เรื่อง

โครเอเชีย vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : โครเอเชีย vs แคนาดา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

แคนาดา
แชมป์รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 23 เสีย 7

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0

แคนาดา
อุ่นเครื่อง ชนะ กาตาร์ 2-0
อุ่นเครื่อง แพ้ อุรุกวัย 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ บาห์เรน 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ ญี่ปุ่น 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เบลเยียม 0-1

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อน

 

สภาพทีม
โครเอเชีย
ชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0

 

ซลัตโก้ ดาลิช ไม่มีปัญหาตัวผู้เล่นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากที่นายทวาร ลอฟเร่ คาลินิช เจ็บอยู่ก่อนแล้วจนหลุดโผไปตั้งแต่ก่อนประกาศรายชื่อ รวมถึงตัวที่ถูกกาทิ้งอย่าง ดูเย่ กาเลต้า-คาร์ หรือ โยซิป เบรคาโล่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับทีม

 

คาดว่าระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าดัน อีวาน เปริซิช ไปเดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ นิโกล่า วลาซิช

 

แคนาดา
ทัพเมเปิ้ลได้กลับมาโชว์ตัวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง หลังหายหน้าไปตั้งแต่ได้เล่นหนแรกเมื่อปี 1986 ก่อนจะแพ้ เบลเยียม แบบหวิวๆ 0-1 ในเกมเปิดหัวของฟุตบอลโลก 2022

 

แต่มาคราวนี้ถือว่า แคนาดา น่าเกรงขามทีเดียว ด้วยการผงาดแชมป์ของรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ เหนือขั้วอำนาจเก่าทั้ง เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา

 

แคนาดา คุมทีมโดย จอห์น เฮิร์ดแมน โค้ชชาวอังกฤษ ที่ขยับจากทีมชาติฝ่ายหญิง (2011-2018) มารับงานนี้ และในทีมมีดาวเด่นอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส (บาเยิร์น), โจนาธาน เดวิด (ลีลล์), ไคล์ ลาริน (คลับ บรูช), สตีเฟ่น ยุสตากิโต้ (ปอร์โต้) เป็นแกนนำ

 

เฮิร์ดแมน ไม่มีปัญหาในการจัดทีมเกมนี้เช่นกัน โดยจะวางระบบเปิดหน้าแลก 3-4-3 อัลฟอนโซ่ เดวิส ขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ส่วนสามกองหน้าเป็น โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน และ จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์

 

ตัวความหวัง
โครเอเชีย : อีวาน เปริซิช
แม้การเป็นลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนต้ ที่สเปอร์ส เปริซิช จะถูกใช้งานเป็นวิงแบ็กฝั่งซ้าย แต่กับการรับใช้ชาติแล้ว เขาคือปีกซ้ายที่มีหน้าที่เล่นเกมรุกเต็มอัตรา หรือจะเรียกว่ากองหน้าไปเลยก็ไม่ผิด ทั้งนี้สิ่งที่เราเห็นกันมาตลอดกับ สเปอร์ส รวมถึง อินเตอร์ มิลาน คือ เปริซิช แค่ต้องปรับความคมให้เพิ่มมากขึ้นอีกนิด สกอร์จะไหลมาเทมามากกว่าที่เป็น แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็นำดาวซัลโวของทีมชุดนี้อยู่แล้ว หลังยิงไป 32 ลูก

 

แคนาดา : อัลฟอนโซ่ เดวิส
นักเตะที่ดีที่สุดในยุคนี้ของ แคนาดา หรือกระทั่งอาจจะดีที่สุดตลอดกาล โตมากับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ก่อนที่มหาอำนาจบอลเยอรมันอย่าง บาเยิร์น มิวนิค จะทุ่มเงินเป็นสถิติ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมโบนัสเสริม) คว้าตัวไปปั้นต่อตอนที่ เดวิส อายุได้แค่ 17-18 เท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีคำว่าผิดหวังเมื่อเจ้าหนูเชื้อสายกาน่าพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด เป็นตัวหลักให้กับทัพเสือใต้มาแล้วเป็นปีที่ 4 พร้อมกระแสยกย่องว่าเป็น “แบ็กซ้ายเบอร์ 1 โลก” จากบางฝ่าย ที่สำคัญ ยังสารพัดประโยชน์ เล่นได้หมดทางกราบซ้ายด้วย

 

11 ตัวจริงที่คาด
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, นิโกล่า วลาซิช
แคนาดา (3-4-3, กุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน) มิลาน บอร์ยาน – คามาล มิลเลอร์, สตีเว่น วิตอเรีย, อลิสแตร์ จอห์นสตัน – อัลฟอนโซ่ เดวิส, สตีเฟ่น ยุสตาคิโอ, อติบา ฮัทชินสัน, ริชี่ ลาร์เยีย – จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ โครเอเชีย เคยเล่นกับทีมโซนคอนคาเคฟมา 3 หนในฟุตบอลโลก ชนะ 1 แพ้ 2
• โครเอเชีย มีถึง 3 คนที่เล่นทีมชาติทะลุร้อยนัด คือ ลูก้า โมดริช (156), อีวาน เปริซิช (117) และ โดมากอย วิด้า (100)
• ดาวซัลโวชุดนี้ของ โครเอเชีย เป็นวิงแบ็กอย่าง อีวาน เปริซิช ที่กดไป 32 ประตู
• อติบา ฮัทชินสัน กัปตันแคนาดา อ่อนกว่ากุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน แค่ 7-8 ปี
• ไคล์ ลาริน ยิงในทีมชาติ 25 ประตู ส่วน โจนาธาน เดวิด 22 ลูก

 

ความน่าจะเป็น
ตามหน้าเสื่อ โครเอเชีย เหนือกว่า แต่ก็ยังไม่อาจมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะชนะแน่ๆ เมื่อ แคนาดา ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หมู เล่นงาน เบลเยียม ได้ชนิดโอนไปเอนมา แต่สุดท้ายกลับแพ้ (แบบไม่น่าแพ้) ดังนั้น ก็จะไม่ใช่งานง่ายๆ ของ โครเอเชีย เช่นกัน โอกาสเสมอมี โอกาสที่โครเอเชียจะชนะก็มี แต่เต็มที่จะแค่ออกเฉือน

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม
22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

เบลเยียม vs โมร็อกโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เบลเยียม vs โมร็อกโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : เบลเยียม vs โมร็อกโก
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม, โดฮา
ถ่ายทอดสด : 9MCOT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เบลเยียม
แชมป์กลุ่มอี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 25 เสีย 6

โมร็อกโก
ชนะ ดีอาร์ คองโก รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกเสมอ 1-1, นัดสองชนะ 4-1

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เบลเยียม
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1
อุ่นเครื่อง แพ้ อียิปต์ 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 1-0

โมร็อกโก
คัด AFCON ชนะ ไลบีเรีย 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปารากวัย 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์เจีย 3-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โครเอเชีย 0-0

 

ผลการพบกัน (3 นัด)
ฟุตบอลโลก 1994 เบลเยียม ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 1999 เบลเยียม ชนะ 4-0
อุ่นเครื่อง 2008 โมร็อกโก ชนะ 4-1

 

สภาพทีม
เบลเยียม
ผ่านเข้ารอบแบบไร้พ่ายจากรอบคัดเลือกโซนยุโรป และเกมแรกก็เบียดชนะ แคนาดา 1-0 จากประตูโทนของ มิชี่ บัตชูอายี่

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสแปนิชของทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป ถูกคาดหมายว่าจะคุมทีมในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้เป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้าย ภายหลังอยู่บนเก้าอี้มาพักใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 และร่วมสร้างยุคทองให้ เบลเยียม เต็มไปด้วยนักเตะระดับคุณภาพ แต่กลับมีร่องรอยตำหนิตรงที่ไม่มีแชมป์รายการใดติดมือเป็นชิ้นเป็นอัน ดีที่สุดคือเป็นอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

 

สำหรับความพร้อมของ เบลเยียม ในเกมนี้ มาร์ติเนซ ยังคงไม่สามารถใช้งาน โรเมลู ลูกากู ดาวยิงเบอร์หนึ่งเจ้าของสถิติ 68 ประตูในนามทีมชาติ ได้ หลังจากหัวหอกอินเตอร์ มิลาน เจ็บต้นขาจนไม่ได้เล่นมาตั้งแต่สิ้นเดือน ต.ค.

