เรื่อง

เยอรมนี อินทรีเหล็ก จะชนะคอสตาริก้า ก่อนไปลุ้นผลอีกคู่เพื่อเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี อินทรีเหล็ก จะชนะคอสตาริก้า ก่อนไปลุ้นผลอีกคู่เพื่อเข้ารอบสอง ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม อี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

คอสตาริก้า – เยอรมนี ถ่ายทอดทาง Thairath TV/ True Sport 2

คอสตาริก้า ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

คอสตาริก้ามาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟชนะนิว ซีแลนด์ (ภาพ: www.concacaf.com)

สถานการณ์ของคอสตาริก้าและเยอรมนี

เป็นทีมที่ออกสตาร์ตในฟุตบอลโลกหนนี้ได้ย่ำแย่ที่สุด เมื่อแพ้ถึง 7 ประตู จนใคร ๆ กาชื่อว่าพวกเขาคงหมดสิทธิ์ไปต่อ และน่าจะกลายเป็นของหวานให้ทีมที่เหลือในกลุ่ม แต่ไป ๆ มาๆ คอสตาริก้ายังมีลุ้นในกลุ่มแห่งความตายจนถึงนัดสุดท้าย เมื่อสลัดความล้มเหลวในเกมแรกทิ้ง และเอาชนะญี่ปุ่นหด้ในเกมนัดที่สอง เมื่อเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับรอเวลาอย่างอดทน จนถึงในที่สุดก็ทำประตูชัยได้จาก คีย์เชอร์ ฟูลเลอร์ ที่ทำให้พวกเขายังมีลมหายใจมาถึงตอนนี้ แถมยังไม่ใช่ทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

เรื่องดี ๆ สำหรับคอสตาริก้าในนัดนี้ก็คือ ถ้าชนะพวกเขาจะได้เข้ารอบ แล้วจะหรูหราหมาเห่ายิ่งขึ้น หากญี่ปุ่นกับสเปนเสมอกัน เพราะพวกเขาจะได้เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มอีกต่างหาก แน่นอนว่าสถานการณ์ไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะคู่แข่งที่พวกเขาต้องเจอคือเยอรมนี

ในกรณีที่เสมอ คอสตาริก้าจะเข้ารอบถ้าญี่ปุ่นแพ้สเปน แต่ถ้าสเปนแพ้ ในทางทฤษฎี คอสตาริก้ายังมีโอกาสเข้ารอบ แต่สเปนต้องแพ้เกิน 13 ประตูขึ้นไป!!! เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าเป็นที่สอง แล้วถ้าคอสตาริก้าแพ้ หรือทั้งสองคู่จบด้วยการเสมอกัน ก็ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น ตีตั๋วกลับบ้านได้เลย

เยอรมนีดูเหมือนจะยังช็อคจากการเป็นแชมป์เก่า แล้วตกรอบแรกจากฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ที่ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงครั้งนี้ ที่เริ่มจากการพ่ายญี่ปุ่นแบบสุดช็อค ยังดีที่สามารถตีเสมอสเปนต่อลมหายใจได้มาถึงตอนนี้ ที่การจมอยู่อันดับท้ายสุดในกลุ่ม ทำให้โอกาสเข้ารอบของพวกเขามีไม่มากนัก และดูจะซับซ้อนกว่าอีก 3 ทีมที่เหลือ

โดยถ้าสเปนและเยอรมนีชนะทั้งคู่ พวกเขาจะกลายเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ถ้าเยอรมนีชนะและสเปนแพ้ อันดับ 2 พวกเขาจะต้องมาแย่งที่ 2 ของกลุ่มกัน ด้วยการนำสถิติต่าง ๆ มาวัด แต่นี่ยังไม่ซับซ้อนเท่ากับหากญี่ปุ่นกับสเปนเสมอกัน 0-0 แล้วเยอรมนีชนะพวกเขาจะได้เข้ารอบ ถ้าญี่ปุ่นกับสเปนเสมอกันแบบมีประตู อันดับ 2 ของกลุ่มจะถูกจัดด้วยการวัดสถิติต่าง ๆ แล้วถ้าเยอรมนีชนะ 2 ประตูขึ้นไป พวกเขาจะขึ้นที่ 2 ของกลุ่มและส่งญี่ปุ่นลงมาที่ 3 ทันที

เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

เยอรมันนี จะล้างอายจากฟุตบอลโลก 2018 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้หรือไม่ (ภาพ: thedailyguardian.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของคอสตาริก้าและเยอรมนี

คอสตาริก้าไม่น่าจะเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากนักในเกมนัดสุดท้าย ที่ยังต้องชิงการเข้ารอบ 16 ทีมของทุกทีมในสาย ยกเว้น ฟรานซิสโก้ คัลโว เซนเตอร์แบ็คคนเก่งจะไม่ได้ลงสนามเพราะติดโทษแบน แดเนียล ชาคอนดาวเตะวัย 21 ปี ที่เข้ามาเสริมแนวหลังของทีมได้เป็นอย่างดีในเกมเจอกับญี่ปุ่น อาจจะต้องนั่งข่างสนามก่อน เมื่อทีมน่าจะอยากได้ประสบการณ์ของตัวเก่า ฮวน พาโบล วาร์กาส ในการรับมือกับเยอรมนีมากกว่า

เจวิสัน เบนเน็ตต์ ดาวรุ่งจากซันเดอร์แลนด์ เป็นตัวสำรองในเกมเจอกับญี่ปุ่น แต่เมื่อเกอร์สัน ตอร์เรส และแอนโธนี่ คอนเตราส โชว์ฟอร์มไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ไอ้หนูวัย 18 ปีน่าจะได้รับโอกาส

เยอรมนี ฮันซี่ ฟลิคมีข่าวดีเมื่อได้เลรอย ซาเน่กลับมา และส่งลงเล่นเป็นตัวสำรอในเกมที่แล้วเรียบร้อย แต่เพราะเพิ่งหายจากอาการเจ็บเข่า ดาวเตะบาเยิร์น มิวนิกรายนี้น่าจะสตาร์ตด้วยการเป็นผู้เล่นสำรองก่อน ข่าวดีอีกอย่างของฝั่งเยอรมนีก็คือ ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่มีข่าวร้ายที่โค้ชส่วนใหญ่ชอบ นั่นก็คือ ไม่รู้จะเลือกใครเล่นเป็นศูนย์หน้า ระหว่างฟัลล์ครูก กับโธมัส มุลเลอร์

ถ้าซาเน่ได้ลงเล่น อิลกาย กุนโดกันจะลงเล่นต่ำลงมาอีก และทำให้ลีออน กอเร็ตซ์ก้าต้องไปอยู่ที่ม้านั่งสำรอง ส่วนตำแหน่งแบ็คขวา ลูคัส คลอสเตอร์มานน์ กับนิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค อาจต้องแย่งกันเพื่อลงเล่นแทนธิโล เคห์เรอร์

ทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลยูโร 2020

แม้จะเข้ารอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ แต่ก็จบแค่รอบนี้ ในยูโร 2020 ที่เยอรมนีต้องกู้ชื่อมาให้ได้ในฟุตบอลโลก 2020 (ภาพ: www.sportsadda.com)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของคอสตาริก้าและเยอรมนี

คอสตาริก้า ระบบ 5-4-1: นาวาส; ฟูลเลอร์, ดูอาร์เต้, วัตสัน, ชาคอน, โอวีโด้; ทอร์เรส, บอร์เกส, เทเจดา, แคมป์เบลล์; คอนเตราส
เยอรมนี ระบบ 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, ซูเล่, รือดิเกอร์, รอม; กุนโดกัน, คิมมิช; กนาร์บรี้, มูเซียล่า, ซาเน่; ฟัลล์ครูก

ผลการแข่งขันระหว่างคอสตาริก้าและเยอรมนี

แม้จะเล่นได้ดีขึ้นในนัดที่สอง โดยเฉพาะการประสานงานในเกมรับ แต่คอสตาริก้ายังคงมีปัญหาในเรื่องแนวรุก และการทำประตู ที่น่าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเยอรมนี ที่ฝ่ายหลังนอกจากจะได้ซาเน่กลับมา ยังได้ผู้เล่นที่น่าจะยืนหน้าเป้าได้แล้ว งานนี้อินทรีเหล็กเยอรมัน จะผ่านคอสตาริก้าได้ ส่วนจะได้เข้ารอบหรือไม่ ก็ต้องไปดูผลอีกสนาม

เยอรมนีชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร

2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
5. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?

สเปน กระทิงดุเปิดศึกยักษ์ชนยักษ์กับเยอรมนี ที่อินทรีเหล็กแพ้ ถึงตกรอบฟุตบอลโลก 2022

สเปน กระทิงดุเปิดศึกยักษ์ชนยักษ์กับเยอรมนี ที่อินทรีเหล็กแพ้ ถึงตกรอบฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม อี สเปน – เยอรมนี

วันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: Nation TV/ True Sports 2

สเปน ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

กระทิงดุ สเปน จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของสเปนและเยอรมนี

ศึกรุ่นเฮฟวี่เวตของฟุตบอลโลก 2022 เมื่อสเปนที่ถล่มคอสตาริก้ามายับเยิน 7-0 ทำสถิติชนะมากที่สุดในฟุตบอลโลกสำหรับทีมแดนกระทิงดุ เจอกับอินทรีเหล็กปีกหัก ที่โดนซามูไรญี่ปุ่นเชือดนิ่ม ๆ แบบพลิกเกมและพลิกล็อค 2-1 ที่หากลูกทีมของฮันซี่ ฟลิค ไม่สามารถเอาชนะเกมนี้ได้ เส้นทางฟุตบอลโลกของพวกเขาก็น่าจะจบลงตรงนี้

