Match prediction

สวิตเซอร์แลนด์ จะประเดิมนัดแรกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเฉือน แคเมอรูน

สวิตเซอร์แลนด์ จะประเดิมนัดแรกฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเฉือน แคเมอรูน

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม จี สวิตเซอร์แลนด์ – แคเมอรูน

สวิตเซอร์แลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

สวิตเซอร์แลนด์ มีดีพอจะตามบราซิลเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022 ตามบราซิลไหม (ภาพ: Keystone / Urs Flueeler)

แคเมอรูน ฟุตบอลโลก 2022

หลังจากฟุตบอลโลก 1990 แคเมอรูน ก็ไม่เคยสร้างซอร์ไพรส์อะไรได้อีกเลย พวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter @CAF_Online)

เกมในกลุ่ม จี วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) Thai PBS/ True Sports 2: กลุ่ม จี ที่มีบราซิลเป็นตัวเก็งทั้งแชมป์กลุ่ม และถูกมองไปไกลถึงแชมป์โลก จะเปิดสนามด้วยการเจอกันของทีมจากยุโรป ทำให้สามทีมที่เหลือในกลุ่ม สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน รวมถึง เซอร์เบีย คือทีมที่ต้องมาแย่งชิงอันดับสองของกลุ่มให้ได้ เพื่อจะได้เข้ารอบ 16 ทีมตามบราซิลไป ซึ่งจะว่าไปแล้ว ศักยภาพของสามทีมที่ว่านั้น ก็ออกมาใกล้เคียงกันเหลือ และทำให้การชิงที่สองของกลุ่ม จี กลายเป็นความเข้มข้นทุกนัด เพราะมันคือการแย่งที่นั่งในรอบ 16 ทีมทุกเกม

เส้นทางก่อนการเจอกันของสวิตเซอร์แลนด์และแคเมอรูน

สวิตเซอร์แลนด์ถือว่ามาฟุตบอลโลกในแบบสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อเขี่ยแชมป์ยุโรปอิตาลีให้ไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ หลังจากทำได้ดีมาก ๆ ในเกมยูโรป 2022 ที่ไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นการโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่อง แต่ปัญหาของพวกเขาก็คือ สถิติในฟุตบอลโลกนั้นไม่ได้สวยหรูเช่นในรอบคัดเลือก ส่วนแคเมอรูน ต้องลงเล่นในรอบเพลย์ออฟของทวีปแอฟริกา กับอัลจีเรียและผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยกฏยิงประตูทีมเยือน หลังเสมอกัน 2-2 และแน่นอนด้วยความมหัศจรรย์ที่โรเจอร์ มิลล่า และเพื่อน ๆ ทำเอาไว้ในฟุตบอลโลกที่อิตาลี เมื่อปี 1990 ทำให้พวกเขาดูเหมือนว่า มีสถิติที่ดีกว่าทีมจากยุโรป แต่เอาเข้าจริง ๆ หลังจากการทะลุไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้ในครั้งนั้น แคเมอรูนก็ไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้อีกเลย

กับการที่แชมป์กลุ่มถูกจองไปแล้วโดยบราซิล ทำให้การเจอกันของทั้งสามทีมที่เหลือ กลายเป็นนัดชิงที่สองทุกนัด และแคเมอรูนก็ถือว่ามีโอกาสดีกว่าเพื่อน เพราะกว่าจะได้พบกับทีมแซมบ้าก็คือนัดสุดท้าย หากเก็บชัยชนะจากสองนัดแรกเอาไว้ได้ หรือเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด สถานการณ์ในนัดสุดท้ายของพวกเขา ก็จะไม่ได้ต้องวิกฤติมากนัก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ต้องมาเจอสวิตฯ ที่กำลังฟอร์มดีพอดีในช่วงนี้ กระทั่งทีม อย่าง โปรตุเกส หรือว่าสเปน ก็ยังเอาไม่อยู่ และก็ต้องการเปิดหัวเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะไปเจอเกมยาก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบราซิลในนัดต่อไป และที่น่าสนใจก็คือ แม้จะเอาดีไม่ค่อยได้ในฟุตบอลโลก หากนับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา พวกเขาพลาดเข้ารอบ 16 ทีมเพียงแค่ครั้งเดียว

ทั้งสองทีมพบกันครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ถ้านับการเจอกันของสวิตเซอร์แลนด์กับทีมจากแอฟริกา พวกเขาทำได้ไม่ดีนัก เพราะจาก 15 นัดก่อนหน้า สวิตแพ้กับชนะเท่ากัน 6 นัด และเสมอดี 3 นัด

ความพร้อมของนักเตะสวิตเซอร์แลนด์และแคเมอรูน

ยานน์ ซอมเมอร์ นายประตูคนเก่งของสวิตฯ​ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง เมื่อเพิ่งฟื้นจากอาการเจ็บหลัง ที่เป็นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่การลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกับกาน่า ที่สวิตเซอร์แลนด์พ่ายไป 2-0 ก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะเปิดฉากก็เต็มไปด้วยสัญญาณที่ดี ฯ และน่าจะพร้อมลงเล่น เช่นเดียวกับ ฟาเบียน ชาร์, กรานิต ซาก้า, เดนิส ซาคาเรีย และเซอร์แดน ชาคีรี่ ที่ทำให้ทีมกากบาท เปิดสนามด้วยตัวผู้เล่นที่ฟูลล์ทีมก็ว่าได้

แคเมอรูนมีปัญหากับอาการบาดเจ็บของสตาร์จากนาโปลี อังเดร-แฟรงก์ แซมโบ แอนกิสซ่า แต่ก็น่าจะลงเล่นได้ แม้จะไม่สมบูรณ์ 100% โดยจับคู่กับเอ็มโบโม่ ซึ่งจะช่วยให้ชูโป-โมติง ดาวยิงของทีม ที่อยู่ในช่วงฟอร์มเก่ง มีกำลังสนับสนุนที่ดี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของสวิตเซอร์แลนด์และแคเมอรูน

สวิตเซอร์แลนด์ ระบบ 4-2-3-1: ซอมเมอร์; วิดเมอร์, ชาร์, อะคันจิ, ร็อดริเกวซ; ฟรอเลอร์, ซาก้า; ชาคีรี่, โซว์, วาร์กาส; เอ็มโบโล่
แคเมอรูน ระบบ 4-3-3: โอนาน่า; เอบอสเซ, คาสเทลเล็ตโต, เอ็นคูลู, ฟาย; นิตแชม, แซมโบ้ แอนกิสซ่า, กูเอ็ต; เอ็มโบโม่, ชูโป-โมติง, เอคัมบี้

ผลการแข่งขันระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และแคเมอรูน

เกมนัดนี้ความเข้มข้นจะไปอยู่ที่การปะทะกันของกลุ่มผู้เล่นแดนกลาง ที่เมื่อเทียบกันแล้ว สวิตเซอร์แลนด์น่าจะมีความมั่นคง และต่อเนื่องมากกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาน่าจะเก็บชัยเหนือแคเมอรูนได้ในแบบเฉือนหวิว

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม จี งานสบายของทีมเมืองกาแฟ แต่ใครที่จะตามพวกเขาเข้ารอบ
2. ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
3. แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี
4. แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ส่งกล้องมองผ้า เสื้อทีมในรอบสุดท้ายของกลุ่ม อี – เอช

อุรุกวัย vs เกาหลีใต้ : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

อุรุกวัย vs เกาหลีใต้ : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช : อุรุกวัย vs เกาหลีใต้
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อุรุกวัย
อันดับ 3 โซนอเมริกาใต้
เตะ 18 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 6 ยิงได้ 22 เสีย 22

เกาหลีใต้
อันดับ 2 กลุ่มเอ รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 13 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อุรุกวัย
อุ่นเครื่อง ชนะ เม็กซิโก 3-0
อุ่นเครื่อง เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ปานามา 5-0
อุ่นเครื่อง แพ้ อิหร่าน 0-1
อุ่นเครื่อง ชนะ แคนาดา 2-0

เกาหลีใต้
EAFF E-1 ชนะ ฮ่องกง 3-0
EAFF E-1 แพ้ ญี่ปุ่น 0-3
อุ่นเครื่อง เสมอ คอสตาริกา 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ แคเมอรูน 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0

 

ผลการพบกัน
8 นัด อุรุกวัยชนะ 6 เสมอ 1 เกาหลีใต้ชนะ 1

 

สภาพทีม
อุรุกวัย
เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัย (ยุคโบราณ 1930 และ 1950) เป็นอันดับ 3 โซนอเมริกาใต้ตามมาตรฐาน แต่ช่วงหลังก็ถือว่าเข้าฝักดีทีเดียว ปีนี้ลงเล่นไป 9 นัด ชนะได้ถึง 7 เกม ที่เหลือเสมอ 1 แพ้ 1 เท่านั้น และล่าสุดอุ่นเครื่องตบ แคนาดา 2-0 ดาร์วิน นูนเยซ กดหนึ่งเม็ด

 

สำหรับการมาฟุตบอลโลก 2022 คงถือเป็นการสั่งลาหลายๆ ตัวเก๋าของทีมจอมโหด ไม่ว่าจะ หลุยส์ ซัวเรซ ในวัย 35, เอดินสัน คาวานี่ 35, มาร์ติน กาเซเรส 35, แฟร์นานโด มุสเลร่า 36 และ ดีเอโก้ โกดิน 36

 

ส่วนของความพร้อม กุนซือ ดีเอโก้ อลอนโซ่ ที่เข้ามาทำทีมแทนคุณปู่ ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ ซึ่งคุมอยู่นานแสนนาน 2006-2021 นั้น มีปัญหาแค่ โรนัลด์ อเราโฮ เซนเตอร์แบ็กจากบาร์เซโลน่า ที่คาดว่าจะยังไม่ฟื้นฟิตทันเกมนี้ แต่มีสิทธิ์กลับมาได้ในเกมถัดไป ดังนั้นเซนเตอร์แบ็กจะเป็น โกดิน ยืนกับ โฮเซ่ คิมิเนซ

