เรื่อง

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

กังหัน, สิงโต, ฟ้าขาว, ตราไก่, กระทิง, อินทรีเหล็ก, ปีศาจแดง, ฝอยทอง ใครกัน จะเข้าใกล้ความสำเร็จแห่งฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด…เมื่อพิจารณาจากขุมกำลังนักเตะที่เผยออกมา

 

นับถอยหลังแค่ไม่กี่คืน ทัวร์นาเมนต์ที่โลกรอคอยอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ก็จะมาถึง และเกือบทุกทีมก็เผยชื่อนักเตะ 26 คนสุดท้ายที่จะไปแอ่วกาตาร์ ออกมาแล้ว

 

ด้านล่างนี้คือ 26 รายชื่อชุดสุดท้ายของบรรดาชาติยักษ์ใหญ่ มีเอี่ยวลุ้นแชมป์โลก ที่ทยอยประกาศออกมาก่อนที่ เวิลด์ คัพ จะเริ่มโรมรันประชันแข้งกันราว 1 สัปดาห์

 

ใครเป็นใคร ใครไปบอลโลก ใครหลุดโผ ใครจัดให้ครบถ้วนกว่านี้ มาบอก!

 

 

กังหันลม เนเธอร์แลนด์ กับความหวังถึง ‘ครั้งแรก’
แม้จะผลิตยอดดาวเตะขึ้นสู่วงการได้แบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลกได้มาก่อน โดยต้องเจ็บปวดกับการเป็น “พระรอง” ถึง 3 ครั้ง คือฟุตบอลโลก 1974, 1978 และ 2010 ที่ถึงชิงชนะเลิศแล้วแต่กลับแพ้ทั้งสามครั้ง

 

ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นตรงที่ฟุตบอลโลกครั้งก่อน รัสเซีย 2018 เนเธอร์แลนด์ ตกต่ำสุดถึงขั้นตกรอบคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้น มาคราวนี้ในการทำทีมของคนคุ้นเคยอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาจึงพกความมุ่งมั่นมาอย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก ร่วมกับเจ้าภาพ กาตาร์, เอกวาดอร์ และ เซเนกัล แม้อาจเป็นบอลต่างสไตล์ไม่ค่อยได้เจอนัก แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ จากนั้นในรอบน็อกเอาต์ก็ต้องมาตามลุ้นกันว่าจะได้คู่แข่งเป็นใครในแต่ละรอบ ดูกันแต่ละแมตช์ แล้วถึงเวลาจะเห็นเองว่า “แชมป์โลกสมัยแรก” มีความเป็นไปได้มากขนาดไหน

 

สำหรับขุมกำลังที่ ฟาน กัล หิ้วไปกาตาร์ ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดิมๆ ที่ใช้มาตลอดปีหลังๆ แต่ก็น่าเสียดายแทนตัวที่หลุดออกไป ทั้ง สเวน บ็อตมัน, ฮานส์ ฮาเตบัวร์, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (ส่วน จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ปกติต้องได้ไป แต่ดันเจ็บหนักพักยาวเสียก่อน) ซึ่งมองว่า ถ้าบางคนได้ไป น่าจะมีประโยชน์กับทัพกังหันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ บ็อตมัน เซนเตอร์แบ็กวัย 22 ที่เล่นดีมากกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้

 

โผ 26 แข้งเนเธอร์แลนด์ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยุสติน ไบจ์โลว์ / อายุ 24 / เฟเยนูร์ด / เล่นทีมชาติ 6 นัด
เรมโก้ พาสเฟียร์ / 39 / อาแจ็กซ์ / 2
อันเดรียส น็อพเพิร์ต / 28 / ฮีเรนวีน / 0

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ / 32 / อาแจ็กซ์ / 94 – 2
สเตฟาน เดอ ฟราย / 30 / อินเตอร์ / 59 – 3
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม) / 31 / ลิเวอร์พูล / 49 – 6
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ / 23 / บาเยิร์น / 38 – 2
เดนเซล ดุมฟรีส์ / 26 / อินเตอร์ / 37 – 5
นาธาน อาเก้ / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 29 – 3
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ / 21 / อาแจ็กซ์ / 10 – 0
ไทเรลล์ มาลาเซีย / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 0
เยเรมี่ ฟริมปง / 21 / เลเวอร์คูเซ่น / 0 – 0

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง / 25 / บาร์เซโลน่า / 45 – 1
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ / 30 / อาแจ็กซ์ / 39 – 2
ดาวี่ คลาสเซ่น / 29 / อาแจ็กซ์ / 35 – 9
มาร์เท่น เดอ รอน / 31 / อตาลันต้า / 30 – 0
เทน โคปไมเนอร์ส / 24 / อตาลันต้า / 10 – 1
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ / 20 / อาแจ็กซ์ / 2 – 0
ชาบี ซิมอนส์ / 19 / พีเอสวี / 0-0

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย / 28 / บาร์เซโลน่า / 81 – 42
ลุค เดอ ยอง / 32 / พีเอสวี / 38 – 8
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ / 25 / อาแจ็กซ์ / 24 – 7
วินเซนต์ ยานส์เซ่น / 28 / อันท์เวิร์ป / 20 – 7
วู้ท เวกอร์ทส์ / 30 / เบซิคตัส / 15 – 3
โคดี้ กัคโป / 23 / พีเอสวี / 9 – 3
โนอา ลัง / 23 / คลับ บรูช / 5 – 1

หลุดโผ
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (เอ็นอีซี), ทิม ครูล (นอริช), สเวน บ็อตมัน (นิวคาสเซิ่ล), ปาสกาล สเตราค์ (ลีดส์), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮานส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), ยอร์ดี้ คลาซี่ (อาแซด), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), ไรอัน กราเฟนเบิร์ค (บาเยิร์น), จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ดอนเยลล์ มาเลน (ดอร์ทมุนด์), อาร์โนต์ ดันยูม่า (บียาร์เรอัล), ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (อาแจ็กซ์)

 

 

 

สิงโตคำราม อังกฤษ กับฟุตบอลโลก 2022 และคำปรามาส
ท่ามกลางคำปรามาสที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเผชิญ อันที่จริง อดีตนายใหญ่มิดเดิ้ลโบรช์ ก็พา อังกฤษ เข้ารอบลึกมาแล้ว 2 รายการติดต่อกัน ทั้งฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกตัดเชือก (และเป็นอันดับ 4) ต่อด้วยยูโร 2020 ที่ถึงชิงมาแล้ว ก่อนแพ้อย่างหวุดหวิดมากๆ เพียงการดวลจุดโทษต่อ อิตาลี เท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลค่อนข้างเป็นกังวล คือฟอร์มช่วงหลังที่สิงโตออกทรงฟุบอย่างชัดเจน เอาชนะใครไม่เป็นเลยใน 6 เกมของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จนตกชั้น และน่าหวั่นเกรงว่าจะเร่งเครื่องฮึดขึ้นทันไหมเมื่อฟุตบอลโลก 2022 มาถึง

 

และกับขุมกำลัง 26 สิงโตคำราม ที่ เซาธ์เกต เลือกไป ก็ก่อให้เกิดคำถามในหลายจุดเหมือนกัน ตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด ทั้งการที่ยังคงเชื่อใจในจอมรั่วอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ถึงขั้นที่น่าจะยังคงยัดลงตัวจริงไม่เปลี่ยน, แดนกลางที่หิ้ว แคลวิน ฟิลลิปส์ ผู้ซึ่งเจ็บออดๆ แอดๆ มาทั้งซีซั่น ติดไปด้วย หรือข้างหน้าที่ไม่แคล้วคงต้องพึ่งพา แฮร์รี่ เคน เป็นสำคัญ

 

คำถามทั้งหมด จะปรากฏคำตอบในเกมกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์ และรอบถัดๆ ไป หากไม่เกิดข้อผิดพลาดหนักหนาจนร่วงรอบแรกแบบช็อกโลกไปเสียก่อน

 

โผ 26 แข้งอังกฤษ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. จอร์แดน พิคฟอร์ด / 28 / เอฟเวอร์ตัน / 45
13. นิค โป๊ป / 10 / นิวคาสเซิ่ล / 10
23. อารอน แรมส์เดล / 24 / อาร์เซน่อล / 3

กองหลัง
2. ไคล์ วอล์คเกอร์ / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 70 – 0
3. ลุค ชอว์ / 27 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 23 – 3
5. จอห์น สโตนส์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 59 – 3
6. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 7
12. คีแรน ทริปเปียร์ / 32 / นิวคาสเซิ่ล / 37 – 1
15. เอริก ไดเออร์ / 28 / สเปอร์ส / 47 – 3
16. โคเนอร์ คอดี้ / 29 / เอฟเวอร์ตัน / 10 – 1
18. เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ / 24 / ลิเวอร์พูล / 17 – 1
21. เบน ไวท์ / 25 / อาร์เซน่อล / 4 – 0

กองกลาง
4. ดีแคลน ไรซ์ / 23 / เวสต์แฮม / 34 – 2
8. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน / 32 / ลิเวอร์พูล / 70 – 2
14. แคลวิน ฟิลลิปส์ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 23 – 0
19. เมสัน เมาท์ / 23 / เชลซี / 32 – 5
22. จู๊ด เบลลิงแฮม / 19 / ดอร์ทมุนด์ / 17 – 0
26. โคเนอร์ กัลลาเกอร์ / 22 / เชลซี / 4 – 0

กองหน้า
7. แจ๊ค กรีลิช / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 24 – 1
9. แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม) / 29 / สเปอร์ส / 75 – 51
10. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง / 27 / เชลซี / 79 – 19
11. มาร์คัส แรชฟอร์ด / 25 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 46 – 12
17. บูกาโย่ ซาก้า / 21 / อาร์เซน่อล / 20 – 4
20. ฟิล โฟเด้น / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 18 – 2
24. คัลลั่ม วิลสัน / 30 / นิวคาสเซิ่ล / 4 – 1
25. เจมส์ แมดดิสัน / 26 / เลสเตอร์ / 1 – 0

หลุดโผ
ดีน เฮนเดอร์สัน (ฟอเรสต์), เบน ชิลเวลล์ (เชลซี), รีซ เจมส์ (เชลซี), ฟิคาโย่ โทโมรี่ (มิลาน), เจมส์ จัสติน (เลสเตอร์), ไทโรน มิงส์ (วิลล่า), ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เซาธ์แฮมป์ตัน), แอชลี่ย์ ยัง (วิลล่า), ไรอัน แซสเซยง (สเปอร์ส), ติโน่ ลอฟราเมนโต้ (เซาธ์แฮมป์ตัน), ทาริค แลมป์ตี้ย์ (ไบรท์ตัน), เคอร์ติส โจนส์ (ลิเวอร์พูล), เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), โอลิเวอร์ สคิปป์ (สเปอร์ส), แฮร์รี่ วิงค์ส (ซามพ์โดเรีย), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ลิเวอร์พูล), แอนโธนี่ กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน), แทมมี่ อบราแฮม (โรม่า), จาร์ร็อด โบเว่น (เวสต์แฮม), ไอแวน โทนี่ย์ (เบรนท์ฟอร์ด), โอลลี่ วัตกิ้นส์ (วิลล่า), แดนนี่ เวลเบ็ค (ไบรท์ตัน), เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ชุดนี้…ถึงแชมป์โลก???
ทั้งเอไอ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, โปรแกรมซิมูเลชั่นของเกมฟีฟ่า หรือการคาดหมายของหลากหลายกูรู ต่างก็ได้บทสรุปเดียวกันคือ แชมป์โลกประจำปีนี้ ได้แก่ ทีมชาติเมสซี่-เอ๊ย-ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่

 

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อมีความคาดหวังสูงขนาดนี้ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว จะสามารถนำโทรฟี่แชมป์โลกมาเสิร์ฟได้หรือไม่ เมื่ออย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายสิบปี (จากแชมป์โลกหนสุดท้าย 1986) ว่าพวกเขามักไม่ “ขาด” ก็ “ล้นเกิน” ในบางอย่างหรือบางจุด จนไม่ประสบความสำเร็จซ้ำรอยยุค ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้อีกเลย

 

แต่กระนั้น อาร์เจนติน่า ชุดนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” กำลังอยู่ในการต่อยอดสถิติไร้พ่ายให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งขุมกำลังที่ สคาโลนี่ เลือกมา ก็ดูจะไม่ได้ขาดอะไรไปนัก มีแค่ โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์บียาร์เรอัล ที่เป็นแกนหลักแดนกลางในรอบคัดเลือก ซึ่งต้องถอนตัวไปเนื่องจากบาดเจ็บ กับเด็กใหม่มาแรงอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ถูกเรียกตัว ทว่าอันที่จริงก็ไม่เคยติดธงมาก่อนแต่อย่างใด

 

โผ 26 แข้งอาร์เจนติน่า ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ / 30 / วิลล่า / 18
ฟรังโก้ อาร์มานี่ / 36 / ริเวอร์เพลท / 18
เคโรนิโม่ รุลลี่ / 30 / บียาร์เรอัล / 4

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ / 34 / เบนฟิก้า / 92 – 4
มาร์กอส อคุนย่า / 31 / เซบีย่า / 42 – 0
นิโกลัส ตายาฟิโก้ / 30 / ลียง / 42 – 0
เคร์มัน เปซเซลล่า / 31 / เรอัล เบติส / 31 – 2
นาอูเอล โมลิน่า / 24 / แอตฯ มาดริด / 19 – 0
กอนซาโล่ มอนเทียล / 25 / เซบีย่า / 17 – 0
ฮวน ฟอยธ์ / 24 / บียาร์เรอัล / 15 – 0
คริสเตียน โรเมโร่ / 24 / สเปอร์ส / 12 – 1
ลิซานโดร มาร์ติเนซ / 24 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 9 – 0

กองกลาง
เลอันโดร ปาเรเดส / 28 / ยูเวนตุส / 45 – 4
โรดริโก้ เด ปอล / 28 / แอตฯ มาดริด / 43 – 2
กีโด้ โรดริเกซ / 28 / เรอัล เบติส / 25 – 1
เอเซเกล ปาลาซิออส / 24 / เลเวอร์คูเซ่น / 20 – 0
อเลฮานโดร โกเมซ / 34 / เซบีย่า / 15 – 3
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ / 23 / ไบรท์ตัน / 7 – 0
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ / 21 / เบนฟิก้า / 2 – 0

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม) / 35 / เปแอสเช / 164 – 90
อังเคล ดิ มาเรีย / 34 / ยูเวนตุส / 123 – 25
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ / 25 / อินเตอร์ / 40 – 21
เปาโล ดีบาล่า / 29 / โรม่า / 34 – 3
นิโกลัส กอนซาเลซ / 24 / ฟิออเรนติน่า / 21 – 3
ฮัวกิน กอร์เรอา / 28 / อินเตอร์ / 18 – 3
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 11 – 2

หลุดโผ
ฮวน มุสโซ่ (อตาลันต้า), ลูคัส มาร์ติเนซ (ฟิออเรนติน่า), มาร์กอส เซเนซี่ (บอร์นมัธ), โจวานี่ โล เซลโซ่ (บียาร์เรอัล), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (วิลล่า), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), อังเคล กอร์เรอา (แอตฯ มาดริด), โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ตราไก่ ฝรั่งเศส กับหลายคำถามซึ่งต้องพิสูจน์
น่าสนใจ…น่าสนใจมากกับก้าวเดินของ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ เมื่อมีอย่างน้อย 4-5 คำถามที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ และบรรดาแข้งตราไก่ จะต้องตอบให้ได้ เช่นว่า

 

1. อาถรรพ์แชมป์เก่า ทั้ง อิตาลี, สเปน, เยอรมนี ต่างเอาตัวไม่รอด เป็นแชมป์โลกมาแล้วก็ร่วงเพียงรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ถัดมาทั้งหมด ฝรั่งเศสล่ะ จะเข้าทรงเดียวกันหรือเปล่า

 

2. ขุมกำลัง พร้อมจริงๆ ไหม เมื่อตัวเจ็บสำคัญ อดไปบอลโลกมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และล่าสุดกับ เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ เซนเตอร์แบ็กเปแอสเช ที่ต้องถอนตัวจากการศึกครั้งนี้ไป แถม คาริม เบนเซม่า กับ ราฟาแอล วาราน ที่่ต่างก็เป็นคีย์แมนในเกมรุกและรับ ยังบาดเจ็บติดพัน ไม่ได้ช่วย เรอัล มาดริด ตลอดสี่ซ้าห้าเกมหลังอีกต่างหาก

 

3. ความเปลี่ยนแปลง ที่มีค่อนข้างเยอะจากชุดแชมป์โลก จะส่งผลดีหรือเสีย อย่างน้อยแผงกลางทั้งแผง เปลี่ยนหมด หรือจากชุดลุยยูโร 2020 ก็มีแค่ อาเดรียง ราบิโอต์ คนเดียวที่หลงเหลือมาอยู่ในทีมชุดนี้

 

4. การต้องเจอทีมของแสลงอย่าง เดนมาร์ก อีกแล้ว หลังแพ้มาทั้งเหย้าเยือนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (1-2, 0-2) รอบปีที่ผ่านมา หากยังคงซ้ำแผลเก่า แพ้ทีมโคนมเป็นครั้งที่ 3 ติดกันขึ้นมา ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งร่วงรอบแรก หรือเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ไปเจอกระดูกชิ้นโตตั้งแต่รอบ 16 ทีม

 

5. ฟอร์มช่วงหลัง น่าเป็นห่วงใช่ย่อย ชนะเกม เนชั่นส์ ลีก แค่นัดเดียวเหนือ ออสเตรีย 2-0 นอกนั้นเสมอ 2 แพ้ 3 แม้ข้อดีคือการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก อย่างน้อยน่าผ่าน ออสเตรเลีย กับ ตูนิเซีย ได้ แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าไปเจอของแข็งในรอบน็อกเอาต์แล้ว ก็เสียวว่า เอ็มบัปเป้ และชาวคณะ จะไปไม่เป็น

 

โผ 26 แข้งฝรั่งเศส ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
อูโก้ โยริส / 35 / สเปอร์ส / 139
สตีฟ ม็องด็องด้า / 37 / แรนส์ / 34
อัลฟงส์ อเรโอล่า / 29 / เวสต์แฮม / 5

กองหลัง
ราฟาแอล วาราน / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 87 – 5
เบนชาแม็ง ปาวาร์ / 26 / บาเยิร์น / 46 – 2
ลูคัส เอร์นันเดซ / 26 / บาเยิร์น / 32 – 0
อักเซล ดิซาซี่ / 24 / โมนาโก / 0 – 0
ชูลส์ กุนเด้ / 24 / บาร์เซโลน่า / 12 – 0
เตโอ เอร์นันเดซ / 25 / มิลาน / 7 – 1
วิลเลี่ยม ซาลิบา / 21 / อาร์เซน่อล / 7 – 0
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ / 24 / บาเยิร์น / 7 – 1
อิบราฮิมา โกนาเต้ / 23 / ลิเวอร์พูล / 2 – 0

กองกลาง
อาเดรียง ราบิโอต์ / 27 / ยูเวนตุส / 29 – 2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ / 22 / เรอัล มาดริด / 14 – 1
มัตเตโอ เก็นดูซี่ / 23 / มาร์กเซย / 6 – 1
จอร์แดน เวเรตูต์ / 29 / มาร์กเซย / 5 – 0
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า / 20 / เรอัล มาดริด / 4 – 1
ยุสซูฟ โฟฟาน่า / 23 / โมนาโก / 2 – 0

กองหน้า
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ / 36 / มิลาน / 114 – 49
อองตวน กรีซมันน์ / 31 / แอตฯ มาดริด / 110 – 42
คาริม เบนเซม่า / 34 / เรอัล มาดริด / 97 – 37
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ / 23 / เปแอสเช / 59 – 28
คิงสลี่ย์ โกม็อง / 26 / บาเยิร์น / 40 – 5
อุสมัน เดมเบเล่ / 25 / บาร์เซโลน่า / 28 – 4
คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู / 25 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 8 – 0
มาร์คัส ตูราม / 25 / กลัดบัค / 4 – 0

หลุดโผ
ไมค์ เมนยอง (มิลาน), เบอนัวต์ คอสติล (โอแซร์), เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ (เปแอสเช), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เรอัล มาดริด), เบนชาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้), โชนาต็อง เคลาส์ (มาร์กเซย), ลูก้าส์ ดีญ (วิลล่า), เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม), บูบาการ์ กามาร่า (วิลล่า), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี), ปอล ป๊อกบา (ยูเวนตุส), สตีเว่น เอ็นซอนซี่ (อัล-รายยาน), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (อินเตอร์ ไมอามี่), นาบิล เฟคีร์ (เบติส), โตมัส เลอมาร์ (แอตฯ มาดริด), วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น)

 

 

 