ประตูจากดานี่ โอลโม่, มาร์โค อเซนซิโอ และเฟอร์ราน ตอร์เรส ทำให้ยอดถล่มประตูของสเปนในฟุตบอลโลก ผ่านหลักร้อย และจบเกมกับคอสตาริก้าแค่เวลา 30 นาทีของครึ่งแรก เมื่อนำทีมจากคอนคาแคฟไปแล้ว 3-0 ก่อนที่ครึ่งหลังกระทิงดุจะขวิดคอสตาริก้าดับอนาถด้วยอีก 4 ประตู ทำสถิติครองบอลในเกมนี้ถึง 81.9% มากที่สุดนับตั้งแต่มีการจับสถิติในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกปี 1966 ยิ่งไปกว่านั้นคอสตาริก้ายังไม่มีโอกาสสับไกใส่สเปนเลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นการออกสตาร์ตฟุตบอลโลกที่หรูยิ่งกว่าหรูของสเปน ภายใต้การทำทีมของลุยส์ เอ็นริเก้ และหากพวกเขาเอาชนะเยอรมนีได้ น่าจะทำให้สเปนที่ถูกมองว่าเป็นทีมแกร่ง แต่ยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะคว้าแชมป์โลกหนนี้ พูดถึงอีกครั้งในฐานะตัวเต็งแชมป์อีกราย

ขณะที่เยอรมนีจบเกมครึ่งแรกเหนือญี่ปุ่นด้วยสกอร์ 1-0 จากลูกโทษของอิลกาย กุนโดกัน รวมถึงมีโอกาสพังประตูญี่ปุ่นอีกมากมายหลายครั้ง จนถึงช่วงต้นครึ่งหลังแต่ก็ทำไม่สำเร็จ และก็เป็นญี่ปุ่น ที่ทำประตูยิง 2 ลูกรวดแซงนำจากนักเตะที่เล่นในบุนเดสลีก้า ริตสุ โดอัน จากไฟร์บวร์ก และทาคุมะ อะซาโนะ จากวีเอฟแอล โบคุ่ม

เยอรมนีที่รั้งอันดับ 10 ในการจัดอันดับของฟีฟ่า เพิ่งชนะไปแค่ 2 นัดจาก 9 นัดหลัง และด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทำให้เกมระหว่างอินทรีเหล็กกับสเปน ความกดดันถาโถมใส่ฝั่งแชมป์ 5 สมัยมหาศาล โดยเฉพาะถ้าเกมระหว่างญี่ปุ่นและคอสตาริก้า ที่เล่นกันก่อนจบลงด้วยการที่ทีมญี่ปุ่นมีแต้ม เยอรมนีมีแค่ตัวเลือกเดียวคือชนะสเปน หากต้องการผ่านเข้ารอบ 16 ทีม และไม่ตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2 ครั้งรวดติดต่อกันเป็นครั้งแรก

ขณะที่สเปนสถานการณ์ดูจะผ่อนคลายกว่า แต่กับการเจอกับทีมใหญ่ของยุโรป คำถามเป็นเรื่องของรูปเกมมากว่า ว่าทีมกระทิงดุจะทำได้เหมือนในเกมกับคอสตาริก้าได้ไหม ส่วนเรื่องของผลการแข่งขัน หากสเปนขวิดเยอรมนีสำเร็จ พวกเขาจะผ่านเข้ารอบทันที และเพื่อความมั่นใจ ในเกมสุดท้ายที่เจอกันเมื่อพฤศจิกายน 2020 ซึ่งเป็นเกมยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก สเปนถล่มเยอรมันไป 6-0

หลังจากคว้าแชมป์โลกในปี 2010 สเปนถือว่าทำได้ไม่ดีในฟุตบอลโลกสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะตกรอบแรกในปี 2014 และตกรอบ 16 ทีมในปี 2018 และหากจะทำได้ดีกว่าสองครั้งล่าสุด พวกเขาต้องเริ่มจากการเข้ารอบ 16 ทีมให้ได้

ทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลยูโร 2020

แม้จะเข้ารอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ แต่ก็จบแค่รอบนี้ ในยูโร 2020 ที่เยอรมนีต้องกู้ชื่อมาให้ได้ในฟุตบอลโลก 2020 (ภาพ: www.sportsadda.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของสเปนและเยอรมนี

สเปนไม่น่าจะเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมแรกมากนัก แดนหน้า ตอร์เรส, อเซนซิโอ และโอลโม่ จะยังเป็นสามหัวหอก ส่วนแดนกลาง กาบี้ ได้หนูวัย 18 ที่ทำประตูประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลก ยังได้เล่นร่วมกับกับเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลน่า เปดรี้กับแซร์จิโอ บุสเก็ตส์ อายเมอริก ลาปอร์ตที่ได้คู่เซนเตอร์สุดเซอร์ไพรส์เป็นโรดรี้ เพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะเป็นคู่ที่ถูกเลือกมากกว่า เปา ตอร์เรสกับอีริก การ์เซีย อเลฆานโดร บัลเด้ ดาวเตะวัย 19 ที่ถูกเรียกมาแทนโฆเซ่ กายาในช่วงท้าย ลงเล่นทีมชาตินัดแรกไปแล้ว เมื่อลุกจากม้านั่งสำรองลงสนามในเกมคอสตาริก้า และเกมนี้ก็น่าจะเริ่มต้นที่เดิม ขณะที่จอร์ดี้ อัลบาจะเป็น 11 คนแรกในตำแหน่งแบ็คซ้าย

เยอรมนี เลรอย ซาเน่ ที่พลาดเกมกับญี่ปุ่นเพราะเจ็บเข่า ยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ แต่ข่าวดีคือ เขากลับมาลงซ้อมได้แล้ว ฟลิคอาจจะไม่เปลี่ยนเป็นผู้เล่นมากนักในเกมนี้ นิคลาส ซูเล, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค และเดวิด รวม จะยืนเป็นแนวรับหน้ามานูเอล นอยเออร์ ในแดนกลาง กุนโดแกนน่าจะได้ลงคู่กับโจชัว คิมมิชเหมือนนัดแรก และหากทำประตูได้ เขาจะกลายเป็นนักเตะเยอรมนีคนแรก ที่ทำประตูใน 2 นัดแรกของฟุตบอลโลกได้ นับตั้งแต่มิโรสลาฟ โคลเซ่ในปี 2002 ไค ฮาเแวร์ตซ์ ที่เล่นไม่ดีนักในแดนหน้า อาจจะถูกแทนที่โดย คาริม อะเดเยมี่, นิคลาส ฟูลล์ครัก และยูสซูฟา มูโคโค

สเปน กระทิงดุเปิดศึกยักษ์ชนยักษ์กับเยอรมนี ที่อินทรีเหล็กแพ้ ถึงตกรอบฟุตบอลโลก 2022

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของสเปนและเยอรมนี

สเปน ระบบ 4-3-3: ซิมง; คาร์บาฆาล, ลาปอร์ต, โรดรี้, อัลบา; เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี้; เฟอร์ราน ตอร์เรส, อเซนซิโอ, โอลโม่
เยอรมนี 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, รือดิเกอร์, ชล็อตเทอร์เบ็ค, รวม; กุนโดกัน, คิมมิช; กนาร์บี้, มุลเลอร์, มูเซียล่า; ฮาแวร์ตซ์

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดเขายอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

สถานการณ์ของเกมระหว่างสเปนและเยอรมนี

ไม่ว่าจะในสภาพทีมปัจจุบัน หรือว่าจากสถิติในอดีต สถานการณ์ของเยอรมนีไม่สู้ดีนัก เมื่อพวกเขาชนะสเปนได้แค่นัดเดียว จากการพบกัน 7 ครั้งในช่วง 19 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นเกมกระชับมิตรเมื่อพฤศจิกายน 2014 โดยเฉือนกระทิงดุไป 1-0 และสำหรับเกมที่เป็นการแข่งขันพวกเขาเอาชนะสเปนครั้งสุดท้ายก็ในยูโร 1988 ด้วยสกอร์ 2-0

และในเกมนี้ โอกาสที่เยอรมนีจะชนะก็มีน้อยเหลือเกิน เมื่อเพิ่มเติมด้วยสภาพผู้เล่น

สเปนชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ

2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จะเปิดสนามกลุ่ม อี ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2022

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จะเปิดสนามกลุ่ม อี ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม อี เยอรมนี – ญี่ปุ่น

เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

เยอรมันนี จะล้างอายจากฟุตบอลโลก 2018 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้หรือไม่ (ภาพ: thedailyguardian.com)

 

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

เกมในกลุ่ม อี วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอด 7HD/ True Sports 2: นัดแรกของกลุ่มอี เป็นการเจอกันของแชมป์โลก 4 สมัย เยอรมนี ที่เพิ่งคว้าแชมป์หนสุดท้ายไปเมื่อ 8 ปีก่อนที่บราซิล กับทีมแกร่งจากเอเชีย – ญี่ปุ่น ซึ่งหลังตกรอบแรกแบบน่าเกลียดที่รัสเซีย แน่นอนว่าอินทรีเหล็กไม่ได้มองแค่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเท่านั้น หากทุกอย่างต้องเริ่มด้วยการออกสตาร์ตที่ดี เพราะคู่แข่งที่เหลือคือ สเปน ทีมโคตรแกร่งอีกทีม และคอสตาริก้า ที่พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์

เส้นทางก่อนการเจอกันของ เยอรมนี – ญี่ปุ่น

ฮันซี่ ฟลิค ทีมชาติเยอรมัน ฟุตบอลโลก 2022

ฮันซี ฟลิค โค้ชเจ้าของภารกิจ พาทีมชาติเยอรมันนี กลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง (ภาพ: Marcus Brandt/dpa via AP)

เยอรมนีเดินทางมากาตาร์พร้อมภารกิจล้างอาย หลังจากฟุตบอลโลกหนก่อนพวกเขาในฐานะแชมป์เก่าต้องตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะย่ำแย่ซ้ำในยูโร 2020 จนโยอาคิม เลิฟ ที่นำพวกเขาคว้าแชมป์โลกต้องลงจากเก้าอี้ และฮันซี่ ฟลิคที่ทำทีมบาเยิร์น มิวนิกประสบความสำเร็จอย่างสวยงามเข้ามารับหน้าที่แทน และนี่คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่หนแรกของเขา ส่วนญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฟุตบอลโลก 2018 แบบโคตรหวุดหวิด เพราะสะสมใบเหลืองน้อยกว่าเซเนกัล หลังสถิติทุกอย่างก่อนหน้าในกลุ่มเท่ากันหมด

