เรื่อง

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022

เบรคสุดท้าย…ก่อนฟุตบอลโลก 2022

ไม่ว่าจะเผลอหรือไม่ วันเวลาก็พาเรามาถึงเบรคทีมชาติช่วงสุดท้ายท้ายสุดแล้ว ก่อนรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 จะโรมรัน

 

ในขณะที่เรากำลังตกตะลึงไปกับความร้อนแรงยิงสลุตไม่แผ่วของ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์
กำลังจับตาการฟื้นคืนชีพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค เอริก เทน ฮาก
กำลังเป็นพยานการเดินด้วยความแข็งแกร่งไร้เทียมทานของ เรอัล มาดริด
กำลังเลิกคิ้วสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ ยูเวนตุส ของ แม็กซ์ อัลเลกรี
หรือกำลังต้องปาดเหงื่อลุ้นหนักกับเส้นทางของ เชลซี ในถ้วยบิ๊กเอียร์

 

ใครบางคนคงแอบส่ายหัว… แหม่วุ้ย ทีมชงทีมชาติช่างมาขัดจังหวะกันเสียจริง

 

แต่อย่างที่ได้เอ่ยถึงไว้ในเรื่อง “ก่อนบอลโลก มีเกมทีมชาติอีกไหม?” เมื่อสักสองเดือนก่อน ว่านี่คือคิวทีมชาติที่สุดแสนจะ “จำเป็น” และ “ต้องมี” แบบไม่อาจเลี่ยงหรือบอกผ่านได้ เพื่อที่จะให้บรรดา 32 ชาติสมาชิกผู้เข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ได้เตรียมทีมลองของกันเป็นหนท้ายๆ มากๆ ก่อนที่ เวิลด์ คัพ ฉบับกาตาร์ จะมาถึงในอีกแค่ 2 เดือนข้างหน้าเท่านั้น

 

หลุดจากงวดนี้ไปจะเหลือเพียงช่วง “เตรียมทีม” ลุยรอบสุดท้ายปลายเดือน 11 (20 พ.ย. เปิดสนามบอลโลก) ประมาณไม่เกิน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น และหลายๆ ทีมก็ยังไม่ได้วางโปรแกรมลับแข้งเป็นทางการไว้ในช่วงนั้นด้วย

 

เบรคทีมชาติเดือนนี้ ชาติยุโรปหลายชาติยังต้องเคลียร์ตอนจบของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ว่าจะจบด้วยความสำเร็จหรือล้มเหลว ส่วน 2 ยักษ์ใหญ่อเมริกาใต้ บราซิล-อาร์เจนติน่า เดิมทีมีคิวต้องรีแมตช์กันเอง แต่ปรากฏว่า “งานล่ม” เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างแยกไปเตะเกมลับแข้งของตัวเอง — เพราะอะไร งานนี้มีคำตอบ

 

อย่างที่ว่า นี่คือโปรแกรมอย่างเป็นทางการหนสุดท้ายจริงๆ แล้วก่อน ฟุตบอลโลก 2022 จะมา ความหมายที่เชื่อมโยงต่อเนื่องก็คือ นักเตะรายไหนจะได้ไปบอลโลกแน่ๆ หรือคนไหนมีแนวโน้มหลุดโผ ได้แค่ดูบอลโลกผ่านจอทีวี ก็สามารถ “จับสังเกต” ได้เหมือนกันจากการเรียกตัวคราวนี้

 

ฉะนั้น เมื่อความสำคัญของ “เบรคทีมชาติ” กันยายน 2022 มีมากขนาดนี้ จึงสมควรสอดส่ายสายตาหากันหน่อยว่าแต่ละทีมมีคิวแบบใด สถานการณ์เป็นอย่างไร ขุมกำลังสภาพทีมมาทรงไหน แบบครบจบในตอนเดียว!

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อังกฤษ

23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อิตาลี (ซาน ซิโร่, มิลาน)

26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เยอรมนี (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนคนรักบอลบ้านเรา เหลือโปรแกรมเช็คบิล เนชั่นส์ ลีก ลีกเอ กลุ่ม 3 สองนัดสุดท้าย แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “เสื่อมความหมาย” ไปพอตัว จากการที่เตะ 4 นัดแรกชนะใครไม่เป็น เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งบ๊วยของกลุ่ม

 

อังกฤษ หมดลุ้นคว้าแชมป์กลุ่มเพื่อเข้ารอบชิงแชมป์ไปเรียบร้อย ที่ยังเหลืออยู่มีแค่ต้อง “หนีบ๊วย” ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้นสู่ ลีกบี 2024/25 เท่านั้นเอง

 

ดังนั้น ประเด็นสำคัญของเบรคทีมชาติงวดนี้ จึงอาจไม่ได้อยู่ที่แมตช์หรือผลลัพธ์สักเท่าไร แต่เป็นโฉมหน้าของขุมกำลังที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวไปติดธง มากกว่า

 

โฟกัสอยู่ที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อดีตเซนเตอร์แบ็กตัวแกร่ง…ที่เอาฟอร์มไปทิ้งแถวทะเลจีนใต้มาเป็นปีๆ แล้ว

 

ซีซั่นนี้ลงตัวจริง 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้มันซะ 3 เกม (1-2 ไบรท์ตัน, 0-4 เบรนท์ฟอร์ด, 0-1 เรอัล โซเซียดัด) ตรงกันข้าม เกมไหนที่ เอริก เทน ฮาก ไม่ใช้งานกัปตันทีมวัย 29 รายนี้ ปีศาจแดงก็มีเฮมันทุกนัด!

 

ด้วยฟอร์มที่ออกทะเลแบบเห็นจัดชัดจริง ทำให้หลายฝ่ายมองว่า เซาธ์เกต ไม่ควรเรียก แม็กไกวร์ มาติดธงอีกแล้ว และควรเปิดทางให้ เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล) หรือ ไทโรน มิงส์ (วิลล่า) มากกว่า

 

แต่ก็น่าสนใจว่า เซาธ์เกต เรียกตัวนักเตะตำแหน่งกองหลังมาร่วมทีมมากถึง 12 ราย ในจำนวนนี้มีเซนเตอร์แบ็ก 6-7 รายด้วยกัน (แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, เอริก ไดเออร์, คอนเนอร์ คอดี้, ฟิคาโย่ โทโมรี่, มาร์ก เกฮี รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์) ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่า แม็กไกวร์ จะได้เล่นแน่ๆ …แต่ถ้ายังได้ลงตัวจริงอีก ก็ตัวใครตัวมัน!