 

ด้านเกมรุกใช้ 3 กองหน้า ดาร์วิน นูนเยซ, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ ลงสู้ ส่วน คาวานี่ นั่งสำรองไปก่อน

 

เกาหลีใต้
โสมขาวเข้ามาด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอ แต่ก็หลุดแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 8 เกมของการคัดเลือก และช่วงหลังมาดีเช่นกัน ชนะ 5 จาก 7 เกมหลังสุด

 

เปาโล เบนโต้ กุนซือชาวโปรตุเกสของเกาหลีใต้ มีต้องเช็กสภาพแค่ ซน ฮึง-มิน ยอดดาวยิงจากสเปอร์ส แค่รายเดียว แต่ก็เชื่อว่าแม้ไม่เต็มถังก็ยังจะถูกเข็นลงสนาม โดยสวมหน้ากากป้องกันอาการบาดเจ็บซ้ำที่ใบหน้าเอา

 

นอกนั้นจะเป็นทีมเดิมๆ ในระบบ 4-3-3 แดนหน้านอกจาก ซน ฮึง-มิน ยังมี ฮวาง อุย-โจ จากโอลิมเปียกอส และ ฮวาง ฮี-ชาน จากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

 

ตัวความหวัง
อุรุกวัย : ดาร์วิน นูนเยซ
กด 34 ประตูกับการเล่นให้ เบนฟิก้า ซีซั่นก่อน จนทำให้ ลิเวอร์พูล ทุ่ม 85 ล้านปอนด์ (รวมออปชั่นเสริม) ดึงมาเสริมทัพ ซึ่งผลงานก็ออกมาไม่เลวเลยกับปีแรกของการเล่นในอังกฤษ สอยไป 9 ประตูจาก 18 นัด ซึ่งพร้อมๆ กันกับที่ เอดินสัน คาวานี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ โรยราไปตามกาลเวลา นูนเยซ วัย 23 ก็ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ในเกมรุกทัพจอมโหดได้ทันที ถึงตรงนี้เล่นทีมชาติ 13 นัด ซัดแล้ว 3 ตุง

 

เกาหลีใต้ : ซน ฮึง-มิน
สิ่งเดียวที่น่าหนักใจคือหลังบาดเจ็บมา ซน ฮึง-มิน จะลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยสภาพความพร้อม 100% เต็มหรือไม่ เมื่อลำพังฝีเท้าไม่เป็นที่ต้องสงสัยอยู่แล้ว ถูกยกว่าเป็นแข้งเบอร์ 1 ของเอเชียยุคนี้ด้วยซ้ำไป จากผลงานที่ร่ายให้ สเปอร์ส ต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า จนถึงขั้นคว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อนมาแล้ว ขณะที่ในทีมชาติ โอปป้าซนยิงไป 35 ลูกจาก 104 นัด

 

11 ตัวจริงที่คาด
อุรุกวัย (4-3-3, กุนซือ ดีเอโก้ อลอนโซ่) แฟร์นันโด มุสเลร่า – มาติอัส โอลิเวร่า, โฮเซ่ คิมิเนซ, ดีเอโก้ โกดิน, กิเยร์โม่ วาเลร่า – โรดริโก้ เบนตันกูร์, ลูคัส ตอร์เรร่า, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ – ดาร์วิน นูนเยซ, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้
เกาหลีใต้ (4-3-3, กุนซือ เปาโล เบนโต้) คิม ซุง-กิว – คิม จิน-ซู, คิม ยัง-กวอน, คิม มิน-แจ, ยุน จอง-กิว – ควอน ชาง-ฮุน, ฮวาง อิน-บอม, จุง วู-ยัง – ซน ฮึง-มิน, ฮวาง อุย-โจ, ฮวาง ฮี-ชาน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาเยอะทีเดียว 8 ครั้ง อุรุกวัย ข่มด้วยการชนะ 6 แต่ล่าสุด ลับแข้งเมื่อปี 2018 เกาหลีใต้ เบียด 2-1 ที่กรุงโซล
• ยังเคยเตะกันในบอลโลก 2 หน 1990 กับ 2010 อุรุกวัยชนะทั้งสองครั้ง 1-0 กับ 2-1
• อุรุกวัย เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 (ก่อนแพ้ฝรั่งเศส 0-2) ถัดจากที่เข้ารอบ 16 ทีม (2014) และคว้าอันดับ 4 (2010) ก่อนหน้านั้น
• แม้ส่วนใหญ่เป็นนักเตะในประเทศ แต่ตัวอิมพอร์ต เล่นลีกยุโรปของ เกาหลีใต้ ก็มีอยู่ถึง 8 ราย โดยอยู่กับ โอลิมเปียกอส ในกรีซ 2 ราย ฮวาง อุย-โจ กับ ฮวาง อิน-บอม
• เกาหลีใต้ นัดทีมจากอเมริกาใต้มาอุ่นเครื่องด้วยถึง 3 นัดเมื่อกลางปี แพ้ บราซิล 1-5, ชนะ ชิลี 2-0 และเสมอ ปารากวัย 2-2

 

ความน่าจะเป็น
ถูกยกให้เป็นหนึ่งในม้ามืดที่น่าจับตาของฟุตบอลโลก 2022 จากการที่ อุรุกวัย กำลังมีนักเตะดีๆ หลายตำแหน่งในทีม กระนั้นหลังจากที่ตัวแทนเอเชีย 2 รายทำผลงานได้สุดยอดไปแล้ว เกาหลีใต้ ก็มีสิทธิ์เป็นอีกทีมที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมเอเชียชั่วโมงนี้ ดังนั้นหมายความว่า นี่จะไม่ใช่งานง่ายของ อุรุกวัย แน่ ชนะได้ก็คงแค่ออกเบียด หรือมุมเสมอก็มีอยู่เหมือนกัน

 

ผลที่คาด : อุรุกวัย ชนะ 2-1

 

โปรแกรมถัดไป
อุรุกวัย
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 — 02.00 — โปรตุเกส vs อุรุกวัย
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 — 22.00 — กาน่า vs อุรุกวัย

เกาหลีใต้
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 — 20.00 — เกาหลีใต้ vs กาน่า
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 — 22.00 — เกาหลีใต้ vs โปรตุเกส

สวิตเซอร์แลนด์ vs แคเมอรูน : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

สวิตเซอร์แลนด์ vs แคเมอรูน : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี : สวิตเซอร์แลนด์ vs แคเมอรูน
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : THAI PBS

 

ผลงานรอบคัดเลือก
สวิตเซอร์แลนด์
แชมป์กลุ่มซี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 ยิงได้ 15 เสีย 2

แคเมอรูน
ชนะ แอลจีเรีย รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกแพ้ แอลจีเรีย 0-1
นัดสองชนะ แอลจีเรีย 1-0, ต่อเวลาชนะ 2-1, เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
สวิตเซอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก แพ้ สเปน 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปรตุเกส 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สเปน 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1
อุ่นเครื่อง แพ้ กาน่า 0-2

แคเมอรูน
คัดเลือก AFCON ชนะ บุรุนดี 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ อุซเบกิสถาน 0-2
อุ่นเครื่อง แพ้ เกาหลีใต้ 0-1
อุ่นเครื่อง เสมอ จาไมก้า 1-1
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อน

 

สภาพทีม
สวิตเซอร์แลนด์
กล้าๆ ยึดแชมป์กลุ่มแล้วเขี่ย อิตาลี ลงเป็นที่สอง (ก่อนร่วงที่รอบเพลย์ออฟ) เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 อย่างสวยงาม กระนั้นในช่วงหลังฟอร์มก็ดร็อปลงไปพอตัว แม้จะมีเกมที่ชนะทั้ง โปรตุเกส และ สเปน ก็ตาม

 

ล่าสุด สวิตเซอร์แลนด์ ลงลับแข้งกับ กาน่า แล้วแพ้สบาย 0-2 เมื่อ 17 พ.ย.

 

ความพร้อมของ มูรัต ยาคิน กุนซืออดีตดาวเตะคนดัง มีต้องเช็กแค่ประตูมือหนึ่ง ยานน์ ซอมเมอร์ ที่เจ็บข้อเท้าเล็กๆ ก่อนหน้านี้ แต่ก็คาดว่าจอมหนึบจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค จะฟื้นฟิตพร้อมเฝ้าเสาได้ตามปกติ ส่วน สตีเว่น ซูเบอร์ เจ็บจนไม่ได้มาเล่นบอลโลก และ เควิน เอ็มบาบู ไม่ถูกเรียกตัว

 

ระบบมา 4-2-3-1 วาง รูเบน วาร์กาส, ชิบริล โซว์, เซอร์ดาน ชากิรี่ ปั้นเกมรุกหลังหอกเป้า บรีล เอ็มโบโล่ ที่เป็นตัวเลือกก่อน ฮาริส เซเฟโรวิช

 

แคเมอรูน
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาได้อย่างลุ้นระทึก แพ้ แอลจีเรีย ในรอบ 3 นัดแรก ก่อนนัดสองยิง แอลจีเรีย คืน 1-0 ใน 90 นาที จากนั้นต่อเวลาพิเศษโดนยิงตีเสมอ 1-1 น.118 แต่สุดท้ายทดเจ็บ 120+4 มาได้ประตูชัย 2-1 ซึ่งช่วยให้พวกเขาเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน จากผลเสมอ 2-2 หลังต่อเวลา

 

อย่างไรก็ตาม 4 เกมหลังสุดไม่ชนะใครเลย เสมอ 2 แพ้ 2 ในเกมอุ่นเครื่องเตรียมทีมก่อนบอลโลก

 

ทีมหมอผีอยู่ในการทำทีมของ ริโกแบร์ ซง อดีตกองหลังคนดังของ ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม, กาลาตาซาราย ฯลฯ ที่ขยับจากการทำทีมชุดยู-23 มาคุมชุดใหญ่แทน โทนี่ คอนไซเซา เมื่อช่วงต้นปี

 

ซง ไม่มีปัญหาเรื่องขุมกำลัง โดยสามารถใช้ชุดที่ดีที่สุดได้ ในระบบเพลย์เซฟ 4-1-4-1 หอกเป้าทิ้งค้ำไลน์ไว้ตัวเดียวคือ เอริก มักซิม ชูโป-โมติง

 

ตัวความหวัง
สวิตเซอร์แลนด์ : เซอร์ดาน ชากิรี่
หลบไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกาค่อนข้างเร็ว เมื่อตอนนี้ อดีตดาวเตะลิเวอร์พูลเพิ่งจะอายุ 31 เท่านั้น และยังคงเป็นคีย์แมนเกมรุกของทัพนาฬิกาอยู่เช่นเดิม พร้อมสถิติยิง 26 ประตูจากการเล่นทีมชาติ 109 นัด ด้วยสไตล์การเล่นทะลุทะลวงพลังแรงสูง และมีทีเด็ดที่การยิงไกล ส่วนการเล่นให้ ชิคาโก้ ไฟร์ ซีซั่นล่าสุด 2022 (ที่จบไปแล้ว) ชากิรี่ ซัด 7 ลูกจาก 29 นัด

 

แคเมอรูน : เอริก มักซิม ชูโป-โมติง
กองหน้าที่ว่ากันว่าดวงแข็งที่สุดคนหนึ่งของวงการ จากหอกทื่อๆ ไม่ค่อยมีชั้นเชิงสมัยอยู่ สโต๊ค ซิตี้ ใครจะเชื่อว่าเขาได้เข้าร่วมทีมยักษ์ใหญ่ทั้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิค ในเวลาต่อมา โดยครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมาก็เล่นดีเสียด้วย ยิง 11 ลูก จนถูกโยงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าจะมาคว้าตัวไปตอนตลาดเปิด ส่วนในทีมชาติ กองหน้าก้านยาววัย 33 เล่นมาแล้ว 69 นัด ยิง 19 ประตู

 

11 ตัวจริงที่คาด
สวิตเซอร์แลนด์ (4-2-3-1, กุนซือ มูรัต ยาคิน) ยานน์ ซอมเมอร์ – ริคาร์โด้ โรดริเกซ, มานูเอล อคานจี, ฟาเบียร์ ชาร์, ซิลวาน วิดมอร์ – กรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรอยเลอร์ – รูเบน วาร์กาส, ชิบริล โซว์, เซอร์ดาน ชากิรี่ – บรีล เอ็มโบโล่
แคเมอรูน (4-1-4-1, กุนซือ ริโกแบร์ ซง) อันเดร โอนาน่า – เอ็นโซ เอบอสเซ่, นิโกลัส เอ็นคูลู, ชอง-ชาร์ลส์ คาสเตลเล็ตโต้, คอลลินส์ ฟาย – มาร์ติน ฮอนกลา – คาร์ล โตโก-เอคัมบี้, ฟร้องค์ ซัมโบ-อองกิสซ่า, โอลิวิเย่ร์ เอ็นชาม, บริยอง เอ็มเบโม่ – เอริก มักซิม ชูโป-โมติง

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้ไม่เคยพบกันมาก่อนเลยสักครั้ง แม้แต่เกมกระชับมิตรอุ่นเครื่อง
• 10 เกมหลังในทุกถ้วย สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ไปถึง 5 โดยมีช่วงหว่างกลางที่ไม่ชนะใคร 5 เกมซ้อน
• แคเมอรูน ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดกันแล้ว หรือไม่ชนะใครเลยตลอดครึ่งปีหลังมานี้
• สวิตเซอร์แลนด์ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายบอลโลกได้ 3 จาก 4 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ ยืนแท่นอันดับ 3 ดาวซัลโวสูงสุดของชาติ 33 ประตู เทียบเท่า แพทริค เอ็มโบม่า โดยตามหลังเบอร์ 2 โรเจอร์ มิลล่า (43) สิบลูก และเบอร์ 1 ซามูแอล เอโต้ (56) อยู่ 23 ประตู

 

ความน่าจะเป็น
แรกสุดคือฟอร์มช่วงหลัง ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง ถัดมาคือ ทั้งสองไม่ใช่ทีมที่พังประตูได้เป็นล่ำเป็นสัน แถมอีกอย่างว่า ทั้งคู่ก็เน้นเกมรับเหนียวแน่นเป็นหลัก ทำให้มีโอกาสที่คู่นี้จะลงเอย 0-0 อีกเกมของฟุตบอลโลก 2022 หรือเต็มที่ก็จะตัดสินกันด้วยเพียงประตูเดียวเท่านั้น

 

ผลที่คาด : เสมอ 0-0

 

โปรแกรมถัดไป
สวิตเซอร์แลนด์
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — บราซิล vs สวิตเซอร์แลนด์
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 — 02.00 — เซอร์เบีย vs สวิตเซอร์แลนด์

แคเมอรูน
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — แคเมอรูน vs เซอร์เบีย
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 — 02.00 — แคเมอรูน vs บราซิล

เบลเยี่ยม ปีศาจแดงแห่งยุโรป จะหลอนแคนาดา ที่จะประเดิมประตูแรกของชาติ ในฟุตบอลโลก 2022

เบลเยี่ยม ปีศาจแดงแห่งยุโรป จะหลอนแคนาดา ที่จะประเดิมประตูแรกของชาติ ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 ของกลุ่ม เอฟ เบลเยี่ยม-แคนาดา

เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ทีมยุคทองของเบลเยี่ยม อาจจะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเองหนสุดท้าย (ภาพ: Twitter @BelRedDevils)

 

แคนาดา ฟุตบอลโลก 2022

เจ้าภาพฟุตบอลโลกหนต่อไป จะสร้างชื่อให้โลกรับรู้ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 เลยหรือไม่ (ภาพ: Canada Soccer / Martin Bazyl)

เกมในกลุ่ม เอฟ วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดThairath TV/ True Sports 2: เบลเยี่ยมหรือปีศาจแดงแห่งยุโรป อันดับ 3 จากฟุตบอลโลก 2018 จะประเดิมสนามนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการพบกับแคนาดา ที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าอันดับ 1 ในโซนคอนคาแคฟ มาร่วมโม่แข้งในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986

โรเบอร์โต้ มาร์ติเนซ จะมีผู้เล่นชุดอันดับ 3 จากรัสเซียติดทีมมาด้วยถึง 8 คน ขณะที่อติบา ฮัตชินสัน กัปตันทีมแคนาดา คือผู้เล่นคนเดียวในทีมของโค้ช จอห์น เฮิร์ดแมน ที่เกิดทันแคนาดาได้เล่นฟุตบอลโลกหนก่อนตอนปี 1986 โดยตอนนั้นเขาอายุแค่ 3 ขวบ แน่นอนว่า ย่อมจำอะไรไม่ได้เลย

เส้นทางก่อนการเจอกันของเบลเยี่ยมและแคนาดา

เอเด็น อาซาร์ เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

กลายเป็นนักเตะตัวรองของสโมสรไปแล้ว ซึ่งผิดจากทีมชาติ และเช็คความเยี่ยมยอดของอาซาร์ได้ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AFP)

ทั้งสองทีมไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย และมีสถิติ 5 นัดหลังไม่ต่างกัน ขนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 แต่ที่ไม่เหมือนกันก็คือ ทีมที่เจอ เมื่อเบลเยี่ยมได้เจอกับทีมอย่าง เนเธอร์แลนด์ (2 นัด), เวลส์ (2 นัด) และโปแลนด์ ในเกมเนชั่นส์ ลีกของยูเอฟ่า แต่แคนาดา ได้ปะทะแข้งกับ บาห์เรน, อุรุกวัย, กาตาร์, ฮอนดูรัส และคูราเซา ที่่ทั้งหมดเป็นเกมกระชับมิตรหรืออุ่นเครื่อง

แม้จะมีผู้เล่นชุด “ยุคทอง” ติดทีมมาเพียบ แต่เบลเยี่ยมก็ต้องเจอปัญหาเรื่องอายุของผู้เล่น โดยเฉพาะในแนวรับ ซึ่งสถิติ 6 นัดหลังฟ้องอยู่ว่า พวกเขาเก็บคลีนชีตไม่ได้เลย เมื่อโทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ กับแยน แฟร์ตองเก้น ต่างอยู่ในจุดสุดท้ายของการค้าแข้ง ส่วนลีอันโดร เดนดองเคอร์ ก็ยังเล่นไม่ได้ในระดับที่สองผู้เฒ่าของทีมทำได้ ซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนที่ไม่ใช่แค่แคนาดาเท่านั้นใช้เล่นงานพวกเขา เพราะทีมอื่น ๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับเบลเยี่ยมก็น่าจะมองเห็นเช่นกัน

ความพร้อมของนักเตะเบลเยี่ยมและแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ นักเตะดาวรุ่งของแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งของแคนาดาเท่านั้น แต่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของชาตินี้ด้วย (ภาพ: Getty Image)

โธมัส มูนิเยร์ ที่พลาดเล่นเกมบุนเดสลีก้า 5 นัดหลังสุดให้กับโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ เนื่องจากโหนกแก้มร้าว และติดทีมมาด้วย ลงซ้อมพร้อมกับใส่เครื่องป้องกันร่วมกับเพื่อน ๆ ได้แล้ว ส่วนพี่ตู้ โรเมลู ลูกากู ที่ลงเล่นให้อินเตอร์ มิลานนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพราะอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหลัง แล้วติดทีมมาด้วยเช่นกัน น่าจะยังไม่พร้อมลงเล่นในนัดแรกของทีมที่กาตาร์ และบางทีต้องรอให้ทีมผ่านไปเล่นรอบ 16 ทีมเลยด้วยซ้ำ โดยมาร์ติเนซมีตัวเลือกอย่าง บัตชัวยี่ และดรีส เมอร์เทนส์ เอาไว้ทดแทน

แคนาดาต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญจากบาเยิร์น มิวนิก อัลฟอนโซ่ เดวิส ที่มีปัญหากับกล้ามเนื้อโคนขาหลังตั้งแต่ลงเล่นให้เสือใต้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเดวิสพลาดเกมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลกของทีมชาติทั้ง 2 นัด และน่าจะต้องลุ้นเช็คความฟิตก่อนเตะไม่กี่ชั่วโมง โดยหากลงเล่นได้ เดวิสจะขยับขึ้นมาเล่นตำแหน่งปีก ไม่ใช่แบ็คอย่างในสโมสร สถานการณ์ของอติบา ฮัตชินสัน ก็ไม่ต่างกัน เมื่อเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ และต้องรอลุ้นสภาพร่างกายอีกครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเบลเยี่ยมและแคนาดา

เบลเยี่ยม ระบบ 3-4-2-1: กูร์ตัวส์; เดนดองเคอร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเก้น; มูนิเยร์, วิตเซล, ตีเลมองส์, คาร์รัสโก้; เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์ด; บัตชัวยี่
แคนาดา ระบบ 3-4-3: บอร์ยาน; จอห์นสตัน, วิคตอเรีย, มิลเลอร์; ลาร์เยีย, ยูสตาควิโอ, ฮัตชินสัน, อะเดคุกบี; บูคาแนน, ลาริน, เดวิด

ผลการแข่งขันระหว่างเบลเยี่ยมและแคนาดา

แคนาดาเป็นหนึ่งในห้าทีมที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยยังยิงประตูไม่ได้ และเฮิร์ดแมนก็หวังว่า ลูกทีมน่าจะเบิกประตูแรกได้สำเร็จในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกในฟุตบอลโลกหนน้า ซึ่งก็พอมีความเป็นไปได้ เมื่อดูอายุอานามและความเร็วแนวรับของเบลเยี่ยม แต่ถึงแคนาดาจะทำได้ ขุมกำลังในแดนอื่นของปีศาจแดงแห่งยุโรป ก็มีศักยภาพมากพอที่จะทวงประตูคืน โดยเฉพาะบรรดาผู้เล่นในแดนกลาง ซึ่งทำให้ชัยชนะของแคนาดาถ้าหากเกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์

ดูแล้ว แคนาดาน่าจะทำประตูแรกในฟุตบอลโลกได้ แต่ก็น่าจะพ่ายเบลเยี่ยมไปแบบสกอร์ทิ้งห่างไม่น่าจะเกิน 2 ประตู

เรื่องน่าอ่าน:
1. กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา
2. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
3. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
4. แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

เบลเยียม vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เบลเยียม vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : เบลเยียม vs แคนาดา
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น. (เช้าตรู่วันพฤหัสบดี 24)
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ไทยรัฐทีวี

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เบลเยียม
แชมป์กลุ่มอี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 25 เสีย 6

แคนาดา
แชมป์รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 23 เสีย 7

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เบลเยียม
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เวลส์ 1-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1
อุ่นเครื่อง แพ้ อียิปต์ 1-2

แคนาดา
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮอนดูรัส 1-2
อุ่นเครื่อง ชนะ กาตาร์ 2-0
อุ่นเครื่อง แพ้ อุรุกวัย 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ บาห์เรน 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ ญี่ปุ่น 2-1

 

ผลการพบกัน (1 นัด)
อุ่นเครื่อง 1989 แคนาดา 0-2 เบลเยียม

 

สภาพทีม
เบลเยียม
ผ่านเข้ารอบแบบไร้พ่ายจากรอบคัดเลือกโซนยุโรป กระนั้นช่วงหลังฟอร์มก็ออกแกว่งพอสมควร แพ้มารวด 2 นัดหลัง อันเป็นเกมสุดท้ายของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่พ่าย เนเธอร์แลนด์ 0-1 และอุ่นเครื่องเมื่อไม่กี่วันก่อน แพ้ อียิปต์ 1-2 ที่คูเวต

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสแปนิชของทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป ยังถูกคาดหมายว่าจะคุมทีมในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้เป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้าย ภายหลังอยู่บนเก้าอี้มาพักใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 และร่วมสร้างยุคทองให้ เบลเยียม เต็มไปด้วยนักเตะระดับคุณภาพ แต่กลับมีร่องรอยตำหนิตรงที่ไม่มีแชมป์รายการใดติดมือเป็นชิ้นเป็นอัน ดีที่สุดคือเป็นอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

 

สำหรับความพร้อมของ เบลเยียม ในเกมนี้ มาร์ติเนซ ไม่สามารถใช้งาน โรเมลู ลูกากู ดาวยิงเบอร์หนึ่งเจ้าของสถิติ 68 ประตูในนามทีมชาติ ได้ หลังจากหัวหอกอินเตอร์ มิลาน เจ็บต้นขาจนไม่ได้เล่นมาตั้งแต่สิ้นเดือน ต.ค.

 

ที่ต้องเช็กฟิตยังมี เลอันโดร ทรอสซาร์ ตัวปั้นเกมฟอร์มแรงจากไบรท์ตัน และ โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวาดอร์ทมุนด์ แต่ก็เชื่อว่าทั้งสองจะพร้อมเป็นตัวเลือกในที่สุด

 

การขาด ลูกากู ทำให้หน้าเป้าจะเป็นโอกาสของ มิชี่ บัตซูอายี่ โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เอแด็น อาซาร์ เป็นตัวปั้นเกมสนับสนุน

 

แคนาดา
ทัพเมเปิ้ลได้กลับมาโชว์ตัวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง หลังหายหน้าไปตั้งแต่ได้เล่นหนแรกเมื่อปี 1986 หรือช่วงที่นักเตะแทบทั้งหมดในทีมชุดนี้ยังไม่ทันลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ (ยกเว้นแค่กัปตันทีม อติบา ฮัทชินสัน เกิดปี 1983)

 

แต่มาคราวนี้ถือว่า แคนาดา น่าเกรงขามทีเดียว ด้วยการผงาดแชมป์ของรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ เหนือขั้วอำนาจเก่าทั้ง เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา แถม แคนาดา ยังเอาชนะทั้งสองชาติ รวมไปถึง คอสตาริกา โดยตรงในรอบคัดเลือกครั้งนี้ด้วย

 

แคนาดา คุมทีมโดย จอห์น เฮิร์ดแมน โค้ชชาวอังกฤษ ที่ขยับจากทีมชาติฝ่ายหญิง (2011-2018) มารับงานนี้ และในทีมมีดาวเด่นอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส (บาเยิร์น), โจนาธาน เดวิด (ลีลล์), ไคล์ ลาริน (คลับ บรูช), สตีเฟ่น ยุสตากิโต้ (ปอร์โต้) เป็นแกนนำ

 

เฮิร์ดแมน ไม่มีปัญหาในการจัดทีมเกมนี้ โดยจะวางระบบเปิดหน้าแลก 4-3-3 อัลฟอนโซ่ เดวิส ขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ส่วนสามกองหน้าเป็น โจนาธาน เดวิด, ไคล์ ลาริน และ ทาจอน บัคคาแนน

 

ตัวความหวัง
เบลเยียม : เควิน เดอ บรอยน์
สร้างชื่อขึ้นเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก และมาตรฐานสูงๆ ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมในซีซั่นนี้ ที่ยิง 3 ประตู แอสซิสต์อีกถึง 13 กับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 19 นัด จนตัวจบสกอร์อย่าง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ แทบจะควักเงินจ้าง เดอ บรอยน์ ไปเป็นผู้ช่วยส่วนตัวนอกสนามอยู่แล้ว สำหรับในทีมชาติ (94 นัด 25 ประตู) เดอ บรอยน์ ก็ถือเป็นทีเด็ดทีขาดที่ทุกคู่แข่งต้องระวังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะลูกจ่ายคมๆ หรือการชงเองกินเองที่มิดฟิลด์วัย 31 พร้อมจัดให้ได้หมด

 

แคนาดา : อัลฟอนโซ่ เดวิส
นักเตะที่ดีที่สุดในยุคนี้ของ แคนาดา หรือกระทั่งอาจจะดีที่สุดตลอดกาล โตมากับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ก่อนที่มหาอำนาจฟุตบอลเยอรมันอย่าง บาเยิร์น มิวนิค จะทุ่มเงินเป็นสถิติ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมโบนัสเสริมในอนาคต) คว้าตัวไปปั้นต่อ ตอนที่ เดวิส อายุได้แค่ 17-18 เท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีคำว่าผิดหวัง เมื่อเจ้าหนูเชื้อสายกาน่าพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด เป็นตัวหลักให้กับทัพเสือใต้มาแล้วเป็นปีที่ 4 พร้อมกระแสยกย่องว่าเป็น “แบ็กซ้ายเบอร์ 1 โลก” จากบางฝ่าย ที่สำคัญ ยังสารพัดประโยชน์ทางกราบซ้าย จนการใส่ชื่อไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ เดวิส ไปในฐานะตัวเลือก “กองหน้า” ด้วยซ้ำ

 

11 ตัวจริงที่คาด
เบลเยียม (3-4-2-1, กุนซือ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ) ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ยาน แฟร์ตองเก้น, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ – ยานนิค การ์รัสโก้, อักเซล วิตเซล, ยูรี่ ตีเลมันส์, โธมัส มูนิเยร์ – เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ – มิชี่ บัตชูอายี่
แคนาดา (3-4-3, กุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน) มิลาน บอร์ยาน – คามาล มิลเลอร์, สตีเว่น วิตอเรีย, อลิสแตร์ จอห์นสตัน – อัลฟอนโซ่ เดวิส, สตีเฟ่น ยุสตาคิโอ, อติบา ฮัทชินสัน, ริชี่ ลาร์เยีย – ไคล์ ลาริน, โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาครั้งเดียวเมื่อปี 1989 เบลเยียม ชนะไม่ลำบาก 2-0
• เบลเยียม มีนักเตะที่เล่นทีมชาติเกิน 100 นัดถึง 6 รายในทีมชุดนี้ (แฟร์ตองเก้น 142, วิตเซล 127, อัลเดอร์ไวเรลด์ 124, อาซาร์ 123, เมอร์เทนส์ 107, ลูกากู 102)
• อติบา ฮัทชินสัน กัปตันแคนาดา อ่อนกว่ากุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน แค่ 7-8 ปี
• ไคล์ ลาริน ยิงในทีมชาติ 25 ประตู ส่วน โจนาธาน ดาวิด 22 ลูก

 

ความน่าจะเป็น
เบลเยียม ไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดหรือพีคๆ เหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน และจะเจองานไม่ง่ายจาก แคนาดา ที่แม้จะเป็นการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสมัยแรกถัดจาก 1986 ก็ตาม เพียงแต่อย่างไรเสีย อย่างน้อยที่สุดหนึ่งเม็ดก็น่าเจาะเข้า แล้วค่อยลุ้นต่อกับเม็ดสองเพิ่มเติม

 

ผลที่คาด : เบลเยียม ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
เบลเยียม
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 20.00 — เบลเยียม vs โมร็อกโก
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม

แคนาดา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — โครเอเชีย vs แคนาดา
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

สเปน กระทิงดุ จะมีชัยเหนือคอสตาริก้า ในฟุตบอลโลก 2022

สเปน กระทิงดุ จะมีชัยเหนือคอสตาริก้า ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 ของกลุ่ม อี สเปน-คอสตาริก้า

สเปน ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

กระทิงดุ สเปน จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

คอสตาริก้า ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

คอสตาริก้ามาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟชนะนิว ซีแลนด์ (ภาพ: www.concacaf.com)

เกมในกลุ่ม อี วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) True4U/ True Sports 2: สเปน ทีมกระทิงดุ พบกับคอสตาริก้า ที่ผ่านเข้ารอบด้วยการชนะเกมเพลย์ออฟกับนิวซีแลนด์ ที่ฝ่ายแรกดูเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และกับการที่ต้องเจอกับทีมแกร่งร่วมสาย เยอรมนีในนัดที่สอง ทำให้สเปนต้องเปิดหัวให้สวยที่สุด เพื่อที่จะมีแต้มเต็มในมือ ก่อนจะไปเจอกันในนัดวัดว่าใครที่จะเป็นที่ 1 ในกลุ่ม หรือใครที่จะพลาดอดเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งน่าประหลาดใจอยู่เหมือนกัน ที่สื่อหลายสำนัก หรือบ่อนพนันถูกกฎหมายทั้งหลาย ไม่ได้มองว่าสเปนจะไปไกลถึงขั้นคว้าแชมป์โลก ทั้ง ๆ ที่ทีมกระทิงดุชุดนี้เต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์มากมาย และบางทีหลุยส์ เอ็นริเก้โค้ชของทีม ก็อาจจะแฮปปี้ด้วยซ้ำที่ถูกมองข้าม เพราะทีมจะได้มีสมาธิกับเกมได้อย่างเต็มที่

คอสตาริก้าแม้จะไม่ใช่ทีมใหญ่ระดับหัวแถว แต่พวกเขาก็มีอดีตที่น่าจดจำในฟุตบอลโลก เมื่อสามารถทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ในปี 2014 แล้วการเป็นทีมที่เล่นรับเหนียวแน่น รอฉวยโอกาส เกมนัดนี้ไม่น่าจะเป็นงานง่ายสำหรับสเปนที่เน้นรุก และครองบอลเป็นหลักแน่ ๆ

เส้นทางก่อนการเจอกันของสเปน-คอสตาริก้า

สเปน กระทิงดุ จะมีชัยเหนือคอสตาริก้า ในฟุตบอลโลก 2022

เปดรี้

การมารับตำแหน่งของหลุยส์ เอ็นริเก้ประเหมาะพอดีกับจังหวะการเปลี่ยนผ่านของสเปน ขณะที่การเลือกตัวผู้เล่นของเขา ก็ทำให้ทีมชุดนี้กลายเป็นทีมพลังหนุ่มเต็มตัว เมื่อเต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อย ที่สำคัญทีมผ่านการทดสอบมาแล้วเรียบร้อย กับการผ่านไปถึงรอบรองชนะเลิศของยูโร 2022 และเนชั่นส์ ลีกในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมา

คอสตาริก้าเองก็มีสถิติที่น่าสนใจ เมื่อเป็นชาติที่ขยับอันดับของฟีฟ่าได้สูงที่สุดในปี 2022 เมื่อกระโดดขึ้นมาถึง 14 อันดับ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็อยู่ต่ำกว่าสเปนที่อยู่อันดับ 7 ถึง 24 อันดับ

ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 3 หน และสเปนไม่เคยแพ้ เสมอ 1 และชนะ 2 โดยครั้งสุดท้ายที่เจอกันในปี 2017 สเปนขย่มทีมจากคอนคาแคฟไม่เลี้ยง 5-0 ขณะที่เกมห้านัดหลังก่อนฟุตบอลโลก 2022 สเปนชนะไปถึง 4 จาก 5 เกม โดยมีถึง 3 เกมที่ไม่เสียประตูเลย คอสตาริก้าชนะ 4 เสมอ 1 เพราะขณะที่สเปนเจอกับสวิตเซอร์แลนด์ 2 นัด, โปรตุเกส, สาธารณรัฐเช็ก ปิดท้ายด้วยการอุ่นเครื่องเบา ๆ กับจอร์แดน คู่ปรับของคอสตาริก้าคือ ไนจีเรีย, อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้ และนิว ซีแลนด์ กับมาร์ตินิก ซึ่งเป็นเกมเพลย์ออฟและรอบคัดเลือกตามลำดับ ที่เห็นได้ชัดว่าคุณภาพของคู่แข่งแตกต่างกันเยอะ

ความพร้อมของนักเตะสเปนและคอสตาริก้า

หลุยส์ เอ็นริเก้ ดูจะแฮปปี้กับระบบ 4-3-3 เป็นพิเศษ แล้วก็เน้นเรื่องทีมสปิริต เพื่อพาทีมไปสู่ความสำเร็จ โดยในแดนหน้า แม้แฟร์ราน ตอร์เรส จะเป็นดาวยิงสูงสุดของทีมในรอบคัดเลือก แต่คนที่น่าจะลงเป็นหน้าเป้าก่อน ก็ยังเป็นอัลวาโร โมราต้า โดยเปดรี้, กาบี้ และบุสเก็ตส์ คือห้องเครื่องของทีม ส่วนรายงานผู้เล่นบาดเจ็บ ก็มีโฆเซ่ กายาที่ข้อเท้าบิดระหว่างฝึกซ้อม ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นนัดแรก หรือในทัวร์นาเมนต์นี้ได้หรือไม่ เซซาร์ อัซปลิกวยต้ายังคงมีอาการเจ็บน่องมาจากเกมเชลซีเจอกับนิวคาสเซิล แม้น่าจะทันลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่คงไม่ทันนัดนี้

หลุยส์​เฟอร์นานเดซ ซัวเรซ โค้ชคอสตาริก้า ตั้งความหวังไว้ว่าแนวรับของทีม จะยันสเปนเอาไว้ให้นานที่สุด โดยน่าจะแพ็คเกมตรงกลางให้แน่น เพื่อจัดการกับเปดรี้และกาบี้ ทำให้แอนโธนี คอนเตรราสน่าจะเป็นกองหน้าตัวเดียว โดยมีโจล แคมป์เบลล์อดีตเด็กอาร์เซน่อลเป็นตัวสนับสนุน และตอนนี้ไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บจากคอสตาริก้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของสเปนและคอสตาริก้า

สเปน ระบบ4-3-3: ซิมง; คาร์บาฆาล, ลาปอร์ต, เปา ตอร์เรส, อัลบา; เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี้; ออลโม, โมราต้า, วิลเลียมส์
คอสตาริก้า ระบบ 4-5-1: นาบาส; คาร์ลอส มาร์ติเนซ, คัลโว, ดูอาร์เต้, โอวีโด; บอร์เจส, เทเจดา, เบนเน็ตต์, ทอร์เรส, แคมป์เบลล์; คอนเตราส

ผลการแข่งขันระหว่างสเปนและคอสตาริก้า

ถึงแม้จะเป็นทีมที่เล่นเกมรุก แต่ไม่น่าเชื่อว่า สเปนจะไม่มีศูนย์หน้าที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ โมราต้าเป็นตัวหลักก็จริง แต่ก็ไม่ใช่นักเตะที่เรียกได้ว่าเป็นดาวซัลโว และทำให้เกมนี้น่าจะมีประตูเกิดขึ้นไม่มากนัก เพราะคอสตาริก้าเองก็เป็นทีมที่เล่นรับแน่นเป็นหลัก เห็นได้ชัดจากจำนวนประตูที่เสียไปในรอบคัดเลือกแค่ 8 ประตู เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่การออกสตาร์ตที่ง่ายสำหรับสเปนแน่ ๆ ต่อให้ครองบอลอยู่ฝ่ายเดียว หากก็น่าจะหาช่องเจาะได้ไม่ง่ายนัก แต่เมื่อถามถึงทีเด็ดทีขาด กับทีมที่ผู้รักษาประตู เคย์เลอร์ นาบาสคือสตาร์ดังที่สุดของทีม สเปนน่าจะได้แต้มตามต้องการ แต่ด้วยจำนวนประตูที่ไม่น่าทิ้งห่างมากนัก ถึง 3 ลูกได้ก็คือเซอร์ไพรส์ เพราะกระทั่งรอบคัดเลือก เฉพาะทีมยุโรปที่มากาตาร์ พวกเขาคือทีมยิงประตูได้น้อยที่สุด ถ้าไม่นับรวมลูกจุดโทษ

เรื่องน่าอ่าน
1. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี เมื่อกระทิงดุ ท้าชนอินทรีเหล็ก ใครจะเป็นที่หนึ่งในสาย
2. ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ
3. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
4. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
5. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

สเปน vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

สเปน vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : สเปน vs คอสตาริกา
พุธ 23 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม, โดฮา
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
สเปน
แชมป์กลุ่มบี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 15 เสีย 5

คอสตาริกา
อันดับ 4 รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เพลย์ออฟต่างโซน ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
สเปน
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปรตุเกส 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์แดน 3-1

