เรื่อง

อาร์เจนติน่า ฟ้า-ขาว จะกำชัยเหนืออัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 4 ทีมฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ฟ้า-ขาว จะกำชัยเหนืออัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 4 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบก่อนรองชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ – อาร์เจนติน่า

10 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง JKN18/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ฟ้า-ขาว จะกำชัยเหนืออัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 4 ทีมฟุตบอลโลก 2022

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่กำลังปั้นทีมขึ้นมาใหม่ (ภาพ: twitter: OnsOranje)

สถานการณ์ของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

คู่ดวลแข้งในรอบก่อนรองชนะเลิศที่ยากจะฟันธงที่สุดจากทั้งหมดสี่คู่ เมื่อเนเธอร์แลนด์เจอกับแชมป์โคปาอเมริกา อาร์เจนติน่า โดยทีมของหลุยส์ ฟาน กัลเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม ก่อนจะคว่ำสหรัฐอเมริกาในรอบ 16 ทีม ส่วนอาร์เจนติน่าช็อคโลกด้วยการพ่ายซาอุดิอาระเบียประเดิมทัวร์นาเมนต์ จบสถิติไม่แพ้ใคร 36 นัดรวด ก่อนจะฟื้นตัวในเวลาอันรวดเร็ว ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม และเอาชนะออสเตรเลียมาถึงรอบนี้

เนเธอร์แลนด์อาจจะดูเล่นน่าเบื่อ เมื่อเน้นการครองบอล รอจังหวะและโอกาส แต่พวกเขาก็ใช้สิ่งที่รอคอยได้อย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะในเกมเจอกับสหรัฐอเมริกา ที่ทีมพญาอินทรีพยายามเดินหน้าบดใส่พวกเขา แต่เมื่อเวลามาถึง เด็ก ๆ ของฟาน กัลก็ให้บทเรียนเจ้าภาพฟุตบอลโลกหนต่อไปได้อย่างเจ็บแสบ และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมเป็นหนที่สามติดต่อกัน

ขณะที่การเดินทางมาถึงรอบนี้ของทีมฟ้าขาว ราวกับเขียนบทให้ลิโอเนล เมสซี่ เมื่อนี่คือเกมที่ 1,000 ของเจ้าตัว ที่เขาน่าจะหยุดสถิติอันเลวร้ายในรอบน็อคเอาต์ของตัวเองให้ได้สักที หลังทำประตูในฟุตบอลโลกที่ไม่ใช่เกมในรอบแบ่งกลุ่มสำเร็จจากชัยชนะเหนือออสเตรเลีย ที่เชื่อได้ว่า เมสซี่และผองเพื่อนจะไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่นอน

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

เช็กสถิติของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

ดูสถิติย้อนหลังจากการเล่นฟุตบอลโลก 5 หนหลังสุด เนเธอร์แลนด์ผ่านเข้ารอบ 8ทีมถึง 4 ครั้ง หนเดียวที่มาไม่ถึงรอบนี้คือในปี 2006 ที่ตกรอบ 16 ทีม และเข้ารอบรองชนะเลิศถึง 2 ครั้งในปี 2010 และ 2014 แต่พลาดเข้ารอบสุดท้ายในปี 2018 ที่รัสเซีย และเมื่อมาถึงรอบนี้ได้ ครั้งเดียวที่พวกเขาไม่ได้ไปต่อก็คือ ฟุตบอลโลก 1994 นอกจากนี้อัศวินสีส้มยังเดินทางมากาตาร์ด้วยสถิติไม่แพ้ใครถึง 15 เกม และต่อมาเป็น 19 ในทัวร์นาเมนต์

ขณะที่อาร์เจนติน่าจบสถิติไม่แพ้ใครยาวนานในฟุตบอลโลก 2022 หนสุดท้ายที่พวกเขาผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ก็คือปี 2014 ที่เป็นรองแชมป์โลก แต่ 3 ครั้งก่อนหน้าในปี 1998, 2006 และ 2010 เส้นทางของทีมฟ้าขาวจบลงที่รอบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาแพ้รอบน็อคเอาต์ให้กับทีมจากยุโรปถึง 9 หนติดต่อกัน ตั้งแต่เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930

ประวัติศาสตร์ดูจะไม่เข้าข้างทีมของลิโอเนล สคาโลนี่นัก แต่การที่พวกเขายิงได้ 13 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และเก็บเมสซี่เอาไว้ในบับเบิลได้เป็นอย่างดี น่าจะทำให้พวกเขาหวังผลลัพธ์ที่ดีในการเจอกับเนเธอร์แลนด์ โดย 2 นัดหลังที่เจอกันในฟุตบอลโลก ทีมฟ้าขาวทำประตูอัศวินสีส้มไม่ได้เลย เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 ทั้ง 2 นัด ปี 2006 เป็นการพบกันในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนปี 2014 อาร์เจนติน่าได้ไปต่อเมื่อชนะจุดโทษในรอบรองชนะเลิศ แต่ในปี 1998 ทีมฟ้าขาวตกรอบนี้ เมื่อพ่ายเนเธอร์แลนด์ 2-1

ทั้งสองทีมพบกันมาทั้งหมด 9 ครั้ง โดยเนเธอร์แลนด์ชนะไป 4 และเสมอ 2

เมมฟิส เดปาย อัศวินสีส้ม

ดาวยิงประจำทีมอัศวินสีส้ม เมมฟิส เดปาย (ภาพ: www.hartvannederland.nl)

สถานการณ์ผู้เล่นของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

นี่คือเกมรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกหนที่ 2 ของฟานกัลในฐานะโค้ช ที่เขาหวังว่าผู้เล่นทุกคนจะฟิตพร้อมลงสนาม โดยสตีเวน เบิร์กไวจ์นที่ลงแทนเดวี่ คลาสเซ่นในเกมที่แล้ว เพื่อเพิ่มความเร็วให้ผู้เล่นกองหน้าในการเล่นโต้กลับ หลังทีมนำ 2-0 อาจได้ลงสนาม ขณะที่เจเรมี่ ฟริมปง แบ็คขวาจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่บาดเจ็บข้อเท้าก่อนเกมสหรัฐอเมริกา ก็อยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่ฟิตพร้อมลงเล่นในเกมนั้นอยู่แล้ว เซนเตอร์แบ็คจากอินเตอร์ มิลาน สเตฟาน เดอ ไฟรจ์ ที่หลังเกมรอบ 16 ทีมไม่ได้ลงซ้อม ก็มาซ้อมได้แล้ว และพร้อมแย่งตำแหน่งจากจูร์เรียน ทิมเบอร์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก และนาธาน อาเก้ แต่ก็น่าจะไม่ถูกเลือกเป็น 11 คนแรก

ประตูแรกที่เดอ ปายยิงสหรัฐอเมริกา คือประตูที่ 24 จากการลงเล่นให้ทีมชาติ 30 นัดหลังสุด ที่ยังมีอีก 10 แอสซิสต์ ทำให้เขาน่าจะได้ออกสตาร์ตในแดนหน้าร่วมกับกักโป

ฝั่งฟ้าขาว ปาปู โกเมซ ตัวรุกจากเซบีญ่าที่บาดเจ็บข้อเท้าพลิกในนาทีที่ 50 ของเกมกับออสเตรเลีย ไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือเปล่า แต่อังเจล ดิ มาเรียฟื้นจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาด้านหน้าแล้ว และน่าจะฟิตพร้อมลงเล่นแทน ส่วนอังเจล คอร์เรอาและลีอันโดร ปาราเดส ที่ลงซ้อมได้แล้วทั้งคู่ แต่ดิ มาเรียหรือเอ็นโซ เฟอร์นานเดซน่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ มากกว่า

นอกจากนี้ไม่มีรายงานผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม โดยสคาโลนี่น่าจะใช้คริสเตียน โรเมโรกับนิโคลาส โอตาเมนดี้ เป็นคู่เซนเตอร์แบ็ค แต่อาจมีการสอดแทรกจากลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งในเกมที่แล้วได้ลงเล่นแทนอเลฮานโดร โกเมซ ที่บาดเจ็บข้อเท้าหลังครึ่งหลังเริ่มไปแค่ 5 นาที และทีมปรับมาเล่นเซนเตอร์แบ็ค 3 คน บางทีสคาโลนี่อาจนำมาใช้ในเกมนี้ เพื่อรับมือกับ ระบบ 3-4-1-2 ของฟาน กัล

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

เนเธอร์แลนด์ ระบบ 3-4-1-2: น็อปเปิร์ต; ทิมเบอร์, ฟาน ไดจ์ก, อาเก้; ดัมฟรีส, เดอ รูน, เฟร็งกี้ เดอ ยอง, บลินด์; คลาสเซ่น; กักโป, เดอปาย
อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ผลการแข่งขันระหว่างเนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า

