Match prediction

ตราไก่ ฝรั่งเศสแชมป์เก่า จะจิกจิงโจ้ ในนัดประเดิมสนามฟุตบอลโลก 2022

ตราไก่ ฝรั่งเศสแชมป์เก่า จะจิกจิงโจ้ ในนัดประเดิมสนามฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 ของกลุ่ม ดี ฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศส มาป้องกันแชมป์โลกโดยมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บรบกวนต่อเนื่อง (ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

เกมในกลุ่ม ดี วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด MONO29/ True Sports 2: แชมป์เก่า ฝรั่งเศสจะเริ่มเกมแรกในการป้องกันแชมป์ ด้วยการพบกับออสเตรเลีย ซึ่งดูตามหน้าเสื่อแล้ว ทีมตราไก่น่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก แม้ฟอร์มการเล่นในช่วงหลัง ๆ อาจจะแกว่ง ๆ ไปบ้าง และขาดผู้เล่นสำคัญ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา หรือว่าคาริม เบนเซม่า ที่เพิ่งถอนตัวก่อนวันเปิดสนามฟุตบอลโลก 2022 ไม่นาน ส่วนทีมแดนจิงโจ้เองกว่าจะมาถึงกาตาร์ ก็ต้องลงเตะเพลย์ออฟถึง 2 นัด ซึ่งไม่ได้เอาชนะมาแบบง่าย ๆ ทั้งสองนัด

เส้นทางก่อนการเจอกันของฝรั่งเศสและออสเตรเลีย

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ นักเตะคนสำคัญอีกรายของทีมแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่มีปัญหาบาดเจ็บ (ภาพ: www.teamtalk.com)

เกมห้านัดหลังสุดของทีมตราไก่ ชนะแค่นัดเดียวเหนือออสเตรีย แต่แพ้ไปถึง 2 นัดกับคู่ปรับขาประจำ เดนมาร์ก ที่ต้องเจอกันในฟุตบอลโลกหนนี้อีก 2-0 และคู่ชิงเมื่อปี 2018 โครเอเชีย 1-0 และเสมออีก 2 นัด ผิดจากออสเตรเลียที่ ชนะรวดเสมอแค่นัดเดียวกับทีมบ้านใกล้เรือนเคียง นิว ซีแลนด์

แล้วไม่ใช่แค่ชนะเพียงนัดเดียว ฟอร์มการเล่นของทีมตราไก่ ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ หลายรายเข้ามาทดแทนผู้เล่นหน้าเดิม ๆ ที่ฟอร์มตก หรือได้รับบาดเจ็บ ก็ยังไม่เนียนตานัก หากจะบอกว่า ฝรั่งเศสชุดนี้จะเป็นชุดเปลี่ยนถ่าย ก็คงไม่ผิด และหากเดส์ชองส์เขย่าส่วนผสมที่มีได้ลงตัว พวกเขาน่าจะกลับมาเป็นไก่อหังการ์ได้อีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นหากเทียบตัวผู้เล่น ประสบการณ์ของทีม และโค้ชด้วยแล้ว ฝรั่งเศสก็เหนือกว่าออสเตรเลีย ที่ยังไม่เคยผ่านไปเล่นในรอบที่ 2 เลยอยู่ดี

ที่น่าสนใจก็คือ ในฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศสก็เปิดหัวด้วยการเจอกับออสเตรเลียเหมือนครั้งนี้ และเอาชนะไปได้ 2-1 ในเกมที่มีการใช้วีเออาร์เป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลก ซึ่งทำให้ทีมตราไก่ได้จุดโทษ และเดินทางไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกในท้ายที่สุด ส่วนออสเตรเลียตกรอบแรก โดยไม่ชนะใครเลย ที่สำคัญนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2010 ออสเตรเลียยังไม่เคยชนะใครในรอบสุดท้ายเลย

ส่วนการเจอกันของทั้งสองทีม เจอกันมา 5 ครั้ง ทีมตราไก่ชนะถึง 3 และเสมอ 1 แพ้ 1

ความพร้อมของนักเตะฝรั่งเศสและออสเตรเลีย

เมื่อปราศจากคาริม เบนเซมา ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ คงต้องพึ่งพาสองผู้เล่นในแนวรุกในการทำประตู คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่เป็นขาประจำในทีมชาตินับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกที่รัสเซีย กับโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่กำลังไล่ตามสถิติยิงประตูสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศส ที่ทำไว้โดยเธียร์รี่ อองรี เพียงแค่ 3 ประตู ที่สำคัญดาวเตะตัวเก๋ารายนี้ ขึ้นชื่อลือชามาก ๆ ในการยิงประตูสำคัญ ๆ ช่วงท้ายเกม ขณะที่แนวรับราฟาเอล วารานน่าจะฟิตลงเล่นได้ หลังเจ็บยาวหลังลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งแต่เดือนตุลาคม ส่วนการขาดตัวหลักในแดนกลาง อย่าง ป็อกบา และก็องเต้ ทำให้แผงกลางของทีมตราไก่ อาจต้องพึ่งพานักเตะเลือดใหม่ อย่าง ชูอาเมนี่ หรือกามาวิงก้า เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้

มาร์ติน บอยล์ นักเตะแดนจิงโจ้ ฟุตบอลโลก 2022

มาร์ติน บอยล์ นักเตะแดนจิงโจ้ที่ถูกมองข้ามจากสก็อตแลนด์ (ภาพ:)

แกรแฮม อาร์โนลด์ โค้ชของทีมจิงโจ้ ต้องเจอปัญหาในแนวรุก เมื่ออาจจะไม่ได้ใช้บริการปีกคนสำคัญจากฮิเบอร์เนี่ยน – มาร์ติน บอยล์ ที่มีปัญหาเจ็บเข่า จนลงซ้อมไม่ได้ และน่าจะทำให้แม็ทธิว เล็คคีได้ลงเล่นแทน นอกจากนี้แฮร์รี เซาต์ตาร์​ก็มีปัญหาในเรื่องความฟิต หากทดสอบความฟิตไม่ผ่าน น่าจะเป็นไบลีย์ ไรต์ ที่ได้ลงเผชิญหน้ากับแนวรุกฝรั่งเศสแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของฝรั่งเศสและออสเตรเลีย

ฝรั่งเศส ระบบ 4-3-1-2: โญริส; ปาวาร์ด, วาราน, โกนาเต้, ลูคัส เออร์นานเดซ; ชูอาเมนี่, เดมเบเล่, ราบิโอต์; กรีซมันน์; ชิรูด์, เอ็มบัปเป้
ออสเตรเลีย ระบบ 4-5-1: ไรอัน; แอตคินสัน, ไรต์, โรว์เลส, บีฮิช; บอยล์, มอย, ฮรูสติก, เออร์ไวน์, เล็คคี; ดุ๊ก

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่างฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย

ถึงจะเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ แต่ท้ายที่สุดฝรั่งเศสน่าจะชนะผ่านออสเตรเลียได้ แต่ไม่ใช่งานง่ายอย่างแน่นอน เพราะกับการเจอกันในฟุตบอลโลกหนก่อน ที่ผู้เล่นลงตัวกว่านี้ ยังต้องอาศัยลูกจุดโทษ และการทำประตูตัวเองของนักเตะจิงโจ้ และฝ่ายตรงข้ามก็ต้องวางกองหลังรับลึก เซนเตอร์แบ็คของทีมต้องทำหน้าที่ปัดกวาดอย่างแข็งขันแน่นอน ส่วนกองหน้าอาจจะพอมีหวังอยู่บ้าง เพราะคู่เซนเตอร์ของแชมป์โลก ไม่น่าจะเป็นขาประจำที่เล่นด้วยกันมานาน แต่ก็หวังพึ่งได้ไม่มาก เมื่อทีมจิงโจ้ขาดทีเด็ดทีขาดในแดนหน้าอยู่แล้ว

ท้ายที่สุด แชมป์เก่าน่าจะจัดการออสเตรเลียได้ด้วยสกอร์เดียวกับ 4 ปีก่อน 2-1

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ดาวเตะตูนิเซีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022

2. นักเตะโคนมคนสำคัญ ที่จะสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ ในฟุตบอลโลก 2022
3. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
4. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022
5. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

เม็กซิโก จะเบียดชนะโปแลนด์ไปแบบสุดสูสี ในฟุตบอลโลก 2022

เม็กซิโก จะเบียดชนะโปแลนด์ไปแบบสุดสูสี ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 ของกลุ่ม ซี เม็กซิโก – โปแลนด์

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

เกมในกลุ่ม ซี วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น. (ตามเวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด 3HD/ True Sports 2: จังโก้ เม็กซิโกถือเป็นขาประจำในฟุตบอลโลก แต่ถึงจะบ่มเพาะประสบการณ์มากมายเท่าไหร่ เส้นทางของพวกเขาในฟุตบอลโลก 7 หนหลังสุดก็คือ แค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยที่เคยไปไกลกว่านั้นก็คือ ในปี 1986 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ ซึ่งไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และในปีนั้นก็เป็นปีสุดท้ายที่โปแลนด์ผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ ปีนี้ทั้งคู่ก็มาอยู่สายเดียวกัน ที่อันดับ 1 ของสายถูกอาร์เจนติน่าตีตราจองเอาไว้แล้ว ทั้งสองทีมต้องมาวัดกัน เพื่อโอกาสไปให้ไกลที่สุดกว่าที่เคยทำได้นับตั้งแต่ปี 1986

เส้นทางก่อนการเจอกันของเม็กซิโก – โปแลนด์

ฟุตบอลโลกหนที่แล้วที่รัสเซีย เม็กซิโกถือว่าทำได้ดีพอตัว เมื่อชนะแชมป์เก่าเยอรมันในนัดแรก 1-0 แล้วก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสำเร็จ แต่ก็ต้องจบลงแค่นี้ เพราะต้องเจอกับทีมแกร่งอย่างบราซิล ที่เอาชนะพวกเขาไป 2-0 เรื่องสถิติต่าง ๆ ผิดกับโปแลนด์ที่เป็นทีมยืนในกลุ่มลิบลับ เพราะทีมจากยุโรปทีมนี้ ตกรอบแรกพร้อมกับชัยชนะแค่นัดเดียว

เปียโตร ซีลินสกี้ โปแลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

เปียโตร ซีลินสกี้ ตัวขับเคลื่อนเกมของโปแลนด์ และสร้างโอกาสให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (ภาพ:)

ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังโปแลนด์ถือว่าดีกว่าเล็กน้อย เมื่อชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้แค่นัดเดียว ส่วนทีมแดนจังโก้แม้จะชนะ 2 เหมือนกัน แต่ที่เหลือเก็บชัยไม่ได้เลย ส่วนการเจอกันของทั้งสองทีมห้านัดหลัง ล้วนเป็นการเจอกันในเกมกระชับมิตร ซึ่งเม็กซิโกทำได้ดีกว่า เมื่อชนะไปถึง 3 เกม และเสมอแค่ 2 เกมเท่านั้น

ความพร้อมของนักเตะเม็กซิโกและโปแลนด์

ราอูล ฮิมิเนซ จังโก้อันตราย ฟุตบอลโลก 2022

ราอูล ฮิมิเนซ ดาวยิงตัวหลักของจังโก้อันตราย และกลายเป็นหนึ่งในดาวซัลโวระดับแถวหน้า จากทักษะในการยิงประตู (ภาพ:)

เม็กซิโกอาศัยผู้เล่นหน้าเก่า ๆ เป็นแกนหลัก อย่าง แอนเดรียส กัวร์ดาโด เจ้าของสถิติติดทีมชาติ 178 นัด แดนหน้าใช้ราอูล ฮิมิเนซเป็นตัวเลือกแรก แม้จะไม่ยิงประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์ให้ทีมเลยตั้งแต่ธันวาคม 2019 โดยการลงเล่น 9 เกมในรอบคัดเลือก ที่เป็น 11 ตัวจริงถึง 8 นัด ยิงได้ 3 ประตูล้วนเป็นลูกจุดโทษ ดาวยิงอีกคน อย่าง เฮนรี่ มาร์ติน ก็ยังไม่เคยสตาร์ตตัวจริงให้ทีม ถึงจะยิงไปแล้ว 2 ประตู ส่วนดาวซัลโวรอบคัดเลือกอันดับ 2 อเล็กซิส เวก้า ที่ทำได้ 2 ประตูก็เป็นกองกลางตัวรุก ผู้รักษาประตูยังใช้บริการ กีแยร์โม โอโชอา ในวัยปลาย 30 ที่ฟอร์มในระดับสโมสรพักหลัง ๆ ก็ไม่สู้ดีนัก

โปแลนด์เองก็ใช่ว่าจะแตกต่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงระดับหัวแถวของโลกก็ปาเข้าไป 34 ปี และหวังจะเบิกประตูแรกในฟุตบอลโลกให้ได้ในปีนี้ ไม่งั้นก็อาจหมดโอกาส ปราการหลังคามิล กิลก์ ที่เล่นในระดับซีเรีย บี ก็วัย 34, เกรซกอร์ซ ครีโชเวียก วัย 32 โดยผู้เล่นสูงวัยของโปแลนด์จะอายุเยอะกว่าทีมจังโก้ หากก็มีการดันผู้เล่นหนุ่ม ๆ เข้ามา แต่ปัญหาคือจะทดแทนได้แค่ไหน เช่น จาคุบ คีเวียร์กับนิโคลา ซาลีวสกี้ จะทำได้ดีเท่าที่กิลก์เคยทำหรือเปล่า แต่อย่างน้อยทางด้านขวา แม็ตตี้ แคช จากแอสตัน วิลล่า ก็พร้อมเป็นตัวหลักในตำแหน่งวิงแบ็คขวา และน่าจะได้ลงเล่น แม้มีอาการบาดเจ็บไหล่เล็กน้อย แดนกลางและแนวรุก ดาวเตะรุ่นใหม่ ๆ อย่าง เพียโตร ซีลินสกี้ที่มีฤดูกาลที่ดีกับนาโปลี, อาร์คาดิอุสซ์ มิลิก, แครอล สวีเดอร์สกี้ และคริสตอฟ พีออนเท็ก เป็นส่วนหนึ่งของทีมได้อย่างลงตัว

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ฟุตบอลโลก 2022

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าความหวังของโปแลนด์ ที่คงไปไม่ได้ไกลนักในฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ภาพ:)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเม็กซิโกและโปแลนด์

เม็กซิโก ระบบ 4-3-3: โอโชอา; ซานเชส, วาสเกวซ, มอนเตส, อาร์เตก้า; คาร์ลอส ร็อดริเกวซ, เอ็ดสัน อัลวาเรซ, เอร์เรร่า; โลซาโน, ฮิมิเนซ, เวก้า
โปแลนด์ ระบบ 3-5-2: เซสนี่; เบ็ดนาเร็ก, กิลก์, คิเวียร์; แคช, เซบาสเตียน ซีแมนสกี้, บีลิก, ซีวินสกี้, ซาลีวสกี้; เลวานดอฟสกี้, สวีเดอร์สกี้

ผลการแข่งขันระหว่างเม็กซิโก – โปแลนด์

เกมน่าจะสู้กันสนุก สมเป็นเกมชิงที่ 2 ของกลุ่ม เม็กซิโกน่าจะได้ครองเกมเป็นส่วนใหญ่ เพราะนั่นไม่ใช่จุดเด่นของโปแลนด์ที่รูปเกมเน้นครอสส์บอลจากด้านข้างโดยเป้าหมายอยู่ที่เลวานดอฟสกี้ ที่แม้จะยิงในรอบคัดเลือกมานักต่อนัก สถิติในระดับสโมสรสวยหรู แต่ประตูแรกในฟุตบอลโลกก็ยังมาไม่ถึง ทีมจังโก้จะเล่นบอลภาคพื้นเป็นหลัก แต่หากจำเป็นพวกเขาอาจต้องใช้บริการซีซาร์ มอนเตส ผู้เล่นแนวรับ มาเล่นลูกกลางอากาศในแดนหน้า

ที่น่าสนใจก็คือ สถิติการเจอทีมยุโรปของเม็กซิโกจัดว่าสวยหรู ในฟุตบอลโลก 3 ครั้งหลัง พวกเขารับมือทีมยุโรป อย่าง ฝรั่งเศส, โครเอเชีย, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี และสวีเดน ด้วยการแพ้แค่อัศวินสีส้มและไวกิ้งสวีเดน ผิดจากโปแลนด์ที่ 5 นัดสุดท้ายของฟุตบอลโลกชนะแค่นัดเดียว แล้วสถิติการเจอกับทีมจากอเมริกาใต้หรืออเมริกากลาง 5 นัดหลังสุด พวกเขาชนะแค่หนึ่ง และหนนี้ก็น่าจะแพ้อีกครั้งด้วยสกอร์ฉิวเฉียด ผลต่างประตูไม่น่าเกิน 2 ลูก

เรื่องน่าอ่าน
1. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้
2. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
3. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022
5. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก vs โครเอเชีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก vs โครเอเชีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : โมร็อกโก vs โครเอเชีย
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม, อัล คอร์
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โมร็อกโก
ชนะ ดีอาร์ คองโก รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกเสมอ 1-1, นัดสองชนะ 4-1

โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โมร็อกโก
คัด AFCON ชนะ แอฟริกาใต้ 2-1
คัด AFCON ชนะ ไลบีเรีย 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปารากวัย 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์เจีย 3-0

โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0

 

ผลการพบกัน (1 นัด)
อุ่นเครื่อง 1996 โมร็อกโก 2-2 โครเอเชีย

 

สภาพทีม
โมร็อกโก
มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่ โมร็อกโก ก็อยู่ในทรงที่ดีทีเดียว ชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุด และแพ้เกมเดียวเท่านั้นจาก 8 แมตช์หลัง

 

กับนัดเปิดหัวฟุตบอลโลก 2022 เกมนี้ เรกรากี มีปัญหาตัวเจ็บอยู่ 2 ราย อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กองกลางจากซามพ์โดเรีย กับ อับเดสซาหมัด เอซซาลซูลี่ กองหน้าโอซาซูน่า ไม่พร้อมเล่น

 

แต่ขุนพลตัวหลักอย่าง ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, นูสแซร์ มาซราอุย หรือ อัชราฟ ฮาคิมี่ พร้อมรบตามปกติทั้งหมด

 

โครเอเชีย
กำลังอยู่ในร่างทอง ซูเปอร์ไซย่า เมื่อชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อน ทั้งใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และเกมอุ่นเครื่องล่าสุดเมื่อกลางเดือน ที่เบียด ซาอุฯ 1-0 จากประตูโทนของ อันเดรจ์ ครามาริช ท้ายเกม

 

ซลัตโก้ ดาลิช ไม่มีปัญหาตัวผู้เล่นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากที่นายทวาร ลอฟเร่ คาลินิช เจ็บอยู่ก่อนแล้วจนหลุดโผไปตั้งแต่ก่อนประกาศรายชื่อ รวมถึงตัวที่ถูกกาทิ้งอย่าง ดูเย่ กาเลต้า-คาร์ หรือ โยซิป เบรคาโล่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับทีม

 

คาดว่าระบบจะใช้ 4-3-3 แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าดัน อีวาน เปริซิช ไปเดินเกมรุกร่วมกับ มาร์โก ลิวาย่า และ นิโกล่า วลาซิช

 

ตัวความหวัง
โมร็อกโก : ฮาคิม ซีเย็ค & อัชราฟ ฮาคิมี่
ฮาคิม ซีเย็ค เลิกเล่นทีมชาติไปช่วงหนึ่งเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัวกับโค้ชเก่า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งพอมีการเปลี่ยนตัวกุนซือเป็น วาลิด เรกรากี แล้วก็กลับสู่สารบบทีมชาติดังเดิม โดยแม้เขาจะเจอปัญหาเข้าๆ ออกๆ จากทีมเชลซี จนซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 9 นัด แต่ก็คือตัวยืนของทีมชาติ มีผลงานยิง 18 ประตูจาก 43 เกม ด้าน ฮาคิมี่ พัฒนาตัวเองไปจนอยู่ในระดับแบ็กขวาตัวท็อปของวงการแล้ว พร้อมกับบางเสียงยกว่าเป็นเบอร์ 1 โลกยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 54 เกมทีมชาติ

 

