เรื่อง

โครเอเชีย vs เบลเยียม : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย vs เบลเยียม : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย : โครเอเชีย vs เบลเยียม
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

เบลเยียม
แชมป์กลุ่มอี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 25 เสีย 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 4-1

เบลเยียม
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1
อุ่นเครื่อง แพ้ อียิปต์ 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ โมร็อกโก 0-2

 

ผลการพบกัน : 8 นัด
โครเอเชีย ชนะ 3
เสมอ 2
เบลเยียม ชนะ 3

 

ตารางคะแนนกลุ่มเอฟ หลังผ่าน 2 นัด
1. โครเอเชีย คะแนน 4 ผลต่างประตู +3
2. โมร็อกโก คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
3. เบลเยียม คะแนน 3 ผลต่างประตู -1
4. แคนาดา คะแนน 0 ผลต่างประตู -4 (ตกรอบแล้ว)

 

สภาพทีม
โครเอเชีย
ชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0 ก่อนเร่งเครื่องกราดยิง แคนาดา 4-1

 

สองนัด 4 แต้มนำจ่าฝูงของกลุ่ม หมายถึงว่า โครเอเชีย ขอแค่เสมอเกมนี้เป็นพอ หรือกระทั่งแพ้ก็ยังมีสิทธิ์เข้า หากว่าอีกคู่ โมร็อกโก พลิกแพ้ แคนาดา ขึ้นมา

 

ซลัตโก้ ดาลิช มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มเติมเล็กๆ กับราย อีวาน เปริซิช จอมเก๋าจากสเปอร์ส เจ็บจนต้องเปลี่ยนออกนัดก่อน เกมนี้ถ้าไม่ไหวจะเป็น มิสลาฟ ออร์ซิช เล่นแทนในตำแหน่งปีกซ้าย

 

คาดว่าระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าใช้ มิสลาฟ ออร์ซิช เดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ นิโกล่า วลาซิช

 

เบลเยียม
ผ่านเข้ารอบแบบไร้พ่ายจากรอบคัดเลือกโซนยุโรป และเกมแรกก็เบียดชนะ แคนาดา 1-0 แต่ถัดมาเล่นผิดฟอร์มจนแพ้ โมร็อกโก 0-2

 

ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 แต้ม ปีศาจแดงแห่งยุโรปจึงตกที่นั่งลำบากทันที ผลเสมอเกมนี้อาจไม่เพียงพอ เมื่อ โมร็อกโก (4 แต้ม) จะเจอกับทีมตกรอบไปแล้วอย่าง แคนาดา ดังนั้น เบลเยียม ต้องเอาชนะเกมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อจะไม่ต้องสนผลอีกคู่

 

ประเด็นสำคัญคือ ภายในแคมป์เบลเยียมดูเหมือนจะมีรอยร้าว ต่อกรณีที่ เควิน เดอ บรอยน์ ไปให้สัมภาษณ์ว่าทีมตนไม่มีลุ้นแชมป์โลกเนื่องจากนักเตะแก่ๆ กันแล้ว ต่อมา ยาน แฟร์ตองเก้น ก็เอ่ยหลังเกมแพ้ โมร็อกโก แบบเหน็บแนมว่าที่ทีมยิงไม่ได้ เพราะเกมรุกแก่เกินไป ก่อนจะมีรายงานว่า เดอ บรอยน์, แฟร์ตองเก้น จนถึง เอแด็น อาซาร์ ทะเลาะกันในแคมป์ หวิดจะจ้วงปากกันทีเดียว

 

ในส่วนความพร้อม โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ไม่อาจใช้งาน อมาดู โอนาน่า ที่สะสมครบ 2 ใบเหลือง ติดแบน 1 นัด แต่มีลุ้นจะได้ โรเมลู ลูกากู ดาวยิงเบอร์หนึ่งเจ้าของสถิติ 68 ประตูในนามทีมชาติ คืนตัวจริง หลังลงสำรองได้แล้วในเกมก่อน

 

หากว่า ลูกากู พร้อมรบ จะลงค้ำหน้าเป้าในระบบ 3-4-2-1 โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เอแด็น อาซาร์ เป็นตัวปั้นเกมสนับสนุน

 

ตัวความหวัง
โครเอเชีย : อันเดรจ์ ครามาริช
เคยเป็นหัวหอกผู้แพ้ ส่วนเกินของ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างชื่อกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมถึงในทีมชาติ โดยถึงตรงนี้เล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาเป็นซีซั่นที่ 8 แล้ว ยิงทะลุหลักร้อยประตูแล้วเช่นกัน (106) ขณะที่ก็ยิง 22 ประตูให้กับทัพตาหมากรุก รวมถึง 2 เม็ดในเกมปราบ แคนาดา ด้วย โดยแม้จะไม่ดุดันครบเครื่องเหมือน ดาวอร์ ซูเคอร์ แต่ก็เป็นคนที่กองหลังไม่อาจประมาทได้เหมือนกัน

 

เบลเยียม : เควิน เดอ บรอยน์
สร้างชื่อขึ้นเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก และมาตรฐานสูงๆ ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมในซีซั่นนี้ ที่ยิง 3 ประตู แอสซิสต์อีกถึง 13 กับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 19 นัด สำหรับในทีมชาติ (96 นัด 25 ประตู) เดอ บรอยน์ ก็ถือเป็นทีเด็ดทีขาดที่ทุกคู่แข่งต้องระวังอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การที่ เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์สื่อว่า เบลเยียม ชุดนี้ไม่ดีพอจะคว้าแชมป์โลก เนื่องจากสูงวัยกันเกินไป ก็น่าหวาดเสียวว่าจะเป็นจุดที่ทำให้กลุ่มนักเตะมองหน้ากันไม่ค่อยติด อย่างที่มีข่าวว่าเริ่มทะเลาะกันในแคมป์แล้ว

 

11 ตัวจริงที่คาด
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – มิสลาฟ ออร์ซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, นิโกล่า วลาซิช
เบลเยียม (3-4-2-1, กุนซือ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ) ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ยาน แฟร์ตองเก้น, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ทิโมธี คาสตันเย่ – เลอันโดร ทรอสซาร์, อักเซล วิตเซล, ยูรี่ ตีเลมันส์, โธมัส มูนิเยร์ – เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ – โรเมลู ลูกากู

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาทั้งหมด 8 ครั้ง ต่างฝ่ายต่างชนะได้ 3 หน
• แต่ เบลเยียม ไม่แพ้ โครเอเชีย มา 3 หนซ้อนแล้ว รวมเกมอุ่นเครื่องล่าสุดปีที่แล้ว ที่เฉือนชนะ 1-0 จากการยิงของ โรเมลู ลูกากู
• โครเอเชีย มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไป 8 คน ส่วน เบลเยียม มีอยู่ถึง 11 คน
• จากกลุ่มนักเตะทั้งสองทีม ลูก้า โมดริช อาวุโสสุดที่ 37 ปี
• โรเมลู ลูกากู เล่นให้ อินเตอร์ แค่ 5 นัดในครึ่งซีซั่นแรกที่่ผ่านมา และเล่นทีมชาติแค่ 2 เกมในรอบปี 2022

 

ความน่าจะเป็น
ถ้าวัดกันในหน้ากระดาษ เบลเยียม ไม่เป็นรอง หรือออกจะเหลื่อมๆ กว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่รูปทรงที่เป็นในฟุตบอลโลก 2022 และการที่เกิดคำถามเรื่องความเหนียวแน่นในทีมแล้ว ก็ทำให้นาทีนี้ เอียงข้าง โครเอเชีย เอาไว้สบายใจกว่า ว่าอย่างน้อยที่สุดก็คงไม่แพ้ ซึ่ง 1 แต้มก็เป็นสิ่งที่ โครเอเชีย พึงพอใจแล้วด้วย

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1

แคนาดา vs โมร็อกโก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

แคนาดา vs โมร็อกโก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย : แคนาดา vs โมร็อกโก
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม, โดฮา
ถ่ายทอดสด : Thai PBS

 

ผลงานรอบคัดเลือก
แคนาดา
แชมป์รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 23 เสีย 7

โมร็อกโก
ชนะ ดีอาร์ คองโก รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกเสมอ 1-1, นัดสองชนะ 4-1

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
แคนาดา
อุ่นเครื่อง แพ้ อุรุกวัย 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ บาห์เรน 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ ญี่ปุ่น 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เบลเยียม 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ โครเอเชีย 1-4

โมร็อกโก
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปารากวัย 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์เจีย 3-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โครเอเชีย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เบลเยียม 2-0

 

ผลการพบกัน : 3 นัด
อุ่นเครื่อง 1984 โมร็อกโก ชนะ 3-2
อุ่นเครื่อง 1994 เสมอ 1-1
อุ่นเครื่อง 2016 โมร็อกโก ชนะ 4-0

ตารางคะแนนกลุ่มเอฟ หลังผ่าน 2 นัด
1. โครเอเชีย คะแนน 4 ผลต่างประตู +3
2. โมร็อกโก คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
3. เบลเยียม คะแนน 3 ผลต่างประตู -1
4. แคนาดา คะแนน 0 ผลต่างประตู -4 (ตกรอบแล้ว)

 

สภาพทีม
แคนาดา
ทัพเมเปิ้ลได้กลับมาโชว์ตัวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง หลังหายหน้าไปตั้งแต่ได้เล่นหนแรกเมื่อปี 1986 แต่เริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการแพ้ เบลเยียม 0-1 ก่อนตามด้วยแพ้ โครเอเชีย 1-4

 

สองนัดไม่มีแต้ม แคนาดา จึงการันตีการไม่ได้ไปต่อ ตกรอบแรกเป็นที่เรียบร้อย แถมผลต่างประตู -4 ยังทำให้ขยับขึ้นจากอันดับบ๊วยลำบากด้วย

