20 พฤศจิกายน 2022 ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จะเริ่มประเดิมสนามนัดแรกกันแล้ว โดยตอนนี้ก็ได้ทีมทั้ง 32 ทีมครบถ้วน วางโปรแกรม แบ่งกลุ่มกันเสร็จสรรพ ซึ่งก็มีทั้งกลุ่มแห่งความตาย และกลุ่มที่เห็นชื่อก็รู้แล้วว่าใครที่น่าจะเข้ารอบ ที่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีง่าย อย่างที่เห็นในหน้ากระดาษ ที่เราจะมาดูกันในแต่ละกลุ่มว่า มีใครกันบ้าง และแม็ตช์ไหนบ้างที่ห้ามพลาด และทีมอะไรบ้างที่ดวงซวยสุด ๆ ซึ่งจะว่ากันไปยาว ๆ จนครบทั้ง 8 กลุ่ม

ในกลุ่มบี มีอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชน ที่ทะลุไปถึงรอบสี่ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกหนล่าสุด และเป็นรองแชมป์ยูโร เป็นทีมเต็ง โดยทีมร่วมสายก็ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และเอิ่ม… อิหร่าน ที่ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องการเมืองมาพัวพันให้วุ่นวายหรือกลายเป็นสีสัน เมื่อคู่กัดทางการเมืองคู่นี้มาเจอกัน และเวลส์ที่คว้าตั๋วใบสุดท้ายของโซนยุโรปจากการเล่นเพลย์ออฟโซนเอาไว้ได้ ซึ่งทำให้กลุ่มนี้มีสีสันมากขึ้น เมื่อต้องมาเปิดศึกสายเลือดกับอังกฤษ ทำให้มีความเข้มข้นทั้งเกมฟุตบอลในสนาม และเรื่องนอกสนาม

อังกฤษคือ เต็งหนึ่งแชมป์กลุ่ม บี ที่มีโอกาสเข้ารอบลึก ๆ ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ (ภาพ: worldinsport.com)

ด้วยความสำเร็จในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย และฟุตบอลยูโร 2020 ที่ไปได้ไกลถึงอันดับที่ 4 และรองแชมป์ตามลำดับ อังกฤษคือ ตัวเก็งเต็งหนึ่งที่จะเข้ารอบต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมองมุมไหนสิงโตคำรามก็ดูเหนือกว่าเพื่อนร่วมสายทั้งสามทีม จะเรื่องชื่อชั้น, ประสบการณ์, ตัวผู้เล่น ไม่มีทีมไหนทาบพวกเขาได้และในทุกมุม เอาเป็นว่า แค่เข้ารอบเป็นที่สองของกลุ่มก็ถือว่าน่าผิดหวัง และโคตรไม่สมราคาสุด ๆ แล้ว เพราะด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา ตามแม็ตช์แข่งขัน บวกกับการเติมผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ ทีมชาติอังกฤษไม่ใช่แค่ “ไม่ควร” ทำได้ดีกว่าเดิม แต่ “ต้อง” ทำได้ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะในเรื่องของแท็กติก เกม การเล่น หรือความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ และไม่สมควรกลัวใครแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้า ที่แม้จะเข้ารอบไปได้ลึก ๆ ก็จริง แต่หากแกเร็ธ เซาธ์เกต โค้ชทีมสิงโตคำรามไม่กล้า ๆ กลัว ๆ อย่างที่เห็น ทีมชาติขวัญใจชาวไทยอาจประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็นอยู่ไปแล้วด้วยซ้ำ

อิหร่าน ทีมแกร่งของเอเชีย ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: iranpress.com)

เพราะฉะนั้นที่น่าสนใจก็คือ ใครจะตามสิงโตคำรามไปเล่นรอบน็อกเอาต์ เพราะทั้งอิหร่าน, สหรัฐอเมริกา หรือเวลส์ ถือว่าสูสีกันสุด ๆ เหลื่อมล้ำกันไม่เท่าไหร่ อิหร่านอาจดูด้อยที่สุด หากก็มีศักยภาพพอที่จะขัดขาชาวบ้านให้หกล้มได้ ถ้าเกิดเล่นดีแบบผีจับยัดขึ้นมา แต่ถ้าว่ากันเฉพาะสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ชาติมหาอำนาจทางการเมืองถือว่าดูดีกว่า โดยเฉพาะการมีผู้เล่นในลีกยุโรประดับแถวหน้า อย่าง คริสเตียน พูลิซิส ในเชลซี หรือว่าจิโอ เรย์นา ที่โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ที่ต่อให้ในระดับสโมสรพวกเขาอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นคนสำคัญของทีม แต่เมื่ออยู่ในทีมชาติ พวกเขาแทบจะเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้ อิหร่านอาจดูดีในเรื่องสถิติ เมื่อแพ้ในเกมรอบคัดเลือกแค่นัดเดียว แต่หากเทียบตัวผู้เล่นกับทีมชุดก่อน ๆ หน้าแล้ว อิหร่านเวอร์ชัน 2022 ไม่ได้เหนือกว่าเลย

เวลส์จะได้ดีใจแบบนี้ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกไหม (ภาพ: Getty Images)

ส่วนเวลส์ เต็มที่ก็เบียดได้แค่อันดับ 2 ของกลุ่ม แม้จะเป็นชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา แต่ก็อยู่ในช่วงขาลงแล้ว เมื่อดูจากอายุอานามของผู้เล่นสำคัญ ๆ โดยถ้าแกเร็ธ เบลกับผองเพื่อนทำได้เหมือนในฟุตบอลยูโรสองครั้งหลังสุด ทีมมังกรแดงก็น่าจะเบียดกับสหรัฐอเมริกาตามอังกฤษเข้ารอบสองได้สนุก ส่วนอิหร่านการจบด้วยอันดับ 3 ของกลุ่ม ก็คงถือว่าดีที่สุดแล้ว

พญาอินทรี สหรัฐอเมริกา ที่ความหวังคือ ตามอังกฤษเข้ารอบในฐานะที่ 2 ของกลุ่ม (ภาพ: edition.cnn.com)

ด้วยประวัติศาสตร์จากฟุตบอลโลก 1950 ที่สหรัฐอเมริกาสร้างเซอร์ไพรส์เขี่ยอังกฤษตกรอบ แต่กับโลกฟุตบอลยุคใหม่ การเจอกันของทั้งสองทีม ไม่ใช่นัดที่ต้องจับตาเท่ากับการเจอกันของอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ที่มีเรื่องการเมืองเข้ามาพัวพัน และการดวลของเวลส์กับอังกฤษ ที่เป็นศึกสายเลือดก็น่าจะสนุกไม่น้อย แม้ผู้เล่นและชั้นเชิงฟุตบอลจะสู้ไม่ได้ แต่เรื่องหัวใจและศักดิ์ศรีเชื่อเถอะว่า เหล่านักเตะมังกรแดงสู้กับสิงโตคำรามได้สนุกแน่ ๆ

21 พฤศจิกายน
อังกฤษ – อิหร่าน
สหรัฐอเมริกา – เวลส์

25 พฤศจิกายน
เวลส์ – อิหร่าน
อังกฤษ – สหรัฐอเมริกา

29 พฤศจิกายน
เวลส์ – อังกฤษ
อิหร่าน – สหรัฐอเมริกา

ข้อมูล: FIFA, ESPN, EUROSPORT, EURONEWS
ภาพปก: Empowertitans.com

เรื่องน่าอ่าน: กลุ่ม เอ ฟุตบอลโลก 2022 ทีมไหนจะเข้ารอบ แม็ตช์ไหนห้ามพลาด