แม้สถานการณ์ของเยอรมนีอาจจะขาดความสม่ำเสมอ แต่ฟลิคก็เชื่อว่าพวกเขาน่าจะสานต่อการเล่นนัดแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ชนะ 7 จาก 8 ครั้งหลังสุดได้สำเร็จ ต่างจากญี่ปุ่นที่ชนะนัดแรกในฟุตบอลโลกแค่ 2 จาก 6 นัดหลังสุด รวมถึงยังไม่ได้เล่นเกมที่มีการแข่งขันจริง ๆ จัง ๆ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะที่ห้านัดหลังสุดของเยอรมนี ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยเจอคู่แข่งแกร่ง ๆ อย่างอังกฤษ, อิตาลี และฮังการีที่กำลังกลับมาในยุโรป ส่วนญี่ปุ่น ชนะสหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้ แพ้แคนาดา เสมอเอกวาดอร์และเกาหลีใต้

แม้จะล้มเหลวในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติ 2 รายการติดต่อกัน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เยอรมนีเจอสถานการณ์แบบนี้ และเมื่อเกิดขึ้น พวกเขาก็กลับมาได้ทุกครั้งไป ซึ่งบางทีจุดเปลี่ยนอาจจะเกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้โดยเริ่มจากนัดนี้ก็เป็นได้

ความพร้อมของนักเตะเยอรมนีและญี่ปุ่น

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดเขายอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

ถึงจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด แต่เยอรมนีก็มีนักเตะคุณภาพเสมอ ชุดนี้ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น กัปตันทีม โธมัส มุลเลอร์ กับแก๊งบาเยิร์น มิวนิก – แซร์ก กนาร์บรี้, เลรอย ซาเน่, โจชัว คิมมิช รวมถึงดาวรุ่ง จามาล มูเซียล่า ที่การเล่นด้วยกันเป็นประจำของนักเตะกลุ่มนี้ กลายเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับทีม โดยนัดนี้ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ จากอาร์เบ ไลป์ซิกที่ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย 34 นาที น่าจะพร้อมลงช่วยทีม หลังสัมผัสเกมระดับสโมสรแค่นัดเดียว ก่อนบาดเจ็บที่ข้อเท้าเมื่อเดือนสิงหาคม แต่คงไม่ใช่ 11 คนแรก ส่วนโธมัส มุลเลอร์กับอันโตนิโอ รือดิเกอร์ ถึงไม่ได้ลงเล่น แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา และน่าจะเป็นการเก็บตัวให้พร้อมลงเล่นนัดแรกของทีมมากกว่า แต่ก่อนเตะไม่กี่ชั่วโมงก็มีข่าวว่าซาเน่จะพลาดนัดนี้ เนื่องจากเจ็บเข่า 

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

ญี่ปุ่นที่เป็นทีมระดับหัวแถวของเอเชียไปแล้ว มีนักเตะที่เล่นในลีกยุโรปไม่น้อย แต่จะไม่มียูยะ นากายาม่า จากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ที่ต้องผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย ซึ่งเรียกซูโตะ มาชิโนะ มาแทนเรียบร้อย วาตารุ เอ็นโดะ ที่ถูกหามออกจากสนามในเกมนัดสุดท้ายของสตุ๊ตการ์ตก่อนศึกฟุตบอลโลก ติดทีมมาด้วย ทาเคฮิโร โทมิยาสุที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในเกมยูโรป้าลีก นัดอาร์เซน่อลชนะเอฟซี ซูริก เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน และลงเล่นเกมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลกนัดเจอกับแคนาดาในฐานะตัวสำรอง น่าจะพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับพวกตัวเก๋า ๆ ของทีม มายะ โยชิดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ และทาเคฟูซะ คูโบะ ดาวรุ่งของเรอัล โซซิดัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเยอรมนีและญี่ปุ่น

เยอรมนี ระบบ 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, ซูเล่, รือดิเกอร์, รวม; คิมมิช, โกเร็ตซก้า; ฮอฟมันน์, มูเซียลา, มุลเลอร์; ฮาแวร์ตซ์
ญี่ปุ่น ระบบ 4-2-3-1: ชมิดต์; ซากาอิ, โยชิดะ, โทมิยาสุ, นากาโตโมะ; ชิบิซากิ, มอริตะ; จุนยะ อิโต, คามาดะ, คูโบะ; มินามิโนะ

ผลการแข่งขันระหว่างเยอรมนีและญี่ปุ่น

จะว่าไปแล้วนักเตะและแฟนบอลเยอรมนี น่าจะคุ้นกับนักเตะญี่ปุ่นไม่น้อย เมื่อหลายรายเคยเล่นหรือกำลังเล่นอยู่ในลีกเยอรมนี ขณะเดียวกัน เกมของเยอรมนีก็เป็นเรื่องที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างดี แถมทั้งสองทีมยังเล่นไม่ต่างกัน เน้นการคอนโทรลเกม ให้บอลกันเป็นกลุ่ม ๆ แล้วพยายามเปลี่ยนการครองบอลให้กลายเป็นเกมรุก ด้วยการจ่ายบอลทะลุแนวรับ โดยที่ไม่มีหน้าเป้าที่ตายตัว

แน่นอนว่าโอกาสชนะของอินทรีเหล็กมีมากกว่าทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยแน่ ๆ แต่การที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ผ่านเกมในยุโรปมานักต่อนัก ใช่ว่าญี่ปุ่นจะไม่มีโอกาส หากท้ายที่สุด ก็ต้องยอมรับในมาตรฐานของเยอรมัน ที่น่าจะบดชนะไปได้หวุดหวิด

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตอน 2

เสื้อบอลโลก 2022 ส่งกล้องมองผ้า เสื้อทีมในรอบสุดท้ายของกลุ่ม อี – เอช

เสื้อฟุตบอลโลก 2022 ของกลุ่มอี-เอช

จาก 16 ทีมในกลุ่ม เอ – ดี ที่อวดโฉมชุดแข่งในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายออกมาให้เห็น ซึ่งแต่ละทีมก็ทำออกมาได้อย่างฉูดฉาดจับตาและทำให้สนามหญ้าสีเขียวของกาตาร์​ กลายเป็นเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ที่บรรดาดีไซเนอร์ของแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาทั้งหลายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าใหญ่ อย่าง ไนกี้, อดิดาส หรือว่าเจ้าเล็ก ๆ อย่าง มาราธอน, ฮุมเมล, คัปป้า หรือว่าแบรนด์ท้องถิ่น เช่น มาจิด ต่างเค้นไอเดีย ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่มาทำให้เสื้อของทีมที่ตัวเองดูแลมีสีสัน ที่จะว่าไปแล้วไม่แพ้เกมการเล่นอย่างแน่นอน

และวันนี้เราจะมาดูแฟชั่นฟุตบอลโลกของอีก 16 ทีมที่เหลือในกลุ่ม อี – เอช

เสื้อบอลโลก ส่องแฟชั่นของแต่ละกลุ่ม

กลุ่มอี: สเปน, คอสตาริก้า, เยอรมนี, ญี่ปุ่น

3 ใน 4 ทีมของสายนี้ ใช้บริการของอดิดาส แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในโลกของฟุตบอล ที่ในฟุตบอลโลกหนนี้ดูจะเสียรังวัดไปไม่น้อย เพราะคู่แข่ง อย่าง ไนกี้ ครองแค็ตวอล์กแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ไปเรียบร้อยเมื่อมีทีมใช้บริการมากที่สุด ขณะที่หนึ่งเดียวในกลุ่มนี้ที่ไม่เข้าพวกก็คือ คอสตาริก้า ที่ใช้บริการของนิวบาลานซ์ ซึ่งตัวเสื้อก็มาแบบเรียบ ๆ ดูคลาสสิกเน้นสีธงชาติ ชุดเหย้าสีแดง ชุดเยือนสีขาว และมีลูกเล่นที่ปลายแขนสีฟ้า ที่ดูเหมือนต่อออกมาจากตัวเสื้อ ส่วนสามทีมที่อดิดาสส่งเข้าประกวด เยอรมนีดูเก๋ด้วยแถบสีดำพาดกลางเสื้อสีขาวบริเวณหน้าอก จากคอถึงชายเสื้อ แต่ที่แปลกตาก็คือชุดเยือนที่ใช้สีแดงเลือดนกสลับดำเล่นลายกราฟิก สเปนชุดเหย้าเป็นสีแดงที่ดูเรียบ ๆ แต่ชุดเยือนสีขาวสลับกับกราฟิกในเนื้อผ้าสีฟ้าอ่อน ดูสวยดีทีเดียว ปิดท้ายด้วยญี่ปุ่น ที่ดูเตะตาทั้งชุดเหย้าสีน้ำเงินเข้มสลับน้ำเงินอ่อน และชุดขาวที่กราฟิกบริเวณไล่มาถึงปลายแขน ทำให้เสื้อที่ดูเหมือนไม่อะไรตัวนี้เตะตาขึ้นมาทันที

สเปน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เสื้อทีมชาติสเปน ที่ชุดเยือนดูเตะตามาก ๆ (ภาพ: Footy Headlines)

คอสตาริก้า แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ในฟุตบอลโลก 2022 หรือแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 นิวบาลานซ์ มีทีมเข้าประกวดแค่ทีมเดียวคือ คอสตาริก้า (ภาพ: Footy Headlines)

เยอรมนี แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเหย้าของเยอรมนีมีแถบตามยาวลากจากคอมาถึงชายเสื้อ ดูมีเสน่ห์ ส่วนชุดเหย้าก็เล่นสีได้มันส์ (ภาพ: Footy Headlines)

ญี่ปุ่น แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น หนึ่งในขาประจำเสื้อสวย ที่ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ก็ยังสวยงามเหมือนเดิม (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม เอฟ: เบลเยี่ยม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
มีถึงสามแบรนด์มาประชันกัน พูม่าสินค้าตราเสือดูแลเสื้อให้ทีมจากแอฟริกา เสื้อชุดเหย้ายังคงเอกลักษณ์เดิม สีแดงและมีแถบสีเขียวคาดกลางหน้าอก ชุดเยือนแม้จะเป็นแพ็ทเทิร์นเหมือน ๆ ทีมอื่น ๆ ที่ใช้บริการแบรนด์เดียวกัน แต่การที่ไม่มีกรอบและพิมพ์ลายสีสีเทาอ่อน ๆ ลงในเนื้อผ้า ก็ทำให้แตกต่าง อดิดาสที่ใช้บริการโดยเบลเยี่ยม ชุดเหย้าสีแดงมีสีดำบริเวณไหล่ไปถึงแขน แล้วมีกิมมิกที่ปลายแขนเป็นกราฟิกเปลวเพลิง ชุดเยือนสีขาวดูเผิน ๆ เหมือนจะเรียบ ๆ แต่การเล่นสีบริเวณคอและปลายแขนก็ทำให้ดูดีขึ้นมา ส่วนแคนาดาที่ใช้บริการไนกี้ และไม่ได้ออกเสื้อใหม่รับฟุตบอลโลก ทำให้ตกแค็ตวอล์กแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ไปเรียบร้อยมาแบบเรียบ ๆ สีแดงและขาว โดยคัตติ้งเป็นแพ็ทเทิร์นเดียวกับเสื้อหลาย ๆ ทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ ส่วนโครเอเชีย โดดเด่นเสมอด้วยตารางหมากรุก แต่ไม่ได้ปูเต็มตัวเหมือนเคย โดยเฉพาะในชุดเยือนสีน้ำเงินเข้ม ตารางสีพื้นสลับกับฟ้า ก็ดูไม่ต่างจากงานอาร์ต

