เรื่อง

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปนัดชิงอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 : โครเอเชีย 2-1 โมร็อกโก

 

ไม่ได้ถือว่าผิดไปจากความคาดหมาย ด้วยมาตรฐานก็ดี ด้วยปัญหาที่ โมร็อกโก ต้องเผชิญเอาในช่วงท้ายของ ฟุตบอลโลก 2022 ก็ดี

 

ที่สุดแล้ว เหรียญทองแดงได้ถูกคล้องลงบนคอนักเตะโครเอเชีย และ ซลัตโก้ ดาลิช

 

และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ณ คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม คืนเสาร์ 17 ธันวาคม…

 

เกมชิงอันดับ 3 แมตช์นี้ ทั้ง ซลัตโก้ ดาลิช และ วาลิด เรกรากี แม้ต่างก็ยังต้องการชัยชนะเพื่อคว้ารางวัลปลอบใจ ให้หลังจากความพ่ายแพ้ในรอบตัดเชือก แต่ก็เลือกที่จะเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งทั้งคู่ โครเอเชีย เปิดทางให้สำรองอย่าง มิสลาฟ ออร์ซิช, มาร์โก ลิวาย่า, ลอฟโร มาเยอร์, โยซิป ซูตาโล่, โยซิป สตานิซิช ลงสนาม พร้อมปรับระบบเป็น 3-5-2

 

ด้าน โมร็อกโก สถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยนเมื่อทั้ง โรแม็ง ซาอิสส์, นาเยฟ อาแกร์ด, นูสแซร์ มาซราอุย ต่างบาดเจ็บ แต่แนวรุกยังคงเดิมที่ ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, โซฟียาน บูฟาล

 

เริ่มเกมขึ้นเพียง 9 นาที โครเอเชีย ก็ขยับนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากฟรีคิกลูกสูตร เปิดขึ้นหน้าให้ อีวาน เปริซิช โหม่งกลับเข้าตรงกลาง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล พุ่งโขกต่อเน้นๆ ส่งบอลเสียบเสาโดยที่ ยาสซีน บูนู ตามไม่ทัน ตาหมากรุกนำหน้า 1-0

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

แต่ว่าสองนาทีให้หลัง โมร็อกโก ก็ตามทวงคืนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จากฟรีคิกริมเส้นขวาเปิดเข้าใน ลอฟโร มาเยอร์ โหม่งสกัดกลายเป็นบอลทะลักกลับหลังเข้าจุดอันตราย อัชราฟ ดารี จึงสบช่องเข้าชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

จากนั้นเกมเป็นอย่างคู่คี่สูสี ผลัดกันครองบอล แต่โอกาสลุ้นสกอร์ใกล้เคียงก็มีไม่มากนัก

 

แต่ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบเสมอกัน โครเอเชีย ก็ขึ้นนำได้อีกครั้งจากการเสียบอลหน้าเขตตัวเองของ บิลัล เอล คันนุส ไปจบที่ มิสลาฟ ออร์ซิช เอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาส่งลูกกระแทกเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม โครเอเชีย นำ 2-1 เมื่อสิ้นครึ่งแรก

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

ต่อครึ่งหลัง เกมยังเป็น โครเอเชีย ที่ทำได้ดีกว่าชัด หาจังหวะเข้าทำใกล้เคียงได้ 2-3 หน แต่ยังไม่เข้าเป้าเท่าที่ควร ขณะที่เกมก็หยุดค่อนข้างบ่อยเมื่อต่างฝ่ายต่างทยอยเปลี่ยนส่งสำรองลงเป็นระยะ

 

ล่วงมาช่วงท้าย นาที 87 โครเอเชีย น่าได้เพิ่มอย่างยิ่ง มาเตโอ โควาซิช ทะลุเข้ายิงโล่งๆ ทางซ้ายเขตโทษ แต่แปหลุดเสาไกลออกไปเอง

 

เฮือกท้าย โมร็อกโก ลุยแหลกหวังทวงคืนให้ได้ จนทดเจ็บ 90+6 ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ สบโอกาสขึ้นโหม่งโล่งๆ ในกรอบหกหลา ลูกลอยไปตกเพดานตาข่ายอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้เกมจบลง โครเอเชีย ชนะ 2-1 ครองอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 และเป็นหนที่ 2 ถัดจาก 1998

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
โครเอเชีย (3-5-2) โดมินิก ลิวาโควิช – โยซิป ซูตาโล่, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, โยซิป สตานิซิช – อีวาน เปริซิช, มาเตโอ โควาซิช, ลูก้า โมดริช, ลอฟโร มาเยอร์ (มาริโอ ปาซาลิช 66), มิสลาฟ ออร์ซิช (คริสติยาน ยาคิช 90+5) – อันเดรจ์ ครามาริช (นิโกล่า วลาซิช 61), มาร์โก ลิวาย่า (บรูโน่ เพ็ตโควิช 66)
โมร็อกโก (4-3-3) ยาสซีน บูนู – ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์, จาวัด เอล ยามิก (เซลิม อมัลลาห์ 66), อัชราฟ ดารี (บาเดอร์ เบนูน 64), อัชราฟ ฮาคิมี่ – บิลัล เอล คันนุส (อัซซาดีน อูนาฮี 56), โซฟียาน อัมราบัต, อับเดลฮามิด ซาบิรี่ (อิเลียส แชร์ 46) – ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, โซฟียาน บูฟาล (อานาสส์ ซารูรี่ 64)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ยอสโก้ กวาร์ดิโอล
• ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ทำประตูในอายุ 20 ปี 328 วัน น้อยสุดของโครเอเชีย
• อีวาน เปริซิช แอสซิสต์ที่ 5 สูงสุดในบอลโลกของ โครเอเชีย พร้อมกับยิง 6 ลูก สูงสุดเช่นกัน
• มิสลาฟ ออร์ซิช เพิ่งยิงประตูที่ 2 ในการรับใช้ชาติ 27 นัด
• ลูก้า โมดริช ลงสนามครบ 90 นาทีในการเล่นทีมชาตินัดที่ 162 ซึ่งคงจะเป็นเกมฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายของชายวัย 37 อย่างเขา
• โมร็อกโก ทำคลีนชีต 4 จาก 5 เกมแรกในฟุตบอลโลก 2022 แต่สองเกมหลังเสียนัดละสองลูก จนเข้าป้ายอันดับ 4

 

ปากคำหลังเกม โครเอเชีย 2-1 โมร็อกโก
ซลัตโก้ ดาลิช : “นี่คือเหรียญทองแดงที่มีประกายสีทอง เราคว้าชัยชนะในเกมที่ยากลำบากมากได้ ดังนั้นนี่คือเหรียญรางวัลสำหรับชาวโครแอตทุกคน มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ที่เราได้เหรียญรางวัลทั้งสองครั้งในสองทัวร์นาเมนต์หลังสุด และผมก็ขอแสดงความยินดีกับลูกทีมของผมทุกคนด้วย”

 

วาลิด เรกรากี : “ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ ทุกคนสงสัยเรา แต่เรามาได้ไกลเกินความคาดหมาย แต่มันก็ยังดีไม่พอ เราจำเป็นต้องสร้างตัวอย่างเพื่ออนาคต”
“มีบางเรื่องที่กินใจผมมาก ตอนที่ผมเห็นภาพเด็กๆ เพราะฟุตบอลทำให้ผู้คนมีฝัน เราปล่อยให้เด็กๆ ฝัน เราต้องรักษาฝันให้มีชีวิต เด็กๆ ในโมร็อกโก และทั่วโลก ฝันที่จะได้แชมป์โลก และมันมีความหมายต่อผมยิ่งกว่าการชนะในเกมฟุตบอลโลกจริงๆ ซะอีก”
“เราประสบความสำเร็จอย่างวิเศษ แต่เราต้องการทำให้ได้อย่างนี้อีก หากเราผ่านเข้ารอบแปดทีม หรือรอบตัดเชือกเป็นประจำ สักวันเราก็จะได้แชมป์โลก”

โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ โครเอเชีย 2-1 โมร็อกโก
• โครเอเชีย ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 8 เสีย 7 คลีนชีต 2 ใบเหลือง 8 ใบแดง 0
• โมร็อกโก ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 2 ยิงได้ 6 เสีย 5 คลีนชีต 4 ใบเหลือง 9 ใบแดง 1
• โมร็อกโก ทำคลีนชีตสูงสุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่ 4 แมตช์ แต่ ยาสซีน บูนู คลีนชีต 3 นัด เนื่องจากเกมชนะ เบลเยียม 2-0 เป็นมือสอง มูเนียร์ โมฮาเมดี้ ลงเฝ้าเสา
• จบอันดับ 4 แต่ก็ถือเป็นผลงานสุดยอดของ โมร็อกโก อยู่ดี ที่เป็นทีมแอฟริกา/อาหรับ รายแรกที่มาถึงตรงนี้ รวมถึงเป็นผลงานดีสุดของตัวเองด้วย ถัดจากการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายปี 1986

 

• กุนซือสองฝั่ง ซลัตโก้ ดาลิช และ วาลิด เรกรากี จะยังอยู่คุมทีมต่อไปอย่างแน่นอน โดย โครเอเชีย มีภารกิจถัดไปคือ รอบคัดเลือก ยูโร 2024 และรอบชิงแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2023 ด้าน โมร็อกโก อยู่ในเส้นทางรอบคัดเลือก AFCON 2023 โดยเตะไปแล้ว 2 นัด
• ลูก้า โมดริช ยืนยันแล้วว่าจะยังคงเล่นทีมชาติจนถึงรอบชิงแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2023 กลางปีหน้า เป็นอย่างน้อย จากนั้นจะดูอีกครั้งว่าอยากไปต่อ ยูโร 2024 หรือไม่
• โครเอเชีย ถ้าไม่ตกรอบแรก ก็มาจนถึงสุดทางในฟุตบอลโลกทุกครั้งที่ผ่านมา (แยกจาก ยูโกสลาเวีย มาเข้าร่วมปี 1998)
1998 อันดับ 3
2002 ตกรอบแรก
2006 ตกรอบแรก
2014 ตกรอบแรก
2018 รองแชมป์
2022 อันดับ 3

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022
โครเอเชีย vs โมร็อกโก : ชิงอันดับ 3 รางวัลปลอบใจ ฟุตบอลโลก 2022
ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022
ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

เกมชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 โมร็อกโกจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งที่กาตาร์

เกมชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 โมร็อกโกจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งที่กาตาร์

ทำนายผลเกมนัดชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 โครเอเชีย – โมร็อกโก

วันที่ 17 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U/ PPTV/ True Sports 2

สถานการณ์ของโครเอเชีย – โมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

การเจอกันของ 2 ทีมที่อกหักมาจากรอบรองชนะเลิศ ในเกมที่เปรียบเสมือนรางวัลปลอบใจ โดยทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วในเกมรอบแรก ซึ่งเสมอกันไป 0-0 ก่อนที่จะเดินตามเส้นทางของตัวเอง มาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย โดยโครเอเชียพ่ายอาร์เจนติน่าไป 3-0 ส่วนโมร็อกโกแพ้แชมป์เก่า ฝรั่งเศส 2-0

ในรอบรองชนะเลิศทีมของซลัตโก้ ดาลิซ แพ้ให้กับความสามารถของลิโอเนล เมสซี่ ที่เอาชนะจอสโก้ กวาร์ดิโอล เซนเตอร์แบ็คตัวแกร่งที่กลายเป็นที่ต้องการของทีมใหญ่ ๆ ในยุโรปตอนนี้ ซึ่งอายุน้อยกว่าร่วม ๆ 15 ปีได้อย่างสบาย ๆ ส่งให้อาร์เจนติน่าได้เข้าชิง เมสซี่มีโอกาสปิดทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกด้วยการคว้าแชมป์ ส่วนทีมตราหมากรุกก็หมดโอกาสเข้าชิงเป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน

โครเอเชียผ่านเข้าชิงในปี 2018 และเข้ารอบรองชนะเลิศในครั้งนี้ โดยไม่เคยชนะรอบน็อคเอาต์ในเวลาปกติ แล้วพวกเขาเคยลงเล่นเกมชิงที่ 3 และคว้าชัยนะมาได้สำเร็จในฟุตบอลโลก 1998 ครั้งแรกที่โครเอเชียเข้าแข่งฟุตบอลโลก โดยเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 2-1

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

ขณะที่การขาดสัญชาตญาณนักฆ่าในแนวรุก และการขาด 3 ดาวเตะคนสำคัญ นูสซาอีร์ มาซราอุย, โรเมน ซาอิสส์ และนาเยฟ อะเกิร์ด ทำให้โมร็อกโกทำได้แค่เป็นชาติแรกจากแอฟริกาที่มาถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก (และอาจเป็นแอฟริกาชาติแรกที่คว้าอันดับ 3 หรือ 4 ของฟุตบอลโลก) โดยทีมของวาลิด เรกรากุยทำได้แค่สร้างความหวาดเสียวให้กองเชียร์ฝรั่งเศส ก่อนที่จะโดนเธโอ เอร์น็อนงเดซ เบิกประตูแรก และโคโล มูอานี่ยิงประตูปิดกล่องในช่วงท้ายเกม ดับฝันที่จะได้เข้าชิงฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก

แต่ไม่ว่าผลการแข่งขันในเกมชิงที่สามจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะกลับบ้านอย่างวีรบุรุษแน่นอน และคงจะดีไม่น้อยหากมีเหรียญทองแดงคล้องที่คอกลับไปด้วย

เช็กสถิติโครเอเชียและโมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชียและโมร็อกโกเพิ่งเจอกันหมาด ๆ ในเกมเปิดสนามของกลุ่ม เอฟ และเสมอกันไป ซึ่งทีมตราหมากรุกมีโอกาสยิงโมร็อกโกแค่ 5 ครั้ง ขณะที่ทีมจากแอฟริกาก็แสดงให้เห็นถึงการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น และรวดเร็ว ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของพวกเขาในฟุตบอลโลกหนนี้

ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้ว 2 ครั้ง และเสมอกันไปทั้งสองนัด หนแรกในวันที่ 11 ธันวาคม 1996 เกมชิงถ้วยฮัสซันที่ 2 เสมอกันไป 2-2 ก่อนที่โครเอเชียจะชนะจากการยิงลูกโทษที่จุดโทษ และล่าสุดก็คือเกมในรอบแรกของกลุ่ม เอฟ ที่เสมอกันไป 0-0

สถานการณ์ผู้เล่นของโครเอเชียและโมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะได้ที่ 3 หรือ 4 โมร็อกโก ที่ทีมในดวงใจของหลาย ๆ คน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AP Photo/Martin Meissner)

ดาลิซที่ให้สัมภาษณ์ว่า “เราต้องการนักเตะที่ฟิต เราจะไม่ส่งใครก็ตามที่ต่อให้แค่เจ็บขนตาลงเล่น” ส่งสัญญานที่แสดงว่า เกมนี้เขาจะไม่เสี่ยงส่งผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บลงสนาม

โดยอาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่คุกคามทีมตราหมากรุกมาตั้งแต่รอบรองชนะเลิศ โดยในเกมนั้น มาร์เซโลก บรอโซวิซ ถูกเปลี่ยนตัวออกตอนต้นครึ่งหลังในเกมรอบรองชนะเลิศ จากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้กองกลางจากอินเตอร์ มิลาน พลาดเกมในกัลโช่ ซีเรีย อา อยู่บ่อยครั้ง ขณะที่กวาร์ดิโอล กองหลังตัวแกร่งก็ต้องลงเล่นโดยฉีดยาระงับอาการปวดที่เท้า ทำให้โอกาสลงเล่นตกอยู่ในเครื่องหมายคำถาม ถ้าทั้งคู่ลงเล่นไม่ได้ ลอฟโร มาเจอร์ หรือคริสติจาน จาคิซ จะได้ลงแทนบรอโซวิซ และโจซิป ซูตาโล เซนเตอร์แบ็คฟอร์มดีอีกคน จะได้เล่นในตำแหน่งของกวาร์ดิโอล

ส่วนอิวาน เปริซิซ จะได้ออกสตาร์ตทางกราบซ้าย และอาจจะกลายเป็นผู้เล่นโครเอเชียที่ทำประตูในฟุตบอลโลกได้มากที่สุดในเกมนี้ โดยตอนนี้เขาครองสถิติร่วมกับดาวอร์ ซูเคอร์ ที่ 6 ประตู ขณะที่แบ็คขวา โจซิป จูราโนวิซ ซึ่งไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันศุกร์ อาจทำให้โจซิป สตานิสติซได้ลงเล่นแทน

ในเกมรอบรองชนะเลิศ โมร็อกโกเริ่มต้นด้วยข่าวดี เมื่อ 3 ผู้เล่น อะเกิร์ด, มาซราอุย และซาอิสส์ พร้อมลงเล่น แต่อาการบาดเจ็บก็เล่นงานพวกเขาไปทีละคน เริ่มจากอะเกิร์ด ที่บาดเจ็บก่อนเกมจะเริ่ม ตามด้วยซาอิสส์ ที่ลงเล่นได้แค่ 20 นาที แล้วก็โดนการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาหลังเล่นงาน ตามด้วยมาซราอุยที่ป่วยและมีปัญหาที่สะโพกอยู่แล้ว ซึ่งในเกมชิงที่ 3 ก็ยังไม่แน่ว่าเรกรากุยจะเสี่ยงส่งมาซราอุยหรืออะเกิร์ดลงเป็นตัวจริงหรือเปล่า แต่ถ้าทีมกลับมาเล่นในระบบ 4-3-3 ยาเฮีย อัตติยา อัลลาห์ และเซลิม อะมัลลาห์ น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็น 11 คนแรก โดยซาอิสส์น่าจะต้องพักต่อไป