 

squad สิงโตชุดล่าสุดนี้ หน้าใหม่จริงๆ มีแค่ ไอแวน โทนี่ย์ ตัวจบสกอร์หลักของ เบรนท์ฟอร์ด รายเดียวที่ไม่เคยถูกเรียกตัวมาก่อน ในขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด หลุดไปเนื่องจากบาดเจ็บ

 

ส่วนที่โดนมองข้าม มีทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด), เจดอน ซานโช่ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เบน ไวท์ (อาร์เซน่อล), เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล), คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (เชลซี) และ เจสซี่ ลินการ์ด (ฟอเรสต์)

 

แน่นอนว่า 7-8 รายหลังสุดนี้ คงต้องใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กับสองเดือนสุดท้ายก่อนบอลโลก จะได้ไปแอ่วกาตาร์หรือไม่ ล้วนแต่อยู่ในข่าย “ต้องลุ้นหนัก”

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ฝรั่งเศส
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ออสเตรีย (สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เดนมาร์ก (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

แชมป์โลก 2 สมัย ตราไก่ ฝรั่งเศส ตกที่นั่งเดียวกับสิงโตคำราม อังกฤษ ไม่ผิดเพี้ยน จากการเสมอ 2 แพ้ 2 ในสี่เกมแรก หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว เหลือแค่เตะหนีบ๊วย ไม่ให้ตัวเองต้องตกชั้น

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผู้ซึ่งกุมบังเหียนตราไก่มาครบ 10 ปีเต็มไปเรียบร้อย (130 นัด ชนะ 83 มี 2 โทรฟี่แชมป์) ขาดขาประจำที่มีอาการบาดเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง ปอล ป๊อกบา, อูโก้ โยริส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, เตโอ กับ ลูคัส เอร์นันเดซ, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, อิบราฮิมา โกนาเต้, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, คิงสลี่ย์ โกม็อง และ คาริม เบนเซม่า

 

เพียงแต่ตัวที่ยังอยู่ ก็ล้วนแล้วแต่ฝีเท้าไม่ธรรมดาทั้งสิ้น นำขบวนโดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมัน เดมเบเล่ ยุคกลับมาแจ้งเกิดใหม่, จอมเก๋า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์, คริสตอฟเฟอร์ เอ็นคุนคู, ราฟาแอล วาราน, ชูลส์ คุนเด้ ฯลฯ

 

จุดน่าสนใจอยู่ที่แดนกลาง เป็นหน้าใหม่แทบทั้งแผง ตัวเลขห้อยท้ายคือจำนวนการติดทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (เรอัล มาดริด) 12
มัตเตโอ เก็นดูซี่ (มาร์กเซย) 6
จอร์แดน เวเรตูต์ (มาร์กเซย) 5
เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (เรอัล มาดริด) 3
ยุสซูฟ โฟฟาน่า (โมนาโก) 0

 

ด้านพวกที่หลุดเนื่องด้วยการพิจารณาของ เดส์ชองส์ และอยู่ในความเสี่ยงจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลก ประกอบด้วย วิสซาม เบน เยแดร์ (เซบีย่า), เกลม็องต์ ลองเล่ต์ (สเปอร์ส), เคิร์ต ซูม่า (เวสต์แฮม) หรือแม้แต่ มาร์กซิยาล (แมนฯ ยูไนเต็ด) ถ้ายังออดๆ แอดๆ อยู่แบบนี้ บอลโลกก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022สเปน
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สวิตเซอร์แลนด์ (ลา โรมาเรด้า, ซาราโกซ่า)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปรตุเกส (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

ต้องชิงแชมป์กลุ่ม 2 ลีกเอ กับทาง โปรตุเกส แต่เกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ก็สำคัญกับทัพ กระทิงดุ สเปน ไม่แพ้กัน เนื่องจากถ้าชนะสวิสส์ได้ จะต้องการเพียงผลเสมอเท่านั้นในเกมกับทีมฝอยทอง (แต่ก็ห้ามแพ้แหละ)

 

หลุยส์ เอ็นริเก้ เปลี่ยนทีมอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว นอกเหนือตัวที่บาดเจ็บ (ลาป๊อร์กต์, ติอาโก้, โอยาร์ซาบัล) แล้ว ที่หลุดโผไปอย่าง อันซู ฟาติ, โรดริโก้ โมเรโน่, ดานี่ โอลโม่, เซร์จี้ โรเบร์โต้, มาร์กอส อลอนโซ่ หรือ เซร์คิโอ เรกีลอน ล้วนเหมือนมี “คำเตือน” แปะหน้าว่าต้องรีบเร่งเค้นฟอร์มโดยด่วน ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกเป็นแน่

 

แต่ที่น่าจะ “พลาดบอลโลก” ค่อนข้างแน่–อย่างน่าประหลาดใจ ดูเหมือนจะมีแน่ๆ แล้ว หนึ่งราย นั่นคือ ดาบิด เด เคอา

 

แม้จะมาตรฐานสูงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด (สลับกับออกลูกเหวอเป็นพักๆ) แต่ช่วง 2-3 ปีหลังก็ได้ลงสนามรับใช้ชาติอย่างจำกัดมาตลอด (ไม่ได้เล่นเลยในชุดตกตัดเชือก ยูโร 2020) ครั้นมาชุดนี้ก็หลุดออกมาเลย ไม่เป็นหนึ่งในสามตัวเลือกนายทวารของ หลุยส์ เอ็นริเก้ อีกแล้ว

 

คนที่ เอ็นริเก้ เลือกไปติดธง มี อูไน ซิมอน (บิลเบา), โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน) และ ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เยอรมนี
23/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฮังการี (เร้ดบูลล์อารีน่า, ไลป์ซิก)
26/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ อังกฤษ (เวมบลีย์, ลอนดอน)

 

ตามหลัง ฮังการี 1 แต้ม แต่ก็ได้ลุ้นแชมป์กลุ่ม 3 ลีกเอ เต็มเหนี่ยว โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดกับ ฮังการี โดยตรงในวันศุกร์ ถ้าชนะได้จะแซงขึ้นจ่าฝูงทันที ก่อนเกมสุดท้าย

 

ฮันซี่ ฟลิค ที่ยังทำทีมไม่แพ้ใครสักนัดหลังผ่านไป 13 เกม (ชนะ 9 เสมอ 4) แทบไม่ได้เปลี่ยนทีมจากช่วงหลังๆ โดยขาดสำคัญๆ แค่ มาร์โก รอยส์ ที่บาดเจ็บ รายเดียว

 

นั่นหมายความว่า โฉมหน้าทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของ เยอรมนี ก็จะเป็นทีมประมาณนี้แหละ – นอยเออร์, สเตเก้น, ทรัปป์, รูดิเกอร์, ซูเล่, กินเทอร์, ชล็อตเตอร์เบ็ค, คิมมิช, กุนโดกัน, โกเร็ตซ์ก้า, ฮาแวร์ตซ์, มูเซียล่า, มุลเลอร์, แวร์เนอร์, ซาเน่, นาบรี้

 

ที่ยังไม่ชัวร์จะได้ไปกาตาร์ (แต่อยู่ในทีมชุดนี้นะ) อาจมีอย่างพวก ลูคัส เอ็นเมช่า (โวล์ฟสบวร์ก) หรือ อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป (เซาธ์แฮมป์ตัน) ประมาณนี้

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เนเธอร์แลนด์
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โปแลนด์ (นาโรโดวี่, วอร์ซอว์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เบลเยียม (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

อีกหนึ่งทีมที่มีแฟนเยอะในบ้านเรา แต่ยังไม่เคยไปถึงแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งก็น่าเป็นห่วงเล็กๆ ว่าด้วยความที่ เนชั่นส์ ลีก ยังไม่จบ แต่รอบสุดท้ายบอลโลกมาคอยท่าแล้ว ปรากฏว่าพวกเขาได้อยู่ร่วมกลุ่มกับทีม “ต่างทวีป” ทั้งสิ้น ทั้ง เซเนกัล, เอกวาดอร์ และเจ้าภาพ กาตาร์ ก็ทำให้อาจเจอปัญหากับบอลต่างสไตล์ ไม่ค่อยรู้หน้าค่าตาแบบนี้ได้เหมือนกัน

 

สำหรับในเนชั่นส์ ลีก ทีมกังหันอยู่ในจุดที่ดีของการคว้าแชมป์กลุ่ม จากการมีแต้มเหนือ เบลเยียม 3 คะแนน (10:7) นั่นหมายถึงถ้าชนะ โปแลนด์ ได้ จะต้องการแค่ผลเสมอจากเกมส่งท้าย ปะทะปีศาจแดงแห่งยุโรป เท่านั้น

 