 

แคนาดา คุมทีมโดย จอห์น เฮิร์ดแมน โค้ชชาวอังกฤษ ที่ขยับจากทีมชาติฝ่ายหญิง (2011-2018) มารับงานนี้ และในทีมมีดาวเด่นอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส (บาเยิร์น), โจนาธาน เดวิด (ลีลล์), ไคล์ ลาริน (คลับ บรูช), สตีเฟ่น ยุสตากิโต้ (ปอร์โต้) เป็นแกนนำ

 

เฮิร์ดแมน ไม่มีปัญหาในการจัดทีมเกมนี้ แต่ระบบจะเปลี่ยนกลับไปใช้แบ็กทรี 3-4-3 เหมือนเกมแรก ภายหลังใช้แบ็กโฟร์แล้วโดน โครเอเชีย ยิงไม่ยั้ง

 

โมร็อกโก
มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่การเปลี่ยนโค้ชเหมือนเลือกหวยถูกใบ โมร็อกโก เกมแรกยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ต่อมาพลิกล็อกชนะ เบลเยียม 2-0 ส่งผลให้มี 4 แต้มในมือ เกมนี้ต่อให้แพ้ก็ยังมีสิทธิ์เข้ารอบ หากว่าอีกคู่ เบลเยียม ไม่อาจเอาชนะ โครเอเชีย ได้

 

เรกรากี มีตัวเจ็บเหลือในราย อับเดสซาหมัด เอซซาลซูลี่ กองหน้าโอซาซูน่า ในขณะที่ นูสแซร์ มาซราอุย แบ็กจากบาเยิร์น มิวนิค กับ อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กองกลางจากซามพ์โดเรีย ฟื้นฟิตพร้อมกลับมาเล่นแล้ว

 

ระบบยึด 4-1-4-1 ขุนพลตัวหลักอย่าง ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ หรือ อัชราฟ ฮาคิมี่ พร้อมรบตามปกติทั้งหมด

 

ตัวความหวัง
แคนาดา : อัลฟอนโซ่ เดวิส
นักเตะที่ดีที่สุดในยุคนี้ของ แคนาดา หรือกระทั่งอาจจะดีที่สุดตลอดกาล โตมากับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ก่อนที่ บาเยิร์น มิวนิค จะทุ่มเงินเป็นสถิติ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมโบนัสเสริม) คว้าตัวไปตอนที่ เดวิส อายุได้แค่ 17-18 เท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีคำว่าผิดหวังเมื่อเจ้าหนูเชื้อสายกาน่าพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด บางกระแสยกย่องว่าเป็น “แบ็กซ้ายเบอร์ 1 โลก” ที่สำคัญ ยังสารพัดประโยชน์ เล่นได้หมดทางกราบซ้าย และในฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็โขกพังประตูประวัติศาสตร์ใส่ โครเอเชีย มาแล้ว

 

โมร็อกโก : ฮาคิม ซีเย็ค & อัชราฟ ฮาคิมี่
ฮาคิม ซีเย็ค เลิกเล่นทีมชาติไปช่วงหนึ่งเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัวกับโค้ชเก่า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งพอมีการเปลี่ยนเป็น วาลิด เรกรากี แล้วก็กลับสู่สารบบทีมชาติดังเดิม โดยแม้จะเจอปัญหาเข้าๆ ออกๆ จากทีมเชลซี แต่ก็คือตัวยืนของทีมชาติ มีผลงานยิง 18 ประตูจาก 45 เกม ด้าน ฮาคิมี่ พัฒนาตัวเองไปจนอยู่ในระดับแบ็กขวาตัวท็อปของวงการแล้ว พร้อมกับบางเสียงยกว่าเป็นเบอร์ 1 โลกยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 56 เกมทีมชาติ

 

11 ตัวจริงที่คาด
แคนาดา (3-4-3, กุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน) มิลาน บอร์ยาน – คามาล มิลเลอร์, สตีเว่น วิตอเรีย, อลิสแตร์ จอห์นสตัน – อัลฟอนโซ่ เดวิส, สตีเฟ่น ยุสตาคิโอ, อติบา ฮัทชินสัน, ริชี่ ลาร์เยีย – จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน
โมร็อกโก (4-1-4-1, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – นูสแซร์ มาซราอุย, นาเยฟ อาแกร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์, อัชราฟ ฮาคิมี่ – โซฟียาน อัมราบัต – ฮาคิม ซีเย็ค, อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน บูฟาล, เซลิม อมัลลาห์ – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 3 ครั้ง ล่าสุดอุ่นเครื่องปี 2016 โมร็อกโก ต้อนขาด 4-0 ฮาคิม ซีเย็ค ซัดสองประตู
• โมร็อกโก ได้ลุ้นเต็มตัวในการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หนแรกนับแต่ปี 1986
• อติบา ฮัทชินสัน กัปตันแคนาดา อ่อนกว่ากุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน แค่ 7-8 ปี
• ไคล์ ลาริน ยิงในทีมชาติ 25 ประตู ส่วน โจนาธาน เดวิด 22 ลูก
• โมร็อกโก ก็อยู่ในทรงที่ดีทีเดียว ชนะ 5 จาก 7 เกมหลังสุด และแพ้เกมเดียวเท่านั้นจาก 10 แมตช์หลัง
• แคนาดา ตกรอบแรกแล้ว แต่จะได้ไปฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 แน่นอน เนื่องจากได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับ สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก

 

ความน่าจะเป็น
อยู่ในสถานการณ์สบายๆ มีโอกาสดีสำหรับการเข้ารอบ แถมเกมนี้ยังได้เจอทีมที่ตกรอบไปแล้วอีกต่างหาก ทำให้ โมร็อกโก จะไม่กดดันเลยในการเตะแมตช์นี้ สามารถเล่นไปตามเกมได้อย่างไม่ซีเรียสเร่งเร้า และด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า ทำให้เชื่อว่าน่าจะยังคงเบียดเอาชนะไปได้ในที่สุด

 

ผลที่คาด : โมร็อกโก ชนะ 1-0

ซาอุดิอาระเบีย ปะทะจังโก้อันตราย เม็กซิโก ใครจะได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

ซาอุดิอาระเบีย ปะทะจังโก้อันตราย เม็กซิโก ใครจะได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม ซี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 . (เวลาในบ้านเรา)

ซาอุดิอาระเบีย – เม็กซิโก ถ่ายทอดทาง Mono 29/ True Sport 2

ชาติเอเชีย - ซาอุดิ อาระเบีย

ซาอุดิ อาระเบีย เข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีญี่ปุ่น กับออสเตรเลีย ร่วมกลุ่ม (ภาพ: SSAF/Facebook)

สถานการณ์ของซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก

ซาอุดิอาระเบีย ไม่ใช่แค่สร้างเกมช็อคโลกเกมแรกของฟุตบอลโลกหนนี้ แต่ยังเป็นหนึ่งในเกมพลิกล็อคตลอดกาลในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เมื่อเอาชนะอาร์เจนติน่าได้ ทั้ง ๆ ที่ถูกนำไปก่อนในครึ่งแรก แต่การปลุกใจนักเตะในระหว่างพักครึ่งของเฮิร์ฟ เรนาร์ด ทำให้พวกเขาทำในสิ่งที่เหลือเชื่อขึ้นมาได้ ก่อนที่จะตกมาอยู่ในสถานการณ์เดิม ๆ เมื่อพ่ายโปแลนด์

ที่กับการเข้ารอบน็อคเอาต์ ขอแค่ชนะ ซาอุดิอาระเบียก็เข้ารอบเรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องไปสนใจว่า ผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ จะเป็นอย่างไร โดยพวกเขาจะเป็นแชมป์กลุ่มหาโปแลนด์กับอาร์เจนติน่าเสมอกัน แต่ถ้าพวกเขาชนะและอาร์เจนติน่าชนะ ก็ต้องมาดูเรื่องประตูได้เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง, แฟร์เพลย์ และจับฉลากตามลำดับ ซึ่งไล่มาถึงการเจอกันเอง ซาอุดิอาระเบียก็จะกลายเป็นแชมป์กลุ่มทันที

แต่ถ้าพวกเขาเสมอกับเม็กซิโก ซาอุดิอาระเบียต้องหวังให้ทีมฟ้าขาวแพ้ เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้ารอบ แล้วถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา ซาอุดิอาระเบียก็ต้องหวังให้โปแลนด์แพ้อย่างน้อย 3 ประตู เพื่อตัวเองจะได้เข้ารอบ และหากผลของทั้งสองคู่เสมอกัน หรือพวกเขาแพ้ ซาอุดิอาระเบียจะตกรอบ

เม็กซิโกทำได้ไม่ดีนักในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยเก็บได้แต้มเดียวจาก 2 เกม และยังยิงประตูไม่ได้เลย ซึ่งถ้าพวกเขาเอาชนะซาอุดิอาระเบียไม่ได้ ทุกอย่างก็จบ และถ้าชนะเม็กซิโกก็ต้องชนะมากกว่า 4 ประตูเพื่อการันตีการเข้ารอบ โดยถ้าโปแลนด์ชนะด้วยพวกเขาจะเข้าเป็นที่สองในกลุ่ม แต่ถ้าโปแลนด์แพ้ ชัยชนะด้วยผลต่างประตู 4 ลูกขึ้นไปจะทำให้เม็กซิโกได้ไปต่อ และเกิดโปแลนด์เสมอกับอาร์เจนติน่า เม็กซิโกก็ต้องชนะอย่างน้อบ 3 ประตูขึ้นไป

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ผู้เล่นของซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก

ซาอุดิอาระเบียจะไม่มี ยัสเซอร์ อัลชาหรานี่ ที่กลับบ้านไปแล้วหลังได้รับการผ่าตัดขากรรไกร โดยผู้เล่น 11 คนแรก อาจเปลี่ยนแปลงจาก 2 เกมแรกในบางพื้นที่ อับดุลเลลาห์ อัลมัลกีกองกลางที่ทำพลาดจนโดนเลวานดอฟสกี้ทำประตู จะไม่ได้ลงเล่นเพราะติดโทษแบน อาลี อัลฮัสแซนหรือนาวาฟ อัลอะเบ็ดจะได้ทำหน้าที่แทน ริยาร์ด ชาราฮิลี ที่กลับมาลงซ้อมได้แล้ว จะได้ลงมาสร้างความแข็งแกร่งให้แนวรับ ขณะที่ โมฮัมหมัด อัลบูรายก์กับซัลแมน อัลฟาราจ์ ไม่น่าได้ลงเล่น อัลดอว์ซารี่ ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกได้มากที่สุดเท่ากับซามี่ อัลจาเบอร์ ตำนานนักเตะซาอุดิอาระเบียฟิตและลงเล่นในนัดพ่ายโปแลนด์ ที่ในนัดนี้ก็น่าจะได้สตาร์ตเป็นตัวจริง

เกมนัดนี้ เม็กซิโกต้องจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดที่มี เพื่อโอกาสผ่านเข้ารอบ โดยในแดนหน้าเฮอร์วิง โลซาโน กับอเล็กซิส เวก้า น่าจะได้ลงสนามเล่นร่วมกับราอูล ฮิมิเนซ ที่ถึงจะมีปัญหาเรื่องความฟิต แต่นี่คือเกมที่ทีมต้องชนะ ซึ่งจะทำให้เขาได้ลงเล่นครบ 100 นัด และหากทำประตูได้ด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย

แอนเดรียส กัวร์ดาโด้ หนึ่งใน 6 ผู้เล่น ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 มีอาการบาดเจ็บ หากลงเล่นไม่ได้ เอ็ดสัน อัลวาเรซ จะได้ลงแทน โดยเกมนี้เม็กซิโกน่าจะปรับมาเล่นหลังสี่ เพราะนี่คือเกมที่พวกเขาต้องการประตูเป็นอย่างมาก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก

ซาอุดิอาระเบีย ระบบ 4-3-3: อัลโอวาอิส; อัลบูเรยก์, อัลโบเลอาฮี, อัลอัมรี, อัลดุลฮามิด; อัลนาจี, อัลมัลคี, คานโน; อัลบูไรกาน, อัลเชฮิริ, อัล ดอว์ซารี

เม็กซิโก ระบบ 4-3-3: โอชัว; ซานเชซ, โมเรโน่, มอนเตส, เชซุส กัวร์ดาโด้; เอร์เรร่า, เอ็ดสัน อัลวาเรซ, ชาเวซ; โลซาโน, ฮิมิเนซ, เวก้า

ผลการแข่งขันระหว่างซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก

หากเกมจบลงด้วยการเสมอกันไป ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทั้งสองทีมต่างมีปัญหาในแดนหน้าด้วยกันทั้งคู่ แต่ด้วยการเล่นที่พาบอลไปสร้างโอกาสในแดนหน้า ดูเหมือนว่าเม็กซิโกจะทำได้ดีกว่า และนั่นหมายความว่าพวกเขาน่าจะมีโอกาสชนะมากกว่าด้วย

เกมน่าจะออกเสมอ แต่ถ้าจะมีใครชนะ เม็กซิโกน่าจะคว้าชัยได้ด้วยสกอร์ 1-0 หรือ 2-1

เรื่องน่าอ่าน
1. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร

2. กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
3. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
5. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
6. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ ปะทะ โปแลนด์ ของเลวานดอฟสกี้ ในเกมชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ ปะทะ โปแลนด์ ของเลวานดอฟสกี้ ในเกมชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม ซี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา

โปแลนด์ – อาร์เจนติน่า ถ่ายทอดทาง True4U/ CH5/ True Sport 2

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

สถานการณ์ของโปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โปแลนด์ถือว่ามาดีทีเดียวในฟุตบอลโลก 2022 เมื่อพวกเขายังไม่เสียประตูเลยจากการลงเล่น 2 นัด และเก็บแต้มได้ 4 คะแนน เป็นทีมนำของกลุ่ม ดี ก่อนเกมนัดสุดท้ายแม้ในเกมแรกพวกเขาจะทำได้แค่เสมอกับเม็กซิโกโดยโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้พลาดจุดโทษ แต่กับเกมที่สอง นักเตะโปลสามารถจัดการกับซาอุดิอาระเบียที่พลิกล็อคช็อคโลกเอาชนะอาร์เจนติน่ามาได้แบบไม่ยากเย็นนัก และในที่สุดเลวานดอฟสกี้ก็มีประตูแรกในฟุตบอลโลก

แต่ถ้าต้องการเข้ารอบ ในเกมสุดท้ายที่เจอกับอาร์เจนติน่า พวกเขาต้องไม่แพ้ จะชนะหรือเสมอก็ได้ ขอให้ซาอุดิอาระเบียไม่ชนะเพียงแค่นี้โปแลนด์ก็จะกลายเป็นที่หนึ่งในกลุ่ม แต่ถ้าเกิดพวกเขาพ่ายอาร์เจนติน่าแล้วเม็กซิโกชนะซาอุดิอาระเบีย อาร์เจนติน่าจะมี 6คะแนน เป็นที่ 1 ในกลุ่ม ส่วนโปแลนด์กับเม็กซิโกต้องมาวัดลูกได้-เสีย ที่หากเท่ากันก็ต้องมาดูประตูได้ หากยังเท่ากันก็ต้องไปดูผลในเกมที่เจอกัน และหากยังตัดสินไม่ได้ก็ต้องว่ากันที่คะแนนแฟร์เพลย์ แล้วถ้ายังไม่จบ ก็เป็นเรื่องของการจับฉลาก

หากโปแลนด์แพ้ และคู่ซาอุดิอาระเบียกับเม็กซิโกเสมอ อาร์เจนติน่าจะเป็นที่ 1 ในกลุ่ม โดยโปแลนด์และทีมอินทรีทะเลทรายจะมี 4 คะแนนเท่ากัน ซึ่งทั้งสองทีมจะต้องมาวัดประตูได้-เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง และคะแนนแฟร์เพลย์ตามลำดับ แต่ถ้าโปแลนด์แพ้และซาอุดิอาระเบียชนะ เลวานดอฟสกี้กับพรรคพวกจะต้องกลับบ้าน

ส่วนอาร์เจนติน่าที่พ่ายช็อคโลกในนัดแรก ก่อนที่ชัยชนะเหนือเม็กซิโกในนัดต่อมา จะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ด้วยการมี 3 แต้มก่อนเกมนัดสุดท้าย ซึ่งถ้าต้องการผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ สิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ได้ก็คือเอาชนะโปแลนด์ โดยที่ซาอุดิอาระเบียต้องไม่ชนะเม็กซิโก แต่ถ้าทั้งทีมฟ้าขาว ทั้งอินทรีทะเลทรายชนะกันทั้งคู่ ก็ต้องไล่ดูประตูได้เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง และคะแนนแฟร์เพลย์ตามลำดับ ซึ่งมีโอกาสที่ไป ๆ มา ๆ ซาอุดิอาระเบียอาจกลายเป็นที่ 1 ในสาย

ถ้าอาร์เจนติน่าทำได้แค่เสมอ พวกเขาต้องหวังให้อีกคู่เสมอด้วยเช่นกัน เพื่อให้ตัวเองเข้าเป็นที่ 2 ในสาย แต่ถ้าฟ้าขาวเสมอและซาอุดิอาระเบียชนะ แชมป์อเมริกาใต้ จะตกรอบ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเม็กซิโกชนะ โปแลนด์จะกลายเป็นแชมป์กลุ่มจาก 5 คะแนน อาร์เจนติน่ากับเม็กซิโกต้องมาวัดกันในเงื่อนไขอื่น ๆ ต่อไป

และในกรณีที่อาร์เจนติน่าแพ้ ฟุตบอลโลก 2022 ของพวกเขาจบลงแล้ว

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของ โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่มีประตูในฟุตบอลโลกในที่สุด จะได้ยืนในแดนหน้าเจอกับอาร์เจนติน่าแน่ ๆ ขณะที่คนที่จะมาเล่นกับดาวยิงรายนี้ โค้ชเชสลอว์ มิชนีวิกซ์ น่าจะเลือก อาร์คาดิอุสซ์ มิลิก ที่ทำหน้าที่ได้ดีในเกมเจอกับซาอุดิอาระเบีย โดยข่าวดีของโปแลนด์ก็คือ พวกเขาไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่มเติม และน่าจะใช้ผู้เล่นในเกมที่แล้วเป็นแกนหลัก เพราะฉะนั้น วอจ์เซียก เชสนี ที่เซฟลูกโทษในเกมที่ผ่านมา แผงแบ็คโฟร์ แม็ตตี้ แคช, คามิล กลิก, จาคุบ คิวิออร์ และบาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ จากสองเกมแรกน่าจะได้ลงครบ

เกรซกอร์ซ ครีโชเวียก ที่เหลืออีกแค่ 4 นัดจะติดทีมชาติครบร้อย จะจับค่กับคริสเตียน บีลิก จากเบอร์มิงแฮม ที่เพิ่งเล่นทีมชาติไป 7 นัดในแดนกลาง โดยมีซีลินสกี้, เพรซมีสลอว์ ฟรานคอฟสกีเล่นริมเส้น