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จากแชมป์โลกสู่รอบแรก, จากรอบแรกสู่…
ภายหลังเข้ามาสานต่องานของ โยอัคคิม เลิฟ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฮันซี่ ฟลิค ก็สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพอินทรีเหล็ก ด้วยการพาทีมชนะรวดถึง 7 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหนนี้ จนเป็นทีมแรกของยุโรปที่การันตีเข้ารอบสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม กับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในรอบปีที่ผ่านมา เยอรมนี ก็ถือว่าเสียรังวัดไปพอสมควร เมื่อกลับเอาชนะคู่แข่งได้แค่เกมเดียว (5-2 อิตาลี) นอกนั้นเสมอรัวๆ 4 เกม และแพ้พลิกล็อกคาบ้านต่อ ฮังการี หนึ่งนัด เรียกว่าพวกเขามุ่งหน้าสู่กาตาร์แบบที่ระดับความมั่นใจไม่ได้สูงมาก ทั้งยังต้องเสีย 2 คีย์แมนเกมรุกอย่าง มาร์โก รอยส์ จอมทัพดอร์ทมุนด์ กับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ล้มเจ็บอดไปบอลโลกทั้งคู่ด้วย

 

จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา, เริ่มต้นตั้งแต่รอบแรกที่ต้องอยู่ในสายแข็งร่วมกับ สเปน-ญี่ปุ่น-คอสตาริกา, ว่าถัดจากการร่วงรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ครั้งก่อนแล้ว อินทรีเหล็ก 2022 จะไปได้ไกลถึงไหน

 

โผ 26 แข้งเยอรมนี ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. มานูเอล นอยเออร์ / 36 / บาเยิร์น / 113
12. เควิน ทรัปป์ / 32 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 6
22. มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น / 30 / บาร์เซโลน่า / 30

กองหลัง
2. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ / 29 / เรอัล มาดริด / 54 -2
3. ดาวิด เราม์ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 11 – 0
4. มัทธีอัส กินเทอร์ / 28 / ไฟรบวร์ก / 46 – 2
5. ติโล เคห์เรอร์ / 26 / เวสต์แฮม / 22 – 0
15. นิคลาส ซูเล่ / 27 / ดอร์ทมุนด์ / 42 – 1
16. ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ / 26 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 18 – 0
20. คริสเตียน กุนเทอร์ / 29 / ไฟรบวร์ก / 6 – 0
23. นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค / 22 / ดอร์ทมุนด์ / 5 – 0
25. อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป / 20 / เซาธ์แฮมป์ตัน / 1 – 0

กองกลาง
6. โยชัว คิมมิช / 27 / บาเยิร์น / 70 – 5
7. ไค ฮาแวร์ตซ์ / 23 / เชลซี / 30 – 10
8. เลออน โกเร็ตซ์ก้า / 27 / บาเยิร์น / 44 – 14
11. มาริโอ เกิทเซ่ / 30 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 63 – 17
14. จามาล มูเซียล่า / 19 / บาเยิร์น / 17 – 1
17. ยูเลี่ยน บรันท์ / 26 / ดอร์ทมุนด์ / 38 – 3
18. โยนาส ฮอฟมันน์ / 30 / กลัดบัค / 16 – 4
21. อิลคาย กุนโดกัน / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 62 – 16

กองหน้า
9. นิคลาส ฟุลล์ครุก / 29 / เบรเมน / 0 – 0
10. แซร์จ นาบรี้ / 27 / บาเยิร์น / 36 – 20
13. โธมัส มุลเลอร์ / 33 / บาเยิร์น / 118 – 44
19. เลรอย ซาเน่ / 26 / บาเยิร์น / 47 – 11
24. คาริม อเดเยมี่ / 20 / ดอร์ทมุนด์ / 4 – 1
26. ยุสซูฟา มูโกโก้ / 18 / ดอร์ทมุนด์ / 0 – 0

หลุดโผ
แบร์นด์ เลโน่ (ฟูแล่ม), มัตส์ ฮุมเมิลส์ (ดอร์ทมุนด์), เยโรม บัวเต็ง (ลียง), โรบิน โกเซนส์ (อินเตอร์), เบนจามิน เฮนริกส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น), โรบิน ค็อก (ลีดส์), มาร์โก รอยส์ (ดอร์ทมุนด์), ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (เบนฟิก้า), ฟลอเรียน นอยเฮาส์ (กลัดบัค), ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล (กลัดบัค), ติโม แวร์เนอร์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก)

 

 

 

กระทิงดุ สเปน ในระบบเผด็จการของ หลุยส์ เอ็นริเก้
หนึ่งคือทรัพยากรนักเตะดีๆ ของ สเปน มีเยอะมาก และอีกหนึ่งก็คือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มีแนวทางและการตัดสินใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมาก ไม่สนกระแสสังคมใดๆ ทั้งสิ้น เราจึงได้เห็นแข้งสแปนิชตกขบวนอดไปฟุตบอลโลก 2022 อื้อซ่าตามรายชื่อด้านล่าง ชนิดไปรวมตัวเป็นอีกทีมได้ง่ายๆ

 

แต่ก็แน่นอนว่า การเลือกตัวแบบไม่ฟังเสียงใครของ เอ็นริเก้ ย่อมจะนำมาซึ่งความเสี่ยง ถ้าผลงานที่กาตาร์ไปได้สวย ก็รับเสียงปรบมือไป แต่ถ้าล้มเหลวขึ้นมา ไม่ต้องสงสัย… เละ

 

น่าสนใจมากเสียด้วยกับการที่ต้องอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย เจองานหนักทุกนัดในรอบแรก ไล่ตั้งแต่กับ คอสตาริกา ไปต่อกับ เยอรมนี ปิดท้ายด้วยเกมกับ ญี่ปุ่น

 

กระทิงดุในระบบเผด็จการของ เอ็นริเก้ จะออกหัวออกก้อย เดี๋ยวรู้กัน — เริ่มตั้งแต่รอบแรกนี่เลย!

 

โผ 26 แข้งสเปน ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
อูไน ซิมอน / 25 / บิลเบา / 27
โรเบิร์ต ซานเชซ / 25 / ไบรท์ตัน / 1
ดาบิด ราย่า / 27 / เบรนท์ฟอร์ด / 1

กองหลัง
จอร์ดี้ อัลบา / 33 / บาร์เซโลน่า / 86 – 9
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า / 33 / เชลซี / 41 – 1
ดานี่ การ์บาฆัล / 30 / เรอัล มาดริด / 30 – 0
เปา ตอร์เรส / 25 / บียาร์เรอัล / 21 – 1
โฆเซ่ กาย่า / 27 / บาเลนเซีย / 18 – 3
เอริก การ์เซีย / 21 / บาร์เซโลน่า / 18 – 0
อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 15 – 1
อูโก้ กียามอน / 22 / บาเลนเซีย / 3 – 1

กองกลาง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ / 34 / บาร์เซโลน่า / 139 – 2
โกเก้ / 30 / แอตฯ มาดริด / 67 – 0
โรดรี้ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 34 – 1
มาร์กอส ยอเรนเต้ / 27 / แอตฯ มาดริด / 17 – 0
เปดรี้ / 19 / บาร์เซโลน่า / 14 – 0
กาบี / 18 / บาร์เซโลน่า / 12 – 1
คาร์ลอส โซเลร์ / 25 / เปแอสเช / 11 – 3

กองหน้า
อัลบาโร่ โมราต้า / 30 / แอตฯ มาดริด / 57 – 27
เฟร์ราน ตอร์เรส / 22 / บาร์เซโลน่า / 30 – 13
มาร์โก อเซนซิโอ / 26 / เรอัล มาดริด / 29 – 1
ปาโบล ซาราเบีย / 30 / เปแอสเช / 24 – 9
ดานี่ โอลโม่ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 24 – 4
เยเรมี่ ปิโน่ / 20 / บียาร์เรอัล / 6 – 1
อันซู ฟาติ / 20 / บาร์เซโลน่า / 4 – 1
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ / 20 / บิลเบา / 2 – 0

หลุดโผ
ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (ลีดส์), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), อเลฆานโดร บัลเด้ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), เซร์จี้ โรเบร์โต้ (บาร์เซโลน่า), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), มิเกล เมริโน่ (โซเซียดัด), เซร์คิโอ กานาเลส (เบติส), แบรส เมนเดซ (โซเซียดัด), ปาโบล ฟอร์นัลส์ (เวสต์แฮม), บราฮิม ดิอาซ (มิลาน), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด), ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า), เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล), ราอูล เด โตมัส (ราโย บาเยกาโน่)

 

 

 

ปีศาจแดง เบลเยียม กับยุคทองหนสุดท้าย
อย่างที่ได้เอ่ยถึงไปแล้วใน คำให้การของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ว่า เบลเยียม ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ด้วยเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ กับการเป็น เวิลด์ คัพ หนสุดท้ายของยุคทอง เบลเจี้ยน โกลเด้น เจเนอเรชั่น เนื่องจากอีก 4 ปีข้างหน้า ยังไม่รู้ว่าพวก เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ติโบต์ กูร์กตัวส์, โรเมลู ลูกากู จะยังพร้อมรับใช้ชาติอยู่หรือไม่

 

รอบแรก ไม่น่าใช่ปัญหา แข็งหน่อยมี โครเอเชีย แต่ก็ยังแข็งไม่เท่าพวกเขา ส่วนอีกสองคู่แข่งอย่าง แคนาดา กับ โมร็อกโก ทิศทางออกไปในทางว่า จะชนะมากหรือชนะน้อย ดังนั้น คงต้องจับตาดูต่อในรอบน็อกเอาต์ ทีละแมตช์ ทีละก้าว

 

สำหรับขุมกำลังที่ มาร์ติเนซ เลือกมา ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไร แค่น่าเป็นห่วงที่ความฟิตของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งได้เล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ไปแค่ 5 นัดในซีซั่นนี้ รวมถึงการเรื้อสนามของ เอแด็น อาซาร์ ที่ช่วงหลังกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ในแนวรุกเรอัล มาดริด ไปแล้ว จะส่งผลเสียมากน้อยประการใด

 

โผ 26 แข้งเบลเยียม ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
ติโบต์ กูร์กตัวส์ / 30 / เรอัล มาดริด / 96
ซิมง มินโยเล่ต์ / 34 / คลับ บรูช / 35
โคเอน คาสตีลส์ / 30 / โวล์ฟสบวร์ก / 4

กองหลัง
ยาน แฟร์ตองเก้น / 35 / อันเดอร์เลทช์ / 141 – 9
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ / 33 / อันท์เวิร์ป / 123 – 5
โธมัส มูนิเยร์ / 31 / ดอร์ทมุนด์ / 58 – 8
ทิโมธี คาสตันเย่ / 26 / เลสเตอร์ / 25 – 2
อาร์เธอร์ เธียเต้ / 22 / แรนส์ / 3 – 0
เซโน่ เดบาสต์ / 19 / อันเดอร์เลทช์ / 2 – 0
วู้ท ฟาเอส / 24 / เลสเตอร์ / 1 – 0

กองกลาง
อักเซล วิตเซล / 33 / แอตฯ มาดริด / 126 – 12
เควิน เดอ บรอยน์ / 31 / แมนฯ ซิตี้ / 93 – 25
ยานนิค การ์รัสโก้ / 29 / แอตฯ มาดริด / 59 – 8
ยูรี่ ตีเลอมันส์ / 25 / เลสเตอร์ / 54 – 5
เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ / 27 / วิลล่า / 29 – 1
ฮานส์ ฟานาเก้น / 30 / คลับ บรูช / 22 – 5
เลอันโดร ทรอสซาร์ / 27 / ไบรท์ตัน / 21 – 5
ชาร์ลส์ เด คาตาแลร์ / 21 / มิลาน / 10 – 1
อมาดู โอนาน่า / 21 / เอฟเวอร์ตัน / 2 – 0

กองหน้า
เอแด็น อาซาร์ / 31 / เรอัล มาดริด / 122 – 33
ดรีส เมอร์เท่นส์ / 35 / กาลาตาซาราย / 106 – 21
โรเมลู ลูกากู / 29 / อินเตอร์ / 102 – 68
มิชี่ บัตชูอายี่ / 29 / เฟเนร์บาห์เช่ / 47 – 26
ธอร์แกน อาซาร์ / 29 / ดอร์ทมุนด์ / 45 – 9
เยเรมี่ โดกู / 20 / แรนส์ / 10 – 2
โลอิส โอเพ็นด้า / 22 / ล็องส์ / 4 – 1

หลุดโผ
มัตซ์ เซลส์ (สตราส์บูร์ก), เจสัน เดนาเยอร์ (ชาบับ อัล-อาห์ลี), เดดริค โบยาต้า (คลับ บรูช), โธมัส โฟเก็ต (แร็งส์), อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส (มิลาน), เดนนิส ปราเอ้ต์ (เลสเตอร์), อัลแบร์ แซมบี้ โลกอนก้า (อาร์เซน่อล), นาเซอร์ ชาดลี่ (เวสเตอร์โล), คริสเตียน เบนเตเก้ (ดีซี ยูไนเต็ด), ดิว็อค โอริกี้ (มิลาน), อัดนาน ยานาไซ (เซบีย่า)

 

 

 

โปรตุเกส กับบอลโลกครั้งสั่งลา CR7
สั่นสะเทือนวงการดีเหลือเกินกับการทิ้งระเบิดลูกนาปาล์มเดธของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านการให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีของอังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นตอนนี้ คือเรื่อง ฟุตบอลโลก 2022 การช่วยชาติไปให้ถึงฝั่งฝัน — ที่น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของชายวัยย่าง 38 อย่าง โรนัลโด้ ด้วย

 

ว่ากันตามตรง ชื่อนักเตะชุดลุยกาตาร์ของ แฟร์นันโด ซานโตส แข็งแกร่งน่าเกรงขามไม่เบา ดูหนั่นแน่นตั้งแต่หลังสุดมาหน้าสุด โดยเฉพาะเกมรุกที่เลือกลำบากเลย เมื่อคงต้องกันโควตาหนึ่งที่ไว้ให้ โรนัลโด้ ส่วนที่เหลือ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ราฟาแอล เลเอา (เอซี มิลาน) ไปแย่งกันเอา

 

แต่ก็ต้องว่ากันตามตรงเพิ่มอีกว่า โปรตุเกส มีสิทธิ์จะแข็งขึ้นกว่านี้อีก ถ้าบรรดาตัวที่หลุดไปอย่าง มาริโอ รุย, เซดริก โซอาเรส, เนลซอน เซเมโด้, ชูเอา มูตินโญ่, เรนาโต้ ซานเชส, เปโดร เนโต้, กอนซาโล่ เกเดส ไม่นับ ดีโอโก้ โชต้า (บาดเจ็บ) ถูกหอบหิ้วไปกาตาร์ด้วย

 

แน่นอน ก็คงต้องตามดูกันว่า การตัดสินใจของ แฟร์นันโด ซานโตส ในการเลือกจิ้มขุมกำลังมาแบบนี้ จะปรากฏผลในท้ายที่สุดว่าอย่างไร

 

โผ 26 แข้งโปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
รุย ปาตริซิโอ / 34 / โรม่า / 104
ดีโอโก้ คอสต้า / 23 / ปอร์โต้ / 7
โชเซ่ ซา / 29 / วูล์ฟส์ / 0

กองหลัง
เปเป้ / 39 / ปอร์โต้ / 128 – 7
ดานิโล เปเรยร่า / 31 / เปแอสเช / 63 – 2
ราฟาแอล เกร์เรยโร่ / 28 / ดอร์ทมุนด์ / 56 – 3
รูเบน ดิอาส / 25 / แมนฯ ซิตี้ / 39 – 2
ชูเอา กันเซโล่ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 37 -7
นูโน่ เมนเดส / 20 / เปแอสเช / 16 – 0
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 2
อันโตนิโอ ซิลวา / 19 / เบนฟิก้า / 0 – 0

กองกลาง
วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / 30 / เบติส / 75 – 5
แบร์นาร์โด้ ซิลวา / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 72 – 8
ชูเอา มาริโอ / 29 / เบนฟิก้า / 52 – 2
บรูโน่ แฟร์นันเดส / 28 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 9
รูเบน เนเวส / 25 / วูล์ฟส์ / 32 – 0
ชูเอา ปาลินญ่า / 27 / ฟูแล่ม / 15 – 2
มาเตอุส นูเนส / 24 / วูล์ฟส์ / 9 – 1
โอตาวิโอ / 27 / ปอร์โต้ / 7 – 2
วิตินญ่า / 22 / เปแอสเช / 4 – 0

กองหน้า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / 37 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 191 – 117
อันเดร ซิลวา / 27 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 51 – 19
ชูเอา เฟลิกซ์ / 23 / แอตฯ มาดริด / 23 – 3
ราฟาแอล เลเอา / 23 / มิลาน / 11 – 0
ริคาร์โด้ ออร์ต้า / 28 / บราก้า / 5 – 1
กอนซาโล่ รามอส / 21 / เบนฟิก้า / 0 – 0

หลุดโผ
อันโธนี่ โลเปส (ลียง), รุย ซิลวา (เบติส), มาริโอ รุย (นาโปลี), โดมิงกอส ดูอาร์เต้ (เคตาเฟ่), โชเซ่ ฟอนเต้ (ลีลล์), เซดริก โซอาเรส (อาร์เซน่อล), เนลซอน เซเมโด้ (วูล์ฟส์), ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์), เรนาโต้ ซานเชส (เปแอสเช), ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล), เปโดร เนโต้ (วูล์ฟส์), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง)

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Olympics

 

 

เรื่องน่าอ่าน
• บราซิลลิ่วแชมป์โลก…? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022
• และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
• เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว : สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022 บ้างแล้ว?

นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะตราไก่ที่จะมาล้างอาถรรพ์แชมป์โลกในฟุตบอลโลก 2022

ก่อนถึงฟุตบอลโลก 2022 แชมป์โลกฝรั่งเศสประเดิมการแข่งขันยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ในแบบที่ไม่สวยงามนัก และกับการมาป้องกันแชมป์ ดิดิแย่ร์ เดส์ชองส์ โค้ชของทีมตราไก่ ก็ต้องเจอกับปัญหาขาดดาวเตะคนสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ อย่าง ปอล ป็อกบา และเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทำให้ฝรั่งเศสมีแววโดนอาถรรพ์แชมป์โลกเล่นงาน แต่หากกวาดตาดูรายชื่อนักเตะตราไก่ที่เดส์ชองส์พามากาตาร์ ก็มีดีมากพอที่จะล้างอาถรรพ์เช่นกัน ทั้งที่เป็นนักเตะหน้าเก่า และดาวเตะหน้าใหม่ ที่จะได้สัมผัสกับฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก

นายประตูคนสำคัญหนึ่งในนักเตะตราไก่ชุดแชมป์โลก

อูโก้ โญริส นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

อูโก้ โญริส นักเตะตราไก่ที่ดิดิแย่ร์ เดส์ชองส์ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนแล้วว่า จะยังคงเป็นมือหนึ่งของทีมที่กาตาร์ 2022 (ภาพ: www.beinsports.com)

อูโก้ โญริส ตำแหน่ง: ผู้รักษาประตู อายุ: 35
นักเตะตราไก่ทั้งในทีมชาติและสโมสร เมื่อสังกัดทีมตราไก่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ดิดิแย่ร์ เดส์ชองส์ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนแล้วว่า จะยังคงเป็นมือหนึ่งของทีมที่กาตาร์ 2022 และทำให้สถิติติดธง 193 นัดของโญริสเพิ่มสูงขึ้นอีกแน่นอน รวมถึงจะทำให้เขากลายเป็นนักเตะตราไก่ที่ติดทีมชาติมากที่สุด เหนือลิลิยง ตูราม ที่ทำไว้ 142 เกม และน่าจะเป็นเจ้าของสถิติติดทีมชาติสูงสุดคนใหม่ เมื่อดูจากฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในระดับชาติ ที่แม้จะได้ชูถ้วยแชมป์โลกมาแล้ว โญริสยังคงเล่นได้ดีอย่างต่อเนื่อง เหมือนที่เคยเป็นในช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา

ผู้บัญชาการแนวรับของทีมนักเตะตราไก่

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

ราฟาเอล วาราน ตำแหน่ง: เซนเตอร์แบ็ค อายุ: 29 ปี
หลังเป็นหัวใจในแดนหลังของเรอัล มาดริดมานาน ราฟาเอล วารานมาหาความท้าทายในพรีเมียร์ชิพ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฤดูกาลแรกเป็นไปได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ ทีมได้ไปแค่ยูเอฟ่า ยูโรป้าลีก ส่วนตัวเองก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ จนลงเล่นในลีกได้แค่ 22 นัด ซึ่งต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 2014-15 ที่ได้เห็นวารานลงเล่นด้วยจำนวนนัดจุ๋มจิ๋มแค่นี้ แต่กับการประเดิมฤดูกาลใหม่กับทีมผีแดงได้ดีอย่างเห็น ทำให้แฟน ๆ เชื่อมั่นได้ว่า นักเตะตราไก่รายนี้ยังคงเป็นแกนหลักในแนวรับของทีม แม้อาการบาดเจ็บจะยังเล่นงาน จนไม่น่าจะลงสนามในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2022 ได้ทัน แต่เดสชองส์ก็เชื่อมั่นว่า ทีมจะผ่านไปในรอบต่อไปได้ และวารานจะยังเป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยจำนวนนัดในทีมชาติ 86 นัด คว้าแชมป์โลก กับเป็นแชมป์แชมเปี้ยนลีก 4 สมัย รวมถึงเป็นเจ้าของสถิติกัปตันทีมชาติที่อายุน้อยที่สุด 21 ปีกับ 6 เดือน ประสบการณ์อันข้นคลั่กของวาราน จะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน

นักเตะตราไก่ดาวรุ่ง ที่จะเป็นหัวใจในแดนกลาง

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ นักเตะตราไก่รายนี้ผ่านทีมชุดเยาวชนตราไก่มาทุกชุด กับการที่ป็อกบาและก็องเต้บาดเจ็บจนติดทีมมาไม่ได้ เขาคือกองกลางคนสำคัญในทีมของเดส์ชองส์ (ภาพ: Getty Images)

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ตำแหน่ง: กองกลาง อายุ: 22 ปี
ดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมเลส เบลอส์ ด้วยวัยเพียง 22 ปี ชูอาเมนี่สร้างความประทับใจให้กับหลาย ๆ คนได้จากฟอร์มการเล่น และความคิดที่โตเกินวัย ทำให้เขาอยู่ในลีกเอิงได้ไม่นาน และราชันย์ชุดขาว เรอัล มาดริด ก็คว้าตัวชูอาเมนี่ไปครองในที่สุด ซึ่งนักเตะตราไก่รายนี้ก็ยังพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นนักเตะคนสำคัญในทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ การได้ติดธงทีมชุดใหญ่ ได้มากาตาร์ ของชูอาเมนี่คือการเติบโตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนของนักเตะที่ลงเล่นเกมทีมชาติชุดใหญ่นัดแรกเมื่อ 1 กันยายน 2021 ที่ทีมตราไก่เจอกับบอสเนีย แอนด์เฮอร์เวโกวินา โดยนักเตะตราไก่รายนี้ผ่านทีมชุดเยาวชนตราไก่มาทุกชุด กับการที่ป็อกบาและก็องเต้ได้รับบาดเจ็บจนติดทีมมาไม่ได้ ชูอาเมนี่คือกองกลางคนสำคัญในทีมของเดส์ชองส์ ที่ด้วยการทำงานหนัก มีสภาพร่างกายแข็งแกร่ง และคุณภาพในการเล่นเกมรับ แฟน ๆ ก็พอจะฝากความหวังไว้ที่เขาได้เช่นกัน

นักเตะตราไก่เจ้าของตำแหน่งดาวรุ่งของฟุตบอลโลกหนที่แล้ว

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะตราไก่ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ไปแล้ว นับตั้งแต่แจ้งเกิดแบบปัง ๆ ที่รัสเซีย และในฟุตบอลโลก 2022 เขาคือกองหน้าตัวหลักของเดส์ชองส์แน่ ๆ (ภาพ: Franck Fife/AFP/Getty Images)

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ตำแหน่ง: กองหน้า อายุ: 23 ปี
กองหน้าคนสำคัญที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ที่ยังประสบความสำเร็จในระดับสโมสรไม่แพ้กัน เมื่อคว้าแชมป์ลีกกับปารีส แซงต์-แฌร์แม็ง มาแล้วถึง 5 ครั้ง และเป็นผู้เล่นคนแรกที่เป็นเจ้าของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดและแอสซิสต์มากที่สุดในฤดูกาลเดียวกัน กับฤดูกาลล่าสุด นักเตะตราไก่ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ไปแล้ว อาจจะเริ่มได้ไม่สวยสักเท่าไหร่ เมื่อทำยิงได้แค่ 4 ประตูจากการลงเล่นในช่วงแรก ๆ แต่กับทีมชาติสถิติของเอ็มบัปเป้ มีความต่อเนื่องเอามาก ๆ นับตั้งแต่แจ้งเกิดแบบปัง ๆ ที่รัสเซีย ด้วยสถิติ 23 ประตูจาก 27 นัด และในฟุตบอลโลก 2022 เขาคือกองหน้าตัวหลักของเดส์ชองส์แน่ ๆ และตัวเลขติดทีมชาติของเขาต้องเพิ่มจาก 57 นัดไปอีกไกล แล้วในเรื่องการยิงประตู สถิติของเธียรี่ อองรีที่ยิง 51 ประตูให้ทีมชาติ ไม่น่าจะอยู่ได้นานนัก เพราะหากเทียบในช่วงอายุเท่ากัน อดีตตำนานดาวเตะของอาร์เซน่อลทำได้แค่ 8 ประตูให้กับทีมตราไก่เท่านั้นเอง

นักเตะตราไก่เจ้าของลูกบอลทองคำคนล่าสุด

คาริม เบนเซม่า นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

คาริม เบนเซม่า นักเตะตราไก่คนล่าสุดที่คว้ารางวัลลูกบอลทองคำ หลังจากหลุดจากทีมชาติมานานจากคดีฉาว เบนเซม่ากลายมาเป็นหัวใจสำคัญในทีมชาติ (ภาพ: Twitter (@EURO2024))

คาริม เบนเซม่า ตำแหน่ง: ศูนย์หน้าอายุ: 34 ปี
ดาวเตะอีกรายจากเรอัล มาดริด ที่จบฤดูกาล 2021-22 ได้สวย ๆ อย่างกับความฝัน เมื่อเข้าคว้าแชมป์ที่ห้าให้ตัวเอง ทั้งฟุตบอลลีกและแชมเปี้ยนลีก บวกับถ้วยสแปนิช ซูเปอร์คัพใบที่ 4 แล้วยังได้รางวัลส่วนตัว ดาวยิงสูงสุดของลาลีก้า 27 ประตู ดาวยิงสูงสุดของแชมเปี้ยนลีก 15 ประตู ก่อนที่จะสานต่อรอยเท้าของซีเนอดีน ซีดาน ด้วยการเป็นนักเตะตราไก่คนล่าสุดที่คว้ารางวัลลูกบอลทองคำ หลังจากหลุดจากทีมชาติมานานจากคดีฉาว เบนเซม่ากลายมาเป็นหัวใจสำคัญในทีมชาติ และทำประตูได้ถึง 10 ประตูตั้งแต่กลับมาติดชาติทีมอีกครั้ง ด้วยถิติ 37 ประตูจากการลงเล่มทีมชาติ เดส์ชองส์น่าจะวางให้เบนเซม่าเป็นศูนย์หน้าตัวหลักของทีมที่กาตาร์ แม้จะเว้นวรรคจากการลงสนามในระดับชาติไปพักใหญ่ แต่ด้วยสถิติติดธง 97 นัด และผ่านเกมระดับท็อปในระดับสโมสรมากมาย เบนเซม่าน่าจะตอบแทนความไว้ใจของเดส์ชองส์ได้สบาย ๆ แน่นอน

ด้วยนักเตะตราไก่เหล่านี้…. บางทีอาถรรพ์แชมป์โลกอาจจะต้องหยุดทำงานในปีนี้

ข้อมูล: FIFA
ภาพปก: www.beinsports.comAndrew Surma/NurPhoto via Getty ImagesGetty ImagesFranck Fife/AFP/Getty ImagesTwitter (@EURO2024)
เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ปัญหาของแชมป์โลก ฝรั่งเศส ที่ต้องจัดการก่อนนัดแรกฟุตบอลโลก 2022
2. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้
3. ปอล ป็อกบา ปัญหาบทที่ 2 ของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2022

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้...คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022

เจ็บปวดกว่าโดนหมางเมิน คือการที่รู้ว่าตัวเองมีที่ยืนเต็มเท้าอยู่แล้วแท้ๆ ในทีม แต่กลับโดนขวางไว้ไม่ให้ไปฟุตบอลโลก 2022 ด้วยเรื่องของโชคชะตา…อาการบาดเจ็บที่ไม่เข้าใครออกใคร

 

หากว่าเป็นฟุตบอลโลกปกติเหมือนที่เคยเป็นมา เวลานี้ แทบทุกอย่างในโลกลูกหนังจะหยุดพัก หยุดนิ่งแล้ว (คงเหลือแค่การเข้าแคมป์เตรียมทีม) เพื่อรอการมาถึงของ เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เสียงนกหวีดแรกของมหกรรมลูกหนังโลกที่รอคอย ก็จะดังขึ้น

 

ทว่าก็อย่างที่ทราบกัน นี่คือ ฟุตบอลโลกครั้งพิเศษใส่ไข่ เตะกันตอนปลายปีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นเกมระดับสโมสรที่ต้องหลีกทางให้ แม้จะต้องพักรบกันกลางศึกสงครามก็ตาม

 

อย่างที่บอก ถ้าเป็นบอลโลกปกติ ซีซั่นจะปิดลงแล้ว ทุกทีมเริ่มเข้าแคมป์เก็บตัวแล้ว และไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจากปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อนในสนามซ้อม

 

แต่ในเมื่อเป็นบอลโลกครั้งสุดพิเศษ ก็ทำให้ทั้งฟุตบอลลีกยุโรปแทบทุกประเทศ ไปจนถึงฟุตบอลถ้วยของบางแห่ง ยังคงโรมรันพันตูกันอย่างซีเรียสเคร่งเครียด โดยจะหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022 เพียง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เท่านั้น

 

สิ่งที่ตามมาจากเรื่องนี้ ก็คือการที่นักเตะหลายรายสาดแข้งกันจนสะบักสะบอม และทยอยล้มเจ็บอย่างโชคร้าย จนมีหลายรายเหลือเกินที่จะทำได้แค่ดูบอลโลกที่กาตาร์ ผ่านจอทีวีไม่ต่างจากเราๆ ท่านๆ

รวมรายชื่อนักเตะคนดังที่ไม่ได้ไป บอลโลก 2022

ถึงตรงนี้มีใครบ้างที่ทั้งอดไปชัวร์ๆ และอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยงต้องลุ้นใจหาย FIFA2022match.com รวบรวมเอาไว้แล้วตรงนี้…

รายชื่อนักเตะอังกฤษ
วืดชัวร์ : เบน ชิลเวลล์
สุ่มเสี่ยง : รีซ เจมส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, บูกาโย่ ซาก้า, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน

 

ยืนยันจากทาง เชลซี แล้วว่า วิงแบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ จะไม่ได้ไปแอ่ว กาตาร์ ในฐานะลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ภายหลังมีการตรวจปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงที่เจ้าตัวได้รับจากเกมถ้วยยุโรปอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ใช่เรื่องขำๆ แบบพัก 3-4 วันหายแต่อย่างใด

 

ส่วน รีซ เจมส์ ก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ด้วยปัญหาบาดเจ็บเข่าที่ได้รับจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน แต่ดูจะเบากว่าเพื่อนร่วมค่ายหน่อย ยังมีลุ้นได้ไปบอลโลก

 

ด้าน ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังคนสำคัญจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พักแข้งมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ แต่เจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะเรียกฟิตทันติดธงสิงโต เช่นเดียวกับ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่หลังย้ายจาก ลีดส์ สู่ แมนฯ ซิตี้ แล้วก็เจ็บออดๆ แอดๆ จนได้เล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น ก็ยังเชื่อว่าตัวเองยังอยู่ในข่ายพิจารณาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

 

ขณะที่ บูกาโย่ ซาก้า ออกจากสนามนัดที่ อาร์เซน่อล ชนะ ฟอเรสต์ 5-0 เมื่อสิ้นเดือน ต.ค. หลังเล่นไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทว่าก็ฟิตลงสำรองในเกมกับ เอฟซี ซูริค ได้ใน 4 วันให้หลัง ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการไปฟุตบอลโลก 2022

 

โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน หัวหอกเอฟเวอร์ตัน ก็เจ็บแฮมสตริง จนต้องออกจากสนามตอนกลางครึ่งหลังเกมแพ้ เลสเตอร์ 0-2 และจะต้องเข้ารับการสแกนอย่างละเอียดต่อไปเพื่อประเมินว่า ฟุตบอลโลก 2022 ยังเป็นไปได้สำหรับศูนย์หน้าวัย 25 อยู่หรือไม่

 

แต่สำหรับทาง ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ฟูลแบ็กจากเซาธ์แฮมป์ตัน แม้บาดเจ็บแฮมสตริงไม่หนักมาก แต่การที่แทบไม่อยู่ในสารบบทีมชาติ ที่ผ่านมาเคยเล่นให้อังกฤษแค่ 2 นัดเท่านั้น ทำให้โอกาสถูกคัดทิ้งมีมากกว่าได้ไป

 

 

รายชื่อนักเตะฝรั่งเศส
วืดชัวร์ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, บูบาการ์ กามาร่า
สุ่มเสี่ยง : เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลูคัส เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

แชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2018 อาการเพียบสุดในบรรดาทีมหัวแถวตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ภายหลังส่อแววไม่สู้ดีมาตั้งแต่คิวเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก หนล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ที่มีกลุ่มแข้งบาดเจ็บครึ่งค่อนทีม

 

ยืนยันแล้วว่า 2 คีย์แมนแดนกลางทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จากเชลซี และ ปอล ป๊อกบา จากยูเวนตุส ต่างต้องตกขบวน อดไปช่วยตราไก่ป้องกันแชมป์โลกอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อรายแรกต้องเข้าผ่าตัดแฮสมตริง ส่วนรายหลังผ่าตัดเข่ามาแล้วพักใหญ่ แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับการเรียกความฟิตจนถึงระดับ จนซีซั่นนี้ยังไม่ได้เล่นให้ ยูเว่ แม้แต่เกมเดียว

 

ส่วน บูบาการ์ กามาร่า กองกลางดาวรุ่งวัย 22 จากแอสตัน วิลล่า เข่าพังหลังเล่นให้สิงห์ผงาดไปแค่ 8 นัด บอลโลกครั้งนี้จึงเป็นได้แค่ผู้ชม

 

ยังมีกลุ่มสุ่มเสี่ยง ต้องรักษาตัวและเรียกฟิตให้ทันเวลาอีกหลายราย ไม่ว่าจะ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (เชลซี), ลูคัส เอร์นันเดซ (บาเยิร์น) และ ราฟาแอล วาราน กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งคู่) ที่ ณ ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ด้วยว่าจะพร้อมหรือไม่

 

 

รายชื่อนักเตะบราซิล
วืดชัวร์ : อาร์ตูร์ เมโล่
สุ่มเสี่ยง : ริชาร์ลิซอน, เบรเมอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

เส้นกราฟชีวิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ คล้อยลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่อำลา บาร์เซโลน่า ไปเล่นกับ ยูเวนตุส อย่างเซอร์ไพรส์เมื่อสองปีก่อน จนซีซั่นนี้ถูกส่งยืมมา ลิเวอร์พูล ก็ยังแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไร ลงสนามไปนัดเดียวถ้วน และใกล้ชิดกับห้องพยาบาลมากกว่าสนามฟุตบอล เมื่อมีปัญหาบาดเจ็บต้นขา โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยว่ามิดฟิลด์วัย 26 อาการ “ค่อนข้างซีเรียส” และ “ต้องพักยาว” ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

ฝั่ง ริชาร์ลิซอน หนึ่งในตัวความหวังแนวรุกของ ลา เซเลเซา (ลงสนาม 38 นัดซัดแล้ว 17 ประตู) บาดเจ็บจากเกม สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อ 15 ต.ค. แต่ทั้งเจ้าตัวและ อันโตนิโอ คอนเต้ ยังมองแง่ดีว่าจะเรียกฟิตทันไป เวิลด์ คัพ

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเจ้าของค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ล่าสุดไม่ได้อยู่ในทีม แอสตัน วิลล่า ชุดเปิดบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และจะไม่พร้อมเล่นนัดหน้าด้วย แม้ยังไม่ทราบระยะพักที่แน่ชัดแต่ก็มากพอที่จะสั่นคลอนโอกาสไปบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า คูตินโญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในทีมของ ตีเต้ บ่อยนักด้วย สองปีหลังได้รับใช้ชาติแค่ 5 นัดเท่านั้น ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงทีเดียวที่จะถูกกาชื่อทิ้ง 

 

สำหรับ เบรเมอร์ เซนเตอร์แบ็กยูเวนตุส พลาดช่วยทีมมา 5-6 เกมแล้ว แม้คาดหมายว่าจะฟิตทันเกมสัปดาห์นี้ แต่ด้วยการที่ ติเต้ มีตัวเลือกเซนเตอร์แซมบ้าในมืออยู่ไม่น้อย ก็ทำให้เสี่ยงมากว่าอดีตแข้งโตริโน่จะอดไปบอลโลกในที่สุด

 

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, เลอันโดร ปาเรเดส, คริสเตียน โรเมโร่, ลิโอเนล เมสซี่

 

แม้ในระดับชาติ เปาโล ดีบาล่า ยังจะไม่ค่อยฉายแสงเท่าที่ควรจะเป็น ยิงได้แค่ 3 ลูกจากการลงสนาม 34 นัด แต่ด้วยชื่อชั้นและคุณภาพฝีเท้า มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เพียงแต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อย ภายหลังดาวเตะวัย 28 ดวงแตก เจ็บต้นขาไปเองระหว่างยิงจุดโทษให้กับ โรม่า

 

รายงานจากสื่อ ณ ตอนนี้ ยังออกไปในทางเห็นแย้งกัน ฝั่งหนึ่งบอกว่า ดีบาล่า จะฟิตทันกลับมาเล่นให้ โรม่า ได้ในเกมสุดท้ายช่วงสัปดาห์หน้า ดังนั้นก็ยังได้ลุ้นไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ แต่อีกฝั่งก็บอกว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ ตัดสินใจปล่อยนักเตะพักแล้ว และจะเลือกจิ้มกองหน้าคนอื่นที่ฟิตกว่า ไปบอลโลกแทน

 

ในราย อังเคล ดิ มาเรีย ตัวเก๋าวัย 34 จากยูเวนตุส เจ็บต้นขา แต่ยังถูกคาดหมายว่าจะไปช่วยงานทีมชาติได้ทันเวลา รวมถึง เลอันโดร ปาเรเดส กับ คริสเตียน โรเมโร่ ก็ไม่ได้เจ็บหนัก ยังเชื่อว่าจะฟิตทัน

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดดาวเตะผู้เป็นแทบทุกอย่างในความหวังสอยแชมป์โลกสมัย 3 ของทัพฟ้าขาว ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องพักแข้งไประยะหนึ่ง อดช่วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เล่นกับ ลอริยองต์ และแม้ว่า เปแอสเช จะยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมสซี่ น่าจะกลับมาพร้อมรบในเร็ววัน แต่ก็ต้องห้ามลืมว่าฟุตบอลโลก 2022 กำลังคอยท่าอยู่ในเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้เท่านั้น หากว่าต้องไปลุยบอลโลกแบบไม่สมบูรณ์ 100% ย่อมเป็นความเสียหายโดยตรงของ อาร์เจนติน่า 

 

 

รายชื่อนักเตะเยอรมนี
วืดชัวร์ : ติโม แวร์เนอร์
สุ่มเสี่ยง : มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน่, มานูเอล นอยเออร์

 

อุตส่าห์ย้ายจาก เชลซี ไปหาโอกาสลงสนามสม่ำเสมอกับต้นสังกัดเก่า แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อเตรียมตัวรับใช้ทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งอันที่จริงก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ยิง 9 ประตูจากการเล่น 16 นัด แต่ปรากฏว่า ติโม แวร์เนอร์ กลับได้รับบาดเจ็บข้อเท้าอย่างหนักจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชนะ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 4-0 และ ไลป์ซิก ยืนยันว่า แวร์เนอร์ ต้องพักยาว หมดสิทธิ์ไปช่วยชาติที่กาตาร์โดยปริยาย

 

อีกสองตัวรุกจากต่างค่าย มาร์โก รอยส์ จากดอร์ทมุนด์ กับ เลรอย ซาเน่ จากบาเยิร์น อยู่ในจุดที่ดีกว่า แวร์เนอร์ พอสมควร หลังทั้งคู่เริ่มเรียกฟิตได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว มีโอกาสได้ไปกาตาร์มากกว่าที่จะพลาด

 

ส่วนยอดจอมหนึบวัย 36 อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนสุดท้าย เป็นข่าวใหญ่จากการที่มีอาการของมะเร็งผิวหนังบนใบหน้า แถมช่วงหลังยังเจ็บไหล่อยู่เป็นระยะ ทว่าล่าสุดก็ฟิตกลับมาลงช่วย บาเยิร์น บุกเตะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ได้แล้ว ดังนั้นถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็น่าจะได้ไปกาตาร์ตามปกติ

 

 

รายชื่อนักเตะสเปน
วืดชัวร์ : มิเกล โอยาร์ซาบัล
สุ่มเสี่ยง : เซร์คิโอ เรกีลอน, เคราร์ด โมเรโน่, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

 

แม้ในรายชื่อ 55 แข้งสเปนชุดเบื้องต้นที่หลุดออกมา (หลุยส์ เอ็นริเก้ ตั้งใจไม่เผยจนกว่าจะตัดตัวชุดสุดท้าย) มิเกล โอยาร์ซาบัล ปีกตัวเก่งจาก เรอัล โซเซียดัด จะยังติดอยู่ แต่ด้วยความที่ดาวเตะวัย 25 เข่าพังมาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อน แล้วยังต้องพักมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เล่นเกมซีซั่นนี้แม้แต่เกมเดียว ก็ทำให้จะเรียกฟิตไม่ทันเป็นแน่

 

