เรื่อง

ซามูไร ญี่ปุ่น จะไม่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอความเก๋าของทีมตราหมากรุก

ซามูไร ญี่ปุ่น จะไม่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเจอความเก๋าของทีมตราหมากรุก

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม ญี่ปุ่น – โครเอเชีย

วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 22:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง True4U/ True Sport

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ไม่ว่าฟุตบอลโลกหนนี้จะจบลงยังไง แต่ญี่ปุ่นก็คือทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์มากที่สุดของรายการ ทีมของโค้ชฮาจิเมะ โมริยาสุ รอดจากกลุ่มแห่งความตายมาได้ โดยเอาชนะอดีตสองแชมป์โลก เยอรมนี สเปน แถมยังเป็นที่ 1 ในกลุ่ม ขณะที่รองแชมป์หนที่แล้ว เข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม เอฟ ที่โมร็อกโกเป็นแชมป์กลุ่มในแบบสุดเซอร์ไพรส์ ด้วยการชนะแคนาดา เสมอโมร็อกโกและเบลเยี่ยมในนัดสุดท้าย ที่เกือบจะไปอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะหลังโรเมลู ลูกากูถูกส่งลงสนาม แต่พลาดการทำประตูในระยะที่ต้องได้ถึง 3-4 ครั้ง

การผ่านรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันของทีมซามูไร ต้องขอบคุณการแก้เกมในครึ่งหลังของโมริยาสุในสองเกมสำคัญ ที่ตามหลังคู่แข่ง อย่าง เยอรมนีและสเปน 1-0 แล้วพลิกกลับมาชนะได้ ซึ่งถ้าทำได้ขนาดนี้ คงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า ถ้าพวกเขาไม่ผ่านเข้ารอบ ที่น่าสนใจก็คือ หากญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้อีก จะเกิดการเจอกันหนแรกในฟุตบอลโลกของทีมจากเอเชีย โดยทีมจากแดนกิมจิต้องเจอกับบราซิล เต็งหนึ่งของรายการ ซึ่งญี่ปุ่นแม้จะเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็หลายครั้ง ยังไม่เคยไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเลย

โครเอเชียเองหวิดจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าลูกากูใช้โอกาสที่มีสำเร็จแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อทำไม่ได้ทีมตราหมากรุกคือทีมที่ได้ไปต่อ ซึ่งต้องให้เครดิตกับ 4 ประตูที่พวกเขาทำได้ในเกมกับแคนาดา รวมถึงแนวรับที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี เสียไปแค่ประตูเดียวและยังไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะจอสโก้ กวาร์ดิโอล จากอาร์เบ ไลป์ซิก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมยอด จนทีมของซลัตโก้ ดาลิก ผ่านเข้ารอบมาเจอกับทีมที่เล่นสวนกลับอย่างเยี่ยมยอด เช่น ญี่ปุ่น

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

เช็กสถิติของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ทั้งสองทีมเจอกันรวมทั้งหมด 3 ครั้ง และ 2 ครั้งเป็นเกมฟุตบอลโลก ทั้งคู่เจอกันหนแรกในปี 1997 เป็นศึกกิริน เจแพน คัพ ซึ่งญี่ปุ่นเอาชนะไป 4-3 ก่อนจะมาเจอกันในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งดาวอร์ ซูเคอร์ยิงประตูโทนให้ทีมตราหมากรุกชนะ ก่อนจะคว้าที่ 3 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หนต่อมา เป็นฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เสมอกันไป 0-0 โดยนักเตะโครแอตชุดนั้นก็มี ดาริโอ แซร์น่า ส่วนลูก้า โมดริซเป็นตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมา ญี่ปุ่นเป็นยุคของชุนซูเกะ นากามูระและฮิเดโตชิ นากาตะ

ส่วนห้าเกมหลังของทั้งคู่ ญี่ปุ่นชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 1 (DLWLW) ส่วนโครเอเชีย ชนะ 3 เสมอ (WWDWD)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและโครเอเชีย
ฮิโรกิ ซากาอิ และทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาแต่น่าจะไม่รุนแรง เมื่อต่างก็เป็นตัวสำรองในเกมที่แล้ว โดยโทมิยาสุที่ลงเล่นครึ่งหลังและโชว์ฟอร์มได้ดี น่าจะได้ลงแทนโก อิตากูระ เซนเตอร์แบ็คตัวหลักถูกแบน ขณะที่ซากาอิก็ลงซ้อมได้แล้ว แต่ทาเกฟูซะ คูโบะ ยังมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ ไม่แน่ว่าจะลงเป็นตัวจริงได้หรือเปล่า วาตารุ เอ็นโดะ กองกลางจากสตุ๊ตการ์ต จัดการเรื่องสภาพความฟิตได้แล้ว และเป็นตัวสำรองในเกมเจอสเปน น่าจะมีโอกาสลงเล่นเกมนี้

นี่ไม่ใช่หนแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่โมริยาสุมีปัญหากับการเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดในแนวรุก โดอันที่ทำได้ดีน่าจะได้เล่นแทนคูโบะ ส่วนมิโตมะก็เล่นได้ดีพอจะเสียบแทนไดอิชิ คามาดะ ที่สำคัญ 3จาก 4 ประตูของญี่ปุ่นในฟุตบอลโลกหนนี้มาจากผู้เล่นสำรอง เพราะฉะนั้นใครที่ถูกเก็บเอาไว้ก่อน ย่อมมีความสำคัญไม่แพ้บรรดานักเตะตัวจริง

ดาลิกโค้ชโครเอเชีย ออกมาบอกแล้วว่า จะเลือกผู้เล่นโดยเน้นที่ความฟิตเป็นหลัก สองผู้เล่นคนสำคัญของทีม ลูก้า โมดริชและเดยาน ลอฟเรนติดเหลืองคาดโทษอยู่ หากได้รับอีกใบจะพลาดลงเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะเป็นหน้าเดิม ๆ หากเปลี่ยนแปลงก็คงเป็นในแดนหน้าเพียงไม่กี่ตำแหน่ง อันเดรจ ครามาริชกับมาร์โก้ ลิวายา ทำอะไรไม่ได้เลยในเกมกับเบลเยี่ยม และดาลิกก็มีผู้เล่นแนวรุกให้เลือกเพียบ อย่าง บรูโน่ เพ็ตโควิก, มิสเลฟ ออร์ซิก, นิโกล่า วลาซิช และมาริโอ พาซาลิช

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; โทมิยาสุ, โยชิดะ, ฮิโรกิ อิโตะ; จุนยะ อิโตะ, เอ็นโดะ, ทานากะ, นากาโตโมะ; โดอัน, อาซาโนะ, คามาดะ
โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิช; จูราโนวิช, ลอฟเรน, กวาร์ดิโอล, โซซ่า; โมดริช, โบรโซวิช, โควาซิช; ครามาริช, ลิวาย่า, เปริซิช

ผลการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นและโครเอเชีย

ญี่ปุ่นสร้างเหตุการณ์ช็อคโลกด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม อี ที่มีสเปนกับเยอรมนีเป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม โดยมีจุดเด่นในแนวรับที่จัดระเบียบกันเป็นอย่างดี บวกกับการเล่นโต้กลับอย่างได้ผล มีผู้เล่นสำรองที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ซึ่งคงไม่มีใครพูดอีกแล้วว่า เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผ่านรอบนี้ แต่ในขณะเดียวกันโครเอเชียก็เป็นทีมที่แนวรับแน่น ลึก กองกลางก็มีคุณภาพไม่แพ้สเปน แต่ไม่เล่นบอลมากจังหวะเท่า จะว่าไปแล้วรูปแบบในเกมรุกของพวกเขาคล้าย ๆ กับญี่ปุ่นด้วยซ้ำ กับการฉวยโอกาสเล่นโต้กลับอย่างรวดเร็ว

ด้วยรูปแบบการเล่น เป็นไปได้ว่าเกมนี้ จะยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ ที่หากไปถึงตรงนั้น โครเอเชียน่าจะหยุดทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยได้สำเร็จ แต่ถ้าให้ตัดสินใจว่า ใครที่จะชนะในเกม โครเอเชียอาจจะดูเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าพวกเขาชวนญี่ปุ่นเล่นเกมอดทน เชื้อเชิญให้บุกเข้ามาแต่ทำอะไรไม่ได้ เช่นที่คอสตาริก้าทำ รองแชมป์เก่าอาจจะชนะในสกอร์ 2-1 หรือ 1-0

เรื่องน่าอ่าน
รู้จักกับลูกฟุตบอลของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

รู้จักและฟัง BETTER TOGETHER เพลงฟุตบอลโลก 2022 เพลงแรก
ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : ญี่ปุ่น vs โครเอเชีย
จันทร์ 5 ธันวาคม 2565, 22.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 3 นัด
กิริน คัพ 1997 ญี่ปุ่น ชนะ 4-3
ฟุตบอลโลก 1998 โครเอเชีย ชนะ 1-0
ฟุตบอลโลก 2006 เสมอ 0-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ คอสตาริกา 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ สเปน 2-1

โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 4-1
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เบลเยียม 0-0

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
ญี่ปุ่น : มหาเซอร์ไพรส์ประจำฟุตบอลโลก 2022 พลิกสยบ เยอรมนี 2-1 ตั้งแต่เกมแรก ต่อมาแม้จะเจอความพลิกล็อกเล่นงานเองบ้างด้วยการแพ้ คอสตาริกา 0-1 แต่ก็ยังมาพลิกยิงแซงชนะ สเปน ในเกมที่บังคับต้องชนะอีก 2-1 จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มอีอย่างงดงาม
โครเอเชีย : โชว์ความหลังเหนียวด้วยการไม่เสียประตูทั้งเกมกับ โมร็อกโก และ เบลเยียม โดยเฉพาะนัดหลังที่เป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ไม่พลาดท่าเสียที แม้ส่วนหนึ่งอาจต้องชี้ว่า เบลเยียม ไม่คมเองด้วยก็ตาม จน โครเอเชีย เข้ารอบมาด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอฟ

 

ความพร้อมก่อนเตะ
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

จากนั้นเกมถัดมา แม้จะบุกใส่แทบพับสนาม แต่กลับพลิกแพ้ คอสตาริกา 0-1 ส่งผลให้บังคับชนะ สเปน เพื่อเข้ารอบ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้จริงๆ แซงชนะ 2-1 จนผงาดยึดแชมป์กลุ่มทันที

 

ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอาไว้ตั้งแต่แรก และขอชนะอีกนัดก็จะไปได้ถึงที่วางไว้ ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่น ก็ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมแต่อย่างใด

 

สภาพทีมของ โมริยาสุ เกมนี้ มีปัญหาที่ โค อิตาคุระ เซนเตอร์แบ็กตัวจริง ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบ ทำให้ต้องปรับส่งตัวเลือกอื่นลงแทน

 