เบลเยี่ยม แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ปีศาจแดงเบลเยี่ยม มาพร้อมพลังเพลิงสำหรับชุดเหย้า ขณะที่ชุดเยือนก็มาแบบเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นที่คอและปลายแขน (ภาพ: Footy Headlines)

แคนาดา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แคนาดาเป็นชาติเดียวที่ไม่มีเสื้อใหม่สำหรับแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Footy Headlines)

โมร็อกโก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

พูม่ายังคงเอกลักษณ์ชุดเหย้าของโมร็อกโก ที่มีแถบสีเขียวพาดกลางหน้าอกเอาไว้ ชุดเยือนก็มีลูกเล่นนิดหน่อย ทำให้ไม่เหมือนเสื้อฟอร์แม็ตนัก (ภาพ: Footy Headlines)

โครเอเชีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ตารางหมากรุกคือลายเซ็นบนเสื้อของโครเอเชียมาตลอด และหนนี้ก็ยังไม่หายไปไหน แต่ชุดเยือนดูเหมือนจะเข้าตามากกว่าชุดเหย้า (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม จี: บราซิล, เซอร์เบีย, สวิสเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
แคเมอรูนคือชาติเดียวในฟุตบอลโลก 2022เดียวที่ยังไม่เปิดตัวเสื้อทีม แม้จะมาถึงเดือนตุลาคมแล้ว พวกเขาให้วันออลสปอร์ตส์ แบรนด์ที่มีเครดิตจากสายมอเตอร์สปอร์ตดูแลให้ ถึงจะยังไม่มีเสิื้อทีม แต่ก็ปล่อยชุดในวาระต่าง ๆ ของแคเมอรูนออกมาให้เห็นพอสมควร ส่วนชาติอื่น ๆ บราซิลยังใช้บริการไนกี้ ซึ่งตัวเสื้อคราวนี้ ชุดเยือนดูเด่นกว่าชุดหย้าในเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 เซอร์เบียกับสวิสเซอร์แลนด์ ใช้บริการของพูม่า ตัวชุดเยือนมาในคอนเซ็ปต์เดียวกับเสื้อชาติอื่น ที่ใช้บริการพูม่า มีตราทีมชาติกลางหน้าอก แล้วก็ต้องมีกรอบสี่เหลี่ยมหรือวงกลมที่มีเบอร์ผู้เล่นอยู่ข้างใน แต่สวิสฯ ดูจะฉีกออกไปเล็กน้อย เมื่อเป็นแถบคาดสีแดงขวางหน้าอก ตราทีมชาติกับโลโก้พูม่าขยับลงมาเล็กน้อย ก็ทำให้ฉีกไปจากฟอร์แม็ตที่ดูซ้ำ ๆ ได้พอสมควร ขณะที่เสื้อทีมเหย้าซึ่งใช้สีแดงเหมือนกันสวิสฯ ดูจะมีลูกเล่นมากกว่าตรงกราฟิกลายเส้นที่ขาวที่ไหล่

บราซิล แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเยือนของบราซิล ดูเตะตากว่าชุดเหย้าที่ออกไปทางคลาสสิก อย่างเห็นได้ชัด (ภาพ: Footy Headlines)

สวิสเซอร์แลนด์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

สวิสเซอร์แลนด์ ยังคงใช้บริการของพูม่า ที่ทำชุดเยือนออกมาเป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกันทุกทีมก็ว่าได้ (ภาพ: Footy Headlines)

เซอร์เบีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เซอร์เบีย กับชุดที่ดูเรียบ ๆ ทั้งชุดเหย้า และชุดเยือน (ภาพ: Footy Headlines)

แคเมอรูน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แคเมอรูน คือชาติเดียวที่ยังไม่เผยเสื้อทีมออกมาให้เห็นเต็มตาจนถึงขณะนี้ (ตุลาคม) (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม เอช: โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ปิดท้ายการส่งเสื้อทีมในแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ด้วยกลุ่มที่เป็นการดวลระหว่างไนกี้กับพูม่า ที่ฝ่ายแรกส่งโปรตุเกสและเกาหลีใต้เข้าประกวด เสื้อชุดเหย้าของโปรตุเกสมาแบบเรียบ ๆ แต่เล่นกับสีธงชาติโดยสีพื้นเป็นแดงแต่มีสีเขียวพาดจากปลายแขนขวาต่อมาถึงช่วงล่างของเสื้อ ขณะที่ชุดเยือนดูเตะตากว่า สีขาวปลายแขนดำ และมีสีธงชาติแดง-เขียว พาดขวางหน้าอก เกาหลีใต้ชุดเหย้ามาในฟอร์แม็ตเดียวกับเหย้าของโปแลนด์แต่เปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นแดง แต่ชุดเยือนถือว่าแซ่บมาก มีอารมณ์แบบงานอาร์ต สาดสีใส่ผืนผ้าใบสีดำ กานากับอุรุกวัยที่ให้พูม่าดูแล ชุดเยือนมาตามสูตรของพูม่าขณะที่ชุดเหย้าก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษ ถือว่าไม่ค่อยมีเสน่ห์โดนตาสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ

โปรตุเกส แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

จากสีแดงเต็มตัว หนนี้ชุดเหย้าของโปรตุเกส จะมีสีเขียวของธงพาด ขณะที่ชุดเยือนก็ออกมาดูดี และเล่นกับสีธงชาติเช่นกัน (ภาพ: Footy Headlines)

กานา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

กานามาเรียบ ๆ ชุดเหย้าคล้าย ๆ กับเซอร์เบีย แต่เปลี่ยนสี มีสันที่ปลายแขน และแน่นอนชุดเยือนก็มาฟอร์แม็ตเดียวกับชุดทีมอื่น ๆ ที่พูม่าดูแล (ภาพ: Footy Headlines)

อุรุกวัย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

มาแบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา คือนิยามของเสื้อทีมอุรุกวัยในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Footy Headlines)

เกาหลีใต้ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ดูดีทั้งชุดเหย้าและเยือนสำหรับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เหลือก็คือฟอร์มการเล่นของทีม (ภาพ: Footy Headlines)

และนี่คือบรรดาเสื้อทีมชาติต่าง ๆ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ทำให้กาตาร์และทัวร์นาเมนต์นี้เป็นสนามแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ไปในคราวเดียวกัน

ภาพปก: FOOTYHEADLINES
เรื่องน่าอ่าน: แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี

ฟุตบอลโลก 2022 โอกาสที่จะพุ่งเป็นซูเปอร์สตาร์ ของบรรดาดาวอับแสงในสโมสร ที่ส่องแสงในทีมชาติ

ฟุตบอลโลก 2022 โอกาสที่จะพุ่งเป็นซูเปอร์สตาร์ ของบรรดาดาวอับแสงในสโมสร ที่ส่องแสงในทีมชาติ

ฟุตบอลโลก 2022 คือโอกาสสำคัญของนักเตะบางคน ผู้เล่นบางราย ที่ลงเล่นทีมชาติทีไรเหมือนได้้ใส่เกราะเพชร 7 สี เพราะทำได้ดีกว่าเวลาใส่เสื้อตราสโมสรผิดหูผิดตา จนเวลาลงเล่นในสนามกับสโมสรมีเพียงน้อยนิด และส่งผลให้แฟนบอลได้เห็นเขาลงเล่นเพียงไม่กี่นัดในแต่ละฤดูกาล

องค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็คือ รูปแบบการเล่น หรือกระทั่งการยืนตำแหน่งที่แตกต่างกัน รวมถึงเพื่อนร่วมทีม ที่ทำให้พวกเขายกระดับการเล่นได้สำเร็จ และในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ มีดาวดังไม่น้อยที่รอโอกาสฉายแสง การได้เป็นขาประจำในทีมชาติ ได้ลงเล่นให้แฟน ๆ ได้เห็นความสามารถอย่างน้อยก็ 3 นัด ที่หากทำได้ดี พวกเขาก็จะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในเวทีฟุตบอลโลก และนี่คือ 6 นักเตะที่สื่ออย่างอีเอสพีเอ็นให้จับตา และเราเอามาเล่าต่อ

คริสเตียน พูลิซิส อายุ 24 ปี เชลซี/ สหรัฐอเมริกา

คริสเตียน พูลิซิส สหรัฐอเมริกา ฟุตบอลโลก 2022

ไม่ใช่แค่เป็นกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกา แต่คริสเตียน พูลิซิส ยังเป็นดาวเตะคนสำคัญของทีมชาติ ที่จะได้โอกาสส่องแสงแน่ ๆ ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: www.planetfootball.com)

ช่วงลงเล่นให้เชลซีใหม่ ๆ หลังย้ายมาจากโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ พูลิซิสดูจะเป็นสตาร์ดวงใหม่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์สำเร็จ ซัลโว 9 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรก และมีส่วนร่วมกับเกมอย่างที่เห็น แต่ชีวิตกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกากลับน่าเป็นห่วง แต่เมื่อโค้ชโธมัส ทูเคิลมาคุมทีม เขากลับไม่ค่อยถูกใช้บริการอย่างที่เคย พอลงเล่นก็ไม่ใช่ตำแหน่งโปรด – กองกลางด้านซ้าย ปีนี้เขาจะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองครั้งใหม่ ด้วยการเริ่มต้นใหม่กับโค้ชใหม่ แกรห์ม พ็อตเตอร์ หากในทีมชาติพูลิซิสยังเป็นนักเตะตัวหลักคนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ สถิติ 21 ประตู และ 12 ลูกจ่าย จาก 51 นัดการันตี หนึ่งในนั้นคือการซัดแฮ็ททริคใส่ปานามา แม้ฟอร์มในชุดสิงโตน้ำเงินครามอาจจะยังน่าเป็นห่วง แต่เขามีของมากกว่านั้นแน่ ๆ และด้วยเกมในฟุตบอลโลก 2022 อย่างน้อยก็ 3 นัด คือโอกาสสำคัญที่พูลิซิสจะแสดงให้เห็นว่า เขาทำอะไรได้มาก และดีขนาดไหน