แผนการเล่นของฟาน กัลอาจจะดูไม่สนุก แต่ก็ทำให้ทีมได้ผลที่ต้องการ ในเกมกับสหรัฐอเมริกาพวกเขาเลือกโจมตีทางกราบ และทำประตูได้จากการขึ้นเกมของวิงแบ็ค แล้วการเจอกันในรอบรองชนะเลิศเมื่อ 8 ปีก่อน เขาก็ใช้แท็กติกที่คล้าย ๆ กัน และทำให้เกมรุกของทีมฟ้าขาวติด ๆ ขัด ๆ แต่ก็พ่ายจุดโทษในตอนท้าย ซึ่งเกมนี้ก็อาจจะเป็นไปในรูปนั้น จบลงด้วยการเสมอกัน ต่อเวลา ลากไปถึงจุดโทษ ที่ตัวผู้เล่นของอาร์เจนติน่า มีศักยภาพมากกว่าในการคว้าชัยชนะ

เสมอแบบมีสกอร์ ก่อนฟ้าขาวจะชนะการดวลจุดโทษ

เรื่องน่าอ่าน
1. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
2. เช็กเส้นทางทีมชาติอังกฤษจะไปถึงไหน ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
3. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
4. รู้จักห้าสิงโตคำราม ที่อาจจะพาอังกฤษประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
6. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
7. ห้าดาวเตะอัศวินสีส้ม ที่จะพาเนเธอร์แลนด์บินสูงในฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนติน่า : ตัวต่อตัว 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนติน่า : ตัวต่อตัว 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย : เนเธอร์แลนด์ vs อาร์เจนติน่า
ศุกร์ 9 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : JKN18

 

ผลการพบกัน : 9 นัด
อุ่นเครื่อง 1974 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 4-1
ฟุตบอลโลก 1974 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 4-0
ฟุตบอลโลก 1978 อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1
อุ่นเครื่อง 1979 เสมอ 0-0, อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ 8-7
ฟุตบอลโลก 1998 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 2-1
อุ่นเครื่อง 1999 เสมอ 1-1
อุ่นเครื่อง 2003 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0
ฟุตบอลโลก 2006 เสมอ 0-0
ฟุตบอลโลก 2014 เสมอ 0-0, อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ 4-2

 

ผลงานในฟุตบอลโลก 2022
เนเธอร์แลนด์
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เซเนกัล 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ เอกวาดอร์ 1-1
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ กาตาร์ 2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1

อาร์เจนติน่า
รอบแบ่งกลุ่ม แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เม็กซิโก 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ โปแลนด์ 2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ ออสเตรเลีย 2-1

 

ความพร้อมก่อนเตะ
เนเธอร์แลนด์
เห็นเงียบๆ แต่ฟอร์มเยี่ยมไปเลย หลุยส์ ฟาน กัล พา เนเธอร์แลนด์ ครองแชมป์กลุ่มเอด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โดยสยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 และปิดท้ายตบเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0 ต่อมารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ก็ผ่าน สหรัฐอเมริกา ไม่ลำบาก 3-1

 

ประเด็นก็คือ นับตั้งแต่ที่กลับเข้ามาสานงานต่อจาก แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หลังจบยูโร 2020 แล้วนั้น ฟาน กัล ยังไม่พาทีมกังหันลมแพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียว โดยลงสนาม 19 นัด ชนะ 14 เสมอ 5

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล อยู่ในจุดที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนใดทั้งสิ้น ภายหลัง เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ ฟื้นฟิตกลับลงตัวจริงได้ต่อเนื่องแล้ว

 

สำหรับนายประตู จะยังคงเป็น อันดรีส น็อพเพิร์ต จอมหนึบวัย 28 จากฮีเรนวีน ที่เพิ่งลงประเดิมทีมชาติใน เวิลด์ คัพ เที่ยวนี้ และเล่นได้อย่างน่าพอใจ

 

ระบบคงเดิม 3-4-2-1 หลังบ้านนำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ตรงกลางขยับ ดาวี่ คลาสเซ่น ขึ้นเสริมเกมรุก และหน้าคู่ เมมฟิส เดอปาย จับคู่ โคดี้ กัคโป ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูในฟุตบอลโลก 2022

 

อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตอนต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

ทว่าเกม 2 อาร์เจนฯ ก็ฮึดขึ้น ยิง เม็กซิโก 2-0 ตามด้วยเกมปิดกลุ่ม สยบ โปแลนด์ 2-0 ขณะที่รอบ 16 ทีม เหนื่อยหน่อยในการเจอจิงโจ้หลังพิงฝา แต่ก็ยังตรึงสกอร์ชนะ 2-1 ได้สำเร็จ

 

เกมนี้ ลิโอเนล สคาโลนี่ มีต้องเช็กอาการของ 3 แนวรุก ทั้ง อังเคล ดิ มาเรีย ที่เจ็บต้นขา, อเลฮานโดร โกเมซ เจ็บข้อเท้า และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เจ็บข้อเท้าเช่นกัน แต่ก็คาดว่าทั้งหมดจะพร้อมเป็นตัวเลือก

 

ระบบใช้ 4-3-3 และอาจมีปรับบางจุดจากเกมที่แล้วเพื่อเติมความสด แต่เกมรุกจะนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ตามเดิม เพิ่มเติมด้วย ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ อังเคล ดิ มาเรีย ที่น่าจะฟิตพร้อมคืนสนามแล้ว

 

ทั้งนี้ เปาโล ดีบาล่า สตาร์จากโรม่า ที่มาร่วมแคมป์หลังหายบาดเจ็บ ยังไม่ได้สัมผัสเกมบอลโลกเลยสักนาที เมื่อไม่ถูก สคาโลนี่ ใช้งานเลยตลอด 4 เกมที่ผ่านมา

 

ตัวความหวัง
เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
แจ้งเกิดในฟุตบอลโลก 2022 เต็มตัว ด้วยการกดไปนัดละลูกในรอบแรก ลุ้นรองเท้าทองคำเต็มตัว รวมแล้วยิงไป 6 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 13 นัด โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจ่มที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก ก่อนมาสร้างชื่อในเวิลด์คัพหนนี้อย่างที่ว่าไป

 

อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 14 ประตูจากการเล่นทีมชาติปีนี้ ในบอลโลกครั้งนี้ก็กดไปแล้ว 3 เม็ด อยู่ในเส้นทางการช่วงชิงรองเท้าทองคำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 เต็มตัวเช่นกัน

 

11 ตัวจริงที่คาด
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) อันดรีส น็อพเพิร์ต – ยูร์เรียน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มาร์เทน เดอ รอน, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น – โคดี้ กัคโป, เมมฟิส เดอปาย
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – มาร์กอส อคุนย่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – อังเคล ดิ มาเรีย, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ลิโอเนล เมสซี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาเยอะทีเดียว 9 นัด เนเธอร์แลนด์ข่มด้วยสถิติชนะ 4 และ อาร์เจนติน่า เอาชนะได้หนเดียวเท่านั้นใน 90 นาที
• พบกันล่าสุดในฟุตบอลโลกที่บราซิล รอบตัดเชือก อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ 4-2 หลังเสมอ 0-0 เกมนั้น หลุยส์ ฟาน กัล คุมทีมกังหันอยู่ (รอบสอง)
• ถ้านับเฉพาะ 90 นาที อาร์เจนติน่า ไม่ชนะ เนเธอร์แลนด์ มา 44 ปีแล้ว (ตั้งแต่ 1978)
• ประตูที่ เดนนิส เบิร์กแคมป์ สังหารชัยดับ อาร์เจนติน่า 2-1 นาทีสุดท้ายของรอบ 8 ทีม ฟร้องซ์ 98 ยังติดชาร์ตหนึ่งในประตูที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก จนวันนี้

 

• แม้จะถูกหยุดสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 36 นัด แต่การแพ้ ซาอุดีอาระเบีย ก็เป็นความพ่ายแพ้นัดเดียวเท่านั้นจาก 40 เกมหลังสุดของ อาร์เจนติน่า
• ดาลี่ย์ บลินด์ จะเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 99, เมมฟิส เดอปาย 86, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ 54, เฟรงกี้ เดอ ยอง 50 หากทั้งหมดได้เล่นเกมนี้
• ส่วน อันดรีส น็อพเพิร์ต จะรับใช้ชาติเป็นเกมที่ 5 ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 2022 (2 คลีนชีต, เสีย 2 ประตู)

 

• ถ้าได้ลงเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ จะเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 170, อังเคล ดิ มาเรีย 128, นิโกลัส โอตาเมนดี้ 98, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 45
• ลิโอเนล เมสซี่ จะเล่นเกมอาชีพนัดที่ 1,001 ของตัวเอง แบ่งเป็น 778 กับบาร์เซโลน่า, 170 กับอาร์เจนฯ และ 53 กับเปแอสเช

 

• นี่จะเป็นการดวลกันของกุนซือที่แก่ที่สุด (ของฟุตบอลโลก 2022) หลุยส์ ฟาน กัล 71 ปี กับอ่อนที่สุด ลิโอเนล สคาโลนี่ 44 ปี
• หลุยส์ ฟาน กัล คุมเนเธอร์แลนด์รอบสาม 19 นัด ไร้พ่าย (ชนะ 14 เสมอ 5) ฝั่ง ลิโอเนล สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 40 นัดหลังสุด (รวมทำทีม 54 นัด ชนะ 36 เสมอ 13 แพ้ 5)

 

ความน่าจะเป็น
อีกหนึ่งเกมที่คาดเดาผลได้ยากทีเดียว เมื่อแม้ อาร์เจนติน่า จะดูมีเกมรุกร้อนแรง นำโดยยอดแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ แต่ทีมกังหันก็มีดีที่เกมรับซึ่งนำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ดังนั้นเกมนี้จึงอาจตัดสินกันด้วยรายละเอียดเล็กๆ เช่นใครทำพลาดในช่วงชี้เป็นชี้ตาย ก็ถึงพัง รวมถึงว่ามีโอกาสสูงที่จะออกยืดเยื้อ กินกันไม่ลงใน 90 นาที

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1 ใน 90 นาที

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

ฟุตบอลโลก 2022 กับ 16 ทีมสุดท้าย รอบน็อกเอาต์ !

