เรื่อง

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก ใครจะตามฝรั่งเศส เข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก ใครจะตามฝรั่งเศส เข้ารอบน็อคเอาต์ ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 6 ของกลุ่ม ดี วันที่ 30 พฤศจิกายน เวลาลงสนาม 22:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก ถ่ายทอดทาง NBT/ True Sport 2

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

สถานการณ์ของออสเตรเลียและเดนมาร์ก

เงื่อนไขในการเข้ารอบของ 2 ทีมนี้ก็คือ เดนมาร์กต้องชนะ แล้วจะกลายเป็นที่ 2 ในกลุ่มตามฝรั่งเศสเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ ถ้าตูนิเซียทำได้แค่เสมอหรือแพ้แชมป์เก่า แต่ถ้าทีมโคนมกับตูนิเซียต่างชนะ ก็ต้องมาวัดกันที่ลูกได้เสีย แล้วก็ตามด้วยประตูได้ ส่วนออสเตรเลียงานง่ายกว่า แค่ชนะทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าเสมอพวกเขาก็ต้องลุ้นให้ตูนิเซียไม่ชนะฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เกมระหว่างออสเตรเลียกับเดนมาร์กไม่ต่างไปจากเกมน็อคเอาต์

ชัยชนะเหนือตูนิเซียของทีมแดนจิงโจ้ เป็นชัยชนะหนที่ 3 ของพวกเขาในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คว่ำเซอร์เบียที่แอฟริกาใต้ในปี 2010 ที่ปีนั้นพวกเขาเก็บแต้มในรอบแบ่งกลุ่มได้ถึง 4 คะแนน แต่ก็ไม่พอที่จะเข้ารอบ และครั้งนี้ประวัติศาสตร์ก็อาจซ้ำรอยหากพวกเขาทำได้แค่เสมอเดนมาร์ก และตูนิเซียสร้างเซอร์ไพรส์คว่ำแชมป์เก่า ทางออกที่ดีที่สุดก็คือชนะให้ได้

ปัญหาของออสเตรเลียก็คือ สถิติในการเจอทีมจากยุโรปไม่สู้ดีนัก จาก 11 เกมแพ้ไปถึง 8 นัด และเมื่อ 4 ปีก่อนพวกเขาก็เสมอกับคู่ปรับรายนี้ด้วยสกอร์ 1-1 ส่วนสถิติในฟุตบอลโลก ที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย 5 ครั้ง พวกเขาผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ครั้งเดียว ในปี 2006.

แต่ฟอร์มของออสเตรเลียในครั้งนี้ ออกมาดีด้วยการยิงประตูนำคู่ต่อสู้ทั้งสองนัด วิ่งบดบี้คู่ต่อสู้อย่างเข้มข้น และเกมกับตูนิเซียก็เป็นคลีนชีตหนแรกของพวกเขาตั้งแต่ปี 1974 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย กับการมากาตาร์ ทีมแดนจิงโจ้เข้ารอบมาแบบกระท่อนกระแท่น ต้องเล่นเพลย์ออฟถึง 2 นัด ผิดกับเดนมาร์ก ที่มาแบบสุดหรู ชนะรวด 9 นัดแรก โดยไม่เสียประตูถึง 8 นัด เก็บแต้มมากที่สุดในโซนยุโรป แต่ในรอบสุดท้ายพวกเขาอาจไม่ได้ไปต่อ โดยเกมเสมอออสซี่ในปี 2018 คือเกมที่ส่งพวกเขาตกรอบแรกมาแล้ว แต่สถิติในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย พวกเขาเล่นมาแล้ว 5 ครั้งเท่าออสเตรเลีย หากเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ถึง 4 หน

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

สถานการณ์ผู้เล่นของออสเตรเลียและเดนมาร์ก

ออสเตรเลียน่าจะยังไม่มี นาธาเนียล แอ็ตคินสัน แบ็คขวา ที่บาดเจ็บข้อเท้าจากเกมกับตราไก่ และไม่ได้ลงเล่นในวันที่ชนะตูนิเซีย โดยฟราน คาราซิซ ของเบรสชาน่าจะได้ลงเล่นแทน แล้วกับการคว้าชัยในเกมที่แล้ว ทำให้แกรห์ม อาร์โนลด์อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีมมากนัก ส่วนมาร์ติน บอยล์ก็ยังคงลงเล่นไม่ได้ จากการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด ซึ่งทำให้เขาไม่ได้พลาดแค่ฟุตบอลโลก แต่พวกเกมในฤดูกาลนี้ทั้งหมดไปด้วย มิตเชลล์​ ดุ๊กผู้ยิงประตูชัยให้ทีมชนะตูนิเซีย จะได้เล่นเป็น 11 คนแรก เช่นเดียวกับ แม็ต ไรอัน, แฮร์รี่ เซาตตาร์ และแอรอน มอย

เดนมาร์กจะไม่มี โธมัส เดลานีย์ ที่ต่อให้เข้ารอบก็กลับมาเล่นไม่ได้แล้ว เนื่องจากบาดเจ็บที่เข่าจากเกมนัดแรกที่เจอตูนิเซีย และทำให้มิกเกล ดัมสการ์ด ได้สตาร์ตเป็นตัวจริง โดยรูปแบบการเล่นในนัดนี้ ทีมโคนมอาจจะปรับจาก 3-5-2 เป็น 3-4-3 เพื่อที่จะให้ดาวเตะจากเบรนต์ฟอร์ดลงเล่นในทางกว้าง ส่วนเจสเปอร์ ลินด์สตรอมกับวิกเตอร์ เนลส์สัน ที่ได้ลงเจอฝรั่งเศสแทน แอนเดรียส สกอฟ โอลเซ่น และซิมง เคียร์ ที่อายุมาก จนต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง น่าจะได้พัก และให้สองตัวหลักกลับสู่ทีม กับเกมที่ต้องชนะสถานเดียวแบบนี้ แนวรุกเดนมาร์กต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าใน 2 นัดแรก เมื่อพวกเขาทำได้แค่ประตูเดียวจากเซนเตอร์​แบ็ค คริสเตนเซ่น ในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะ ทำให้ศูนย์หน้า อย่าง แอนเดรียส คอร์เนลิอุส ที่ทำอะไรไม่ได้เลยคงต้องพัก และน่าจะใช้บริการของ มาร์ติน เบรธเว็ตกับแคสเปอร์ โดลเบิร์ก ที่น่าจะทำได้ดีกว่าแทน

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก นักเตะโคนมที่ทำให้อีริกเซ่นได้เดินเกมอย่างเต็มที่ และเป็นคนที่อุดช่องว่างให้กับแนวรับ (ภาพ: Michael Regan/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของออสเตรเลียและเดนมาร์ก

ออสเตรเลีย ระบบ 4-4-2: ไรอัน; คาราซิก, เซาต์ตาร์, โรว์เลส, บีฮิค; เลคกี้, เออร์ไวน์, มอย, กู๊ดวิน; ดุ๊ก, แม็กกรี
เดนมาร์ก ระบบ 3-4-1-2: ชไมเคิล; แอนเดอร์สัน, แอนเดรียส คริสเตนเซ่น, เนลส์สัน; คริสเตนเซ่น, โฮจ์เบิร์ก, อีริกเซ่น, มาห์เล่; ดัมส์การ์ด; เบรธเว็ต, โดลเบิร์ก

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ ฟุตบอลโลก 2022

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ที่ยึดตำแหน่งกองกลางตัวหลักของทีมมานานเป็นทศวรรษ ((ภาพ: Joe Allison/Getty Images))

ผลการแข่งขันระหว่างออสเตรเลียและเดนมาร์ก

แม้ออสเตรเลียขอแค่เสมอก็น่าจะได้เข้ารอบ แต่การเจอกับเดนมาร์กที่ต้องเล่นแบบถวายหัว ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อให้ทีมโคนมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรเป็นในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ตาม โดยเฉพาะการที่พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถรับมือกับความกดดันได้ดี ในยูโร 2020 แม้ทีมของแคสเปอร์ ยูลมันด์ จะเล่นแบบตะกุกตะกักมาตลอด ไม่ได้ดูน่าประทับใจเท่าทีมจิงโจ้ แต่พวกเขาก็มีขุมกำลัง และประสบการณ์ที่เหนือกว่า น่าจะชนะออสเตรเลียหวุดหวิด ตามแชมป์เก่าเข้ารอบสำเร็จ

เดนมาร์กคว้าชัย 1-0 หรือไม่ก็ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
5. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?

ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสุดท้าย : ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : NBT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ออสเตรเลีย
ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 รอบ 4 โซนเอเชีย (รอบเพลย์ออฟ)
ชนะจุดโทษ เปรู 5-4 (หลังเสมอ 0-0) รอบเพลย์ออฟต่างทวีป

เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ โซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ออสเตรเลีย
คัดบอลโลก เสมอ เปรู 0-0 / ชนะจุดโทษ 5-4
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ฝรั่งเศส 1-4
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ตูนิเซีย 1-0

เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ ตูนิเซีย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ฝรั่งเศส 1-2

 

ผลการพบกัน : 4 นัด
อุ่นเครื่อง 2007 เดนมาร์ก ชนะ 3-1
อุ่นเครื่อง 2010 ออสเตรเลีย ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2012 เดนมาร์ก ชนะ 2-0
ฟุตบอลโลก 2018 เสมอ 1-1

ตารางคะแนนกลุ่มดี
1. ฝรั่งเศส คะแนน 6 ผลต่างประตู +4 (เข้ารอบแล้ว)
2. ออสเตรเลีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -2
3. เดนมาร์ก คะแนน 1 ผลต่างประตู -1
4. ตูนิเซีย คะแนน 1 ผลต่างประตู -1

 

สภาพทีม
ออสเตรเลีย
เกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 ออสเตรเลีย โชคไม่ดีที่เจอของแข็งอย่างแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ตั้งแต่แรก แม้จะขึ้นนำก่อนแต่ก็โดนจ้วงยับหลังจากนั้น จนแพ้ขาด 1-4 แต่ถัดมาก็แก้ตัวได้ เบียดชนะ ตูนิเซีย 1-0 จากการโขกของ มิตเชลล์ ดู๊ค

 

3 แต้มที่มีในมือ ทำให้ ออสเตรเลีย สามารถดึงเสมอ เดนมาร์ก เพื่อเข้ารอบได้ แต่ก็ต้องในกรณีที่อีกสนาม ตูนิเซีย ไม่อาจเอาชนะ ฝรั่งเศส ได้แต่อย่างใด

 

สภาพทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ มีต้องเช็กแค่ เนธาเนียล แอตกินสัน ที่เจ็บข้อเท้าจนพลาดเกมที่แล้ว

 

ซอคเกอรูส์ จะใช้ 4-4-2 วางหอกคู่ มิตเชลล์ ดู๊ค กับ ไรลี่ย์ แม็คกรี เป็นสองตัวความหวังในแนวรุก

 

เดนมาร์ก
ทั้งที่มาด้วยผลงานชั้นยอดในรอบคัดเลือก รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปีก็ทำได้ดี แต่การเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลเสมอ ตูนิเซีย 0-0 นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เนื่องจากนัดสองต้องเจอเต็งแชมป์อย่าง ฝรั่งเศส และแม้จะยันอยู่จนห้านาทีท้าย ก็มาโดนทีเด็ดของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จนแพ้ไป 1-2

 

อย่างไรก็ตาม การได้ผลแพ้หรือเสมอจาก ฝรั่งเศส ไม่ได้มีความแตกต่างกันนัก เมื่ออย่างไรเสีย พวกเขาก็จำต้องเอาชนะ ออสเตรเลีย ในเกมปิดกลุ่มให้ได้อยู่ดี เป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้ได้เข้ารอบ

 

ความพร้อมในทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ นอกจากที่เสียคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์จากเซบีย่า ถอนตัวไปเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องดูอาการของ ซิมอน เคียร์ ปราการหลังกัปตันทีม ว่าจะพร้อมหรือไม่ หลังเจ็บต้นขาจนไม่ได้เล่นเกมกับ ฝรั่งเศส

 

ทีมโคนมจะใช้ระบบ 3-4-2-1 คริสเตียน เอริคเซ่น เชื่อมเกมตรงกลาง เกมรุกให้ มิคเคล ดัมส์การ์ด กับ เจสเปอร์ ลินด์สตรอม ปั้นเกมหลังหอกเป้า แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

ตัวความหวัง
ออสเตรเลีย : แม็ทธิว เลคกี้
ตัวริมเส้นประสบการณ์สูงวัย 31 ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 75 นัด ยิงแล้ว 13 ประตู ผ่านรายการใหญ่มาแล้วทั้งฟุตบอลโลก 2 รอบ 2014 กับ 2018, เอเชียน คัพ 2 หน และคอนเฟดฯ คัพ อีกหนึ่ง เวลานี้อยู่ในสังกัด เมลเบิร์น ซิตี้ ภายหลังโกอินเตอร์ไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่นานนับสิบปี กับทั้งกลัดบัค, เอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต, อิงโกลชตัดท์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน จนนับเป็นดาวเด่นเบอร์ใหญ่สุดของทัพจิงโจ้ชุดนี้