ยังเชื่อว่า โมริยาสุ จะปรับระบบไปด้วยเลย ใช้เป็น 3-4-3 เน้นเกมรับเหนียวแน่นไว้ก่อน อัด 3 เซนเตอร์ลงไปอย่าง มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ และ โชโง ทานิงูจิ ขณะที่เกมรุกให้ ไดอิจิ คามาดะ กับ ทาเคฟุสะ คุโบะ คอยช่วยงานหอกเป้า ไดเซน มาเอดะ

 

โครเอเชีย
ชนะติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0 ก่อนเร่งเครื่องกราดยิง แคนาดา 4-1 แล้วก็กลับไปหนืดอีกครั้ง เสมอ เบลเยียม 0-0

 

เพียงแต่ผลเสมอ เบลเยียม ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังมาจากบ้าน เมื่อเป็นแต้มที่ทำให้ได้เข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง ถัดจากหนก่อนที่ไปไกลถึงรองแชมป์โลกทีเดียว

 

ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือตาหมากรุก ไม่มีปัญหาสภาพทีม สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดได้ เมื่อ อีวาน เปริซิช จอมเก๋าจากสเปอร์ส ฟิตพร้อมลงสนามได้ตามปกติ

 

ระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าใช้ อีวาน เปริซิช เดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ มาร์โก ลิวาย่า

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ริตสึ โดอัน
ไม่ธรรมดา…ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ กับฟอร์มของ ริตสึ โดอัน มิดฟิลด์ตัวโจ๊กเกอร์วัย 24 จาก ไฟรบวร์ก ที่ลงสำรองไปพังประตูใส่ทั้ง เยอรมนี และ สเปน ได้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจบสกอร์และการหาตำแหน่งชั้นยอด โดยสองเม็ดล่าสุดทำให้ โดอัน สะสมสกอร์ในนามทีมชาติไปแล้ว 5 ลูกจาก 32 เกม ขณะที่ในสโมสร ก็ยิงให้ ไฟรบวร์ก ไปแล้ว 4 ประตูจาก 22 นัดซีซั่นนี้

 

โครเอเชีย : อันเดรจ์ ครามาริช
เคยเป็นหัวหอกผู้แพ้ ส่วนเกินของ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างชื่อกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมถึงในทีมชาติ โดยถึงตรงนี้เล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาเป็นซีซั่นที่ 8 แล้ว ยิงทะลุหลักร้อยประตูแล้วเช่นกัน (106) ขณะที่ก็ยิง 22 ประตูให้กับทัพตาหมากรุก รวมถึง 2 เม็ดในเกมปราบ แคนาดา ด้วย โดยแม้จะไม่โหดดุครบเครื่องเหมือน ดาวอร์ ซูเคอร์ แต่ก็เป็นคนที่กองหลังไม่อาจประมาทได้เหมือนกัน

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (3-4-3, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ, โชโง ทานิงูจิ – ยูโตะ นางาโตโมะ, วาตารุ เอ็นโดะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, จุนยะ อิโตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, ไดเซน มาเอดะ
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, มาร์โก ลิวาย่า

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 3 ครั้ง เป็นอุ่นเครื่อง 1 และฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2
• บอลโลก 1998 พบกันในรอบแรก โครเอเชีย เบียด 1-0 ดาวอร์ ซูเคอร์ ซัดโทน
• บอลโลก 2006 เจอรอบแรกเช่นกัน คราวนี้ไข่ไม่แตก เสมอ 0-0
• ญี่ปุ่น เข้ารอบ 16 ทีมสลับกับตกรอบแรกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1998 แต่ไม่เคยไปไกลกว่านี้
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู ส่วน ทาคุมะ อาซาโนะ 8 ลูก, ไดเซน มาเดะ 1, ทาเคฟุสะ คุโบะ 1, อายาเสะ อุเอดะ 0
• อีวาน เปริซิช กดแล้ว 32 ประตูในทีมชาติ ส่วน ลูก้า โมดริช 23 และ อันเดรจ์ ครามาริช 22

 

ความน่าจะเป็น
ไม่อาจมองข้ามได้แล้วสำหรับ ญี่ปุ่น ที่ชนะ 2 ทีมหัวแถวยุโรปมาได้ทั้ง เยอรมนี และ สเปน และพวกเขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งนั้นแล้วด้วย แค่ต้องเล่นอย่างมีวินัย รัดกุม และใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งการเจอ โครเอเชีย ที่เกมรุกไม่ได้ดุดัน แต่มีดีตรงแดนกลางนั้นทำให้เกมอาจออกรูปอึดอัด จนมีโอกาสสูงที่จะยืดเยื้อถึงต่อเวลา ถึงตอนนั้นก็ต้องพึ่งโชคดวงกันแล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายได้ไปต่อ

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1 ใน 90 นาที

สเปน กระทิงดุ จะเอาชนะซามูไรญี่ปุ่น เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

สเปน กระทิงดุ จะเอาชนะซามูไรญี่ปุ่น เข้ารอบต่อไปของฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม อี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา)

ญี่ปุ่น – สเปน ถ่ายทอดทาง True4U/ CH7/ True Sport 2

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและสเปน

ญี่ปุ่นไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ในกลุ่มนี้ที่ถูกมองว่าจะผ่านเข้ารอบอย่างแน่นอน หลังผลจับสลากแบ่งสายออกมา โดยทีมอย่างสเปนและเยอรมนีคือสองตัวเก็ง แต่เมื่อพวกเขาคว่ำอินทรีเหล็กได้ในนัดแรก สายตาที่มองพวกเขาก็เปลี่ยนไป หากสถานการณ์มาพลิกผันในนัดที่ 2 เมื่อพวกเขาที่บดคอสตาริก้าอยู่นานกลับทำประตูไม่ได้ และถูกทีมซึ่งพ่ายยับในนัดแรกเอาชนะไปหวุดหวิดในช่วงท้ายเกม ทำให้ต้องมาลุ้นแบบเหนื่อยนักกว่าที่เคยในเกมสุดท้าย ที่ต้องเจอกับสเปน

3 แต้มในมือของทีมจากแดนอาทิตย์อุทัย มากพอจะทำให้อยู่ในอันดับ 2 ของกลุ่ม อี และถ้าชนะสเปนก็จะผ่านเข้ารอบแน่ ๆ และจะเป็นแชมป์กลุ่มเลยด้วยซ้ำ หากคอสตาริก้าไม่ชนะเยอรมนี แต่ถ้าญี่ปุ่นกับคอสตาริก้าชนะทั้งคู่ ก็ต้องมาดูสถิติอื่น ๆ ที่เริ่มจากประตูได้เสีย ซึ่งทีมซามูไรเหนือกว่าบานเบอะ เมื่อคอสตาริก้าพ่ายสเปนยับ ทำให้ไม่ต้องไปดูกันต่อถึงผลในการเจอกัน

หากญี่ปุ่นเสมอกับสเปน ก็ต้องลุ้นให้คอสตาริก้าเสมอกับเยอรมนีด้วย เพื่อดึงมาเทียบสถิติต่าง ๆ กัน แต่ถ้าญี่ปุ่นเสมอและคอสตาริก้าชนะ คอสตาริก้ากับสเปนจะได้ผ่านเข้ารอบ

ในกรณีที่ญี่ปุ่นเสมอและเยอรมนีชนะแค่ประตูเดียว ทั้งกลุ่มต้องมาวัดกันด้วยลูกได้เสีย ที่จะทำให้ญี่ปุ่นเข้ารอบด้วยการเป็นที่ 2 และหากพวกเขาแพ้สเปน ไม่ต้องคิดอะไรต่อเลย เพราะจะตกรอบทันที

มาดูฝั่งสเปนที่เปิดตัวแบบสุดหรูด้วยชัยชนะ 7-0 โดยเล่นแบบไม่มีหน้าเป้า ทำให้ทีมมีประตูได้มหาศาล ก่อนที่จะมาเสมอเยอรมนีแบบสนุกในนัดที่สอง มีแต้มเก็บในมือ 4 คะแนน ทำให้อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบสำหรับการเข้ารอบ เพราะขอแค่เสมอญี่ปุ่น กระทิงดุก็จะได้อาละวาดในรอบต่อไป และถ้าชนะก็จะกลายเป็นแชมป์กลุ่ม หรือต่อให้เสมอก็ยังเข้าเป็นที่ 1 ได้ หากคอสตาริก้าไม่ชนะ

ในกรณีที่เกิดแพ้ขึ้นมา แล้วคอสตาริก้ากับเยอรมนีเสมอกัน สเปนจะเป็นที่ 2 ของกลุ่มถ้าแพ้ญี่ปุ่นเกิน 13 ประตู!!! แต่ถ้าสเปนแพ้ และคอสตาริก้าชนะ สเปนจะตกรอบ แล้วหากเป็นเยอรมนีชนะ สองทีมจากยุโรปจะมาจัดอันดับกันจากสถิติต่าง ๆ ซึ่งด้วยประตูได้มโหฬาร สเปนน่าจะกลายเป็นที่ 1 ในกลุ่ม

สเปน ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

กระทิงดุ สเปน จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและสเปน

โค้ช โมริยาสุของญี่ปุ่น มีการปรับระบบระหว่างเกม มาเล่นเซนเตอร์แบ็คสามคนในครึ่งหลังของทั้งสองเกมแรก ขณะที่สองกองหลัง ฮิโรกิ ซากาอิกับทาเคฮิโร โทมิยาสุ ต้องนั่งดูเกมข้างสนามในนัดที่แพ้คอสตาริก้า เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อโคนขา และยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้ไหมในเกมนี้ วาตารุ เอนโดะก็ไม่ได้ลงซ้อมกับทีม เนื่องจากเจ็บเข่า โดย อาโอะ ทานากะกับกากุ ชิบาซากิ คนใดคนหนึ่งจะได้เล่นแทนเอนโดะในตำแหน่งกองกลาง ส่วนริตสุ โดอันกับทาคูมะ อาซาโนะผู้ทำประตูได้ในเกมกับเยอรมนี น่าจะได้เล่นตามกราบ แม้ทาเคฟุซะ คูโบะ จากเรอัล โซซิดัดพร้อมลงเล่นแล้วก็ตาม ส่วนไดอิชิ คามาดะผู้เล่นของไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต น่าจะได้เล่นในตำแหน่งหมาย 10 สนับสนุนตัวรุกอบ่างไดเซ็น มาเอดะ หรืออายาเซะ อูเอดะ

ขณะที่กัปตันทีม มายะ โยชิดะ ถ้าลงเล่นจะเป็นเกมทีมชาตินัดที่ 125 เป็นหนึ่ง 4 นักเตะที่เล่นให้ทีมชาติมากที่สุด ร่วมกับมิกิ ยามาเนะ, โก อิตากูระ และยูโตะ นากาโตโมะ ที่รายหลังลงเล่นถึง 140 นัด