โครเอเชีย : อีวาน เปริซิช
แม้การเป็นลูกทีมของ อันตนิโอ คอนต้ ที่สเปอร์ส เปริซิช จะถูกใช้งานเป็นวิงแบ็กฝั่งซ้าย แต่กับการารับใช้ชาติแล้ว เขาคือปีกซ้ายที่มีหน้าที่เล่นเกมรุกเต็มอัตรา หรือจะเรียกว่ากองหน้าไปเลยก็ได้ไม่ผิด เช่นเดียวกับเกมนี้ที่ถูกคาดหมายว่าจะถูกใช้เป็นกองหน้าฝั่งซ้ายอีกครั้งในระบบ 3 ตัวรุก ซึ่งสิ่งที่เราเห็นกันมาตลอดกับ สเปอร์ส รวมถึง อินเตอร์ มิลาน คือ เปริซิช แค่ต้องปรับความคมให้เพิ่มมากขึ้นอีกนิด สกอร์จะไหลมาเทมามากกว่าที่เป็น แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็นำดาวซัลโวของทีมชุดนี้อยู่แล้ว

 

11 ตัวจริงที่คาด
โมร็อกโก (4-2-3-1, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – นูสแซร์ มาซราอุย, นาเยฟ อาแกร์ด, โรแม็ง ไซส์, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต – ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, เซลิม อมัลลาห์ – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, โยซิป ซูตาโล่, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, มาร์โก ลิวาย่า, นิโกล่า วลาซิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เคยพบกันมาแค่ครั้งเดียวถ้วน ตั้งแต่ปี 1996 ยุค โรเบิร์ต โปรซิเนซกี้, โรเบิร์ต ยาร์นี่, ซโวนิเมียร์ ซอลโด้, มุสตาฟา ฮัดจิ ซึ่งลงเอยด้วยผลเสมอ 2-2 และมีเตะจุดโทษตัดสิน โครเอเชียชนะ 7-6
• โมร็อกโกชุดนี้มีเด็กอายุ 18 ด้วย อย่าง บิลาล เอล คานนุส กองกลางดาวรุ่งจาก เกงค์ ซึ่งไม่เคยเล่นชุดใหญ่มาก่อน แต่เคยเล่นให้ทั้ง เบลเยียม และ โมร็อกโก ในชุดเยาวชน
• โครเอเชีย มีถึง 3 คนที่เล่นทีมชาติทะลุร้อยนัด คือ ลูก้า โมดริช (155), อีวาน เปริซิช (116) และ โดมากอย วิด้า (100)
• ดาวซัลโวชุดนี้ของ โครเอเชีย เป็นวิงแบ็กอย่าง อีวาน เปริซิช ที่กดไป 32 ประตู

 

ความน่าจะเป็น
คู่คี่สูสีกันมาก ทั้ง โมร็อกโก และ โครเอเชีย ที่ต่างก็แข็งแกร่งหนั่นแน่นในทุกขุมกำลังตั้งแต่หลังมาหน้าสุด ทำให้เกมนี้เป็นอะไรที่คาดเดาลำบาก และแม้ โครเอเชีย จะมีดาวเด่นอย่าง ลูก้า โมดริช, มาเตโอ โควาซิช หรือ อีวาน เปริซิช ในทีม แต่ โมร็อกโก ชุดนี้ก็นำขบวนมาโดย ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบ็กขวาระดับโลกอย่าง อัชราฟ ฮาคิมี่ ทำให้จะสู้กันอย่างดุเดือด ผลสามารถออกได้ทั้งสามหน้า และอาจตัดสินกันด้วยประตูเดียว

ผลที่คาด : 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
โมร็อกโก
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 20.00 — เบลเยียม vs โมร็อกโก
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

โครเอเชีย
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — โครเอเชีย vs แคนาดา
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม

 

ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย
22 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น. (เช้าตรู่พุธ 23 พ.ย.)
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : MONO29

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ฝรั่งเศส
แชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 3

ออสเตรเลีย
ชนะ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ 2-1 รอบ 4 โซนเอเชีย (รอบเพลย์ออฟ)
ชนะจุดโทษ เปรู 5-4 (หลังเสมอ 0-0) รอบเพลย์ออฟต่างทวีป

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ฝรั่งเศส
เนชั่นส์ ลีก เสมอ โครเอเชีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ออสเตรีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เดนมาร์ก 0-2

ออสเตรเลีย
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์แดน 2-1
คัดบอลโลก ชนะ ยูเออี 2-1
คัดบอลโลก เสมอ เปรู 0-0 / ชนะจุดโทษ 5-4
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 2-0

 

ผลการพบกัน
5 นัด ฝรั่งเศสชนะ 3 เสมอ 1 ออสเตรเลีย ชนะ 1

 

สภาพทีม
ฝรั่งเศส
เหมือนจะโดน “อาถรรพ์แชมป์เก่า” กัดกินอย่างน่าแปลกใจ จน ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เสียนักเตะทั้งคนสำคัญและตัวสลับไปอย่างน้อย 7 รายในช่วงที่ผ่านมา ไล่จาก โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่สองรายหลังเจ็บหลังตัดตัว 26 คนสุดท้าย กระทั่งมาถึงรายล่าสุดอย่าง คาริม เบนเซม่า

 

การถอนตัวของ เบนเซม่า เจ้าของบัลลงดอร์ 2022 ทำให้เป็นบอลโลกหนแรกถัดจากปี 1978 ที่ไม่มีเจ้าของรางวัลดังกล่าว เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์

 

กระนั้น หลังจาก เบนเซม่า ถอนตัวไป เดส์ชองส์ ก็ไม่ได้เรียกใครเข้ามาเสริม หลังจากเพิ่มชื่อ มาร์คุส ตูราม (มึนเช่นกลัดบัค) กับ ร็องดาล โคโล มูอานี่ (แฟร้งค์เฟิร์ต) มาในโควตากองหน้าตัวเป้า ถัดจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (เปแอสเช) และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (เอซี มิลาน)

 

ปัญหาของ เดส์ชองส์ ยังมีอย่างเรื่องฟอร์มการเล่นช่วงหลัง ที่ชนะแค่เกมเดียวจาก 6 นัดของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ที่เหลือเสมอ 2 แพ้ 3

 

นอกจากนั้น สภาพร่างกายของ ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ แม้จะเชื่อว่ามีโอกาสลงได้มากกว่าก็ตาม

 

คาดว่าแชมป์เก่าจะมาในระบบ 4-2-3-1 วาง อาเดรียง ราบิโอต์ ยืนกลางคู่ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และให้ อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คิงสลี่ย์ โกม็อง เป็นตัวรุกสนับสนุนหอกเป้า คีลิยัน เอ็มบัปเป้

 

ออสเตรเลีย
ฝั่งทัพจิงโจ้ กว่าจะได้เข้ารอบสุดท้ายมา ต้องเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็นเตะเพลย์ออฟถึง 2 รอบ และกว่าจะโค่นคู่แข่งต่างทวีปอย่าง เปรู ได้ (หลังเสมอ 0-0) ก็ต้องลุ้นหนักถึงจะได้เฮจากการดวลจุดโทษ

 

สภาพทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ ไม่ได้มีปัญหาเท่าฝรั่งเศส โดยเสียแค่ มาร์ติน บอยล์ ถอนตัวไป กับต้องเช็กฟิต แฮร์รี่ ซุตตาร์

 

อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียชุดนี้ ไม่ค่อยจะมีสตาร์ในทีมนักแล้ว ตัวที่เล่นในยุโรปมีจำกัดเช่นกัน อาทิ อาจ์ดิน ฮรุสติช (เวโรน่า), อารอน มอย (เซลติก), แจ๊คสัน เออร์ไวน์ (ซังต์ เพาลี), ฟราน คาราซิช (เบรสชา), ไบลี่ย์ ไรท์ (ซันเดอร์แลนด์) หรือ แฮร์รี่ ซุตตาร์ (สโต๊ค)

 

ตัวความหวัง
ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ต้องกลายเป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป แต่ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ดูพร้อมเต็มที่แล้วในการสวมบทบาทนี้ ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 59 เกม ยิง 28 ประตู และเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังยิงรัวๆ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตลอดหลายปี ซีซั่นนี้ก็มีแล้ว 19 ประตู

 

ออสเตรเลีย : แม็ทธิว เลคกี้
ตัวรุกประสบการณ์สูงวัย 31 ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 73 นัด (13 ประตู) และผ่านรายการใหญ่มาแล้วทั้งฟุตบอลโลก 2 รอบ 2014 กับ 2018, เอเชียน คัพ 2 หน และคอนเฟดฯ คัพ อีกหนึ่ง เวลานี้อยู่ในสังกัด เมลเบิร์น ซิตี้ ภายหลังโกอินเตอร์ไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่นานนับสิบปี กับทั้ง กลัดบัค, เอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต, อิงโกลชตัดท์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เรียกว่าหลังจากหมดยุค แฮร์รี่ คีเวลล์, มาร์ค วิดูก้า หรือ ทิม เคฮิลล์ แล้วก็มี แม็ทธิว เลคกี้ นี่แหละเป็นดาวเด่น

 

11 ตัวจริงที่คาด
ฝรั่งเศส (4-2-3-1, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) อูโก้ โยริส – ลูคัส เอร์นันเดซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, ราฟาแอล วาราน, เบนชาแม็ง ปาวาร์ – อาเดรียง ราบิโอต์, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คิงสลี่ย์ โกม็อง – คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ออสเตรเลีย (4-2-3-1, กุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์) แม็ต ไรอัน – เนธาเนียล แอตกินสัน, แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไค โรว์เลส, อาซิซ เบฮิช – อารอน มอย, คาเมรอน เออร์ไวน์ – อาเวอร์ มาบิล, อาจ์ดิน ฮรุสติช, แม็ทธิว เลคกี้ – เจมี่ แม็คลาเรน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เพิ่งเจอกันมาในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยลงเตะเป็นเกมแรกของกลุ่มด้วย ฝรั่งเศส เฉือนชัย 2-1 จากการยิงตัวเองของ อาซิซ เบฮิช ก่อนจบ 9 นาที
• หนเดียว (จาก 5 นัด) ที่ ออสเตรเลีย ชนะฝรั่งเศสได้ คือใน คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2001 ที่เบียดชนะ 1-0
• ออสเตรเลีย ไปไกลสุดที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งพวกเขาก็ตกรอบอย่างหวุดหวิด โดน อิตาลี ยิงจุดโทษทดเจ็บ 90+5 (ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ)
• บรรดาตัวเลือกกองกลางของฝรั่งเศส มีเพียง อาเดรียง ราบิโอต์ ที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่เกิน 15 นัด (29 นัด 2 ประตู) นอกนั้นอีก 5 ชอยส์ล้วนแต่เล่นทีมชาติไม่เกิน 14 เกม แถม 4 คนในนั้นยังเล่นมาแค่ 5-6 นัดด้วย
• คาริม เบนเซม่า ไม่อยู่ แต่ที่เหลืออย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (28), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (49), อองตวน กรีซมันน์ (42) ถล่มประตูในนามทีมชาติได้รวมกันถึง 119 ลูก โดยเฉพาะ ชิรูด์ ที่ขออีก 3 ประตูจะกลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของฝรั่งเศสเหนือ เธียร์รี่ อองรี (51)