 

เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 119 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้ ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลาง

 

11 ตัวจริงที่คาด
ออสเตรเลีย (4-4-2, กุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์) แม็ต ไรอัน – ฟราน คาราซิช, แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไค โรว์เลส, อาซิซ เบฮิช – เคร็ก กู๊ดวิน, อารอน มอย, แจ๊คสัน เออร์ไวน์, แม็ทธิว เลคกี้ – มิตเชลล์ ดุ๊ค, ไรลี่ย์ แม็คกรี
เดนมาร์ก (3-4-2-1, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, คริสเตียน เอริคเซ่น, ราสมุส คริสเตนเซ่น – มิคเคล ดัมส์การ์ด, เจสเปอร์ ลินด์สตรอม – แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เดนมาร์ก ชนะ 2 จาก 4 ครั้งที่พบกันตลอดช่วงที่ผ่านมา
• แต่พบกันล่าสุดในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เสมอกัน 1-1 คริสเตียน เอริคเซ่น ยิงนำ ก่อน มิเล่ เยดินัค กดจุดโทษตีเสมอท้ายครึ่งแรก
• แม็ทธิว เลคกี้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของออสเตรเลียชุดนี้ แม้จะยิงได้แค่ 13 ประตูเท่านั้นก็ตาม
• หากเกมนี้ไม่อาจพลิกผ่านเข้ารอบได้ ก็มีสิทธิ์จะป็นเกมฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายในชีวิตของทั้ง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (36), ซิมอน เคียร์ (33), ดาเนี่ยล วาสส์ (33) และอีกบางคนของทัพโคนม

 

ความน่าจะเป็น
แม้สองเกมแรกจะไม่ชนะ แต่ถือว่า เดนมาร์ก อยู่ในอารมณ์ผ่อนคลายได้พอสมควร เนื่องจากไม่ว่าจะเสมอหรือแพ้ ฝรั่งเศส พวกเขาก็ต้องมาชนะเกมนี้ให้ได้อยู่ดี และถ้าวัดตามมาตรฐาน หากเล่นได้เหมือนที่ผ่านๆ มา ก็น่าจะผ่าน ออสเตรเลีย ได้ ขอแค่โชคเข้าข้างเล็กๆ และไม่ใช้โอกาสเปลืองเป็นพอ

 

ผลที่คาด : เดนมาร์ก ชนะ 1-0

ฝรั่งเศส จะล้างแค้นเดนมาร์ก ในเกมนัดที่สองของทั้งสองทีมในฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส จะล้างแค้นเดนมาร์ก ในเกมนัดที่สองของทั้งสองทีมในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม ดี ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก

วันที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: T Sport 7/ PPTV 36/ True Sports 2

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

(ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

สถานการณ์ของฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

โอกาสที่จะล้างอาถรรพ์แชมป์เก่าตกรอบแรกของฝรั่งเศส ที่ตัวเองก็เคยโดนของมาในปี 2002 มาถึงแล้ว หากพวกเขาจบเกมนี้ด้วยการเก็บชัยชนะได้สำเร็จ หลังน็อคจิงโจ้อันตราย ออสเตรเลียไป 4-1 ที่ทำให้ภารกิจป้องกันแชมป์ของพวกเขา เข้าใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ทีมแดนโคนม ของโค้ช แคสเปอร์ ยูลมันด์ ที่ประเดิมด้วยการเสมอกับตูนิเซีย น่าจะพอใจหากพวกเขาเก็บ 1 แต้มจากเกมนี้ได้สำเร็จ เมื่อเกมนัดสุดท้ายเดนมาร์กจะได้พบกับออสเตรเลีย

ทีมตราไก่ของโค้ชดิดิเยร์ เดส์ชองส์ มากาตาร์ด้วยฟอร์มที่ไม่ดีนัก ในเกมยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก และเปิดเกมด้วยการถูกออสเตรเลียยิงนำ ก่อนที่จะรัวเอาคืน 4 ประตูรวด โดยโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ทำสถิติทาบเธียรี่ อองรีในฐานะผู้ทำประตูมากที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศส 52 ประตู

ถ้าฝรั่งเศสจบนัดนี้ด้วยชัยชนะเหนือเดนมาร์ก จะทำให้เข้ารอบ 16 ทีมแน่นอน และกับเดนมาร์กหากพ่ายแพ้ และตูนิเซียชนะออสเตรเลียความหวังของพวกเขาก็เหลือเพียงน้อยนิด เมื่อโอกาสเข้ารอบจะไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขาเพียงลำพัง หากอย่างน้อยก็มีเรื่องดีอยู่บ้างกับการที่ต้องแย่งแต้มจากแชมป์เก่า เพราะกับการเจอกัน 2 ครั้งหลังสุด ในศึกยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก ทีมโคนมเก็บชัยได้ทั้ง 2 นัด 2-0 ก่อนหน้าฟุตบอลโลก และ 2-1 ในเดือนมิถุนายน และในฟุตบอลโลก 2002 เดนมาร์กก็เอาชนะฝรั่งเศสที่มาป้องกันแชมป์ได้ในรอบแบ่งกลุ่ม 2-0

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

สถานการณ์ผู้เล่นของฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

ฝรั่งเศสเสีย ลูกัส เอร์น็องเดซไป เมื่อได้รับบาดเจ็บที่เข่า ในจังหวะที่เสียประตูให้ออสเตรเลีย ที่ผลการสแกนในเวลาต่อมาพบว่า เอ็นไขว้หน้าของเขาฉีก และทำให้ต้องกลับบ้านก่อนเพื่อน ๆ โดนเธโอ เอร์น็องเดซจะได้ลงเล่นแทน และเมื่อรวมกับการที่เสียคาริม เบนเซม่า และไม่มีการเรียกผู้เล่นมาแทน ฝรั่งเศสมีนักเตะสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 แค่ 24 ราย และยังไม่มีรายงานว่า มีใครบาดเจ็บเพิ่ม ส่วนผู้เล่นที่บาดเจ็บ อย่าง ราฟาเอล วาราน ก็น่าจะพร้อมลงเล่นได้ แต่กับการที่อูปาเมกาโน่กับโกนาเต้จับคู่กันได้ดีแบบนี้ วารานน่าจะรอโอกาสอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน

โธมัส เดลานีย์ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามก่อนหมดครึ่งแรก เพราะเจ็บเข่า ยังต้องรอเช็คอีกทีว่าอาการหนักหนาแค่ไหน โดยมีกระแสข่าวออกมาว่า เขาถูกส่งกลับไปรักษาตัวเรียบร้อยแล้ว ที่น่าจับตาเป็นพิเศษสำหรับฝรั่งเศส ก็คือการปรับเปลี่ยนผู้เล่น ยูลมันด์อาจจะจับอีริกเซ่นเล่นต่ำกว่าเดิมร่วมกับปีแอร์-อีมิล โฮจ์เบิร์ก เพื่อจัดการกับการขาดเดลานีย์ แล้วก็ดันดัมส์การ์ดกับเจสเปอร์ ลินด์สตอร์มคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองคนไปเล่นเกมรุก ส่วนแอนเดรียส คอร์เนเลียส ที่พลาดลูกง่าย ๆ ในเกมกับตูนิเซีย อาจจะต้องตกเป็นตัวสำรอง

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ ฟุตบอลโลก 2022

ราฟาเอล วาราน นักเตะตราไก่ที่เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กวารานจะช่วยฝรั่งเศสได้อย่างแน่นอน (ภาพ: Andrew Surma/NurPhoto via Getty Images)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

ฝรั่งเศส ระบบ 4-2-3-1: โญริส; ปาวาร์ด, อูปาเมกาโน่, โกนาเต้, เธโอ เอร์น็องเดซ; ชูเอาเมนี่, ราบิโอต์; เดมเบเล่, กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้; ชิรูด์
เดนมาร์ก ระบบ 4-2-3-1: ชไมเคิ่ล; ราสมุส คริสเตนเซ่น, แอนเดรียส คริสเตนเซ่น, แอนเดอร์เซ่น, เมห์เลอ; โฮจ์เบิร์ก, เจนเซ่น; สคอฟ โอลเซ่น, อีริกเซ่น, ดัมสการ์ด; โดลเบิร์ก
,

คริสเตียน อีริกเซ่น นักเตะโคนม ฟุตบอลโลก 2022

หากทีมนักเตะโคนมต้องการไปให้ไกลกว่าที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่ คริสเตียน อีริกเซ่น (ภาพ: www.espn.com)

สถานการณ์ของเกมระหว่างฝรั่งเศสและเดนมาร์ก

เป็นการเจอกันของสองทีมที่พบกันบ่อยในช่วงหลัง ๆ และเป็นเดนมาร์กที่ได้รับผลการแข่งขันที่ต้องการมากกว่า แต่เกมกับตูนิเซีย แสดงให้เห็นถึงปัญหาสำคัญของพวกเขา นั่นคือขาดดาวยิงตัวปิดเกม ซึ่งแตกต่างไปจากฝรั่งเศส ที่แดนหน้าเล่นกันได้อย่างเข้าขา และการเดินเกมก็ดูลื่นไหล แม้จะถูกปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ โดยแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่ลงเล่นในเกมยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่คว่ำฝรั่งเศสได้ทั้งที่ปารีส และโคเปนเฮเก้น ให้สัมภาษณ์ถึงการเจอกันในฟุตบอลโลกเอาไว้ว่า “เมื่อเราเล่นกับฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก มันจะเป็นเกมที่แตกต่างออกไป”

ใช่… นี่คือฟุตบอลโลก และฝรั่งเศสคือแชมป์เก่า และเป็นตัวเต็มแชมป์กลุ่ม และเกมนี้น่าจะจบลงด้วยชัยชนะของทีมตราไก่ ในแบบที่เดนมาร์กน่าจะทำประตูได้ 3-1 หรือ 2-1

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ดาวเตะตูนิเซีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022

2. นักเตะโคนมคนสำคัญ ที่จะสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ ในฟุตบอลโลก 2022
3. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
4. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022
5. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่ายทอดสด : ทีสปอร์ต 7

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ฝรั่งเศส
แชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 3

เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ โซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ฝรั่งเศส
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ออสเตรีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เดนมาร์ก 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ออสเตรเลีย 4-1

เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ ตูนิเซีย 0-0

 

ผลการพบกัน : 16 นัด
ฝรั่งเศส ชนะ 8
เสมอ 2
เดนมาร์ก ชนะ 6

 

สภาพทีม
ฝรั่งเศส
เริ่มต้นเส้นทางป้องกันแชมป์โลกได้อย่างสวยงาม แม้โดน ออสเตรเลีย ยิงนำ แต่ก็เร่งเครื่องรัวแซงจนชนะขาด 4-1 ด้วยประตูจาก อาเดรียง ราบิโอต์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ 2 ประตูของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

อย่างไรก็ตาม ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ยังคงโดนปัญหาลูกทีมบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ถัดจากที่เสีย โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ล่าสุดก็เป็น ลูคัส เอร์นันเดซ แบ็กซ้ายเบอร์แรกที่เจ็บจากเกมกับ ออสเตรเลีย และต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ไปทันที

 

ประเด็นก็คือ เมื่อเริ่มเล่นเกมแรกไปแล้ว เดส์ชองส์ ก็ไม่อาจเรียกใครมาเสริมเพิ่มเติมได้อีก ดังนั้น ฝรั่งเศส จะต้องไปต่อจนจบรายการด้วยขุมกำลังนักเตะ 24 คนเท่านั้น

 

นอกจากนั้น สภาพร่างกายของ ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเรื่องต้องจับตา หลังจากเกมแรกต้องเปลี่ยนไปใช้คู่ขาใหม่ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ลงตัวจริง

 

สำหรับแนวรุกค่อนข้างลงตัวแล้ว ในระบบ 4-2-3-1 คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ สอดประสานหลังหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

เดนมาร์ก
ทั้งที่มาด้วยผลงานชั้นยอดในรอบคัดเลือก รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปีก็ทำได้ดี แต่การเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลเสมอตัวแทนแอฟริกาอย่าง ตูนิเซีย 0-0 ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องน่าพอใจ

 

แง่ดีเพียงอย่างเดียวคือการทำคลีนชีตได้อีกครั้ง ไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 3 จาก 4 แมตช์หลังสุด

 

ทว่า แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็ต้องเสียคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์จากเซบีย่า ถอนตัวไปเรียบร้อยแล้ว หลังเจ็บขาจากเกมพบ ตูนิเซีย และต้องพักแข้งนานนับเดือน