ในเกมเสมอเยอรมนี ลุยส์ เอ็นริเก้มีผู้เล่นให้ใช้งานครบ 26 คน และไม่มีรายงานผู้เล่นได้รับบาดเจ็บออกมาจากแคมป์กระทิงดุ โดยอัลวาโร โมราต้า ที่ถูกเปลี่ยนไปเล่นในครึ่งหลังสามารถทำประตูได้ทั้ง 2 นัด เป็นไปได้ว่าวันนี้เขาจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ ร่วมกับแฟร์ราน ตอร์เรส และดานี่ โอลโม่ โดยมาร์โก้ อะเซนซิโอ คงต้องนั่งสำรองต่อ

ส่วนกาบี้ห้องเครื่องวัย 18 ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้ง 2 นัด อาจจะได้พัก หลังมีข่าวว่าไม่ได้ลงซ้อมกับทีม เพราะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย โดยโกเก้ที่ลงแทนดาวรุ่งรายนี้ในครึ่งหลังของเกมกับเยอรมนีทำหน้าที่แทน

กัปตันทีมเซอร์จิโอ บุสเก็ตส์ ที่ติดใบเหลืองอยู่ ก็น่าจะได้พัก ทำให้คาร์ลอส โซแลร์ และมาร์คอส ยอเรนเต้ ต้องแย่งตำแหน่งกัน ซึ่งจะกลายเป็นเกมแรกในกาตาร์ของทั้งคู่ ไม่ว่าใครจะได้ลงเล่น แต่ก็เป็นไปได้ว่า เอ็นริเก้จะขยับโรดรี้จากเซนเตอร์แบ็คขึ้นมาแทนบุสเก็ตส์ และเปาตอร์เรสหรืออีริก การ์เซียจะเล่นเซนเตอร์แบ็คคู่กับอายเมริก ลาปอร์ตแทน

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของญี่ปุ่นและสเปน

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; อิตากูระ, โยชิดะ, ฮิโรกิ อิโตะ; ยามาเนะ, โดอัน, ทานากะ, นากาโตโมะ; จุนยะ อิโตะ, อาซาโนะ, คามาดะ
สเปน ระบบ 4-3-3: ซิมอน; คาร์บาฆาล, เปาตอร์เรส, ลาปอร์ต, อัลบา; เปดรี้, โรดรี้, โกเก้; แฟร์ราน ตอร์เรส, โมราต้า, โอลโม่

ผลการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นและสเปน

ผลลัพธ์และฟอร์มการเล่นของญี่ปุ่นในฟุตบอลโลก 2022 พลิกผัน แตกต่างกันอย่างชัดเจนใน 2 นัดที่ผ่านมา และกับคู่แข่งที่แกร่งที่สุดในกลุ่ม ก็คาดเดาได้ยากว่า ญี่ปุ่นจะทำได้ขนาดไหน แม้พวกเขาจะเป็นทีมที่ใช้ความเร็วจัดการกับทีมที่เน้นครองบอลได้ดี และน่าจะเล่นได้ดีกว่าหากตกเป็นรอง แต่ทีมของเอ็นริเก้ก็มีผู้เล่นจอมเทคนิค ที่พาตัวเองพ้นจากสถานการณ์คับขันได้มากมาย และน่าจะทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้ในนัดนี้

สเปนชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. ผู้ตัดสินหญิง และผู้ช่วยผู้ตัดสินสตรี กับครั้งแรกในฟุตบอลโลก ทำความรู้จักกับพวกเธอกัน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?
5. ทีมจากแอฟริกา จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 ?

ญี่ปุ่น vs สเปน : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs สเปน : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี นัดสุดท้าย : ญี่ปุ่น vs สเปน
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

สเปน
แชมป์กลุ่มบี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 15 เสีย 5

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ คอสตาริกา 0-1

สเปน
เนชั่นส์ ลีก แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปรตุเกส 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์แดน 3-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ คอสตาริกา 7-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เยอรมนี 1-1

 

ผลการพบกัน : 1 นัด
อุ่นเครื่อง 2001 สเปน ชนะ 1-0

 

ตารางคะแนนกลุ่มอี หลังผ่าน 2 นัด
1. สเปน คะแนน 4 ผลต่างประตู +7
2. ญี่ปุ่น คะแนน 3 ผลต่างประตู 0
3. คอสตาริกา คะแนน 3 ผลต่างประตู -6
4. เยอรมนี คะแนน 1 ผลต่างประตู -1

 

สภาพทีม
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

กระนั้นเกมถัดมา แม้จะบุกใส่แทบพับสนาม แต่กลับพลิกแพ้ คอสตาริกา 0-1 ส่งผลให้ตกที่นั่งลำบากทันที เกมนี้ถ้าแพ้อีกจะตกรอบทันทีเลย ไม่ต้องดูผลอีกคู่แต่อย่างใด

 

เวลาเดียวกัน ถ้าชนะ ญี่ปุ่น ก็จะเข้ารอบเลย แบบเป็นแชมป์กลุ่มด้วย

 

แต่หากว่าออกเสมอ ก็จะต้องดูผลของอีกคู่ว่าออกหน้าไหน ซึ่ง ญี่ปุ่น จะตกรอบถ้า คอสตาริกา เป็นฝ่ายชนะ หรือถ้า เยอรมนี ชนะได้แบบถล่มทลายใส่ไม่ยั้ง

 

สภาพทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ มีปัญหาเล็กน้อยที่ความฟิตของ ฮิโรกิ ซากาอิ ซึ่งเจ็บจากเกมแรก แต่หากเล่นไม่ไหวก็มีตัวแทนตำแหน่งอยู่แล้วอย่าง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ หรือ มิกิ ยามาเนะ

 

ยังคาดว่า ไลน์อัพจะถูกเปลี่ยนกลับไปใช้เหมือนนัดแรกที่ชนะ เยอรมนี มาได้ มากกว่านัดก่อนที่แพ้ คอสตาริกา โดยจะเป็นระบบ 4-2-3-1 หน้าเป้าทิ้ง ไดเซน มาเอดะ ไว้รายเดียว

 

สเปน
หลุยส์ เอ็นริเก้ พากระทิงดุเจ้าของแชมป์โลก 1 สมัยเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลงานค่อนข้างดี รวมถึงในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก็ครองแชมป์กลุ่ม ได้ไปต่อในรอบชิงแชมป์ ปีหน้า

 

จากนั้นเมื่อเริ่มเกมแรก ทำได้ดีเกินความคาดหมาย กราดยิง คอสตาริกา ดับอนาถ 7-0 เฟร์ราน ตอร์เรส ซัดสอง ที่เหลือช่วยกันยิงอีก 5 คน ต่อมา แบ่งแต้มด้วยผลเสมอ เยอรมนี 1-1

 

สองนัด 4 แต้ม สเปน จึงกำลังนำจ่าฝูงกลุ่มอี และขอแค่ผลเสมอเกมนี้ เป็นอันลอยลำ โดยจะไม่หลุดจากการเป็นแชมป์กลุ่มด้วย นอกเสียจากว่า คอสตาริกา จะพลิกล็อกชนะ เยอรมนี ได้

 

เอ็นริเก้ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บเพิ่มเติม และด้วยทีมที่เล่นกันดีอยู่แล้ว ทำให้คงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง ระบบ 4-3-3 ประตูเป็น อูไน ซิมอน แดนกลางบาร์ซ่าเหมาทั้ง เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี ส่วนแนวรุก ดานี่ โอลโม่ จะเล่นร่วมกับ เฟร์ราน ตอร์เรส และ อัลบาโร่ โมราต้า

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ทาคุมะ อาซาโนะ
กลายเป็นประเด็นว่า อาร์เซน่อล ทำเพชรเม็ดงามชิ้นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร ภายหลัง อาซาโนะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสำรองไปพังประตูชัยปลิดชีพ เยอรมนี 2-1 กระนั้นก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า อาซาโนะ ย้ายมากรุงลอนดอนตั้งแต่อายุแค่ 22 และโดนปฏิเสธเวิร์คเพอร์มิตด้วย จนที่สุดแล้วหลังจากส่งยืมหลายรอบก็ต้องปล่อยขาดไปอย่างเสียมิได้ ตอนนี้อยู่กับ โบคุ่ม ในเยอรมนี และลงเล่นทีมชาติ 38 นัด ซัด 8 ประตู

 

สเปน : อัลบาโร่ โมราต้า
แมว 9 ชีวิตแห่งทัพกระทิงดุ เมื่อต่อให้ฟอร์มในระดับสโมสรจะออกทะเลขนาดไหน ก็ยังมีที่ยืนในทีมชาติอยู่ตลอดเวลา รวมถึงกับชุดปัจจุบัน ทั้งที่ผลงานกับ แอตเลติโก มาดริด ไม่ได้สวยหรูนัก (5 ประตูซีซั่นนี้) ซึ่งปัจจัยอย่างหนึ่งอาจเพราะ สเปน ขาดแคลนหน้าเป้าแท้ๆ ลักษณะเดียวกับ โมราต้า ด้วย กระนั้นก็ต้องให้เครดิตกับหัวหอกวัย 30 ด้วยเหมือนกันว่าก็ทำผลงานได้ดีจริงในทีมชาติ สองปีหลังกดไป 11 ประตู รวมแล้วมี 29 ลูกจาก 59 นัด รวมถึง 2 เม็ดใน 2 เกมฟุตบอลโลก 2022 ด้วย

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, โค อิตาคุระ, มิกิ ยามาเนะ – วาตารุ เอ็นโดะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ไดเซน มาเอดะ
สเปน (4-3-3, กุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้) อูไน ซิมอน – จอร์ดี้ อัลบา, อายเมอริก ลาป๊อร์กต์, โรดรี้, ดานี่ การ์บาฆัล – เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี – ดานี่ โอลโม่, อัลบาโร่ โมราต้า, เฟร์ราน ตอร์เรส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาแค่หนเดียวเท่านั้น เมื่อปี 2001 ยุคที่ยังมีทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, ราอูล กอนซาเลซ, มิเกล นาดาล ในสนาม และกระทิงดุขวิด 1-0 จากประตูนาทีสุดท้ายของ รูเบน บาราฆา
• สเปน แพ้แค่นัดเดียวจากการเล่น 11 เกมของปีนี้ (ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 1)
• ญี่ปุ่น เข้ารอบ 16 ทีมสลับกับตกรอบแรกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1998 และถ้ายึดตามวงรอบ ปีนี้ พวกเขาจะตกรอบแรก
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู ส่วน ทาคุมะ อาซาโนะ 8 ลูก, ไดเซน มาเดะ 1, ทาเคฟุสะ คุโบะ 1, อายาเสะ อุเอดะ 0
• สเปน ชุดนี้ มีแค่ 2 คนที่ยิงประตูในทีมชาติได้เกิน 10 ลูก คือ อัลบาโร่ โมราต้า (29) กับ เฟร์ราน ตอร์เรส (15)

 

