เรื่อง

อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ ปะทะ โปแลนด์ ของเลวานดอฟสกี้ ในเกมชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ ปะทะ โปแลนด์ ของเลวานดอฟสกี้ ในเกมชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม ซี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา

โปแลนด์ – อาร์เจนติน่า ถ่ายทอดทาง True4U/ CH5/ True Sport 2

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

สถานการณ์ของโปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โปแลนด์ถือว่ามาดีทีเดียวในฟุตบอลโลก 2022 เมื่อพวกเขายังไม่เสียประตูเลยจากการลงเล่น 2 นัด และเก็บแต้มได้ 4 คะแนน เป็นทีมนำของกลุ่ม ดี ก่อนเกมนัดสุดท้ายแม้ในเกมแรกพวกเขาจะทำได้แค่เสมอกับเม็กซิโกโดยโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้พลาดจุดโทษ แต่กับเกมที่สอง นักเตะโปลสามารถจัดการกับซาอุดิอาระเบียที่พลิกล็อคช็อคโลกเอาชนะอาร์เจนติน่ามาได้แบบไม่ยากเย็นนัก และในที่สุดเลวานดอฟสกี้ก็มีประตูแรกในฟุตบอลโลก

แต่ถ้าต้องการเข้ารอบ ในเกมสุดท้ายที่เจอกับอาร์เจนติน่า พวกเขาต้องไม่แพ้ จะชนะหรือเสมอก็ได้ ขอให้ซาอุดิอาระเบียไม่ชนะเพียงแค่นี้โปแลนด์ก็จะกลายเป็นที่หนึ่งในกลุ่ม แต่ถ้าเกิดพวกเขาพ่ายอาร์เจนติน่าแล้วเม็กซิโกชนะซาอุดิอาระเบีย อาร์เจนติน่าจะมี 6คะแนน เป็นที่ 1 ในกลุ่ม ส่วนโปแลนด์กับเม็กซิโกต้องมาวัดลูกได้-เสีย ที่หากเท่ากันก็ต้องมาดูประตูได้ หากยังเท่ากันก็ต้องไปดูผลในเกมที่เจอกัน และหากยังตัดสินไม่ได้ก็ต้องว่ากันที่คะแนนแฟร์เพลย์ แล้วถ้ายังไม่จบ ก็เป็นเรื่องของการจับฉลาก

หากโปแลนด์แพ้ และคู่ซาอุดิอาระเบียกับเม็กซิโกเสมอ อาร์เจนติน่าจะเป็นที่ 1 ในกลุ่ม โดยโปแลนด์และทีมอินทรีทะเลทรายจะมี 4 คะแนนเท่ากัน ซึ่งทั้งสองทีมจะต้องมาวัดประตูได้-เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง และคะแนนแฟร์เพลย์ตามลำดับ แต่ถ้าโปแลนด์แพ้และซาอุดิอาระเบียชนะ เลวานดอฟสกี้กับพรรคพวกจะต้องกลับบ้าน

ส่วนอาร์เจนติน่าที่พ่ายช็อคโลกในนัดแรก ก่อนที่ชัยชนะเหนือเม็กซิโกในนัดต่อมา จะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ด้วยการมี 3 แต้มก่อนเกมนัดสุดท้าย ซึ่งถ้าต้องการผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ สิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ได้ก็คือเอาชนะโปแลนด์ โดยที่ซาอุดิอาระเบียต้องไม่ชนะเม็กซิโก แต่ถ้าทั้งทีมฟ้าขาว ทั้งอินทรีทะเลทรายชนะกันทั้งคู่ ก็ต้องไล่ดูประตูได้เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง และคะแนนแฟร์เพลย์ตามลำดับ ซึ่งมีโอกาสที่ไป ๆ มา ๆ ซาอุดิอาระเบียอาจกลายเป็นที่ 1 ในสาย

ถ้าอาร์เจนติน่าทำได้แค่เสมอ พวกเขาต้องหวังให้อีกคู่เสมอด้วยเช่นกัน เพื่อให้ตัวเองเข้าเป็นที่ 2 ในสาย แต่ถ้าฟ้าขาวเสมอและซาอุดิอาระเบียชนะ แชมป์อเมริกาใต้ จะตกรอบ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเม็กซิโกชนะ โปแลนด์จะกลายเป็นแชมป์กลุ่มจาก 5 คะแนน อาร์เจนติน่ากับเม็กซิโกต้องมาวัดกันในเงื่อนไขอื่น ๆ ต่อไป

และในกรณีที่อาร์เจนติน่าแพ้ ฟุตบอลโลก 2022 ของพวกเขาจบลงแล้ว

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของ โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่มีประตูในฟุตบอลโลกในที่สุด จะได้ยืนในแดนหน้าเจอกับอาร์เจนติน่าแน่ ๆ ขณะที่คนที่จะมาเล่นกับดาวยิงรายนี้ โค้ชเชสลอว์ มิชนีวิกซ์ น่าจะเลือก อาร์คาดิอุสซ์ มิลิก ที่ทำหน้าที่ได้ดีในเกมเจอกับซาอุดิอาระเบีย โดยข่าวดีของโปแลนด์ก็คือ พวกเขาไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่มเติม และน่าจะใช้ผู้เล่นในเกมที่แล้วเป็นแกนหลัก เพราะฉะนั้น วอจ์เซียก เชสนี ที่เซฟลูกโทษในเกมที่ผ่านมา แผงแบ็คโฟร์ แม็ตตี้ แคช, คามิล กลิก, จาคุบ คิวิออร์ และบาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ จากสองเกมแรกน่าจะได้ลงครบ

เกรซกอร์ซ ครีโชเวียก ที่เหลืออีกแค่ 4 นัดจะติดทีมชาติครบร้อย จะจับค่กับคริสเตียน บีลิก จากเบอร์มิงแฮม ที่เพิ่งเล่นทีมชาติไป 7 นัดในแดนกลาง โดยมีซีลินสกี้, เพรซมีสลอว์ ฟรานคอฟสกีเล่นริมเส้น

สำหรับอาร์เจนติน่า โค้ชสคาโลนี่ น่าจะมีการปรับผู้เล่น 11 คนแรกอีกครั้ง หลังในเกมก่อนหน้าในหลาย ๆ ตำแหน่งยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ โดยเฉพาะในแนวรับและแดนกลาง ลิซานโดร มาร์ติเนซน่าจะได้จับคู่กับนิโคลาส โอตาเม็นดี้ต่อ แต่ในตำแหน่งแบ็คขวา ต้องเลือกจาก กอนซาโล มอนทีล, นาฮูเอล โมลิน่า และฮวน ฟอยธ์ ส่วนแบ็คซ้าย ก็ต้องเลือกระหว่าง นิโคลาส ทากลิอาฟิโกกับมาร์คอส อะคูญ่า

เฟอร์นานเดซที่สร้างความประทับใจจากการลงเล่นเป็นตัวสำรองทั้งสองนัด อาจจะได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรก ในแดนกลาง ขณะที่เลอันโดร ปาราเดสที่ถูกดร็อปในเกมกับเม็กซิโก อาจกลับมาเป็นตัวจริง

ส่วนแดนหน้า เลาตาโร่ มาร์ติเนซกับอังเจล ดิ มาเรีย น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการเล่นกับเมสซี่ แต่จูเลียน อัลวาเรซและเปาโล ดีบาล่า ก็มีโอกาสสอดแทรกเข้ามาได้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โปแลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงวัย 34 ปี ที่ไร้ประตูในฟุตบอลโลก หลังเพิ่งลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติเพียงครั้งเดียว ที่รัสเซีย 2018 (ภาพ: Rafal Oleksiewicz/PressFocus/MB Media/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของ โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โปแลนด์ ระบบ 4-4-2: เซสนี; แค็ช, กลิก, คิวิออร์, เบเรสซีนสกี้; ซีลินสกี้, บีลิก, ครีโชเวียก, ฟรานคอฟสกี้; มิลิก, เลวานดอฟสกี้
อาร์เจนติน่า ระบบ 4-4-2: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โอตาเม็นดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, อะคูญ่า; ดิ มาเรีย, เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ค อัลลิสเตอร์; เมสซี่, เลาตาโร่ มาติเนซ

เลาตาโร มาร์ติเนซ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

มาร์ติเนซเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญให้ฟ้าขาว คว้าแชมป์อเมริกาใต้ได้สำเร็จ หลังเข้าชิงสามหนหลังกลับบ้านมือเปล่าทั้งหมด (ภาพ: Gustavo Pagano/Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่าง โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

การจบด้วยอันดับ 2 ในกลุ่ม จะทำให้คู่ปรับในรอบน็อคเอาต์คือ ฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่มาดีเหลือเกิน และทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ต้องชนะ ที่โปแลนด์ดูดีกว่าในเรื่องฟอร์มการเล่นที่เข้าที่เข้าทาง แต่อาร์เจนติน่าก็มีแดนหน้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และน่าจะเป็นตัวตัดสินสกอร์ในเกมนี้

อาร์เจนติน่า ชนะ 2-1

เรื่องน่าอ่าน
1. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2.
กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
3. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
5.  
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – เม็กซิโก

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: NBT/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่าจะลงเล่นนัดที่สองในฟุตบอลโลก 2022 หลังเปิดตัวด้วยการพ่ายแพ้สุดช็อค ต่อซาอุดิอาระเบีย ที่กระทั่งลิโอเนล เมสซี่ ถึงกับออกปากว่า “พวกเราตายสนิท” โดยโค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ มีเวลา 4 วันในการฟื้นสภาพจิตใจลูกทีม ที่นอกจากจะเก็บแต้มไม่ได้แล้ว พวกเขายังสูญเสียสถิติลงเล่น 36 นัดไม่เคยแพ้ใคร ที่หากผ่านซาอุดิอาระเบียได้ อาร์เจนติน่าจะมีลุ้นทำสถิติใหม่เหนือทีมชาติอิตาลีได้เลย หากจะบอกว่า หลาย ๆ อย่างที่ทีมฟ้าขาวชุดนี้สั่งสมมา พังลงตรงหน้าในเกมนี้ก็คงได้ และทำให้พวกเขาต้องหาทางพลิกสถานการณ์ กู้หน้าให้ได้ ที่ไม่ใช่แค่เก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลือ หากยังต้องเกิดขึ้นด้วยฟอร์มการเล่นสวย ๆ ในเวลาเดียวกัน และด่านแรกที่พวกเขาต้องจัดการให้ได้ก็คือ เม็กซิโก