สำหรับอาร์เจนติน่า โค้ชสคาโลนี่ น่าจะมีการปรับผู้เล่น 11 คนแรกอีกครั้ง หลังในเกมก่อนหน้าในหลาย ๆ ตำแหน่งยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ โดยเฉพาะในแนวรับและแดนกลาง ลิซานโดร มาร์ติเนซน่าจะได้จับคู่กับนิโคลาส โอตาเม็นดี้ต่อ แต่ในตำแหน่งแบ็คขวา ต้องเลือกจาก กอนซาโล มอนทีล, นาฮูเอล โมลิน่า และฮวน ฟอยธ์ ส่วนแบ็คซ้าย ก็ต้องเลือกระหว่าง นิโคลาส ทากลิอาฟิโกกับมาร์คอส อะคูญ่า

เฟอร์นานเดซที่สร้างความประทับใจจากการลงเล่นเป็นตัวสำรองทั้งสองนัด อาจจะได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรก ในแดนกลาง ขณะที่เลอันโดร ปาราเดสที่ถูกดร็อปในเกมกับเม็กซิโก อาจกลับมาเป็นตัวจริง

ส่วนแดนหน้า เลาตาโร่ มาร์ติเนซกับอังเจล ดิ มาเรีย น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการเล่นกับเมสซี่ แต่จูเลียน อัลวาเรซและเปาโล ดีบาล่า ก็มีโอกาสสอดแทรกเข้ามาได้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โปแลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงวัย 34 ปี ที่ไร้ประตูในฟุตบอลโลก หลังเพิ่งลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติเพียงครั้งเดียว ที่รัสเซีย 2018 (ภาพ: Rafal Oleksiewicz/PressFocus/MB Media/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของ โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โปแลนด์ ระบบ 4-4-2: เซสนี; แค็ช, กลิก, คิวิออร์, เบเรสซีนสกี้; ซีลินสกี้, บีลิก, ครีโชเวียก, ฟรานคอฟสกี้; มิลิก, เลวานดอฟสกี้
อาร์เจนติน่า ระบบ 4-4-2: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โอตาเม็นดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, อะคูญ่า; ดิ มาเรีย, เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ค อัลลิสเตอร์; เมสซี่, เลาตาโร่ มาติเนซ

เลาตาโร มาร์ติเนซ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

มาร์ติเนซเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญให้ฟ้าขาว คว้าแชมป์อเมริกาใต้ได้สำเร็จ หลังเข้าชิงสามหนหลังกลับบ้านมือเปล่าทั้งหมด (ภาพ: Gustavo Pagano/Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่าง โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

การจบด้วยอันดับ 2 ในกลุ่ม จะทำให้คู่ปรับในรอบน็อคเอาต์คือ ฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่มาดีเหลือเกิน และทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ต้องชนะ ที่โปแลนด์ดูดีกว่าในเรื่องฟอร์มการเล่นที่เข้าที่เข้าทาง แต่อาร์เจนติน่าก็มีแดนหน้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และน่าจะเป็นตัวตัดสินสกอร์ในเกมนี้

อาร์เจนติน่า ชนะ 2-1

เรื่องน่าอ่าน
1. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2.
กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
3. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
5.  
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก ใครจะตามฝรั่งเศส เข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก ใครจะตามฝรั่งเศส เข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม ดี วันที่ 30 พฤศจิกายน เวลาลงสนาม 22:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก ถ่ายทอดทาง NBT/ True Sport 2

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

สถานการณ์ของออสเตรเลียและเดนมาร์ก

เงื่อนไขในการเข้ารอบของ 2 ทีมนี้ก็คือ เดนมาร์กต้องชนะ แล้วจะกลายเป็นที่ 2 ในกลุ่มตามฝรั่งเศสเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ ถ้าตูนิเซียทำได้แค่เสมอหรือแพ้แชมป์เก่า แต่ถ้าทีมโคนมกับตูนิเซียต่างชนะ ก็ต้องมาวัดกันที่ลูกได้เสีย แล้วก็ตามด้วยประตูได้ ส่วนออสเตรเลียงานง่ายกว่า แค่ชนะทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าเสมอพวกเขาก็ต้องลุ้นให้ตูนิเซียไม่ชนะฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เกมระหว่างออสเตรเลียกับเดนมาร์กไม่ต่างไปจากเกมน็อคเอาต์

ชัยชนะเหนือตูนิเซียของทีมแดนจิงโจ้ เป็นชัยชนะหนที่ 3 ของพวกเขาในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คว่ำเซอร์เบียที่แอฟริกาใต้ในปี 2010 ที่ปีนั้นพวกเขาเก็บแต้มในรอบแบ่งกลุ่มได้ถึง 4 คะแนน แต่ก็ไม่พอที่จะเข้ารอบ และครั้งนี้ประวัติศาสตร์ก็อาจซ้ำรอยหากพวกเขาทำได้แค่เสมอเดนมาร์ก และตูนิเซียสร้างเซอร์ไพรส์คว่ำแชมป์เก่า ทางออกที่ดีที่สุดก็คือชนะให้ได้

ปัญหาของออสเตรเลียก็คือ สถิติในการเจอทีมจากยุโรปไม่สู้ดีนัก จาก 11 เกมแพ้ไปถึง 8 นัด และเมื่อ 4 ปีก่อนพวกเขาก็เสมอกับคู่ปรับรายนี้ด้วยสกอร์ 1-1 ส่วนสถิติในฟุตบอลโลก ที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย 5 ครั้ง พวกเขาผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ครั้งเดียว ในปี 2006.

แต่ฟอร์มของออสเตรเลียในครั้งนี้ ออกมาดีด้วยการยิงประตูนำคู่ต่อสู้ทั้งสองนัด วิ่งบดบี้คู่ต่อสู้อย่างเข้มข้น และเกมกับตูนิเซียก็เป็นคลีนชีตหนแรกของพวกเขาตั้งแต่ปี 1974 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย กับการมากาตาร์ ทีมแดนจิงโจ้เข้ารอบมาแบบกระท่อนกระแท่น ต้องเล่นเพลย์ออฟถึง 2 นัด ผิดกับเดนมาร์ก ที่มาแบบสุดหรู ชนะรวด 9 นัดแรก โดยไม่เสียประตูถึง 8 นัด เก็บแต้มมากที่สุดในโซนยุโรป แต่ในรอบสุดท้ายพวกเขาอาจไม่ได้ไปต่อ โดยเกมเสมอออสซี่ในปี 2018 คือเกมที่ส่งพวกเขาตกรอบแรกมาแล้ว แต่สถิติในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย พวกเขาเล่นมาแล้ว 5 ครั้งเท่าออสเตรเลีย หากเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ถึง 4 หน

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

สถานการณ์ผู้เล่นของออสเตรเลียและเดนมาร์ก

ออสเตรเลียน่าจะยังไม่มี นาธาเนียล แอ็ตคินสัน แบ็คขวา ที่บาดเจ็บข้อเท้าจากเกมกับตราไก่ และไม่ได้ลงเล่นในวันที่ชนะตูนิเซีย โดยฟราน คาราซิซ ของเบรสชาน่าจะได้ลงเล่นแทน แล้วกับการคว้าชัยในเกมที่แล้ว ทำให้แกรห์ม อาร์โนลด์อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีมมากนัก ส่วนมาร์ติน บอยล์ก็ยังคงลงเล่นไม่ได้ จากการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด ซึ่งทำให้เขาไม่ได้พลาดแค่ฟุตบอลโลก แต่พวกเกมในฤดูกาลนี้ทั้งหมดไปด้วย มิตเชลล์​ ดุ๊กผู้ยิงประตูชัยให้ทีมชนะตูนิเซีย จะได้เล่นเป็น 11 คนแรก เช่นเดียวกับ แม็ต ไรอัน, แฮร์รี่ เซาตตาร์ และแอรอน มอย

เดนมาร์กจะไม่มี โธมัส เดลานีย์ ที่ต่อให้เข้ารอบก็กลับมาเล่นไม่ได้แล้ว เนื่องจากบาดเจ็บที่เข่าจากเกมนัดแรกที่เจอตูนิเซีย และทำให้มิกเกล ดัมสการ์ด ได้สตาร์ตเป็นตัวจริง โดยรูปแบบการเล่นในนัดนี้ ทีมโคนมอาจจะปรับจาก 3-5-2 เป็น 3-4-3 เพื่อที่จะให้ดาวเตะจากเบรนต์ฟอร์ดลงเล่นในทางกว้าง ส่วนเจสเปอร์ ลินด์สตรอมกับวิกเตอร์ เนลส์สัน ที่ได้ลงเจอฝรั่งเศสแทน แอนเดรียส สกอฟ โอลเซ่น และซิมง เคียร์ ที่อายุมาก จนต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง น่าจะได้พัก และให้สองตัวหลักกลับสู่ทีม กับเกมที่ต้องชนะสถานเดียวแบบนี้ แนวรุกเดนมาร์กต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าใน 2 นัดแรก เมื่อพวกเขาทำได้แค่ประตูเดียวจากเซนเตอร์​แบ็ค คริสเตนเซ่น ในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะ ทำให้ศูนย์หน้า อย่าง แอนเดรียส คอร์เนลิอุส ที่ทำอะไรไม่ได้เลยคงต้องพัก และน่าจะใช้บริการของ มาร์ติน เบรธเว็ตกับแคสเปอร์ โดลเบิร์ก ที่น่าจะทำได้ดีกว่าแทน

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก นักเตะโคนมที่ทำให้อีริกเซ่นได้เดินเกมอย่างเต็มที่ และเป็นคนที่อุดช่องว่างให้กับแนวรับ (ภาพ: Michael Regan/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของออสเตรเลียและเดนมาร์ก

ออสเตรเลีย ระบบ 4-4-2: ไรอัน; คาราซิก, เซาต์ตาร์, โรว์เลส, บีฮิค; เลคกี้, เออร์ไวน์, มอย, กู๊ดวิน; ดุ๊ก, แม็กกรี
เดนมาร์ก ระบบ 3-4-1-2: ชไมเคิล; แอนเดอร์สัน, แอนเดรียส คริสเตนเซ่น, เนลส์สัน; คริสเตนเซ่น, โฮจ์เบิร์ก, อีริกเซ่น, มาห์เล่; ดัมส์การ์ด; เบรธเว็ต, โดลเบิร์ก

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ ฟุตบอลโลก 2022

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ที่ยึดตำแหน่งกองกลางตัวหลักของทีมมานานเป็นทศวรรษ ((ภาพ: Joe Allison/Getty Images))

ผลการแข่งขันระหว่างออสเตรเลียและเดนมาร์ก

แม้ออสเตรเลียขอแค่เสมอก็น่าจะได้เข้ารอบ แต่การเจอกับเดนมาร์กที่ต้องเล่นแบบถวายหัว ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อให้ทีมโคนมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรเป็นในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ตาม โดยเฉพาะการที่พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถรับมือกับความกดดันได้ดี ในยูโร 2020 แม้ทีมของแคสเปอร์ ยูลมันด์ จะเล่นแบบตะกุกตะกักมาตลอด ไม่ได้ดูน่าประทับใจเท่าทีมจิงโจ้ แต่พวกเขาก็มีขุมกำลัง และประสบการณ์ที่เหนือกว่า น่าจะชนะออสเตรเลียหวุดหวิด ตามแชมป์เก่าเข้ารอบสำเร็จ

เดนมาร์กคว้าชัย 1-0 หรือไม่ก็ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
5. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?

ตูนิเซีย ลุ้นเข้ารอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022 ในเกมส่งท้ายรอบแรกกับแชมป์เก่าฝรั่งเศส

ตูนิเซีย ลุ้นเข้ารอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022 ในเกมส่งท้ายรอบแรกกับแชมป์เก่าฝรั่งเศส

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม ดี วันที่ 30 พฤศจิกายน เวลาลงสนาม 22:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

ตูนิเซีย – ฝรั่งเศส ถ่ายทอดทาง True4U/ CH5/ True Sport 2

ตูนิเซีย ลุ้นเข้ารอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022 ในเกมส่งท้ายรอบแรกกับแชมป์เก่าฝรั่งเศส

ทีมชาติตูนีเซีย เจ้าของสถิติชาติแรกของแอฟริกาที่คว้าชัยชนะในฟุตบอลโลก (ภาพ: Twitter @tunisiefootball)

สถานการณ์ของตูนิเซียและฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ไปแล้วเรียบร้อย โดยไม่ถูกอาถรรพ์แชมป์เก่าตกรอบแรกแผ้วพาน และมีโอกาสมากที่จะเข้าวินในฐานะแชมป์กลุ่ม หากเสมอในนัดนี้ โดยไม่ต้องสนใจว่าเกมระหว่างออสเตรเลียและเดนมาร์กจบอย่างไร หลังเก็บ 6 แต้มเต็มเอาไว้ในมือจากเกมชนะออสเตรเลีย และเดนมาร์ก หรือยังแพ้ได้ด้วยซ้ำ เพราะทีมแดนจิงโจ้ ไม่น่าชนะทีมโคนมมโหฬารถึง 7 ประตู ขณะที่สถานการณ์ของตูนิเซีย พวกเขายังมีลุ้นเข้ารอบ ด้วยการเป็นที่ 2 ในกลุ่มหากเอาชนะทีมตราไก่ได้ ในขณะที่เกมของออสเตรเลียกับเดนมาร์กจบลงด้วยการแบ่งแต้ม

การเจอกันครั้งนี้ จะเป็นการเจอกันครั้งแรกของฝรั่งเศสและตูนิเซีย นับตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งในตอนนั้นเป็นเกมกระชับมิตรที่เสมอกันไป 1-1

แชมป์โลก ฝรั่งเศส
สถานการณ์ผู้เล่นของตูนิเซียและฝรั่งเศส

จาเลล คาดรี้ โค้ชของตูนิเซีย น่าจะเลือกผู้เล่นที่ฟิตเต็มร้อยลงเล่นในเกมเจอแชมป์เก่า แต่หลัก ๆ แล้วคาดรี้น่าจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นให้น้อยที่สุด โดยเบเชียร์ เบน ซาอิด ผู้รักษาประตูมือสอง ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย กลับมานั่งในเก้าอี้สำรองตั้งแต่เกมที่แล้ว ส่วนแบ็คขวา โมฮัมเม็ด ดราเกอร์ ที่ฟอร์มการเล่นช่วง 45 นาทีสุดท้ายในเกมพ่ายทีมจิงโจ้ ย่ำแย่จนถูกเปลี่ยนตัว น่าจะแทนที่ด้วยวัจดี เคชริด้า หรือไม่ก็เฟอร์จานี่ แซสซี่

วาห์บี้ คาซรี่ อดีตผู้เล่นซันเดอร์แลนด์ นักเตะที่ยิงประตูให้ตูนิเซียมากเป็นอันดับ 2 ของตูนิเซีย ได้เล่นในฟุตบอลโลกแค่นัดเดียว และเป็นการเปลี่ยนตัวลงไปในเกมนัดที่แล้ว แต่กับเกมนัดสุดท้าย ดาวยิงจากมงต์เปลิเยร์ จะต้องรอเช็คสภาพร่างกายอย่างละเอียด ว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงได้ไหม เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในแดนหน้า แต่ถ้าไม่ได้ นาอิม สลิตี้กับยูสเซฟ เอ็มซากนี่ 2 ผู้เล่นในแนวรุกจะได้เล่นร่วมกับหน้าเป้า อิสแซม เจบาลี่ ที่ได้โอกาสแทน

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ จะไม่มี อัลฟอนส์ อารีโอล่า ผู้รักษาประตูมือสองในม้านั่งสำรอง เนื่องจากเจ็บหลัง ขณะที่ในตำแหน่งอื่น ๆ น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมผู้เล่นตัวจริงให้พร้อมกับเกมในรอบน็อคเอาต์ โดยธีโอ เอร์นานเดซ ที่เล่นแบ็คซ้ายแทนลูกัส พี่น้องร่วมสายเลือดที่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้า อาจจะได้พัก เมื่อมีข่าวว่าเดสชองส์อยากลองใช้งาน เอดูอาร์โด้ กามาวินก้าในตำแหน่งนี้ ส่วนคิลิยัน เอ็มบัปเป้ น่าจะได้ลงเล่นต่อ เมื่อเจ้าตัวดูแล้วไม่อยากพัก แต่ในตำแหน่งอื่น ๆ เราอาจได้เห็นชื่อของผู้เล่นอย่าง วิลเลียม ซาลิบา, มันเตโอ เกว็นดูซี่, คิงสลีย์ โกมัน และยูสซูฟ โฟฟานา โดยราฟาเอล วารานที่เพิ่งกลับมาลงเล่น กับโอลิวิเยร์ ชิรูด์น่าจะได้เล่นนัดต่อไปในรอบน็อคเอาต์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของตูนิเซียและฝรั่งเศส

ตูนิเซีย ระบบ 3-4-2-1: ดาห์เม็น; บรอนน์,เมรายห์, ทัลบี้; ดราเกอร์, สคิรี่, ไลดูนี่, อับดี; สลิตี้, คาซรี่; เจบาลี่
ฝรั่งเศส ระบบ 4-2-3-1: โญริส; ปาวาร์ด, ซาลิบา, อูปาเมกาโน่, เอร์นานเดซ; เกว็นดูซี่, ราบิโอต์; โกมัน, กามาวินก้า, เอมบัปเป้; ตูราม

ผลการแข่งขันระหว่างตูนิเซียและฝรั่งเศส

จากที่ได้เห็น ตูนิเซียเป็นทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่ง แต่แนวรุกดูจะสร้างปัญหาให้ทีมคู่แข่งไม่มากนัก และพวกเขาต้องแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพมาพอที่จะพาทีมคว้าชัยเหนือแชมป์เก่าให้ได้ หากต้องต้องการเข้ารอบ แล้วก็ต้องไปลุ้นให้ออสเตรเลียกับเดนมาร์กจบลงด้วยการเสมอกัน ซึ่งดูแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งสองอย่าง ต่อให้ฝรั่งเศสมีการเปลี่ยนผู้เล่นในหลาย ๆ ตำแหน่งก็ตาม

โดยรูปเกม ทีมตราไก่คงเล่นในจังหวะของตัวเองไปเรื่อย แล้วเข้าทำเป็นระยะ ๆ ตามโอกาสที่มี และผู้เล่นก็มีประสิทธิภาพมากกว่า น่าจะทำประตูได้มากกว่าทีมที่ต้องการคว้าชียชนะมากที่สุดในเกมนี้

ฝรั่งเศสชนะ 2-0 หรือ 3-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
5. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?