 

การขาด ลูกากู ทำให้หน้าเป้าจะเป็นโอกาสต่อเนื่องของ มิชี่ บัตซูอายี่ โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เอแด็น อาซาร์ เป็นตัวปั้นเกมสนับสนุน

 

โมร็อกโก
มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่ โมร็อกโก ก็อยู่ในทรงที่ดีทีเดียว ชนะ 4 จาก 6 เกมหลังสุด และแพ้เกมเดียวเท่านั้นจาก 9 แมตช์หลัง รวมเกมแรกที่ยันเสมอ โครเอเชีย 0-0

 

อย่างไรก็ตาม เรกรากี มีตัวเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง นูสแซร์ มาซราอุย แบ็กจากบาเยิร์น มิวนิค, อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กองกลางจากซามพ์โดเรีย และ อับเดสซาหมัด เอซซาลซูลี่ กองหน้าโอซาซูน่า ไม่พร้อมเล่น

 

แต่ขุนพลตัวหลักอย่าง ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ หรือ อัชราฟ ฮาคิมี่ พร้อมรบตามปกติทั้งหมด

 

ตัวความหวัง
เบลเยียม : เควิน เดอ บรอยน์
สร้างชื่อขึ้นเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก และมาตรฐานสูงๆ ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมในซีซั่นนี้ ที่ยิง 3 ประตู แอสซิสต์อีกถึง 13 กับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 19 นัด สำหรับในทีมชาติ (94 นัด 25 ประตู) เดอ บรอยน์ ก็ถือเป็นทีเด็ดทีขาดที่ทุกคู่แข่งต้องระวังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะลูกจ่ายคมๆ หรือการชงเองกินเองที่มิดฟิลด์วัย 31 พร้อมจัดให้ได้หมด

 

โมร็อกโก : ฮาคิม ซีเย็ค & อัชราฟ ฮาคิมี่
ฮาคิม ซีเย็ค เลิกเล่นทีมชาติไปช่วงหนึ่งเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัวกับโค้ชเก่า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งพอมีการเปลี่ยนเป็น วาลิด เรกรากี แล้วก็กลับสู่สารบบทีมชาติดังเดิม โดยแม้จะเจอปัญหาเข้าๆ ออกๆ จากทีมเชลซี แต่ก็คือตัวยืนของทีมชาติ มีผลงานยิง 18 ประตูจาก 44 เกม ด้าน ฮาคิมี่ พัฒนาตัวเองไปจนอยู่ในระดับแบ็กขวาตัวท็อปของวงการแล้ว พร้อมกับบางเสียงยกว่าเป็นเบอร์ 1 โลกยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 54 เกมทีมชาติ

 

11 ตัวจริงที่คาด
เบลเยียม (3-4-2-1, กุนซือ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ) ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ยาน แฟร์ตองเก้น, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ – ยานนิค การ์รัสโก้, อักเซล วิตเซล, ยูรี่ ตีเลมันส์, ทิโมธี คาสตันเย่ – เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ – มิชี่ บัตชูอายี่
โมร็อกโก (4-2-3-1, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – นยาห์ย่า อัตติอัต-อัลลาห์, นาเยฟ อาแกร์ด, โรแม็ง ไซส์, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต – ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, เซลิม อมัลลาห์ – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาแค่ 3 ครั้ง หนึ่งในนั้นเป็นเกมฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐฯ เบลเยียม เฉือนชนะ 1-0
• เจอกันล่าสุดปี 2008 โมร็อกโก ถลุง 4-1 ซึ่งบางคนอย่าง ยาน แฟร์ตองเก้น หรือ อักเซล วิตเซล อยู่ในทีมวันนั้นด้วย
• เบลเยียม ชนะเกมฟุตบอลโลก 7 จาก 8 นัดหลัง
• โมร็อกโก ไม่ชนะเกมฟุตบอลโลกถึง 10 จาก 11 แมตช์ล่าสุด
• โมร็อกโกชุดนี้มีเด็กอายุ 18 ด้วย อย่าง บิลาล เอล คานนุส กองกลางดาวรุ่งเชื้อสายเบลเยียมจาก เกงค์ ซึ่งไม่เคยเล่นชุดใหญ่มาก่อน

 

ความน่าจะเป็น
ห้ามประมาทเป็นเด็ดขาดสำหรับ เบลเยียม เมื่อนอกจากฟอร์มของพวกเขาเองจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดแล้ว ยังมีปัญหาสภาพทีม อีกทั้ง โมร็อกโก เองก็มีทีเด็ดทีขาดสร้างอันตรายได้อยู่ แม้ความเป็นไปได้อาจมีโอกาสที่ เบลเยียม จะชนะมากกว่า แต่จะไม่ยิงขาด และมีมุมที่ โมร็อกโก จะดึงแต้มได้ด้วย

 

ผลที่คาด : เบลเยียม ชนะ 1-0, เสมอ 1-1

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม
22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

 

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : GMM25

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

คอสตาริกา
อันดับ 4 รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เพลย์ออฟต่างโซน ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
EAFF E-1 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1

คอสตาริกา
เพลย์ออฟบอลโลก ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เกาหลีใต้ 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ไนจีเรีย 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ สเปน 0-7

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
ญี่ปุ่น ชนะ 4
เสมอ 1

 

สภาพทีม
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันแล้ว และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

ชัยชนะในเกมแรกยังหมายถึงว่า ถ้า ญี่ปุ่น เดินหน้าชนะได้ต่อเนื่องในเกมนี้ พวกเขาจะจ่อเข้ารอบน็อกเอาต์เต็มที โดยเฉพาะถ้าในคู่ดึก สเปน-เยอรมนี จบด้วยผลเสมอ หรือ สเปน ชนะได้ ญี่ปุ่น ก็จะเข้ารอบทันทีด้วย และเหลือแค่ชิงแชมป์กลุ่มกับ สเปน เท่านั้น

 

สภาพทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ มีปัญหาเล็กน้อยที่ความฟิตของ ฮิโรกิ ซากาอิ ซึ่งเจ็บจากเกมแรก แต่หากเล่นไม่ไหวก็มีตัวแทนตำแหน่งอยู่แล้วอย่าง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ จากอาร์เซน่อล

 

ในราย ทาคุมะ อาซาโนะ โดยปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว แต่ด้วยผลงานการลงสำรองไปพังประตูดับ เยอรมนี ก็ทำให้อาจได้รางวัลพิเศษ ได้ลงตัวจริงบ้าง เขี่ย ทาคุมิ มินามิโนะ ไปนั่งสำรอง

 

คอสตาริกา
ทีมกล้วยหอมจากคอนคาเคฟ ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 6 และหนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ต้องออกแรงใช่ย่อยในการผ่านรอบเพลย์ออฟต่างทวีปกับ นิวซีแลนด์ และเบียดชนะสุดหวิว 1-0

 

มาในฐานะม้านอกสายตา แต่ ณ ตอนนี้ดูจะเป็นม้าป่วยกระเสาะกระแสะไปเสีย กับการที่ลงเล่นเกมแรกแพ้ สเปน แบบไร้ทางสู้ 0-7 ดังนั้นถ้าแพ้เกมนี้อีก ตกรอบแรกทันที

 

ในการทำทีมของ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ คอสตาริกายังมาด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ อย่าง เคย์เลอร์ นาวาส, ไบรอัน โอเวียโด้, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, กัปตันทีม ไบรอัน รุยซ์ และ โจเอล แคมป์เบลล์ ที่รวมตัวกันมาตั้งแต่บอลโลก 2014 แล้ว

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ทาคุมะ อาซาโนะ
กลายเป็นประเด็นว่า อาร์เซน่อล ทำเพชรเม็ดงามชิ้นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร ภายหลัง อาซาโนะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสำรองไปพังประตูชัยปลิดชีพ เยอรมนี 2-1 เมื่อวันก่อน กระนั้นก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า อาซาโนะ ย้ายมากรุงลอนดอนตั้งแต่อายุแค่ 22 และโดนปฏิเสธเวิร์คเพอร์มิตด้วย จนที่สุดแล้วหลังจากส่งยืมหลายรอบก็ต้องปล่อยขาดไปอย่างเสียมิได้ ตอนนี้อยู่กับ โบคุ่ม ในเยอรมนี และลงเล่นทีมชาติ 38 นัด ซัด 8 ประตู