ความน่าจะเป็น
ความผิดพลาดหนักสุดของ ญี่ปุ่น คือเกมที่แล้ว เมื่อแทนที่จะชนะ 2 เกมซ้อน ลอยลำเข้ารอบใสๆ แต่กลับออกหน้าแพ้ และกลายเป็นมีโอกาสสูงเลยในการตกรอบแรก ซึ่งเมื่อเทียบคุณภาพกันแล้ว สเปน ดุดันและไปไกลเกินกว่าที่ ญี่ปุ่น จะสู้ไหว คงมีแค่โดนมากโดนน้อยเท่านั้น

 

ผลที่คาด : สเปน ชนะ 2-0

ซามูไร ญี่ปุ่น จะเชือดคอสตา ริก้า คว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022

ซามูไร ญี่ปุ่น จะเชือดคอสตา ริก้า คว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 3 ของกลุ่ม อี ญี่ปุ่น – คอสตาริก้า

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: GMM25 / True Sports 2

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

ญี่ปุ่นทีมจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่พลิกนรกเอาชนะเยอรมนีได้ในนัดแรก จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ทันที หากคว้าชัยเหนือคอสตาริก้าสำเร็จ ขณะที่ทีมจากอเมริกากลาง หากยังอยากมีลุ้นในนัดสุดท้าย การแบ่งแต้มกับญี่ปุ่น ย่อมไม่ใช่ผลดีอย่างแน่นอน หลังจากพ่ายสเปนยับเยิน 7-0

ซึ่งถือเป็นการเจอกันของทีมที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก แต่เป็นคนละขั้ว เพราะชัยชนะของญี่ปุ่น คือ ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ เป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ แต่กับคอสตาริก้า ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เช่นกัน แต่เป็นเรื่องของความพ่ายแพ้ เมื่อกลายเป็นความพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุดของชาติในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คอสตาริก้าไม่มีโอกาสยิงประตูเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอดทั้งเกม ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์นี้กับพวกเขาก็คือ ปี 1990 ที่เจอกับบราซิล

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมก่อนนัดนี้ ญี่ปุ่นดวลแข้งกับคอสตาริก้ามาแล้ว 5 เกม โดยซามูไรจัดการคอสตาริก้าไปได้ถึง 5 นัด และทีมจากโซนคอนคาแคฟ ทำได้ดีที่สุดเพียงเสมอนัดเดียว

คอสตาริก้า ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

คอสตาริก้ามาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟชนะนิว ซีแลนด์ (ภาพ: www.concacaf.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

ในเกมชนะเยอรมนี 2-1 ญี่ปุ่นจบเกมด้วยระบบที่แตกต่างไปจากหลังจบครึ่งแรก ที่พวกเขาถูกอินทรีเหล็กนำอยู่ 1-0 อย่างมาก เช่นเดียวกับบทบาทของผู้เล่น โดยเมื่อจบเกมทีมของโค้ชฮาจิเมะ โมริยาสุ จบด้วยการใช้ปีกเล่นเป็นวิงแบ็คทั้งสองฝั่ง และเล่นกองหน้าสามคนโดยมีกองกลางตัวกลางคอยสนับสนุนอีกสองคน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือคนทำประตูให้กับทีม ในเกมพบคอสตาริก้าเพื่อชิงที่นั่งในรอบน็อคเอาต์ ญี่ปุ่นน่าจะเล่นแตกต่างไป เพราะคงจะไม่เล่นเกมรุกแบบสุดตัวตั้งแต่แรก โมริยาสุน่าจะวางเซนเตอร์แบ็ค 3 ตัว ซึ่งสามารถจัดการกับเกมรุกทางด้านกว้างของเยอรมนีมาแล้วหลังพักครึ่ง ขณะที่ทาคุมะ อาซาโนะ ที่ถูกเรียกมาติดทีม แม้จะได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เดือนกันยายน โดยถูกมองว่าอาจจะไม่ได้ลงช่วยทีมตั้งแต่นัดแรก แต่ก็ถูกส่งลงสนามในครึ่งหลังและกลายเป็นฮีโร่ของทีม น่าจะได้สตาร์ตเป็น 11 ตัวแรก โดยแทนที่ไดเซน มาเอดะ ส่วนฮิโรกิ ซากาอิ ที่ต้องออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บเมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 15 นาที ยังต้องรอเช็คอาการ ซึ่งถ้าลงไม่ได้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ จะเป็นตัวเลือกตามตำแหน่ง ถึงแม้กองหลังจากอาร์เซน่อลจะมากาตาร์พร้อมกับอาการบาดเจ็บ และยังต้องทดสอบสภาพความฟิต ยูโตะ นากาโมโต้ กองหลังวัย 36 ปีที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังของนัดแรก น่าจะฟิตลงเล่นนัดนี้ในตำแหน่งแบ็คซ้าย

ลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ น่าจะไม่มีปัญหาผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ แต่ปัญหาก็คือ จะมีผู้เล่น 11 คนแรกในเกมที่พ่ายกระทิงดุ ที่ต้องเจอกับการผ่านบอลไปมาของฝ่ายตรงข้ามถึง 1,045 ครั้ง ได้ลงสนามในนัดนี้ โดยคาดกันว่า ในแดนหลัง เคนดัลล์ วัตสัน น่าจะออกสตาร์ตแทน คาร์ลอส มาร์ติเนซ ไบรอัน รุยซ์ และอัลวาโร ซาโมร่า ก็น่าจะได้ลงเล่น เช่นเดียวกับโจล แคมป์เบลล์ที่จะได้เล่นร่วมกับแอนโธนี่ คอนเตราสในแนวรุก ที่นอกจากการปรับเปลี่ยนผู้เล่นแล้ว ทีมก็ต้องเล่นให้ดีกว่าที่แสดงให้เห็นในนัดแรก

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; อิตาคูระ, โยชิดะ, โทมิยาสุ; ซากาอิ, เอ็นโดะ, ทานากะ, นากาโมโต้; จุนอิจิ อิโต, อาซาโนะ, คามาดะ
คอสตาริก้า ระบบ 5-4-1: นาวาส; ฟูลเลอร์, ดูอาร์เต้, วัตสัน, คัลโว, โอวีโด้; แคมป์เบลล์, เทเฮด้า, อกีเลร่า, ซาโมร่า; คอนเตราส

สถานการณ์ของเกมระหว่างญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

การพ่ายแพ้ยับเยินต่อสเปน ซัวเรซออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ส่งผลต่อสภาพจิตใจของลูกทีมมาก และกลัวว่าลูกทีมจะขวัญหนีดีฝ่อไปเลย โดยจากสถิติที่ผ่าน ๆ มาในฟุตบอลโลก มี 10 ทีมที่เคยพ่ายแพ้โดยถูกยิงถึง 7 ประตู และมีถึง 8 ทีมที่ในนัดต่อมาก็ยังพ่ายแพ้ซ้ำ ทำให้บางทีการกลับมาของคอสตาริก้า อาจจะต้องเป็นเรื่องของปาฏิหาริย์ ซึ่งหากดูกันที่เรื่องของสภาพจิตใจแล้ว นี่คือการพบกันของทีมที่ฝ่ายหนึ่งหดหู่สุดขีด และอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสภาพฮึกเหิมสุดฤทธิ์

งานนี้ญี่ปุ่นก็มีโอกาสอันดีมาก ๆ ที่จะซ้ำคู่แข่งที่กำลังบอบช้ำ เพื่อทำสถิติเข้าไปสู่รอบที่ 2 ของฟุตบอลโลก 2 หนติดต่อกัน

ญี่ปุ่นน่าจะกำชัยได้ ด้วยกสอร์อย่างน้อย 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี เมื่อกระทิงดุ ท้าชนอินทรีเหล็ก ใครจะเป็นที่หนึ่งในสาย
2. ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ
3. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : GMM25

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

คอสตาริกา
อันดับ 4 รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เพลย์ออฟต่างโซน ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
EAFF E-1 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1

คอสตาริกา
เพลย์ออฟบอลโลก ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เกาหลีใต้ 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ไนจีเรีย 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ สเปน 0-7

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
ญี่ปุ่น ชนะ 4
เสมอ 1

 

สภาพทีม
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันแล้ว และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

ชัยชนะในเกมแรกยังหมายถึงว่า ถ้า ญี่ปุ่น เดินหน้าชนะได้ต่อเนื่องในเกมนี้ พวกเขาจะจ่อเข้ารอบน็อกเอาต์เต็มที โดยเฉพาะถ้าในคู่ดึก สเปน-เยอรมนี จบด้วยผลเสมอ หรือ สเปน ชนะได้ ญี่ปุ่น ก็จะเข้ารอบทันทีด้วย และเหลือแค่ชิงแชมป์กลุ่มกับ สเปน เท่านั้น

 

สภาพทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ มีปัญหาเล็กน้อยที่ความฟิตของ ฮิโรกิ ซากาอิ ซึ่งเจ็บจากเกมแรก แต่หากเล่นไม่ไหวก็มีตัวแทนตำแหน่งอยู่แล้วอย่าง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ จากอาร์เซน่อล

 

ในราย ทาคุมะ อาซาโนะ โดยปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว แต่ด้วยผลงานการลงสำรองไปพังประตูดับ เยอรมนี ก็ทำให้อาจได้รางวัลพิเศษ ได้ลงตัวจริงบ้าง เขี่ย ทาคุมิ มินามิโนะ ไปนั่งสำรอง

 

คอสตาริกา
ทีมกล้วยหอมจากคอนคาเคฟ ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 6 และหนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ต้องออกแรงใช่ย่อยในการผ่านรอบเพลย์ออฟต่างทวีปกับ นิวซีแลนด์ และเบียดชนะสุดหวิว 1-0

 

มาในฐานะม้านอกสายตา แต่ ณ ตอนนี้ดูจะเป็นม้าป่วยกระเสาะกระแสะไปเสีย กับการที่ลงเล่นเกมแรกแพ้ สเปน แบบไร้ทางสู้ 0-7 ดังนั้นถ้าแพ้เกมนี้อีก ตกรอบแรกทันที

 

ในการทำทีมของ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ คอสตาริกายังมาด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ อย่าง เคย์เลอร์ นาวาส, ไบรอัน โอเวียโด้, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, กัปตันทีม ไบรอัน รุยซ์ และ โจเอล แคมป์เบลล์ ที่รวมตัวกันมาตั้งแต่บอลโลก 2014 แล้ว

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ทาคุมะ อาซาโนะ
กลายเป็นประเด็นว่า อาร์เซน่อล ทำเพชรเม็ดงามชิ้นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร ภายหลัง อาซาโนะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสำรองไปพังประตูชัยปลิดชีพ เยอรมนี 2-1 เมื่อวันก่อน กระนั้นก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า อาซาโนะ ย้ายมากรุงลอนดอนตั้งแต่อายุแค่ 22 และโดนปฏิเสธเวิร์คเพอร์มิตด้วย จนที่สุดแล้วหลังจากส่งยืมหลายรอบก็ต้องปล่อยขาดไปอย่างเสียมิได้ ตอนนี้อยู่กับ โบคุ่ม ในเยอรมนี และลงเล่นทีมชาติ 38 นัด ซัด 8 ประตู