ทีมจังโก้เปิดฟุตบอลโลกหนนี้ไม่ได้สวยงามเช่นครั้งก่อน ที่ล้มแชมป์เก่าเยอรมนีได้สำเร็จ แถมเกือบ ๆ จะแพ้ด้วยซ้ำหากนายทวาร กีแยร์โม โอชัวเซฟลูกจุดโทษของเลวานดอฟสกี้ไม่ได้ แดนหน้าของทีมในปีนี้คุกคามคู่ต่อสู้ไม่ได้เนื้อได้หนังเช่นที่ทีมชุดก่อน ๆ เคยทำได้ และในสภาพที่ตัวเองก็ต้องการแต้ม เพื่อผ่านเข้ารอบ ในกลุ่มที่สถานการณ์ยังดูคลุมเครือ ยังไม่รู้ว่าใครที่จะไปยืนในรอบ 16 ทีมสำเร็จ กระทั่งซาอุดิอาระเบียเอง หากพ่ายโปแลนด์ขึ้นมา ทุกอย่างก็เหมือนถูกรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง การเจอกับเสือบาดเจ็บ “หนัก” อย่าง อาร์เจนติน่า ในตอนนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมเลยจริง ๆ สำหรับทีมที่ผูกปีแพ้ทีมฟ้าขาว อย่าง เม็กซิโก

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

เรื่องดีเรื่องหนึ่งหลังการออกสตาร์ตที่น่าผิดหวังก็คือ อาร์เจนติน่าไม่มีรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีนักเตะที่อยู่ในสภาพฟื้นฟูร่างกายให้ต้องเป็นห่วง โดยเปาโล ดีบาล่า จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับแนวรุกให้สคาโลนี่ได้เลือกใช้งาน โดยที่เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเจล ดิ มาเรีย และเมสซี่ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

ในเกมเสมอโปแลนด์ มาร์ติโน่เลือกใช้บริการเฮนรี่ มาร์ติน ก่อนราอูล ฮิมิเนซ​ โดยให้โอกาสกองหน้าจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 20 นาทีสุดท้ายของเกม ด้วยสภาพร่างกายที่กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังได้รับบาดเจ็บก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ไม่นาน ฮิมิเนซน่าจะเป็นตัวเลือกแรกของมาร์ติโน่ในเกมนี้ ซึ่งจะกลายเป็นการลงเล่นตัวจริงในเกมที่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, ปาเรเดส; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ; เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก ระบบ 4-3-3: โอชัว; ซานเชซ, มอนเตส, โมเรโน่, กัญญาร์โด้; ชาเวซ, เอ็ดสัน อัลวาเรซ, เอร์เรร่า; โลซาโน่, ฮิมิเนซ, เวก้า

กิแยร์โม โอชัว จังโก้อันตราย ฟุตบอลโลก 2022

กับการที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ของเขา ทำให้โอชัวคือเสียงแห่งประสบการณ์ของทีมจังโก้อันตรายชุดนี้ (ภาพ: REUTERS/Matthew Childs)

สถานการณ์ของเกมระหว่างอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

หากจะบอกว่า เม็กซิโกคือลูกไล่ของอาร์เจนติน่าคงไม่ผิด เมื่อดูจากสถิติเก่า ๆ โดย 7 นัดหลังสุดที่เจอกัน ทีมฟ้าขาวไม่เคยแพ้เลย และชนะไปถึง 6 นัด โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ให้กับทีมจังโก้อันตราย ก็โน่นปี 2004 กับการที่แพ้เกมเปิดหัว และสถิติไม่แพ้ใครยาวนานถึง 36 นัดจบลง ถือเป็นคราวเคราะห์ของเม็กซิโกก็ว่าได้ ที่ต้องเจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งต้องระเบิดความมุ่งมั่น ความอัดอั้นทุกอย่างในตัวใส่ทีมไหนสักทีม แล้วนอกจากจะไม่แพ้ใครมา 36 นัดแล้ว ภายใต้การคุมทีมของสคาโลนี่ทีมฟ้าขาวยังไม่เคยแพ้ใครติดต่อกันเลย

แล้วกับการที่ต้องการทั้งคะแนน ทั้งกู้ชื่อของตัวเองกลับมา อาร์เจนติน่าคงต้องใส่เต็มที่ และน่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ก่อนจะไปวัดกับโปแลนด์ในนัดสุดท้าย

อาร์เจนติน่าจะชนะจังโก้อันตราย โดยน่าจะยิงได้ถึง 3 ประตู ที่ต้องมาลุ้นกันว่า เม็กซิโกจะเจาะทีมฟ้าขาวได้กี่ประตู

เรื่องน่าอ่าน
1. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

2. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
3. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022
5. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า จะผ่านอินทรีทะเลทราย ซาอุดิอาระเบีย ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบสบาย ๆ

อาร์เจนติน่า จะผ่านอินทรีทะเลทราย ซาอุดิอาระเบีย ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบสบาย ๆ

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

 

ชาติเอเชีย - ซาอุดิ อาระเบีย

ซาอุดิ อาระเบีย เข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีญี่ปุ่น กับออสเตรเลีย ร่วมกลุ่ม (ภาพ: SSAF/Facebook)

เกมในกลุ่ม ซี วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) True4U/ True Sports 2: แน่นอนว่า สายตาของผู้ชมเกมนัดนี้ ย่อมจับจ้องไปที่ลิโอเนล เมสซี่ ที่จะลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ห้า และน่าจะเป็นสมัยสุดท้ายให้กับตัวเอง โดยที่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ระดับชาติมาได้สารพัดขาดก็เพียงถ้วยฟุตบอลโลกเท่านั้น และกับการเจอทีมจากเอเชีย ซาอุดิอาระเบีย น่าจะเป็นการออกสตาร์ตที่สวยหรูของเมสซี่และผองเพื่อน เมื่อดูแล้ว อินทรีทะเลทราย ที่นักเตะส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นลีกจากในประเทศ ดูไม่มีอะไรจะสู้ทีมฟ้าขาวได้เลย นอกจากเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงของกาตาร์ ที่น่าจะทำให้ได้เสียงเชียร์มากเป็นพิเศษ (หรือเปล่า?)

เส้นทางก่อนการเจอกันของ อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ทีมฟ้าขาวมาฟุตบอลโลก 2022 เดินทางมากาตาร์ พร้อมกับสถิติไม่แพ้ใคร 35 นัดรวด และกับเกม 5 นัดก่อนเดินทางมากาตาร์ก็ชนะแบบยิงประตูระเนระนาด และไม่เสียประตูเลย แม้จะไม่เจอกับคู่แข่งแข็ง ๆ สักเท่าไหร่ก็ตามที ยกเว้นอิตาลี แชมป์ยูโร 2020 ที่ตกรถไฟฟุตบอลโลก 2022 เฉย ซึ่งเมสซี่และผองเพื่อนก็สยบได้สบาย ๆ 3-0

ซาอุดิอาระเบีย อาจจะดูดีในรอบคัดเลือก โดยเฉพาะการเป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีตัวเก็งอย่าง ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แต่ฟุตบอลโลกคือความแตกต่าง ทีมที่เจอคืออีกระดับ และจากเกมอุ่นเครื่องก่อนถึงฟุตบอลโลก 5 นัดสุดท้าย ทีมอินทรีทะเลทรายเสมอไป 3 แพ้ 1 ชนะ 1 โดยเจอคู่แข่งที่ไม่ได้แข็งมากนัก อย่าง อัลบาเนีย, ฮอนดูรัส, ปานามา ที่กินกันไม่ลง และชนะไอซ์แลนด์ แล้วมาแพ้ทีมที่เรียกได้ว่า “ของจริง” โครเอเชีย 1-0 ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบียต่างเจอกับฮอนดูรัสทั้งคู่ แต่ขณะที่ทีมจากเอเชียทำได้แค่เสมอ ทีมฟ้าขาวขย่มไป 3-0 ที่ด้วยชื่อชั้น ด้วยฟอร์มการเล่น เชื่อว่าเฮิร์ฟ เรนาร์ด โค้ชของซาอุดิอาระเบีย ไม่น่าคิดไปไกลนักสำหรับนัดนี้ แพ้ให้น้อยที่สุด หรือเก็บแต้มได้คือที่สุดแล้ว โดยอาจจะมองว่าเป็นเกมติวเข้มระดับสุด ๆ ของทีม เพื่อไปหวังแต้มจากนัดอื่น ส่วนอาร์เจนติน่า ก็อาจมองว่าเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ต้องเน้นผล

แล้วอย่าลืมว่า ซาอุดิอาระเบีย เคยมีประสบการณ์อันเลวร้ายกับการลงสนามนัดแรกในฟุตบอลโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะพ่ายเยอรมนียับ 8-0 ในปี 2002 และโดนเจ้าภาพรัสเซียถล่ม 5-0 ในปี 2018

ความพร้อมของนักเตะอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย

คริสเตียน โรเมโร่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียน โรเมโร่ นายใหญ่ในแผงหลังของทีมฟ้าขาว (ภาพ: Alexandre Schneider/Getty Images)

สถานการณ์ทุกอย่างดูราบรื่น แม้จะมีการส่งนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บ โจอาควิน คอร์เรอา กับนิโคลาส กอนซาเลซ กลับบ้าน แล้วเรียกตัวธิอาโก้ อัลเมด้า และอังเจล คอร์เรอา มาเข้าแคมป์ด่วน ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่แน่ ๆ สภาพของลิโอเนล เมสซี่ ที่เป็นหัวใจของทีมอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ และนักเตะคนอื่น ๆ เป็นตัวสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ที่สำคัญ โค้ชลิโอเนล สคาโลนี่สามารถหลอมรวมจิตใจผู้เล่นทั้งทีมเป็นหนึ่งเดียวกันสำเร็จ และเอาชนะใจแฟน ๆ ได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี โดยผู้เล่นที่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมีแค่คริสเตียน โรเมโร่ ที่เจ็บหลัง กับอังเจล ดิ มาเรีย แต่ก็น่าฟิตลงเล่นทัน

ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี อินทรีทะเลทราย ซาอุดิ อาระเบีย ฟุตบอลโลก 2022

ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ผู้เล่นเจ้าของพรสวรรค์ในระดับที่เยี่ยมยอด หลังเปิดตัวในทีมอินทรีทะเลทรายชุดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน (ภาพ: www.the-afc.com)

ซาอุดิอาระเบีย นอกจากจะดูห่างชั้นกว่าในเรื่องชื่อชั้น ฟอร์มการเล่นแล้ว ยังต้องลุ้นซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวเก่งของทีมที่เข้ารับการผ่าตัดเล็ก จะฟื้นตัวแล้วฟิตพอลงเล่นได้หรือเปล่า แต่ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย

อาร์เจนตินา ระบบ 4-3-3: อีมี่ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เปเรเดส, โกเมซ; เมสซี่, เลาตาโร มาร์ติเนซ, ดิมาเรีย
ซาอุดิอาระเบีย ระบบ 4-3-3: โอไวส์; กาหนาม, อัมรี, บูไลไฮ, ชารานี่; นาเจ, ชาราหิลี, ฟาราจ; ดอว์ซารี่, บูไรคาน, บาเฮบรี