 

ระบบคงเดิมที่ 3-5-2 โดยคาดว่าจะส่ง มาเธียส เยนเซ่น ลงมาแทน เดอลานีย์ เพื่อให้ คริสเตียน เอริคเซ่น เน้นเกมรุกจากตรงกลาง ขณะที่แดนหน้าก็มีสิทธิ์เปลี่ยน มาร์ติน เบรธเวท อาจได้จับคู่กับ อันเดรียส คอร์เนเลียส ผู้ซึ่งยิง 2 ประตูใส่ ฝรั่งเศส ในรายการเนชั่นส์ ลีก

 

ตัวความหวัง
ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ต้องกลายเป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ในฟุตบอลโลก 2022 แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป แต่ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ดูพร้อมเต็มที่แล้วในการสวมบทบาทนี้ ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 60 เกม ยิง 29 ประตู และเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังยิงรัวๆ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตลอดหลายปี ซีซั่นนี้ก็มีแล้ว 19 ประตู

 

เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 117 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้ ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางล้วนๆ

 

11 ตัวจริงที่คาด
ฝรั่งเศส (4-2-3-1, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เบนชาแม็ง ปาวาร์ – อาเดรียง ราบิโอต์, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
เดนมาร์ก (3-5-2, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, มาเธียส เยนเซ่น, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, คริสเตียน เอริคเซ่น, ราสมุน คริสเตนเซ่น – มาร์ติน เบรธเวท, อันเดรียส คอร์เนเลียส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เจอกันมามากถึง 16 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะมากก็จริงที่ 8 นัด (เดนมาร์ก 6) แต่สองนัดหลังที่พบกัน เดนมาร์ก ชนะไปกลับ 2-1 และ 2-0
• บรรดาตัวเลือกกองกลางของฝรั่งเศส มีเพียง อาเดรียง ราบิโอต์ ที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่เกิน 15 นัด (30 นัด 3 ประตู) นอกนั้นอีก 5 ชอยส์ล้วนแต่เล่นทีมชาติไม่เกิน 15 เกม แถม 4 คนในนั้นยังเล่นมาแค่ 5-6 นัดด้วย
• คาริม เบนเซม่า ไม่อยู่ แต่ที่เหลืออย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (29), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (51), อองตวน กรีซมันน์ (42) ถล่มประตูในนามทีมชาติได้รวมกันถึง 122 ลูก
• โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ฝรั่งเศส เทียบเท่ากับ เธียร์รี่ อองรี แล้ว จากนี้ยิงได้อีกไม่ว่ากี่ประตู ก็จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำแบบเดี่ยวๆ ทั้งสิ้น

 

ความน่าจะเป็น
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ เดนมาร์ก คือได้แค่ผลเสมอจาก ตูนิเซีย ในนัดแรก เนื่องจากแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างข่ม ฝรั่งเศส ตลอดช่วงหลัง แต่นั่นคงไม่สำคัญมากไปกว่าการเผชิญหน้ากันจริงในเกมตรงหน้า และ ฝรั่งเศส ก็แสดงให้เห็นถึงความหิวกระหายที่ดีเยี่ยมด้วยในเกมแรก มีเกมรุกที่จัดจ้านดีเหลือเกิน ซึ่ง เดนมาร์ก เมื่อต้องเจอคู่แข่งที่รุกร้อนแรงประเภทนี้เมื่อไหร่ ก็ไปไม่เป็นเมื่อนั้น

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส
22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : เดนมาร์ก vs ตูนิเซีย

อังคาร 22 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ รอบคัดเลือกโซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

ตูนิเซีย
ชนะ มาลี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนแอฟริกา
(นัดแรกชนะ 1-0 นัดสองเสมอ 0-0)

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0

ตูนิเซีย
กิริน คัพ ชนะ ชิลี 2-0
กิริน คัพ ชนะ ญี่ปุ่น 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ โคโมรอส 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ บราซิล 1-5
อุ่นเครื่อง ชนะ อิหร่าน 2-0

 

ผลการพบกัน (1 นัด)
อุ่นเครื่อง 2002 เดนมาร์ก 2-1 ตูนิเซีย

 

สภาพทีมเดนมาร์กและตูนิเซียฟุตบอลโลก 2022
เดนมาร์ก
แม้จะแพ้ โครเอเชีย เหย้าเยือนจนพลาดแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก แต่มาตรฐานโดยรวมและขุมกำลังก็ยังไม่ต่างไปจากชุดที่เข้าถึงรอบตัดเชือก ยูโร 2020 มากนัก โดยก่อนหน้า เนชั่นส์ ลีก ก็ชนะ 9 เกมซ้อนจนครองแชมป์กลุ่มคัดบอลโลก และตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเป็นรายที่ 3 ถัดจากเจ้าภาพ กาตาร์ และ เยอรมนี

 

แคสเปอร์ ฮูลมันด์ เรียก 5 ชื่อสุดท้ายมาสมทบ จนเป็นทีม 26 คน ซึ่งไม่นับว่ามีเซอร์ไพรส์อะไรมาก ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, คริสเตียน นอร์การ์ด, อเล็กซานเดอร์ บาห์, โรเบิร์ต สคอฟ รวมถึงประตูสำรอง เฟรดริค รอนโนว์ ตามมาลุยบอลโลก

 

ความพร้อมในเกมเปิดหัวพบ ตูนิเซีย มีแค่ต้องเช็กสภาพ โยนาส วินด์ กองหน้าจากโวล์ฟสบวร์ก แต่ก็ไม่นับเป็นสมาชิกคนสำคัญนัก โดยเฉพาะแดนหน้าที่เวลานี้ทัพโคนมมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ สามารถสลับกันเล่นได้หมด

 

ตูนิเซีย
ผ่าน มาลี ของ อีฟส์ บิสซูม่า, มุสซ่า เชเนโป, อมาดู ไฮดาร่า มาได้แบบหวิวๆ สกอร์รวม 1-0 ในรอบคัดเลือกรอบ 3 โซนแอฟริกา เท่ากับได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 6 และสองหนติด

 

กุนซือ จาเลล คาดรี้ มีต้องเช็กอาการของกัปตันทีม ยุสเซฟ เอ็มซานี่ ว่าจะพร้อม 100% หรือไม่ ภายหลังมีการบาดเจ็บติดพันในช่วงหลัง แต่ก็คาดว่าน่าจะเรียกฟิตได้ทันนำทัพลงสนาม

 

ระบบคาดว่าจะใช้ 4-3-3 แเนกลางนำโดยดาวรุ่ง ฮันนิบาล เมจ์บรี้ และข้างหน้าวาง อานิส เบน สลิมาเน่, ยุสเซฟ เอ็มซานี่, วาห์บี คาซรี่ เข้าแลก

 

ตัวความหวัง
เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ที่ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลหรือเซนส์บอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 117 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้…ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางล้วนๆ

ตูนิเซีย : ฮันนิบาล เมจ์บรี้
เจ้าหนูหัวฟูวัยเพียง 19 ได้มาฟุตบอลโลก 2022 อย่างเซอร์ไพรส์ในขณะที่รุ่นพี่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนทำได้แค่ดูบอลโลกอยู่บ้าน ซึ่งก็เนื่องมาจากฟอร์มที่น่าประทับใจในการไปเล่นยืมตัวกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ตลอดครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา ที่ได้ลงสนาม 15 นัด มีส่วนช่วยทีมยืนกลางตาราง ทั้งนี้ เมจ์บรี้ ที่เคยเล่นทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชน ตัดสินใจคว้าโอกาสลงเล่นให้ทีมชาติตูนิเซียชุดใหญ่มาตั้งแต่กลางปี 2021 หรือตอนอายุแค่ 18 เท่านั้น และถึงตรงนี้ลงสนามเคียงข้างรุ่นพี่ๆ ไปแล้ว 18 เกม

 

11 ตัวจริงที่คาด
เดนมาร์ก (3-4-1-2, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์ (C), โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, โธมัส เดอลานีย์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ดาเนี่ยล วาสส์ – คริสเตียน เอริคเซ่น – มาร์ติน เบรธเวท, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก
ตูนิเซีย (4-3-3, กุนซือ จาเลล คาดรี้) อายเมน ดาห์เมน – โมฮาเหม็ด ดราเกอร์, มอนตาสซาร์ ทาลบี้, ดีแลน บรอนน์, อาลี อับดี – เอสซ่า ไลดูนี่, เอลเยส ชกิรี่, ฮันนิบาล เมจ์บรี้ – อานิส เบน สลิมาเน่, ยุสเซฟ เอ็มซานี่ (C), วาห์บี คาซรี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้เคยพบกัน 1 ครั้งถ้วนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เดนมาร์กเบียดชนะ 1-0 เอ๊บเบ้ ซานด์ สังหารชัยกลางครึ่งหลัง
• เดนมาร์ก ยิงคู่แข่งได้นัดละ 2 ประตูเป็นอย่างน้อย 6 จาก 8 เกมหลัง
• ตูนิเซีย เจอทีมยุโรป 2 นัดในฟุตบอลโลกหนก่อน 2018 และแพ้ทั้งสองนัดต่อ อังกฤษ 1-2 และ เบลเยียม 2-5
• โยอาคิม เมห์เล่ ยิงไปถึง 9 ประตูจากการเล่นทีมชาติ 31 นัด ด้วยตำแหน่งวิงแบ็ก
• อานิส เบน สลิมาเน่ กับ อิสซาม เยบาลี เล่นในลีกเดนมาร์ก กับ บรอนด์บี้ และ โอบี โอเดนเซ่ ตามลำดับ

 

ความน่าจะเป็น
โดยชื่อชั้น ตูนิเซีย ห่างจาก เดนมาร์ก มากอยู่แล้ว และฟอร์มที่เป็นช่วงหลังของทัพโคนมก็บอกว่าพวกเขายังไม่หลุดจากมาตรฐานสูงสุดไปมากนัก หลังบ้านยังแข็ง เกมรุกถ้าไม่ใช้โอกาสเปลืองไปเองก็จะมีประตูมาเสิร์ฟทุกเกม ดังนั้น ชัยชนะของ เดนมาร์ก จึงค่อนข้างชัวร์ อยู่ที่จะยิงได้มากหรือน้อย

 

ผลที่คาด : เดนมาร์ก ชนะ 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
เดนมาร์ก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 23.00 — ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
พุธ 30 พฤศจิกายน — 22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

ตูนิเซีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน — 17.00 — ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย
พุธ 30 พฤศจิกายน — 22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส

นักเตะโคนมห้าคนสำคัญ ผู้นำทัพเดนมาร์กในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะโคนมห้าคนสำคัญ ผู้นำทัพเดนมาร์กในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะโคนมห้าคนสำคัญ ผู้นำทัพเดนมาร์กในฟุตบอลโลก 2022

ทีมนักเตะโคนม เดนมาร์กเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 ในแบบสบาย ๆ และเป็นทีมที่สองที่มีชื่อมากาตาร์ต่อจากเจ้าภาพ ในแบบที่ทำแต้มหล่นแต่แต้มเดียว และเสียประตูแค่ลูกเดียว ซึ่งเป็นผลจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมต่อเนื่องมาจาก ยูโร 2020 ที่พวกเขาฟื้นจากเหตุการณ์สุดช็อค เมื่อคริสเตียน อีริคเซ่น ดาวเตะตัวเก่งของทีม “วูบ” คาสนามในนัดแรกของรอบแรก ก่อนจะผ่านไปถึงรอบสี่ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นเครดิตสำคัญที่ทำให้พวกเขาถูกแปะป้ายเป็นม้ามืดในฟุตบอลโลกหนนี้ ที่คงต้องพึ่งฟอร์มการเล่นของดาวเตะเหล่านี้ เพื่อให้ทีมไปได้ไกลที่สุด

หัวใจในการสร้างสรรค์เกมของนักเตะโคนม

คริสเตียน อีริกเซ่น นักเตะโคนม ฟุตบอลโลก 2022

หากทีมนักเตะโคนมต้องการไปให้ไกลกว่าที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่ คริสเตียน อีริกเซ่น (ภาพ: www.espn.com)