 

คอสตาริกา : โจเอล แคมป์เบลล์
ดังมานาน สร้างชื่อมาจนถึงจุดพีคแล้วก็ดร็อปลงไปจนแฟนบอลแทบจะลืมหน้ากันแล้ว แต่แท้ที่จริง อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลรายนี้เพิ่งจะอายุ 30 ถ้วนเท่านั้นเอง โดยตอนที่เป็นแข้งปืนโต เขาอายุแค่ 22-23 เท่านั้น จากนั้นก็ย้ายออกไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันอยู่กับ คลับ เลออน ในเม็กซิโก และยังคงเฝ้ารับใช้ชาติอยู่ต่อไป เล่นแล้ว 120 นัด ซัด 25 ประตู หนึ่งในนั้นก็คือประตูสำคัญดับ นิวซีแลนด์ จนพาให้ คอสตาริกา มาเล่นฟุตบอลโลก 2022

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, โค อิตาคุระ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ – กาคุ ชิบาซากิ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ทาคุมะ อาซาโนะ
คอสตาริกา (4-4-2, กุนซือ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ) เคย์เลอร์ นาวาส – ไบรอัน โอเวียโด้, ออสการ์ ดูอาร์เต้, ฟรานซิสโก้ กัลโว, คาร์ลอส มาร์ติเนซ – เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, เยวิสัน เบนเน็ตเต้ – โจเอล แคมป์เบลล์, อันโธนี่ คอนเตรราส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 5 ครั้ง ญี่ปุ่น ไม่เคยแพ้ โดยชนะแบบยิงได้ 3 ประตูโดยตลอด ล่าสุดอุ่นเครื่องปี 2018 ญี่ปุ่นชนะ 3-0
• ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะคุมทีมชาติญี่ปุ่นเป็นนัดที่ 60 ในเกมนี้ โดยที่ผ่านมา ชนะ 40 เสมอ 8 แพ้ 11
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู
• คอสตาริกา แพ้แค่ 2 นัดจากการเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 2) แต่หนึ่งในนั้นก็คือการโดน สเปน กราดยิง 7-0
• คอสตาริกาชุดนี้ มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไปมากถึง 11 คน สูงวัยสุดคือ ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีมวัย 37

 

ความน่าจะเป็น
คอสตาริกา อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมต่อกรกับใครทั้งสิ้นจากฟอร์มที่เป็นในนัดแรกกับ สเปน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะตื่นหรือยังกับเกม 2 นัดนี้ ที่จะเจอคู่แข่งคุณภาพดร็อปลงมาเล็กน้อย กระนั้นถ้ายังสะลึมสะลือ ก็คงไม่รอดเงื้อมมือซามูไรแต่อย่างใด

 

ผลที่คาด : ญี่ปุ่น ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน
02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – เม็กซิโก

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: NBT/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่าจะลงเล่นนัดที่สองในฟุตบอลโลก 2022 หลังเปิดตัวด้วยการพ่ายแพ้สุดช็อค ต่อซาอุดิอาระเบีย ที่กระทั่งลิโอเนล เมสซี่ ถึงกับออกปากว่า “พวกเราตายสนิท” โดยโค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ มีเวลา 4 วันในการฟื้นสภาพจิตใจลูกทีม ที่นอกจากจะเก็บแต้มไม่ได้แล้ว พวกเขายังสูญเสียสถิติลงเล่น 36 นัดไม่เคยแพ้ใคร ที่หากผ่านซาอุดิอาระเบียได้ อาร์เจนติน่าจะมีลุ้นทำสถิติใหม่เหนือทีมชาติอิตาลีได้เลย หากจะบอกว่า หลาย ๆ อย่างที่ทีมฟ้าขาวชุดนี้สั่งสมมา พังลงตรงหน้าในเกมนี้ก็คงได้ และทำให้พวกเขาต้องหาทางพลิกสถานการณ์ กู้หน้าให้ได้ ที่ไม่ใช่แค่เก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลือ หากยังต้องเกิดขึ้นด้วยฟอร์มการเล่นสวย ๆ ในเวลาเดียวกัน และด่านแรกที่พวกเขาต้องจัดการให้ได้ก็คือ เม็กซิโก

ทีมจังโก้เปิดฟุตบอลโลกหนนี้ไม่ได้สวยงามเช่นครั้งก่อน ที่ล้มแชมป์เก่าเยอรมนีได้สำเร็จ แถมเกือบ ๆ จะแพ้ด้วยซ้ำหากนายทวาร กีแยร์โม โอชัวเซฟลูกจุดโทษของเลวานดอฟสกี้ไม่ได้ แดนหน้าของทีมในปีนี้คุกคามคู่ต่อสู้ไม่ได้เนื้อได้หนังเช่นที่ทีมชุดก่อน ๆ เคยทำได้ และในสภาพที่ตัวเองก็ต้องการแต้ม เพื่อผ่านเข้ารอบ ในกลุ่มที่สถานการณ์ยังดูคลุมเครือ ยังไม่รู้ว่าใครที่จะไปยืนในรอบ 16 ทีมสำเร็จ กระทั่งซาอุดิอาระเบียเอง หากพ่ายโปแลนด์ขึ้นมา ทุกอย่างก็เหมือนถูกรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง การเจอกับเสือบาดเจ็บ “หนัก” อย่าง อาร์เจนติน่า ในตอนนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมเลยจริง ๆ สำหรับทีมที่ผูกปีแพ้ทีมฟ้าขาว อย่าง เม็กซิโก

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

เรื่องดีเรื่องหนึ่งหลังการออกสตาร์ตที่น่าผิดหวังก็คือ อาร์เจนติน่าไม่มีรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีนักเตะที่อยู่ในสภาพฟื้นฟูร่างกายให้ต้องเป็นห่วง โดยเปาโล ดีบาล่า จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับแนวรุกให้สคาโลนี่ได้เลือกใช้งาน โดยที่เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเจล ดิ มาเรีย และเมสซี่ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

ในเกมเสมอโปแลนด์ มาร์ติโน่เลือกใช้บริการเฮนรี่ มาร์ติน ก่อนราอูล ฮิมิเนซ​ โดยให้โอกาสกองหน้าจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 20 นาทีสุดท้ายของเกม ด้วยสภาพร่างกายที่กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังได้รับบาดเจ็บก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ไม่นาน ฮิมิเนซน่าจะเป็นตัวเลือกแรกของมาร์ติโน่ในเกมนี้ ซึ่งจะกลายเป็นการลงเล่นตัวจริงในเกมที่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, ปาเรเดส; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ; เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก ระบบ 4-3-3: โอชัว; ซานเชซ, มอนเตส, โมเรโน่, กัญญาร์โด้; ชาเวซ, เอ็ดสัน อัลวาเรซ, เอร์เรร่า; โลซาโน่, ฮิมิเนซ, เวก้า

กิแยร์โม โอชัว จังโก้อันตราย ฟุตบอลโลก 2022

กับการที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ของเขา ทำให้โอชัวคือเสียงแห่งประสบการณ์ของทีมจังโก้อันตรายชุดนี้ (ภาพ: REUTERS/Matthew Childs)

สถานการณ์ของเกมระหว่างอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

หากจะบอกว่า เม็กซิโกคือลูกไล่ของอาร์เจนติน่าคงไม่ผิด เมื่อดูจากสถิติเก่า ๆ โดย 7 นัดหลังสุดที่เจอกัน ทีมฟ้าขาวไม่เคยแพ้เลย และชนะไปถึง 6 นัด โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ให้กับทีมจังโก้อันตราย ก็โน่นปี 2004 กับการที่แพ้เกมเปิดหัว และสถิติไม่แพ้ใครยาวนานถึง 36 นัดจบลง ถือเป็นคราวเคราะห์ของเม็กซิโกก็ว่าได้ ที่ต้องเจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งต้องระเบิดความมุ่งมั่น ความอัดอั้นทุกอย่างในตัวใส่ทีมไหนสักทีม แล้วนอกจากจะไม่แพ้ใครมา 36 นัดแล้ว ภายใต้การคุมทีมของสคาโลนี่ทีมฟ้าขาวยังไม่เคยแพ้ใครติดต่อกันเลย

