เรื่อง

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ ‘เมสซี่’ แต่แข้งฟ้าขาว ‘ทุกคน’ ล้วนสำคัญ!

เปิดขุมกำลัง อาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลก 2022

ในเรื่องเล่าแชมป์โลกแต่ละสมัยของ อาร์เจนติน่า น่าแปลกไม่น้อยที่จะมี “พระเอก” เป็นเสมือนผู้นำทีมไปสู่ความสำเร็จ — ที่ให้บังเอิญว่า ต่างก็สวมเสื้อหมายเลข 10 ด้วยกันทั้งหมดเสียด้วย

 

1978 มาริโอ เคมเปส
1986 ดีเอโก้ มาราโดน่า
และ 2022 ลิโอเนล เมสซี่

 

แต่เอาเข้าจริง อาจ “ช็อตฟีล” ไปหน่อยที่ต้องบอกว่า… ฟุตบอล ไม่ใช่ “กีฬาชายเดี่ยว” แต่อย่างใด

 

ตราบใดที่ เมสซี่ ไม่อาจยิงประตูเสร็จแล้วคว้าถุงมือโกล์มาเฝ้าเสาได้ ก็เลิกพูดเสียทีว่า อาร์เจนติน่า ประสบความสำเร็จได้เพราะ เมสซี่ เพียงคนเดียว

 

เพราะไม่ใช่แค่ เมสซี่ แต่แข้งฟ้าขาว “ทุกคน” อีก 25 นักเตะ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ก็ล้วนแต่มีความสำคัญ มีประโยชน์และส่งอิทธิพลจากการเล่นในตำแหน่งของตัวเอง

 

ดังนั้น ฟุตบอลโลก 2022 จึงไม่ใช่ “ฟุตบอลโลกของเมสซี่”

 

แต่คือฟุตบอลโลกของ “ทีมชาติอาร์เจนติน่า”

 

และว่ากันถึงที่สุด ก็คงเป็นของชาวอาร์เจนไตน์…ทุกชีวิต!

 

 

ผู้รักษาประตู
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!1. ฟรังโก้ อาร์มานี่
ลงสนาม : 0
รวมนาที : 0
เสียประตู : 0
ถ้าจะมีใครไม่สำคัญในทีมชุดแชมป์โลกชุดนี้ ก็ ฟรังโก้ อาร์มานี่ นี่แหละ (ฮา) โดยนายประตูวัย 36 จาก ริเวอร์เพลท มาเข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในฐานะมือสองรองจาก เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ซึ่งโชคไม่ดีที่ทัวร์นาเมนต์นี้ อาร์เจนติน่า ไม่มีเกมในลักษณะ “ไม่ซีเรียส” อยู่เลย ทำให้โอกาสลงสนามทั้งหมดเป็นของมือหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!12. เคโรนิโม่ รุลลี่
ลงสนาม : 0
รวมนาที : 0
เสียประตู : 0
หนักกว่ามือสองอย่าง ฟรังโก้ อาร์มานี่ ก็คือมือสามอย่าง เคโรนิโม่ รุลลี่ จอมหนึบวัย 30 จาก บียาร์เรอัล ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่ว่าไว้ในท่อนขยายของ อาร์มานี่ ว่า อาร์เจนติน่า ไม่มีเกมขำๆ แต่อย่างใด ส่งผลให้ทั้งมือสองและมือสาม ได้แค่ร่วมซ้อมและรอสแตนด์บายข้างสนามเท่านั้น

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!23. เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริงทั้งหมด)
รวมนาที : 690
เสียประตู : 8
เซฟประตู : 6
สร้างชื่อทั้งในฐานะมือหนึ่งแชมป์โลก, จอมเซฟจุดโทษ และตัวตึงค่ายฟ้าขาว เจ้าของรางวัลนายประตูยอดเยี่ยม Golden Glove โดยแม้จะเสียประตูไปไม่น้อย 8 ลูกจาก 7 นัด แต่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ในวัย 30 (แล้ว) จาก แอสตัน วิลล่า ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือยอดนายทวารคนหนึ่งของวงการ ซึ่งนอกจากการเซฟจุดโทษของทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ คิงสลี่ย์ โกม็อง ในช่วงดวลเป้า (สองรอบ) แล้ว ก็ยังเซฟช็อตสำคัญมากๆ จากการยิงของ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ หอกสำรองฝรั่งเศส ในช่วงทดเจ็บ 120+3 ของการต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้ อาร์เจนติน่า ยื้อไปได้จนถึงดวลเป้า ไม่เช่นนั้นฟ้าขาวก็คงต้องรอแชมป์โลกไปอีก 4 ปีเป็นอย่างน้อย

 

 

 

กองหลัง
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!2. ฮวน ฟอยธ์
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 5
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กองหลังสารพัดประโยชน์จาก บียาร์เรอัล ได้ลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 แค่ 5 นาทีสุดท้ายของเกมที่ อาร์เจนติน่า ยิง โครเอเชีย ขาดลอยไปแล้ว 3-0 ในรอบตัดเชือก แต่ด้วยวัยแค่ 24 จึงยังถือว่ามีอนาคตอีกยาวไกลในทีมฟ้าขาว

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!3. นิโกลัส ตายาฟิโก้
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 3 สำรอง 3)
รวมนาที : 373
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แบ็กซ้ายวัย 30 จาก โอลิมปิก ลียง ออกสตาร์ทตัวจริงในนัดแรก แต่ผลแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างช็อกโลก 1-2 ก็ทำให้เขาโดนลงโทษอย่างกลายๆ ด้วยการโดนดร็อปจากทีมตัวจริงในเกมถัดๆ มา จนกระทั่งคืนสู่ 11 คนแรกอีกครั้งได้ในรอบตัดเชือกกับ โครเอเชีย ภายหลัง มาร์กอส อคุนย่า ติดโทษแบน แต่แม้รายหลังจะพ้นโทษพร้อมเล่นนัดชิง ก็ยังเป็นโอกาสของ ตายาฟิโก้ ได้ยืนตัวจริงต่ออย่างเซอร์ไพรส์ในนัดชิงแชมป์กับ ฝรั่งเศส

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!4. กอนซาโล่ มอนเทียล
ลงสนาม : 4 (ตัวจริง 1 สำรอง 3)
รวมนาที : 118
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หนึ่งในโจ๊กเกอร์ที่ ลิโอเนล สคาโลนี่ ให้ความไว้วางใจเป็นพิเศษสำหรับความนิ่งแน่นอนของการยิงจุดโทษ เมื่อแม้ว่าแบ็กขวาวัย 25 จากเซบีย่า จะได้เล่นตัวจริงแค่นัดเดียวกับ เม็กซิโก (2-0) แต่เมื่อเกมยืดเยื้อถึงดวลเป้าแล้ว มอนเทียล ก็จะถูกส่งลงไปเป็นมือสังหารเสมอ และยิงได้อย่างเฉียบขาดเข้าเป้าทั้งเกมชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-3 และชนะ ฝรั่งเศส 4-2 (แต่ก็โดนจับแฮนด์บอล เสียจุดโทษลูก 3-3)

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!6. เคร์มัน เปซเซลล่า
ลงสนาม : 3 (ตัวจริง 0 สำรอง 3)
รวมนาที : 60
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
เซนเตอร์แบ็กตัวสำรองวัย 31 จาก เรอัล เบติส ถูกส่งลงท้ายเกมแทนเพื่อนทั้ง 3 นัดของการเล่นฟุตบอลโลก 2022 ได้แก่รอบแรกที่ชนะ โปแลนด์ 2-0 (12 นาที), รอบ 8 ทีมชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 (43 นาที) และนัดชิง ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 ก็ได้ลงไปช่วยอุดเกมรับเฮือกท้าย นาที 116

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!8. มาร์กอส อคุนย่า
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 4 สำรอง 2)
รวมนาที : 373
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แบ็กซ้ายประสบการณ์สูงวัย 31 จากเซบีย่า เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นสำรองของ นิโกลัส ตายาฟิโก้ แต่ก็ก้าวขึ้นไปเป็นตัวจริงแทนที่ ตายาฟิโก้ ตั้งแต่นัดชนะ เม็กซิโก 2-0 เป็นต้นไป จนกระทั่งรอบ 8 ทีมที่มาโดนใบเหลืองเพิ่ม ทำให้ติดแบนอดเล่นรอบตัดเชือก จนกลายเป็นว่าต้องหลุดเป็นสำรองไปเสียในนัดชิงกับ ฝรั่งเศส เพียงแต่ก็ยังถูกเปลี่ยนลงไปช่วยเสริมเกมรับแทน อังเคล ดิ มาเรีย ในนาที 64

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!13. คริสเตียน โรเมโร่
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 6 สำรอง 1)
รวมนาที : 547
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แม้จะเข้าๆ ออกๆ ไม่ได้เป็นตัวจริงถาวรของ สเปอร์ส แต่กับทีมชาติแล้ว เซนเตอร์แบ็กวัย 24 จัดเป็นคนสำคัญในแผงหลัง เป็นตัวยืนมาตั้งแต่ โคปา อเมริกา 2021 ระดับติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ต่อมาในฟุตบอลโลก 2022 ก็เป็นตัวจริงถึง 6 จาก 7 นัดที่ อาร์เจนติน่า ลงสนาม รวมถึงก็เป็นตัวจริงแบบอยู่ครบเกม 120 นาทีของนัดชิงชนะเลิศ

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!19. นิโกลัส โอตาเมนดี้
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 7 สำรอง 0)
รวมนาที : 690
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 1
ทั้งที่ขวบวัยปาไป 34 ย่าง 35 และหลบไปสังกัดทีมเกรดรองอย่าง เบนฟิก้า แล้ว แต่ปรากฏว่า โอตาเมนดี้ แทรกลงตัวจริงในทีมของ สคาโลนี่ อย่างเซอร์ไพรส์ แถมสร้างสถิติน่าสะพรึงอย่างการลงเป็น 11 คนแรกครบถ้วนทั้ง 7 นัดและเล่นครบทุกนาทีของทั้ง 7 แมตช์ ไม่ถูกถอดออกแม้แต่ครั้งเดียว จนมีเพียง โอตาเมนดี้, เมสซี่ และนายประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เท่านั้น ที่ลงเล่นครบทั้ง 690 นาทีที่กาตาร์ ของทีมฟ้าขาว

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!25. ลิซานโดร มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 2 สำรอง 3)
รวมนาที : 303
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
สร้างชื่อเป็นปราการหลังจอมแกร่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา แต่กับทีมชาติแล้ว ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวเลือกที่ 3 รองจากทั้ง นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ คริสเตียน โรเมโร่ จนในเวิลด์คัพหนนี้ได้เล่นตัวจริงแค่ 2 นัด เกมรอบแรกกับ เม็กซิโก และลงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็กนัดชนะ เนเธอร์แลนด์ รอบ 8 ทีม

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!26. นาอูเอล โมลิน่า
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 6 สำรอง 1)
รวมนาที : 567
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
มีเส้นทางค้าแข้งพุ่งขึ้นดุจดั่งพลุไฟ เมื่อแบ็กขวาวัย 24 เพิ่งจะย้ายจาก อูดิเนเซ่ ไป แอตเลติโก มาดริด ซีซั่นนี้เอง รวมถึงก็เพิ่งเริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีก่อนเท่านั้น แต่ไม่มีใครหยุดอยู่จนกลายเป็นแบ็กขวาตัวเลือกแรกของ สคาโลนี่ ไปแล้ว ในฟุตบอลโลก 2022 ก็ลงตัวจริง 6 นัด สำรองหนเดียวนัดพบ เม็กซิโก และมี 1 ประตูในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ รวมถึง 1 แอสซิสต์กับ โปแลนด์ ด้วย

 

 

 

 

 

กองกลาง
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!5. เลอันโดร ปาเรเดส
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 2 สำรอง 3)
รวมนาที : 225
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
อันที่จริง กลางรับวัย 28 จาก ยูเวนตุส เป็นคนที่ติดทีมชาติมาเยอะที่สุด (45 นัด) ในบรรดามิดฟิลด์ที่ สคาโลนี่ เลือกมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงทัวร์นาเมนต์ก็ดันหลุดออกจาก 11 คนแรกไปเสีย เหตุผลอาจมาจากเกมแรกกับ ซาอุฯ ที่ ปาเรเดส ได้เล่นตัวจริงแต่เล่นไม่ค่อยดี ปิดเกมคู่แข่งไม่อยู่ โดนทะลวง 2 ประตูจนโดนถอดออกหลังจากนั้น แล้วก็หายหน้าไป ค่อยกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งตอนตัดเชือกกับ โครเอเชีย

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!7. โรดริโก้ เด ปอล
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 7 สำรอง 0)
รวมนาที : 599
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
โรดริโก้ “เดอะ บอดี้การ์ด” เด ปอล องครักษ์พิทักษ์เมสซี่ จัดเป็นหนึ่งในคีย์แมนชุดแชมป์โลกของทัพฟ้าขาว ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่างรุกก็ดีรับก็ได้ ขับเคลื่อนแดนกลางด้วยพลังแรงสูง แม้จะไม่มีทั้งประตูและแอสซิสต์ แต่มิดฟิลด์เชื้อสายอิตาลีวัย 28 จาก แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่หลุดจากทีมเลยแม้แต่นัดเดียว และมีนาทีในสนามเป็นรองแค่ 3 คนที่ได้ลงทุกนาที (เอมี่ มาร์ติเนซ, โอตาเมนดี้, เมสซี่) เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!14. เอเซเกล ปาลาซิออส
ลงสนาม : 3 (ตัวจริง 0 สำรอง 3)
รวมนาที : 50
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กลางรับตัวเลือกรองลงไปจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาฟุตบอลโลกในฐานะอะไหล่สำรองของพี่ๆ ส่งผลให้ได้เล่นแค่ 3 เกม (เม็กซิโก, ออสเตรเลีย, โครเอเชีย) เป็นตัวสำรองช่วงท้ายทั้งหมด และมีนาทีในสนามแค่ 50 นาทีเท่านั้น

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!16. ติอาโก้ อัลมาด้า
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 7
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มิดฟิลด์หนุ่มน้อยวัย 21 เด็กสุดในทีมแชมป์โลกชุดนี้ (อ่อนเดือนกว่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ) ได้มาฟุตบอลโลก 2022 อย่างส้มหล่น โดยถูกเรียกมาแทนตัวเจ็บอย่าง ฮัวกิน กอร์เรอา ซึ่งดาวรุ่งจาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ทีมในสหรัฐฯ ก็ได้สัมผัสเกมที่กาตาร์แค่ 7 นาทีถ้วน จากการลงสำรองท้ายเกมกับ โปแลนด์ ซึ่งนับเป็นการเล่นชุดใหญ่เกมที่ 3 เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!17. อเลฮานโดร โกเมซ
ลงสนาม : 2 (ตัวจริง 2 สำรอง 0)
รวมนาที : 107
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
ตัวรุกสูงวัย (34) จาก เซบีย่า เพิ่งจะมาติดทีมชาติอาร์เจนติน่าสม่ำเสมอก็ในช่วงที่มี สคาโลนี่ ทำทีมนี่เอง แต่ก็มีรอยด่างตรงที่ประตูสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปไกลถึงท้ายซีซั่นก่อนทีเดียว ส่วนที่กาตาร์ “ปาปู้” โกเมซ ได้เล่นตัวจริง 2 เกม กับ ซาอุฯ และ ออสเตรเลีย แต่ก็ไม่มีผลงานอะไรเท่าไหร่ โดนถอดออกต้นครึ่งหลังทั้งสองนัด

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!18. กีโด้ โรดริเกซ
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 1 สำรอง 0)
รวมนาที : 56
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กลางรับร่างโย่งวัย 28 จาก เรอัล เบติส เป็นตัวจริงชุดแชมป์ โคปา อเมริกา กลางปีที่แล้ว แต่หลุดลงเป็นสำรองของชุดแชมป์โลก ได้เล่นแค่เกมเดียว (ลงตัวจริง) นัดชนะ เม็กซิโก 2-0 ก่อนโดนถอดออกกลางครึ่งหลัง กระนั้นก็เหมือนเป็นการค้นพบของทัวร์นาเมนต์เหมือนกัน เมื่อตัวที่ลงแทนคือ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ผู้ซึ่งกลายเป็นดาวเด่นในที่สุด

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!20. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 6 สำรอง 0)
รวมนาที : 550
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
มิดฟิลด์จาก ไบรท์ตัน ได้ของขวัญวันเกิด (24 ธ.ค.) อายุครบ 24 ปีระดับพรีเมี่ยมอย่างเหรียญทองและโทรฟี่แชมป์โลก ภายหลังลูกชายของ คาร์ลอส “โคโล่” แม็ค อัลลิสเตอร์ อดีตตัวทีมชาติอาร์เจนติน่า 3 นัด (โบคา จูเนียร์ส 1992-1996) จัดเป็นหนึ่งในความเซอร์ไพรส์ของทีมแชมป์โลก ด้วยการที่ก่อนทัวร์นาเมนต์ อเล็กซิส เพิ่งติดธงชุดใหญ่มาแค่ 7 เกมเท่านั้น แต่ก็ถูกเลือกจาก สคาโลนี่ ให้ลงตัวจริงในฟุตบอลโลก 2022 นับตั้งแต่รอบแรกนัดสอง กับ เม็กซิโก เป็นต้นไป (มียิง 1 ลูกกับ โปแลนด์) จนกระทั่งถึงเกมชิงชนะเลิศ

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!24. เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 5 สำรอง 2)
รวมนาที : 564
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
หลังจากถูกส่งลงสำรองครึ่งชั่วโมงท้ายของเกมกับ เม็กซิโก แล้วสร้างผลงานได้ทันที ยิง 1 ประตูปิดกล่องให้ อาร์เจนติน่า กำชัย 2-0 ก็กลายเป็นเหมือนการค้นพบสุดสำคัญของ สคาโลนี่ ที่หลังจากนั้นก็ส่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 จาก เบนฟิก้า ลงตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และ เฟร์นานเดซ ทำอีก 1 แอสซิสต์นัดชนะ โปแลนด์ ก่อนจะช่วยให้ฟ้าขาวไปถึงฝั่งฝัน จนสุดท้ายก็ได้รับคัดเลือกให้คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของรายการ FIFA Young Player Award ไปครอง

 

 

 

 

 