คริสเตียน อีริกเซ่น ตำแหน่ง: กองกลาง อายุ: 30 ปี
เจ้าของเหตุการณ์ช็อคโลกในฟุตบอลยูโร 2020 ที่เจ้าตัวออกปากเองว่า เขาเหมือน “ไปจากโลกนี้แล้ว” และเมื่อกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก 287 วันหลังเหตุวูบคาสนาม อีริกเซ่นก็ตามด้วยการเล่นทีมชาติ ที่ประเดิมประตูแรกได้หลังสัมผัสสนามได้แค่ 2 นาที แล้วกับการกลายเป็นนักเตะปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ เขากลายเป็นนักเตะคนสำคัญทั้งในทีมชาติและทีมสโมสรเหมือนอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง และหากทีมนักเตะโคนมต้องการไปให้ไกลกว่าที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก พวกเขาต้องอาศัยนักเตะตัวทำเกมรายนี้ ที่โค้ชทีมชาติ อาเก้ ฮาเรเด้ บอกว่า เป็น “หนึ่งในนักเตะท็อปเท็นในตำแหน่งนี้ของโลก” วิสัยทัศน์, การผ่านบอล และการเล่นลูกตั้งเตะของเขา อีริกเซ่นคือหัวใจในการสร้างสรรค์เกมของเดนมาร์กอย่างแน่นอน แล้วกับความสามารถในการทำประตู สถิติ 38 ประตูที่ทำเอาไว้ ทำให้เขาคือดาวยิงสูงสุดของนักเตะโคนมชุดนี้ และอยู่ในท็อปไฟว์ดาวยิงตลอดกาลของทีมชาติเดนมาร์ก

กองกลางจอมพลัง ของนักเตะโคนม

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก นักเตะโคนมที่ทำให้อีริกเซ่นได้เดินเกมอย่างเต็มที่ และเป็นคนที่อุดช่องว่างให้กับแนวรับ (ภาพ: Michael Regan/Getty Images)

ปิแอร์-เอมิล โฮจ์เบิร์ก ตำแหน่ง: กองกลาง อายุ: 27 ปี
ผู้เล่นที่ทำให้อีริกเซ่นได้เดินเกมอย่างเต็มที่ และเป็นคนที่อุดช่องว่างให้กับแนวรับ นี่คือคนที่จัดการกับเกมรุกของฝ่ายตรงข้าม และขับเคลื่อนเกมของนักเตะโคนมให้ไปข้างหน้า โค้ชของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต้นสังกัดของโฮจ์เบิร์กไม่ว่าจะเป็นโชเซ่ มูรินโญ่หรือว่าอันโตนิโอ คอนเต้ ต่างก็เรียกใช้บริการเขาเป็นตัวหลักในแดนกลาง ทำทุกอย่างให้กับทีมทั้งในเกมรับและเกมรุก ซึ่งในเกมทีมชาติ เขาก็มอบคุณภาพในระดับที่ไม่แตกต่างกันให้ ความแข็งแกร่ง ทีมเวิร์ก และไฟที่ลุกโชนในตัว

หัวจิตหัวใจทั้งในเกมและความรู้สึกของเหล่านักเตะโคนม

ซิมง เคียร์ เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022

ซิมง เคียร์ เซนเตอร์แบ็คคนสำคัญของทีม กัปตันทีมนักเตะโคนมและเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากที่สุดของทีม (ภาพ: AFP)

ซิมง เคียร์ ตำแหน่ง: เซนเตอร์แบ็ค อายุ: 33 ปี
โดยปกติแล้ว เยอร์เก้น คล็อปป์ไม่ค่อยแสดงความชื่นชมนักเตะคู่แข่งสักเท่าไหร่ แต่สำหรับนักเตะโคนมรายนี้ ที่มาเยือนแอนฟิลด์ในฐานะนักเตะเอซี มิลาน คือข้อยกเว้น นี่คือคนที่ควรค่ากับการ “เคารพทั้งในโลกของฟุตบอลและโลกกีฬา” นอกจากจะเป็นเซนเตอร์แบ็คคนสำคัญของทีม เคียร์ยังเป็นกัปตันทีมชาติเดนมาร์ก เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากที่สุดของทีม ที่สถิติลงเล่นให้ทีมชาติจี้สถิติของปีเตอร์ ชไมเคิล 129 นัดเต็มที ส่วนในระดับสโมสรเขาก็ผ่านเกมในลีกระดับท็อปมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และสเปน หากสงสัยในความเป็นผู้นำของทีม เคียร์คือ “ผู้นำตัวจริงในภาวะวิกฤติ” จากที่คล็อปป์ให้ความเห็น ซึ่งเป็นการยกระดับกองหลังรายนี้ไปสู่อีกสถานภาพหนึ่ง และการกระทำที่เคียร์แสดงให้เห็น ในช่วงเวลาสำคัญของเพื่อนสนิทและทีม ในยูโร 2020 บ่งบอกได้ดี เพราะนี่คือการที่ทำให้ช่วยชีวิตกองกลางคนสำคัญเอาไว้ได้ จากความเห็นของแพทย์ และด้วยคุณสมบัติที่มี ไม่ว่าจะเป็นต่อสภาพจิตใจของเพื่อนร่วมฟอร์มการเล่น บทบาทในเกม เคียร์น่าจะมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของนักเตะโคนม

ฟูลแบ็คดาวยิงในทีมนักเตะโคนม

โจอาคิม เมห์เล เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022

โจอาคิม เมห์เล ผู้เล่นแบ็คจอมบุกของนักเตะโคนม ที่เรื่องเกมรับก็ไม่บกพร่อง แล้วยังเล่นได้ทั้งซ้ายหรือขวา แบ็คเต็มตัว หรือว่าวิง-แบ็ค (ภาพ: Reuters)

โจอาคิม เมห์เล ตำแหน่ง: ฟูลแบ็ค อายุ: 25 ปี
ดาวยิงของหลาย ๆ ชาติย่อมภาคภูมิใจกับการทำประตูเฉลี่ย 1 ประตูต่อ 3 นัด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะกองหลังโดยเฉพาะฟูลแบ็คไม่น่าจะฝันถึง แต่ดาวเตะจากอูดิเนเซ่รายนี้ ไม่ใช่ฟูลแบ็คธรรมดา เขาคือคนยิงประตูดับออสเตรีย พาเพื่อน ๆ นักเตะโคนมคว้าตั๋วฟุตบอลโลก 2022 ชัวร์ ๆ หลังสร้างชื่อในยูโร 2020 ด้วยการเป็นผู้เล่นแบ็คจอมบุก ที่เรื่องเกมรับก็ไม่บกพร่อง แล้วยังเล่นได้หมด ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา แบ็คเต็มตัว หรือว่าวิง-แบ็ค ซึ่งทำให้เมห์เลกลายเป็นนักเตะสารพัดตำแหน่งของทีม ไม่ใช่แค่เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง แต่ยังทำได้ดีทั้งรับและรุก ช่วยให้ทีมสามารถปรับเกมได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น 4-3-3 หรือ 3-4-3 ทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญในการการปรับเปลี่ยนแท็กติกระหว่างเกมของทีม ปัญหาอย่างเดียวของเมห์เลก็คือ มีเกมในระดับสโมสรกับอูดิเนเซ่ในฤดูกาลนี้น้อยไป ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับนักเตะที่ควรจะเป็นกลไกสำคัญของทีม

ดาวยิงทรงพลังในแดนหน้าของทีมนักเตะโคนม

ยุสซูฟ พอลเซ่น

ยุสซูฟ พอลเซ่น ด้วยความสูง รูปร่างที่แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพละกำลัง นักเตะโคนมที่พ่อเป็นชาวแทนซาเนีย สามารถสร้างมิติที่แตกต่างให้กับเกมรุกของทีม (ภาพ: Getty Images/ O. Mason)

ยุสซูฟ พอลเซ่น ตำแหน่ง: กองหน้า อายุ: 28 ปี
คนที่ทำให้เดนมาร์กไปได้ไกลทั้งในฟุตบอลโลกที่รัสเซีย และยูโร ซึ่งจะกลายเป็นกุญแจสำคัญของทีมนักเตะโคนมอีกครั้งในฟุตบอลโลก 2020 ทั้ง ๆ ที่ดาวเตะจากไลป์ซิกที่กลายเป็นเจ้าของสถิติลงเล่นมากที่สุดของสโมสร ไม่ใช่พวกนักเตะจอมเทคนิคเหมือนเพื่อนร่วมทีม อย่าง อีริกเซ่น หรือมิกเคล ดัมสการ์ด “ผมไม่ใช่นักเตะมากพรสวรรค์ของเดนมาร์ก หรือเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากให้ทำแบบนั้นได้” เขากล่าว “แต่เมื่อมีคนพูดว่า ผมคงทำไม่ได้ ผมก็อยากแสดงให้เห็นว่า ผมทำได้” และความตั้งใจที่ว่า ก็แปรเปลี่ยนเป็นพลังและความทุ่มเท ที่ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นแนวรับคนแรกของทีม และเหมือนเป็น “เครื่องจักร ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีลูกบอล” วิลลี ออร์แบน เพื่อนร่วมสโมสรของพอลเซ่น ว่าเอาไว้ ด้วยความสูง รูปร่างที่แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพละกำลัง นักเตะโคนมที่พ่อเป็นชาวแทนซาเนีย สามารถสร้างมิติที่แตกต่างให้กับเกมรุกของทีม ”ด้วยสภาพร่างกายเขาคือ สัตว์ประหลาด” คริสเตียน นอร์การ์ด เพื่อนร่วมทีมชาติกล่าว “เขามีร่างกายที่ไม่เหมือนใคร และสามารถทำสิ่งที่ผู้เล่นน้อยคนจะทำได้”

ที่คงต้องมาดูกันว่า นักเตะโคนมห้าคนนี้ จะทำให้เดนมาร์กกลายเป็นม้ามืดในฟุตบอลโลก 2022 ได้หรือไม่

ข้อมูล: FIFA
ภาพปก: www.espn.comMichael Regan/Getty Images, AFP, ReutersGetty Images/ O. Mason
เรื่องน่าอ่าน:
1. 
นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
2. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022
3. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้
4. โคนม เดนมาร์ก กับเทพนิยายเดนส์ฉบับฟุตบอลโลก เมื่อพวกเขาจะเข้ารอบลึกที่สุดในประวัติศาสตร์

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ - กลุ่มดี

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี

หลังทั้ง 32 ทีมในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายเปิดตัวชุดแข่งขันที่จะใช้ลงฟาดแข้งมาให้เห็นกันครบทุกทีมเรียบร้อยแล้ว จากที่ได้เห็นแต่ละแบบ แต่ละสี จากแต่ละผลิตภัณฑ์เครื่องกีฬาก็ดูสวยงามไม่แพ้กัน และทำให้เวทีแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ร้อนระอุไม่แพ้เกมการแข่งขัน ที่แต่ละทีมก็หวังว่าจะทำให้ดีที่สุด หลังได้ทำนายกันไปแล้วว่า ในแต่ละกลุ่มทีมไหนที่น่าจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หนนี้ก็มาดูกันว่าบรรดาชุดแข่งขันของทีมต่าง ๆ ทีมไหนที่ดูเข้าตาบ้าง

กลุ่ม เอ: กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
บนเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์เจ้าภาพ มาแบบเรียบ ๆ แต่เสื้อชุดเหย้าสีแดง มีลูกเล่นตรงปลายแขนเลียนแบบลายธงชาติ คัตติ้งของเสื้อเป็นฟอร์แม็ตเดียวกันเสื้อทีมอื่น ๆ ที่ไนกี้ออกแบบให้  ส่วนเนเธอร์แลนด์ ที่ใช้บริการไนกี้เหมือนกัน จากภาพเสื้อดูเป็นสีส้มแบบใช้ผ้ามัน ดูเป็นเลื่อม ๆ ส่วนชุดเยือนสีพื้นคือน้ำเงินเข้ม แล้วมีเล่นสีดำบริเวณคอ ซึ่งเป็นแพ็ทเทิร์นที่หลาย ๆ ทีมใช้ เซเนกัลใช้บริการของพูม่า เสื้อชุดเหย้าสีขาวสวย ด้วยการเล่นลายลูกศรสีธงชาติบริเวณหน้าอก แต่ชุดเยือนเป็นแพ็ทเทิร์นเดียวกับชุดเยือนที่พูม่าทำให้กับทีมอื่น ๆ จนดูไร้เสน่ห์ ปิดท้ายด้วยเอกวาดอร์ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ มาราธอน เสื้อชุดเหย้าสีเหลืองดูไม่มีลูกเล่นอะไรมากนัก ผิดกับชุดเยือนที่เล่นลายในเนื้อผ้าได้สวยเลย

เสื้อทีมกาตาร์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์เจ้าภาพ จะใช้สีแดงเป็นชุดเหย้าและสีขาวเป็นชุดเยือน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเนเธอร์แลนด์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ มากับสีส้มสมฉายา สำหรับชุดเหย้า ส่วนชุดเยือนเป็นเสื้อสีน้ำเงิน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเซเนกัล ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เสื้อแข่งของเซเนกัล ในฟุตบอลโลก 2022 เสื้อชุดเหย้าสีขาว และชุดเยือนสีเขียว (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