ส่วนขุมกำลังชุดนี้ คุณปู่ หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนทีมพอสมควรจากชุดก่อนๆ ที่หลุดไปด้วยหลายเหตุผล (เจ็บบ้าง ฟอร์มไม่เข้าตาบ้าง) มีทั้ง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ลุค เดอ ยอง, ดอนเยลล์ มาเลน, อาร์โนต์ ดันยูม่า, ไรอัน กราเฟนเบิร์ก, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ถ้ายังคงนั่งสำรองก้นด้านกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ด้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, มัทไธส์ เดอ ลิกท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ดาลี่ย์ บลินด์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เมมฟิส เดอปาย, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, โคดี้ กัคโป ยังมีที่ทางในทีมตามเดิม เพิ่มเติมด้วย วินเซนต์ ยานส์เซ่น (28) อดีตดาวดับของ สเปอร์ส ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ รอยัล อันท์เวิร์ป คืนสู่ทำเนียบทีมชาติหนแรกในรอบหลายปี

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เบลเยียม
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เวลส์ (คิง โบดวง, บรัสเซลส์)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ เนเธอร์แลนด์ (โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, อัมสเตอร์ดัม)

 

ปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่เวลานี้หล่นจากเบอร์ 1 มาเป็นเบอร์ 2 อันดับโลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง (เสียตำแหน่งให้บราซิล) อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทั้ง 2 เกมที่เหลือ เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มมาจาก เนเธอร์แลนด์ ให้ได้ จากการตามหลังอยู่ 3 แต้มในตอนนี้

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ยังคงยึดทีมเดิมๆ เป็นแกน ชนิดหลับตาก็นึกชื่อออก ไม่ว่าจะ เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ธอร์แกน อาซาร์, ยานนิค การ์รัสโก้, ยูรี่ ตีเลอมันส์, ดรีส เมอร์เทนส์ หรือ ติโบต์ กูร์กตัวส์

 

อย่างไรก็ตาม โรเมลู ลูกากู ดาวยิงอินเตอร์ มิลาน บาดเจ็บจนไม่อยู่ในทีมชุดนี้ ในขณะที่ ดิว็อค โอริกี้ ที่เงียบฉี่กับ เอซี มิลาน หรือ คริสเตียน เบนเตเก้ ที่ไปแสวงโชคในสหรัฐฯ กับ ดี.ซี. ยูไนเต็ด แล้วนั้น ไม่ถูกเรียกตัวมาติดธง แต่กลับยังมี มิชี่ บัตชูอายี่ (28) ที่ย้ายจาก เชลซี ไปยัง เฟเนร์บาห์เช่ อยู่ในทีม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022โปรตุเกส
24/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สาธารณรัฐเช็ก (ซิโนโบ, ปร้าก)
27/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ สเปน (มูนิซิปัล, บราก้า)

 

เจ้าของแชมป์ยูโร 2016 ถูกประเมินเป็นเพียง “ม้านอกสายตา” สำหรับการคั่วแชมป์โลกที่กาตาร์ ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไปค่อนข้างเยอะของตัวชูโรงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ว่าในขณะเดียวกันยังมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ชูเอา เฟลิกซ์, ราฟาเอล เลเอา หรือ ดีโอโก้ โชต้า เป็นตัวความหวัง ก็ตาม

 

รายชื่อข้างต้น ต่างยังคงอยู่ในทีมของ แฟร์นันโด ซานโตส ทั้งหมด ส่วนที่หลุดไปมีอาทิ อันเดร ซิลวา (แอร์เบ ไลป์ซิก), กอนซาโล่ เกเดส (วูล์ฟส์), ฟรานซิสโก้ ตรินเกา (สปอร์ติ้ง), เรนาโต้ ซานเชซ (เปแอสเช) รวมถึง ชูเอา มูตินโญ่ (วูล์ฟส์) ที่อายุปาไป 36 แล้ว

 

สำหรับสถานการณ์ใน เนชั่นส์ ลีก ทีมฝอยทองอยู่ในสถานะเป็นรอง สเปน จากการมีแต้มตามหลัง 1 คะแนน หมายถึงอย่างน้อยต้องชนะ สาธารณรัฐเช็ก เป็นอันดับแรก แล้วก็มีโอกาสสูงที่ยังต้อง “บังคับชนะ” สเปน ในเกมสุดท้ายอีกทีเพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เดนมาร์ก
22/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ โครเอเชีย (มักซิเมียร์, ซาเกร็บ)
25/09 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบ ฝรั่งเศส (พาร์เค่น, โคเปนเฮเก้น)

 

อีกหนึ่งชาติยุโรปที่ถูกมองจากหลายฝ่ายว่ามีสิทธิ์ทำเซอร์ไพรส์ ถัดจากการเข้าถึงตัดเชือกยูโร 2020, การตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นชาติที่ 3 (ถัดจาก กาตาร์ และ เยอรมนี) และการลุ้นแชมป์กลุ่ม 1 ลีกเอ อย่างเต็มตัว ด้วยมีโอกาสสูงจะทำสำเร็จ จากการที่มี 9 แต้ม นำหน้าทั้ง โครเอเชีย (7), ออสเตรีย (4) และ ฝรั่งเศส (2) ที่หมดลุ้นแชมป์กลุ่มไปแล้ว

 

แต่แม้กระนั้น เกมเยือน โครเอเชีย ในวันพฤหัสบดี สำคัญแบบโคตรๆ เมื่อทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ไม่อาจหลุดแพ้ได้เลย หากพลาดพลั้งขึ้นมามีอันหล่นจากจ่าฝูงทันที แถมนัดสุดท้ายยังต้องเจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส อีกด้วย

 

ความเปลี่ยนแปลงในขุมกำลังของ ฮูลมันด์ มีเยอะ–ในหน้าตลาด เมื่อหลายต่อหลายแข้งคนสำคัญถึงเวลาเปลี่ยนสังกัด ไม่ว่าจะ คริสเตียน เอริคเซ่น, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, มิคเคล ดัมส์การ์ด, มาร์ติน เบรธเวท หรือ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก

 

แต่พวกที่เอ่ยถึงทั้งหมดต่างยังคงอยู่เป็นแกนของทีมโคนมตามปกติ ที่หลุดไปไม่โดนเรียกมีอาทิ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ยุสซูฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น, ปิโอเน่ ซิสโต้, โมฮาเหม็ด ดารามี่

 

ส่วนทาง อันเดรียส คอร์เนเลียส, โรเบิร์ต สคอฟ, โยนาส วินด์, คริสเตียน นอร์การ์ด บาดเจ็บทั้งหมด

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022บราซิล
23/09 อุ่นเครื่องพบ กาน่า (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ตูนิเซีย (สนามกลางที่ฝรั่งเศส)

 

ที่จริงแล้ว ฟีฟ่า ได้สั่งให้ บราซิล มาลงเตะรีแมตช์กับ อาร์เจนติน่า (เกมเจ้าปัญหาเมื่อ 5 ก.ย. 2021 คู่นี้ลงสนามกันแค่ 5 นาทีก็โดนแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบราซิล จนลุกลามบานปลายเป็นการวอล์คเอาต์ของแข้งฟ้าขาว และเกมต้องยกเลิกในที่สุด) ในเบรคทีมชาติงวดนี้ แต่ปรากฏว่าทั้ง บราซิล และ อาร์เจนติน่า ได้ปฏิเสธการลงเล่นเกมนี้ซ้ำ เมื่อต่างก็มองไม่เห็นว่าการรีแมตช์จะเกิดประโยชน์อันใด สู้ปล่อยให้แยกกันไปเล่นเกมลับแข้ง เตรียมทีมสู้ศึกบอลโลก จะเป็นเรื่องดีกับทั้งสองมากกว่า