 

โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสุดท้าย : โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โปแลนด์
ชนะเพลย์ออฟเหนือ สวีเดน
(ชนะบายเหนือ รัสเซีย, ชนะ สวีเดน 2-0)

อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โปแลนด์
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เม็กซิโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-0

อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เม็กซิโก 2-0

 

ผลการพบกัน : 11 นัด
อาร์เจนติน่า ชนะ 6
เสมอ 2
โปแลนด์ ชนะ 3

 

ตารางคะแนนกลุ่มซี
1. โปแลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
2. อาร์เจนติน่า คะแนน 3 ผลต่างประตู +1
3. ซาอุดีอาระเบีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -1
4. เม็กซิโก คะแนน 1 ผลต่างประตู -2

 

สภาพทีม
โปแลนด์
โปแลนด์ ที่ไปไม่ได้ไกลเกินรอบแรกบอลโลกมาตั้งแต่ 1986 หวิดจะเอาชนะ เม็กซิโก ได้ในเกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 แต่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดันพลาดจุดโทษ จนลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 ทว่านัดต่อมาก็แก้ตัว ปราบ ซาอุฯ 2-0 เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูแรกใน เวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายได้แล้วด้วย

 

สองนัด 4 แต้ม แต่ โปแลนด์ ก็ยังเสียวจะตกรอบเอาได้ และเกมนี้ต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อยเพื่อเข้ารอบ ส่วนถ้าแพ้ขึ้นมา ต้องลุ้นไม่ให้ ซาอุฯ ได้ชัยชนะเหนือ เม็กซิโก

 

เกมนี้ เชสลาฟ มิชนีวิซ ยังคงมีขุมกำลังสมบูรณ์พร้อมให้เลือก ซึ่งก็จะนำทีมโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นเคยในระบบ 4-2-2-2 ใช้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ยืนหน้าคู่ เลวานดอฟสกี้

 

อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำมันตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

ทว่าเกม 2 อาร์เจนฯ ก็ฮึดขึ้น ยิง เม็กซิโก 2-0 จากประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ กับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จนตอนนี้ยืนอันดับ 2 ของกลุ่มซี เพียงแต่ว่าพวกเขาก็ยังต้องการชัยชนะเหนือ โปแลนด์ อีกในเกมสุดท้าย เนื่องจากผลเสมอจะไม่ปลอดภัย มีสิทธิ์โดน ซาอุฯ แซงได้ถ้าทีมเศรษฐีน้ำมันชนะ หรือกระทั่ง เม็กซิโก ก็ยังแซงได้เช่นกันถ้าชนะ ซาอุฯ แบบยิงถล่มหลายประตู

 

ลิโอเนล สคาโลนี่ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บแล้ว และอาจมีการเปลี่ยนแปลงทีมบางจุดเพื่อเพิ่มความสด แต่เกมรุกก็จะยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ร่วมด้วย เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย ตามเดิม

 

ตัวความหวัง
โปแลนด์ : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริง โปแลนด์ จะไปได้ไกลขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของเขาเป็นสำคัญ เลวานดอฟสกี้ ครองรางวัลนักเตะแห่งปีของชนชาติโปแลนด์มาแล้วถึง 10 สมัยจากระยะ 11 ปีหลัง และกดไปแล้ว 77 ประตูในนามทีมชาติ ยิ่งกว่านั้นคือการย้ายมาเล่นในลีกใหม่กับ บาร์เซโลน่า หัวหอกวัย 34 ก็ยังยิงสลุตเหมือนเคย กดแล้ว 18 ลูกจากการเล่นแค่ 19 นัด

 

อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 12 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 6 เกมหลัง และในบอลโลกครั้งนี้ก็กดไปแล้ว 2 เม็ด อยู่ในเส้นทางการช่วงชิงรองเท้าทองคำ ดาวซัลโว กาตาร์ 2022 เต็มตัว

 

11 ตัวจริงที่คาด
โปแลนด์ (4-2-2-2, กุนซือ เชสลาฟ มิชนีวิซ) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิยอร์, แม็ตตี้ แคช – เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, คริสเตียน บีลิค – เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – มาร์กอส อคุนย่า, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คริสเตียน โรเมโร่, กอนซาโล่ มอนเทียล – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันเยอะทีเดียว 11 ครั้ง นับแต่หนแรกในปี 1966
• กระนั้น เกมล่าสุดปี 2011 (โปแลนด์ชนะ 2-1) เป็นการเจอกันเพียงหนเดียวเท่านั้นในรอบ 30 ปีหลัง
• อาร์เจนฯ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่องไว้ที่ 36 เกม ไม่อาจเทียบเท่าสถิติโลก 37 นัดของ อิตาลี 2018-2021 ได้
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 13 ประตูในปีนี้ จากการเล่นแค่ 9 นัด
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงแค่ 3 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 8 นัดปีนี้ แต่กดให้ บาร์เซโลน่า ไปถึง 18 ลูกจาก 19 เกม
• อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กับ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค ยิงให้ทีมชาติ 16 และ 11 ประตูตามลำดับ
• หนสุดท้ายที่ อาร์เจนฯ ตกรอบแรกคือฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะแพ้เกมแรก แต่พูดได้ว่า อาร์เจนติน่า โชคไม่ดีนักในเกมนั้น และฟอร์มแกร่งๆ ก็เริ่มกลับมาแล้วในเกมสยบ เม็กซิโก มาเกมนี้ การเจอกับ โปแลนด์ ที่ไม่ได้มีทีเด็ดอะไรนอกจาก เลวานดอฟสกี้ จึงไม่น่าเป็นปัญหามากมาย โดยเฉพาะว่าทีมอย่างพวกเขา ยังเร็วเกินไปมากที่จะตกรอบแรก

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1

ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสุดท้าย : ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : MONO29

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ซาอุดีอาระเบีย
แชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 12 เสีย 6

เม็กซิโก
อันดับ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ซาอุดีอาระเบีย
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1
อุ่นเครื่อง แพ้ โครเอเชีย 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ อาร์เจนติน่า 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ โปแลนด์ 0-2

เม็กซิโก
อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 2-3
อุ่นเครื่อง ชนะ อิรัก 4-0
อุ่นเครื่อง แพ้ สวีเดน 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โปแลนด์ 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
คอนเฟดฯ คัพ 1995 เม็กซิโก ชนะ 2-0
อุ่นเครื่อง 1995 เม็กซิโก ชนะ 2-1
คอนเฟดฯ คัพ 1997 เม็กซิโก ชนะ 5-0
อุ่นเครื่อง 1998 เสมอ 0-0
คอนเฟดฯ คัพ 1999 เม็กซิโก ชนะ 5-1

 

ตารางคะแนนกลุ่มซี
1. โปแลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
2. อาร์เจนติน่า คะแนน 3 ผลต่างประตู +1
3. ซาอุดีอาระเบีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -1
4. เม็กซิโก คะแนน 1 ผลต่างประตู -2

 

สภาพทีม
ซาอุดีอาระเบีย
สร้างเซอร์ไพรส์พลิกล็อกช็อกโลกด้วยการแซงชนะเต็งแชมป์ อาร์เจนติน่า 2-1 ในเกมนัดเปิดกลุ่ม กระนั้นต่อมาก็ฟอร์มหลุด แพ้ โปแลนด์ สบายๆ 0-2

 

แล้วแม้จะมี 3 แต้ม แต่ข้อเสียคือพวกเขามีผลต่างประตูติดลบ -1 ส่งผลให้อันดับอยู่ที่ 3 ของกลุ่ม และเกมสุดท้ายยังต้องการชัยชนะเป็นทางเลือกแรก เนื่องจากถ้าออกเสมอ ต้องดูผลของอีกคู่ประกอบ โดยเฉพาะในส่วนของผลต่างประตูได้เสีย ส่วนถ้าแพ้ ตกรอบทันที

 

แอร์กเว่ เรอนาร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของซาอุฯ มีปัญหาสภาพทีมพอสมควร โดยยังคงไม่อาจใช้งานตัวเจ็บอย่าง ยาเซอร์ อัล ชาห์รานี่ ที่กรามหักมาจากเกมแรก และ ซัลมาน อัล ฟาราจ ที่เจ็บจากนัดแรกเช่นกัน ไม่ได้ อีกทั้งเกมนี้ อับดูเลลาห์ อัล มัลกี ก็ติดโทษแบนเสียอีกคน

 

ระบบและรูปแบบการเล่นยังเน้นเพลย์เซฟ 4-4-1-1 วาง ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ขึ้นเกมรุกทางซ้าย ส่วนหน้าเป้าทิ้ง ซาเลห์ อัล เชห์รี ค้ำไว้รายเดียว

 

เม็กซิโก
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาด้วยสถิติชั้นยอดในการทะลุเข้ารอบ 2 เวิลด์ คัพ 7 ทัวร์นาเมนต์ติดต่อกัน หรือตั้งแต่ 1994 จน 2018

 

กระนั้นทีมจังโก้กลับได้ผลงานที่กาตาร์แบบค่อนข้างผิดฟอร์ม เริ่มต้นด้วยผลเสมอ โปแลนด์ 0-0 กิเยร์โม่ โอชัว ช่วยทีมไว้ด้วยการเซฟจุดโทษของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ต่อด้วยแพ้ของแสลงอย่าง อาร์เจนติน่า นิ่มแข้ง 0-2

 

สองนัดมีแต้มเดียว สถานการณ์จึงบีบบังคับให้ เม็กซิโก ต้องชนะเกมนี้เท่านั้น แถมต้องยิงให้เยอะไว้ก่อนด้วย พร้อมกับดูผลอีกคู่ประกอบกันไป

 

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ โค้ชอาร์เจนไตน์ของทัพจังโก้ มีต้องเช็กฟิตแค่ตัวเก๋า อันเดรส กวาร์ดราโด้ ที่เจ็บจากนัดก่อน นอกนั้นไม่มีปัญหา และคงไม่เปลี่ยนอะไรมากภายใต้ระบบ 3-5-2 ราอูล ฮิมิเนซ กับ เออร์วิ่ง โลซาโน่ จับคู่กองหน้าล่าตาข่าย

 

ตัวความหวัง
ซาอุดีอาระเบีย : ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี
ในจำนวน 26 สมาชิกชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของซาอุฯ ที่เป็นนักเตะในประเทศทั้งหมด ไม่มีออกค้าแข้งต่างแดนแม้แต่รายเดียวนั้น ตัวที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาคือ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวรุกเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 นักเตะจาก อัล-ฮิลาล ในทีมชุดนี้ โดยดาวเตะวัย 31 ค้าแข้งกับต้นสังกัดมาตั้งแต่เป็นเยาวชน ปัจจุบันลงเล่นไปแล้วกว่า 300 นัด และลงสนามให้ทีมชาติซาอุฯ 72 นัด ซัดไป 18 ประตู หนึ่งในนั้นเป็นประตูชัยสยบ อาร์เจนติน่า นั่นเอง