เสื้อทีมเอกวาดอร์ ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เอกวาดอร์ ใช้ชุดเหย้าสีเหลืองเหมือนเคย ขณะที่ชุดเยือนเป็นสีน้ำเงินเข้ม (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม บี: อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, อิหร่าน, เวลส์
ไนกี้ยังแสดงความเป็นเจ้าแฟชันฟุตบอลโลก 2022 เมื่อมี 2 ทีมใช้บริการ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ทีมชาติอังกฤษชุดเหย้าเป็นสีขาว เล่นสีน้ำเงินเข้มไล่เฉดตั้งแต่บริเวณบ่ามาถึงอก ตามคัตติ้งของเสื้อ ที่เป็นฟอร์แม็ตของไนกี้ในฟุตบอลโลกหนนี้ ส่วนชุดเยือนสีแดง เอาชุดเมื่อปี 1990 ของอัมโบรมาปรับดีไซน์ ซึ่งก็สวยแต่เมื่อมองไปถึงตัวต้นแบบแล้ว ก็ต้องยกให้งานต้นฉบับ ของสหรัฐฯ เหมือนใช้ลูกเล่นสลับกับชุดของเนเธอร์แลนด์ เสื้อชุดเหย้าสีขาว จะเล่นสีบริเวณคอแบบเดียวกับชุดเยือนของอัศวินสีส้ม ส่วนชุดเยือนสีน้ำเงินเข้มก็มาในแพ็ทเทิร์นเดียวกับชุดเหย้าเนเธอร์แลนด์ แต่เปลี่ยนสี ซึ่งถือว่าน่าผิดหวัง อิหร่านที่ใช้บริการแบรนด์ท้องถิ่นมาจิด เน้นเรียบ ๆ แต่เล่นกับสีธงชาติเขียว-ขาว-แดง โดยใช้เส้นสีเขียวเล่นเฉดที่บิดเป็นอีกสีหนึ่งเมื่อพาดกลางหน้าอกไปรับกับอีกฝั่ง ปิดท้ายด้วยอดิดาส ที่เหมือนจะเงียบ ๆ ไปหน่อยในปีนี้ ชุดเยือนสีแดงของเวลส์ ดูจะเล่นกับลายผ้า ส่วนชุดเหย้าจะเด่นที่บริเวณลายกราฟิกคอเสื้อ ซึ่งเป็นมุกเดียวกับเสื้อของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ทีมชาติอังกฤษ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 2022 ของอังกฤษ ที่มีสไตล์แตกต่างกัน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติสหรัฐอเมริกา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในฟุตบอลโลก 2022 เหมือนเอาเสื้อของทีมเนเธอร์แลนด์มาสลับฝั่ง ส่วนคัตติ้งก็เป็นฟอร์แม็ตเดียวกัน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติอิหร่าน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แม้จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่น แต่เรื่องดีไซน์ ชุดของทีมชาติอิหร่านก็ดูดี (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติเวลส์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เวลส์มาพร้อมกับเสื้อทีมที่ไม่หวือหวา แต่มีกิมมิกจาก อดิดาส (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม ซี: อาร์เจนติน่า, ซาอุดิอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ถือว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายของแฟชั่นฟุตบอลโลก เพราะสองยักษ์ ไนกี้และอดิดาสดวลกันเพียวร์ ๆ โดยฝ่ายหลังมีอาร์เจนติน่ากับเม็กซิโก ที่หนนี้เม็กซิโกมาดีเหลือเกินเรื่องเสื้อผ้า ชุดเหย้าสีเขียว เล่นกับการเล่นสีเขียวเข้มสลับกับสีเขียวพื้น พิมพ์ลายเหมือนลูกศร ส่วนชุดเยือนสีขาวก็เล่นลายที่ทำให้นึกถึงศิลปะของเผ่าแอชเต็ก อาร์เจนติน่า ชุดเหย้าฟ้าขาวถือว่าตามมาตรฐาน แต่ชุดเยือนก็เข้าตาเหลือเกิน กับลายเหมือนเปลวเพลิงที่ไล่ขึ้นมาจากชายเสื้อ ไนกี้เองก็ออกมาดีไม่แพ้กัน ชุดเหย้าสีขาวของซาอุดิอาระเบีย ถึงจะดูจืด ๆ แต่ก็มีเล่นลายผ้าหากก็ไม่โดดเด่นนัก ถึงกระนั้นก็ดูคลาสสิก ส่วนชุดเหย้าสีเขียวก็เล่นสีเขียวเข้มกับสีเขียวพื้นได้สนุกในอารมณ์หลายพราง ขณะที่ชุดเยือนของโปแลนด์สีแดง มาในทางคลาสสิก ชุดเหย้าสีขาวที่เล่นลายบริเวณไหล่ก็ทำให้เสื้อที่คัตติ้งมาเป็นฟอร์แม็ต ดูมีสไตล์ ไม่น่าเบื่อขึ้นมาได้

ทีมชาติอาร์เจนติน่า แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเหย้าของอาร์เจนติน่า อาจจะไม่ว้าวนัก แต่กับชุดเยือนแล้ว ลายเปลวเพลิงที่ไล่มาจากชายเสื้อดูเตะตาดี (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

 

ทีมชาติเม็กซิโก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

อดิดาสทำเสื้อทีมชาติเม็กซิโกในฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างมีคลาสส์ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แบบถือว่าธรรมดา แต่เสื้อทีมชาติซาอุดิอาระเบีย มาพร้อมกับการเล่นลายในเนื้อผ้า (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติโปแลนด์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเยือนสีแดงดูคลาสสิก และชุดเหย้าที่มีเสน่ห์ตรงบ่าของโปแลนด์ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

กลุ่ม ดี: ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนีเซีย
แม้ฝรั่งเศสจะเป็นทีมวางของกลุ่มและมีทีมที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของไนกี้ถึงสองชาติ แต่เดนมาร์กก็ได้พื้นที่แฟชั่นฟุตบอลโลกไปได้เต็ม ๆ เมื่อร่วมกับฮุมเมล แบรนด์ท้องถิ่น ใช้โอกาสนี้ประท้วงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าภาพกาตาร์ ด้วยการออกแบบเสื้อที่อิงกับดีไซน์เสื้อทีมชุดคว้าแชมป์ยูโร แต่แทนที่จะใช้สีขาวแดง กลับทำเป็นสีเดียวกัน หากตัวลายใช้สีที่มีน้ำหนักมากขึ้นแทน แถมยังมีชุดแข่งแบบที่ 3 สีดำ ที่ระบุว่าเป็นสีของการไว้ทุกข์ออกมาอีก ทำให้เสื้อทีมชาติอื่น ๆ หมองไปเลย โดยฝรั่งเศสมาแบบเรียบ ๆ เป็นสีพื้นทั้งชุดเหย้าและเยือน ส่วนออสเตรเลียก็เป็นคัตติ้งสำเร็จรูปของไนกี้สำหรับฟุตบอลโลกหนนี้ ชุดเหย้าเน้นสีพื้น ส่วนชุดเยือนมีลูกเล่นตรงคอเสื้อ ปิดท้ายด้วยตูนีเซียที่เป็นงานของคัปป้า ดูเหมือนจะไม่มีลูกเล่นอะไรมาก แต่ดูดีจะพบว่า มีการเล่นกับลายผ้าเป็นกราฟฟิกแบบงานอาร์ตแอฟริกัน

ทีมชาติฝรั่งเศส แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แชมป์เก่าฝรั่งเศส มาแบบเรียบ ๆ ทั้งชุดเหย้าและเยือน (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติออสเตรเลีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ทีมจิงโจ้ กับเสิ้อทีมที่มาเป็นฟอร์แม็ตของไนกี้ (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติเดนมาร์ก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ในแง่ของความฮือฮาของเสื้อทีมชาติในฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติเดนมาร์ก นำมา (ภาพ: www.footyheadlines.com)

 

ทีมชาติตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022

เหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ในเนื้อผ้าของทีมชาติตูนีเซีย มีลาย มีลูกเล่น (ภาพ: www.footyheadlines.com)

ข้อมูล: www.footyheadlines.com , www.bbc.com
ภาพปก: www.footyheadlines.com

เรื่องน่าอ่าน: แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022

เบรคสุดท้าย…ก่อนฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะเผลอหรือไม่ วันเวลาก็พาเรามาถึงเบรคทีมชาติช่วงสุดท้ายท้ายสุดแล้ว ก่อนรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 จะโรมรัน

 

ในขณะที่เรากำลังตกตะลึงไปกับความร้อนแรงยิงสลุตไม่แผ่วของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์
กำลังจับตาการฟื้นคืนชีพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค เอริก เทน ฮาก
กำลังเป็นพยานการเดินด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของ เรอัล มาดริด
กำลังเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ ยูเวนตุส ของ แม็กซ์ อัลเลกรี
หรือกำลังต้องปาดเหงื่อลุ้นหนักกับเส้นทางของ เชลซี ในถ้วยบิ๊กเอียร์

 

ใครบางคนคงแอบส่ายหัว… แหม่วุ้ย ทีมชงทีมชาติช่างมาขัดจังหวะกันเสียจริง

 

แต่อย่างที่ได้เอ่ยถึงไว้ในเรื่อง “ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?” เมื่อสักสองเดือนก่อน ว่านี่คือคิวทีมชาติที่สุดแสนจะ “จำเป็น” และ “ต้องมี” แบบไม่อาจเลี่ยงหรือบอกผ่านได้ เพื่อที่จะให้บรรดา 32 ชาติสมาชิกผู้เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ได้เตรียมทีมลองของกันเป็นหนท้ายๆ มากๆ ก่อนที่ เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ จะมาถึงในอีกแค่ 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น

 

หลุดจากงวดนี้ไปจะเหลือเพียงช่วง “เตรียมทีม” ลุยรอบสุดท้ายปลายเดือน 11 (20 พ.ย. เปิดสนามบอลโลก) ประมาณไม่เกิน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น และหลายๆ ทีมก็ยังไม่ได้วางโปรแกรมลับแข้งเป็นทางการไว้ในช่วงนั้นด้วย

 

เบรคทีมชาติเดือนนี้ ชาติยุโรปหลายชาติยังต้องเคลียร์ตอนจบของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ว่าจะจบด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว ส่วน 2 ยักษ์ใหญ่อเมริกาใต้ บราซิล-อาร์เจนติน่า เดิมทีมีคิวต้องรีแมตช์กันเอง แต่ปรากฏว่า “งานล่ม” เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างแยกไปเตะเกมลับแข้งของตัวเอง — เพราะอะไร งานนี้มีคำตอบ

 

อย่างที่ว่า นี่คือโปรแกรมอย่างเป็นทางการหนสุดท้ายจริงๆ แล้วก่อน ฟุตบอลโลก 2022 จะมา ความหมายที่เชื่อมโยงต่อเนื่องก็คือ นักเตะรายไหนจะได้ไปบอลโลกแน่ๆ หรือคนไหนมีแนวโน้มหลุดโผ ได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวี ก็สามารถ “จับสังเกต” ได้เหมือนกันจากการเรียกตัวคราวนี้

 

ฉะนั้น เมื่อความสำคัญของ “เบรคทีมชาติ” กันยายน 2022 มีมากขนาดนี้ จึงสมควรสอดส่ายสายตาหากันหน่อยว่าแต่ละทีมมีคิวแบบใด สถานการณ์เป็นอย่างไร ขุมกำลังสภาพทีมมาทรงไหน แบบครบจบในตอนเดียว!

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อังกฤษ

23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อิตาลี (ซาน ซิโร่, มิลาน)

26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เยอรมนี (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนคนรักบอลบ้านเรา เหลือโปรแกรมเช็คบิล เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 3 สองนัดสุดท้าย แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “เสื่อมความหมาย” ไปพอตัว จากการที่เตะ 4 นัดแรกชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งบ๊วยของกลุ่ม

 

อังกฤษ หมดลุ้นคว้าแชมป์กลุ่มเพื่อเข้ารอบชิงแชมป์ไปเรียบร้อย ที่ยังเหลืออยู่มีแค่ต้อง “หนีบ๊วย” ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้นสู่ ลีกบี 2024/25 เท่านั้นเอง

 

ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเบรคทีมชาติงวดนี้ จึงอาจไม่ได้อยู่ที่แมตช์หรือผลลัพธ์สักเท่าไร แต่เป็นโฉมหน้าของขุมกำลังที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวไปติดธง มากกว่า

 

โฟกัสอยู่ที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่ง…ที่เอาฟอร์มไปทิ้งแถวทะเลจีนใต้มาเป็นปีๆ แล้ว

 

ซีซั่นนี้ลงตัวจริง 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้มันซะ 3 เกม (1-2 ไบรท์ตัน, 0-4 เบรนท์ฟอร์ด, 0-1 เรอัล โซเซียดัด) ตรงกันข้าม เกมไหนที่ เอริก เทน ฮาก ไม่ใช้งานกัปตันทีมวัย 29 รายนี้ ปีศาจแดงก็มีเฮมันทุกนัด!