แล้วกับการที่ต้องการทั้งคะแนน ทั้งกู้ชื่อของตัวเองกลับมา อาร์เจนติน่าคงต้องใส่เต็มที่ และน่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ก่อนจะไปวัดกับโปแลนด์ในนัดสุดท้าย

อาร์เจนติน่าจะชนะจังโก้อันตราย โดยน่าจะยิงได้ถึง 3 ประตู ที่ต้องมาลุ้นกันว่า เม็กซิโกจะเจาะทีมฟ้าขาวได้กี่ประตู

เรื่องน่าอ่าน
1. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

2. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
3. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022
5. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ จะยังหาชัยชนะไม่เจอ เมื่อพบกับซาอุดิอาระเบีย ในนัดที่สองของทั้งสองทีม ในฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ จะยังหาชัยชนะไม่เจอ เมื่อพบกับซาอุดิอาระเบีย ในนัดที่สองของทั้งสองทีม ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 3 ของกลุ่ม ซี โปแลนด์ – ซาอุดิอาระเบีย

วันที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: 9MCOT/ True4U/ True Sports 2

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

สถานการณ์ของโปแลนด์และซาอุดิอาระเบีย

หลังเสมอเม็กซิโกมาแบบน่าผิดหวัง โปแลนด์จะเจอกับซาอุดิอาระเบีย ที่เปิดตัวได้อย่างสุดหรูในฟุบอลโลก 2022 เมื่อเอาชนะอาร์เจนติน่า 2-1 ซึ่งน่าจะกลายเป็นหนึ่งหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก ที่ว่าด้วยเกมพลิกล็อคช็อคโลก

หากจะมีเรื่องที่ถูกบันทึกสำหรับเกมระหว่างโปแลนด์กับเม็กซิโก ก็คงไม่พ้นการที่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พลาดโอกาสทำประตูแรกในฟุตบอลโลก เมื่อได้ยิงลูกโทษที่จุดโทษ แต่พลาดไป และน่าจะกลายเป็นความทรงจำที่เลวร้าย ที่เจ้าตัวอยากจะลืม แต่หากเทียบกับฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อนหน้าที่รัสเซีย ถือว่าโปแลนด์ออกสตาร์ตได้ดีกว่าเดิม และหากพวกเขาชนะนัดนี้ และอาร์เจนติน่าเก็บชัยชนะไม่ได้ในการเจอกับเม็กซิโก โปแลนด์จะมีแต้มในมือที่เหนือกว่าแชมป์โลก 2 สมัยในวันที่เจอกันเป็นเกมสุดท้ายในรอบคัดเลือกของกลุ่มซี ซึ่งทำให้เกมนัดนี้กลายเป็นเกมกำหนดชะตากรรมของโปแลนด์ในทัวร์นาเมนต์นี้ได้เลย

ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย หากต้องการเป็นหนึ่งในสองทีมจากกลุ่มนี้ที่ได้เล่นในรอบต่อไป พวกเขาควรเก็บ 3 แต้มให้ได้จากนัดนี้ ที่เมื่อดูจากความมั่นใจที่น่าจะมีกันอย่างเต็มเปี่ยม หลังคว่ำทีมของลิโอเนล เมสซี่ และเกมของโปแลนด์ที่ไม่ได้น่าเกรงขามสักเท่าไหร่ เป็นไปได้ว่าตอนนี้ ความเชื่อมั่นของซาอุดิอาระเบีย น่าจะสูงปรี้ด

ชาติเอเชีย - ซาอุดิ อาระเบีย

ซาอุดิ อาระเบีย เข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีญี่ปุ่น กับออสเตรเลีย ร่วมกลุ่ม (ภาพ: SSAF/Facebook)

สถานการณ์ผู้เล่นของโปแลนด์และซาอุดิอาระเบีย

โค้ชเซสลอว์ มิชนีวิกซ์ เดินทามาถึงกาตาร์พร้อมกับลูกทีมที่ฟิตเต็มถัง และจบเกมที่แบ่งแต้มกับจังโก้อันตรายไปโดยที่ยังไม่มีรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ แม้เซนเตอร์แบ็ค คามิล กลิก ศีรษะจะถูกกระแทกอยู่ 2 ครั้งในเกม งานนี้มิชนีวิกซ์มีผู้เล่นให้เลือกใช้ครบ 26 คน

ยาสเซอร์ อัล-ชาฮรานี่ ที่มีการกระแทกบริเวณศีรษะ ถือเป็นข่าวร้ายที่เกิดขึ้นในเกมประวัติศาสตร์ และการประกาศให้วันรุ่งขึ้นหลังทีมฟุตบอลซาอุดิอาระเบียเอาชนะอาร์เจนติน่าได้ ก็มีการยกย่องเขาด้วยส่วนหนึ่ง โดย อัล-ชาฮรานี่ ที่ปะทะกับผู้รักษาประตู โมฮัมเม็ด อัล-โอวาอิส อย่างแรงในครึ่งหลัง ก่อนถูกหามลงเปลโดยเจ้าตัวยกนิ้วหัวแม่มือทั้งสองนิ้วให้กับกล้อง มีรายงานว่า ขากรรไกรและกระดูกบริเวณด้านซ้ายของใบหน้าร้าว และไม่น่าจะลงเล่นเกมนี้ได้ ซัลแมน อัล-ฟาราจ ที่เดินออกจากสนามช้า ๆ มีอาการบาดเจ็บโคนขาหลัง ที่อาจจะต้องตรวจร่างกายอีกครั้งก่อนเกม

ซัลมาน อัล-ฟาราจ อินทรีทะเลทราย ซาอุดิ อาระเบีย ฟุตบอลโลก 2022

ซัลมาน อัล-ฟาราจ กัปตันทั้งทีมชาติและสโมสร ที่ลงเล่นด้วยคุณภาพระดับสูงอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี จนเป็นผู้เล่นหลักทั้งในทีมอัล-ฮิลาล และอินทรีทะเลทราย (ภาพ: www.arabnews.com)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของโปแลนด์และซาอุดิอาระเบีย

โปแลนด์ ระบบ 3-5-2: เซสนี; บีเรสซิยนสกี้, กลิก, คิวิออร์; แค็ช, เอส ซีแมนสกี้, ครีโชเวียก, ซีลินสกี้, ซาลีวสกี้; มิลิก, เลวานดอฟสกี้
ซาอุดิอาระเบีย ระบบ 4-2-3-1: อัล-โอวาอิส; อับดุลฮามิด, แทมบักติ, อัล-บูลาย์ไฮ, อัล-บูเรย์ก; อัล-อาเบ็ด, อัล-มัลกี้; อัล-บูไรคาน, คานโน, ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี่; อัล-เชฮรี

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ฟุตบอลโลก 2022

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าความหวังของโปแลนด์ ที่คงไปไม่ได้ไกลนักในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ภาพ: ภาพ: Rafal Oleksiewicz/PressFocus/MB Media/Getty Images)

สถานการณ์ของเกมระหว่างโปแลนด์และซาอุดิอาระเบีย

บรรดาบ่อนพนันถูกกฎหมายส่วนใหญ่ ลดช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมนี้ให้แคบลง ผิดไปจากก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 จะเปิดสนาม และถึงจะสร้างเหตุการณ์ช็อคโลก แต่ซาอุดิอาระเบียก็ยังคงถูกมองเป็นม้านอกสายตา และโปแลนด์ยังคงถูกมองว่าเหนือกว่าอยู่ดี ทั้งที่เอาเข้าจริง หากดูรูปเกมของโปแลนด์ที่เสมอแบบไม่มีประตูกับเม็กซิโก เห็นได้ชัดว่า เรื่องแท็กติกของทีม โปแลนด์ไม่ได้เหนือกว่าทีมจากเอเชียทีมนี้เลย

อย่างแย่ที่สุดของซาอุดิอาระเบียก็คือ เก็บได้แค่แต้มเดียวจากนัดนี้ และหากชนะก็น่าจะเป็นไปแบบฉิวเฉียด