หากว่ารอบแรกผ่านไปเร็วแล้ว น็อกเอาต์นี่ต่างหากที่พุ่งพรวดแบบที่ถ้าไม่ทันตั้งตัว แต่ละเกมก็ผ่านไปเสียแล้ว และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งฉากหน้าฉากหลังและสิ่งสืบเนื่องที่ตามมา กับรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

 

‘กังหัน’ ร้อนผ่านมะกันไม่ยาก 3-1

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

หลุยส์ ฟาน กัล พา เนเธอร์แลนด์ ครองแชมป์กลุ่มเอด้วยการชนะ 2 เสมอ 1 โดยสยบ เซเนกัล 2-0 ตามด้วยเสมอ เอกวาดอร์ 1-1 และปิดท้ายตบเจ้าภาพ กาตาร์ 2-0 จนโคจรมาพบกับ สหรัฐอเมริกา ที่ไร้พ่ายในรอบแรก และชนะ อิหร่าน 1-0 เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 กลุ่มบี

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล จัดว่าอยู่ในจุดที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนใดให้ต้องเป็นกังวล ภายหลัง เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ ฟื้นฟิตกลับลงตัวจริงได้แล้วในนัดก่อน เกมนี้พร้อมลุยต่อเนื่อง

 

และรูปเกมก็ออกในทรง “ใสแจ๋วแวววับ” สำหรับทัพกังหัน โดยเฉพาะเมื่อ สหรัฐฯ พลาดโอกาสพังประตูนำ (ก้ำกึ่งล้ำหน้า) ไปในนาทีที่ 2 คริสเตียน พูลิซิช ทะลุแนวหลังดัตช์เข้าไปกดด้วยซ้าย ติดขา อันดรีส น็อพเพิร์ต หวุดหวิด

นาทีที่ 10 เดนเซล ดุมฟรีส์ ปาดจากขวามาที่จุดนัดพบใกล้จุดโทษให้ เมมฟิส เดอปาย กดเปรี้ยงพังสกอร์ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทดเจ็บครึ่งแรก น.45+1 ดาลี่ย์ บลินด์ จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 ด้วยลูกยิงลักษณะเดียวกับ เดอปาย และยังมาจากการแอสซิสต์ให้ของแบ็กขวา ดุมฟรีส์ คนเดิม

 

ครึ่งหลังแม้ สหรัฐฯ จะตีไข่แตกไม่มีปี่มีขลุ่ยจากการไขว้ยิงเข้าเสาสองแบบมีโชคของหอกสำรอง ฮาจี ไรท์ น.76 แต่ เดนเซล ดุมฟรีส์ ก็ลุยขึ้นซัดปิดกล่อง น.81 ทำให้เกมนี้ แบ็กขวาจากอินเตอร์ มิลาน ทั้งยิง 1 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์

 

เนเธอร์แลนด์ ของจารย์ปู่ ฟาน กัล สานต่อสถิติไร้พ่ายเพิ่มเป็นนัดที่ 19 พร้อมกับเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อีกครั้ง แก้ตัวจากฟุตบอลโลกหนก่อนที่ตกตั้งแต่รอบคัดเลือก ขณะที่ 2 ทัวร์นาเมนต์ก่อนหน้า ไปไกลถึงรองแชมป์โลก 2010 และอันดับสาม 2014

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ รอบ 16 ทีมเนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2) อันดรีส น็อพเพิร์ท – ยูร์เรี่ยน ทิมเบอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (c), นาธาน อาเก้ (มัทไธส์ เดอ ลิกท์ 90+3) – เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รอน (เทน คอไมเนอร์ส 46), เฟรงกี้ เดอ ยอง, ดาลี่ย์ บลินด์ – ดาวี่ คลาสเซ่น (สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ 46) – โคดี้ กัคโป (วู้ท เวกอร์สท์ 90+3), เมมฟิส เดอปาย (ชาฟี ซิมอนส์ 83)
สหรัฐอเมริกา (4-3-3) แม็ตต์ เทอร์เนอร์ – แซร์จินโญ่ เดสท์ (ดีอันเดร เยดลิน 75), วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน, ทิม รีม, แอนโทนี่ โรบินสัน (จอร์แดน มอร์ริส 90+2) – ยูนุส มูซาห์, ไทเลอร์ อดัมส์ (c), เวสตัน แม็คเคนนี่ (เบรนแดน อารอนสัน 67) – ทิโมธี เวอาห์ (ฮาจี ไรท์ 67), เฮซุส เปเรยร่า (โจวานนี่ เรย์น่า 46), คริสเตียน พูลิซิช

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : เดนเซล ดุมฟรีส์
• ที่จริง สหรัฐอเมริกา สร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่าด้วยซ้ำ ยิง 18 ตรงกรอบ 7 ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ ยิง 11 ตรงกรอบ 6
• ยูนุส มูซาห์ วิ่งรวม 12.14 กม.
• ดาลี่ย์ บลินด์ ยิงในทีมชาติเป็นลูกที่ 3 และลูกแรกนับแต่ปี 2014
• เมมฟิส เดอปาย เพิ่งยิงประตูที่ 2 ในฤดูกาลนี้ หลังยิงให้ บาร์เซโลน่า ไปลูกเดียวจาก 3 เกม แต่ก็เป็นลูกที่ 43 ในทีมชาติ เหลืออีก 7 เม็ดจะเทียบเท่าดาวซัลโวสูงสุดของชาติ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ เนเธอร์แลนด์ 3-1 สหรัฐฯ
• เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นอย่างน้อย เป็นครั้งที่ 7 จากการเข้ารอบสุดท้าย 11 หน
• หลุยส์ ฟาน กัล สานต่อสถิติไร้พ่ายในการกลับมาทำทีมชาติรอบ 3 เพิ่มเป็นนัดที่ 19 (ชนะ 14 เสมอ 5)
• เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์ หมดสัญญากับ สหรัฐฯ แล้ว (หลังเริ่มคุมปี 2018) และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเซ็นใหม่อีกฉบับเพื่อต่อเวลาทำทีมหรือไม่
• ภารกิจสำคัญลำดับถัดๆ ไปของ สหรัฐฯ ก็คือการเตรียมทีมลุยฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับเพื่อนบ้านอย่าง แคนาดา และ เม็กซิโก ทำให้ได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ

 

 

‘ฟ้าขาว’ เบียดจิงโจ้เหนื่อย 2-1

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

แม้จะเริ่มต้นอย่างช็อกโลกด้วยการพลิกแพ้ต่อ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 แต่หลังจากนั้น ลิโอเนล เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาว ก็ฮึดขึ้นทันเวลา ตบทั้ง เม็กซิโก และ โปแลนด์ ด้วยสกอร์เดียวกัน 2-0 จนยึดแชมป์กลุ่มตามความคาดหมาย

 

ด้านจิงโจ้นอกสายตา ออสเตรเลีย โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่มดี

 

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม ถือได้ว่า “ซอคเกอรูส์” ของ เกรแฮม อาร์โนลด์ สู้ได้อย่างยอดเยี่ยมและคู่ควรกับเสียงปรบมืออย่างยิ่ง เป็นฟอร์มการเล่นที่ฟ้องว่า ไอ้ที่กล้าๆ เขี่ย เดนมาร์ก ร่วงรอบแรกไป ไม่ใช่เรื่องฟลุ้คแต่ประการใด

 

ทั้งนี้ ลิโอเนล สคาโลนี่ จัด 11 คนแรกแบบไม่มีเซอร์ไพรส์ ลิโอเนล เมสซี่ นำเกมรุกฟ้าขาวร่วมกับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ อเลฮานโดร โกเมซ ที่เสียบตำแหน่งแทนตัวเจ็บอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ส่วนหลังบ้าน คริสเตียน โรเมโร่ กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยังคงเป็นตัวเลือกก่อน ลิซานโดร มาร์ติเนซ

 

แม้ในครึ่งแรก อาร์เจนติน่า จะคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ขึ้นนำ 1-0 จากการซัดด้วยซ้ายข้างถนัดของ ลิโอเนล เมสซี่ น.35 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 3 ในฟุตบอลโลกงวดนี้ของ เมสซี่ แต่ ออสเตรเลีย ก็ไม่ได้ปล่อยให้ อาร์เจนติน่า ขยำขยี้อย่างมันเท้า