 

ตีเต้ ที่ถูไม้ถูมือจะนำทีมครองแชมป์โลกให้ได้ในรอบ 20 ปี กำลังมีตัวเลือกนักเตะดีๆ ล้นมือ จนทำให้ต้องหมางเมินหลายๆ คนไป ไม่ว่าจะ กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อาร์ตูร์ เมโล่, เฟลิเป้ มอนเตโร่, ดานี่ อัลเวส แต่กลุ่มนี้ก็ยังอยู่ในข่ายพิจารณาไปฟุตบอลโลก 2022 อยู่ (หรือบางคนก็จะได้ไปแน่ๆ แต่แค่ว่า “ได้พัก” สำหรับเดือนนี้เท่านั้นเอง)

 

ประเด็นของทีมชุดล่าสุดนี้ คงมีประมาณ 2 ข้อ
1) แนวรุก ต่อให้ไม่นับ เปโดร ตัวใหม่จากฟลาเมงโก้ ก็ยังยืนเบียดไหล่ชนไหล่ ใครจะลงใครจะนั่ง เป็นเรื่องปวดหัวของ ตีเต้ ดีแท้
เนย์มาร์ (เปแอสเช) 119 นัด / 74 ประตู
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล) 55 / 17
ริชาร์ลิซอน (สเปอร์ส) 36 / 14
วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) 14 / 1
ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า) 9 / 3
อันโตนี่ (แมนฯ ยูไนเต็ด) 9 / 2
มาเตอุส คุนญ่า (แอตฯ มาดริด) 7 / 0
โรดรีโก้ โกเอส (เรอัล มาดริด) 5 / 1

 

กับ 2) ทั้งที่ตัวเลือกมีบานเบอะ ตรงกลาง เฟร็ด ก็ยังอุตส่าห์จะติดอยู่อีก!

 

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022อาร์เจนติน่า
23/09 อุ่นเครื่องพบ ฮอนดูรัส (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)
27/09 อุ่นเครื่องพบ จาไมก้า (สนามกลางที่สหรัฐอเมริกา)

 

เช่นเดียวกันกับ บราซิล ที่เกมรีแมตช์ “ซูเปอร์กลาซิโก้” ระหว่างคู่รักคู่แค้นแดนละติน ได้ถูกยกเลิกคิวไปแม้ ฟีฟ่า จะสั่งการมา

 

อาร์เจนติน่า วางโปรแกรมเล่นในเบรคทีมชาติงวดนี้เอาไว้ 2 นัด เป็นการยกพลไปเก็บตัวและลงสนามที่สหรัฐอเมริกา โดยจะเล่นที่ ไมอามี่ ฟลอริด้า และ แฮร์ริสัน นิว เจอร์ซี่ย์ ตามลำดับ

 

ทีมฟ้าขาวตั้งใจเรียก 2 ทีมจากคอนคาเคฟอย่าง ฮอนดูรัส และ จาไมก้า มาทดสอบฝีเท้าลองเชิง ก่อนที่ในรอบสุดท้ายพวกเขาจะต้องดวลกับ เม็กซิโก มหาอำนาจของโซนคอนคาเคฟ ในเกมที่ 2 นั่นเอง (นอกเหนือจากการพบ ซาอุฯ และ โปแลนด์)

 

สำหรับทีมชุดนี้ของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ เช่นเดิม ร่วมด้วยซูเปอร์สตาร์ชื่อคุ้นหูอย่าง เปาโล ดีบาล่า, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย, อเลฮานโดร โกเมซ, ลิซานโดร มาร์ติเนซ หรือประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

ส่วนที่หลุดออกไปมีอาทิ โจวานนี่ ซิเมโอเน่ (นาโปลี), ลูคัส อลาริโอ (แฟร้งค์เฟิร์ต), มานูเอล ลันซินี่ (เวสต์แฮม), ลูคัส โอคัมโปส (อาแจ็กซ์), ฮวน ฟอยธ์ (บียาร์เรอัล) ที่แน่นอนว่าพวกนี้ก็คงต้องเร่งฟอร์มในระดับสโมสรช่วงโค้งสุดท้ายกันหน่อย ไม่เช่นนั้น อดไปบอลโลกแหงๆ

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022ญี่ปุ่น
23/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ สหรัฐอเมริกา (สนามกลางที่เยอรมนี)
27/09 กิริน ชาลเลนจ์ คัพ พบ เอกวาดอร์ (สนามกลางที่เยอรมนี)

 

โยกมาดูทางฝั่งเอเชียกันบ้างพอกล้อมแกล้ม “ซามูไรสีน้ำเงิน” วางคิวช่วงนี้เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ กิริน ชาลเลนจ์ คัพ โดยเชิญ สหรัฐอเมริกา กับ เอกวาดอร์ มาเป็นแขก ซึ่งจะลงเล่นกันที่ ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

 

กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ปรับทัพพอสมควร เปิดที่ทางให้นักเตะจากเจลีกมาติดทีมหลายราย ส่วนตัวนอกที่เล่นในลีกยุโรป ถูกเมินไปหลายคนจนน่าอิจฉาในทรัพยากรอันเพียบพร้อม ไม่ว่าจะ ทาคุมะ อาซาโนะ (โบคุ่ม), เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (อวยส์ก้า), โค อิตาคุระ (กลัดบัค), นาโอมิจิ อุเอดะ (นีมส์) หรือ เซอิ มุโรยะ (ฮันโนเวอร์)

 

แต่แม้จะเมินไปอื้อ ตัวนอกอีกหลายต่อหลายรายก็ยังคงอยู่เป็นแกนหลัก ไม่ว่าจะ 3 แข้งเซลติก เคียวโง ฟุรุฮาชิ – ไดเซน มาเอดะ – เรียว ฮาตาเตะ, ริตสึ โดอัน (ไฟรบวร์ก), ไดจิ คามาดะ (แฟร้งค์เฟิร์ต), ทาคุมิ มินามิโนะ (โมนาโก), ทาเคฟุสะ คุโบะ (โซเซียดัด), เกงกิ ฮารางูจิ (อูนิโอน), กาคุ ชิบาซากิ (เลกาเนส), วาตารุ เอนโดะ (สตุ๊ตการ์ท), ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ (อาร์เซน่อล) หรือกัปตันทีม มายะ โยชิดะ ที่ตอนนี้ไปอยู่กับ ชาลเก้ ในวัย 34

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022เกาหลีใต้
23/09 อุ่นเครื่องพบ คอสตาริกา (โกยัง สเตเดี้ยม, โกยัง)
27/09 อุ่นเครื่องพบ แคเมอรูน (โซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม, โซล)

 

นัด คอสตาริกา กับ แคเมอรูน มาลับแข้ง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนต้องเจอ อุรุกวัย, กาน่า และ โปรตุเกส ในรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

 

โสมขาวของกุนซือ เปาโล เบนโต้ แทบไม่เปลี่ยนทีมจากชุดก่อนๆ นำโดย ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมจากสเปอร์ส ที่เพิ่งจัดแฮตทริกใส่เลสเตอร์ และตัวลีกยุโรปเพียบ ไม่ว่า ฮวาง ฮี-ชาน (วูล์ฟส์), อี แจ-ซุง (ไมนซ์), จอง วู-ยอง (ไฟรบวร์ก), อี คัง-อิน (มายอร์ก้า), ฮวาง อุย-โจ (โอลิมเปียกอส) หรือ คิม มิน-แจ (นาโปลี)

 

 