 

ด้วยฟอร์มที่ออกทะเลแบบเห็นจัดชัดจริง ทำให้หลายฝ่ายมองว่า เซาธ์เกต ไม่ควรเรียก แม็กไกวร์ มาติดธงอีกแล้ว และควรเปิดทางให้ เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล) หรือ ไทโรน มิงส์ (วิลล่า) มากกว่า

 

แต่ก็น่าสนใจว่า เซาธ์เกต เรียกตัวนักเตะตำแหน่งกองหลังมาร่วมทีมมากถึง 12 ราย ในจำนวนนี้มีเซนเตอร์แบ็ก 6-7 รายด้วยกัน (แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เอริก ไดเออร์, คอนเนอร์ คอดี้, ฟิคาโย่ โทโมรี่, มาร์ก เกฮี รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์) ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่า แม็กไกวร์ จะได้เล่นแน่ๆ …แต่ถ้ายังได้ลงตัวจริงอีก ก็ตัวใครตัวมัน!

 

squad สิงโตชุดล่าสุดนี้ หน้าใหม่จริงๆ มีแค่ ไอแวน โทนี่ย์ ตัวจบสกอร์หลักของ เบรนท์ฟอร์ด รายเดียวที่ไม่เคยถูกเรียกตัวมาก่อน ในขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด หลุดไปเนื่องจากบาดเจ็บ

 

ส่วนที่โดนมองข้าม มีทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), เจดอน ซานโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี) และ เจสซี่ ลินการ์ด (ฟอเรสต์)

 

แน่นอนว่า 7-8 รายหลังสุดนี้ คงต้องใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กับสองเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก จะได้ไปแอ่วกาตาร์หรือไม่ ล้วนแต่อยู่ในข่าย “ต้องลุ้นหนัก”

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ฝรั่งเศส
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ออสเตรีย (สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เดนมาร์ก (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

แชมป์โลก 2 สมัย ตราไก่ ฝรั่งเศส ตกที่นั่งเดียวกับสิงโตคำราม อังกฤษ ไม่ผิดเพี้ยน จากการเสมอ 2 แพ้ 2 ในสี่เกมแรก หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว เหลือแค่เตะหนีบ๊วย ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้น

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผู้ซึ่งกุมบังเหียนตราไก่มาครบ 10 ปีเต็มไปเรียบร้อย (130 นัด ชนะ 83 มี 2 โทรฟี่แชมป์) ขาดขาประจำที่มีอาการบาดเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง ปอล ป๊อกบา, อูโก้ โยริส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, เตโอ กับ ลูคัส เอร์นันเดซ, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, อิบราฮิมา โกนาเต้, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, คิงสลี่ย์ โกม็อง และ คาริม เบนเซม่า

 

เพียงแต่ตัวที่ยังอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่ฝีเท้าไม่ธรรมดาทั้งสิ้น นำขบวนโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมัน เดมเบเล่ ยุคกลับมาแจ้งเกิดใหม่, จอมเก๋า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์, คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู, ราฟาแอล วาราน, ชูลส์ คุนเด้ ฯลฯ

 

จุดน่าสนใจอยู่ที่แดนกลาง เป็นหน้าใหม่แทบทั้งแผง ตัวเลขห้อยท้ายคือจำนวนการติดทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (เรอัล มาดริด) 12
มัตเตโอ เก็นดูซี่ (มาร์กเซย) 6
จอร์แดน เวเรตูต์ (มาร์กเซย) 5
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (เรอัล มาดริด) 3
ยุสซูฟ โฟฟาน่า (โมนาโก) 0

 

ด้านพวกที่หลุดเนื่องด้วยการพิจารณาของ เดส์ชองส์ และอยู่ในความเสี่ยงจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก ประกอบด้วย วิสซาม เบน เยแดร์ (เซบีย่า), เกลม็องต์ ลองเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม) หรือแม้แต่ มาร์กซิยาล (แมนฯ ยูไนเต็ด) ถ้ายังออดๆ แอดๆ อยู่แบบนี้ บอลโลกก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022สเปน
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สวิตเซอร์แลนด์ (ลา โรมาเรด้า, ซาราโกซ่า)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปรตุเกส (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

ต้องชิงแชมป์กลุ่ม 2 ลีกเอ กับทาง โปรตุเกส แต่เกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็สำคัญกับทัพ กระทิงดุ สเปน ไม่แพ้กัน เนื่องจากถ้าชนะสวิสส์ได้ จะต้องการเพียงผลเสมอเท่านั้นในเกมกับทีมฝอยทอง (แต่ก็ห้ามแพ้แหละ)

 

หลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนทีมอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว นอกเหนือตัวที่บาดเจ็บ (ลาป๊อร์กต์, ติอาโก้, โอยาร์ซาบัล) แล้ว ที่หลุดโผไปอย่าง อันซู ฟาติ, โรดริโก้ โมเรโน่, ดานี่ โอลโม่, เซร์จี้ โรเบร์โต้, มาร์กอส อลอนโซ่ หรือ เซร์คิโอ เรกีลอน ล้วนเหมือนมี “คำเตือน” แปะหน้าว่าต้องรีบเร่งเค้นฟอร์มโดยด่วน ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกเป็นแน่

 

แต่ที่น่าจะ “พลาดบอลโลก” ค่อนข้างแน่–อย่างน่าประหลาดใจ ดูเหมือนจะมีแน่ๆ แล้ว หนึ่งราย นั่นคือ ดาบิด เด เคอา

 

แม้จะมาตรฐานสูงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด (สลับกับออกลูกเหวอเป็นพักๆ) แต่ช่วง 2-3 ปีหลังก็ได้ลงสนามรับใช้ชาติอย่างจำกัดมาตลอด (ไม่ได้เล่นเลยในชุดตกตัดเชือก ยูโร 2020) ครั้นมาชุดนี้ก็หลุดออกมาเลย ไม่เป็นหนึ่งในสามตัวเลือกนายทวารของ หลุยส์ เอ็นริเก้ อีกแล้ว

 

คนที่ เอ็นริเก้ เลือกไปติดธง มี อูไน ซิมอน (บิลเบา), โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน) และ ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เยอรมนี
23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฮังการี (เร้ดบูลล์อารีน่า, ไลป์ซิก)
26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อังกฤษ (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

ตามหลัง ฮังการี 1 แต้ม แต่ก็ได้ลุ้นแชมป์กลุ่ม 3 ลีกเอ เต็มเหนี่ยว โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดกับ ฮังการี โดยตรงในวันศุกร์ ถ้าชนะได้จะแซงขึ้นจ่าฝูงทันที ก่อนเกมสุดท้าย

 

ฮันซี่ ฟลิค ที่ยังทำทีมไม่แพ้ใครสักนัดหลังผ่านไป 13 เกม (ชนะ 9 เสมอ 4) แทบไม่ได้เปลี่ยนทีมจากช่วงหลังๆ โดยขาดสำคัญๆ แค่ มาร์โก รอยส์ ที่บาดเจ็บ รายเดียว

 

นั่นหมายความว่า โฉมหน้าทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของ เยอรมนี ก็จะเป็นทีมประมาณนี้แหละ – นอยเออร์, สเตเก้น, ทรัปป์, รูดิเกอร์, ซูเล่, กินเทอร์, ชล็อตเตอร์เบ็ค, คิมมิช, กุนโดกัน, โกเร็ตซ์ก้า, ฮาแวร์ตซ์, มูเซียล่า, มุลเลอร์, แวร์เนอร์, ซาเน่, นาบรี้

 

ที่ยังไม่ชัวร์จะได้ไปกาตาร์ (แต่อยู่ในทีมชุดนี้นะ) อาจมีอย่างพวก ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก) หรือ อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป (เซาธ์แฮมป์ตัน) ประมาณนี้

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เนเธอร์แลนด์
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปแลนด์ (นาโรโดวี่, วอร์ซอว์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เบลเยียม (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

อีกหนึ่งทีมที่มีแฟนเยอะในบ้านเรา แต่ยังไม่เคยไปถึงแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งก็น่าเป็นห่วงเล็กๆ ว่าด้วยความที่ เนชั่นส์ ลีก ยังไม่จบ แต่รอบสุดท้ายบอลโลกมาคอยท่าแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมกลุ่มกับทีม “ต่างทวีป” ทั้งสิ้น ทั้ง เซเนกัล, เอกวาดอร์ และเจ้าภาพ กาตาร์ ก็ทำให้อาจเจอปัญหากับบอลต่างสไตล์ ไม่ค่อยรู้หน้าค่าตาแบบนี้ได้เหมือนกัน

 

สำหรับในเนชั่นส์ ลีก ทีมกังหันอยู่ในจุดที่ดีของการคว้าแชมป์กลุ่ม จากการมีแต้มเหนือ เบลเยียม 3 คะแนน (10:7) นั่นหมายถึงถ้าชนะ โปแลนด์ ได้ จะต้องการแค่ผลเสมอจากเกมส่งท้าย ปะทะปีศาจแดงแห่งยุโรป เท่านั้น

 

ส่วนขุมกำลังชุดนี้ คุณปู่ หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนทีมพอสมควรจากชุดก่อนๆ ที่หลุดไปด้วยหลายเหตุผล (เจ็บบ้าง ฟอร์มไม่เข้าตาบ้าง) มีทั้ง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ลุค เดอ ยอง, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า, ไรอัน กราเฟนเบิร์ก, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ถ้ายังคงนั่งสำรองก้นด้านกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ด้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มัทไธส์ เดอ ลิกท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ดาลี่ย์ บลินด์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เมมฟิส เดอปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, โคดี้ กัคโป ยังมีที่ทางในทีมตามเดิม เพิ่มเติมด้วย วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) อดีตดาวดับของ สเปอร์ส ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ รอยัล อันท์เวิร์ป คืนสู่ทำเนียบทีมชาติหนแรกในรอบหลายปี

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เบลเยียม
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เวลส์ (คิง โบดวง, บรัสเซลส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เนเธอร์แลนด์ (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

ปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่เวลานี้หล่นจากเบอร์ 1 มาเป็นเบอร์ 2 อันดับโลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง (เสียตำแหน่งให้บราซิล) อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทั้ง 2 เกมที่เหลือ เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มมาจาก เนเธอร์แลนด์ ให้ได้ จากการตามหลังอยู่ 3 แต้มในตอนนี้

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยังคงยึดทีมเดิมๆ เป็นแกน ชนิดหลับตาก็นึกชื่อออก ไม่ว่าจะ เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ธอร์แกน อาซาร์, ยานนิค การ์รัสโก้, ยูรี่ ตีเลอมันส์, ดรีส เมอร์เทนส์ หรือ ติโบต์ กูร์กตัวส์

 

อย่างไรก็ตาม โรเมลู ลูกากู ดาวยิงอินเตอร์ มิลาน บาดเจ็บจนไม่อยู่ในทีมชุดนี้ ในขณะที่ ดิว็อค โอริกี้ ที่เงียบฉี่กับ เอซี มิลาน หรือ คริสเตียน เบนเตเก้ ที่ไปแสวงโชคในสหรัฐฯ กับ ดี.ซี. ยูไนเต็ด แล้วนั้น ไม่ถูกเรียกตัวมาติดธง แต่กลับยังมี มิชี่ บัตชูอายี่ (28) ที่ย้ายจาก เชลซี ไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ อยู่ในทีม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022โปรตุเกส
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สาธารณรัฐเช็ก (ซิโนโบ, ปร้าก)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สเปน (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

เจ้าของแชมป์ยูโร 2016 ถูกประเมินเป็นเพียง “ม้านอกสายตา” สำหรับการคั่วแชมป์โลกที่กาตาร์ ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไปค่อนข้างเยอะของตัวชูโรงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ว่าในขณะเดียวกันยังมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ชูเอา เฟลิกซ์, ราฟาเอล เลเอา หรือ ดีโอโก้ โชต้า เป็นตัวความหวัง ก็ตาม

 

รายชื่อข้างต้น ต่างยังคงอยู่ในทีมของ แฟร์นันโด ซานโตส ทั้งหมด ส่วนที่หลุดไปมีอาทิ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง), เรนาโต้ ซานเชซ (เปแอสเช) รวมถึง ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์) ที่อายุปาไป 36 แล้ว

 

สำหรับสถานการณ์ใน เนชั่นส์ ลีก ทีมฝอยทองอยู่ในสถานะเป็นรอง สเปน จากการมีแต้มตามหลัง 1 คะแนน หมายถึงอย่างน้อยต้องชนะ สาธารณรัฐเช็ก เป็นอันดับแรก แล้วก็มีโอกาสสูงที่ยังต้อง “บังคับชนะ” สเปน ในเกมสุดท้ายอีกทีเพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เดนมาร์ก
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โครเอเชีย (มักซิเมียร์, ซาเกร็บ)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฝรั่งเศส (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