กองหน้า
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!9. ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 5 สำรอง 2)
รวมนาที : 464
ประตู : 4
แอสซิสต์ : 0
ที่จริง ผู้คนก็พอรู้อยู่แล้วว่า ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ไม่ธรรมดา จากการจิ้มเลือกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ และก็มีผลงานยิง 7 ประตูในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่าเจ้าหนุ่มวัย 22 จะระเบิดเถิดเทิงได้ขั้นนี้ เริ่มจากฉกชิงตัวจริงมาจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แล้วก็ยึดเอาไว้แบบยาวๆ จนถึงแชมป์โลก โดยมีผลงานชิ้นโบว์แดงที่การซัด 2 ตุงในเกมสยบ โครเอเชีย 3-0 รอบตัดเชือก รวมสอยไป 4 ประตูในฟุตบอลโลกครั้งแรกของตัวเอง

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!11. อังเคล ดิ มาเรีย
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 4 สำรอง 1)
รวมนาที : 288
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
น้อยแต่มาก… เกือบจะเป็นสุดยอดโจ๊กเกอร์แห่งฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเรียกจุดโทษ 1 และยิงประตูเองอีก 1 นำ อาร์เจนติน่า ฉีกสกอร์นำ ฝรั่งเศส 2-0 ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ด คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จนเจียนอยู่เจียนไปและต้องเสียน้ำตาบนม้านั่งสำรองหลายรอบ ซึ่งที่จริง ในวัยย่าง 35 และสภาพร่างกายไม่ได้ฟิตปั๋งเหมือนตอนรุ่งๆ ดิ มาเรีย ก็คงมาเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็มีแชมป์โลกติดมือเข้าจนได้

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!15. อังเคล กอร์เรอา
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 5
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มาลุยฟุตบอลโลก 2022 แบบที่ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากอยู่แล้ว ด้วยการเป็นมวยแทนของ นิโก้ กอนซาเลซ ที่เจ็บจนต้องถอนตัวไปก่อนทัวร์นาเมนต์ และกองหน้ากึ่งปีกวัย 27 จาก แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่ได้ขออะไรมากนอกจากให้ทีมประสบความสำเร็จ โดยที่เขาได้ลงสำรอง 5 นาทีท้ายของเกมกับ โครเอเชีย ภายหลังสกอร์ขาดไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!21. เปาโล ดีบาล่า
ลงสนาม : 2 (ตัวจริง 0 สำรอง 2)
รวมนาที : 18
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หวิดจะกลายเป็นผู้แพ้ในทีมผู้ชนะ จากการที่หัวหอกเพียบดีกรี (12 แชมป์สมัยอยู่ ยูเวนตุส, ติดทีมแห่งปี เซเรีย อา 4 รอบ) อย่าง ดีบาล่า ไม่ถูกเลือกจาก สคาโลนี่ ให้ได้ลงสนามเลย ด้วยเหตุผลเรียบๆ ง่ายๆ (แต่เจ็บปวด) ว่า ในสายตาของโค้ชอย่างเขา มีตัวเลือกที่ดีกว่าให้ใช้งาน แต่ในที่สุดแล้วก็ยังได้ลงสำรองในเกมกับ โครเอเชีย และ ฝรั่งเศส โดยที่ยังไว้ลายด้วยการสังหารจุดโทษเข้าอย่างไม่พลาดในช่วงดวลเป้าชี้ขาด จึงนับว่ามีส่วนสำคัญกับการเป็นแชมป์โลกครั้งนี้ด้วย

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!22. เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 2 สำรอง 4)
รวมนาที : 241
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มาลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่หน 3 (แต่บอลโลกครั้งแรก) ของตัวเองด้วยสถานะตัวจริง และมีสถิติดีด้วยในการรับใช้ชาติ (21 ประตูจาก 40 นัด) แต่เกือบๆ จะกลายเป็น Flop of the Tournament ไปเสีย ด้วย 2 ประตูที่ถูกยกเลิกด้วยวีเออาร์เกมเปิดหัวกับ ซาอุฯ ที่ดูจะส่งผลกับความมั่นใจโดยตรง จนเล่นได้อย่างย่้ำแย่ในเกมถัดๆ มา (โดนดร็อปสำรองตั้งแต่เกมกับ โปแลนด์ เป็นต้นไป) โดยเฉพาะนัดชนะ ออสเตรเลีย 2-1 ที่มีโอกาสถ่างสกอร์หลายหนแต่พลาดไปหมด และสุดท้ายไม่มีประตูเลยในเส้นทางสู่แชมป์โลก อย่างไรก็ตาม ถือว่า เลาตาโร่ ยังเล่นได้อย่างวูบวาบในนัดชิง อย่างน้อยมีส่วนร่วมกับประตูนำ 3-2 ที่เขาส่องติดเซฟ อูโก้ โยริส ก่อนบอลมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงเข้าไป

 

 

 

ตัวละครลับ
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!เซร์คิโอ อเกวโร่
อดีตดาวยิงวัย 34 อาศัยช่วงว่างๆ ภายหลังต้องเลิกเล่นอาชีพไปแบบช็อกวงการด้วยปัญหาหัวใจ เดินทางไปสมทบกับแคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินาที่ประเทศกาตาร์ โดยในช่วงแรกมีปัญหาไม่ได้อนุมัติบัตรผ่านจากฝ่ายจัดฯ แต่ในที่สุดก็ได้ไฟเขียวและอยู่ยาวมาจนจบรายการ โดยเป็นเสมือนสตาฟฟ์โค้ชอย่างไม่เป็นทางการ ให้คำปรึกษาน้องๆ โดยเฉพาะบรรดากองหน้า และเมื่อทีมได้แชมป์โลกก็สวมเสื้อเบอร์ 19 ซึ่งเคยใส่ลุยบอลโลก 2018 ไปร่วมฉลองอย่างออกนอกหน้าที่กลางสนาม

 

 

 

 

 

 

 

 

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง…กุนซือ
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!ลิโอเนล สคาโลนี่
ที่จริง นี่คือเพื่อนรุ่นพี่ร่วมทีมของ เมสซี่ ในชุดที่ อาร์เจนติน่า ลงเตะฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เพียงแต่ว่าแบ็กขวา/ปีกขวา (สร้างชื่อกับ ลา กอรุนญ่า, เวสต์แฮม, ลาซิโอ) อย่าง สคาโลนี่ ก็ได้เล่นแค่เกมเดียวในทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่ให้หลังมาอีก 9 ปี (2015) เขาจะแขวนสตั๊ดกับ อตาลันต้า

 

หนึ่งปีหลังจากนั้น สคาโลนี่ ได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้ช่วยของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่เซบีย่า และเมื่อเจ้านายใหญ่ขยับไปรับงานคุมทีมชาติ สคาโลนี่ ก็ติดสอยห้อยตามไปช่วยงาน ซัมเปาลี เช่นกัน

 

ครั้นเมื่อ อาร์เจนติน่า ล้มเหลวกับฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซัมเปาลี ถูกเด้งพ้นไป สคาโลนี่ ก็ยังคงได้จับงานกับทีมชาติต่อ–ในฐานะกุนซือรักษาการร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และถัดมาก็ขึ้นคุมเดี่ยวๆ หลังจากนั้นไม่นาน

 

เอาเข้าจริง การนั่งเก้าอี้แบบ “ไร้ดีกรี” ไม่เคยคุมสโมสรใดมาก่อนเลย ทำให้ สคาโลนี่ ถูกปรามาสถึงฝีมือไว้เยอะ เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกเสียงครหาก็เปลี่ยนเป็นเสียงปรบมือ และดังสนั่นหวั่นไหวเสียด้วย

 

สคาโลนี่ กลายเป็น “คนที่ใช่” ของ อาร์เจนติน่า ไปเสียเฉยๆ ด้วยผลงานประจักษ์ชัดอย่างแชมป์โคปา อเมริกา 2021 แถมจากแมตช์สู่แมตช์ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี อาร์เจนติน่า ของ สคาโลนี่ ก็กลายเป็นเบอร์ 2 “สถิติโลก” ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 36 นัดทีเดียว

 

ต่อเมื่อแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างพลิกล็อก 1-2 ในเกมเปิดหัวฟุตบอลโลก 2022 แล้ว หลังจากนั้น อาร์เจนติน่า ในมือกุนซือหนุ่มวัย 44 ก็ไม่แพ้ใครอีก…จนกระทั่งผงาดครองแชมป์โลกที่รอคอยมา 36 ปี

 

นั่นเท่ากับว่า สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 43 นัดหลังสุด!

 

43 นัดล่า
ชนะ 29
เสมอ 13
แพ้แค่ 1 เกมถ้วน

 

ที่สำคัญ จากโค้ชมือใหม่หัดขับ ไม่ค่อยประสีประสาแท็กติกอะไรในช่วงแรกๆ คงถือได้ว่า สคาโลนี่ เป็นหนึ่งใน “จอมแท็กติก” ของวงการ และการตัดสินใจเลือกบางสิ่งของเขาก็มักได้ผล “ถูกต้อง” เสียด้วย

 

ไม่ว่าจะ
• เปลี่ยนทีม 5 ตำแหน่งจากเกมแพ้ ซาอุฯ จนชนะ เม็กซิโก 2-0
• เลือกใช้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ เป็นตัวจริงต่อเนื่อง
• วางเด็ก 21 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เป็นแกนกลาง
• ถอดและดร็อป เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลังผ่านไปเกมครึ่ง เปิดทางให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงไปสร้างชื่อ
• หย่อน 3 เซนเตอร์แบ็กลงไปรับมือ เนเธอร์แลนด์ แล้วยันอยู่จน 7 นาทีท้าย (ค่อยมาโดน 2 เม็ดหลังจากนั้น แต่ก็ยังชนะดวลจุดโทษ)
• ปรับระบบมาเน้นรุกอีกครั้งในรอบตัดเชือก แล้วก็อัด โครเอเชีย ขาด 3-0
• ใช้เสือเฒ่าอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ในนัดชิง เพื่อปั่นป่วนเกมรับฝั่งขวาของ ฝรั่งเศส โดยเฉพาะ และ ดิ มาเรีย ก็ทำงานได้อย่างสุดยอด เรียกจุดโทษ 1 ยิงเอง 1

 

การเลือกตัวและการวางหมากเหล่านี้ของ สคาโลนี่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญสู่แชมป์โลกของ อาร์เจนติน่า

 

ฉะนั้น ก็อาจพูดได้ว่า ถ้าไม่ได้โค้ชคนนี้ เมสซี่ ก็อาจไปไม่ถึงแชมป์โลก

 

เช่นกัน หากปราศจากจิ๊กซอว์ทั้ง 24-25 ชิ้นที่เหลือ–นอกจากชิ้นใหญ่สุดอย่าง เมสซี่ แล้ว ก็คงไม่มีทางที่ อาร์เจนติน่า จะไปถึงเส้นชัยได้

 

ฉะนั้น แน่นอนที่สุด แชมป์โลกครั้งนี้ที่อยู่มือฟ้าขาว เครดิตต้องเป็นของ “ทุกคน” — ในฐานะของ “ทีม”

 

ไกด์เถื่อน

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA
fbref.com

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter
GettyImages

 

เรื่องน่าอ่าน
แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022 …!?!
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

ลิโอเนล เมสซี่ กับสารพัดสถิติ หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ กับสารพัดสถิติ หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ลิโอเนล เมสซี่ยังไม่อำลาทีมชาติ

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ กับถ้วยที่รอมานาน (ภาพ: www.eurosport.com)

ฟุตบอลโลก 2022 น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเมสซี่ เมื่ออีก 4 ปีข้างหน้าอายุเขาจะขยับไปเป็น 39 ปี ที่หากยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็น่าจะเป็นกำลังสนับสนุน หรือมีความสำคัญในแง่อื่นกับทีมมากกว่าเกมในสนาม ทำให้หลาย ๆ คนมองว่า หากคว้าแชมป์สำเร็จ ลิโอเนล เมสซี่จะอำลาสนาม

โดยก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น เมสซี่ให้สัมภาษณ์ว่า ทัวร์นาเมนท์นี้น่าจะเป็นฟุตบอลโลกสุดท้ายของเขา แต่ล่าสุดหลังพาทีมรับถ้วยที่รอคอย เมสซี่บอกกับสื่อว่า เขาตั้งใจที่จะเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าต่ออีกสักระยะ

“ผมคว้าแชมป์โคปา อเมริกาและแชมป์โลกในช่วงเวลาที่สั้นมาก” เมสซี่ กล่าว “ผมรักในสิ่งที่ผมทำ การได้ลงเล่นให้ทีมชาติ และผมอยากลงเล่นต่อไปหลาย ๆ เกมในฐานะแชมป์โลก” และ “ผมกำลังจะนำถ้วยแชมป์กลับอาร์เจนติน่า เพื่อความสุขของทุกคน”

เมสซี่ยังพูดอีกว่า มันเป็นเรื่องความฝันแบบเด็ก ๆ ในการพาอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์โลกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ดีเอโก้ มาราโดน่าทำได้ ที่เม็กซิโกเมื่อปี 1986

“มันเป็นความฝันแบบเด็ก ๆ ของใครก็ได้” เมสซี่บอก “ผมโชคดีที่ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างในการทำงาน และหนึ่งในสิ่งที่หายไปก็อยู่ตรงนี้แล้ว” เขากล่าว “มันบ้าบอดี ดูถ้วยแชมป์นี่ซิ เธอสง่างามมาก ผมอยากได้เธอมาก ๆ ผมเคยมองว่า นี่คงจะเป็นอีกถ้วยหนึ่ง… แล้วเธอก็เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ” เมสซี่ย้ำด้วยว่า “พวกเราเจออะไรร้าย ๆ แต่ในที่สุดเราก็คว้าแชมป์จนได้ ผมอยากปิดชีวิตการทำงานของตัวเองด้วยแชมป์นี้ ผมคงไม่สามารถขออะไรได้อีก ขอบคุณพระเจ้า ที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับผม”

ลิโอเนล สคาโลนี่ โค้ชของอาร์เจนติน่า ก็พูดในการให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า เมสซี่จะได้รับการต้อนรับเสมอสำหรับการเล่นให้ทีมชาติ

ลิโอเนล เมสซี่ กับสถิติมากมายในฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโ,ก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ กับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 2022 ลูกฟุตบอลทองคำ (ภาพ: www.goalzz.com)

นอกจากจะเดินตามรอยตำนานนักเตะของอาร์เจนติน่าและของโลก ที่คว้าแชมป์โลกสำเร็จ เมสซี่ยังทำให้สถานภาพของตัวเองในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดในโลกมั่นคงยิ่งขึ้น แม้จะพลาดรองเท้าทองคำ รางวัลสำหรับดาวซัลโวให้กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่เขาก็เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของรายการ ซึ่งเป็นหนที่ 2 แล้วที่เขาได้รับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำ โดยในฟุตบอลโลก 2022 เมสซี่ยิงไป 7 ประตู และจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีกสาม

ในตอนนี้จากการลงเล่นทุกเกมรวม 1,003 นัดทั้งในระดับชาติและสโมสร เจ้าของบัลลงดอร์ 7 สมัยทำประตูไปถึง 793 ประตู แล้วยังกลายเป็นเจ้าของสถิติมากมายในฟุตบอลโลกให้ได้เล่าขานถึง และนี่คือ สถิติเหล่านั้น

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้น เมสซี่ที่เป็นหนึ่งใน 11 ผู้เล่นตัวจริงของอาร์เจนติน่าคือนักเตะคนแรกที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 26 เกม มากกว่าเจ้าของสถิติเดิม โลธ่าร์ มัตเทอุส กองกลางเยอรมนี ที่ทำไว้ 25 นัด โดยเมสซี่เล่นฟุตบอลโลกนัดแรกในเดือนมิถุนายน 2006 และลงเล่นแค่ 3 เกมที่เยอรมนีในฐานะซูเปอร์ซับ ตามด้วยการเป็นตัวจริงทุกนัดของอาร์เจนติน่าในฟุตบอลโลก 2010, 2014, 2018 และ 2022

โดยเมสซี่ยังทำลายสถิตินักเตะอาร์เจนไตน์ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุด 21 นัดของมาราโดน่าลงด้วย

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะที่เล่นฟุตบอลโลกด้วยจำนวนนาทีมากที่สุด

เปาโล มัลดินี่ อิตาลี

ปาโล มัลดินี่ กองหลังอมตะของทีมชาติอิตาลี (ภาพ: www.skysports.com)

นอกจากจะลงเล่นฟุตบอลโลกด้วยจำนวนนัดที่มากที่สุดแล้ว เมสซี่ยังลงเล่นโดยคิดเป็นนาทีมากที่สุดอีกด้วย โดยเจ้าของสถิติเดิมก็คือ เปาโล มัลดินี่ กองหลังอมตะของทีมชาติอิตาลี เมื่อเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 มาถึงการดวลจุดโทษ นั่นหมายความว่า เมสซี่ลงเล่นไปแล้ว 2,314 นาทีจาก 26 นัด ส่วนมัลดินี่ลงเล่น 2,216 นาทีจาก 23 นัดในฟุตบอลโลก

ลิโอเนล เมสซี่คือนักเตะที่มีส่วนกับการได้ประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม ก่อนนัดชิงจะเริ่มขึ้น (ภาพ:  Ariel Schalit/AP)

มาถึงสถิติที่ว่าด้วยศักยภาพในการทำเกมรุกในแนวรับของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นดาวยิงที่เยี่ยมยอดและผู้สร้างสรรค์ประตูที่ยอดเยี่ยมของเมสซี่ เมสซี่ทำประตูในฟุตบอลโลกไปถึง 13 ประตู และจ่ายให้เพื่อนอีก 8 ประตู ทำให้เขามีส่วนโดยตรงกับการทำประตูในฟุตบอลโลกถึง 21 ประตู มากที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติในปี 1966

โดยเจ้าของสถิติก่อนหน้านี้คือ มิโรสลาฟ โคลเซ จากเยอรมนี ที่ยิงไป 16 จ่ายไป 3 ประตู, โรนัลโด้ แห่งบราซิล ยิง 15 ส่งให้เพื่อน 4 และเกิร์ด มุลเลอร์ ยิง 14 และส่งให้เพื่อนอีก 5 ประตู

ลิโอเนล เมสซี่คือนักเตะที่มีส่วนกับประตูในฟุตบอลโลกด้วยจำนวนนัดที่มากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ (ภาพ: AFP)