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่ากับซาอุดิอาระเบีย

แม้จะเล่น 4-3-3 แต่นัดนี้เชื่อว่า อินทรีทะเลทรายน่าจะเล่นรับลึกกว่าปกติ และศูนย์หน้าของทีมก็ต้องใช้โอกาสที่มีไม่เปลือง เพื่อให้ทีมสร้างผลการแข่งขันที่ช็อคโลกได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวผู้เล่นของซาอุดิอาระเบียเอง คือผู้เล่นจากลีกในประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องประสบการณ์น่าจะอยู่คนละชั้นกับฟ้าขาว และต่อให้รับเหนียว เล่นลึกขนาดไหน ความสามารถเฉพาะตัวที่เหนือกว่าของบรรดาผู้เล่นอาร์เจนติน่า สามารถสร้างความแตกต่างได้มหาศาล ทั้งการใช้ความสามารถเฉพาะตัวบุกเข้าไปทำประตู หรือเรียกลูกโทษ ที่มีตัวเตะลูกนิ่งชั้นดีอยู่ในทีมมากมาย และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ เมสซี่

แม้ทีมใหญ่ ๆ มักจะเจอทีมเล็ก ๆ ปัดแข้งปัดขาเสมอในนัดแรกของฟุตบอลโลก แต่ไม่น่าใช่อาร์เจนติน่า และพวกเขาน่าจะผ่านซาอุดิอาระเบียไปได้ แบบขย่มอยู่ข้างเดียว โดยชนะในแบบเกมศูนย์ และถ้ายิงได้ไม่ถึง 3 ประตู ก็ถือว่าน่าผิดหวัง 

เรื่องน่าอ่าน
1. 
กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
2. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
3. ห้านักเตะอินทรีทะเลทราย – ซาอุดิอาระเบีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022
4. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022

 

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่…

อดใจรอกันอีกแค่เดี๋ยวเดียว สิ่งที่โลกลูกหนังเฝ้าคอยกันมา 4 ปีอย่าง “ฟุตบอลโลก 2022” ก็จะถึงเวลาโรมรันกันแล้ว และโดยไม่ต้องพึ่งแม่หมอพ่อเดา เราก็ทราบผล “แชมป์โลก” ล่วงหน้าเรียบร้อย…ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์สุดอัจฉริยะ!

 

เดินทางเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนกันแล้ว ซึ่งหมายถึงว่าอีกเพียงไม่กี่วันกี่คืนเท่านั้น เสียงนกหวีดแรกแห่ง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ก็จะดังขึ้น

 

20 พฤศจิกายน ลากยาวไปจนเกือบหนึ่งเดือนเต็ม 18 ธันวาคม ที่โลกลูกหนังจะหยุดหมุน เพื่อเว้นวรรคและเป็นสักขีพยานของการช่วงชิงแชมป์รายการที่สำคัญที่สุดของเมืองมนุษย์

 

และก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จริงจะมาถึง เราก็ทราบผลบทสรุปของ กาตาร์ 2022 เรียบร้อยแล้ว… ผ่านการทำนายประมวลผลคิดวิเคราะห์แยกแยะของ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” ในการดูแลของ บีซีเอ รีเสิร์ช (BCA Research) สถาบันวิเคราะห์การลงทุนระดับโลก แห่งประเทศแคนาดา

 

บทวิเคราะห์นี้มีชื่ออันแสนยาวเหยียดว่า “The Most Important Of All Unimportant Forecasts 2nd Edition: 2022 FIFA World Cup ซึ่งเป็นการประมวลผลสถิติตัวเลขหลากหลาย เช่น ผลการแข่งขัน 192 นัดของรอบแรก กับสกอร์ของอีก 64 เกมรอบน็อกเอาต์ ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่ 2006 – 2018, อายุอานามของนักเตะแต่ละทีม จนถึง “ค่าพลัง” ความเร็วและค่าเฉลี่ย Team Average Player Rating ที่ปรากฏอยู่ในเกมฟุตบอลเลื่องชื่ออย่าง FIFA (อันมาจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ชั้นหนึ่งแล้วจากค่ายเจ้าของเกม EA Sport)

 

ข้อมูลทั้งหมดที่มี จะถูกแปลงเป็นสมการยากๆ เช่น yi* = χi’β + ϵi หรือ Pr(yi = win | χi, β, γ) = 1 – ϕ(γ2 – χi’ β) อันจะถูกส่งต่อเข้าสู่ซูเปอร์คอมพิเตอร์อัจฉริยะ เพื่อแปลงผลให้ออกมาจนได้ข้อสรุป

 

“สี่ปีก่อน เราได้เผลผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2018 เอาไว้ นั่นคือครั้งแรกที่เราได้ลองทำนายผลฟุตบอลโลกกันเป็นครั้งแรก” BCA Research ระบุ “มาตอนนี้ เราได้พัฒนาแบบจำลองเชิงปริมาณขึ้นอีก เพื่อคาดการณ์การแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก”

 

“นอกจากแง่ของเกมกีฬาแล้ว เราเราหวังว่ารายงานชิ้นนี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากความผันผวนของตลาดสินทรัพย์, ความตกต่ำอย่างรุนแรงของ ธนาคารกลาง, อัตราเงินเฟ้อที่สูงในรอบหลายสิบปี จนถึงกระทั่งสงครามในยูเครน”

 

สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ผลจากการประมวลคิดวิเคราะห์แยกแยะของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ออกมาว่า “แทบไม่มีเซอร์ไพรส์” บรรดาทีมใหญ่พาเหรดเข้าน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด ไม่มีชาติหัวแถวรายไหนที่หลุดออกจากรอบแรก รวมถึงแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่ยุติ “อาถรรพ์แชมป์เก่า” ลงได้ — แม้จะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มดี ตามหลังของแสลงส่วนตัวอย่าง เดนมาร์ก ก็ตาม

 

ส่วนกลุ่มรวมตัวขาโหด “Group of Death” อย่างกลุ่มอี ที่ประกอบด้วย สเปน, เยอรมนี, คอสตาริกา และ ญี่ปุ่น นั้น ก็เป็น 2 ยักษ์ใหญ่ทวีปยุโรปที่กอดคอเข้ารอบไปด้วยกัน ปล่อยให้ทีมกล้วยหอมจอมซนและ “ซามูไรบลู” สิ้นสุดการผจญภัยในฟุตบอลโลก 2022 ที่เพียงรอบแรก

 

ขณะที่ทีมขวัญใจมหาชน สิงโตคำราม อังกฤษ ไม่เจอปัญหาใดทั้งสิ้นในการผ่านรอบแรก “แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม และ บูกาโย่ ซาก้า อยู่ในฟอร์มที่ดีมากตั้งแต่ซีซั่นนี้เริ่มขึ้น และคุณภาพโดยรวมของคนอื่นๆ จะช่วยให้ อังกฤษ ครองแชมป์กลุ่มอย่างไม่ลำบาก”

 

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

ผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2022 โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ BCA Research

รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ : กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เนเธอร์แลนด์ 2. เซเนกัล

 

กลุ่มบี : อังกฤษ, อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อังกฤษ 2. สหรัฐอเมริกา

 

กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า, ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อาร์เจนติน่า 2. เม็กซิโก

 

กลุ่มดี : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนิเซีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เดนมาร์ก 2. ฝรั่งเศส

 

กลุ่มอี : สเปน, คอสตาริกา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. สเปน 2. เยอรมนี

 

กลุ่มเอฟ : เบลเยียม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เบลเยียม 2. โครเอเชีย

 

กลุ่มจี : บราซิล, เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. บราซิล 2. สวิตเซอร์แลนด์

 

กลุ่มเอช : โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. โปรตุเกส 2. อุรุกวัย

 

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – สหรัฐอเมริกา
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เนเธอร์แลนด์
แม้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เมื่อหนึ่งในตัวเต็งอย่าง เนเธอร์แลนด์ ได้คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็น สหรัฐอเมริกา ที่คู่นี้ไม่เคยได้เจอกันในทัวร์นาเมนต์เป็นทางการมาก่อนเลย (เจอในนัดลับแข้ง 5 ครั้ง) ซึ่งผลก็เป็น “อัศวินสีส้ม” กำชัยได้ตามคาด

 

อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์การเจอกันเมื่อครั้งก่อน รัสเซีย 2018 คราวนั้น ฝรั่งเศส สอนเชิงถล่มเอาชนะ อาร์เจนติน่า สี่เม็ด กระนั้นมาคราวนี้ อาร์เจนติน่า ชำระแค้นได้สำเร็จ ด้วยความลงตัวและคุณภาพที่ชัดกว่าแชมป์เก่า “ฝรั่งเศสมีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากเกินไป โดยเฉพาะในแดนกลาง นี่คือจุดสำคัญทำให้ อาร์เจนติน่า ฉกฉวยความได้เปรียบ”

 

สเปน – โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : สเปน
เพิ่งงัดกันมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 และต้องยืดเยื้อกันถึงต่อเวลา สเปน ถึงเอาชนะได้ 5-3 ภายหลังเสมอสุดเดือด 3-3 ใน 90 นาที มาครั้งนี้ในบอลโลกที่กาตาร์ ไม่เดือดปุดขนาดนั้น และยังคงเป็น สเปน คว้าชัยได้ไปต่อรอบ 8 ทีม

 

บราซิล – อุรุกวัย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
ไม่มีอะไรพลิกโผสำหรับการตัดกันเองของ 2 ตัวแทนจากอเมริกาใต้ หลังจากการพบกันช่วงหลัง ก็เป็น “ลา เซเลเซา” ที่กินขาดอยู่แล้ว — ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บราซิล ไม่แพ้ อุรุกวัย มา 20 ปีเข้าไปแล้ว (ชนะรวด 4 เกมหลัง) และเกมนี้ก็ออกทรงเดิมเช่นเคย

 

อังกฤษ – เซเนกัล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
อาจต้องระแวดระวังหน่อยกับพลังรุกของ ซาดิโอ มาเน่ และความหนักแน่นในเกมรับของ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ แฮร์รี่ เคน และพลพรรคสิงโตคำราม ก็ยังกรีธาทัพผ่าน เซเนกัล ได้อย่างไร้ปัญหา

 

เดนมาร์ก – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เม็กซิโก
ทั้งที่อุตส่าห์คว้าแชมป์กลุ่มมาครองได้เหนือ ฝรั่งเศส แต่เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว โคนมเดนมาร์กของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็กลับเครื่องสะดุดเพลาหักสลักหายฯ ไปเสียดื้อๆ แพ้พลิกล็อกต่อ เม็กซิโก จนร่วงตกรอบ หมดลายม้ามืดที่หลายฝ่ายคาดหมาย เป็นทัพจังโก้อันตรายที่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

เบลเยียม – เยอรมนี
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เยอรมนี
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ของรอบ 16 ทีม เบลเยียม ลงสนามไปด้วยความหวังตั้งใจจะคว้าชัยชนะเพื่อส่งต่อ “ยุคทอง” ของตัวเองไปให้ไกลที่สุด ทว่า เยอรมนี ก็เป็นคู่แข่งที่หนักหนาสาหัสเกินไปเสียแล้ว บทสรุปคือยุคทองปีศาจแดงฯ (เดอ บรอยน์, ลูกากู, อาซาร์, กูร์กตัวส์ ฯลฯ) ต้องจากลาฟุตบอลโลกหนนี้ไปโดยไม่ประสบความสำเร็จอีกตามเคย