 

คอสตาริกา : โจเอล แคมป์เบลล์
ดังมานาน สร้างชื่อมาจนถึงจุดพีคแล้วก็ดร็อปลงไปจนแฟนบอลแทบจะลืมหน้ากันแล้ว แต่แท้ที่จริง อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลรายนี้เพิ่งจะอายุ 30 ถ้วนเท่านั้นเอง โดยตอนที่เป็นแข้งปืนโต เขาอายุแค่ 22-23 เท่านั้น จากนั้นก็ย้ายออกไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันอยู่กับ คลับ เลออน ในเม็กซิโก และยังคงเฝ้ารับใช้ชาติอยู่ต่อไป เล่นแล้ว 120 นัด ซัด 25 ประตู หนึ่งในนั้นก็คือประตูสำคัญดับ นิวซีแลนด์ จนพาให้ คอสตาริกา มาเล่นฟุตบอลโลก 2022

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, โค อิตาคุระ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ – กาคุ ชิบาซากิ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ทาคุมะ อาซาโนะ
คอสตาริกา (4-4-2, กุนซือ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ) เคย์เลอร์ นาวาส – ไบรอัน โอเวียโด้, ออสการ์ ดูอาร์เต้, ฟรานซิสโก้ กัลโว, คาร์ลอส มาร์ติเนซ – เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, เยวิสัน เบนเน็ตเต้ – โจเอล แคมป์เบลล์, อันโธนี่ คอนเตรราส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 5 ครั้ง ญี่ปุ่น ไม่เคยแพ้ โดยชนะแบบยิงได้ 3 ประตูโดยตลอด ล่าสุดอุ่นเครื่องปี 2018 ญี่ปุ่นชนะ 3-0
• ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะคุมทีมชาติญี่ปุ่นเป็นนัดที่ 60 ในเกมนี้ โดยที่ผ่านมา ชนะ 40 เสมอ 8 แพ้ 11
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู
• คอสตาริกา แพ้แค่ 2 นัดจากการเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 2) แต่หนึ่งในนั้นก็คือการโดน สเปน กราดยิง 7-0
• คอสตาริกาชุดนี้ มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไปมากถึง 11 คน สูงวัยสุดคือ ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีมวัย 37

 

ความน่าจะเป็น
คอสตาริกา อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมต่อกรกับใครทั้งสิ้นจากฟอร์มที่เป็นในนัดแรกกับ สเปน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะตื่นหรือยังกับเกม 2 นัดนี้ ที่จะเจอคู่แข่งคุณภาพดร็อปลงมาเล็กน้อย กระนั้นถ้ายังสะลึมสะลือ ก็คงไม่รอดเงื้อมมือซามูไรแต่อย่างใด

 

ผลที่คาด : ญี่ปุ่น ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน
02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จะเปิดสนามกลุ่ม อี ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2022

อินทรีเหล็ก เยอรมนี จะเปิดสนามกลุ่ม อี ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม อี เยอรมนี – ญี่ปุ่น

เยอรมนี ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

เยอรมันนี จะล้างอายจากฟุตบอลโลก 2018 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้หรือไม่ (ภาพ: thedailyguardian.com)

 

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

เกมในกลุ่ม อี วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอด 7HD/ True Sports 2: นัดแรกของกลุ่มอี เป็นการเจอกันของแชมป์โลก 4 สมัย เยอรมนี ที่เพิ่งคว้าแชมป์หนสุดท้ายไปเมื่อ 8 ปีก่อนที่บราซิล กับทีมแกร่งจากเอเชีย – ญี่ปุ่น ซึ่งหลังตกรอบแรกแบบน่าเกลียดที่รัสเซีย แน่นอนว่าอินทรีเหล็กไม่ได้มองแค่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเท่านั้น หากทุกอย่างต้องเริ่มด้วยการออกสตาร์ตที่ดี เพราะคู่แข่งที่เหลือคือ สเปน ทีมโคตรแกร่งอีกทีม และคอสตาริก้า ที่พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์

เส้นทางก่อนการเจอกันของ เยอรมนี – ญี่ปุ่น

ฮันซี่ ฟลิค ทีมชาติเยอรมัน ฟุตบอลโลก 2022

ฮันซี ฟลิค โค้ชเจ้าของภารกิจ พาทีมชาติเยอรมันนี กลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง (ภาพ: Marcus Brandt/dpa via AP)

เยอรมนีเดินทางมากาตาร์พร้อมภารกิจล้างอาย หลังจากฟุตบอลโลกหนก่อนพวกเขาในฐานะแชมป์เก่าต้องตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะย่ำแย่ซ้ำในยูโร 2020 จนโยอาคิม เลิฟ ที่นำพวกเขาคว้าแชมป์โลกต้องลงจากเก้าอี้ และฮันซี่ ฟลิคที่ทำทีมบาเยิร์น มิวนิกประสบความสำเร็จอย่างสวยงามเข้ามารับหน้าที่แทน และนี่คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่หนแรกของเขา ส่วนญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฟุตบอลโลก 2018 แบบโคตรหวุดหวิด เพราะสะสมใบเหลืองน้อยกว่าเซเนกัล หลังสถิติทุกอย่างก่อนหน้าในกลุ่มเท่ากันหมด

แม้สถานการณ์ของเยอรมนีอาจจะขาดความสม่ำเสมอ แต่ฟลิคก็เชื่อว่าพวกเขาน่าจะสานต่อการเล่นนัดแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ชนะ 7 จาก 8 ครั้งหลังสุดได้สำเร็จ ต่างจากญี่ปุ่นที่ชนะนัดแรกในฟุตบอลโลกแค่ 2 จาก 6 นัดหลังสุด รวมถึงยังไม่ได้เล่นเกมที่มีการแข่งขันจริง ๆ จัง ๆ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะที่ห้านัดหลังสุดของเยอรมนี ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยเจอคู่แข่งแกร่ง ๆ อย่างอังกฤษ, อิตาลี และฮังการีที่กำลังกลับมาในยุโรป ส่วนญี่ปุ่น ชนะสหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้ แพ้แคนาดา เสมอเอกวาดอร์และเกาหลีใต้

แม้จะล้มเหลวในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติ 2 รายการติดต่อกัน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เยอรมนีเจอสถานการณ์แบบนี้ และเมื่อเกิดขึ้น พวกเขาก็กลับมาได้ทุกครั้งไป ซึ่งบางทีจุดเปลี่ยนอาจจะเกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้โดยเริ่มจากนัดนี้ก็เป็นได้

ความพร้อมของนักเตะเยอรมนีและญี่ปุ่น

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดเขายอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

ถึงจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด แต่เยอรมนีก็มีนักเตะคุณภาพเสมอ ชุดนี้ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น กัปตันทีม โธมัส มุลเลอร์ กับแก๊งบาเยิร์น มิวนิก – แซร์ก กนาร์บรี้, เลรอย ซาเน่, โจชัว คิมมิช รวมถึงดาวรุ่ง จามาล มูเซียล่า ที่การเล่นด้วยกันเป็นประจำของนักเตะกลุ่มนี้ กลายเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับทีม โดยนัดนี้ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ จากอาร์เบ ไลป์ซิกที่ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย 34 นาที น่าจะพร้อมลงช่วยทีม หลังสัมผัสเกมระดับสโมสรแค่นัดเดียว ก่อนบาดเจ็บที่ข้อเท้าเมื่อเดือนสิงหาคม แต่คงไม่ใช่ 11 คนแรก ส่วนโธมัส มุลเลอร์กับอันโตนิโอ รือดิเกอร์ ถึงไม่ได้ลงเล่น แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา และน่าจะเป็นการเก็บตัวให้พร้อมลงเล่นนัดแรกของทีมมากกว่า แต่ก่อนเตะไม่กี่ชั่วโมงก็มีข่าวว่าซาเน่จะพลาดนัดนี้ เนื่องจากเจ็บเข่า 

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

ญี่ปุ่นที่เป็นทีมระดับหัวแถวของเอเชียไปแล้ว มีนักเตะที่เล่นในลีกยุโรปไม่น้อย แต่จะไม่มียูยะ นากายาม่า จากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ที่ต้องผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย ซึ่งเรียกซูโตะ มาชิโนะ มาแทนเรียบร้อย วาตารุ เอ็นโดะ ที่ถูกหามออกจากสนามในเกมนัดสุดท้ายของสตุ๊ตการ์ตก่อนศึกฟุตบอลโลก ติดทีมมาด้วย ทาเคฮิโร โทมิยาสุที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในเกมยูโรป้าลีก นัดอาร์เซน่อลชนะเอฟซี ซูริก เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน และลงเล่นเกมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลกนัดเจอกับแคนาดาในฐานะตัวสำรอง น่าจะพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับพวกตัวเก๋า ๆ ของทีม มายะ โยชิดะ, ทาคุมิ มินามิโนะ และทาเคฟูซะ คูโบะ ดาวรุ่งของเรอัล โซซิดัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของเยอรมนีและญี่ปุ่น

เยอรมนี ระบบ 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, ซูเล่, รือดิเกอร์, รวม; คิมมิช, โกเร็ตซก้า; ฮอฟมันน์, มูเซียลา, มุลเลอร์; ฮาแวร์ตซ์
ญี่ปุ่น ระบบ 4-2-3-1: ชมิดต์; ซากาอิ, โยชิดะ, โทมิยาสุ, นากาโตโมะ; ชิบิซากิ, มอริตะ; จุนยะ อิโต, คามาดะ, คูโบะ; มินามิโนะ

ผลการแข่งขันระหว่างเยอรมนีและญี่ปุ่น

จะว่าไปแล้วนักเตะและแฟนบอลเยอรมนี น่าจะคุ้นกับนักเตะญี่ปุ่นไม่น้อย เมื่อหลายรายเคยเล่นหรือกำลังเล่นอยู่ในลีกเยอรมนี ขณะเดียวกัน เกมของเยอรมนีก็เป็นเรื่องที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างดี แถมทั้งสองทีมยังเล่นไม่ต่างกัน เน้นการคอนโทรลเกม ให้บอลกันเป็นกลุ่ม ๆ แล้วพยายามเปลี่ยนการครองบอลให้กลายเป็นเกมรุก ด้วยการจ่ายบอลทะลุแนวรับ โดยที่ไม่มีหน้าเป้าที่ตายตัว

แน่นอนว่าโอกาสชนะของอินทรีเหล็กมีมากกว่าทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยแน่ ๆ แต่การที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ผ่านเกมในยุโรปมานักต่อนัก ใช่ว่าญี่ปุ่นจะไม่มีโอกาส หากท้ายที่สุด ก็ต้องยอมรับในมาตรฐานของเยอรมัน ที่น่าจะบดชนะไปได้หวุดหวิด

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ
2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