เฟร็ด อายุ 29 ปี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด/ บราซิล

เฟร็ด บราซิล ฟุตบอลโลก 2022

เล่นได้กระท่อนกระแท่นในระดับสโมสร แต่ในทีมชาติ เฟร็ดคือกลไกหลักของบราซิล ที่คงได้เห็นกันในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Paul Greenwood/BPI/Rex/Shutterstock)

ไม่ใช่นักเตะที่ขาดไม่ได้ในทีมปีศาจแดงแต่ในทีมชาติบราซิล เฟร็ดคือนักเตะที่แตกต่าง กับการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาเป็นปีที่ 5 ผ่านเกมมากว่าร้อยนัด นักเตะกองกลางตัวรับตีนซ้ายรายนี้ ไม่เคยแสดงฟอร์มที่ดีต่อเนื่อง ดี ๆ ร้าย ๆ สลับกันไป ถึงคราวดีจะดีจนใจหาย แต่ส่วนใหญ่ก็หนักไปทางติด ๆ ขัด ๆ หรือเล่นได้ไม่มากมิติ มีประโยชน์กับทีมไม่มากนัก ผิดจากเวลาลงเล่นในทีมชาติเหลือเกิน โดยเฉพาะการได้ลงเล่นกับเพื่อนใหม่ในสโมสร – คาเซมิโร เฟร็ดมีบทบาทที่แตกต่างไปจากในสโมสรอย่างเห็นได้ชัด ลงเล่นได้อย่างมั่นใจ สร้างสมดุลย์ให้ทีม ได้ขึ้นไปเล่นในแดนหน้ามากกว่า ขณะที่ไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเป็นกำลังสำคัญของทีม แถมหลายคราวก็ดูเป็นพวกตีบตันไอเดีย เวลาใส่เสื้อสีแดง แต่ในฟุตบอลโลก 2022 ในเสื้อสีเหลือง เฟร็ดจะแสดงของดีในตัวที่มากกว่าออกมาให้เห็นแน่นอน

ติโม แวร์เนอร์ อายุ 26 ปี อาร์เบ ไลป์ซิก/ เยอรมนี

ติโม แวร์เนอร์ เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022

อาจจะทำได้ไม่ดีนักในระดับสโมสร แต่ในระดับชาติแล้ว แร์เนอร์คือดาวยิงหัวแถว และฟุตบอลโลก 2022 คือโอกาสแสดงให้เห็น (ภาพ: Martin Rose/Getty Images)

แม้ผลิตสกอร์ในชุดสิงโตน้ำเงินครามได้น้อยนิด หากในทีมอินทรีเหล็กกลับเป็นคนละเรื่อง ต่อให้มีส่วนร่วมกับเกม แต่เพราะเป็นผู้เล่นที่ถูกซื้อมายิงประตู สถิติ 10 ประตูจาก 56 นัดในลีก จึงเป็นความล้มเหลว สถานการณ์ในลอนดอนของแวร์เนอร์ทำให้เขาเหมือนนักเตะต้องคำสาปผิดจากการลงเล่นให้ทีมชาติ ที่สถิติการทำประตูขยับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นดาวยิงระดับหัวแถวในเกมทีมชาติ ด้วยตัวเลข 24 ประตูจาก 53 นัด การได้กลับมาเล่นในบุนเดสลีกา กับทีมเก่าแอร์เบ ไลป์ซิก แล้วผ่านเกมลีก 6 นัดด้วยการทำไปแค่ประตูเดียว อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่ดี แต่การลงสนามแล้วทำได้เยี่ยมในเรื่องของการหาพื้นที่ในแดนหน้า แวร์เนอร์กลายเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้หากเป็นในตำแหน่งที่แตกต่าง เมื่อถูกถ่างมาเล่นด้านกว้างมากขึ้น ซึ่งทำให้โอกาสทำประตูลดลงไปอีก แต่ในทีมชาติเขายังเป็นนักเตะศูนย์หน้า และแน่นอนว่ามีสถิติทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ในฟุตบอลโลก 2022 กับเกม 3 ในรอบแรกแวร์เนอร์น่าจะแสดงให้เห็นของในตัวออกมาได้เต็ม ๆ

เอเด็น อาร์ซาร์ อายุ 32 ปี เรอัล มาดริด/ เบลเยี่ยม

เอเด็น อาซาร์ เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

กลายเป็นนักเตะตัวรองของสโมสรไปแล้ว ซึ่งผิดจากทีมชาติ และเช็คความเยี่ยมยอดของอาซาร์ได้ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AFP)

อาจลงเล่นให้ทีมราชันย์ชุดขาวแบบน่านับเป็นนาทีมากกว่าเป็นนัด ๆ แต่กับทีมชาติเบลเยี่ยมแล้ว อดีตดาวเตะเชลซีรายนี้ยังคงเป็นคนสำคัญเสมอ และในฟุตบอลโลก 2022 ถ้าไม่เจ็บจนลงเล่นไม่ได้ เขายังคงเป็นนักเตะที่ทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปต้องหนีบไปด้วย โดยเฉพาะการลงเล่นเป็นนักเตะหมายเลข 10 ของทีมคนที่สองคู่กับเควิน เดอบรอยน์ จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่คือนักเตะที่โรแบร์โต มาร์ติเนซ ขาดไม่ได้หากต้องการพาเบลเยี่ยมไปให้ไกลที่สุดในทัวร์นาเมนต์ แม้อาการบาดเจ็บจนทำให้การลงเล่นอย่างต่อเนื่องของเขาจะเป็นเรื่องยาก แล้วในสโมสรอาซาร์อาจถูกมองว่าเป็นนักเตะตัวรองไปแล้ว แต่ก็เป็นนักเตะที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมได้เมื่อลงสนาม เช่น ในเกมยูเอฟ่าแชมเปียนลีกที่ถูกปล่อยลงเล่นในครึ่งหลัง ของเกมเรอัลปะทะเซลติก แล้วยิง 1 จ่าย 1 พาทีมชนะสำเร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คุณภาพ, ประสบการณ์, ความคิดสร้างสรรค์ของเขายังมีอยู่ และน่าจะเป็นประโยชน์กับเบลเยี่ยมมหาศาลในฟุตบอลโลก 2022

เมมฟิส เดปาย อายุ 28 ปี บาร์เซโลน่า/ เนเธอร์แลนด์

เมมฟิส เดปาย เนเธอร์แลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

เจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดของชาติในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เดปายจะโชว์ฟอร์มได้ต่อเนื่องไหม ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: GETTY IMAGES)

ไม่ใช่แค่ยังเก็บฟอร์มดี ๆ มาโชว์ให้เห็นในทีมกังหันสีส้มได้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ในทีมบาร์เซโลน่าดูไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ได้สำเร็จ เดปายยังเป็นดาวยิงสูงสุดในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกของเนเธอร์แลนด์อีกต่างหาก ด้วยสถิติ 9 ประตู การทำงานได้ตามมาตรฐานของเดปายทำให้อัศวินสีส้มได้ตั๋วไปฟุตบอลโลก 2022 ตั้งแต่หัววัน เป็นนักเตะคนสำคัญในเกมเนชันส์ ลีกของทีมแม้สถานการณ์ของเขาในสโมสรอาจจะดีขึ้น เมื่อได้รับความเชื่อมั่นจากซาบี้ โค้ชของทีมเจ้าบุญทุ่ม จนเลือกที่จะอยู่ที่คัมป์นูต่อ แม้จะมีข้อเสนอจากหลายทีมยื่นมาให้ แต่การที่ทีมแสดงออกว่ายินดีปล่อยตัวเขาออกไปในช่วงก่อนตลาดซื้อขายจะปิดตัวลง มันก็แสดงให้เห็นเป็นนัย ๆ แล้วว่า เกมที่เขาจะได้ลงเล่นในระดับสโมสรนั้นน่าจะน้อยลง และคงต้องอาศัยเกมทีมชาติเป็นหลัก ด้วยสถิติ 42 ประตูจาก 80 นัด ที่ทำให้เขาเป็นนักเตะดัตช์ชุดนี้รายเดียวที่ทำประตูในระดับเลข 2 หลัก บวกประสบการณ์และทักษะในตัวเดปายคือนักเตะหัวใจสำคัญของชาติในฟุตบอลโลก 2022

โรดริโก้ เดอ ปอล อายุ 28 ปี แอตเลติโก้ มาดริด/ อาร์เจนติน่า

โรกริโก้ เดอ ปอล อาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลก 2022

มักถูกมองข้ามเสมอในระดับสโมสร แต่กับทีมฟ่า-ขาว เดอ ปอลทำผลงานได้ดีเสมอ และจะได้เห็นแน่ ๆ ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Buda Mendes / Getty Images)

ถึงจะเป็นนักเตะสร้างสรรค์เกมในแดนกลางคนสำคัญในกัลโช่ ซีรีส์ อากับอูดิเนเซ่ เจ้าของสถิติ 34 ประตู 36 ลูกจ่าย ใน 184 เกม แต่ตอนย้ายมาเล่นให้ทีมตราหมีในสเปนเมื่อปี 2021 กลับไม่ได้เป็นข่าวโด่งดังมากนัก และถึงจะยังคงสร้างสรรค์เกมได้เยี่ยมอย่างที่เคยเป็น แต่เมื่อพูดถึงผลลัพธ์สถิติ 1 ประตูกับ 1 จ่ายจาก 8 เกมในระดับสโมสร ย่อมไม่ใช่ตัวเลขที่ดี และไม่มากพอจะทำให้เขายึดตำแหน่งในทีมได้ถาวรแน่ ๆ หากเรื่องราวในทีมชาติของเดอ ปอลแตกต่างไป ตำแหน่งในทีมฟ้า-ขาวของเขาไม่มีปัญหา ถึงจะมีปัญหาส่วนตัวต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกับภรรยา จนทำให้การไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 มีความยุ่งเหยิง แต่ด้วยบทบาทนักเตะกองกลางพันธุ์แท้ ที่ได้เล่นขึ้นหน้ามากกว่าสโมสรในทีมชาติ ซึ่งทำให้เขาได้สร้างสรรค์เกม ได้เล่นทะลุทะลวงมากขึ้น และพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทำประตูมากขึ้น แฟนบอลจะได้รู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความสำคัญ และทำอะไรได้มากกว่าที่เคยรับรู้ขนาดไหน