 

โปรตุเกส – สวิตเซอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เจอกันรัวๆ ในช่วงหลัง รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ซึ่งต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันได้ในบ้าน มาคราวนี้ที่สนามกลางต่างแดน ก็เป็น โปรตุเกส ของ โรนัลโด้ และชาวคณะ ที่ได้ไปต่อ

 

 

รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – อาร์เจนติน่า
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์เกมสุดคลาสสิกจาก ฟร้องซ์ 98 ที่มีลูกยิงของ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ เป็นช็อตตัดสินเกมอันสุดตรึงตราตรึงใจ ซึ่ง อาร์เจนติน่า ก็ต้องรอคอยมาถึง 24 ปี ถึงจะสามารถชำระแค้นได้เป็นผลสำเร็จ ลิโอเนล เมสซี่ ดีเกินกว่าที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะต้านทานอยู่

 

สเปน – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
อีกหนึ่งซูเปอร์แมตช์ของรายการ สเปน กับ บราซิล โคจรมาเจอกันเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ทศวรรษหลัง ปรากฏเป็น เนย์มาร์, กาเบรียล เชซุส, วินิซิอุส, อันโตนี่, กาเซมิโร่, เฟร็ด ได้ชูธงชาติฉลองชัย

 

อังกฤษ – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
รอบที่แล้ว เซเนกัล มารอบนี้ เม็กซิโก ซึ่งล้วนแต่เป็นรอง อังกฤษ ในหลากหลายแง่มุม สุดท้ายก็เป็นสิงโตคำรามของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่คว้าชัยต่อเนื่อง ลุยไปถึงรอบตัดเชือก กาตาร์ 2022

 

เยอรมนี – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
ผ่านเกมสุดโหดกับ สเปน ในรอบแรก ต่อด้วยกับ เบลเยียม ในรอบสอง ส่งผลให้ “อินทรีเหล็ก” ออกลูกยุบในตัวเอง พลังลด ร่างกายล้า จนที่สุดแล้ว โปรตุเกส ก็เบียดกำชัยได้อย่างสนุกตื่นเต้น ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

 

 

รอบรองชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
“ซูเปอร์กลาซิโก้” ฉะกันทีไร โลกต้องหยุดหมุนเพื่อเฝ้ามองเมื่อนั้น และแน่นอนกับคราวนี้ที่มีเดิมพันใหญ่ถึงขั้น “ตั๋วเข้าชิงบอลโลก” ให้ได้แย่งชิง และเกมก็ดุเดือดขั้นสุดจนแทบจะยกพวกตีกันเสียให้รู้ดำรู้แดง ซึ่งสุดท้ายก็เป็น อาร์เจนติน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ฝากรอยแค้นใหญ่เอาไว้ให้กับ บราซิล ด้วยชัยชนะ–และการได้เข้าชิงฟุตบอลโลก

 

อังกฤษ – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เกมสุดคู่คี่สูสีในแง่ของศักดิ์ของศรี การปะทะกันของ 2 ทีมหัวแถวทวีปยุโรปที่เคยมีประวัติฟาดฟันกันมาพอท้วมๆ สิ่งที่น่าสนใจคือภายหลัง อังกฤษ ผ่านทีมรองบ่อนอย่าง เซเนกัล และ เม็กซิโก มาได้ ก็ถึงคราวต้องหยุดความฝันเอาไว้เท่านี้เมื่อต้องเจอของแข็งจริงจังอย่างทัพฝอยทอง แต่ว่าเกมลากยาวถึงดวลจุดโทษ และ โปรตุเกส เฉือนหวิว “ทั้งสองทีมจะยิงได้ โดยที่ โปรตุเกส มีโอกาส 56% ในการเข้ารอบ และ อังกฤษ จะเข้าสู่การดวลจุดโทษแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก พวกเขาชนะแค่หนเดียวจากการดวลเป้า 4 ครั้งในฟุตบอลโลก”

 

 

นัดชิงอันดับ 3
บราซิล – อังกฤษ
ผู้ชนะ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
เกมปลอบใจที่ไม่ใคร่จะมีใครสนใจสักเท่าไร อังกฤษ มาถึงตรงนี้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน ภายหลังแพ้ เบลเยียม 0-2 ในนัดชิงที่สามที่รัสเซีย และก็ยังคงซ้ำรอยกับหนนี้ ที่ บราซิล กำชัย ได้เหรียญทองแดงไปครอง

 

 

นัดชิงชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – โปรตุเกส
แชมป์โลก โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
สุดยอดเกม “แมตช์ในฝัน” ที่โลกจับตา นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อันเป็นเกมสั่งลา เวิลด์ คัพ ของ 2 เสือเฒ่า ลิโอเนล เมสซี่ (35) กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (37) ผู้ชนะจะไปถึงฝั่งฝันที่ตามหามานานตลอดเส้นทางอาชีพ และยังจะได้เลิกเล่นไปพร้อมดีกรี “แชมป์โลก” ติดตัว

 

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คำนวณผลเกมชิงดำนัดนี้ออกมาว่า “ยืดเยื้อ” กินกันไม่ลงทั้งใน 90 และ 120 นาที จนสุดท้าย ต้องตัดสินแชมป์กันด้วยการดวลจุดโทษ — ซึ่งไม่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 (อิตาลี ชนะดวลเป้าเหนือ ฝรั่งเศส)

 

และผลสุดท้าย… เมสซี่ คือผู้ชนะ อาร์เจนติน่า ผงาดครองแชมป์โลกสมัยที่ 3 และหนแรกนับจากปี 1986

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI 1986

 

“อันที่จริง การเลือกระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ มันก็เหมือนการต้องเลือกระหว่าง โมสาร์ท กับ บีโธเฟ่น หรือไม่ก็ ดา วินชี่ กับ ไมเคิ่ลแอนเจโล่”

 

“แต่ภายหลังการวิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เราเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างแห่งฟุตบอลโลก 2022 เสร็จสิ้นลง อาร์เจนติน่า และ ลิโอเนล เมสซี่ จะเป็นผู้ได้ชูถ้วยแชมป์โลกขึ้นที่กาตาร์” BCA Research ทิ้งท้าย

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

…ทั้งนี้ทั้งนั้น การคำนวณต่อฟุตบอลโลก 2022 ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ว่า ก็เหมือนเช่นเคยว่าเป็นการวิเคราะห์ด้วยสถิติตัวเลข โดยขาดไปซึ่งสิ่งสำคัญอย่าง “ความพลิกล็อก” และ “เหนือคาด” อันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลเสมอมา

 

ดังนั้น บทสรุปที่ว่า เมสซี่ จะมาชิงแชมป์โลกกับ โรนัลโด้ และผู้ได้ชูโทรฟี่คือ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว ในท้ายที่สุด ก็คงเชื่อถือไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

 

เอาเป็นว่า อดใจรออีกเดี๋ยว อีกไม่กี่สิบวันก็ได้เห็นของจริง

 

เผลอๆ ทั้ง อาร์เจนติน่า ทั้ง โปรตุเกส อาจตกรอบแรกพร้อมกันทั้งคู่ก็ได้…ใครจะรู้!

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BCA Research
FourFourTwo
DohaNews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
ShutterStock
Bulgaria Posts English
MassLive
AFP

ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

หากเป็นทีมส่วนใหญ่ ความหวังในการเดินทางไปกาตาร์ ก็คงไม่พ้นทำให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งอาจจะมองแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ หรือแค่รอบรองฯ แต่กับฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ที่มีดาวเตะ อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ การไปไกลเกินรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่พวกเขาทำได้เมื่อ 4 ปีก่อนยังไม่พอ โดยเฉพาะเมื่อ 8 ปีก่อน พวกเขาคือรองแชมป์โลก และในฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาคือแชมป์อเมริกาใต้ แล้วนี่ยังเป็นโอกาสสุดท้ายที่เมสซี่จะมีโอกาสคว้าแชมป์โลก การได้ชูถ้วยฟีฟ่าคือเป้าหมายของพวกเขา และนี่คือดาวเตะที่จะทำให้ความฝันของชาวอาร์เจนติน่า และเมสซี่เป็นจริง

ลิโอเนล เมสซี่ ตำแหน่ง: กองหน้า อายุ: 35 ปี

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 การที่ฟุตบอลโลก 2022 ดาวเตะฟ้าขาวรายนี้มีวัย 35 ปีแล้ว ด้วยอายุขนาดนี้ ความเร็ว และความแข็งแกร่งในแบบที่เคยมีย่อมหดหาย หากที่ได้มาแทนก็คือ ประสบการณ์กับมันสมอง การให้เขามีอิสระในการสร้างสรรค์เกมมากกว่าเดิม ก็ทำให้ทีมได้ประโยชน์จากเขามากขึ้น ในขณะเดียวกันถึงจะยังเป็นศูนย์กลางของทีม แต่เขาก็ไม่ได้เป็น “เดอะ แบก” เพียงลำพังของทีมเช่นในอดีต ถึงกระนั้นในช่วงเวลาคับขัน เพื่อนร่วมทีมก็สบายใจได้ว่า ดาวเตะร่างเล็กรายนี้ก็พร้อมสร้างความมหัศจรรย์ หรือปาฏิหาริย์ให้ทีมได้เช่นกัน

เอมิลิอาโน มาร์ติเนซ ตำแหน่ง: ผู้รักษาประตู อายุ: 29 ปี

เอมิลิอาโน มาร์ติเนซ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

มาร์ติเนซเป็นคนสำคัญในการคว้าแชมป์โคปาอเมริกา 2021 ของทีมฟ้าขาว ที่เมสซี่ถึงกับออกปากชม (ภาพ: Fernando Bizerra EFE)

กว่าจะกลายเป็นมือหนึ่งของทีมฟ้าขาว มาร์ติเนซต้องรอคอยโอกาสอยู่นาน แม้จะเป็นนักเตะอาร์เซน่อลตั้งแต่ปี 2010 แต่ก็ถูกปล่อยยืมถึง 6 ครั้ง จนมือหนึ่งของทีม แบร์นด์ เลโนได้รับบาดเจ็บ เขาก็ฉวยโอกาสสำคัญที่มีน้อยนิดได้สำเร็จ เมื่อเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2020 มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่แอสตัน วิลล่า และใช้เวลาไม่นานในการเป็นผู้เล่นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ ซึ่งนำไปสู่การเป็นมือหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่ควานหาตัวแทนของแซร์จิโอ โรเมโร่อยู่นาน มาร์ติเนซกลายเป็นกุญแจสำคัญในการคว้าแชมป์โคปาอเมริกา 2021 ที่เมสซี่ถึงกับออกปากชม จากฟอร์มการเล่นที่ทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง หลังยึดมือหนึ่งสำเร็จ แฟน ๆ เริ่มนำเขาไปเปรียบเทียบกับตำนาน อย่าง อูบัลโด้ ฟิลลอล ผู้รักษาประตูชุดแชมป์โลก 1978 ที่มาร์ติเนซก็มีโอกาสจะประสบความสำเร็จในแบบเดียวกัน