 

ครึ่งหลัง อาร์เจนติน่า ฉีกสกอร์นำ 2-0 จากความผิดพลาดของ แม็ต ไรอัน นายทวารทีมจิงโจ้ ที่ยึกยักหน้าประตูจนโดนฉกลูก ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงง่ายๆ เข้าไปในนาที 57 จุดนี้เองที่ทำให้ลูกทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ อยู่เฉยไม่ได้ ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นจนกระทั่งตีไข่แตก 1-2 ในนาทีที่ 77 จากการซัด (แบบเสี่ยงดวง) ของ เคร็ก กู๊ดวิน ที่ไปโดนตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เข้าไป และนับเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของกองกลางฟ้าขาว

 

ช่วงเวลาที่เหลือ เกมเปิดอย่างยิ่ง ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสบวกประตูเพิ่ม โดยเฉพาะ อาร์เจนติน่า ที่น่าได้จาก 2 โอกาสทองของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แต่กลับพลาดไปทั้งสองหน ขณะที่ ออสเตรเลีย ก็หวิดตีเสมอได้ในเฮือกสุดท้ายของการทดเจ็บ 7 นาที กาแร็ง คูโอล หลุดไปยิงเน้นๆ ในจุดอันตราย ไม่ผ่านเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

 

เป็นเซฟสำคัญยิ่งที่ช่วยให้เกมจบใน 90 นาที ไม่ต้องยืดเยื้อไปถึงต่อเวลา และส่ง อาร์เจนติน่า เข้าไปบู๊กับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบ 8 ทีม

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-3-3) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 80), คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์กอส อคุนย่า (นิโกลัส ตายาฟิโก้ 72) – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เอเซเกล ปาลาซิออส 80) – ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 71), อเลฮานโดร โกเมซ (ลิซานโดร มาร์ติเนซ 50)
ออสเตรเลีย (4-4-2) แม็ทธิว ไรอัน – มิลอส เดเกเน็ค (ฟราน คาราซิช 72), แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไคย์ โรวล์ส, อาซิซ เบฮิช – แม็ทธิว เลคกี้ (กาแร็ง คูโอล 72), คีอานู แบ็คคัส (ไอจ์ดิน ฮรุสติช 58), อารอน มอย, ไรลี่ย์ แม็คกรี (เคร็ก กู๊ดวิน 58) – แจ็คสัน เออร์ไวน์, มิตเชลล์ ดู๊ค (เจมี่ แม็คลาเรน 72)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ได้เตะมุมเกมนี้ ครั้งเดียวถ้วน
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงประตูที่ 14 ในการรับใช้ชาติ 11 นัดของปีนี้
• เปาโล ดีบาล่า มีจำนวนนาทีในฟุตบอลโลก 2022 เป็น 0
• ลิโอเนล สคาโลนี่ คุมทีม 54 นัด เพิ่งแพ้แค่ 5 เกม ที่เหลือชนะ 36 เสมอ 13

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 2-1 ออสเตรเลีย
• อาร์เจนติน่า ผ่านเข้าไปดวลกับ เนเธอร์แลนด์ ที่จะเจอกันเป็นครั้งที่ 10 โดยหนึ่งในนั้นเป็นนัดชิงบอลโลก 1978 ด้วย (อาร์เจนฯ ชนะ 3-1)
• อาร์เจนฯ เข้าถึง 8 ทีมบอลโลกเป็นอย่างน้อย หนที่ 5 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แม้ตกรอบแล้ว แต่ ออสเตรเลีย ชุดนี้ยังถูกยกว่าเป็น “นิว โกลเด้น เจเนอเรชั่น” และ เกรแฮม อาร์โนลด์ เตรียมขยายสัญญาทำทีมเพิ่มไปอีก

 

 

 

‘เอ็มบัปเป้’ สุดฮอตนำไก่สอยโปล 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้านบอลโลก 2022

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

ฝรั่งเศส ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำลาย “อาถรรพ์แชมป์เก่า” การันตีทะลุเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ตั้งแต่จบเกม 2 หลังชนะ 2 นัดรวด แต่ก็เสียรังวัดไปเล็กน้อยกับเกมสุดท้ายที่พ่าย ตูนิเซีย เพียงแต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นทีมชุดสองที่ลงสนาม รวมถึงว่าความพ่ายแพ้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตำแหน่งแชมป์กลุ่มแต่อย่างใด

 

ด้านคู่แข่งอย่าง โปแลนด์ ที่จริงก็นั่งเข่าทรุดคอตกกันแล้วสำหรับนักเตะและกองเชียร์ ตอนจบเกมปิดกลุ่มที่แพ้ อาร์เจนติน่า 0-2 แต่ปรากฏว่าเมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ตีไข่แตก เม็กซิโก เป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บ 90+5 ก็ทำให้ เม็กซิโก ถูกฉุดตกรอบไปแทน และ โปแลนด์ ได้เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างเฮง-เฮง-เฮง ด้วยผลงานครบถ้วนชนะ-เสมอ-แพ้

 

เดส์ชองส์ เรียกตัวหลัก 11 คนแรกที่ใช้ใน 2 เกมแรก กลับคืนสู่ไลน์อัพทั้งหมด นำโดยแผงรุก 4 ประสาน อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เพื่อสู้กับ โปแลนด์ ที่นำมาโดยตัวอันตรายอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

อย่างไรก็ตาม เกมออกมา “ขาด” กว่าที่คิด เลวานดอฟสกี้ ทำดีที่สุดแค่ยิงจุดโทษตีไข่แตก 1-3 ช่วงทดเจ็บ 90+9 โดยที่ต้องยิงใหม่รอบสองด้วย หลังรอบแรกไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่หลัง โยริส หลุดมาจากเส้นประตูทั้งสองเท้า

 

ส่วนก่อนหน้านั้น ฝรั่งเศส ดาหน้าเรียงยิงแบบไม่พัก เริ่มจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กดเสียบเสา น.44 และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เบิ้ลสอง น.74 และ 90+1 ทำให้ ฝรั่งเศส เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ไม่พลาด แถม เอ็มบัปเป้ ยังขึ้นนำดาวซัลโวฟุตบอลโลกงวดนี้ ด้วยการกดไป 5 ประตู

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – ชูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ เอร์นันเดซ – ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (ยุสซุฟ โฟฟาน่า 66), อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมัน เดมเบเล่ (คิงส์ลี่ย์ โกม็อง 76), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คุส ตูราม 76)
โปแลนด์ (3-4-3) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิออร์ (ยาน เบ๊ดนาเร็ค 87) – แม็ตตี้ แคช, เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค 64), เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (คริสเตียน บีลิค 71), เพอร์เซมิสลาฟ ฟรานคอฟสกี้ (คามิล โกรซิคกี้ 87) – ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ยาคุบ คามินสกี้ (นิโกล่า ซาเลฟสกี้ 71)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัด 2 ประตูแถมทำ 1 แอสซิสต์
• อูโก้ โยริส ลงสนามทีมชาติ 142 นัด เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ ลิลิยอง ตูราม ดังนั้นเกมหน้า จะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 1 แล้ว
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เล่นทีมชาตินัดที่ 138 (78 ประตู) และเจ้าตัวเปรยว่า คงเลิกเล่นทีมชาติเสียที ในวัย 34

สืบเนื่องจากผลสกอร์ ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์
• ฝรั่งเศส เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปดวล อังกฤษ
• ฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ ซึ่งไม่มีใครทำได้มาตั้งแต่ บราซิล 1962
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มีโอกาสสูงทีเดียวในการคว้ารองเท้าทองคำ ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 หลังกดประตูที่ 5 ขณะที่คู่แข่งรายอื่น ( คน) ยิงได้ 3 ประตู

 

 

สบาย! ‘สิงโต’ ขย้ำเซเนกัลขาด 3-0

16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม น็อกเอาต์ !