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันคือ เกป้า “เดอะโค้ช” อาร์ริซาบาลาก้า จากการอัพเดตล่าสุดของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ปรากฏว่า เกป้า จะไม่ได้เล่นให้ เชลซี จนกว่าจะกลับมาเจอกันใหม่หลังบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บเท้า ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นการยืนยันว่านายด่านสแปนิชจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่ๆ แต่ด้วยการที่ เอ็นริเก้ มี 3 นายทวารอยู่แล้วในทีมชุดเตะ เนชั่นส์ ลีก เดือน ก.ย. (อูไน ซิมอน, โรเบิร์ต ซานเชซ, ดาบิด ราย่า) ก็ทำให้ยิ่งง่ายสำหรับ เอ็นริเก้ ไปอีกในการจะตัดชื่อ เกป้า ทิ้งไป หลังจากมือระดับ ดาบิด เด เคอา ก็ไม่ได้อยู่ใน 55 คนแรกก่อนแล้ว

 

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์
วืดชัวร์ : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
สุ่มเสี่ยง : เมมฟิส เดอปาย, มาร์เทน เดอ รอน, มัทไธส์ เดอ ลิกท์

 

มีปัญหาบาดเจ็บเกิดขึ้นในช่วงหลังทั้ง เมมฟิส เดอปาย (บาร์เซโลน่า), มาร์เทน เดอ รอน (อตาลันต้า) และ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส) แต่โอกาสที่ทั้งสามจะเรียกฟิตทันเวลาไปช่วยชาติที่กาตาร์ ยังมีมากกว่าไม่ได้ไป

 

แต่ที่พลาดแล้วตั้งแต่ต้นและน่าเจ็บใจแทน ได้แก่ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์อดีตดาวเด่นลิเวอร์พูล ที่อุตส่าห์ตัดใจย้ายหนีการเป็นคนไม่สำคัญที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หวังมาเกิดใหม่กับ โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่กลับบาดเจ็บหนักขั้นขาหักตั้งแต่ต้น พักยาวลืมวันลืมคืนไม่พอ ยังได้แค่ดูบอลโลกในฐานะกองเชียร์ด้วย

 

 

รายชื่อนักเตะเบลเยียม
วืดชัวร์ : โธมัส มูนิเยร์, อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส
สุ่มเสี่ยง : โรเมลู ลูกากู

 

เพราะไอ้ยักษ์เจ้าของสถิติถล่มประตู 68 ลูกในทีมชาติอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็ “ยุบ” เป็นเหมือนกัน ซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 5 นัด เนื่องจากเจ็บแฮมสตริง ครั้นเรียกฟิตลงสนามได้ก็ดันเจ็บซ้ำเสียอีกรอบ จนต้องลุ้นถึงวันท้ายๆ เลยว่าจะเรียกฟิตทันช่วยปีศาจแดงแห่งยุโรปสั่งลายุคทองกับบอลโลกได้หรือไม่

 

ส่วนที่วืดแล้ว และสำคัญกับทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ทั้งสองคน คือ โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวากำลังหลักจากดอร์ทมุนด์ โหนกแก้มฉีก ฟิตไม่ทันบอลโลก และ อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส ตัวรุกเอซี มิลาน เข่าพัง จะกลับมาเล่นได้อีกทีก็ต้นปีหน้า

 

 

รายชื่อนักเตะโปรตุเกส
วืดชัวร์ : ดีโอโก้ โชต้า, เปโดร เนโต้
สุ่มเสี่ยง : เปเป้, นูโน่ เมนเดส

 

ทำผลงานได้ดีกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นที่แล้ว (21 ประตู) จนหลายเดือนหลังถูกวางให้เป็นกองหน้าตัวจริงของโปรตุเกสอยู่ตลอด ทว่านอกจากความฝืดในซีซั่นนี้ (0 ประตู) แล้ว สำคัญคือ โชต้า เจ็บต้นขาจนต้องถูกหามออกในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อกลางเดือน ต.ค. ส่งผลให้ แฟร์นันโด ซานโตส เลี่ยงไม่ได้ต้องตัดชื่อทิ้งไปตั้งแต่ชุดเบื้องต้น 55 คน เช่นเดียวกับ เปโดร เนโต้ กองหน้าวูล์ฟส์ ที่เจ็บข้อเท้าจนต้องเข้าผ่าตัด

 

ด้าน เปเป้ ป.ประมุข ในวัย 39 ยังเป็นแกนหลักในแนวรับฝอยทองอยู่ แต่ช่วงหลังมีปัญหาเจ็บเข่ามารบกวน ส่วน นูโน่ เมนเดส เด็กเปแอสเช เจ็บกล้ามเนื้อ และทั้งคู่ต้องรีบเรียกฟิต พร้อมหวังว่าอาการของตัวเองจะไม่หนักหนาจนเกินไปนัก

 

 

รายชื่อนักเตะเดนมาร์ก
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์

 

ต้องจับตากับ 2 เซนเตอร์แบ็กกำลังสำคัญ ทั้งกัปตันทีม ซิมอน เคียร์ จากเอซี มิลาน ที่เจ็บหนักและต้องพักมายาว ยังไม่แน่ชัดว่าจะเรียกความฟิตได้ถึงระดับที่เหมาะสมสำหรับการคุมหลังบ้านของทัพโคนมหรือไม่ ส่วน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ของบาร์เซโลน่า ก็เริ่มมีปัญหาความฟิตในช่วงหลัง แม้จะไม่ได้มีรายงานว่าเจ็บหนักก็ตาม

 

 

รายชื่อนักเตะเวลส์
วืดชัวร์ : ทอม ลอว์เรนซ์, รีส นอร์ริงตัน-เดวิส
สุ่มเสี่ยง : แกเร็ธ เบล, โจ อัลเลน

 

กับการกลับเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี เลี่ยงไม่ได้ที่มังกรแดง เวลส์ ยังจำเป็นต้องพึ่งพาพลังสังหารของ แกเร็ธ เบล ที่แม้จะหลบฉากจาก เรอัล มาดริด ไปเล่นกับ แอลเอ เอฟซี ในสหรัฐฯ แล้วก็ตาม กระนั้น กัปตันวัย 33 ก็มีปัญหาความฟิตและไม่ถูกใช้งานสม่ำเสมอนักในช่วงหลัง ต้องดูต่อว่าสภาพร่างกายจะเข้าที่เข้าทางหรือไม่ อันเป็นกรณีเดียวกับอีกคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โจ อัลเลน (สวอนซี)

 

 

รายชื่อนักเตะสหรัฐอเมริกา
วืดชัวร์ : ไมล์ส โรบินสัน
สุ่มเสี่ยง : แดริล ไดค์, เวสตัน แม็คเคนนี่

 

ไมล์ส โรบินสัน เซนเตอร์แบ็กแอตแลนต้า ยูไนเต็ด เจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก พักยาวอดไปบอลโลกแล้ว ส่วน แดริล ไดค์ กองหน้าเวสต์บรอมวิช กับ เวสตัน แม็คเคนนี่ คีย์แมนแดนกลางจากยูเวนตุส ต้องเร่งเครื่องเรียกฟิตหน่อยในโค้งสุด้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022

 

 

รายชื่อนักเตะเม็กซิโก
วืดชัวร์ : เฮซุส โคโรน่า
สุ่มเสี่ยง : ราอูล ฮิมิเนซ

 

ปีกตัวเก่งจากเซบีย่า เฮซุส โคโรน่า ที่เล่นทีมชาติไปแล้ว 71 เกม ต้องพลาดเวิลด์คัพครั้งนี้อย่างน่าเสียดายภายหลังขาหักเมื่อกลางปี และฟิตไม่ทันไปรับใช้ชาติ ส่วนดาวยิงเบอร์ 1 ของชาติอย่าง ราอูล ฮิมิเนซ จากวูล์ฟส์ ก็มีปัญหาโคนขาหนีบ โอกาสตอนนี้อยู่ที่ 50:50

 

 

รายชื่อนักเตะเกาหลีใต้
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : ซน ฮึง-มิน

 

เดินกุมหน้าออกจากเกม ชปล. กับมาร์กเซย ซึ่งตอนแรกเหมือนจะเป็นการบาดเจ็บขาแข้งเหมือนทั่วไป แต่ปรากฏว่าหนักถึงขั้นเบ้าตาซ้ายแตก จากจังหวะเข้าปะทะกับคู่แข่งอย่างจัง และต้องเข้ารับการผ่าตัด เพียงแต่ก็ยังพอมองแง่ดีได้ว่าต่อให้ไม่ 100% ก็ยังน่าจะพอใส่หน้ากากเป็นแบทแมนลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 ได้

 

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น
วืดชัวร์ : ยูตะ นากายามะ
สุ่มเสี่ยง : –

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ ประกาศรายชื่อ 26 คนสุดท้ายแบบไม่รีรอมาก่อนใครเพื่อน แต่ปรากฏว่าไม่ทันไรก็ต้องปรับไลน์อัพเสียแล้ว เมื่อ ยูตะ นากายามะ กองหลังจากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เจ็บส้นเท้าอย่างหนักระดับที่ต้องพักทั้งซีซั่น แน่นอนว่าก็ต้องถอนตัวไปโดยปริยาย และถึงตอนนี้ยังไม่มีการเรียกใครเข้ามาทดแทน

 

 

รายชื่อนักเตะโครเอเชีย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

มิดฟิลด์ตัวเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ลงช่วยงูใหญ่มาร่วม 1 เดือนแล้วจากการบาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติรอบที่แล้ว (เนชั่นส์ ลีก) แต่ก็คาดว่าจากที่พักมาระยะหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเพียงพอให้ได้เรียกฟิตทันเวลา

 

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : โรนัลด์ อเราโฮ

 

บาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติหนก่อนเมื่อเดือน ก.ย. จนอดช่วย บาร์เซโลน่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา แถมยังต้องเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาด ทว่ารายงานช่วงหลังชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า โรนัลด์ อเราโฮ มีพัฒนาการที่ดี ถ้าไม่มัวไปติดไฟแดงเสียก่อน ก็น่าจะทะลุเข้าอ่อนนุช-เอ๊ย-ไปบอลโลกได้อยู่

 

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์
วืดชัวร์ : ยาคุบ โมเดอร์
สุ่มเสี่ยง : –

 

เอ็นฉีกตั้งแต่เดือน เม.ย. และต้องพักยาวหลายเดือน กองกลางจากไบรท์ตันจึงฟิตไม่ทันช่วยชาติในฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

 

รายชื่อนักเตะแคนาดา
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อาติบา ฮัทชินสัน

 

กัปตันทีมชาติตัวเก๋าวัย 39 ยังไม่อาจฟื้นฟิตลงช่วย เบซิคตัส ได้เลยแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ภายหลังเจ็บกระดูกร้าวตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น แม้ยังพอได้ลุ้นกลับมาทัน แต่ก็น่าเสียวไส้ว่าจะฟิตไม่ถึงระดับ

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BBC
Mirror Sports
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Getty Images
ESPN
beIN SPORTS

 

เรื่องน่าอ่าน : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
แบโผเบื้องต้น ‘โปรตุเกส’ ลุยฟุตบอลโลก 2022
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?!?

คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?!?

คาริม เบนเซม่าไปถึงรางวัล บัลลง ดอร์แล้วจะต่อยอดไปถึงการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022ได้หรือไม่?

ไม่ใส่ใจเรื่องทรงผม ไม่สนเรื่องภาพลักษณ์ ไม่เล่นโซเชียลและไม่ได้อยากเป็นข่าว สิ่งที่ คาริม เบนเซม่า ทำมีแค่เรื่องในสนามและการยิงประตู…จนในที่สุดก็ไปถึงรางวัล บัลลง ดอร์ คำถามคือ จะต่อยอดไปถึงการเป็น “แชมป์โลก” ได้หรือไม่?

 

จากศูนย์ฝึกเยาวชน AS Des Buers Villeurbanne และ Bron ตอนกลางยุค 90 ด.ช. การีม (คาริม) มอสตาฟา เบนเซม่า ในวัย 9 ขวบ ได้รับเชิญจากสโมสรชั้นแนวหน้าอย่าง โอลิมปิก ลียง ให้เข้าทดสอบฝีเท้า ภายหลังเล่นดีจนฟอร์มเข้าตาบรรดาแมวมองทั่วแดนน้ำหอม ด้วยตำแหน่งศูนย์หน้าดาวยิงที่เลือกเล่นตั้งแต่ตอนที่หนวดเครายังไม่ทันขึ้น — ด้วยมีตำนานอย่าง โรนัลโด้ โล้นทองคำแห่งบราซิล เป็นไอดอล

 

และหลังจากฝึกปรือฝีมือในอะคาเดมี่ของลียง (ควบคู่กับการเป็นเด็กเก็บบอลในบางเกมของทีมชุดใหญ่) ได้พักหนึ่ง เจ้าหนูเชื้อสายแอลจีเรียนวัย 17 ก็ได้โอกาสประเดิมเกมกับทีมของ ปอล เลอ กูแอ็น ในระหว่างครึ่งฤดูกาลหลังของ 2004/05 ด้วยการลงสำรองนัดชนะ เม็ตซ์ 2-0 กลางเดือนมกราคม 2005 พร้อมทำแอสซิสต์ได้ 1 ลูกเป็นประเดิมด้วย

 

แม้ว่าซีซั่นถัดมา 2005/06 จะยังไม่ถึงเวลาของการแจ้งเกิดเต็มตัว เมื่อกุนซือที่เข้ามาใหม่อย่าง เชราร์ อุลลิเยร์ เลือกจะไว้ใจบรรดากองหน้ารุ่นพี่ (ซิลแว็ง วิลตอร์, เฟร็ด, ยอห์น คาริว) มากกว่าจนทำให้ เบนเซม่า ได้เล่นแค่ 16 เกม แต่มันก็เป็นปีที่เขาสามารถเริ่ม “นับหนึ่ง” ได้แล้วกับการทำสกอร์ในลีกสูงสุด (รวมถึงมี 1 เม็ดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชนะ โรเซนบอร์ก 2-1) พร้อมกับพูดได้ว่า “มีส่วนร่วม” กับแชมป์ ลีก เอิง สมัยที่ 5 ของสโมสร ในตอนนั้น

 

วันเวลาที่ผ่านไป มาพร้อมกับพรรษาทางฟุตบอลที่แก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง เบนเซม่า สร้างชื่อคับลีกน้ำหอมในซีซั่น 2007/08 ด้วยการกระหน่ำรวม 31 ประตู เป็นทั้งดาวซัลโวสโมสรและดาวซัลโว ลีก เอิง (20 ลูก) ช่วยให้ ลียงลงเป็นยิง ของโค้ชใหม่ (อีกแล้ว) อแล็ง แปร์กแร็ง ซิวดับเบิ้ลแชมป์บอลลีก+บอลถ้วยไปครอง เป็นหนแรกของสโมสร ขณะที่ตัว เบนเซม่า ก็คว้ารางวัลนักเตะแห่งปีลีกเอิงไปนอนกอด

 

ซีซั่นรุ่งขึ้น 2008/09 เบนเซม่า อาจหล่นไปจากมาตรฐานเล็กน้อย ด้วยการยิงรวม 23 ประตู (และ ลียง จบแบบมือเปล่า) แต่ฟอร์มที่ยืนระยะสม่ำเสมอของกองหน้าวัย 21 ก็มากพอที่จะเข้าตามหาอำนาจลูกหนังยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด จนมีการเข้าหา ลียง หลังจบซีซั่น ด้วยข้อเสนอ 35+6 ล้านยูโร ที่แม้จะดูไม่ได้สูงนักแต่ก็จัดเป็น “กำไรล้วน” ของลียง ที่ปลุกปั้น เบนเซม่า มาตั้งแต่เป็นแข้งเยาวชน

 

สำคัญคือ, อย่างที่อาจไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น, เบนเซม่า ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “หน้าตลาดที่ดีที่สุด” ครั้งหนึ่งของทีมชุดขาว สำหรับซัมเมอร์ 2009 ที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ได้ของดีๆ หลายรายเข้าไปสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับราชันชุดขาวได้โดยตรง

 

คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?!?นี่คือตัวใหม่ (ส่วนหนึ่ง) ที่ เรอัล มาดริด ได้มาในซัมเมอร์นั้น
1. คาริม เบนเซม่า 35+6 ล้านยูโร จากลียง
2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 94 ล้านจาก แมนฯ ยูไนเต็ด
3. กาก้า 67 ล้านจาก เอซี มิลาน
4. ชาบี อลอนโซ่ 35+5 ล้านจาก ลิเวอร์พูล
5. อัลบาโร่ อาร์เบลัว 4.5 ล้านจาก ลิเวอร์พูล
6. ราอูล อัลบิโอล 15 ล้านจาก บาเลนเซีย

 

น่าสนใจว่าอันที่จริง เบนเซม่า ก็เริ่มต้นเส้นทางการสร้างตำนานใน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ได้อย่างลำบากยากเข็ญมิใช่น้อย เมื่อไหนจะเป็นการย้ายมาเล่นนอกบ้านเกิดเป็นครั้งแรก, ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมและภาษาใหม่, ต้องเจอคู่แข่งอย่งตำแหน่งอย่าง กอนซาโล่ อิกวาอิน รวมทั้ง ราอูล กอนซาเลซ ที่ยังอยู่เป็นปีสุดท้าย จนกระทั่งสื่อหลักอย่าง มาร์ก้า ขนานนามว่าเขาเป็น “อเนลก้าคนใหม่” ผู้กำลังจะตามรอย นิโกล่าส์ อเนลก้า กองหน้าฝรั่งเศสที่ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาสู่ทีมชุดขาวอย่างฮือฮาในปี 1999 แล้วก็ย้ายออกอย่างรวดเร็ว (ไปเปแอสเช) ในเพียงปีเดียวถัดมา

 

ปัจจัยต่างๆ ข้างต้น ส่งผลให้ เบนเซม่า ยิงได้แค่ 9 ลูกเท่านั้นในปีประเดิมกับ เรอัล มาดริด

 

เพียงแต่ก็ไม่รู้ว่า มาร์ก้า ได้ส่งพวงมาลัยไปขอขมาลาโทษ เบนเซม่า หรือยัง เมื่อในที่สุดแล้ว หอกผมเกรียนเลือดเฟร้นช์ก็แจ้งเกิดกับ เรอัล มาดริด ได้อย่างสวยงาม — ด้วยต้องให้เครดิตกับยอดโค้ชอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ เช่นกัน ที่เข้ามาทำทีมแทน มานูเอล เปเยกรินี่ ในซีซั่น 2010/11 แล้วมอบความไว้วางใจให้กับ เบนเซม่า อย่างเต็มที่ในฐานะหัวหอกตัวเป้า “ตัวเลือกแรก” ในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งมี อังเคล ดิ มาเรีย – เมซุต โอซิล – โรนัลโด้ คอยเดินเครื่องสนับสนุน เบนเซม่า ในขณะที่ อิกวาอิน กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นตัวเลือกรองลงมา (ส่วน ราอูล ย้ายไปชาลเก้)

 

ปีนั้น เบนเซม่า ได้เล่นมากถึง 48 นัด และตอบแทนความไว้วางใจนั้นด้วยการผลิตสกอร์ 26 ลูก — มากกว่านี้มีแค่ โรนัลโด้ ร่างซูเปอร์ไซย่า ที่กดรวม 53 ประตูในทุกรายการ

 

และโดยไม่มีการหันหลังกลับ เบนเซม่า ไม่เคยหลุดจากตำแหน่งของเขาอีกเลย ไม่ว่าทีมจะเปลี่ยนไปขนาดไหน เพื่อนร่วมทีมคนใดย้ายเข้าย้ายออก รวมถึงว่ามีกุนซือสักกี่คนที่หมุนเวียนกันเข้ามาทำหน้าที่ใน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

 

ไม่ใส่ใจเรื่องทรงผม ไม่สนเรื่องภาพลักษณ์ ไม่เล่นโซเชียลและไม่ได้อยากเป็นข่าวกอสซิปซุบซิบบนหน้าสื่อ สิ่งที่ เบนเซม่า ทำมีแค่เรื่องในสนามและการยิงประตู

จนในที่สุดก็ไปถึงรางวัล บัลลง ดอร์ 2022

 

คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?!?บัลลง ดอร์ 2022
1. คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด / ฝรั่งเศส)
2. ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล-บาเยิร์น / เซเนกัล)
3. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้ / เบลเยียม)
4. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น-บาร์เซโลน่า / โปแลนด์)
5. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล / อียิปต์)

 

ว่ากันว่ามีอยู่ 5-6 เหตุผลด้วยกันที่ทำให้ลูกบอลทองคำ รางวัลที่ถือเป็นเกียรติยศส่วนตัวลำดับสูงสุดของแข้งอาชีพ ตกเป็นของกองหน้าวัย 34 อย่าง เบนเซม่า ในการประกาศเป็นทางการเมื่อ 17 ตุลาคม

 

1. การยิงกระจายถึง 44 ประตู (บวกกับ 15 แอสซิสต์) จากการลงสนาม 46 นัดของซีซั่นก่อน ช่วยให้ เรอัล มาดริด เป็นทั้งแชมป์ ลา ลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และซูเปร์โกปา เด เอสปันย่า

 

2. จำนวนสกอร์ 44 ลูกนั่น เท่ากับค่าเฉลี่ยพังตาข่ายได้ในทุก 66.42 นาที

 

3. เฉพาะใน ลา ลีกา หนุ่มเบนซ์ยิงไป 27 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์ หรือคือมีส่วนร่วมกับประตูที่ เรอัล มาดริด ทำได้ถึง 48.75%

 

4. ยิง 15 ประตูใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นก่อน โดยมีถึง 2 แฮตทริกระหว่างทาง คือในเกมอัด เปแอสเช 3-1 ที่มาดริด และบุกชนะ เชลซี 3-1 ที่ลอนดอน

 

5. ผลงานในทีมชาติฝรั่งเศสก็แจ๋ว ยิงไป 6 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 เกม อันรวมถึงการยิงประตูใส่ สเปน ช่วยให้ตราไก่เบียดชนะ 2-1 ครองแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2021

 

6. รอบปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครที่โดดเด่นเท่า เบนเซม่า จริงๆ นั่นแหละ (เมื่อคู่ยอดมนุษย์ เมสซี่ & โรนัลโด้ ดร็อปไปตามกาลเวลา) โดยในแง่ของการกระทุ้งตาข่าย อาจมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยิงเป็นบ้าเป็นหลัง 50 ลูกกับบาเยิร์น และ 14 ลูกกับบาร์เซโลน่า ซีซั่นนี้ แถมยังมีอีกนับสิบลูกกับทีมชาติโปแลนด์ แต่ก็มีเพียงแชมป์บุนเดสลีกา รายการเดียวเท่านั้นที่ เลวาน ได้ไป

 

…ทีนี้ คำถามสำคัญก็คือ เบนเซม่า จะสามารถต่อยอดรางวัลบอลทองคำของตัวเองนี้ ไปสู่การเป็น “แชมป์โลก” ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ได้หรือไม่

 

คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?!?