และทั้งหกคนนี้คือส่วนหนึ่งของดาวเตะที่เปี้ยงปร้างกับทีมชาติ แต่เป็นเหมือนนักเตะดาด ๆ ในสโมสร ที่ฟุตบอลโลก 2022 คือโอกาสสำคัญที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นดาวดังระดับซูเปอร์ตาร์ หรือว่าถูกมองอย่างให้ความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็น

ข้อมูล: ESPN
ภาพปก: www.planetfootball.com, Paul Greenwood/BPI/Rex/Shutterstock, Martin Rose/Getty Images, AFP, GETTY IMAGES, Buda Mendes / Getty Images

เรื่องน่าอ่าน: นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ

ทีมชาติเยอรมนีเตรียมเป็นอีกหนึ่งทีมฟุตบอล ที่เรื่องราวการทำงานของทีมทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง จะถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์สารคดี โดยเน้นการทำงานในฟุตบอลโลก 2022 โดยสารคดีเรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์กีฬา ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เรื่อง ‘All Or Nothing’ ที่ปล่อยมาให้ชมกันทางบริการสตรีมิงของแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ

โดยสารคดีกีฬาชุด ‘All Or Nothing’ เป็นงานที่สร้างโดยแอมะซอน สตูดิโอ และปล่อยให้ชมทางสตรีมิงแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ โดยในแต่ละฤดูฉาย (หรือซีซัน – Season) จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวสโมสรกีฬาอาชีพหรือว่าทีมชาติ ซึ่งปล่อยออกมาให้ชมครั้งแรกในปี 2016 ด้วยเรื่อง ‘All or Nothing: A Season with the Arizona Cardinals’ ซึ่งเป็นเรื่องของทีมอเมริกันฟุตบอล ในแต่ละเรื่องของสารคดีชุดนี้จะนำเสนอการทำงาน, การฝึกซ้อม และการแข่งขันของทีม, ผู้เล่น แล้วก็โค้ช ทีมอื่น ๆ ที่ถูกนำเสอให้ชมกันแล้วก็มี ดัลลัส คาวบอยส์, แคโรไลน่า แพนเธอร์ส, ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์, ลอส แอนเจลีส แรมส์, ทีมรักบี้นิว ซีแลนด์, โทรรอนโท เมเปิ้ล ลีฟส์, ทีมฟุตบอลบราซิล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, ยูเวนตุส และอาร์เซนอล

All or Nothing: A Season with the Arizona Cardinals

‘All or Nothing: A Season with the Arizona Cardinals’ ซีรีส์เรื่องแรกของสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ (ภาพ: Prime Video)

ภาพยนตร์สารคดี ‘All Or Nothing’ ที่ว่าด้วยฟุตบอลโลก 2022 ของทีมชาติเยอรมนี จะมีความยาวทั้งหมด 6 ตอน และจะเกาะติดการทำงานของทีมอินทรีเหล็กกันตั้งแต่ช่วงของการเตรียมทีม สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ และลากยาวไปจนถึงการทำงานในทัวร์นาเมนต์

นอกจากนี้เรื่องราวที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2022 แล้ว ยังมีรายงานว่า เนื้อหาของซีรีส์ ‘All Or Nothing’ จะกินความย้อนไปถึงเหตุการณ์ในฟุตบอลยูโร 2020 ที่ทีมชาติเยอรมนีพ่ายคู่ปรับเก่า อังกฤษ ตกรอบรอบ 16 ทีมสุดท้าย

โดยคอนเซ็ปต์ของสารคดีเรื่องนี้ จะอยู่ที่การนำเสนอว่า ทีมเยอรมนีจะกลับมาสู่ความสำเร็จอีกครั้งได้หรือไม่? และอย่างไร? ซึ่งทั้งทางสมาคมฟุตบอลของเยอรมนี (German Football Association หรือ DFB) และทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ ต่างก็หวังว่า ทีมอินทรีเหล็กจะโชว์ฟอร์มในฟุตบอลโลก 2022 ได้ดีกว่าฟุตบอลโลกครั้งก่อน ที่รัสเซีย ซึ่งเยอรมนีเดินทางไปในฐานะแชมป์เก่า แต่กลับตกรอบแรกแบบหมดราศี

ทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลยูโร 2020

แม้จะเข้ารอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ แต่ก็จบแค่รอบนี้ ในยูโร 2020 ที่เยอรมนีต้องกู้ชื่อมาให้ได้ในฟุตบอลโลก 2020 (ภาพ: www.sportsadda.com)

สำหรับการเดินทางมาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ครั้งนี้ ทีมชาติเยอรมนีมาพร้อมบรรดาผู้เล่นมากพรสวรรค์มากกว่าครั้งก่อน ที่มีบรรดาดาวโรยอยู่ในทีมหลายต่อหลายราย โดยมีจามาล มูเซียลา เป็นดาวเด่นในกลุ่มนักเตะเลือดใหม่ ที่พร้อมจะแจ้งเกิดในฟุตบอลโลก 2022

โดยก่อนหน้านี้สารคดี ‘All Or Nothing’ ของแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ เคยนำเสนอเรื่องราวของสองสโมสรในลีกบุนเดสลีกาของเยอรมนี บาเยิร์น มิวนิก และโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ มาก่อนหน้านี้แล้ว และการนำเสนอเรื่องราวของทีมชาติเยอรมนี จะทำให้พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งในสารคดีซีรีส์กีฬาเรื่องดังทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอเรื่องนี้

ฮันซี่ ฟลิค ทีมชาติเยอรมัน ฟุตบอลโลก 2022

ฮันซี ฟลิค โค้ชเจ้าของภารกิจ พาทีมชาติเยอรมันนี กลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง (ภาพ: Marcus Brandt/dpa via AP)

“ทีมของแอมะซอนให้การสนับสนุนเราอย่างเต็มที่ และเสนอว่าจะเจาะลึกลงไปในกระบวนการทำงานของพวกเราอย่างพิเศษสุด ๆ” ฮันซี่ ฟลิค โค้ชทีมชาติเยอรมนี กล่าว “สารคดีเรื่องนี้จะติดตามเป้าหมายของเราในการที่จะกลับไปเป็นที่หนึ่งในโลก และแสดงให้เห็นว่าพวกเราทำงานกันหนักแค่ไหน เพื่อจะเดินทางไปถึงจุดนั้น ความท้าทายสำคัญของเรามาพร้อมกับฟุตบอลโลก 2022 มันเป็นการท้าทาย, เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นเป้าหมายสำหรับความสำเร็จ ในท้ายที่สุด พวกเราจะใส่เต็ม และทำทุกอย่าง แล้วก็อยากให้มันไปอยู่ในสารคดีเพื่อแฟน ๆ”

ขณะที่ฟิลลิป แพร็ตต์ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตของแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ เยอรมนี ก็บอกว่า “สมาชิกของแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ มองไปถึงการได้เดินทางไปกับทีมชาติเยอรมนีได้เลย ผู้ชมของเราได้จะรับชมการเจาะลึกที่พิเศษสุด ๆ, ใกล้ชิด และเต็มไปด้วยอารมณ์ ขณะที่ทั้งทีมจะร่วมกันปฏิบัติภารกิจคว้าดาวดวงที่ห้าอย่างเต็มที่ ซึ่งบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และพวกเราที่แอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ หวังว่าเรื่องราวจะจบลงแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง”

สำหรับซีรีส์ ‘All Or Nothing’ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของทีมชาติเยอรมนี ในฟุตบอลโลก 2022 วางกำหนดปล่อยให้ชมกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิดปี 2023 ทางแอมะซอน ไพร์ม วิดีโอ

ข้อมูล: VERSUS, WIKIPEDIA
ภาพปก: www.planetfootball.com, www.amazon.com

เรื่องน่าอ่าน: ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี เมื่อกระทิงดุ ท้าชนอินทรีเหล็ก ใครจะเป็นที่หนึ่งในสาย

ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี เมื่อกระทิงดุ ท้าชนอินทรีเหล็ก ใครจะเป็นที่หนึ่งในสาย

หนึ่งในแม็ตช์ห้ามพลาดในรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลก 2022 หนนี้ ก็คงไม่พ้นการเจอกันของสองทีมแกร่งแห่งยุโรป ที่ต่างก็เคยสัมผัสแชมป์โลกมาแล้วทั้งคู่ สเปนและเยอรมัน ที่พอดูเพื่อนร่วมกลุ่มที่ยังมีญี่ปุ่นกับคอสตาริก้า นอกจากจะเป็นเกมยักษ์ชนยักษ์แล้ว นัดนี้ก็น่าจะเป็นการตัดสินว่าใครที่จะเข้ารอบเป็นที่ 1 และที่ 2 ในสาย

กลุ่ม อี: สเปน, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, คอสตาริกา

เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

เยอรมันนี จะล้างอายจากฟุตบอลโลก 2018 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้หรือไม่ (ภาพ: thedailyguardian.com)

หลังตกรอบแรกอย่างน่าอับอายทั้ง ๆ ที่เป็นแชมป์เก่า เมื่อ 4 ปีก่อนที่รัสเซีย แถมฟุตบอลยูโร 2020 ก็ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์แบบไม่สวยนัก และก็จบลงแค่ที่รอบนี้เมื่อแพ้ต่อคู่ปรับตลอดกาล อังกฤษ แบบหมดสภาพ เยอรมนีมีการรีสตาร์ต ด้วยการเริ่มต้นกับโค้ชคนใหม่ ฮันซี่ ฟลิค ซึ่งน่าจะอยากกู้ชื่อของทีมกลับมาในฟุตบอลโลก 2022 แม้ในคราวนี้พวกเขาดูไม่เหมือนทีมที่ยากจะเอาชนะอีกต่อไป เพราะฟลิคถึงจะพาบาเยิร์น มิวนิค คว้าสามแชมป์ถ้วยใหญ่ได้สำเร็จในปีเดียว แต่กับทัวร์นาเมนต์ทีมชาติเขาคือมือใหม่ ตัวผู้เล่นก็อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน เป็นการผสมผสานระหว่างผู้เล่นเก่า ๆ ที่ดูโรยราไม่น้อยกับรุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังขึ้นมา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น จากที่เห็นในรอบคัดเลือก ฟลิคสามารถทำให้ทีมเข้าที่เข้าทางได้อย่างรวดเร็ว และหากเขาจัดการกับแท็คติกสำหรับการเล่นในทัวร์นาเมนต์ได้ดี เยอรมนีก็น่าจะไปได้ไกลในฟุตบอลโลก 2022 ส่วนการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมนั้น พวกเขาน่าจะตีตั๋วรอบ 16 ทีมได้อยู่แล้ว แต่จะเป็นที่ 1 หรือ 2 ก็ต้องวัดกันกับสเปนทีมแกร่งของยุโรปเพื่อนร่วมกลุ่มอีกที