คริสเตียน โรเมโร่ ตำแหน่ง: กองหลัง อายุ: 24 ปี

คริสเตียน โรเมโร่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียน โรเมโร่ นายใหญ่ในแผงหลังของทีมฟ้าขาว (ภาพ: Alexandre Schneider/Getty Images)

ครั้งหนึ่งโรเมโร่เกือบจะเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว เมื่อความฝันทั้งชีวิตของเขา คือการเล่นให้กับสโมสรเบลกราโนพังทะลาย เมื่อเขาไม่เห็นด้วยกับผู้อำนวยการสโมสร ท้ายที่สุดโรเมโร่ย้ายไปเล่นในอิตาลีให้กับเจนัว ที่เป็นจุดเริ่มต้นก้าวแรกของเป็นผู้เล่นในทีมฟ้าขาว จากนั้นก็เป็นยูเวนตุส ตามด้วยอะตาแลนต้า ที่เขากับเพื่อน ๆ สร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลยูเอฟ่า แชมเปี้ยนลีก 2019/20 ก่อนจะกลายเป็นกองหลังยอดเยี่ยมของซีเรียอา และย้ายมาพรีเมียร์ลีก ในสีเสื้อท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ไม่ว่าจะสวมเสื้อของสโมสรหรือทีมชาติ โรเมโร่มอบคุณภาพการเล่นระดับท็อปให้ได้ทั้งหมด นี่คือนายใหญ่ในแผงหลังของทีมฟ้าขาว มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนเกม เล่นลูกกลางอากาศได้ดี แข็งแกร่งในการดวล 1-1 มีความเร็วมากพอสำหรับการทำหน้าที่เก็บกวาดความผิดพลาดหรือคุมหลังให้เพื่อน ๆ รวมถึงสามารถขึ้นเกมจากแดนหลังได้เยี่ยม หากจะมีอย่างเดียวที่เป็นจุดอ่อนของเขาก็คือ บาดเจ็บได้ง่าย

โรดริโก้ เดอ ปอล ตำแหน่ง: กองกลาง อายุ: 28 ปี

โรดริโก้ เดอ ปอล ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

นักเตะสารพัดประโยชน์ ที่มีทั้งพรสวรรค์ และเป็นผู้เล่นประเภททำงานหนัก ของทีมฟ้าขาว (ภาพ: www.football-espana.net)

ไม่ต่างไปจากคู่ขาในแดนกลางทีมฟ้าขาว เลอันโดร พาเรเดส และจิโอวานนี่ โล เซลโซ ที่เริ่มเล่นในตำแหน่งเพลย์เมเกอร์ หมายเลข 10 หากก็ไม่มีใครที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากการลองผิดลองถูกมานาน ในที่สุดพวกเขาก็ต้องเล่นร่วมกันเป็นสามประสาน พาเรเดสอยู่ตรงกลาง โล เซลโซเล่นทางกว้าง ส่วนเขาคือนักเตะสารพัดประโยชน์ ที่มีพรสวรรค์ และเป็นผู้เล่นประเภททำงานหนัก วิ่งขึ้นลงได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย การเล่นร่วมกับเมสซี่ได้อย่างลงตัวในฟุตบอลโคปา อเมริกา ทำให้เดอ ปอลกลายเป็นคู่ขาในฝันของดาวเตะตำนานของชาติ งานนี้ต้องขอบคุณความขยัน และความคิดสร้างสรรค์ในตัว มาถึงตอนนี้เขาคือผู้เล่นตัวหลักของทีม เป็นแรงขับเคลื่อนในแดนกลาง เป็นผู้เล่นที่ทีมฟ้าขาวขาดไม่ได้อีกคน

เลาตาโร มาร์ติเนซ ตำแหน่ง: กองหน้า อายุ: 25 ปี

เลาตาโร มาร์ติเนซ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

มาร์ติเนซเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญให้ฟ้าขาว คว้าแชมป์อเมริกาใต้ได้สำเร็จ หลังเข้าชิงสามหนหลังกลับบ้านมือเปล่าทั้งหมด (ภาพ: Gustavo Pagano/Getty Images)

ดาวซัลโวตัวหลักของฟ้าขาว ยุคของโค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ ที่แจ้งเกิดกับเรซิ่ง แล้วก็ย้ายไปอิตาลี เป็นส่วนหนึ่งในทีมอินเตอร์ มิลานชุดแชมป์ซีเรียอา 2020-21ที่เขายิงประตูเป็นกอบเป็นกำ 25 ประตูจากการลงเล่น 49 นัดในทุกรายการ และไม่ได้มีดีแค่การทำประตู เจ้าของฉายา เอล โตโร่ (ไอ้กระทิง) ยังมีบทบาทสำคัญในเกมรับ เมื่อทำหน้าที่ป้องกันตั้งแต่ในแดนหลังของคู่ต่อสู้ ที่ยังช่วยลดการใช้พลังงานให้กับเมสซี่ เมื่อไม่ต้องให้ดาวเตะตัวความหวังของชาติ มาเหนื่อยกับเกมรับ กับการเดินทางมากาตาร์ มาร์ติเนซน่าจะส่องประกายได้อย่างโดดเด่น ต่อเนืองจากการเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญให้ฟ้าขาว คว้าแชมป์อเมริกาใต้มาครองได้สำเร็จ หลังเข้าชิงสามหนหลังกลับบ้านมือเปล่าทั้งหมด ที่บางทีปลายปีนี้ เขาอาจทำให้ทีมบ้านเกิดมีถ้วยรางวัลกลับบ้านอีกหน

ด้วยกำลังหลักในทีมอีกหลายราย เมื่อรวมกับ 5 นักเตะตัวความหวังเหล่านี้ บางทีอาจจะถึงเวลา ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลกหนที่สามสักที 

ข้อมูล: FIFA
ภาพปก: AFPFernando Bizerra EFEAlexandre Schneider/Getty Imageswww.football-espana.netGustavo Pagano/Getty Images
เรื่องน่าอ่าน: กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"

ลิโอเนล เมสซี่ : “ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม”

เพราะทุกสิ่งบนโลก ล้วนแต่มีตอนจบเป็นของตัวเอง ก็ยืนยันป็นที่เรียเบร้อยว่า ลิโอเนล เมสซี่ จะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็น เวิลด์ คัพ ครั้งสุดท้าย ในเส้นทางเลี่ยมทองของตัวเขาเอง

 

อย่างที่ทราบกันดี อาร์เจนติน่า เป็นแชมป์โลก 2 สมัย ท่ามกลางการมงว่าพวกเขาควรได้มากสมัยกว่านี้ เมื่อพิจารณาจาก “ขุมสมบัติ” ที่พวกเขามี — ขุมสมบัติอย่างสุดยอดนักเตะในทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะ ดีเอโก้ มาราโดน่า, เคลาดิโอ คานิกเกีย, กาเบรียล บาติสตูต้า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, เฟร์นานโด เรดอนโด้, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, มาร์ติน ปาแลร์โม่, เอร์นัน เครสโป, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ ซามูเอล ฯลฯ หรือล่วงเลยมาในยุค ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ฯลฯ

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ นี่คือดาวเตะที่ “เก่งกาจที่สุดในโลก” ยุคนี้สมัยนี้

 

แต่ก็เป็นเรื่องตลกร้ายอีกเช่นกัน ว่าแข้งระดับ เมสซี่ ผู้ซึ่งครองแชมป์นับสิบนับร้อยรายการกับทั้ง บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลับไม่เคยได้สัมผัสกับโทรฟี่แชมป์โลกมาก่อนเลยสักครั้ง

 

ไปย้อนดูกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เมสซี่ ในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา

 

ก่อนจะร่วมเป็นสักขีพยานกับฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของ เมสซี่ ที่กาตาร์…

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2006 : เปิดซิงในวัย 18
ลงสนาม : 3 นัด
ยิง : 1 ประตู
ในวันวัยยังเข้าผับไม่ได้ และที่จริงก็เพิ่งขยับขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ บาร์เซโลน่า แค่ปีกว่าๆ (ไม่น่าลืมกัน…) เมสซี่ ได้รับหมายเรียกจาก โฮเซ่ เปเกร์มัน ให้เข้ารายงานตัวกับทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่เป็นครั้งแรกตอนกลางปี 2005 และเขาถูกส่งลงสำรองนัดพบ ฮังการี ทันที–และโดนใบแดงทันทีในเพียง 2 นาทีแรก จากจังหวะพยายามกระชากหนีกองหลังที่ดึงเสื้อเขา แล้วผู้ตัดสินมองว่า เมสซี่ ตั้งใจสับศอกใส่คู่แข่ง

 

หนึ่งปีให้หลัง เปเกร์มัน ไม่พลาดจะใส่ชื่อเจ้าหนูเมสซี่ ไปฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี โดยเป็นหนึ่งในตัวเลือกศูนย์หน้าร่วมกับ เอร์นัน เครสโป, ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า, คาร์ลอส เตเวซ, โรดริโก้ ปาลาซิโอ และ ฮูลิโฮ ริคาร์โด้ ครูซ

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นดาวรุ่งอายุ 18 เมสซี่ จึงไม่มีตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติเวลานั้น เช่นกันกับที่ อาร์เจนติน่า ไม่ได้มีทัวร์นาเมนต์ที่น่าประทับใจอะไรนัก ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย พ่ายจุดโทษ เยอรมนี 2-4 โดยที่ เมสซี่ ไม่ได้ถูกใช้งานในเกมนี้ หลังจากมี 1 ประตูจากการลงสำรองมาขยี้ เซอร์เบีย-มอนเตเนโกร 6-0 ในรอบแรก

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2010 : กับเจ้านายชื่อ มาราโดน่า
ลงสนาม : 5 นัด
ยิง : 0 ประตู
น่าลืมเลือน… นิยามได้ว่า “น่าลืมเลือน” สำหรับฟุตบอลโลกคราวนี้ของ เมสซี่ เมื่อทั้งที่มีกุนซือระดับคนในตำนานอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า (ผู้ล่วงลับ) เป็นเจ้านายและที่ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอันที่จริง ลางหายนะก็เริ่มตั้งเค้ามาตั้งแต่รอบคัดเลือก เมื่อ อาร์เจนติน่า ในกำมือของ “เสือเตี้ย” แพ้ถึง 6 นัด ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำจนถึงเกมสุดท้าย ก่อนจะผ่านเข้ารอบได้ด้วยการเป็นอันดับ 4 เหนือตำแหน่งเพลย์ออฟแค่ 4 แต้ม

 

สำหรับในรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้, ทั้งที่ เมสซี่ กำลังเบ่งบานกับบาร์ซ่า และเพิ่งพาอาร์เจนฯ ครองแชมป์โอลิมปิก 2008 มา, ฟ้าขาวก็ล้มเหลวอย่างรุนแรง แม้จะผ่านรอบแรกแบบชนะรวด 3 เกมซ้อน แต่ที่สุดแล้วก็ไปแพ้ เยอรมนี ในรอบ 8 ทีม ขาดลอยถึง 0-4 ขณะที่ เมสซี่ ซึ่งถูกจับเล่นตำแหน่งหน้าต่ำ หลังคู่หัวหอกนั้น ไม่มีสกอร์เลยสักลูกตลอดทัวร์นาเมนต์