เยอรมนี vs ญี่ปุ่น : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี vs ญี่ปุ่น : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : เยอรมนี vs ญี่ปุ่น

พุธ 23 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เยอรมนี
แชมป์กลุ่มเจ โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 36 เสีย 4

ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เยอรมนี
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ฮังการี 1-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ อิตาลี 5-2
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮังการี 0-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ อังกฤษ 3-3
อุ่นเครื่อง ชนะ โอมาน 1-0

ญี่ปุ่น
EAFF E-1 เสมอ จีน 0-0
EAFF E-1 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2

 

ผลการพบกัน
4 นัด เกมอุ่นเครื่องทั้งสิ้น เยอรมนีชนะ 2 เสมอ 2

 

สภาพทีม ฟุตบอลโลก 2022

เยอรมนี
ตัวแทนยุโรปรายแรกที่่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกหนนี้ หมายมั่นปั้นมือเต็มที่จะมาแก้ตัวจากการตกรอบแรกอย่างสุดช็อคในครั้งก่อน ซึ่งเป็นผลให้ โยอัคคิม เลิฟ สละเก้าอี้ไป และ ฮันส์ ดีเตอร์ ฟลิค เข้ามาแทน

 

ผลงานของอินทรีเหล็กในรอบคัดเลือกเป็นไปอย่างร้ายกาจ แต่ก็ออกแผ่วเล็กๆ ในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ที่ชนะได้แค่เกมเดียวจาก 6 แมตช์

 

สำหรับความพร้อม ฟลิค ไม่มี มาร์โก รอยส์ ตัวรุกจากดอร์ทมุนด์ และ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงเบอร์แรกจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ตั้งแต่แรก หลังทั้งคู่บาดเจ็บจนไม่พร้อมเล่นบอลโลก นอกนั้น ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, โรบิน โกเซนส์ โดนมองข้ามไปไม่เรียกมาติดธง

 

จาก 26 แข้งที่มี ฟลิค สามารถเลือกใช้ได้ครบถ้วนทุกคนในเกมนี้ ซึ่งด้วยการที่หัวหอกเบอร์ 1 อย่าง แวร์เนอร์ ไม่มา ทำให้คาดว่าจะเป็น โธมัส มุลเลอร์ ขยับขึ้นยืนแทนโดยมี จามาล มูเซียล่า เป็นตัวต่ำคอยสนับสนุน และอาจมีการสลับตำแหน่งกันได้ในระหว่างเกม

 

ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ภายหลังเปิดประเดิมไว้เมื่อปี 1998 ก่อนจะได้เป็นเจ้าภาพร่วมในสี่ปีให้หลัง

 

การมาบอลโลกครั้งนี้ ญี่ปุ่นของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เจอปัญหาพอสมควรกับรอบคัดเลือก ที่ฟอร์มหลุดแพ้ 2 จาก 3 เกมแรก แต่หลังจากนั้นก็กระเตื้องขึ้นได้ จนสุดท้ายเข้าป้ายเป็นรองแชมป์กลุ่ม ซึ่งยังคงได้ตั๋วมารอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ

 

ความพร้อมเกมนี้ โมริยาสุ ต้องเช็กแค่ ทาคุมะ อาซาโนะ ซึ่งโดยปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว โดยคาดว่าเกมรุกจะวาง ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ และ จุนยะ อิโตะ ปั้นเกมสนับสนุนหอกเป้า ทาคุมิ มินามิโนะ

 

ตัวความหวัง
เยอรมนี : จามาล มูเซียล่า
ถูกคาดหมายตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนว่าจะกลายมาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งที่สุดแล้วเจ้าหนูเชื้อสายอังกฤษวัย 19 ก็ทำได้อย่างที่หลายฝ่ายมอง โดยแม้จะเพิ่งยิงไปได้แค่ลูกเดียว แต่ก็ได้สัมผัสเกมระดับชาติมาแล้วถึง 19 นัด และดูจะมีตำแหน่งตัวจริงในการทำทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ด้วย โดยเฉพาะเมื่อซีซั่นนี้กำลังเข้าฝัก กดไปแล้ว 12 ประตูจากการเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค 22 เกม

 

ญี่ปุ่น : ไดอิจิ คามาดะ
อันที่จริง ตัวรุกวัย 26 เพิ่งได้โอกาสเล่นทีมชาติไปเพียง 22 นัดเท่านั้น และมียิง 6 ประตู โดยยังไม่เคยผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการไหนมาก่อนเลย แต่ที่ทำให้ คามาดะ น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ก็คือการคุ้นชินกับฟุตบอลสไตล์เยอรมันๆ เป็นอย่างดี ภายหลังปักหลักเล่นกับ ไอน์ทรัคท์ แฟร้งค์เฟิร์ต มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2017 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังร่ายฟอร์มอย่างโดดเด่นในตลอด 2-3 ปีหลัง ซีซั่นก่อนยิง 9 ลูก ต่อด้วยยิงเยอะถึง 12 ประตูในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

11 ตัวจริงที่คาด
เยอรมนี (4-2-3-1, กุนซือ ฮันซี่ ฟลิค) มานูเอล นอยเออร์ – ดาวิด เราม์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิคลาส ซูเล่, ติโล เคห์เรอร์ – เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โยชัว คิมมิช – เลรอย ซาเน่, จามาล มูเซียล่า, แซร์จ นาบรี้ – โธมัส มุลเลอร์
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, ฮิโรกิ ซากาอิ – กาคุ ชิบาซากิ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ทาคุมิ มินามิโนะ

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันล่าสุดปี 2006 เสมอกัน 2-2 ที่เลเวอร์คูเซ่น
• ไม่นับเจ้าภาพกาตาร์ เยอรมนี คือทีมแรกสุดที่ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ภายหลังชนะ 9 จาก 10 นัดของรอบคัดเลือก
• ฟุตบอลโลกครั้งก่อน เยอรมนี โดนตัวแทนเอเชียอย่าง เกาหลีใต้ ยัดเยียดความปราชัย 2-0 จนตกรอบแรกอย่างสุดช็อก
• นักเตะญี่ปุ่นชุดนี้ เล่นในลีกเยอรมันถึง 8 คน
• นิคลาส ฟุลครุก หัวหอกหน้าใหม่ของเยอรมนี จากเบรเมน ยิงประตูได้ทันทีในเกมประเดิมทีมชาติ นัดชนะ โอมาน 1-0 เมื่อ 16 พ.ย.

 

ความน่าจะเป็น
คงไม่ใช่งานง่ายนักของ เยอรมนี ในการเจอกับทีมวิ่งสู้ฟัดและเทคนิคดีอย่าง ญี่ปุ่น แต่การจะคาดหวังถึงผลเซอร์ไพรส์อย่างที่ ซาอุฯ ทำกับ อาร์เจนติน่า อาจเป็นเรื่องยากไปนิด อย่างไรเสีย ระดับชั้นของอินทรีเหล็กก็ยังเหนือกว่า น่าเอาชนะได้ 1 เม็ดเป็นอย่างน้อย

 

ผลที่คาด : เยอรมนี ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
เยอรมนี
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 02.00 — สเปน vs เยอรมนี
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

ญี่ปุ่น
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565 — 02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด

ราบชื่อ 26 นักเตะของทีมชาติญี่ปุ่น เพื่อลุยฟุตบอลโลก 2022 

เพราะแม้ช้าๆ อาจได้พร้าเล่มงาม แต่ดูเหมือนว่า “ซามูไรสีน้ำเงิน” ทีมชาติญี่ปุ่นในการดูแลของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะไม่อยากเสียเวลารอใครอะไรทั้งสิ้น ประกาศตัว 26 แข้งชุดสุดท้ายสำหรัยลุยฟุตบอลโลก 2022 ออกมาเปรี้ยงเดียว ก่อนใครเพื่อน

 

ก่อนจะไปลงลึกถึงรายละเอียดและประเด็นที่เกี่ยวข้อง ก็ไปสำรวจกันเลยกับโผ 26 นักเตะ final squad ทีมชาติญี่ปุ่น ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งพวกเขานับเป็นชาติแรกสุดที่ยืนยันทีมชุดสุดท้ายออกมาแล้ว มาเร็วกว่าทุกชาติ เร็วกว่าแม้กระทั่งเจ้าภาพ กาตาร์ ด้วย

 

รายชื่อนักเตะญี่ปุ่น ล่าสุด ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022

ผู้รักษาประตู
เออิจิ คาวาชิมะ / อายุ 39 / สตราส์บูร์ก / เล่นทีมชาติ 95 นัด
ชูอิจิ กอนดะ / 33 / ชิมิสุ เอสพัลส์ / 33
ดาเนี่ยล ชมิดท์ / 30 / แซงต์-ทรุยดอง / 11

 

กองหลัง
ยูโตะ นางาโตโมะ / 36 / เอฟซี โตเกียว / 137 นัด 4 ประตู
มายะ โยชิดะ / 34 / ชาลเก้ / 121 – 12
ฮิโรกิ ซากาอิ / 32 / อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส / 71 – 1
ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ / 23 / อาร์เซน่อล / 29 – 1
ยูตะ นากายามะ / 25 / ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ / 17 – 0
มิกิ ยามาเนะ / 28 / คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ / 14 – 2
โชโง ทานิงูจิ / 31 / คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ / 13 – 0
โค อิตาคุระ / 25 / โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค / 12 – 1
ฮิโรกิ อิโตะ / 23 / สตุ๊ตการ์ท / 5 – 0

 

กองกลาง
กาคุ ชิบาซากิ / 30 / เลกาเนส / 59 – 3
วาตารุ เอ็นโดะ / 29 / สตุ๊ตการ์ท / 43 – 2
ทาคุมิ มินามิโนะ / 27 / โมนาโก / 43 – 17
จุนยะ อิโตะ / 29 / แร็งส์ / 38 – 9
ริตสึ โดอัน / 24 / ไฟรบวร์ก / 28 – 3
ไดอิจิ คามาดะ / 26 / แฟร้งค์เฟิร์ต / 21 – 6
ทาเคฟุสะ คุโบะ / 21 / เรอัล โซเซียดัด / 19 – 1
ฮิเดมาสะ โมริตะ / 27 / สปอร์ติ้ง ลิสบอน / 17 – 2
อาโอะ ทานากะ / 24 / ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ / 14 – 2
คาโอรุ มิโตมะ / 25 / ไบรท์ตัน / 9 – 5
ยูกิ โซมะ / 25 / นาโงย่า แกรมปัส / 7 – 3

 

กองหน้า
ทาคุมะ อาซาโนะ / 27 / โบคุ่ม / 36 – 7
อายาเสะ อุเอดะ / 24 / แซร์ก บรูซ / 10 – 0
ไดเซน มาเอดะ / 25 / เซลติก / 8 – 1

 