เบรคสุดท้าย...ก่อนฟุตบอลโลก 2022กาตาร์
20/09 อุ่นเครื่องพบ โครเอเชีย ยู-23 (สนามกลางที่ออสเตรีย)
23/09 อุ่นเครื่องพบ แคนาดา (สนามกลางที่ออสเตรีย)
27/09 อุ่นเครื่องพบ ชิลี (สนามกลางที่ออสเตรีย)

 

ปิดท้ายที่เจ้าภาพ กาตาร์ ซึ่งเดินหน้าเตะลับแข้งแบบรัวๆ ทั้งอุ่นเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยเดือนนี้จัดไปเน้นๆ 3 นัด (เตะที่ออสเตรียทั้งหมด) ก่อนที่เดือน พ.ย. จะจัดอีก 2 นัด พบ ปานามา และ อินเดีย ก่อนรอบสุดท้ายมาถึงช่วงปลายเดือน

 

ส่วนในแง่ขุมกำลัง เฟลิกซ์ ซานเชซ กุนซือทัพ The Maroon ไม่อาจปรับเปลี่ยนอะไรได้มาก เมื่อไม่ได้มีตัวส่งออกไปเล่นลีกยุโรปอย่างใครเขา ทัพนักเตะชุดนี้ 100% เป็นตัวในลีกกาตาร์เองทั้งหมด และแข้งหน้าเดิมๆ เช่น อัลโมเอซ อาลี, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, อัคราม อาฟีฟ, อับดุลลาซิซ ฮาเต็ม, อับเดลคาริม ฮัสซัน มาตามนัดทั้งหมด

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

สรุปโปรแกรมเบรคทีมชาติเดือนกันยายน 2022

พุธ 21/09

FM เวียดนาม – สิงคโปร์ 19:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สกอตแลนด์ – ยูเครน 01:45

 

พฤหัสบดี 22/09

FM ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ 17:00
FM เวเนซุเอล่า – ไอซ์แลนด์ 23:00
UNL โครเอเชีย – เดนมาร์ก 01:45
UNL ฝรั่งเศส – ออสเตรีย 01:45
UNL เบลเยียม – เวลส์ 01:45
UNL โปแลนด์ – เนเธอร์แลนด์ 01:45
UNL คาซัคสถาน – เบลารุส 21:00
UNL ลิธัวเนีย – หมู่เกาะแฟโร 01:45
UNL ตุรเคีย – ลักเซมเบิร์ก 01:45
UNL สโลวาเกีย – อาเซอร์ไบจาน 01:45
UNL ลัตเวีย – มอลโดว่า 23:00
UNL ลิกเตนสไตน์ – อันดอร์ร่า 01:45
KC ตรินิแดดฯ – ทาจิกิสถาน 17:30
KC ไทย – มาเลเซีย 20:30

 

ศุกร์ 23/09

FM เกาหลีใต้ – คอสตาริกา 18:00
FM ญี่ปุ่น – สหรัฐอมริกา 19:25
FM อิหร่าน – อุรุกวัย 23:00
FM กาตาร์ – แคนาดา 00:00
FM ปารากวัย – ยูเออี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – เอกวาดอร์ 01:00
FM บราซิล – กาน่า 01:30
FM โมร็อกโก – ชิลี 02:00
FM แอลจีเรีย – กินี 02:00
UNL เยอรมนี – ฮังการี 01:45
UNL อิตาลี – อังกฤษ 01:45
UNL บอสเนียฯ – มอนเตเนโกร 01:45
UNL ฟินแลนด์ – โรมาเนีย 01:45
UNL จอร์เจีย – มาซิโดเนียเหนือ 23:00
UNL บัลแกเรีย – ยิบรอลตาร์ 01:45
UNL เอสโตเนีย – มอลต้า 23:00

เสาร์ 24/09

FM อาร์เจนติน่า – ฮอนดูรัส 07:00
FM แอฟริกาใต้ – เซียร์ร่า ลีโอน 20:00
FM คีร์กีสถาน – รัสเซีย 21:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – โตโก 23:00
FM โบลิเวีย – เซเนกัล 00:00
FM อินเดีย – สิงคโปร์ 19:00
FM ลาว – มัลดีฟส์ 15:00
FM ฮ่องกง – เมียนมาร์ 19:00
UNL สาธารณรัฐเช็ก – โปรตุเกส 01:45

UNL สเปน – สวิตเซอร์แลนด์ 01:45
UNL อาร์เมเนีย – ยูเครน 20:00
UNL ไอซ์แลนด์ – รัสเซีย (เลื่อน)
UNL สโลวีเนีย – นอร์เวย์ 23:00
UNL สกอตแลนด์ – ไอร์แลนด์ 01:45
UNL อิสราเอล – อัลเบเนีย 01:45
UNL เซอร์เบีย – สวีเดน 01:45
UNL ไอร์แลนด์เหนือ – โคโซโว 23:00
UNL ไซปรัส – กรีซ 01:45

 

อาทิตย์ 25/09

FM โคลอมเบีย – กัวเตมาลา 06:30
FM เม็กซิโก – เปรู 08:00
FM นิวซีแลนด์ – ออสเตรเลีย 10:00
UNL ออสเตรีย – โครเอเชีย 01:45
UNL เดนมาร์ก – ฝรั่งเศส 01:45
UNL เนเธอร์แลนด์ – เบลเยียม 01:45
UNL เวลส์ – โปแลนด์ 01:45
UNL สโลวาเกีย – เบลารุส 23:00
UNL อาเซอร์ไบจาน – คาซัคสถาน 23:00
UNL หมู่เกาะแฟโร – ตุรเคีย 01:45
UNL ลักเซมเบิร์ก – ลิธัวเนีย 01:45
UNL อันดอร์ร่า – ลัตเวีย 20:00
UNL มอลโดว่า – ลิกเตนสไตน์ 20:00
KC นัดชิงที่ 3 17:30
KC นัดชิงชนะเลิศ 20:30

 

จันทร์ 26/09

UNL อังกฤษ – เยอรมนี 01:45
UNL ฮังการี – อิตาลี 01:45
UNL มอนเตเนโกร – ฟินแลนด์ 01:45
UNL โรมาเนีย – บอสเนียฯ 01:45
UNL ยิบรอลตาร์ – จอร์เจีย 01:45
UNL มาซิโดเนียเหนือ – บัลแกเรีย 01:45
UNL ซานมาริโน่ – เอสโตเนีย 01:45

 

อังคาร 27/09

FM เม็กซิโก – โคลอมเบีย 09:00
FM เกาหลีใต้ – แคเมอรูน 18:00
FM เอกวาดอร์ – ญี่ปุ่น 18:55
FM แอฟริกาใต้ – บอตสวาน่า 20:00
FM แคนาดา – อุรุกวัย 23:00
FM บาห์เรน – ปานามา 23:00
FM กาตาร์ – ชิลี 00:00
FM ซาอุดีอาระเบีย – สหรัฐอเมริกา 01:00
FM อุซเบกิสถาน – คอสตาริกา 01:00
FM ไอวอรี่โคสต์ – กินี 01:00
FM บราซิล – ตูนิเซีย 01:30
FM ปารากวัย – โมร็อกโก 02:00
FM แอลจีเรีย – ไนจีเรีย 02:00
UNL โปรตุเกส – สเปน 01:45
UNL สวิตเซอร์แลนด์ – สาธารณรัฐเช็ก 01:45
UNL ไอร์แลนด์ – อาร์เมเนีย 01:45
UNL ยูเครน – สกอตแลนด์ 01:45
UNL อัลเบเนีย – ไอซ์แลนด์ 01:45
UNL รัสเซีย – อิสราเอล (เลื่อน)
UNL นอร์เวย์ – เซอร์เบีย 01:45
UNL สวีเดน – สโลวีเนีย 01:45
UNL กรีซ – ไอร์แลนด์เหนือ 01:45
UNL โคโซโว – ไซปรัส 01:45