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2014 : แค่เอื้อมเท่านั้น
ลงสนาม : 7 นัด
ยิง : 4 ประตู
พลิกชะตาจาก 4 ปีก่อนเป็นมาทำได้ดีมากถึงดีที่สุดในรอบหลายสิบปี ถัดจากการเข้าถึงชิงฟุตบอลโลก 1990 ช่วงเวลาที่ มาราโดน่า อายุ 30 ถ้วน และ เมสซี่ เพิ่ง 3 ขวบ

 

แต่ถึงจะดีที่สุด…ก็ยังไปไม่ถึงแชมป์อยู่ดี

 

เมสซี่ งัดฟอร์มสุดยอดออกมาโชว์ที่บราซิลได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ยิง 4 ประตูจาก 3 เกมรอบแรก พร้อมมีส่วนสำคัญพาทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า (ล่วงลับเช่นกัน) ชนะรวด 3 นัด

 

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ กลับกระสุนหมด หยุดยิงเมื่อสิ้นสุดรอบแรก ในขณะที่ อาร์เจนติน่า ยังกรุยทางต่อไปได้เรื่อยๆ

 

ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 รอบ 16 ทีม
ชนะ เบลเยียม 1-0 รอบ 8 ทีม
ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2 รอบตัดเชือก

 

จนนัดชิงชนะเลิศที่เจ้าภาพ บราซิล ไม่มาตามนัด–กลายเป็น เยอรมนี มาแทน… อาร์เจนติน่า ก็บอก “ชิกหายเลี้ยว” เมื่ออินทรีเหล็กคือ “ของแสลง” โดยตรงของฟ้าขาวมาหลายปีดีดัก ที่สุดแล้วก็เป็น เยอรมนี เบียดชนะ 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยที่ เมสซี่ เล่นไม่ออกเท่าที่ควรจะเป็น

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2018 : ตัวประกอบอย่างฟ้า-ขาว
ลงสนาม : 4 นัด
ยิง : 1 ประตู
จากที่พลิกชะตาความล้มเหลวในปี 2010 มาถึงชิงชนะเลิศในปี 2014 อาร์เจนติน่า ก็กลับไปฟุบอย่างน่าผิดหวังเสียอีกรอบสำหรับ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ภายใต้การทำทีมของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี

 

กระเสือกกระสนกันตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่สองเกมแรกไม่ชนะใคร — เสมอ ไอซ์แลนด์ 1-1 ตามด้วยแพ้ โครเอเชีย 0-3 จนชัยชนะเกมสุดท้ายเหนือ ไนจีเรีย (เมสซี่ยิงลูกแรก) 2-1 ดีพอจะทำให้ อาร์เจนติน่า คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างฉิวเฉียด

 

แต่เมื่อรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมมาถึง อาร์เจนฯ โคจรมาเจอกับ ฝรั่งเศส ก็จบเห่ในพริบตา สกอร์อาจออกเบียดที่ 4-3 แต่ในระหว่างเกม ฝรั่งเศส ฉีกสกอร์นำห่างถึง 4-2 (คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สองเม็ด) แล้วค่อยมาโดนบีบตอนทดเจ็บเท่านั้นเอง

 

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2022 : The Final Countdown
ยิง 9 ประตูใน 3 เกมหลัง
รอบคัดเลือกและเกมอุ่นเครื่อง
อันที่จริงก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อะไร กับการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 (สูงสุดเทียบเท่า อันโตนิโอ การ์บาฮัล, โลธาร์ มัทเธอุส, ราฟาเอล มาร์เกซ รวมถึงน่าจะมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกคน) แล้วมันจะเป็นครั้งสุดท้ายของดาวเตะวัย 35 อย่าง ลิโอเนล เมสซี่

 

โดยไม่ปล่อยให้กะเก็งกันเอาเอง เมสซี่ ให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีอาร์เจนติน่า ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ฟุตบอลโลก 2022 คือบทสรุปของเขากับ เวิลด์ คัพ (อาจมีไปต่ออีกนิดกับทีมชาติ แต่จะไม่อยู่ถึงบอลโลก 2026 แน่) “นี่จะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของผม อย่างแน่นอน ผมตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว”

 

“ผมกำลังนับถอยหลังเพื่อถึงวันที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในแง่หนึ่ง ผมแทบรอไม่ไหวให้มันมาถึง แต่เวลาเดียวกัน ผมก็ปรารถนาอย่างแรงกล้าให้ อาร์เจนติน่า มีทัวร์นาเมนต์ที่ดี”

 

หลายฝ่ายมองว่า อาร์เจนติน่า มีโอกาสดีสำหรับการขึ้นบัลลังก์แชมป์อีกสมัยที่กาตาร์ เมื่อ ลิโอเนล สคาโลนี่ กำลังทำทีมแล่นฉิว เป็นอันดับ 2 ของสถิติโลกไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 35 นัด

 

เรื่องนี้ เมสซี่ คอมเมนต์ว่า “ผมไม่รู้หรอกว่าเราเป็นตัวเต็งคว้าแชมป์รึเปล่า แต่อาร์เจนติน่าเองก็เป็นหนึ่งในทีมที่ลุ้นแชมป์มาตลอดอยู่แล้ว เพราะประวัติศาสตร์ของเรา เพราะสิ่งที่รายการนี้มีความหมายต่อเรา ส่วนตัวผมคิดว่ายังมีบางทีมที่อยู่เหนือเราในตอนนี้ แต่เราก็ใกล้กับพวกเขามาก”

 

“เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดี มีกลุ่มนักเตะที่แข็งแกร่ง แต่ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้ในฟุตบอลโลก”

 

สำหรับซีซั่นนี้ เมสซี่ ดูกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยการยิงไป 8 ประตู แอสซิสต์อีก 8 ครั้ง จากการเล่น 13 เกมทุกรายการ ส่วนในทีมชาติก็อย่างที่ว่า — สามเกมหลังล่อไป 9 ประตู

 

“ข้อเท็จจริงคือ ใช่ ผมอยู่ในจุดที่ดีเช่นกัน ผมผ่านช่วงปรีซีซั่นอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากไม่ได้ทำแบบนี้มาในปีก่อน ด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันทำให้ผมเริ่มต้นได้ช้า และมันทำให้ขาดๆ เกินๆ ไม่ค่อยลงตัวเมื่อทัวร์นาเมนต์มาถึง แถมเมื่อผมกลับมาจากการเล่นทีมชาติ ก็บาดเจ็บเพิ่มอีกด้วย”

 

“แต่ปรีซีซั่นหนล่าสุดนี้ มันสำคัญมากที่ได้เริ่มต้นในทิศทางที่ต่างไป ผมสามารถมุ่งหน้าสู่การแข่งขันของปีนี้ได้ด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง ด้วยความคิดที่แตกต่าง และมีแรงกระตุ้นที่ดี”

 

ไม่นานเกินรอ… ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ อาร์เจนติน่า จะอยู่ร่วมสายกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์

 

เราคงได้เห็นกัน ว่าฟ้าขาวที่กำลังมาดีๆ จะก้าวไปได้ไกลขนาดไหน

 

และคนพิเศษอย่าง เมสซี่ จะปิดตำนานฟุตบอลโลกของเขาลงแบบใด

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
AS
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Daily Sabah
Barca Universal

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

เห็นเงียบๆ แต่ก็ไร้พ่ายมาเรียบสำหรับ อาร์เจนติน่า ที่ถึงตอนนี้ เข้าใกล้การทำลายสถิติโลกไปทุกขณะ และมันจะสมบูรณ์แบบสุดๆ ไปเลยหากสถิติถูกทำลายลง…พร้อมมีโทรฟี่ “แชมป์โลก” เป็นรางวัลตอบแทน

 

ทั้งที่เคยมีสุดยอดดาวเตะอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า, เคลาดิโอ คานิกเกีย, กาเบรียล บาติสตูต้า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, เฟร์นานโด เรดอนโด้, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, มาร์ติน ปาแลร์โม่, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ ซามูเอล ฯลฯ หรือล่วงเลยมาในยุค ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ฯลฯ

 

แต่จะว่า “ลุงภัพ” -แอ่แฮ่- “อาภัพ” ก็อาจได้ เมื่อ อาร์เจนติน่า มีวาสนาไปถึงบัลลังก์แชมป์โลกมาได้แค่ 2 สมัยเท่านั้น

 

ใช่ที่ “เคยไปถึงมาแล้ว” ไม่เหมือน เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส หรือบรรดาทีมในเอเชีย-แอฟริกา ที่ได้แต่ชะเง้อชะแง้แลมอง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว — เทียบกับ บราซิล (5 สมัย) เทียบกับ อิตาลี (4) หรือ เยอรมนี (4) ทุกเสียงต่างลงความเห็นว่า อาร์เจนติน่า โชคร้ายพอตัวที่ได้แชมป์โลกมาแค่ 2 ครั้ง — และมันนานมาแล้วตั้งแต่ 1978 กับ 1986

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?ถ้ายังไม่ชัดพอ ก็ต้องบอกว่าแชมป์โลกหนสุดท้ายของพวกเขา ต้องย้อนไป 36 ปีที่แล้วโน่น!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญก็คือ การต้องอกหักรักคุด พลาดท่าเสียทีในนัดชิงชนะเลิศให้กับอริต่างทวีปอย่าง เยอรมนี นั่นเอง

 

ฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี อาร์เจนติน่า ของ คาร์ลอส บิลาร์โด้ และยอดขุนพลอย่าง มาราโดน่า เข้าถึงนัดชิงดำด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าจะ “ป้องกันแชมป์” ให้จงได้ แต่ปรากฏว่า เยอรมนีตะวันตก ของ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (และยอดแข้งอย่าง โลธ่าร์ มัทเธอุส, รูดี้ โฟลเลอร์, เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, เคล้าส์ เอาเกนธาเลอร์ ฯลฯ) มาดีและแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ ตลอดเกมเป็นอินทรีเหล็กที่กดเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งก็มาได้จุดโทษเอาช่วงท้าย 5 นาทีก่อนจบ และ อันเดรียส เบรห์เม่ สังหารนำชัยให้ เยอรมนี 1-0 (โดยที่ในระหว่างเกม เปโดร มอนซอน ของอาร์เจนฯ เสียบหนักจนโดนใบแดง น.65 นับเป็นคนแรกที่โดนไล่ออกในนัดชิงบอลโลก)

 

ขึ้นไทม์แมชีนมาสู่อีก 24 ปีให้หลัง ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โชคชะตาขีดเส้นให้ อาร์เจนติน่า (คุมโดย อเลฮานโดร ซาเบย่า / มีนักเตะอย่าง เมสซี่, อิกวาอิน, มาสเคราโน่, เอเซเกล ลาเวซซี่, เซร์คิโอ อเกวโร่, มาร์กอส โรโฮ) ได้โคจรมาชิงแชมป์โลกกับ เยอรมนี (โยอัคคิม เลิฟ / มิโรสลาฟ โคลเซ่, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, โทนี่ โครส, ฟิลิปป์ ลาห์ม, มานูเอล นอยเออร์) เข้าอีกหน

