ปัญหาของแชมป์โลก ฝรั่งเศส ที่ต้องจัดการก่อนนัดแรกฟุตบอลโลก 2022

ตั้งแต่เข้ายุคยุคมิลเล็นเนียม อดสงสัยไม่ได้ว่า บรรดาแชมป์ฟุตบอลโลกโดนอาถรรพ์อะไรหรือเปล่า? เพราะล้วนแล้วแต่คว่ำไม่เป็นท่าในการป้องกันแชมป์ ตกรอบแรกล้วน ยกเว้นบราซิลที่ไปไกลที่สุด แต่ก็แค่รอบก่อนรองชนะเลิศ และหนึ่งในแชมป์โลกที่เจอประสบการณ์หลอนแบบนี้ ก็คือฝรั่งเศส แชมป์ปี 1998 ที่มาป้องกันแชมป์ในเอเชียแต่กลับต้องขายหน้า ตกรอบแรกแบบไม่ชนะใคร และกับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์​ ฝรั่งเศสก็มาป้องกันแชมป์อีกครั้ง

หลังฟอร์มไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร จู่ ๆ ทีมตราไก่ก็เหมือนโดนของ เพราะศึกเนชันส์ ลีกที่เตะไป 4 แม็ตช์ในเดือนมิถุนาฯ​ เก็บได้แค่ 2 แต้ม จากการเสมอโครเอเชียและออสเตรีย ส่วนอีก 2 นัดแพ้เดนมาร์กกับโครเอเชียคาบ้าน จนต้องคิดบ้างละว่า แชมป์เก่าจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอยไหม? และอีกไม่กี่เดือนจะถึงนัดแรกของฝรั่งเศส 22 พฤศจิกายน ที่ต้องเจอซอกเกอร์รูส์ – ออสเตรเลีย ดิดิเยร์ ทีมจะพร้อมรับมือหรือเปล่า?

มองอย่างมีเหตุมีผล สถานการณ์ของฝรั่งเศสในเนชันส์ลีกตกดวงแตกพอดี นักเตะตัวหลักเจ็บบาน ไม่มี ราฟาเอล วาราน, คิลิยัน เอ็มบัปเป้, เอ็นโกโล ก็องเต้ และปอล ป็อกบา อองตวน กรีซมันน์ก็ไม่อยู่ในฟอร์ม เดส์ชองป์เจอเรื่องเศร้าเมื่อพ่อเสียชีวิต ที่ด้วยอะไรหลายอย่างทำให้เขาไม่ได้คุมทีมวันโดนโคนมเผาเครื่อง และหลังพ่ายโครแอ็ต เจ้าตัวก็ยอมรับตรง ๆ ว่า เขาไม่มีพลังให้กับทีมมากพอ ซึ่งไม่แปลกใจที่นักเตะตราไก่จะเล่นกันแบบเนือย ๆ

เรื่องของแท็กติก ก็เป็นปัญหา เมื่อเดส์ชองป์ยังไม่รู้เลยว่าจะจัดแนวรับยังไง สามหรือสี่คน

มาถึงตอนนี้ นอกจากจะบอกตัวเองตั้งต้นใหม่ลืมเดือนดวงแตกซะ เขาก็ต้องบอกกับลูกทีมเช่นกัน เพราะไม่งั้นฝรั่งเศสอาจหล่นไปอยู่ลีก บีของทัวร์นาเมนต์นี้ในปีหน้า ไหนต้องเตรียมตัวสำหรับการป้องกันแชมป์โลกด้วย เพราะเวลางวดเข้ามาทุกที แม้จะเคยได้แชมป์โลกในปี 1998 และแชมป์ยุโรปในปี 2000 แต่เดส์ชองป์ก็ไม่มีประสบการณ์เรื่องการป้องกันแชมป์เลย เพราะอำลาทีมชาติไปก่อน ดีที่สุดก็แค่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น และเขาต้องหาทางไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก

อย่างแรกที่ต้องทำคือ ปลุกตัวเอง แล้วตามด้วยการแก้ปัญหาให้ได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องแนวรับ ที่ตกเป็นศูนย์กลางของปัญหา เดส์ชองป์ดูเหมือนอยากเล่นหลังสาม ซึ่งต่างจากชุดแชมป์โลกที่ใช้สี่ มีเบนจามิน ปาวาร์ด, วาราน, ซามูเอล อุมติตี้ และลูกัส เอร์น็องเดซ แต่นั่นคืออดีต พวกเขาดีสำหรับเดส์ชองป์และเป็นสิ่งที่ทีมต้องการในตอนนั้น แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนดูมีปัญหา วารานถึงยังเป็นหัวใจแต่ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวน, อุมติตี้ หลุดฟอร์ม ส่วนชูลส์​ คุนเด้กับเอร์น็องเดซ ก็ยังเป็นหลักไม่ได้ จะพึ่งเพรสเนล คิมเพมเบ ฟอร์มก็ผีเข้าผีออกไม่เหมาะกับฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ทางออกก็คือดันนักเตะรุ่นใหม่ วิลเลียม ซาลิบา, อิบราฮิม โกนาเต้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน หรือเวสลีย์ โฟฟานา ขึ้นมาแทน แต่ก็ต้องใช้งานได้เลย รอไม่ได้ อย่างน้อยก็สักราย