 

(สำหรับในทีมตราไก่ ถือได้ว่า เบนเซม่า มีเส้นทางที่ไม่ราบเรียบเอาเลย นับตั้งแต่เริ่มต้นติดธงชุดใหญ่ปี 2007 และไม่ประสบความสำเร็จกับทัวร์นาเมนต์ใด รวมถึงโดนกาชื่อทิ้งอดไปบอลโลก 2010 ก็มาเจอคดีอื้อฉาว ว่ากันว่าเพื่อนวัยเด็กของ เบนเซม่า ได้ติดต่อผ่านเขาเพื่อขู่เรียกเงินจาก มาติเยอ วัลบูเอน่า แลกกับเซ็กซ์เทปของมิดฟิลด์ร่างเล็ก จนสุดท้ายมีการดำเนินคดียกแก๊ง และ เบนเซม่า โดนแบนกลายๆ ไม่ถูกเรียกติดธงตลอดช่วงปี 2016-2020)

 

(แต่แล้ว ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ก็ต้านทานความร้อนแรงของ เบนเซม่า ไม่ไหว เรียกคืนธงตอนกลางปี 2021 เพื่อไปเล่นยูโร 2020 ซึ่งหัวหอกเคราเฟิ้มก็จัดให้ 4 ประตูในทัวร์นาเมนต์ จน เบนเซม่า มีที่มีทางในทีมชาติเป็นการถาวรอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน)

 

ลองย้อนไปดูนักเตะที่ได้รางวัลบัลลงดอร์ ในปีฟุตบอลโลก กันหน่อย

 

รางวัล บัลลงดอร์ ในปีฟุตบอลโลก / แชมป์โลก
1958 เรย์มงด์ โกปา (ฝรั่งเศส) / บราซิล
1962 โยเซฟ มาโซปุสต์ (เช็ก) / บราซิล
1966 บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน (อังกฤษ) / อังกฤษ
1970 แกร์ด มุลเลอร์ (เยอรมนี) / บราซิล
1974 โยฮัน ครัฟฟ์ (เนเธอร์แลนด์) / เยอรมนีตะวันตก
1978 เควิน คีแกน (อังกฤษ) / อาร์เจนติน่า
1982 เปาโล รอสซี่ (อิตาลี) / อิตาลี
1986 อีกอร์ เบลานอฟ (สหภาพโซเวียต) / อาร์เจนติน่า
1990 โลธ่าร์ มัทเธอุส (เยอรมนี) / เยอรมนีตะวันตก
1994 ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (บัลแกเรีย) / บราซิล
1998 ซีเนอดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส) / ฝรั่งเศส
2002 โรนัลโด้ (บราซิล) / บราซิล
2006 ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (อิตาลี) / อิตาลี
2010 ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า) / สเปน
2014 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส) / เยอรมนี
2018 ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย) / ฝรั่งเศส
2022 คาริม เบนเซม่า (ฝรั่งเศส) / ……

 

จะเห็นได้ว่า รางวัลบัลลงดอร์ในปีฟุตบอลโลก (หลังเปลี่ยนกฎยอมรับนักเตะนอกยุโรป) ก่อนที่จะมาถึงยุคของ เมสซี่ & โรนัลโด้ ก็สอดคล้องกันดีกับนักเตะที่ได้แชมป์โลก

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะนำเอามาเป็นน้ำหนักกะเกณฑ์อะไรก็คงไม่ได้ เมื่อตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา บัลลง ดอร์ แจกรางวัลกันในช่วงปลายปี–หลังจากที่ ฟุตบอลโลก โรมรันสาดแข้งได้บทสรุปไปเรียบร้อยแล้วตอนกลางปี แตกต่างจากปีนี้ที่ เวิลด์ คัพ ฉบับพิเศษ ยังเดินทางมาไม่ถึง

 

ดังนั้น นั่นหมายความว่า เจ้าของบัลลง ดอร์ 2022 จะเผชิญชะตากรรมอย่างไรใน ฟุตบอลโลก 2022 ก็ยังไม่อาจล่วงรู้ได้

 

และเป็นหน้าที่ของ เบนเซม่า & ชาวคณะตราไก่ เพียงเท่านั้น ที่จะต้องรวมพลังกันไปให้ถึงฝั่งฝัน

 

แต่ก็อีกนั่นแหละ ฟอร์มระยะหลังของ ตราไก่ ในมือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ก็ออกทรงน่าละเหี่ยใจ มีเสียวสันหลังอย่างไรไม่รู้ — 6 เกมหลังชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3 สำคัญคือ แพ้ เดนมาร์ก แบบไปกลับ ก่อนที่จะต้องเจอกันอีกหนในรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง 26 พ.ย.

 

เช่นเดียวกับปัจจัยเรื่องความพร้อม อย่างที่เคยได้เอ่ยไว้ในเรื่อง “เบรคสุดท้าย…ก่อนฟุตบอลโลก 2022” ว่า ฝรั่งเศส ต้องลงเตะ เนชั่นส์ ลีก 2 แมตช์สุดท้ายอันเป็นเสมือนเกมเตรียมความพร้อมก่อนลุยบอลโลก แบบไม่มีตัวหลักเกินสิบราย (ในจำนวนนี้ก็คือ เบนเซม่า ด้วย) ที่บาดเจ็บ จนมาถึงข่าวล่าสุดอย่างการเสียคีย์แมนแดนกลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เจ็บหนักพักยาว อดไปฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้วหนึ่งหน่อ

 

ไหนเลยจะยังมี “อาถรรพ์แชมป์เก่า” ว่าบอลโลก 3 หนหลัง แชมป์เก่าล้วน ตกรอบแรก เรียบวุธ (อิตาลี, สเปน, เยอรมนี) และบอลโลก 5 ครั้งหลัง แชมป์เก่าตกรอบแรกไป 4 หน

 

จึงไม่มีการันตีอะไรเลยว่า ฝรั่งเศส จะมีทัวร์นาเมนต์ที่ดีในฟุตบอลโลก 2022

 

ฉะนั้น ขึ้นอยู่กับอาวุธสำคัญอย่าง เบนเซม่า รวมถึง คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คิงสลี่ย์ โกม็อง, คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู ฯลฯ ว่าจะรีดเค้นฟอร์มระดับท็อปออกมาส่งเสริมกันและกันได้ดีเพียงใด

 

ว่ากันตามตรง บัลลงดอร์ ไม่ได้หมายความถึง แชมป์โลก

 

เบนเซม่า ในฐานะผู้นำเกมรุกฝรั่งเศส จึงต้องสวมหัวใจสิงห์สู้กันนัดต่อนัด นำพาทีมเอาชนะ “เกมชิงชนะเลิศทั้ง 7” (รอบแรก 3 + น็อกเอาต์อีก 4) ให้ได้ในตลอดรายการที่กาตาร์ นั่นต่างหากถึงจะเจอเส้นชัยที่ใฝ่หา

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Onmanorama
WGOQATAR
Eurosport

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ - กลุ่มดี

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี

หลังทั้ง 32 ทีมในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายเปิดตัวชุดแข่งขันที่จะใช้ลงฟาดแข้งมาให้เห็นกันครบทุกทีมเรียบร้อยแล้ว จากที่ได้เห็นแต่ละแบบ แต่ละสี จากแต่ละผลิตภัณฑ์เครื่องกีฬาก็ดูสวยงามไม่แพ้กัน และทำให้เวทีแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ร้อนระอุไม่แพ้เกมการแข่งขัน ที่แต่ละทีมก็หวังว่าจะทำให้ดีที่สุด หลังได้ทำนายกันไปแล้วว่า ในแต่ละกลุ่มทีมไหนที่น่าจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หนนี้ก็มาดูกันว่าบรรดาชุดแข่งขันของทีมต่าง ๆ ทีมไหนที่ดูเข้าตาบ้าง

กลุ่ม เอ: กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
บนเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์เจ้าภาพ มาแบบเรียบ ๆ แต่เสื้อชุดเหย้าสีแดง มีลูกเล่นตรงปลายแขนเลียนแบบลายธงชาติ คัตติ้งของเสื้อเป็นฟอร์แม็ตเดียวกันเสื้อทีมอื่น ๆ ที่ไนกี้ออกแบบให้  ส่วนเนเธอร์แลนด์ ที่ใช้บริการไนกี้เหมือนกัน จากภาพเสื้อดูเป็นสีส้มแบบใช้ผ้ามัน ดูเป็นเลื่อม ๆ ส่วนชุดเยือนสีพื้นคือน้ำเงินเข้ม แล้วมีเล่นสีดำบริเวณคอ ซึ่งเป็นแพ็ทเทิร์นที่หลาย ๆ ทีมใช้ เซเนกัลใช้บริการของพูม่า เสื้อชุดเหย้าสีขาวสวย ด้วยการเล่นลายลูกศรสีธงชาติบริเวณหน้าอก แต่ชุดเยือนเป็นแพ็ทเทิร์นเดียวกับชุดเยือนที่พูม่าทำให้กับทีมอื่น ๆ จนดูไร้เสน่ห์ ปิดท้ายด้วยเอกวาดอร์ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ มาราธอน เสื้อชุดเหย้าสีเหลืองดูไม่มีลูกเล่นอะไรมากนัก ผิดกับชุดเยือนที่เล่นลายในเนื้อผ้าได้สวยเลย

เสื้อทีมกาตาร์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์เจ้าภาพ จะใช้สีแดงเป็นชุดเหย้าและสีขาวเป็นชุดเยือน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเนเธอร์แลนด์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ มากับสีส้มสมฉายา สำหรับชุดเหย้า ส่วนชุดเยือนเป็นเสื้อสีน้ำเงิน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเซเนกัล ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เสื้อแข่งของเซเนกัล ในฟุตบอลโลก 2022 เสื้อชุดเหย้าสีขาว และชุดเยือนสีเขียว (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเอกวาดอร์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เอกวาดอร์ ใช้ชุดเหย้าสีเหลืองเหมือนเคย ขณะที่ชุดเยือนเป็นสีน้ำเงินเข้ม (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม บี: อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, อิหร่าน, เวลส์
ไนกี้ยังแสดงความเป็นเจ้าแฟชันฟุตบอลโลก 2022 เมื่อมี 2 ทีมใช้บริการ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ทีมชาติอังกฤษชุดเหย้าเป็นสีขาว เล่นสีน้ำเงินเข้มไล่เฉดตั้งแต่บริเวณบ่ามาถึงอก ตามคัตติ้งของเสื้อ ที่เป็นฟอร์แม็ตของไนกี้ในฟุตบอลโลกหนนี้ ส่วนชุดเยือนสีแดง เอาชุดเมื่อปี 1990 ของอัมโบรมาปรับดีไซน์ ซึ่งก็สวยแต่เมื่อมองไปถึงตัวต้นแบบแล้ว ก็ต้องยกให้งานต้นฉบับ ของสหรัฐฯ เหมือนใช้ลูกเล่นสลับกับชุดของเนเธอร์แลนด์ เสื้อชุดเหย้าสีขาว จะเล่นสีบริเวณคอแบบเดียวกับชุดเยือนของอัศวินสีส้ม ส่วนชุดเยือนสีน้ำเงินเข้มก็มาในแพ็ทเทิร์นเดียวกับชุดเหย้าเนเธอร์แลนด์ แต่เปลี่ยนสี ซึ่งถือว่าน่าผิดหวัง อิหร่านที่ใช้บริการแบรนด์ท้องถิ่นมาจิด เน้นเรียบ ๆ แต่เล่นกับสีธงชาติเขียว-ขาว-แดง โดยใช้เส้นสีเขียวเล่นเฉดที่บิดเป็นอีกสีหนึ่งเมื่อพาดกลางหน้าอกไปรับกับอีกฝั่ง ปิดท้ายด้วยอดิดาส ที่เหมือนจะเงียบ ๆ ไปหน่อยในปีนี้ ชุดเยือนสีแดงของเวลส์ ดูจะเล่นกับลายผ้า ส่วนชุดเหย้าจะเด่นที่บริเวณลายกราฟิกคอเสื้อ ซึ่งเป็นมุกเดียวกับเสื้อของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ทีมชาติอังกฤษ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 2022 ของอังกฤษ ที่มีสไตล์แตกต่างกัน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติสหรัฐอเมริกา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในฟุตบอลโลก 2022 เหมือนเอาเสื้อของทีมเนเธอร์แลนด์มาสลับฝั่ง ส่วนคัตติ้งก็เป็นฟอร์แม็ตเดียวกัน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติอิหร่าน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แม้จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่น แต่เรื่องดีไซน์ ชุดของทีมชาติอิหร่านก็ดูดี (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติเวลส์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เวลส์มาพร้อมกับเสื้อทีมที่ไม่หวือหวา แต่มีกิมมิกจาก อดิดาส (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม ซี: อาร์เจนติน่า, ซาอุดิอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ถือว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายของแฟชั่นฟุตบอลโลก เพราะสองยักษ์ ไนกี้และอดิดาสดวลกันเพียวร์ ๆ โดยฝ่ายหลังมีอาร์เจนติน่ากับเม็กซิโก ที่หนนี้เม็กซิโกมาดีเหลือเกินเรื่องเสื้อผ้า ชุดเหย้าสีเขียว เล่นกับการเล่นสีเขียวเข้มสลับกับสีเขียวพื้น พิมพ์ลายเหมือนลูกศร ส่วนชุดเยือนสีขาวก็เล่นลายที่ทำให้นึกถึงศิลปะของเผ่าแอชเต็ก อาร์เจนติน่า ชุดเหย้าฟ้าขาวถือว่าตามมาตรฐาน แต่ชุดเยือนก็เข้าตาเหลือเกิน กับลายเหมือนเปลวเพลิงที่ไล่ขึ้นมาจากชายเสื้อ ไนกี้เองก็ออกมาดีไม่แพ้กัน ชุดเหย้าสีขาวของซาอุดิอาระเบีย ถึงจะดูจืด ๆ แต่ก็มีเล่นลายผ้าหากก็ไม่โดดเด่นนัก ถึงกระนั้นก็ดูคลาสสิก ส่วนชุดเหย้าสีเขียวก็เล่นสีเขียวเข้มกับสีเขียวพื้นได้สนุกในอารมณ์หลายพราง ขณะที่ชุดเยือนของโปแลนด์สีแดง มาในทางคลาสสิก ชุดเหย้าสีขาวที่เล่นลายบริเวณไหล่ก็ทำให้เสื้อที่คัตติ้งมาเป็นฟอร์แม็ต ดูมีสไตล์ ไม่น่าเบื่อขึ้นมาได้

ทีมชาติอาร์เจนติน่า แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเหย้าของอาร์เจนติน่า อาจจะไม่ว้าวนัก แต่กับชุดเยือนแล้ว ลายเปลวเพลิงที่ไล่มาจากชายเสื้อดูเตะตาดี (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

 

ทีมชาติเม็กซิโก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

อดิดาสทำเสื้อทีมชาติเม็กซิโกในฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างมีคลาสส์ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แบบถือว่าธรรมดา แต่เสื้อทีมชาติซาอุดิอาระเบีย มาพร้อมกับการเล่นลายในเนื้อผ้า (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติโปแลนด์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเยือนสีแดงดูคลาสสิก และชุดเหย้าที่มีเสน่ห์ตรงบ่าของโปแลนด์ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม ดี: ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนีเซีย
แม้ฝรั่งเศสจะเป็นทีมวางของกลุ่มและมีทีมที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของไนกี้ถึงสองชาติ แต่เดนมาร์กก็ได้พื้นที่แฟชั่นฟุตบอลโลกไปได้เต็ม ๆ เมื่อร่วมกับฮุมเมล แบรนด์ท้องถิ่น ใช้โอกาสนี้ประท้วงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าภาพกาตาร์ ด้วยการออกแบบเสื้อที่อิงกับดีไซน์เสื้อทีมชุดคว้าแชมป์ยูโร แต่แทนที่จะใช้สีขาวแดง กลับทำเป็นสีเดียวกัน หากตัวลายใช้สีที่มีน้ำหนักมากขึ้นแทน แถมยังมีชุดแข่งแบบที่ 3 สีดำ ที่ระบุว่าเป็นสีของการไว้ทุกข์ออกมาอีก ทำให้เสื้อทีมชาติอื่น ๆ หมองไปเลย โดยฝรั่งเศสมาแบบเรียบ ๆ เป็นสีพื้นทั้งชุดเหย้าและเยือน ส่วนออสเตรเลียก็เป็นคัตติ้งสำเร็จรูปของไนกี้สำหรับฟุตบอลโลกหนนี้ ชุดเหย้าเน้นสีพื้น ส่วนชุดเยือนมีลูกเล่นตรงคอเสื้อ ปิดท้ายด้วยตูนีเซียที่เป็นงานของคัปป้า ดูเหมือนจะไม่มีลูกเล่นอะไรมาก แต่ดูดีจะพบว่า มีการเล่นกับลายผ้าเป็นกราฟฟิกแบบงานอาร์ตแอฟริกัน

ทีมชาติฝรั่งเศส แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แชมป์เก่าฝรั่งเศส มาแบบเรียบ ๆ ทั้งชุดเหย้าและเยือน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติออสเตรเลีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ทีมจิงโจ้ กับเสิ้อทีมที่มาเป็นฟอร์แม็ตของไนกี้ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติเดนมาร์ก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ในแง่ของความฮือฮาของเสื้อทีมชาติในฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติเดนมาร์ก นำมา (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022

เหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ในเนื้อผ้าของทีมชาติตูนีเซีย มีลาย มีลูกเล่น (ภาพ: www.footyheadlines.com)

ข้อมูล: www.footyheadlines.com , www.bbc.com
ภาพปก: www.footyheadlines.com

เรื่องน่าอ่าน: แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022

เบรคสุดท้าย…ก่อนฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะเผลอหรือไม่ วันเวลาก็พาเรามาถึงเบรคทีมชาติช่วงสุดท้ายท้ายสุดแล้ว ก่อนรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 จะโรมรัน

 

ในขณะที่เรากำลังตกตะลึงไปกับความร้อนแรงยิงสลุตไม่แผ่วของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์
กำลังจับตาการฟื้นคืนชีพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค เอริก เทน ฮาก
กำลังเป็นพยานการเดินด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของ เรอัล มาดริด
กำลังเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ ยูเวนตุส ของ แม็กซ์ อัลเลกรี
หรือกำลังต้องปาดเหงื่อลุ้นหนักกับเส้นทางของ เชลซี ในถ้วยบิ๊กเอียร์

 

ใครบางคนคงแอบส่ายหัว… แหม่วุ้ย ทีมชงทีมชาติช่างมาขัดจังหวะกันเสียจริง

 

แต่อย่างที่ได้เอ่ยถึงไว้ในเรื่อง “ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?” เมื่อสักสองเดือนก่อน ว่านี่คือคิวทีมชาติที่สุดแสนจะ “จำเป็น” และ “ต้องมี” แบบไม่อาจเลี่ยงหรือบอกผ่านได้ เพื่อที่จะให้บรรดา 32 ชาติสมาชิกผู้เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ได้เตรียมทีมลองของกันเป็นหนท้ายๆ มากๆ ก่อนที่ เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ จะมาถึงในอีกแค่ 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น

 

หลุดจากงวดนี้ไปจะเหลือเพียงช่วง “เตรียมทีม” ลุยรอบสุดท้ายปลายเดือน 11 (20 พ.ย. เปิดสนามบอลโลก) ประมาณไม่เกิน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น และหลายๆ ทีมก็ยังไม่ได้วางโปรแกรมลับแข้งเป็นทางการไว้ในช่วงนั้นด้วย

 

เบรคทีมชาติเดือนนี้ ชาติยุโรปหลายชาติยังต้องเคลียร์ตอนจบของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ว่าจะจบด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว ส่วน 2 ยักษ์ใหญ่อเมริกาใต้ บราซิล-อาร์เจนติน่า เดิมทีมีคิวต้องรีแมตช์กันเอง แต่ปรากฏว่า “งานล่ม” เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างแยกไปเตะเกมลับแข้งของตัวเอง — เพราะอะไร งานนี้มีคำตอบ

 

อย่างที่ว่า นี่คือโปรแกรมอย่างเป็นทางการหนสุดท้ายจริงๆ แล้วก่อน ฟุตบอลโลก 2022 จะมา ความหมายที่เชื่อมโยงต่อเนื่องก็คือ นักเตะรายไหนจะได้ไปบอลโลกแน่ๆ หรือคนไหนมีแนวโน้มหลุดโผ ได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวี ก็สามารถ “จับสังเกต” ได้เหมือนกันจากการเรียกตัวคราวนี้

 

ฉะนั้น เมื่อความสำคัญของ “เบรคทีมชาติ” กันยายน 2022 มีมากขนาดนี้ จึงสมควรสอดส่ายสายตาหากันหน่อยว่าแต่ละทีมมีคิวแบบใด สถานการณ์เป็นอย่างไร ขุมกำลังสภาพทีมมาทรงไหน แบบครบจบในตอนเดียว!