 

ใครจะไปคิดว่าสกอร์จะออกซ้ำเดิม ไม่มีผิดเพี้ยน

 

90 นาทีในมาราคาน่าสิ้นสุดที่ 0-0 โดยที่ต่างฝ่ายต่างพลาดโอกาสทองที่จะขึ้นนำไปฝั่งละหนสองหน กระทั่งครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ น.113 มาริโอ เกิทเซ่ ก็สบโอกาสทะลุเข้าฝั่งซ้ายเขตโทษไปตวัดยิงผ่าน เซร์คิโอ โรเมโร่ เข้าซุกก้นตาข่าย เป็นประตูโทนที่เบิกโทรฟี่แชมป์ฟุตบอลโลกให้กับ เยอรมนี เป็นสมัยที่ 4

 

นอกจากการแพ้ เยอรมนี สองหนในนัดชิงดำแล้ว ก็เช่นกันกับการฟอร์มหลุดเอาในเกมตัดสินนัดสำคัญ–ในระบบน็อกเอาต์ของ เวิลด์ คัพ

 

ไม่นับ 2002 เวิลด์คัพฉบับเอเชีย ที่ อาร์เจนติน่า ฟอร์มหลุดถึงขั้นตกรอบแรก นอกนั้น ทีมฟ้าขาวล้วนหลุดออกจากบอลโลกในรอบน็อกเอาต์ทั้งสิ้น

 

1994 ที่สหรัฐอเมริกา ร่วงรอบ 16 ทีม แพ้ โรมาเนีย (จอร์จี้ ฮาจี้) 2-3
1998 ที่ฝรั่งเศส ร่วงรอบ 8 ทีม แพ้ เนเธอร์แลนด์ (เดนนิส เบิร์กแคมป์) 1-2
2006 ที่เยอรมนี หลุดที่ 8 ทีม แพ้ เยอรมนี (เจ้าเก่า) ในการดวลจุดโทษ 2-4
2010 ที่แอฟริกาใต้ ยังคงตก 8 ทีมซ้ำ แพ้ เยอรมนี (อีกแล้วจ้า) ขาดลอย 0-4
มาล่าสุด 2018 ที่รัสเซีย ก็หล่นเร็วแค่รอบ 16 ทีม แพ้ ฝรั่งเศส (คีลิยัน เอ็มบัปเป้) 3-4

 

กระนั้น มาคราวนี้ ท่านว่า อะไรๆ อาจต่างไปจากเดิม

 

ถึงเวลาแล้วที่ อาร์เจนติน่า จะคว้าแชมป์โลกสมัยสาม…!?!

 

ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสร้างทีมชุดแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลาของ ลิโอเนล สคาโลนี่ และการ (ว่ากันว่า) ควรถึงเวลาอันสมควรเสียทีที่สุดยอดดาวเตะจากต่างดาวอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จะผงาดบัลลังก์แชมป์โลก พาตัวเองไปถึงฝันอันสูงสุดก่อนอำลาทีมชาติ และรวมถึงบอกลาเส้นทางค้าแข้งไปในอนาคตอันใกล้ด้วย

 

สำหรับ สคาโลนี่ อันที่จริง โค้ชหนุ่มวัย 44 รายนี้ถูกปรามาสถึงฝีไม้ลายมือไว้ไม่น้อย เมื่อเขาไม่เคยได้จับงานคุมทีมสโมสรใดใดมาก่อนเลย — หากยังพอจำกันได้ นี่คือกองหลังฝีเท้าพอไปวัดไปวาได้อยู่ในยุคต้น 2000 โดยสร้างชื่อกับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า รวมถึงมีช่วงที่มาแวะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ ลาซิโอ อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะแขวนสตั๊ดเลิกเล่นกับ อตาลันต้า ในปี 2015 (นี่เองนะ) ส่วนในทีมชาติ เคยสวมชุดฟ้าขาวลงสนามแค่ 7 นัดในระหว่างปี 2003-2006

 

แต่ก็นั่นแหละ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญวาสนาท่านว่าคงลำบาก

 

จากการเป็นมือขวา ผู้ช่วยกุนซือ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่เซบีย่า สคาโลนี่ ถูกหอบหิ้วจากเจ้านายมารับงานกับทีมชาติอาร์เจนติน่าต่อในช่วงปี 2017 ซึ่งเมื่อ อาร์เจนติน่า ล้มเหลวกับฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซัมเปาลี ถูกเด้งพ้นไป สคาโลนี่ กลับยังคงได้จับงานกับทีมชาติต่อ–ในฐานะกุนซือรักษาการ ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และขึ้นคุมเดี่ยวๆ หลังจากนั้น

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?อย่างที่ว่า การนั่งเก้าอี้แบบ “ไร้ดีกรี” ทำให้ สคาโลนี่ ถูกปรามาสถึงฝีมือไว้เยอะ เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกเสียงครหาก็เงียบลง

 

สคาโลนี่ กลายเป็น “คนที่ใช่” ของ อาร์เจนติน่า ไปเสียเฉยๆ ด้วยผลงานประจักษ์ชัดตลอดหลายปีหลัง โดยเฉพาะใน โคปา อเมริกา 2021 ซึ่งทัพ “ลา อัลบิเซเลสเต้” เดินหน้าสังหารคู่แข่งแบบไม่มีแผ่ว จนนัดชิงก็ปราบเจ้าภาพ บราซิล 1-0 ด้วยประตูโทนของ อังเคล ดิ มาเรีย ฉลองแชมป์ทวีปอเมริกาใต้กลางมาราคาน่า

 

ไปถึงเส้นชัย โคปา อเมริกา และยังต่อเนื่องด้วยรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ที่ อาร์เจนติน่า ก้าวเท้าได้อย่างเข้มแข็ง อาจไม่ได้หวือหวายิงกระจายเหมือน บราซิล แต่เรื่อยๆ มาเรียงๆ และไร้พ่าย เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 การันตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย

 

จากแมตช์สู่แมตช์ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนมาวันนี้ อาร์เจนติน่า ของ สคาโลนี่ กลายเป็นเบอร์ 2 “สถิติโลก” ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 35 นัด นับรวม 2 เกมลับแข้งล่าสุดในเดือนนี้ ที่ฟ้าขาวผ่าน ฮอนดูรัส กับ จาไมก้า ด้วยสกอร์เดียวกัน 3-0

 

สถิติไร้พ่าย 35 นัดของอาร์เจนติน่า
1. ชนะ ชิลี 2-1 / โคปา อเมริกา 2019
2. เสมอ ชิลี 0-0 / กระชับมิตร
3. ชนะ เม็กซิโก 4-0 / กระชับมิตร
4. เสมอ เยอรมนี 2-2 / กระชับมิตร
5. ชนะ เอกวาดอร์ 6-1 / กระชับมิตร
6. ชนะ บราซิล 1-0 / กระชับมิตร
7. เสมอ อุรุกวัย 2-2 / กระชับมิตร
8. ชนะ เอกวาดอร์ 1-0 / คัดบอลโลก 2022
9. ชนะ โบลิเวีย 2-1 / คัดบอลโลก 2022
10. เสมอ ปารากวัย 1-1 / คัดบอลโลก 2022
11. ชนะ เปรู 2-0 / คัดบอลโลก 2022
12. เสมอ ชิลี 1-1 / คัดบอลโลก 2022
13. เสมอ โคลอมเบีย 2-2 / คัดบอลโลก 2022
14. เสมอ ชิลี 1-1 / โคปา อเมริกา 2021
15. ชนะ อุรุกวัย 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
16. ชนะ ปารากวัย 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
17. ชนะ โบลิเวีย 4-1 / โคปา อเมริกา 2021
18. ชนะ เอกวาดอร์ 3-0 / โคปา อเมริกา 2021
19. เสมอ โคลอมเบีย 1-1 (ชนะจุดโทษ 3-2) / โคปา อเมริกา 2021
20. ชนะ บราซิล 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
21. ชนะ เวเนซุเอล่า 3-1 / คัดบอลโลก 2022
22. ชนะ โบลิเวีย 3-0 / คัดบอลโลก 2022
23. เสมอ ปารากวัย 0-0 / คัดบอลโลก 2022
24. ชนะ อุรุกวัย 3-0 / คัดบอลโลก 2022
25. ชนะ เปรู 1-0 / คัดบอลโลก 2022
26. ชนะ อุรุกวัย 1-0 / คัดบอลโลก 2022
27. เสมอ บราซิล 0-0 / คัดบอลโลก 2022
28. ชนะ ชิลี 2-1 / คัดบอลโลก 2022
29. ชนะ โคลอมเบีย 1-0 / คัดบอลโลก 2022
30. ชนะ เวเนซุเอล่า 3-0 / คัดบอลโลก 2022
31. เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 / คัดบอลโลก 2022
32. ชนะ อิตาลี 3-0 / ชิงแชมป์ Finalissima
33. ชนะ เอสโตเนีย 5-0 / กระชับมิตร
34. ชนะ ฮอนดูรัส 3-0 / กระชับมิตร
35. ชนะ จาไมก้า 3-0 / กระชับมิตร

 

35 นัดของการไร้พ่าย ไม่ต้องสงสัยว่าเครดิตต้องเป็นของ สคาโลนี่ พร้อมๆ กันกับเสียงปรบมือที่ขุนพลฟ้าขาวทุกรายคู่ควรจะได้รับ

 

ทั้งความเหนียวแน่นหนึบของนายประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
แผงหลังที่เข้าเท่าเข้าทีมิใช่เบา ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนคู่ คริสเตียน โรเมโร่ โดยมี นาอูเอล โมลิน่า กับ นิโกลัส ตายาฟิโก้ ขนาบข้าง
แดนกลางที่แข็งโป้ก ลงตัวทั้งบู๊บุ๋น – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, โจวานี่ โล เซลโซ่
เกมรุกที่มีตัวเลือกเยอะ และพึ่งพาได้แทบทุกคน – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ฮัวกิน กอร์เรอา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมาพีคอีกครั้งในนามทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?ยิงคนเดียว 5 ประตูในเกมถลุง เอสโตเนีย 5-0
เบิ้ลสองใส่ ฮอนดูรัส ในชัยชนะ 3-0
ลงสำรองไปเบิ้ลอีกสองใส่ จาไมก้า จนชนะขาด 3-0
เท่ากับ 3 นัดหลังในการรับใช้ชาติ พ่อกดไป 9 ประตู

 

 

 

 

 

 

คำถามคือ ถ้า เมสซี่ พีคถึงขีดสุดอยู่แบบนี้ในฟุตบอลโลก 2022 อะไรจะเกิดขึ้นกันล่ะ?