สเปน ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

กระทิงดุ สเปน จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

สำหรับสเปนเองหากไม่อยู่ในสภาพที่ใช่ก็ถือว่าใกล้เคียงกับเยอรมนี สร้างทีม รีสตาร์ตใหม่ แต่ที่เหนือกว่าก็คือ ผ่านการนับหนึ่งมาแล้ว ลองผิดลองถูกเรียบร้อยจากยูโร 2022 กับหลุยส์ เอ็นริเก้ โค้ชที่เข้ามารับงานหลังจบฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งน่าจะคุ้นเคยกับบอลทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ รู้ว่าจะต้องใช้แท็กติกแบบไหน ยังไง มีผู้เล่นในใจโดยเฉพาะตำแหน่งหลัก ๆ ส่วนพวกดาวรุ่งเมื่อ 2 ปีก่อนก็ย่อมแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ทีมกระทิงดุน่าจะเบียดอินทรีเหล็กเป็นที่ 1 ในสายได้ เมื่อดูจากชั่วโมงบินของโค้ชและผู้เล่น โดยเฉพาะถ้าแก้ไขปัญหาศูนย์หน้าตัวเป้าไม่ค่อยทำงานได้สำเร็จ งานนี้ก็อาจไม่ยากอย่างที่คิด

เกมที่ทั้งคู่เจอกัน ซึ่งเป็นนัดที่สองของกลุ่มคือแม็ตช์ตัดสิน และเชื่อว่าไม่มีใครอยากเป็นที่สอง เพราะจะต้องไปเจอของแข็งจากยุโรปอีกทีม-เบลเยี่ยม แต่ที่ 1 จะเจอกับโครเอชีย รองแชมป์โลกที่โรยรา หรือหากโชคดีกว่านั้นก็อาจเป็นโมร็อกโกหรือว่าแคนาดา ที่จะทำให้โอกาสเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 หวานเจี้ยบ ๆ ขึ้นไปอีก

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

แล้วอีกสองทีมล่ะไม่มีโอกาสเลยหรือ? ญี่ปุ่นที่หนก่อนเข้ารอบ 16 ทีมสำเร็จ และเกือบไปไกลกว่านั้น หากปิดเกมที่เจอกับเบลเยี่ยมได้ ในฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาน่าจะแค่เป็นหนึ่งใน 32 ทีมสุดท้าย เมื่อสองยักษ์จากยุโรปแกร่งเกินกว่าพวกเขาจะเขย่าบัลลังก์ได้ ถ้าเทียบฟอร์มและตัวผู้เล่นกับสองทีมหัวแถวแล้ว ยังเชื่อไม่สนิทใจว่า ทีมแดนอาทิตย์อุทัยจะกลับบ้านไว หันมาดูเรื่องโชคลางกันบ้าง จากตัวเลขของพวกเขาในฟุตบอลโลก ปี 1998 จบที่รอบแรก, 2022 ตกรอบ 16 ทีม, 2006 ตกรอบแรก, 2010 ตกรอบ 16 ทีม, 2014 แค่รอบแรก และล่าสุด 2018 เข้ารอบ 16 ทีม เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปตามสถิติพวกเขาคงจนที่รอบแรก ในแบบที่ต้องวัดกับคอสตาริกาที่ต้องเล่นเพลย์ออฟเพื่อมากาตาร์ แม้จะเป็นนัดที่ไม่ได้ชี้ชะตาว่าใครจะเข้ารอบ แต่ก็เป็นนัดที่สูสีและเข้มข้นไม่แพ้อีกคู่หนึ่งเหมือนกัน

คอสตาริก้า ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

คอสตาริก้ามาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟชนะนิว ซีแลนด์ (ภาพ: www.concacaf.com)

โดยอันดับของทีมในกลุ่ม อีของฟุตบอลโลก 2022 หลังจบนัดสุดท้าย น่าจะเป็น สเปน, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และคอสตาริก้า

โปรแกรมในกลุ่ม อี
23 พฤศจิกายน
เยอรมนี – ญี่ปุ่น
สเปน – คอสตาริก้า

27 พฤศจิกายน
ญี่ปุ่น – คอสตาริก้า
สเปน – เยอรมนี

1 ธันวาคม
คอสตาริก้า – เยอรมนี
ญี่ปุ่น – สเปน

ข้อมูล: 1. ESPN 2. EURONEWS
ภาพปก: www.besoccer.com, Getty Images, Getty Images, www.fcbarcelonanoticias.com
เรื่องน่าอ่าน: พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

ในรอบน็อกเอาต์ของฟุตบอลโลก หากทั้งสองทีมเสมอกันกฏที่นำมาใช้ก็คือ การต่อเวลาไปอีกสองครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที ที่หากยังซัดกันไม่ลงก็ต้องไปถึงฎีกา นั่นก็คือการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ที่ทั้งสองทีมจะต้องส่งผู้เล่นจิตแข็งฝั่งละห้าคนมาดวลสลับกันจนครบ หรือชนะขาด ซึ่งถ้ายังเสมอกัน ก็ต้องยิงต่อแบบหมัดต่อหมัด ที่ใครพลาดก็แพ้ไปเลย

ด้วยการที่มีผู้เล่นเพียงแค่สองคนชี้เป็นชี้ตาย คือผู้รักษาประตูและผู้ยิงประตู การดวลลูกโทษที่จุดโทษเพื่อหาผู้ชนะจึงเป็นอีกความระทึก ผู้เล่นในสนามห้ามพลาด และผู้ชมก็ลุ้นจนแทบไม่หายใจ

สำหรับการเตะลูกโทษที่จุดโทษ ถูกนำเสนอให้ใช้ในการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1890 แต่กว่าจะมีการวางกฎและประกาศใช้ก็ 2 มิถุนายน 1891 โดยทีมแรกที่ได้ลูกโทษที่จุดโทษก็คือ แอร์ดรีโอเนียนส์ ในปี 1891 ที่สนามบรูมฟิลด์ ปาร์ก ที่ตลอดเวลา 131 ปี กฏการยิงลูกโทษที่จุดโทษก็เปลี่ยนแปลง พัฒนามาเรื่อย ๆ และจากที่ใช้ลงโทษทีมที่ทำผิดกติกา ก็ถูกนำมาใช้เป็นทางออกในการตัดสินเกมที่หาผู้ชนะไม่ได้ในเวลาปกติ หรือช่วงต่อเวลาพิเศษ (หากมี) ซึ่งเริ่มคิดนำมาใช้กับฟุตบอลโลก ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1970 แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศใช้

จนมาถึงรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1978 การดวลลูกโทษที่จุดโทษจึงนำมาใช้ และเกมแรกของฟุตบอลโลกที่ต้องสู้กันถึงฎีกา ก็เป็นเกมรอบแรกของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนแอฟริกา ที่ตูนีเซียเอาชนะโมร็อกโค เมื่อ 9 มกราคม 1977 แต่กว่าจะได้เห็นในการแข่งขันรอบสุดท้าย ก็เป็นรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน ซึ่งเยอรมันตะวันตกเอาชนะฝรั่งเศส ในเกมที่ได้ชื่อว่าสุดคลาสสิกเกมหนึ่งในฟุตบอลโลก

การดวลลูกโทษที่จุดโทษ นัดชิงฟุตบอลโลก 1994

โรแบร์โต บักโจ้ กับเหตุการณ์ที่เขาอยากจะลืม เมื่อพลาดการดวลลูกโทษที่จุดโทษในนัดชิงชนะเลิศ (ภาพ AFP/ Getty Images)

และหลังจากนั้น การดวลลูกโทษที่จุดโทษก็เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลก ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม และอารมณ์สุดดรามาขึ้นมาได้ ซึ่งในหลาย ๆ เกมก็เป็นเกมคลาสสิก และทำให้นักเตะ อย่าง โรแบร์โต บักโจ้, ฟรังโก้ บาเรซี, ดานิเอเล มัสซาโร หรือ ดาวิด เทรเซเก้ต์ กลายเป็นนักเตะที่ได้รับการจดจำ ในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจดจำ เมื่อพลาดการดวลที่ระยะ 12 หลาในนัดชิงชนะเลิศ และทำให้ชาติของตัวเองพลาดแชมป์ฟุตบอลโลก

ชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เมื่อมาถึงช่วงการดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกก็คือ เยอรมนี ไม่ว่าจะลงเล่นในนามเยอรมันตะวันตกหรือเยอรมนี ชนชาตินี้ไม่เคยแพ้ใคร และที่น่าสนใจก็คือ การดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกของทีมอินทรีเหล็กทั้งหมด 4 หน จากฟุตบอลโลก 4 ครั้งในปี 1982, 1986, 1990 และ 2006 ที่คู่ต่อสู้คือ ฝรั่งเศส, เม็กซิโก, อังกฤษ และ อาร์เจนติน่า ตามลำดับ พวกเขายิงเข้า 94% โดนเซฟแค่ 6% และไม่เคยยิงไม่ตรงกรอบเลย

เยอรมันตะวันตก - ฝรั่งเศส ดวลลูกโทษที่จุดโทษ ฟุตบอลโลก 1982

การดวลลูกโทษที่จุดโทษครั้งแรกในฟุตบอลโลก ระหว่างเยอรมันตะวันตก กับฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 1982 (ภาพ: EMPICS Sports)

ที่น่าพรั่นพรึงก็คือ จากทั้งหมด 18 ลูกที่ได้เตะ ดาวเตะด็อยต์ชลันด์ยิงเข้าถึง 17 ลูก ครั้งเดียวที่พลาดเกิดขึ้นในการดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกครั้งแรก ทั้งของพวกเขาและของทัวร์นาเมนต์ เมื่ออูลี่ สติลิเก้ยิงติดเซฟของฌอง ลุค-เอ็ตโตริ ผู้รักษาประตูทีมตราไก่ ซึ่งนั่นหมายความว่า นับตั้งแต่นั้นพวกเขาไม่เคยพลาด ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าก็คือ ทั้ง 17 ประตูที่ทำได้ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ไม่มีโอกาสสัมผัสบอลเลย!!!