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อังกฤษ

23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อิตาลี (ซาน ซิโร่, มิลาน)

26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เยอรมนี (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนคนรักบอลบ้านเรา เหลือโปรแกรมเช็คบิล เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 3 สองนัดสุดท้าย แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “เสื่อมความหมาย” ไปพอตัว จากการที่เตะ 4 นัดแรกชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งบ๊วยของกลุ่ม

 

อังกฤษ หมดลุ้นคว้าแชมป์กลุ่มเพื่อเข้ารอบชิงแชมป์ไปเรียบร้อย ที่ยังเหลืออยู่มีแค่ต้อง “หนีบ๊วย” ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้นสู่ ลีกบี 2024/25 เท่านั้นเอง

 

ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเบรคทีมชาติงวดนี้ จึงอาจไม่ได้อยู่ที่แมตช์หรือผลลัพธ์สักเท่าไร แต่เป็นโฉมหน้าของขุมกำลังที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวไปติดธง มากกว่า

 

โฟกัสอยู่ที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่ง…ที่เอาฟอร์มไปทิ้งแถวทะเลจีนใต้มาเป็นปีๆ แล้ว

 

ซีซั่นนี้ลงตัวจริง 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้มันซะ 3 เกม (1-2 ไบรท์ตัน, 0-4 เบรนท์ฟอร์ด, 0-1 เรอัล โซเซียดัด) ตรงกันข้าม เกมไหนที่ เอริก เทน ฮาก ไม่ใช้งานกัปตันทีมวัย 29 รายนี้ ปีศาจแดงก็มีเฮมันทุกนัด!

 

ด้วยฟอร์มที่ออกทะเลแบบเห็นจัดชัดจริง ทำให้หลายฝ่ายมองว่า เซาธ์เกต ไม่ควรเรียก แม็กไกวร์ มาติดธงอีกแล้ว และควรเปิดทางให้ เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล) หรือ ไทโรน มิงส์ (วิลล่า) มากกว่า

 

แต่ก็น่าสนใจว่า เซาธ์เกต เรียกตัวนักเตะตำแหน่งกองหลังมาร่วมทีมมากถึง 12 ราย ในจำนวนนี้มีเซนเตอร์แบ็ก 6-7 รายด้วยกัน (แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เอริก ไดเออร์, คอนเนอร์ คอดี้, ฟิคาโย่ โทโมรี่, มาร์ก เกฮี รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์) ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่า แม็กไกวร์ จะได้เล่นแน่ๆ …แต่ถ้ายังได้ลงตัวจริงอีก ก็ตัวใครตัวมัน!

 

squad สิงโตชุดล่าสุดนี้ หน้าใหม่จริงๆ มีแค่ ไอแวน โทนี่ย์ ตัวจบสกอร์หลักของ เบรนท์ฟอร์ด รายเดียวที่ไม่เคยถูกเรียกตัวมาก่อน ในขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด หลุดไปเนื่องจากบาดเจ็บ

 

ส่วนที่โดนมองข้าม มีทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), เจดอน ซานโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี) และ เจสซี่ ลินการ์ด (ฟอเรสต์)

 

แน่นอนว่า 7-8 รายหลังสุดนี้ คงต้องใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กับสองเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก จะได้ไปแอ่วกาตาร์หรือไม่ ล้วนแต่อยู่ในข่าย “ต้องลุ้นหนัก”

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ฝรั่งเศส
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ออสเตรีย (สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เดนมาร์ก (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

แชมป์โลก 2 สมัย ตราไก่ ฝรั่งเศส ตกที่นั่งเดียวกับสิงโตคำราม อังกฤษ ไม่ผิดเพี้ยน จากการเสมอ 2 แพ้ 2 ในสี่เกมแรก หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว เหลือแค่เตะหนีบ๊วย ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้น

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผู้ซึ่งกุมบังเหียนตราไก่มาครบ 10 ปีเต็มไปเรียบร้อย (130 นัด ชนะ 83 มี 2 โทรฟี่แชมป์) ขาดขาประจำที่มีอาการบาดเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง ปอล ป๊อกบา, อูโก้ โยริส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, เตโอ กับ ลูคัส เอร์นันเดซ, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, อิบราฮิมา โกนาเต้, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, คิงสลี่ย์ โกม็อง และ คาริม เบนเซม่า

 

เพียงแต่ตัวที่ยังอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่ฝีเท้าไม่ธรรมดาทั้งสิ้น นำขบวนโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมัน เดมเบเล่ ยุคกลับมาแจ้งเกิดใหม่, จอมเก๋า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์, คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู, ราฟาแอล วาราน, ชูลส์ คุนเด้ ฯลฯ

 

จุดน่าสนใจอยู่ที่แดนกลาง เป็นหน้าใหม่แทบทั้งแผง ตัวเลขห้อยท้ายคือจำนวนการติดทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (เรอัล มาดริด) 12
มัตเตโอ เก็นดูซี่ (มาร์กเซย) 6
จอร์แดน เวเรตูต์ (มาร์กเซย) 5
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (เรอัล มาดริด) 3
ยุสซูฟ โฟฟาน่า (โมนาโก) 0

 

ด้านพวกที่หลุดเนื่องด้วยการพิจารณาของ เดส์ชองส์ และอยู่ในความเสี่ยงจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก ประกอบด้วย วิสซาม เบน เยแดร์ (เซบีย่า), เกลม็องต์ ลองเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม) หรือแม้แต่ มาร์กซิยาล (แมนฯ ยูไนเต็ด) ถ้ายังออดๆ แอดๆ อยู่แบบนี้ บอลโลกก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022สเปน
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สวิตเซอร์แลนด์ (ลา โรมาเรด้า, ซาราโกซ่า)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปรตุเกส (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

ต้องชิงแชมป์กลุ่ม 2 ลีกเอ กับทาง โปรตุเกส แต่เกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็สำคัญกับทัพ กระทิงดุ สเปน ไม่แพ้กัน เนื่องจากถ้าชนะสวิสส์ได้ จะต้องการเพียงผลเสมอเท่านั้นในเกมกับทีมฝอยทอง (แต่ก็ห้ามแพ้แหละ)

 

หลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนทีมอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว นอกเหนือตัวที่บาดเจ็บ (ลาป๊อร์กต์, ติอาโก้, โอยาร์ซาบัล) แล้ว ที่หลุดโผไปอย่าง อันซู ฟาติ, โรดริโก้ โมเรโน่, ดานี่ โอลโม่, เซร์จี้ โรเบร์โต้, มาร์กอส อลอนโซ่ หรือ เซร์คิโอ เรกีลอน ล้วนเหมือนมี “คำเตือน” แปะหน้าว่าต้องรีบเร่งเค้นฟอร์มโดยด่วน ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกเป็นแน่

 

แต่ที่น่าจะ “พลาดบอลโลก” ค่อนข้างแน่–อย่างน่าประหลาดใจ ดูเหมือนจะมีแน่ๆ แล้ว หนึ่งราย นั่นคือ ดาบิด เด เคอา

 

แม้จะมาตรฐานสูงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด (สลับกับออกลูกเหวอเป็นพักๆ) แต่ช่วง 2-3 ปีหลังก็ได้ลงสนามรับใช้ชาติอย่างจำกัดมาตลอด (ไม่ได้เล่นเลยในชุดตกตัดเชือก ยูโร 2020) ครั้นมาชุดนี้ก็หลุดออกมาเลย ไม่เป็นหนึ่งในสามตัวเลือกนายทวารของ หลุยส์ เอ็นริเก้ อีกแล้ว

 

คนที่ เอ็นริเก้ เลือกไปติดธง มี อูไน ซิมอน (บิลเบา), โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน) และ ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เยอรมนี
23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฮังการี (เร้ดบูลล์อารีน่า, ไลป์ซิก)
26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อังกฤษ (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

ตามหลัง ฮังการี 1 แต้ม แต่ก็ได้ลุ้นแชมป์กลุ่ม 3 ลีกเอ เต็มเหนี่ยว โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดกับ ฮังการี โดยตรงในวันศุกร์ ถ้าชนะได้จะแซงขึ้นจ่าฝูงทันที ก่อนเกมสุดท้าย

 

ฮันซี่ ฟลิค ที่ยังทำทีมไม่แพ้ใครสักนัดหลังผ่านไป 13 เกม (ชนะ 9 เสมอ 4) แทบไม่ได้เปลี่ยนทีมจากช่วงหลังๆ โดยขาดสำคัญๆ แค่ มาร์โก รอยส์ ที่บาดเจ็บ รายเดียว

 

นั่นหมายความว่า โฉมหน้าทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของ เยอรมนี ก็จะเป็นทีมประมาณนี้แหละ – นอยเออร์, สเตเก้น, ทรัปป์, รูดิเกอร์, ซูเล่, กินเทอร์, ชล็อตเตอร์เบ็ค, คิมมิช, กุนโดกัน, โกเร็ตซ์ก้า, ฮาแวร์ตซ์, มูเซียล่า, มุลเลอร์, แวร์เนอร์, ซาเน่, นาบรี้

 

ที่ยังไม่ชัวร์จะได้ไปกาตาร์ (แต่อยู่ในทีมชุดนี้นะ) อาจมีอย่างพวก ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก) หรือ อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป (เซาธ์แฮมป์ตัน) ประมาณนี้

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เนเธอร์แลนด์
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปแลนด์ (นาโรโดวี่, วอร์ซอว์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เบลเยียม (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

อีกหนึ่งทีมที่มีแฟนเยอะในบ้านเรา แต่ยังไม่เคยไปถึงแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งก็น่าเป็นห่วงเล็กๆ ว่าด้วยความที่ เนชั่นส์ ลีก ยังไม่จบ แต่รอบสุดท้ายบอลโลกมาคอยท่าแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมกลุ่มกับทีม “ต่างทวีป” ทั้งสิ้น ทั้ง เซเนกัล, เอกวาดอร์ และเจ้าภาพ กาตาร์ ก็ทำให้อาจเจอปัญหากับบอลต่างสไตล์ ไม่ค่อยรู้หน้าค่าตาแบบนี้ได้เหมือนกัน

 

สำหรับในเนชั่นส์ ลีก ทีมกังหันอยู่ในจุดที่ดีของการคว้าแชมป์กลุ่ม จากการมีแต้มเหนือ เบลเยียม 3 คะแนน (10:7) นั่นหมายถึงถ้าชนะ โปแลนด์ ได้ จะต้องการแค่ผลเสมอจากเกมส่งท้าย ปะทะปีศาจแดงแห่งยุโรป เท่านั้น

 

ส่วนขุมกำลังชุดนี้ คุณปู่ หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนทีมพอสมควรจากชุดก่อนๆ ที่หลุดไปด้วยหลายเหตุผล (เจ็บบ้าง ฟอร์มไม่เข้าตาบ้าง) มีทั้ง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ลุค เดอ ยอง, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า, ไรอัน กราเฟนเบิร์ก, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ถ้ายังคงนั่งสำรองก้นด้านกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ด้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มัทไธส์ เดอ ลิกท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ดาลี่ย์ บลินด์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เมมฟิส เดอปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, โคดี้ กัคโป ยังมีที่ทางในทีมตามเดิม เพิ่มเติมด้วย วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) อดีตดาวดับของ สเปอร์ส ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ รอยัล อันท์เวิร์ป คืนสู่ทำเนียบทีมชาติหนแรกในรอบหลายปี

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เบลเยียม
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เวลส์ (คิง โบดวง, บรัสเซลส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เนเธอร์แลนด์ (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

ปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่เวลานี้หล่นจากเบอร์ 1 มาเป็นเบอร์ 2 อันดับโลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง (เสียตำแหน่งให้บราซิล) อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทั้ง 2 เกมที่เหลือ เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มมาจาก เนเธอร์แลนด์ ให้ได้ จากการตามหลังอยู่ 3 แต้มในตอนนี้

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยังคงยึดทีมเดิมๆ เป็นแกน ชนิดหลับตาก็นึกชื่อออก ไม่ว่าจะ เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ธอร์แกน อาซาร์, ยานนิค การ์รัสโก้, ยูรี่ ตีเลอมันส์, ดรีส เมอร์เทนส์ หรือ ติโบต์ กูร์กตัวส์

 

อย่างไรก็ตาม โรเมลู ลูกากู ดาวยิงอินเตอร์ มิลาน บาดเจ็บจนไม่อยู่ในทีมชุดนี้ ในขณะที่ ดิว็อค โอริกี้ ที่เงียบฉี่กับ เอซี มิลาน หรือ คริสเตียน เบนเตเก้ ที่ไปแสวงโชคในสหรัฐฯ กับ ดี.ซี. ยูไนเต็ด แล้วนั้น ไม่ถูกเรียกตัวมาติดธง แต่กลับยังมี มิชี่ บัตชูอายี่ (28) ที่ย้ายจาก เชลซี ไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ อยู่ในทีม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022โปรตุเกส
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สาธารณรัฐเช็ก (ซิโนโบ, ปร้าก)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สเปน (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

เจ้าของแชมป์ยูโร 2016 ถูกประเมินเป็นเพียง “ม้านอกสายตา” สำหรับการคั่วแชมป์โลกที่กาตาร์ ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไปค่อนข้างเยอะของตัวชูโรงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ว่าในขณะเดียวกันยังมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ชูเอา เฟลิกซ์, ราฟาเอล เลเอา หรือ ดีโอโก้ โชต้า เป็นตัวความหวัง ก็ตาม

 

รายชื่อข้างต้น ต่างยังคงอยู่ในทีมของ แฟร์นันโด ซานโตส ทั้งหมด ส่วนที่หลุดไปมีอาทิ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง), เรนาโต้ ซานเชซ (เปแอสเช) รวมถึง ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์) ที่อายุปาไป 36 แล้ว

 

สำหรับสถานการณ์ใน เนชั่นส์ ลีก ทีมฝอยทองอยู่ในสถานะเป็นรอง สเปน จากการมีแต้มตามหลัง 1 คะแนน หมายถึงอย่างน้อยต้องชนะ สาธารณรัฐเช็ก เป็นอันดับแรก แล้วก็มีโอกาสสูงที่ยังต้อง “บังคับชนะ” สเปน ในเกมสุดท้ายอีกทีเพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เดนมาร์ก
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โครเอเชีย (มักซิเมียร์, ซาเกร็บ)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฝรั่งเศส (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

อีกหนึ่งชาติยุโรปที่ถูกมองจากหลายฝ่ายว่ามีสิทธิ์ทำเซอร์ไพรส์ ถัดจากการเข้าถึงตัดเชือกยูโร 2020, การตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นชาติที่ 3 (ถัดจาก กาตาร์ และ เยอรมนี) และการลุ้นแชมป์กลุ่ม 1 ลีกเอ อย่างเต็มตัว ด้วยมีโอกาสสูงจะทำสำเร็จ จากการที่มี 9 แต้ม นำหน้าทั้ง โครเอเชีย (7), ออสเตรีย (4) และ ฝรั่งเศส (2) ที่หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว

 

แต่แม้กระนั้น เกมเยือน โครเอเชีย ในวันพฤหัสบดี สำคัญแบบโคตรๆ เมื่อทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ไม่อาจหลุดแพ้ได้เลย หากพลาดพลั้งขึ้นมามีอันหล่นจากจ่าฝูงทันที แถมนัดสุดท้ายยังต้องเจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส อีกด้วย

 

ความเปลี่ยนแปลงในขุมกำลังของ ฮูลมันด์ มีเยอะ–ในหน้าตลาด เมื่อหลายต่อหลายแข้งคนสำคัญถึงเวลาเปลี่ยนสังกัด ไม่ว่าจะ คริสเตียน เอริคเซ่น, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, มิคเคล ดัมส์การ์ด, มาร์ติน เบรธเวท หรือ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

แต่พวกที่เอ่ยถึงทั้งหมดต่างยังคงอยู่เป็นแกนของทีมโคนมตามปกติ ที่หลุดไปไม่โดนเรียกมีอาทิ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น, ปิโอเน่ ซิสโต้, โมฮาเหม็ด ดารามี่

 

ส่วนทาง อันเดรียส คอร์เนเลียส, โรเบิร์ต สคอฟ, โยนาส วินด์, คริสเตียน นอร์การ์ด บาดเจ็บทั้งหมด

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022บราซิล
23/09 อุ่นเครื่องพบ กาน่า (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ตูนิเซีย (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)

 

ที่จริงแล้ว ฟีฟ่า ได้สั่งให้ บราซิล มาลงเตะรีแมตช์กับ อาร์เจนติน่า (เกมเจ้าปัญหาเมื่อ 5 ก.ย. 2021 คู่นี้ลงสนามกันแค่ 5 นาทีก็โดนแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบราซิล จนลุกลามบานปลายเป็นการวอล์คเอาต์ของแข้งฟ้าขาว และเกมต้องยกเลิกในที่สุด) ในเบรคทีมชาติงวดนี้ แต่ปรากฏว่าทั้ง บราซิล และ อาร์เจนติน่า ได้ปฏิเสธการลงเล่นเกมนี้ซ้ำ เมื่อต่างก็มองไม่เห็นว่าการรีแมตช์จะเกิดประโยชน์อันใด สู้ปล่อยให้แยกกันไปเล่นเกมลับแข้ง เตรียมทีมสู้ศึกบอลโลก จะเป็นเรื่องดีกับทั้งสองมากกว่า

 

ตีเต้ ที่ถูไม้ถูมือจะนำทีมครองแชมป์โลกให้ได้ในรอบ 20 ปี กำลังมีตัวเลือกนักเตะดีๆ ล้นมือ จนทำให้ต้องหมางเมินหลายๆ คนไป ไม่ว่าจะ กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อาร์ตูร์ เมโล่, เฟลิเป้ มอนเตโร่, ดานี่ อัลเวส แต่กลุ่มนี้ก็ยังอยู่ในข่ายพิจารณาไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ (หรือบางคนก็จะได้ไปแน่ๆ แต่แค่ว่า “ได้พัก” สำหรับเดือนนี้เท่านั้นเอง)

 

ประเด็นของทีมชุดล่าสุดนี้ คงมีประมาณ 2 ข้อ
1) แนวรุก ต่อให้ไม่นับ เปโดร ตัวใหม่จากฟลาเมงโก้ ก็ยังยืนเบียดไหล่ชนไหล่ ใครจะลงใครจะนั่ง เป็นเรื่องปวดหัวของ ตีเต้ ดีแท้
เนย์มาร์ (เปแอสเช) 119 นัด / 74 ประตู
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล) 55 / 17
ริชาร์ลิซอน (สเปอร์ส) 36 / 14
วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) 14 / 1
ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า) 9 / 3
อันโตนี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 9 / 2
มาเตอุส คุนญ่า (แอตฯ มาดริด) 7 / 0
โรดรีโก้ โกเอส (เรอัล มาดริด) 5 / 1

 

กับ 2) ทั้งที่ตัวเลือกมีบานเบอะ ตรงกลาง เฟร็ด ก็ยังอุตส่าห์จะติดอยู่อีก!