เรื่องน่าอ่าน
1. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

2. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
3. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022
5. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส จะล้างแค้นเดนมาร์ก ในเกมนัดที่สองของทั้งสองทีมในฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส จะล้างแค้นเดนมาร์ก ในเกมนัดที่สองของทั้งสองทีมในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม ดี ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก

วันที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: T Sport 7/ PPTV 36/ True Sports 2

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

(ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

สถานการณ์ของฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

โอกาสที่จะล้างอาถรรพ์แชมป์เก่าตกรอบแรกของฝรั่งเศส ที่ตัวเองก็เคยโดนของมาในปี 2002 มาถึงแล้ว หากพวกเขาจบเกมนี้ด้วยการเก็บชัยชนะได้สำเร็จ หลังน็อคจิงโจ้อันตราย ออสเตรเลียไป 4-1 ที่ทำให้ภารกิจป้องกันแชมป์ของพวกเขา เข้าใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ทีมแดนโคนม ของโค้ช แคสเปอร์ ยูลมันด์ ที่ประเดิมด้วยการเสมอกับตูนิเซีย น่าจะพอใจหากพวกเขาเก็บ 1 แต้มจากเกมนี้ได้สำเร็จ เมื่อเกมนัดสุดท้ายเดนมาร์กจะได้พบกับออสเตรเลีย

ทีมตราไก่ของโค้ชดิดิเยร์ เดส์ชองส์ มากาตาร์ด้วยฟอร์มที่ไม่ดีนัก ในเกมยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก และเปิดเกมด้วยการถูกออสเตรเลียยิงนำ ก่อนที่จะรัวเอาคืน 4 ประตูรวด โดยโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ทำสถิติทาบเธียรี่ อองรีในฐานะผู้ทำประตูมากที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศส 52 ประตู

ถ้าฝรั่งเศสจบนัดนี้ด้วยชัยชนะเหนือเดนมาร์ก จะทำให้เข้ารอบ 16 ทีมแน่นอน และกับเดนมาร์กหากพ่ายแพ้ และตูนิเซียชนะออสเตรเลียความหวังของพวกเขาก็เหลือเพียงน้อยนิด เมื่อโอกาสเข้ารอบจะไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขาเพียงลำพัง หากอย่างน้อยก็มีเรื่องดีอยู่บ้างกับการที่ต้องแย่งแต้มจากแชมป์เก่า เพราะกับการเจอกัน 2 ครั้งหลังสุด ในศึกยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก ทีมโคนมเก็บชัยได้ทั้ง 2 นัด 2-0 ก่อนหน้าฟุตบอลโลก และ 2-1 ในเดือนมิถุนายน และในฟุตบอลโลก 2002 เดนมาร์กก็เอาชนะฝรั่งเศสที่มาป้องกันแชมป์ได้ในรอบแบ่งกลุ่ม 2-0

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

สถานการณ์ผู้เล่นของฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

ฝรั่งเศสเสีย ลูกัส เอร์น็องเดซไป เมื่อได้รับบาดเจ็บที่เข่า ในจังหวะที่เสียประตูให้ออสเตรเลีย ที่ผลการสแกนในเวลาต่อมาพบว่า เอ็นไขว้หน้าของเขาฉีก และทำให้ต้องกลับบ้านก่อนเพื่อน ๆ โดนเธโอ เอร์น็องเดซจะได้ลงเล่นแทน และเมื่อรวมกับการที่เสียคาริม เบนเซม่า และไม่มีการเรียกผู้เล่นมาแทน ฝรั่งเศสมีนักเตะสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 แค่ 24 ราย และยังไม่มีรายงานว่า มีใครบาดเจ็บเพิ่ม ส่วนผู้เล่นที่บาดเจ็บ อย่าง ราฟาเอล วาราน ก็น่าจะพร้อมลงเล่นได้ แต่กับการที่อูปาเมกาโน่กับโกนาเต้จับคู่กันได้ดีแบบนี้ วารานน่าจะรอโอกาสอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน

โธมัส เดลานีย์ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามก่อนหมดครึ่งแรก เพราะเจ็บเข่า ยังต้องรอเช็คอีกทีว่าอาการหนักหนาแค่ไหน โดยมีกระแสข่าวออกมาว่า เขาถูกส่งกลับไปรักษาตัวเรียบร้อยแล้ว ที่น่าจับตาเป็นพิเศษสำหรับฝรั่งเศส ก็คือการปรับเปลี่ยนผู้เล่น ยูลมันด์อาจจะจับอีริกเซ่นเล่นต่ำกว่าเดิมร่วมกับปีแอร์-อีมิล โฮจ์เบิร์ก เพื่อจัดการกับการขาดเดลานีย์ แล้วก็ดันดัมส์การ์ดกับเจสเปอร์ ลินด์สตอร์มคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองคนไปเล่นเกมรุก ส่วนแอนเดรียส คอร์เนเลียส ที่พลาดลูกง่าย ๆ ในเกมกับตูนิเซีย อาจจะต้องตกเป็นตัวสำรอง

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

ฝรั่งเศส ระบบ 4-2-3-1: โญริส; ปาวาร์ด, อูปาเมกาโน่, โกนาเต้, เธโอ เอร์น็องเดซ; ชูเอาเมนี่, ราบิโอต์; เดมเบเล่, กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้; ชิรูด์
เดนมาร์ก ระบบ 4-2-3-1: ชไมเคิ่ล; ราสมุส คริสเตนเซ่น, แอนเดรียส คริสเตนเซ่น, แอนเดอร์เซ่น, เมห์เลอ; โฮจ์เบิร์ก, เจนเซ่น; สคอฟ โอลเซ่น, อีริกเซ่น, ดัมสการ์ด; โดลเบิร์ก
,

คริสเตียน อีริกเซ่น นักเตะโคนม ฟุตบอลโลก 2022

หากทีมนักเตะโคนมต้องการไปให้ไกลกว่าที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่ คริสเตียน อีริกเซ่น (ภาพ: www.espn.com)

สถานการณ์ของเกมระหว่างฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

เป็นการเจอกันของสองทีมที่พบกันบ่อยในช่วงหลัง ๆ และเป็นเดนมาร์กที่ได้รับผลการแข่งขันที่ต้องการมากกว่า แต่เกมกับตูนิเซีย แสดงให้เห็นถึงปัญหาสำคัญของพวกเขา นั่นคือขาดดาวยิงตัวปิดเกม ซึ่งแตกต่างไปจากฝรั่งเศส ที่แดนหน้าเล่นกันได้อย่างเข้าขา และการเดินเกมก็ดูลื่นไหล แม้จะถูกปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ โดยแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่ลงเล่นในเกมยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่คว่ำฝรั่งเศสได้ทั้งที่ปารีส และโคเปนเฮเก้น ให้สัมภาษณ์ถึงการเจอกันในฟุตบอลโลกเอาไว้ว่า “เมื่อเราเล่นกับฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก มันจะเป็นเกมที่แตกต่างออกไป”

ใช่… นี่คือฟุตบอลโลก และฝรั่งเศสคือแชมป์เก่า และเป็นตัวเต็มแชมป์กลุ่ม และเกมนี้น่าจะจบลงด้วยชัยชนะของทีมตราไก่ ในแบบที่เดนมาร์กน่าจะทำประตูได้ 3-1 หรือ 2-1

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ดาวเตะตูนิเซีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022

2. นักเตะโคนมคนสำคัญ ที่จะสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ ในฟุตบอลโลก 2022
3. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
4. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022
5. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

ตูนิเซีย กับออสเตรเลีย ใครจะเก็บ 3 แต้มแรกเมื่อเจอกันในเกมของกลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022

ตูนิเซีย กับออสเตรเลีย ใครจะเก็บ 3 แต้มแรกเมื่อเจอกันในเกมของกลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 3 ของกลุ่ม ดี ตูนิเซีย ออสเตรเลีย

วันที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 17:00 . (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: Amarin TV/ True4U/ True Sports 2

ตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

ตูนีเซีย ทีมที่ได้เสียงเชียร์จากชุมชนชาวตูนีเวียในโดฮา (ภาพ: Twitter @tunisiefootball)