 

พุธ 28/09

FM จาไมก้า – อาร์เจนติน่า 07:00
FM เปรู – เอล ซัลวาดอร์ 07:00
FM ฮอนดูรัส – กัวเตมาลา 08:00

หมายเหตุ – UNL ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก / FMเกมอุ่นเครื่อง / KC คิงส์คัพ

 

 

อ้างอิง
Soccerway
WIKIPEDIA
The Statesman

ภาพประกอบ
Sports Brief
Footy Headlines
Goal

พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

พลิกตำนาน การดวลลูกโทษที่จุดโทษ รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา

ในรอบน็อกเอาต์ของฟุตบอลโลก หากทั้งสองทีมเสมอกันกฏที่นำมาใช้ก็คือ การต่อเวลาไปอีกสองครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที ที่หากยังซัดกันไม่ลงก็ต้องไปถึงฎีกา นั่นก็คือการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ที่ทั้งสองทีมจะต้องส่งผู้เล่นจิตแข็งฝั่งละห้าคนมาดวลสลับกันจนครบ หรือชนะขาด ซึ่งถ้ายังเสมอกัน ก็ต้องยิงต่อแบบหมัดต่อหมัด ที่ใครพลาดก็แพ้ไปเลย

ด้วยการที่มีผู้เล่นเพียงแค่สองคนชี้เป็นชี้ตาย คือผู้รักษาประตูและผู้ยิงประตู การดวลลูกโทษที่จุดโทษเพื่อหาผู้ชนะจึงเป็นอีกความระทึก ผู้เล่นในสนามห้ามพลาด และผู้ชมก็ลุ้นจนแทบไม่หายใจ

สำหรับการเตะลูกโทษที่จุดโทษ ถูกนำเสนอให้ใช้ในการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1890 แต่กว่าจะมีการวางกฎและประกาศใช้ก็ 2 มิถุนายน 1891 โดยทีมแรกที่ได้ลูกโทษที่จุดโทษก็คือ แอร์ดรีโอเนียนส์ ในปี 1891 ที่สนามบรูมฟิลด์ ปาร์ก ที่ตลอดเวลา 131 ปี กฏการยิงลูกโทษที่จุดโทษก็เปลี่ยนแปลง พัฒนามาเรื่อย ๆ และจากที่ใช้ลงโทษทีมที่ทำผิดกติกา ก็ถูกนำมาใช้เป็นทางออกในการตัดสินเกมที่หาผู้ชนะไม่ได้ในเวลาปกติ หรือช่วงต่อเวลาพิเศษ (หากมี) ซึ่งเริ่มคิดนำมาใช้กับฟุตบอลโลก ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1970 แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศใช้

จนมาถึงรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1978 การดวลลูกโทษที่จุดโทษจึงนำมาใช้ และเกมแรกของฟุตบอลโลกที่ต้องสู้กันถึงฎีกา ก็เป็นเกมรอบแรกของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนแอฟริกา ที่ตูนีเซียเอาชนะโมร็อกโค เมื่อ 9 มกราคม 1977 แต่กว่าจะได้เห็นในการแข่งขันรอบสุดท้าย ก็เป็นรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน ซึ่งเยอรมันตะวันตกเอาชนะฝรั่งเศส ในเกมที่ได้ชื่อว่าสุดคลาสสิกเกมหนึ่งในฟุตบอลโลก

การดวลลูกโทษที่จุดโทษ นัดชิงฟุตบอลโลก 1994

โรแบร์โต บักโจ้ กับเหตุการณ์ที่เขาอยากจะลืม เมื่อพลาดการดวลลูกโทษที่จุดโทษในนัดชิงชนะเลิศ (ภาพ AFP/ Getty Images)

และหลังจากนั้น การดวลลูกโทษที่จุดโทษก็เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลก ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม และอารมณ์สุดดรามาขึ้นมาได้ ซึ่งในหลาย ๆ เกมก็เป็นเกมคลาสสิก และทำให้นักเตะ อย่าง โรแบร์โต บักโจ้, ฟรังโก้ บาเรซี, ดานิเอเล มัสซาโร หรือ ดาวิด เทรเซเก้ต์ กลายเป็นนักเตะที่ได้รับการจดจำ ในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจดจำ เมื่อพลาดการดวลที่ระยะ 12 หลาในนัดชิงชนะเลิศ และทำให้ชาติของตัวเองพลาดแชมป์ฟุตบอลโลก

ชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เมื่อมาถึงช่วงการดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกก็คือ เยอรมนี ไม่ว่าจะลงเล่นในนามเยอรมันตะวันตกหรือเยอรมนี ชนชาตินี้ไม่เคยแพ้ใคร และที่น่าสนใจก็คือ การดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกของทีมอินทรีเหล็กทั้งหมด 4 หน จากฟุตบอลโลก 4 ครั้งในปี 1982, 1986, 1990 และ 2006 ที่คู่ต่อสู้คือ ฝรั่งเศส, เม็กซิโก, อังกฤษ และ อาร์เจนติน่า ตามลำดับ พวกเขายิงเข้า 94% โดนเซฟแค่ 6% และไม่เคยยิงไม่ตรงกรอบเลย

เยอรมันตะวันตก - ฝรั่งเศส ดวลลูกโทษที่จุดโทษ ฟุตบอลโลก 1982

การดวลลูกโทษที่จุดโทษครั้งแรกในฟุตบอลโลก ระหว่างเยอรมันตะวันตก กับฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 1982 (ภาพ: EMPICS Sports)

ที่น่าพรั่นพรึงก็คือ จากทั้งหมด 18 ลูกที่ได้เตะ ดาวเตะด็อยต์ชลันด์ยิงเข้าถึง 17 ลูก ครั้งเดียวที่พลาดเกิดขึ้นในการดวลลูกโทษที่จุดโทษในฟุตบอลโลกครั้งแรก ทั้งของพวกเขาและของทัวร์นาเมนต์ เมื่ออูลี่ สติลิเก้ยิงติดเซฟของฌอง ลุค-เอ็ตโตริ ผู้รักษาประตูทีมตราไก่ ซึ่งนั่นหมายความว่า นับตั้งแต่นั้นพวกเขาไม่เคยพลาด ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าก็คือ ทั้ง 17 ประตูที่ทำได้ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ไม่มีโอกาสสัมผัสบอลเลย!!!

ไม่ใช่แค่ยิงประตู เยอรมนียังทำได้ดีในเรื่องของการป้องกัน เมื่อถึงการดวลลูกโทษที่จุดโทษ ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันสามารถเซฟได้ถึง 39%

แต่ที่น่าตลกก็คือ ทีมที่แพ้การดวลลูกโทษที่จุดโทษครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ ก็ไม่ใช่ใครอื่น เยอรมนีนี่แหละ เมื่อพวกเขาพ่ายเช็คโกสโลวาเกียในนัดชิงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1976

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทีมชาติเยอรมนีเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วนำมาสร้างเป็นจุดแข็งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แม้พักหลัง ๆ พวกเขาจะแพ้การดวลลูกโทษที่จุดโทษบ้างแล้ว แต่ในฟุตบอลโลก พวกเขายังไม่เคยปราชัยในการวัดใจที่ระยะ 12 หลาเลย

ข้อมูล: WIKIPEDIA – 1, WIKIPEDIA – 2, EURONEWS, FIFAMUSEUM, BESOCCER, ANSWERFOUNDRY
ภาพปก: Sky Sports
เรื่องน่าอ่าน: นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย

กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย

กลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022 ถือเป็นกลุ่มที่ผสมผสานทีมได้หลากหลายระดับ แม้ทีมวางของกลุ่ม อาร์เจนติน่า จะเป็นทีมโคตรแกร่ง ที่มองไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ ส่วนอีกสามทีมที่เหลือ คงมีเพียงสองทีมที่น่าจะแย่งกันเข้ารอบไปกับอาร์เจนติน่า ส่วนทีมจากเอเชียคงทำได้แค่เป็นก้างขวางคอของสักทีม ที่ไม่รู้ว่าทีมไหนจะเจอแจ็กพ็อต ต้องมาดูกัน

กลุ่ม ซี: อาร์เจนติน่า, ซาอุดิอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

อย่างที่คาดกันด้วยวัยและสังขาร ฟุตบอลโลกหนนี้่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของลิโอเนล เมสซี ซึ่งจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการคว้าแชมป์เดียวที่เขายังทำไม่ได้ จากเพื่อนร่วมกลุ่ม การผ่านไปรอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่ม ซี ของอาร์เจนติน่าไม่ยาก แต่ทีมที่จะตามไปด้วยนี่ซิ ต่อให้มีแค่สองทีม เม็กซิโกกับโปแลนด์ แต่ก็ยากจะคาดเดา ทำให้การเจอกันของทั้งคู่ตั้งแต่นัดแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ของทั้งสองทีม คือนัดชิงเข้ารอบก็ว่าได้ ใครที่คว้า 3 แต้ม น่าจะก้าวเท้าเข้าไปในรอบ 16 ทีมแล้วข้างหนึ่ง

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

เพราะมีชื่อนักเตะซูเปอร์สตาร์ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อยู่ในทีม การเจอกันของเขากับเมสซีในนัดสุดท้ายของกลุ่ม ซี เลยกลายเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ไม่น่าจะใช่นัดสำคัญ โดยเฉพาะถ้าโปแลนด์เปิดหัวด้วยการพ่ายเม็กซิโก ขณะที่องค์ประกอบของทีมก็ห่างจากฟ้า-ขาวไม่ต่ำกว่าก้าวครึ่ง บวกกับการที่พวกเขามักท่าดีทีเหลวในรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ เอาง่าย ๆ ตั้งแต่เข้าศตวรรษใหม่เป็นต้นมา โปแลนด์ยังไม่เคยผ่านรอบแรกฟุตบอลโลกได้เลยสักครั้ง เทียบกับคู่ปรับเม็กซิโกก็ยังทาบไม่ติด เพราะนับตั้งแต่ถูกแบนจนไม่ได้เล่นฟุตบอลโลก 1990 หลังจากนั้นทีมจังโก้ก็เข้ารอบสุดท้ายครบ และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมมาตลอด ทำให้การเจอกันของโปแลนด์และอาร์เจนตินาจึงเป็นแค่เกมที่น่าสนใจ เพราะจะได้เห็นเลวานดอฟสกี้ปะทะเมสซี แต่ก่อนหน้านั้น มาลุ้นกันดีกว่าว่า เลวานดอฟสกี้จะยิงประตูแรกในฟุตบอลโลกได้ไหมก่อน

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ของเกมนี้จะเปลี่ยนไป ก็เมื่อโปแลนด์ชนะ หรือแค่ไม่แพ้ในนัดเปิดสนาม ทำให้พวกเขายังมีหวังถึงนัดสุดท้าย แลต้องเก็บ 3 แต้มจากทีมฟ้า-ขาวให้ได้ เพื่อตามพวกเขาผ่านรอบแรกกลุ่ม ซี ไปสู่รอบน็อกเอาต์ หรือรอบสองของฟุตบอลโลก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1982 ที่หนนั้นพวกเขาคว้าที่สามมาครอง ด้วยการเอาชนะฝรั่งเศสของมิเชล พลาตินี่ในนัดชิงที่สาม

ทีมอินทรีทะเลทรายซาอุดิอาระเบียล่ะ โอกาสมีแค่ไหน? แม้จะผ่านรอบคัดเลือกในโซนเอเชียด้วยการเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มที่มีทีมแกร่งอย่าง ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย แต่ความล้มเหลวในฟุตบอลเอเชียนคัพ แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังไม่แกร่งพอสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะในทีม ล้วนเป็นผู้เล่นจากทีมภายในลีกของประเทศ เพราะฉะนั้นจะว่าไปแล้วฟุตบอลโลก 2022 ก็ไม่ต่างไปจากทัวร์นาเมนต์หาประสบการณ์ของพวกเขาส่วนเรื่องจะทำได้เหมือนในฟุตบอลโลก 1994 ที่หลุดไปรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จนั้น อาจจะเร็วไปสำหรับฟุตบอลโลกในครั้งนี้

ซาอุดิอาระเบีย กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

ว่ากันว่า ซาอุดิอาระเบีย มาฟุตบอลโลก 2022 เพื่อเก็บประสบการณ์ และทำให้ทีมในสายติดคอ (ภาพ: REUTERS/Ahmed Yosri)

เพราะฉะนั้นนอกจากอาร์เจนติน่า ที่จองที่นั่งในรอบ 16 ทีมไว้เรียบร้อย ทีมอันดับสองของกลุ่ม ซี ก็คงต้องเป็นจังโก้-เม็กซิกัน ที่น่าจะเบียดโปแลนด์ให้ตกไปเป็นที่สามได้สนุก ซึ่งนัดชี้ชะตาก็อย่างที่บอก นัดที่พวกเขาเจอกันซึ่งเป็นนัดแรกในฟุตบอลโลกของทั้งคู่ ส่วนซาอุดิอาระเบีย ขอแค่เล่นแบบได้ใจคนดู กลายเป็นมารผจญของอีก 2 หรือ 3 ทีมได้สำเร็จ เพียงแค่นี้ก็ถือว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาแล้ว

โปรแกรมการแข่งขันในกลุ่ม ซี
22 พฤศจิกายน
อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย
เม็กซิโก – โปแลนด์

26 พฤศจิกายน
โปแลนด์ – ซาอุดิอาระเบีย
อาร์เจนติน่า – เม็กซิโก

30 พฤศจิกายน
ซาอุดิอาระเบีย – เม็กซิโก
โปแลนด์ – อาร์เจนติน่า

ข้อมูล: 1. EURONEWS 2. ESPN

ภาพ:
ภาพปก: 1. AFP 2. Reuters/ M.Shemetov 3. Salas/Jam Media/Getty Images 4. AFP

เรื่องน่าอ่าน: กลุ่ม เอ ฟุตบอลโลก 2022 ทีมไหนจะเข้ารอบ แม็ตช์ไหนห้ามพลาด

นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก นอกจากเป็นเวทีให้นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เสริมสร้างเครดิต เป็นพื้นที่ให้นักเตะแถวหน้าใช้ฉายแสง ยังเป็นสนามให้นักเตะดาวรุ่งได้แจ้งเกิด หรือหากทำได้ดีกว่านั้น ก็คือเป็นซูเปอร์สตาร์รายใหม่ประดับวงการ ที่บางคนก็อาจเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อเวทีใหญ่ ๆ เกมในระดับที่แตกต่าง ฟุตบอลโลกก็เป็นผู้ทำลายได้เหมือนกัน

แต่ที่แน่ ๆ ฟุตบอลโลกพร้อมมอบโอกาสให้ แต่จะไปในทิศทางไหนก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละคน เพราะนักเตะดาวรุ่งทุกคนไม่ใช่จะทำได้อย่างเปเล่ เด็กวัยแค่ 17 ปี ที่ยิงประตูในนัดชิงฟุตบอลโลก 1958 พาบราซิลคว้าแชมป์โลกหนแรก แจ้งเกิดให้กับตัวเอง หรือเหมือนไมเคิล โอเว่น ที่ดังระเบิดในฟุตบอลโลก 1998 ด้วยการยิงหนึ่งในประตูที่น่าจดจำที่สุดของฟุตบอลโลกในนัดที่เจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งส่งเด็กวัย 18 อย่างเขามีชื่อในทะเบียนนักเตะหัวแถวของโลก