 

ความน่าจะเป็น
สองวันที่ผ่านไปของฟุตบอลโลก 2022 ตัวแทนจากเอเชียโชว์ฟอร์มดูไม่ได้เลยทั้งเจ้าภาพ กาตาร์ และ อิหร่าน ซึ่งแม้ว่า ออสเตรเลีย จะไม่เชิงใช่ทีมของเอเชีย แต่ระดับชั้นก็อยู่ประมาณเดียวกัน และแม้ ฝรั่งเศส จะเจอปัญหาแข้งเดี้ยงเยอะแถมฟอร์มช่วงหลังยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ตัวที่ยังอยู่ก็ล้วนแต่เป็นของจริงทั้งสิ้น ถ้าเล่นกันอย่างลงล็อก เจาะลูกแรกได้เร็ว ก็มีแค่จะยิงได้ 3 หรือ 4 ลูก หรือมากกว่านั้น

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 4-0

 

โปรแกรมถัดไป
ฝรั่งเศส
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 — 22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส

ออสเตรเลีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 — 22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

เม็กซิโก vs โปแลนด์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เม็กซิโก vs โปแลนด์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี : เม็กซิโก vs โปแลนด์
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่าายทอดสด : ไทยทีวีสีช่อง 3

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เม็กซิโก
อันดับ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 8

โปแลนด์
ชนะเพลย์ออฟเหนือ สวีเดน
(ชนะบายเหนือ รัสเซีย, ชนะ สวีเดน 2-0)

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เม็กซิโก
อุ่นเครื่อง แพ้ ปารากวัย 0-1
อุ่นเครื่อง ชนะ เปรู 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 2-3
อุ่นเครื่อง ชนะ อิรัก 4-0
อุ่นเครื่อง แพ้ สวีเดน 1-2

โปแลนด์
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เบลเยียม 0-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 1-0

 

ผลการพบกัน
8 นัด เม็กซิโกชนะ 3 เสมอ 2 โปแลนด์ชนะ 3

 

สภาพทีม
เม็กซิโก
เข้ารอบสุดท้ายมาด้วยการเป็นรองแชมป์โซนคอนคาเคฟ แต่ว่าฟอร์มช่วงหลังค่อนข้างแกว่ง ชนะสลับแพ้มาอย่างต่อเนื่องในตลอด 3-4 เดือนหลังของคิวทีมชาติ

 

กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่ มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อยแต่ก็เป็นจุดสำคัญอย่าง ราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าตัวความหวังจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่ไม่ได้เล่นให้ทีมหมาป่ามาตั้งแต่เดือน ส.ค. แต่ยังคงอยู่เป็นตัวเลือกในทีมชุดนี้ แม้อาจไม่ได้เริ่มที่การเป็นตัวจริงก็ตาม

 

ยกเว้น ฮิมิเนซ แล้วก็ถือว่า เม็กซิโก อยู่ในจุดที่สมบูรณ์ดี สามารถใช้งานตัวหลักที่มีได้ทั้งหมด กระนั้นทีมชุดนี้ไม่มีตัวดังอย่าง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นันเดซ หรือ เฮซุส มานูเอล โคโรน่า ติดมาด้วย โดยรายหลังฟื้นฟิตไม่ทันเล่นบอลโลก

 

โปแลนด์
เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเซอร์ไพรส์ในช่วงปลายปีที่แล้ว กับการที่ เปาโล ซูซ่า โค้ชชาวโปรตุเกส ตัดสินใจสละเก้าอี้ไปรับตำแหน่งกับ พัลไมรัส ก่อนที่ โปแลนด์ จะคว้าเอา เชสลาฟ มิชนีวิซ อดีตกุนซือลีเกีย วอร์ซอว์ และทีมชาติชุดยู-21 เข้ามาสานงานต่อ

 

ในการเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี โปแลนด์ เอาชนะไม่ได้เลยในเกมเหย้าเยือนกับ เบลเยียม และ เนเธอร์แลนด์ แต่ท้ายสุดก็เอาชนะ เวลส์ ได้ 1-0 ต่อด้วยอุ่นเครื่องเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ชนะ ชิลี 1-0 อีก

 

เชสลาฟ มิชนีวิซ มีขุมกำลังสมบูรณ์พร้อมให้เลือก โดยแทบไม่ได้ขาดสมาชิกหน้าเก่ารายใดไป ซึ่งก็จะนำทีมโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นเคยในระบบ 3-5-2

 

ตัวความหวัง
เม็กซิโก : เออร์วิ่ง โลซาโน่
ในช่วงเวลาที่ ราอูล ฮิมิเนซ ดาวยิงตัวเจ็บจากวูล์ฟส์ ยังไม่อาจวางใจได้เรื่องสภาพความฟิต คนที่ทัพจังโก้อันตรายต้องพึ่งพาในเกมรุกก็คือ เออร์วิ่ง “ชัคกี้” โลซาโน่ ตัวรุกสารพัดประโยชน์วัย 27 จากนาโปลี ซึ่งที่จริงก็ถูกจับตามองตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนที่แล้วที่รัสเซีย โชคร้ายที่ไปไม่ได้ไกลนักเมื่อต้องเจอ บราซิล ในรอบ 8 ทีม โดย โลซาโน่ เล่นทีมชาติไปแล้ว 60 นัด ซัด 16 ประตู แต่ที่แรงกว่าคือฟอร์มกับต้นสังกัด นาโปลี ที่ยิง 4 ลูกจาก 19 เกมในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

โปแลนด์ : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
หากว่า อาร์เจนติน่า ถูกเรียกว่า ทีมชาติเมสซี่ แล้ว โปแลนด์ ก็ควรต้องถูกเรียกว่า “ทีมชาติเลวานดอฟสกี้” ด้วยเช่นกัน เมื่อนี่คือผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชาติอย่างแท้จริง โปแลนด์ จะไปได้ไกลขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของดาวยิงรายนี้เป็นสำคัญ ซึ่ง เลวานดอฟสกี้ ครองรางวัลนักเตะแห่งปีของชนชาติโปแลนด์มาแล้วถึง 10 สมัยจากระยะ 11 ปีหลัง และกดไปแล้ว 76 ประตูในนามทีมชาติ ยิ่งกว่านั้นคือการย้ายมาเล่นในลีกใหม่กับ บาร์เซโลน่า หัวหอกวัย 34 ก็ยังยิงสลุตเหมือนเคย กดไปแล้ว 18 ลูกจากการเล่นแค่ 19 นัด

 

11 ตัวจริงที่คาด
เม็กซิโก (4-3-3, กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่) กิเยร์โม่ โอชัว – เฮซุส กายาร์โด้, เซซ่าร์ มอนเตส, เนสเตอร์ อเราโฮ, ฮอร์เก้ ซานเชซ – อันเดรส กวาร์ดราโด้ (C), เอ๊ดสัน อัลวาเรซ, คาร์ลอส โรดริเกซ – อเล็กซิส เวก้า, เฮนรี่ มาร์ติน, เออร์วิ่ง โลซาโน่
โปแลนด์ (3-5-2, กุนซือ เชสลาฟ มิชนีวิซ) วอยเชียค เชสนี่ – ยาน เบ๊ดนาเร็ค, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิยอร์ – นิโกล่า ซาเลฟสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, คริสเตียน บีลิค, ดาเมี่ยน ซีมานสกี้, แม็ตตี้ แคช – อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันหนล่าสุด เกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2017 เม็กซิโกบุกชนะ 1-0 ที่กดังค์ส
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงแค่ 2 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 6 นัดรอบปี 2022 แต่กดให้ บาร์เซโลน่า ไปถึง 18 ลูกจาก 19 เกม
• อันเดรส กวาร์ดราโด้ กัปตันทีมวัย 36 ของเม็กซิโก ลงเล่นทีมชาติมาแล้วถึง 178 นัด และฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นสมัยที่ 5 เช่นเดียวกับ กิเยร์โม่ โอชัว
• อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กับ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค ยิงให้ทีมชาติ 16 และ 11 ประตูตามลำดับ

 

ความน่าจะเป็น
ว่ากันเรื่องความเจนจัดในฟุตบอลโลก เม็กซิโก เหนือกว่าอย่างเทียบไม่ได้ กระนั้นขุมกำลังชุดนี้ของทัพจังโก้ยังเต็มไปด้วยคำถาม และดูดร็อปลงไปจากครั้งก่อนๆ พอตัว ผิดกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่น่ากลัวเสมอไม่ว่าจะเล่นให้สโมสรหรือทีมชาติ ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้ว พลังสังหารของ เลวานดอฟสกี้ ก็น่าเชื่อถือมากกว่าจะอยู่ข้างเม็กซิโก

 

ผลที่คาด : โปแลนด์ ชนะ 2-1

 

โปรแกรมถัดไป
เม็กซิโก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 02.00 — อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
พุธ 30 พฤศจิกายน — 02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

โปแลนด์
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 20.00 — โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย
พุธ 30 พฤศจิกายน — 02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า

โคนม เดนมาร์ก จะผ่านฉลุยอินทรีแห่งคาร์เธจ – ตูนิเซีย ในฟุตบอลโลก 2022

โคนม เดนมาร์ก จะผ่านฉลุยอินทรีแห่งคาร์เธจ – ตูนิเซีย ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม ดี เดนมาร์ก – ตูนิเซีย

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

ตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

ตูนีเซีย ทีมที่ได้เสียงเชียร์จากชุมชนชาวตูนีเวียในโดฮา (ภาพ: Twitter @tunisiefootball)