อีกหนึ่งชาติยุโรปที่ถูกมองจากหลายฝ่ายว่ามีสิทธิ์ทำเซอร์ไพรส์ ถัดจากการเข้าถึงตัดเชือกยูโร 2020, การตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นชาติที่ 3 (ถัดจาก กาตาร์ และ เยอรมนี) และการลุ้นแชมป์กลุ่ม 1 ลีกเอ อย่างเต็มตัว ด้วยมีโอกาสสูงจะทำสำเร็จ จากการที่มี 9 แต้ม นำหน้าทั้ง โครเอเชีย (7), ออสเตรีย (4) และ ฝรั่งเศส (2) ที่หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว

 

แต่แม้กระนั้น เกมเยือน โครเอเชีย ในวันพฤหัสบดี สำคัญแบบโคตรๆ เมื่อทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ไม่อาจหลุดแพ้ได้เลย หากพลาดพลั้งขึ้นมามีอันหล่นจากจ่าฝูงทันที แถมนัดสุดท้ายยังต้องเจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส อีกด้วย

 

ความเปลี่ยนแปลงในขุมกำลังของ ฮูลมันด์ มีเยอะ–ในหน้าตลาด เมื่อหลายต่อหลายแข้งคนสำคัญถึงเวลาเปลี่ยนสังกัด ไม่ว่าจะ คริสเตียน เอริคเซ่น, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, มิคเคล ดัมส์การ์ด, มาร์ติน เบรธเวท หรือ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

แต่พวกที่เอ่ยถึงทั้งหมดต่างยังคงอยู่เป็นแกนของทีมโคนมตามปกติ ที่หลุดไปไม่โดนเรียกมีอาทิ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น, ปิโอเน่ ซิสโต้, โมฮาเหม็ด ดารามี่

 

ส่วนทาง อันเดรียส คอร์เนเลียส, โรเบิร์ต สคอฟ, โยนาส วินด์, คริสเตียน นอร์การ์ด บาดเจ็บทั้งหมด

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022บราซิล
23/09 อุ่นเครื่องพบ กาน่า (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ตูนิเซีย (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)

 

ที่จริงแล้ว ฟีฟ่า ได้สั่งให้ บราซิล มาลงเตะรีแมตช์กับ อาร์เจนติน่า (เกมเจ้าปัญหาเมื่อ 5 ก.ย. 2021 คู่นี้ลงสนามกันแค่ 5 นาทีก็โดนแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบราซิล จนลุกลามบานปลายเป็นการวอล์คเอาต์ของแข้งฟ้าขาว และเกมต้องยกเลิกในที่สุด) ในเบรคทีมชาติงวดนี้ แต่ปรากฏว่าทั้ง บราซิล และ อาร์เจนติน่า ได้ปฏิเสธการลงเล่นเกมนี้ซ้ำ เมื่อต่างก็มองไม่เห็นว่าการรีแมตช์จะเกิดประโยชน์อันใด สู้ปล่อยให้แยกกันไปเล่นเกมลับแข้ง เตรียมทีมสู้ศึกบอลโลก จะเป็นเรื่องดีกับทั้งสองมากกว่า

 

ตีเต้ ที่ถูไม้ถูมือจะนำทีมครองแชมป์โลกให้ได้ในรอบ 20 ปี กำลังมีตัวเลือกนักเตะดีๆ ล้นมือ จนทำให้ต้องหมางเมินหลายๆ คนไป ไม่ว่าจะ กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อาร์ตูร์ เมโล่, เฟลิเป้ มอนเตโร่, ดานี่ อัลเวส แต่กลุ่มนี้ก็ยังอยู่ในข่ายพิจารณาไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ (หรือบางคนก็จะได้ไปแน่ๆ แต่แค่ว่า “ได้พัก” สำหรับเดือนนี้เท่านั้นเอง)

 

ประเด็นของทีมชุดล่าสุดนี้ คงมีประมาณ 2 ข้อ
1) แนวรุก ต่อให้ไม่นับ เปโดร ตัวใหม่จากฟลาเมงโก้ ก็ยังยืนเบียดไหล่ชนไหล่ ใครจะลงใครจะนั่ง เป็นเรื่องปวดหัวของ ตีเต้ ดีแท้
เนย์มาร์ (เปแอสเช) 119 นัด / 74 ประตู
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล) 55 / 17
ริชาร์ลิซอน (สเปอร์ส) 36 / 14
วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) 14 / 1
ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า) 9 / 3
อันโตนี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 9 / 2
มาเตอุส คุนญ่า (แอตฯ มาดริด) 7 / 0
โรดรีโก้ โกเอส (เรอัล มาดริด) 5 / 1

 

กับ 2) ทั้งที่ตัวเลือกมีบานเบอะ ตรงกลาง เฟร็ด ก็ยังอุตส่าห์จะติดอยู่อีก!

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อาร์เจนติน่า
23/09 อุ่นเครื่องพบ ฮอนดูรัส (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)
27/09 อุ่นเครื่องพบ จาไมก้า (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)

 

เช่นเดียวกันกับ บราซิล ที่เกมรีแมตช์ “ซูเปอร์กลาซิโก้” ระหว่างคู่รักคู่แค้นแดนละติน ได้ถูกยกเลิกคิวไปแม้ ฟีฟ่า จะสั่งการมา

 

อาร์เจนติน่า วางโปรแกรมเล่นในเบรคทีมชาติงวดนี้เอาไว้ 2 นัด เป็นการยกพลไปเก็บตัวและลงสนามที่สหรัฐอเมริกา โดยจะเล่นที่ ไมอามี่ ฟลอริด้า และ แฮร์ริสัน นิว เจอร์ซี่ย์ ตามลำดับ

 

ทีมฟ้าขาวตั้งใจเรียก 2 ทีมจากคอนคาเคฟอย่าง ฮอนดูรัส และ จาไมก้า มาทดสอบฝีเท้าลองเชิง ก่อนที่ในรอบสุดท้ายพวกเขาจะต้องดวลกับ เม็กซิโก มหาอำนาจของโซนคอนคาเคฟ ในเกมที่ 2 นั่นเอง (นอกเหนือจากการพบ ซาอุฯ และ โปแลนด์)

 

สำหรับทีมชุดนี้ของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ เช่นเดิม ร่วมด้วยซูเปอร์สตาร์ชื่อคุ้นหูอย่าง เปาโล ดีบาล่า, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย, อเลฮานโดร โกเมซ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ หรือประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

ส่วนที่หลุดออกไปมีอาทิ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), ลูคัส อลาริโอ (แฟร้งค์เฟิร์ต), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), ฮวน ฟอยธ์ (บียาร์เรอัล) ที่แน่นอนว่าพวกนี้ก็คงต้องเร่งฟอร์มในระดับสโมสรช่วงโค้งสุดท้ายกันหน่อย ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกแหงๆ

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ญี่ปุ่น
23/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ สหรัฐอเมริกา (สนามกลางที่เยอรมนี)
27/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ เอกวาดอร์ (สนามกลางที่เยอรมนี)

 

โยกมาดูทางฝั่งเอเชียกันบ้างพอกล้อมแกล้ม “ซามูไรสีน้ำเงิน” วางคิวช่วงนี้เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ กิริน ชาลเลนจ์ คัพ โดยเชิญ สหรัฐอเมริกา กับ เอกวาดอร์ มาเป็นแขก ซึ่งจะลงเล่นกันที่ ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

 

กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ปรับทัพพอสมควร เปิดที่ทางให้นักเตะจากเจลีกมาติดทีมหลายราย ส่วนตัวนอกที่เล่นในลีกยุโรป ถูกเมินไปหลายคนจนน่าอิจฉาในทรัพยากรอันเพียบพร้อม ไม่ว่าจะ ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), โค อิตาคุระ (กลัดบัค), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือ เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์)

 

แต่แม้จะเมินไปอื้อ ตัวนอกอีกหลายต่อหลายรายก็ยังคงอยู่เป็นแกนหลัก ไม่ว่าจะ 3 แข้งเซลติก เคียวโง ฟุรุฮาชิ – ไดเซน มาเอดะ – เรียว ฮาตาเตะ, ริตสึ โดอัน (ไฟรบวร์ก), ไดจิ คามาดะ (แฟร้งค์เฟิร์ต), ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก), ทาเคฟุสะ คุโบะ (โซเซียดัด), เกงกิ ฮารางูจิ (อูนิโอน), กาคุ ชิบาซากิ (เลกาเนส), วาตารุ เอนโดะ (สตุ๊ตการ์ท), ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ (อาร์เซน่อล) หรือกัปตันทีม มายะ โยชิดะ ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ ชาลเก้ ในวัย 34

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เกาหลีใต้
23/09 อุ่นเครื่องพบ คอสตาริกา (โกยัง สเตเดี้ยม, โกยัง)
27/09 อุ่นเครื่องพบ แคเมอรูน (โซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม, โซล)

 

นัด คอสตาริกา กับ แคเมอรูน มาลับแข้ง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนต้องเจอ อุรุกวัย, กาน่า และ โปรตุเกส ในรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

 

โสมขาวของกุนซือ เปาโล เบนโต้ แทบไม่เปลี่ยนทีมจากชุดก่อนๆ นำโดย ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมจากสเปอร์ส ที่เพิ่งจัดแฮตทริกใส่เลสเตอร์ และตัวลีกยุโรปเพียบ ไม่ว่า ฮวาง ฮี-ชาน (วูล์ฟส์), อี แจ-ซุง (ไมนซ์), จอง วู-ยอง (ไฟรบวร์ก), อี คัง-อิน (มายอร์ก้า), ฮวาง อุย-โจ (โอลิมเปียกอส) หรือ คิม มิน-แจ (นาโปลี)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022กาตาร์
20/09 อุ่นเครื่องพบ โครเอเชีย ยู-23 (สนามกลางที่ออสเตรีย)
23/09 อุ่นเครื่องพบ แคนาดา (สนามกลางที่ออสเตรีย)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ชิลี (สนามกลางที่ออสเตรีย)

 

ปิดท้ายที่เจ้าภาพ กาตาร์ ซึ่งเดินหน้าเตะลับแข้งแบบรัวๆ ทั้งอุ่นเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยเดือนนี้จัดไปเน้นๆ 3 นัด (เตะที่ออสเตรียทั้งหมด) ก่อนที่เดือน พ.ย. จะจัดอีก 2 นัด พบ ปานามา และ อินเดีย ก่อนรอบสุดท้ายมาถึงช่วงปลายเดือน

 

ส่วนในแง่ขุมกำลัง เฟลิกซ์ ซานเชซ กุนซือทัพ The Maroon ไม่อาจปรับเปลี่ยนอะไรได้มาก เมื่อไม่ได้มีตัวส่งออกไปเล่นลีกยุโรปอย่างใครเขา ทัพนักเตะชุดนี้ 100% เป็นตัวในลีกกาตาร์เองทั้งหมด และแข้งหน้าเดิมๆ เช่น อัลโมเอซ อาลี, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, อัคราม อาฟีฟ, อับดุลลาซิซ ฮาเต็ม, อับเดลคาริม ฮัสซัน มาตามนัดทั้งหมด

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

สรุปโปรแกรมเบรคทีมชาติเดือนกันยายน 2022

พุธ 21/09

FM เวียดนาม – สิงคโปร์ 19:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สกอตแลนด์ – ยูเครน 01:45

 

พฤหัสบดี 22/09

FM ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ 17:00
FM เวเนซุเอล่า – ไอซ์แลนด์ 23:00
UNL โครเอเชีย – เดนมาร์ก 01:45
UNL ฝรั่งเศส – ออสเตรีย 01:45
UNL เบลเยียม – เวลส์ 01:45
UNL โปแลนด์ – เนเธอร์แลนด์ 01:45
UNL คาซัคสถาน – เบลารุส 21:00
UNL ลิธัวเนีย – หมู่เกาะแฟโร 01:45
UNL ตุรเคีย – ลักเซมเบิร์ก 01:45
UNL สโลวาเกีย – อาเซอร์ไบจาน 01:45
UNL ลัตเวีย – มอลโดว่า 23:00
UNL ลิกเตนสไตน์ – อันดอร์ร่า 01:45
KC ตรินิแดดฯ – ทาจิกิสถาน 17:30
KC ไทย – มาเลเซีย 20:30

 

ศุกร์ 23/09

FM เกาหลีใต้ – คอสตาริกา 18:00
FM ญี่ปุ่น – สหรัฐอมริกา 19:25
FM อิหร่าน – อุรุกวัย 23:00
FM กาตาร์ – แคนาดา 00:00
FM ปารากวัย – ยูเออี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – เอกวาดอร์ 01:00
FM บราซิล – กาน่า 01:30
FM โมร็อกโก – ชิลี 02:00
FM แอลจีเรีย – กินี 02:00
UNL เยอรมนี – ฮังการี 01:45
UNL อิตาลี – อังกฤษ 01:45
UNL บอสเนียฯ – มอนเตเนโกร 01:45
UNL ฟินแลนด์ – โรมาเนีย 01:45
UNL จอร์เจีย – มาซิโดเนียเหนือ 23:00
UNL บัลแกเรีย – ยิบรอลตาร์ 01:45
UNL เอสโตเนีย – มอลต้า 23:00