การมีส่วนร่วมกับ 21 ประตูของเมสซี่เกิดจาก 14 เกมที่ลงเล่น และการยิงจุดโทษลูกแรกในนัดชิง ก็ทำให้เมสซี่เป็นนักเตะที่ลงเล่นฟุตบอลโลกแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูด้วยจำนวนเกมที่มากที่สุด เมสซี่มีส่วนร่วมอย่างน้อย 1 ประตูใน 6 จาก 7 เกมที่ลงเล่นในกาตาร์ พลาดไปเกมเดียวคือวันที่ฟ้า-ขาวเอาชนะโปแลนด์ในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอีก 8 เกมเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 2006 – 2018

ลิโอเนล เมสซี่คือผู้เล่นที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ในฟุตบอลโลกมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2006

ลิโอเนล เมสซี่ จากฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลโลกหนแรกในชีวิตของเขา (ภาพ: www.planetfootball.com)

เมสซี่เป็นนักเตะคนแรกที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในนัดเดียวกัน จากฟุตบอลโลกถึง 4 นัด นับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติกันในปี 1966 เมสซี่จารึกชื่อตัวเองในฐานะผู้เล่นที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนแรกของตัวเองเมื่อปี 2006 ในเกมกับเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร แล้วก็ต้องรอถึง 16 ปีกว่าจะทำได้อีกในปีนี้ จากเกมรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะเม็กซิโก ตามด้วยเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์ และเกมรอบรองชนะเลิศกับโครเอเชีย

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดและมากที่สุด ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในเกมเดียวกัน ในฟุตบอลโลก
การที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกที่ยาวนานถึง 5 ครั้ง ทำให้เมสซี่เป็นทั้งนักเตะที่อายุน้อยสุดและมากสุด ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายในนัดเดียวกันของทัวร์นาเมนต์

โดยตอนอายุแค่ 18 ปีกับ 357 วัน เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ยิงและจ่ายในเกมเดียวกัน จากฟุตบอลโลก 2006 ที่อาร์เจนติน่าชนะเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร 6-0 และวันที่เจอกับโครเอเชียในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 เขาก็กลายเป็นนักเตะที่อายุมากสุดที่ทำได้ ด้วยวัย 35 ปีกับ 172 วัน

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะอาร์เจนติน่าที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด

แกเบรียล บาติสตูต้า อาร์เจนติน่า

แกเบรียล บาติสตูต้า อดีตดาวซัลโว ฟ้า-ขาว อาร์เจนติน่า (ภาพ: www.reuters.com)

นอกจากจะเป็นนักเตะอาร์เจนติน่าที่ยิงให้ทีมชาติมากที่สุด ฟุตบอลโลกหนนี้ยังทำให้เมสซี่เป็นนักเตะอาร์เจนไตน์ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด หลังจากทำสถิติทาบแกเบรียล บาติสตูต้าในฐานะนักเตะอาร์เจนติน่าที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด 11 ประตู จากเกมรอบรองชนะเลิศกับโครเอเชีย และเมื่อรวมประตูจากเกมนัดชิง เขาก็กลายเป็นเจ้าของสถิติเพียงผู้เดียว ด้วยจำนวน 13 ประตู

โดยตอนนี้เมสซี่แซงหน้า เปเล่ ตำนานนักเตะจากบราซิลที่ทำไป 12 ประตู และเสมอกับดาวยิงระดับตำนานของฝรั่งเศส จุสต์ ฟองแต็ง – 13 ประตู ในรายชื่อผู้ทำประตูมากที่สุดของฟุตบอลโลก โดยเป็นรองแค่มิโรสลาฟ โคลเซ่ จากเยอรมนีที่ทำไว้ 16 ประตูเพียงคนเดียว

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูในทุกรอบของฟุตบอลโลกในครั้งเดียว

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022

7 ประตูของเมสซี่ในกาตาร์ เกิดขึ้นใน 6 นัด (ภาพ: AFP)

7 ประตูของเมสซี่ในกาตาร์ เกิดขึ้นใน 6 นัด แยกเป็น 2 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มกับซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก, 1 ประตูจากรอบ 16 ทีมกับออสเตรเลีย, 1 ประตูจากรอบก่อนรองชนะเลิศกับเนเธอร์แลนด์, 1 ประตูจากรอบรองชนะเลิศกับโครเอเชีย และ 2 ประตูในนัดชิงกับฝรั่งเศส ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูทุกรอบของฟุตบอลโลกครั้งเดียว จากรูปแบบการจัดการแข่งขัน 32 ทีม

โดยก่อนหน้านี้ แจร์ซินโญ่ นักเตะบราซิลเคยทำประตูในทุกรอบของฟุตบอลโลก 1970 แต่ตอนนั้นมีทีมเข้าร่วมเพียง 16 ทีม ขณะที่เมสซี่ทำได้จากเกมทั้งหมด 5 รอบ

ลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะจ่ายให้เพื่อนทำประตูจากฟุตบอลโลกต่างครั้งมากที่สุด

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

ไม่ใช่แค่ยิงประตู เมสซี่ยังเป็นผู้สร้างสรรค์ประตูชั้นดี โดยเขาจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูในฟุตบอลโลกได้ถึง 8 ประตู ซึ่งเท่ากับที่ดิเอโก้ มาราโดน่าตำนานนักเตะชาติเดียวกันทำไว้ แต่การจ่ายให้เพื่อน ๆ ยิงถึง 3 ประตูในกาตาร์ เริ่มจากเกมกับเม็กซิโกทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่จ่ายให้เพื่อนทำประตูในฟุตบอลโลกถึง 5 ครั้ง 2006, 2010, 2014, 2018 ทำลายสถิติที่ตัวเองทำไว้ 4 ครั้ง

ลิโอเนล เมสซี่ ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมที่มากที่สุดจากฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียว

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเมสซี่ในฟุตบอลโลก 2022 ทำให้เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกม (Man of the Match) ถึง 5 นัด (ภาพ: FIFA)

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเมสซี่ในฟุตบอลโลก 2022 ทำให้เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกม (Man of the Match) ถึง 5 นัด โดยนับตั้งแต่มีการมอบรางวัลนี้ในฟุตบอลโลกปี 2002 ไม่มีนักเตะคนไหนได้รางวัลนี้จากฟุตบอลโลกหนเดียวมากกกว่าเมสซี่อีกแล้ว โดยเจ้าของสถิติเดิมคือ เวสลีย์ สไนเดอร์ – 4 นัด

หากนับรวมจากฟุตบอลโลกทุกครั้ง เมสซี่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมในฟุตบอลโลกถึง 8 ครั้ง แซงหน้าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ของโปรตุเกส ที่ทำไว้ 7 นัด

ลิโอเนล เมสซี่ ได้รับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำมากที่สุด

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2014

ลิโอเนล เมสซี่ กับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำครั้งแรกในปี 2014 (ภาพ: AP Images)

นอกจากจะคว้าแชมป์โลกแล้ว เมสซี่ยังเป็นนักเตะยอดเยี่ยม ได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำอีกด้วย ซึ่งเป็นหนที่สองแล้ว หลังจากครั้งแรกในปี 2014 ทำให้เป็นนักเตะที่รับรางวัลนี้มากที่สุด และเป็นนักเตะอาร์เจนติน่าคนแรกที่ได้รางวัลนี้ หลังจากมาราโดน่าเคยคว้ามาครองในปี 1986

ในฟุตบอลโลกหนนี้ ยังมีนักเตะอาร์เจนติน่าอีก 2 รายที่คว้ารางวัลส่วนตัวพร้อมแชมป์โลกไปครองก็คือ เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ที่เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยม และอีมิเลียโน มาร์ติเนซ ที่เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม รางวัลถุงมือทองคำ

ข้อมูล: www.sportsmole.co.uk
ภาพปก: Showkat Shafi/Al Jazeera

เรื่องน่าอ่าน
พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : อาร์เจนติน่า เสมอ ฝรั่งเศส 3-3, ดวลจุดโทษ อาร์เจนติน่า ชนะ 4-2

 

“บ้าบอเป็นที่สุด” ใครบางคนหล่นนิยามถึงเกมนี้ไว้

 

แม้จะพอคาดเดาได้ถึงผลเสมอ แต่ก็ยากจะมีใครคาดคิดว่าตัวเลขสกอร์บอร์ดจะขยับขึ้นพรวดๆ แบบนี้ และต้องตัดสินกันแบบเอาอกแตะเส้นชัยในท้ายที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะว่า ฝรั่งเศส มีรูปเกมที่แย่ น่าส่ายหัวเป็นที่สุดถึงกว่า 70 นาที

 

นี่คือเกมประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

 

นัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 เกมที่ทำให้โลกได้รู้ซึ้งอีกครั้งว่า “ฟุตบอล” มันโคตรจะดราม่าและลุ้นระทึกกว่าหนังฮอลลีวู้ดเป็นไหนๆ…

 

เกมชิงแชมป์โลกที่ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ทีมฟ้าขาวในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ที่แพ้แค่เกมเดียวจาก 42 นัดหลัง จัดเต็มกำลังทัพลงแต่ปรับระบบจาก 4-1-3-2 มาเป็น 4-3-3 เมื่อได้ อังเคล ดิ มาเรีย ฟิตคืนตัวจริงมาเดิมเกมรุกร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ส่วนตรงกลาง เลอันโดร ปาเรเดส โดนดร็อป และแบ็กซ้ายยังยึด นิโกลัส ตายาฟิโก้ ลงต่อแม้ มาร์กอส อคุนย่า จะพ้นแบนแล้วก็ตาม

 

ฝั่งแชมป์เก่าของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ที่เข้าชิงบอลโลกถึง 4 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง มาด้วย 11 คนแรกชุดเดิมทั้งสิ้น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บติดตัว พร้อมกับที่ อาเดรียง ราบิโอต์ และ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ หายป่วยกลับคืนตำแหน่ง เช่นเดียวกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ ลงตามเดิม

 

เริ่มเกมขึ้น 5 นาที อาร์เจนติน่า ได้ทักทายก่อนจากลูกส่องไกลเต็มข้อของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ บอลพุ่งแรงเข้าหากรอบประตู แต่ก็เข้าซอง อูโก้ โยริส แบบไม่กระฉอก

 

ช่วงสิบนาทีแรกเป็น อาร์เจนติน่า ที่ครองบอลลุยเข้าใส่ก่อน โดยช่วงนาทีที่ 9 เกมต้องหยุดลงชั่วครู่ หลัง คริสเตียน โรเมโร่ เข้าปะทะแบบทิ่มศอกใส่กลางลำตัว อูโก้ โยริส จนนายด่านตราไก่ล้มลงไปกอง แต่ปฐมพยาบาลแล้วก็เล่นต่อได้ตามปกติ

 

นาที 20 เพิ่งเป็นโอกาสแรกของ ฝรั่งเศส จากฟรีคิกข้างเขตโทษ อองตวน กรีซมันน์ เปิดให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โถมโขกที่เสาไกลข้ามคานไป แต่ก็มีเสียงนกหวีดเป่าฟาวล์หัวหอกตราไก่ดังขึ้นมาด้วย

 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

แต่เพียงนาทีเดียวถัดมา ฝรั่งเศส ก็งานเข้าเสียดื้อๆ อังเคล ดิ มาเรีย ล็อกหลบ อุสมัน เดมเบเล่ ที่สุดเส้นหลังซ้ายแล้วโดน เดมเบเล่ ตามมารวบจากด้านหลัง ผู้ตัดสิน ซิมอน มาร์ซิเนี้ยค จากโปแลนด์ เป่าจุดโทษทันทีอย่างมั่นใจ และ ลิโอเนล เมสซี่ ก็รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าเสียบเสาอย่างมั่นใจเช่นกัน ส่ง อาร์เจนติน่า ขึ้นนำ 1-0 เร็วในนาทีที่ 23 ซึ่งก็ทำให้ เมสซี่ ขึ้นนำดาวซัลโวแล้วที่ 6 ประตู

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

จากนั้น ฝรั่งเศส พยายามตั้งเกมสู้ แต่ยังไม่ทันได้มีโอกาสยิงครั้งแรกสกอร์ก็ขยับขึ้นเป็น 2-0 ของ อาร์เจนติน่า เสียแล้วในนาที 37 จังหวะสวนเร็ว เมสซี่ แปะออกขวาให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ทิ่มขึ้นหน้าให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ปาดต่อไปเสาไกลถึง อังเคล ดิ มาเรีย ยิงไม่จับสวนตัว โยริส เข้าไปอย่างเฉียบคม ฟ้าขาวทิ้ง 2-0 ตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

โดนไปสองเม็ด เดส์ชองส์ ปรับเกมส่งสำรองกองหน้า 2 คนรวดทันทีในนาที 41 ถอดทั้ง ชิรูด์ กับ เดมเบเล่ ออกให้ มาร์คุส ตูราม กับ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ลงไปแทน หวังแก้คืนให้เร็วที่สุด

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ท้ายครึ่งแรกและทดเจ็บ 7 นาที ฝรั่งเศส เกมกระเตื้องขึ้นบ้างแต่ก็ยังหาโอกาสเจาะแนวรับฟ้าขาวไปลุ้นสกอร์ไม่ได้ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ แทบไม่ได้ออกจอ จนสิ้นครึ่งแรกลงไปที่ อาร์เจนติน่า นำห่าง 2-0 ขึ้นแท่นรอชูถ้วยแชมป์โลกตั้งแต่ตรงนี้

 

ต่อครึ่งหลังยังไม่มีเปลี่ยนตัวเพิ่ม เกมของ ฝรั่งเศส ไม่ได้ดีขึ้นหรือคุมสถานการณ์อะไรมากมาย รวมถึงว่าไม่ได้สร้างอันตรายอะไรให้ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ต้องหนักใจหรือออกแรงเซฟไว้ด้วย ตัวความหวังสูงสุดอย่าง เอ็มบัปเป้ ยังเงียบฉี่ บางจังหวะมีจ่ายติดเองก็มี

 

ครบชั่วโมง ฝรั่งเศส ยังมีโอกาสจบเป็นศูนย์ ผิดกับ อาร์เจนติน่า ที่ลุยขึ้นไปได้เสียว 2-3 หน จนนาที 64 สคาโลนี่ ขยับส่งสำรองลงคนแรก มาร์กอส อคุนย่า ลงไปเติมเกมรับแทน ดิ มาเรีย

 

นาที 68 ฝรั่งเศส ได้จบหนแรกจากเตะมุม ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ โขกโดนไม่ดีหลุดกรอบไปไม่ใกล้เคียง และต่อมาอีกสามนาที เอ็มบัปเป้ สบโอกาสส่องด้วยซ้าย ข้ามคานไป เป็นจังหวะซัดแรกของเขาในเกมนี้

 

จากนั้น เดส์ชองส์ เปลี่ยนเพิ่มอีกสอง คิงสลี่ย์ โกม็อง กับ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ลงแทน อองตวน กรีซมันน์ กับ เตโอ เอร์นันเดซ ตามลำดับ

 

แต่แล้วจากเกมที่ดูไม่มีอะไร ฝรั่งเศส ก็มาได้จุดโทษคืนบ้างในนาที 79 เมื่อ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ไปเหนี่ยว ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษคืนให้ตราไก่ ซึ่งก็เป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กดเสียบมุมไม่พลาด ไล่มากระชั้น 1-2 และเป็นเม็ดที่ 6 เท่ากับ เมสซี่ 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

แล้วก็กลายเป็นว่า ฝรั่งเศส กลับสู่เกมได้ทันทีด้วยประตูตีเสมอ 2-2 ในอีกสองนาทีให้หลัง คิงสลี่ย์ โกม็อง เบียดชนะแย่งบอลจาก เมสซี่ ได้ที่ฝั่งขวา แล้วถ่ายให้ ราบิโอต์ เคาะขึ้นหน้า เอ็มบัปเป้ โขกทำชิ่งกับ มาร์คุส ตูราม จนทะลุขึ้นทางซ้ายแล้วล้มตัวยิงวอลเลย์เร็วจังหวะเดียว บอลพุ่งผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ เข้าเสาไกลพอดิบพอดี ฝรั่งเศส กลับสู่เกมด้วยประตูที่ 7 ของ เอ็มบัปเป้ ในรายการนี้

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ถึงทดเจ็บ 90+4 ฝรั่งเศส หวิดแซงนำด้วยจากจังหวะซัดของ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ติดเซฟ มาร์ติเนซ ที่เสาแรก ขณะที่ อาร์เจนติน่า ก็มีลุ้นตอน 90+7 เมสซี่ ใส่เต็มข้อด้วยซ้าย ติดปลายมือ อูโก้ โยริส นิดเดียว ส่งผลให้ 90 นาทีจบลงอย่างสนุก 2-2 และต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อตัดสิน

 

เข้าช่วงต่อเวลา สคาโลนี่ ถอด นาอูเอล โมลิน่า ออกให้ กอนซาโล่ มอนเทียล ลงคุมเกมรับริมเส้นขวาแทน และรูปเกมกลายเป็นเหมือนช่วงครึ่งชั่วโมงท้าย ที่ ฝรั่งเศส ครองบอลคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า ขาดก็แต่จังหวะลุ้นสกอร์เหมาะๆ

 

เข้าครึ่งหลังต่อเวลาได้แว้บเดียว นาที 109 กลายเป็น อาร์เจนติน่า นำอีกหน 3-2 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แทงให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลุดเข้าทางขวาไปส่องเต็มแรงติดเซฟ โยริส แต่บอลเด้งมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงข้ามเส้นประตูเข้าไปแม้มี ชูลส์ กุนเด้ ควักออกมาก็ตาม และเช็กวีเออาร์แล้วไม่ล้ำหน้า อาร์เจนติน่า เฮสนั่น 3-2

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

อย่างไรก็ตาม อีกอึดใจเดียวถัดมา นาที 116 ฝรั่งเศสก็มาได้จุดโทษที่สอง เอ็มบัปเป้ ยิงไปชนแขน กอนซาโล่ มอนเทียล ผู้ตัดสินชี้จุดโทษแฮนด์บอล ซึ่งก็เป็น เอ็มบัปเป้ คว้าลูกมาสังหารเองอย่างมั่นใจเบียดเสาเข้าไปแบบไม่เผื่อให้ลุ้น ตีเสมอ 3-3 เป็นแฮตทริกพร้อมลูกที่ 8 ของ เอ็มบัปเป้