สถานการณ์ของตูนิเซียและออสเตรเลีย

ศึกระหว่างตัวแทนจากโซนเอเชียและโซนแอฟริกา ที่ผ่านเกมนัดแรกของตัวเองมาแบบยังเก็บแต้มไม่ได้ โดยออสเตรเลียเปิดเกมได้สวย ๆ เมื่อยิงนำแชมป์เก่าฝรั่งเศสไปก่อน แต่โดนเอาคืนรวดเดียว 4 ประตูพ่ายยับยิ่งกว่าเกมที่เจอกันในปี 2018 ที่พ่ายไปแค่ 2-1 ขณะที่ตูนิเซียเสมอกับเดนมาร์กในแบบโนสกอร์ และการที่พวกเขาจะปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเจอกับฝรั่งเศส ทำให้โอกาสที่ตูนิเซียจะไปสู่รอบน็อคเอาต์ขึ้นอยู่กับการเจอกับทีมแดนจิงโจ้ ส่วนฝ่ายหลังแม้จะแพ้ยับในนัดแรก แต่ถ้าเก็บแต้มในวันนี้สำเร็จโอกาสเข้ารอบก็ยังมี

นับตั้งแต่เอาชนะมาลี คว้าตั๋วฟุตบอลโลกสำเร็จ ตูนิเซียยังไม่แพ้ใคร และการที่แบ่งแต้มกับเดนมาร์กได้ในแบบที่สู้กันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ น่าจะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้กับผู้เล่นของตูนิเซีย ในการเผชิญหน้ากับออสเตรเลีย ที่เคยเจอกันมาแล้ว 3 หน โดยเป็นเกมในการแข่งขันแค่ครั้ง ในศึกคอนเฟเดอเรชันส์ คัพ เมื่อมิถุนายน 2005 ซึ่งตูนิเซียเอาชนะไปได้ 2-0 ซึ่งระยะเวลาห่างไกลเกินไป ในแง่ของการนำมาประเมินเกมในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

สถานการณ์ผู้เล่นของตูนิเซียและออสเตรเลีย

นอกจาก วาห์บี้ คาซรี่ เจ้าของสถิติยิงประตูให้ทีมชาติมาเป็นอันดับ 2 ที่ติดทีมมาด้วย และไม่ได้ลงเล่นในเกมแรก มีความเป็นไปได้ที่จะลงเล่นในเกมนี้ เช่นเดียวกับ นาอิม สลิตติ ผู้รักษาประตูสำรอง บีเชียร์ เบน ซาอิด หายดีจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ ที่เล่นงานเขาในช่วงก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มแล้ว แต่ก็ไม่น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ส่วนผู้เล่นที่เหลืออยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นโอกาสที่ตูนิเซียจะสตาร์ตเกมนี้ ด้วย 11 ผู้เล่นชุดเดียวกับนัดแรกก็มีสูง ซึ่งทำให้ฮันนิบาล เมจ์บรี้ ดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกเบอร์มิงแฮมยืมตัวไป จะต้องรอเวลาอยู่ที่ข้างสนามเช่นเดียวกับนัดแรก

ออสเตรเลียจัดการกับบรรดาผู้เล่นบาดเจ็บไปตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม ด้วยการถอดมาร์ติน บอยล์ แนวรุกคนสำคัญในวันเปิดสนามของฟุตบอลโลก 2022 และดึงมามาร์โค ทิลิโอ มาแทนปีกจากทีมฮิเบอร์เนี่ยน แต่ทิลิโอก็ยังไม่ได้สัมผัสกับเกมเลย แกรห์ม อาร์โนลด์ โค้ชของทีมเผยว่า อาจจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในบางตำแหน่ง เพื่อที่ให้ทีมมีความสด แต่ความเป็นไปได้ที่ทีมแดนจิงโจ้จะใช้ผู้เล่น 11 คนแรกเหมือนนัดที่เจอฝรั่งเศส ก็มีมากกว่า

วาห์บี คาซรี ตูนิเซีย ฟุตบอลโลก 2022

วาห์บี คาซรี ตัวรุกคนสำคัญของตูนิเซีย ด้วยการมีลูกยิงไกลเป็นอาวุธ บวกกับการเล่นลูกนิ่ง การเก็บบอล และเลี้ยงบอล ที่ยอดเยี่ยม (ภาพ: www.asse.fr))

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของตูนิเซียและออสเตรเลีย

ตูนิเซีย ระบบ 3-4-2-1: ดาห์เมน; บรอนน์, เมริอาห์, ทัลบี้; เดรเกอร์, สคีรี่, ไลดูนี่, แอบดี; ซลิมาเน่, เอ็มซากนี่; เจบาลี่

ออสเตรเลีย ระบบ 4-2-3-1: ไรอัน; แอ็ตคินสัน, เซาตาร์, โรว์เลส, บีฮิค; มอย, เออร์ไวน์; เล็คกี, ฮรูสติก, กู๊ดวิน; ดุ๊ก

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ ฟุตบอลโลก 2022

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ที่ยึดตำแหน่งกองกลางตัวหลักของทีมมานานเป็นทศวรรษ (ภาพ: Joe Allison/Getty Images)

สถานการณ์ของเกมระหว่างตูนิเซียและออสเตรเลีย

เป็นเกมที่ยากจะคาดเดาผลการแข่งขัน เพราะสามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า เมื่อดูจากหน้ากระดาษ ทั้งสองทีมมีศักยภาพที่จะเป็นผู้ชนะพอ ๆ กัน และโอกาสที่จะเสมอกันก็มีไม่น้อย แต่การที่ตูนิเซียมีแฟน ๆ ให้การสนับสนุนมหาศาล อย่างที่เห็นในนัดเสมอเดนมาร์ก ที่มีถึงกว่า 30,000 คนในสนาม กลายเป็นพลังแฝงชั้นดี และกับเกมที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการแต้มเต็ม พลังแบบนี้ถือว่ามีผลมาก ๆ และน่าจะทำให้ตูนิเซีย ชนะไปได้อย่างหวุดหวิด ในเกมที่ประตูรวมน่าจะไม่มากนัก

ตูนิเซียชนะ 1-0 หรือ 2-1

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ดาวเตะตูนิเซีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022

2. นักเตะโคนมคนสำคัญ ที่จะสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ ในฟุตบอลโลก 2022
3. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
4. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022
5. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสอง : อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : NBT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

เม็กซิโก
อันดับ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ เอสโตเนีย 5-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2

เม็กซิโก
อุ่นเครื่อง ชนะ เปรู 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 2-3
อุ่นเครื่อง ชนะ อิรัก 4-0
อุ่นเครื่อง แพ้ สวีเดน 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โปแลนด์ 0-0

 

ผลการพบกัน : 35 นัด
อาร์เจนติน่า ชนะ 16
เสมอ 14
เม็กซิโก ชนะ 5

 

สภาพทีม
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำมันตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

เมื่อเริ่มด้วยความพ่ายแพ้ ทำให้ อาร์เจนฯ หลังพิงฝาหน้าติดเชือกแล้ว ไม่สามารถแพ้ได้อีก หากพลาดท่าซ้ำสองขึ้นมา ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อย ไม่นับพวกที่ถอนไปก่อนบอลโลกมา โดยต้องเช็กสภาพของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เซนเตอร์แบ็กจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกมแรกไม่พร้อมจนต้องใช้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยืนกับ คริสเตียน โรเมโร่

 

ระบบจะยังคงเดิม 4-4-2 หรือ 4-2-2-2 เกมรุก อเลฮานโดร โกเมซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย ทำเกมสนับสนุนคู่หน้า ลิโอเนล เมสซี่ – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

เม็กซิโก
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาด้วยการเป็นรองแชมป์โซนคอนคาเคฟ และเริ่มต้นด้วยผลเสมอ โปแลนด์ 0-0 กิเยร์โม่ โอชัว ช่วยทีมไว้ด้วยการเซฟจุดโทษของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ โค้ชอาร์เจนไตน์ของทัพจังโก้ สภาพทีมดีขึ้นเมื่อ ราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าตัวความหวังจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฟิตพร้อมคืนตัวจริงแล้ว โดยจะนำเกมรุกในระบบ 4-3-3 เคียงข้าง เออร์วิ่ง โลซาโน่ กับ อเล็กซิส เวก้า

 