ในแดนกลาง ตัวหลักอย่าง ก็องเต้กับป็อกบา ฟอร์มก็ไกลจากช่วงดีที่สุด แถมมีอาการบาดเจ็บเป็นพัก ๆ ทั้งคู่ ล่าสุดป็อกบาที่สภาพจิตใจน่าจะดีขึ้นเมื่อได้กลับไปยูเวนตุส ก็ต้องเข้ารับการผ่าตัด กว่าจะกลับมาก็เดือนตุลาฯ แม้จะหายทันฟุตบอลโลก แต่เวลาพักฟื้นที่ไม่มาก เขาจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ไหม? ก็น่าสงสัยอยู่

เดส์ชองป์จะได้ใช้บริการสามประสานกรีซมันน์-เอ็มบัปเป้ และคาริม เบนเซม่าได้ในแดนหน้า โดยกรีซมันน์จะเล่นหลังสองกองหน้า แม้จะดูดีแต่ปัญหาคือ ฝรั่งเศสไม่มีผู้เล่นวิงแบ็คด้านขวา จนต้องใช้คิงส์ลีย์ โกม็องมาเล่นแก้ขัด แต่ที่น่าห่วงกว่าก็คือ ฟอร์มของกรีซมันน์ ที่ออกมหาสมุทรแล้ว ด้วยฟอร์มแบบนี้ เขาไม่เหมาะจะสตาร์ตเป็น 11 คนแรก แม้ประสบการณ์และสถานภาพในทีมจะล้นแก้วก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็พอมีทางออก ใช้คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคูที่เคยเล่นกับเอ็มบัปเป้ในเปแอสเช และประสานงานกับเบนเซม่าได้ดีในวันพ่ายเดนมาร์กมาแทน ถึงตำแหน่งในทีมชาติจะต่างจากที่เขาเล่นในอาร์เบไลป์ซิกก็เถอะ

เพิ่มความแกร่งในแดนกลางได้ โดยปรับจาก 3-4-1-2 ไปเป็น 3-5-2 ที่จะมีคนมาช่วยก็องเต้และป็อกบาอีกคน และโอเลรีแย็ง ชูอาเมนีที่กำลังสดจากเรอัล มาดริดก็เป็นคำตอบที่ดี ช่วยให้ทีมแข็งแกร่งและมีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งเดส์ชองป์น่าจะต้องการ โดยเฉพาะการเล่นในทัวร์นาเมนต์ และโดยส่วนตัวเชื่อว่านี่น่าจะเป็นทางออกที่ีดีที่สุด แต่คนตัดสินใจก็คือเดส์ชองป์ ที่เหมือนยังคิดไม่ตก มองทางเลือกอื่นอีก เช่น เล่น 4-3-3 ให้เอ็มบัปเป้ก่อกวนในทางกว้าง หรือแบบโบราณ 4-4-2 ที่ได้ผลในฟุตบอลโลก 2018 ที่หนนี้เอ็มบัปเป้จะคู่กับเบนเซม่า และมีผู้เล่นทางกว้างสนับสนุนซ้าย-ขวา ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ช่วงหลัง ๆ เดส์ชองป์ดูจะฝังใจกับรูปแบบนี้

และเขาต้องคิดให้ตกและขบให้แตก ไม่เช่นนั้นทีมจะตกอยู่ในสภาวะโดนของ จนไปไม่ถึงไหนในฟุตบอลโลก 2022 เพราะคู่แข่งร่วมสาย เดนมาร์กก็ปราบพวกเขามาแล้ว, ทีมจิงโจ้ที่ดูห่างชั้น ก็มีหน่วยก้านพอฟัดกับพวกเขาไหว ส่วนตูนีเซียจากแอฟริกา อย่าลืมว่า ปีที่พวกเขามาแบบแชมป์แต่ดันร่วงรอบแรก ก็เจอเซเนกัล งานยากในคราบงานง่าย ที่ทำให้พวกเขาเริ่มต้นไม่สวยแล้วก็จบแบบดวงซวยอย่างที่เห็น

ข้อมูล: https://www.espn.com/soccer/france-fra/story/4693835/france-were-made-to-suffer-in-the-nations-league-can-deschamps-turn-it-around-for-the-world-cup
ภาพ: Twitter @FrenchTeam

เรื่องน่าอ่าน: ทีเด็ด ฟุตบอล – เส้นทางทีมชาติอังกฤษ จะไปได้ไกลถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์