ประวัตินักเตะทีมชาติญี่ปุ่น ที่จะออกศึก บอลโลกปี 2022 นี้

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• เริ่มต้นที่ตัวกุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ โค้ชชาวเมืองชิซุโอกะ วัย 54 จะนำ ญี่ปุ่น ลงสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นสมัยแรกของตัวเขา ภายหลังเป็นมือขวาของ อากิระ นิชิโนะ ในบอลโลกครั้งก่อนที่รัสเซีย และขึ้นคุมแทนหลังจบทัวร์นาเมนต์นั้น โดยจากวันนั้นถึงวันนี้ โมริยาสุ มีพาทีมเข้าชิง เอเชียน คัพ 2019 หนึ่งหน (แพ้ กาตาร์ 1-3) และได้แชมป์รายการย่อย สี่เส้าชิงแชมป์เอเชียตะวันออก EAFF E-1 Football Championship 2022 เมื่อกลางปี

 

• ส่วนสถิติถึงวันนี้ โมริยาสุ พาทีมลงสนาม 57 เกม ชนะ 39 เสมอ 8 แพ้ 10 เปอร์เซ็นต์ชนะอยู่ที่ 68.42%

 

• ในการประกาศรายชื่อ 26 แข้งลุยฟุตบอลโลก 2022 แบบไม่ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดกับชุดเบื้องต้นสี่ซ้าห้าสิบคน โมริยาสุ จำแนกลูกทีมตามตำแหน่ง ประกอบด้วย 3 ผู้รักษาประตู, 9 กองหลัง, 11 กองกลาง และอีก 3 กองหน้า ซึ่งการที่เรียกศูนย์หน้าติดธงไปน้อยแค่นี้ เพราะหมากการเล่นโดยส่วนใหญ่ของพวกเขามักใช้หอกเป้ารายเดียว เช่น 4-3-3 หรือ 4-5-1 และเน้นการโจมตีริมเส้นเป็นหลัก

 

• น่าสนใจว่าจาก 26 รายชื่อ มีตัว “เจลีก” เล่นในประเทศ หลงเหลืออยู่เพียง 6 รายเท่านั้น โดยมาจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ 2 คน และ นาโงย่า แกรมปัส, ชิมิซุ เอส-พัลส์, อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส, เอฟซี โตเกียว ทีมละคน นอกนั้นอีก 20 คน เล่นอยู่ในลีกยุโรปทั้งสิ้น
– บุนเดสลีกา เยอรมนี 8 คน
– พรีเมียร์ลีก + แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ 3
– ลีก เอิง ฝรั่งเศส 3
– ลา ลีกา สเปน 2
– โปรลีก เบลเยียม 2
– พรีเมียร์ชิพ สกอตแลนด์ กับ ปรีเมร่า ลีกา โปรตุเกส อย่างละ 1

 

• ชุดนี้ จัดว่าไม่มี “หน้าใหม่” แม้แต่รายเดียว ทั้งหมดล้วนแต่เคยเล่นทีมชาติมาแล้ว อย่างน้อยที่สุด 5 นัด (ฮิโรกิ อิโตะ กองหลังสตุ๊ตการ์ท) รวมถึงว่าก็แทบไม่มีดาวรุ่งด้วย ที่เข้าข่ายมีแค่ ทาเคฟุสะ คุโบะ เจ้าหนูมหัศจรรย์วัย 21 จากเรอัล โซเซียดัด แต่เจ้าตัวก็เล่นทีมชาติมาแล้ว 19 นัด แถมยังผ่านประสบการณ์ใน ลา ลีกา สเปน มาเกิน 100 นัดไปแล้วด้วย

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• ขุมกำลังผู้รักษาประตู นำมาโดยจอมเก๋าวัยปาเข้าไป 39 เออิจิ คาวาชิมะ จอมหนึบสตราส์บูร์ก ผู้ซึ่งกำลังจะได้เล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน (2010, 2014, 2018, 2022) ขณะที่มือสาม ดาเนี่ยล ชมิดท์ จากแซงต์-ทรุยด็อง แม้ชื่อจะออกฝรั๊งฝรั่ง แต่ที่จริงชื่อเต็มคือ “ดาเนี่ยล ยูจิ ยาบูกิ ชมิดท์” เป็นลูกครึ่งคุณพ่อเยอรมัน-แม่ญี่ปุ่น โตที่สหรัฐอเมริกา แล้วย้ายมาตั้งรกรากในแดนอาทิตย์อุทัยตั้งแต่ 2 ขวบ จากนั้นเทิร์นโปรกับ เวกัลตะ เซนได ก่อนย้ายไปเล่นที่เบลเยียมตั้งแต่ 2019 เป็นต้นมา

 

• กองหลัง ไม่พลาดอยู่แล้วกับ มายะ โยชิดะ กัปตันทีมชุดนี้ ที่แม้จะสูงวัย 34 แล้ว แต่ก็ยังยืนระยะกับ ชาลเก้ 04 ได้อยู่ภายหลังเพิ่งย้ายมาจาก ซามพ์โดเรีย เมื่อซัมเมอร์ ส่วนรายอื่นๆ ก็ถือเป็นชื่อที่คุ้นหูแฟนบอลดีแทบทั้งหมด ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ จากอาร์เซน่อล, โค อิตาคุระ จากกลัดบัค, ฮิโรกิ ซากาอิ จากอุราวะ รวมถึง ยูโตะ นางาโตโมะ ในวัย 36 ก็ยังได้มาเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 เช่นกัน

 

• ในราย นางาโตโมะ ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย กลับไปเล่นให้ต้นสังกัดแรก เอฟซี โตเกียว เมื่อปี 2021 แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ รวมถึงเป็นตัวที่เล่นทีมชาติสูงสุดในชุดนี้ ผ่านการรับใช้ชาติมามากถึง 137 เกม หรือเป็นอันดับ 2 นักเตะที่เล่นให้ญี่ปุ่นสูงสุดตลอดกาล เป็นรองเพียง ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ ที่ลงสนาม 152 นัด รายเดียวเท่านั้น

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• นางาโตโมะ วัย 36 ยังนับเป็นหนึ่งใน 8 “ซามูไรซีเนียร์” อายุเกินหลักสามร่วมกับ เออิจิ คาวาชิมะ (39), มายะ โยชิดะ (34), ชูอิจิ กอนดะ (34), ฮิโรกิ ซากาอิ (32), โชโง ทานิกูจิ (31), ดาเนี่ยล ชมิดท์ (30) และ กาคุ ชิบาซากิ (30) ที่จะได้เข้าร่วมศึก กาตาร์ 2022

 

• กองกลาง นอกจาก ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่ได้เอ่ยถึงไปแล้ว ตัวน่าจับตาอยู่ที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ดาวซัลโวสูงสุดของทีมชุดนี้ ที่กดไปแล้ว 17 ประตูจาก 43 เกมทีมชาติ อย่างไรก็ตาม มินามิโนะ ยังโชว์ฟอร์มในซีซั่นนี้กับทาง โมนาโก ไม่สวยนัก ลงสนาม 13 นัดเพิ่งยิงได้ลูกเดียว

 

• ด้านกองหน้า ต้องดูว่าระหว่าง ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม) กับ ไดเซน มาเอดะ (เซลติก) ใครจะได้เป็นตัวยืนในไลน์อัพแรก เมื่อตัวเลือกที่ 3 อย่าง อายาเสะ อุเอดะ (แซร์ก บรูช) ยังไม่เคยยิงประตูในนามทีมชาติได้มาก่อน จากการเล่น 10 นัด

 

ทีมชาติญี่ปุ่น รายชื่อ 26 นักเตะไปแข่งศึก ฟุตบอลโลก 2022 ล่าสุด• อีกจุดที่น่าสนใจคือการที่ โมริยาสุ กล้าๆ จะมองข้ามตัวที่เล่นในลีกยุโรปไปหลายรายมาก โดยเฉพาะ เกงคิ ฮารางุจิ มิดฟิลด์อูนิโอน เบอร์ลิน ที่ติดทีมชาติไปแล้วถึง 74 นัด (11 ประตู) หลุดไป (ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า มีตัวเลือกอื่นฟอร์มเข้าตากว่า) เช่นเดียวกับ เรโอ ฮาตาเตะ & เคียวโง ฟุรุฮาชิ (เซลติกทั้งคู่), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือสองกองหน้าตัวเก๋า ยูยะ โอซาโกะ กับ โยชิโนริ มุโตะ (วิสเซิล โกเบ ทั้งคู่) ก็ไม่ถูกเรียกตัวด้วย

 

• สำหรับการลุยฟุตบอลโลก 2022 งวดนี้ โมริยาสุ ตั้งเป้าไว้สูงถึงการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย “เป้าหมายของเราในการร่วมเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ คือการไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้…เป็นอย่างน้อย” เขาว่า “แต่เราก็รู้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย”

 

 

แต่เหนืออื่นใด ผ่านรอบแรก “กลุ่มแห่งความตาย” ให้ได้เสียก่อนนะ ซามูไรบลู…
23/11 เยอรมนี – ญี่ปุ่น
27/11 ญี่ปุ่น – คอสตาริกา
01/12 ญี่ปุ่น – สเปน

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
WIKIPEDIA
Republic World

ภาพประกอบ
Getty Images
Japan Football Fans
Goal
AFP

แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตอน 2

เสื้อบอลโลก 2022 ส่งกล้องมองผ้า เสื้อทีมในรอบสุดท้ายของกลุ่ม อี – เอช

เสื้อฟุตบอลโลก 2022 ของกลุ่มอี-เอช

จาก 16 ทีมในกลุ่ม เอ – ดี ที่อวดโฉมชุดแข่งในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายออกมาให้เห็น ซึ่งแต่ละทีมก็ทำออกมาได้อย่างฉูดฉาดจับตาและทำให้สนามหญ้าสีเขียวของกาตาร์​ กลายเป็นเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ที่บรรดาดีไซเนอร์ของแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาทั้งหลายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าใหญ่ อย่าง ไนกี้, อดิดาส หรือว่าเจ้าเล็ก ๆ อย่าง มาราธอน, ฮุมเมล, คัปป้า หรือว่าแบรนด์ท้องถิ่น เช่น มาจิด ต่างเค้นไอเดีย ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่มาทำให้เสื้อของทีมที่ตัวเองดูแลมีสีสัน ที่จะว่าไปแล้วไม่แพ้เกมการเล่นอย่างแน่นอน