ไม่ใช่แค่ยิงประตู เยอรมนียังทำได้ดีในเรื่องของการป้องกัน เมื่อถึงการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันสามารถเซฟได้ถึง 39%

แต่ที่น่าตลกก็คือ ทีมที่แพ้การดวลลูกโทษที่จุดโทษครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ ก็ไม่ใช่ใครอื่น เยอรมนีนี่แหละ เมื่อพวกเขาพ่ายเช็คโกสโลวาเกียในนัดชิงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทีมชาติเยอรมนีเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วนำมาสร้างเป็นจุดแข็งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แม้พักหลัง ๆ พวกเขาจะแพ้การดวลลูกโทษที่จุดโทษบ้างแล้ว แต่ในฟุตบอลโลก พวกเขายังไม่เคยปราชัยในการวัดใจที่ระยะ 12 หลาเลย

ข้อมูล: WIKIPEDIA – 1, WIKIPEDIA – 2, EURONEWS, FIFAMUSEUM, BESOCCER, ANSWERFOUNDRY
ภาพปก: Sky Sports
เรื่องน่าอ่าน: นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก นอกจากเป็นเวทีให้นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เสริมสร้างเครดิต เป็นพื้นที่ให้นักเตะแถวหน้าใช้ฉายแสง ยังเป็นสนามให้นักเตะดาวรุ่งได้แจ้งเกิด หรือหากทำได้ดีกว่านั้น ก็คือเป็นซูเปอร์สตาร์รายใหม่ประดับวงการ ที่บางคนก็อาจเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อเวทีใหญ่ ๆ เกมในระดับที่แตกต่าง ฟุตบอลโลกก็เป็นผู้ทำลายได้เหมือนกัน

แต่ที่แน่ ๆ ฟุตบอลโลกพร้อมมอบโอกาสให้ แต่จะไปในทิศทางไหนก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละคน เพราะนักเตะดาวรุ่งทุกคนไม่ใช่จะทำได้อย่างเปเล่ เด็กวัยแค่ 17 ปี ที่ยิงประตูในนัดชิงฟุตบอลโลก 1958 พาบราซิลคว้าแชมป์โลกหนแรก แจ้งเกิดให้กับตัวเอง หรือเหมือนไมเคิล โอเว่น ที่ดังระเบิดในฟุตบอลโลก 1998 ด้วยการยิงหนึ่งในประตูที่น่าจดจำที่สุดของฟุตบอลโลกในนัดที่เจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งส่งเด็กวัย 18 อย่างเขามีชื่อในทะเบียนนักเตะหัวแถวของโลก

ฟุตบอลโลกหนก่อนที่รัสเซีย นักเตะดาวรุ่งที่ถูกกล่าวขวัญถึงที่สุด ใช้เวทีฟุตบอลโลกแจ้งเกิดเป็นนักเตะระดับโลกสำเร็จ คงไม่พ้น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ของฝรั่งเศส ที่นอกจากจะยิงประตูในนัดชิงได้แล้ว ยังคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์อีกต่างหาก

และฟุตบอลโลกครั้งนี้ ดาวรุ่งคนไหนจะเป็นดาวค้างฟ้า เป็นซูเปอร์สตาร์จากฟุตบอลโลกบ้าง สองนักข่าวสายฟุตบอล ทิม วิกเคอรี และราฟาเอล โฮนิกสไตน์ วิเคราะห์เอาไว้ให้จับตาดูเรียบร้อยแล้ว

เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (ฝรั่งเศส)

เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า นักเตะดาวรุ่งของทีมชาติฝรั่งเศส

จากเรนน์ส กามาวินก้า นักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสไปชูถ้วยใหญ่ในระดับสโมสรกับเรอัล มาดริดแล้ว (ภาพ: AFP)

กามาวินก้าจะอายุ 20 ปีในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นวัยที่เหมาะสมสำหรับการยกระดับตัวเอง โฮนิกสไตน์พูดถึงนักเตะดาวรุ่งที่ย้ายจากเรนน์สไปชูถ้วยกับเรอัล มาดริดเอาไว้ว่า “ถ้ามีนักเตะคนเดียว ที่ผมควรจับตาดูในฟุตบอลโลก คนนั้นต้องเป็นกามาวินก้า ผมชอบวิธีการเล่นของเขา การเล่นกับบอลของเขาดูสบาย ๆ แล้วเป็นพวกที่ดูเหมือนมีก๊อกสอง สไตล์การเล่นก็ชัดเจน ผมคิดว่าเขามีอะไรดี ๆ ให้เห็นแน่นอน เขาทำให้ผมนึกถึงฟรานซ์ เบ็กเคนบาวเออร์นะ วิธีที่เขาไปกับบอลในแดนกลางของสนาม นี่คือนักเตะมหัศจรรย์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์แน่ ๆ”

จู๊ด เบลลิงแฮม (อังกฤษ)

จู๊ด เบลลิงแฮม นักเตะดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ

จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นนักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์อีกรายของอังกฤษ ที่ไปรุ่งในลีกเยอรมัน (ภาพ: football365.com)

ไอ้หนูสิงห์นักเตะที่ปฏิเสธปีศาจแดง เพื่อไปบ่มตัวเองกับเสือเหลือง ด้วยวัย 19 ปี เบลลิงแฮมคือนักเตะดาวรุ่ง “ที่มีพรสวรรค์มาก ๆ แทบทุกอย่างที่เขาทำ มันดูดีไปหมด, แพรวพราว แล้วก็อันตราย เขายังเป็นผู้เล่นที่มีวิสัยทัศน์ แม้จะเป็นนักเตะกองกลาง แต่เขาก็สามารถวิ่งเข้าไปในพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ แล้วก็ทำประตูได้เช่นกัน ถือว่าเป็นนักเตะกองกลางที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ” โฮนิกสไตน์ กล่าว

จามาล มุสเซียล่า (เยอรมัน)

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดนักเตะดาวรุ่งรายนี้ยอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

นักเตะดาวรุ่งวัย 19 อีกรายที่โฮนิกสไตน์มองว่า “มีความมหัศจรรย์ในตัว เขาชอบวิ่งเข้าหาผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ชอบที่จะเลี้ยงบอล และชอบทำอะไรเหนือความคาดหมายมาก ๆ ทำให้เป็นผู้เล่นที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ในทีมชาติเยอรมัน ต่อให้ทีมอินทรีเหล็กจะสร้างนักเตะที่ดีและมีความคิดสร้างสรรค์ออกมามากมายในหลายปีที่ผ่านมา แต่เขาก็ดูเหนือกว่าคนอื่น ๆ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มนักเตะวัยเดียวกัน ผมคิดว่าทุกคนในเยอรมันน่าจะตื่นเต้น เมื่อเขาเลือกเล่นให้เยอรมันไม่ใช่อังกฤษ”

อัลฟอนโซ เดวีส์ (แคนาดา)

อัลฟอนโซ เดวีส์ นักเตะดาวรุ่งของแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งของแคนาดาเท่านั้น แต่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของชาตินี้ด้วย (ภาพ: Getty Image)

แม้จะเป็นนักเตะในชาติเล็ก ๆ แต่ในระดับสโมสร คอบอลน่าจะคุ้นกับนักเตะดาวรุ่งวัย 22 ปีจากแคนาดารายนี้เป็นอย่างดี กับการลงเล่นในทีมบาเยิร์น มิวนิคเคียงบ่าเคียงไหล่นักเตะระดับท็อปของโลกได้สบาย ๆ “โธมัส มุลเลอร์เรียกเดวีส์ว่าเป็นโรดรัดเนอร์แห่งบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งน่าจะพอทำให้มองออกว่า อะไรที่เขาทำได้ดี เขาเป็นนักเตะที่เร็วโคตร ๆ เหมือนกับเป็นตัวโกงเกมเลยล่ะ เขาจะปล่อยให้แนวรับของฝ่ายตรงข้ามดันขึ้นสูง และนั่นคือโอกาสงาม ๆ ที่อัลฟอนโซจะจัดการกับเขา” โฮนิกสไตน์กล่าว

จูเลียน อัลวาเรซ (อาร์เจนติน่า)

จูเลี่ยน อัลวาเรซ นักเตะดาวรุ่งของอาร์เจนติน่า

นักเตะดาวรุ่ง อย่าง จูเลี่ยน อัลวาเรซ จะได้เล่นคู่กับลิโอเนล เมสซี่ ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Cityzilla)

“นักเตะศูนย์หน้าจากริเวอร์เพลต ที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตีอย่างรวดเร็ว แต่ความคิดของเขาเร็วกว่า ที่ผมสนใจก็คือการที่เขามีโอกาสได้เล่นกับเมสซี่มากขึ้น เพราะคุณจะต้องคิดเร็วทำไวกว่าที่เคยหากต้องเล่นกับเมสซี่ เรื่องเทคนิคก็ต้องเยี่ยม ความคิดต้องเร็วในระดับเดียวกับเมสซี่ และผมคิดว่า บางทีในระหว่างทัวร์นาเมนต์ การเล่นร่วมกันของเมสซี่และอัลวาเรซ อาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด” ทิม วิคเคอรี่ พูดถึงนักเตะดาวรุ่งวัย 22 ปี

แน่นอนว่า นี่คือนักเตะดาวรุ่งบางส่วน จากทีมระดับท็อปในฟุตบอลโลก 2022 ที่บางทีพวกเขาอาจจะดับแสง เมื่อมีใครบางคนที่รุ่งกว่าพุ่งขึ้นมาจริง ๆ แต่ถ้าบอกว่าเอาเฉพาะที่น่าจับตามอง พวกเขาเหล่านี้คือคนที่ใช่จริง ๆ

ข้อมูล: EURONEWS

เรื่องน่าอ่าน: ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่