 

ภายหลังเปิดประเดิมถล่ม อิหร่าน 6-2 ก็แอบเสียวหน่อยๆ กับความหนืดในเกมสอง ที่ทัพสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ทำได้แค่เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 แต่เกมสุดท้ายก็กลับคืนฟอร์มร้อน ทะลวงเพื่อนบ้าน เวลส์ 3-0 จนเข้ารอบด้วยการยึดแชมป์กลุ่มแบบหล่อๆ และยิงประตูได้มากถึง 9 ลูก (แม้จะมีเกมไร้สกอร์แทรกก็ตาม)

 

ฟากคู่แข่งของทัพสิงโตสามตัวอย่าง “สิงโตแห่งเตรังก้า” เซเนกัล เริ่มต้นได้แย่ด้วยการแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แต่สองเกมถัดมาก็ฟาด 6 แต้มเต็ม ชนะ กาตาร์ 3-1 และ เอกวาดอร์ 2-1 เข้ารอบด้วยการเป็นที่สองของกลุ่มเอ แม้จะหวิดร่วงอยู่เหมือนกันหลังโดน เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง ก็ตาม

 

แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับทัพเล็กๆ ส่ง ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงตัวจริง ซึ่งถือว่าผิดคาดที่เดียวซึ่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กด 2 ตุงใส่ เวลส์ กลับหลุดลงเป็นตัวสำรอง

 

ถ้าเกมฝรั่งเศสว่าง่ายแล้ว อังกฤษยิ่งง่ายกว่ากันเยอะ บุกใส่แทบจะฝ่ายเดียวจนได้ 3 ประตูจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.38, แฮร์รี่ เคน น.45+3 และ บูกาโย่ ซาก้า น.57 ซึ่งก็น่าเสียดายแทน เซเนกัล ไม่หาย ว่าถ้าพวกเขายังมี ซาดิโอ มาเน่ อยู่ ก็คงเล่นงาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และหลังบ้านอังกฤษได้มากกว่าที่เป็น

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อังกฤษ (4-3-3) จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ (เอริก ไดเออร์ 77), แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – จู๊ด เบลลิงแฮม (เมสัน เมาท์ 76), ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แคลวิน ฟิลลิปส์ 82) – บูกาโย่ ซาก้า (มาร์คัส แรชฟอร์ด 65), แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น (แจ๊ค กรีลิช 65)
เซเนกัล (4-2-3-1) เอดูอาร์ เมนดี้ – ยุสซุฟ ซาบาลี่, คาลิดู คูลิบาลี่, อับดู ดิยัลโล่, อิสมาอิล จาค็อบส์ (โฟเด้ บัลโล-ตูเร่ 84) – ปาเต้ ซิสส์ (ปาเป้ เกย์ 46), นัมปาลิส เมนดี้ – เกรแป็ง ดิยัตต้า (ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ 46), อิลิมาน เอ็นดิอาย (บัมบ้า เดียง 46), อิสไมล่า ซาร์ – บูลาย เดีย (ฟามาร่า ดีดิอู 72)

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : แฮร์รี่ เคน
• 3 ประตูที่ อังกฤษ ได้ มาจากการยิงตรงกรอบแค่ 4 ครั้งเท่า นั้น
• อังกฤษ ชนะคู่แข่งด้วยการยิง 3 ประตูขึ้นไป เป็นเกมที่ 3 ในฟุตบอลโลก 2022
• อังกฤษ ไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน
• ขออีกประตูเดียว แฮร์รี่ เคน จะเป็นดาวยิงสูงสุดของอังกฤษ เทียบเท่า เวย์น รูนี่ย์ ที่ 53 ประตู
• บูกาโย่ ซาก้า ยิงลูกที่ 7 ในการเล่นทีมชาติ 23 นัด

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อังกฤษ 3-0 เซเนกัล
• อังกฤษ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลกเป็นอย่างน้อย หนที่ 4 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง
• แกเร็ธ เซาธ์เกต สร้างมาตรฐานทำ อังกฤษ เข้ารอบ 8 ทีมรายการใหญ่ (เป็นอย่างน้อย) 3 รายการซ้อน ถัดจากอันดับ 4 บอลโลก 2018, รองแชมป์ยูโร 2020 และถึง 8 ทีมบอลโลกหนนี้
• ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ออกจากแคมป์กลับบ้านที่ลอนดอนกลางคัน หลังครอบครัวถูกขโมยขึ้นบ้าน และยังไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาทันเกมกับ ฝรั่งเศส หรือไม่

 

ไกด์เถื่อน

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
Royal Blue Mersey
Premium Times Nigeria
REUTERS
The Northern Echo

เรื่องน่าอ่าน
บอลโลกบันทึก #2 : สำรวจสถิติรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
บอลโลกบันทึก #1 : สุดทางรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ฉบับสมบูรณ์ UPDATED : ช่องถ่ายทอดสด

อาร์เจนติน่า จะเก็บชัยผ่านออสเตรเลีย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า จะเก็บชัยผ่านออสเตรเลีย เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม อาร์เจนติน่า – ออสเตรเลีย

วันที่ 4 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (เวลาในประเทศไทย) ชมได้ทาง CH3/ True Sport

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

แชมป์จากอเมริกาใต้ เริ่มต้นด้วยการพ่ายช็อคโลกต่อซาอุดิอาระเบีย จนเสียสถิติไม่แพ้ใคร 36 นัด ก่อนที่จะเอาชนะเม็กซิโก และโปแลนด์กลายเป็นแชมป์กลุ่มตามความคาดหมายสำเร็จ ทำให้สถิติในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 12 หนล่าสุด แชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย เข้ารอบน็อคเอาต์ได้ถึง 11 ครั้ง และกับครั้งนี้ พวกเขายังคงเป็นตัวเก็งที่จะคว้าแชมป์

โดยในทีมชุดนี้ นอกจากจะมีผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทีมหาใครมาทดแทนไม่ได้ กับอังเจล ดิ มาเรียเป็นแกนหลักในทีมแล้ว โค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ ยังดึงผู้เล่นใหม่ ๆ อย่าง แม็ก อัลลิสเตอร์, จูเลี่ยน อัลวาเรซ และเอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ติดทีมมาด้วย โดยถ้าพวกเขาเอาชนะทีมจากแดนจิงโจ้สำเร็จก็จะไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง เนเธอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา

ออสเตรลียผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์เป็นหนแรก ตั้งแต่ทีมยุคทองเคยทำได้ในปี 2006 ด้วยการตามแชมป์โลกฝรั่งเศสเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มดี ในแบบที่แพ้ประตูได้เสีย หลังเปิดสนามด้วยการพ่ายทีมตราไก่ยับ 4-1 ก่อนที่จะเอาชนะตูนิเซีย และเดนมาร์กใน 2 นัดที่เหลือ ด้วยตัวผู้เล่นที่จะว่าไปแล้ว แม้หลาย ๆ คนจะเล่นในยุโรป แต่ก็เป็นนักเตะไม้ประดับของทีม หรือไม่ก็อยู่ในทีมระดับรอง ๆ และแน่นอนไม่มีใครที่ให้ราคาทีมจิงโจ้เหนือกว่าทีมฟ้าขาวแน่ ๆ แต่ถ้าพวกเขาทำได้จะเป็นการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายครั้งแรกของออสเตรเลีย

ข้อได้เปรียบเดียวของออสเตรเลียก็คือ พวกเขามีเวลาพักมากกว่าราว ๆ 1 วัน

ชาติเอเชีย - ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียต้องเหนื่อยอีกสองนัดกว่าจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Twitter/@Socceroos)

เช็กสถิติอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

จากการเจอกันทั้งหมด 7 ครั้งอาร์เจนติน่าเอาชนะไปได้ถึง 5 ครั้ง แพ้และเสมออย่างละครั้ง ส่วนสถิติห้าเกมหลังสุดทั้งคู่ชนะ 4 แพ้ 1 เท่ากัน (WWLWW)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

ลิโอเนล สคาโลนี่ โค้ชอาร์เจนติน่า อาจจะไม่อยากเปลี่ยนแปลงทีมที่ชนะติดต่อกัน 2 นัดมากนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย โดยลิซานโดร มาร์ติเนซ น่าจะกลับมาเล่นเซนเตอร์แบ็คอีกครั้ง และนิโคลาส ทากลิอาฟิโก อาจจะลงเล่นแบ็คซ้ายแทน มาร์คอส อคูญ่า ส่วยเอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองและเล่นได้อย่างน่าประทับใจ ในสองเกมแรก มีแนวโน้มว่าจะได้เล่นในตำแหน่งของลีอันโดร ปาเรเดส ที่เป็นตัวสำรองในเกมกับโปแลนด์ และเม็กซิโก

ในแดนหน้าเลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่เป็นตัวรุกอีกรายที่มีเหลือเฟือในทีม และตกเป็นตัวสำรองในเกมเมื่อวันพุธ จะต้องเจอการแย่งตำแหน่งจากจูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่ทำประตูได้ และ​อาจได้เล่นกับเมสซี่, ดิมาเรียแทน โดยกัปตันทีมฟ้าขาวมีข่าวไม่ดีเรื่องความฟิตที่ต้องแยกออกไปซ้อมเดี่ยว แต่ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากนัก ส่วนดิ มาเรีย ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมเจอกับโปแลนด์ เนื่องจากมีปัญหากับกล้ามเนื้อต้นขา ทางสคาโลนี่ออกมาบอกแล้วว่า ไม่มีปัญหาอะไร

ออสเตรเลียน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทีมที่น้อยมาก ๆ โดยนาธาเนียล แอตคินสันกับฟราน คาราซิซ ที่ได้ลงเล่นในเกมแรกและเกมที่ 2 ตามลำดับ น่าจะต้องแย่งตำแหน่งแบ็คขวากับมิลอส เดเกเน็ก ที่ได้ลงเล่นในนัดเจอเดนมาร์ก ส่วนเครก กู้ดวิน ที่ลงเล่นแค่ 45 นาทีในเกมชนะโคนม ก่อนคีอานู แบ็กคัสจะลงเล่นแทนในครึ่งหลัง และทำได้ดีมาก ๆ ในการเล่นแดนกลางร่วมกับแอรอน มอย บางทีแกรห์ม อาร์โนลด์ โค้ชออสเตรเลีย น่าจะเสี่ยงส่งเขาที่มีประสบการณ์ไม่มากนักลงเล่นเป็นตัวจริง