เกมในกลุ่ม ดี วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น. (เวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด True4U/ True Sports 2: ขาประจำในฐานะม้ามืดในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ เดนมาร์ก จะเปิดสนามฟุตบอลโลกที่กาตาร์ของตัวเอง ด้วยการเจอกับตูนิเซีย หลังผ่านเข้ารอบมาแบบสง่าผ่าเผย ด้วยการผ่าน 8 เกมด้วยการชนะรวด และเสียแค่ลูกเดียว ส่วนตูนิเซียต้องดิ้นรนไม่น้อยกว่าจะเฉือนมาลี 1-0 ในรอบเพลย์ออฟ เพื่อมาที่กาตาร์ ในเกมที่สุดบีบหัวใจ

เส้นทางก่อนการเจอกันของเดนมาร์ก – ตูนิเซีย

เดนมาร์กเดินทางมากาตาร์พร้อมกับสถิติสวย ๆ ในเกมเนชั่นส์ลีก เมื่อชนะ 3 นัดแพ้ 2 โดยหนึ่งในทีมที่พ่ายพวกเขาก็ไม่ใช่ใครอื่น แชมป์โลกและเพื่อนร่วมกลุ่ม ดี ฝรั่งเศส ที่น่าจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจในฟุตบอลโลกที่ดินแดนตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสถิติการได้และเสียประตูซึ่งอยู่ที่ 7-3 ขณะที่สถิติการเจอกับทีมจากแอฟริกาในฟุตบอลโลก 4 นัดสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นแอฟริกาใต้, ไนจีเรีย, แคเมอรูน หรือว่าเซเนกัล พวกเขาไม่เคยแพ้ โดยชนะ 2 แพ้ 2 โดยทีมทีมที่ปราชัยพวกเขาก็คือ แคเมอรูนและไนจีเรีย

หันมาดูทางตูนิเซีย เจ้าของฉายาอินทรีแห่งคาร์เธจ แพ้เพียงเกมเดียวใน 5 นัดหลังสุด และทีมที่เอาชนะพวกเขาได้ก็คือเต็งหนึ่งของฟุตบอลโลกครั้งนี้ บราซิล ที่ยิงใส่พวกเขาถึง 5 ประตูในเกมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลก แต่อีกสี่นัดที่เหลือ พวกเขาคว้าชัยได้หมด และไม่เสียประตูเลย ที่น่าจะทำให้พวกเขาไม่กลัวใครหน้าไหนในฟุตบอลโลกครั้งนี้ อย่างน้อย ๆ ก็ในกลุ่มดี แต่ปัญหาก็คือ สถิติในการเจอกับทีมจากยุโรปในฟุตบอลโลกของตูนิเซีย ไม่ได้ดูดีอย่างเกม 5 นัดหลัง เพราะจาก 4 นัดล่าสุดในฟุตบอลโลกที่ได้ดวลแข้งกับชาติยุโรป ตูนิเซียเอาชนะใครไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสเปน, ยูเครน, อังกฤษ หรือว่า เบลเยี่ยม โดยสถิติเสียประตูและทำประตูอยู่ที่ 11-4 ซึ่งน่าเป็นห่วงว่า สถานการณ์เดิม ๆ อาจจะกลับมาเยี่ยมมาเยียนพวกเขาอีกครั้ง เพราะเดนมาร์กดูเหนือกว่าทั้งตัวผู้เล่น และฟอร์ม และเป็นไปได้ว่า การเจอกันครั้งนี้ อาจจะจบลงเหมือนที่เจอกันในฟุตบอลโลก 2002 ที่ทีมโคนมขวิดอินทรีจากคาร์เธจไป 2-1

ความพร้อมของนักเตะเดนมาร์กและตูนิเซีย

คริสเตียน อีริกเซ่น นักเตะโคนม ฟุตบอลโลก 2022

หากทีมนักเตะโคนมต้องการไปให้ไกลกว่าที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่ คริสเตียน อีริกเซ่น (ภาพ: https://www.espn.com)

แคสเปอร์ ยูลมันด์โค้ชของเดนมาร์ก ทำเก๋ด้วยการเรียกผู้เล่นมาติดทีมก่อน 21 ราย ก่อนที่จะเรียกมาเติมจนครบ 16 รายในท้ายที่สุด โดยห้ารายชื่อสุดท้ายก็มี คริสเตียน นอร์การ์ด จากเบรนต์ฟอร์ด ที่เพิ่งกลับมาลงสนามได้หลังหายหน้าไปถึง 3 เดือนจากอาการบาดเจ็บ, เฟรเดอริก รอนนาว ผู้รักษาประตูของยูนิโอน เบอร์ลิน ที่ไม่ได้ลงเล่นในบุนเดสลีก้า 3 นัดสุดท้าย เนื่องจากบาดเจ็บจากเอ็นร้อยหวาน, อเล็กซานเดอร์ บาห์ กองหลังจากเบนฟิก้า, ยูสซูฟ โพลเซ่น กองหน้าจากอาร์เบ ไลป์ซิก และโรเบิร์ต สกอฟ จากฮอฟเฟนไฮม์ ส่วนที่หลุดโผไปก็คือ แม็ตต์ โอไลรีย์ จากเซลติก แม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีให้กับแชมป์จากสก็อตต์ก็ตาม ส่วน โยนาส วินด์ กองหน้าจากโวล์ฟสบวร์กที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ อาจจะหายไม่ทันในเกมนัดนี้ แต่ก็ไม่น่ามีผลทำให้ยูลมันด์จัด 11 ตัวแรกได้ลำบากยากเย็นนัก

ตูนิเซียอาจจะต้องลุ้นนิดหน่อย เมื่อยูสเซฟ มซากนี่ กัปตันทีมที่พลาดฟุตบอลโลก 2018 มาแล้วเพราะอาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้ขา และได้รับบาดเจ็บยิบย่อยมาตลอดปีนี้ ต้องเช็คสภาพก่อนเกมนัดเปิดสนาม แต่ดูแล้วอาการไม่น่าหนักหนา และน่าจะลงเผชิญหน้ากับนักเตะโคนมได้

ยูสเซฟ มซากนี่ ตูนิเซีย ฟุตบอลโลก 2022

ยูสเซฟ มซากนี่ นักเตะคูนิเซียที่เล่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบ็คซ้าย, กองหน้าตัวกลาง, ปีกซ้าย หรือกระทั่งกองกลางตัวรุก (ภาพ: James Williamson – AMA/ Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเดนมาร์กและตูนิเซีย

เดนมาร์ก ระบบ 4-2-3-1: ชไมเคิล; วาสส์, เคียร์, แอนเดรียส คริสเตนเซ่น, เมห์เล่; โฮจ์เบิร์ก, เดลานีย์; สคอฟ โอลเซ่น, อีริกเซ่น, ลินด์สตรอม; โดลเบิร์ก
ตูนิเซีย ระบบ 4-3-3: ดาห์เม็น; ดราเกอร์, ทัลบี, บรอนน์, แอบดี; ไลอูนี, สกีรี่, ชาอัลลาลีi; เบน สลิมาเน่, มซากนี่, คาซรี่

ผลการแข่งขันระหว่างเดนมาร์ก – ตูนิเซีย

ทั้งสองทีมอาจจะยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำก่อนหน้าที่จะมาเจอกันที่กาตาร์ แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะในวันนี้ อยู่ที่แนวรับ โดยเฉพาะเมื่อดูจากสถิติเก่า ๆ โดยเดนมาร์กนอกจากจะเสียประตูแค่ 3 ลูกในเกมรอบคัดเลือก เก็บคลีนชีตได้ 8 นัด จนเป็นทีมที่มีแนวรับดีที่สุดในรอบคัดเลือก ยังเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้สับไกเพียง 5.3 ครั้งต่อเกม ส่วนสถิติการสกัดก็ทำได้ดีถึง 78% ส่วนตูนิเซีย เสียแค่ 2 ประตูในรอบคัดเลือก มี 6 นัดที่ไม่เสียประตูเลย แถมก็ทำได้ดีในการสกัดด้วยสถิติ 75% แต่เพราะประสบการณ์ ที่ผ่านเกมใหญ่ ๆ มามากกว่า และเผชิญหน้ากับกองหน้าระดับโลกมากมาย นักเตะโคนมน่าจะเบียดชนะไป ในแบบไม่เสียประตู ด้วยสกอร์อย่างน้อย ๆ 2-0

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ดาวเตะตูนิเซีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022
2. นักเตะโคนมคนสำคัญ ที่จะสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ ในฟุตบอลโลก 2022
3. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
4. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022

5. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

 

อาร์เจนติน่า จะผ่านอินทรีทะเลทราย ซาอุดิอาระเบีย ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบสบาย ๆ

อาร์เจนติน่า จะผ่านอินทรีทะเลทราย ซาอุดิอาระเบีย ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบสบาย ๆ

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

 

ชาติเอเชีย - ซาอุดิ อาระเบีย

ซาอุดิ อาระเบีย เข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีญี่ปุ่น กับออสเตรเลีย ร่วมกลุ่ม (ภาพ: SSAF/Facebook)

เกมในกลุ่ม ซี วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) True4U/ True Sports 2: แน่นอนว่า สายตาของผู้ชมเกมนัดนี้ ย่อมจับจ้องไปที่ลิโอเนล เมสซี่ ที่จะลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ห้า และน่าจะเป็นสมัยสุดท้ายให้กับตัวเอง โดยที่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ระดับชาติมาได้สารพัดขาดก็เพียงถ้วยฟุตบอลโลกเท่านั้น และกับการเจอทีมจากเอเชีย ซาอุดิอาระเบีย น่าจะเป็นการออกสตาร์ตที่สวยหรูของเมสซี่และผองเพื่อน เมื่อดูแล้ว อินทรีทะเลทราย ที่นักเตะส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นลีกจากในประเทศ ดูไม่มีอะไรจะสู้ทีมฟ้าขาวได้เลย นอกจากเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงของกาตาร์ ที่น่าจะทำให้ได้เสียงเชียร์มากเป็นพิเศษ (หรือเปล่า?)