และวันนี้เราจะมาดูแฟชั่นฟุตบอลโลกของอีก 16 ทีมที่เหลือในกลุ่ม อี – เอช

เสื้อบอลโลก ส่องแฟชั่นของแต่ละกลุ่ม

กลุ่มอี: สเปน, คอสตาริก้า, เยอรมนี, ญี่ปุ่น

3 ใน 4 ทีมของสายนี้ ใช้บริการของอดิดาส แบรนด์ยักษ์ใหญ่ในโลกของฟุตบอล ที่ในฟุตบอลโลกหนนี้ดูจะเสียรังวัดไปไม่น้อย เพราะคู่แข่ง อย่าง ไนกี้ ครองแค็ตวอล์กแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ไปเรียบร้อยเมื่อมีทีมใช้บริการมากที่สุด ขณะที่หนึ่งเดียวในกลุ่มนี้ที่ไม่เข้าพวกก็คือ คอสตาริก้า ที่ใช้บริการของนิวบาลานซ์ ซึ่งตัวเสื้อก็มาแบบเรียบ ๆ ดูคลาสสิกเน้นสีธงชาติ ชุดเหย้าสีแดง ชุดเยือนสีขาว และมีลูกเล่นที่ปลายแขนสีฟ้า ที่ดูเหมือนต่อออกมาจากตัวเสื้อ ส่วนสามทีมที่อดิดาสส่งเข้าประกวด เยอรมนีดูเก๋ด้วยแถบสีดำพาดกลางเสื้อสีขาวบริเวณหน้าอก จากคอถึงชายเสื้อ แต่ที่แปลกตาก็คือชุดเยือนที่ใช้สีแดงเลือดนกสลับดำเล่นลายกราฟิก สเปนชุดเหย้าเป็นสีแดงที่ดูเรียบ ๆ แต่ชุดเยือนสีขาวสลับกับกราฟิกในเนื้อผ้าสีฟ้าอ่อน ดูสวยดีทีเดียว ปิดท้ายด้วยญี่ปุ่น ที่ดูเตะตาทั้งชุดเหย้าสีน้ำเงินเข้มสลับน้ำเงินอ่อน และชุดขาวที่กราฟิกบริเวณไล่มาถึงปลายแขน ทำให้เสื้อที่ดูเหมือนไม่อะไรตัวนี้เตะตาขึ้นมาทันที

สเปน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เสื้อทีมชาติสเปน ที่ชุดเยือนดูเตะตามาก ๆ (ภาพ: Footy Headlines)

คอสตาริก้า แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ในฟุตบอลโลก 2022 หรือแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 นิวบาลานซ์ มีทีมเข้าประกวดแค่ทีมเดียวคือ คอสตาริก้า (ภาพ: Footy Headlines)

เยอรมนี แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเหย้าของเยอรมนีมีแถบตามยาวลากจากคอมาถึงชายเสื้อ ดูมีเสน่ห์ ส่วนชุดเหย้าก็เล่นสีได้มันส์ (ภาพ: Footy Headlines)

ญี่ปุ่น แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น หนึ่งในขาประจำเสื้อสวย ที่ในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ก็ยังสวยงามเหมือนเดิม (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม เอฟ: เบลเยี่ยม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
มีถึงสามแบรนด์มาประชันกัน พูม่าสินค้าตราเสือดูแลเสื้อให้ทีมจากแอฟริกา เสื้อชุดเหย้ายังคงเอกลักษณ์เดิม สีแดงและมีแถบสีเขียวคาดกลางหน้าอก ชุดเยือนแม้จะเป็นแพ็ทเทิร์นเหมือน ๆ ทีมอื่น ๆ ที่ใช้บริการแบรนด์เดียวกัน แต่การที่ไม่มีกรอบและพิมพ์ลายสีสีเทาอ่อน ๆ ลงในเนื้อผ้า ก็ทำให้แตกต่าง อดิดาสที่ใช้บริการโดยเบลเยี่ยม ชุดเหย้าสีแดงมีสีดำบริเวณไหล่ไปถึงแขน แล้วมีกิมมิกที่ปลายแขนเป็นกราฟิกเปลวเพลิง ชุดเยือนสีขาวดูเผิน ๆ เหมือนจะเรียบ ๆ แต่การเล่นสีบริเวณคอและปลายแขนก็ทำให้ดูดีขึ้นมา ส่วนแคนาดาที่ใช้บริการไนกี้ และไม่ได้ออกเสื้อใหม่รับฟุตบอลโลก ทำให้ตกแค็ตวอล์กแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ไปเรียบร้อยมาแบบเรียบ ๆ สีแดงและขาว โดยคัตติ้งเป็นแพ็ทเทิร์นเดียวกับเสื้อหลาย ๆ ทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ ส่วนโครเอเชีย โดดเด่นเสมอด้วยตารางหมากรุก แต่ไม่ได้ปูเต็มตัวเหมือนเคย โดยเฉพาะในชุดเยือนสีน้ำเงินเข้ม ตารางสีพื้นสลับกับฟ้า ก็ดูไม่ต่างจากงานอาร์ต

เบลเยี่ยม แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ปีศาจแดงเบลเยี่ยม มาพร้อมพลังเพลิงสำหรับชุดเหย้า ขณะที่ชุดเยือนก็มาแบบเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นที่คอและปลายแขน (ภาพ: Footy Headlines)

แคนาดา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แคนาดาเป็นชาติเดียวที่ไม่มีเสื้อใหม่สำหรับแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Footy Headlines)

โมร็อกโก แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

พูม่ายังคงเอกลักษณ์ชุดเหย้าของโมร็อกโก ที่มีแถบสีเขียวพาดกลางหน้าอกเอาไว้ ชุดเยือนก็มีลูกเล่นนิดหน่อย ทำให้ไม่เหมือนเสื้อฟอร์แม็ตนัก (ภาพ: Footy Headlines)

โครเอเชีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ตารางหมากรุกคือลายเซ็นบนเสื้อของโครเอเชียมาตลอด และหนนี้ก็ยังไม่หายไปไหน แต่ชุดเยือนดูเหมือนจะเข้าตามากกว่าชุดเหย้า (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม จี: บราซิล, เซอร์เบีย, สวิสเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
แคเมอรูนคือชาติเดียวในฟุตบอลโลก 2022เดียวที่ยังไม่เปิดตัวเสื้อทีม แม้จะมาถึงเดือนตุลาคมแล้ว พวกเขาให้วันออลสปอร์ตส์ แบรนด์ที่มีเครดิตจากสายมอเตอร์สปอร์ตดูแลให้ ถึงจะยังไม่มีเสิื้อทีม แต่ก็ปล่อยชุดในวาระต่าง ๆ ของแคเมอรูนออกมาให้เห็นพอสมควร ส่วนชาติอื่น ๆ บราซิลยังใช้บริการไนกี้ ซึ่งตัวเสื้อคราวนี้ ชุดเยือนดูเด่นกว่าชุดหย้าในเวทีแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 เซอร์เบียกับสวิสเซอร์แลนด์ ใช้บริการของพูม่า ตัวชุดเยือนมาในคอนเซ็ปต์เดียวกับเสื้อชาติอื่น ที่ใช้บริการพูม่า มีตราทีมชาติกลางหน้าอก แล้วก็ต้องมีกรอบสี่เหลี่ยมหรือวงกลมที่มีเบอร์ผู้เล่นอยู่ข้างใน แต่สวิสฯ ดูจะฉีกออกไปเล็กน้อย เมื่อเป็นแถบคาดสีแดงขวางหน้าอก ตราทีมชาติกับโลโก้พูม่าขยับลงมาเล็กน้อย ก็ทำให้ฉีกไปจากฟอร์แม็ตที่ดูซ้ำ ๆ ได้พอสมควร ขณะที่เสื้อทีมเหย้าซึ่งใช้สีแดงเหมือนกันสวิสฯ ดูจะมีลูกเล่นมากกว่าตรงกราฟิกลายเส้นที่ขาวที่ไหล่

บราซิล แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ชุดเยือนของบราซิล ดูเตะตากว่าชุดเหย้าที่ออกไปทางคลาสสิก อย่างเห็นได้ชัด (ภาพ: Footy Headlines)

สวิสเซอร์แลนด์ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

สวิสเซอร์แลนด์ ยังคงใช้บริการของพูม่า ที่ทำชุดเยือนออกมาเป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกันทุกทีมก็ว่าได้ (ภาพ: Footy Headlines)

เซอร์เบีย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

เซอร์เบีย กับชุดที่ดูเรียบ ๆ ทั้งชุดเหย้า และชุดเยือน (ภาพ: Footy Headlines)

แคเมอรูน แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

แคเมอรูน คือชาติเดียวที่ยังไม่เผยเสื้อทีมออกมาให้เห็นเต็มตาจนถึงขณะนี้ (ตุลาคม) (ภาพ: Footy Headlines)

กลุ่ม เอช: โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ปิดท้ายการส่งเสื้อทีมในแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ด้วยกลุ่มที่เป็นการดวลระหว่างไนกี้กับพูม่า ที่ฝ่ายแรกส่งโปรตุเกสและเกาหลีใต้เข้าประกวด เสื้อชุดเหย้าของโปรตุเกสมาแบบเรียบ ๆ แต่เล่นกับสีธงชาติโดยสีพื้นเป็นแดงแต่มีสีเขียวพาดจากปลายแขนขวาต่อมาถึงช่วงล่างของเสื้อ ขณะที่ชุดเยือนดูเตะตากว่า สีขาวปลายแขนดำ และมีสีธงชาติแดง-เขียว พาดขวางหน้าอก เกาหลีใต้ชุดเหย้ามาในฟอร์แม็ตเดียวกับเหย้าของโปแลนด์แต่เปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นแดง แต่ชุดเยือนถือว่าแซ่บมาก มีอารมณ์แบบงานอาร์ต สาดสีใส่ผืนผ้าใบสีดำ กานากับอุรุกวัยที่ให้พูม่าดูแล ชุดเยือนมาตามสูตรของพูม่าขณะที่ชุดเหย้าก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษ ถือว่าไม่ค่อยมีเสน่ห์โดนตาสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ

โปรตุเกส แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

จากสีแดงเต็มตัว หนนี้ชุดเหย้าของโปรตุเกส จะมีสีเขียวของธงพาด ขณะที่ชุดเยือนก็ออกมาดูดี และเล่นกับสีธงชาติเช่นกัน (ภาพ: Footy Headlines)

กานา แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

กานามาเรียบ ๆ ชุดเหย้าคล้าย ๆ กับเซอร์เบีย แต่เปลี่ยนสี มีสันที่ปลายแขน และแน่นอนชุดเยือนก็มาฟอร์แม็ตเดียวกับชุดทีมอื่น ๆ ที่พูม่าดูแล (ภาพ: Footy Headlines)

อุรุกวัย แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

มาแบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา คือนิยามของเสื้อทีมอุรุกวัยในแฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Footy Headlines)

เกาหลีใต้ แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022

ดูดีทั้งชุดเหย้าและเยือนสำหรับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เหลือก็คือฟอร์มการเล่นของทีม (ภาพ: Footy Headlines)

และนี่คือบรรดาเสื้อทีมชาติต่าง ๆ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ทำให้กาตาร์และทัวร์นาเมนต์นี้เป็นสนามแฟชันฟุตบอลโลก 2022 ไปในคราวเดียวกัน

ภาพปก: FOOTYHEADLINES
เรื่องน่าอ่าน: แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 ตรวจดูความสวยงามของบรรดาเสื้อทีมของ 32 ทีมสุดท้าย จากกลุ่ม เอ – กลุ่มดี