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ทดเจ็บต่อเวลา 120+3 ตราไก่เกือบแซงเข้าป้าย ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ หลุดเข้าส่องเน้นๆ ติดซูเปอร์เซฟ เอมี่ มาร์ติเนซ ไม่น่าเชื่อ และฟ้าขาวสวนไปก็ถึงจบ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้โหม่งในจุดอันตรายแต่โดนไม่ดีจนหลุดกรอบไปเอง สุดท้าย 120 นาทีจบอย่างสุดตื่นเต้น 3-3 ต้องชี้ขาดแชมป์โลกด้วยการดวลจุดโทษ

 

ถึงจุดโทษ อูโก้ โยริส เสี่ยงทายชนะเลือกยิงก่อน
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงเข้าไปแม้ มาร์ติเนซ จะพุ่งถึงแต่ปัดไม่ออก 1-0
ลิโอเนล เมสซี่ กดเรียดเข้าไปโดยที่ โยริส มาไม่ถึงแค่เสี้ยววินาที 1-1
คิงสลี่ย์ โกม็อง ซัดติดเซฟ มาร์ติเนซ เต็มๆ 1-1
เปาโล ดีบาล่า ส่องด้วยซ้ายเข้ากลางประตู 1-2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ตะบันหลุดเสาไปเอง 1-2
เลอันโดร ปาเรเดส กดเสียบมุมไม่พลาด 1-3
ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงเสยแสกกลาง 2-3
และ กอนซาโล่ มอนเทียล สังหารนำชัยเข้ามุมประตู 4-2

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

อาร์เจนติน่า ชนะดวลจุดโทษ 4-2 ครองแชมป์โลกสมัย 3 ที่ห่างหายมา 36 ปี หรือตั้งแต่ 1986 และ ลิโอเนล เมสซี่ ไปถึงโทรฟี่แชมป์โลกที่ตามหามาทั้งชีวิต ในเกมสุดท้ายที่ลงเล่นฟุตบอลโลกสำหรับตัวเขา

 

สำหรับ ฝรั่งเศส มีรางวัลปลอบใจแค่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้รองเท้าทองคำ ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 จากการซัดไป 8 ประตูด้วยกัน

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-3-3) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นิโกลัส ตายาฟิโก้ (เปาโล ดีบาล่า 120), นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 91) – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรดริโก้ เด ปอล (เลอันโดร ปาเรเดส 102), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เคร์มัน เปซเซลล่า 116) – อังเคล ดิ มาเรีย (มาร์กอส อคุนย่า 64), ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 102), ลิโอเนล เมสซี่
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ (เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า 71), ราฟาแอล วาราน (อิบราฮิมา โกนาเต้ 113), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ชูลส์ กุนเด้ (อักเซล ดิซาซี่ 120) – อาเดรียง ราบิโอต์ (ยุสซูฟ โฟฟาน่า 96), ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่ (มาร์คุส ตูราม 41), อองตวน กรีซมันน์ (คิงสลี่ย์ โกม็อง 71), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ 41)

 

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ลงเตะฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด เมสซี่ คว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ 5 หน ที่เหลือเป็นของ โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส (ของซาอุฯ) นัดแพ้ซาอุฯ กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นัดชนะโปแลนด์
• 5 แมนออฟเดอะแมตช์ ยังสูงสุดในฟุตบอลโลก 2022 รองจากนั้นคือ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ 3
• เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติ 17 ประตูจากการลงสนามแค่ 11 นัดหลัง เป็นในฟุตบอลโลก 2022 เจ็ดประตู
• เมสซี่ ยึดสถิติดาวซัลโวสูงสุดของอาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก แทนที่ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วยการยิงไป 13 ประตู
• เมสซี่ เป็นคนที่ 9 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และบัลลง ดอร์ ได้ในเส้นทางอาชีพ ร่วมกับ ตำนานอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน, แกร์ด มุลเลอร์, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า

 

• เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ “ครบทุกรอบ” ตั้งแต่รอบแรกยันนัดชิง ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
• เมสซี่ ได้แชมป์โลกในการเล่นเกมอาชีพนัดที่ 1,003 ของตัวเอง แบ่งเป็น 778 กับบาร์เซโลน่า, 172 กับอาร์เจนติน่า และ 53 กับเปแอสเช
• เมสซี่ ทำสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย สูงสุดเป็นจำนวน 26 เกม ตั้งแต่ 2006 – 2022 เหนือกว่า โลธ่าร์ มัทเธอุส 25, มิโรสลาฟ โคลเซ่ 24, เปาโล มัลดินี่ 23 และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 22

 

• ลิโอเนล สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 43 นัดหลังสุด (รวมทำทีม 57 นัด ชนะ 37 เสมอ 15 แพ้ 5)
• สคาโลนี่ เป็นกุนซือแชมป์โลกที่วัยอ่อนเยาว์สุด 44 ปี 216 วัน
• ที่จริง งานทำทีมอาร์เจนติน่า ก็คืองานใหญ่จ๊อบแรกสุดของ สคาโลนี่ หลังแขวนสตั๊ดกับ อตาลันต้า ปี 2015 แล้วมาเป็นผู้ช่วยของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ทั้งที่ เซบีย่า และในทีมชาติอาร์เจนติน่า (ฟุตบอลโลก 2018) รวมถึงเคยได้คุมอาร์เจนฯ เยาวชนยู-20 มาก่อนเท่านั้น

 

• อังเคล ดิ มาเรีย เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถยิงประตูได้ทั้งในนัดชิงโคปา อเมริกา และฟุตบอลโลก
• ตอนหมดครึ่งแรก อาร์เจนติน่า ข่มขาดด้วยโอกาสยิงรวม 6:0 และยิงตรงกรอบ 3:0 รวมถึงเตะมุม 2:0 ด้วย
• ตลอด 120 นาที อาร์เจนติน่า สร้างโอกาสยิงรวม 20 ครั้ง ตรงกรอบ 10 ส่วน ฝรั่งเศส 10/5

 

• อาร์เจนติน่า หยุดสถิติแย่ๆ อย่างการแพ้นัดชิงบอลโลกไว้ที่ 2 หนติด 1990 กับ 2014
• อาร์เจนติน่า เป็นรายที่ 2 ที่แพ้เกมแรกแล้วครองแชมป์ในท้ายที่สุด ถัดจาก สเปน 2010
• อาร์เจนติน่า ตอกย้ำการเป็นราชาดวลเป้า King of penalty shoot-outs ด้วยการชนะดวลจุดโทษเป็นครั้งที่ 6 เหนือกว่าทุกทีมในโลก และเคยแพ้มาแค่หนเดียวเท่านั้น
3-2 ยูโกสลาเวีย, 8 ทีม 1990
4-3 อิตาลี, ตัดเชือก 1990
4-3 อังกฤษ, 16 ทีม 1998
4-2 เนเธอร์แลนด์, ตัดเชือก 2014
4-3 เนเธอร์แลนด์, 8 ทีม 2022
4-2 ฝรั่งเศส, ชิงชนะเลิศ 2022
(แพ้ เยอรมนี 2-4, 8 ทีม 2006)

 

• ฝรั่งเศส เป็นเพียงทีมที่ 2 ที่ตามหลัง 0-2 ในนัดชิงชนะเลิศ แล้วกลับมาได้ ถัดจาก เยอรมนี ที่ทำไว้สองหนในปี 1954 และ 1986
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำแฮตทริกในนัดชิงชนะเลิศเป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ถัดจาก เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ ของอังกฤษ 1966
• เอ็มบัปเป้ คว้าดาวซัลโวด้วยการยิงไป 8 ประตู สูงสุดนับแต่ โรนัลโด้ (บราซิล) 2002
• ออเรเลียง ชูอาเมนี่ วิ่งรวม 15.8 กม. ในเกมนี้ ก่อนมายิงจุดโทษและซัดออกไปเอง
• อูโก้ โยริส กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากสุด ที่จำนวน 20 นัด เหนือ มานูเอล นอยเออร์ 19 และ เซปป์ ไมเออร์ 18

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ปากคำหลังเกม อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส
ลิโอเนล สคาโลนี่ : “ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ผมอาจรู้สึกตื่นเต้นน้อยกว่าวันอื่นๆ แต่วันนี้ผมได้รับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่”
“ทีมชุดนี้ทำให้ผมภาคภูมิใจเป็นที่สุด ความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นของพวกเขา ผมอยากบอกทุกคนว่ามีความสุขให้เต็มที่ เพราะนี่คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์”

 

ลิโอเนล เมสซี่ : “นี่คือแชมป์ที่ขาดหายไปของผม ตอนนี้ผมได้มาครองแล้ว มันบ้ามากๆ ตอนนี้ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะกลับไปฉลองแชมป์ที่ประเทศของผม เพื่อพบเจอกับความบ้าคลั่งของที่นั่น”
“เราเจอกับความยากลำบากมากมาย วันนี้คุณต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่บ้าคลั่งมาก การคว้าแชมป์โลกเป็นความฝันของเด็กๆ ทุกคน นี่คือแชมป์สำหรับประชาชนชาวอาร์เจนไตน์”

 

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ : “ที่จริง เราเอาเกมมาอยู่ในการควบคุมได้แล้ว แต่ทีมของเรากลับถูกกำหนดให้ต้องเจอกับความยากลำบากอย่างแสนสาหัส ฝรั่งเศสเกือบทำประตูชัยได้เช่นกัน แต่ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรามาอยู่ตรงนี้”
“ฟุตบอลโลกเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันถึงมาตลอด ตอนนี้ผมไม่มีคำพูดมาอธิบายถึงความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นกับผมในเวลานี้ได้เลย”

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ : “เราไม่ได้พลิกสถานการณ์ (ในช่วง 70 นาทีแรก) ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างตลอด 4 วันที่ผ่านมา อาการป่วยและจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมด้วย”

 

อูโก้ โยริส : “เราตอบสนองได้ดีมาก มันเกือบจะเหมือนการแข่งขันชกมวย เราแลกกันหมัดต่อหมัด สิ่งเดียวที่เราเสียใจคงเป็นผลงานในครึ่งแรก แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเราก็ยังไม่ยอมแพ้ เราเชื่อมั่นไปจนจบ มันเป็นการตัดสินผู้ชนะจากการดวลจุดโทษ”
“มันเป็นเรื่องเจ็บปวดเสมอเมื่อต้องมาอยู่อีกฝั่ง (ของผู้ชนะ) แต่เราทุ่มเททุกอย่างลงไปในรายการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการแข่งขัน มันเป็นการแข่งขันที่ยาวนานนับเดือน”
“ในรอบชิงชนะเลิศ เราสามารถตามหลัง 0-2 ได้ แต่เรายังคงเชื่อมั่นไปจนจบ เราสามารถพลิกสถานการณ์ แต่มันกลับไม่มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะโอกาสในนาที 120 (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงติดเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ) ซึ่งน่าจะทำให้เราพลิกนำ 4-3”
“มันคือฟุตบอล เราต้องยินดีกับอาร์เจนติน่าที่ประสบความสำเร็จในรายการที่ยอดเยี่ยม รอบชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยม”

 

ราฟาแอล วาราน : “แน่นอน เราผิดหวังกันมาก เราทุ่มเทกันเต็มที่แล้ว เราเจอกับอุปสรรคมากมายตลอดที่ลงเล่นรายการนี้ เราไม่เคยเอามาเป็นข้ออ้างหรือยอมแพ้ เราไม่ได้อยู่ในเกมนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ท้ายสุดเราน่าจะชนะ ผมภูมิใจกับกลุ่มนี้และการเป็นคนฝรั่งเศสมาก”
“เราจะรักษาความภาคภูมิใจนี้ไว้ มัน (การตามหลัง 0-2) เกิดขึ้นรวดเร็วมาก หลังจากนั้นสภาพร่างกายเราดีขึ้นกว่าเดิม เราดันกลับและเชื่อมั่นไปจนจบเกม เราเกือบจะเปลี่ยนเกมได้แล้วหลังจากมีการออกตัวที่แย่”
“มันเป็นการเดินทางที่คดเคี้ยว แต่ทีมนี้มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความห้าวหาญ นั่นทำให้เรากลับมาสู่เกม เราผิดหวังแต่มีความภาคภูมิใจในตัวเองมาก”

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 3-3 (4-2) ฝรั่งเศส
• 6 ประตูที่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ กาตาร์ 2022 กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำประตูกันได้มากที่สุด 172 ลูก ทำลายสถิติของ ฟร้องซ์ 98 และ บราซิล 2014 ที่มียิงกัน 171 ประตู
• ดาวบนโลโก้ทีมชาติอาร์เจนติน่า จะเพิ่มขึ้นเป็นดวงที่ 3 ตามจำนวนแชมป์โลกที่ได้มา 3 สมัย
• ลิโอเนล เมสซี่ ยืนยันยังไม่มีแผนอำลาทีมชาติในเร็วๆ นี้ แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่า ต่อให้ลากยาวขนาดไหนก็ไปไม่ถึงฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 ที่สหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา

• ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เผยจะขอตัดสินอนาคต อยู่หรือไปจากทีมชาติฝรั่งเศส หลังผ่านช่วงปีใหม่นี้ไปแล้ว ภายหลังคุมมาตั้งแต่ 2012 ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่มา 5 ครั้ง

 

ทำเนียบแชมป์โลก ตลอดหน้าประวัติศาสตร์
1930 อุรุกวัย
1934 อิตาลี
1938 อิตาลี
1950 อุรุกวัย
1954 เยอรมนีตะวันตก
1958 บราซิล
1962 บราซิล
1966 อังกฤษ
1970 บราซิล
1974 เยอรมนีตะวันตก
1978 อาร์เจนติน่า
1982 อิตาลี
1986 อาร์เจนติน่า
1990 เยอรมนีตะวันตก
1994 บราซิล
1998 ฝรั่งเศส
2002 บราซิล
2006 อิตาลี
2010 สเปน
2014 เยอรมนี
2018 ฝรั่งเศส
2022 อาร์เจนติน่า

 

ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022
8 ประตู : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)
7 ประตู : ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
4 ประตู : ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (อาร์เจนติน่า), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส)
3 ประตู : ริชาร์ลิซอน (บราซิล), บูกาโย่ ซาก้า (อังกฤษ), มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ), อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน), เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์), โคดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์), กอนซาโล่ รามอส (โปรตุเกส)

 

รางวัลต่างๆ ของฟุตบอลโลก 2022
นักเตะยอดเยี่ยม
Golden Ball – ลิโอเนล เมสซี่
Silver Ball – คีลิยัน เอ็มบัปเป้
Bronze Ball – ลูก้า โมดริช

 

ดาวซัลโว
Golden Boot – คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (8 ประตู 2 แอสซิสต์)
Silver Boot – ลิโอเนล เมสซี่ (7 ประตู 3 แอสซิสต์)
Bronze Boot – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (4 ประตู 0 แอสซิสต์)

 

ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม Golden Glove – เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม FIFA Young Player Award – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
แฟร์เพลย์ FIFA Fair Play Trophy – ทีมชาติอังกฤษ

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022 …!?!
โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

เกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า ฟ้าขาวจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ด้วยชัยชนะเหนือตราไก่ ฝรั่งเศส

เกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า ฟ้าขาวจะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ด้วยชัยชนะเหนือตราไก่ ฝรั่งเศส

ทำนายผลเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส

วันที่ 18 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U/ 7HD/ True Sports 2

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

หลังฟาดแข้งมาตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2022 ฟุตบอลโลก 2022 ก็เดินทางมาถึงเกมสุดท้าย วันสุดท้าย ที่เป็นการพบกันระหว่าง อาร์เจนติน่าและแชมป์เก่า ฝรั่งเศส

นอกจากจะเป็นการแย่งแชมป์หนที่สามของทั้งสองชาติ เกมในนัดนี้ยังเชื่อกันว่าจะเป็นการวัดความสามารถของสองนักเตะจากทีม ปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็ง ลิโอเนล เมสซี่และคิลิยัน เอ็มบัปเป้ ทั้งในการแย่งตำแหน่งแชมป์โลก, ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของการแข่งขัน และรางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ โดยรางวัลหลังนักเตะอาร์เจนไตน์ได้เปรียบนิดหน่อยจากการจ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 3 ประตู ส่วนดาวรุ่งยอดเยี่ยมฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ทำไปแค่ 2 เท่านั้น และถ้าอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จะเป็นการปิดฉากอาชีพที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยสำหรับเมสซี่

ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดฟุตบอลโลก 2022 ที่หลายคนไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะได้รับบาดเจ็บ (ภาพ: www.pulse.ng)

ฝรั่งเศสแชมป์เก่ามากาตาร์โดยที่มีปัญหาให้แก้ไขตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บ ทีมมีปัญหานอกสนาม ฟอร์มในเนชั่นส์ ลีกย่ำแย่ และในที่สุดพวกเขาก็เข้าชิงสำเร็จ โดยไม่มีปอล ป็อกบา ไม่มีเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไม่มีคาริม เบนเซม่า แต่ดิดิเยร์ เดส์ช็องป์ส หนึ่งในสามคนที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกทั้งในฐานะนักเตะและโค้ชจัดการกับปัญหาทุกอย่างได้อย่างเรียบร้อย กลายเป็นแชมป์เก่ารายแรก ที่ได้เข้าชิงฟุตบอลโลกในปีต่อมา นับตั้งแต่บราซิลทำได้ในปี 1998 หลังจากคว้าแชมป์ในปี 1994 และมีโอกาสเป็นชาติที่สามต่อจากอิตาลี และบราซิล ในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกัน

เช็กสถิติของอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

อาร์เจนติน่าเข้าชิงฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 โดยคว้าแชมป์ได้ 2 หนในปี 1978 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ และในปี 1986 ที่เม็กซิโก โดยพวกเขาเข้าชิงหนล่าสุดเมื่อปี 2014 และแพ้นัดชิงให้กับเยอรมนี และถ้าพวกเขาแพ้ในหนนี้ จะทำสถิติที่ไม่น่าจดจำเท่ากับเยอรมนี คือแพ้ในรอบชิงถึง 4ครั้ง แต่อย่างน้อย การยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูขึ้นไป ตั้งแต่เปิดสนามด้วยความพ่ายแพ้ ก็เป็นสถิติที่น่าจะทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่า ตัวเองจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จโดยก่อนหน้านี้ มีแค่สเปนในปี 2010 เท่านั้นที่ลงสนามนัดแรกด้วยความพ่ายแพ้ แล้วกลายเป็นแชมป์โลกในท้ายที่สุด

ทีมของสคาโลนี่ยังทำสถิติโดนส่องประตูไม่เกิน 6 ครั้งต่อเกมที่กาตาร์อีกต่างหาก ซึ่งงานนี้แนวรับของฟ้าขาวต้องเผชิญหน้ากับเอ็มบัปเป้และเพื่อนพ้อง ซึ่งน่าจะเป็นบททดสอบสำคัญของพวกเขา

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

จากดาวรุ่งยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 เอ็มบัปเป้ เป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว (ภาพ: 24hoursworlds.com)

การเจอกันที่กาตาร์ จะเป็นการพบกันหนที่ 13 ของทั้งสองทีมจากทุกรายการ โดยทีมจากอเมริกาใต้ทำได้ดีกว่า เมื่อชนะไป 6 ครั้ง เสมอ 3 โดยเกมสุดท้ายที่ทั้งคู่เจอกัน เป็นเกมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ในรอบ 16 ทีม ที่จบลงอย่างน่าตื่นเต้นด้วยชัยชนะของทีมตราไก่ 4-3 ส่วนการเจอกันในฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในปี 1930 และ 1978 ซึ่งอาร์เจนติน่าชนะฝรั่งเศสไปทั้งสองนัด 1-0 และ 2-1 ตามลำดับ

ในการเจอกัน 12 นัด นักเตะอาร์เจนไตน์ยิงทีมตราไก่ได้ถึง 15 ประตู ส่วนนักเตะฝรั่งเศสยิงทีมฟ้าขาวได้เพียง 11 ประตู

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม (ภาพ: Ariel Schalit/AP)

ลิโอเนล สคาโลนี่ จะได้มาร์คอส อะคูญ่ากับกอนซาโล มอนทีล กลับมาหลังจากสองฟูลล์แบ็คเจอแบนในเกมรอบรองชนะเลิศ โดยอะคูญ่าน่าจะทวงตำแหน่งมาจากนิโคลาส ทากลิอาฟิโก้ได้ ส่วนมอนทีลก็ต้องแย่งตำแหน่งแบ็คขวากับนาฮูเอล โมลิน่า และถ้าทีมเลือกจะเล่นแบ็คโฟร์ ลิซานโดร มาร์ติเนซจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองไปก่อน

อเลฮานโดร โกเมซกับอังเจล ดิ มาเรีย มีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้าและกล้ามเนื้อตามลำดับ ดาวเตะจากยูเวนตุสที่ไม่ได้ลงในเกมรอบรองชนะเลิศน่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงครั้งแรก หลังผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งจะส่งลีอันโดร ปาเรเดสกลับไปนั่งสำรองอีกครั้ง ส่วนโกเมซจะต้องเช็คอาการกันอีกที และน่าจะเริ่มด้วยการเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับเปาโล ดีบาล่าและเลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่ลงเป็นตัวสำรองและทำได้ดี เรื่องน่าเป็นห่วงของทีมฟ้าขาวมีเรื่องเดียวคือ ข่าวที่ว่า เมสซี่มีปัญหากับกล้ามเนื้อโคนขาหลัง ที่กำเริบขึ้นมาอีกครั้งในเกมรอบรองชนะเลิศ แต่ก็ไม่น่าจะหนักหนาถึงขั้นลงเล่นไม่ได้ และทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ลงสนามในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุด 26 นัด

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

ฝรั่งเศสเจอปัญหานักเตะป่วยกันระนาว แอเดรียน ราบิโอต์ต้องดูเพื่อนเล่นในเกมที่แล้วจากโรงแรม ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ไปที่สนามแต่ก็ทำได้แค่นั่งดูเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เดส์ช็องป์สเชื่อว่าทั้งคู่น่าจะพร้อมสำหรับนัดชิง แต่มีรายงานข่าวว่า ราฟาเอล วารานและอิบราฮิมา โกนาเต้ เป็น 2 ผู้เล่นที่ตรวจพบอาการป่วย รวมถึงคิงสลีย์ โกมัน ทำให้ทั้งสามคนยังมีปัญหาว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่

ถ้าราบิโอต์พร้อมลงสนาม ยูสซูฟ โฟฟาน่าจะกลับไปเป็นตัวสำรอง ปัญหาของเดส์ช็องป์สอยู่ที่แผงหลัง โกนาเต้ที่ได้รับคำชมอย่างมากในเกมกับโมร็อกโก อาจถูกแทนที่โดยอูปาเมกาโน่ เมื่อข่าวระบุว่า อาการของเขาหนักกว่าวาราน ส่วนโกมันไม่ใช่นักเตะ 11 คนแรกของทีมอยู่แล้ว แบ็คซ้ายเธโอ เอร์น็องเดซถูกอัดแถวหัวเข่าหนัก ๆ 2-3 หนในเกมก่อน แต่ไม่น่าจะมีปัญหาในการลงเล่นเป็นตัวจริง

แดนหน้าคิลิยัย เอ็มบัปเป้ พร้อมลงเล่นวัดกับเมสซี่เพื่อนร่วมทีมเปเอสเฌ ซึ่งถ้าเขาทำประตูในนัดนี้ได้ จะกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด ที่ยิงประตูในนัดชิงฟุตบอลโลกมากกว่า 1 ครั้ง โดยผู้ช่วยคนสำคัญของเขาคือ อองตวน กรีซมันน์ ที่สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมไปแล้วถึง 21 ครั้ง มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมี่ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ
ฝรั่งเศส ระบบ 4-3-3: โญริส; คุนเด้, วาราน, อูปาเมกาโน่, เอร์น็องเดซ; กรีซมันน์, ชูอาเมนี่, ราบิโอต์; เด็มเบเล่, ชิรูด์, เอ็มบัปเป้

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อูโก้ โญริส ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

อูโก้ โญริส กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และผู้รักษาประตู (ภาพ: Visionhaus/ Getty Images)

เกมน่าจะออกมาสนุก โดยเฉพาะการดวลเดี่ยวของผู้เล่นในหลาย ๆ ตำแหน่ง ที่นอกจากเอ็มบัปเป้กับเมสซี่แล้ว เราจะได้เห็นการปะทะกันของ เฟอร์นานเดซและชูอาเมนี่, กรีซมันน์กับแม็ก อัลลิสเตอร์ รวมไปถึงการวัดความเหนียวของอีมี่ มาร์ติเนซและโญริส

แน่นอนว่าปัญหานักเตะป่วยอาจทำให้แผงหลังของตราไก่ไม่แน่นปึ้กเหมือนเคย แต่อย่างน้อยเดส์ช็องป์สก็แสดงให้เห็นการแก้ไขที่ทำได้ดีมาตลอด เช่นที่เห็นในเกมกับโมร็อกโก หากนี่คืออาร์เจนติน่าที่คุณภาพของแนวรุกแตกต่างกันอย่างชัดเจน และปัจจัยสำคัญในการชนะหรือแพ้ก็อาจจะอยู่ที่ตรงนี้ เมื่อความผิดพลาดเพียงหนเดียวในแผงหลังกลายเป็นที่มาของประตูชัย

และทำให้เส้นทางอาชีพของลิโอเนล เมสซี่จบลงในแบบเทพนิยาย เมื่อเกมสุดท้ายในฟุตบอลโลกของเขาคือนัดชิงชนะเลิศ ที่เขาคว้าแชมป์สุดท้ายในชีวิตมาครองได้สำเร็จ หลังอาร์เจนติน่าคว่ำฝรั่งเศสไป 2-1

เรื่องน่าอ่าน
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

 

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนบุคคล

เหลือเพียง 2 นัด ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ก็จะปิดฉาก โดยสองเกมสุดท้ายก็คือ เกมชิงที่ 3 ระหว่างโครเอเชีย – โมร็อกโก กับการเจอกันของอาร์เจนติน่าและแชมป์เก่าฝรั่งเศสในวันสุดท้าย

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 คือเกมสุดท้ายในฟุตบอลโลกของลิโอเนล เมสซี่ ไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้ และจากสิ่งที่เป็นไป ดูเหมือนเมสซี่ในวัย 35 ปีน่าจะได้รางวัลที่เป็นจุดสูงสุดทางอาชีพ แต่อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสก็มีเรื่องราวของตัวเองเช่นกัน เพราะพวกเขาอาจจะเป็นแชมป์โลกรายแรก ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 หนซ้อน นับตั้งแต่บราซิลทำได้ในปี 1958 และ 1962 โดยมีซูเปอร์สตาร์คนสำคัญ คิลิอัน เอ็มบัปเป้ เป็นกำลังหลัก

นั่นคือเรื่องของรางวัลสำหรับทีม ฟุตบอลโลกยังมีรางวัลส่วนบุคคลอีกหลายรางวัล รองเท้าทองคำ, ถุงมือทองคำ และลูกฟุตบอลทองคำ ที่จะมีการมอบกันหลังเกมนัดชิงจบลง โดยทั้ง 3 รางวัลยังต้องดูกันจนถึง 2 นัดสุดท้ายว่าใครกันที่เหมาะสม

รองเท้าทองคำ – รางวัลสำหรับดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม (ภาพ: Ariel Schalit/AP)

รองเท้าทองคำเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุด ซึ่งมาถึงตอนนี้ นักเตะที่ยิงได้มากที่สุด ที่กาตาร์ก็คือ เมสซี่และเอ็มบัปเป้ ที่ทำได้คนละ 5 ประตูเท่ากัน และทั้งคู่ยังลงสนามเจอกันในนัดชิงอีกด้วย

แต่นักเตะที่มีโอกาสคว้ารางวัลนี้ ยังมีมากกว่านั้น เพราะเพื่อนร่วมทีมของทั้งคู่ จูเลียน อัลวาเรซ จากอาร์เจนติน่า และโอลิวิแยร์ ชิรูด์ ของฝรั่งเศส ต่างก็ทำประตูตามมาติด ๆ คนละ 4 ประตู โดยชิรูด์ยังกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว เมื่อยิงประตูแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิม เธียร์รี่ อองรีในฟุตบอลโลกหนนี้นี่เอง

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ มีลุ้นรางวัลสามรางวัลในฟุตบอลโลก 2018 ดาวซัลโว, นักเตะยอดเยี่ยม และแชมป์โลก (ภาพ: Official twitter handle of FIFA)

ซึ่งถ้ามีนักเตะที่ทำประตูสูงสุดมากกว่า 1 ราย เกณฑ์ที่จะนำมาใช้วัดว่าใคร จะได้รางวัลรองเท้าทองคำก็คือ การจ่ายให้เพื่อนทำประตู และถ้ายังเท่ากันอีก นักเตะที่ลงเล่นด้วยเวลาที่น้อยกว่าจะคว้ารางวัลไป ที่เมื่อดูการจ่ายให้เพื่อนทำประตู เมสซี่คือคนที่ได้เปรียบ เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงถึง 3 ประตู ขณะที่เอ็มบัปเป้จ่ายไป 2 ประตู แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเวลาในการลงสนาม เอ็มบัปเป้ได้เปรียบ เมื่อลงเล่นแค่ 477 นาที แต่เมสซี่ลงเล่นไปแล้ว 570 นาที

ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ที่ต้องวัดกันมากกว่าประตูเกิดขึ้นมาแล้ว ในฟุตบอลโลก 2010 มีคนทำประตูได้มากที่สุดถึง 4 ราย คือ โธมัส มุลเลอร์, เวสลีย์ สไนเดอร์, ดาวิด บีญ่า และดีเอโก้ ฟอร์ลัน ทุกคนทำได้ 5 ประตู แต่คนที่คว้ารองเท้าทองคำคือ มุลเลอร์ เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงมากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยสถิติ 3 ประตู

นอกจาก 4 ผู้เล่นจากคู่ชิงแล้ว แม้โอกาสจะไม่มากนัก แต่สองนักเตะในเกมชิงที่ 3 อันเดรจ์ ครามาริซ ของโครเอเชีย และยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ของโมร็อกโก ก็พอมีโอกาส เมื่อทำประตูตุนไว้คนละ 2 ประตู

ถุงมือทองคำ – รางวัลสำหรับผู้รักษาประตู ฟุตบอลโลก 2022

ลิวาโควิซ ฟุตบอลโลก 2022 โครเอเชีย

ลิวาโควิซ นายประตูโครเอเชีย (ภาพ: Matthew Ashton/ Getty Images)

ถุงมือทองคำเป็นรางวัลสำหรับผู้รักษาประตู ที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลก ที่มีการมอบให้ครั้งแรกในปี 1994 ซึ่งเจ้าของรางวัลนี้ในอดีต ก็คือผู้เล่นระดับตำนานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โอลิเวอร์ คาห์น, อิเกอร์ คาซิญาส, มานูเอล นอยเออร์, จิอันลุยจิ บุฟฟอน

การหาผู้ชนะรางวัลนี้จะซับซ้อนมากกว่ารองเท้าทองคำ เมื่อจะตัดสินโดยทีมเทคนิคของฟีฟ่า หรือ คณะกรรมการด้านเทคนิค ที่เรียก ๆ กัน ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้จะดูฟอร์มการเล่นของผู้เล่นอย่างเงียบ ๆ โดยคนที่ได้รางวัลก็คือ ผู้รักษาประตูที่ไปได้ไกลที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และหากเกิดการเสมอกันขึ้นมา คนที่ได้รางวัลก็คือ คนที่มีลูกเซฟประตูมากที่สุด หากยังเท่ากัน ก็ต้องไปดูเวลาในการลงเล่น ใครที่เล่นนานกว่าคือผู้ที่คว้ารางวัล

อูโก้ โญริส ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

อูโก้ โญริส กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และผู้รักษาประตู (ภาพ: Visionhaus/ Getty Images)

อีมี่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนติน่า), อูโก้ โญริส (ฝรั่งเศส), โดมินิก ลิวาโควิซ (โครเอเชีย) และยาสซีน โบโน (โมร็อกโก) คือผู้รักษาประตูที่ลงเล่นจนถึง 2 เกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 โดยโบโน, ลิวาโควิซ และมาร์ติเนซ ล้วนเคยคว้าชัยในเกมดวลจุดโทษอย่างน้อยก็ 1 นัด แต่โญริสก็มีเซฟมหัศจรรย์อยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่พาฝรั่งเศสมาถึงนัดสุดท้ายได้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน

ลูกฟุตบอลทองคำ – รางวัลสำหรับนักเตะยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ กัปตันทีมชาติโครเอเชีย นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 (ภาพ: Getty Images)

สำหรับนักเตะที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก รางวัลที่จะได้กลับบ้านก็คือ ลูกฟุตบอลทองคำ ที่การสรรหาก็ถือว่าซับซ้อน โดยบรรดาสมาชิกของสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกจะลงคะแนนให้กับผู้เล่น ที่คณะกรรมการด้านเทคนิคของฟีฟ่า เลือกมาให้

งานนี้คนที่ได้รางวัล มักจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากนัดชิง ซึ่งดูแล้วเมสซี่กับเอ็มบัปเป้คือ 2 ผู้เล่นที่น่าจะชิรางวัลนี้กัน และทำให้เกมนัดชิงระหว่างอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส มีการชิงรางวัลส่วนบุคคลควบคู่กันไปด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นการปิดโอกาสผู้เล่นคนอื่น ๆ เพราะ ลูก้า โมดริซและอองตวน กรีซมันน์ ต่างก็น่าจะอยู่ในข่ายได้รับการพิจารณาด้วย เช่นเดียวกับ ลิวาโควิซและอาชราฟ ฮาคิมี่ แต่ประตูที่เปิดกว้างคือบานของเมสซี่และเอ็มบัปเป้

รางวัลลูกฟุตบอลทองคำ มีการมอบให้หนแรกในปี 1982 โดยปีนั้นเปาโล รอซซี่ ดาวยิงอิตาลี ที่ได้รางวัลรองเท้าทองคำด้วยคว้าไป โดยตำนานหลายรายก็คว้ารางวัลนี้มาแล้ว เช่น ดีเอโก้ มาราโดน่า (1986), โนัลโด้ (1998) และโมดริซ (2018) กระทั่งเมสซี่ ก็เคยได้รางวัลนี้ในปี 2014 หลังพ่ายเยอรมนีในนัดชิง ที่ทำให้เกิดภาพการรับรางวัลที่ดูกระอักกระอ่วน เมื่อเขาต้องรับรางวัลด้วยสีหน้าที่ดูผิดหวัง ท่ามกลางการฉลองของนักเตะเยอรมัน ซึ่งก็คล้าย ๆ กับเมื่อครั้งที่ซีเนอดีน ซีดานคว้ารางวัลนี้ หลังถูกไล่ออกในนัดชิงปี 2006 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะแพ้ดวลจุดโทษต่ออิตาลี

โอลิเวอร์ คาห์น เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2002

โอลิเวอร์ คาห์น คือผู้รักษาประตูคนเดียว ที่ได้รับรางวัลถุงมือทองคำ และลูกฟุตบอลทองคำ (ภาพ: www.fifa.com)

คาห์น คือผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวที่เคยได้รางวัลนี้ ซึ่งต้องให้เครดิตกับฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเหลือเกินในฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งแน่นอนว่า เขาได้รับรางวัลถุงมือทองคำไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากสามรางวัลนี้แล้ว ยังมีการมอบรางวัล นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ซึ่งในฟุตบอลโลก 2018 เป็นของคิลิอัน เอ็มบัปเป้, รางวัล แฟร์เพลย์ อวอร์ด ให้กับทีม, รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน, ทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน ซึ่งจะคัดนักเตะที่เล่นได้ยอดเยี่ยมในตำแหน่งต่าง ๆ มารวมกันเป็นหนึ่งทีม, ทีมที่สร้างความบันเทิงมากที่สุดในการแข่งขัน ที่จะตกอยู่กับทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: Ariel Schalit/AP, Official twitter handle of FIFA, Matthew Ashton/ Getty Images, Getty Images, Visionhaus/Getty Images

ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ - ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ – ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

คู่ชิงที่เป็นมากกว่าคู่ชิงของฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ของเจ้าภาพ กาตาร์ ในนัดเปิดสนาม ต่อเอกวาดอร์ทีมจากอเมริกาใต้ 2-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน และฟาดแข้งกันมาอย่างต่อเนื่อง จนได้คู่ชิงชนะเลิศที่ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ทีมตราไก่ – ฝรั่งเศส แชมป์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว กับอาร์เจนติน่า – ฟ้าขาว ที่เป็นหนึ่งตัวเก็งลำดับต้น ๆ ของทัวร์นาเมนต์ ที่ยังเป็นการปะทะกันของสองดาวเตะต่างยุค ที่เล่นร่วมกันในทีมปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็ง และถูกมองว่า จะมีการส่งผ่าน ทดแทนกันในฐานะซูเปอร์สตาร์บนสนามหญ้าสีเขียว ลิโอเนล เมสซี่ กับฟุตบอลโลกที่น่าจะเป็นหนสุดท้าย และคิลิอัน เอ็มบัปเป้ เจ้าของตำแหน่งดาวรุ่งของฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

โดยการแข่งขันนัดนี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 4 ทุ่มตรง (ตามเวลาในบ้านเรา) โดยสามารถชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U, 7HD และ True Sports 2

ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดฟุตบอลโลก 2022 ที่หลายคนไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะได้รับบาดเจ็บ (ภาพ: www.pulse.ng)

ที่หากอาร์เจนติน่าของเมสซี่คว้าแชมป์ เขาจะทำได้เช่นเดียวกันตำนานนักเตะของอาร์เจนติน่า และของโลก ดีเอโก้ มาราโดน่า ทำได้ ซึ่งจะทำให้สถานภาพในการเป็น หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก (GOAT – Greatest of All Time) มั่นคงและสมค่ามากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นเอ็มบัปเป้และเพื่อนพ้องพี่น้องตราไก่ จะทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ติดต่อกัน 2 ปีซ้อนได้สำเร็จ นับตั้งแต่เปเล่และบราซิลทำเอาไว้เมื่อ 60 ปีก่อน

ก่อนเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 เมสซี่-อาร์เจนติน่าปะทะเอ็มบัปเป้-ฝรั่งเศส

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

หลังจบเกมรอบรองชนะเลิศทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศสจะมีเวลาพักก่อนเจอกันในนัดชิงอย่างน้อย 3 วันเต็ม ๆ และสำหรับทีมที่ได้เข้าชิงที่ 3 โครเอเชียและโมร็อกโกจะเหลือมีเวลาอย่างน้อย 2 วันเต็ม ๆ ที่แม้จะเป็นวันพัก หากก็มีเรื่องราวมากมายให้ได้เขียนถึง

เว็บไซต์ FiveThirtyEight ได้วิเคราะห์ออกมาว่า อาร์เจนติน่าเหนือกว่าแชมป์เก่าฝรั่งเศสอยู่เล็กน้อย เมื่อให้โอกาสฟ้าขาว คว้าแชมป์ 53% และตราไก่ 47%

ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองทีมต่างกำลังล่าดาวดวงที่ 3 ประดับอก โดยฝรั่งเศสเป็นเจ้าของแชมป์ในปี 1998 และ 2018 ส่วนอาร์เจนติน่า เป็นแชมป์ในปี 1978 และ 1986 โดยมีเพียงเยอรมนีกับอิตาลี และบราซิล เท่านั้นที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า โดยสองทีมจากยุโรปเป็นแชมป์ 4 สมัย ส่วนบราซิล 5 สมัย นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสหรืออาร์เจนติน่า หากคว้าแชมป์สำเร็จจะเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 2 โดยไม่ใช่เจ้าภาพหนที่สองของพวกเขา ขณะที่แชมป์ครั้งแรกของทั้งสองทีม ต่างได้มาในปีที่เป็นเจ้าภาพเหมือนกัน

อาร์เจนติน่าเคยเจอกับฝรั่งเศสมาแล้ว 4 ครั้งในฟุตบอลโลก โดยทีมฟ้าขาวเอาชนะทีมตราไก่ได้ในรอบแบ่งกลุ่มปี 1930 และ 1978 ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุด ฝรั่งเศสคว่ำอาร์เจนติน่าในรอบ 16 ทีมของฟุตบอลโลก 2018 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน และสถิติการเจอกันทั้งหมด อาร์เจนติน่าทำได้ดีกว่า ด้วยสถิติชนะ 6 แพ้ 3 เสมอ 3

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

จากดาวรุ่งยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 เอ็มบัปเป้ เป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว (ภาพ: 24hoursworlds.com)

ทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส ต่างก็เป็นทีมที่มีสตาร์ดังล้นทีม แต่แน่นอนว่าสายตาทุกคู่ย่อมจับจ้องไปที่ เมสซี่และเอ็มบัปเป้ ที่นอกจากเป็นเพื่อนร่วมสโมสรปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็งแล้ว ยังนำดาวซัลโวในฟุตบอลโลกหนนี้ร่วมกัน หลังต่างยิงกันไปแล้วคนละ 5 ประตู

โดยก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกันที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ อันดับ 1 และ 2 ในฟุตบอลโลก แต่ถ้าเกมนัดชิงจบลงด้วยการที่ทั้งเมสซี่และเอ็มบัปเป้ยังคงยิงประตูเท่ากัน การตัดสินจะไปอยู่ที่การจ่ายให้เพื่อนทำประตู หากยังเสมอกันอีก ก็จะดูเวลาในการลงสนาม ที่ใครได้ลงเล่นน้อยกว่า จะคว้ารางวัลไป

แต่ที่แน่ ๆ การลงสนามในนัดชิงของเมสซี่ วัย 35 ปี จะทำให้เขาแซงโลธ่าร์ มัตเธอุส ของทีมชาติเยอรมนี เป็นนักเตะชายที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด ด้วยจำนวน 26 นัด ขณะที่การยิงประตูโครเอเชียในรอบรองชนะเลิศของเมสซี่ ก็ทำให้เขาแซงแกเบรียล บาติสตูต้า เป็นผู้เล่นอาร์เจนติน่า ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด สำหรับทีมชาย ด้วยจำนวน 11 ประตู ส่วนตำนานอย่างมาราโดน่า ทำเอาไว้ 8 ประตู

เอ็มบัปเป้เองก็มีโอกาสเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์โลกได้ 2 สมัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจสำหรับดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ โดยเจ้าของสถิติเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยด้วยอายุน้อยที่สุดคือ เปเล่ ด้วยวัย 22 ปี

โมร็อกโก คือหนึ่งในความประทับใจของฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะได้ที่ 3 หรือ 4 โมร็อกโก ที่ทีมในดวงใจของหลาย ๆ คน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AP Photo/Martin Meissner)

กับเกมชิงที่ 3 ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง นักเตะโมร็อกโกชุดนี้ก็ได้จารึกชื่อของพวกเขาในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเอาไว้เรียบร้อย ในฐานะทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ นอกจากนี้สิงโตจากเทือกเขาแอตลาสยังเป็นทีมอาหรับทีมแรก ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกอีกด้วย

หลังเอาชนะทีมเต็ง เบลเยี่ยม, กระทิงดุ – สเปน และโปรตุเกส โมร็อกโกแสดงให้เห็นว่า ทีมที่อยู่นอกทวีปขาประจำ ยุโรปและอเมริกาใต้ ก็สามารถเข้ารอบลึก ๆ ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับนี้ได้ แม้เส้นทางของพวกเขาจะลงด้วยการชิงที่ 3 หลังพ่ายฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้ว

วาลิด เรกรากีย์ โค้ชของโมร็อกโก มาถึงกาตาร์พร้อมกับนักเตะที่มีความโดดเด่นอย่างมากในระดับสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ฮาคิม ชีเย็คจากเชลซี หรือ อาชราฟ ฮาคิมี่ จากแปเอสเช ขณะที่กองกลางจากฟิออเรนติน่า ซอฟิยาน อัมราบัต และอองเฌร์ – อัซซาดีน อูนาฮี แจ้งเกิดได้เต็ม ๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้ และน่าจะได้ย้ายไปอยู่ทีมที่ใหญ่กว่าเดิมในอนาคต

หลังเสียประตูไปตั้งแต่ต้นเกม จากการยิงของเธโอ เอร์น็องเดซ โมร็อกโกก็ทำให้ทีมแชมป์โลกมีเสียวอยู่เป็นระยะ ๆ จนกระทั่ง โคโล มูอานี่ มายิงประตูปิดกล่องส่งทีมตราไก่เข้าชิงเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน การกลับบ้านหนนี้ของโมร็อกโก นักเตะและทีมงานทุกคนคือวีรบุรุษ แม้พวกเขาจะไม่ได้ลงสนามในวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ก็ตามที และถึงเกมกับโครเอเชียอาจจะเป็นเหมือนเกมปลอบใจ แต่ก็เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้พวกเขาปิดฟุตบอลโลก 2022 ของตัวเอง ด้วยสถิติที่สวยงาม และฉายแสงออกมาเป็นครั้งสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: www.skysports.com, 24hoursworlds.com

เรื่องน่าอ่าน
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย

เดินทางมาถึงคู่แรกของรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022 ในช่วงดึกคืนวันอังคาร 13 ธ.ค. ท่ามกลางการจับตาของคอบอลทั่วทั้งโลก

 

แน่อยู่แล้วว่า อาร์เจนติน่า เป็นฝ่ายเหนือกว่า โครเอเชีย

 

แต่บางฝ่าย–โดยเฉพาะคนโครแอตและกองเชียร์ตาหมากรุก ก็ยังเชื่อว่า ภายหลังชนะดวลจุดโทษมา 2 รอบติด ก็ “มีลุ้น” จะเฮต่อเนื่องเป็นรอบ 3 ไม่ว่า อาร์เจนติน่า จะเต็งมาจากไหนก็เถอะ

 

อย่างน้อยก็ ลูก้า โมดริช คนนึง – “ผมว่าเรา (โครเอเชีย) มีดีเอ็นเอแบบเดียวกันกับ เรอัล มาดริด ที่ไม่ยอมแพ้และสู้จนวินาทีสุดท้ายของเกม เราพร้อมกับทุกสถานการณ์ เพราะเราเตรียมตัวมาดี และผมคิดว่ามันจะเพียงพอที่ทำให้เราเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ”

 

กระนั้น สิ่งที่ปรากฏขึ้นจริง ณ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ก็กลายเป็นว่า โครเอเชีย สิ้นท่า ไม่เหลือลายรองแชมป์เก่า

 

มาถึงตัดเชือกบอลโลก 3 หน…ร่วงที่รอบนี้ 2 ครั้ง

 

แม้ทรงจะไม่ถึงกับแบ๊ด แต่ก็แซดอย่างบ่อยเหมือนกันแฮะ…

 

แมตช์ตัดสินใครจะเช้าชิงแชมป์โลก ใครจะได้แค่ชิงเหรียญทองแดงปลอบใจ ระหว่าง อาร์เจนติน่า กับ โครเอเชีย เริ่มต้นขึ้นพร้อมการปรับหมากอีกครั้งของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ที่เปลี่ยนระบบใช้ 4-1-3-2 หรือ 4-4-2 อัดแดนกลางแน่นด้วย 4 มิดฟิลด์ ต่างไปจากนัดก่อน (ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์) ที่ใช้ 5-3-2 ลงสู้ ด้าน ซลัตโก้ ดาลิช มาด้วยทีมเดิม นำโดย 3 แผงกลางตัวท็อป ลูก้า โมดริช – มาเตโอ โควาซิช – มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

15 นาทีแรกเกมยังตึงๆ ต่างฝ่ายต่างดูเชิงกันก่อน ทำให้ไม่มีโอกาสจบสกอร์แม้แต่ครั้งเดียว โครเอเชีย ครองเกมดีกว่าเล็กน้อย แต่ยังหาโอกาสเหมาะๆ ในการเข้าทำไม่สำเร็จ

 

นาที 25 เป็นโอกาสจบแรกของเกม เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ลองส่องปั่นโค้งๆ ด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้าหาเสาและไม่ผ่านมือ โดมินิก ลิวาโควิช ที่แม้จะตะปบไม่อยู่แต่ก็ไม่มีดาบสองจากทีมฟ้าขาว

 

นาทีถัดมา โครเอเชีย ต่อเกมสวนขึ้นไปได้สวยจน อันเดรจ์ ครามาริช โดนชนล้มเป็นฟรีคิกเยื้องขวาระยะ 30 หลา แต่ ลูก้า โมดริช เลือกเปิดขึ้นหน้าโดนโขกสกัดออกมาไม่มีอะไร

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

แต่แล้วจู่ๆ นาที 32 ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญเมื่อ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ได้บอลตักข้ามแผงหลังมาให้ทะลุเข้าเขตโทษแล้วแตะหนี โดมินิก ลิวาโควิช ก่อนโดนชนล้ม ผู้ตัดสินชี้จุดโทษแบบไม่เช็กวีเออาร์ แถมให้ใบเหลืองนายประตูโครแอต ซึ่งก็เป็น ลิโอเนล เมสซี่ นั่นเองที่หยิบบอลมาสังหารด้วยซ้ายเสยเพดานตาข่ายอย่างเฉียบคม อาร์เจนติน่า ขยับนำ 1-0 ในนาที 34 เป็นประตูที่ 5 ของ เมสซี่ ส่งให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้

 

ทั้งนี้ มาริโอ มานด์ซูคิช อดีตดาวยิงโครเอเชีย ที่มาในฐานะสตาฟฟ์โค้ชทีมหมากรุก โดนใบแดงไล่ออกไปจากข้างสนามด้วย ข้อหาประท้วงหนัก

 

แล้วเมื่อตั้งเกมเล่นกันใหม่ สกอร์ก็ไหลขึ้น 2-0 เสียดื้อๆ อีก จากจังหวะเตะมุมของโครเอเชียเองที่โดนสวนเร็ว ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กระชากลุยเดี่ยวขึ้นหน้ามาจนจุดอันตราย ปรากฏว่าทั้ง โยซิป ยูราโนวิช และ บอร์นา โซซ่า กลับสกัดบอลแป้กๆ งัดไม่ออก สุดท้ายยังคงเข้าทาง อัลวาเรซ ดีดผ่าน ลิวาโควิช เข้าไปง่ายๆ 2-0 ในนาที 39

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

สกอร์ยังเกือบขยับเป็น 3-0 ด้วยในจังหวะเตะมุมนาที 43 บอลเปิดมาตรงกลางเข้าหัว อัลวาเรซ โขกเปลี่ยนทางจังๆ ส่งลูกกำลังจะข้ามเส้น ลิวาโควิช ยังแสดงปฏิกิริยาชั้นยอดสปริงตัวปัดพ้นไปได้อย่างหวุดหวิด

 

จากนั้นครึ่งแรกจบลงไปแบบงงๆ โครเอเชีย ตามหลัง อาร์เจนติน่า 0-2 ทั้งที่ก็ไม่ได้เล่นเป็นรองอะไรนักตลอดครึ่งเวลา

 

ต่อครึ่งหลัง ซลัตโก้ ดาลิช ปรับส่งสำรอง 2 รายรวดทันที นิโกล่า วลาซิช กับ มิสลาฟ ออร์ซิช ลงไปแทน มาริโอ ปาซาลิช กับ บอร์นา โซซ่า ที่มีส่วนผิดพลาดในประตูที่สอง ไม่เท่านั้น เล่นไป 5 นาทีก็เสริมกองหน้า บรูโน่ เพ็ตโควิช ลงมาแทนกลางรับ มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

เกมของ โครเอเชีย ยกระดับขึ้นทันตา เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่แบบพับสนามในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ปัญหาก็คือยังคงสร้างโอกาสจะแจ้งไม่สำเร็จ ทั้งยังเป็น อาร์เจนติน่า ด้วยที่เกือบได้เฮหนสาม จังหวะสวนนาที 58 เมสซี่ ทำชิ่งกับเพื่อนจนทะลุเข้าไปทางซ้ายแล้วกดกะยัดเสาแรก ไม่ผ่านเซฟ ลิวาโควิช

 

ผ่านนาที 62 ลิโอเนล สคาโลนี่ กะเอาชัวร์แล้วด้วยการส่ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงไปอุดเกมรับ พร้อมปรับระบบเป็น 3 เซนเตอร์แบ็ก 5-3-2 แม้จนป่านนี้ โครเอเชีย ยังยิงไม่ตรงกรอบเลยสักครั้งก็ตาม

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

แล้วถึงนาที 69 เกมก็ปิดสนิท ด้วยสกอร์ 3-0 ของอาร์เจนติน่า เมสซี่ เลี้ยงเลาะที่สุดเส้นหลังขวาโดยที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เอาไม่อยู่ เมสซี่ จ่ายเข้าไปให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กดด้วยขวาส่งลูกผ่าน ลิวาโควิช เข้าไปไม่เหลือซาก 3-0 ด้วยสองเม็ดของกองหน้าจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

นาที 73 โครเอเชีย ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ อีวาน เปริซิช ยิงเข้าข้อส่งลูกเข้าหาโคนเสา แต่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ก็ล้มดักไว้อยู่แล้ว เป็นการยิงตรงกรอบหนแรกของทีมตาหมากรุกเกมนี้

 

ล่วงเข้าสิบนาทีท้าย โครเอเชีย พยายามเปิดเกมแลกหมัดสุดกำลัง แต่ก็ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาไม่เข้าถึงจุดตายฟ้าขาวจริงๆ จังๆ สุดท้ายเกมจบลง อาร์เจนติน่า ชนะขาด 3-0 ล้างแค้นคืนอย่างเบ็ดเสร็จจากฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งโครเอเชียเอาชนะพวกเขาด้วยสกอร์นี้ในรอบแรก

 

สำหรับ อาร์เจนติน่า เข้าไปรอชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 เป็นทีมแรก โดยต้องรอดูว่าระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โมร็อกโก ใครจะตามเข้ามาช่วงชิงโทรฟี่ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ กับพวกเขา

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-1-3-2) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นิโกลัส ตายาฟิโก้, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า (ฮวน ฟอยธ์ 86) – เลอันโดร ปาเรเดส (ลิซานโดร มาร์ติเนซ 62) – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (อังเคล กอร์เรอา 86), เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรดริโก้ เด ปอล (เอเซเกล ปาลาซิออส 74) – ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เปาโล ดีบาล่า 74), ลิโอเนล เมสซี่
โครเอเชีย (4-3-3) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า (มิสลาฟ ออร์ซิช 46), ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช (บรูโน่ เพ็ตโควิช 50), ลูก้า โมดริช (ลอฟโร มาเยอร์ 81) – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช (มาร์โก ลิวาย่า 72), มาริโอ ปาซาลิช (นิโกล่า วลาซิช 46)

 

• ที่จริง ครึ่งแรก โครเอเชีย จ่ายบอลได้มากกว่าด้วย 298:182 ครั้ง แต่ไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบเลย ส่วน อาร์เจนฯ ยิงเข้ากรอบ 4 ครั้งได้มา 2 ประตู
• ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงประตูที่ 4 ในเวิลด์คัพหนนี้ และเป็นเม็ดที่ 7 จากการเล่นทีมชาติ 18 นัด
• หลายฝ่ายมองว่า จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมคือจุดโทษที่ ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ เป่าให้กับ อาร์เจนติน่า ในจังหวะที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ชนเข้ากับ โดมินิค ลิวาโควิช ซึ่งผู้ตัดสินบางคนอาจปล่อยผ่าน
แกรี่ เนวิลล์ : “มันไม่มีทางเป็นจุดโทษได้เลย”
เอียน ไรท์ : “พวกเขาไม่เช็ควีเออาร์ ผมไม่เข้าใจว่าทำไม สำหรับผมมันไม่ใช่จุดโทษ”
รอย คีน : “ผมเห็นด้วยกับพวกเขา มันไม่ใช่จุดโทษสำหรับผม”

 

• โครเอเชีย ร่วงรอบตัดเชือกด้วยการแพ้เป็นนัดแรกของการเล่นฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงแพ้เกมแรกหลังไม่แพ้ใครมา 11 เกมซ้อน
• โครเอเชีย ยังต้องเฝ้าฝันถึงแชมป์โลกต่อไป ถัดจากการเป็นอันดับสาม ฟร้องซ์ 98, รองแชมป์โลก 2018 และอันดับ 3-4 กาตาร์ 2022
• นี่คือความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดของ โครเอเชีย ในการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ถัดจากที่แพ้ บราซิล กับ เม็กซิโก 1-3 ในรอบแรกของปี 2014 และแพ้ ฝรั่งเศส 2-4 นัดชิงปี 2018

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 เป็นนัดที่ 6 เมสซี่ คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ไปซะ 4 เกม
• เมสซี่ กดประตูที่ 5 ขึ้นนำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ พร้อมกับทำ 3 แอสซิสต์ สูงสุดเทียบเท่า อองตวน กรีซมันน์, แฮร์รี่ เคน, บรูโน่ แฟร์นันเดส
• เมสซี่ ยิงรวมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเพิ่มเป็น 11 ประตู แซงหน้า กาเบรียล บาติสตูต้า ในการเป็นนักเตะอาร์เจนไตน์ยิงได้มากสุดในบอลโลก
• เมสซี่ ทำแอสซิสต์มากสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลกเทียบเท่า ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่ 8 แอสซิสต์
• เมสซี่ มีส่วนร่วมกับถึง 19 ประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (11 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์) เป็นสถิติมากสุดเท่ากับ มิโรสลาฟ โคลเซ่, โรนัลโด้ และ แกร์ด มุลเลอร์ นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในปี 1966 เป็นต้นมา

• เมสซี่ ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นนัดที่ 25 เป็นสถิติมากสุดเทียบเท่า โลธ่าร์ มัทเธอุส ตำนานแข้งทีมชาติเยอรมนี
• เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ “ทั้งยิงทั้งจ่าย” (ประตู+แอสซิสต์) ในนัดเดียวเป็นจำนวน 4 นัด โดยนัดแรกทำได้ในเกมพบ เซอร์เบีย ฟุตบอลโลก 2006 ส่วน 3 นัดเป็นฟุตบอลโลกหนนี้ที่พบ เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์ และ โครเอเชีย
• เมสซี่ ยิงหรือจ่ายในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 13 นัด เป็นสถิติมากสุดเท่ากับ โรนัลโด้ ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิล
• เมสซี่ ได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากที่สุดตลอดกาลในฟุตบอลโลก ที่จำนวน 10 นัด โดยทำไปแล้ว 4 ครั้งที่กาตาร์

• เมสซี่ ยิงประตูในทีมชาติ 16 ลูกในปี 2022 (13 นัด) มากกว่าที่เคยยิงได้ในแต่ละปี ตลอดเส้นทางค้าแข้ง
• เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติ 15 ประตูจากการลงสนาม 10 นัดหลัง
• 3 จาก 5 ประตูในฟุตบอลโลก 2022 ของ เมสซี่ เป็นจุดโทษ
• เมสซี่ เป็นนักเตะสูงอายุที่สุด (35) ที่สามารถยิงได้ถึง 5 ประตูในฟุตบอลโลกสมัยเดียว
• ในฟุตบอลโลก 2022 จนถึงตอนนี้ เมสซี่…
โอกาสยิงรวม 27
ยิงตรงกรอบ 14
ประตู 5
แอสซิสต์ 3
สร้างโอกาสจบ 18
สร้างโอกาสจากโอเพ่นเพลย์ 14
เลี้ยงผ่าน 36

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

 

ปากคำหลังเกม อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย
ลิโอเนล เมสซี่ : “เราไม่คาดคิดว่าจะพ่ายต่อ ซาอุดีอาระเบีย มันคือบททดสอบอันสาหัสสำหรับทั้งทีม แต่เราก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเราแข็งแกร่งกันขนาดไหน เราเอาชนะได้ในนัดที่เหลือ และมันก็ยากมากๆ เพราะทุกนัดคือนัดชิงชนะเลิศ หากเราไม่ชนะ ทุกอย่างก็คงยุ่งยากสำหรับเรา”
“เราลงเล่นนัดชิงห้านัด (ในทัวร์นาเมนต์นี้) และสามารถเอาชนะได้หมด ผมหวังว่าจะชนะเหมือนเดิมในนัดชิงชนะเลิศ เราเชื่อมั่น แต่ก็รู้ด้วยว่าเราสามารถทำได้ในฐานะทีม”

 

ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ : “เราคู่ควรกับสิ่งนี้ เรามีเกมที่สุดยอดมากๆ เราเข้าชิงชนะเลิศกันแล้ว และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ครอบครัวของผมคงคลั่งมาก เหมือนกับทั้งประเทศ เรามีความสุขมากกับผลงานของเรา แต่เราก็ต้องการมากกว่านี้อีก”

 

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ : “มหัศจรรย์มาก เราคิดไว้แต่แรกว่ามันจะเป็นเกมที่ยาก แต่เรารู้วิธีปิดเกม สองนัดที่ผ่านมาเราเสียประตูในช่วงท้าย ผมดีใจที่เราปิดเกมได้ในวันนี้”
“เมสซี่ ไม่มีการทำอะไรผิดพลาดเลยในทัวร์นาเมนต์นี้ ยิ่งเขาสูงวัยขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเจ๋งเป้งขึ้นเท่านั้น ฟอร์มของเขามันเหนือจริงมาก”

 

ซลัตโก้ ดาลิช : “เราเล่นได้ดีตลอดครึ่งชั่วโมงแรก แต่เรายังไม่นิ่งพอในจังหวะของเรา เราเสียประตูที่น่ากังขามากๆ เริ่มจากจังหวะเตะมุมที่มีปฏิกิริยาของผู้เล่นผม แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร จากนั้นก็เป็นจุดโทษ เอาตามตรงมันค่อนข้างเบาและง่ายเกินไป เราพยายามกลับมาให้ได้และก็เสียประตูที่สอง เราครองบอลได้ แต่ไม่ได้สร้างโอกาสจะแจ้ง”
“จุดโทษทำให้ทิศทางของเกมเปลี่ยนไปเลย พวกเขาเป็นฝ่ายได้คอนโทรลเกม และการครองบอลก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเรา”

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย
• อาร์เจนติน่า เข้าไปรอชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่ผ่านมา ชนะ 2 แพ้ 3 ในเกมชิงดำ
1930 แพ้ อุรุกวัย 2-4
1978 ชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-1
1986 ชนะ เยอรมนีตะวันตก 3-2
1990 แพ้ เยอรมนีตะวันตก 0-1
2014 แพ้ เยอรมนี 0-1

 

• อาร์เจนติน่า สานต่อสถิติสุดยอด “ชนะรอบตัดเชือกทุกครั้ง” ในฟุตบอลโลก ยกเว้นปี 1978 ที่ระบบการแข่งขันไม่ได้มีรอบตัดเชือก
1930 ชนะ สหรัฐอเมริกา 6-1
1986 ชนะ เบลเยียม 2-0
1990 ชนะจุดโทษ อิตาลี 4-3
2014 ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2
2022 ชนะ โครเอเชีย 3-0

 

• ลิโอเนล สคาโลนี่ ทำให้ อาร์เจนติน่า มีผลงานแพ้แค่เกมเดียวใน 42 นัดหลังสุด และยิงประตูอย่างน้อย 2 ลูกมาเป็นเกมที่ 5 ติดต่อกัน

 

• ซลัตโก้ ดาลิช ยืนยันจะนั่งเก้าอี้คุม โครเอเชีย ต่อไปจนถึงหมดสัญญา หลังจบยูโร 2024 ที่เยอรมนี ภายหลังทำทีมมาตั้งแต่ปี 2017 (ชนะ 69 เสมอ 33 แพ้ 18) แต่ก็เปรยว่าแข้งสูงวัยชุดนี้บางคน คงไม่ได้ไปต่ออีกแล้ว

 

• อาร์เจนติน่า ทำให้รอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 11 ทัวร์นาเมนต์หลัง หรือ 40 ปีหลังสุด (21 แมตช์) มีการชนะแบบ “ยิงขาด” เพิ่มขึ้นอีกนัด ถัดจากเกมประวัติศาสตร์ที่ เยอรมนี กำราบ บราซิล 7-1 ในเวิลด์คัพ 2014 บนดินแดนแซมบ้าเอง นอกนั้นอีก 80% ออกสกอร์เฉือน หรือจบเสมอกันแล้วต้องต่อเวลา หรือกระทั่งดวลจุดโทษชี้ขาด

 

ไกด์เถื่อน

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022
8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]
8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

อาร์เจนติน่า ฟ้าขาว ตัดกับ ตราหมากรุก โครเอเชีย รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ฟ้าขาว ตัดกับ ตราหมากรุก โครเอเชีย รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ อาร์เจนติน่า – โครเอเชีย

วันที่ 14 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง True4U/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและโครเอเชีย

การเจอกันของสองชาติจากสองทวีป ยุโรปและอเมริกาใต้ ที่ยังเป็นการปะทะกันของนักเตะที่ได้ชื่อว่าเป็น หนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ลิโอเนล เมสซี่ ที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาทุกรายการก็ว่าได้ เหลือแค่ถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพเพียงถ้วยเดียว กับลูก้า โมดริซ กองกลางร่างเล็ก ที่หยุดการสลับกันคว้ารางวัลบัลลงดอร์ ของเมสซี่และคริสเตียโน่ โรนัลโด้สำเร็จ

หากทำได้เมสซี่จะถือว่าก้าวออกมาพ้นเงาของดีเอโก้ มาราโดน่า ชีวิตการค้าแข้งเป็นดังความฝัน ส่วนโมดริซ เขาจะยังอยู่บนเส้นทางในการลบล้างบาดแผลจากนัดชิงปี 2018

โครเอเชียมาถึงรอบนี้ โดยส่งเต็ง 1 ของรายการ อีกทีมจากอเมริกาใต้ – บราซิล กลับบ้าน ที่ไม่ต่างไปจากการหนีเสือปะจระเข้ เมื่อคู่แข่งรายต่อมาคือ อาร์เจนติน่า โดยทั้งสองทีมผ่านเข้ารอบด้วยการดวลจุดโทษ ทีมตราหมากรุกกับบราซิล ทีมฟ้าขาวกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ทั้งคู่มีความเขี้ยว เชี่ยวชาญ การดวลจุดโทษที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน ทั้งตัวผู้เล่นและผู้รักษาประตู ซึ่งหากเกมไปถึงตรงนั้น น่าจะทำให้การยิงจุดโทษต้องลุ้นระทึกทุกวินาที ตั้งแต่การเสี่ยงแดนก็ว่าได้

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

เช็กสถิติของอาร์เจนติน่าและโครเอเชีย

อาร์เจนติน่าเจอกับโครเอเชียมาทั้งหมด 5 ครั้ง ผลัดกันแพ้-ชนะ 2 ครั้ง และเสมอกันอีก 1 ครั้ง แต่เป็นการเจอกันในฟุตบอลโลก 2 หน หนแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ในปี 1998 โครเอเชียพ่ายไป 1-0 และล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อน ทีมตราหมากรุกเอาชนะไป 3-0 โดยนักเตะหลายคนจากชุดนั้นก็ยังติดทีมชุดนี้

สถิติในฟุตบอลโลกที่น่าสนใจของอาร์เจนติน่าก็คือ เมื่อมาถึงรอบรองชนะเลิศ พวกเขาไม่เคยแพ้ โดยครั้งสุดท้ายในรอบนี้ของอาร์เจนติน่าคือ เมื่อปี 2014 ซึ่งเป็นรอบรองชนะเลิศหนที่ 5 ของพวกเขา อาร์เจนติน่าเจอกับเนเธอร์แลน และผ่านเข้าชิงจากการชนะดวลจุดโทษ สถิติการยิงประตูของทีมฟ้าขาวก็น่าสนใจ เมื่อพวกเขาทำประตูได้นัดละ 2ประตูติดต่อกันถึง 4 เกม แต่การเจอกับทีมที่เล่นรับแน่นอย่างโครเอเชีย เมสซี่กับผองเพื่อน ต้องทำอะไรมากกว่าที่เคยทำให้ได้

ทีมของสลัตโก้ ดาลิซ เข้ารอบชิงฟุตบอลโลก 2018 ด้วยสถิติแปลก ๆ เมื่อไม่ชนะเกมน็อคเอาต์ในเวลาปกติเลย และมีความเป็นไปได้สูงมากที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เพราะเกมในรอบ 16 ทีม และรอบก่อนรองชนะเลิศ พวกเขาต้องดวลจุดโทษทั้งสองนัด แถมยังไม่แพ้ใครมาแล้ว 11 เกมติดต่อกัน ที่สำคัญตลอดการเล่นในรอบน็อคเอาต์ (รวมนัดชิงที่ 3 ในปี 1998 และนัดชิงชนะเลิศปี 2018) พวกเขาไม่เคยพลาดการยิงประตูเลย และหากเข้าชิงในปีนี้ พวกเขาจะอยู่ในคลาสส์เดียวกับ อิตาลี, เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ที่เข้าชิงติดต่อกัน 2 ครั้ง

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและโครเอเชีย

ก่อนเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ มีข่าวลือหนาหูว่า โรดริโก้ เดอ ปอลจะลงเล่นไม่ได้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ซึ่งลิโอเนล สคาโลนี่ โค้ชอาร์เจนติน่าปฏิเสธหัวชนฝา และเดอ ปอลก็ลงเล่นถึงนาทีที่ 66 ก่อนลีอันโดร ปาเรเดส ลงเล่นแทน

แม้เกมกับเนเธอร์แลนด์ จะมีใบเหลืองถูกแจกถึง 18 ใบ แต่ทีมฟ้าขาวมีผู้เล่นถูกแบนในเกมนี้แค่ 2 รายในตำแหน่งฟูลล์แบ็ค มาร์กอส อะคูญ่าและกอนซาโล มอนทีล โดยนิโคลาส ทากลิอาฟิโก้ กับโมลิน่าจะได้ลงเล่นแทนตามลำดับ

ข่าวดีอีกอย่างของทีมฟ้าขาวก็คือ พวกเขาไม่มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม อเลฮานโดร โกเมซ ฟื้นจากการบาดเจ็บข้อเท้าแล้ว ส่วนเดอ ปอลกับอังเจล ดิมาเรีย ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กน้อย น่าจะฟิตพอลงเล่นเป็น 11 คนแรก

ในเกมสุดเดือดกับอัศวินสีส้ม สคาโลนี่เริ่มต้นด้วยการเล่นเซนเตอร์แบ็ค 3 คน ก่อนปรับมาเป็นแผงหลัง 4 คน โดยลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เพิ่งฟื้นจากหวัด ถูกเปลี่ยนให้ดิ มาเรียลงเล่นแทน ซึ่งน่าสนใจว่าในเกมนี้ เขาจะวางแผนรับมือโครเอเชียอย่างไร

ส่วนโครเอเชีย แม้จะมีนักเตะติดไข้เหลืองในเกมกับบราซิลถึง 4 ราย รวมถึงสองตัวหลักในแดนกลาง ลูก้า โมดริซและมาเตโอ โควิซิซ แต่ทั้งสี่คนก็รอดรับใบเหลืองอีกใบที่จะทำให้โดนแบน และดาลิซก็หวังว่านักเตะทุกคนจะฟิตพร้อมลงเล่นในนัดนี้ โดยบอร์นา โซซ่ากับมิสลาฟ ออร์ซิซ ฟื้นจากอาการป่วยแล้ว

ปัญหาของโครเอเชียอยู่ที่การทำประตู ในเกมกับบราซิล มาริโอ ปาซาลิซ ได้ลงเป็น 11 คนแรก และน่าจะสตาร์ตเกมนี้ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่อันเดรจ์ ครามาริซอาจถูกเบียดจากตัวจริง โดยเพ็ตโควิซเจ้าของประตูตีเสมอในเกมรอบ 8 ทีมลงแทน แต่นักเตะจากฮอฟเฟ่นไฮม์รายนี้ เป็นหนึ่งในนักเตะโครแอตที่สตาร์ตตัวจริงของทุกเกม

อาร์เจนติน่า ฟ้าขาว ตัดกับ ตราหมากรุก โครเอเชีย รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริช ดาวเตะที่ดีที่สุดของโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 (ภาพ: Getty Image)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและโครเอเชีย

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร, โอตาเม็นดี้, ทากลิอาฟิโก้; เดอ ปอล, เฟอร์นานเด, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ
โครเอเชีย ระบบ 4-3-: ลิวาโควิซ; จูราโนวิซ, ลอฟเร็น, กวาร์ดิโอล, โซซ่า; โมดริซ, บรอโซวิซ, โควาซิซ; ครามาริซ, เพ็ตโควิซ, เปริซิซ

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่าและโครเอเชีย

สถิติในนัดที่ผ่าน ๆ มาของทั้งคู่ อาร์เจนติน่าที่แม้จะยิงนำคู่ต่อสู้ แต่ก็ถูกยิงไล่แทบทุกนัด ไม่ว่าจะเป็นเกมกับเนเธอร์แลนด์ที่ออกเสมอ หรือออสเตรเลียที่ทำให้ชนะเฉียดฉิว หรือเกมที่แพ้ซาอุดิอาระเบีย ส่วนโครเอเชียก็ไม่ใช่ทีมที่เชี่ยวชาญในการยิงนำ กระทั่งเกมกับแคนาดา ก็ถูกเบิกประตูก่อน ทำให้เกมนัดนี้น่าจะสู้กันสนุก สู้กันด้วยแท็กติก และใช้ไหวพริบของผู้เล่นคนสำคัญในการพลิกเกม โดยอาร์เจนติน่ามีเมสซี่ และโมดริซอยู่ในทีมโครเอเชีย

แต่ด้วยผู้เล่นที่อยู่รายรอบของทั้ง 2คน เมสซี่ดูจะมีผู้เล่นที่ครบเครื่องมากกว่า และนั่นคือกุญแจหลักที่จะทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบชิง ชนะด้วยสกอร์ที่ไม่มากนัก 1-0 หรือ 2-1 และมีโอกาสไม่น้อยที่จะทะลุไปถึงต่อเวลา หรือยิงลูกโทษที่จุดโทษ

เรื่องน่าอ่าน
พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน

อาร์เจนติน่า ฟ้า-ขาว จะกำชัยเหนืออัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 4 ทีมฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ฟ้า-ขาว จะกำชัยเหนืออัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 4 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบก่อนรองชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ – อาร์เจนติน่า

10 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง JKN18/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ฟ้า-ขาว จะกำชัยเหนืออัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 4 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่กำลังปั้นทีมขึ้นมาใหม่ (ภาพ: twitter: OnsOranje)

สถานการณ์ของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

คู่ดวลแข้งในรอบก่อนรองชนะเลิศที่ยากจะฟันธงที่สุดจากทั้งหมดสี่คู่ เมื่อเนเธอร์แลนด์เจอกับแชมป์โคปาอเมริกา อาร์เจนติน่า โดยทีมของหลุยส์ ฟาน กัลเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม ก่อนจะคว่ำสหรัฐอเมริกาในรอบ 16 ทีม ส่วนอาร์เจนติน่าช็อคโลกด้วยการพ่ายซาอุดิอาระเบียประเดิมทัวร์นาเมนต์ จบสถิติไม่แพ้ใคร 36 นัดรวด ก่อนจะฟื้นตัวในเวลาอันรวดเร็ว ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม และเอาชนะออสเตรเลียมาถึงรอบนี้

เนเธอร์แลนด์อาจจะดูเล่นน่าเบื่อ เมื่อเน้นการครองบอล รอจังหวะและโอกาส แต่พวกเขาก็ใช้สิ่งที่รอคอยได้อย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะในเกมเจอกับสหรัฐอเมริกา ที่ทีมพญาอินทรีพยายามเดินหน้าบดใส่พวกเขา แต่เมื่อเวลามาถึง เด็ก ๆ ของฟาน กัลก็ให้บทเรียนเจ้าภาพฟุตบอลโลกหนต่อไปได้อย่างเจ็บแสบ และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเป็นหนที่สามติดต่อกัน

ขณะที่การเดินทางมาถึงรอบนี้ของทีมฟ้าขาว ราวกับเขียนบทให้ลิโอเนล เมสซี่ เมื่อนี่คือเกมที่ 1,000 ของเจ้าตัว ที่เขาน่าจะหยุดสถิติอันเลวร้ายในรอบน็อคเอาต์ของตัวเองให้ได้สักที หลังทำประตูในฟุตบอลโลกที่ไม่ใช่เกมในรอบแบ่งกลุ่มสำเร็จจากชัยชนะเหนือออสเตรเลีย ที่เชื่อได้ว่า เมสซี่และผองเพื่อนจะไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่นอน

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

เช็กสถิติของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

ดูสถิติย้อนหลังจากการเล่นฟุตบอลโลก 5 หนหลังสุด เนเธอร์แลนด์ผ่านเข้ารอบ 8ทีมถึง 4 ครั้ง หนเดียวที่มาไม่ถึงรอบนี้คือในปี 2006 ที่ตกรอบ 16 ทีม และเข้ารอบรองชนะเลิศถึง 2 ครั้งในปี 2010 และ 2014 แต่พลาดเข้ารอบสุดท้ายในปี 2018 ที่รัสเซีย และเมื่อมาถึงรอบนี้ได้ ครั้งเดียวที่พวกเขาไม่ได้ไปต่อก็คือ ฟุตบอลโลก 1994 นอกจากนี้อัศวินสีส้มยังเดินทางมากาตาร์ด้วยสถิติไม่แพ้ใครถึง 15 เกม และต่อมาเป็น 19 ในทัวร์นาเมนต์

ขณะที่อาร์เจนติน่าจบสถิติไม่แพ้ใครยาวนานในฟุตบอลโลก 2022 หนสุดท้ายที่พวกเขาผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ก็คือปี 2014 ที่เป็นรองแชมป์โลก แต่ 3 ครั้งก่อนหน้าในปี 1998, 2006 และ 2010 เส้นทางของทีมฟ้าขาวจบลงที่รอบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาแพ้รอบน็อคเอาต์ให้กับทีมจากยุโรปถึง 9 หนติดต่อกัน ตั้งแต่เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930

ประวัติศาสตร์ดูจะไม่เข้าข้างทีมของลิโอเนล สคาโลนี่นัก แต่การที่พวกเขายิงได้ 13 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และเก็บเมสซี่เอาไว้ในบับเบิลได้เป็นอย่างดี น่าจะทำให้พวกเขาหวังผลลัพธ์ที่ดีในการเจอกับเนเธอร์แลนด์ โดย 2 นัดหลังที่เจอกันในฟุตบอลโลก ทีมฟ้าขาวทำประตูอัศวินสีส้มไม่ได้เลย เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 ทั้ง 2 นัด ปี 2006 เป็นการพบกันในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนปี 2014 อาร์เจนติน่าได้ไปต่อเมื่อชนะจุดโทษในรอบรองชนะเลิศ แต่ในปี 1998 ทีมฟ้าขาวตกรอบนี้ เมื่อพ่ายเนเธอร์แลนด์ 2-1

ทั้งสองทีมพบกันมาทั้งหมด 9 ครั้ง โดยเนเธอร์แลนด์ชนะไป 4 และเสมอ 2

เมมฟิส เดปาย อัศวินสีส้ม

ดาวยิงประจำทีมอัศวินสีส้ม เมมฟิส เดปาย (ภาพ: www.hartvannederland.nl)

สถานการณ์ผู้เล่นของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

นี่คือเกมรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกหนที่ 2 ของฟานกัลในฐานะโค้ช ที่เขาหวังว่าผู้เล่นทุกคนจะฟิตพร้อมลงสนาม โดยสตีเวน เบิร์กไวจ์นที่ลงแทนเดวี่ คลาสเซ่นในเกมที่แล้ว เพื่อเพิ่มความเร็วให้ผู้เล่นกองหน้าในการเล่นโต้กลับ หลังทีมนำ 2-0 อาจได้ลงสนาม ขณะที่เจเรมี่ ฟริมปง แบ็คขวาจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่บาดเจ็บข้อเท้าก่อนเกมสหรัฐอเมริกา ก็อยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่ฟิตพร้อมลงเล่นในเกมนั้นอยู่แล้ว เซนเตอร์แบ็คจากอินเตอร์ มิลาน สเตฟาน เดอ ไฟรจ์ ที่หลังเกมรอบ 16 ทีมไม่ได้ลงซ้อม ก็มาซ้อมได้แล้ว และพร้อมแย่งตำแหน่งจากจูร์เรียน ทิมเบอร์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก และนาธาน อาเก้ แต่ก็น่าจะไม่ถูกเลือกเป็น 11 คนแรก

ประตูแรกที่เดอ ปายยิงสหรัฐอเมริกา คือประตูที่ 24 จากการลงเล่นให้ทีมชาติ 30 นัดหลังสุด ที่ยังมีอีก 10 แอสซิสต์ ทำให้เขาน่าจะได้ออกสตาร์ตในแดนหน้าร่วมกับกักโป

ฝั่งฟ้าขาว ปาปู โกเมซ ตัวรุกจากเซบีญ่าที่บาดเจ็บข้อเท้าพลิกในนาทีที่ 50 ของเกมกับออสเตรเลีย ไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือเปล่า แต่อังเจล ดิ มาเรียฟื้นจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาด้านหน้าแล้ว และน่าจะฟิตพร้อมลงเล่นแทน ส่วนอังเจล คอร์เรอาและลีอันโดร ปาราเดส ที่ลงซ้อมได้แล้วทั้งคู่ แต่ดิ มาเรียหรือเอ็นโซ เฟอร์นานเดซน่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ มากกว่า

นอกจากนี้ไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม โดยสคาโลนี่น่าจะใช้คริสเตียน โรเมโรกับนิโคลาส โอตาเมนดี้ เป็นคู่เซนเตอร์แบ็ค แต่อาจมีการสอดแทรกจากลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งในเกมที่แล้วได้ลงเล่นแทนอเลฮานโดร โกเมซ ที่บาดเจ็บข้อเท้าหลังครึ่งหลังเริ่มไปแค่ 5 นาที และทีมปรับมาเล่นเซนเตอร์แบ็ค 3 คน บางทีสคาโลนี่อาจนำมาใช้ในเกมนี้ เพื่อรับมือกับ ระบบ 3-4-1-2 ของฟาน กัล

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

เนเธอร์แลนด์ ระบบ 3-4-1-2: น็อปเปิร์ต; ทิมเบอร์, ฟาน ไดจ์ก, อาเก้; ดัมฟรีส, เดอ รูน, เฟร็งกี้ เดอ ยอง, บลินด์; คลาสเซ่น; กักโป, เดอปาย
อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ผลการแข่งขันระหว่างเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

แผนการเล่นของฟาน กัลอาจจะดูไม่สนุก แต่ก็ทำให้ทีมได้ผลที่ต้องการ ในเกมกับสหรัฐอเมริกาพวกเขาเลือกโจมตีทางกราบ และทำประตูได้จากการขึ้นเกมของวิงแบ็ค แล้วการเจอกันในรอบรองชนะเลิศเมื่อ 8 ปีก่อน เขาก็ใช้แท็กติกที่คล้าย ๆ กัน และทำให้เกมรุกของทีมฟ้าขาวติด ๆ ขัด ๆ แต่ก็พ่ายจุดโทษในตอนท้าย ซึ่งเกมนี้ก็อาจจะเป็นไปในรูปนั้น จบลงด้วยการเสมอกัน ต่อเวลา ลากไปถึงจุดโทษ ที่ตัวผู้เล่นของอาร์เจนติน่า มีศักยภาพมากกว่าในการคว้าชัยชนะ

เสมอแบบมีสกอร์ ก่อนฟ้าขาวจะชนะการดวลจุดโทษ

เรื่องน่าอ่าน
1. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
2. เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
6. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
7. ห้าดาวเตะอัศวินสีส้ม ที่จะพาเนเธอร์แลนด์บินสูงในฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า จะเก็บชัยผ่านออสเตรเลีย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า จะเก็บชัยผ่านออสเตรเลีย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม อาร์เจนติน่า – ออสเตรเลีย

วันที่ 4 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง CH3/ True Sport

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

แชมป์จากอเมริกาใต้ เริ่มต้นด้วยการพ่ายช็อคโลกต่อซาอุดิอาระเบีย จนเสียสถิติไม่แพ้ใคร 36 นัด ก่อนที่จะเอาชนะเม็กซิโก และโปแลนด์กลายเป็นแชมป์กลุ่มตามความคาดหมายสำเร็จ ทำให้สถิติในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 12 หนล่าสุด แชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย เข้ารอบน็อคเอาต์ได้ถึง 11 ครั้ง และกับครั้งนี้ พวกเขายังคงเป็นตัวเก็งที่จะคว้าแชมป์

โดยในทีมชุดนี้ นอกจากจะมีผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทีมหาใครมาทดแทนไม่ได้ กับอังเจล ดิ มาเรียเป็นแกนหลักในทีมแล้ว โค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ ยังดึงผู้เล่นใหม่ ๆ อย่าง แม็ก อัลลิสเตอร์, จูเลี่ยน อัลวาเรซ และเอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ติดทีมมาด้วย โดยถ้าพวกเขาเอาชนะทีมจากแดนจิงโจ้สำเร็จก็จะไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง เนเธอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา

ออสเตรลียผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์เป็นหนแรก ตั้งแต่ทีมยุคทองเคยทำได้ในปี 2006 ด้วยการตามแชมป์โลกฝรั่งเศสเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มดี ในแบบที่แพ้ประตูได้เสีย หลังเปิดสนามด้วยการพ่ายทีมตราไก่ยับ 4-1 ก่อนที่จะเอาชนะตูนิเซีย และเดนมาร์กใน 2 นัดที่เหลือ ด้วยตัวผู้เล่นที่จะว่าไปแล้ว แม้หลาย ๆ คนจะเล่นในยุโรป แต่ก็เป็นนักเตะไม้ประดับของทีม หรือไม่ก็อยู่ในทีมระดับรอง ๆ และแน่นอนไม่มีใครที่ให้ราคาทีมจิงโจ้เหนือกว่าทีมฟ้าขาวแน่ ๆ แต่ถ้าพวกเขาทำได้จะเป็นการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายครั้งแรกของออสเตรเลีย

ข้อได้เปรียบเดียวของออสเตรเลียก็คือ พวกเขามีเวลาพักมากกว่าราว ๆ 1 วัน

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

เช็กสถิติอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

จากการเจอกันทั้งหมด 7 ครั้งอาร์เจนติน่าเอาชนะไปได้ถึง 5 ครั้ง แพ้และเสมออย่างละครั้ง ส่วนสถิติห้าเกมหลังสุดทั้งคู่ชนะ 4 แพ้ 1 เท่ากัน (WWLWW)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

ลิโอเนล สคาโลนี่ โค้ชอาร์เจนติน่า อาจจะไม่อยากเปลี่ยนแปลงทีมที่ชนะติดต่อกัน 2 นัดมากนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย โดยลิซานโดร มาร์ติเนซ น่าจะกลับมาเล่นเซนเตอร์แบ็คอีกครั้ง และนิโคลาส ทากลิอาฟิโก อาจจะลงเล่นแบ็คซ้ายแทน มาร์คอส อคูญ่า ส่วยเอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองและเล่นได้อย่างน่าประทับใจ ในสองเกมแรก มีแนวโน้มว่าจะได้เล่นในตำแหน่งของลีอันโดร ปาเรเดส ที่เป็นตัวสำรองในเกมกับโปแลนด์ และเม็กซิโก

ในแดนหน้าเลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่เป็นตัวรุกอีกรายที่มีเหลือเฟือในทีม และตกเป็นตัวสำรองในเกมเมื่อวันพุธ จะต้องเจอการแย่งตำแหน่งจากจูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่ทำประตูได้ และ​อาจได้เล่นกับเมสซี่, ดิมาเรียแทน โดยกัปตันทีมฟ้าขาวมีข่าวไม่ดีเรื่องความฟิตที่ต้องแยกออกไปซ้อมเดี่ยว แต่ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากนัก ส่วนดิ มาเรีย ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมเจอกับโปแลนด์ เนื่องจากมีปัญหากับกล้ามเนื้อต้นขา ทางสคาโลนี่ออกมาบอกแล้วว่า ไม่มีปัญหาอะไร

ออสเตรเลียน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทีมที่น้อยมาก ๆ โดยนาธาเนียล แอตคินสันกับฟราน คาราซิซ ที่ได้ลงเล่นในเกมแรกและเกมที่ 2 ตามลำดับ น่าจะต้องแย่งตำแหน่งแบ็คขวากับมิลอส เดเกเน็ก ที่ได้ลงเล่นในนัดเจอเดนมาร์ก ส่วนเครก กู้ดวิน ที่ลงเล่นแค่ 45 นาทีในเกมชนะโคนม ก่อนคีอานู แบ็กคัสจะลงเล่นแทนในครึ่งหลัง และทำได้ดีมาก ๆ ในการเล่นแดนกลางร่วมกับแอรอน มอย บางทีแกรห์ม อาร์โนลด์ โค้ชออสเตรเลีย น่าจะเสี่ยงส่งเขาที่มีประสบการณ์ไม่มากนักลงเล่นเป็นตัวจริง

แดนหน้ามิตเชลล์ ดุ๊ก เป็นตัวหลักให้ทีมแน่นอน ส่วนมาร์ติน บอยล์ที่เจ็บหัวเข่าและลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ได้แน่นอนแล้ว ยังอยู่กับทีมที่กาตาร์เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อคูญ่า; เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ
ออสเตรเลีย ระบบ 4-4-2: ไรอัน; เดเกเน็ก, เซาต์ตาร์, โรว์เลส, บีฮิช; เล็คกี้, เออร์ไวน์, มอย,กู้ดวิน; ดุ๊ก, แม็กกรี

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ ฟุตบอลโลก 2022

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ที่ยึดตำแหน่งกองกลางตัวหลักของทีมมานานเป็นทศวรรษ (ภาพ: Joe Allison/Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

หลังเลี่ยงการเจอกับแชมป์เก่าได้ เกมนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีของอาร์เจนติน่า ในการปรับกระบวนทัพ ที่ยังไม่อยู่กับร่องกับรอยนัก และพาตัวเองผ่านเข้ารอบต่อไป โดยออสเตรเลียที่เป็นรอง อาจจะสร้างปัญหาให้กับพวกเขาได้บ้าง จากศักยภาพบางอย่างในตัว หากก็คงยากจะทำได้เหมือนเกมกับตูนิเซียและเดนมาร์ก ที่เครก กู๊ดวินกับแม็ต เลคกี้ทำประตูได้จากโอกาสเพียงครั้งเดียว

คุณภาพในแนวรุกของทีมฟ้าขาวคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ โดยเฉพาะการพ่ายแพ้ซาอุดิอาระเบียในนัดแรก ไม่ต่างจากการปลุกพวกเขาให้ตื่น และอาร์เจนติน่าไม่น่าจะพลาดอะไรแบบนั้นอีกแล้ว จากฟอร์มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในนัดต่อ ๆ มา

อาร์เจนติน่าชนะออสเตรเลีย 2-0 หรือ 3-1