แดนหน้ามิตเชลล์ ดุ๊ก เป็นตัวหลักให้ทีมแน่นอน ส่วนมาร์ติน บอยล์ที่เจ็บหัวเข่าและลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ได้แน่นอนแล้ว ยังอยู่กับทีมที่กาตาร์เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อคูญ่า; เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ก อัลลิสเตอร์; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ
ออสเตรเลีย ระบบ 4-4-2: ไรอัน; เดเกเน็ก, เซาต์ตาร์, โรว์เลส, บีฮิช; เล็คกี้, เออร์ไวน์, มอย,กู้ดวิน; ดุ๊ก, แม็กกรี

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ ฟุตบอลโลก 2022

แอรอน มอย นักเตะแดนจิงโจ้ที่ยึดตำแหน่งกองกลางตัวหลักของทีมมานานเป็นทศวรรษ (ภาพ: Joe Allison/Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่าและออสเตรเลีย

หลังเลี่ยงการเจอกับแชมป์เก่าได้ เกมนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีของอาร์เจนติน่า ในการปรับกระบวนทัพ ที่ยังไม่อยู่กับร่องกับรอยนัก และพาตัวเองผ่านเข้ารอบต่อไป โดยออสเตรเลียที่เป็นรอง อาจจะสร้างปัญหาให้กับพวกเขาได้บ้าง จากศักยภาพบางอย่างในตัว หากก็คงยากจะทำได้เหมือนเกมกับตูนิเซียและเดนมาร์ก ที่เครก กู๊ดวินกับแม็ต เลคกี้ทำประตูได้จากโอกาสเพียงครั้งเดียว

คุณภาพในแนวรุกของทีมฟ้าขาวคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ โดยเฉพาะการพ่ายแพ้ซาอุดิอาระเบียในนัดแรก ไม่ต่างจากการปลุกพวกเขาให้ตื่น และอาร์เจนติน่าไม่น่าจะพลาดอะไรแบบนั้นอีกแล้ว จากฟอร์มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในนัดต่อ ๆ มา

อาร์เจนติน่าชนะออสเตรเลีย 2-0 หรือ 3-1

อาร์เจนติน่า vs ออสเตรเลีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs ออสเตรเลีย : ตัวต่อตัว 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย : อาร์เจนติน่า vs ออสเตรเลีย
เสาร์ 3 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : CH3

 

ผลการพบกัน : 7 นัด
โกลด์ คัพ 1988 ออสเตรเลีย ชนะ 4-1
อุ่นเครื่อง 1992 อาร์เจนติน่า ชนะ 2-0
คัดบอลโลก 1993 เสมอ 1-1
คัดบอลโลก 1993 อาร์เจนติน่า ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 1995 อาร์เจนติน่า ชนะ 2-0
คอนเฟดฯ คัพ 2005 อาร์เจนติน่า ชนะ 2-4
อุ่นเครื่อง 2007 อาร์เจนติน่า ชนะ 0-1

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เม็กซิโก 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ โปแลนด์ 2-0

ออสเตรเลีย
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ฝรั่งเศส 1-4
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ตูนิเซีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เดนมาร์ก 1-0

 

ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
อาร์เจนติน่า : แชมป์กลุ่มซี, เริ่มต้นอย่างช็อกโลกด้วยการพลิกแพ้ต่อ ซาอุฯ 1-2 แต่หลังจากนั้นก็ฮึดขึ้นทันเวลา ตบทั้ง เม็กซิโก และ โปแลนด์ ด้วยสกอร์เดียวกัน 2-0 จนยึดแชมป์กลุ่มตามความคาดหมาย
ออสเตรเลีย : อันดับ 2 กลุ่มดี, โดนกาชื่อทิ้งตั้งแต่เกมแรกที่โดน ฝรั่งเศส ยำเละ 4-1 แต่ก็แก้ตัวสยบ ตูนิเซีย 1-0 ในเกมต่อมา ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์หักขาโคนม เดนมาร์ก ทีมอันดับ 10 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง 1-0 จนเข้ารอบได้ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม

 

ความพร้อมก่อนเตะ
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตอนต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

ทว่าเกม 2 อาร์เจนฯ ก็ฮึดขึ้น ยิง เม็กซิโก 2-0 จากประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ กับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ตามด้วยเกมปิดกลุ่ม สยบ โปแลนด์ 2-0 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จัดคนละเม็ด

 

ในการลุยรอบ 16 ทีม พบกับ ออสเตรเลีย หนึ่งในตัวแทนเอเชีย เกมนี้ ลิโอเนล สคาโลนี่ มีต้องเช็กอาการของ อังเคล ดิ มาเรีย ที่เจ็บต้นขาจนต้องออกจากเกมที่แล้ว แม้จะไม่หนักหนาแต่ก็คาดว่าจะถูกพักเป็นสำรอง

 

ระบบใช้ 4-3-3 และอาจมีปรับบางจุดจากเกมที่แล้ว แต่เกมรุกจะนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ตามเดิม เพิ่มเติมด้วย ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่ดูจะเป็นตัวเลือกก่อน เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ไปแล้ว

 

ทั้งนี้ เปาโล ดีบาล่า สตาร์จากโรม่า ที่มาร่วมแคมป์หลังหายบาดเจ็บ ยังไม่ได้สัมผัสเกมบอลโลกเลยสักนาที เมื่อไม่ถูก สคาโลนี่ ใช้งานเลยตลอด 3 เกมที่ผ่านมา

 

ออสเตรเลีย
ทีมจากโอเชียเนียที่มาเตะในฐานะตัวแทนเอเชีย เข้ารอบมาได้อย่างเซอร์ไพรส์ มีถึง 6 แต้มจากชัยชนะเหนือ เดนมาร์ก และ ตูนิเซีย ภายหลังเกมแรกเจอของแข็งอย่างแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่แม้จะขึ้นนำก่อนแต่ก็โดนจ้วงยับหลังจากนั้น แพ้ขาด 1-4

 

ออสเตรเลีย ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อีกครั้ง ถัดจากปี 2006 ภายหลังฟุตบอลโลก 3 ทัวร์นาเมนต์ก่อนหน้านี้ 2010, 2014 และ 2018 พวกเขาตกรอบแรกทั้งหมด

 

สภาพทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องเป็นกังวล สามารถใช้งานชุดที่ดีที่สุดได้ ซึ่งหน้าตาจะไม่ต่างไปจากเกมชนะ เดนมาร์ก 1-0 นัก

 

ซอคเกอรูส์ จะใช้ 4-4-2 วางหอกคู่ มิตเชลล์ ดู๊ค กับ ไรลี่ย์ แม็คกรี เป็นสองตัวความหวังในแนวรุก

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 13 ประตูจากการเล่นทีมชาติปีนี้ และในบอลโลกครั้งนี้ก็กดไปแล้ว 2 เม็ด อยู่ในเส้นทางการช่วงชิงรองเท้าทองคำ ดาวซัลโว กาตาร์ 2022 เต็มตัว

 

ออสเตรเลีย : แม็ทธิว เลคกี้
ตัวริมเส้นประสบการณ์สูงวัย 31 ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 76 นัด ยิงแล้ว 14 ประตู ผ่านรายการใหญ่มาแล้วทั้งฟุตบอลโลก 2 รอบ, เอเชียน คัพ 2 หน และคอนเฟดฯ คัพ อีกหนึ่ง เวลานี้อยู่ในสังกัด เมลเบิร์น ซิตี้ ภายหลังโกอินเตอร์ไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่นานนับสิบปี กับทั้งกลัดบัค, เอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต, อิงโกลชตัดท์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน จนนับเป็นดาวเด่นเบอร์ใหญ่สุดของทัพจิงโจ้ชุดนี้ พร้อมทั้งสร้างผลงานดีเยี่ยม พังประตู เดนมาร์ก พาทีมเข้ารอบมาได้

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – มาร์กอส อคุนย่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – อเลฮานโดร โกเมซ, ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ออสเตรเลีย (4-4-2, กุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์) แม็ต ไรอัน – มิลอส เดเกเน็ค, แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไค โรว์เลส, อาซิซ เบฮิช – เคร็ก กู๊ดวิน, อารอน มอย, แจ๊คสัน เออร์ไวน์, แม็ทธิว เลคกี้ – มิตเชลล์ ดู๊ค, ไรลี่ย์ แม็คกรี