กระนั้นทีมชุดนี้ไม่มีตัวดังอย่าง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นันเดซ หรือ เฮซุส มานูเอล โคโรน่า ติดมาด้วย โดยรายหลังฟื้นฟิตไม่ทันเล่นบอลโลก

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 11 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 5 เกมหลัง ขออย่างเดียวคือแค่ว่าขุนพลรอบๆ ข้างอย่าช็อตไปดื้อๆ เหมือนเกมกับ ซาอุฯ ก็พอ ที่เหลือ เมสซี่ จัดให้เอง

 

เม็กซิโก : เออร์วิ่ง โลซาโน่
หนึ่งในคนที่ทัพจังโก้อันตรายต้องพึ่งพาในเกมรุก คือ เออร์วิ่ง “ชัคกี้” โลซาโน่ ตัวรุกสารพัดประโยชน์วัย 27 จากนาโปลี ซึ่งที่จริงถูกจับตามองตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนที่แล้วที่รัสเซีย โชคร้ายที่ไปไม่ได้ไกลนักเมื่อต้องเจอ บราซิล ในรอบ 8 ทีม โดย โลซาโน่ เล่นทีมชาติไปแล้ว 61 นัด ซัด 16 ประตู แต่ที่แรงกว่าคือฟอร์มกับต้นสังกัด นาโปลี ที่ยิง 4 ลูกจาก 19 เกมในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-4-2, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส ตายาฟิโก้ – อเลฮานโดร โกเมซ, โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อังเคล ดิ มาเรีย – ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก (4-3-3, กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่) กิเยร์โม่ โอชัว – เฮซุส กายาร์โด้, เซซ่าร์ มอนเตส, เอ็กตอร์ โมเรโน่, ฮอร์เก้ ซานเชซ – เอ็กตอร์ เอร์เรร่า, เอ๊ดสัน อัลวาเรซ, อันเดรส กวาร์ดาโด้ – อเล็กซิส เวก้า, ราอูล ฮิมิเนซ, เออร์วิ่ง โลซาโน่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันมากถึง 35 ครั้ง เริ่มครั้งแรกตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1930 มาเลยทีเดียว
• 18 ครั้งหลังที่พบกัน (ตั้งแต่ 1991) อาร์เจนติน่า แพ้ เม็กซิโก ครั้งเดียวเท่านั้น (0-1 โคปา อเมริกา 2004) นอกนั้น อาร์เจนฯ ชนะ 12 เสมอ 5
• อาร์เจนฯ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 36 เกม ไม่อาจเทียบเท่าสถิติโลก 37 นัดของ อิตาลี 2018-2021 ได้
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 12 ประตูในปีนี้
• อันเดรส กวาร์ดราโด้ กัปตันทีมวัย 36 ของเม็กซิโก ลงเล่นทีมชาติมาแล้วถึง 178 นัด และฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นสมัยที่ 5 เช่นเดียวกับ กิเยร์โม่ โอชัว (132 เกม)

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะพลาดท่ามาในเกมแรก แต่การเจอกับทีมของหวานที่คุ้นเคยอย่าง เม็กซิโก ไม่เคยใช่ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า อาร์เจนติน่า ต้องใส่สุดตัว เน้นทุกเม็ด เมื่อไม่อาจพลาดพลั้งซ้ำสองได้อีกแล้ว เชื่อว่า เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาวจะเจาะ กิเยร์โม่ โอชัว เข้า และไม่ใช่แค่ลูกเดียวด้วย

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่ายทอดสด : ทีสปอร์ต 7

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ฝรั่งเศส
แชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 3

เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ โซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ฝรั่งเศส
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ออสเตรีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เดนมาร์ก 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ออสเตรเลีย 4-1

เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ ตูนิเซีย 0-0

 

ผลการพบกัน : 16 นัด
ฝรั่งเศส ชนะ 8
เสมอ 2
เดนมาร์ก ชนะ 6

 

สภาพทีม
ฝรั่งเศส
เริ่มต้นเส้นทางป้องกันแชมป์โลกได้อย่างสวยงาม แม้โดน ออสเตรเลีย ยิงนำ แต่ก็เร่งเครื่องรัวแซงจนชนะขาด 4-1 ด้วยประตูจาก อาเดรียง ราบิโอต์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ 2 ประตูของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

อย่างไรก็ตาม ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ยังคงโดนปัญหาลูกทีมบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ถัดจากที่เสีย โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ล่าสุดก็เป็น ลูคัส เอร์นันเดซ แบ็กซ้ายเบอร์แรกที่เจ็บจากเกมกับ ออสเตรเลีย และต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ไปทันที

 

ประเด็นก็คือ เมื่อเริ่มเล่นเกมแรกไปแล้ว เดส์ชองส์ ก็ไม่อาจเรียกใครมาเสริมเพิ่มเติมได้อีก ดังนั้น ฝรั่งเศส จะต้องไปต่อจนจบรายการด้วยขุมกำลังนักเตะ 24 คนเท่านั้น

 

นอกจากนั้น สภาพร่างกายของ ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเรื่องต้องจับตา หลังจากเกมแรกต้องเปลี่ยนไปใช้คู่ขาใหม่ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ลงตัวจริง

 

สำหรับแนวรุกค่อนข้างลงตัวแล้ว ในระบบ 4-2-3-1 คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ สอดประสานหลังหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

เดนมาร์ก
ทั้งที่มาด้วยผลงานชั้นยอดในรอบคัดเลือก รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปีก็ทำได้ดี แต่การเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลเสมอตัวแทนแอฟริกาอย่าง ตูนิเซีย 0-0 ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องน่าพอใจ

 

แง่ดีเพียงอย่างเดียวคือการทำคลีนชีตได้อีกครั้ง ไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 3 จาก 4 แมตช์หลังสุด

 

ทว่า แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็ต้องเสียคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์จากเซบีย่า ถอนตัวไปเรียบร้อยแล้ว หลังเจ็บขาจากเกมพบ ตูนิเซีย และต้องพักแข้งนานนับเดือน

 

ระบบคงเดิมที่ 3-5-2 โดยคาดว่าจะส่ง มาเธียส เยนเซ่น ลงมาแทน เดอลานีย์ เพื่อให้ คริสเตียน เอริคเซ่น เน้นเกมรุกจากตรงกลาง ขณะที่แดนหน้าก็มีสิทธิ์เปลี่ยน มาร์ติน เบรธเวท อาจได้จับคู่กับ อันเดรียส คอร์เนเลียส ผู้ซึ่งยิง 2 ประตูใส่ ฝรั่งเศส ในรายการเนชั่นส์ ลีก

 

ตัวความหวัง
ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ต้องกลายเป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ในฟุตบอลโลก 2022 แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป แต่ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ดูพร้อมเต็มที่แล้วในการสวมบทบาทนี้ ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 60 เกม ยิง 29 ประตู และเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังยิงรัวๆ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตลอดหลายปี ซีซั่นนี้ก็มีแล้ว 19 ประตู

 

เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 117 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้ ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางล้วนๆ

 

11 ตัวจริงที่คาด
ฝรั่งเศส (4-2-3-1, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เบนชาแม็ง ปาวาร์ – อาเดรียง ราบิโอต์, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
เดนมาร์ก (3-5-2, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, มาเธียส เยนเซ่น, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, คริสเตียน เอริคเซ่น, ราสมุน คริสเตนเซ่น – มาร์ติน เบรธเวท, อันเดรียส คอร์เนเลียส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เจอกันมามากถึง 16 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะมากก็จริงที่ 8 นัด (เดนมาร์ก 6) แต่สองนัดหลังที่พบกัน เดนมาร์ก ชนะไปกลับ 2-1 และ 2-0
• บรรดาตัวเลือกกองกลางของฝรั่งเศส มีเพียง อาเดรียง ราบิโอต์ ที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่เกิน 15 นัด (30 นัด 3 ประตู) นอกนั้นอีก 5 ชอยส์ล้วนแต่เล่นทีมชาติไม่เกิน 15 เกม แถม 4 คนในนั้นยังเล่นมาแค่ 5-6 นัดด้วย
• คาริม เบนเซม่า ไม่อยู่ แต่ที่เหลืออย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (29), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (51), อองตวน กรีซมันน์ (42) ถล่มประตูในนามทีมชาติได้รวมกันถึง 122 ลูก
• โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ฝรั่งเศส เทียบเท่ากับ เธียร์รี่ อองรี แล้ว จากนี้ยิงได้อีกไม่ว่ากี่ประตู ก็จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำแบบเดี่ยวๆ ทั้งสิ้น