ฟุตบอลโลกหนก่อนที่รัสเซีย นักเตะดาวรุ่งที่ถูกกล่าวขวัญถึงที่สุด ใช้เวทีฟุตบอลโลกแจ้งเกิดเป็นนักเตะระดับโลกสำเร็จ คงไม่พ้น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ของฝรั่งเศส ที่นอกจากจะยิงประตูในนัดชิงได้แล้ว ยังคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์อีกต่างหาก

และฟุตบอลโลกครั้งนี้ ดาวรุ่งคนไหนจะเป็นดาวค้างฟ้า เป็นซูเปอร์สตาร์จากฟุตบอลโลกบ้าง สองนักข่าวสายฟุตบอล ทิม วิกเคอรี และราฟาเอล โฮนิกสไตน์ วิเคราะห์เอาไว้ให้จับตาดูเรียบร้อยแล้ว

เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า (ฝรั่งเศส)

เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า นักเตะดาวรุ่งของทีมชาติฝรั่งเศส

จากเรนน์ส กามาวินก้า นักเตะดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสไปชูถ้วยใหญ่ในระดับสโมสรกับเรอัล มาดริดแล้ว (ภาพ: AFP)

กามาวินก้าจะอายุ 20 ปีในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นวัยที่เหมาะสมสำหรับการยกระดับตัวเอง โฮนิกสไตน์พูดถึงนักเตะดาวรุ่งที่ย้ายจากเรนน์สไปชูถ้วยกับเรอัล มาดริดเอาไว้ว่า “ถ้ามีนักเตะคนเดียว ที่ผมควรจับตาดูในฟุตบอลโลก คนนั้นต้องเป็นกามาวินก้า ผมชอบวิธีการเล่นของเขา การเล่นกับบอลของเขาดูสบาย ๆ แล้วเป็นพวกที่ดูเหมือนมีก๊อกสอง สไตล์การเล่นก็ชัดเจน ผมคิดว่าเขามีอะไรดี ๆ ให้เห็นแน่นอน เขาทำให้ผมนึกถึงฟรานซ์ เบ็กเคนบาวเออร์นะ วิธีที่เขาไปกับบอลในแดนกลางของสนาม นี่คือนักเตะมหัศจรรย์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์แน่ ๆ”

จู๊ด เบลลิงแฮม (อังกฤษ)

จู๊ด เบลลิงแฮม นักเตะดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ

จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นนักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์อีกรายของอังกฤษ ที่ไปรุ่งในลีกเยอรมัน (ภาพ: football365.com)

ไอ้หนูสิงห์นักเตะที่ปฏิเสธปีศาจแดง เพื่อไปบ่มตัวเองกับเสือเหลือง ด้วยวัย 19 ปี เบลลิงแฮมคือนักเตะดาวรุ่ง “ที่มีพรสวรรค์มาก ๆ แทบทุกอย่างที่เขาทำ มันดูดีไปหมด, แพรวพราว แล้วก็อันตราย เขายังเป็นผู้เล่นที่มีวิสัยทัศน์ แม้จะเป็นนักเตะกองกลาง แต่เขาก็สามารถวิ่งเข้าไปในพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ แล้วก็ทำประตูได้เช่นกัน ถือว่าเป็นนักเตะกองกลางที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ” โฮนิกสไตน์ กล่าว

จามาล มุสเซียล่า (เยอรมัน)

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดนักเตะดาวรุ่งรายนี้ยอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

นักเตะดาวรุ่งวัย 19 อีกรายที่โฮนิกสไตน์มองว่า “มีความมหัศจรรย์ในตัว เขาชอบวิ่งเข้าหาผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ชอบที่จะเลี้ยงบอล และชอบทำอะไรเหนือความคาดหมายมาก ๆ ทำให้เป็นผู้เล่นที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ในทีมชาติเยอรมัน ต่อให้ทีมอินทรีเหล็กจะสร้างนักเตะที่ดีและมีความคิดสร้างสรรค์ออกมามากมายในหลายปีที่ผ่านมา แต่เขาก็ดูเหนือกว่าคนอื่น ๆ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มนักเตะวัยเดียวกัน ผมคิดว่าทุกคนในเยอรมันน่าจะตื่นเต้น เมื่อเขาเลือกเล่นให้เยอรมันไม่ใช่อังกฤษ”

อัลฟอนโซ เดวีส์ (แคนาดา)

อัลฟอนโซ เดวีส์ นักเตะดาวรุ่งของแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งของแคนาดาเท่านั้น แต่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของชาตินี้ด้วย (ภาพ: Getty Image)

แม้จะเป็นนักเตะในชาติเล็ก ๆ แต่ในระดับสโมสร คอบอลน่าจะคุ้นกับนักเตะดาวรุ่งวัย 22 ปีจากแคนาดารายนี้เป็นอย่างดี กับการลงเล่นในทีมบาเยิร์น มิวนิคเคียงบ่าเคียงไหล่นักเตะระดับท็อปของโลกได้สบาย ๆ “โธมัส มุลเลอร์เรียกเดวีส์ว่าเป็นโรดรัดเนอร์แห่งบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งน่าจะพอทำให้มองออกว่า อะไรที่เขาทำได้ดี เขาเป็นนักเตะที่เร็วโคตร ๆ เหมือนกับเป็นตัวโกงเกมเลยล่ะ เขาจะปล่อยให้แนวรับของฝ่ายตรงข้ามดันขึ้นสูง และนั่นคือโอกาสงาม ๆ ที่อัลฟอนโซจะจัดการกับเขา” โฮนิกสไตน์กล่าว

จูเลียน อัลวาเรซ (อาร์เจนติน่า)

จูเลี่ยน อัลวาเรซ นักเตะดาวรุ่งของอาร์เจนติน่า

นักเตะดาวรุ่ง อย่าง จูเลี่ยน อัลวาเรซ จะได้เล่นคู่กับลิโอเนล เมสซี่ ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Cityzilla)

“นักเตะศูนย์หน้าจากริเวอร์เพลต ที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตีอย่างรวดเร็ว แต่ความคิดของเขาเร็วกว่า ที่ผมสนใจก็คือการที่เขามีโอกาสได้เล่นกับเมสซี่มากขึ้น เพราะคุณจะต้องคิดเร็วทำไวกว่าที่เคยหากต้องเล่นกับเมสซี่ เรื่องเทคนิคก็ต้องเยี่ยม ความคิดต้องเร็วในระดับเดียวกับเมสซี่ และผมคิดว่า บางทีในระหว่างทัวร์นาเมนต์ การเล่นร่วมกันของเมสซี่และอัลวาเรซ อาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด” ทิม วิคเคอรี่ พูดถึงนักเตะดาวรุ่งวัย 22 ปี

แน่นอนว่า นี่คือนักเตะดาวรุ่งบางส่วน จากทีมระดับท็อปในฟุตบอลโลก 2022 ที่บางทีพวกเขาอาจจะดับแสง เมื่อมีใครบางคนที่รุ่งกว่าพุ่งขึ้นมาจริง ๆ แต่ถ้าบอกว่าเอาเฉพาะที่น่าจับตามอง พวกเขาเหล่านี้คือคนที่ใช่จริง ๆ

ข้อมูล: EURONEWS

เรื่องน่าอ่าน: ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่