไปด้วยนักเตะที่ใกล้ถึงเวลายุติการเล่นในระดับสูง ที่พวกนักเตะรุ่นใหม่ ๆ ก็ยังเสียบเข้ามาได้ไม่ลงตัวนัก กับขาขึ้นของทีมจากอเมริกาเหนือ และเป็นทีมที่มีนักเตะระดับท็อป ที่แม้อาจจะไม่ถึงกับเป็นที่สุดอยู่ในทีม ครบเกือบทุกตำแหน่งสำคัญ ๆ ทำให้ทุกนัดของกลุ่มเอฟ คือเกมชี้ชะตา เพราะแต่ละทีมจะพลาดไม่ได้ จนรู้สึกว่า หากมองกันถึงสภาพทีม ฟอร์มการเล่น ไม่ได้มองแค่ชื่อชั้น นี่คือกลุ่มแห่งความตายของฟุตบอลโลก 2022 ก็ว่าได้ และทำให้นัดสุดท้าย ที่โครแอ็ตต้องไปวัดกับปีศาจแดง และแคนาดาเจอกับโมร็อกโก คือนัดตัดสิน ที่อาจจะทำให้มีทีมจากยุโรปเพียงทีมเดียวที่หลุดเข้าไปในรอบน็อกเอาต์

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

แต่อีกนั่นแหละ เมื่อแต่ละทีมต่างก็มีโอกาสถึงจะมากน้อยแตกต่างกันไป ทำให้เกมนัดก่อน ๆ หน้าของกลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 คือนัดที่น่าจับตา และห้ามพลาดทุกนัดอยู่ดี สมกับเป็นกลุ่มที่มีสองจากสี่ทีมสุดในฟุตบอลโลก 2018 กับอีกสองทีมที่กำลังพุ่งขึ้นมาอยู่ร่วมกลุ่มกัน แม้ที่สุดแล้วทุกทีมจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบ แต่ก็ต้อให้ เบลเยี่ยม, โครเอเชีย เข้าเป็นที่ 1 และ 2 ส่วนแคนาดากับโมร็อกโกเป็นที่ 3 และ 4 ในแบบที่เบียดกันได้สนุก

โปรแกรมการแข่งขันในกลุ่ม เอฟ ของฟุตบอลโลก 2022
23 พฤศจิกายน
โมร็อกโก – โคเอเชีย
เบลเยี่ยม – แคนาดา

27 พฤศจิกายน
เบลเยี่ยม – โมร็อกโก
โครเอเชีย – แคนาดา

29 พฤศจิกายน
แคนาดา – โมร็อกโก
โครเอเชีย – เบลเยี่ยม

ข้อมูล: ESPN , EURONEWS
ภาพปก: Michael Regan / POOL / AFP, Getty Images, Chris Young/The Canadian Press, sportsbrief.com

เรื่องน่าอ่าน: ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?