 

ความน่าจะเป็น
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ เดนมาร์ก คือได้แค่ผลเสมอจาก ตูนิเซีย ในนัดแรก เนื่องจากแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างข่ม ฝรั่งเศส ตลอดช่วงหลัง แต่นั่นคงไม่สำคัญมากไปกว่าการเผชิญหน้ากันจริงในเกมตรงหน้า และ ฝรั่งเศส ก็แสดงให้เห็นถึงความหิวกระหายที่ดีเยี่ยมด้วยในเกมแรก มีเกมรุกที่จัดจ้านดีเหลือเกิน ซึ่ง เดนมาร์ก เมื่อต้องเจอคู่แข่งที่รุกร้อนแรงประเภทนี้เมื่อไหร่ ก็ไปไม่เป็นเมื่อนั้น

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส
22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสอง : โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โปแลนด์
ชนะเพลย์ออฟเหนือ สวีเดน
(ชนะบายเหนือ รัสเซีย, ชนะ สวีเดน 2-0)

ซาอุดีอาระเบีย
แชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 12 เสีย 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โปแลนด์
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เบลเยียม 0-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เม็กซิโก 0-0

ซาอุดีอาระเบีย
อุ่นเครื่อง เสมอ ฮอนดูรัส 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1
อุ่นเครื่อง แพ้ โครเอเชีย 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ขนะ อาร์เจนติน่า 2-1

 

ผลการพบกัน (4 นัด)
อุ่นเครื่อง 1994 โปแลนด์ ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 1994 โปแลนด์ ชนะ 2-0
อุ่นเครื่อง 1994 โปแลนด์ ชนะ 2-1
อุ่นเครื่อง 2006 โปแลนด์ ชนะ 2-1

 

สภาพทีม
โปแลนด์
เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเซอร์ไพรส์ในช่วงปลายปีที่แล้วกับการที่ เปาโล ซูซ่า โค้ชชาวโปรตุเกส ตัดสินใจสละเก้าอี้ไปรับตำแหน่งกับ พัลไมรัส ก่อนที่ เชสลาฟ มิชนีวิซ อดีตกุนซือลีเกีย วอร์ซอว์ และทีมชาติชุดยู-21 จะเข้ามาสานงานต่อ

 

สำหรับเกมแรกในฟุตบอลโลก 2022 หวิดจะเอาชนะ เม็กซิโก ได้ แต่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดันพลาดจุดโทษ จนลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0

 

เกมนี้ เชสลาฟ มิชนีวิซ ยังคงมีขุมกำลังสมบูรณ์พร้อมให้เลือก ซึ่งก็จะนำทีมโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นเคยในระบบ 4-1-4-1

 

ซาอุดีอาระเบีย
สร้างเซอร์ไพรส์พลิกล็อกช็อกโลก ด้วยการแซงชนะเต็งแชมป์ อาร์เจนติน่า 2-1 ในเกมนัดเปิดกลุ่ม ทำให้อยู่ในจุดที่ดีทีเดียวสำหรับการเข้ารอบ แม้ยังต้องดูผลกันนัดต่อนัดก็ตาม

 

แอร์กเว่ เรอนาร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของซาอุฯ มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มขึ้นบางจุด ใช้งาน ยาเซอร์ อัล ชาห์รานี่ ไม่ได้ หลังกรามหักมาจากเกมแรก ซึ่งก็มีโอกาสสูงที่จะปิดฉากทัวร์นาเมนต์ไปก่อนเพื่อนโดยปริยาย ขณะที่ ซัลมาน อัล ฟาราจ ก็เจ็บมาเช่นกัน แต่ยังพอมีสิทธิ์เรียกฟิตทัน

 

ระบบและรูปแบบการเล่นยังเน้นเพลย์เซฟ 4-4-1-1 วาง ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ไปขึ้นเกมรุกทางซ้าย ส่วนหน้าเป้าทิ้ง ซาเลห์ อัล เชห์รี ค้ำไว้รายเดียว

 

ตัวความหวัง
โปแลนด์ : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริง โปแลนด์ จะไปได้ไกลขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของเขาเป็นสำคัญ เลวานดอฟสกี้ ครองรางวัลนักเตะแห่งปีของชนชาติโปแลนด์มาแล้วถึง 10 สมัยจากระยะ 11 ปีหลัง และกดไปแล้ว 76 ประตูในนามทีมชาติ ยิ่งกว่านั้นคือการย้ายมาเล่นในลีกใหม่กับ บาร์เซโลน่า หัวหอกวัย 34 ก็ยังยิงสลุตเหมือนเคย กดแล้ว 18 ลูกจากการเล่นแค่ 19 นัด ส่วนนัดแรก ถ้าจุดโทษของเขาไม่โดน กิเยร์โม่ โอชัว ขวางไว้ โปแลนด็ก็คงเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยชัยชนะไปแล้ว

 

ซาอุดีอาระเบีย : ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี
ในจำนวน 26 สมาชิกชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของซาอุฯ ที่เป็นนักเตะในประเทศทั้งหมด ไม่มีออกค้าแข้งต่างแดนแม้แต่รายเดียวนั้น ตัวที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาคือ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวรุกเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 นักเตะจาก อัล-ฮิลาล ในทีมชุดนี้ โดยดาวเตะวัย 31 ค้าแข้งกับต้นสังกัดมาตั้งแต่เป็นเยาวชน ปัจจุบันลงเล่นไปแล้วกว่า 300 นัด และลงสนามให้ทีมชาติซาอุฯ 72 นัด ซัดไป 18 ประตู หนึ่งในนั้นเป็นประตูชัยสยบ อาร์เจนติน่า นั่นเอง

 

11 ตัวจริงที่คาด
โปแลนด์ (4-1-4-1, กุนซือ เชสลาฟ มิชนีวิซ) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิยอร์, แม็ตตี้ แคช – เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค – นิโกล่า ซาเลฟสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, ดาเมี่ยน ซีมานสกี้, ยาคุบ คามินสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ซาอุดีอาระเบีย (4-1-4-1, กุนซือ แอร์กเว่ เรอนาร์) โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส – โมฮัมเหม็ด อัล บูเรียค, ฮัสซัน ทัมบัคที, อาลี อัล-บูไลฮี, ซาอุด อับดุลฮามิด – อับดูเลลาห์ อัล มัลกี – ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี, โมฮัมเหม็ด คันโน, นาวาฟ อัล อาบิด, เฟราส อัล บริคาน – ซาเลห์ อัล เชห์รี

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 4 ครั้ง โปแลนด์ ชนะรวด
• เกมชนะ อาร์เจนติน่า นัดแรก ซาอุฯ ยิงตรงกรอบ 2 ครั้งได้ 2 ประตู
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงแค่ 2 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 7 นัดรอบปี 2022 แต่กดให้ บาร์เซโลน่า ไปถึง 18 ลูกจาก 19 เกม
• อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กับ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค ยิงให้ทีมชาติ 16 และ 11 ประตูตามลำดับ
• ซาเลห์ อัล-เชห์รี กองหน้าจาก อัล-ฮิลาล มีสถิติยิง 11 ลูกจากการเล่นทีมชาติแค่ 21 นัด

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะสยบ อาร์เจนติน่า อย่างสุดยอด แต่ก็ห้ามลืมว่าพวกเขามีโชคดวงส่งเสริมพอสมควร หากองศาของการดักล้ำหน้าเบี่ยงทิศไปสักนิด อาร์เจนฯ อาจฉีกหนี 2-3 เม็ดไปแล้วก็เป็นได้ และเมื่อต้องเจอตัวแทนยุโรปอย่าง โปแลนด์ ที่ไม่ได้เน้นเกมบุกเป็นพายุ แต่เล่นไปตามกระแสเกม แถมมีดาวยิงระดับโลกอย่าง เลวานดอฟสกี้ ที่แดนหน้า ก็น่าห่วงแทนทีมเศรษฐีน้ำมันว่าจะเครื่องสะดุดเข้าให้

 

ผลที่คาด : โปแลนด์ ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก