ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย
22 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น. (เช้าตรู่พุธ 23 พ.ย.)
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : MONO29

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ฝรั่งเศส
แชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 3

ออสเตรเลีย
ชนะ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ 2-1 รอบ 4 โซนเอเชีย (รอบเพลย์ออฟ)
ชนะจุดโทษ เปรู 5-4 (หลังเสมอ 0-0) รอบเพลย์ออฟต่างทวีป

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ฝรั่งเศส
เนชั่นส์ ลีก เสมอ โครเอเชีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ออสเตรีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เดนมาร์ก 0-2

ออสเตรเลีย
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์แดน 2-1
คัดบอลโลก ชนะ ยูเออี 2-1
คัดบอลโลก เสมอ เปรู 0-0 / ชนะจุดโทษ 5-4
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 2-0

 

ผลการพบกัน
5 นัด ฝรั่งเศสชนะ 3 เสมอ 1 ออสเตรเลีย ชนะ 1

 

สภาพทีม
ฝรั่งเศส
เหมือนจะโดน “อาถรรพ์แชมป์เก่า” กัดกินอย่างน่าแปลกใจ จน ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เสียนักเตะทั้งคนสำคัญและตัวสลับไปอย่างน้อย 7 รายในช่วงที่ผ่านมา ไล่จาก โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่สองรายหลังเจ็บหลังตัดตัว 26 คนสุดท้าย กระทั่งมาถึงรายล่าสุดอย่าง คาริม เบนเซม่า

 

การถอนตัวของ เบนเซม่า เจ้าของบัลลงดอร์ 2022 ทำให้เป็นบอลโลกหนแรกถัดจากปี 1978 ที่ไม่มีเจ้าของรางวัลดังกล่าว เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์

 

กระนั้น หลังจาก เบนเซม่า ถอนตัวไป เดส์ชองส์ ก็ไม่ได้เรียกใครเข้ามาเสริม หลังจากเพิ่มชื่อ มาร์คุส ตูราม (มึนเช่นกลัดบัค) กับ ร็องดาล โคโล มูอานี่ (แฟร้งค์เฟิร์ต) มาในโควตากองหน้าตัวเป้า ถัดจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (เปแอสเช) และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (เอซี มิลาน)

 

ปัญหาของ เดส์ชองส์ ยังมีอย่างเรื่องฟอร์มการเล่นช่วงหลัง ที่ชนะแค่เกมเดียวจาก 6 นัดของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ที่เหลือเสมอ 2 แพ้ 3

 

นอกจากนั้น สภาพร่างกายของ ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ แม้จะเชื่อว่ามีโอกาสลงได้มากกว่าก็ตาม

 

คาดว่าแชมป์เก่าจะมาในระบบ 4-2-3-1 วาง อาเดรียง ราบิโอต์ ยืนกลางคู่ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และให้ อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คิงสลี่ย์ โกม็อง เป็นตัวรุกสนับสนุนหอกเป้า คีลิยัน เอ็มบัปเป้

 

ออสเตรเลีย
ฝั่งทัพจิงโจ้ กว่าจะได้เข้ารอบสุดท้ายมา ต้องเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็นเตะเพลย์ออฟถึง 2 รอบ และกว่าจะโค่นคู่แข่งต่างทวีปอย่าง เปรู ได้ (หลังเสมอ 0-0) ก็ต้องลุ้นหนักถึงจะได้เฮจากการดวลจุดโทษ

 

สภาพทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ ไม่ได้มีปัญหาเท่าฝรั่งเศส โดยเสียแค่ มาร์ติน บอยล์ ถอนตัวไป กับต้องเช็กฟิต แฮร์รี่ ซุตตาร์

 

อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียชุดนี้ ไม่ค่อยจะมีสตาร์ในทีมนักแล้ว ตัวที่เล่นในยุโรปมีจำกัดเช่นกัน อาทิ อาจ์ดิน ฮรุสติช (เวโรน่า), อารอน มอย (เซลติก), แจ๊คสัน เออร์ไวน์ (ซังต์ เพาลี), ฟราน คาราซิช (เบรสชา), ไบลี่ย์ ไรท์ (ซันเดอร์แลนด์) หรือ แฮร์รี่ ซุตตาร์ (สโต๊ค)

 