หลังเกมพ่ายฝรั่งเศส เรกรากุยให้สัมภาษณ์ว่า “เรามีผู้เล่นบาดเจ็บมากเกินไป ถึงราว ๆ 60% หรือ 70%” ซึ่งก็คงต้องดูกันว่า โมร็อกโกมีผู้เล่นกี่คนที่ผ่านความฟิต เอาชนะอาการบาดเจ็บพร้อมลงเล่นในเกมนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของโครเอเชียและโมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิซ; จูราโนวิซ, ลอฟเร็น, ซูตาโล่, โซซ่า; มาเจอร์, โมดริซ, โควาซิซ; เปริซิซ, ครามาริซ, เปริซิซ
โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: โบโน่; ฮาคิมี่, ดารี่, เอล ยามิกว์, อัตติยาห์ อัลลาห์; อูนาฮี, อัมราบัต, อะมัลลาห์; ซีเย็ค, เอ็น-เนซีรี่, บูฟัล

ผลการแข่งขันระหว่างโครเอเชีย – โมร็อกโก คู่ชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ กัปตันทีมชาติโครเอเชีย นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

เจอกันในเกมปกติก็ยากจะคาดผลการแข่งขันอยู่แล้ว และกับเกมชิงที่ 3 ก็ต้องวัดใจกันด้วยอีกว่า ทีมไหนจะ “เอา” หรือ “ไม่เอา” แต่หากทั้งคู่ส่งผู้เล่นตัวจริงได้ครบ เอาแค่ตามที่เห็นในเกมรอบรองชนะเลิศโดยขาดไปเพียงไม่กี่คน

แนวรับโมร็อกโกแสดงให้เห็นแล้วว่า ผู้เล่นที่ส่งลงมาเล่นแทนตัวจริงนั้น ทำหน้าที่ได้ดี และกับแนวรุกของโครเอเชีย พวกเขาน่าจะเอาอยู่ และเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขากลับบ้านพร้อมอันดับ 3 ฟุตบอลโลก นอกเหนือไปจากความมุ่งมั่นที่น่าจะมีมากกว่าโครเอเชียที่นักเตะหลาย ๆ รายเป็น “รองแชมป์” ฟุตบอลโลกมาแล้ว

เกมน่าจะยิงประตูกันไม่มากนัก ผลลัพธ์น่าจะอยู่ที่ 1-0 และต่างก็มีโอกาสพอ ๆ กันที่จะคว้าชัยชนะ แต่อย่างที่บอกความมุ่งมั่น จะทำให้โมร็อกโกสร้างประวัติศาสตร์ชาติจนถึงวันสุดท้ายของตัวเองในฟุตบอลโลก 2022

เรื่องน่าอ่าน
ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ – ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

 

 

โครเอเชีย vs โมร็อกโก : ชิงอันดับ 3 รางวัลปลอบใจ ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย vs โมร็อกโก : ชิงอันดับ 3 รางวัลปลอบใจ ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงอันดับ 3 : โครเอเชีย vs โมร็อกโก
เสาร์ 17 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 2 นัด
ฮัสซัน II โทรฟี่ 1996 เสมอ 2-2
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ 0-0

 

ผลงานในฟุตบอลโลก 2022
โครเอเชีย
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ โมร็อกโก 0-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ แคนาดา 4-1
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ เบลเยียม 0-0
รอบ 16 ทีม เสมอ ญี่ปุ่น 1-1, ชนะจุดโทษ 3-1
รอบ 8 ทีม เสมอ บราซิล 1-1, ชนะจุดโทษ 4-2
รอบตัดเชือก แพ้ อาร์เจนติน่า 0-3

 

โมร็อกโก
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ โครเอเชีย 0-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เบลเยียม 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ แคนาดา 2-1
รอบ 16 ทีม เสมอ สเปน 0-0, ชนะจุดโทษ 3-0
รอบ 8 ทีม ชนะ โปรตุเกส 1-0
รอบตัดเชือก แพ้ ฝรั่งเศส 0-2

ความพร้อมก่อนเตะ
โครเอเชีย
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ โดมินิค ลิวาโควิช เป็นฮีโร่ เซฟจุดโทษ ญี่ปุ่น 3 ครั้ง จนชนะการดวลเป้า 3-1 ภายหลังเสมอ 1-1 ใน 120 นาที ไม่ต่างกันกับรอบ 8 ทีม ที่ลงเอยเสมอ บราซิล 1-1 และต้องดวลจุดโทษตัดสิน ก่อนได้ ลิวาโควิช เซฟลูกยิงของ โรดรีโก้ โกเอส กับ มาร์กินญอส ซัดชนเสาประตู จน โครเอเชีย ชนะ บราซิล 4-2

 

กระนั้นเมื่อมาถึงนัดตัดเชือก ก็ต้านความแข็งแกร่งของ อาร์เจนติน่า ไม่อยู่ แพ้ขาด 0-3 จนต้องมาชิงอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022 แทน

 

นัดนี้ ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือตาหมากรุก ไม่มีปัญหาใหญ่ ยกเว้นต้องเช็กฟิต โยซิป สตานิซิช ดาวรุ่งจากบาเยิร์น มิวนิค ที่เจ็บกล้ามเนื้อ เพียงแต่ก็เป็นสำรองในทีมชุดนี้อยู่แล้ว

 

คาดว่าด้วยการที่เกมนี้ไม่ได้สำคัญมาก ทำให้อาจปรับส่งสำรองลงบางราย เช่นข้างหน้าวาง นิโกล่า วลาซิช กับ ลอฟโร มาเยอร์ เดินเกมรุกขนาบข้าง บรูโน่ เพ็ตโควิช

 

แต่ตัวที่มีสิทธิ์ลงสนามเกมนี้เป็นการอำลาการรับใช้ชาติ อย่าง ลูก้า โมดริช (37), เดยัน ลอฟเรน (33) หรือ โดมากอย วีด้า (33) มีสิทธิ์ได้ลงตัวจริงเป็นการสั่งลา

 

โมร็อกโก
ม้ามืดตัวจริงแห่งฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมยันเสมอ สเปน 0-0 ใน 120 นาที ก่อนได้ ยาสซีน “โบโน่” บูนู เป็นฮีโร่ เซฟแล้วเซฟอีกจนชนะดวลเป้าแบบคลีนชีต 3-0 เช่นเดียวกับรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยังคงหักปากกาเซียนอีกด้ามด้วยการสยบ โปรตุเกส ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0

 

อย่างไรก็ตาม โมร็อกโก ก็ไปไม่ได้ต่อเมื่อต้องเจอแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ในรอบตัดเชือก พ่ายไป 0-2 แม้จะสู้ได้ดีก็ตาม

 

สภาพทีมของ วาลิด เรกรากี อ่วมหนักมาตั้งแต่รอบที่แล้ว และเกมนี้จะไม่มีคู่เซนเตอร์แบ็กตัวเลือกแรก กัปตันทีม โรแม็ง ซาอิสส์ กับ นาเยฟ อาแกร์ด ที่ยังเจ็บไม่หาย

 

นูสแซร์ มาซราอุย แบ็กซ้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค กับ อับเดลฮามิด ซาบิรี่ มิดฟิลด์จากซามพ์โดเรีย ก็ต้องเช็กสภาพว่าจะพร้อมหรือไม่

 

ข่าวดีมีแค่ วาลิด เชดดิร่า กองหน้าตัวสำรองจาก บารี่ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกแล้ว

 

เชื่อว่าการจัดทีมจะมีหมุนส่งตัวสดๆ บางตำแหน่งลงเช่นกัน ขณะที่การจัดเกมรับ มีสิทธิ์จะเป็น จาวัด เอล ยามิก, อัชราฟ ดารี และ ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์ ลงแทน เหลือตัวจริงแค่แบ็กขวา อัชราฟ ฮาคิมี่

 

ตัวความหวัง
โครเอเชีย : ลูก้า โมดริช
ฟิตเปรี๊ยะจนมีการแซวกันว่า นักเตะชื่อ ลูก้า โมดริช ที่จริงแล้วไม่ใช่แข้งตัวเก๋าวัย 37 แต่คือเด็กอายุ 17 ปลอมตัวมา อย่างเกมกับ บราซิล เล่นครบ 120 นาทีไม่พอ ยังเป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษ อีกทั้งก็ยังโชว์ฟอร์มเหนือชั้นในแทบทุกเกม สมกับการเป็นเจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ 2018 เป็นหัวใจสำคัญของการกำหนดจังหวะเกมช้าเร็ว การขึ้นบอลในแดนกลาง ไปจนถึงมีประโยชน์ทั้งรุกรับ แม้สถิติพังประตูในทีมชาติจะไม่ได้มากนัก 23 ลูกจาก 161 นัดก็ตาม

 

โมร็อกโก : ยาสซีน “โบโน่” บูนู
โตจาก วีดัด คาซาบลังก้า แล้วย้ายข้ามห้วยมาเข้าแคมป์ แอตเลติโก มาดริด แต่ก็ไม่อาจแทรกขึ้นชุดใหญ่ที่มี ติโบต์ กูร์กตัวส์ ขวางทางอยู่ได้ โดยอันที่จริงถือว่าจอมหนึบเชื้อสายแคนาดาวัย 31 โด่งดังอย่างเงียบๆ อยู่กับ เซบีย่า มาได้พักหนึ่งแล้ว หลังมาเล่นแบบยืมตัวปี 2019 ก่อนย้ายขาดในปีถัดมา แล้วก็สร้างชื่อระดับคว้ารางวัลนายประตูแห่งปี ลา ลีกา Zamora Trophy ติดตัวในซีซั่นก่อน ส่วนในทีมชาติ เริ่มติดธงปี 2013 เป็นต้นมา ก่อนจะเป็นมือหนึ่งในช่วง 4-5 ปีหลัง แล้วก็โครมครามสุดๆ ในฟุตบอลโลก 2022 หนนี้

 

11 ตัวจริงที่คาด
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา บาริซิช, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า – มาเตโอ โควาซิช, คริสติยัน ยาคิช, ลูก้า โมดริช – นิโกล่า วลาซิช, บรูโน่ เพ็ตโควิช, ลอฟโร มาเยอร์
โมร็อกโก (4-3-3, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์, จาวัด เอล ยามิก, อัชราฟ ดารี, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, ยาห์ย่า จาบราน – ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, อับเด เอซซัลซูลี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เพิ่งจะเจอกันมาในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022 จบเจ๊าไร้สกอร์ 0-0
• เท่ากับพบกัน 2 ครั้งในหน้าประวัติศาสตร์ กินกันไม่ลง เสมอกันทั้งหมด
• หลังจากไม่แพ้ใครมา 11 เกมซ้อน เป็นชนะ 6 เสมอ 5 โครเอเชีย ก็พ่าย อาร์เจนติน่า จนอดเข้าชิงสองสมัยซ้อน
• โครเอเชีย มีโอกาสเข้าป้ายอันดับ 3 เป็นครั้งที่สอง ถัดจาก ฟร้องซ์ 98
• หลังจากไม่แพ้ใครมา 10 เกมซ้อน แบ่งเป็นชนะ 7 เสมอ 3 โมร็อกโก ก็มาโดนทีเด็ด ฝรั่งเศส จนแพ้เป็นหนแรก รวมถึงว่า วาลิด เรกรากี ก็แพ้ครั้งแรกจากการทำทีม 9 นัดด้วย (ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้1)
• โมร็อกโก สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแอฟริกัน/อาหรับ รายแรกที่มาถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก
• และไม่ว่าจะเข้าป้ายที่อันดับ 3 หรือ 4 ก็จะเป็นผลงานดีสุดของตัวเองและทีมแอฟริกัน/อาหรับ ถัดจากการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1986
• ถ้าได้ลงสนาม ลูก้า โมดริช จะรับใช้ชาติเป็นนัดที่ 162, อีวาน เปริซิช 123, โดมากอย วีด้า 101, มาเตโอ โควาซิช 91, มาร์เซโล่ โบรโซวิช 84, เดยัน ลอฟเรน 79
• ถ้าได้ลงสนาม ยาสซีน บูนู จะเพิ่มสถิติเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 52, อัชราฟ ฮาคิมี่ 61, โซฟียาน อัมราบัต 46, ฮาคิม ซีเย็ค 50, โซฟียาน บูฟาล 39, ยุสเซฟ เอ็น-เนซิรี่ 57

 

ความน่าจะเป็น
ก็ขนาดว่า วาลิด เรกรากี ยังบอกเองว่าน่าเสียดายที่เกมเจอ ฝรั่งเศส ทีมตนมีปัญหาเรื่องขุมกำลัง การขาดหายของแข้งคนสำคัญที่ทยอยกันล้มเจ็บไป ส่งผลโดยตรงกับฟอร์มในสนามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเกมนี้ก็ไม่น่าต่างจากเดิม ความนิ่งแน่นอนเป็นของ โครเอเชีย มากกว่า และน่าจะเอาชนะไปได้ในที่สุด

 

ผลที่คาด : โครเอเชีย ชนะ 2-1

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนตัวนักเตะ นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ดาวซัลโว ใครคือตัวเก็ง

ฟุตบอลโลก 2022 กับรางวัลส่วนบุคคล

เหลือเพียง 2 นัด ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ก็จะปิดฉาก โดยสองเกมสุดท้ายก็คือ เกมชิงที่ 3 ระหว่างโครเอเชีย – โมร็อกโก กับการเจอกันของอาร์เจนติน่าและแชมป์เก่าฝรั่งเศสในวันสุดท้าย

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 คือเกมสุดท้ายในฟุตบอลโลกของลิโอเนล เมสซี่ ไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้ และจากสิ่งที่เป็นไป ดูเหมือนเมสซี่ในวัย 35 ปีน่าจะได้รางวัลที่เป็นจุดสูงสุดทางอาชีพ แต่อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสก็มีเรื่องราวของตัวเองเช่นกัน เพราะพวกเขาอาจจะเป็นแชมป์โลกรายแรก ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 หนซ้อน นับตั้งแต่บราซิลทำได้ในปี 1958 และ 1962 โดยมีซูเปอร์สตาร์คนสำคัญ คิลิอัน เอ็มบัปเป้ เป็นกำลังหลัก

นั่นคือเรื่องของรางวัลสำหรับทีม ฟุตบอลโลกยังมีรางวัลส่วนบุคคลอีกหลายรางวัล รองเท้าทองคำ, ถุงมือทองคำ และลูกฟุตบอลทองคำ ที่จะมีการมอบกันหลังเกมนัดชิงจบลง โดยทั้ง 3 รางวัลยังต้องดูกันจนถึง 2 นัดสุดท้ายว่าใครกันที่เหมาะสม

รองเท้าทองคำ – รางวัลสำหรับดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2022

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่มีลุ้นทั้งแชมป์โลก, ดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม (ภาพ: Ariel Schalit/AP)

รองเท้าทองคำเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุด ซึ่งมาถึงตอนนี้ นักเตะที่ยิงได้มากที่สุด ที่กาตาร์ก็คือ เมสซี่และเอ็มบัปเป้ ที่ทำได้คนละ 5 ประตูเท่ากัน และทั้งคู่ยังลงสนามเจอกันในนัดชิงอีกด้วย

แต่นักเตะที่มีโอกาสคว้ารางวัลนี้ ยังมีมากกว่านั้น เพราะเพื่อนร่วมทีมของทั้งคู่ จูเลียน อัลวาเรซ จากอาร์เจนติน่า และโอลิวิแยร์ ชิรูด์ ของฝรั่งเศส ต่างก็ทำประตูตามมาติด ๆ คนละ 4 ประตู โดยชิรูด์ยังกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว เมื่อยิงประตูแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิม เธียร์รี่ อองรีในฟุตบอลโลกหนนี้นี่เอง

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ มีลุ้นรางวัลสามรางวัลในฟุตบอลโลก 2018 ดาวซัลโว, นักเตะยอดเยี่ยม และแชมป์โลก (ภาพ: Official twitter handle of FIFA)

ซึ่งถ้ามีนักเตะที่ทำประตูสูงสุดมากกว่า 1 ราย เกณฑ์ที่จะนำมาใช้วัดว่าใคร จะได้รางวัลรองเท้าทองคำก็คือ การจ่ายให้เพื่อนทำประตู และถ้ายังเท่ากันอีก นักเตะที่ลงเล่นด้วยเวลาที่น้อยกว่าจะคว้ารางวัลไป ที่เมื่อดูการจ่ายให้เพื่อนทำประตู เมสซี่คือคนที่ได้เปรียบ เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงถึง 3 ประตู ขณะที่เอ็มบัปเป้จ่ายไป 2 ประตู แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเวลาในการลงสนาม เอ็มบัปเป้ได้เปรียบ เมื่อลงเล่นแค่ 477 นาที แต่เมสซี่ลงเล่นไปแล้ว 570 นาที

ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ที่ต้องวัดกันมากกว่าประตูเกิดขึ้นมาแล้ว ในฟุตบอลโลก 2010 มีคนทำประตูได้มากที่สุดถึง 4 ราย คือ โธมัส มุลเลอร์, เวสลีย์ สไนเดอร์, ดาวิด บีญ่า และดีเอโก้ ฟอร์ลัน ทุกคนทำได้ 5 ประตู แต่คนที่คว้ารองเท้าทองคำคือ มุลเลอร์ เมื่อจ่ายให้เพื่อนยิงมากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยสถิติ 3 ประตู

นอกจาก 4 ผู้เล่นจากคู่ชิงแล้ว แม้โอกาสจะไม่มากนัก แต่สองนักเตะในเกมชิงที่ 3 อันเดรจ์ ครามาริซ ของโครเอเชีย และยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ของโมร็อกโก ก็พอมีโอกาส เมื่อทำประตูตุนไว้คนละ 2 ประตู

ถุงมือทองคำ – รางวัลสำหรับผู้รักษาประตู ฟุตบอลโลก 2022

ลิวาโควิซ ฟุตบอลโลก 2022 โครเอเชีย

ลิวาโควิซ นายประตูโครเอเชีย (ภาพ: Matthew Ashton/ Getty Images)

ถุงมือทองคำเป็นรางวัลสำหรับผู้รักษาประตู ที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลก ที่มีการมอบให้ครั้งแรกในปี 1994 ซึ่งเจ้าของรางวัลนี้ในอดีต ก็คือผู้เล่นระดับตำนานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โอลิเวอร์ คาห์น, อิเกอร์ คาซิญาส, มานูเอล นอยเออร์, จิอันลุยจิ บุฟฟอน

การหาผู้ชนะรางวัลนี้จะซับซ้อนมากกว่ารองเท้าทองคำ เมื่อจะตัดสินโดยทีมเทคนิคของฟีฟ่า หรือ คณะกรรมการด้านเทคนิค ที่เรียก ๆ กัน ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้จะดูฟอร์มการเล่นของผู้เล่นอย่างเงียบ ๆ โดยคนที่ได้รางวัลก็คือ ผู้รักษาประตูที่ไปได้ไกลที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และหากเกิดการเสมอกันขึ้นมา คนที่ได้รางวัลก็คือ คนที่มีลูกเซฟประตูมากที่สุด หากยังเท่ากัน ก็ต้องไปดูเวลาในการลงเล่น ใครที่เล่นนานกว่าคือผู้ที่คว้ารางวัล

อูโก้ โญริส ฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส

อูโก้ โญริส กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และผู้รักษาประตู (ภาพ: Visionhaus/ Getty Images)

อีมี่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนติน่า), อูโก้ โญริส (ฝรั่งเศส), โดมินิก ลิวาโควิซ (โครเอเชีย) และยาสซีน โบโน (โมร็อกโก) คือผู้รักษาประตูที่ลงเล่นจนถึง 2 เกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 โดยโบโน, ลิวาโควิซ และมาร์ติเนซ ล้วนเคยคว้าชัยในเกมดวลจุดโทษอย่างน้อยก็ 1 นัด แต่โญริสก็มีเซฟมหัศจรรย์อยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่พาฝรั่งเศสมาถึงนัดสุดท้ายได้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน

ลูกฟุตบอลทองคำ – รางวัลสำหรับนักเตะยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

ลูก้า โมดริซ กัปตันทีมชาติโครเอเชีย นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 (ภาพ: Getty Images)

สำหรับนักเตะที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก รางวัลที่จะได้กลับบ้านก็คือ ลูกฟุตบอลทองคำ ที่การสรรหาก็ถือว่าซับซ้อน โดยบรรดาสมาชิกของสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกจะลงคะแนนให้กับผู้เล่น ที่คณะกรรมการด้านเทคนิคของฟีฟ่า เลือกมาให้

งานนี้คนที่ได้รางวัล มักจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากนัดชิง ซึ่งดูแล้วเมสซี่กับเอ็มบัปเป้คือ 2 ผู้เล่นที่น่าจะชิรางวัลนี้กัน และทำให้เกมนัดชิงระหว่างอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส มีการชิงรางวัลส่วนบุคคลควบคู่กันไปด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นการปิดโอกาสผู้เล่นคนอื่น ๆ เพราะ ลูก้า โมดริซและอองตวน กรีซมันน์ ต่างก็น่าจะอยู่ในข่ายได้รับการพิจารณาด้วย เช่นเดียวกับ ลิวาโควิซและอาชราฟ ฮาคิมี่ แต่ประตูที่เปิดกว้างคือบานของเมสซี่และเอ็มบัปเป้

รางวัลลูกฟุตบอลทองคำ มีการมอบให้หนแรกในปี 1982 โดยปีนั้นเปาโล รอซซี่ ดาวยิงอิตาลี ที่ได้รางวัลรองเท้าทองคำด้วยคว้าไป โดยตำนานหลายรายก็คว้ารางวัลนี้มาแล้ว เช่น ดีเอโก้ มาราโดน่า (1986), โนัลโด้ (1998) และโมดริซ (2018) กระทั่งเมสซี่ ก็เคยได้รางวัลนี้ในปี 2014 หลังพ่ายเยอรมนีในนัดชิง ที่ทำให้เกิดภาพการรับรางวัลที่ดูกระอักกระอ่วน เมื่อเขาต้องรับรางวัลด้วยสีหน้าที่ดูผิดหวัง ท่ามกลางการฉลองของนักเตะเยอรมัน ซึ่งก็คล้าย ๆ กับเมื่อครั้งที่ซีเนอดีน ซีดานคว้ารางวัลนี้ หลังถูกไล่ออกในนัดชิงปี 2006 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะแพ้ดวลจุดโทษต่ออิตาลี

โอลิเวอร์ คาห์น เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2002

โอลิเวอร์ คาห์น คือผู้รักษาประตูคนเดียว ที่ได้รับรางวัลถุงมือทองคำ และลูกฟุตบอลทองคำ (ภาพ: www.fifa.com)

คาห์น คือผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวที่เคยได้รางวัลนี้ ซึ่งต้องให้เครดิตกับฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเหลือเกินในฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งแน่นอนว่า เขาได้รับรางวัลถุงมือทองคำไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากสามรางวัลนี้แล้ว ยังมีการมอบรางวัล นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ซึ่งในฟุตบอลโลก 2018 เป็นของคิลิอัน เอ็มบัปเป้, รางวัล แฟร์เพลย์ อวอร์ด ให้กับทีม, รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน, ทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน ซึ่งจะคัดนักเตะที่เล่นได้ยอดเยี่ยมในตำแหน่งต่าง ๆ มารวมกันเป็นหนึ่งทีม, ทีมที่สร้างความบันเทิงมากที่สุดในการแข่งขัน ที่จะตกอยู่กับทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุด

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: Ariel Schalit/AP, Official twitter handle of FIFA, Matthew Ashton/ Getty Images, Getty Images, Visionhaus/Getty Images

ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ - ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

ฉากสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ตราไก่ – ฟ้าขาว เข้าชิง เส้นทางสุดท้ายของโมร็อกโก เมสซี่กับเอ็มบัปเป้ ใครจะคว้ารางวัลดาวซัลโว?

คู่ชิงที่เป็นมากกว่าคู่ชิงของฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ของเจ้าภาพ กาตาร์ ในนัดเปิดสนาม ต่อเอกวาดอร์ทีมจากอเมริกาใต้ 2-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน และฟาดแข้งกันมาอย่างต่อเนื่อง จนได้คู่ชิงชนะเลิศที่ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ทีมตราไก่ – ฝรั่งเศส แชมป์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว กับอาร์เจนติน่า – ฟ้าขาว ที่เป็นหนึ่งตัวเก็งลำดับต้น ๆ ของทัวร์นาเมนต์ ที่ยังเป็นการปะทะกันของสองดาวเตะต่างยุค ที่เล่นร่วมกันในทีมปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็ง และถูกมองว่า จะมีการส่งผ่าน ทดแทนกันในฐานะซูเปอร์สตาร์บนสนามหญ้าสีเขียว ลิโอเนล เมสซี่ กับฟุตบอลโลกที่น่าจะเป็นหนสุดท้าย และคิลิอัน เอ็มบัปเป้ เจ้าของตำแหน่งดาวรุ่งของฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

เมสซี่ แอนด์ เดอะ แก๊ง (ภาพ: zeenews.india.com)

โดยการแข่งขันนัดนี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 4 ทุ่มตรง (ตามเวลาในบ้านเรา) โดยสามารถชมการถ่ายทอดได้ทาง True4U, 7HD และ True Sports 2

ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดฟุตบอลโลก 2022 ที่หลายคนไม่ได้เดินทางมาด้วยเพราะได้รับบาดเจ็บ (ภาพ: www.pulse.ng)

ที่หากอาร์เจนติน่าของเมสซี่คว้าแชมป์ เขาจะทำได้เช่นเดียวกันตำนานนักเตะของอาร์เจนติน่า และของโลก ดีเอโก้ มาราโดน่า ทำได้ ซึ่งจะทำให้สถานภาพในการเป็น หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก (GOAT – Greatest of All Time) มั่นคงและสมค่ามากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นเอ็มบัปเป้และเพื่อนพ้องพี่น้องตราไก่ จะทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ติดต่อกัน 2 ปีซ้อนได้สำเร็จ นับตั้งแต่เปเล่และบราซิลทำเอาไว้เมื่อ 60 ปีก่อน

ก่อนเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2022 เมสซี่-อาร์เจนติน่าปะทะเอ็มบัปเป้-ฝรั่งเศส

ลิโอเนล เมสซี่ ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนติน่า

ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า (ภาพ; www.skysports.com)

หลังจบเกมรอบรองชนะเลิศทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศสจะมีเวลาพักก่อนเจอกันในนัดชิงอย่างน้อย 3 วันเต็ม ๆ และสำหรับทีมที่ได้เข้าชิงที่ 3 โครเอเชียและโมร็อกโกจะเหลือมีเวลาอย่างน้อย 2 วันเต็ม ๆ ที่แม้จะเป็นวันพัก หากก็มีเรื่องราวมากมายให้ได้เขียนถึง

เว็บไซต์ FiveThirtyEight ได้วิเคราะห์ออกมาว่า อาร์เจนติน่าเหนือกว่าแชมป์เก่าฝรั่งเศสอยู่เล็กน้อย เมื่อให้โอกาสฟ้าขาว คว้าแชมป์ 53% และตราไก่ 47%

ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองทีมต่างกำลังล่าดาวดวงที่ 3 ประดับอก โดยฝรั่งเศสเป็นเจ้าของแชมป์ในปี 1998 และ 2018 ส่วนอาร์เจนติน่า เป็นแชมป์ในปี 1978 และ 1986 โดยมีเพียงเยอรมนีกับอิตาลี และบราซิล เท่านั้นที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า โดยสองทีมจากยุโรปเป็นแชมป์ 4 สมัย ส่วนบราซิล 5 สมัย นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสหรืออาร์เจนติน่า หากคว้าแชมป์สำเร็จจะเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 2 โดยไม่ใช่เจ้าภาพหนที่สองของพวกเขา ขณะที่แชมป์ครั้งแรกของทั้งสองทีม ต่างได้มาในปีที่เป็นเจ้าภาพเหมือนกัน

อาร์เจนติน่าเคยเจอกับฝรั่งเศสมาแล้ว 4 ครั้งในฟุตบอลโลก โดยทีมฟ้าขาวเอาชนะทีมตราไก่ได้ในรอบแบ่งกลุ่มปี 1930 และ 1978 ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุด ฝรั่งเศสคว่ำอาร์เจนติน่าในรอบ 16 ทีมของฟุตบอลโลก 2018 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน และสถิติการเจอกันทั้งหมด อาร์เจนติน่าทำได้ดีกว่า ด้วยสถิติชนะ 6 แพ้ 3 เสมอ 3

คิลิอัน เอ็มบัปเป้ ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2022

จากดาวรุ่งยอดเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2018 เอ็มบัปเป้ เป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว (ภาพ: 24hoursworlds.com)

ทั้งอาร์เจนติน่าและฝรั่งเศส ต่างก็เป็นทีมที่มีสตาร์ดังล้นทีม แต่แน่นอนว่าสายตาทุกคู่ย่อมจับจ้องไปที่ เมสซี่และเอ็มบัปเป้ ที่นอกจากเป็นเพื่อนร่วมสโมสรปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็งแล้ว ยังนำดาวซัลโวในฟุตบอลโลกหนนี้ร่วมกัน หลังต่างยิงกันไปแล้วคนละ 5 ประตู

โดยก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกันที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ อันดับ 1 และ 2 ในฟุตบอลโลก แต่ถ้าเกมนัดชิงจบลงด้วยการที่ทั้งเมสซี่และเอ็มบัปเป้ยังคงยิงประตูเท่ากัน การตัดสินจะไปอยู่ที่การจ่ายให้เพื่อนทำประตู หากยังเสมอกันอีก ก็จะดูเวลาในการลงสนาม ที่ใครได้ลงเล่นน้อยกว่า จะคว้ารางวัลไป

แต่ที่แน่ ๆ การลงสนามในนัดชิงของเมสซี่ วัย 35 ปี จะทำให้เขาแซงโลธ่าร์ มัตเธอุส ของทีมชาติเยอรมนี เป็นนักเตะชายที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุด ด้วยจำนวน 26 นัด ขณะที่การยิงประตูโครเอเชียในรอบรองชนะเลิศของเมสซี่ ก็ทำให้เขาแซงแกเบรียล บาติสตูต้า เป็นผู้เล่นอาร์เจนติน่า ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกมากที่สุด สำหรับทีมชาย ด้วยจำนวน 11 ประตู ส่วนตำนานอย่างมาราโดน่า ทำเอาไว้ 8 ประตู

เอ็มบัปเป้เองก็มีโอกาสเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์โลกได้ 2 สมัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจสำหรับดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ โดยเจ้าของสถิติเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยด้วยอายุน้อยที่สุดคือ เปเล่ ด้วยวัย 22 ปี

โมร็อกโก คือหนึ่งในความประทับใจของฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะได้ที่ 3 หรือ 4 โมร็อกโก ที่ทีมในดวงใจของหลาย ๆ คน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AP Photo/Martin Meissner)

กับเกมชิงที่ 3 ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง นักเตะโมร็อกโกชุดนี้ก็ได้จารึกชื่อของพวกเขาในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเอาไว้เรียบร้อย ในฐานะทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ นอกจากนี้สิงโตจากเทือกเขาแอตลาสยังเป็นทีมอาหรับทีมแรก ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกอีกด้วย

หลังเอาชนะทีมเต็ง เบลเยี่ยม, กระทิงดุ – สเปน และโปรตุเกส โมร็อกโกแสดงให้เห็นว่า ทีมที่อยู่นอกทวีปขาประจำ ยุโรปและอเมริกาใต้ ก็สามารถเข้ารอบลึก ๆ ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับนี้ได้ แม้เส้นทางของพวกเขาจะลงด้วยการชิงที่ 3 หลังพ่ายฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้ว

วาลิด เรกรากีย์ โค้ชของโมร็อกโก มาถึงกาตาร์พร้อมกับนักเตะที่มีความโดดเด่นอย่างมากในระดับสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ฮาคิม ชีเย็คจากเชลซี หรือ อาชราฟ ฮาคิมี่ จากแปเอสเช ขณะที่กองกลางจากฟิออเรนติน่า ซอฟิยาน อัมราบัต และอองเฌร์ – อัซซาดีน อูนาฮี แจ้งเกิดได้เต็ม ๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้ และน่าจะได้ย้ายไปอยู่ทีมที่ใหญ่กว่าเดิมในอนาคต

หลังเสียประตูไปตั้งแต่ต้นเกม จากการยิงของเธโอ เอร์น็องเดซ โมร็อกโกก็ทำให้ทีมแชมป์โลกมีเสียวอยู่เป็นระยะ ๆ จนกระทั่ง โคโล มูอานี่ มายิงประตูปิดกล่องส่งทีมตราไก่เข้าชิงเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน การกลับบ้านหนนี้ของโมร็อกโก นักเตะและทีมงานทุกคนคือวีรบุรุษ แม้พวกเขาจะไม่ได้ลงสนามในวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ก็ตามที และถึงเกมกับโครเอเชียอาจจะเป็นเหมือนเกมปลอบใจ แต่ก็เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้พวกเขาปิดฟุตบอลโลก 2022 ของตัวเอง ด้วยสถิติที่สวยงาม และฉายแสงออกมาเป็นครั้งสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: www.skysports.com, 24hoursworlds.com

เรื่องน่าอ่าน
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

บทสรุปรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก

 

เมื่อปาฏิหาริย์ไม่ได้มีขายตามร้านสะดวกซื้อ ม้ามืดอย่าง โมร็อกโก (ที่สู้สุดใจในรอบที่ผ่านๆ มา จนเสียขุนพลเดี้ยงกันไปทีละรายๆ) แม้จะมาแรงแค่ไหน ก็ไม่ไหวเหมือนกันเมื่อต้องเจอ “ของจริง” เข้าในเกมตัดเชือก

 

อันที่จริง โมร็อกโก ก็ทำได้ดีไม่น้อยในการต่อกรเปิดหน้าแลกหมัดต่อหมัดกับแชมป์เก่า

 