 

เม็กซิโก : ราอูล ฮิมิเนซ
หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของชนชาติเม็กซิโกในช่วงทศวรรษหลัง ต่างสไตล์ไปจาก ชิชาริโต้ อย่างสิ้นเชิง ถึงตอนนี้ ฮิมิเนซ กดไปแล้ว 29 ประตูจากการเล่น 97 นัด อย่างไรก็ตาม ดาวยิงวัย 31 จากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส โชคไม่ค่อยดีนักที่เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานตลอดช่วงปีหลังๆ ตั้งแต่ที่กะโหลกศีรษะแตกเมื่อปี 2020 แล้วก็มีเจ็บขาเจ็บเข่าเจ็บโคนขาหนีบบ้าง แต่เมื่อฟิตเต็มถัง ก็เป็นตัวอันตรายที่จบสกอร์ได้ทุกรูปแบบ

 

11 ตัวจริงที่คาด
ซาอุดีอาระเบีย (4-1-4-1, กุนซือ แอร์กเว่ เรอนาร์) โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส – โมฮัมเหม็ด อัล บูเรียค, อับดูเลลาห์ อัมรี, อาลี อัล-บูไลฮี, ซาอุด อับดุลฮามิด – นาสเซอร์ อัล-ดอว์ซารี – ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี, โมฮัมเหม็ด คันโน, ซามี อัล นาจี, เฟราส อัล บริคาน – ซาเลห์ อัล เชห์รี
เม็กซิโก (3-5-2, กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่) กิเยร์โม่ โอชัว – เซซ่าร์ มอนเตส, เอ็กตอร์ โมเรโน่, เนสตอร์ อเราโฮ – เฮซุส กายาร์โด้, เอริค กูเตียร์เรซ, เอ็กตอร์ เอร์เรร่า, เอ๊ดสัน อัลวาเรซ, เควิน อัลวาเรซ – ราอูล ฮิมิเนซ, เออร์วิ่ง โลซาโน่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เจอกันถึง 5 ครั้งในช่วงยุค 90 เม็กซิโก ชนะ 4 เสมอ 1 ไม่เคยแพ้ แต่ก็ทิ้งระยะการพบกันมาตั้งแต่ปี 1999 แล้ว
• เม็กซิโก ทะลุเข้ารอบ 2 ฟุตบอลโลกมาแล้ว 7 ทัวร์นาเมนต์ติด
• ซาเลห์ อัล-เชห์รี กองหน้าจาก อัล-ฮิลาล มีสถิติยิง 11 ลูกจากการเล่นทีมชาติแค่ 21 นัด
• อันเดรส กวาร์ดราโด้ กัปตันทีมวัย 36 ของเม็กซิโก ลงเล่นทีมชาติมาแล้วถึง 179 นัด และฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นสมัยที่ 5 เช่นเดียวกับ กิเยร์โม่ โอชัว (133 เกม)

 

ความน่าจะเป็น
เริ่มต้นฟุตบอลโลกอย่างไฉไล แต่ต้องย้ำอีกครั้งว่า ซาอุฯ มีโชคพอตัวที่ทำให้ไม่โดน อาร์เจนติน่า ยิงบวกเม็ดสองสามสี่ในครึ่งแรก และแผลของพวกเขาก็เปิดชัดเจนในเกมสอง ส่วนมานัดนี้ คงถึงเวลาแล้วที่บอล “มาตรฐาน 16 ทีม” อย่าง เม็กซิโก จะเฉิดฉาย และสถิติไม่เคยแพ้ ซาอุฯ ของทัพจังโก้ก็จะคงอยู่ต่อไป

 

ผลที่คาด : เม็กซิโก ชนะ 2-1

ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสุดท้าย : ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565, 22.00 น.
สนาม : เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ตูนิเซีย
ชนะ มาลี รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกชนะ 1-0 นัดสองเสมอ 0-0

ฝรั่งเศส
แชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ตูนิเซีย
อุ่นเครื่อง ชนะ โคโมรอส 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ บราซิล 1-5
อุ่นเครื่อง ชนะ อิหร่าน 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เดนมาร์ก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ออสเตรเลีย 0-1

ฝรั่งเศส
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เดนมาร์ก 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ออสเตรเลีย 4-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เดนมาร์ก 2-1

 

ผลการพบกัน : 9 นัด
ตูนิเซีย ชนะ 2
เสมอ 4
ฝรั่งเศส ชนะ 3

 

ตารางคะแนนกลุ่มดี
1. ฝรั่งเศส คะแนน 6 ผลต่างประตู +4 (เข้ารอบแล้ว)
2. ออสเตรเลีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -2
3. เดนมาร์ก คะแนน 1 ผลต่างประตู -1
4. ตูนิเซีย คะแนน 1 ผลต่างประตู -1

 

สภาพทีม
ตูนิเซีย
มาแบบไม่มีใครตั้งความหวัง แต่นัดแรกถือว่าทำได้ดีทีเดียว ยันเสมอ เดนมาร์ก 0-0 ต่อด้วยแพ้ ออสเตรเลีย หวุดหวิด 0-1

 

แม้โอกาสเข้ารอบจะเหลือน้อย แต่ก็ยังมีสิทธิ์สร้างปาฏิหาริย์ได้อยู่ อย่างการเอาชนะ ฝรั่งเศส และลุ้นให้ ออสเตรเลีย กับ เดนมาร์ก จบด้วยผลเสมอแบ่งแต้ม

 

กุนซือ จาเลล คาดรี้ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บเพิ่มเติม สามารถใช้ชุดที่ดีที่สุดได้ แต่ก็คาดว่าอาจมีการปรับบางตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสด เช่น วาห์บี คาซรี่ กลางรุกจากมงต์เปลลิเยร์ มีโอกาสแทรกลงตัวจริง

 

ระบบยึด 3-4-2-1 แบบเกมแรก แนวรุกวาง วาห์บี คาซรี่ กับ ยุสเซฟ เอ็มซาคนี่ ปั้นเกมหลังหอกเป้า อิสซาม เชบาลี

 

ฝรั่งเศส
เริ่มต้นเส้นทางป้องกันแชมป์โลกได้อย่างสวยงาม แม้โดน ออสเตรเลีย ยิงนำ แต่ก็เร่งเครื่องรัวแซงจนชนะขาด 4-1 ด้วยประตูจาก อาเดรียง ราบิโอต์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ 2 ประตูของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ต่อด้วย เอ็มบัปเป้ เหมาซัดสองเม็ดสยบ เดนมาร์ก 2-1

 

6 แต้มที่คว้ามาได้ ทำให้ ฝรั่งเศส เป็นทีมแรกของฟุตบอลโลก 2022 ที่ลอยลำเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้ยังต้องลุ้นแชมป์กลุ่มต่ออีกนิดก็ตาม โดยต้องการแค่ผลเสมอเท่านั้น

 

ก่อนหน้านี้ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ โดนปัญหาลูกทีมบาดเจ็บต่อเนื่อง ถัดจากที่เสีย โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ก็มาเป็น ลูคัส เอร์นันเดซ แบ็กซ้ายเบอร์แรกที่เจ็บจากเกมกับ ออสเตรเลีย และต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ไปทันที

 

ส่วนที่กลายเป็นประเด็นว่า คาริม เบนเซม่า ยอดดาวยิงเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2022 จะสลัดปัญหาบาดเจ็บหวนคืนทีม มาลงเล่นในรอบถัดๆ ไป เดส์ชองส์ ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธในเรื่องนี้ โดยเน้นว่าสมาธิของตนอยู่ที่การเตรียมทีมเล่นเกมนี้เท่านั้น

 

สำหรับการที่ ฝรั่งเศส เข้ารอบไปแล้วและแม้แต่จะหลุดแพ้ก็ยังมีสิทธิ์ได้แชมป์กลุ่ม ทำให้คาดว่า เดส์ชองส์ เตรียมปรับทัพส่งสำรองลงหลายตำแหน่ง ไฮไลท์คือการโยก เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า กลาวดาวรุ่งจากเรอัล มาดริด ออกไปยืนแบ็กซ้าย เพื่อที่จะพัก เตโอ เอร์นันเดซ เอาไว้เล่นรอบหน้า

 

แผงรุกก็เตรียมจะปรับส่ง คิงสลี่ย์ โกม็อง กับ มาร์คุส ตูราม ลงไปช่วยงาน คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ยังคงได้เล่นตัวจริงอยู่ ในเป้าหมายคว้าดาวซัลโว รองเท้าทองคำฟุตบอลโลก 2022

 

ตัวความหวัง
ตูนิเซีย : วาห์บี คาซรี่
หลังลงสำรองมาสองนัด คงถึงเวลาที่ คาซรี่ ตัวรุกประสบการณ์สูงวัย 31 จะกลับลงตัวจริงเสียที เมื่ออย่างน้อย ดาวเตะเชื้อสายฝรั่งเศสก็คือคนที่ทีมสามารถพึ่งพาได้ ไม่ว่าจะจากดีกรีเล่นทีมชาติ 73 นัดซัด 24 ประตู หรือการตระเวนเล่นในลีกหัวแถวอย่างฝรั่งเศสและอังกฤษมาตลอดนับสิบปี ภายใต้สังกัด บาสเตีย, บอร์กโดซ์, ซันเดอร์แลนด์, แรนส์, แซงต์-เอเตียน และปัจจุบันอยู่กับ มงต์เปลลิเยร์

 

ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ต้องกลายเป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ในฟุตบอลโลก 2022 แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป แต่ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ดูพร้อมเต็มที่แล้วในการสวมบทบาทนี้ ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 60 เกม ยิง 29 ประตู และเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังกดไปแล้ว 3 เม็ดในสองเกมแรก ไม่นับที่ยิงรัวๆ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตลอดหลายปี ซีซั่นนี้ก็มีแล้ว 19 ประตู

 

11 ตัวจริงที่คาด
ตูนิเซีย (3-4-2-1, กุนซือ จาเลล คาดรี้) อายเมน ดาห์เมน – มอนตาสซาร์ ทาลบี้, ยาสซีน เมริอาห์, ดีแลน บรอนน์ – อาลี อับดี, เอสซ่า ไลดูนี่, เอลเยส ชกิรี่, โมฮาเหม็ด ดราเกอร์ – ยุสเซฟ เอ็มซาคนี่, วาห์บี คาซรี่ – อิสซาม เชบาลี
ฝรั่งเศส (4-3-3, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) สตีฟ ม็องด็องด้า – เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, อิบราฮิมา โกนาเต้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เบนชาแม็ง ปาวาร์ – ยุสซูฟ โฟฟาน่า, มัตเตโอ เก็นดูซี่, อองตวน กรีซมันน์ – คิงสลี่ย์ โกม็อง, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, มาร์คุส ตูราม

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาเยอะทีเดียว 9 นัด ล่าสุดอุ่นเครื่องปี 2010 เสมอกัน 1-1
• 5 เกมหลัง ฝรั่งเศส ทำคลีนชีตได้แค่เกมเดียว เสียรวม 5 ประตู
• คาริม เบนเซม่า ไม่อยู่ แต่ที่เหลืออย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (31), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (51), อองตวน กรีซมันน์ (42) ถล่มประตูในนามทีมชาติได้รวมกันถึง 124 ลูก
• โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ฝรั่งเศส เทียบเท่ากับ เธียร์รี่ อองรี แล้ว จากนี้ยิงได้ไม่ว่ากี่ประตู ก็จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำแบบเดี่ยวๆ ทั้งสิ้น

 

ความน่าจะเป็น
แม้ ตูนิเซีย จะยังพอมีลุ้นเข้ารอบ แต่การที่บังคับต้องชนะ ฝรั่งเศส ก็ดูเป็นเรื่องเกินเลยไปมาก เมื่อระดับคุณภาพของสองชาติแตกต่างกันชัดเจน โอกาสที่ตราไก่จะสยายปีก 3 เกมซ้อน มีมากกว่า 80-90% แถมต่อให้ปรับทัพสะบั้นหั่นแหลก ก็ยังมีตัวเก่งมากพอจะเช็คบิลคู่แข่งได้อยู่ดี

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 2-0

ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสุดท้าย : ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : NBT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ออสเตรเลีย
ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 รอบ 4 โซนเอเชีย (รอบเพลย์ออฟ)
ชนะจุดโทษ เปรู 5-4 (หลังเสมอ 0-0) รอบเพลย์ออฟต่างทวีป

เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ โซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ออสเตรเลีย
คัดบอลโลก เสมอ เปรู 0-0 / ชนะจุดโทษ 5-4
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ฝรั่งเศส 1-4
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ตูนิเซีย 1-0

เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ ตูนิเซีย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ฝรั่งเศส 1-2

 

ผลการพบกัน : 4 นัด
อุ่นเครื่อง 2007 เดนมาร์ก ชนะ 3-1
อุ่นเครื่อง 2010 ออสเตรเลีย ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2012 เดนมาร์ก ชนะ 2-0
ฟุตบอลโลก 2018 เสมอ 1-1

ตารางคะแนนกลุ่มดี
1. ฝรั่งเศส คะแนน 6 ผลต่างประตู +4 (เข้ารอบแล้ว)
2. ออสเตรเลีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -2
3. เดนมาร์ก คะแนน 1 ผลต่างประตู -1
4. ตูนิเซีย คะแนน 1 ผลต่างประตู -1

 

สภาพทีม
ออสเตรเลีย
เกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 ออสเตรเลีย โชคไม่ดีที่เจอของแข็งอย่างแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ตั้งแต่แรก แม้จะขึ้นนำก่อนแต่ก็โดนจ้วงยับหลังจากนั้น จนแพ้ขาด 1-4 แต่ถัดมาก็แก้ตัวได้ เบียดชนะ ตูนิเซีย 1-0 จากการโขกของ มิตเชลล์ ดู๊ค

 

3 แต้มที่มีในมือ ทำให้ ออสเตรเลีย สามารถดึงเสมอ เดนมาร์ก เพื่อเข้ารอบได้ แต่ก็ต้องในกรณีที่อีกสนาม ตูนิเซีย ไม่อาจเอาชนะ ฝรั่งเศส ได้แต่อย่างใด

 

สภาพทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ มีต้องเช็กแค่ เนธาเนียล แอตกินสัน ที่เจ็บข้อเท้าจนพลาดเกมที่แล้ว

 

ซอคเกอรูส์ จะใช้ 4-4-2 วางหอกคู่ มิตเชลล์ ดู๊ค กับ ไรลี่ย์ แม็คกรี เป็นสองตัวความหวังในแนวรุก

 

เดนมาร์ก
ทั้งที่มาด้วยผลงานชั้นยอดในรอบคัดเลือก รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปีก็ทำได้ดี แต่การเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลเสมอ ตูนิเซีย 0-0 นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เนื่องจากนัดสองต้องเจอเต็งแชมป์อย่าง ฝรั่งเศส และแม้จะยันอยู่จนห้านาทีท้าย ก็มาโดนทีเด็ดของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จนแพ้ไป 1-2

 

อย่างไรก็ตาม การได้ผลแพ้หรือเสมอจาก ฝรั่งเศส ไม่ได้มีความแตกต่างกันนัก เมื่ออย่างไรเสีย พวกเขาก็จำต้องเอาชนะ ออสเตรเลีย ในเกมปิดกลุ่มให้ได้อยู่ดี เป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้ได้เข้ารอบ

 

ความพร้อมในทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ นอกจากที่เสียคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์จากเซบีย่า ถอนตัวไปเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องดูอาการของ ซิมอน เคียร์ ปราการหลังกัปตันทีม ว่าจะพร้อมหรือไม่ หลังเจ็บต้นขาจนไม่ได้เล่นเกมกับ ฝรั่งเศส

 

ทีมโคนมจะใช้ระบบ 3-4-2-1 คริสเตียน เอริคเซ่น เชื่อมเกมตรงกลาง เกมรุกให้ มิคเคล ดัมส์การ์ด กับ เจสเปอร์ ลินด์สตรอม ปั้นเกมหลังหอกเป้า แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

ตัวความหวัง
ออสเตรเลีย : แม็ทธิว เลคกี้
ตัวริมเส้นประสบการณ์สูงวัย 31 ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 75 นัด ยิงแล้ว 13 ประตู ผ่านรายการใหญ่มาแล้วทั้งฟุตบอลโลก 2 รอบ 2014 กับ 2018, เอเชียน คัพ 2 หน และคอนเฟดฯ คัพ อีกหนึ่ง เวลานี้อยู่ในสังกัด เมลเบิร์น ซิตี้ ภายหลังโกอินเตอร์ไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่นานนับสิบปี กับทั้งกลัดบัค, เอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต, อิงโกลชตัดท์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน จนนับเป็นดาวเด่นเบอร์ใหญ่สุดของทัพจิงโจ้ชุดนี้

 

เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 119 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้ ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลาง

 

11 ตัวจริงที่คาด
ออสเตรเลีย (4-4-2, กุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์) แม็ต ไรอัน – ฟราน คาราซิช, แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไค โรว์เลส, อาซิซ เบฮิช – เคร็ก กู๊ดวิน, อารอน มอย, แจ๊คสัน เออร์ไวน์, แม็ทธิว เลคกี้ – มิตเชลล์ ดุ๊ค, ไรลี่ย์ แม็คกรี
เดนมาร์ก (3-4-2-1, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, คริสเตียน เอริคเซ่น, ราสมุส คริสเตนเซ่น – มิคเคล ดัมส์การ์ด, เจสเปอร์ ลินด์สตรอม – แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เดนมาร์ก ชนะ 2 จาก 4 ครั้งที่พบกันตลอดช่วงที่ผ่านมา
• แต่พบกันล่าสุดในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เสมอกัน 1-1 คริสเตียน เอริคเซ่น ยิงนำ ก่อน มิเล่ เยดินัค กดจุดโทษตีเสมอท้ายครึ่งแรก
• แม็ทธิว เลคกี้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของออสเตรเลียชุดนี้ แม้จะยิงได้แค่ 13 ประตูเท่านั้นก็ตาม
• หากเกมนี้ไม่อาจพลิกผ่านเข้ารอบได้ ก็มีสิทธิ์จะป็นเกมฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายในชีวิตของทั้ง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (36), ซิมอน เคียร์ (33), ดาเนี่ยล วาสส์ (33) และอีกบางคนของทัพโคนม

 

ความน่าจะเป็น
แม้สองเกมแรกจะไม่ชนะ แต่ถือว่า เดนมาร์ก อยู่ในอารมณ์ผ่อนคลายได้พอสมควร เนื่องจากไม่ว่าจะเสมอหรือแพ้ ฝรั่งเศส พวกเขาก็ต้องมาชนะเกมนี้ให้ได้อยู่ดี และถ้าวัดตามมาตรฐาน หากเล่นได้เหมือนที่ผ่านๆ มา ก็น่าจะผ่าน ออสเตรเลีย ได้ ขอแค่โชคเข้าข้างเล็กๆ และไม่ใช้โอกาสเปลืองเป็นพอ

 

ผลที่คาด : เดนมาร์ก ชนะ 1-0