เส้นทางก่อนการเจอกันของ อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ทีมฟ้าขาวมาฟุตบอลโลก 2022 เดินทางมากาตาร์ พร้อมกับสถิติไม่แพ้ใคร 35 นัดรวด และกับเกม 5 นัดก่อนเดินทางมากาตาร์ก็ชนะแบบยิงประตูระเนระนาด และไม่เสียประตูเลย แม้จะไม่เจอกับคู่แข่งแข็ง ๆ สักเท่าไหร่ก็ตามที ยกเว้นอิตาลี แชมป์ยูโร 2020 ที่ตกรถไฟฟุตบอลโลก 2022 เฉย ซึ่งเมสซี่และผองเพื่อนก็สยบได้สบาย ๆ 3-0

ซาอุดิอาระเบีย อาจจะดูดีในรอบคัดเลือก โดยเฉพาะการเป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีตัวเก็งอย่าง ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แต่ฟุตบอลโลกคือความแตกต่าง ทีมที่เจอคืออีกระดับ และจากเกมอุ่นเครื่องก่อนถึงฟุตบอลโลก 5 นัดสุดท้าย ทีมอินทรีทะเลทรายเสมอไป 3 แพ้ 1 ชนะ 1 โดยเจอคู่แข่งที่ไม่ได้แข็งมากนัก อย่าง อัลบาเนีย, ฮอนดูรัส, ปานามา ที่กินกันไม่ลง และชนะไอซ์แลนด์ แล้วมาแพ้ทีมที่เรียกได้ว่า “ของจริง” โครเอเชีย 1-0 ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบียต่างเจอกับฮอนดูรัสทั้งคู่ แต่ขณะที่ทีมจากเอเชียทำได้แค่เสมอ ทีมฟ้าขาวขย่มไป 3-0 ที่ด้วยชื่อชั้น ด้วยฟอร์มการเล่น เชื่อว่าเฮิร์ฟ เรนาร์ด โค้ชของซาอุดิอาระเบีย ไม่น่าคิดไปไกลนักสำหรับนัดนี้ แพ้ให้น้อยที่สุด หรือเก็บแต้มได้คือที่สุดแล้ว โดยอาจจะมองว่าเป็นเกมติวเข้มระดับสุด ๆ ของทีม เพื่อไปหวังแต้มจากนัดอื่น ส่วนอาร์เจนติน่า ก็อาจมองว่าเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ต้องเน้นผล

แล้วอย่าลืมว่า ซาอุดิอาระเบีย เคยมีประสบการณ์อันเลวร้ายกับการลงสนามนัดแรกในฟุตบอลโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะพ่ายเยอรมนียับ 8-0 ในปี 2002 และโดนเจ้าภาพรัสเซียถล่ม 5-0 ในปี 2018

ความพร้อมของนักเตะอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย

คริสเตียน โรเมโร่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียน โรเมโร่ นายใหญ่ในแผงหลังของทีมฟ้าขาว (ภาพ: Alexandre Schneider/Getty Images)

สถานการณ์ทุกอย่างดูราบรื่น แม้จะมีการส่งนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บ โจอาควิน คอร์เรอา กับนิโคลาส กอนซาเลซ กลับบ้าน แล้วเรียกตัวธิอาโก้ อัลเมด้า และอังเจล คอร์เรอา มาเข้าแคมป์ด่วน ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่แน่ ๆ สภาพของลิโอเนล เมสซี่ ที่เป็นหัวใจของทีมอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ และนักเตะคนอื่น ๆ เป็นตัวสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ที่สำคัญ โค้ชลิโอเนล สคาโลนี่สามารถหลอมรวมจิตใจผู้เล่นทั้งทีมเป็นหนึ่งเดียวกันสำเร็จ และเอาชนะใจแฟน ๆ ได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี โดยผู้เล่นที่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมีแค่คริสเตียน โรเมโร่ ที่เจ็บหลัง กับอังเจล ดิ มาเรีย แต่ก็น่าฟิตลงเล่นทัน

ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี อินทรีทะเลทราย ซาอุดิ อาระเบีย ฟุตบอลโลก 2022

ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ผู้เล่นเจ้าของพรสวรรค์ในระดับที่เยี่ยมยอด หลังเปิดตัวในทีมอินทรีทะเลทรายชุดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน (ภาพ: www.the-afc.com)

ซาอุดิอาระเบีย นอกจากจะดูห่างชั้นกว่าในเรื่องชื่อชั้น ฟอร์มการเล่นแล้ว ยังต้องลุ้นซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวเก่งของทีมที่เข้ารับการผ่าตัดเล็ก จะฟื้นตัวแล้วฟิตพอลงเล่นได้หรือเปล่า แต่ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย

อาร์เจนตินา ระบบ 4-3-3: อีมี่ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เปเรเดส, โกเมซ; เมสซี่, เลาตาโร มาร์ติเนซ, ดิมาเรีย
ซาอุดิอาระเบีย ระบบ 4-3-3: โอไวส์; กาหนาม, อัมรี, บูไลไฮ, ชารานี่; นาเจ, ชาราหิลี, ฟาราจ; ดอว์ซารี่, บูไรคาน, บาเฮบรี

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่ากับซาอุดิอาระเบีย

แม้จะเล่น 4-3-3 แต่นัดนี้เชื่อว่า อินทรีทะเลทรายน่าจะเล่นรับลึกกว่าปกติ และศูนย์หน้าของทีมก็ต้องใช้โอกาสที่มีไม่เปลือง เพื่อให้ทีมสร้างผลการแข่งขันที่ช็อคโลกได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวผู้เล่นของซาอุดิอาระเบียเอง คือผู้เล่นจากลีกในประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องประสบการณ์น่าจะอยู่คนละชั้นกับฟ้าขาว และต่อให้รับเหนียว เล่นลึกขนาดไหน ความสามารถเฉพาะตัวที่เหนือกว่าของบรรดาผู้เล่นอาร์เจนติน่า สามารถสร้างความแตกต่างได้มหาศาล ทั้งการใช้ความสามารถเฉพาะตัวบุกเข้าไปทำประตู หรือเรียกลูกโทษ ที่มีตัวเตะลูกนิ่งชั้นดีอยู่ในทีมมากมาย และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ เมสซี่

แม้ทีมใหญ่ ๆ มักจะเจอทีมเล็ก ๆ ปัดแข้งปัดขาเสมอในนัดแรกของฟุตบอลโลก แต่ไม่น่าใช่อาร์เจนติน่า และพวกเขาน่าจะผ่านซาอุดิอาระเบียไปได้ แบบขย่มอยู่ข้างเดียว โดยชนะในแบบเกมศูนย์ และถ้ายิงได้ไม่ถึง 3 ประตู ก็ถือว่าน่าผิดหวัง 

เรื่องน่าอ่าน
1. 
กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
2. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
3. ห้านักเตะอินทรีทะเลทราย – ซาอุดิอาระเบีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022
4. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022

 

สหรัฐอเมริกา จะแบ่งแต้มกับมังกรแดงเวลส์ ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของทั้งสองทีม

สหรัฐอเมริกา จะแบ่งแต้มกับมังกรแดงเวลส์ ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของทั้งสองทีม

ทำนายผลฟุตบอลโลก นัดที่ 2 ของกลุ่ม บี สหรัฐอเมริกา – เวลส์

สหรัฐอเมริกา ชุดลุยฟุตบอลโลก

พญาอินทรี สหรัฐอเมริกา ที่ความหวังคือ ตามอังกฤษเข้ารอบในฐานะที่ 2 ของกลุ่ม (ภาพ: edition.cnn.com)

เวลส์ ชุดลุยฟุตบอลโลก

เวลส์จะได้ดีใจแบบนี้ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกไหม (ภาพ: Getty Images)

เกมในกลุ่ม บี วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด T Sports 7/ True Sports 2: การเจอกันของสองทีมที่อยู่ในท็อป 20 จากการจัดอันดับโลกของฟีฟ่า โดยสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 16 และเวลส์อยู่ในอันดับที่ 19 ที่ดูแล้วแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่ แต่เส้นทางการผ่านเข้ารอบของทั้งคู่นั้น แตกต่างกันไม่น้อย โดยสหรัฐอเมริกาผ่านเข้ารอบมาตามโควต้า 3 ทีมจากโซนคอนคาแคฟ เมื่อมีลูกได้เสียเหนือกว่าคอสตาริก้า ส่งอินทรีอหังการ์เข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 11 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 ขณะที่มังกรแดงเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี หลังเป็นที่สองของกลุ่ม ที่มีเบลเยี่ยมเป็นหัวแถว แล้วต้องมาเล่นในรอบเพลย์ออฟกับยูเครน ทีมที่ได้กำลังใจจากคนทั่วโลก ก่อนที่จะเอาชนะได้ 1-0 หลังเป็นที่สองในกลุ่ม โดยฟุตบอลโลกเมื่อ 64 ปีก่อนของเวลส์ พวกเขาก็ถือว่าทำได้ดี เมื่อผ่านไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ

เกมนี้ถือเป็นเกมสำคัญของกลุ่ม บี เพราะหากมองว่าอังกฤษคือทีมที่จะคว้าแชมป์กลุ่ม และอิหร่านเป็นได้แค่ไม้ประดับ การเจอกันของสหรัฐอเมริกากับเวลส์ก็คือการวัดว่าใครจะเป็นที่ 2 ของกลุ่มนี้กลาย ๆ นั่นเอง

เส้นทางก่อนเจอกันของสหรัฐอเมริกา กับเวลส์

จากเกมห้านัดล่าสุดของทั้งสองทีมต่างไม่สู้จะดีนัก โดยสหรัฐอเมริกาเสมอไปสาม แพ้ชนะอย่างละ 1 นัด ส่วนเวลส์แพ้ถึง 4 นัดและเสมอแค่นัดเดียว แถมสถิติการยิงประตูและเสียประตูก็ไม่ต่างกันมากนัก โดยสหรัฐอเมริกาทำได้เฉลี่ย 1.6 ประตูต่อนัด และเสียไปเฉลี่ย 1.2 ประตูต่อนัด แถมมีนัดที่ไม่ถูกเจาะไข่แดงถึง 2 นัด และยิงได้ทุกนัด ขณะที่เวลส์ทำประตูได้เฉลี่ย 1.4 ประตูต่อนัด เสียไปเฉลี่ย 1.4 ประตูต่อนัด ไม่เก็บคลีนชีตไม่ได้เลย มองตรงนี้สหรัฐอเมริกาอาจจะดูดีกว่า แต่ก็ไม่มาก เพราะเมื่อดูสถิติการพบกับทีมจากยุโรปของพวกเขาในฟุตบอลโลกห้านัดหลังสุดแล้ว ก็น่าเป็นห่วง เพราะพวกเขาเอาชนะเบลเยี่ยม, เยอรมนี, โปรตุเกส, สโลเวเนีย และอังกฤษไม่ได้เลย ทำได้แค่เสมอสาม แพ้ไปหนึ่ง โดยครั้งสุดท้ายที่สหรัฐอเมริกาชนะทีมจากยุโรปในฟุตบอลโลก ก็โน่นปี 2002 ซึ่งทีมที่ตกเป็นเหยื่อก็คือ โปรตุเกส ส่วนเวลส์กับการเพิ่งเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนที่สอง พวกเขายังไม่เคยเจอทีมจากคอนคาแคฟเลย ที่หากมองว่าทีมอินทรีผยองแพ้ทางทีมยุโรป ตามสถิติว่าเอาไว้ เวลส์ก็ไม่น่าถึงกับแพ้