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อาร์เจนติน่า
23/09 อุ่นเครื่องพบ ฮอนดูรัส (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)
27/09 อุ่นเครื่องพบ จาไมก้า (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)

 

เช่นเดียวกันกับ บราซิล ที่เกมรีแมตช์ “ซูเปอร์กลาซิโก้” ระหว่างคู่รักคู่แค้นแดนละติน ได้ถูกยกเลิกคิวไปแม้ ฟีฟ่า จะสั่งการมา

 

อาร์เจนติน่า วางโปรแกรมเล่นในเบรคทีมชาติงวดนี้เอาไว้ 2 นัด เป็นการยกพลไปเก็บตัวและลงสนามที่สหรัฐอเมริกา โดยจะเล่นที่ ไมอามี่ ฟลอริด้า และ แฮร์ริสัน นิว เจอร์ซี่ย์ ตามลำดับ

 

ทีมฟ้าขาวตั้งใจเรียก 2 ทีมจากคอนคาเคฟอย่าง ฮอนดูรัส และ จาไมก้า มาทดสอบฝีเท้าลองเชิง ก่อนที่ในรอบสุดท้ายพวกเขาจะต้องดวลกับ เม็กซิโก มหาอำนาจของโซนคอนคาเคฟ ในเกมที่ 2 นั่นเอง (นอกเหนือจากการพบ ซาอุฯ และ โปแลนด์)

 

สำหรับทีมชุดนี้ของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ เช่นเดิม ร่วมด้วยซูเปอร์สตาร์ชื่อคุ้นหูอย่าง เปาโล ดีบาล่า, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย, อเลฮานโดร โกเมซ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ หรือประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

ส่วนที่หลุดออกไปมีอาทิ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), ลูคัส อลาริโอ (แฟร้งค์เฟิร์ต), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), ฮวน ฟอยธ์ (บียาร์เรอัล) ที่แน่นอนว่าพวกนี้ก็คงต้องเร่งฟอร์มในระดับสโมสรช่วงโค้งสุดท้ายกันหน่อย ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกแหงๆ

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ญี่ปุ่น
23/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ สหรัฐอเมริกา (สนามกลางที่เยอรมนี)
27/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ เอกวาดอร์ (สนามกลางที่เยอรมนี)

 

โยกมาดูทางฝั่งเอเชียกันบ้างพอกล้อมแกล้ม “ซามูไรสีน้ำเงิน” วางคิวช่วงนี้เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ กิริน ชาลเลนจ์ คัพ โดยเชิญ สหรัฐอเมริกา กับ เอกวาดอร์ มาเป็นแขก ซึ่งจะลงเล่นกันที่ ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

 

กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ปรับทัพพอสมควร เปิดที่ทางให้นักเตะจากเจลีกมาติดทีมหลายราย ส่วนตัวนอกที่เล่นในลีกยุโรป ถูกเมินไปหลายคนจนน่าอิจฉาในทรัพยากรอันเพียบพร้อม ไม่ว่าจะ ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), โค อิตาคุระ (กลัดบัค), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือ เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์)

 

แต่แม้จะเมินไปอื้อ ตัวนอกอีกหลายต่อหลายรายก็ยังคงอยู่เป็นแกนหลัก ไม่ว่าจะ 3 แข้งเซลติก เคียวโง ฟุรุฮาชิ – ไดเซน มาเอดะ – เรียว ฮาตาเตะ, ริตสึ โดอัน (ไฟรบวร์ก), ไดจิ คามาดะ (แฟร้งค์เฟิร์ต), ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก), ทาเคฟุสะ คุโบะ (โซเซียดัด), เกงกิ ฮารางูจิ (อูนิโอน), กาคุ ชิบาซากิ (เลกาเนส), วาตารุ เอนโดะ (สตุ๊ตการ์ท), ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ (อาร์เซน่อล) หรือกัปตันทีม มายะ โยชิดะ ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ ชาลเก้ ในวัย 34

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เกาหลีใต้
23/09 อุ่นเครื่องพบ คอสตาริกา (โกยัง สเตเดี้ยม, โกยัง)
27/09 อุ่นเครื่องพบ แคเมอรูน (โซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม, โซล)

 

นัด คอสตาริกา กับ แคเมอรูน มาลับแข้ง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนต้องเจอ อุรุกวัย, กาน่า และ โปรตุเกส ในรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

 

โสมขาวของกุนซือ เปาโล เบนโต้ แทบไม่เปลี่ยนทีมจากชุดก่อนๆ นำโดย ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมจากสเปอร์ส ที่เพิ่งจัดแฮตทริกใส่เลสเตอร์ และตัวลีกยุโรปเพียบ ไม่ว่า ฮวาง ฮี-ชาน (วูล์ฟส์), อี แจ-ซุง (ไมนซ์), จอง วู-ยอง (ไฟรบวร์ก), อี คัง-อิน (มายอร์ก้า), ฮวาง อุย-โจ (โอลิมเปียกอส) หรือ คิม มิน-แจ (นาโปลี)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022กาตาร์
20/09 อุ่นเครื่องพบ โครเอเชีย ยู-23 (สนามกลางที่ออสเตรีย)
23/09 อุ่นเครื่องพบ แคนาดา (สนามกลางที่ออสเตรีย)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ชิลี (สนามกลางที่ออสเตรีย)

 

ปิดท้ายที่เจ้าภาพ กาตาร์ ซึ่งเดินหน้าเตะลับแข้งแบบรัวๆ ทั้งอุ่นเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยเดือนนี้จัดไปเน้นๆ 3 นัด (เตะที่ออสเตรียทั้งหมด) ก่อนที่เดือน พ.ย. จะจัดอีก 2 นัด พบ ปานามา และ อินเดีย ก่อนรอบสุดท้ายมาถึงช่วงปลายเดือน

 

ส่วนในแง่ขุมกำลัง เฟลิกซ์ ซานเชซ กุนซือทัพ The Maroon ไม่อาจปรับเปลี่ยนอะไรได้มาก เมื่อไม่ได้มีตัวส่งออกไปเล่นลีกยุโรปอย่างใครเขา ทัพนักเตะชุดนี้ 100% เป็นตัวในลีกกาตาร์เองทั้งหมด และแข้งหน้าเดิมๆ เช่น อัลโมเอซ อาลี, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, อัคราม อาฟีฟ, อับดุลลาซิซ ฮาเต็ม, อับเดลคาริม ฮัสซัน มาตามนัดทั้งหมด

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

สรุปโปรแกรมเบรคทีมชาติเดือนกันยายน 2022

พุธ 21/09

FM เวียดนาม – สิงคโปร์ 19:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สกอตแลนด์ – ยูเครน 01:45

 

พฤหัสบดี 22/09

FM ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ 17:00
FM เวเนซุเอล่า – ไอซ์แลนด์ 23:00
UNL โครเอเชีย – เดนมาร์ก 01:45
UNL ฝรั่งเศส – ออสเตรีย 01:45
UNL เบลเยียม – เวลส์ 01:45
UNL โปแลนด์ – เนเธอร์แลนด์ 01:45
UNL คาซัคสถาน – เบลารุส 21:00
UNL ลิธัวเนีย – หมู่เกาะแฟโร 01:45
UNL ตุรเคีย – ลักเซมเบิร์ก 01:45
UNL สโลวาเกีย – อาเซอร์ไบจาน 01:45
UNL ลัตเวีย – มอลโดว่า 23:00
UNL ลิกเตนสไตน์ – อันดอร์ร่า 01:45
KC ตรินิแดดฯ – ทาจิกิสถาน 17:30
KC ไทย – มาเลเซีย 20:30

 

ศุกร์ 23/09

FM เกาหลีใต้ – คอสตาริกา 18:00
FM ญี่ปุ่น – สหรัฐอมริกา 19:25
FM อิหร่าน – อุรุกวัย 23:00
FM กาตาร์ – แคนาดา 00:00
FM ปารากวัย – ยูเออี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – เอกวาดอร์ 01:00
FM บราซิล – กาน่า 01:30
FM โมร็อกโก – ชิลี 02:00
FM แอลจีเรีย – กินี 02:00
UNL เยอรมนี – ฮังการี 01:45
UNL อิตาลี – อังกฤษ 01:45
UNL บอสเนียฯ – มอนเตเนโกร 01:45
UNL ฟินแลนด์ – โรมาเนีย 01:45
UNL จอร์เจีย – มาซิโดเนียเหนือ 23:00
UNL บัลแกเรีย – ยิบรอลตาร์ 01:45
UNL เอสโตเนีย – มอลต้า 23:00

เสาร์ 24/09

FM อาร์เจนติน่า – ฮอนดูรัส 07:00
FM แอฟริกาใต้ – เซียร์ร่า ลีโอน 20:00
FM คีร์กีสถาน – รัสเซีย 21:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – โตโก 23:00
FM โบลิเวีย – เซเนกัล 00:00
FM อินเดีย – สิงคโปร์ 19:00
FM ลาว – มัลดีฟส์ 15:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สาธารณรัฐเช็ก – โปรตุเกส 01:45

UNL สเปน – สวิตเซอร์แลนด์ 01:45
UNL อาร์เมเนีย – ยูเครน 20:00
UNL ไอซ์แลนด์ – รัสเซีย (เลื่อน)
UNL สโลวีเนีย – นอร์เวย์ 23:00
UNL สกอตแลนด์ – ไอร์แลนด์ 01:45
UNL อิสราเอล – อัลเบเนีย 01:45
UNL เซอร์เบีย – สวีเดน 01:45
UNL ไอร์แลนด์เหนือ – โคโซโว 23:00
UNL ไซปรัส – กรีซ 01:45

 

อาทิตย์ 25/09

FM โคลอมเบีย – กัวเตมาลา 06:30
FM เม็กซิโก – เปรู 08:00
FM นิวซีแลนด์ – ออสเตรเลีย 10:00
UNL ออสเตรีย – โครเอเชีย 01:45
UNL เดนมาร์ก – ฝรั่งเศส 01:45
UNL เนเธอร์แลนด์ – เบลเยียม 01:45
UNL เวลส์ – โปแลนด์ 01:45
UNL สโลวาเกีย – เบลารุส 23:00
UNL อาเซอร์ไบจาน – คาซัคสถาน 23:00
UNL หมู่เกาะแฟโร – ตุรเคีย 01:45
UNL ลักเซมเบิร์ก – ลิธัวเนีย 01:45
UNL อันดอร์ร่า – ลัตเวีย 20:00
UNL มอลโดว่า – ลิกเตนสไตน์ 20:00
KC นัดชิงที่ 3 17:30
KC นัดชิงชนะเลิศ 20:30

 

จันทร์ 26/09

UNL อังกฤษ – เยอรมนี 01:45
UNL ฮังการี – อิตาลี 01:45
UNL มอนเตเนโกร – ฟินแลนด์ 01:45
UNL โรมาเนีย – บอสเนียฯ 01:45
UNL ยิบรอลตาร์ – จอร์เจีย 01:45
UNL มาซิโดเนียเหนือ – บัลแกเรีย 01:45
UNL ซานมาริโน่ – เอสโตเนีย 01:45

 

อังคาร 27/09

FM เม็กซิโก – โคลอมเบีย 09:00
FM เกาหลีใต้ – แคเมอรูน 18:00
FM เอกวาดอร์ – ญี่ปุ่น 18:55
FM แอฟริกาใต้ – บอตสวาน่า 20:00
FM แคนาดา – อุรุกวัย 23:00
FM บาห์เรน – ปานามา 23:00
FM กาตาร์ – ชิลี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – สหรัฐอเมริกา 01:00
FM อุซเบกิสถาน – คอสตาริกา 01:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – กินี 01:00
FM บราซิล – ตูนิเซีย 01:30
FM ปารากวัย – โมร็อกโก 02:00
FM แอลจีเรีย – ไนจีเรีย 02:00
UNL โปรตุเกส – สเปน 01:45
UNL สวิตเซอร์แลนด์ – สาธารณรัฐเช็ก 01:45
UNL ไอร์แลนด์ – อาร์เมเนีย 01:45
UNL ยูเครน – สกอตแลนด์ 01:45
UNL อัลเบเนีย – ไอซ์แลนด์ 01:45
UNL รัสเซีย – อิสราเอล (เลื่อน)
UNL นอร์เวย์ – เซอร์เบีย 01:45
UNL สวีเดน – สโลวีเนีย 01:45
UNL กรีซ – ไอร์แลนด์เหนือ 01:45
UNL โคโซโว – ไซปรัส 01:45

 

พุธ 28/09

FM จาไมก้า – อาร์เจนติน่า 07:00
FM เปรู – เอล ซัลวาดอร์ 07:00
FM ฮอนดูรัส – กัวเตมาลา 08:00

หมายเหตุ – UNL ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก / FMเกมอุ่นเครื่อง / KC คิงส์คัพ

 

 

อ้างอิง
Soccerway
WIKIPEDIA
The Statesman

ภาพประกอบ
Sports Brief
Footy Headlines
Goal

ปอล ป็อกบา ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ปอล ป็อกบา ปัญหาบทที่ 2 ของแชมป์โลกฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2022

แม้จะไม่ใช่นักเตะที่แฟนผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรัก แต่กับแฟนม้าลาย ยูเวนตุส และทีมชาติฝรั่งเศสแล้ว ปอล ป็อกบาคือนักเตะคนสำคัญ โดยเฉพาะกับทีมชาติที่ถือว่าเป็นกำลังหลักคนหนึ่ง ซึ่งช่วยให้ทีมตราไก่ไปถึงฝั่งฝันในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย หากในฟุตบอลโลก 2022 บางทีอาจไม่มีเขา เมื่อสภาพร่างกายปอล ป็อกบาอาจไม่พร้อมเมื่อถึงวันนั้น โดยไม่ต้องพูดถึงเรื่องนอกสนามที่พี่ชายแท้ ๆ ของเขาเองเตรียมแฉพฤติกรรมของน้อง เพื่อแลกกับค่าตอบแทน

ปอล ป็อกบา ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

สถานการณ์ของปอล ป็อกบาในฟุตบอลโลก 2022 อยู่ในสภาพน่าเป็นห่วง (ภาพ: www.skysports.com)

ก่อนหน้านี้สถานการณ์ของปอล ป็อกบากำลังไปได้สวย ได้ย้ายกลับตูรินถิ่นสร้างชื่อ หลังเป็นนักเตะที่แฟนไม่รัก ฟอร์มในสนามขาดความสม่ำเสมอที่แมนเชสเตอร์ เขากำลังจะรีสตาร์ตตัวเองก่อนฟุตบอลโลก 2022 แต่เรื่องดี ๆ ก็พลิกผัน เขาได้รับบาดเจ็บหมอนรองกระดูกหัวเข่าข้างขวาฉีก จนลงเล่นในช่วงเตรียมทีมก่อนเริ่มฤดูกาลของยูเว่ที่สหรัฐอเมริกาได้แค่ 45 นาที เมื่อ 23 กรกฎาคม

ปอล ป็อกบาเลือกไม่ผ่าตัด แต่เมื่อผ่านไป 5 สัปดาห์เขาก็ต้องขึ้นเขียง และทำให้โอกาสไปฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์อยู่ในเครื่องหมายคำถามทันที เมื่อต้องใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ เพื่อทำกายภาพบำบัด ขณะที่ตอนนี้ (8 กันยายน) เหลือแค่ 73 วันทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น กับยูเว่ไม่ว่าปอล ป็อกบาจะไปกาตาร์หรือไม่ เขาจะกลับสู่ทีมได้ก็เดือนมกราฯ แต่กับทีมชาติ ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ จะหาทางออกยังไง

หลังได้รับบาดเจ็บ ทางยูเว่ต้องการให้มีการผ่าตัดทันที แพทย์ของทีมบินมาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อเตรียมพร้อมหากมีการผ่าตัดเกิดขึ้น แต่ปอล ป็อกบากลับเลือกคำแนะนำอื่น ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าจะทำให้เขาพร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ส่วนเรื่องการผ่าตัดที่ทำให้เขากว่าจะกลับมาได้ก็เดือนตุลาคม ซึ่งจะมีเวลาแค่ 3-4 สัปดาห์ในการสัมผัสเกมก่อนทัวร์นาเมนท์จะเริ่ม เป็นสิ่งที่ปอล ป็อกบาหลีกเลี่ยง เพราะอยากให้ตัวเองฟิตมากที่สุดเพื่อเกมที่กาตาร์

วิธีที่ว่าทำให้ปอล ป็อกบาต้องบินไปหานายแพทย์แบร์ทรานด์ ซอนเนอรี-ค็อตเท็ต ที่เคยดูแลซลาตัน อิบราฮิโมวิชด้วยวิธีการคล้าย ๆ กันมาก่อน นั่นก็การรักษาในแบบดั้งเดิม พักและทำกายภาพบำบัดด้วยการว่ายน้ำ และออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ซึ่งทางยูเว่ก็น่าจะเห็นด้วยกับทางออกของปอล ป็อกบ้า เพราะจะทำให้เขาหายตัวไปแค่ 5 สัปดาห์

การรักษาเป็นไปด้วยดีจนมาถึงขั้นตอนที่สอง ปอล ป็อกบาก็มีอาการเจ็บบริเวณเข่าอีกครั้ง และตอนนี้ทางออกที่เป็นไปได้ที่สุดเพื่อให้ทันกับเวลาที่กระชั้นเข้ามาก็คือ ผ่าตัด ที่ทำไปเรียบร้อยเมื่อ 5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทุกอย่างผ่านไปด้วยดี โดยเจ้าตัวหวังว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด

การต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพร่างกายถึง 6 สัปดาห์ ทำให้ปอล ป็อกบาอาจไม่ได้ลงสนามในฐานะผู้เล่น 11 คนแรกก่อนเดือนพฤศจิกายน ถ้าได้เล่นก็สักเกม หรือเต็มที่ก็สอง ซึ่งนายแพทย์ที่ดูแลการผ่าตัด โรแบร์โต รอสซี บอกด้วยว่า โดยปกติ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการพักฟื้นคือ 8 สัปดาห์ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพหลังการผ่าตัดว่าจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดไหน สิ่งที่จะแสดงให้เห็นก็คือผลหลังการผ่าตัดผ่านไป 1 สัปดาห์ ถ้าเป็นบวกก็แสดงว่าปอล ป็อกบาน่าจะกลับมาได้เร็วขึ้นหรือตามกรอบเวลาเดิม แต่ถ้าไม่ เขาก็ต้องอำลาฟุตบอลโลกไปซะตั้งแต่ตอนนี้

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ นักเตะคนสำคัญอีกรายของทีมแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่มีปัญหาบาดเจ็บ (ภาพ: www.teamtalk.com)

กับยูเวนตุสที่ทำใจไว้แล้วว่า กว่าจะได้ปอล ป็อกบากลับมาก็มกราคม แต่ถ้าได้มาก่อนฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นก็คือฝันที่เป็นจริง ทำให้ปัญหาตกไปอยู่ที่ทีมชาติเต็ม ๆ โดยเฉพาะเมื่อปอล ป็อกบาคือนักเตะคนสำคัญของทีม และไม่ใช่เขาคนเดียวที่มีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ก็ต้องลุ้นให้หายทันและฟิตพอลงสนามอีกคน โดยเส้นตายในการส่งชื่อผู้เล่นของฟุตบอลโลกคือ 9 พฤศจิกายน ส่วนนัดแรกของทีมตราไก่ก็คือ การเจอออสเตรเลียวันที่ 22 พฤศจิกาฯ

ด้วยรูปแบบการเล่นในระบบ 3-4-3 ที่ฝรั่งเศสใช้มาตลอดหลังจบฟุตบอลยูโร 2020 ปอล ป็อกบาคือกุญแจสำคัญในแดนกลางร่วมกับก็องเต้ เมื่อปราศจากเขาในสี่นัดแรกของฟุตบอลเนชันส์ ลีกเมื่อมิถุนายน 2022 ทีมปรับมาเล่น 4-4-2 และ 4-3-3 โดยก็องเต้ได้ลงเล่นแค่นัดเดียว ทีมตราไก่ไม่ชนะใครเลย ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งคู่ที่เล่นเข้าขากันได้อย่างดีลงสนามร่วมกันหนสุดท้ายก็นัดสุดท้ายในยูโร 2020 ที่ฝรั่งเศสพ่ายสวิตเซอร์แลนด์

ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ โค้ชทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ โค้ชทีมแชมป์โลก เจอปัญหาไม่จบไม่สิ้น กับการไปป้องกันแชมป์ที่กาตาร์ (ภาพ: www.beinsports.com)

ยังดีที่ยังมีนักเตะรุ่นใหม่ ๆ พุ่งขึ้นมา และน่าจะพอทำหน้าที่แทนปอล ป็อกบาได้ นอกเหนือไปจาก เอเดรียน ราบิโอต์ ที่ติดทีมเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ยังมี ออเรเลียง ชูอาเมนี ดาวเตะวัย 22 ปีที่ย้ายจากโมนาโกไปร่วมทีมเรอัล มาดริด ซึ่งทำให้ได้เล่นร่วมกับดาวรุ่งวัย 19 ปี เอดูอาร์โด กามาวิงก้า ที่รายหลังลงเล่นเกมลีกให้ราชันย์ชุดขาวไป 4 นัด เป็นตัวจริงสาม ส่วนชูอาเมนีได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 4 นัด นอกจากนี้ยังมีชื่อ อย่าง มัตเตโอ เกว็นดูซี ของมาร์กเซย์, บูบาการ์ กามารา จากแอสตัน วิลลา ซึ่งต่างก็ถูกเรียกติดธงไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนาที่ผ่านมา

แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในกรณีของปอล ป็อกบาเพียงคนเดียว นักเตะเหล่านี้จะแทนที่เขาได้ดีขนาดไหน และต่อให้เขาไปกาตาร์ได้ สภาพร่างกายและความพร้อมของดาวเตะความสามารถรอบตัวรายนี้จะทำได้อย่างที่เคยเป็นหรือไม่?

ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม และเป็นปัญหาที่ต้องรอการแก้ไข

ข้อมูล: theathletic.com
ภาพปก: weallfollowunited.com

เรื่องน่าอ่าน: ปัญหาของแชมป์โลก ฝรั่งเศส ที่ต้องจัดการก่อนนัดแรกฟุตบอลโลก 2022

กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

ฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม ชะตากรรมของแชมป์เก่าไม่สวยสักเท่าไหร่ เพราะจอดป้ายแค่รอบแรกเกือบทั้งหมด รอดถึงรอบต่อไปได้ก็มีแค่บราซิล แชมป์ปี 2002 ที่ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2006 แล้วก็จบแค่นั้น และในฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส แชมป์เก่าจากรัสเซีย ก็ผ่านรอบคัดเลือกมาป้องกันแชมป์ ซึ่งในอดีตพวกเขาคือทีมแรกที่เจออาถรรพ์แชมป์โลก ที่เล่นงานจนตกรอบแรกในฟุตบอลโลกครั้งต่อมา แบบไม่ชนะใครเลย คราวนี้ทีมตราไก่ที่เป็นทีมวางในกลุ่ม ดี จะมีโอกาสเจอคำสาปแชมป์โลกซ้ำหรือไม่

กลุ่ม ดี: ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนีเซีย

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

ทีมแชมป์โลก ฝรั่งเศส ทีมวางในกลุ่ม ดี (ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

ฝรั่งเศสเดินทางมาป้องกันแชมป์ โดยเป็นหัวแถวกลุ่ม ดี มีดิดีเยร์ เดส์ชองป์ เป็นโค้ชเหมือนเดิม แต่ผลงานหลังจากคว้าแชมป์โลกกลับดูไม่ค่อยน่าประทับใจนัก รูปแบบการเล่นก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ฟุตบอลยูโร 2020 ก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยพ่ายสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทีมวัวเคยขาม้าเคยขี่มาตลอด แถมบอลเนชันส์ ลีกที่เพิ่งเตะไปสี่นัด ก็ทำได้แค่เสมอสอง และเอาชนะใครไม่ได้เลย ทำเอาเสียเครดิตมาก ๆ แล้วต้องลุ้นนักเตะตัวหลัก อย่าง ปอล ป็อกบา ว่าจะหายเจ็บทันฟุตบอลโลกไหม ถ้าหายทันก็ลุ้นต่ออีกว่าจะฟิตพอสำหรับลงสนามแค่ไหน ยังดีที่เดส์ชองป์มีนักเตะที่ดีอยู่ในมือมากมาย เช่น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมฟุตบอลโลกหนก่อน กับพวกดาวเตะหน้าใหม่ ๆ ที่กำลังพุ่งขึ้นมา เช่น ออเรเลียน ชูอาเมนี, วิลเลียม ซาลิบา และเอดูอาร์โด กามาวินก้า ส่วนพวกหน้าเก่า ๆ ก็ยังไม่ถึงกับหลุดฟอร์ม โดยเฉพาะศูนย์หน้า – คาริม เบนเซม่า ที่ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีต่อเนื่อง

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

แล้วเมื่อดูเพื่อนร่วมกลุ่ม ดี คู่แข่งดูจะมีแค่เดนมาร์ก การผ่านไปสู่รอบ 16 ทีมน่าจะเป็นเรื่องไม่ยาก เพียงแต่จะเป็นที่ 1 หรือ 2 เพราะทีมโคนมอยู่ในฟอร์มที่ดีกว่า หากเทียบกันในตอนนี้ ทำให้การเจอกันในนัดที่สองของทั้งคู่ คือนัดตัดสินชะตาว่าใครจะเป็นที่เท่าไหร่ของสาย ที่ตอนนี้จากฟอร์ม จากความพร้อมของผู้เล่น คงต้องบอกว่า เดนมาร์กดูดีกว่า โดยเฉพาะหลังยูโร 2020 พวกเขาดูแข็งแกร่งมากขึ้นในเรื่องจิตใจ แล้วบรรดานักเตะหน้าใหม่ของทีมน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าเดิม แถมตัวเก่ง อย่าง คริสเตียน เอริกเซนก็กลับมาแล้ว โคนมน่าจะเบียดตราไก่เป็นที่ 1 ในสาย

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

แล้วอีกสองทีมที่เหลือในกลุ่ม ดีไม่มีอะไรเลยหรือ? คำตอบคือ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ตูนีเซียอาจได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์กับความคุ้นเคย เมื่อมีชุมชนของพวกเขาอยู่ในโดฮา แล้วเคยเล่นที่นี่ในฟุตบอลอาหรับคัพปี 2021 ที่ไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่เมื่อพูดถึงฟุตบอลโลกของแค่นี้ยังไม่พอ พวกเขามีโอกาสเป็นทีมแจกแต้มให้สองทีมจากยุโรป โอกาสเดียวในการเก็บแต้มก็คือการเจอกับออสเตรเลีย ที่ผ่านเพลย์ออฟมากาตาร์ด้วยฟอร์มการเล่นดูพื้น ๆ ไม่มีเสน่ห์หรือความพิเศษใส่ไข่ แบบที่หากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์หรือเปรู จะเข้ามาแทนที่ก็ได้เมื่อดูฟอร์มการเล่นในวันเจอกับทีมแดนจิงโจ้ และทำให้การเจอกันของตูนีเซียและออสเตรเลียกลายเป็นแม็ตช์ที่น่าสนใจขึ้นมาทันที กับการเป็นนัดตัดสินชะตา เช่นเดียวกับการเจอกันของสองทีมแห่งยุโรป แต่ขณะที่คู่หนึ่งวัดกันว่าใครจะเป็นที่ 1 ในสาย อีกคู่คือการวัดว่าใครจะจมอยู่ที่สุดท้ายของกลุ่ม ดี

ตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

ตูนีเซีย ทีมที่ได้เสียงเชียร์จากชุมชนชาวตูนีเซียในโดฮา (ภาพ: Twitter @tunisiefootball)

งานนี้ ขอสรุปว่า ในกลุ่ม ดี ของฟุตบอลโลก 2022 โคนมน่าจะเข้าวินเป็นที่หนึ่ง ฝรั่งเศสเป็นที่สอง ออสเตรเลียคงมาที่สาม ส่วนตูนีเซียน่าจะรั้งท้าย ในแบบที่สองอันดับสุดท้ายเบียดกันแบบฉิวเฉียดสุด ๆ

โปรแกรมในกลุ่ม ดี 

22 พฤศจิกายน
เดนมาร์ก – ตูนิเซีย
ฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย

26 พฤศจิกายน
ตูนิเซีย – ออสเตรเลีย
ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก

30 พฤศจิกายน
ตูนิเซีย – ฝรั่งเศส
ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก 

ข้อมูล: EURONEWS  ESPN FC  WIKEPEDIA
ภาพปก: www.ligue1.com , PA Photos  Liselotte Sabroe/Reuters GETTY IMAGES

เรื่องน่าอ่าน: ปัญหาของแชมป์โลก ฝรั่งเศส ที่ต้องจัดการก่อนนัดแรกฟุตบอลโลก 2022

พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

ในรอบน็อกเอาต์ของฟุตบอลโลก หากทั้งสองทีมเสมอกันกฏที่นำมาใช้ก็คือ การต่อเวลาไปอีกสองครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที ที่หากยังซัดกันไม่ลงก็ต้องไปถึงฎีกา นั่นก็คือการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ที่ทั้งสองทีมจะต้องส่งผู้เล่นจิตแข็งฝั่งละห้าคนมาดวลสลับกันจนครบ หรือชนะขาด ซึ่งถ้ายังเสมอกัน ก็ต้องยิงต่อแบบหมัดต่อหมัด ที่ใครพลาดก็แพ้ไปเลย

ด้วยการที่มีผู้เล่นเพียงแค่สองคนชี้เป็นชี้ตาย คือผู้รักษาประตูและผู้ยิงประตู การดวลลูกโทษที่จุดโทษเพื่อหาผู้ชนะจึงเป็นอีกความระทึก ผู้เล่นในสนามห้ามพลาด และผู้ชมก็ลุ้นจนแทบไม่หายใจ

สำหรับการเตะลูกโทษที่จุดโทษ ถูกนำเสนอให้ใช้ในการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1890 แต่กว่าจะมีการวางกฎและประกาศใช้ก็ 2 มิถุนายน 1891 โดยทีมแรกที่ได้ลูกโทษที่จุดโทษก็คือ แอร์ดรีโอเนียนส์ ในปี 1891 ที่สนามบรูมฟิลด์ ปาร์ก ที่ตลอดเวลา 131 ปี กฏการยิงลูกโทษที่จุดโทษก็เปลี่ยนแปลง พัฒนามาเรื่อย ๆ และจากที่ใช้ลงโทษทีมที่ทำผิดกติกา ก็ถูกนำมาใช้เป็นทางออกในการตัดสินเกมที่หาผู้ชนะไม่ได้ในเวลาปกติ หรือช่วงต่อเวลาพิเศษ (หากมี) ซึ่งเริ่มคิดนำมาใช้กับฟุตบอลโลก ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1970 แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศใช้

จนมาถึงรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1978 การดวลลูกโทษที่จุดโทษจึงนำมาใช้ และเกมแรกของฟุตบอลโลกที่ต้องสู้กันถึงฎีกา ก็เป็นเกมรอบแรกของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนแอฟริกา ที่ตูนีเซียเอาชนะโมร็อกโค เมื่อ 9 มกราคม 1977 แต่กว่าจะได้เห็นในการแข่งขันรอบสุดท้าย ก็เป็นรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน ซึ่งเยอรมันตะวันตกเอาชนะฝรั่งเศส ในเกมที่ได้ชื่อว่าสุดคลาสสิกเกมหนึ่งในฟุตบอลโลก

การดวลลูกโทษที่จุดโทษ นัดชิงฟุตบอลโลก 1994

โรแบร์โต บักโจ้ กับเหตุการณ์ที่เขาอยากจะลืม เมื่อพลาดการดวลลูกโทษที่จุดโทษในนัดชิงชนะเลิศ (ภาพ AFP/ Getty Images)

และหลังจากนั้น การดวลลูกโทษที่จุดโทษก็เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลก ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม และอารมณ์สุดดรามาขึ้นมาได้ ซึ่งในหลาย ๆ เกมก็เป็นเกมคลาสสิก และทำให้นักเตะ อย่าง โรแบร์โต บักโจ้, ฟรังโก้ บาเรซี, ดานิเอเล มัสซาโร หรือ ดาวิด เทรเซเก้ต์ กลายเป็นนักเตะที่ได้รับการจดจำ ในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจดจำ เมื่อพลาดการดวลที่ระยะ 12 หลาในนัดชิงชนะเลิศ และทำให้ชาติของตัวเองพลาดแชมป์ฟุตบอลโลก

ชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เมื่อมาถึงช่วงการดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกก็คือ เยอรมนี ไม่ว่าจะลงเล่นในนามเยอรมันตะวันตกหรือเยอรมนี ชนชาตินี้ไม่เคยแพ้ใคร และที่น่าสนใจก็คือ การดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกของทีมอินทรีเหล็กทั้งหมด 4 หน จากฟุตบอลโลก 4 ครั้งในปี 1982, 1986, 1990 และ 2006 ที่คู่ต่อสู้คือ ฝรั่งเศส, เม็กซิโก, อังกฤษ และ อาร์เจนติน่า ตามลำดับ พวกเขายิงเข้า 94% โดนเซฟแค่ 6% และไม่เคยยิงไม่ตรงกรอบเลย

เยอรมันตะวันตก - ฝรั่งเศส ดวลลูกโทษที่จุดโทษ ฟุตบอลโลก 1982

การดวลลูกโทษที่จุดโทษครั้งแรกในฟุตบอลโลก ระหว่างเยอรมันตะวันตก กับฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 1982 (ภาพ: EMPICS Sports)

ที่น่าพรั่นพรึงก็คือ จากทั้งหมด 18 ลูกที่ได้เตะ ดาวเตะด็อยต์ชลันด์ยิงเข้าถึง 17 ลูก ครั้งเดียวที่พลาดเกิดขึ้นในการดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกครั้งแรก ทั้งของพวกเขาและของทัวร์นาเมนต์ เมื่ออูลี่ สติลิเก้ยิงติดเซฟของฌอง ลุค-เอ็ตโตริ ผู้รักษาประตูทีมตราไก่ ซึ่งนั่นหมายความว่า นับตั้งแต่นั้นพวกเขาไม่เคยพลาด ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าก็คือ ทั้ง 17 ประตูที่ทำได้ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ไม่มีโอกาสสัมผัสบอลเลย!!!

ไม่ใช่แค่ยิงประตู เยอรมนียังทำได้ดีในเรื่องของการป้องกัน เมื่อถึงการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันสามารถเซฟได้ถึง 39%

แต่ที่น่าตลกก็คือ ทีมที่แพ้การดวลลูกโทษที่จุดโทษครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ ก็ไม่ใช่ใครอื่น เยอรมนีนี่แหละ เมื่อพวกเขาพ่ายเช็คโกสโลวาเกียในนัดชิงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทีมชาติเยอรมนีเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วนำมาสร้างเป็นจุดแข็งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แม้พักหลัง ๆ พวกเขาจะแพ้การดวลลูกโทษที่จุดโทษบ้างแล้ว แต่ในฟุตบอลโลก พวกเขายังไม่เคยปราชัยในการวัดใจที่ระยะ 12 หลาเลย

ข้อมูล: WIKIPEDIA – 1, WIKIPEDIA – 2, EURONEWS, FIFAMUSEUM, BESOCCER, ANSWERFOUNDRY
ภาพปก: Sky Sports
เรื่องน่าอ่าน: นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก นอกจากเป็นเวทีให้นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เสริมสร้างเครดิต เป็นพื้นที่ให้นักเตะแถวหน้าใช้ฉายแสง ยังเป็นสนามให้นักเตะดาวรุ่งได้แจ้งเกิด หรือหากทำได้ดีกว่านั้น ก็คือเป็นซูเปอร์สตาร์รายใหม่ประดับวงการ ที่บางคนก็อาจเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อเวทีใหญ่ ๆ เกมในระดับที่แตกต่าง ฟุตบอลโลกก็เป็นผู้ทำลายได้เหมือนกัน

แต่ที่แน่ ๆ ฟุตบอลโลกพร้อมมอบโอกาสให้ แต่จะไปในทิศทางไหนก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละคน เพราะนักเตะดาวรุ่งทุกคนไม่ใช่จะทำได้อย่างเปเล่ เด็กวัยแค่ 17 ปี ที่ยิงประตูในนัดชิงฟุตบอลโลก 1958 พาบราซิลคว้าแชมป์โลกหนแรก แจ้งเกิดให้กับตัวเอง หรือเหมือนไมเคิล โอเว่น ที่ดังระเบิดในฟุตบอลโลก 1998 ด้วยการยิงหนึ่งในประตูที่น่าจดจำที่สุดของฟุตบอลโลกในนัดที่เจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งส่งเด็กวัย 18 อย่างเขามีชื่อในทะเบียนนักเตะหัวแถวของโลก

ฟุตบอลโลกหนก่อนที่รัสเซีย นักเตะดาวรุ่งที่ถูกกล่าวขวัญถึงที่สุด ใช้เวทีฟุตบอลโลกแจ้งเกิดเป็นนักเตะระดับโลกสำเร็จ คงไม่พ้น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ของฝรั่งเศส ที่นอกจากจะยิงประตูในนัดชิงได้แล้ว ยังคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์อีกต่างหาก

และฟุตบอลโลกครั้งนี้ ดาวรุ่งคนไหนจะเป็นดาวค้างฟ้า เป็นซูเปอร์สตาร์จากฟุตบอลโลกบ้าง สองนักข่าวสายฟุตบอล ทิม วิกเคอรี และราฟาเอล โฮนิกสไตน์ วิเคราะห์เอาไว้ให้จับตาดูเรียบร้อยแล้ว

เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (ฝรั่งเศส)

เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า นักเตะดาวรุ่งของทีมชาติฝรั่งเศส

จากเรนน์ส กามาวินก้า นักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสไปชูถ้วยใหญ่ในระดับสโมสรกับเรอัล มาดริดแล้ว (ภาพ: AFP)

กามาวินก้าจะอายุ 20 ปีในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นวัยที่เหมาะสมสำหรับการยกระดับตัวเอง โฮนิกสไตน์พูดถึงนักเตะดาวรุ่งที่ย้ายจากเรนน์สไปชูถ้วยกับเรอัล มาดริดเอาไว้ว่า “ถ้ามีนักเตะคนเดียว ที่ผมควรจับตาดูในฟุตบอลโลก คนนั้นต้องเป็นกามาวินก้า ผมชอบวิธีการเล่นของเขา การเล่นกับบอลของเขาดูสบาย ๆ แล้วเป็นพวกที่ดูเหมือนมีก๊อกสอง สไตล์การเล่นก็ชัดเจน ผมคิดว่าเขามีอะไรดี ๆ ให้เห็นแน่นอน เขาทำให้ผมนึกถึงฟรานซ์ เบ็กเคนบาวเออร์นะ วิธีที่เขาไปกับบอลในแดนกลางของสนาม นี่คือนักเตะมหัศจรรย์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์แน่ ๆ”

จู๊ด เบลลิงแฮม (อังกฤษ)

จู๊ด เบลลิงแฮม นักเตะดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ

จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นนักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์อีกรายของอังกฤษ ที่ไปรุ่งในลีกเยอรมัน (ภาพ: football365.com)

ไอ้หนูสิงห์นักเตะที่ปฏิเสธปีศาจแดง เพื่อไปบ่มตัวเองกับเสือเหลือง ด้วยวัย 19 ปี เบลลิงแฮมคือนักเตะดาวรุ่ง “ที่มีพรสวรรค์มาก ๆ แทบทุกอย่างที่เขาทำ มันดูดีไปหมด, แพรวพราว แล้วก็อันตราย เขายังเป็นผู้เล่นที่มีวิสัยทัศน์ แม้จะเป็นนักเตะกองกลาง แต่เขาก็สามารถวิ่งเข้าไปในพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ แล้วก็ทำประตูได้เช่นกัน ถือว่าเป็นนักเตะกองกลางที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ” โฮนิกสไตน์ กล่าว

จามาล มุสเซียล่า (เยอรมัน)

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดนักเตะดาวรุ่งรายนี้ยอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

นักเตะดาวรุ่งวัย 19 อีกรายที่โฮนิกสไตน์มองว่า “มีความมหัศจรรย์ในตัว เขาชอบวิ่งเข้าหาผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ชอบที่จะเลี้ยงบอล และชอบทำอะไรเหนือความคาดหมายมาก ๆ ทำให้เป็นผู้เล่นที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ในทีมชาติเยอรมัน ต่อให้ทีมอินทรีเหล็กจะสร้างนักเตะที่ดีและมีความคิดสร้างสรรค์ออกมามากมายในหลายปีที่ผ่านมา แต่เขาก็ดูเหนือกว่าคนอื่น ๆ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มนักเตะวัยเดียวกัน ผมคิดว่าทุกคนในเยอรมันน่าจะตื่นเต้น เมื่อเขาเลือกเล่นให้เยอรมันไม่ใช่อังกฤษ”

อัลฟอนโซ เดวีส์ (แคนาดา)

อัลฟอนโซ เดวีส์ นักเตะดาวรุ่งของแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งของแคนาดาเท่านั้น แต่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของชาตินี้ด้วย (ภาพ: Getty Image)

แม้จะเป็นนักเตะในชาติเล็ก ๆ แต่ในระดับสโมสร คอบอลน่าจะคุ้นกับนักเตะดาวรุ่งวัย 22 ปีจากแคนาดารายนี้เป็นอย่างดี กับการลงเล่นในทีมบาเยิร์น มิวนิคเคียงบ่าเคียงไหล่นักเตะระดับท็อปของโลกได้สบาย ๆ “โธมัส มุลเลอร์เรียกเดวีส์ว่าเป็นโรดรัดเนอร์แห่งบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งน่าจะพอทำให้มองออกว่า อะไรที่เขาทำได้ดี เขาเป็นนักเตะที่เร็วโคตร ๆ เหมือนกับเป็นตัวโกงเกมเลยล่ะ เขาจะปล่อยให้แนวรับของฝ่ายตรงข้ามดันขึ้นสูง และนั่นคือโอกาสงาม ๆ ที่อัลฟอนโซจะจัดการกับเขา” โฮนิกสไตน์กล่าว

จูเลียน อัลวาเรซ (อาร์เจนติน่า)

จูเลี่ยน อัลวาเรซ นักเตะดาวรุ่งของอาร์เจนติน่า

นักเตะดาวรุ่ง อย่าง จูเลี่ยน อัลวาเรซ จะได้เล่นคู่กับลิโอเนล เมสซี่ ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Cityzilla)

“นักเตะศูนย์หน้าจากริเวอร์เพลต ที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตีอย่างรวดเร็ว แต่ความคิดของเขาเร็วกว่า ที่ผมสนใจก็คือการที่เขามีโอกาสได้เล่นกับเมสซี่มากขึ้น เพราะคุณจะต้องคิดเร็วทำไวกว่าที่เคยหากต้องเล่นกับเมสซี่ เรื่องเทคนิคก็ต้องเยี่ยม ความคิดต้องเร็วในระดับเดียวกับเมสซี่ และผมคิดว่า บางทีในระหว่างทัวร์นาเมนต์ การเล่นร่วมกันของเมสซี่และอัลวาเรซ อาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด” ทิม วิคเคอรี่ พูดถึงนักเตะดาวรุ่งวัย 22 ปี

แน่นอนว่า นี่คือนักเตะดาวรุ่งบางส่วน จากทีมระดับท็อปในฟุตบอลโลก 2022 ที่บางทีพวกเขาอาจจะดับแสง เมื่อมีใครบางคนที่รุ่งกว่าพุ่งขึ้นมาจริง ๆ แต่ถ้าบอกว่าเอาเฉพาะที่น่าจับตามอง พวกเขาเหล่านี้คือคนที่ใช่จริง ๆ

ข้อมูล: EURONEWS

เรื่องน่าอ่าน: ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่