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เจอกันมาเยอะทีเดียวถึง 7 ครั้ง ซึ่ง 4 หนหลังสุด อาร์เจนติน่า กินเรียบ แต่ก็ไม่ได้พบกันมาตั้งแต่ปี 2007
• เคยวัดกันในรอบเพลย์ออฟต่างโซน ฟุตบอลโลก 1994 อาร์เจนฯ เฉือนหวิวสกอร์รวม 2-1
• แม้จะถูกหยุดสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 36 นัด แต่การแพ้ ซาอุฯ ก็เป็นความพ่ายแพ้นัดเดียวเท่านั้นจาก 39 เกมหลังสุดของ อาร์เจนฯ
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 13 ประตูในปีนี้ จากการเล่นแค่ 10 นัด
• ออสเตรเลีย ชนะ 6 จาก 8 เกมหลังสุด
• แม็ทธิว เลคกี้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของออสเตรเลียชุดนี้ แม้จะยิงได้แค่ 14 ประตู (จาก 76 นัด) เท่านั้นก็ตาม

 

ความน่าจะเป็น
เห็นชัดอยู่แล้วถึงก้าวเดินที่แต่ละทีมเป็น ซึ่งแม้บอลโลกครั้งนี้จะส่อไปในทาง “บอลรองเป็นใหญ่” แต่คุณภาพที่ อาร์เจนติน่า มีในชั่วโมงนี้ ก็ดูจะยากเกินกว่าที่ ออสเตรเลีย จะเอาอยู่ เมื่อดูจากเกมชนะเดนมาร์ก ที่หากว่าทีมโคนมจบสกอร์กันคมขึ้นอีกหน่อย ก็คงเขี่ยทีมจิงโจ้ร่วงไปได้แล้ว

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 2-0

 

อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ ปะทะ โปแลนด์ ของเลวานดอฟสกี้ ในเกมชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ ปะทะ โปแลนด์ ของเลวานดอฟสกี้ ในเกมชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผลเกมนัดที่ 5 ของกลุ่ม ซี วันที่ 1 ธันวาคม เวลาลงสนาม 02:00 น. (เวลาในบ้านเรา

โปแลนด์ – อาร์เจนติน่า ถ่ายทอดทาง True4U/ CH5/ True Sport 2

โปแลนด์ ทีมในกลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์จะคว้าที่ 2 ของกลุ่ม ซี ตามอาร์เจนติน่า เข้ารอบได้หรือไม่ (ภาพ: AFP)

สถานการณ์ของโปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โปแลนด์ถือว่ามาดีทีเดียวในฟุตบอลโลก 2022 เมื่อพวกเขายังไม่เสียประตูเลยจากการลงเล่น 2 นัด และเก็บแต้มได้ 4 คะแนน เป็นทีมนำของกลุ่ม ดี ก่อนเกมนัดสุดท้ายแม้ในเกมแรกพวกเขาจะทำได้แค่เสมอกับเม็กซิโกโดยโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้พลาดจุดโทษ แต่กับเกมที่สอง นักเตะโปลสามารถจัดการกับซาอุดิอาระเบียที่พลิกล็อคช็อคโลกเอาชนะอาร์เจนติน่ามาได้แบบไม่ยากเย็นนัก และในที่สุดเลวานดอฟสกี้ก็มีประตูแรกในฟุตบอลโลก

แต่ถ้าต้องการเข้ารอบ ในเกมสุดท้ายที่เจอกับอาร์เจนติน่า พวกเขาต้องไม่แพ้ จะชนะหรือเสมอก็ได้ ขอให้ซาอุดิอาระเบียไม่ชนะเพียงแค่นี้โปแลนด์ก็จะกลายเป็นที่หนึ่งในกลุ่ม แต่ถ้าเกิดพวกเขาพ่ายอาร์เจนติน่าแล้วเม็กซิโกชนะซาอุดิอาระเบีย อาร์เจนติน่าจะมี 6คะแนน เป็นที่ 1 ในกลุ่ม ส่วนโปแลนด์กับเม็กซิโกต้องมาวัดลูกได้-เสีย ที่หากเท่ากันก็ต้องมาดูประตูได้ หากยังเท่ากันก็ต้องไปดูผลในเกมที่เจอกัน และหากยังตัดสินไม่ได้ก็ต้องว่ากันที่คะแนนแฟร์เพลย์ แล้วถ้ายังไม่จบ ก็เป็นเรื่องของการจับฉลาก

หากโปแลนด์แพ้ และคู่ซาอุดิอาระเบียกับเม็กซิโกเสมอ อาร์เจนติน่าจะเป็นที่ 1 ในกลุ่ม โดยโปแลนด์และทีมอินทรีทะเลทรายจะมี 4 คะแนนเท่ากัน ซึ่งทั้งสองทีมจะต้องมาวัดประตูได้-เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง และคะแนนแฟร์เพลย์ตามลำดับ แต่ถ้าโปแลนด์แพ้และซาอุดิอาระเบียชนะ เลวานดอฟสกี้กับพรรคพวกจะต้องกลับบ้าน

ส่วนอาร์เจนติน่าที่พ่ายช็อคโลกในนัดแรก ก่อนที่ชัยชนะเหนือเม็กซิโกในนัดต่อมา จะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ด้วยการมี 3 แต้มก่อนเกมนัดสุดท้าย ซึ่งถ้าต้องการผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ สิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ได้ก็คือเอาชนะโปแลนด์ โดยที่ซาอุดิอาระเบียต้องไม่ชนะเม็กซิโก แต่ถ้าทั้งทีมฟ้าขาว ทั้งอินทรีทะเลทรายชนะกันทั้งคู่ ก็ต้องไล่ดูประตูได้เสีย, ประตูได้, การเจอกันเอง และคะแนนแฟร์เพลย์ตามลำดับ ซึ่งมีโอกาสที่ไป ๆ มา ๆ ซาอุดิอาระเบียอาจกลายเป็นที่ 1 ในสาย

ถ้าอาร์เจนติน่าทำได้แค่เสมอ พวกเขาต้องหวังให้อีกคู่เสมอด้วยเช่นกัน เพื่อให้ตัวเองเข้าเป็นที่ 2 ในสาย แต่ถ้าฟ้าขาวเสมอและซาอุดิอาระเบียชนะ แชมป์อเมริกาใต้ จะตกรอบ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเม็กซิโกชนะ โปแลนด์จะกลายเป็นแชมป์กลุ่มจาก 5 คะแนน อาร์เจนติน่ากับเม็กซิโกต้องมาวัดกันในเงื่อนไขอื่น ๆ ต่อไป

และในกรณีที่อาร์เจนติน่าแพ้ ฟุตบอลโลก 2022 ของพวกเขาจบลงแล้ว

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ผู้เล่นของ โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่มีประตูในฟุตบอลโลกในที่สุด จะได้ยืนในแดนหน้าเจอกับอาร์เจนติน่าแน่ ๆ ขณะที่คนที่จะมาเล่นกับดาวยิงรายนี้ โค้ชเชสลอว์ มิชนีวิกซ์ น่าจะเลือก อาร์คาดิอุสซ์ มิลิก ที่ทำหน้าที่ได้ดีในเกมเจอกับซาอุดิอาระเบีย โดยข่าวดีของโปแลนด์ก็คือ พวกเขาไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่มเติม และน่าจะใช้ผู้เล่นในเกมที่แล้วเป็นแกนหลัก เพราะฉะนั้น วอจ์เซียก เชสนี ที่เซฟลูกโทษในเกมที่ผ่านมา แผงแบ็คโฟร์ แม็ตตี้ แคช, คามิล กลิก, จาคุบ คิวิออร์ และบาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ จากสองเกมแรกน่าจะได้ลงครบ

เกรซกอร์ซ ครีโชเวียก ที่เหลืออีกแค่ 4 นัดจะติดทีมชาติครบร้อย จะจับค่กับคริสเตียน บีลิก จากเบอร์มิงแฮม ที่เพิ่งเล่นทีมชาติไป 7 นัดในแดนกลาง โดยมีซีลินสกี้, เพรซมีสลอว์ ฟรานคอฟสกีเล่นริมเส้น

สำหรับอาร์เจนติน่า โค้ชสคาโลนี่ น่าจะมีการปรับผู้เล่น 11 คนแรกอีกครั้ง หลังในเกมก่อนหน้าในหลาย ๆ ตำแหน่งยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ โดยเฉพาะในแนวรับและแดนกลาง ลิซานโดร มาร์ติเนซน่าจะได้จับคู่กับนิโคลาส โอตาเม็นดี้ต่อ แต่ในตำแหน่งแบ็คขวา ต้องเลือกจาก กอนซาโล มอนทีล, นาฮูเอล โมลิน่า และฮวน ฟอยธ์ ส่วนแบ็คซ้าย ก็ต้องเลือกระหว่าง นิโคลาส ทากลิอาฟิโกกับมาร์คอส อะคูญ่า

เฟอร์นานเดซที่สร้างความประทับใจจากการลงเล่นเป็นตัวสำรองทั้งสองนัด อาจจะได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรก ในแดนกลาง ขณะที่เลอันโดร ปาราเดสที่ถูกดร็อปในเกมกับเม็กซิโก อาจกลับมาเป็นตัวจริง