แต่เมื่อทีเด็ดทีขาดขึ้นกับฝั่ง ฝรั่งเศส ฝ่ายเดียว

 

“ดรีมแมตช์” อย่าง ฝรั่งเศส v อาร์เจนติน่า จึงเกิดขึ้นในท้ายที่สุด…

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

กับเกมตัดสินอยู่หรือไป จะได้ชิงแชมป์หรือชิงเหรียญทองแดง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ อัล เบย์ท สเตเดี้ยม กลางดึกคืนพุธ 14 ธ.ค. การจัดทีมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เจอปัญหาอย่างที่มีรายงานปูดมา เมื่อทั้ง ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ป่วยไข้ไม่พร้อมเล่นเกมนี้ ทำให้ต้องปรับส่ง อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ ยุสซูฟ โฟฟาน่า เสียบตำแหน่งแทนตามลำดับ

 

แต่นอกนั้นคงเดิม แนวรุกให้ อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สนับสนุนหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

ฟาก วาลิด เรกรากี หายใจโล่งอกเฮือกใหญ่ ได้ทั้ง โรแม็ง ซาอิสส์ กับ นูสแซร์ มาซราอุย ผ่านความฟิตคืนสนามในเกมรับพร้อมกัน พร้อมกับเลือกปรับระบบการเล่นเป็นครั้งแรกของทัวร์นาเมนต์ จาก 4-3-3 ไปใช้ 5-4-1 ตั้งรับเต็มกำลัง ถ่าง ฮาคิม ซีเย็ค กับ โซฟียาน บูฟาล ออกเล่นตัวริมเส้นแดนกลาง ทิ้งหอกเป้า ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ค้ำไว้ข้างหน้ารายเดียว

 

กระนั้นในราย นาเยฟ อาแกร์ด ที่ตอนแรกมีชื่อในไลน์อัพ กลับเจ็บซ้ำตอนวอร์ม ทำให้สุดท้ายต้องเป็น อัชราฟ ดารี ลงไปเล่นแทน

 

เริ่มเกมไปเพียง 5 นาที ฝรั่งเศส ก็ได้เฮทันทีจากการจบหนแรกของเกม อองตวน กรีซมันน์ ถ่ายลูกให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดสองจังหวะไปแฉลบกองหลังเด้งขึ้นหน้า กลายเป็นเข้าทางแบ็กซ้าย เตโอ เอร์นันเดซ เติมขึ้นมาลอยตัววอลเลย์ผ่าน ยาสซีน บูนู เข้าไปอย่างยอดเยี่ยม เป็น 1-0 ของตราไก่อย่างรวดเร็ว

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

ห้านาทีให้หลังเป็นโอกาสของ โมร็อกโก ที่ต้องเปิดเกมสู้บ้าง อัซเซดีน อูนาฮี ซัดเปรี้ยงระยะไกลส่งบอลเข้าหาเสาสอง ไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส ที่กระโดดปัดไว้ได้สวยๆ

 

สกอร์ที่มาเร็วทำให้เกมเปิดแลกกันตั้งแต่ต้น นาที 16 ฮาคิม ซีเย็ค ทะลุเข้าไปส่องทางขวาออกไปเองแบบไร้กดดัน ฝรั่งเศส ตั้งเกมสวนขึ้นมาจบที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หลุดเข้าส่องเน้นๆ ทางฝั่งซ้าย บอลพุ่งแรงกระแทกเสาแรกอย่างจัง พลาดโอกาสฉีกสกอร์หนีห่างอย่างน่าเสียดาย

 

ข่าวร้ายของ โมร็อกโก ยังมีต่อเนื่อง เมื่อถึงนาที 20 ปรากฏว่ากัปตันทีม โรแม็ง ซาอิสส์ ก็ส่งสัญญาณไปข้างสนามว่าฝืนเล่นต่อไม่ไหวแล้ว ต้องกะเผลกออกให้ เซลิม อมัลลาห์ ลงสำรองไปแทน

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

เกมลดความเร็วลงไปในช่วงกลางครึ่งแรก แต่ก็ยังคงเป็น ฝรั่งเศส ที่ใกล้เคียงกับการได้เม็ดสองในนาที 36 บอลยัดเข้าจุดอันตรายมาจบที่ ชิรูด์ ตวัดยิงโล่งๆ ไม่เข้าเป้า หลุดเสาแรกไปเอง

 

โมร็อกโก เกือบได้เหมือนกันในนาที 44 จากเตะมุมที่ปลิ้นมาเข้าทาง จาวัด เอล ยามิก โชว์กระโดดโอเวอร์เฮดคิกสุดงาม บอลลอยเข้าติดปลายมือ โยริส ที่เสาประตู

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

จากนั้นครึ่งแรกสิ้นสุดลงไป ฝรั่งเศส ยังไม่ได้เพิ่มมากไปกว่า 1-0 แต่ก็ถือว่าเล่นด้วยความสบายใจพอสมควร

 

ต่อครึ่งหลัง โมร็อกโก มีเปลี่ยนเพิ่ม ถอด นูสแซร์ มาซราอุย ที่ไม่สมบูรณ์ ออกไปให้ ยาห์ย่า อัตติอัต-อัลลาห์ ลงเล่นแทน

 

สิบนาทีแรกของครึ่งหลังเป็น โมร็อกโก ที่ลุยเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแล้ว ฝรั่งเศส ต้องหาโอกาสโต้กลับเป็นระยะ เพียงแต่พายุเกมบุกของทีมสิงโตแอตลาสก็ยังไม่อาจหาโอกาสจะแจ้งที่จะเปลี่ยนสกอร์ได้แต่อย่างใด

 

ถึงนาที 65 ฝรั่งเศส เปลี่ยนเกมเติมความสดแดนหน้าบ้าง ให้ มาร์คุส ตูราม ลงไปแทน ชิรูด์ ที่ไร้บทบาทในครึ่งหลัง

 

เกมเปิดแลกกันต่อเนื่องเมื่อเข้ายี่สิบนาทีท้าย โดยที่ทาง ฝรั่งเศส มีลุ้น 2-3 หนที่จะบวกสกอร์เพิ่ม แต่ไม่เฉียบคมพอ ส่วน โมร็อกโก เกมสะดุดไป และมักเสียบอลในพื้นที่สุดท้าย

 

แต่แล้วเมื่อถึงนาที 79 ฝรั่งเศส ก็ฉีกสกอร์เป็น 2-0 เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เอ็มบัปเป้ พยายามยิงฝ่าแนวรับแต่ไม่ผ่าน ทว่าก็กลายเป็นลูกแฉลบขึ้นหน้าไปเสาไกลคล้ายประตูแรก และเสร็จหอกสำรองอีกรายที่เพิ่งลงไปไม่กี่วินาที ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ วิ่งเข้าชาร์จนิ่มๆ พาตราไก่สยายปีก 2-0 กำตั๋วเข้าชิงบอลโลกไว้อยู่มือ

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

 

ท้ายเกมที่มีทดเจ็บให้ 6 นาที โมร็อกโก เกือบฮึดตีไข่แตกได้เหมือนกันตอน 90+4 จังหวะซัดของ อูนาฮี ที่แฉลบไปติดตัวคุมเส้น ชูลส์ กุนเด้ หวุดหวิด ที่สุดจึงจบที่ ฝรั่งเศส กำชัย 2-0 ลุยเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะชิงชัยกับ อาร์เจนติน่า วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.

 

ด้าน โมร็อกโก ไปชิงอันดับ 3 ปลอบใจกับ โครเอเชีย ซึ่งจะเตะกันวันเสาร์ 17 ธ.ค.

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, อิบราฮิมา โกนาเต้, ชูลส์ กุนเด้ – ยุสซูฟ โฟฟาน่า, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่ (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ 78), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คุส ตูราม 65)
โมร็อกโก (5-4-1) ยาสซีน บูนู – นูสแซร์ มาซราอุย (ยาห์ย่า อัตติอัต-อัลลาห์ 46), โรแม็ง ซาอิสส์ (เซลิม อมัลลาห์ 20, อับเด เอซซัลซูลี่ 79), อัชราฟ ดารี, จาวัด เอล ยามิก, อัชราฟ ฮาคิมี่ – โซฟียาน บูฟาล (ซากาเรีย อบูคลัล 66), อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, ฮาคิม ซีเย็ค – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ (อับเดอร์ราซัค ฮัมดัลลาห์ 66)

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

• แมนออฟเดอะแมตช์ : อองตวน กรีซมันน์
• อองตวน กรีซมันน์ ลงไปช่วยงานเกมรับ (Defensive Pressures Applied) ถึง 69 ครั้งในเกมนี้
• ฝรั่งเศส ยิงตรงกรอบ 2 ครั้งเท่านั้น เป็น 2 ประตู จากโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้ง ด้าน โมร็อกโก ยิงรวม 13 หน ตรงกรอบครั้งเดียว
• ฝรั่งเศส ไม่โดนใบเหลืองในเกมนี้ เท่ากับโดนไปแค่ 5 ใบตลอดทัวร์นาเมนต์ น้อยสุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ (แฟร์เพลย์ อังกฤษ 1 เหลือง 0 แดง)
• ฝรั่งเศส ไม่แพ้เกมฟุตบอลโลกเป็นนัดที่ 26 (ชนะ 25 เสมอ 1) หากเป็นฝ่ายขึ้นนำเมื่อสิ้นครึ่งแรก

 

• 4 จาก 5 ประตูล่าสุดในรอบตัดเชือกของ ฝรั่งเศส (คิดเป็น 80%) มาจากกองหลัง – 1998 ลิลิยอง ตูราม (2 ลูก), 2018 ซามูแอล อุมติตี้, 2022 เตโอ เอร์นันเดซ
• ประตูของ เตโอ เอร์นันเดซ เกิดขึ้นตอน 4 นาที 39 วินาที เป็นประตูเร็วที่สุดของรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ลูกยิงของ วาว่า เกมบราซิลชนะฝรั่งเศส 5-2 ปี 1958
• เตโอ เอร์นันเดซ ยิงประตูที่ 2 ในการเล่นทีมชาติ 12 นัด
• ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงประตูแรกสุด ในการเล่นทีมชาติเกมที่ 4

 

• ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ใช้เวลา 44 วินาทีในสนาม ยิงลูก 2-0 เป็นสถิติเร็วสุดอันดับ 3 ของฟุตบอลโลก (ตัวสำรองพังประตู) ถัดจาก ริชาร์ด โมราเลส (อุรุกวัย) 2002 และ เอ๊บเบ้ ซานด์ (เดนมาร์ก) 1998
• ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ มาเล่นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเป็นมวยแทน เสียบโควตาของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่เจ็บจนต้องถอนตัวไป
• เตโอ เอร์นันเดซ (25) ก็กลายมาเป็นแบ็กซ้ายตัวเลือกแรก แทนที่พี่ชาย ลูคัส เอร์นันเดซ (26) ที่เจ็บจากเกมกับ ออสเตรเลีย จนต้องถอนตัวไป
• ฝรั่งเศส และ อูโก้ โยริส เพิ่งจะทำคลีนชีตหนแรกในฟุตบอลโลก 2022

 

• โมร็อกโก ยังมีสิทธิ์คว้าอันดับ 3 ได้ถ้าชนะ โครเอเชีย วันเสาร์นี้ แต่ก็จัดเป็นทีมประวัติศาสตร์ของแอฟริกา/อาหรับ อยู่แล้ว หลังมาไกลถึงรอบตัดเชือก
• วาลิด เรกรากี เพิ่งทำทีมแพ้นัดแรกจากการเล่น 9 นัด (ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 1)
• ถัดจากการยิงตัวเองของ นาเยฟ อาแกร์ด เท่ากับ โมร็อกโก เพิ่งเสีย 2 ประตูแรกจากฝีมือของคู่แข่ง ในเกมนี้

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

ปากคำหลังเกม ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ : “มันให้ทั้งอารมณ์ตื้นตันใจและภาคภูมิใจ แน่นอนว่า นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญ แต่เราก็ยังเหลืออีกหนึ่งก้าว เราทำงานร่วมกันมานานนับเดือน ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่สุดท้ายเราก็มีความสุขกัน และบรรดานักเตะของผมต่างก็ได้รับรางวัลตอบแทนความพยายาม”
“ตั้งแต่ที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้เริ่มขึ้น เมสซี่ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผมเชื่อว่าหลังจากผ่านไป 4 ปี พวกเขาเป็นทีมที่แตกต่างออกไปจากเดิม เมื่อ 4 ปีก่อนผมได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเขา (เมสซี่) จะไปเล่นในตำแหน่งไหน และท้ายที่สุดเขาพัฒนาตัวเองให้ไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวกลางในการดวลกับพวกเรา”
“จากจุดนั้น เขาดูต่อเนื่องมากกว่าเดิมในการเล่นร่วมกับกองหน้าอีกราย และเขามีอิสระมาก เขาสัมผัสบอลหลายครั้ง เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมากจริงๆ
“เราจะทำให้แน่ใจว่าได้จำกัดขอบเขตการเล่นของเขากับการมีอิทธิพลต่อเกมให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งพวกเขาก็คงจะพยายามทำบางอย่างกับนักเตะของพวกเราเช่นกัน”

 

อองตวน กรีซมันน์ : “ในตอนที่ อาร์เจนติน่า มี เลโอ (เมสซี่) อยู่ด้วย มันเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน เราได้เห็นมาเกือบทุกๆ เกม เรารู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร นี่คือทีมที่ยากในการต่อกรอย่างมาก พวกเขาอยู่ในทรงที่ดี มันเป็นกลุ่มนักเตะที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา”
“มันจะเป็นเกมที่ไม่ง่าย พวกเขาจะมีกองเชียร์ที่คอยอยู่ข้างๆ แล้วเราจะได้รู้ว่าเราสามารถทำอะไรกันได้บ้าง”

 

เตโอ เอร์นันเดซ : “เมสซี่? เราไม่กลัวหรอก พวกเขามีทีมที่ยอดเยี่ยม แต่เราก็ยังมีเวลาเตรียมตัวอีก 2-3 วัน เกมนี้ถือเป็นเกมที่ยากของเรา โมร็อกโก มีทีมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่สุดท้ายเราชนะ และตอนนี้เราจำเป็นต้องคิดถึงนัดชิงฯ เท่านั้น เราทำงานหนักมานานร่วมเดือนเพื่อมาถึงจุดนี้ ผมเหนื่อย แต่มันก็เป็นอะไรที่งดงาม”

 

วาลิด เรกรากี : “เรามีนักเตะบาดเจ็บหลายราย บางคนซ้อมไม่ได้ บางคนต้องพลาดการลงสนาม หรือไม่ก็เจ็บระหว่างเกม แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย แต่มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว”
“เราแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของฟุตบอลโมร็อกโกแล้ว และเรามีแฟนบอลที่น่าทึ่ง เราคิดว่าเราอยู่ไม่ไกลเลยจากการที่เราสามารถต่อสู้ได้ในเกมระดับท็อป เราเล่นกันอย่างเต็มที่แล้ว มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
“เราเสีย อาแกร์ด ตอนวอร์มอัพ รวมทั้ง ซาอิสส์ และ มาซราอุย แต่มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว เราต้องจ่ายค่าตอบแทนจากการก่อความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เราทิ้งโอกาสไปในครึ่งแรก และประตูที่สองฆ่าเรา แต่มันไม่อาจพรากทุกอย่างที่เราทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้”

 

ยาสซีน บูนู : “เกมออกมาไม่ง่ายเลย เราใฝ่ฝันที่จะไปถึงชิงชนะเลิศ และเรามีความมั่นใจในการเอาชนะ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทุกๆ คนเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม ทุ่มเทความพยายามลงไปอย่างมาก”
“เรายังคงเหลือเกมให้ลงสนามอีกหนึ่งนัด ซึ่งเป็นเกมที่เราต้องเล่นอย่างเอาจริงเอาจังเหมือนกับที่แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้”
“เราแสดงให้เห็นถึงศักยภาพระดับสูงที่สามารถต่อกรกับชาติใหญ่ๆ ได้สูสี ประตูแรก (ของฝรั่งเศส) ทำให้เกมของเรายุ่งยากซับซ้อน แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงบุคลิกและมีโอกาสหลังจากเสียประตูไป หลังจากนั้น มีประตูที่สองเกิดขึ้นพร้อมกับโชคช่วยพวกเขาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรายังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม”

 

ไก่สยายปีก! อัดโมร็อกโก 2-0 ลิ่วชิงฟุตบอลโลก 2022 ปะทะฟ้าขาว

สืบเนื่องจากผลสกอร์ ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก
• ฝรั่งเศส เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 โดยเตรียมพบ อาร์เจนติน่า ที่เจอกันมาแล้วใน รัสเซีย 2018 ฝรั่งเศสชนะ 4-3 รอบ 16 ทีมสุดท้าย (คีลิยัน เอ็มบัปเป้ 2 ประตู, อองตวน กรีซมันน์ 1)
• ฝรั่งเศส เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก เป็นครั้งที่ 4 ในเพียง 7 ทัวร์นาเมนต์หลังสุด
1998 ชนะ บราซิล 3-0
2006 แพ้ดวลจุดโทษ อิตาลี 3-5
2018 ชนะ โครเอเชีย 4-2
2022 เตรียมพบ อาร์เจนติน่า
• ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เป็นกัปตันทีมชุดแชมป์โลก 1998, เป็นกุนซือชุดแชมป์โลก 2018 และยังนำทีมเข้าชิงได้อีกหน ปีนี้
• เริ่มคุมทีมปี 2012 จนถึงวันนี้ เดส์ชองส์ พาทัพตราไก่ลงสนาม 138 นัด ชนะ 89 เสมอ 27 แพ้ 22 เปอร์เซ็นต์ชนะ 64.49%