คอสตาริกา
เนชั่นส์ ลีก ชนะ มาร์ตินีก 2-0
เพลย์ออฟบอลโลก ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เกาหลีใต้ 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ไนจีเรีย 2-0

 

ผลการพบกัน
3 นัด สเปนชนะ 2 เสมอ 1

 

สภาพทีม
สเปน
หลุยส์ เอ็นริเก้ พากระทิงดุเจ้าของแชมป์โลก 1 สมัยเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลงานค่อนข้างดี รวมถึงในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ก็ชนะ โปรตุเกส ในนัดตัดสินจนครองแชมป์กลุ่ม ได้ไปต่อในรอบชิงแชมป์ ปีหน้า

 

สิ่งเดียวที่ขัดใจแฟนๆ คือการที่ เอ็นริเก้ เลือกขุมกำลังนักเตะมาลุยบอลโลกแบบยึดถือในแนวทางตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่สนใจกระแสสังคม จนตัวดีๆ อย่าง ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด) หรือ ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า) ได้แค่ดูบอลโลกจากที่บ้านทั้งหมด แม้บางตัวจะหลุดไปเพราะบาดเจ็บก็ตาม

 

ส่วนในราย โฆเซ่ กาย่า แบ็กซ้ายบาเลนเซีย ถอนตัวออกไปจากทัพ 26 คน หลังบาดเจ็บแทรกซ้อน โดยเป็น อเลฮานโดร บัลเด้ เด็ก 19 จากบาร์ซ่า เข้ามาแทนที่

 

คาดว่าไลน์อัพจะไม่ต่างจากช่วงหลังมากนัก ระบบ 4-3-3 ประตูเป็น อูไน ซิมอน แดนกลางบาร์ซ่าเหมาทั้ง เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี ส่วนแนวรุกเชื่อว่า ปาโบล ซาราเบีย จะได้เล่นร่วมกับ อัลบาโร่ โมราต้า และ เฟร์ราน ตอร์เรส

 

คอสตาริกา
ทีมกล้วยหอมจากคอนคาเคฟ ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 6 และทัวร์นาเมนต์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยเคยสร้างผลงานสุดยอดไว้ในฟุตบอลโลก 2014 ที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

คอสตาริกา ต้องออกแรงใช่ย่อยในการผ่านรอบคัดเลือกงวดนี้ เมื่อต้องตัดสินในรอบเพลย์ออฟต่างทวีปกับ นิวซีแลนด์ และเบียดชนะสุดหวิว 1-0

 

ในการทำทีมของ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ คอสตาริกายังมาด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ อย่าง เคย์เลอร์ นาวาส, ไบรอัน โอเวียโด้, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, กัปตันทีม ไบรอัน รุยซ์ และ โจเอล แคมป์เบลล์ ที่รวมตัวกันมาตั้งแต่บอลโลก 2014 แล้ว

 

ตัวความหวัง
สเปน : อัลบาโร่ โมราต้า
แมว 9 ชีวิตแห่งทัพกระทิงดุ เมื่อต่อให้ฟอร์มในระดับสโมสรจะออกทะเลขนาดไหน ก็ยังมีที่ยืนในทีมชาติอยู่ตลอดเวลา รวมถึงกับชุดปัจจุบันทั้งที่ผลงานกับ แอตเลติโก มาดริด ไม่ได้สวยหรูนัก (5 ประตูซีซั่นนี้) ซึ่งปัจจัยอย่างหนึ่งอาจเพราะ สเปน ขาดแคลนหน้าเป้าแท้ๆ ลักษณะเดียวกับ โมราต้า ด้วย กระนั้นก็ต้องให้เครดิตกับหัวหอกวัย 30 ด้วยเหมือนกันว่าก็ทำผลงานได้ดีจริงในทีมชาติ สองปีหลังกดไป 9 ประตู รวมแล้วมี 27 ลูกจาก 57 นัด

 

คอสตาริกา : โจเอล แคมป์เบลล์
ดังมานาน สร้างชื่อมาจนถึงจุดพีคแล้วก็ดร็อปลงไปจนแฟนบอลแทบจะลืมหน้ากันแล้ว แต่แท้ที่จริง อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลรายนี้เพิ่งจะอายุ 30 ถ้วนเท่านั้นเอง โดยตอนที่เป็นแข้งปืนโต เขาอายุแค่ 22-23 เท่านั้น จากนั้นก็ย้ายออกไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันอยู่กับ คลับ เลออน ในเม็กซิโก และยังคงเฝ้ารับใช้ชาติอยู่ต่อไป เล่นแล้ว 119 นัด ซัด 25 ประตู หนึ่งในนั้นก็คือประตูสำคัญดับ นิวซีแลนด์ จนพาให้ คอสตาริกา มาเล่นฟุตบอลโลก 2022

 

11 ตัวจริงที่คาด
สเปน (4-3-3, กุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้) อูไน ซิมอน – จอร์ดี้ อัลบา, อายเมอริก ลาป๊อร์กต์, เปา ตอร์เรส, ดานี่ การ์บาฆัล – เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี – ปาโบล ซาราเบีย, อัลบาโร่ โมราต้า, เฟร์ราน ตอร์เรส
คอสตาริกา (4-3-3, กุนซือ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ) เคย์เลอร์ นาวาส – ไบรอัน โอเวียโด้, ออสการ์ ดูอาร์เต้, ฟรานซิสโก้ กัลโว, คาร์ลอส มาร์ติเนซ – ไบรอัน รุยซ์, แกร์สัน ตอร์เรส, เยลท์ซิน เตเฮด้า – โจเอล แคมป์เบลล์, อันโธนี่ คอนเตรราส, เซลโซ่ บอร์เกส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• สเปน ไม่เคยแพ้ คอสตาริกา มาก่อนในการนัดเตะลับแข้งกัน 3 เกมก่อนหน้านี้ ล่าสุดปี 2017 สเปน ยิงแหลก 5-0 ที่มาลาก้า
• สเปน แพ้แค่นัดเดียวจากการเล่น 11 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 8 เสมอ 2 แพ้ 1)
• คอสตาริกา ก็แพ้แค่นัดเดียวจากการเล่น 13 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 1)
• สเปน ชุดนี้ มีแค่ 2 คนที่ยิงประตูในทีมชาติได้เกิน 10 ลูก คือ อัลบาโร่ โมราต้า (27) กับ เฟร์ราน ตอร์เรส (13)
• คอสตาริกา ชุดนี้ มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไป มากถึง 11 คน สูงวัยสุดคือ ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีมวัย 37

 

ความน่าจะเป็น
แม้ สเปน จะแกว่งๆ อยู่บ้างในช่วงหลัง แต่ขุมกำลังของพวกเขาคือนักเตะระดับคุณภาพแทบทั้งสิ้น ในขณะที่ คอสตาริกา ยังคงต้องพึ่งพาหน้าเก่าๆ แข้งตกยุคอย่าง โจเอล แคมป์เบลล์, ไบรอัน รุยซ์ หรือ เคย์เลอร์ นาวาส อยู่เลย ซึ่งหมายถึงว่าคงไม่ได้มีอะไรใหม่มาโชว์นัก หากว่า สเปน เล่นได้ตามแผนและใช้โอกาสไม่เปลือง ก็น่าจะผ่านได้ไม่ยาก

 

ผลที่คาด : สเปน ชนะ 3-1

 

โปรแกรมถัดไป
สเปน
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 02.00 — สเปน vs เยอรมนี
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน

คอสตาริกา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จะเปิดสนามกลุ่ม อี ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2022

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จะเปิดสนามกลุ่ม อี ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม อี เยอรมนี – ญี่ปุ่น

เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

เยอรมันนี จะล้างอายจากฟุตบอลโลก 2018 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้หรือไม่ (ภาพ: thedailyguardian.com)

 

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

เกมในกลุ่ม อี วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอด 7HD/ True Sports 2: นัดแรกของกลุ่มอี เป็นการเจอกันของแชมป์โลก 4 สมัย เยอรมนี ที่เพิ่งคว้าแชมป์หนสุดท้ายไปเมื่อ 8 ปีก่อนที่บราซิล กับทีมแกร่งจากเอเชีย – ญี่ปุ่น ซึ่งหลังตกรอบแรกแบบน่าเกลียดที่รัสเซีย แน่นอนว่าอินทรีเหล็กไม่ได้มองแค่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเท่านั้น หากทุกอย่างต้องเริ่มด้วยการออกสตาร์ตที่ดี เพราะคู่แข่งที่เหลือคือ สเปน ทีมโคตรแกร่งอีกทีม และคอสตาริก้า ที่พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์

เส้นทางก่อนการเจอกันของ เยอรมนี – ญี่ปุ่น

ฮันซี่ ฟลิค ทีมชาติเยอรมัน ฟุตบอลโลก 2022

ฮันซี ฟลิค โค้ชเจ้าของภารกิจ พาทีมชาติเยอรมันนี กลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง (ภาพ: Marcus Brandt/dpa via AP)

เยอรมนีเดินทางมากาตาร์พร้อมภารกิจล้างอาย หลังจากฟุตบอลโลกหนก่อนพวกเขาในฐานะแชมป์เก่าต้องตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะย่ำแย่ซ้ำในยูโร 2020 จนโยอาคิม เลิฟ ที่นำพวกเขาคว้าแชมป์โลกต้องลงจากเก้าอี้ และฮันซี่ ฟลิคที่ทำทีมบาเยิร์น มิวนิกประสบความสำเร็จอย่างสวยงามเข้ามารับหน้าที่แทน และนี่คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่หนแรกของเขา ส่วนญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฟุตบอลโลก 2018 แบบโคตรหวุดหวิด เพราะสะสมใบเหลืองน้อยกว่าเซเนกัล หลังสถิติทุกอย่างก่อนหน้าในกลุ่มเท่ากันหมด