ความพร้อมของสหรัฐอเมริกาและเวลส์

คริสเตียน พูลิซิส สหรัฐอเมริกา ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ใช่แค่เป็นกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกา แต่คริสเตียน พูลิซิส ยังเป็นดาวเตะคนสำคัญของทีมชาติ ที่จะได้โอกาสส่องแสงแน่ ๆ ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: www.planetfootball.com)

ลูก้า เดอ ลาทอร์เร นักเตะจากทีมเซลต้า บีโก้ต้องนั่งดูเพื่อน ๆ เล่นข้างสนามมาตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคม จากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา และทางสโมสรต้นสังกัดบอกว่า เขาไม่น่าจะพร้อมลงเล่นอย่างน้อย ๆ ก็ 3 สัปดาห์ ถึงเกมนัดนี้จะผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว และลาทอร์เรน่าจะฟื้นตัวได้ แต่ก็ยังไม่น่าจะฟิตพอลงเล่น แม็ตต์ เทอร์เนอร์ กลับมานั่งเก้าอี้สำรองให้กับแอรอน แรมสเดลที่อาร์เซน่อลได้แล้ว หลังพลาดไปสามนัด เพราะบาดเจ็บขาหนีบ น่าจะพร้อมเฝ้าเสาให้ทีมบ้านเกิด ส่วนเวสตัน แม็กเคนนี ที่เป็นหนึ่ง 11 ตัวแรกของทีมมาโดยตลอด แต่ได้รับบาดเจ็บต้นขา ในเกมที่เล่นให้ยูเวนตุสเมื่อเดือนตุลาคม คงต้องเช็คความฟิตกันอีกว่า จะลงเล่นนัดนี้ไหวไหม

แกเร็ธ เบล มังกรแดง เวลส์ ฟุตบอลโลก 2022

เบลที่เป็นทั้งกัปตันทีม, ดาวเตะที่ยิงประตูสูงสุดของชาติ และนักเตะคนสำคัญที่ทีมมังกรแดงขาดไม่ได้ (ภาพ: therealchamps.com)

มาดูฝั่งมังกรแดงบ้าง โจ อัลเลน พลาดเกมระดับสโมสรกับสวอนซี มาตั้งแต่เดือนกันยายน เพราะบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย แต่สถานการณ์ล่าสุดอาการดีขึ้น และลงซ้อมเบา ๆ ได้แล้ว แต่สภาพโดยรวมยังอยู่ในสภาพฟื้นฟูร่างกาย และไม่น่าจะลงเล่นในเกมนี้ได้ แม้ตอนที่ประกาศรายชื่อ แล้วมีอัลเลนอยู่ในทีม ร็อบ เพจโค้ชทีมชาติเวลส์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะพยายามทำให้เขาฟิตพร้อมลงเล่นให้ได้ตั้งแต่นัดแรก ซึ่งในตอนนี้ดูแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ ขณะที่ดาวเตะตัวเก่งอย่าง แกเร็ธ เบล และแอรอน แรมซีย์ หรือว่า แดน เจมส์ ทุกคนพร้อมลงเจอสหรัฐอเมริกา และทำให้เกมนัดนี้ น่าจะเป็นเกมที่เข้มข้นอีกนัดหนึ่งในการประเดิมนัดแรกของแต่ละกลุ่มในฟุตบอลโลก 2022

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงเล่นของสหรัฐอเมริกา และเวลส์

สหรัฐอเมริกา ระบบ 4-3-3: เทอร์เนอร์; เดสต์, ซิมเมอร์แมน, ลอง, โรบินสัน; มูซาห์, อดัมส์, อะคอสต้า; แอรอนสัน, เฟอร์ไรรา, พูลิซิซ
เวลส์ ระบบ 3-4-3): เฮนเนสซี่, อัมปาดู, โรดอน, เบน เดวีส์; คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, แรมซีย์, มอร์เรลล์, เนโก้ วิลเลียมส์; เบล, จอห์นสัน, แดน เจมส์

ผลการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกา และเวลส์

อย่างที่บอกเอาไว้ว่า เป็นอีกหนึ่งนัดสำคัญ สำหรับการแย่งตั๋วไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย และเป็นการเจอกันของสองทีมที่ศักยภาพใกล้เคียงกันมาก ๆ ทำให้ยากที่จำทำนายผลเหมือนกัน แต่จากสถิติเก่า ๆ รวมถึงกระดูกบอล ที่เจอกับทีมแข็ง ๆ มากกว่า และแม้จะเป็นขาลง แต่ฟอร์มของพวกเขาก็ยังหลุดไม่มากนัก เวลส์น่าจะทำได้ดีกว่าสหรัฐอเมริกา ในแบบที่ชนะหวุดหวิด แต่โอกาสที่เปิดกว้างที่สุดจริง ๆ ของนัดนี้ น่าจะอยู่ที่การแบ่งแต้มกันไป แล้วค่อยไปวัดกันในนัดที่เหลือ

เรื่องน่าอ่าน:
1. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม บี สิงโต อินทรี มังกร และทีมแกร่งตะวันออกกลาง ใครจะอยู่ ใครจะไป
2. รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022
3. ห้าดาวเตะอิหร่าน ความหวังของชาติในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้ามังกรแดง ที่จะแผลงฤทธิ์พาเวลส์ร้อนแรงในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าพญาอินทรี ที่จะพาสหรัฐอเมริกาบินสูงในฟุตบอลโลก 2022
6. เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 

เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย

อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ รอบคัดเลือกโซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

ตูนิเซีย
ชนะ มาลี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนแอฟริกา
(นัดแรกชนะ 1-0 นัดสองเสมอ 0-0)

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0

ตูนิเซีย
กิริน คัพ ชนะ ชิลี 2-0
กิริน คัพ ชนะ ญี่ปุ่น 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ โคโมรอส 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ บราซิล 1-5
อุ่นเครื่อง ชนะ อิหร่าน 2-0

 

ผลการพบกัน (1 นัด)
อุ่นเครื่อง 2002 เดนมาร์ก 2-1 ตูนิเซีย

 

สภาพทีมเดนมาร์กและตูนิเซียฟุตบอลโลก 2022
เดนมาร์ก
แม้จะแพ้ โครเอเชีย เหย้าเยือนจนพลาดแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก แต่มาตรฐานโดยรวมและขุมกำลังก็ยังไม่ต่างไปจากชุดที่เข้าถึงรอบตัดเชือก ยูโร 2020 มากนัก โดยก่อนหน้า เนชั่นส์ ลีก ก็ชนะ 9 เกมซ้อนจนครองแชมป์กลุ่มคัดบอลโลก และตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเป็นรายที่ 3 ถัดจากเจ้าภาพ กาตาร์ และ เยอรมนี

 

แคสเปอร์ ฮูลมันด์ เรียก 5 ชื่อสุดท้ายมาสมทบ จนเป็นทีม 26 คน ซึ่งไม่นับว่ามีเซอร์ไพรส์อะไรมาก ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, อเล็กซานเดอร์ บาห์, โรเบิร์ต สคอฟ รวมถึงประตูสำรอง เฟรดริค รอนโนว์ ตามมาลุยบอลโลก

 

ความพร้อมในเกมเปิดหัวพบ ตูนิเซีย มีแค่ต้องเช็กสภาพ โยนาส วินด์ กองหน้าจากโวล์ฟสบวร์ก แต่ก็ไม่นับเป็นสมาชิกคนสำคัญนัก โดยเฉพาะแดนหน้าที่เวลานี้ทัพโคนมมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ สามารถสลับกันเล่นได้หมด

 

ตูนิเซีย
ผ่าน มาลี ของ อีฟส์ บิสซูม่า, มุสซ่า เชเนโป, อมาดู ไฮดาร่า มาได้แบบหวิวๆ สกอร์รวม 1-0 ในรอบคัดเลือกรอบ 3 โซนแอฟริกา เท่ากับได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 6 และสองหนติด

 

กุนซือ จาเลล คาดรี้ มีต้องเช็กอาการของกัปตันทีม ยุสเซฟ เอ็มซานี่ ว่าจะพร้อม 100% หรือไม่ ภายหลังมีการบาดเจ็บติดพันในช่วงหลัง แต่ก็คาดว่าน่าจะเรียกฟิตได้ทันนำทัพลงสนาม

 

ระบบคาดว่าจะใช้ 4-3-3 แเนกลางนำโดยดาวรุ่ง ฮันนิบาล เมจ์บรี้ และข้างหน้าวาง อานิส เบน สลิมาเน่, ยุสเซฟ เอ็มซานี่, วาห์บี คาซรี่ เข้าแลก

 

ตัวความหวัง
เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ที่ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลหรือเซนส์บอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 117 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้…ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางล้วนๆ

ตูนิเซีย : ฮันนิบาล เมจ์บรี้
เจ้าหนูหัวฟูวัยเพียง 19 ได้มาฟุตบอลโลก 2022 อย่างเซอร์ไพรส์ในขณะที่รุ่นพี่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนทำได้แค่ดูบอลโลกอยู่บ้าน ซึ่งก็เนื่องมาจากฟอร์มที่น่าประทับใจในการไปเล่นยืมตัวกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ตลอดครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา ที่ได้ลงสนาม 15 นัด มีส่วนช่วยทีมยืนกลางตาราง ทั้งนี้ เมจ์บรี้ ที่เคยเล่นทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชน ตัดสินใจคว้าโอกาสลงเล่นให้ทีมชาติตูนิเซียชุดใหญ่มาตั้งแต่กลางปี 2021 หรือตอนอายุแค่ 18 เท่านั้น และถึงตรงนี้ลงสนามเคียงข้างรุ่นพี่ๆ ไปแล้ว 18 เกม

 