 

อย่างไรก็ตาม สถิติที่ อาร์เจนติน่า ทำไว้ ยังไปไม่ถึง “สถิติโลก” ที่จารึกไว้เมื่อไม่นานนี้โดย อิตาลี ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ซึ่งทัพอัซซูร์รี่สร้างสถิติไร้พ่ายยาวนานถึง 37 นัด กินเวลาครอบคลุม ยูโร 2020 ที่พวกเขาครองแชมป์ทวีปยุโรปได้อย่างยิ่งใหญ่ (ก่อนจะตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบตกตะลึงกันทั้งบาง)

 

ทำเนียบทีมชาติไร้พ่ายยาวนานที่สุด
37 นัด (ชนะ 30 เสมอ 7) อิตาลี 2018-2021
35 (26-9) อาร์เจนติน่า 2019-2022 (ยังไปได้ต่อ)
35 (26-9) แอลจีเรีย 2018-2022
35 (32-3) สเปน 2007-2009
35 (28-7) บราซิล 1993-1996
31 (21-10) อาร์เจนติน่า 1991-1993
30 (22-8) ฝรั่งเศส 1994-1996
30 (24-6) อิตาลี 1935-1939

 

อย่างไรก็ตามซ้อนอย่างไรก็ตาม อาร์เจนติน่า ก็ขอไปต่ออีกแค่ 3 นัดเท่านั้นเพื่อทำลายสถิติ นั่นหมายถึง สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในเพียง “ไม่ทันพ้นรอบแรก” ฟุตบอลโลก 2022 ที่ อาร์เจนติน่า มีคิวต้องดวลกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์ ตามลำดับ

 

อีกทั้ง อิตาลี ยังทำเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า การทำลายสถิติเรื่องนี้ สามารถเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กันกับการผงาดแชมป์ทวีปได้ ดังนั้นถ้า อาร์เจนติน่า คิดจะเดินตามรอย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปแต่ประการใด

 

ยังเริ่มมีการมองกันแล้วว่า มันอาจเกิด “ดรีมแมตช์” ขึ้นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 ที่ Lusail Iconic Stadium

 

นั่นเพราะ อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ และชาวคณะ ฝังตัวอยู่ในกลุ่มซี หรือ “สายบน”

 

ในขณะที่ โปรตุเกส ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในกลุ่มเอช หรือ “สายล่าง”

 

หากต่างฝ่ายต่างจบที่แชมป์กลุ่ม หรือรองแชมป์กลุ่มของตัวเอง เหมือนๆ กัน (ไม่ว่าจะเป็นที่ 1 หรือ 2 ขอแค่เหมือนกัน อย่าต่าง) คู่นี้ก็จะไม่เจอกันในรอบน็อกเอาต์…จนกระทั่ง นัดชิงชนะเลิศ!

 

นั่นคือถ้า อาร์เจนติน่า ยึดแชมป์กลุ่มซี ได้ตามคาด และเวลาเดียวกัน โปรตุเกส ก็ไม่พลาดจบที่แชมป์กลุ่มเอช จากนั้นต่างฝ่ายต่างเอาชนะคู่แข่งได้ทีละรอบๆ แบบไม่มีสะดุดในเกมน็อกเอาต์

 

นัดชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ธ.ค. ก็จะเป็นการดวลกันของ อาร์เจนติน่า กับ โปรตุเกส

 

แน่นอน เมสซี่ ก็จะมาจับไม้จับมือแลกธงกับ โรนัลโด้ ที่กลางสนาม ก่อนสาดแข้งกันให้ยับในอีก 90 หรือ 120 นาที++ หลังจากนั้น (หากว่าไม่เจ็บไม่แบนกันทั้งคู่ด้วยนะ)

 

และด้วยอายุอานาม 35 ของเมสซี่ กับ 37 ของโรนัลโด้ นั่นยังหมายถึงว่า นัดชิงชนะเลิศ (ในฝัน) นี้อาจเป็น “เกมสุดท้าย” ในการรับใช้ชาติของทั้งคู่

 

เกมสุดท้าย ที่มีเดิมพันเป็นโทรฟี่แชมป์โลก

 

คลาสสิกเป็นบ้าเป็นบอ!

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
Sportingnews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Trend Detail News
Complete Sports
Twitter

กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย

กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย

กลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022 ถือเป็นกลุ่มที่ผสมผสานทีมได้หลากหลายระดับ แม้ทีมวางของกลุ่ม อาร์เจนติน่า จะเป็นทีมโคตรแกร่ง ที่มองไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ ส่วนอีกสามทีมที่เหลือ คงมีเพียงสองทีมที่น่าจะแย่งกันเข้ารอบไปกับอาร์เจนติน่า ส่วนทีมจากเอเชียคงทำได้แค่เป็นก้างขวางคอของสักทีม ที่ไม่รู้ว่าทีมไหนจะเจอแจ็กพ็อต ต้องมาดูกัน

กลุ่ม ซี: อาร์เจนติน่า, ซาอุดิอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

อย่างที่คาดกันด้วยวัยและสังขาร ฟุตบอลโลกหนนี้่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของลิโอเนล เมสซี ซึ่งจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการคว้าแชมป์เดียวที่เขายังทำไม่ได้ จากเพื่อนร่วมกลุ่ม การผ่านไปรอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่ม ซี ของอาร์เจนติน่าไม่ยาก แต่ทีมที่จะตามไปด้วยนี่ซิ ต่อให้มีแค่สองทีม เม็กซิโกกับโปแลนด์ แต่ก็ยากจะคาดเดา ทำให้การเจอกันของทั้งคู่ตั้งแต่นัดแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ของทั้งสองทีม คือนัดชิงเข้ารอบก็ว่าได้ ใครที่คว้า 3 แต้ม น่าจะก้าวเท้าเข้าไปในรอบ 16 ทีมแล้วข้างหนึ่ง

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

เพราะมีชื่อนักเตะซูเปอร์สตาร์ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อยู่ในทีม การเจอกันของเขากับเมสซีในนัดสุดท้ายของกลุ่ม ซี เลยกลายเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ไม่น่าจะใช่นัดสำคัญ โดยเฉพาะถ้าโปแลนด์เปิดหัวด้วยการพ่ายเม็กซิโก ขณะที่องค์ประกอบของทีมก็ห่างจากฟ้า-ขาวไม่ต่ำกว่าก้าวครึ่ง บวกกับการที่พวกเขามักท่าดีทีเหลวในรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ เอาง่าย ๆ ตั้งแต่เข้าศตวรรษใหม่เป็นต้นมา โปแลนด์ยังไม่เคยผ่านรอบแรกฟุตบอลโลกได้เลยสักครั้ง เทียบกับคู่ปรับเม็กซิโกก็ยังทาบไม่ติด เพราะนับตั้งแต่ถูกแบนจนไม่ได้เล่นฟุตบอลโลก 1990 หลังจากนั้นทีมจังโก้ก็เข้ารอบสุดท้ายครบ และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมมาตลอด ทำให้การเจอกันของโปแลนด์และอาร์เจนตินาจึงเป็นแค่เกมที่น่าสนใจ เพราะจะได้เห็นเลวานดอฟสกี้ปะทะเมสซี แต่ก่อนหน้านั้น มาลุ้นกันดีกว่าว่า เลวานดอฟสกี้จะยิงประตูแรกในฟุตบอลโลกได้ไหมก่อน

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ของเกมนี้จะเปลี่ยนไป ก็เมื่อโปแลนด์ชนะ หรือแค่ไม่แพ้ในนัดเปิดสนาม ทำให้พวกเขายังมีหวังถึงนัดสุดท้าย แลต้องเก็บ 3 แต้มจากทีมฟ้า-ขาวให้ได้ เพื่อตามพวกเขาผ่านรอบแรกกลุ่ม ซี ไปสู่รอบน็อกเอาต์ หรือรอบสองของฟุตบอลโลก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1982 ที่หนนั้นพวกเขาคว้าที่สามมาครอง ด้วยการเอาชนะฝรั่งเศสของมิเชล พลาตินี่ในนัดชิงที่สาม

ทีมอินทรีทะเลทรายซาอุดิอาระเบียล่ะ โอกาสมีแค่ไหน? แม้จะผ่านรอบคัดเลือกในโซนเอเชียด้วยการเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มที่มีทีมแกร่งอย่าง ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย แต่ความล้มเหลวในฟุตบอลเอเชียนคัพ แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังไม่แกร่งพอสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะในทีม ล้วนเป็นผู้เล่นจากทีมภายในลีกของประเทศ เพราะฉะนั้นจะว่าไปแล้วฟุตบอลโลก 2022 ก็ไม่ต่างไปจากทัวร์นาเมนต์หาประสบการณ์ของพวกเขาส่วนเรื่องจะทำได้เหมือนในฟุตบอลโลก 1994 ที่หลุดไปรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จนั้น อาจจะเร็วไปสำหรับฟุตบอลโลกในครั้งนี้

ซาอุดิอาระเบีย กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

ว่ากันว่า ซาอุดิอาระเบีย มาฟุตบอลโลก 2022 เพื่อเก็บประสบการณ์ และทำให้ทีมในสายติดคอ (ภาพ: REUTERS/Ahmed Yosri)

เพราะฉะนั้นนอกจากอาร์เจนติน่า ที่จองที่นั่งในรอบ 16 ทีมไว้เรียบร้อย ทีมอันดับสองของกลุ่ม ซี ก็คงต้องเป็นจังโก้-เม็กซิกัน ที่น่าจะเบียดโปแลนด์ให้ตกไปเป็นที่สามได้สนุก ซึ่งนัดชี้ชะตาก็อย่างที่บอก นัดที่พวกเขาเจอกันซึ่งเป็นนัดแรกในฟุตบอลโลกของทั้งคู่ ส่วนซาอุดิอาระเบีย ขอแค่เล่นแบบได้ใจคนดู กลายเป็นมารผจญของอีก 2 หรือ 3 ทีมได้สำเร็จ เพียงแค่นี้ก็ถือว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาแล้ว

โปรแกรมการแข่งขันในกลุ่ม ซี
22 พฤศจิกายน
อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย
เม็กซิโก – โปแลนด์

26 พฤศจิกายน
โปแลนด์ – ซาอุดิอาระเบีย
อาร์เจนติน่า – เม็กซิโก

30 พฤศจิกายน
ซาอุดิอาระเบีย – เม็กซิโก
โปแลนด์ – อาร์เจนติน่า

ข้อมูล: 1. EURONEWS 2. ESPN

ภาพ:
ภาพปก: 1. AFP 2. Reuters/ M.Shemetov 3. Salas/Jam Media/Getty Images 4. AFP

เรื่องน่าอ่าน: กลุ่ม เอ ฟุตบอลโลก 2022 ทีมไหนจะเข้ารอบ แม็ตช์ไหนห้ามพลาด

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อาจไม่ใช่ฟุตบอลโลกหนสุดท้ายสำหรับคริสเตียโน โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี่ เท่านั้น และนี่คือดาวเตะระดับหัวแถวของโลก ที่ฟุตบอลโลกหนนี้ อาจจะเป็นการปิดฉากฟุตบอลโลกสำหรับพวกเขา