แม้สถานการณ์ของเยอรมนีอาจจะขาดความสม่ำเสมอ แต่ฟลิคก็เชื่อว่าพวกเขาน่าจะสานต่อการเล่นนัดแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ชนะ 7 จาก 8 ครั้งหลังสุดได้สำเร็จ ต่างจากญี่ปุ่นที่ชนะนัดแรกในฟุตบอลโลกแค่ 2 จาก 6 นัดหลังสุด รวมถึงยังไม่ได้เล่นเกมที่มีการแข่งขันจริง ๆ จัง ๆ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะที่ห้านัดหลังสุดของเยอรมนี ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยเจอคู่แข่งแกร่ง ๆ อย่างอังกฤษ, อิตาลี และฮังการีที่กำลังกลับมาในยุโรป ส่วนญี่ปุ่น ชนะสหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้ แพ้แคนาดา เสมอเอกวาดอร์และเกาหลีใต้

แม้จะล้มเหลวในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติ 2 รายการติดต่อกัน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เยอรมนีเจอสถานการณ์แบบนี้ และเมื่อเกิดขึ้น พวกเขาก็กลับมาได้ทุกครั้งไป ซึ่งบางทีจุดเปลี่ยนอาจจะเกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้โดยเริ่มจากนัดนี้ก็เป็นได้

ความพร้อมของนักเตะเยอรมนีและญี่ปุ่น

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดเขายอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

ถึงจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด แต่เยอรมนีก็มีนักเตะคุณภาพเสมอ ชุดนี้ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น กัปตันทีม โธมัส มุลเลอร์ กับแก๊งบาเยิร์น มิวนิก – แซร์ก กนาร์บรี้, เลรอย ซาเน่, โจชัว คิมมิช รวมถึงดาวรุ่ง จามาล มูเซียล่า ที่การเล่นด้วยกันเป็นประจำของนักเตะกลุ่มนี้ กลายเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับทีม โดยนัดนี้ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ จากอาร์เบ ไลป์ซิกที่ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย 34 นาที น่าจะพร้อมลงช่วยทีม หลังสัมผัสเกมระดับสโมสรแค่นัดเดียว ก่อนบาดเจ็บที่ข้อเท้าเมื่อเดือนสิงหาคม แต่คงไม่ใช่ 11 คนแรก ส่วนโธมัส มุลเลอร์กับอันโตนิโอ รือดิเกอร์ ถึงไม่ได้ลงเล่น แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา และน่าจะเป็นการเก็บตัวให้พร้อมลงเล่นนัดแรกของทีมมากกว่า แต่ก่อนเตะไม่กี่ชั่วโมงก็มีข่าวว่าซาเน่จะพลาดนัดนี้ เนื่องจากเจ็บเข่า 

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

ญี่ปุ่นที่เป็นทีมระดับหัวแถวของเอเชียไปแล้ว มีนักเตะที่เล่นในลีกยุโรปไม่น้อย แต่จะไม่มียูยะ นากายาม่า จากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ที่ต้องผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย ซึ่งเรียกซูโตะ มาชิโนะ มาแทนเรียบร้อย วาตารุ เอ็นโดะ ที่ถูกหามออกจากสนามในเกมนัดสุดท้ายของสตุ๊ตการ์ตก่อนศึกฟุตบอลโลก ติดทีมมาด้วย ทาเคฮิโร โทมิยาสุที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในเกมยูโรป้าลีก นัดอาร์เซน่อลชนะเอฟซี ซูริก เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน และลงเล่นเกมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลกนัดเจอกับแคนาดาในฐานะตัวสำรอง น่าจะพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับพวกตัวเก๋า ๆ ของทีม มายะ โยชิดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ และทาเคฟูซะ คูโบะ ดาวรุ่งของเรอัล โซซิดัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเยอรมนีและญี่ปุ่น

เยอรมนี ระบบ 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, ซูเล่, รือดิเกอร์, รวม; คิมมิช, โกเร็ตซก้า; ฮอฟมันน์, มูเซียลา, มุลเลอร์; ฮาแวร์ตซ์
ญี่ปุ่น ระบบ 4-2-3-1: ชมิดต์; ซากาอิ, โยชิดะ, โทมิยาสุ, นากาโตโมะ; ชิบิซากิ, มอริตะ; จุนยะ อิโต, คามาดะ, คูโบะ; มินามิโนะ

ผลการแข่งขันระหว่างเยอรมนีและญี่ปุ่น

จะว่าไปแล้วนักเตะและแฟนบอลเยอรมนี น่าจะคุ้นกับนักเตะญี่ปุ่นไม่น้อย เมื่อหลายรายเคยเล่นหรือกำลังเล่นอยู่ในลีกเยอรมนี ขณะเดียวกัน เกมของเยอรมนีก็เป็นเรื่องที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างดี แถมทั้งสองทีมยังเล่นไม่ต่างกัน เน้นการคอนโทรลเกม ให้บอลกันเป็นกลุ่ม ๆ แล้วพยายามเปลี่ยนการครองบอลให้กลายเป็นเกมรุก ด้วยการจ่ายบอลทะลุแนวรับ โดยที่ไม่มีหน้าเป้าที่ตายตัว

แน่นอนว่าโอกาสชนะของอินทรีเหล็กมีมากกว่าทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยแน่ ๆ แต่การที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ผ่านเกมในยุโรปมานักต่อนัก ใช่ว่าญี่ปุ่นจะไม่มีโอกาส หากท้ายที่สุด ก็ต้องยอมรับในมาตรฐานของเยอรมัน ที่น่าจะบดชนะไปได้หวุดหวิด

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

เยอรมนี vs ญี่ปุ่น : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี vs ญี่ปุ่น : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : เยอรมนี vs ญี่ปุ่น

พุธ 23 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เยอรมนี
แชมป์กลุ่มเจ โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 36 เสีย 4

ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เยอรมนี
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ฮังการี 1-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ อิตาลี 5-2
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮังการี 0-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ อังกฤษ 3-3
อุ่นเครื่อง ชนะ โอมาน 1-0

ญี่ปุ่น
EAFF E-1 เสมอ จีน 0-0
EAFF E-1 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2

 

ผลการพบกัน
4 นัด เกมอุ่นเครื่องทั้งสิ้น เยอรมนีชนะ 2 เสมอ 2

 

สภาพทีม ฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี
ตัวแทนยุโรปรายแรกที่่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกหนนี้ หมายมั่นปั้นมือเต็มที่จะมาแก้ตัวจากการตกรอบแรกอย่างสุดช็อคในครั้งก่อน ซึ่งเป็นผลให้ โยอัคคิม เลิฟ สละเก้าอี้ไป และ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค เข้ามาแทน

 

ผลงานของอินทรีเหล็กในรอบคัดเลือกเป็นไปอย่างร้ายกาจ แต่ก็ออกแผ่วเล็กๆ ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ที่ชนะได้แค่เกมเดียวจาก 6 แมตช์

 

สำหรับความพร้อม ฟลิค ไม่มี มาร์โก รอยส์ ตัวรุกจากดอร์ทมุนด์ และ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงเบอร์แรกจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ตั้งแต่แรก หลังทั้งคู่บาดเจ็บจนไม่พร้อมเล่นบอลโลก นอกนั้น ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, โรบิน โกเซนส์ โดนมองข้ามไปไม่เรียกมาติดธง

 

จาก 26 แข้งที่มี ฟลิค สามารถเลือกใช้ได้ครบถ้วนทุกคนในเกมนี้ ซึ่งด้วยการที่หัวหอกเบอร์ 1 อย่าง แวร์เนอร์ ไม่มา ทำให้คาดว่าจะเป็น โธมัส มุลเลอร์ ขยับขึ้นยืนแทนโดยมี จามาล มูเซียล่า เป็นตัวต่ำคอยสนับสนุน และอาจมีการสลับตำแหน่งกันได้ในระหว่างเกม

 

ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ภายหลังเปิดประเดิมไว้เมื่อปี 1998 ก่อนจะได้เป็นเจ้าภาพร่วมในสี่ปีให้หลัง

 

การมาบอลโลกครั้งนี้ ญี่ปุ่นของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เจอปัญหาพอสมควรกับรอบคัดเลือก ที่ฟอร์มหลุดแพ้ 2 จาก 3 เกมแรก แต่หลังจากนั้นก็กระเตื้องขึ้นได้ จนสุดท้ายเข้าป้ายเป็นรองแชมป์กลุ่ม ซึ่งยังคงได้ตั๋วมารอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ

 

ความพร้อมเกมนี้ โมริยาสุ ต้องเช็กแค่ ทาคุมะ อาซาโนะ ซึ่งโดยปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว โดยคาดว่าเกมรุกจะวาง ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ และ จุนยะ อิโตะ ปั้นเกมสนับสนุนหอกเป้า ทาคุมิ มินามิโนะ

 

ตัวความหวัง
เยอรมนี : จามาล มูเซียล่า
ถูกคาดหมายตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนว่าจะกลายมาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งที่สุดแล้วเจ้าหนูเชื้อสายอังกฤษวัย 19 ก็ทำได้อย่างที่หลายฝ่ายมอง โดยแม้จะเพิ่งยิงไปได้แค่ลูกเดียว แต่ก็ได้สัมผัสเกมระดับชาติมาแล้วถึง 19 นัด และดูจะมีตำแหน่งตัวจริงในการทำทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ด้วย โดยเฉพาะเมื่อซีซั่นนี้กำลังเข้าฝัก กดไปแล้ว 12 ประตูจากการเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค 22 เกม

 

ญี่ปุ่น : ไดอิจิ คามาดะ
อันที่จริง ตัวรุกวัย 26 เพิ่งได้โอกาสเล่นทีมชาติไปเพียง 22 นัดเท่านั้น และมียิง 6 ประตู โดยยังไม่เคยผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการไหนมาก่อนเลย แต่ที่ทำให้ คามาดะ น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ก็คือการคุ้นชินกับฟุตบอลสไตล์เยอรมันๆ เป็นอย่างดี ภายหลังปักหลักเล่นกับ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2017 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังร่ายฟอร์มอย่างโดดเด่นในตลอด 2-3 ปีหลัง ซีซั่นก่อนยิง 9 ลูก ต่อด้วยยิงเยอะถึง 12 ประตูในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

11 ตัวจริงที่คาด
เยอรมนี (4-2-3-1, กุนซือ ฮันซี่ ฟลิค) มานูเอล นอยเออร์ – ดาวิด เราม์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิคลาส ซูเล่, ติโล เคห์เรอร์ – เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โยชัว คิมมิช – เลรอย ซาเน่, จามาล มูเซียล่า, แซร์จ นาบรี้ – โธมัส มุลเลอร์
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, ฮิโรกิ ซากาอิ – กาคุ ชิบาซากิ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ทาคุมิ มินามิโนะ

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันล่าสุดปี 2006 เสมอกัน 2-2 ที่เลเวอร์คูเซ่น
• ไม่นับเจ้าภาพกาตาร์ เยอรมนี คือทีมแรกสุดที่ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ภายหลังชนะ 9 จาก 10 นัดของรอบคัดเลือก
• ฟุตบอลโลกครั้งก่อน เยอรมนี โดนตัวแทนเอเชียอย่าง เกาหลีใต้ ยัดเยียดความปราชัย 2-0 จนตกรอบแรกอย่างสุดช็อก
• นักเตะญี่ปุ่นชุดนี้ เล่นในลีกเยอรมันถึง 8 คน
• นิคลาส ฟุลครุก หัวหอกหน้าใหม่ของเยอรมนี จากเบรเมน ยิงประตูได้ทันทีในเกมประเดิมทีมชาติ นัดชนะ โอมาน 1-0 เมื่อ 16 พ.ย.

 

ความน่าจะเป็น
คงไม่ใช่งานง่ายนักของ เยอรมนี ในการเจอกับทีมวิ่งสู้ฟัดและเทคนิคดีอย่าง ญี่ปุ่น แต่การจะคาดหวังถึงผลเซอร์ไพรส์อย่างที่ ซาอุฯ ทำกับ อาร์เจนติน่า อาจเป็นเรื่องยากไปนิด อย่างไรเสีย ระดับชั้นของอินทรีเหล็กก็ยังเหนือกว่า น่าเอาชนะได้ 1 เม็ดเป็นอย่างน้อย

 

ผลที่คาด : เยอรมนี ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
เยอรมนี
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 02.00 — สเปน vs เยอรมนี
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

ญี่ปุ่น
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะเอาชัยเหนือโมร็อกโก ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของพวกเขา

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะเอาชัยเหนือโมร็อกโก ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของพวกเขา

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรก ของกลุ่ม เอฟ โมร็อกโก – โครเอเชีย

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

เกมในกลุ่ม เอฟ วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาในบ้านเรา) ถ่ายทอด True4U/ True Sports 2: เกมนัดแรกของกลุ่ม เอฟ การโชว์ตัวของโครเอเชีย รองแชมป์เมื่อ 4 ปีก่อน โดยพวกเขาจะเจอกับโมร็อกโก ทีมจากแอฟริกา ที่ในช่วงฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า ทีมตราหมากรุกนั้น อยู่ในช่วงกำลังโรยราและเปลี่ยนผ่าน ที่การส่งต่อไม่ได้ราบรื่นและลงตัวนัก เมื่อยังอาศัยผู้เล่นในชุดรองแชมป์โลกเป็นแกนหลักเหมือนเดิม จนหลาย ๆ คนมองว่า พวกเขาไม่น่าจะไปได้ไกลอย่างที่เคยทำได้

เส้นทางก่อนการเจอกันของโมร็อกโก – โครเอเชีย

ทั้งสองทีมเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวในปี 1996 เป็นเกมกระชับมิตรและจบลงด้วยสกอร์ 2-2 ที่มีการดวลจุดโทษตามมา ซึ่งโครเอเชียคว้าชัยไปได้ ซึ่งไม่สามารถเอามาเป็นมาตรฐานวัดการเจอกันครั้งนี้ได้ เพราะเวลาก็ผ่านมาตั้ง 26 ปีแล้ว ส่วนสถิติในฟุตบอลโลกทีมสิงโตจากแอตลาส เคยสร้างเซอร์ไพรส์ไว้ในฟุตบอลโลก 1986 เมื่อเป็นที่หนึ่งในสาย ที่ประกอบด้วย อังกฤษ, โปแลนด์ และโปรตุเกส ซึ่งนั่นคือครั้งที่พวกเขาไปได้ไกลที่สุด ที่รอบ 16 ทีม ซึ่งตอนนั้นประเทศโครเอเชียยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ ส่วนทีมตราหมากรุก ครั้งแรกที่เข้าร่วมพวกเขาก็เป็นทีมอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 1998 ก่อนจะตกรอบแรกในอีก 3 ครั้งต่อมา แล้วเป็นรองแชมป์ในปีที่โมร็อกโกทำได้แค่ตกรอบแรก

โมร็อกโกถือว่ามาดีในรอบคัดเลือก ทำให้พอมีความหวังว่า จะทำได้อย่างที่ทีมชุด 1986 ทำได้ ซึ่งพวกเขาต้องเอาชนะโครเอเชียหรือไม่ก็เบลเยี่ยมสองทีมจากยุโรปให้ได้ หรือไม่ก็แบ่งแต้มจากทั้งสองนัด แล้วไปเอาชนะแคนาดา

ห้านัดล่าสุดของทั้งคู่ โมร็อกโกชนะ 3 เสมอ 2 โดยหนึ่งในนั้นคือการปราบชิลี 2-0 แต่เมื่อเทียบกับทีมตราหมากรุก ต้องบอกว่าคนละเรื่อง เพราะพวกเขาชนะรวด และ 4 ทีมที่เจอก็คือ เสือ-สิงห์-กระทิง-แรดของยุโรปทั้งนั้นในเกมเนชั่นส์ ลีก ไม่ว่าจะเป็นโคนมที่พวกเขาชนะทั้งไปและกลับ, ฝรั่งเศส แชมป์โลก และออสเตรีย ส่วนนัดหลังสุดก็เก็บซาอุดิอาระเบีย หนึ่งใน 32 ทีมของฟุตบอลโลกครั้งนี้ และการที่โมร็อกโกไม่ได้เจอทีมระดับหัวแถวมากนัก งานของพวกเขาเลยดูยากไปเลย

ความพร้อมของนักเตะโมร็อกโกและโครเอเชีย

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะเอาชัยเหนือโมร็อกโก ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของพวกเขา

ลูก้า โมดริช ดาวเตะที่ดีที่สุดของโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018

สิ่งหนึ่งที่เป็นความเปลี่ยนแปลงของโมร็อกโกก็คือ ฮาคิม ซีเย็ก ที่กลับมาเล่นทีมชาติ หลังมีปัญหากับโค้ชวาฮิด ฮาลิฮอดซิซ จนเลิกเล่น แต่เมื่อฮาลิฮอดซิซถูกปลด แม้จะทำทีมไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของฟุตบอลแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เขาก็กลับมา ที่น่าจะทำให้เกมของทีมยกระดับจากเดิมได้ โดยเฉพาะเกมตามกราบเมื่อยังมีผู้เล่นในแดนนี้อย่าง อาชราฟ ฮาคิมี่ ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดของโลกยุคนี้, นูสแซร์ มาซราอุย จากบาเยิร์น มิวนิก แล้วก็มีผู้เล่นเด่น ๆ จากลีกระดับหัวแถวของยุโรป อย่าง โรเมน ซาอิสส์ หรือยูสเซฟ เอ็น-เนสรี น่าเสียดายที่ไม่มีอามีน ฮาริต เพราะบาดเจ็บจากเกมลีกเอิงนัดสุดท้ายก่อนฟุตบอลโลก แต่ก็เรียก อานาสส์​ ซารูรี จากเบิร์นลีย์ มาแทน ส่วนเซลิม อามาลลาห์ จากสตองดาร์ด ลีเอช ซึ่งไม่ได้เล่นให้สโมสรเลย ตั้งแต่เดือนกันยาฯ ถูกเรียกมาติด และอาจได้ลงเล่น แต่วาลิด เรเกรกุย ที่ยังมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้ออยู่ น่าจะพลาดเกมนัดแรกของทีม

ฝั่งโครเอเชียที่จุดแข็งต่างไปจากโมร็อกโก เมื่อแดนกลางแข็งปั้ก ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บในลิสต์และฟอร์มก็มาดีเหลือเกิน แม้เกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายกับซาอุดิ อาระเบีย มาร์โก ลิวายากับคริสติยาน จากิซ ไม่ติดทีม แต่ก็ไม่มีข่าวเรื่องการได้รับบาดเจ็บ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของโมร็อกโกและโครเอเชีย

โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: บูนู; ฮาคิมี่, อะการ์ด, ซาอิสส์, มาซซาราอุย; อมาลลาห์, อามราบัต, โอนูไฮ; ซิเย็ก, เอ็น-เนยสรี่, โบฟาล
โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิก; จูราโนวิก, ซูตาโล่, กวาร์ดิออล, โซซ่า; โมดริซ, บรอโซวิซ, โควาซิซ ; วลาซิซ, ครามาริก, เปริซิซ

ผลการแข่งขันระหว่างโมร็อกโก – โครเอเชีย

ด้วยสภาพผู้เล่น สภาพฟอร์ม ทีมตราหมากรุกเหนือกว่าสิงโตจากแอตลาสอย่างเห็นได้ชัด และน่าจะเอาชนะไปได้ ในเกมที่พวกเขาน่าจะครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ เล่นเอาแน่นอนเป็นหลัก ซึ่งเป็นมาตรฐานของโครเอเชียไปแล้วก็ว่าได้ แต่สกอร์ไม่น่าจะสูงมากนัก เมื่อดูจากเกมหลัง ๆ ที่พวกเขามักเก็บชัยแบบหวุดหวิด 1-0 เป็นส่วนใหญ่ หากจะมากกว่านี้ ผลต่างประตูได้เสียก็ไม่น่าจะเกิน 2 ลูก

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา
2. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?