ตัวความหวัง
ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ต้องกลายเป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป แต่ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ดูพร้อมเต็มที่แล้วในการสวมบทบาทนี้ ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 59 เกม ยิง 28 ประตู และเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังยิงรัวๆ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตลอดหลายปี ซีซั่นนี้ก็มีแล้ว 19 ประตู

 

ออสเตรเลีย : แม็ทธิว เลคกี้
ตัวรุกประสบการณ์สูงวัย 31 ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 73 นัด (13 ประตู) และผ่านรายการใหญ่มาแล้วทั้งฟุตบอลโลก 2 รอบ 2014 กับ 2018, เอเชียน คัพ 2 หน และคอนเฟดฯ คัพ อีกหนึ่ง เวลานี้อยู่ในสังกัด เมลเบิร์น ซิตี้ ภายหลังโกอินเตอร์ไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่นานนับสิบปี กับทั้ง กลัดบัค, เอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต, อิงโกลชตัดท์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เรียกว่าหลังจากหมดยุค แฮร์รี่ คีเวลล์, มาร์ค วิดูก้า หรือ ทิม เคฮิลล์ แล้วก็มี แม็ทธิว เลคกี้ นี่แหละเป็นดาวเด่น

 

11 ตัวจริงที่คาด
ฝรั่งเศส (4-2-3-1, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) อูโก้ โยริส – ลูคัส เอร์นันเดซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, ราฟาแอล วาราน, เบนชาแม็ง ปาวาร์ – อาเดรียง ราบิโอต์, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คิงสลี่ย์ โกม็อง – คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ออสเตรเลีย (4-2-3-1, กุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์) แม็ต ไรอัน – เนธาเนียล แอตกินสัน, แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไค โรว์เลส, อาซิซ เบฮิช – อารอน มอย, คาเมรอน เออร์ไวน์ – อาเวอร์ มาบิล, อาจ์ดิน ฮรุสติช, แม็ทธิว เลคกี้ – เจมี่ แม็คลาเรน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เพิ่งเจอกันมาในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยลงเตะเป็นเกมแรกของกลุ่มด้วย ฝรั่งเศส เฉือนชัย 2-1 จากการยิงตัวเองของ อาซิซ เบฮิช ก่อนจบ 9 นาที
• หนเดียว (จาก 5 นัด) ที่ ออสเตรเลีย ชนะฝรั่งเศสได้ คือใน คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2001 ที่เบียดชนะ 1-0
• ออสเตรเลีย ไปไกลสุดที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งพวกเขาก็ตกรอบอย่างหวุดหวิด โดน อิตาลี ยิงจุดโทษทดเจ็บ 90+5 (ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ)
• บรรดาตัวเลือกกองกลางของฝรั่งเศส มีเพียง อาเดรียง ราบิโอต์ ที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่เกิน 15 นัด (29 นัด 2 ประตู) นอกนั้นอีก 5 ชอยส์ล้วนแต่เล่นทีมชาติไม่เกิน 14 เกม แถม 4 คนในนั้นยังเล่นมาแค่ 5-6 นัดด้วย
• คาริม เบนเซม่า ไม่อยู่ แต่ที่เหลืออย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (28), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (49), อองตวน กรีซมันน์ (42) ถล่มประตูในนามทีมชาติได้รวมกันถึง 119 ลูก โดยเฉพาะ ชิรูด์ ที่ขออีก 3 ประตูจะกลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของฝรั่งเศสเหนือ เธียร์รี่ อองรี (51)

 

ความน่าจะเป็น
สองวันที่ผ่านไปของฟุตบอลโลก 2022 ตัวแทนจากเอเชียโชว์ฟอร์มดูไม่ได้เลยทั้งเจ้าภาพ กาตาร์ และ อิหร่าน ซึ่งแม้ว่า ออสเตรเลีย จะไม่เชิงใช่ทีมของเอเชีย แต่ระดับชั้นก็อยู่ประมาณเดียวกัน และแม้ ฝรั่งเศส จะเจอปัญหาแข้งเดี้ยงเยอะแถมฟอร์มช่วงหลังยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ตัวที่ยังอยู่ก็ล้วนแต่เป็นของจริงทั้งสิ้น ถ้าเล่นกันอย่างลงล็อก เจาะลูกแรกได้เร็ว ก็มีแค่จะยิงได้ 3 หรือ 4 ลูก หรือมากกว่านั้น

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 4-0

 

โปรแกรมถัดไป
ฝรั่งเศส
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 — 22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส

ออสเตรเลีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565 — 22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น