11 ตัวจริงที่คาด
เดนมาร์ก (3-4-1-2, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์ (C), โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, โธมัส เดอลานีย์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ดาเนี่ยล วาสส์ – คริสเตียน เอริคเซ่น – มาร์ติน เบรธเวท, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก
ตูนิเซีย (4-3-3, กุนซือ จาเลล คาดรี้) อายเมน ดาห์เมน – โมฮาเหม็ด ดราเกอร์, มอนตาสซาร์ ทาลบี้, ดีแลน บรอนน์, อาลี อับดี – เอสซ่า ไลดูนี่, เอลเยส ชกิรี่, ฮันนิบาล เมจ์บรี้ – อานิส เบน สลิมาเน่, ยุสเซฟ เอ็มซานี่ (C), วาห์บี คาซรี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้เคยพบกัน 1 ครั้งถ้วนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เดนมาร์กเบียดชนะ 1-0 เอ๊บเบ้ ซานด์ สังหารชัยกลางครึ่งหลัง
• เดนมาร์ก ยิงคู่แข่งได้นัดละ 2 ประตูเป็นอย่างน้อย 6 จาก 8 เกมหลัง
• ตูนิเซีย เจอทีมยุโรป 2 นัดในฟุตบอลโลกหนก่อน 2018 และแพ้ทั้งสองนัดต่อ อังกฤษ 1-2 และ เบลเยียม 2-5
• โยอาคิม เมห์เล่ ยิงไปถึง 9 ประตูจากการเล่นทีมชาติ 31 นัด ด้วยตำแหน่งวิงแบ็ก
• อานิส เบน สลิมาเน่ กับ อิสซาม เยบาลี เล่นในลีกเดนมาร์ก กับ บรอนด์บี้ และ โอบี โอเดนเซ่ ตามลำดับ

 

ความน่าจะเป็น
โดยชื่อชั้น ตูนิเซีย ห่างจาก เดนมาร์ก มากอยู่แล้ว และฟอร์มที่เป็นช่วงหลังของทัพโคนมก็บอกว่าพวกเขายังไม่หลุดจากมาตรฐานสูงสุดไปมากนัก หลังบ้านยังแข็ง เกมรุกถ้าไม่ใช้โอกาสเปลืองไปเองก็จะมีประตูมาเสิร์ฟทุกเกม ดังนั้น ชัยชนะของ เดนมาร์ก จึงค่อนข้างชัวร์ อยู่ที่จะยิงได้มากหรือน้อย

 

ผลที่คาด : เดนมาร์ก ชนะ 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
เดนมาร์ก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 23.00 — ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
พุธ 30 พฤศจิกายน — 22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

ตูนิเซีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 17.00 — ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย
พุธ 30 พฤศจิกายน — 22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส

อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

ซาอุดีอาระเบีย
แชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 12 เสีย 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
ไฟนัลลิสซิม่า ชนะ อิตาลี 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ เอสโตเนีย 5-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0

ซาอุดีอาระเบีย
อุ่นเครื่อง เสมอ อัลเบเนีย 1-1
อุ่นเครื่อง เสมอ ฮอนดูรัส 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1
อุ่นเครื่อง แพ้ โครเอเชีย 0-1

 

ผลการพบกัน (4 นัด)
1988 โกลด์คัพ อาร์เจนฯ 2-2 ซาอุฯ
1988 โกลด์คัพ อาร์เจนฯ 2-0 ซาอุฯ
1992 คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ซาอุฯ 1-3 อาร์เจนฯ
2012 อุ่นเครื่อง ซาอุฯ 0-0 อาร์เจนฯ

 

สภาพทีม
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด หลังจากล่าสุดถลุง ยูเออี 5-0 และตลอด 5 นัดหลังยังไม่เสียประตูเลยสักลูกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมพอตัว กับอาการบาดเจ็บของ โจวานี่ โล เซลโซ่, นิโกลัส กอนซาเลซ และ ฮัวกิน กอร์เรอา ที่ทยอยกันหลุดออกไปหมด และเป็น อังเคล กอร์เรอา ของแอตเลติโก มาดริด กับ ติอาโก้ อัลมาด้า เด็ก 21 จากแอตแลนต้า ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกมาแทน 2 รายหลัง (ส่วน โล เซลโซ่ เจ็บตั้งแต่ก่อนตัดตัว 26 คน)

 

กระนั้นที่สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิงกัปตันทีม ซึ่งเจ็บเล็กๆ จนพลาดซ้อมไปบ้างเหมือนกันในช่วงเข้าแคมป์เก็บตัว แต่อย่างไรเสียคาดว่า เมสซี่ จะพร้อมลงเล่นเกมแรกนัดนี้ตามปกติ เช่นเดียวกับ เปาโล ดีบาล่า ที่เจ็บในเดือนก่อน แต่ก็กลับมาเล่นให้ โรม่า ได้แล้วในนัดสุดท้ายก่อนปิดครึ่งซีซั่นแรก

 

ที่ยังต้องลุ้นมี คริสเตียน โรเมโร่ เซนเตอร์แบ็กสเปอร์ส ซึ่งดูจะยังฟื้นฟิตไม่เต็มร้อย และไม่มีชื่อในเกมลับแข้งกับ ยูเออี ด้วย

 

กรณีนี้ทำให้คาดว่า นิโกลัส โอตาเมนดี้ จะลงจับคู่เซนเตอร์กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ขณะที่เกมรุกวาง ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และ อังเคล ดิ มาเรีย เข้าทำ

 

ซาอุดีอาระเบีย
ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 6 ซึ่งที่ผ่านมา ผลงานดีสุดเป็นในฟุตบอลโลก 1994 ที่ทะลุไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้

 

แม้ฟอร์มช่วงหลังจะออกฟุบ ชนะแค่ 2 จาก 10 เกมหลังสุด แต่ ซาอุฯ ก็มาฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ในฐาแนะแชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 เหนือ ญี่ปุ่น และผลัก ออสเตรเลีย ให้ต้องไปชี้ชะตาที่รอบเพลย์ออฟ

 

แอร์กเว่ เรอนาร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของซาอุฯ ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีมให้หนักใจ สามารถใช้งานขุนพลที่ดีที่สุดที่มีอยู่ได้ โดยเฉพาะ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวความหวังจากอัล-ฮิลาล ฟื้นฟิตหายเจ็บแล้ว และลงตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องล่าสุดที่แพ้ โครเอเชีย 0-1 เมื่อ 16 พ.ย. มาด้วย

 

ระบบจะใช้เพลย์เซฟเน้นรับ 4-4-1-1 เกมรุกวาง ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ปั้นเกมด้านหลังหอกเป้า ฮัตตาน บาเฮบรี

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดตั้งแต่เกมแรก เพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 10 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 4 เกมหลัง (ในจำนวนนี้มียิง 5 ประตูใส่ เอสโตเนีย ในชัยชนะ 5-0) นอกเหนือจากที่ยิงรวม 91 ลูกจากการรับใช้ชาติ 165 นัด เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของชาติ

ซาอุดีอาระเบีย : ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี
ในจำนวน 26 สมาชิกชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของซาอุฯ ที่เป็นนักเตะในประเทศทั้งหมด ไม่มีออกค้าแข้งต่างแดนแม้แต่รายเดียวนั้น ตัวที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาคือ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวรุกเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 นักเตะจาก อัล-ฮิลาล ในทีมชุดนี้ โดยดาวเตะวัย 31 ค้าแข้งกับต้นสังกัดมาตั้งแต่เป็นเยาวชน ปัจจุบันลงเล่นไปแล้วกว่า 300 นัด และลงสนามให้ทีมชาติซาอุฯ 71 นัด ซัดไป 17 ประตู หนึ่งในนั้นเป็นประตูชัย 90+5 เหนือ อียิปต์ ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, มาร์กอส อคุนย่า – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – ลิโอเนล เมสซี่ (C), เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย
ซาอุดีอาระเบีย (4-4-1-1, กุนซือ แอร์กเว่ เรอนาร์) โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส – ซุลตาน อัล-กานัม, อับดูเลลาห์ อัล-อัมรี, อาลี อัล-บูไลฮี, ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี – ซามี อัล-นาเจ, ริยาดห์ ชาราฮิลี, ซัลมาน อัล-ฟาราจ (C), ฟิราส อัล-บูไรคาน – ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี – ฮัตตาน บาเฮบรี

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันเพียงครั้งเดียวในระยะ 30 ปีหลัง เสมอ 0-0 ที่ริยาด เมื่อปี 2012
• และการเจอกันมา 4 ครั้ง อาร์เจนติน่า ไม่เคยแพ้ เป็นชนะ 2 เสมอ 2
• อาร์เจนฯ เพิ่งอุ่นเครื่องยิง ยูเออี 5-0 อังเคล ดิ มาเรีย ซัดสอง ที่เหลือ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮัวกิน กอร์เรอา จัดคนละเม็ด
• อาร์เจนฯ ไม่แพ้ใครมาแล้ว 36 เกม ขออีกนัดเดียวจะเทียบเท่ากับสถิติโลกของ อิตาลี 2018-2021
• ซาเลห์ อัล-เชห์รี กองหน้าจาก อัล-ฮิลาล มีสถิติยิง 10 ลูกจากการเล่นทีมชาติแค่ 20 นัด
• ซาอุฯ นัดทีมจากอเมริกาใต้มาเตะลับแข้ง 3 นัดในช่วงปีที่ผ่านมา ผลคือชนะไม่ได้สักนัด แพ้ โคลอมเบีย 0-1, แพ้ เวเนซุเอลา 0-1 และเสมอ เอกวาดอร์ 0-0

 

ความน่าจะเป็น
แม้ว่า ซาอุฯ จะเป็นทีมหัวแถวของเอเชีย แต่พวกเขามีโอกาสได้เจอกับทีมระดับโลกน้อยมากๆ ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา นั่นหมายถึงประสบการณ์ในเกมระดับนี้ที่น้อยไปด้วย และถึงแม้ อาร์เจนติน่า อาจยังไม่เข้าที่เข้าทางนักเมื่อเป็นเกมแรก แต่ด้วยขุมกำลังระดับคุณภาพของทัพฟ้าขาว โอกาสพลิกล็อกจึงมีน้อยนิด ที่เป็นไปได้มากกว่าคือ อาร์เจนติน่า ชนะขาด

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-0

 

โปรแกรมถัดไป
อาร์เจนติน่า
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 02.00 — อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
พุธ 30 พฤศจิกายน — 02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า

ซาอุดีอาระเบีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 20.00 — โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย
พุธ 30 พฤศจิกายน — 02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก