อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสอง : อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : NBT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

เม็กซิโก
อันดับ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ เอสโตเนีย 5-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2

เม็กซิโก
อุ่นเครื่อง ชนะ เปรู 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 2-3
อุ่นเครื่อง ชนะ อิรัก 4-0
อุ่นเครื่อง แพ้ สวีเดน 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โปแลนด์ 0-0

 

ผลการพบกัน : 35 นัด
อาร์เจนติน่า ชนะ 16
เสมอ 14
เม็กซิโก ชนะ 5

 

สภาพทีม
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำมันตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

เมื่อเริ่มด้วยความพ่ายแพ้ ทำให้ อาร์เจนฯ หลังพิงฝาหน้าติดเชือกแล้ว ไม่สามารถแพ้ได้อีก หากพลาดท่าซ้ำสองขึ้นมา ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อย ไม่นับพวกที่ถอนไปก่อนบอลโลกมา โดยต้องเช็กสภาพของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เซนเตอร์แบ็กจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกมแรกไม่พร้อมจนต้องใช้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยืนกับ คริสเตียน โรเมโร่

 

ระบบจะยังคงเดิม 4-4-2 หรือ 4-2-2-2 เกมรุก อเลฮานโดร โกเมซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย ทำเกมสนับสนุนคู่หน้า ลิโอเนล เมสซี่ – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

เม็กซิโก
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาด้วยการเป็นรองแชมป์โซนคอนคาเคฟ และเริ่มต้นด้วยผลเสมอ โปแลนด์ 0-0 กิเยร์โม่ โอชัว ช่วยทีมไว้ด้วยการเซฟจุดโทษของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ โค้ชอาร์เจนไตน์ของทัพจังโก้ สภาพทีมดีขึ้นเมื่อ ราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าตัวความหวังจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฟิตพร้อมคืนตัวจริงแล้ว โดยจะนำเกมรุกในระบบ 4-3-3 เคียงข้าง เออร์วิ่ง โลซาโน่ กับ อเล็กซิส เวก้า

 

กระนั้นทีมชุดนี้ไม่มีตัวดังอย่าง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นันเดซ หรือ เฮซุส มานูเอล โคโรน่า ติดมาด้วย โดยรายหลังฟื้นฟิตไม่ทันเล่นบอลโลก

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 11 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 5 เกมหลัง ขออย่างเดียวคือแค่ว่าขุนพลรอบๆ ข้างอย่าช็อตไปดื้อๆ เหมือนเกมกับ ซาอุฯ ก็พอ ที่เหลือ เมสซี่ จัดให้เอง

 

เม็กซิโก : เออร์วิ่ง โลซาโน่
หนึ่งในคนที่ทัพจังโก้อันตรายต้องพึ่งพาในเกมรุก คือ เออร์วิ่ง “ชัคกี้” โลซาโน่ ตัวรุกสารพัดประโยชน์วัย 27 จากนาโปลี ซึ่งที่จริงถูกจับตามองตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนที่แล้วที่รัสเซีย โชคร้ายที่ไปไม่ได้ไกลนักเมื่อต้องเจอ บราซิล ในรอบ 8 ทีม โดย โลซาโน่ เล่นทีมชาติไปแล้ว 61 นัด ซัด 16 ประตู แต่ที่แรงกว่าคือฟอร์มกับต้นสังกัด นาโปลี ที่ยิง 4 ลูกจาก 19 เกมในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-4-2, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส ตายาฟิโก้ – อเลฮานโดร โกเมซ, โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อังเคล ดิ มาเรีย – ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก (4-3-3, กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่) กิเยร์โม่ โอชัว – เฮซุส กายาร์โด้, เซซ่าร์ มอนเตส, เอ็กตอร์ โมเรโน่, ฮอร์เก้ ซานเชซ – เอ็กตอร์ เอร์เรร่า, เอ๊ดสัน อัลวาเรซ, อันเดรส กวาร์ดาโด้ – อเล็กซิส เวก้า, ราอูล ฮิมิเนซ, เออร์วิ่ง โลซาโน่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันมากถึง 35 ครั้ง เริ่มครั้งแรกตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1930 มาเลยทีเดียว
• 18 ครั้งหลังที่พบกัน (ตั้งแต่ 1991) อาร์เจนติน่า แพ้ เม็กซิโก ครั้งเดียวเท่านั้น (0-1 โคปา อเมริกา 2004) นอกนั้น อาร์เจนฯ ชนะ 12 เสมอ 5
• อาร์เจนฯ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 36 เกม ไม่อาจเทียบเท่าสถิติโลก 37 นัดของ อิตาลี 2018-2021 ได้
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 12 ประตูในปีนี้
• อันเดรส กวาร์ดราโด้ กัปตันทีมวัย 36 ของเม็กซิโก ลงเล่นทีมชาติมาแล้วถึง 178 นัด และฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นสมัยที่ 5 เช่นเดียวกับ กิเยร์โม่ โอชัว (132 เกม)

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะพลาดท่ามาในเกมแรก แต่การเจอกับทีมของหวานที่คุ้นเคยอย่าง เม็กซิโก ไม่เคยใช่ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า อาร์เจนติน่า ต้องใส่สุดตัว เน้นทุกเม็ด เมื่อไม่อาจพลาดพลั้งซ้ำสองได้อีกแล้ว เชื่อว่า เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาวจะเจาะ กิเยร์โม่ โอชัว เข้า และไม่ใช่แค่ลูกเดียวด้วย

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า vs ซาอุดีอาระเบีย
อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

ซาอุดีอาระเบีย
แชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 12 เสีย 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
ไฟนัลลิสซิม่า ชนะ อิตาลี 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ เอสโตเนีย 5-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0

ซาอุดีอาระเบีย
อุ่นเครื่อง เสมอ อัลเบเนีย 1-1
อุ่นเครื่อง เสมอ ฮอนดูรัส 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1
อุ่นเครื่อง แพ้ โครเอเชีย 0-1

 

ผลการพบกัน (4 นัด)
1988 โกลด์คัพ อาร์เจนฯ 2-2 ซาอุฯ
1988 โกลด์คัพ อาร์เจนฯ 2-0 ซาอุฯ
1992 คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ซาอุฯ 1-3 อาร์เจนฯ
2012 อุ่นเครื่อง ซาอุฯ 0-0 อาร์เจนฯ

 

สภาพทีม
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด หลังจากล่าสุดถลุง ยูเออี 5-0 และตลอด 5 นัดหลังยังไม่เสียประตูเลยสักลูกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมพอตัว กับอาการบาดเจ็บของ โจวานี่ โล เซลโซ่, นิโกลัส กอนซาเลซ และ ฮัวกิน กอร์เรอา ที่ทยอยกันหลุดออกไปหมด และเป็น อังเคล กอร์เรอา ของแอตเลติโก มาดริด กับ ติอาโก้ อัลมาด้า เด็ก 21 จากแอตแลนต้า ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกมาแทน 2 รายหลัง (ส่วน โล เซลโซ่ เจ็บตั้งแต่ก่อนตัดตัว 26 คน)

 

กระนั้นที่สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิงกัปตันทีม ซึ่งเจ็บเล็กๆ จนพลาดซ้อมไปบ้างเหมือนกันในช่วงเข้าแคมป์เก็บตัว แต่อย่างไรเสียคาดว่า เมสซี่ จะพร้อมลงเล่นเกมแรกนัดนี้ตามปกติ เช่นเดียวกับ เปาโล ดีบาล่า ที่เจ็บในเดือนก่อน แต่ก็กลับมาเล่นให้ โรม่า ได้แล้วในนัดสุดท้ายก่อนปิดครึ่งซีซั่นแรก

 

ที่ยังต้องลุ้นมี คริสเตียน โรเมโร่ เซนเตอร์แบ็กสเปอร์ส ซึ่งดูจะยังฟื้นฟิตไม่เต็มร้อย และไม่มีชื่อในเกมลับแข้งกับ ยูเออี ด้วย

 

กรณีนี้ทำให้คาดว่า นิโกลัส โอตาเมนดี้ จะลงจับคู่เซนเตอร์กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ขณะที่เกมรุกวาง ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และ อังเคล ดิ มาเรีย เข้าทำ

 

ซาอุดีอาระเบีย
ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 6 ซึ่งที่ผ่านมา ผลงานดีสุดเป็นในฟุตบอลโลก 1994 ที่ทะลุไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้

 

แม้ฟอร์มช่วงหลังจะออกฟุบ ชนะแค่ 2 จาก 10 เกมหลังสุด แต่ ซาอุฯ ก็มาฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ในฐาแนะแชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 เหนือ ญี่ปุ่น และผลัก ออสเตรเลีย ให้ต้องไปชี้ชะตาที่รอบเพลย์ออฟ

 

แอร์กเว่ เรอนาร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของซาอุฯ ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีมให้หนักใจ สามารถใช้งานขุนพลที่ดีที่สุดที่มีอยู่ได้ โดยเฉพาะ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวความหวังจากอัล-ฮิลาล ฟื้นฟิตหายเจ็บแล้ว และลงตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องล่าสุดที่แพ้ โครเอเชีย 0-1 เมื่อ 16 พ.ย. มาด้วย

 

ระบบจะใช้เพลย์เซฟเน้นรับ 4-4-1-1 เกมรุกวาง ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ปั้นเกมด้านหลังหอกเป้า ฮัตตาน บาเฮบรี

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดตั้งแต่เกมแรก เพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 10 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 4 เกมหลัง (ในจำนวนนี้มียิง 5 ประตูใส่ เอสโตเนีย ในชัยชนะ 5-0) นอกเหนือจากที่ยิงรวม 91 ลูกจากการรับใช้ชาติ 165 นัด เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของชาติ

ซาอุดีอาระเบีย : ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี
ในจำนวน 26 สมาชิกชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของซาอุฯ ที่เป็นนักเตะในประเทศทั้งหมด ไม่มีออกค้าแข้งต่างแดนแม้แต่รายเดียวนั้น ตัวที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาคือ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวรุกเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 นักเตะจาก อัล-ฮิลาล ในทีมชุดนี้ โดยดาวเตะวัย 31 ค้าแข้งกับต้นสังกัดมาตั้งแต่เป็นเยาวชน ปัจจุบันลงเล่นไปแล้วกว่า 300 นัด และลงสนามให้ทีมชาติซาอุฯ 71 นัด ซัดไป 17 ประตู หนึ่งในนั้นเป็นประตูชัย 90+5 เหนือ อียิปต์ ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, มาร์กอส อคุนย่า – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – ลิโอเนล เมสซี่ (C), เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย
ซาอุดีอาระเบีย (4-4-1-1, กุนซือ แอร์กเว่ เรอนาร์) โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส – ซุลตาน อัล-กานัม, อับดูเลลาห์ อัล-อัมรี, อาลี อัล-บูไลฮี, ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี – ซามี อัล-นาเจ, ริยาดห์ ชาราฮิลี, ซัลมาน อัล-ฟาราจ (C), ฟิราส อัล-บูไรคาน – ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี – ฮัตตาน บาเฮบรี

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันเพียงครั้งเดียวในระยะ 30 ปีหลัง เสมอ 0-0 ที่ริยาด เมื่อปี 2012
• และการเจอกันมา 4 ครั้ง อาร์เจนติน่า ไม่เคยแพ้ เป็นชนะ 2 เสมอ 2
• อาร์เจนฯ เพิ่งอุ่นเครื่องยิง ยูเออี 5-0 อังเคล ดิ มาเรีย ซัดสอง ที่เหลือ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮัวกิน กอร์เรอา จัดคนละเม็ด
• อาร์เจนฯ ไม่แพ้ใครมาแล้ว 36 เกม ขออีกนัดเดียวจะเทียบเท่ากับสถิติโลกของ อิตาลี 2018-2021
• ซาเลห์ อัล-เชห์รี กองหน้าจาก อัล-ฮิลาล มีสถิติยิง 10 ลูกจากการเล่นทีมชาติแค่ 20 นัด
• ซาอุฯ นัดทีมจากอเมริกาใต้มาเตะลับแข้ง 3 นัดในช่วงปีที่ผ่านมา ผลคือชนะไม่ได้สักนัด แพ้ โคลอมเบีย 0-1, แพ้ เวเนซุเอลา 0-1 และเสมอ เอกวาดอร์ 0-0

 

ความน่าจะเป็น
แม้ว่า ซาอุฯ จะเป็นทีมหัวแถวของเอเชีย แต่พวกเขามีโอกาสได้เจอกับทีมระดับโลกน้อยมากๆ ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา นั่นหมายถึงประสบการณ์ในเกมระดับนี้ที่น้อยไปด้วย และถึงแม้ อาร์เจนติน่า อาจยังไม่เข้าที่เข้าทางนักเมื่อเป็นเกมแรก แต่ด้วยขุมกำลังระดับคุณภาพของทัพฟ้าขาว โอกาสพลิกล็อกจึงมีน้อยนิด ที่เป็นไปได้มากกว่าคือ อาร์เจนติน่า ชนะขาด

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-0

 

โปรแกรมถัดไป
อาร์เจนติน่า
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 02.00 — อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
พุธ 30 พฤศจิกายน — 02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า

ซาอุดีอาระเบีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 20.00 — โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย
พุธ 30 พฤศจิกายน — 02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

8 ชาติแถวหน้ากับโผนักเตะชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

กังหัน, สิงโต, ฟ้าขาว, ตราไก่, กระทิง, อินทรีเหล็ก, ปีศาจแดง, ฝอยทอง ใครกัน จะเข้าใกล้ความสำเร็จแห่งฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด…เมื่อพิจารณาจากขุมกำลังนักเตะที่เผยออกมา

 

นับถอยหลังแค่ไม่กี่คืน ทัวร์นาเมนต์ที่โลกรอคอยอย่าง ฟุตบอลโลก 2022 ก็จะมาถึง และเกือบทุกทีมก็เผยชื่อนักเตะ 26 คนสุดท้ายที่จะไปแอ่วกาตาร์ ออกมาแล้ว

 

ด้านล่างนี้คือ 26 รายชื่อชุดสุดท้ายของบรรดาชาติยักษ์ใหญ่ มีเอี่ยวลุ้นแชมป์โลก ที่ทยอยประกาศออกมาก่อนที่ เวิลด์ คัพ จะเริ่มโรมรันประชันแข้งกันราว 1 สัปดาห์

 

ใครเป็นใคร ใครไปบอลโลก ใครหลุดโผ ใครจัดให้ครบถ้วนกว่านี้ มาบอก!

 

 

กังหันลม เนเธอร์แลนด์ กับความหวังถึง ‘ครั้งแรก’
แม้จะผลิตยอดดาวเตะขึ้นสู่วงการได้แบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่เคยไปถึงแชมป์โลกได้มาก่อน โดยต้องเจ็บปวดกับการเป็น “พระรอง” ถึง 3 ครั้ง คือฟุตบอลโลก 1974, 1978 และ 2010 ที่ถึงชิงชนะเลิศแล้วแต่กลับแพ้ทั้งสามครั้ง

 

ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นตรงที่ฟุตบอลโลกครั้งก่อน รัสเซีย 2018 เนเธอร์แลนด์ ตกต่ำสุดถึงขั้นตกรอบคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้น มาคราวนี้ในการทำทีมของคนคุ้นเคยอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาจึงพกความมุ่งมั่นมาอย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก ร่วมกับเจ้าภาพ กาตาร์, เอกวาดอร์ และ เซเนกัล แม้อาจเป็นบอลต่างสไตล์ไม่ค่อยได้เจอนัก แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ จากนั้นในรอบน็อกเอาต์ก็ต้องมาตามลุ้นกันว่าจะได้คู่แข่งเป็นใครในแต่ละรอบ ดูกันแต่ละแมตช์ แล้วถึงเวลาจะเห็นเองว่า “แชมป์โลกสมัยแรก” มีความเป็นไปได้มากขนาดไหน

 

สำหรับขุมกำลังที่ ฟาน กัล หิ้วไปกาตาร์ ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดิมๆ ที่ใช้มาตลอดปีหลังๆ แต่ก็น่าเสียดายแทนตัวที่หลุดออกไป ทั้ง สเวน บ็อตมัน, ฮานส์ ฮาเตบัวร์, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (ส่วน จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ปกติต้องได้ไป แต่ดันเจ็บหนักพักยาวเสียก่อน) ซึ่งมองว่า ถ้าบางคนได้ไป น่าจะมีประโยชน์กับทัพกังหันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ บ็อตมัน เซนเตอร์แบ็กวัย 22 ที่เล่นดีมากกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้

 

โผ 26 แข้งเนเธอร์แลนด์ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยุสติน ไบจ์โลว์ / อายุ 24 / เฟเยนูร์ด / เล่นทีมชาติ 6 นัด
เรมโก้ พาสเฟียร์ / 39 / อาแจ็กซ์ / 2
อันเดรียส น็อพเพิร์ต / 28 / ฮีเรนวีน / 0

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ / 32 / อาแจ็กซ์ / 94 – 2
สเตฟาน เดอ ฟราย / 30 / อินเตอร์ / 59 – 3
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม) / 31 / ลิเวอร์พูล / 49 – 6
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ / 23 / บาเยิร์น / 38 – 2
เดนเซล ดุมฟรีส์ / 26 / อินเตอร์ / 37 – 5
นาธาน อาเก้ / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 29 – 3
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ / 21 / อาแจ็กซ์ / 10 – 0
ไทเรลล์ มาลาเซีย / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 0
เยเรมี่ ฟริมปง / 21 / เลเวอร์คูเซ่น / 0 – 0

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง / 25 / บาร์เซโลน่า / 45 – 1
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ / 30 / อาแจ็กซ์ / 39 – 2
ดาวี่ คลาสเซ่น / 29 / อาแจ็กซ์ / 35 – 9
มาร์เท่น เดอ รอน / 31 / อตาลันต้า / 30 – 0
เทน โคปไมเนอร์ส / 24 / อตาลันต้า / 10 – 1
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ / 20 / อาแจ็กซ์ / 2 – 0
ชาบี ซิมอนส์ / 19 / พีเอสวี / 0-0

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย / 28 / บาร์เซโลน่า / 81 – 42
ลุค เดอ ยอง / 32 / พีเอสวี / 38 – 8
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ / 25 / อาแจ็กซ์ / 24 – 7
วินเซนต์ ยานส์เซ่น / 28 / อันท์เวิร์ป / 20 – 7
วู้ท เวกอร์ทส์ / 30 / เบซิคตัส / 15 – 3
โคดี้ กัคโป / 23 / พีเอสวี / 9 – 3
โนอา ลัง / 23 / คลับ บรูช / 5 – 1

หลุดโผ
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (เอ็นอีซี), ทิม ครูล (นอริช), สเวน บ็อตมัน (นิวคาสเซิ่ล), ปาสกาล สเตราค์ (ลีดส์), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮานส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), ยอร์ดี้ คลาซี่ (อาแซด), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนฯ ยูไนเต็ด), ไรอัน กราเฟนเบิร์ค (บาเยิร์น), จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ดอนเยลล์ มาเลน (ดอร์ทมุนด์), อาร์โนต์ ดันยูม่า (บียาร์เรอัล), ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (อาแจ็กซ์)

 

 

 

สิงโตคำราม อังกฤษ กับฟุตบอลโลก 2022 และคำปรามาส
ท่ามกลางคำปรามาสที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องเผชิญ อันที่จริง อดีตนายใหญ่มิดเดิ้ลโบรช์ ก็พา อังกฤษ เข้ารอบลึกมาแล้ว 2 รายการติดต่อกัน ทั้งฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกตัดเชือก (และเป็นอันดับ 4) ต่อด้วยยูโร 2020 ที่ถึงชิงมาแล้ว ก่อนแพ้อย่างหวุดหวิดมากๆ เพียงการดวลจุดโทษต่อ อิตาลี เท่านั้นเอง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลค่อนข้างเป็นกังวล คือฟอร์มช่วงหลังที่สิงโตออกทรงฟุบอย่างชัดเจน เอาชนะใครไม่เป็นเลยใน 6 เกมของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จนตกชั้น และน่าหวั่นเกรงว่าจะเร่งเครื่องฮึดขึ้นทันไหมเมื่อฟุตบอลโลก 2022 มาถึง

 

และกับขุมกำลัง 26 สิงโตคำราม ที่ เซาธ์เกต เลือกไป ก็ก่อให้เกิดคำถามในหลายจุดเหมือนกัน ตั้งแต่หลังสุดไปหน้าสุด ทั้งการที่ยังคงเชื่อใจในจอมรั่วอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ถึงขั้นที่น่าจะยังคงยัดลงตัวจริงไม่เปลี่ยน, แดนกลางที่หิ้ว แคลวิน ฟิลลิปส์ ผู้ซึ่งเจ็บออดๆ แอดๆ มาทั้งซีซั่น ติดไปด้วย หรือข้างหน้าที่ไม่แคล้วคงต้องพึ่งพา แฮร์รี่ เคน เป็นสำคัญ

 

คำถามทั้งหมด จะปรากฏคำตอบในเกมกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์ และรอบถัดๆ ไป หากไม่เกิดข้อผิดพลาดหนักหนาจนร่วงรอบแรกแบบช็อกโลกไปเสียก่อน

 

โผ 26 แข้งอังกฤษ ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. จอร์แดน พิคฟอร์ด / 28 / เอฟเวอร์ตัน / 45
13. นิค โป๊ป / 10 / นิวคาสเซิ่ล / 10
23. อารอน แรมส์เดล / 24 / อาร์เซน่อล / 3

กองหลัง
2. ไคล์ วอล์คเกอร์ / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 70 – 0
3. ลุค ชอว์ / 27 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 23 – 3
5. จอห์น สโตนส์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 59 – 3
6. แฮร์รี่ แม็กไกวร์ / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 7
12. คีแรน ทริปเปียร์ / 32 / นิวคาสเซิ่ล / 37 – 1
15. เอริก ไดเออร์ / 28 / สเปอร์ส / 47 – 3
16. โคเนอร์ คอดี้ / 29 / เอฟเวอร์ตัน / 10 – 1
18. เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ / 24 / ลิเวอร์พูล / 17 – 1
21. เบน ไวท์ / 25 / อาร์เซน่อล / 4 – 0

กองกลาง
4. ดีแคลน ไรซ์ / 23 / เวสต์แฮม / 34 – 2
8. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน / 32 / ลิเวอร์พูล / 70 – 2
14. แคลวิน ฟิลลิปส์ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 23 – 0
19. เมสัน เมาท์ / 23 / เชลซี / 32 – 5
22. จู๊ด เบลลิงแฮม / 19 / ดอร์ทมุนด์ / 17 – 0
26. โคเนอร์ กัลลาเกอร์ / 22 / เชลซี / 4 – 0

กองหน้า
7. แจ๊ค กรีลิช / 27 / แมนฯ ซิตี้ / 24 – 1
9. แฮร์รี่ เคน (กัปตันทีม) / 29 / สเปอร์ส / 75 – 51
10. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง / 27 / เชลซี / 79 – 19
11. มาร์คัส แรชฟอร์ด / 25 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 46 – 12
17. บูกาโย่ ซาก้า / 21 / อาร์เซน่อล / 20 – 4
20. ฟิล โฟเด้น / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 18 – 2
24. คัลลั่ม วิลสัน / 30 / นิวคาสเซิ่ล / 4 – 1
25. เจมส์ แมดดิสัน / 26 / เลสเตอร์ / 1 – 0

หลุดโผ
ดีน เฮนเดอร์สัน (ฟอเรสต์), เบน ชิลเวลล์ (เชลซี), รีซ เจมส์ (เชลซี), ฟิคาโย่ โทโมรี่ (มิลาน), เจมส์ จัสติน (เลสเตอร์), ไทโรน มิงส์ (วิลล่า), ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เซาธ์แฮมป์ตัน), แอชลี่ย์ ยัง (วิลล่า), ไรอัน แซสเซยง (สเปอร์ส), ติโน่ ลอฟราเมนโต้ (เซาธ์แฮมป์ตัน), ทาริค แลมป์ตี้ย์ (ไบรท์ตัน), เคอร์ติส โจนส์ (ลิเวอร์พูล), เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), โอลิเวอร์ สคิปป์ (สเปอร์ส), แฮร์รี่ วิงค์ส (ซามพ์โดเรีย), ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ลิเวอร์พูล), แอนโธนี่ กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน), แทมมี่ อบราแฮม (โรม่า), จาร์ร็อด โบเว่น (เวสต์แฮม), ไอแวน โทนี่ย์ (เบรนท์ฟอร์ด), โอลลี่ วัตกิ้นส์ (วิลล่า), แดนนี่ เวลเบ็ค (ไบรท์ตัน), เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ชุดนี้…ถึงแชมป์โลก???
ทั้งเอไอ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, โปรแกรมซิมูเลชั่นของเกมฟีฟ่า หรือการคาดหมายของหลากหลายกูรู ต่างก็ได้บทสรุปเดียวกันคือ แชมป์โลกประจำปีนี้ ได้แก่ ทีมชาติเมสซี่-เอ๊ย-ทีมชาติอาร์เจนติน่า ในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่

 

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อมีความคาดหวังสูงขนาดนี้ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว จะสามารถนำโทรฟี่แชมป์โลกมาเสิร์ฟได้หรือไม่ เมื่ออย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายสิบปี (จากแชมป์โลกหนสุดท้าย 1986) ว่าพวกเขามักไม่ “ขาด” ก็ “ล้นเกิน” ในบางอย่างหรือบางจุด จนไม่ประสบความสำเร็จซ้ำรอยยุค ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้อีกเลย

 

แต่กระนั้น อาร์เจนติน่า ชุดนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” กำลังอยู่ในการต่อยอดสถิติไร้พ่ายให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งขุมกำลังที่ สคาโลนี่ เลือกมา ก็ดูจะไม่ได้ขาดอะไรไปนัก มีแค่ โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์บียาร์เรอัล ที่เป็นแกนหลักแดนกลางในรอบคัดเลือก ซึ่งต้องถอนตัวไปเนื่องจากบาดเจ็บ กับเด็กใหม่มาแรงอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ถูกเรียกตัว ทว่าอันที่จริงก็ไม่เคยติดธงมาก่อนแต่อย่างใด

 

โผ 26 แข้งอาร์เจนติน่า ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ / 30 / วิลล่า / 18
ฟรังโก้ อาร์มานี่ / 36 / ริเวอร์เพลท / 18
เคโรนิโม่ รุลลี่ / 30 / บียาร์เรอัล / 4

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ / 34 / เบนฟิก้า / 92 – 4
มาร์กอส อคุนย่า / 31 / เซบีย่า / 42 – 0
นิโกลัส ตายาฟิโก้ / 30 / ลียง / 42 – 0
เคร์มัน เปซเซลล่า / 31 / เรอัล เบติส / 31 – 2
นาอูเอล โมลิน่า / 24 / แอตฯ มาดริด / 19 – 0
กอนซาโล่ มอนเทียล / 25 / เซบีย่า / 17 – 0
ฮวน ฟอยธ์ / 24 / บียาร์เรอัล / 15 – 0
คริสเตียน โรเมโร่ / 24 / สเปอร์ส / 12 – 1
ลิซานโดร มาร์ติเนซ / 24 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 9 – 0

กองกลาง
เลอันโดร ปาเรเดส / 28 / ยูเวนตุส / 45 – 4
โรดริโก้ เด ปอล / 28 / แอตฯ มาดริด / 43 – 2
กีโด้ โรดริเกซ / 28 / เรอัล เบติส / 25 – 1
เอเซเกล ปาลาซิออส / 24 / เลเวอร์คูเซ่น / 20 – 0
อเลฮานโดร โกเมซ / 34 / เซบีย่า / 15 – 3
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ / 23 / ไบรท์ตัน / 7 – 0
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ / 21 / เบนฟิก้า / 2 – 0

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (กัปตันทีม) / 35 / เปแอสเช / 164 – 90
อังเคล ดิ มาเรีย / 34 / ยูเวนตุส / 123 – 25
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ / 25 / อินเตอร์ / 40 – 21
เปาโล ดีบาล่า / 29 / โรม่า / 34 – 3
นิโกลัส กอนซาเลซ / 24 / ฟิออเรนติน่า / 21 – 3
ฮัวกิน กอร์เรอา / 28 / อินเตอร์ / 18 – 3
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ / 22 / แมนฯ ซิตี้ / 11 – 2

หลุดโผ
ฮวน มุสโซ่ (อตาลันต้า), ลูคัส มาร์ติเนซ (ฟิออเรนติน่า), มาร์กอส เซเนซี่ (บอร์นมัธ), โจวานี่ โล เซลโซ่ (บียาร์เรอัล), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (วิลล่า), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), อังเคล กอร์เรอา (แอตฯ มาดริด), โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

 

 

ตราไก่ ฝรั่งเศส กับหลายคำถามซึ่งต้องพิสูจน์
น่าสนใจ…น่าสนใจมากกับก้าวเดินของ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ เมื่อมีอย่างน้อย 4-5 คำถามที่ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ และบรรดาแข้งตราไก่ จะต้องตอบให้ได้ เช่นว่า

 

1. อาถรรพ์แชมป์เก่า ทั้ง อิตาลี, สเปน, เยอรมนี ต่างเอาตัวไม่รอด เป็นแชมป์โลกมาแล้วก็ร่วงเพียงรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ถัดมาทั้งหมด ฝรั่งเศสล่ะ จะเข้าทรงเดียวกันหรือเปล่า

 

2. ขุมกำลัง พร้อมจริงๆ ไหม เมื่อตัวเจ็บสำคัญ อดไปบอลโลกมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ และล่าสุดกับ เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ เซนเตอร์แบ็กเปแอสเช ที่ต้องถอนตัวจากการศึกครั้งนี้ไป แถม คาริม เบนเซม่า กับ ราฟาแอล วาราน ที่่ต่างก็เป็นคีย์แมนในเกมรุกและรับ ยังบาดเจ็บติดพัน ไม่ได้ช่วย เรอัล มาดริด ตลอดสี่ซ้าห้าเกมหลังอีกต่างหาก

 

3. ความเปลี่ยนแปลง ที่มีค่อนข้างเยอะจากชุดแชมป์โลก จะส่งผลดีหรือเสีย อย่างน้อยแผงกลางทั้งแผง เปลี่ยนหมด หรือจากชุดลุยยูโร 2020 ก็มีแค่ อาเดรียง ราบิโอต์ คนเดียวที่หลงเหลือมาอยู่ในทีมชุดนี้

 

4. การต้องเจอทีมของแสลงอย่าง เดนมาร์ก อีกแล้ว หลังแพ้มาทั้งเหย้าเยือนใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (1-2, 0-2) รอบปีที่ผ่านมา หากยังคงซ้ำแผลเก่า แพ้ทีมโคนมเป็นครั้งที่ 3 ติดกันขึ้นมา ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งร่วงรอบแรก หรือเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ไปเจอกระดูกชิ้นโตตั้งแต่รอบ 16 ทีม

 

5. ฟอร์มช่วงหลัง น่าเป็นห่วงใช่ย่อย ชนะเกม เนชั่นส์ ลีก แค่นัดเดียวเหนือ ออสเตรีย 2-0 นอกนั้นเสมอ 2 แพ้ 3 แม้ข้อดีคือการได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก อย่างน้อยน่าผ่าน ออสเตรเลีย กับ ตูนิเซีย ได้ แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าไปเจอของแข็งในรอบน็อกเอาต์แล้ว ก็เสียวว่า เอ็มบัปเป้ และชาวคณะ จะไปไม่เป็น

 

โผ 26 แข้งฝรั่งเศส ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
อูโก้ โยริส / 35 / สเปอร์ส / 139
สตีฟ ม็องด็องด้า / 37 / แรนส์ / 34
อัลฟงส์ อเรโอล่า / 29 / เวสต์แฮม / 5

กองหลัง
ราฟาแอล วาราน / 29 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 87 – 5
เบนชาแม็ง ปาวาร์ / 26 / บาเยิร์น / 46 – 2
ลูคัส เอร์นันเดซ / 26 / บาเยิร์น / 32 – 0
อักเซล ดิซาซี่ / 24 / โมนาโก / 0 – 0
ชูลส์ กุนเด้ / 24 / บาร์เซโลน่า / 12 – 0
เตโอ เอร์นันเดซ / 25 / มิลาน / 7 – 1
วิลเลี่ยม ซาลิบา / 21 / อาร์เซน่อล / 7 – 0
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ / 24 / บาเยิร์น / 7 – 1
อิบราฮิมา โกนาเต้ / 23 / ลิเวอร์พูล / 2 – 0

กองกลาง
อาเดรียง ราบิโอต์ / 27 / ยูเวนตุส / 29 – 2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ / 22 / เรอัล มาดริด / 14 – 1
มัตเตโอ เก็นดูซี่ / 23 / มาร์กเซย / 6 – 1
จอร์แดน เวเรตูต์ / 29 / มาร์กเซย / 5 – 0
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า / 20 / เรอัล มาดริด / 4 – 1
ยุสซูฟ โฟฟาน่า / 23 / โมนาโก / 2 – 0

กองหน้า
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ / 36 / มิลาน / 114 – 49
อองตวน กรีซมันน์ / 31 / แอตฯ มาดริด / 110 – 42
คาริม เบนเซม่า / 34 / เรอัล มาดริด / 97 – 37
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ / 23 / เปแอสเช / 59 – 28
คิงสลี่ย์ โกม็อง / 26 / บาเยิร์น / 40 – 5
อุสมัน เดมเบเล่ / 25 / บาร์เซโลน่า / 28 – 4
คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู / 25 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 8 – 0
มาร์คัส ตูราม / 25 / กลัดบัค / 4 – 0

หลุดโผ
ไมค์ เมนยอง (มิลาน), เบอนัวต์ คอสติล (โอแซร์), เพรสแนล คิมเพ็มเบ้ (เปแอสเช), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ (เรอัล มาดริด), เบนชาแม็ง เมนดี้ (แมนฯ ซิตี้), โชนาต็อง เคลาส์ (มาร์กเซย), ลูก้าส์ ดีญ (วิลล่า), เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม), บูบาการ์ กามาร่า (วิลล่า), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี), ปอล ป๊อกบา (ยูเวนตุส), สตีเว่น เอ็นซอนซี่ (อัล-รายยาน), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (อินเตอร์ ไมอามี่), นาบิล เฟคีร์ (เบติส), โตมัส เลอมาร์ (แอตฯ มาดริด), วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), มุสซ่า ดิยาบี้ (เลเวอร์คูเซ่น)

 

 

 

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จากแชมป์โลกสู่รอบแรก, จากรอบแรกสู่…
ภายหลังเข้ามาสานต่องานของ โยอัคคิม เลิฟ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฮันซี่ ฟลิค ก็สร้างปรากฏการณ์ให้กับทัพอินทรีเหล็ก ด้วยการพาทีมชนะรวดถึง 7 นัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหนนี้ จนเป็นทีมแรกของยุโรปที่การันตีเข้ารอบสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม กับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในรอบปีที่ผ่านมา เยอรมนี ก็ถือว่าเสียรังวัดไปพอสมควร เมื่อกลับเอาชนะคู่แข่งได้แค่เกมเดียว (5-2 อิตาลี) นอกนั้นเสมอรัวๆ 4 เกม และแพ้พลิกล็อกคาบ้านต่อ ฮังการี หนึ่งนัด เรียกว่าพวกเขามุ่งหน้าสู่กาตาร์แบบที่ระดับความมั่นใจไม่ได้สูงมาก ทั้งยังต้องเสีย 2 คีย์แมนเกมรุกอย่าง มาร์โก รอยส์ จอมทัพดอร์ทมุนด์ กับ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ล้มเจ็บอดไปบอลโลกทั้งคู่ด้วย

 

จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา, เริ่มต้นตั้งแต่รอบแรกที่ต้องอยู่ในสายแข็งร่วมกับ สเปน-ญี่ปุ่น-คอสตาริกา, ว่าถัดจากการร่วงรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ครั้งก่อนแล้ว อินทรีเหล็ก 2022 จะไปได้ไกลถึงไหน

 

โผ 26 แข้งเยอรมนี ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
1. มานูเอล นอยเออร์ / 36 / บาเยิร์น / 113
12. เควิน ทรัปป์ / 32 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 6
22. มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น / 30 / บาร์เซโลน่า / 30

กองหลัง
2. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ / 29 / เรอัล มาดริด / 54 -2
3. ดาวิด เราม์ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 11 – 0
4. มัทธีอัส กินเทอร์ / 28 / ไฟรบวร์ก / 46 – 2
5. ติโล เคห์เรอร์ / 26 / เวสต์แฮม / 22 – 0
15. นิคลาส ซูเล่ / 27 / ดอร์ทมุนด์ / 42 – 1
16. ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ / 26 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 18 – 0
20. คริสเตียน กุนเทอร์ / 29 / ไฟรบวร์ก / 6 – 0
23. นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค / 22 / ดอร์ทมุนด์ / 5 – 0
25. อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป / 20 / เซาธ์แฮมป์ตัน / 1 – 0

กองกลาง
6. โยชัว คิมมิช / 27 / บาเยิร์น / 70 – 5
7. ไค ฮาแวร์ตซ์ / 23 / เชลซี / 30 – 10
8. เลออน โกเร็ตซ์ก้า / 27 / บาเยิร์น / 44 – 14
11. มาริโอ เกิทเซ่ / 30 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 63 – 17
14. จามาล มูเซียล่า / 19 / บาเยิร์น / 17 – 1
17. ยูเลี่ยน บรันท์ / 26 / ดอร์ทมุนด์ / 38 – 3
18. โยนาส ฮอฟมันน์ / 30 / กลัดบัค / 16 – 4
21. อิลคาย กุนโดกัน / 32 / แมนฯ ซิตี้ / 62 – 16

กองหน้า
9. นิคลาส ฟุลล์ครุก / 29 / เบรเมน / 0 – 0
10. แซร์จ นาบรี้ / 27 / บาเยิร์น / 36 – 20
13. โธมัส มุลเลอร์ / 33 / บาเยิร์น / 118 – 44
19. เลรอย ซาเน่ / 26 / บาเยิร์น / 47 – 11
24. คาริม อเดเยมี่ / 20 / ดอร์ทมุนด์ / 4 – 1
26. ยุสซูฟา มูโกโก้ / 18 / ดอร์ทมุนด์ / 0 – 0

หลุดโผ
แบร์นด์ เลโน่ (ฟูแล่ม), มัตส์ ฮุมเมิลส์ (ดอร์ทมุนด์), เยโรม บัวเต็ง (ลียง), โรบิน โกเซนส์ (อินเตอร์), เบนจามิน เฮนริกส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น), โรบิน ค็อก (ลีดส์), มาร์โก รอยส์ (ดอร์ทมุนด์), ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (เบนฟิก้า), ฟลอเรียน นอยเฮาส์ (กลัดบัค), ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล (กลัดบัค), ติโม แวร์เนอร์ (แอร์เบ ไลป์ซิก), ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก)

 

 

 

กระทิงดุ สเปน ในระบบเผด็จการของ หลุยส์ เอ็นริเก้
หนึ่งคือทรัพยากรนักเตะดีๆ ของ สเปน มีเยอะมาก และอีกหนึ่งก็คือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มีแนวทางและการตัดสินใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมาก ไม่สนกระแสสังคมใดๆ ทั้งสิ้น เราจึงได้เห็นแข้งสแปนิชตกขบวนอดไปฟุตบอลโลก 2022 อื้อซ่าตามรายชื่อด้านล่าง ชนิดไปรวมตัวเป็นอีกทีมได้ง่ายๆ

 

แต่ก็แน่นอนว่า การเลือกตัวแบบไม่ฟังเสียงใครของ เอ็นริเก้ ย่อมจะนำมาซึ่งความเสี่ยง ถ้าผลงานที่กาตาร์ไปได้สวย ก็รับเสียงปรบมือไป แต่ถ้าล้มเหลวขึ้นมา ไม่ต้องสงสัย… เละ

 

น่าสนใจมากเสียด้วยกับการที่ต้องอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย เจองานหนักทุกนัดในรอบแรก ไล่ตั้งแต่กับ คอสตาริกา ไปต่อกับ เยอรมนี ปิดท้ายด้วยเกมกับ ญี่ปุ่น

 

กระทิงดุในระบบเผด็จการของ เอ็นริเก้ จะออกหัวออกก้อย เดี๋ยวรู้กัน — เริ่มตั้งแต่รอบแรกนี่เลย!

 

โผ 26 แข้งสเปน ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
อูไน ซิมอน / 25 / บิลเบา / 27
โรเบิร์ต ซานเชซ / 25 / ไบรท์ตัน / 1
ดาบิด ราย่า / 27 / เบรนท์ฟอร์ด / 1

กองหลัง
จอร์ดี้ อัลบา / 33 / บาร์เซโลน่า / 86 – 9
เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า / 33 / เชลซี / 41 – 1
ดานี่ การ์บาฆัล / 30 / เรอัล มาดริด / 30 – 0
เปา ตอร์เรส / 25 / บียาร์เรอัล / 21 – 1
โฆเซ่ กาย่า / 27 / บาเลนเซีย / 18 – 3
เอริก การ์เซีย / 21 / บาร์เซโลน่า / 18 – 0
อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 15 – 1
อูโก้ กียามอน / 22 / บาเลนเซีย / 3 – 1

กองกลาง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ / 34 / บาร์เซโลน่า / 139 – 2
โกเก้ / 30 / แอตฯ มาดริด / 67 – 0
โรดรี้ / 26 / แมนฯ ซิตี้ / 34 – 1
มาร์กอส ยอเรนเต้ / 27 / แอตฯ มาดริด / 17 – 0
เปดรี้ / 19 / บาร์เซโลน่า / 14 – 0
กาบี / 18 / บาร์เซโลน่า / 12 – 1
คาร์ลอส โซเลร์ / 25 / เปแอสเช / 11 – 3

กองหน้า
อัลบาโร่ โมราต้า / 30 / แอตฯ มาดริด / 57 – 27
เฟร์ราน ตอร์เรส / 22 / บาร์เซโลน่า / 30 – 13
มาร์โก อเซนซิโอ / 26 / เรอัล มาดริด / 29 – 1
ปาโบล ซาราเบีย / 30 / เปแอสเช / 24 – 9
ดานี่ โอลโม่ / 24 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 24 – 4
เยเรมี่ ปิโน่ / 20 / บียาร์เรอัล / 6 – 1
อันซู ฟาติ / 20 / บาร์เซโลน่า / 4 – 1
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ / 20 / บิลเบา / 2 – 0

หลุดโผ
ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (ลีดส์), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), อเลฆานโดร บัลเด้ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), เซร์จี้ โรเบร์โต้ (บาร์เซโลน่า), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), มิเกล เมริโน่ (โซเซียดัด), เซร์คิโอ กานาเลส (เบติส), แบรส เมนเดซ (โซเซียดัด), ปาโบล ฟอร์นัลส์ (เวสต์แฮม), บราฮิม ดิอาซ (มิลาน), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด), ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า), เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล), ราอูล เด โตมัส (ราโย บาเยกาโน่)

 

 

 

ปีศาจแดง เบลเยียม กับยุคทองหนสุดท้าย
อย่างที่ได้เอ่ยถึงไปแล้วใน คำให้การของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ว่า เบลเยียม ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ด้วยเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ กับการเป็น เวิลด์ คัพ หนสุดท้ายของยุคทอง เบลเจี้ยน โกลเด้น เจเนอเรชั่น เนื่องจากอีก 4 ปีข้างหน้า ยังไม่รู้ว่าพวก เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ติโบต์ กูร์กตัวส์, โรเมลู ลูกากู จะยังพร้อมรับใช้ชาติอยู่หรือไม่

 

รอบแรก ไม่น่าใช่ปัญหา แข็งหน่อยมี โครเอเชีย แต่ก็ยังแข็งไม่เท่าพวกเขา ส่วนอีกสองคู่แข่งอย่าง แคนาดา กับ โมร็อกโก ทิศทางออกไปในทางว่า จะชนะมากหรือชนะน้อย ดังนั้น คงต้องจับตาดูต่อในรอบน็อกเอาต์ ทีละแมตช์ ทีละก้าว

 

สำหรับขุมกำลังที่ มาร์ติเนซ เลือกมา ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์อะไร แค่น่าเป็นห่วงที่ความฟิตของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งได้เล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ไปแค่ 5 นัดในซีซั่นนี้ รวมถึงการเรื้อสนามของ เอแด็น อาซาร์ ที่ช่วงหลังกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ในแนวรุกเรอัล มาดริด ไปแล้ว จะส่งผลเสียมากน้อยประการใด

 

โผ 26 แข้งเบลเยียม ชุดลุยฟุตบอลโลก
ผู้รักษาประตู
ติโบต์ กูร์กตัวส์ / 30 / เรอัล มาดริด / 96
ซิมง มินโยเล่ต์ / 34 / คลับ บรูช / 35
โคเอน คาสตีลส์ / 30 / โวล์ฟสบวร์ก / 4

กองหลัง
ยาน แฟร์ตองเก้น / 35 / อันเดอร์เลทช์ / 141 – 9
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ / 33 / อันท์เวิร์ป / 123 – 5
โธมัส มูนิเยร์ / 31 / ดอร์ทมุนด์ / 58 – 8
ทิโมธี คาสตันเย่ / 26 / เลสเตอร์ / 25 – 2
อาร์เธอร์ เธียเต้ / 22 / แรนส์ / 3 – 0
เซโน่ เดบาสต์ / 19 / อันเดอร์เลทช์ / 2 – 0
วู้ท ฟาเอส / 24 / เลสเตอร์ / 1 – 0

กองกลาง
อักเซล วิตเซล / 33 / แอตฯ มาดริด / 126 – 12
เควิน เดอ บรอยน์ / 31 / แมนฯ ซิตี้ / 93 – 25
ยานนิค การ์รัสโก้ / 29 / แอตฯ มาดริด / 59 – 8
ยูรี่ ตีเลอมันส์ / 25 / เลสเตอร์ / 54 – 5
เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ / 27 / วิลล่า / 29 – 1
ฮานส์ ฟานาเก้น / 30 / คลับ บรูช / 22 – 5
เลอันโดร ทรอสซาร์ / 27 / ไบรท์ตัน / 21 – 5
ชาร์ลส์ เด คาตาแลร์ / 21 / มิลาน / 10 – 1
อมาดู โอนาน่า / 21 / เอฟเวอร์ตัน / 2 – 0

กองหน้า
เอแด็น อาซาร์ / 31 / เรอัล มาดริด / 122 – 33
ดรีส เมอร์เท่นส์ / 35 / กาลาตาซาราย / 106 – 21
โรเมลู ลูกากู / 29 / อินเตอร์ / 102 – 68
มิชี่ บัตชูอายี่ / 29 / เฟเนร์บาห์เช่ / 47 – 26
ธอร์แกน อาซาร์ / 29 / ดอร์ทมุนด์ / 45 – 9
เยเรมี่ โดกู / 20 / แรนส์ / 10 – 2
โลอิส โอเพ็นด้า / 22 / ล็องส์ / 4 – 1

หลุดโผ
มัตซ์ เซลส์ (สตราส์บูร์ก), เจสัน เดนาเยอร์ (ชาบับ อัล-อาห์ลี), เดดริค โบยาต้า (คลับ บรูช), โธมัส โฟเก็ต (แร็งส์), อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส (มิลาน), เดนนิส ปราเอ้ต์ (เลสเตอร์), อัลแบร์ แซมบี้ โลกอนก้า (อาร์เซน่อล), นาเซอร์ ชาดลี่ (เวสเตอร์โล), คริสเตียน เบนเตเก้ (ดีซี ยูไนเต็ด), ดิว็อค โอริกี้ (มิลาน), อัดนาน ยานาไซ (เซบีย่า)

 

 

 

โปรตุเกส กับบอลโลกครั้งสั่งลา CR7
สั่นสะเทือนวงการดีเหลือเกินกับการทิ้งระเบิดลูกนาปาล์มเดธของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านการให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีของอังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นตอนนี้ คือเรื่อง ฟุตบอลโลก 2022 การช่วยชาติไปให้ถึงฝั่งฝัน — ที่น่าจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของชายวัยย่าง 38 อย่าง โรนัลโด้ ด้วย

 

ว่ากันตามตรง ชื่อนักเตะชุดลุยกาตาร์ของ แฟร์นันโด ซานโตส แข็งแกร่งน่าเกรงขามไม่เบา ดูหนั่นแน่นตั้งแต่หลังสุดมาหน้าสุด โดยเฉพาะเกมรุกที่เลือกลำบากเลย เมื่อคงต้องกันโควตาหนึ่งที่ไว้ให้ โรนัลโด้ ส่วนที่เหลือ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ราฟาแอล เลเอา (เอซี มิลาน) ไปแย่งกันเอา

 

แต่ก็ต้องว่ากันตามตรงเพิ่มอีกว่า โปรตุเกส มีสิทธิ์จะแข็งขึ้นกว่านี้อีก ถ้าบรรดาตัวที่หลุดไปอย่าง มาริโอ รุย, เซดริก โซอาเรส, เนลซอน เซเมโด้, ชูเอา มูตินโญ่, เรนาโต้ ซานเชส, เปโดร เนโต้, กอนซาโล่ เกเดส ไม่นับ ดีโอโก้ โชต้า (บาดเจ็บ) ถูกหอบหิ้วไปกาตาร์ด้วย

 

แน่นอน ก็คงต้องตามดูกันว่า การตัดสินใจของ แฟร์นันโด ซานโตส ในการเลือกจิ้มขุมกำลังมาแบบนี้ จะปรากฏผลในท้ายที่สุดว่าอย่างไร

 

โผ 26 แข้งโปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
รุย ปาตริซิโอ / 34 / โรม่า / 104
ดีโอโก้ คอสต้า / 23 / ปอร์โต้ / 7
โชเซ่ ซา / 29 / วูล์ฟส์ / 0

กองหลัง
เปเป้ / 39 / ปอร์โต้ / 128 – 7
ดานิโล เปเรยร่า / 31 / เปแอสเช / 63 – 2
ราฟาแอล เกร์เรยโร่ / 28 / ดอร์ทมุนด์ / 56 – 3
รูเบน ดิอาส / 25 / แมนฯ ซิตี้ / 39 – 2
ชูเอา กันเซโล่ / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 37 -7
นูโน่ เมนเดส / 20 / เปแอสเช / 16 – 0
ดีโอโก้ ดาโล่ต์ / 23 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 6 – 2
อันโตนิโอ ซิลวา / 19 / เบนฟิก้า / 0 – 0

กองกลาง
วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ / 30 / เบติส / 75 – 5
แบร์นาร์โด้ ซิลวา / 28 / แมนฯ ซิตี้ / 72 – 8
ชูเอา มาริโอ / 29 / เบนฟิก้า / 52 – 2
บรูโน่ แฟร์นันเดส / 28 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 48 – 9
รูเบน เนเวส / 25 / วูล์ฟส์ / 32 – 0
ชูเอา ปาลินญ่า / 27 / ฟูแล่ม / 15 – 2
มาเตอุส นูเนส / 24 / วูล์ฟส์ / 9 – 1
โอตาวิโอ / 27 / ปอร์โต้ / 7 – 2
วิตินญ่า / 22 / เปแอสเช / 4 – 0

กองหน้า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ / 37 / แมนฯ ยูไนเต็ด / 191 – 117
อันเดร ซิลวา / 27 / แอร์เบ ไลป์ซิก / 51 – 19
ชูเอา เฟลิกซ์ / 23 / แอตฯ มาดริด / 23 – 3
ราฟาแอล เลเอา / 23 / มิลาน / 11 – 0
ริคาร์โด้ ออร์ต้า / 28 / บราก้า / 5 – 1
กอนซาโล่ รามอส / 21 / เบนฟิก้า / 0 – 0

หลุดโผ
อันโธนี่ โลเปส (ลียง), รุย ซิลวา (เบติส), มาริโอ รุย (นาโปลี), โดมิงกอส ดูอาร์เต้ (เคตาเฟ่), โชเซ่ ฟอนเต้ (ลีลล์), เซดริก โซอาเรส (อาร์เซน่อล), เนลซอน เซเมโด้ (วูล์ฟส์), ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์), เรนาโต้ ซานเชส (เปแอสเช), ดีโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล), เปโดร เนโต้ (วูล์ฟส์), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง)

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Olympics

 

 

เรื่องน่าอ่าน
• บราซิลลิ่วแชมป์โลก…? : โผ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022
• และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
• เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว : สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022 บ้างแล้ว?

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้...คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ อดไปบอลโลก 2022 เจ็บขนาดนี้…คงจะไม่ไหว

รายชื่อนักเตะ สตาร์รายใดอดไปฟุตบอลโลก 2022

เจ็บปวดกว่าโดนหมางเมิน คือการที่รู้ว่าตัวเองมีที่ยืนเต็มเท้าอยู่แล้วแท้ๆ ในทีม แต่กลับโดนขวางไว้ไม่ให้ไปฟุตบอลโลก 2022 ด้วยเรื่องของโชคชะตา…อาการบาดเจ็บที่ไม่เข้าใครออกใคร

 

หากว่าเป็นฟุตบอลโลกปกติเหมือนที่เคยเป็นมา เวลานี้ แทบทุกอย่างในโลกลูกหนังจะหยุดพัก หยุดนิ่งแล้ว (คงเหลือแค่การเข้าแคมป์เตรียมทีม) เพื่อรอการมาถึงของ เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น เสียงนกหวีดแรกของมหกรรมลูกหนังโลกที่รอคอย ก็จะดังขึ้น

 

ทว่าก็อย่างที่ทราบกัน นี่คือ ฟุตบอลโลกครั้งพิเศษใส่ไข่ เตะกันตอนปลายปีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นเกมระดับสโมสรที่ต้องหลีกทางให้ แม้จะต้องพักรบกันกลางศึกสงครามก็ตาม

 

อย่างที่บอก ถ้าเป็นบอลโลกปกติ ซีซั่นจะปิดลงแล้ว ทุกทีมเริ่มเข้าแคมป์เก็บตัวแล้ว และไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจากปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อนในสนามซ้อม

 

แต่ในเมื่อเป็นบอลโลกครั้งสุดพิเศษ ก็ทำให้ทั้งฟุตบอลลีกยุโรปแทบทุกประเทศ ไปจนถึงฟุตบอลถ้วยของบางแห่ง ยังคงโรมรันพันตูกันอย่างซีเรียสเคร่งเครียด โดยจะหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022 เพียง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เท่านั้น

 

สิ่งที่ตามมาจากเรื่องนี้ ก็คือการที่นักเตะหลายรายสาดแข้งกันจนสะบักสะบอม และทยอยล้มเจ็บอย่างโชคร้าย จนมีหลายรายเหลือเกินที่จะทำได้แค่ดูบอลโลกที่กาตาร์ ผ่านจอทีวีไม่ต่างจากเราๆ ท่านๆ

รวมรายชื่อนักเตะคนดังที่ไม่ได้ไป บอลโลก 2022

ถึงตรงนี้มีใครบ้างที่ทั้งอดไปชัวร์ๆ และอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยงต้องลุ้นใจหาย FIFA2022match.com รวบรวมเอาไว้แล้วตรงนี้…

รายชื่อนักเตะอังกฤษ
วืดชัวร์ : เบน ชิลเวลล์
สุ่มเสี่ยง : รีซ เจมส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แคลวิน ฟิลลิปส์, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, บูกาโย่ ซาก้า, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน

 

ยืนยันจากทาง เชลซี แล้วว่า วิงแบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ จะไม่ได้ไปแอ่ว กาตาร์ ในฐานะลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ภายหลังมีการตรวจปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงที่เจ้าตัวได้รับจากเกมถ้วยยุโรปอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่ใช่เรื่องขำๆ แบบพัก 3-4 วันหายแต่อย่างใด

 

ส่วน รีซ เจมส์ ก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ด้วยปัญหาบาดเจ็บเข่าที่ได้รับจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน แต่ดูจะเบากว่าเพื่อนร่วมค่ายหน่อย ยังมีลุ้นได้ไปบอลโลก

 

ด้าน ไคล์ วอล์คเกอร์ กองหลังคนสำคัญจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พักแข้งมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ แต่เจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะเรียกฟิตทันติดธงสิงโต เช่นเดียวกับ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่หลังย้ายจาก ลีดส์ สู่ แมนฯ ซิตี้ แล้วก็เจ็บออดๆ แอดๆ จนได้เล่นแค่ 3 เกมเท่านั้น ก็ยังเชื่อว่าตัวเองยังอยู่ในข่ายพิจารณาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

 

ขณะที่ บูกาโย่ ซาก้า ออกจากสนามนัดที่ อาร์เซน่อล ชนะ ฟอเรสต์ 5-0 เมื่อสิ้นเดือน ต.ค. หลังเล่นไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทว่าก็ฟิตลงสำรองในเกมกับ เอฟซี ซูริค ได้ใน 4 วันให้หลัง ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการไปฟุตบอลโลก 2022

 

โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน หัวหอกเอฟเวอร์ตัน ก็เจ็บแฮมสตริง จนต้องออกจากสนามตอนกลางครึ่งหลังเกมแพ้ เลสเตอร์ 0-2 และจะต้องเข้ารับการสแกนอย่างละเอียดต่อไปเพื่อประเมินว่า ฟุตบอลโลก 2022 ยังเป็นไปได้สำหรับศูนย์หน้าวัย 25 อยู่หรือไม่

 

แต่สำหรับทาง ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ฟูลแบ็กจากเซาธ์แฮมป์ตัน แม้บาดเจ็บแฮมสตริงไม่หนักมาก แต่การที่แทบไม่อยู่ในสารบบทีมชาติ ที่ผ่านมาเคยเล่นให้อังกฤษแค่ 2 นัดเท่านั้น ทำให้โอกาสถูกคัดทิ้งมีมากกว่าได้ไป

 

 

รายชื่อนักเตะฝรั่งเศส
วืดชัวร์ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา, บูบาการ์ กามาร่า
สุ่มเสี่ยง : เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลูคัส เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

แชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2018 อาการเพียบสุดในบรรดาทีมหัวแถวตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ภายหลังส่อแววไม่สู้ดีมาตั้งแต่คิวเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก หนล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ที่มีกลุ่มแข้งบาดเจ็บครึ่งค่อนทีม

 

ยืนยันแล้วว่า 2 คีย์แมนแดนกลางทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ จากเชลซี และ ปอล ป๊อกบา จากยูเวนตุส ต่างต้องตกขบวน อดไปช่วยตราไก่ป้องกันแชมป์โลกอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อรายแรกต้องเข้าผ่าตัดแฮสมตริง ส่วนรายหลังผ่าตัดเข่ามาแล้วพักใหญ่ แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับการเรียกความฟิตจนถึงระดับ จนซีซั่นนี้ยังไม่ได้เล่นให้ ยูเว่ แม้แต่เกมเดียว

 

ส่วน บูบาการ์ กามาร่า กองกลางดาวรุ่งวัย 22 จากแอสตัน วิลล่า เข่าพังหลังเล่นให้สิงห์ผงาดไปแค่ 8 นัด บอลโลกครั้งนี้จึงเป็นได้แค่ผู้ชม

 

ยังมีกลุ่มสุ่มเสี่ยง ต้องรักษาตัวและเรียกฟิตให้ทันเวลาอีกหลายราย ไม่ว่าจะ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (เชลซี), ลูคัส เอร์นันเดซ (บาเยิร์น) และ ราฟาแอล วาราน กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งคู่) ที่ ณ ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ด้วยว่าจะพร้อมหรือไม่

 

 

รายชื่อนักเตะบราซิล
วืดชัวร์ : อาร์ตูร์ เมโล่
สุ่มเสี่ยง : ริชาร์ลิซอน, เบรเมอร์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

เส้นกราฟชีวิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ คล้อยลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่อำลา บาร์เซโลน่า ไปเล่นกับ ยูเวนตุส อย่างเซอร์ไพรส์เมื่อสองปีก่อน จนซีซั่นนี้ถูกส่งยืมมา ลิเวอร์พูล ก็ยังแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไร ลงสนามไปนัดเดียวถ้วน และใกล้ชิดกับห้องพยาบาลมากกว่าสนามฟุตบอล เมื่อมีปัญหาบาดเจ็บต้นขา โดยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยว่ามิดฟิลด์วัย 26 อาการ “ค่อนข้างซีเรียส” และ “ต้องพักยาว” ดังนั้นจึงหมดสิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

ฝั่ง ริชาร์ลิซอน หนึ่งในตัวความหวังแนวรุกของ ลา เซเลเซา (ลงสนาม 38 นัดซัดแล้ว 17 ประตู) บาดเจ็บจากเกม สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อ 15 ต.ค. แต่ทั้งเจ้าตัวและ อันโตนิโอ คอนเต้ ยังมองแง่ดีว่าจะเรียกฟิตทันไป เวิลด์ คัพ

 

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเจ้าของค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ล่าสุดไม่ได้อยู่ในทีม แอสตัน วิลล่า ชุดเปิดบ้านสยบ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และจะไม่พร้อมเล่นนัดหน้าด้วย แม้ยังไม่ทราบระยะพักที่แน่ชัดแต่ก็มากพอที่จะสั่นคลอนโอกาสไปบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า คูตินโญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในทีมของ ตีเต้ บ่อยนักด้วย สองปีหลังได้รับใช้ชาติแค่ 5 นัดเท่านั้น ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงทีเดียวที่จะถูกกาชื่อทิ้ง 

 

สำหรับ เบรเมอร์ เซนเตอร์แบ็กยูเวนตุส พลาดช่วยทีมมา 5-6 เกมแล้ว แม้คาดหมายว่าจะฟิตทันเกมสัปดาห์นี้ แต่ด้วยการที่ ติเต้ มีตัวเลือกเซนเตอร์แซมบ้าในมืออยู่ไม่น้อย ก็ทำให้เสี่ยงมากว่าอดีตแข้งโตริโน่จะอดไปบอลโลกในที่สุด

 

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, เลอันโดร ปาเรเดส, คริสเตียน โรเมโร่, ลิโอเนล เมสซี่

 

แม้ในระดับชาติ เปาโล ดีบาล่า ยังจะไม่ค่อยฉายแสงเท่าที่ควรจะเป็น ยิงได้แค่ 3 ลูกจากการลงสนาม 34 นัด แต่ด้วยชื่อชั้นและคุณภาพฝีเท้า มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี เพียงแต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อย ภายหลังดาวเตะวัย 28 ดวงแตก เจ็บต้นขาไปเองระหว่างยิงจุดโทษให้กับ โรม่า

 

รายงานจากสื่อ ณ ตอนนี้ ยังออกไปในทางเห็นแย้งกัน ฝั่งหนึ่งบอกว่า ดีบาล่า จะฟิตทันกลับมาเล่นให้ โรม่า ได้ในเกมสุดท้ายช่วงสัปดาห์หน้า ดังนั้นก็ยังได้ลุ้นไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ แต่อีกฝั่งก็บอกว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ ตัดสินใจปล่อยนักเตะพักแล้ว และจะเลือกจิ้มกองหน้าคนอื่นที่ฟิตกว่า ไปบอลโลกแทน

 

ในราย อังเคล ดิ มาเรีย ตัวเก๋าวัย 34 จากยูเวนตุส เจ็บต้นขา แต่ยังถูกคาดหมายว่าจะไปช่วยงานทีมชาติได้ทันเวลา รวมถึง เลอันโดร ปาเรเดส กับ คริสเตียน โรเมโร่ ก็ไม่ได้เจ็บหนัก ยังเชื่อว่าจะฟิตทัน

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดดาวเตะผู้เป็นแทบทุกอย่างในความหวังสอยแชมป์โลกสมัย 3 ของทัพฟ้าขาว ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องพักแข้งไประยะหนึ่ง อดช่วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เล่นกับ ลอริยองต์ และแม้ว่า เปแอสเช จะยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมสซี่ น่าจะกลับมาพร้อมรบในเร็ววัน แต่ก็ต้องห้ามลืมว่าฟุตบอลโลก 2022 กำลังคอยท่าอยู่ในเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้เท่านั้น หากว่าต้องไปลุยบอลโลกแบบไม่สมบูรณ์ 100% ย่อมเป็นความเสียหายโดยตรงของ อาร์เจนติน่า 

 

 

รายชื่อนักเตะเยอรมนี
วืดชัวร์ : ติโม แวร์เนอร์
สุ่มเสี่ยง : มาร์โก รอยส์, เลรอย ซาเน่, มานูเอล นอยเออร์

 

อุตส่าห์ย้ายจาก เชลซี ไปหาโอกาสลงสนามสม่ำเสมอกับต้นสังกัดเก่า แอร์เบ ไลป์ซิก เพื่อเตรียมตัวรับใช้ทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งอันที่จริงก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ยิง 9 ประตูจากการเล่น 16 นัด แต่ปรากฏว่า ติโม แวร์เนอร์ กลับได้รับบาดเจ็บข้อเท้าอย่างหนักจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชนะ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 4-0 และ ไลป์ซิก ยืนยันว่า แวร์เนอร์ ต้องพักยาว หมดสิทธิ์ไปช่วยชาติที่กาตาร์โดยปริยาย

 

อีกสองตัวรุกจากต่างค่าย มาร์โก รอยส์ จากดอร์ทมุนด์ กับ เลรอย ซาเน่ จากบาเยิร์น อยู่ในจุดที่ดีกว่า แวร์เนอร์ พอสมควร หลังทั้งคู่เริ่มเรียกฟิตได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว มีโอกาสได้ไปกาตาร์มากกว่าที่จะพลาด

 

ส่วนยอดจอมหนึบวัย 36 อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่ถูกคาดหมายว่าจะไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนสุดท้าย เป็นข่าวใหญ่จากการที่มีอาการของมะเร็งผิวหนังบนใบหน้า แถมช่วงหลังยังเจ็บไหล่อยู่เป็นระยะ ทว่าล่าสุดก็ฟิตกลับมาลงช่วย บาเยิร์น บุกเตะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ได้แล้ว ดังนั้นถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน ก็น่าจะได้ไปกาตาร์ตามปกติ

 

 

รายชื่อนักเตะสเปน
วืดชัวร์ : มิเกล โอยาร์ซาบัล
สุ่มเสี่ยง : เซร์คิโอ เรกีลอน, เคราร์ด โมเรโน่, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

 

แม้ในรายชื่อ 55 แข้งสเปนชุดเบื้องต้นที่หลุดออกมา (หลุยส์ เอ็นริเก้ ตั้งใจไม่เผยจนกว่าจะตัดตัวชุดสุดท้าย) มิเกล โอยาร์ซาบัล ปีกตัวเก่งจาก เรอัล โซเซียดัด จะยังติดอยู่ แต่ด้วยความที่ดาวเตะวัย 25 เข่าพังมาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อน แล้วยังต้องพักมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เล่นเกมซีซั่นนี้แม้แต่เกมเดียว ก็ทำให้จะเรียกฟิตไม่ทันเป็นแน่

 

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันคือ เกป้า “เดอะโค้ช” อาร์ริซาบาลาก้า จากการอัพเดตล่าสุดของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ปรากฏว่า เกป้า จะไม่ได้เล่นให้ เชลซี จนกว่าจะกลับมาเจอกันใหม่หลังบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บเท้า ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นการยืนยันว่านายด่านสแปนิชจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก 2022 แน่ๆ แต่ด้วยการที่ เอ็นริเก้ มี 3 นายทวารอยู่แล้วในทีมชุดเตะ เนชั่นส์ ลีก เดือน ก.ย. (อูไน ซิมอน, โรเบิร์ต ซานเชซ, ดาบิด ราย่า) ก็ทำให้ยิ่งง่ายสำหรับ เอ็นริเก้ ไปอีกในการจะตัดชื่อ เกป้า ทิ้งไป หลังจากมือระดับ ดาบิด เด เคอา ก็ไม่ได้อยู่ใน 55 คนแรกก่อนแล้ว

 

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์
วืดชัวร์ : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
สุ่มเสี่ยง : เมมฟิส เดอปาย, มาร์เทน เดอ รอน, มัทไธส์ เดอ ลิกท์

 

มีปัญหาบาดเจ็บเกิดขึ้นในช่วงหลังทั้ง เมมฟิส เดอปาย (บาร์เซโลน่า), มาร์เทน เดอ รอน (อตาลันต้า) และ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส) แต่โอกาสที่ทั้งสามจะเรียกฟิตทันเวลาไปช่วยชาติที่กาตาร์ ยังมีมากกว่าไม่ได้ไป

 

แต่ที่พลาดแล้วตั้งแต่ต้นและน่าเจ็บใจแทน ได้แก่ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์อดีตดาวเด่นลิเวอร์พูล ที่อุตส่าห์ตัดใจย้ายหนีการเป็นคนไม่สำคัญที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หวังมาเกิดใหม่กับ โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่กลับบาดเจ็บหนักขั้นขาหักตั้งแต่ต้น พักยาวลืมวันลืมคืนไม่พอ ยังได้แค่ดูบอลโลกในฐานะกองเชียร์ด้วย

 

 

รายชื่อนักเตะเบลเยียม
วืดชัวร์ : โธมัส มูนิเยร์, อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส
สุ่มเสี่ยง : โรเมลู ลูกากู

 

เพราะไอ้ยักษ์เจ้าของสถิติถล่มประตู 68 ลูกในทีมชาติอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็ “ยุบ” เป็นเหมือนกัน ซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นแค่ 5 นัด เนื่องจากเจ็บแฮมสตริง ครั้นเรียกฟิตลงสนามได้ก็ดันเจ็บซ้ำเสียอีกรอบ จนต้องลุ้นถึงวันท้ายๆ เลยว่าจะเรียกฟิตทันช่วยปีศาจแดงแห่งยุโรปสั่งลายุคทองกับบอลโลกได้หรือไม่

 

ส่วนที่วืดแล้ว และสำคัญกับทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ทั้งสองคน คือ โธมัส มูนิเยร์ แบ็กขวากำลังหลักจากดอร์ทมุนด์ โหนกแก้มฉีก ฟิตไม่ทันบอลโลก และ อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส ตัวรุกเอซี มิลาน เข่าพัง จะกลับมาเล่นได้อีกทีก็ต้นปีหน้า

 

 

รายชื่อนักเตะโปรตุเกส
วืดชัวร์ : ดีโอโก้ โชต้า, เปโดร เนโต้
สุ่มเสี่ยง : เปเป้, นูโน่ เมนเดส

 

ทำผลงานได้ดีกับ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นที่แล้ว (21 ประตู) จนหลายเดือนหลังถูกวางให้เป็นกองหน้าตัวจริงของโปรตุเกสอยู่ตลอด ทว่านอกจากความฝืดในซีซั่นนี้ (0 ประตู) แล้ว สำคัญคือ โชต้า เจ็บต้นขาจนต้องถูกหามออกในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อกลางเดือน ต.ค. ส่งผลให้ แฟร์นันโด ซานโตส เลี่ยงไม่ได้ต้องตัดชื่อทิ้งไปตั้งแต่ชุดเบื้องต้น 55 คน เช่นเดียวกับ เปโดร เนโต้ กองหน้าวูล์ฟส์ ที่เจ็บข้อเท้าจนต้องเข้าผ่าตัด

 

ด้าน เปเป้ ป.ประมุข ในวัย 39 ยังเป็นแกนหลักในแนวรับฝอยทองอยู่ แต่ช่วงหลังมีปัญหาเจ็บเข่ามารบกวน ส่วน นูโน่ เมนเดส เด็กเปแอสเช เจ็บกล้ามเนื้อ และทั้งคู่ต้องรีบเรียกฟิต พร้อมหวังว่าอาการของตัวเองจะไม่หนักหนาจนเกินไปนัก

 

 

รายชื่อนักเตะเดนมาร์ก
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์

 

ต้องจับตากับ 2 เซนเตอร์แบ็กกำลังสำคัญ ทั้งกัปตันทีม ซิมอน เคียร์ จากเอซี มิลาน ที่เจ็บหนักและต้องพักมายาว ยังไม่แน่ชัดว่าจะเรียกความฟิตได้ถึงระดับที่เหมาะสมสำหรับการคุมหลังบ้านของทัพโคนมหรือไม่ ส่วน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ของบาร์เซโลน่า ก็เริ่มมีปัญหาความฟิตในช่วงหลัง แม้จะไม่ได้มีรายงานว่าเจ็บหนักก็ตาม

 

 

รายชื่อนักเตะเวลส์
วืดชัวร์ : ทอม ลอว์เรนซ์, รีส นอร์ริงตัน-เดวิส
สุ่มเสี่ยง : แกเร็ธ เบล, โจ อัลเลน

 

กับการกลับเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี เลี่ยงไม่ได้ที่มังกรแดง เวลส์ ยังจำเป็นต้องพึ่งพาพลังสังหารของ แกเร็ธ เบล ที่แม้จะหลบฉากจาก เรอัล มาดริด ไปเล่นกับ แอลเอ เอฟซี ในสหรัฐฯ แล้วก็ตาม กระนั้น กัปตันวัย 33 ก็มีปัญหาความฟิตและไม่ถูกใช้งานสม่ำเสมอนักในช่วงหลัง ต้องดูต่อว่าสภาพร่างกายจะเข้าที่เข้าทางหรือไม่ อันเป็นกรณีเดียวกับอีกคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โจ อัลเลน (สวอนซี)

 

 

รายชื่อนักเตะสหรัฐอเมริกา
วืดชัวร์ : ไมล์ส โรบินสัน
สุ่มเสี่ยง : แดริล ไดค์, เวสตัน แม็คเคนนี่

 

ไมล์ส โรบินสัน เซนเตอร์แบ็กแอตแลนต้า ยูไนเต็ด เจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก พักยาวอดไปบอลโลกแล้ว ส่วน แดริล ไดค์ กองหน้าเวสต์บรอมวิช กับ เวสตัน แม็คเคนนี่ คีย์แมนแดนกลางจากยูเวนตุส ต้องเร่งเครื่องเรียกฟิตหน่อยในโค้งสุด้ายก่อนฟุตบอลโลก 2022

 

 

รายชื่อนักเตะเม็กซิโก
วืดชัวร์ : เฮซุส โคโรน่า
สุ่มเสี่ยง : ราอูล ฮิมิเนซ

 

ปีกตัวเก่งจากเซบีย่า เฮซุส โคโรน่า ที่เล่นทีมชาติไปแล้ว 71 เกม ต้องพลาดเวิลด์คัพครั้งนี้อย่างน่าเสียดายภายหลังขาหักเมื่อกลางปี และฟิตไม่ทันไปรับใช้ชาติ ส่วนดาวยิงเบอร์ 1 ของชาติอย่าง ราอูล ฮิมิเนซ จากวูล์ฟส์ ก็มีปัญหาโคนขาหนีบ โอกาสตอนนี้อยู่ที่ 50:50

 

 

รายชื่อนักเตะเกาหลีใต้
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : ซน ฮึง-มิน

 

เดินกุมหน้าออกจากเกม ชปล. กับมาร์กเซย ซึ่งตอนแรกเหมือนจะเป็นการบาดเจ็บขาแข้งเหมือนทั่วไป แต่ปรากฏว่าหนักถึงขั้นเบ้าตาซ้ายแตก จากจังหวะเข้าปะทะกับคู่แข่งอย่างจัง และต้องเข้ารับการผ่าตัด เพียงแต่ก็ยังพอมองแง่ดีได้ว่าต่อให้ไม่ 100% ก็ยังน่าจะพอใส่หน้ากากเป็นแบทแมนลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 ได้

 

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น
วืดชัวร์ : ยูตะ นากายามะ
สุ่มเสี่ยง : –

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ ประกาศรายชื่อ 26 คนสุดท้ายแบบไม่รีรอมาก่อนใครเพื่อน แต่ปรากฏว่าไม่ทันไรก็ต้องปรับไลน์อัพเสียแล้ว เมื่อ ยูตะ นากายามะ กองหลังจากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เจ็บส้นเท้าอย่างหนักระดับที่ต้องพักทั้งซีซั่น แน่นอนว่าก็ต้องถอนตัวไปโดยปริยาย และถึงตอนนี้ยังไม่มีการเรียกใครเข้ามาทดแทน

 

 

รายชื่อนักเตะโครเอเชีย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

มิดฟิลด์ตัวเก่งจาก อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้ลงช่วยงูใหญ่มาร่วม 1 เดือนแล้วจากการบาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติรอบที่แล้ว (เนชั่นส์ ลีก) แต่ก็คาดว่าจากที่พักมาระยะหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเพียงพอให้ได้เรียกฟิตทันเวลา

 

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : โรนัลด์ อเราโฮ

 

บาดเจ็บต้นขาในการรับใช้ชาติหนก่อนเมื่อเดือน ก.ย. จนอดช่วย บาร์เซโลน่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา แถมยังต้องเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาด ทว่ารายงานช่วงหลังชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า โรนัลด์ อเราโฮ มีพัฒนาการที่ดี ถ้าไม่มัวไปติดไฟแดงเสียก่อน ก็น่าจะทะลุเข้าอ่อนนุช-เอ๊ย-ไปบอลโลกได้อยู่

 

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์
วืดชัวร์ : ยาคุบ โมเดอร์
สุ่มเสี่ยง : –

 

เอ็นฉีกตั้งแต่เดือน เม.ย. และต้องพักยาวหลายเดือน กองกลางจากไบรท์ตันจึงฟิตไม่ทันช่วยชาติในฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน

 

 

รายชื่อนักเตะแคนาดา
วืดชัวร์ : –
สุ่มเสี่ยง : อาติบา ฮัทชินสัน

 

กัปตันทีมชาติตัวเก๋าวัย 39 ยังไม่อาจฟื้นฟิตลงช่วย เบซิคตัส ได้เลยแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ภายหลังเจ็บกระดูกร้าวตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น แม้ยังพอได้ลุ้นกลับมาทัน แต่ก็น่าเสียวไส้ว่าจะฟิตไม่ถึงระดับ

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BBC
Mirror Sports
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Getty Images
ESPN
beIN SPORTS

 

เรื่องน่าอ่าน : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
แบโผเบื้องต้น ‘โปรตุเกส’ ลุยฟุตบอลโลก 2022
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่…

อดใจรอกันอีกแค่เดี๋ยวเดียว สิ่งที่โลกลูกหนังเฝ้าคอยกันมา 4 ปีอย่าง “ฟุตบอลโลก 2022” ก็จะถึงเวลาโรมรันกันแล้ว และโดยไม่ต้องพึ่งแม่หมอพ่อเดา เราก็ทราบผล “แชมป์โลก” ล่วงหน้าเรียบร้อย…ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์สุดอัจฉริยะ!

 

เดินทางเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนกันแล้ว ซึ่งหมายถึงว่าอีกเพียงไม่กี่วันกี่คืนเท่านั้น เสียงนกหวีดแรกแห่ง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ก็จะดังขึ้น

 

20 พฤศจิกายน ลากยาวไปจนเกือบหนึ่งเดือนเต็ม 18 ธันวาคม ที่โลกลูกหนังจะหยุดหมุน เพื่อเว้นวรรคและเป็นสักขีพยานของการช่วงชิงแชมป์รายการที่สำคัญที่สุดของเมืองมนุษย์

 

และก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จริงจะมาถึง เราก็ทราบผลบทสรุปของ กาตาร์ 2022 เรียบร้อยแล้ว… ผ่านการทำนายประมวลผลคิดวิเคราะห์แยกแยะของ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” ในการดูแลของ บีซีเอ รีเสิร์ช (BCA Research) สถาบันวิเคราะห์การลงทุนระดับโลก แห่งประเทศแคนาดา

 

บทวิเคราะห์นี้มีชื่ออันแสนยาวเหยียดว่า “The Most Important Of All Unimportant Forecasts 2nd Edition: 2022 FIFA World Cup ซึ่งเป็นการประมวลผลสถิติตัวเลขหลากหลาย เช่น ผลการแข่งขัน 192 นัดของรอบแรก กับสกอร์ของอีก 64 เกมรอบน็อกเอาต์ ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่ 2006 – 2018, อายุอานามของนักเตะแต่ละทีม จนถึง “ค่าพลัง” ความเร็วและค่าเฉลี่ย Team Average Player Rating ที่ปรากฏอยู่ในเกมฟุตบอลเลื่องชื่ออย่าง FIFA (อันมาจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ชั้นหนึ่งแล้วจากค่ายเจ้าของเกม EA Sport)

 

ข้อมูลทั้งหมดที่มี จะถูกแปลงเป็นสมการยากๆ เช่น yi* = χi’β + ϵi หรือ Pr(yi = win | χi, β, γ) = 1 – ϕ(γ2 – χi’ β) อันจะถูกส่งต่อเข้าสู่ซูเปอร์คอมพิเตอร์อัจฉริยะ เพื่อแปลงผลให้ออกมาจนได้ข้อสรุป

 

“สี่ปีก่อน เราได้เผลผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2018 เอาไว้ นั่นคือครั้งแรกที่เราได้ลองทำนายผลฟุตบอลโลกกันเป็นครั้งแรก” BCA Research ระบุ “มาตอนนี้ เราได้พัฒนาแบบจำลองเชิงปริมาณขึ้นอีก เพื่อคาดการณ์การแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก”

 

“นอกจากแง่ของเกมกีฬาแล้ว เราเราหวังว่ารายงานชิ้นนี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากความผันผวนของตลาดสินทรัพย์, ความตกต่ำอย่างรุนแรงของ ธนาคารกลาง, อัตราเงินเฟ้อที่สูงในรอบหลายสิบปี จนถึงกระทั่งสงครามในยูเครน”

 

สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ผลจากการประมวลคิดวิเคราะห์แยกแยะของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ออกมาว่า “แทบไม่มีเซอร์ไพรส์” บรรดาทีมใหญ่พาเหรดเข้าน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด ไม่มีชาติหัวแถวรายไหนที่หลุดออกจากรอบแรก รวมถึงแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่ยุติ “อาถรรพ์แชมป์เก่า” ลงได้ — แม้จะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มดี ตามหลังของแสลงส่วนตัวอย่าง เดนมาร์ก ก็ตาม

 

ส่วนกลุ่มรวมตัวขาโหด “Group of Death” อย่างกลุ่มอี ที่ประกอบด้วย สเปน, เยอรมนี, คอสตาริกา และ ญี่ปุ่น นั้น ก็เป็น 2 ยักษ์ใหญ่ทวีปยุโรปที่กอดคอเข้ารอบไปด้วยกัน ปล่อยให้ทีมกล้วยหอมจอมซนและ “ซามูไรบลู” สิ้นสุดการผจญภัยในฟุตบอลโลก 2022 ที่เพียงรอบแรก

 

ขณะที่ทีมขวัญใจมหาชน สิงโตคำราม อังกฤษ ไม่เจอปัญหาใดทั้งสิ้นในการผ่านรอบแรก “แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม และ บูกาโย่ ซาก้า อยู่ในฟอร์มที่ดีมากตั้งแต่ซีซั่นนี้เริ่มขึ้น และคุณภาพโดยรวมของคนอื่นๆ จะช่วยให้ อังกฤษ ครองแชมป์กลุ่มอย่างไม่ลำบาก”

 

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

ผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2022 โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ BCA Research

รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ : กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เนเธอร์แลนด์ 2. เซเนกัล

 

กลุ่มบี : อังกฤษ, อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อังกฤษ 2. สหรัฐอเมริกา

 

กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า, ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อาร์เจนติน่า 2. เม็กซิโก

 

กลุ่มดี : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนิเซีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เดนมาร์ก 2. ฝรั่งเศส

 

กลุ่มอี : สเปน, คอสตาริกา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. สเปน 2. เยอรมนี

 

กลุ่มเอฟ : เบลเยียม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เบลเยียม 2. โครเอเชีย

 

กลุ่มจี : บราซิล, เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. บราซิล 2. สวิตเซอร์แลนด์

 

กลุ่มเอช : โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. โปรตุเกส 2. อุรุกวัย

 

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – สหรัฐอเมริกา
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เนเธอร์แลนด์
แม้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เมื่อหนึ่งในตัวเต็งอย่าง เนเธอร์แลนด์ ได้คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็น สหรัฐอเมริกา ที่คู่นี้ไม่เคยได้เจอกันในทัวร์นาเมนต์เป็นทางการมาก่อนเลย (เจอในนัดลับแข้ง 5 ครั้ง) ซึ่งผลก็เป็น “อัศวินสีส้ม” กำชัยได้ตามคาด

 

อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์การเจอกันเมื่อครั้งก่อน รัสเซีย 2018 คราวนั้น ฝรั่งเศส สอนเชิงถล่มเอาชนะ อาร์เจนติน่า สี่เม็ด กระนั้นมาคราวนี้ อาร์เจนติน่า ชำระแค้นได้สำเร็จ ด้วยความลงตัวและคุณภาพที่ชัดกว่าแชมป์เก่า “ฝรั่งเศสมีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากเกินไป โดยเฉพาะในแดนกลาง นี่คือจุดสำคัญทำให้ อาร์เจนติน่า ฉกฉวยความได้เปรียบ”

 

สเปน – โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : สเปน
เพิ่งงัดกันมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 และต้องยืดเยื้อกันถึงต่อเวลา สเปน ถึงเอาชนะได้ 5-3 ภายหลังเสมอสุดเดือด 3-3 ใน 90 นาที มาครั้งนี้ในบอลโลกที่กาตาร์ ไม่เดือดปุดขนาดนั้น และยังคงเป็น สเปน คว้าชัยได้ไปต่อรอบ 8 ทีม

 

บราซิล – อุรุกวัย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
ไม่มีอะไรพลิกโผสำหรับการตัดกันเองของ 2 ตัวแทนจากอเมริกาใต้ หลังจากการพบกันช่วงหลัง ก็เป็น “ลา เซเลเซา” ที่กินขาดอยู่แล้ว — ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บราซิล ไม่แพ้ อุรุกวัย มา 20 ปีเข้าไปแล้ว (ชนะรวด 4 เกมหลัง) และเกมนี้ก็ออกทรงเดิมเช่นเคย

 

อังกฤษ – เซเนกัล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
อาจต้องระแวดระวังหน่อยกับพลังรุกของ ซาดิโอ มาเน่ และความหนักแน่นในเกมรับของ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ แฮร์รี่ เคน และพลพรรคสิงโตคำราม ก็ยังกรีธาทัพผ่าน เซเนกัล ได้อย่างไร้ปัญหา

 

เดนมาร์ก – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เม็กซิโก
ทั้งที่อุตส่าห์คว้าแชมป์กลุ่มมาครองได้เหนือ ฝรั่งเศส แต่เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว โคนมเดนมาร์กของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็กลับเครื่องสะดุดเพลาหักสลักหายฯ ไปเสียดื้อๆ แพ้พลิกล็อกต่อ เม็กซิโก จนร่วงตกรอบ หมดลายม้ามืดที่หลายฝ่ายคาดหมาย เป็นทัพจังโก้อันตรายที่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

เบลเยียม – เยอรมนี
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เยอรมนี
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ของรอบ 16 ทีม เบลเยียม ลงสนามไปด้วยความหวังตั้งใจจะคว้าชัยชนะเพื่อส่งต่อ “ยุคทอง” ของตัวเองไปให้ไกลที่สุด ทว่า เยอรมนี ก็เป็นคู่แข่งที่หนักหนาสาหัสเกินไปเสียแล้ว บทสรุปคือยุคทองปีศาจแดงฯ (เดอ บรอยน์, ลูกากู, อาซาร์, กูร์กตัวส์ ฯลฯ) ต้องจากลาฟุตบอลโลกหนนี้ไปโดยไม่ประสบความสำเร็จอีกตามเคย

 

โปรตุเกส – สวิตเซอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เจอกันรัวๆ ในช่วงหลัง รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ซึ่งต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันได้ในบ้าน มาคราวนี้ที่สนามกลางต่างแดน ก็เป็น โปรตุเกส ของ โรนัลโด้ และชาวคณะ ที่ได้ไปต่อ

 

 

รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – อาร์เจนติน่า
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์เกมสุดคลาสสิกจาก ฟร้องซ์ 98 ที่มีลูกยิงของ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ เป็นช็อตตัดสินเกมอันสุดตรึงตราตรึงใจ ซึ่ง อาร์เจนติน่า ก็ต้องรอคอยมาถึง 24 ปี ถึงจะสามารถชำระแค้นได้เป็นผลสำเร็จ ลิโอเนล เมสซี่ ดีเกินกว่าที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะต้านทานอยู่

 

สเปน – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
อีกหนึ่งซูเปอร์แมตช์ของรายการ สเปน กับ บราซิล โคจรมาเจอกันเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ทศวรรษหลัง ปรากฏเป็น เนย์มาร์, กาเบรียล เชซุส, วินิซิอุส, อันโตนี่, กาเซมิโร่, เฟร็ด ได้ชูธงชาติฉลองชัย

 

อังกฤษ – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
รอบที่แล้ว เซเนกัล มารอบนี้ เม็กซิโก ซึ่งล้วนแต่เป็นรอง อังกฤษ ในหลากหลายแง่มุม สุดท้ายก็เป็นสิงโตคำรามของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่คว้าชัยต่อเนื่อง ลุยไปถึงรอบตัดเชือก กาตาร์ 2022

 

เยอรมนี – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
ผ่านเกมสุดโหดกับ สเปน ในรอบแรก ต่อด้วยกับ เบลเยียม ในรอบสอง ส่งผลให้ “อินทรีเหล็ก” ออกลูกยุบในตัวเอง พลังลด ร่างกายล้า จนที่สุดแล้ว โปรตุเกส ก็เบียดกำชัยได้อย่างสนุกตื่นเต้น ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

 

 

รอบรองชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
“ซูเปอร์กลาซิโก้” ฉะกันทีไร โลกต้องหยุดหมุนเพื่อเฝ้ามองเมื่อนั้น และแน่นอนกับคราวนี้ที่มีเดิมพันใหญ่ถึงขั้น “ตั๋วเข้าชิงบอลโลก” ให้ได้แย่งชิง และเกมก็ดุเดือดขั้นสุดจนแทบจะยกพวกตีกันเสียให้รู้ดำรู้แดง ซึ่งสุดท้ายก็เป็น อาร์เจนติน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ฝากรอยแค้นใหญ่เอาไว้ให้กับ บราซิล ด้วยชัยชนะ–และการได้เข้าชิงฟุตบอลโลก

 

อังกฤษ – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เกมสุดคู่คี่สูสีในแง่ของศักดิ์ของศรี การปะทะกันของ 2 ทีมหัวแถวทวีปยุโรปที่เคยมีประวัติฟาดฟันกันมาพอท้วมๆ สิ่งที่น่าสนใจคือภายหลัง อังกฤษ ผ่านทีมรองบ่อนอย่าง เซเนกัล และ เม็กซิโก มาได้ ก็ถึงคราวต้องหยุดความฝันเอาไว้เท่านี้เมื่อต้องเจอของแข็งจริงจังอย่างทัพฝอยทอง แต่ว่าเกมลากยาวถึงดวลจุดโทษ และ โปรตุเกส เฉือนหวิว “ทั้งสองทีมจะยิงได้ โดยที่ โปรตุเกส มีโอกาส 56% ในการเข้ารอบ และ อังกฤษ จะเข้าสู่การดวลจุดโทษแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก พวกเขาชนะแค่หนเดียวจากการดวลเป้า 4 ครั้งในฟุตบอลโลก”

 

 

นัดชิงอันดับ 3
บราซิล – อังกฤษ
ผู้ชนะ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
เกมปลอบใจที่ไม่ใคร่จะมีใครสนใจสักเท่าไร อังกฤษ มาถึงตรงนี้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน ภายหลังแพ้ เบลเยียม 0-2 ในนัดชิงที่สามที่รัสเซีย และก็ยังคงซ้ำรอยกับหนนี้ ที่ บราซิล กำชัย ได้เหรียญทองแดงไปครอง

 

 

นัดชิงชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – โปรตุเกส
แชมป์โลก โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
สุดยอดเกม “แมตช์ในฝัน” ที่โลกจับตา นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อันเป็นเกมสั่งลา เวิลด์ คัพ ของ 2 เสือเฒ่า ลิโอเนล เมสซี่ (35) กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (37) ผู้ชนะจะไปถึงฝั่งฝันที่ตามหามานานตลอดเส้นทางอาชีพ และยังจะได้เลิกเล่นไปพร้อมดีกรี “แชมป์โลก” ติดตัว

 

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คำนวณผลเกมชิงดำนัดนี้ออกมาว่า “ยืดเยื้อ” กินกันไม่ลงทั้งใน 90 และ 120 นาที จนสุดท้าย ต้องตัดสินแชมป์กันด้วยการดวลจุดโทษ — ซึ่งไม่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 (อิตาลี ชนะดวลเป้าเหนือ ฝรั่งเศส)

 

และผลสุดท้าย… เมสซี่ คือผู้ชนะ อาร์เจนติน่า ผงาดครองแชมป์โลกสมัยที่ 3 และหนแรกนับจากปี 1986

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI 1986

 

“อันที่จริง การเลือกระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ มันก็เหมือนการต้องเลือกระหว่าง โมสาร์ท กับ บีโธเฟ่น หรือไม่ก็ ดา วินชี่ กับ ไมเคิ่ลแอนเจโล่”

 

“แต่ภายหลังการวิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เราเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างแห่งฟุตบอลโลก 2022 เสร็จสิ้นลง อาร์เจนติน่า และ ลิโอเนล เมสซี่ จะเป็นผู้ได้ชูถ้วยแชมป์โลกขึ้นที่กาตาร์” BCA Research ทิ้งท้าย

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

…ทั้งนี้ทั้งนั้น การคำนวณต่อฟุตบอลโลก 2022 ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ว่า ก็เหมือนเช่นเคยว่าเป็นการวิเคราะห์ด้วยสถิติตัวเลข โดยขาดไปซึ่งสิ่งสำคัญอย่าง “ความพลิกล็อก” และ “เหนือคาด” อันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลเสมอมา

 

ดังนั้น บทสรุปที่ว่า เมสซี่ จะมาชิงแชมป์โลกกับ โรนัลโด้ และผู้ได้ชูโทรฟี่คือ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว ในท้ายที่สุด ก็คงเชื่อถือไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

 

เอาเป็นว่า อดใจรออีกเดี๋ยว อีกไม่กี่สิบวันก็ได้เห็นของจริง

 

เผลอๆ ทั้ง อาร์เจนติน่า ทั้ง โปรตุเกส อาจตกรอบแรกพร้อมกันทั้งคู่ก็ได้…ใครจะรู้!

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BCA Research
FourFourTwo
DohaNews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
ShutterStock
Bulgaria Posts English
MassLive
AFP

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

6 ชาติเผยรายชื่อ “ชุดเบื้องต้น” ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นตรียมตัดตัวชุดสุดท้ายลุยฟุตบอลโลก 2022

หนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนนกหวีดแรกแห่งฟุตบอลโลก 2022 จะดังขึ้น นั่นหมายถึงการเตรียมความพร้อมทุกอย่างกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายเต็มทีแล้ว นั่นรวมถึงการประกาศรายชื่อนักเตะเบื้องต้น เพื่อเตรียมตัดตัวชุดสุดท้ายลุยกาตาร์ด้วย

 

โดยไม่ต้องปล่อยให้ใครเผลอ วันเวลาก็พาเรามาใกล้กับ ฟุตบอลโลก 2022 เต็มแก่ ชนิดที่เหลืออีกเพียง 4 สุดสัปดาห์เท่านั้น เป็นอันจบ — จบเวลาของบอลลีก และเริ่มต้น เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ อย่างเป็นทางการ

 

แน่นอน ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ ยิ่งต้องจับตากันมากขึ้นกับทุกแมตช์ของบอลลีก (และถ้วยยุโรป) ที่ผ่านไป จะมีใครที่ “ดวงแตก” บาดเจ็บขึ้นมาจนอดไปฟุตบอลโลกบ้าง

 

และถึงตรงนี้–หนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก–ก็เริ่มมีบางชาติสมาชิกรอบสุดท้าย ที่เปิดเผยรายชื่อนักเตะลุยกาตาร์ “ชุดเบื้องต้น” (provisional squad) ออกมาแล้ว

 

สำหรับชุดเบื้องต้น เป็นเรื่องของแต่ละชาติ แต่ละสมาคม ที่จะกำหนดตัวเลขออกมาเอง อยาก 30, 40 หรือ 50 ก็ได้หมด (สูงสุด 55)

 

แต่จากนั้น ทุกชาติจะต้องทำการตัดตัว และส่งรายชื่อชุดสุดท้าย (final squad) 23-26 นักเตะให้กับ ฟีฟ่า ภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน

 

ส่วนเมื่อส่งรายชื่อชุดสุดท้ายแล้ว จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีมีตัวเจ็บเพิ่มหรือติดโควิด-19 ก็ต้องทำก่อนลงสนามนัดแรก (ของตัวเอง) 24 ชั่วโมง เท่านั้น.

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

 

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ : กลุ่มเอ
กุนซือ : หลุยส์ ฟาน กัล (เนเธอร์แลนด์)
ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์นักกับรายชื่อแข้ง 39 รายเบื้องต้นของทัพกังหันลม เนเธอร์แลนด์ ที่จารย์ปู่ หลุยส์ ฟาน กัล ประกาศออกมา โดยบรรดาแกนหลักที่ใช้ตลอดหลายเดือนหลัง ล้วนแต่มาครบ

 

อัศวินสีส้ม นำมาโดยกัปตัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เช่นเดียวกับ มัทไธส์ เดอ ลิกท์, เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, ดอนเยลล์ มาเลน, โคดี้ กัคโป หรือ วินเซนต์ ยานส์เซ่น ที่กลับมาอยู่ในสารบบอีกครั้ง

 

ตัวที่ติดไม่ถือว่าน่าเซอร์ไพรส์ แต่ตัวที่หลุดโผ อดไปบอลโลกนี่สิ เอามาเขียนเป็นหนึ่งคอลัมน์ได้ง่ายๆ เลยไม่ว่าจะ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่บาดเจ็บ, ฮันส์ ฮาเตบัวร์ ของอตาลันต้า, ริค คาร์สดอร์ป ของโรม่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จอมอาภัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวีเท่านั้น

 

รายชื่อนักเตะเนเธอร์แลนด์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (33) เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น (เล่นทีมชาติ 63 นัด)
ยุสติน ไบจ์โลว์ (24) เฟเยนูร์ด (6)
มาร์ค เฟล็คเค่น (29) ไฟรบวร์ก (4)
เรมโก้ พาสเฟียร์ (38) อาแจ็กซ์ (2)
อันเดรียส น็อพเพิร์ต (28) ฮีเรนวีน (0)

 

กองหลัง
ดาลี่ย์ บลินด์ (32) อาแจ็กซ์ (เล่นทีมชาติ 94 นัด 2 ประตู)
สเตฟาน เดอ ฟราย (30) อินเตอร์ มิลาน (59 / 3)
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (31) ลิเวอร์พูล (49 / 6)
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (23) บาเยิร์น มิวนิค (38 / 2)
เดนเซล ดุมฟรีส์ (26) อินเตอร์ มิลาน (37 / 5)
นาธาน อาเก้ (27) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (29 / 3)
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (21) อาแจ็กซ์ (10 / 0)
ไทเรลล์ มาลาเซีย (23) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (6 / 0)
เดวีน เรนช์ (19) อาแจ็กซ์ (1 / 0)
มิตเชล บาคเกอร์ (22) เลเวอร์คูเซ่น (0 / 0)
สเวน บ็อตมัน (22) นิวคาสเซิ่ล (0 / 0)
เยเรมี่ ฟริมปง (21), เลเวอร์คูเซ่น (0 / 0)
ปาสกาล สไตรค์ (23) ลีดส์ (0 / 0)
มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน (21) โวล์ฟสบวร์ก (0 / 0)

 

กองกลาง
เฟรงกี้ เดอ ยอง (25) บาร์เซโลน่า (45 / 1)
สตีเฟ่น แบร์กฮุยส์ (30) อาแจ็กซ์ (39 / 2)
ดาวี่ คลาสเซ่น (29) อาแจ็กซ์ (35 / 9)
มาร์เท่น เดอ รอน (31) อตาลันต้า (30 / 0)
ยอร์ดี้ คลาซี่ (31) อาแซด อัล์คมาร์ (17 / 0)
ไรอัน กราเฟนเบิร์ก (20) บาเยิร์น มิวนิค (11 / 1)
เทน คูปไมเนอร์ส (24) อตาลันต้า (10 / 1)
กุส ทิล (24) พีเอสวี (5 / 1)
เคนเน็ธ เทย์เลอร์ (20) อาแจ็กซ์ (2 / 0)
ชาบี ซิมอนส์ (19) พีเอสวี (0 / 0)

 

กองหน้า
เมมฟิส เดอปาย (28) บาร์เซโลน่า (81 / 42)
ลุค เดอ ยอง (32) พีเอสวี (38 / 8)
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (25) อาแจ็กซ์ (24 / 7)
วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) รอยัล อันท์เวิร์ป (20 / 7)
ดอนเยลล์ มาเลน (23) ดอร์ทมุนด์ (19 / 4)
วู้ท เวกอร์สท์ (30) เบซิคตัส (15 / 3)
โคดี้ กัคโป (23) พีเอสวี (9 / 3)
อาร์โนต์ ดันยูม่า (25) บียาร์เรอัล (6 / 2)
โนอา ลัง (23) คลับ บรูช (5 / 1)
ไบรอัน บร๊อบบี้ย์ (20) อาแจ็กซ์ (0 / 0)

 

หลุดโผ
ทิม ครูล (นอริช), โยเอล เฟลท์มัน (ไบรท์ตัน), พาทริค ฟาน อานโฮลท์ (กาลาตาซาราย), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ (อาแซด), ฮันส์ ฮาเตบัวร์ (อตาลันต้า), โอเว่น วินจ์ดัล (อาแจ็กซ์), ริค คาร์สดอร์ป (โรม่า), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (โรม่า), ควินซี่ โพรเมส (สปาร์ตัก มอสโก), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์ : กลุ่มเอ
กุนซือ : เฟลิกซ์ ซานเชซ (สเปน)
ชาติเจ้าภาพในการนำทัพของกุนซือสแปนิช เฟลิกซ์ ซานเชซ มีกลุ่มนักเตะที่ชัดเจนเป็นแกนมาตลอดนานนับปี และชุดเบื้องต้น 30 คนที่เผยไว้แล้ว ก็เป็นหน้าเดิมๆ แทบทั้งสิ้น โดยพวกเขาจะไปเข้าแคมป์เก็บตัวกันที่ประเทศสเปนและออสเตรีย ก่อนตัดชื่อสี่ซ้าห้าคนออกไป ก่อนยื่นให้ฟีฟ่า

 

รายชื่อนักเตะกาตาร์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
ชาอัด อัล ชีเอ็บ (32) อัล-ซาดด์ (75)
เมชาล บาร์ชัม (24) อัล-ซาดด์ (13)
ยูเซฟ ฮัสซัน (26) อัล-การาฟา (7)
ซาลาห์ ซากาเรีย (23) อัล-ดูฮาอิล (1)

 

กองหลัง
อับเดลการิม ฮัสซัน (29) อัล-ซาดด์ (125 /15)
บูอาเล็ม คูคี่ (32) อัล-ซาดด์ (100 / 20)
เปโดร มิเกล กอร์เรอา “โร-โร” (32) อัล-ซาดด์ (79 / 1)
ทาเร็ค ซัลมาน (24) อัล-ซาดด์ (58 / 0)
บัสซัม อัล-ราวี (24) อัล-ดูฮาอิล (53 / 2)
มูซับ เคเดอร์ (29) อัล-ซาดด์ (29 / 0)
โฮมัม อาห์เหม็ด (23) อัล-การาฟา (27 / 2)
โมฮัมหมัด อีหมัด (21) อัล-วาครา (0 / 0)
ยัสเซ็ม กาเบอร์ (20) อัล-อาราบี (0 / 0)

 

กองกลาง
คาริม บูเดียฟ (32) อัล-ดูฮาอิล (111 / 5)
อับดุลลาซิช ฮาเต็ม (31) อัล-รายยาน (98 / 11)
อาลี อัสซาดัลลา (29) อัล-ซาดด์ (58 / 12)
โมฮัมเหม็ด วาอัด (23) อัล-ซาดด์ (20 / 0)
อับเดลราห์มัน มุสตาฟา (25) อัล-ดูฮาอิล (4 / 0)
โอซาม่า อัล-ไทรี (20) อัล-รายยาน (0 / 0)
อาห์เหม็ด ฟาเดล (29) อัล-วาครา (0 / 0)
มอสตาฟา ทาเร็ค (21) อัล-ซาดด์ (0 / 0)

 

กองหน้า
ฮัสซัน อัล-ไฮดอส (31) อัล-ซาดด์ (165 / 34)
อัคราม อาฟิฟ (25) อัล-ซาดด์ (86 / 26)
อัลโมเอซ อาลี (26) อัล-ดูฮาอิล (76 / 39)
อิสมาอีล โมฮัมหมัด (32) อัล-ดูฮาอิล (68 / 4)
โมฮัมเหม็ด มุนตารี่ (28) อัล-ดูฮาอิล (47 / 13)
อาห์เหม็ด อลาเอลดิน (29) อัล-การาฟา (46 / 1)
ยูซุฟ อับดูริซัก (23) อัล-ซาดด์ (7 / 1)
คาลิด มูเนียร์ (23) อัล-วาครา (2 / 0)
นาอิฟ อัล-ฮาดรามี่ (21) อัล-รายยาน (2 / 0)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า : กลุ่มซี
กุนซือ : ลิโอเนล สคาโลนี่ (อาร์เจนติน่า)
ประกาศโครมมาตับใหญ่ 40 ราย นั่นจึงหมายถึงว่า ลิโอเนล สคาโลนี่ มีงานที่ต้องทำเยอะทีเดียวสำหรับการคัดเข้าคัดออก ให้เหลือไม่เกิน 26 คนในชุดสุดท้ายสำหรับลุยฟุตบอลโลก 2022

 

ฟ้าขาว นำมาโดย ลิโอเนล เมสซี่ แน่นอนอยู่แล้ว และซูเปอร์สตาร์รายอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายติดธงตลอดช่วงหลังก็ไม่หายไปไหน อันรวมถึง เปาโล ดีบาล่า ที่ล่าสุดล้มเจ็บไปกับ โรม่า ก็ยังได้โอกาสจาก สคาโลนี่ อยู่–ด้วยมองแง่ดีว่าจะฟิตทันรอบสุดท้าย

 

สำหรับตัวหลุดโผ อาจมีชื่อดังพอตัวอย่าง มานูเอล ลันซินี่ ของเวสต์แฮม หรือ โรแบร์โต้ เปเรยร่า ของอูดิเนเซ่ จนถึง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ถือว่าน่าแปลกใจนัก เมื่อตัวเลือกดีๆ ในชั่วโมงนี้ของอาร์เจนติน่า มีเยอะแบบไหล่ชนไหล่ทีเดียว

 

รายชื่อนักเตะอาร์เจนติน่า ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (30) แอสตัน วิลล่า (18)
ฟรังโก้ อาร์มานี่ (36) ริเวอร์เพลท (18)
อกุสติน มาร์เคซิน (34) เซลต้า บีโก้ (8)
เคโรนิโม่ รุลลี่ (30) บียาร์เรอัล (4)
ฮวน มุสโซ่ (28) อตาลันต้า (2)

 

กองหลัง
นิโกลัส โอตาเมนดี้ (34) เบนฟิก้า (92 / 4)
มาร์กอส อคุนย่า (30) เซบีย่า (42 / 0)
นิโกลัส ตายาฟิโก้ (30) โอลิมปิก ลียง (42 / 0)
เคร์มัน เปซเซลล่า (31) เรอัล เบติส (31 / 2)
นาอูเอล โมลิน่า (24) แอตเลติโก มาดริด (19 / 0)
กอนซาโล่ มอนเทียล (25) เซบีย่า (17 / 0)
ฮวน ฟอยธ์ (24) บียาร์เรอัล (15 / 0)
คริสเตียน โรเมโร่ (24) สเปอร์ส (12 / 1)
ลูคัส มาร์ติเนซ กวาร์ต้า (26) ฟิออเรนติน่า (11 / 0)
ลิซานโดร มาร์ติเนซ (24) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (9 / 0)
ฟาคุนโด้ เมดิน่า (23) ล็องส์ (2 / 0)
มาร์กอส เซเนซี่ (25) บอร์นมัธ (1 / 0)
นาอูเอน เปเรซ (22) อูดิเนเซ่ (1 / 0)

 

กองกลาง
อังเคล ดิ มาเรีย (34) ยูเวนตุส (123 / 25)
เลอันโดร ปาเรเดส (28) ยูเวนตุส (45 / 4)
โรดริโก้ เด ปอล (28) แอตเลติโก มาดริด (43 / 2)
โจวานี่ โล เซลโซ่ (26) บียาร์เรอัล (41 / 2)
กีโด้ โรดริเกซ (28) เรอัล เบติส (25 / 1)
นิโกลัส กอนซาเลซ (24) ฟิออเรนติน่า (21 / 3)
เอเซเกล ปาลาซิออส (24) เลเวอร์คูเซ่น (20 / 0)
อเลฮานโดร โกเมซ (34) เซบีย่า (15 / 3)
นิโกลัส โดมิงเกซ (24) โบโลญญ่า (11 / 1)
ลูคัส โอคัมโปส (28) อาแจ็กซ์ (10 / 2)
อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ (23) ไบรท์ตัน (7 / 0)
เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (21) เบนฟิก้า (2 / 0)
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย (25) แอสตัน วิลล่า (1 / 0)
ติอาโก้ อัลมาด้า (21) แอตแลนต้า ยูไนเต็ด (1 / 0)

 

กองหน้า
ลิโอเนล เมสซี่ (35) เปแอสเช (164 / 90)
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (25) อินเตอร์ มิลาน (40 / 21)
เปาโล ดีบาล่า (28) โรม่า (34 / 3)
อังเคล กอร์เรอา (27) แอตเลติโก มาดริด (22 / 3)
ฮัวกิน กอร์เรอา (28) อินเตอร์ มิลาน (18 / 3)
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (22) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (11 / 2)
ลูคัส อลาริโอ (30) แฟร้งค์เฟิร์ต (9 / 3)
โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (27) นาโปลี (5 / 1)

 

หลุดโผ
เอสเตบัน อันดราดร้า (มอนเตอร์เรย์), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), โรแบร์โต้ เปเรยร่า (อูดิเนเซ่), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (มอนเตอร์เรย์), คริสเตียน เมดิน่า (โบคา จูเนียร์ส), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), ลูคัส โบเย่ (เอลเช่)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ : กลุ่มซี
กุนซือ : เชสลาฟ มิชนีวิซ (โปแลนด์)
ไม่พลาดอยู่แล้วสำหรับตัวความหวังอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงบาร์เซโลน่า หรือตัวความหวังเบอร์รองอย่าง อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (ยูเวนตุส) และ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค (ซาแลร์นิตาน่า) ที่จะมีชื่อติดทีมทั้งในชุดเบื้องต้น 47 คน และชุดสุดท้ายไปบอลโลก

 

และที่จริงแล้ว ชุดสุดท้ายของ โปแลนด์ ก็คาดเดาไม่ยากนัก ว่าบรรดานักเตะที่ติดธงมาแค่สี่ซ้าห้านัด (อยู่ในทีมชุดเบื้องต้นนับสิบราย) จะถูกคัดออก การเรียกตัวพวกนี้มาติดทีมชุดเบื้องต้น ก็เผื่อว่าจะได้มาเรียนงานก่อนเรียกใช้มากขึ้นไปในอนาคต

 

รายชื่อนักเตะโปแลนด์ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
วอยเชียค เชสนี่ (32) ยูเวนตุส (66)
ลูคัส สโครุปสกี้ (31) โบโลญญ่า (7)
บาร์ทโลเมียจ ดราคอฟสกี้ (25) สเปเซีย (2)
คามิล กราบาร่า (23) โคเปนเฮเก้น (1)
ราโดสลาฟ มาเย็คกี้ (22) แซร์เคิล บรูช (1)

 

กองหลัง
คามิล กลิค (34) เบเนเวนโต้ (98 / 6)
บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้ (30) ซามพ์โดเรีย (45 / 0)
ยาน เบ๊ดนาเร็ค (26) แอสตัน วิลล่า (44 / 1)
อาร์ตูร์ เยเดอซีร์เซียค (34) ลีเกีย วอร์ซอว์ (40 / 3)
โทมัสซ์ เคดซิโอร่า (28) ดินาโม เคียฟ (26 / 1)
อาร์คาดิอุสซ์ เรก้า (27) สเปเซีย (15 / 0)
ทิโมเตอุส ปูชาซ (23) อูนิโอน เบอร์ลิน (12 / 0)
พาเวล ดาวิโดวิซ (27) เวโรน่า (8 / 0)
แม็ตตี้ แคช (25) แอสตัน วิลล่า (7 / 1)
มิชาล เฮลิค (27) ฮัดเดอร์สฟิลด์ (7 / 0)
นิโกล่า ซาเลฟสกี้ (20) โรม่า (7 / 0)
โรเบิร์ต กุมมี่ (24) เอาก์สบวร์ก (4 / 0)
ยาคุบ คีวิออร์ (22) สเปเซีย (4 / 0 )
มิชาล คาร์บอฟนิค (21) ดุสเซลดอร์ฟ (3 / 0)
พาเวล บอชนีวิซ (26) ฮีเรนวีน (2 / 0)
มาเตอุสซ์ วีเตสก้า (25) แกลร์กมงต์ ฟุต (1 / 0)
พาทริค คุน (27) ราคอฟ (0 / 0)
มาอิค นาฟร็อคกี้ (21) ลีเกีย วอร์ซอว์ (0 / 0)

 

กองกลาง
เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (32) อัล-ชาบับ (93 / 5)
คามิล โกรซิคกี้ (34) โปกอน (86 / 17)
ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ (28) นาโปลี (74 / 9)
คาโรล ลิเน็ตตี้ (27) โตริโน่ (42 / 5)
มาเตอุสซ์ คลิช (32) ลีดส์ (41 / 2)
เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ (27) ล็องส์ (25 / 1)
คามิล ยอซเวียค (24) ชาร์ล็อตต์ (22 / 3)
ยาเซ็ค โกรัลสกี้ (30) โบคุ่ม (21 / 1)
เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (23) เฟเยนูร์ด (17 / 1)
ดาเมียน ซีมานสกี้ (27) เออีเค เอเธนส์ (8 / 1)
คาสเปอร์ คอซลอฟสกี้ (19) วิเทสส์ (6 / 0)
ซีมอน ซูร์คอฟสกี้ (25) ฟิออเรนติน่า (6 / 0)
คริสเตียน บีลิค (24) เบอร์มิงแฮม (5 / 0)
ยาคุบ คามินสกี้ (20) โวล์ฟสบวร์ก (3 / 1)
มาเตอุสซ์ เลคอฟสกี้ (19) โปกอน (1 / 0)
มิชาล สโคราส (22) เลซ พอซนาน (1 / 0)
พาทริค ซีเซ็ค (24) เพียสท์ กลีวิซ (0 / 0)
ยาคุบ ปิโอตรอฟสกี้ (25) ลูโดโกเร็ตส์ (0 / 0)

 

กองหน้า
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (34) บาร์เซโลน่า (134 / 76)
อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (28) ยูเวนตุส (63 / 16)
คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค (27) ซาแลร์นิตาน่า (24 / 10)
คาโรล ซวิเดอร์สกี้ (25) ชาร์ล็อตต์ (17 / 8)
อดัม บุคซ่า (26) ล็องส์ (9 / 5)
ดาวิด คอฟนัคกี้ (25) ดุสเซลดอร์ฟ (7 / 1)

 

หลุดโผ
มาร์ซิน คามินสกี้ (ชาลเก้), เซบาสเตียน วาลูคีวิซ (เอ็มโปลี), บาร์ตอสซ์ ซาลามอน (เลซ พอซนัน), เพอร์เซมีสลาฟ พลาเชต้า (เบอร์มิงแฮม), ยาคุบ โมเดอร์ (ไบรท์ตัน)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

ซาอุดี อาระเบีย : กลุ่มซี
กุนซือ : แอร์กเว เรอนาร์ (ฝรั่งเศส)
หนึ่งในทีมแข็งของทวีปเอเชีย แอบลุ้นเข้ารอบได้อยู่เหมือนกันกับการได้อยู่ร่วมกลุ่มกับ โปแลนด์ และ เม็กซิโก ส่วน อาร์เจนติน่า ยกขึ้นหิ้งไปก่อนทีมหนึ่งก็ได้

 

ในการเผยชื่อชุดเบื้องต้น 33 คนของ แอร์กเว เรอนาร์ อดีตนายใหญ่โมร็อกโก-ไอวอรี่โคสต์-แซมเบีย ฯลฯ ทั้งหมดก็เป็นชุดที่ใช้ตลอดช่วงหลัง ซึ่งไม่ว่าใครจะหลุดหรือติดไปรอบสุดท้าย คุณภาพก็อาจไม่แตกต่างกันนัก

 

รายชื่อนักเตะซาอุฯ ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
โมฮัมเหม็ด อัล-โอไวส์ (31) อัล-ฮิลาล (37)
ฟาวาซ อับ-การ์นี่ (30) อัล-ชาบาบ (10)
โมฮัมเหม็ด อัล รูบาอี (25) อัล-อาห์ลี (6)
นาวาฟ อัล-อาคิดี้ (22) อัล-นาสเซอร์ (0)

 

กองหลัง
ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี่ (30) อัล-ฮิลาล (70 / 2)
โมฮัมเหม็ด อัล-เบรอิค (30) อัล-ฮิลาล (35 / 1)
อาลี อัล-บูไลฮี (32) อัล-ฮิลาล (32 / 0)
ซุลตาน อัล-กานัม (28) อัล-นาสเซอร์ (23 / 0)
ซาอุด อับดุลฮามิด (23) อัล-ฮิลาล (17 / 0)
อับดุลเลลาห์ อัล-อัมรี (25) อัล-นาสเซอร์ (14 / 1)
ฮัสซัน ทัมบัคตี (23) อัล-ชาบาบ (14 / 0)
อับดุลลาห์ มาดู (29) อัล-นาสเซอร์ (12 / 0)
อาห์เหม็ด บัมซาอุด (26) อัล-อิตติฮัด (1 / 0)

 

กองกลาง
ฟาฮัด อัล-มูวาลัด (28) อัล-ชาบาบ (71 / 17)
ซัลมาน อัล-ฟาราจ (33) อัล-ฮิลาล (68 / 8)
ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี (31) อัล-ฮิลาล (66 / 17)
นาวาฟ อัล-อาเบ็ด (32) อัล-ชาบาบ (50 / 8)
อับดุลลาห์ โอตาฟ (30) อัล-ฮิลาล (44 / 1)
ฮัตตัน บาเฮบรี (30) อัล-ชาบาบ (37 / 4)
โมฮาเหม็ด คันโน (28) อัล-ฮิลาล (33 / 1)
อับดุลเลลาห์ อัล-มัลกี (28) อัล-ฮิลาล (21 / 0)
ซามี อัล-นาเจ (25) อัล-นาสเซอร์ (15 / 2)
อาลี อัล-ฮัสซัน (25) อัล-นาสเซอร์ (9 / 1)
นาสเซอร์ อัล-ดอว์ซารี (23) อัล-ฮิลาล (8 / 0)
อายมาน ยาห์ย่า (21) อัล-นาสเซอร์ (6 / 0)
อับดุลราห์มาน อัล-อาบูด (27) อัล-อิตติฮัด (2 / 0)
ริยาดห์ ชาราฮิลี่ (29) อาบา (2 / 0)

 

กองหน้า
ฟิราส อัล-บูไรคาน (22) อัล-ฟาเตห์ (24 / 6)
อับดุลลาห์ อัล-ฮัมดัน (23) อัล-ฮิลาล (20 / 5)
ซาเลห์ อัล-เชห์รี (28) อัล-ฮิลาล (16 / 8)
ไฮตัม อาซีรี่ (21) อัล-อาห์ลี (4 / 0)
อับดุลลาห์ ราดีฟ (19) อัล-ทาวูน (3 / 0)

 

 

6 ชาติเผยรายชื่อ "ชุดเบื้องต้น" ลุยฟุตบอลโลก 2022

ชุดเบื้องต้นลุยฟุตบอลโลก 2022

อุรุกวัย : กลุ่มเอช
กุนซือ : ดีเอโก้ อลอนโซ่ (อุรุกวัย)
น่าจับตาอย่างยิ่งกับ อุรุกวัย ในการทำทีมของอดีตดาวเตะบาเลนเซีย-แอตฯ มาดริด อย่าง ดีเอโก้ อลอนโซ่ ที่เข้ามาดูแลทีมชาติแทนที่คุณตา ออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ (75) ที่คุมทัพจอมโหดอยู่นานเหลือเกินในระหว่างปี 2006–2021

 

สำหรับชุดเบื้องต้นที่ อลอนโซ่ เผยออกมา มีมากถึง 55 ราย และชื่อที่คุ้นหูต่างอยู่ครบถ้วนไม่ว่าจะ หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่, ดาร์วิน นูนเยซ, โรนัลด์ อเราโฮ หรือกระทั่ง ดีเอโก้ โกดิน และ แฟร์นันโด มุสเลร่า ในวัย 36

 

ซึ่งด้วยการประกาศแบบเต็มแม็กซ์ 55 รายชื่อ จึงทำให้จะมีถึงกว่า 29 คน ที่อกหัก อดไปฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับทีมชาติบ้านเกิด นั่นเอง

 

รายชื่อนักเตะอุรุกวัย ชุดเบื้องต้นก่อนตัดตัวไปฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู
แฟร์นันโด มุสเลร่า (36) กาลาตาซาราย (133)
เซร์คิโอ โรเช่ต์ (29) นาซิอองนาล (8)
เซบาสเตียน โซซ่า (36) อินดิเพนเดียนเต้ (1)
กิเยร์โม่ เด อโมเรส (28) ลานุส (0)
ซานติอาโก้ เมเล่ (25) อูนิโอน (0)
กาสตัน โอลิเวียร่า (29) โอลิมเปีย (0)

 

กองหลัง
ดีเอโก้ โกดิน (36) เวเลซ ซาร์สฟิลด์ (159 / 8)
มาร์ติน กาเซเรส (35) แอลเอ แกแล็กซี่ (115 / 4)
โฮเซ่ คิมิเนซ (27) แอตเลติโก มาดริด (78 / 8)
เซบาสเตียน โกอาเตส (32) สปอร์ติ้ง (47 / 1)
มาติอัส วินย่า (24) โรม่า (26 / 0)
โจวานนี่ กอนซาเลซ (28) มายอร์ก้า (16 / 0)
โรนัลด์ อเราโฮ (23) บาร์เซโลน่า (12 / 0)
กิเยร์โม่ วาเรล่า (29) ฟลาเมงโก้ (9 / 0)
มาติอัส โอลิเวร่า (24) นาโปลี (8 / 0)
ฮัวกิน ปิเกเรซ (24) พัลไมรัส (7 / 0)
ดาเมียน ซัวเรซ (34) เคตาเฟ่ (7 / 0)
เซบาสเตียน กาเซเรส (23) อเมริกา (2 / 0)
บรูโน่ เมนเดซ (23) โครินเธียนส์ (2 / 0)
อกุสติน โรเคล (25) แฮร์ธ่า (1 / 0)
กาสตัน อัลวาเรซ (22) เคตาเฟ่ (0 / 0)
ซานติอาโก้ บวยโน่ (23) คิโรน่า (0 / 0)
เลอันโดร กาเบรร่า (31) เอสปันญ่อล (0 / 0)
อัลฟอนโซ่ เอสปิโน่ (30) กาดิซ (0 / 0)
ลูคัส โอลาซ่า (28) เรอัล บายาโดลิด (0 / 0)
เฟเดริโก้ เปเรยร่า (22) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)
โฮเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ (25) นาซิอองนาล (0 / 0)

 

กองกลาง
มาติอัส เวซิโน่ (31) ลาซิโอ (62 / 4)
โรดริโก้ เบนตันกูร์ (25) สเปอร์ส (51 / 1)
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ (24) เรอัล มาดริด (44 / 4)
จอร์เจียน เด อาร์รัสแซต้า (28) ฟลาเมงโก้ (40 / 8)
ลูคัส ตอร์เรยร่า (26) กาลาตาซาราย (40 / 0)
นิโกลัส เด ลา ครูซ (25) ริเวอร์เพลท (17 / 2)
เมาโร อารัมบาร์รี่ (27) เคตาเฟ่ (12 / 0)
แฟร์นันโด กอร์เรียราน (27) ซานโตส ลากูน่า (7 / 0)
มานูเอล อูร์กาเต้ (21) สปอร์ติ้ง (6 / 0)
เซซ่าร์ อเราโฮ (21) ออร์แลนโด้ ซิตี้ (0 / 0)
มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ (22) ปวยบลา (0 / 0)
เฟลิเป้ การ์บาโย่ (26) นาซิอองนาล (0 / 0)
ฟาบริซิโอ ดิอาซ (19) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)

 

กองหน้า
หลุยส์ ซัวเรซ (35) นาซิอองนาล (134 / 68)
เอดินสัน คาวานี่ (35) บาเลนเซีย (133 / 58)
โฮนาธาน โรดริเกซ (29) อเมริกา (29 / 3)
มักซี่ โกเมซ (26) แทร็บซอนสปอร์ (27 / 4)
ดาร์วิน นูนเยซ (23) ลิเวอร์พูล (13 / 3)
ฟาคุนโด้ ตอร์เรส (22) ออร์แลนโด้ ซิตี้ (10 / 0)
ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ (20) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (7 / 0)
อกุสติน อัลวาเรซ มาร์ติเนซ (21) ซาสซูโอโล่ (4 / 1)
ดีเอโก้ รอสซี่ (24) เฟเนร์บาห์เช่ (4 / 1)
อกุสติน คาน็อบบิโอ (24) ปาราเนนเซ่ (3 / 0)
ดาวิด เตรันส์ (28) ปาราเนนเซ่ (2 / 0)
ไบรอัน โอคัมโป้ (23) กาดิซ (1 / 0)
มาร์ติน ซาเตรียโน่ (21) เอ็มโปลี (1 / 0)
ติอาโก้ บอร์บาส (20) ลิเวอร์พูล มอนเตวิเดโอ (0 / 0)
นิโกลัส โลเปซ (29) ยูเอเอ็นแอล (0 / 0)

 

หลุดโผ
โรดริโก้ ซาลาซาร์ (ชาลเก้), กาสตัน เปเรยโร่ (กายารี่), นาฮิตัน นานเดซ (กายารี่), คริสเตียน สตูอานี่ (คิโรน่า)

 

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Daily Mail

ภาพประกอบ
Newsdelivers
Sporting News
VOI
US Soccer
PokerStars News

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"

ลิโอเนล เมสซี่ : “ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม”

เพราะทุกสิ่งบนโลก ล้วนแต่มีตอนจบเป็นของตัวเอง ก็ยืนยันป็นที่เรียเบร้อยว่า ลิโอเนล เมสซี่ จะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็น เวิลด์ คัพ ครั้งสุดท้าย ในเส้นทางเลี่ยมทองของตัวเขาเอง

 

อย่างที่ทราบกันดี อาร์เจนติน่า เป็นแชมป์โลก 2 สมัย ท่ามกลางการมงว่าพวกเขาควรได้มากสมัยกว่านี้ เมื่อพิจารณาจาก “ขุมสมบัติ” ที่พวกเขามี — ขุมสมบัติอย่างสุดยอดนักเตะในทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะ ดีเอโก้ มาราโดน่า, เคลาดิโอ คานิกเกีย, กาเบรียล บาติสตูต้า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, เฟร์นานโด เรดอนโด้, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, มาร์ติน ปาแลร์โม่, เอร์นัน เครสโป, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ ซามูเอล ฯลฯ หรือล่วงเลยมาในยุค ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ฯลฯ

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ นี่คือดาวเตะที่ “เก่งกาจที่สุดในโลก” ยุคนี้สมัยนี้

 

แต่ก็เป็นเรื่องตลกร้ายอีกเช่นกัน ว่าแข้งระดับ เมสซี่ ผู้ซึ่งครองแชมป์นับสิบนับร้อยรายการกับทั้ง บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลับไม่เคยได้สัมผัสกับโทรฟี่แชมป์โลกมาก่อนเลยสักครั้ง

 

ไปย้อนดูกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เมสซี่ ในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา

 

ก่อนจะร่วมเป็นสักขีพยานกับฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของ เมสซี่ ที่กาตาร์…

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2006 : เปิดซิงในวัย 18
ลงสนาม : 3 นัด
ยิง : 1 ประตู
ในวันวัยยังเข้าผับไม่ได้ และที่จริงก็เพิ่งขยับขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ บาร์เซโลน่า แค่ปีกว่าๆ (ไม่น่าลืมกัน…) เมสซี่ ได้รับหมายเรียกจาก โฮเซ่ เปเกร์มัน ให้เข้ารายงานตัวกับทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่เป็นครั้งแรกตอนกลางปี 2005 และเขาถูกส่งลงสำรองนัดพบ ฮังการี ทันที–และโดนใบแดงทันทีในเพียง 2 นาทีแรก จากจังหวะพยายามกระชากหนีกองหลังที่ดึงเสื้อเขา แล้วผู้ตัดสินมองว่า เมสซี่ ตั้งใจสับศอกใส่คู่แข่ง

 

หนึ่งปีให้หลัง เปเกร์มัน ไม่พลาดจะใส่ชื่อเจ้าหนูเมสซี่ ไปฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี โดยเป็นหนึ่งในตัวเลือกศูนย์หน้าร่วมกับ เอร์นัน เครสโป, ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า, คาร์ลอส เตเวซ, โรดริโก้ ปาลาซิโอ และ ฮูลิโฮ ริคาร์โด้ ครูซ

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นดาวรุ่งอายุ 18 เมสซี่ จึงไม่มีตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติเวลานั้น เช่นกันกับที่ อาร์เจนติน่า ไม่ได้มีทัวร์นาเมนต์ที่น่าประทับใจอะไรนัก ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย พ่ายจุดโทษ เยอรมนี 2-4 โดยที่ เมสซี่ ไม่ได้ถูกใช้งานในเกมนี้ หลังจากมี 1 ประตูจากการลงสำรองมาขยี้ เซอร์เบีย-มอนเตเนโกร 6-0 ในรอบแรก

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2010 : กับเจ้านายชื่อ มาราโดน่า
ลงสนาม : 5 นัด
ยิง : 0 ประตู
น่าลืมเลือน… นิยามได้ว่า “น่าลืมเลือน” สำหรับฟุตบอลโลกคราวนี้ของ เมสซี่ เมื่อทั้งที่มีกุนซือระดับคนในตำนานอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า (ผู้ล่วงลับ) เป็นเจ้านายและที่ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอันที่จริง ลางหายนะก็เริ่มตั้งเค้ามาตั้งแต่รอบคัดเลือก เมื่อ อาร์เจนติน่า ในกำมือของ “เสือเตี้ย” แพ้ถึง 6 นัด ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำจนถึงเกมสุดท้าย ก่อนจะผ่านเข้ารอบได้ด้วยการเป็นอันดับ 4 เหนือตำแหน่งเพลย์ออฟแค่ 4 แต้ม

 

สำหรับในรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้, ทั้งที่ เมสซี่ กำลังเบ่งบานกับบาร์ซ่า และเพิ่งพาอาร์เจนฯ ครองแชมป์โอลิมปิก 2008 มา, ฟ้าขาวก็ล้มเหลวอย่างรุนแรง แม้จะผ่านรอบแรกแบบชนะรวด 3 เกมซ้อน แต่ที่สุดแล้วก็ไปแพ้ เยอรมนี ในรอบ 8 ทีม ขาดลอยถึง 0-4 ขณะที่ เมสซี่ ซึ่งถูกจับเล่นตำแหน่งหน้าต่ำ หลังคู่หัวหอกนั้น ไม่มีสกอร์เลยสักลูกตลอดทัวร์นาเมนต์

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2014 : แค่เอื้อมเท่านั้น
ลงสนาม : 7 นัด
ยิง : 4 ประตู
พลิกชะตาจาก 4 ปีก่อนเป็นมาทำได้ดีมากถึงดีที่สุดในรอบหลายสิบปี ถัดจากการเข้าถึงชิงฟุตบอลโลก 1990 ช่วงเวลาที่ มาราโดน่า อายุ 30 ถ้วน และ เมสซี่ เพิ่ง 3 ขวบ

 

แต่ถึงจะดีที่สุด…ก็ยังไปไม่ถึงแชมป์อยู่ดี

 

เมสซี่ งัดฟอร์มสุดยอดออกมาโชว์ที่บราซิลได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ยิง 4 ประตูจาก 3 เกมรอบแรก พร้อมมีส่วนสำคัญพาทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า (ล่วงลับเช่นกัน) ชนะรวด 3 นัด

 

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ กลับกระสุนหมด หยุดยิงเมื่อสิ้นสุดรอบแรก ในขณะที่ อาร์เจนติน่า ยังกรุยทางต่อไปได้เรื่อยๆ

 

ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 รอบ 16 ทีม
ชนะ เบลเยียม 1-0 รอบ 8 ทีม
ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2 รอบตัดเชือก

 

จนนัดชิงชนะเลิศที่เจ้าภาพ บราซิล ไม่มาตามนัด–กลายเป็น เยอรมนี มาแทน… อาร์เจนติน่า ก็บอก “ชิกหายเลี้ยว” เมื่ออินทรีเหล็กคือ “ของแสลง” โดยตรงของฟ้าขาวมาหลายปีดีดัก ที่สุดแล้วก็เป็น เยอรมนี เบียดชนะ 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยที่ เมสซี่ เล่นไม่ออกเท่าที่ควรจะเป็น

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2018 : ตัวประกอบอย่างฟ้า-ขาว
ลงสนาม : 4 นัด
ยิง : 1 ประตู
จากที่พลิกชะตาความล้มเหลวในปี 2010 มาถึงชิงชนะเลิศในปี 2014 อาร์เจนติน่า ก็กลับไปฟุบอย่างน่าผิดหวังเสียอีกรอบสำหรับ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ภายใต้การทำทีมของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี

 

กระเสือกกระสนกันตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่สองเกมแรกไม่ชนะใคร — เสมอ ไอซ์แลนด์ 1-1 ตามด้วยแพ้ โครเอเชีย 0-3 จนชัยชนะเกมสุดท้ายเหนือ ไนจีเรีย (เมสซี่ยิงลูกแรก) 2-1 ดีพอจะทำให้ อาร์เจนติน่า คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างฉิวเฉียด

 

แต่เมื่อรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมมาถึง อาร์เจนฯ โคจรมาเจอกับ ฝรั่งเศส ก็จบเห่ในพริบตา สกอร์อาจออกเบียดที่ 4-3 แต่ในระหว่างเกม ฝรั่งเศส ฉีกสกอร์นำห่างถึง 4-2 (คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สองเม็ด) แล้วค่อยมาโดนบีบตอนทดเจ็บเท่านั้นเอง

 

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2022 : The Final Countdown
ยิง 9 ประตูใน 3 เกมหลัง
รอบคัดเลือกและเกมอุ่นเครื่อง
อันที่จริงก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อะไร กับการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 (สูงสุดเทียบเท่า อันโตนิโอ การ์บาฮัล, โลธาร์ มัทเธอุส, ราฟาเอล มาร์เกซ รวมถึงน่าจะมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกคน) แล้วมันจะเป็นครั้งสุดท้ายของดาวเตะวัย 35 อย่าง ลิโอเนล เมสซี่

 

โดยไม่ปล่อยให้กะเก็งกันเอาเอง เมสซี่ ให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีอาร์เจนติน่า ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ฟุตบอลโลก 2022 คือบทสรุปของเขากับ เวิลด์ คัพ (อาจมีไปต่ออีกนิดกับทีมชาติ แต่จะไม่อยู่ถึงบอลโลก 2026 แน่) “นี่จะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของผม อย่างแน่นอน ผมตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว”

 

“ผมกำลังนับถอยหลังเพื่อถึงวันที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในแง่หนึ่ง ผมแทบรอไม่ไหวให้มันมาถึง แต่เวลาเดียวกัน ผมก็ปรารถนาอย่างแรงกล้าให้ อาร์เจนติน่า มีทัวร์นาเมนต์ที่ดี”

 

หลายฝ่ายมองว่า อาร์เจนติน่า มีโอกาสดีสำหรับการขึ้นบัลลังก์แชมป์อีกสมัยที่กาตาร์ เมื่อ ลิโอเนล สคาโลนี่ กำลังทำทีมแล่นฉิว เป็นอันดับ 2 ของสถิติโลกไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 35 นัด

 

เรื่องนี้ เมสซี่ คอมเมนต์ว่า “ผมไม่รู้หรอกว่าเราเป็นตัวเต็งคว้าแชมป์รึเปล่า แต่อาร์เจนติน่าเองก็เป็นหนึ่งในทีมที่ลุ้นแชมป์มาตลอดอยู่แล้ว เพราะประวัติศาสตร์ของเรา เพราะสิ่งที่รายการนี้มีความหมายต่อเรา ส่วนตัวผมคิดว่ายังมีบางทีมที่อยู่เหนือเราในตอนนี้ แต่เราก็ใกล้กับพวกเขามาก”

 

“เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดี มีกลุ่มนักเตะที่แข็งแกร่ง แต่ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้ในฟุตบอลโลก”

 

สำหรับซีซั่นนี้ เมสซี่ ดูกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยการยิงไป 8 ประตู แอสซิสต์อีก 8 ครั้ง จากการเล่น 13 เกมทุกรายการ ส่วนในทีมชาติก็อย่างที่ว่า — สามเกมหลังล่อไป 9 ประตู

 

“ข้อเท็จจริงคือ ใช่ ผมอยู่ในจุดที่ดีเช่นกัน ผมผ่านช่วงปรีซีซั่นอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากไม่ได้ทำแบบนี้มาในปีก่อน ด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันทำให้ผมเริ่มต้นได้ช้า และมันทำให้ขาดๆ เกินๆ ไม่ค่อยลงตัวเมื่อทัวร์นาเมนต์มาถึง แถมเมื่อผมกลับมาจากการเล่นทีมชาติ ก็บาดเจ็บเพิ่มอีกด้วย”

 

“แต่ปรีซีซั่นหนล่าสุดนี้ มันสำคัญมากที่ได้เริ่มต้นในทิศทางที่ต่างไป ผมสามารถมุ่งหน้าสู่การแข่งขันของปีนี้ได้ด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง ด้วยความคิดที่แตกต่าง และมีแรงกระตุ้นที่ดี”

 

ไม่นานเกินรอ… ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ อาร์เจนติน่า จะอยู่ร่วมสายกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์

 

เราคงได้เห็นกัน ว่าฟ้าขาวที่กำลังมาดีๆ จะก้าวไปได้ไกลขนาดไหน

 

และคนพิเศษอย่าง เมสซี่ จะปิดตำนานฟุตบอลโลกของเขาลงแบบใด

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
AS
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Daily Sabah
Barca Universal

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

เห็นเงียบๆ แต่ก็ไร้พ่ายมาเรียบสำหรับ อาร์เจนติน่า ที่ถึงตอนนี้ เข้าใกล้การทำลายสถิติโลกไปทุกขณะ และมันจะสมบูรณ์แบบสุดๆ ไปเลยหากสถิติถูกทำลายลง…พร้อมมีโทรฟี่ “แชมป์โลก” เป็นรางวัลตอบแทน

 

ทั้งที่เคยมีสุดยอดดาวเตะอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า, เคลาดิโอ คานิกเกีย, กาเบรียล บาติสตูต้า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, เฟร์นานโด เรดอนโด้, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, มาร์ติน ปาแลร์โม่, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ ซามูเอล ฯลฯ หรือล่วงเลยมาในยุค ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ฯลฯ

 

แต่จะว่า “ลุงภัพ” -แอ่แฮ่- “อาภัพ” ก็อาจได้ เมื่อ อาร์เจนติน่า มีวาสนาไปถึงบัลลังก์แชมป์โลกมาได้แค่ 2 สมัยเท่านั้น

 

ใช่ที่ “เคยไปถึงมาแล้ว” ไม่เหมือน เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส หรือบรรดาทีมในเอเชีย-แอฟริกา ที่ได้แต่ชะเง้อชะแง้แลมอง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว — เทียบกับ บราซิล (5 สมัย) เทียบกับ อิตาลี (4) หรือ เยอรมนี (4) ทุกเสียงต่างลงความเห็นว่า อาร์เจนติน่า โชคร้ายพอตัวที่ได้แชมป์โลกมาแค่ 2 ครั้ง — และมันนานมาแล้วตั้งแต่ 1978 กับ 1986

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?ถ้ายังไม่ชัดพอ ก็ต้องบอกว่าแชมป์โลกหนสุดท้ายของพวกเขา ต้องย้อนไป 36 ปีที่แล้วโน่น!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญก็คือ การต้องอกหักรักคุด พลาดท่าเสียทีในนัดชิงชนะเลิศให้กับอริต่างทวีปอย่าง เยอรมนี นั่นเอง

 

ฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี อาร์เจนติน่า ของ คาร์ลอส บิลาร์โด้ และยอดขุนพลอย่าง มาราโดน่า เข้าถึงนัดชิงดำด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าจะ “ป้องกันแชมป์” ให้จงได้ แต่ปรากฏว่า เยอรมนีตะวันตก ของ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (และยอดแข้งอย่าง โลธ่าร์ มัทเธอุส, รูดี้ โฟลเลอร์, เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, เคล้าส์ เอาเกนธาเลอร์ ฯลฯ) มาดีและแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ ตลอดเกมเป็นอินทรีเหล็กที่กดเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งก็มาได้จุดโทษเอาช่วงท้าย 5 นาทีก่อนจบ และ อันเดรียส เบรห์เม่ สังหารนำชัยให้ เยอรมนี 1-0 (โดยที่ในระหว่างเกม เปโดร มอนซอน ของอาร์เจนฯ เสียบหนักจนโดนใบแดง น.65 นับเป็นคนแรกที่โดนไล่ออกในนัดชิงบอลโลก)

 

ขึ้นไทม์แมชีนมาสู่อีก 24 ปีให้หลัง ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โชคชะตาขีดเส้นให้ อาร์เจนติน่า (คุมโดย อเลฮานโดร ซาเบย่า / มีนักเตะอย่าง เมสซี่, อิกวาอิน, มาสเคราโน่, เอเซเกล ลาเวซซี่, เซร์คิโอ อเกวโร่, มาร์กอส โรโฮ) ได้โคจรมาชิงแชมป์โลกกับ เยอรมนี (โยอัคคิม เลิฟ / มิโรสลาฟ โคลเซ่, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, โทนี่ โครส, ฟิลิปป์ ลาห์ม, มานูเอล นอยเออร์) เข้าอีกหน

 

ใครจะไปคิดว่าสกอร์จะออกซ้ำเดิม ไม่มีผิดเพี้ยน

 

90 นาทีในมาราคาน่าสิ้นสุดที่ 0-0 โดยที่ต่างฝ่ายต่างพลาดโอกาสทองที่จะขึ้นนำไปฝั่งละหนสองหน กระทั่งครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ น.113 มาริโอ เกิทเซ่ ก็สบโอกาสทะลุเข้าฝั่งซ้ายเขตโทษไปตวัดยิงผ่าน เซร์คิโอ โรเมโร่ เข้าซุกก้นตาข่าย เป็นประตูโทนที่เบิกโทรฟี่แชมป์ฟุตบอลโลกให้กับ เยอรมนี เป็นสมัยที่ 4

 

นอกจากการแพ้ เยอรมนี สองหนในนัดชิงดำแล้ว ก็เช่นกันกับการฟอร์มหลุดเอาในเกมตัดสินนัดสำคัญ–ในระบบน็อกเอาต์ของ เวิลด์ คัพ

 

ไม่นับ 2002 เวิลด์คัพฉบับเอเชีย ที่ อาร์เจนติน่า ฟอร์มหลุดถึงขั้นตกรอบแรก นอกนั้น ทีมฟ้าขาวล้วนหลุดออกจากบอลโลกในรอบน็อกเอาต์ทั้งสิ้น

 

1994 ที่สหรัฐอเมริกา ร่วงรอบ 16 ทีม แพ้ โรมาเนีย (จอร์จี้ ฮาจี้) 2-3
1998 ที่ฝรั่งเศส ร่วงรอบ 8 ทีม แพ้ เนเธอร์แลนด์ (เดนนิส เบิร์กแคมป์) 1-2
2006 ที่เยอรมนี หลุดที่ 8 ทีม แพ้ เยอรมนี (เจ้าเก่า) ในการดวลจุดโทษ 2-4
2010 ที่แอฟริกาใต้ ยังคงตก 8 ทีมซ้ำ แพ้ เยอรมนี (อีกแล้วจ้า) ขาดลอย 0-4
มาล่าสุด 2018 ที่รัสเซีย ก็หล่นเร็วแค่รอบ 16 ทีม แพ้ ฝรั่งเศส (คีลิยัน เอ็มบัปเป้) 3-4

 

กระนั้น มาคราวนี้ ท่านว่า อะไรๆ อาจต่างไปจากเดิม

 

ถึงเวลาแล้วที่ อาร์เจนติน่า จะคว้าแชมป์โลกสมัยสาม…!?!

 

ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสร้างทีมชุดแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลาของ ลิโอเนล สคาโลนี่ และการ (ว่ากันว่า) ควรถึงเวลาอันสมควรเสียทีที่สุดยอดดาวเตะจากต่างดาวอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จะผงาดบัลลังก์แชมป์โลก พาตัวเองไปถึงฝันอันสูงสุดก่อนอำลาทีมชาติ และรวมถึงบอกลาเส้นทางค้าแข้งไปในอนาคตอันใกล้ด้วย

 

สำหรับ สคาโลนี่ อันที่จริง โค้ชหนุ่มวัย 44 รายนี้ถูกปรามาสถึงฝีไม้ลายมือไว้ไม่น้อย เมื่อเขาไม่เคยได้จับงานคุมทีมสโมสรใดใดมาก่อนเลย — หากยังพอจำกันได้ นี่คือกองหลังฝีเท้าพอไปวัดไปวาได้อยู่ในยุคต้น 2000 โดยสร้างชื่อกับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า รวมถึงมีช่วงที่มาแวะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ ลาซิโอ อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะแขวนสตั๊ดเลิกเล่นกับ อตาลันต้า ในปี 2015 (นี่เองนะ) ส่วนในทีมชาติ เคยสวมชุดฟ้าขาวลงสนามแค่ 7 นัดในระหว่างปี 2003-2006

 

แต่ก็นั่นแหละ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญวาสนาท่านว่าคงลำบาก

 

จากการเป็นมือขวา ผู้ช่วยกุนซือ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่เซบีย่า สคาโลนี่ ถูกหอบหิ้วจากเจ้านายมารับงานกับทีมชาติอาร์เจนติน่าต่อในช่วงปี 2017 ซึ่งเมื่อ อาร์เจนติน่า ล้มเหลวกับฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซัมเปาลี ถูกเด้งพ้นไป สคาโลนี่ กลับยังคงได้จับงานกับทีมชาติต่อ–ในฐานะกุนซือรักษาการ ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และขึ้นคุมเดี่ยวๆ หลังจากนั้น

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?อย่างที่ว่า การนั่งเก้าอี้แบบ “ไร้ดีกรี” ทำให้ สคาโลนี่ ถูกปรามาสถึงฝีมือไว้เยอะ เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกเสียงครหาก็เงียบลง

 

สคาโลนี่ กลายเป็น “คนที่ใช่” ของ อาร์เจนติน่า ไปเสียเฉยๆ ด้วยผลงานประจักษ์ชัดตลอดหลายปีหลัง โดยเฉพาะใน โคปา อเมริกา 2021 ซึ่งทัพ “ลา อัลบิเซเลสเต้” เดินหน้าสังหารคู่แข่งแบบไม่มีแผ่ว จนนัดชิงก็ปราบเจ้าภาพ บราซิล 1-0 ด้วยประตูโทนของ อังเคล ดิ มาเรีย ฉลองแชมป์ทวีปอเมริกาใต้กลางมาราคาน่า

 

ไปถึงเส้นชัย โคปา อเมริกา และยังต่อเนื่องด้วยรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ที่ อาร์เจนติน่า ก้าวเท้าได้อย่างเข้มแข็ง อาจไม่ได้หวือหวายิงกระจายเหมือน บราซิล แต่เรื่อยๆ มาเรียงๆ และไร้พ่าย เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 การันตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย

 

จากแมตช์สู่แมตช์ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนมาวันนี้ อาร์เจนติน่า ของ สคาโลนี่ กลายเป็นเบอร์ 2 “สถิติโลก” ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 35 นัด นับรวม 2 เกมลับแข้งล่าสุดในเดือนนี้ ที่ฟ้าขาวผ่าน ฮอนดูรัส กับ จาไมก้า ด้วยสกอร์เดียวกัน 3-0

 

สถิติไร้พ่าย 35 นัดของอาร์เจนติน่า
1. ชนะ ชิลี 2-1 / โคปา อเมริกา 2019
2. เสมอ ชิลี 0-0 / กระชับมิตร
3. ชนะ เม็กซิโก 4-0 / กระชับมิตร
4. เสมอ เยอรมนี 2-2 / กระชับมิตร
5. ชนะ เอกวาดอร์ 6-1 / กระชับมิตร
6. ชนะ บราซิล 1-0 / กระชับมิตร
7. เสมอ อุรุกวัย 2-2 / กระชับมิตร
8. ชนะ เอกวาดอร์ 1-0 / คัดบอลโลก 2022
9. ชนะ โบลิเวีย 2-1 / คัดบอลโลก 2022
10. เสมอ ปารากวัย 1-1 / คัดบอลโลก 2022
11. ชนะ เปรู 2-0 / คัดบอลโลก 2022
12. เสมอ ชิลี 1-1 / คัดบอลโลก 2022
13. เสมอ โคลอมเบีย 2-2 / คัดบอลโลก 2022
14. เสมอ ชิลี 1-1 / โคปา อเมริกา 2021
15. ชนะ อุรุกวัย 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
16. ชนะ ปารากวัย 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
17. ชนะ โบลิเวีย 4-1 / โคปา อเมริกา 2021
18. ชนะ เอกวาดอร์ 3-0 / โคปา อเมริกา 2021
19. เสมอ โคลอมเบีย 1-1 (ชนะจุดโทษ 3-2) / โคปา อเมริกา 2021
20. ชนะ บราซิล 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
21. ชนะ เวเนซุเอล่า 3-1 / คัดบอลโลก 2022
22. ชนะ โบลิเวีย 3-0 / คัดบอลโลก 2022
23. เสมอ ปารากวัย 0-0 / คัดบอลโลก 2022
24. ชนะ อุรุกวัย 3-0 / คัดบอลโลก 2022
25. ชนะ เปรู 1-0 / คัดบอลโลก 2022
26. ชนะ อุรุกวัย 1-0 / คัดบอลโลก 2022
27. เสมอ บราซิล 0-0 / คัดบอลโลก 2022
28. ชนะ ชิลี 2-1 / คัดบอลโลก 2022
29. ชนะ โคลอมเบีย 1-0 / คัดบอลโลก 2022
30. ชนะ เวเนซุเอล่า 3-0 / คัดบอลโลก 2022
31. เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 / คัดบอลโลก 2022
32. ชนะ อิตาลี 3-0 / ชิงแชมป์ Finalissima
33. ชนะ เอสโตเนีย 5-0 / กระชับมิตร
34. ชนะ ฮอนดูรัส 3-0 / กระชับมิตร
35. ชนะ จาไมก้า 3-0 / กระชับมิตร

 

35 นัดของการไร้พ่าย ไม่ต้องสงสัยว่าเครดิตต้องเป็นของ สคาโลนี่ พร้อมๆ กันกับเสียงปรบมือที่ขุนพลฟ้าขาวทุกรายคู่ควรจะได้รับ

 

ทั้งความเหนียวแน่นหนึบของนายประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
แผงหลังที่เข้าเท่าเข้าทีมิใช่เบา ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนคู่ คริสเตียน โรเมโร่ โดยมี นาอูเอล โมลิน่า กับ นิโกลัส ตายาฟิโก้ ขนาบข้าง
แดนกลางที่แข็งโป้ก ลงตัวทั้งบู๊บุ๋น – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, โจวานี่ โล เซลโซ่
เกมรุกที่มีตัวเลือกเยอะ และพึ่งพาได้แทบทุกคน – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ฮัวกิน กอร์เรอา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมาพีคอีกครั้งในนามทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?ยิงคนเดียว 5 ประตูในเกมถลุง เอสโตเนีย 5-0
เบิ้ลสองใส่ ฮอนดูรัส ในชัยชนะ 3-0
ลงสำรองไปเบิ้ลอีกสองใส่ จาไมก้า จนชนะขาด 3-0
เท่ากับ 3 นัดหลังในการรับใช้ชาติ พ่อกดไป 9 ประตู

 

 

 

 

 

 

คำถามคือ ถ้า เมสซี่ พีคถึงขีดสุดอยู่แบบนี้ในฟุตบอลโลก 2022 อะไรจะเกิดขึ้นกันล่ะ?

 

อย่างไรก็ตาม สถิติที่ อาร์เจนติน่า ทำไว้ ยังไปไม่ถึง “สถิติโลก” ที่จารึกไว้เมื่อไม่นานนี้โดย อิตาลี ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ซึ่งทัพอัซซูร์รี่สร้างสถิติไร้พ่ายยาวนานถึง 37 นัด กินเวลาครอบคลุม ยูโร 2020 ที่พวกเขาครองแชมป์ทวีปยุโรปได้อย่างยิ่งใหญ่ (ก่อนจะตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบตกตะลึงกันทั้งบาง)

 

ทำเนียบทีมชาติไร้พ่ายยาวนานที่สุด
37 นัด (ชนะ 30 เสมอ 7) อิตาลี 2018-2021
35 (26-9) อาร์เจนติน่า 2019-2022 (ยังไปได้ต่อ)
35 (26-9) แอลจีเรีย 2018-2022
35 (32-3) สเปน 2007-2009
35 (28-7) บราซิล 1993-1996
31 (21-10) อาร์เจนติน่า 1991-1993
30 (22-8) ฝรั่งเศส 1994-1996
30 (24-6) อิตาลี 1935-1939

 

อย่างไรก็ตามซ้อนอย่างไรก็ตาม อาร์เจนติน่า ก็ขอไปต่ออีกแค่ 3 นัดเท่านั้นเพื่อทำลายสถิติ นั่นหมายถึง สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในเพียง “ไม่ทันพ้นรอบแรก” ฟุตบอลโลก 2022 ที่ อาร์เจนติน่า มีคิวต้องดวลกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์ ตามลำดับ

 

อีกทั้ง อิตาลี ยังทำเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า การทำลายสถิติเรื่องนี้ สามารถเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กันกับการผงาดแชมป์ทวีปได้ ดังนั้นถ้า อาร์เจนติน่า คิดจะเดินตามรอย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปแต่ประการใด

 

ยังเริ่มมีการมองกันแล้วว่า มันอาจเกิด “ดรีมแมตช์” ขึ้นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 ที่ Lusail Iconic Stadium

 

นั่นเพราะ อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ และชาวคณะ ฝังตัวอยู่ในกลุ่มซี หรือ “สายบน”

 

ในขณะที่ โปรตุเกส ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในกลุ่มเอช หรือ “สายล่าง”

 

หากต่างฝ่ายต่างจบที่แชมป์กลุ่ม หรือรองแชมป์กลุ่มของตัวเอง เหมือนๆ กัน (ไม่ว่าจะเป็นที่ 1 หรือ 2 ขอแค่เหมือนกัน อย่าต่าง) คู่นี้ก็จะไม่เจอกันในรอบน็อกเอาต์…จนกระทั่ง นัดชิงชนะเลิศ!

 

นั่นคือถ้า อาร์เจนติน่า ยึดแชมป์กลุ่มซี ได้ตามคาด และเวลาเดียวกัน โปรตุเกส ก็ไม่พลาดจบที่แชมป์กลุ่มเอช จากนั้นต่างฝ่ายต่างเอาชนะคู่แข่งได้ทีละรอบๆ แบบไม่มีสะดุดในเกมน็อกเอาต์

 

นัดชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ธ.ค. ก็จะเป็นการดวลกันของ อาร์เจนติน่า กับ โปรตุเกส

 

แน่นอน เมสซี่ ก็จะมาจับไม้จับมือแลกธงกับ โรนัลโด้ ที่กลางสนาม ก่อนสาดแข้งกันให้ยับในอีก 90 หรือ 120 นาที++ หลังจากนั้น (หากว่าไม่เจ็บไม่แบนกันทั้งคู่ด้วยนะ)

 

และด้วยอายุอานาม 35 ของเมสซี่ กับ 37 ของโรนัลโด้ นั่นยังหมายถึงว่า นัดชิงชนะเลิศ (ในฝัน) นี้อาจเป็น “เกมสุดท้าย” ในการรับใช้ชาติของทั้งคู่

 

เกมสุดท้าย ที่มีเดิมพันเป็นโทรฟี่แชมป์โลก

 

คลาสสิกเป็นบ้าเป็นบอ!

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
Sportingnews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Trend Detail News
Complete Sports
Twitter

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022

เบรคสุดท้าย…ก่อนฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะเผลอหรือไม่ วันเวลาก็พาเรามาถึงเบรคทีมชาติช่วงสุดท้ายท้ายสุดแล้ว ก่อนรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 จะโรมรัน

 

ในขณะที่เรากำลังตกตะลึงไปกับความร้อนแรงยิงสลุตไม่แผ่วของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์
กำลังจับตาการฟื้นคืนชีพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค เอริก เทน ฮาก
กำลังเป็นพยานการเดินด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของ เรอัล มาดริด
กำลังเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ ยูเวนตุส ของ แม็กซ์ อัลเลกรี
หรือกำลังต้องปาดเหงื่อลุ้นหนักกับเส้นทางของ เชลซี ในถ้วยบิ๊กเอียร์

 

ใครบางคนคงแอบส่ายหัว… แหม่วุ้ย ทีมชงทีมชาติช่างมาขัดจังหวะกันเสียจริง

 

แต่อย่างที่ได้เอ่ยถึงไว้ในเรื่อง “ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?” เมื่อสักสองเดือนก่อน ว่านี่คือคิวทีมชาติที่สุดแสนจะ “จำเป็น” และ “ต้องมี” แบบไม่อาจเลี่ยงหรือบอกผ่านได้ เพื่อที่จะให้บรรดา 32 ชาติสมาชิกผู้เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ได้เตรียมทีมลองของกันเป็นหนท้ายๆ มากๆ ก่อนที่ เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ จะมาถึงในอีกแค่ 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น

 

หลุดจากงวดนี้ไปจะเหลือเพียงช่วง “เตรียมทีม” ลุยรอบสุดท้ายปลายเดือน 11 (20 พ.ย. เปิดสนามบอลโลก) ประมาณไม่เกิน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น และหลายๆ ทีมก็ยังไม่ได้วางโปรแกรมลับแข้งเป็นทางการไว้ในช่วงนั้นด้วย

 

เบรคทีมชาติเดือนนี้ ชาติยุโรปหลายชาติยังต้องเคลียร์ตอนจบของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ว่าจะจบด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว ส่วน 2 ยักษ์ใหญ่อเมริกาใต้ บราซิล-อาร์เจนติน่า เดิมทีมีคิวต้องรีแมตช์กันเอง แต่ปรากฏว่า “งานล่ม” เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างแยกไปเตะเกมลับแข้งของตัวเอง — เพราะอะไร งานนี้มีคำตอบ

 

อย่างที่ว่า นี่คือโปรแกรมอย่างเป็นทางการหนสุดท้ายจริงๆ แล้วก่อน ฟุตบอลโลก 2022 จะมา ความหมายที่เชื่อมโยงต่อเนื่องก็คือ นักเตะรายไหนจะได้ไปบอลโลกแน่ๆ หรือคนไหนมีแนวโน้มหลุดโผ ได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวี ก็สามารถ “จับสังเกต” ได้เหมือนกันจากการเรียกตัวคราวนี้

 

ฉะนั้น เมื่อความสำคัญของ “เบรคทีมชาติ” กันยายน 2022 มีมากขนาดนี้ จึงสมควรสอดส่ายสายตาหากันหน่อยว่าแต่ละทีมมีคิวแบบใด สถานการณ์เป็นอย่างไร ขุมกำลังสภาพทีมมาทรงไหน แบบครบจบในตอนเดียว!

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อังกฤษ

23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อิตาลี (ซาน ซิโร่, มิลาน)

26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เยอรมนี (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนคนรักบอลบ้านเรา เหลือโปรแกรมเช็คบิล เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 3 สองนัดสุดท้าย แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “เสื่อมความหมาย” ไปพอตัว จากการที่เตะ 4 นัดแรกชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งบ๊วยของกลุ่ม

 

อังกฤษ หมดลุ้นคว้าแชมป์กลุ่มเพื่อเข้ารอบชิงแชมป์ไปเรียบร้อย ที่ยังเหลืออยู่มีแค่ต้อง “หนีบ๊วย” ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้นสู่ ลีกบี 2024/25 เท่านั้นเอง

 

ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเบรคทีมชาติงวดนี้ จึงอาจไม่ได้อยู่ที่แมตช์หรือผลลัพธ์สักเท่าไร แต่เป็นโฉมหน้าของขุมกำลังที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวไปติดธง มากกว่า

 

โฟกัสอยู่ที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่ง…ที่เอาฟอร์มไปทิ้งแถวทะเลจีนใต้มาเป็นปีๆ แล้ว

 

ซีซั่นนี้ลงตัวจริง 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้มันซะ 3 เกม (1-2 ไบรท์ตัน, 0-4 เบรนท์ฟอร์ด, 0-1 เรอัล โซเซียดัด) ตรงกันข้าม เกมไหนที่ เอริก เทน ฮาก ไม่ใช้งานกัปตันทีมวัย 29 รายนี้ ปีศาจแดงก็มีเฮมันทุกนัด!

 

ด้วยฟอร์มที่ออกทะเลแบบเห็นจัดชัดจริง ทำให้หลายฝ่ายมองว่า เซาธ์เกต ไม่ควรเรียก แม็กไกวร์ มาติดธงอีกแล้ว และควรเปิดทางให้ เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล) หรือ ไทโรน มิงส์ (วิลล่า) มากกว่า

 

แต่ก็น่าสนใจว่า เซาธ์เกต เรียกตัวนักเตะตำแหน่งกองหลังมาร่วมทีมมากถึง 12 ราย ในจำนวนนี้มีเซนเตอร์แบ็ก 6-7 รายด้วยกัน (แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เอริก ไดเออร์, คอนเนอร์ คอดี้, ฟิคาโย่ โทโมรี่, มาร์ก เกฮี รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์) ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่า แม็กไกวร์ จะได้เล่นแน่ๆ …แต่ถ้ายังได้ลงตัวจริงอีก ก็ตัวใครตัวมัน!

 

squad สิงโตชุดล่าสุดนี้ หน้าใหม่จริงๆ มีแค่ ไอแวน โทนี่ย์ ตัวจบสกอร์หลักของ เบรนท์ฟอร์ด รายเดียวที่ไม่เคยถูกเรียกตัวมาก่อน ในขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด หลุดไปเนื่องจากบาดเจ็บ

 

ส่วนที่โดนมองข้าม มีทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), เจดอน ซานโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี) และ เจสซี่ ลินการ์ด (ฟอเรสต์)

 

แน่นอนว่า 7-8 รายหลังสุดนี้ คงต้องใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กับสองเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก จะได้ไปแอ่วกาตาร์หรือไม่ ล้วนแต่อยู่ในข่าย “ต้องลุ้นหนัก”

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ฝรั่งเศส
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ออสเตรีย (สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เดนมาร์ก (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

แชมป์โลก 2 สมัย ตราไก่ ฝรั่งเศส ตกที่นั่งเดียวกับสิงโตคำราม อังกฤษ ไม่ผิดเพี้ยน จากการเสมอ 2 แพ้ 2 ในสี่เกมแรก หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว เหลือแค่เตะหนีบ๊วย ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้น

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผู้ซึ่งกุมบังเหียนตราไก่มาครบ 10 ปีเต็มไปเรียบร้อย (130 นัด ชนะ 83 มี 2 โทรฟี่แชมป์) ขาดขาประจำที่มีอาการบาดเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง ปอล ป๊อกบา, อูโก้ โยริส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, เตโอ กับ ลูคัส เอร์นันเดซ, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, อิบราฮิมา โกนาเต้, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, คิงสลี่ย์ โกม็อง และ คาริม เบนเซม่า

 

เพียงแต่ตัวที่ยังอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่ฝีเท้าไม่ธรรมดาทั้งสิ้น นำขบวนโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมัน เดมเบเล่ ยุคกลับมาแจ้งเกิดใหม่, จอมเก๋า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์, คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู, ราฟาแอล วาราน, ชูลส์ คุนเด้ ฯลฯ

 

จุดน่าสนใจอยู่ที่แดนกลาง เป็นหน้าใหม่แทบทั้งแผง ตัวเลขห้อยท้ายคือจำนวนการติดทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (เรอัล มาดริด) 12
มัตเตโอ เก็นดูซี่ (มาร์กเซย) 6
จอร์แดน เวเรตูต์ (มาร์กเซย) 5
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (เรอัล มาดริด) 3
ยุสซูฟ โฟฟาน่า (โมนาโก) 0

 

ด้านพวกที่หลุดเนื่องด้วยการพิจารณาของ เดส์ชองส์ และอยู่ในความเสี่ยงจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก ประกอบด้วย วิสซาม เบน เยแดร์ (เซบีย่า), เกลม็องต์ ลองเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม) หรือแม้แต่ มาร์กซิยาล (แมนฯ ยูไนเต็ด) ถ้ายังออดๆ แอดๆ อยู่แบบนี้ บอลโลกก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022สเปน
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สวิตเซอร์แลนด์ (ลา โรมาเรด้า, ซาราโกซ่า)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปรตุเกส (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

ต้องชิงแชมป์กลุ่ม 2 ลีกเอ กับทาง โปรตุเกส แต่เกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็สำคัญกับทัพ กระทิงดุ สเปน ไม่แพ้กัน เนื่องจากถ้าชนะสวิสส์ได้ จะต้องการเพียงผลเสมอเท่านั้นในเกมกับทีมฝอยทอง (แต่ก็ห้ามแพ้แหละ)

 

หลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนทีมอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว นอกเหนือตัวที่บาดเจ็บ (ลาป๊อร์กต์, ติอาโก้, โอยาร์ซาบัล) แล้ว ที่หลุดโผไปอย่าง อันซู ฟาติ, โรดริโก้ โมเรโน่, ดานี่ โอลโม่, เซร์จี้ โรเบร์โต้, มาร์กอส อลอนโซ่ หรือ เซร์คิโอ เรกีลอน ล้วนเหมือนมี “คำเตือน” แปะหน้าว่าต้องรีบเร่งเค้นฟอร์มโดยด่วน ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกเป็นแน่

 

แต่ที่น่าจะ “พลาดบอลโลก” ค่อนข้างแน่–อย่างน่าประหลาดใจ ดูเหมือนจะมีแน่ๆ แล้ว หนึ่งราย นั่นคือ ดาบิด เด เคอา

 

แม้จะมาตรฐานสูงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด (สลับกับออกลูกเหวอเป็นพักๆ) แต่ช่วง 2-3 ปีหลังก็ได้ลงสนามรับใช้ชาติอย่างจำกัดมาตลอด (ไม่ได้เล่นเลยในชุดตกตัดเชือก ยูโร 2020) ครั้นมาชุดนี้ก็หลุดออกมาเลย ไม่เป็นหนึ่งในสามตัวเลือกนายทวารของ หลุยส์ เอ็นริเก้ อีกแล้ว

 

คนที่ เอ็นริเก้ เลือกไปติดธง มี อูไน ซิมอน (บิลเบา), โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน) และ ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เยอรมนี
23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฮังการี (เร้ดบูลล์อารีน่า, ไลป์ซิก)
26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อังกฤษ (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

ตามหลัง ฮังการี 1 แต้ม แต่ก็ได้ลุ้นแชมป์กลุ่ม 3 ลีกเอ เต็มเหนี่ยว โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดกับ ฮังการี โดยตรงในวันศุกร์ ถ้าชนะได้จะแซงขึ้นจ่าฝูงทันที ก่อนเกมสุดท้าย

 

ฮันซี่ ฟลิค ที่ยังทำทีมไม่แพ้ใครสักนัดหลังผ่านไป 13 เกม (ชนะ 9 เสมอ 4) แทบไม่ได้เปลี่ยนทีมจากช่วงหลังๆ โดยขาดสำคัญๆ แค่ มาร์โก รอยส์ ที่บาดเจ็บ รายเดียว

 

นั่นหมายความว่า โฉมหน้าทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของ เยอรมนี ก็จะเป็นทีมประมาณนี้แหละ – นอยเออร์, สเตเก้น, ทรัปป์, รูดิเกอร์, ซูเล่, กินเทอร์, ชล็อตเตอร์เบ็ค, คิมมิช, กุนโดกัน, โกเร็ตซ์ก้า, ฮาแวร์ตซ์, มูเซียล่า, มุลเลอร์, แวร์เนอร์, ซาเน่, นาบรี้

 

ที่ยังไม่ชัวร์จะได้ไปกาตาร์ (แต่อยู่ในทีมชุดนี้นะ) อาจมีอย่างพวก ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก) หรือ อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป (เซาธ์แฮมป์ตัน) ประมาณนี้

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เนเธอร์แลนด์
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปแลนด์ (นาโรโดวี่, วอร์ซอว์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เบลเยียม (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

อีกหนึ่งทีมที่มีแฟนเยอะในบ้านเรา แต่ยังไม่เคยไปถึงแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งก็น่าเป็นห่วงเล็กๆ ว่าด้วยความที่ เนชั่นส์ ลีก ยังไม่จบ แต่รอบสุดท้ายบอลโลกมาคอยท่าแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมกลุ่มกับทีม “ต่างทวีป” ทั้งสิ้น ทั้ง เซเนกัล, เอกวาดอร์ และเจ้าภาพ กาตาร์ ก็ทำให้อาจเจอปัญหากับบอลต่างสไตล์ ไม่ค่อยรู้หน้าค่าตาแบบนี้ได้เหมือนกัน

 

สำหรับในเนชั่นส์ ลีก ทีมกังหันอยู่ในจุดที่ดีของการคว้าแชมป์กลุ่ม จากการมีแต้มเหนือ เบลเยียม 3 คะแนน (10:7) นั่นหมายถึงถ้าชนะ โปแลนด์ ได้ จะต้องการแค่ผลเสมอจากเกมส่งท้าย ปะทะปีศาจแดงแห่งยุโรป เท่านั้น

 

ส่วนขุมกำลังชุดนี้ คุณปู่ หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนทีมพอสมควรจากชุดก่อนๆ ที่หลุดไปด้วยหลายเหตุผล (เจ็บบ้าง ฟอร์มไม่เข้าตาบ้าง) มีทั้ง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ลุค เดอ ยอง, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า, ไรอัน กราเฟนเบิร์ก, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ถ้ายังคงนั่งสำรองก้นด้านกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ด้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มัทไธส์ เดอ ลิกท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ดาลี่ย์ บลินด์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เมมฟิส เดอปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, โคดี้ กัคโป ยังมีที่ทางในทีมตามเดิม เพิ่มเติมด้วย วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) อดีตดาวดับของ สเปอร์ส ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ รอยัล อันท์เวิร์ป คืนสู่ทำเนียบทีมชาติหนแรกในรอบหลายปี

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เบลเยียม
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เวลส์ (คิง โบดวง, บรัสเซลส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เนเธอร์แลนด์ (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

ปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่เวลานี้หล่นจากเบอร์ 1 มาเป็นเบอร์ 2 อันดับโลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง (เสียตำแหน่งให้บราซิล) อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทั้ง 2 เกมที่เหลือ เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มมาจาก เนเธอร์แลนด์ ให้ได้ จากการตามหลังอยู่ 3 แต้มในตอนนี้

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยังคงยึดทีมเดิมๆ เป็นแกน ชนิดหลับตาก็นึกชื่อออก ไม่ว่าจะ เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ธอร์แกน อาซาร์, ยานนิค การ์รัสโก้, ยูรี่ ตีเลอมันส์, ดรีส เมอร์เทนส์ หรือ ติโบต์ กูร์กตัวส์

 

อย่างไรก็ตาม โรเมลู ลูกากู ดาวยิงอินเตอร์ มิลาน บาดเจ็บจนไม่อยู่ในทีมชุดนี้ ในขณะที่ ดิว็อค โอริกี้ ที่เงียบฉี่กับ เอซี มิลาน หรือ คริสเตียน เบนเตเก้ ที่ไปแสวงโชคในสหรัฐฯ กับ ดี.ซี. ยูไนเต็ด แล้วนั้น ไม่ถูกเรียกตัวมาติดธง แต่กลับยังมี มิชี่ บัตชูอายี่ (28) ที่ย้ายจาก เชลซี ไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ อยู่ในทีม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022โปรตุเกส
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สาธารณรัฐเช็ก (ซิโนโบ, ปร้าก)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สเปน (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

เจ้าของแชมป์ยูโร 2016 ถูกประเมินเป็นเพียง “ม้านอกสายตา” สำหรับการคั่วแชมป์โลกที่กาตาร์ ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไปค่อนข้างเยอะของตัวชูโรงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ว่าในขณะเดียวกันยังมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ชูเอา เฟลิกซ์, ราฟาเอล เลเอา หรือ ดีโอโก้ โชต้า เป็นตัวความหวัง ก็ตาม

 

รายชื่อข้างต้น ต่างยังคงอยู่ในทีมของ แฟร์นันโด ซานโตส ทั้งหมด ส่วนที่หลุดไปมีอาทิ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง), เรนาโต้ ซานเชซ (เปแอสเช) รวมถึง ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์) ที่อายุปาไป 36 แล้ว

 

สำหรับสถานการณ์ใน เนชั่นส์ ลีก ทีมฝอยทองอยู่ในสถานะเป็นรอง สเปน จากการมีแต้มตามหลัง 1 คะแนน หมายถึงอย่างน้อยต้องชนะ สาธารณรัฐเช็ก เป็นอันดับแรก แล้วก็มีโอกาสสูงที่ยังต้อง “บังคับชนะ” สเปน ในเกมสุดท้ายอีกทีเพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เดนมาร์ก
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โครเอเชีย (มักซิเมียร์, ซาเกร็บ)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฝรั่งเศส (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

อีกหนึ่งชาติยุโรปที่ถูกมองจากหลายฝ่ายว่ามีสิทธิ์ทำเซอร์ไพรส์ ถัดจากการเข้าถึงตัดเชือกยูโร 2020, การตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นชาติที่ 3 (ถัดจาก กาตาร์ และ เยอรมนี) และการลุ้นแชมป์กลุ่ม 1 ลีกเอ อย่างเต็มตัว ด้วยมีโอกาสสูงจะทำสำเร็จ จากการที่มี 9 แต้ม นำหน้าทั้ง โครเอเชีย (7), ออสเตรีย (4) และ ฝรั่งเศส (2) ที่หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว

 

แต่แม้กระนั้น เกมเยือน โครเอเชีย ในวันพฤหัสบดี สำคัญแบบโคตรๆ เมื่อทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ไม่อาจหลุดแพ้ได้เลย หากพลาดพลั้งขึ้นมามีอันหล่นจากจ่าฝูงทันที แถมนัดสุดท้ายยังต้องเจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส อีกด้วย

 

ความเปลี่ยนแปลงในขุมกำลังของ ฮูลมันด์ มีเยอะ–ในหน้าตลาด เมื่อหลายต่อหลายแข้งคนสำคัญถึงเวลาเปลี่ยนสังกัด ไม่ว่าจะ คริสเตียน เอริคเซ่น, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, มิคเคล ดัมส์การ์ด, มาร์ติน เบรธเวท หรือ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

แต่พวกที่เอ่ยถึงทั้งหมดต่างยังคงอยู่เป็นแกนของทีมโคนมตามปกติ ที่หลุดไปไม่โดนเรียกมีอาทิ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น, ปิโอเน่ ซิสโต้, โมฮาเหม็ด ดารามี่

 

ส่วนทาง อันเดรียส คอร์เนเลียส, โรเบิร์ต สคอฟ, โยนาส วินด์, คริสเตียน นอร์การ์ด บาดเจ็บทั้งหมด

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022บราซิล
23/09 อุ่นเครื่องพบ กาน่า (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ตูนิเซีย (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)

 

ที่จริงแล้ว ฟีฟ่า ได้สั่งให้ บราซิล มาลงเตะรีแมตช์กับ อาร์เจนติน่า (เกมเจ้าปัญหาเมื่อ 5 ก.ย. 2021 คู่นี้ลงสนามกันแค่ 5 นาทีก็โดนแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบราซิล จนลุกลามบานปลายเป็นการวอล์คเอาต์ของแข้งฟ้าขาว และเกมต้องยกเลิกในที่สุด) ในเบรคทีมชาติงวดนี้ แต่ปรากฏว่าทั้ง บราซิล และ อาร์เจนติน่า ได้ปฏิเสธการลงเล่นเกมนี้ซ้ำ เมื่อต่างก็มองไม่เห็นว่าการรีแมตช์จะเกิดประโยชน์อันใด สู้ปล่อยให้แยกกันไปเล่นเกมลับแข้ง เตรียมทีมสู้ศึกบอลโลก จะเป็นเรื่องดีกับทั้งสองมากกว่า

 

ตีเต้ ที่ถูไม้ถูมือจะนำทีมครองแชมป์โลกให้ได้ในรอบ 20 ปี กำลังมีตัวเลือกนักเตะดีๆ ล้นมือ จนทำให้ต้องหมางเมินหลายๆ คนไป ไม่ว่าจะ กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อาร์ตูร์ เมโล่, เฟลิเป้ มอนเตโร่, ดานี่ อัลเวส แต่กลุ่มนี้ก็ยังอยู่ในข่ายพิจารณาไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ (หรือบางคนก็จะได้ไปแน่ๆ แต่แค่ว่า “ได้พัก” สำหรับเดือนนี้เท่านั้นเอง)

 

ประเด็นของทีมชุดล่าสุดนี้ คงมีประมาณ 2 ข้อ
1) แนวรุก ต่อให้ไม่นับ เปโดร ตัวใหม่จากฟลาเมงโก้ ก็ยังยืนเบียดไหล่ชนไหล่ ใครจะลงใครจะนั่ง เป็นเรื่องปวดหัวของ ตีเต้ ดีแท้
เนย์มาร์ (เปแอสเช) 119 นัด / 74 ประตู
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล) 55 / 17
ริชาร์ลิซอน (สเปอร์ส) 36 / 14
วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) 14 / 1
ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า) 9 / 3
อันโตนี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 9 / 2
มาเตอุส คุนญ่า (แอตฯ มาดริด) 7 / 0
โรดรีโก้ โกเอส (เรอัล มาดริด) 5 / 1

 

กับ 2) ทั้งที่ตัวเลือกมีบานเบอะ ตรงกลาง เฟร็ด ก็ยังอุตส่าห์จะติดอยู่อีก!

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อาร์เจนติน่า
23/09 อุ่นเครื่องพบ ฮอนดูรัส (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)
27/09 อุ่นเครื่องพบ จาไมก้า (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)

 

เช่นเดียวกันกับ บราซิล ที่เกมรีแมตช์ “ซูเปอร์กลาซิโก้” ระหว่างคู่รักคู่แค้นแดนละติน ได้ถูกยกเลิกคิวไปแม้ ฟีฟ่า จะสั่งการมา

 

อาร์เจนติน่า วางโปรแกรมเล่นในเบรคทีมชาติงวดนี้เอาไว้ 2 นัด เป็นการยกพลไปเก็บตัวและลงสนามที่สหรัฐอเมริกา โดยจะเล่นที่ ไมอามี่ ฟลอริด้า และ แฮร์ริสัน นิว เจอร์ซี่ย์ ตามลำดับ

 

ทีมฟ้าขาวตั้งใจเรียก 2 ทีมจากคอนคาเคฟอย่าง ฮอนดูรัส และ จาไมก้า มาทดสอบฝีเท้าลองเชิง ก่อนที่ในรอบสุดท้ายพวกเขาจะต้องดวลกับ เม็กซิโก มหาอำนาจของโซนคอนคาเคฟ ในเกมที่ 2 นั่นเอง (นอกเหนือจากการพบ ซาอุฯ และ โปแลนด์)

 

สำหรับทีมชุดนี้ของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ เช่นเดิม ร่วมด้วยซูเปอร์สตาร์ชื่อคุ้นหูอย่าง เปาโล ดีบาล่า, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย, อเลฮานโดร โกเมซ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ หรือประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

ส่วนที่หลุดออกไปมีอาทิ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), ลูคัส อลาริโอ (แฟร้งค์เฟิร์ต), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), ฮวน ฟอยธ์ (บียาร์เรอัล) ที่แน่นอนว่าพวกนี้ก็คงต้องเร่งฟอร์มในระดับสโมสรช่วงโค้งสุดท้ายกันหน่อย ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกแหงๆ

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ญี่ปุ่น
23/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ สหรัฐอเมริกา (สนามกลางที่เยอรมนี)
27/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ เอกวาดอร์ (สนามกลางที่เยอรมนี)

 

โยกมาดูทางฝั่งเอเชียกันบ้างพอกล้อมแกล้ม “ซามูไรสีน้ำเงิน” วางคิวช่วงนี้เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ กิริน ชาลเลนจ์ คัพ โดยเชิญ สหรัฐอเมริกา กับ เอกวาดอร์ มาเป็นแขก ซึ่งจะลงเล่นกันที่ ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

 

กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ปรับทัพพอสมควร เปิดที่ทางให้นักเตะจากเจลีกมาติดทีมหลายราย ส่วนตัวนอกที่เล่นในลีกยุโรป ถูกเมินไปหลายคนจนน่าอิจฉาในทรัพยากรอันเพียบพร้อม ไม่ว่าจะ ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), โค อิตาคุระ (กลัดบัค), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือ เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์)

 

แต่แม้จะเมินไปอื้อ ตัวนอกอีกหลายต่อหลายรายก็ยังคงอยู่เป็นแกนหลัก ไม่ว่าจะ 3 แข้งเซลติก เคียวโง ฟุรุฮาชิ – ไดเซน มาเอดะ – เรียว ฮาตาเตะ, ริตสึ โดอัน (ไฟรบวร์ก), ไดจิ คามาดะ (แฟร้งค์เฟิร์ต), ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก), ทาเคฟุสะ คุโบะ (โซเซียดัด), เกงกิ ฮารางูจิ (อูนิโอน), กาคุ ชิบาซากิ (เลกาเนส), วาตารุ เอนโดะ (สตุ๊ตการ์ท), ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ (อาร์เซน่อล) หรือกัปตันทีม มายะ โยชิดะ ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ ชาลเก้ ในวัย 34

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เกาหลีใต้
23/09 อุ่นเครื่องพบ คอสตาริกา (โกยัง สเตเดี้ยม, โกยัง)
27/09 อุ่นเครื่องพบ แคเมอรูน (โซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม, โซล)

 

นัด คอสตาริกา กับ แคเมอรูน มาลับแข้ง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนต้องเจอ อุรุกวัย, กาน่า และ โปรตุเกส ในรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

 

โสมขาวของกุนซือ เปาโล เบนโต้ แทบไม่เปลี่ยนทีมจากชุดก่อนๆ นำโดย ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมจากสเปอร์ส ที่เพิ่งจัดแฮตทริกใส่เลสเตอร์ และตัวลีกยุโรปเพียบ ไม่ว่า ฮวาง ฮี-ชาน (วูล์ฟส์), อี แจ-ซุง (ไมนซ์), จอง วู-ยอง (ไฟรบวร์ก), อี คัง-อิน (มายอร์ก้า), ฮวาง อุย-โจ (โอลิมเปียกอส) หรือ คิม มิน-แจ (นาโปลี)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022กาตาร์
20/09 อุ่นเครื่องพบ โครเอเชีย ยู-23 (สนามกลางที่ออสเตรีย)
23/09 อุ่นเครื่องพบ แคนาดา (สนามกลางที่ออสเตรีย)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ชิลี (สนามกลางที่ออสเตรีย)

 

ปิดท้ายที่เจ้าภาพ กาตาร์ ซึ่งเดินหน้าเตะลับแข้งแบบรัวๆ ทั้งอุ่นเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยเดือนนี้จัดไปเน้นๆ 3 นัด (เตะที่ออสเตรียทั้งหมด) ก่อนที่เดือน พ.ย. จะจัดอีก 2 นัด พบ ปานามา และ อินเดีย ก่อนรอบสุดท้ายมาถึงช่วงปลายเดือน

 

ส่วนในแง่ขุมกำลัง เฟลิกซ์ ซานเชซ กุนซือทัพ The Maroon ไม่อาจปรับเปลี่ยนอะไรได้มาก เมื่อไม่ได้มีตัวส่งออกไปเล่นลีกยุโรปอย่างใครเขา ทัพนักเตะชุดนี้ 100% เป็นตัวในลีกกาตาร์เองทั้งหมด และแข้งหน้าเดิมๆ เช่น อัลโมเอซ อาลี, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, อัคราม อาฟีฟ, อับดุลลาซิซ ฮาเต็ม, อับเดลคาริม ฮัสซัน มาตามนัดทั้งหมด

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

สรุปโปรแกรมเบรคทีมชาติเดือนกันยายน 2022

พุธ 21/09

FM เวียดนาม – สิงคโปร์ 19:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สกอตแลนด์ – ยูเครน 01:45

 

พฤหัสบดี 22/09

FM ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ 17:00
FM เวเนซุเอล่า – ไอซ์แลนด์ 23:00
UNL โครเอเชีย – เดนมาร์ก 01:45
UNL ฝรั่งเศส – ออสเตรีย 01:45
UNL เบลเยียม – เวลส์ 01:45
UNL โปแลนด์ – เนเธอร์แลนด์ 01:45
UNL คาซัคสถาน – เบลารุส 21:00
UNL ลิธัวเนีย – หมู่เกาะแฟโร 01:45
UNL ตุรเคีย – ลักเซมเบิร์ก 01:45
UNL สโลวาเกีย – อาเซอร์ไบจาน 01:45
UNL ลัตเวีย – มอลโดว่า 23:00
UNL ลิกเตนสไตน์ – อันดอร์ร่า 01:45
KC ตรินิแดดฯ – ทาจิกิสถาน 17:30
KC ไทย – มาเลเซีย 20:30

 

ศุกร์ 23/09

FM เกาหลีใต้ – คอสตาริกา 18:00
FM ญี่ปุ่น – สหรัฐอมริกา 19:25
FM อิหร่าน – อุรุกวัย 23:00
FM กาตาร์ – แคนาดา 00:00
FM ปารากวัย – ยูเออี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – เอกวาดอร์ 01:00
FM บราซิล – กาน่า 01:30
FM โมร็อกโก – ชิลี 02:00
FM แอลจีเรีย – กินี 02:00
UNL เยอรมนี – ฮังการี 01:45
UNL อิตาลี – อังกฤษ 01:45
UNL บอสเนียฯ – มอนเตเนโกร 01:45
UNL ฟินแลนด์ – โรมาเนีย 01:45
UNL จอร์เจีย – มาซิโดเนียเหนือ 23:00
UNL บัลแกเรีย – ยิบรอลตาร์ 01:45
UNL เอสโตเนีย – มอลต้า 23:00

เสาร์ 24/09

FM อาร์เจนติน่า – ฮอนดูรัส 07:00
FM แอฟริกาใต้ – เซียร์ร่า ลีโอน 20:00
FM คีร์กีสถาน – รัสเซีย 21:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – โตโก 23:00
FM โบลิเวีย – เซเนกัล 00:00
FM อินเดีย – สิงคโปร์ 19:00
FM ลาว – มัลดีฟส์ 15:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สาธารณรัฐเช็ก – โปรตุเกส 01:45

UNL สเปน – สวิตเซอร์แลนด์ 01:45
UNL อาร์เมเนีย – ยูเครน 20:00
UNL ไอซ์แลนด์ – รัสเซีย (เลื่อน)
UNL สโลวีเนีย – นอร์เวย์ 23:00
UNL สกอตแลนด์ – ไอร์แลนด์ 01:45
UNL อิสราเอล – อัลเบเนีย 01:45
UNL เซอร์เบีย – สวีเดน 01:45
UNL ไอร์แลนด์เหนือ – โคโซโว 23:00
UNL ไซปรัส – กรีซ 01:45

 

อาทิตย์ 25/09

FM โคลอมเบีย – กัวเตมาลา 06:30
FM เม็กซิโก – เปรู 08:00
FM นิวซีแลนด์ – ออสเตรเลีย 10:00
UNL ออสเตรีย – โครเอเชีย 01:45
UNL เดนมาร์ก – ฝรั่งเศส 01:45
UNL เนเธอร์แลนด์ – เบลเยียม 01:45
UNL เวลส์ – โปแลนด์ 01:45
UNL สโลวาเกีย – เบลารุส 23:00
UNL อาเซอร์ไบจาน – คาซัคสถาน 23:00
UNL หมู่เกาะแฟโร – ตุรเคีย 01:45
UNL ลักเซมเบิร์ก – ลิธัวเนีย 01:45
UNL อันดอร์ร่า – ลัตเวีย 20:00
UNL มอลโดว่า – ลิกเตนสไตน์ 20:00
KC นัดชิงที่ 3 17:30
KC นัดชิงชนะเลิศ 20:30

 

จันทร์ 26/09

UNL อังกฤษ – เยอรมนี 01:45
UNL ฮังการี – อิตาลี 01:45
UNL มอนเตเนโกร – ฟินแลนด์ 01:45
UNL โรมาเนีย – บอสเนียฯ 01:45
UNL ยิบรอลตาร์ – จอร์เจีย 01:45
UNL มาซิโดเนียเหนือ – บัลแกเรีย 01:45
UNL ซานมาริโน่ – เอสโตเนีย 01:45

 

อังคาร 27/09

FM เม็กซิโก – โคลอมเบีย 09:00
FM เกาหลีใต้ – แคเมอรูน 18:00
FM เอกวาดอร์ – ญี่ปุ่น 18:55
FM แอฟริกาใต้ – บอตสวาน่า 20:00
FM แคนาดา – อุรุกวัย 23:00
FM บาห์เรน – ปานามา 23:00
FM กาตาร์ – ชิลี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – สหรัฐอเมริกา 01:00
FM อุซเบกิสถาน – คอสตาริกา 01:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – กินี 01:00
FM บราซิล – ตูนิเซีย 01:30
FM ปารากวัย – โมร็อกโก 02:00
FM แอลจีเรีย – ไนจีเรีย 02:00
UNL โปรตุเกส – สเปน 01:45
UNL สวิตเซอร์แลนด์ – สาธารณรัฐเช็ก 01:45
UNL ไอร์แลนด์ – อาร์เมเนีย 01:45
UNL ยูเครน – สกอตแลนด์ 01:45
UNL อัลเบเนีย – ไอซ์แลนด์ 01:45
UNL รัสเซีย – อิสราเอล (เลื่อน)
UNL นอร์เวย์ – เซอร์เบีย 01:45
UNL สวีเดน – สโลวีเนีย 01:45
UNL กรีซ – ไอร์แลนด์เหนือ 01:45
UNL โคโซโว – ไซปรัส 01:45

 

พุธ 28/09

FM จาไมก้า – อาร์เจนติน่า 07:00
FM เปรู – เอล ซัลวาดอร์ 07:00
FM ฮอนดูรัส – กัวเตมาลา 08:00

หมายเหตุ – UNL ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก / FMเกมอุ่นเครื่อง / KC คิงส์คัพ

 

 

อ้างอิง
Soccerway
WIKIPEDIA
The Statesman

ภาพประกอบ
Sports Brief
Footy Headlines
Goal

ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?

ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?

ฟุตบอลกำลังเข้าสู่การเปิดซีซั่นใหม่ คำถามคือ มันจะมีช่องว่างให้ “เกมทีมชาติ” ได้สอดแทรกบ้างไหมก่อนบอลโลก