 

• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ไม่ยิงเพิ่มมา 2 เกมติด คงสถิติไว้ที่ 5 ประตูเท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่ และคู่นี้จะเผชิญหน้ากันโดยตรงในนัดชิงชนะเลิศ
• เช่นเดียวกับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่กดไปคนละ 4 ตุงเท่ากัน
• อองตวน กรีซมันน์ ยังทำ 3 แอสซิสต์ เท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่
• มีกระแสข่าวว่า เรอัล มาดริด พร้อมเปิดไฟเขียวกรณีพิเศษให้ คาริม เบนเซม่า กลับเข้าสู่แคมป์ทีมชาติฝรั่งเศส มาเป็นตัวเลือกสำรองของกองหน้าตราไก่นัดชิงชนะเลิศ หลังยอดดาวยิงวัย 34 เจ้าของบัลลง ดอร์ 2022 ฟิตกลับมาลงซ้อมกับทีมชุดขาวได้แล้ว

 

• ในการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2018 ฝรั่งเศส ผ่านทั้ง ออสเตรเลีย (2-1), เดนมาร์ก (0-0) และ อาร์เจนติน่า (4-3) ในทัวร์นาเมนต์ เหมือนครั้งนี้ที่ชนะ ออสเตรเลีย 4-1, เดนมาร์ก 2-1 และเตรียมเจอ อาร์เจนติน่า นัดชิง
• ทีมตัวจริงนัดชิงปี 2018 (4-2 โครเอเชีย) ของ ฝรั่งเศส มีทั้ง อูโก้ โยริส, ราฟาแอล วาราน, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ทั้ง 5 คนนี้ก็จะได้เล่นนัดชิงฟุตบอลโลก 2 สมัยติดต่อกัน
• ยังมี เบนชาแม็ง ปาวาร์ ลงตัวจริง 2018 แต่เป็นสำรองของทีมชุดนี้ ส่วนทาง สตีฟ ม็องด็องด้า, อัลฟงส์ อเรโอล่า และ อุสมัน เดมเบเล่ เป็นสำรองไม่ได้ใช้ของนัดชิงเมื่อ 4 ปีก่อน
• ฝรั่งเศส เป็นชาติแรกถัดจาก บราซิล 1998 ที่มีโอกาสป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ
• อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส ก็ต้องเอาชนะ อาร์เจนติน่า ให้ได้เท่านั้นในวันอาทิตย์นี้ เพื่อยืนยันการเป็นทีมแรกถัดจาก บราซิล 1962 ยุค เปเล่ ที่ป้องกันแชมป์โลกได้จริง

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

เรื่องน่าอ่าน
ฝรั่งเศส vs โมร็อกโก : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022
ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022
คาริม เบนเซม่า : บัลลงดอร์แล้วต่อยอดถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?!?
เต็ง ‘แชมป์โลก’ และความน่าจะเป็น

ตราไก่ ฝรั่งเศส จะเข้าชิง 2 ปีซ้อนหรือไม่ โมร็อกโก รอให้คำตอบในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022

ตราไก่ ฝรั่งเศส จะเข้าชิง 2 ปีซ้อนหรือไม่ โมร็อกโก รอให้คำตอบในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศส – โมร็อกโก

วันที่ 15 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง ONE31/ True Sports 2

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

ทีมแชมป์โลก ฝรั่งเศส ทีมวางในกลุ่ม ดี (ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

สถานการณ์ของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

เรียกว่าเป็นศึกสายเลือดก็ว่าได้ เมื่อฝรั่งเศสแชมป์เก่าจะต้องตัดกับโมร็อกโกอดีตชาติอาณานิคม ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ที่กว่าจะมาถึงรอบนี้ได้ ทีมของดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความขัดแย้งของผู้เล่น, ปัญหาการบาดเจ็บ รวมถึงอาถรรพ์แชมป์โลก ที่ในหลายครั้งหลังมักจะจอดแค่รอบแรก ขณะที่โมร็อกโกของโค้ช วาลิด เรกรากุย ก็กลายเป็นทีมขวัญใจมหาชนไปเรียบร้อย หลังคว้าชัยชนะแบบพลิกล็อกมาอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นทีมมหัศจรรย์ ม้ามืดตัวจริงของฟุตบอลโลกในครั้งนี้

สิงโตจากเทือกเขาแอตลาส คว่ำสเปนด้วยการดวลจุดโทษในรอบ 16 ทีม ก่อนชนะโปรตุเกสได้ 1-0 แม้จะขาดนักเตะคนสำคัญ อย่าง นาเยฟ อะเกิร์ดและนูสแซร์ มาซราอุย แต่นักเตะที่ลงเล่นแทนก็รับมือผู้เล่นฝอยทองที่เพิ่งขย่มสวิตเซอร์แลนด์มาได้ 6-1 ได้เป็นอย่างดี ส่วนทีมตราไก่ เอาชนะอังกฤษหวุดหวิด 2-1 ซึ่งต้องขอบคุณการพลาดจุดโทษในเกมของแฮร์รี่ เคนที่ทำให้เกมไม่ต้องยืดเยื้อ และความหวังในการป้องกันแชมป์ยังคงอยู่

และไม่ว่าเกมนัดนี้จะจบลงอย่างไร โมร็อกโกก้กลายเป็นตำนานของทวีปและตำนานของฟุตบอลโลกไปแล้ว เมื่อเป็นทีมจากแอฟริกาทีมแรกที่เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ แล้วกับการผ่านทีมอย่าง เบลเยี่ยม, สเปน และโปรตุเกสมาได้ พวกเขาก็ดีพอจะเป็นหนึ่งในสองทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่สำคัญพวกเขามาถึงรอบรองชนะเลิศโดยคู่แข่งยังยิงประตูพวกเขาไม่ได้เลย –

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

เช็กสถิติของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

สถิติในรอบรองชนะเลิศ 3 หนแรกของฝรั่งเศสไม่ได้สวยหรูนัก เมื่อแพ้ทุกครั้ง แต่กับ 3 หนหลัง ในปี 1998, 2006 และ 2018 พวกเขาชนะทุกครั้ง และถ้าพวกเขาไปถึงรอบชิงและคว้าแชมป์สำเร็จ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 84 ปีที่ทีมจากยุโรปป้องกันแชมป์ได้ นับตั้งแต่อิตาลีทำเอาไว้ในฟุตบอลโลก 1934 และ 1938

แม้จะผ่านมาถึงรอบสี่ทีมได้สำเร็จ แต่ฝรั่งเศสก็มีสถิติที่ไม่สวยงามอยู่อย่างหนึ่งคือ พวกเขาเสียประตูทุกนัด ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะตรงกันข้ามกับคู่แข่ง เมื่อโมร็อกโกเสียประตูไปแค่ 1 ลูก แถมเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของอะเกิร์ด ในเกมกับแคนาดา โดยเก็บคลีนชีตได้ถึง 4 เกม และในอดีตที่ผ่านมา สองทีมสุดท้ายที่เก็บคลีนชีตถึง 5 นัดในฟุตบอลโลกครั้งเดียว มี 2 ทีมคือ อิตาลี ในปี 2006 และสเปน ในปี 2010 ซึ่งทั้งคู่กลายเป็นแชมป์โลก แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เป็นทีมที่ใช้โอกาสได้อย่างฟุ่มเฟือย จากการยิงทั้งหมด 45 ครั้งในฟุตบอลโลกหนนี้ พวกเขายิงเข้ากรอบแค่ 9 ครั้ง และการเจอกับฝรั่งเศส พวกเขาต้องใช้โอกาสที่มีได้อย่างคุ้มค่า

ในอดีตทั้งสองทีมเจอกันมาทั้งหมด 5 ครั้ง ฝรั่งเศสชนะ 3 แพ้ 1 และเสมอกันไปอีก 1 ครั้ง

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะตราไก่ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ไปแล้ว นับตั้งแต่แจ้งเกิดแบบปัง ๆ ที่รัสเซีย และในฟุตบอลโลก 2022 เขาคือกองหน้าตัวหลักของเดส์ชองส์แน่ ๆ (ภาพ: Franck Fife/AFP/Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

ในเกมกับอังกฤษ ทีมตราไก่ใข้ผู้เล่นสำรองเพียงคนเดียว ซึ่งดูแล้วในเกมนี้ พวกเขาก็น่าจะยังคงใช้ผู้เล่น 11 คนแรกชุดเดิม เมื่อไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีใครที่ถูกแบน

โดยชูลส์ คุนเด้ น่าจะยึดตำแหน่งแบ็คขวาจากเบนจามิน ปาวารด์ได้เป็นการถาวร ส่วนเธโอ แอร์น็องเดซ ก็ทดแทนการขาดหายของพี่น้องร่วมสายเลือด ลูก้าส์ ที่เอ็นไขว้หน้าฉีกขาดตั้งแต่นัดเปิดสนามกับออสเตรเลียได้เรียบร้อย ขณะที่เจ้าของสถิติทำประตูให้ทีมชาติฝรั่งเศสมากที่สุด โอลิวิเยร์ ชีรูด์ มีสิทธิกลายเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ถึง 5 ประตูในฟุตบอลโลกหนเดียว หากทำประตูได้ในนัดนี้ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่เงียบ ๆ ไปในเกมกับอังกฤษ จะยังเป็น 11 คนแรก โดยทีมตราไก่ชนะทุกเกมที่เอ็มบัปเป้ลงเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 10 นัด

ขณะที่โมร็อกโกไม่ต่างไปจากสิงโตบาดเจ็บ มาซราอุยและอะเกิร์ด พลาดเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ แถมในเกมชนะทีมฝอยทอง กัปตันทีม โรเมน ซาอิสส์ เล่นได้แค่ 50 นาทีก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา แต่เขาออกมายืนยันแล้วว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อลงเล่นเกมนี้ให้ได้ โดยมาซราอุย ฟูลล์แบ็คจากบาเยิร์น มิวนิค ที่ทั้งบาดเจ็บสะโพกและมีอาการป่วย น่าจะฟื้นตัวเล่นเกมนี้ได้ ส่วนอะเกิร์ดเซนเตอร์แบ็คจากเวสต์แฮม ที่มีอาการเจ็บขาหนีบ มีรายงานว่า ต้องการลงเล่นในเกมกับโปรตุเกส แต่ฟิตไม่พอ โดยเรกรากุยหวังว่าการได้พักถึง 4 วันอาการของเขาอาจจะดีขึ้น จนพร้อมลงสนาม อย่างไรก็ตามโค้ชของโมร็อกโกก็พอจะเบาใจได้บ้าง เมื่อนักเตะที่ลงเล่นแทน อย่าง ยาห์ย่า อัตติยัต อัลลาห์ และจาวัด เอล ยามิกว์ โชว์ฟอร์มได้ดี และเป็นไปได้ว่า หนึ่งในสองคนนี้จะได้เป็นตัวจริง

ฮาคิม ชีเย็คที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับโปรตุเกส ก็น่าจะพร้อมลงเล่นในนัดนี้ แต่วาลิด เช็ดดิร่า กองหน้าสำรองที่ใช้โอกาสเปลืองเหลือเกิน จะพลาดเกมนัดนี้เพราะได้รับสองเหลืองจากเกมที่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเขาไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริงอยู่แล้ว

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ออเรเลียง ชูอาเมนี่ นักเตะตราไก่รายนี้ผ่านทีมชุดเยาวชนตราไก่มาทุกชุด กับการที่ป็อกบาและก็องเต้บาดเจ็บจนติดทีมมาไม่ได้ เขาคือกองกลางคนสำคัญในทีมของเดส์ชองส์ (ภาพ: Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของฝรั่งเศสและโมร็อกโก

ฝรั่งเศส ระบบ 4-2-3-1: โญริส; คุนเด้, วาราน, อูปาเมกาโน่, เธโอ แอร์น็องเดซ; ชูอาเมนี่, ราบิโอต์; เด็มเบเล่, กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้; ชีรูด์
โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: โบโน่; ฮาคิมี่, เอล ยามิกว์, เบนูน, อัตติยัต อัลลาห์; อูนาฮี, อัมราบัต, อมับลาห์; ซีเย็ค, เอ็น-เนซี่รี, บูฟอล

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่างฝรั่งเศสและโมร็อกโก

เรกรากุยพูดถึง ทีมของตัวเองว่า เปรียบเสมือน ร็อคกี้ บัลเบา ในหนัง Rocky และทำให้การเจอกันของโมร็อกโกกับฝรั่งเศสแชมป์เก่า ไม่ต่างไปจากการเจอกันของร็อคกี้กับอะพอลโล ครีดในหนัง ซึ่งเรกรากุยอาจจะลืมไปว่า ท้ายที่สุดของหนังภาคแรก ร็อคกี้ชนะใจผู้ชม แต่เขาแย่งแชมป์จากครีดไม่สำเร็จ

แม้จะไม่ใช่ทีมที่ถูกจับตามองตั้งแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ หากโมร็อกโกก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในสองทีมที่ลงเล่นในวันสุดท้าย จากการเล่นที่มีวินัย เกมรับที่เหนียวแน่น และทำได้ดีในเกมโต้กลับ

ส่วนฝรั่งเศสถึงจะมากาตาร์ในฐานะแชมป์เก่า แต่พวกเขาก็ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เช่นที่เป็นเมื่อ 4 ปีก่อน เพราะฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป และปัญหาผู้เล่นตัวหลักได้รับบาดเจ็บ แต่ในที่สุด ด้วยความเขี้ยวของประสบการณ์ ทำให้พวกเขาผ่านมาถึงตรงนี้ได้ โดยเฉพาะในเกมชนะอังกฤษ ที่ฝ่ายตรงข้ามเล่นได้น่าประทับใจมากกว่า แต่ดุดันไม่มากพอ ซึ่งน่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้พวกเขาเอาชนะทีมจากแอฟริกาได้ โดยเฉพาะเมื่อสิงโตอีกตัวจากเทือกเขาแอตลาส อาจจะขาดผู้เล่นคนสำคัญ หรือลงเล่นโดยไม่สมบูรณ์มากพอ ในเกมโคตรสำคัญของตัวเองเกมนี้

และท้ายที่สุดฝรั่งเศสจะเอาชนะโมร็อกโกไปได้ 1-0

เรื่องน่าอ่าน
พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน

ฝรั่งเศส vs โมร็อกโก : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs โมร็อกโก : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ : ฝรั่งเศส vs โมร็อกโก
พุธ 14 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม, อัล คอร์
ถ่ายทอดสด : One31

 

ผลการพบกัน : 11 นัด
A v B 1963 โมร็อกโก ชนะ 2-1
B v A 1966 เสมอ 2-2
เมดิเตอร์เรเนียน เกมส์ 1967 ฝรั่งเศส ชนะ 2-0
เมดิเตอร์เรเนียน เกมส์ 1975 เสมอ 1-1, ฝรั่งเศส ชนะจุดโทษ 3-1
เมดิเตอร์เรเนียน เกมส์ 1987 เสมอ 0-0
โฟร์ เนชั่นส์ 1988 ฝรั่งเศส ชนะ 2-1
Under-21 v A 1996 ฝรั่งเศส ชนะ 1-0
คิง ฮัสซัน คัพ 1998 เสมอ 2-2, ฝรั่งเศส ชนะจุดโทษ 6-5
อุ่นเครื่อง 1999 ฝรั่งเศส ชนะ 1-0
ฮัสซัน II 2000 ฝรั่งเศส ชนะ 5-1
อุ่นเครื่อง 2007 เสมอ 2-2

 

ผลงานในฟุตบอลโลก 2022
ฝรั่งเศส
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ ออสเตรเลีย 4-1
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เดนมาร์ก 2-1
รอบแบ่งกลุ่ม แพ้ ตูนิเซีย 0-1
รอบ 16 ทีม ชนะ โปแลนด์ 3-1
รอบ 8 ทีม ชนะ อังกฤษ 2-1

โมร็อกโก
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ โครเอเชีย 0-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เบลเยียม 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ แคนาดา 2-1
รอบ 16 ทีม เสมอ สเปน 0-0, ชนะจุดโทษ 3-0
รอบ 8 ทีม ชนะ โปรตุเกส 1-0

 

ความพร้อมก่อนเตะ
ฝรั่งเศส
เริ่มต้นเส้นทางป้องกันแชมป์โลกได้อย่างสวยงาม ชนะทั้ง ออสเตรเลีย และ เดนมาร์ก จนเป็นทีมแรกของฟุตบอลโลก 2022 ที่ลอยลำเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนเกมปิดกลุ่มจะส่งสำรองลงไปแพ้พลิกล็อกต่อ ตูนิเซีย 0-1 แต่ก็ยังจบที่แชมป์กลุ่มอยู่ดี

 

ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอาชนะ โปแลนด์ ไม่ยากเย็นนัก 3-1 คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดสองตุง ขึ้นนำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการยิงไป 5 ประตู ตามด้วยรอบ 8 ทีม บลุ้นระทึกหน่อย แต่ยังอร่อยมากพอจะเบียดชนะ อังกฤษ 2-1 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ สังหารชัยในเกมที่ แฮร์รี่ เคน พลาดจุดโทษสำคัญท้ายเกม

 

ก่อนหน้านี้ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ โดนปัญหาลูกทีมบาดเจ็บต่อเนื่อง ทั้ง โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า, ลูคัส เอร์นันเดซ โดยที่ 4 รายหลังต้องถอนตัวจากฟุตบอลโลก 2022 ไป

 

แต่ว่าการลงเตะ 3 เกมหลังก็ไม่มีตัวเจ็บเพิ่มแล้ว ส่วนที่เป็นประเด็นว่า คาริม เบนเซม่า ยอดดาวยิงเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2022 จะสลัดปัญหาบาดเจ็บหวนคืนทีมมาลงเล่นในรอบน็อกเอาต์ แม้ เบนเซม่า จะคืนสนามซ้อมกับ เรอัล มาดริด แล้ว แต่กระแสคืนทีมชาติก็เงียบไปแล้วเช่นกัน

 

แต่แม้จะไม่มีตัวเจ็บเพิ่ม ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่า นักเตะตราไก่หลายรายมีอาการป่วยแทรกซ้อน โดยเฉพาะ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่พลาดซ้อมเมื่อวันอังคาร และมีสิทธิ์จะเรียกฟิตไม่ทันเกมสุดสำคัญนัดนี้ ซึ่งถ้าไม่พร้อมจริงจะเป็น อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ ยุสซูฟ โฟฟาน่า เสียบตำแหน่งแทนตามลำดับ

 

ส่วนถ้าพร้อมทั้งหมด เดส์ชองส์ ก็จะยึดทีมเดิมๆ เป็นแกน ด้วยระบบ 4-2-3-1 ออเรเลียง ชูอาเมนี่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ดูแลเกมตรงกลาง แนวรุกให้ อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สนับสนุนหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

โมร็อกโก
ม้ามืดตัวจริงแห่งฟุตบอลโลก 2022 มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลกที่กาตาร์จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่การเปลี่ยนโค้ชเหมือนเลือกหวยถูกใบ โมร็อกโก เกมแรกยันเสมอ โครเอเชีย 0-0 ต่อมาพลิกล็อกชนะ เบลเยียม 2-0 ตามด้วยตบ แคนาดา 2-1 จนเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม

 

สำคัญคือในรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ยันเสมอ สเปน 0-0 ใน 120 นาที ก่อนได้ ยาสซีน “โบโน่” บูนู เป็นฮีโร่ เซฟแล้วเซฟอีกจนชนะดวลเป้าแบบคลีนชีต 3-0 เช่นเดียวกับรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยังคงหักปากกาเซียนอีกด้ามด้วยการสยบ โปรตุเกส ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0 เท่ากับ 5 เกมของฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาเสียแค่ประตูเดียว และยังมาจากการยิงตัวเองของ นาเยฟ อาแกร์ด ในเกมกับ แคนาดา ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าสภาพทีมเกมนี้ของ เรกรารี นั้น “อ่วมมากแม่” มีทั้งตัวเจ็บและตัวแบน มีสิทธิ์ขาดได้ถึง 5 คนในเกมนี้

 

เริ่มจากคู่เซนเตอร์แบ็กตัวจริง กัปตันทีม โรแม็ง ซาอิสส์ กับ นาเยฟ อาแกร์ด มีปัญหาบาดเจ็บทั้งคู่ รายแรกจาก เบซิคตัส เดี้ยงจนต้องหามออกจากเกมกับ โปรตุเกส ตอนครึ่งหลัง ส่วนรายหลังจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เจ็บจนไม่ได้เล่นตั้งแต่รอบที่แล้ว

 

ถัดมา นูสแซร์ มาซราอุย แบ็กซ้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ก็เจ็บจนพลาดรอบที่แล้วเช่นกัน เพิ่มเติมด้วย อับเดลฮามิด ซาบิรี่ มิดฟิลด์จากซามพ์โดเรีย ต้องเช็กสภาพว่าจะพร้อมหรือไม่

 

นอกจากนั้น วาลิด เชดดิร่า กองหน้าตัวสำรองจาก บารี่ ติดโทษแบนไม่อาจลงเล่นได้แน่นอน หลังโดนสองเหลืองหนึ่งแดงในเกมที่ผ่านมา

 

ประเด็นสำคัญอยู่ที่แนวรับ มีโอกาสสูงที่ เรกรากี จะต้องเปลี่ยนรวดเดียว 3 คน หากว่า ซาอิสส์ – อาแกร์ด – มาซราอุย ไม่พร้อม โดยจะเป็น จาวัด เอล ยามิก, อัชราฟ ดารี และ ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์ ลงแทน เหลือตัวจริงแค่แบ็กขวา อัชราฟ ฮาคิมี่

 

อย่างไรก็ตามแนวรุกไม่เป็นปัญหาแม้จะขาด เชดดิร่า ที่เป็นสำรอง โดยให้ ฮาคิม ซีเย็ค กับ โซฟียาน บูฟาล ขนาบข้างหอกเป้า ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ เหมือนเช่นเคย

 

ตัวความหวัง
ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
เป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ในฟุตบอลโลก 2022 แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป ซึ่งด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ถือว่าพร้อมเต็มที่แล้ว ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 64 นัด ซัด 33 ประตู และเป็นตัวเก็งเต็งหนึ่งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังกดไปแล้ว 5 เม็ด ยืนแท่นผู้นำอยู่ขณะเหลือแค่ 4 เกมสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์

 

โมร็อกโก : ยาสซีน “โบโน่” บูนู
โตจาก วีดัด คาซาบลังก้า แล้วย้ายข้ามห้วยมาเข้าแคมป์ แอตเลติโก มาดริด แต่ก็ไม่อาจแทรกขึ้นชุดใหญ่ที่มี ติโบต์ กูร์กตัวส์ ขวางทางอยู่ได้ โดยอันที่จริงถือว่าจอมหนึบเชื้อสายแคนาดาวัย 31 โด่งดังอย่างเงียบๆ อยู่กับ เซบีย่า มาได้พักหนึ่งแล้ว หลังมาเล่นแบบยืมตัวปี 2019 ก่อนย้ายขาดในปีถัดมา แล้วก็สร้างชื่อระดับคว้ารางวัลนายประตูแห่งปี ลา ลีกา Zamora Trophy ติดตัวในซีซั่นก่อน ส่วนในทีมชาติ เริ่มติดธงปี 2013 เป็นต้นมา ก่อนจะเป็นมือหนึ่งในช่วง 4-5 ปีหลัง แล้วก็โครมครามสุดๆ ในฟุตบอลโลก 2022 หนนี้

 

11 ตัวจริงที่คาด
ฝรั่งเศส (4-2-3-1, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ (อิบราฮิมา โกนาเต้), ชูลส์ กุนเด้ – อาเดรียง ราบิโอต์ (ยุสซูฟ โฟฟาน่า), ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
โมร็อกโก (4-3-3, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์, จาวัด เอล ยามิก, อัชราฟ ดารี, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์ – ฮาคิม ซีเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่, โซฟียาน บูฟาล

 

สถิติที่เกี่ยวข้องกับเกม ฝรั่งเศส ปะทะ โมร็อกโก
• โมร็อกโก เคยเป็นประเทศในอาณานิคมของ ฝรั่งเศส ช่วงปี ค.ศ. 1912 – 1956
• ความที่เป็นเมืองขึ้นของกัน ทำให้เจอกันบ่อยพอตัวในยุคโบราณ รวมพบกัน 11 นัด ฝรั่งเศสชนะใน 90 นาที 5 นัด โมร็อกโกชนะเกมเดียว
• แต่ 2 ทศวรรษหลัง พบกันหนเดียวเท่านั้น อุ่นเครื่องปี 2007 ที่ปารีส เสมอกัน 2-2
• คาริม เบนเซม่า อยู่ในเกมวันนั้น แต่ก็โชคร้ายไม่ได้เล่นฟุตบอลโลก 2022 อย่างที่ทราบ

• ฝรั่งเศส เสียประตูทุกนัดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ นัดละ 1 ลูก โดยไม่มีเกมที่ทำคลีนชีตได้เลย
• สองนัดหลัง ฝรั่งเศส กดไป 5 ประตู
• แม้ไม่อาจถือได้ว่าชนะรวด แต่เกมแพ้ ตูนิเซีย 0-1 นัดปิดรอบแรก ก็เป็นการปรับส่งทีมสำรองลงสนาม ดังนั้นด้วย 11 คนแรกชุดนี้จึงจัดว่าชนะ 4 เกมซ้อนได้ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้
• ทำลายอาถรรพ์ทีมแชมป์เก่าตกรอบแรก 3 ทัวร์นาเมนต์รวดไปแล้ว และอยู่ในเส้นทางสำหรับการจะเป็นทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์โลกได้ ถัดจาก บราซิล 1962 ยุค เปเล่
• ฝรั่งเศส เพิ่งโดนใบเหลืองไปแค่ 5 ใบ น้อยสุดในจำนวนทีมที่ยังเหลือ (น้อยสุด อังกฤษ 1) รวมถึงว่าก็ยิงได้เยอะสุด (11 ประตู) ในจำนวนทีมที่ยังเหลือ

• โมร็อกโก สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแอฟริกัน/อาหรับ รายแรกที่มาถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก
• แน่นอนว่ายังเป็นผลงานดีสุดของตัวเอง ถัดจากการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1986
• โมร็อกโก มีลุ้นแชมป์โลกอยู่พอประมาณเมื่อมาถึงตรงนี้ แม้ว่าข้อเท็จจริงจะบอกว่า พวกเขาเคยเป็นแชมป์ทวีป แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ แค่สมัยเดียวถ้วน ตั้งแต่ปี 1976 มาแล้ว

• วาลิด เรกรากี เกิดที่ฝรั่งเศส (1975) โตมาเล่นฟุตบอลอาชีพในฝรั่งเศส ตำแหน่งแบ็กขวา สังกัด ราซิ่ง ปารีส, ตูลูส, อชักซิโอ, ราซิ่ง ซานตานเดร์ (สเปน), ดิชง และ เกรอน็อบล์ แต่ติดทีมชาติโมร็อกโก 45 นัด ระหว่างปี 2001-2009
• โซฟียาน บูฟาล เกิดที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส (1993) และเล่นอาชีพในลีกฝรั่งเศสตั้งแต่แรกจนตอนนี้ สังกัด อองเช่ร์
• โรแม็ง ซาอิสส์ เกิดที่ฝรั่งเศส (1990) สร้างชื่อกับ เลอ อาฟร์ ก่อนย้ายไป วูล์ฟแฮมป์ตัน และตอนนี้อยู่ เบซิคตัส
• แข้งโมร็อกโกชุดนี้ เล่นใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส จำนวน 5 คน – อัซซาดีน อูนาฮี (อองเช่ร์), โซฟียาน บูฟาล (อองเช่ร์), อัชราฟ ดารี (แบรสต์), อัชราฟ ฮาคิมี่ (เปแอสเช), ซากาเรีย อาบูคลัล (ตูลูส)
• ถ้าได้ลงตามปกติ ยาสซีน บูนู จะเพิ่มสถิติเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 51, อัชราฟ ฮาคิมี่ 60, โซฟียาน อัมราบัต 45, ฮาคิม ซีเย็ค 49, โซฟียาน บูฟาล 38, ยุสเซฟ เอ็น-เนซิรี่ 56

• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงในบอลโลกหนนี้ 5 ลูกแล้ว กำลังนำดาวซัลโว และยังยิงในหนก่อน 4 ประตู รวมสองทัวร์นาเมนต์กดแล้ว 9 ลูก
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ 3 จาก 5 นัดที่ลงเล่นที่กาตาร์ สูงสุดเทียบเท่า ลิโอเนล เมสซี่
• โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กลายเป็นผู้นำดาวซัลโวฝรั่งเศสแล้ว และมีแต่จะเพิ่มระยะห่างจาก เธียร์รี่ อองรี (51) ขึ้นไป หลังยิงแล้ว 53 ลูก รวมถึงในบอลโลกครั้งนี้ที่สอยแล้ว 4 ตุง
• อองตวน กรีซมันน์ ยังไม่มียิงประตูที่กาตาร์ แต่แอสซิสต์แล้ว 3 สูงสุดเทียบเท่า แฮรรี่ เคน และ บรูโน่ แฟร์นันเดส
• อูโก้ โยริส เป็นเจ้าของสถิติเล่นให้ฝรั่งเศสสูงสุดแล้ว 143 นัด มากกว่า ลิลิยอง ตูราม 1 เกม และทุกเกมที่ผ่านไป ก็จะยิ่งเพิ่มสถิติให้นายด่านวัยย่าง 36 ขึ้นอีก
• ถ้าได้ลงตามปกติ อูโก้ โยริส จะเพิ่มสถิติเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 144, ราฟาแอล วาราน 92, อาเดรียง ราบิโอต์ 35, อองตวน กรีซมันน์ 116, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 119, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ 65

• โมร็อกโก ไม่แพ้ใครมา 10 เกมซ้อน แบ่งเป็นชนะ 7 เสมอ 3
• ในจำนวน 10 เกมที่ไร้พ่าย โมร็อกโก ไม่เสียประตูถึง 8 นัดด้วยกัน และเสียรวมแค่ 2 ลูก (2-1 แอฟริกาใต้, 2-1 แคนาดา)
• วาลิด เรกรากี คุมโมร็อกโกมาแค่ 8 นัด ยังไร้พ่าย ชนะ 5 เสมอ 3
• โมร็อกโก แพ้ครั้งสุดท้ายในยุค วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช เมื่อ 1 มิ.ย. แพ้ สหรัฐอเมริกา 0-3

• เกมรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 10 ทัวร์นาเมนต์หลัง หรือ 40 ปีหลังสุด (20 แมตช์) ล้วนแต่ออกผลชนะแพ้แบบเบียดๆ หรือลงเอยด้วยผลเสมอต้องยืดเยื้อ ถึงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และมีเพียง “เกมเดียวถ้วน” เท่านั้น ที่ชนะกันเกินกว่า 3 ประตูขึ้นไป
– ยิงกันถล่มทลาย 1 นัดถ้วน คือเกมประวัติศาสตร์ที่ เยอรมนี กำราบ บราซิล 7-1 ในเวิลด์คัพ 2014 บนดินแดนแซมบ้าเอง
– ชนะห่างหน่อย 2-0 มีเกิดขึ้น 3 นัด
โปแลนด์ 0-2 อิตาลี (1982)
ฝรั่งเศส 0-2 เยอรมนีตะวันตก (1986)
อาร์เจนติน่า 2-0 เบลเยียม (1986)
– ชนะประตูเดียว 9 นัด
บัลแกเรีย 1-2 อิตาลี (1994), สวีเดน 0-1 บราซิล (1994), ฝรั่งเศส 2-1 โครเอเชีย (1998), เยอรมนี 1-0 เกาหลีใต้ (2002), บราซิล 1-0 ตุรกี (2002), โปรตุเกส 0-1 ฝรั่งเศส (2006), อุรุกวัย 2-3 เนเธอร์แลนด์ (2010), เยอรมนี 0-1 สเปน (2010), ฝรั่งเศส 1-0 เบลเยียม (2018)
– ชนะช่วงต่อเวลา 2 นัด
เยอรมนี 0-0 อิตาลี / อิตาลี ต่อเวลาชนะ 2-0 (2006)
โครเอเชีย 1-1 อังกฤษ /โครเอเชีย ต่อเวลาชนะ 2-1 (2018)
– ชนะดวลจุดโทษ 5 นัด
เยอรมนีตะวันตก 3-3 ฝรั่งเศส / เยอรมนีฯ ชนะจุดโทษ 5-4 (1982)
อาร์เจนติน่า 1-1 อิตาลี / อาร์เจนฯ ชนะจุดโทษ 4-3 (1990)
เยอรมนีตะวันตก 1-1 อังกฤษ / เยอรมนีฯ ชนะจุดโทษ 4-3 (1990)
บราซิล 1-1 เนเธอร์แลนด์ / บราซิล ชนะจุดโทษ 4-2 (1998)
เนเธอร์แลนด์ 0-0 อาร์เจนติน่า / อาร์เจนฯ ชนะจุดโทษ 4-2 (2014)

 

ทรรศนะกูรู
คริส ซัตตัน, บีบีซี : ฝรั่งเศส ชนะ 2-1
“แผนการของ โมร็อกโก ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน รับลึกแล้วโต้ แต่มันก็ไม่ง่ายต่อการรับมือของทุกคู่แข่ง พวกเขาผ่านเกมกับทีมอย่าง โครเอเชีย, เบลเยียม, สเปน, โปรตุเกส มาแล้ว และไม่เสียประตูเลยสักลูก”
“แต่ปัญหาก็คือความอ่อนล้าที่ต้องเผชิญ โรแม็ง ซาอิสส์ ต้องโดนหามออกจากเกมก่อน และยังมีต้องกังวลเรื่องความฟิตของทั้งกองหลัง นาเยฟ อาแกร์ด และคีย์แมน โซฟียาน อัมราบัต นั่นจะทำให้เกมโต้กลับของพวกเขาอาจไม่เต็มประสิทธิภาพ”
“ด้าน ฝรั่งเศส ไม่ได้เล่นด้วยสุดยอดฟุตบอลอะไร แต่พวกเขาอยู่ในระดับสูงมานาน และแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมที่เหนือกว่า อังกฤษ และคุณภาพเกมรุกของพวกเขาก็จตะสร้างความแตกต่างได้ในเกมนี้ ฝรั่งเศส จะยิงประตูแรกได้ และผ่านเกม 90 นาทีไปด้วยชัยชนะ”
“ที่จริง ผมก็อยากให้ความเห็นของผมผิด เพราะการเดินทางของทีมแอฟริกาอย่าง โมร็อกโก ในครั้งนี้ จะเป็นสุดยอดเรื่องเล่าตลอดกาลของฟุตบอลโลก ทว่าเมื่อมองเรื่องจริง มันก็คงถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องบอกลา”

 

ความน่าจะเป็น
มาได้ตรงนี้ต้องยกย่องและปรบมือดังๆ ให้กับ โมร็อกโก แต่ก็ควรถือว่าพวกเขามาไกลมากพอแล้ว เมื่อปาฏิหาริย์ไม่ได้มีขายตามข้างทาง โมร็อกโก ก็คงต้องเลิกฝันถึงการจะทะลุเข้าชิงแชมป์โลกเสียที โดยเฉพาะเมื่อดันมาเกิดปัญหาในเกมรับขึ้นพอดี ต่อให้ระบบจะดีแค่ไหน เมื่อตัวไม่สมบูรณ์ก็ต้านลำบาก แถมจุดเด่นของ ฝรั่งเศส ชุดนี้ ยังอยู่ที่เกมรุกสุดจัดจ้าน จับตัวนี้ตัวนั้นมา จับตั้วนั้นตัวโน้นมี อีกด้วย

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 2-1

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]

 

เฮี้ยนไม่เว้นวัน สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจไม่เว้นเกม สร้างเซอร์ไพรส์และเรื่องเล่าขานต่างๆ นานาได้ในทุกเกมที่ผ่านพ้นไป สำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 โดยเฉพาะเมื่อยิ่งงวดลง ยิ่งมาถึงน็อกเอาต์วันท้ายๆ ก็ยิ่งมีประเด็นให้โลกลูกหนังต้องตามติด–ชนิดตาห้ามกะพริบ!