เสาร์ 24/09

FM อาร์เจนติน่า – ฮอนดูรัส 07:00
FM แอฟริกาใต้ – เซียร์ร่า ลีโอน 20:00
FM คีร์กีสถาน – รัสเซีย 21:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – โตโก 23:00
FM โบลิเวีย – เซเนกัล 00:00
FM อินเดีย – สิงคโปร์ 19:00
FM ลาว – มัลดีฟส์ 15:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สาธารณรัฐเช็ก – โปรตุเกส 01:45

UNL สเปน – สวิตเซอร์แลนด์ 01:45
UNL อาร์เมเนีย – ยูเครน 20:00
UNL ไอซ์แลนด์ – รัสเซีย (เลื่อน)
UNL สโลวีเนีย – นอร์เวย์ 23:00
UNL สกอตแลนด์ – ไอร์แลนด์ 01:45
UNL อิสราเอล – อัลเบเนีย 01:45
UNL เซอร์เบีย – สวีเดน 01:45
UNL ไอร์แลนด์เหนือ – โคโซโว 23:00
UNL ไซปรัส – กรีซ 01:45

 

อาทิตย์ 25/09

FM โคลอมเบีย – กัวเตมาลา 06:30
FM เม็กซิโก – เปรู 08:00
FM นิวซีแลนด์ – ออสเตรเลีย 10:00
UNL ออสเตรีย – โครเอเชีย 01:45
UNL เดนมาร์ก – ฝรั่งเศส 01:45
UNL เนเธอร์แลนด์ – เบลเยียม 01:45
UNL เวลส์ – โปแลนด์ 01:45
UNL สโลวาเกีย – เบลารุส 23:00
UNL อาเซอร์ไบจาน – คาซัคสถาน 23:00
UNL หมู่เกาะแฟโร – ตุรเคีย 01:45
UNL ลักเซมเบิร์ก – ลิธัวเนีย 01:45
UNL อันดอร์ร่า – ลัตเวีย 20:00
UNL มอลโดว่า – ลิกเตนสไตน์ 20:00
KC นัดชิงที่ 3 17:30
KC นัดชิงชนะเลิศ 20:30

 

จันทร์ 26/09

UNL อังกฤษ – เยอรมนี 01:45
UNL ฮังการี – อิตาลี 01:45
UNL มอนเตเนโกร – ฟินแลนด์ 01:45
UNL โรมาเนีย – บอสเนียฯ 01:45
UNL ยิบรอลตาร์ – จอร์เจีย 01:45
UNL มาซิโดเนียเหนือ – บัลแกเรีย 01:45
UNL ซานมาริโน่ – เอสโตเนีย 01:45

 

อังคาร 27/09

FM เม็กซิโก – โคลอมเบีย 09:00
FM เกาหลีใต้ – แคเมอรูน 18:00
FM เอกวาดอร์ – ญี่ปุ่น 18:55
FM แอฟริกาใต้ – บอตสวาน่า 20:00
FM แคนาดา – อุรุกวัย 23:00
FM บาห์เรน – ปานามา 23:00
FM กาตาร์ – ชิลี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – สหรัฐอเมริกา 01:00
FM อุซเบกิสถาน – คอสตาริกา 01:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – กินี 01:00
FM บราซิล – ตูนิเซีย 01:30
FM ปารากวัย – โมร็อกโก 02:00
FM แอลจีเรีย – ไนจีเรีย 02:00
UNL โปรตุเกส – สเปน 01:45
UNL สวิตเซอร์แลนด์ – สาธารณรัฐเช็ก 01:45
UNL ไอร์แลนด์ – อาร์เมเนีย 01:45
UNL ยูเครน – สกอตแลนด์ 01:45
UNL อัลเบเนีย – ไอซ์แลนด์ 01:45
UNL รัสเซีย – อิสราเอล (เลื่อน)
UNL นอร์เวย์ – เซอร์เบีย 01:45
UNL สวีเดน – สโลวีเนีย 01:45
UNL กรีซ – ไอร์แลนด์เหนือ 01:45
UNL โคโซโว – ไซปรัส 01:45

 

พุธ 28/09

FM จาไมก้า – อาร์เจนติน่า 07:00
FM เปรู – เอล ซัลวาดอร์ 07:00
FM ฮอนดูรัส – กัวเตมาลา 08:00

หมายเหตุ – UNL ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก / FMเกมอุ่นเครื่อง / KC คิงส์คัพ

 

 

อ้างอิง
Soccerway
WIKIPEDIA
The Statesman

ภาพประกอบ
Sports Brief
Footy Headlines
Goal

กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

ฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม ชะตากรรมของแชมป์เก่าไม่สวยสักเท่าไหร่ เพราะจอดป้ายแค่รอบแรกเกือบทั้งหมด รอดถึงรอบต่อไปได้ก็มีแค่บราซิล แชมป์ปี 2002 ที่ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2006 แล้วก็จบแค่นั้น และในฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส แชมป์เก่าจากรัสเซีย ก็ผ่านรอบคัดเลือกมาป้องกันแชมป์ ซึ่งในอดีตพวกเขาคือทีมแรกที่เจออาถรรพ์แชมป์โลก ที่เล่นงานจนตกรอบแรกในฟุตบอลโลกครั้งต่อมา แบบไม่ชนะใครเลย คราวนี้ทีมตราไก่ที่เป็นทีมวางในกลุ่ม ดี จะมีโอกาสเจอคำสาปแชมป์โลกซ้ำหรือไม่

กลุ่ม ดี: ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนีเซีย

แชมป์โลก ฝรั่งเศส

ทีมแชมป์โลก ฝรั่งเศส ทีมวางในกลุ่ม ดี (ภาพ: Twitter @FrenchTeam)

ฝรั่งเศสเดินทางมาป้องกันแชมป์ โดยเป็นหัวแถวกลุ่ม ดี มีดิดีเยร์ เดส์ชองป์ เป็นโค้ชเหมือนเดิม แต่ผลงานหลังจากคว้าแชมป์โลกกลับดูไม่ค่อยน่าประทับใจนัก รูปแบบการเล่นก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ฟุตบอลยูโร 2020 ก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยพ่ายสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทีมวัวเคยขาม้าเคยขี่มาตลอด แถมบอลเนชันส์ ลีกที่เพิ่งเตะไปสี่นัด ก็ทำได้แค่เสมอสอง และเอาชนะใครไม่ได้เลย ทำเอาเสียเครดิตมาก ๆ แล้วต้องลุ้นนักเตะตัวหลัก อย่าง ปอล ป็อกบา ว่าจะหายเจ็บทันฟุตบอลโลกไหม ถ้าหายทันก็ลุ้นต่ออีกว่าจะฟิตพอสำหรับลงสนามแค่ไหน ยังดีที่เดส์ชองป์มีนักเตะที่ดีอยู่ในมือมากมาย เช่น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมฟุตบอลโลกหนก่อน กับพวกดาวเตะหน้าใหม่ ๆ ที่กำลังพุ่งขึ้นมา เช่น ออเรเลียน ชูอาเมนี, วิลเลียม ซาลิบา และเอดูอาร์โด กามาวินก้า ส่วนพวกหน้าเก่า ๆ ก็ยังไม่ถึงกับหลุดฟอร์ม โดยเฉพาะศูนย์หน้า – คาริม เบนเซม่า ที่ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีต่อเนื่อง

เดนมาร์ก ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

เดนมาร์ก อีกหนึ่งทีมเต็มแชมป์กลุ่ม ดี ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Instagram @herrelandsholdet)

แล้วเมื่อดูเพื่อนร่วมกลุ่ม ดี คู่แข่งดูจะมีแค่เดนมาร์ก การผ่านไปสู่รอบ 16 ทีมน่าจะเป็นเรื่องไม่ยาก เพียงแต่จะเป็นที่ 1 หรือ 2 เพราะทีมโคนมอยู่ในฟอร์มที่ดีกว่า หากเทียบกันในตอนนี้ ทำให้การเจอกันในนัดที่สองของทั้งคู่ คือนัดตัดสินชะตาว่าใครจะเป็นที่เท่าไหร่ของสาย ที่ตอนนี้จากฟอร์ม จากความพร้อมของผู้เล่น คงต้องบอกว่า เดนมาร์กดูดีกว่า โดยเฉพาะหลังยูโร 2020 พวกเขาดูแข็งแกร่งมากขึ้นในเรื่องจิตใจ แล้วบรรดานักเตะหน้าใหม่ของทีมน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าเดิม แถมตัวเก่ง อย่าง คริสเตียน เอริกเซนก็กลับมาแล้ว โคนมน่าจะเบียดตราไก่เป็นที่ 1 ในสาย

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

แล้วอีกสองทีมที่เหลือในกลุ่ม ดีไม่มีอะไรเลยหรือ? คำตอบคือ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ตูนีเซียอาจได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์กับความคุ้นเคย เมื่อมีชุมชนของพวกเขาอยู่ในโดฮา แล้วเคยเล่นที่นี่ในฟุตบอลอาหรับคัพปี 2021 ที่ไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่เมื่อพูดถึงฟุตบอลโลกของแค่นี้ยังไม่พอ พวกเขามีโอกาสเป็นทีมแจกแต้มให้สองทีมจากยุโรป โอกาสเดียวในการเก็บแต้มก็คือการเจอกับออสเตรเลีย ที่ผ่านเพลย์ออฟมากาตาร์ด้วยฟอร์มการเล่นดูพื้น ๆ ไม่มีเสน่ห์หรือความพิเศษใส่ไข่ แบบที่หากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์หรือเปรู จะเข้ามาแทนที่ก็ได้เมื่อดูฟอร์มการเล่นในวันเจอกับทีมแดนจิงโจ้ และทำให้การเจอกันของตูนีเซียและออสเตรเลียกลายเป็นแม็ตช์ที่น่าสนใจขึ้นมาทันที กับการเป็นนัดตัดสินชะตา เช่นเดียวกับการเจอกันของสองทีมแห่งยุโรป แต่ขณะที่คู่หนึ่งวัดกันว่าใครจะเป็นที่ 1 ในสาย อีกคู่คือการวัดว่าใครจะจมอยู่ที่สุดท้ายของกลุ่ม ดี

ตูนีเซีย ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม ดี

ตูนีเซีย ทีมที่ได้เสียงเชียร์จากชุมชนชาวตูนีเซียในโดฮา (ภาพ: Twitter @tunisiefootball)

งานนี้ ขอสรุปว่า ในกลุ่ม ดี ของฟุตบอลโลก 2022 โคนมน่าจะเข้าวินเป็นที่หนึ่ง ฝรั่งเศสเป็นที่สอง ออสเตรเลียคงมาที่สาม ส่วนตูนีเซียน่าจะรั้งท้าย ในแบบที่สองอันดับสุดท้ายเบียดกันแบบฉิวเฉียดสุด ๆ

โปรแกรมในกลุ่ม ดี 

22 พฤศจิกายน
เดนมาร์ก – ตูนิเซีย
ฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย

26 พฤศจิกายน
ตูนิเซีย – ออสเตรเลีย
ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก

30 พฤศจิกายน
ตูนิเซีย – ฝรั่งเศส
ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก 

ข้อมูล: EURONEWS  ESPN FC  WIKEPEDIA
ภาพปก: www.ligue1.com , PA Photos  Liselotte Sabroe/Reuters GETTY IMAGES

เรื่องน่าอ่าน: ปัญหาของแชมป์โลก ฝรั่งเศส ที่ต้องจัดการก่อนนัดแรกฟุตบอลโลก 2022

โคนม เดนมาร์ก กับเทพนิยายเดนส์ฉบับฟุตบอลโลก เมื่อพวกเขาจะเข้ารอบลึกที่สุดในประวัติศาสตร์

โคนม เดนมาร์ก กับเทพนิยายเดนส์ฉบับฟุตบอลโลก เมื่อพวกเขาจะเข้ารอบลึกที่สุดในประวัติศาสตร์

โคนม เดนมาร์กคือทีมที่สร้างเรื่องราวที่เต็มไปด้วยสีสันเป็นประจำ ทั้งการสร้างเทพนิยายเดนส์ในยูโร 1992 เรื่องช็อคโลกในสนามเมื่อคริสเตียน อีริกเซ่นวูบคาสนามในยูโร 2020 แต่พวกเขาก็ก้าวไปถึงรอบรองชนะเลิศ แบบเกือบสร้างเทพนิยายเดนส์ฉบับที่สองขึ้นมาได้ และในฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาจะสร้างเทพนิยายเดนส์ฉบับฟุตบอลโลกได้หรือไม้ มาวิเคราะห์เส้นทางกัน