 

ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำ! โมร็อกโกลิ่วตัดเชือกบอลโลก

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]

 

ไม่เพียงแต่การเป็นม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์ แต่มาถึงตรงนี้ คงพูดได้ว่า โมร็อกโก มีเอี่ยวกับการ “คว้าแชมป์โลก” แล้ว

 

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอีกหนึ่งเกมประวัติศาสตร์ที่ วาลิด เรกรารี และลูกทีมสิงโตแอตลาส จัดมาเสิร์ฟแฟนๆ

 

รอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 สองคู่สุดท้าย วันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. เริ่มจากแมตช์ โมร็อกโก พบ โปรตุเกส ซึ่งตัวแทนจากแอฟริกาต้องปรับหลังบ้านเล็กน้อยหลัง นาเยฟ อาแกร์ด บาดเจ็บ ส่วนทาง แฟร์นันโด ซานโตส ยังคงดร็อป คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั่งสำรอง เพื่อเปิดทางให้ กอนซาโล่ รามอส เจ้าของแฮตทริกในเกมถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 รอบที่แล้ว ลงตัวจริงต่อ

 

กระนั้น เกมรุกของทีมฝอยทองไม่อาจเจาะแนวรับโมร็อกโกที่นำโดยกัปตันทีม โรแม็ง ซาอิสส์ และนายด่านจอมหนึบ ยาสซีน “โบโน่” บูนู เข้าไปได้ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล รวมถึงว่าโอกาสจบก็ไม่ได้มีมากครั้งนักด้วย

 

จนในช่วงท้ายครึ่งแรก น.42 โมร็อกโก ก็ทำเซอร์ไพรส์เจาะประตูนำไปก่อนจากลูกครอสเข้าหน้าประตู ของ ยาเอีย อัตติยัต อัลลาห์ เข้าทาง ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ขึ้นโขกตัดหน้านายทวาร ดีโอโก้ คอสต้า เข้าประตูไปพอดิบพอดี

 

ครึ่งหลัง โปรตุเกส โถมเกมรุกขึ้นอีกระดับ โดยมีการส่ง โรนัลโด้ ลงสำรองมาเพิ่ม และ CR7 ก็มีโอกาสดีที่จะพังประตูตีเสมอตอนทดเจ็บ จากการทะลุเข้าไปส่องในเขตโทษทางขวา ทว่าก็ไม่ผ่านมือ ยาสซีน บูนู แต่อย่างใด

 

ทดเวลา 90+3 วาลิด เชดดิร่า โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับเกม แค่ว่าหอกสำรองโมร็อกโกจะอดเล่นในรอบตัดเชือกเท่านั้น

 

สุดท้ายเกมจบลง โมร็อกโก ชนะ 1-0 โปรตุเกส ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกอีกครั้ง และ โรนัลโด้ เดินร่ำไห้ออกจากสนาม ด้วยความที่นี่คือเกมฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของชายวัยย่าง 38 ปีอย่างเขา และความหวังในการผงาดแชมป์โลกครั้งแรก ต้องมีอันสิ้นสุดลงไป

 

สำหรับ โมร็อกโก ของกุนซือ วาลิด เรกรากี เดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง เป็นชาติแอฟริกันและอาหรับที่เข้าถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลกเป็นรายแรก รวมถึงมีโอกาสขึ้นบัลลังก์แชมป์โลกสมัยแรกด้วยเช่นกัน ทั้งยังเพิ่งเสียไปเพียงประตูเดียวเท่านั้นจากการเล่น 5 นัดในฟุตบอลโลกครั้งนี้

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
โมร็อกโก (4-3-3) ยาสซีน บูนู – อัชราฟ ฮาคิมี่, โรแม็ง ซาอิสส์ (อัชราฟ ดารี 57), จาวัด เอล ยามิก, ยาเอีย อัตติยัต-อัลลาห์ – อัซซาดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์ (วาลิด เชดดิร่า 65) – ฮาคิม ซีเย็ค (ซากาเรีย อาบูคลัล 82), ยุสเซฟ เอ็น-เนซิรี่ (บาเดอร์ เบนูน 65), โซฟียาน บูฟาล (ยาห์ย่า จาบราน 82)
โปรตุเกส (4-3-3) ดีโอโก้ คอสต้า – ดีโอโก้ ดาโล่ต์ (ริคาร์โด้ ออร์ต้า 79), เปเป้, รูเบน ดิอาส, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ (ชูเอา กันเซโล่ 51) – โอตาวิโอ (วิตินญ่า 69), รูเบน เนเวส (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 51), แบร์นาร์โด้ ซิลวา – บรูโน่ แฟร์นันเดส, กอนซาโล่ รามอส (ราฟาเอล เลเอา 69), ชูเอา เฟลิกซ์

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ยาสซีน บูนู
• ยาสซีน บูนู คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ในฟุตบอลโลก 2022 แล้ว 3 ครั้ง สูงสุดในกลุ่มนายทวาร เทียบเท่า โดมินิค ลิวาโควิช ของโครเอเชีย
• ตามสถิติฟีฟ่า ยาสซีน บูนู ทำ Goals Prevented เกมนี้ 11 ครั้ง
• ยุสเซฟ เอ็น-เนซิรี่ กระโดดโหม่งทำประตูในเกมนี้สูงถึง 2.78 เมตร เหนือกว่าที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยทำไว้ 2.5 เมตร ในเกม ยูเวนตุส พบ ซามพ์โดเรีย

• โมร็อกโก ไม่แพ้ใครมาเป็นเกมที่ 10 แบ่งเป็นชนะ 7 เสมอ 3
• ในจำนวน 10 เกมที่ไร้พ่าย โมร็อกโก ไม่เสียประตูถึง 8 นัดด้วยกัน และเสียรวมแค่ 2 ลูก (2-1 แอฟริกาใต้, 2-1 แคนาดา)
• วาลิด เรกรากี คุมโมร็อกโกมาแค่ 8 นัด ยังไร้พ่าย ชนะ 5 เสมอ 3

• นี่คือการพบกันเพียงครั้งที่ 3 เท่านั้น เป็นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้งหมด หรือก็คือไม่เคยเตะกระชับมิตรกันมาก่อนเลย
• บอลโลก 1986 โมร็อกโก ชนะ โปรตุเกส ยุค เปาโล ฟูเตร้ 3-1
• ให้หลัง 32 ปี พบกันในฟุตบอลโลก 2018 โปรตุเกส ชนะคืน 1-0 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พังประตูโทน
• และล่าสุดกับเกมนี้ ที่ โมร็อกโก กำชัย 1-0
• โปรตุเกส ไปไม่ถึงดวงดาวในฟุตบอลโลกเหมือนเช่นเคย โดยตกทั้งรอบแรก, รอบ 16 ทีม, รอบ 8 ทีม ใน 3 ทัวร์นาเมนต์หลัง ส่วนผลงานดีสุดยังคงเป็นอันดับ 3 ปี 1966

• กอนซาโล่ รามอส มีโอกาสยิง 6 ครั้งในเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ และทำแฮตทริกได้ แต่มาเกมนี้โอกาสลดเหลือ 1 ครั้งถ้วน ไม่มีประตู ก่อนถูกถอดออกในนาที 69
• อันเดร ซิลวา ที่ยิง 19 ประตูในทีมชาติ มีโอกาสสัมผัสฟุตบอลโลก 2022 แค่ราวครึ่งชั่วโมง ด้วยการลงสำรองนาที 65 เกมแพ้ เกาหลีใต้ 1-2
• คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นทีมชาติเกมที่ 196 แต่ถ้าจำกัดเฉพาะ “รอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลก” แล้ว นี่คือนัดที่ 8 รวมเวลา 9 ชั่วโมงครึ่ง โอกาสยิง 27 ครั้ง… ได้มา 0 ประตู

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ โมร็อกโก 1-0 โปรตุเกส
• โมร็อกโก สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแอฟริกัน/อาหรับ รายแรกที่มาถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก
• แน่นอนว่ายังเป็นผลงานดีสุดของตัวเอง ถัดจากการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1986
• รอบตัดเชือก โมร็อกโก จะพบกับชาติที่เป็นอดีตเจ้าอาณานิคมอย่าง ฝรั่งเศส ที่เคยปกครอง โมร็อกโก ระหว่างปี 1912 – 1956
• โมร็อกโก มีลุ้นแชมป์โลกอยู่พอประมาณเมื่อมาถึงตรงนี้ แม้ว่าข้อเท็จจริงจะบอกว่า พวกเขาเคยเป็นแชมป์ทวีป แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ แค่สมัยเดียวถ้วน ตั้งแต่ปี 1976 มาแล้ว

• การตกรอบอย่างสุดช็อกของ โปรตุเกส นำมาซึ่งบทสัมภาษณ์เผ็ดร้อน เต็มไปด้วยความโกรธเคืองของทางฝั่ง เปเป้ และ บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่มีต่อผู้ตัดสิน ฟาคุนโด้ เตโย่ จากอาร์เจนติน่า ว่าไม่โปร่งใส ไม่ทันเกมอย่างที่ควรเป็น ทั้งยังเป็นสิงห์เชิ้ตดำเกรดรอง ไม่เคยผ่านการตัดสินเวทีใหญ่ของยุโรปมาก่อน แต่กลับได้มาทำหน้าที่ในเกมสำคัญอย่างรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกอย่างน่าประหลาดใจ ไปจนถึงว่าก็ไม่ควรได้ทำหน้าที่นี้ ทั้งที่ชาติบ้านเกิดอย่าง อาร์เจนติน่า ยังคงอยู่ในทัวร์นาเมนต์

• แฟร์นันโด ซานโตส ยังไม่ด่วนตัดสินอนาคตตัวเอง โดยขอเจรจากับสมาคมฟุตบอลโปรตุเกสเสียก่อนจึงจะได้ข้อสรุปว่าจะทำทีมต่อหรือสละเก้าอี้ไป หลังคุมยาวมาตั้งแต่ปี 2014 และมีแชมป์ยูโร 1 สมัย กับแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 1 สมัย ติดมือ แต่ตกแค่รอบ 16 ทีมกับ 8 ทีมฟุตบอลโลก เท่านั้น

• แม้ไม่ได้ประกาศชัด แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เดินออกจากสนามแบบน้ำตานองอาบสองแก้ม ก็เผยเป็นนัยว่า เขาอาจจะเลิกเล่นทีมชาติแต่เพียงเท่านี้ ลงรับใช้ชาติไปทั้งสิ้น 196 นัด ยิง 118 ประตู โดยเป็นเจ้าของสถิติทั้งลงสนามมากสุดและยิงประตูสูงสุดตลอดกาลกับทีมชาติ ทว่าก็ยิงได้แค่ลูกเดียวเท่านั้นในฟุตบอลโลก 2022 จากจุดโทษนัดชนะ กาน่า 3-2 เกมแรกของทัวร์นาเมนต์
“การคว้าแชมป์โลกกับ โปรตุเกส คือความฝันและความทะเยอทะยานสูงสุดในอาชีพของผม โชคดีที่ผมได้แชมป์มามากมาย รวมทั้งกับ โปรตุเกส ด้วย แต่การพาประเทศของเราประสบความสำเร็จขั้นที่สูงที่สุดในโลกคือความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม”
“ผมต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ ผมต่อสู้อย่างหนักเพื่อความฝันนี้ จากการลงเล่นฟุตบอลโลก 5 สมัย รวมเวลาเกินกว่า 16 ปี ผมยิงประตูได้ ผมได้เล่นร่วมกับนักเตะที่ยิ่งใหญ่ และได้รับการสนับสนุนจากชาวโปรตุเกสหลายล้านคน ผมทุ่มเทอย่างเต็มร้อยในสนาม ผมไม่เคยหนีหน้าจากการต่อสู้ และผมไม่เคยยอมแพ้ที่จะสานฝัน”
“น่าเศร้าที่เมื่อวานฝันจบลงอย่างไม่สมควร ผมอยากให้คุณรู้มากกว่าการที่มันจะถูกเขียนถึง ถูกพูดถึง หรือว่าถูกเล่าลือ แต่ความทุ่มเทที่ผมมีต่อ โปรตุเกส ไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่เสี้ยววินาที ผมต่อสู้เพื่อเป้าหมายเสมอ และผมไม่เคยหันหลังให้กับเพื่อนร่วมทีม และประเทศของผม”
“สำหรับตอนนี้ ผมไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้ ขอบคุณโปรตุเกส ขอบคุณกาตาร์ ความฝันมันงดงามจนกระทั่งมันจบสิ้นลง… ตอนนี้ คงถึงเวลาแล้วสำหรับการเป็นผู้แนะนำที่ดี และเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ทำตามต้องการ”

 

 

เคนขว้างตั๋วทิ้ง-สิงโตสลบพ่ายตราไก่ 1-2

8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]

 

ไม่ต่างจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

 

นี่คือเกมคู่คี่สูสี ที่มีสิทธิ์ตัดสินกันด้วย “รายละเอียดเล็กๆ”

 

รายละเอียดเล็กจิ๋วอย่าง “องศาการเหินของลูกบอล” ขณะออกจากปลายเท้า แฮร์รี่ เคน ในเสี้ยววินาทีนั้น…

 

คู่ดึกของวันเสาร์ เกมสุดท้ายของรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 บิ๊กแมตช์ของประเทศเพื่อนบ้าน อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส เกมนี้ต่างฝ่ายต่างยึด 11 คนแรกชุดเดิมลงสนาม สิงโตคำรามนำมาโดย แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ส่วนตราไก่ให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ รวมพลังเข้าทำ

 

เป็น ฝรั่งเศส ที่ขยับสกอร์นำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ตะบันจากหน้าเขตโทษผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด เข้าไปในนาทีที่ 17

 

แต่จากนั้น อังกฤษ ก็ทวงคืน 1-1 ตอนต้นครึ่งหลัง จากจุดโทษที่ ซาก้า โดน ชูอาเมนี่ ขัดขาล้มลงไป และ แฮร์รี่ เคน ตะบันผ่าน อูโก้ โยริส ไม่พลาด เป็นประตูทำสถิติยิงสูงสุดในทีมชาติ 53 ลูก เทียบเท่า เวย์น รูนี่ย์

 

ทว่าเข้าช่วงท้ายเกม นาที 78 กรีซมันน์ ก็ครอสแม่นๆ จากซ้ายเข้าไปให้ ชิรูด์ ทิ่มโขกตัดหน้า แม็กไกวร์ ตุงตาข่ายให้ ฝรั่งเศส นำ 2-1

 

ท้ายเกมหลังจากนั้นอีก น.82 อังกฤษ มีโอกาสดีในการตามตีเสมอรอบสอง เมื่อมาได้จุดโทษจากวีเออาร์ที่ตัวสำรอง เมสัน เมาท์ โดน เตโอ เอร์นันเดซ กระแทกล้มหน้าทิ่ม อย่างไรก็ตาม แฮร์รี่ เคน กลับสังหารจุดโทษโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง รวมถึงฟรีคิกหน้าเขตโทษในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็กดเสยคานออกไปแค่คืบเท่านั้น จนจบที่ ฝรั่งเศส กำชัยแบบลุ้นเหนื่อย 2-1

 

ฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ ส่วนทางฝั่ง อังกฤษ ยังคงไปไม่ถึงดวงดาวนับตั้งแต่แชมป์โลกสมัยแรก 1966 เป็นต้นมา

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อังกฤษ (4-3-3) จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ (แจ๊ค กรีลิช 90+8), แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – จู๊ด เบลลิงแฮม, ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เมสัน เมาท์ 79) – บูกาโย่ ซาก้า (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 79), แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น (มาร์คัส แรชฟอร์ด 85)
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – ชูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ เอร์นันเดซ – ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมัน เดมเบเล่ (คิงส์ลี่ย์ โกม็อง 79), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
• ชิรูด์ กดไปแล้ว 4 ประตูในฟุตบอลโลก 2022 ตามหลัง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ลูกเดียวถ้วน
• ชิรูด์ ทำเพิ่มเป็น 53 ลูก ฉีกหนีเจ้าของสถิติคนเก่า เธียร์รี่ อองรี (51) เพิ่มเป็นสองเม็ดแล้ว
• อูโก้ โยริส ยังกลายเป็นเจ้าของสถิติลงสนามให้ ฝรั่งเศส สูงสุดแบบเดี่ยวๆ 143 นัด แทนที่ ลิลิยอง ตูราม 142
• อองตวน กรีซมันน์ ยังไร้สกอร์ที่กาตาร์ แต่แอสซิสต์แล้ว 3 ครั้ง สูงสุดเทียบเท่ากับ แฮร์รี่ เคน และ บรูโน่ แฟร์นันเดส
• ยังเป็นแอสซิสต์ที่ 27 จากการเล่นทีมชาติ 115 นัดของ กรีซมันน์ ด้วย

• ฝรั่งเศส ทำไป 11 ประตูในบอลโลกครั้งนี้ โดยที่ 9 ลูกในนั้นมาจาก เอ็มบัปเป้ + ชิรูด์ สองคน ที่เหลืออีกสองเม็ดเป็น อาเดรียง ราบิโอต์ กับ ออเรเลียง ชูอาเมนี่
• ฝรั่งเศส มาถึงตรงนี้โดยไม่มีการทำคลีนชีตแม้แต่เกมเดียว ลงสนาม 5 นัด เสียนัดละ 1 ลูกมาตลอด

• อังกฤษ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก เป็นครั้งที่ 7 สูงที่สุดในบรรดาทุกทีมที่ได้เข้ามาเล่น เวิลด์ คัพ
• ฟุตบอลโลก 4 ทัวร์นาเมนต์หลัง อังกฤษ ตกไม่ซ้ำรอบ
2010 ตกรอบ 16 ทีม
2014 ตกรอบแบ่งกลุ่ม
2018 ตกรอบตัดเชือก / ได้อันดับ 4
2022 ตกรอบ 8 ทีม
• การเจอกับ “ชาติยักษ์ใหญ่” ในช่วงหลัง อังกฤษ ยังคงชนะใครไม่เป็น มีผลเสมอ เยอรมนี 1-1 กับ 3-3 และเสมอ อิตาลี 0-0 กับแพ้ 0-1 ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ก่อนแพ้ ฝรั่งเศส นัดนี้
• อังกฤษ เอาชนะ ฝรั่งเศส ได้แค่เกมเดียวจากการพบกัน 7 นัดหลัง (แพ้ 5 เสมอ 1)
• หากตกเป็นฝ่ายตามหลังในครึ่งแรก อังกฤษ ไม่เคยพลิกกลับมาชนะได้ในเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยได้ผลเสมอ 2 แพ้ 7

• จุดโทษที่ แฮร์รี่ เคน ยิงเข้าไปในสกอร์ 1-1 นับเป็นประตูที่ 53 ในนามทีมชาติอังกฤษ เทียบเท่าสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ เวย์น รูนี่ย์ เป็นที่เรียบร้อย
• ส่วนการพลาดจุดโทษในช่วงท้าย นับเป็นการพลาดครั้งที่ 11 ของเขาในตลอดเส้นทางค้าแข้ง และพลาดหนที่ 4 ในการเล่นทีมชาติ
• สัดส่วนของการยิงจุดโทษเข้ากับยิงพลาดของ แฮร์รี่ เคน คือ 58:11
• เคน ยังทำสถิติสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติอังกฤษ ในเกมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากที่สุดเป็นเกมที่ 11 (6 เกมในฟุตบอลโลก 2018 และอีก 5 เกมในฟุตบอลโลก 2022) แซงหน้าสถิติ 10 เกมของ บิลลี่ ไรท์ (1950-1958), บ๊อบบี้ มัวร์ (1966-1970) และ เดวิด เบ็คแฮม (2002-2006)
• เจมส์ แมดดิสัน กับ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ มีนาทีในฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็น 0, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงสำรอง 1, แคลวิน ฟิลลิปส์ ลงสำรอง 2

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อังกฤษ 1-2 ฝรั่งเศส
• ฝรั่งเศส เข้าไปดวลกับชาติที่เคยอยู่ภายใต้อาณานิคมอย่าง โมร็อกโก ในรอบตัดเชือก
• พบกันก่อนหน้านี้ 11 ครั้ง ฝรั่งเศส ข่มขาดด้วยชนะ 7 เสมอ 3 โมร็อกโกชนะแค่ 1
• ฝรั่งเศส ถูกยกให้เป็นตัวเก็งเต็งหนึ่งรายใหม่ สำหรับการผงาดครองแชมป์โลก 2022 จากการปรับเรตล่าสุดของ สกาย เบท ในอัตรากดต่ำเพียง 1/1 จากนั้นจึงตามด้วย อาร์เจนติน่า 13/8, โครเอเชีย 7/1 และเต็งเบอร์สุดท้าย โมร็อกโก 8/1 รวมถึงมีเรต 10/1 ในบางเจ้า

• เลส์ เบลอส์ กลายเป็นแชมป์เก่าชาติแรกที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ในทัวร์นาเมนต์อีก 4 ปีถัดมา เพราะไม่เคยมีแชมป์เก่าชาติไหนเลยที่เคยทำได้ จากครั้งสุดท้ายที่ บราซิล ทำไว้ ด้วยการเป็นแชมป์โลก 1994 และเป็นรองแชมป์ 1998
• มีกระแสข่าวว่า ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ จะยังคงได้ไฟเขียวให้ดูแลทีมต่อไปจนถึงจบ ยูโร 2024 ที่เยอรมนี เพื่อตอบแทนผลงานที่ดีในบอลโลกหนนี้ แม้สมาคมฯ จะมีตัวเลือกน่าสนใจอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ที่ว่างงานและพร้อมเข้ารับตำแหน่งอยู่ ก็ตาม

• ในส่วนของผู้ตกรอบอย่าง อังกฤษ แม้ ณ ตอนนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังไม่ได้ประกาศลาออก โดยให้สัมภาษณ์หลังเกมแพ้ ฝรั่งเศส 1-2 ว่าขอเวลาอีกนิดเพื่อตัดสินใจอนาคต แต่ก็มีการเปิดราคากุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ เซาธ์เกต ไว้แล้ว โดย เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตนายใหญ่เปแอสเช ยืนแท่นเต็งหนึ่ง 4/1 จากนั้นตามด้วย โธมัส ทูเคิ่ล อดีตกุนซือเชลซี 5/1, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเลสเตอร์ 8/1, เอ๊ดดี้ ฮาว กุนซือนิวคาสเซิ่ล 10/1, แกรห์ม พ็อตเตอร์ กุนซือเชลซี 12/1, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 16/1, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 16/1, สตีฟ คูเปอร์ 16/1 และ เวย์น รูนี่ย์ 18/1

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
AP
GettyImages
AFP

 

เรื่องน่าอ่าน
8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]
16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์! (2)
16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

โมร็อกโก เปิดศึกชิงเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 กับโปรตุเกส ที่อาจไม่มีโรนัลโด้

โมร็อกโก เปิดศึกชิงเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 กับโปรตุเกส ที่อาจไม่มีโรนัลโด้

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบก่อนรองชนะเลิศ โมร็อกโก – โปรตุเกส

วันที่ 10 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง True4U/ True Sports 2

โมร็อกโก ฟุตบอลโลก 2022

โมร็อกโก มากาตาร์ เข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในแบบที่มีนักเตะระดับท็อปมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

สถานการณ์ของโมร็อกโกและโปรตุเกส

โมร็อกโกเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ชาติจากการชนะดวลจุดโทษกับสเปน บ้านใกล้เรือนเคียงจากยุโรปใต้ และรอบนี้พวกเขาก็จะพบอีกทีมจากพื้นเพเดียวกับสเปน ที่ชนะสวิตเซอร์แลนด์อย่างสวยหรู และมีนักเตะคนแรกที่ทำให้แฮ็ททริคได้ในฟุตบอลโลกครั้งนี้

สิงโตจากเทือกเขาแอตลาสยื้อสเปน ที่ทำสถิติผ่านบอลในเกมเป็นพันครั้งได้สนุก แม้โอกาสทำประตูจะน้อยกว่า แต่ในแง่ของลูกเสียว ทีมจากแอฟริกาทำได้ดีกว่า โดยกุญแจสู่ชัยชนะของพวกเขาคือ เกมรับ ที่เป็นความรับผิดชอบของสองฟูลล์แบ็ค อาชราฟ ฮาคิมี่กับนูสแซร์ มาซราอุย และคู่เซนเตอร์รวมถึงกองกลางที่วิ่งไม่มีหมด ซอยฟราน อัมราบัต ที่ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น ส่วนโปรตุเกสนอกจากจะถล่มสวิสกระเจิง ยังเปิดตัวดาวยิงคนใหม่ กอนเซโล รามอส ที่ทำแฮ็ททริคแรกของฟุตบอลโลก 2022 โดยซูเปอร์สตาร์ที่มากาตาร์พร้อมสารพัดเรื่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่บนม้านั่งสำรอง

ถ้าโมร็อกโกไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ พวกเขาไม่ใช่แค่เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตัวเอง แต่ยังเป็นทีมแรกของแอฟริกาที่ไปได้ไกลขนาดนั้น การเป็นที่ 1 ในกลุ่มที่มีทีมอันดับ 2 และ 3 จากฟุตบอลโลกหนที่แล้ว โมร็อกโกไม่น่าที่จะต้องกลัวใครอีก ส่วนโปรตุเกสชัยชนะ 3 นัด กับ 12 ประตู น่าจะทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นว่า มีโอกาสที่จะคว้าแชมป์โลกได้ หลังได้แชมป์ยูโรและเนชั่นส์ ลีกมาแล้ว

โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2022 คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ทีมชาติโปรตุเกส จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: portugoal.net)

เช็กสถิติของโมร็อกโกและโปรตุเกส

โมร็อกโกเคยเข้ารอบ 16 ทีมมาแล้วในฟุตบอลโลก 1986 ยังสร้างสถิติในฟุตบอลโลกให้กับตัวเอง ด้วยการไม่แพ้ติดต่อกันถึง 5 นัด และจากการลงเล่น 7 นัดหลัง พวกเขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 6 เกม สำหรับการเจอกันของทั้ง 2 ทีม โมร็อกโกพบโปรตุเกสมาแล้ว 2 หน โดยผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือการคว่ำโปรตุเกส 3-1 ในฟุตบอลโลก 1986

โดย 5 นัดสุดท้าย โมร็อกโกไม่แพ้ใครเลย โดยเสมอไปเพียงนัดเดียว (WDWWW) ส่วนโปรตุเกสชนะ 4 แพ้ 1 (WWWLW)

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ บรูโน่ เฟอร์นันด์ส โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ขวา) กับบรูโน่ เฟอร์นันด์ส เพื่อนร่วมทีมชาติและร่วมสโมสร (ภาพ: www.sportingnews.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของโมร็อกโกและโปรตุเกส

ชัยชนะจากการสู้ถึงฎีกากับสเปน โมร็อกโกต้องจ่ายด้วยราคาแพง นาเยฟ อกวอร์ด ต้องเปลี่ยนตัวออกเป็นคนสุดท้ายในช่วงเวลาปกติทั้งน้ำตา เพราะบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และคงต้องเร่งเยียวยาอย่างหนัก เพื่อลงเล่นในนัดนี้ โรเมน ซาอิสส์ กัปตันทีม คู่หูในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค แม้จะไม่ต้องเปลี่ยนตัว แต่ก็มีปัญหากับกล้ามเนื้อโคนขา จนต้องพักดูแลอาการอยู่นาน ซอยฟราน อัมราบัติ ก็มีอาการเจ็บหลังแต่ก็สู้กับกองกลางกระทิงดุได้สนุก ส่วนฟูลล์แบ็ค 2 ฝั่งฮาคิมี่กับมาซราอุยแม้จะมีอาการบาดเจ็บติดตัวมาด้วย แต่อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคู่น่าจะลงเล่นได้ เช่นเดียวกับบรรดาแนวรุก ไม่ว่าจะเป็น โซเฟียเน่ บูฟัล, ฮาคิม ชีเย็ค และยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่มากาตาร์พร้อมกับข่าวใหญ่ และการเป็นผู้เล่นที่ติดทีมชาติมากที่สุด 195 นัด ยิงประตูให้ทีมชาติมากที่สุด 118 ประตู ตกต้องเป็นตัวสำรองในเกมกับสวิส ที่กอนเซโล รามอสได้ฉายออกมาสุด ๆ ชูเอา กอนเซโล เป็นอีกคนตกเป็นตัวสำนองในเกมกับสวิต เมื่อเฟอร์นานโด ซานโต๊ส โค้ชของทีมเลือกราฟาเอล เกวร์เรโร ในตำแหน่งแบ็คซ้าย และใช้ดิโอโก้ ดาโลต์ในตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งเป็นไปได้มากว่า ทั้งคู่จะถูกใช้งานอีกครั้งในเกมนี้

ในตำแหน่งอื่น ๆ โอตาวิโอน่าจะได้เล่นต่อในแผงมิดฟิลด์ แต่วิลเลียม คาร์วัลโญ่ต้องลุ้นแย่งตำแหน่งกับรูเบน เนเวสในตำแหน่งห้องเครื่องของทีม

สองผู้เล่นจากปารีส แซ็งต์แฌร์กแม็ง นูโน เมนเดสที่เจ็บกล้ามเนื้อโคนขาคงไม่ได้เล่นในฟุตบอลโลกแล้วต่อให้ทีมได้เข้าชิงก็ตาม ส่วนดานิโล่ เปไรร่าที่บาดเจ็บซี่โครงสถานการณ์ยังไม่แน่นอน แต่คู่เซนเตอร์จะเป็นรูเบน ดิอาสกับตัวเก๋าวัย 39 ปี เปเป้

โมร็อกโก เปิดศึกชิงเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 กับโปรตุเกส ที่อาจไม่มีโรนัลโด้

(Photo by Carlos Rodrigues/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของโมร็อกโกและโปรตุเกส

โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: โบโน่; ฮาคิมี่, เอล ยามิคว์, เบนูน, มาซราอุย; อูนาฮี, อัมราบัต, อมาลลาห์; ซีเย็ค, เอ็น-เนซีรี่, บูฟัล
โปรตุเกส ระบบ 4-3-3: คอสต้า; ดาโลต์, เปเป้, ดิอาส, เกวร์เรโร; โอตาวิโอ, คาร์วัลโญ่, เบอร์นาโด; เฟร์นานด์ส, รามอส, เฟลิกซ์

ผลการแข่งขันระหว่างโมร็อกโกและโปรตุเกส

การที่ต้องเล่นเกมยาวกับสเปน ส่งผลต่อโมร็อกโกในเกมนี้แน่ ๆ และถ้าชนะพวกเขาไม่น่าจะผ่านทีมฝอยทองด้วยสกอร์ 3-1 เหมือน 36 ปีก่อน และกับความเหนียวแน่นในเกมรับของโมร็อกโกเอง พวกเขาก็ต้องแลกด้วยเกมรุกที่ดูกระเบียดกระเสียร โดยในฟุตบอลโลกหนนี้มีแค่สองทีมเท่านั้น ที่ยิงเข้ากรอบน้อยกว่าโมร็อกโก แล้วถึงจะเยี่ยมยอดขนาดไหน แนวรับของสิงโตจากเทือกเขาแอตลาส ก็ต้องมีหลุดบ้าง และแนวรุกของโปรตุเกส ไม่ว่าจะเป็นเฟลิกซ์ หรือดาวรุ่งดวงใหม่ รามอส รวมถึงเสือเฒ่า อย่าง โรนัลโด้ น่าจะฉวยโอกาสได้ดีกว่ากระทิงหนุ่มที่ไม่ใช่กองหน้าอาชีพ และน่าจะทำให้ยาสซีน โบโน่ผู้รักษาประตูของโมร็อกโก หมดโอกาสโชว์ฝีมือในช่วงของการดวลจุดโทษ

งานนี้โปรตุเกสน่าจะเฉือนหวิว ด้วยสกอร์ 2-1 หรือ 1-0

เรื่องน่าอ่าน
1. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
2. เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
6. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
7. ห้าดาวเตะอัศวินสีส้ม ที่จะพาเนเธอร์แลนด์บินสูงในฟุตบอลโลก 2022