ส่วนแดนหน้า เลาตาโร่ มาร์ติเนซกับอังเจล ดิ มาเรีย น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการเล่นกับเมสซี่ แต่จูเลียน อัลวาเรซและเปาโล ดีบาล่า ก็มีโอกาสสอดแทรกเข้ามาได้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โปแลนด์ ฟุตบอลโลก 2022

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงวัย 34 ปี ที่ไร้ประตูในฟุตบอลโลก หลังเพิ่งลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติเพียงครั้งเดียว ที่รัสเซีย 2018 (ภาพ: Rafal Oleksiewicz/PressFocus/MB Media/Getty Images)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของ โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

โปแลนด์ ระบบ 4-4-2: เซสนี; แค็ช, กลิก, คิวิออร์, เบเรสซีนสกี้; ซีลินสกี้, บีลิก, ครีโชเวียก, ฟรานคอฟสกี้; มิลิก, เลวานดอฟสกี้
อาร์เจนติน่า ระบบ 4-4-2: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โอตาเม็นดี้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, อะคูญ่า; ดิ มาเรีย, เดอ ปอล, เฟอร์นานเดซ, แม็ค อัลลิสเตอร์; เมสซี่, เลาตาโร่ มาติเนซ

เลาตาโร มาร์ติเนซ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

มาร์ติเนซเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญให้ฟ้าขาว คว้าแชมป์อเมริกาใต้ได้สำเร็จ หลังเข้าชิงสามหนหลังกลับบ้านมือเปล่าทั้งหมด (ภาพ: Gustavo Pagano/Getty Images)

ผลการแข่งขันระหว่าง โปแลนด์และอาร์เจนติน่า

การจบด้วยอันดับ 2 ในกลุ่ม จะทำให้คู่ปรับในรอบน็อคเอาต์คือ ฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่มาดีเหลือเกิน และทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ต้องชนะ ที่โปแลนด์ดูดีกว่าในเรื่องฟอร์มการเล่นที่เข้าที่เข้าทาง แต่อาร์เจนติน่าก็มีแดนหน้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และน่าจะเป็นตัวตัดสินสกอร์ในเกมนี้

อาร์เจนติน่า ชนะ 2-1

เรื่องน่าอ่าน
1. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
2.
กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
3. ล้ำหน้าในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ฟีฟ่านำเอไอตรวจจับร่างกายของผู้เล่นมาช่วยตัดสิน
4. ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่
5.  
ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า : วิเคราะห์นัดปิดกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสุดท้าย : โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โปแลนด์
ชนะเพลย์ออฟเหนือ สวีเดน
(ชนะบายเหนือ รัสเซีย, ชนะ สวีเดน 2-0)

อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โปแลนด์
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เม็กซิโก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-0

อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เม็กซิโก 2-0

 

ผลการพบกัน : 11 นัด
อาร์เจนติน่า ชนะ 6
เสมอ 2
โปแลนด์ ชนะ 3

 

ตารางคะแนนกลุ่มซี
1. โปแลนด์ คะแนน 4 ผลต่างประตู +2
2. อาร์เจนติน่า คะแนน 3 ผลต่างประตู +1
3. ซาอุดีอาระเบีย คะแนน 3 ผลต่างประตู -1
4. เม็กซิโก คะแนน 1 ผลต่างประตู -2

 

สภาพทีม
โปแลนด์
โปแลนด์ ที่ไปไม่ได้ไกลเกินรอบแรกบอลโลกมาตั้งแต่ 1986 หวิดจะเอาชนะ เม็กซิโก ได้ในเกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 แต่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดันพลาดจุดโทษ จนลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 ทว่านัดต่อมาก็แก้ตัว ปราบ ซาอุฯ 2-0 เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูแรกใน เวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายได้แล้วด้วย

 

สองนัด 4 แต้ม แต่ โปแลนด์ ก็ยังเสียวจะตกรอบเอาได้ และเกมนี้ต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อยเพื่อเข้ารอบ ส่วนถ้าแพ้ขึ้นมา ต้องลุ้นไม่ให้ ซาอุฯ ได้ชัยชนะเหนือ เม็กซิโก

 

เกมนี้ เชสลาฟ มิชนีวิซ ยังคงมีขุมกำลังสมบูรณ์พร้อมให้เลือก ซึ่งก็จะนำทีมโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นเคยในระบบ 4-2-2-2 ใช้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ยืนหน้าคู่ เลวานดอฟสกี้

 

อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำมันตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

ทว่าเกม 2 อาร์เจนฯ ก็ฮึดขึ้น ยิง เม็กซิโก 2-0 จากประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ กับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จนตอนนี้ยืนอันดับ 2 ของกลุ่มซี เพียงแต่ว่าพวกเขาก็ยังต้องการชัยชนะเหนือ โปแลนด์ อีกในเกมสุดท้าย เนื่องจากผลเสมอจะไม่ปลอดภัย มีสิทธิ์โดน ซาอุฯ แซงได้ถ้าทีมเศรษฐีน้ำมันชนะ หรือกระทั่ง เม็กซิโก ก็ยังแซงได้เช่นกันถ้าชนะ ซาอุฯ แบบยิงถล่มหลายประตู

 

ลิโอเนล สคาโลนี่ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บแล้ว และอาจมีการเปลี่ยนแปลงทีมบางจุดเพื่อเพิ่มความสด แต่เกมรุกก็จะยังคงนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ ร่วมด้วย เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเคล ดิ มาเรีย ตามเดิม

 

ตัวความหวัง
โปแลนด์ : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริง โปแลนด์ จะไปได้ไกลขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของเขาเป็นสำคัญ เลวานดอฟสกี้ ครองรางวัลนักเตะแห่งปีของชนชาติโปแลนด์มาแล้วถึง 10 สมัยจากระยะ 11 ปีหลัง และกดไปแล้ว 77 ประตูในนามทีมชาติ ยิ่งกว่านั้นคือการย้ายมาเล่นในลีกใหม่กับ บาร์เซโลน่า หัวหอกวัย 34 ก็ยังยิงสลุตเหมือนเคย กดแล้ว 18 ลูกจากการเล่นแค่ 19 นัด

 

อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 12 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 6 เกมหลัง และในบอลโลกครั้งนี้ก็กดไปแล้ว 2 เม็ด อยู่ในเส้นทางการช่วงชิงรองเท้าทองคำ ดาวซัลโว กาตาร์ 2022 เต็มตัว

 

11 ตัวจริงที่คาด
โปแลนด์ (4-2-2-2, กุนซือ เชสลาฟ มิชนีวิซ) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิยอร์, แม็ตตี้ แคช – เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, คริสเตียน บีลิค – เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค
อาร์เจนติน่า (4-3-3, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – มาร์กอส อคุนย่า, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คริสเตียน โรเมโร่, กอนซาโล่ มอนเทียล – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันเยอะทีเดียว 11 ครั้ง นับแต่หนแรกในปี 1966
• กระนั้น เกมล่าสุดปี 2011 (โปแลนด์ชนะ 2-1) เป็นการเจอกันเพียงหนเดียวเท่านั้นในรอบ 30 ปีหลัง
• อาร์เจนฯ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่องไว้ที่ 36 เกม ไม่อาจเทียบเท่าสถิติโลก 37 นัดของ อิตาลี 2018-2021 ได้
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 13 ประตูในปีนี้ จากการเล่นแค่ 9 นัด
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงแค่ 3 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 8 นัดปีนี้ แต่กดให้ บาร์เซโลน่า ไปถึง 18 ลูกจาก 19 เกม
• อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กับ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค ยิงให้ทีมชาติ 16 และ 11 ประตูตามลำดับ
• หนสุดท้ายที่ อาร์เจนฯ ตกรอบแรกคือฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะแพ้เกมแรก แต่พูดได้ว่า อาร์เจนติน่า โชคไม่ดีนักในเกมนั้น และฟอร์มแกร่งๆ ก็เริ่มกลับมาแล้วในเกมสยบ เม็กซิโก มาเกมนี้ การเจอกับ โปแลนด์ ที่ไม่ได้มีทีเด็ดอะไรนอกจาก เลวานดอฟสกี้ จึงไม่น่าเป็นปัญหามากมาย โดยเฉพาะว่าทีมอย่างพวกเขา ยังเร็วเกินไปมากที่จะตกรอบแรก

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – เม็กซิโก

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: NBT/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่าจะลงเล่นนัดที่สองในฟุตบอลโลก 2022 หลังเปิดตัวด้วยการพ่ายแพ้สุดช็อค ต่อซาอุดิอาระเบีย ที่กระทั่งลิโอเนล เมสซี่ ถึงกับออกปากว่า “พวกเราตายสนิท” โดยโค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ มีเวลา 4 วันในการฟื้นสภาพจิตใจลูกทีม ที่นอกจากจะเก็บแต้มไม่ได้แล้ว พวกเขายังสูญเสียสถิติลงเล่น 36 นัดไม่เคยแพ้ใคร ที่หากผ่านซาอุดิอาระเบียได้ อาร์เจนติน่าจะมีลุ้นทำสถิติใหม่เหนือทีมชาติอิตาลีได้เลย หากจะบอกว่า หลาย ๆ อย่างที่ทีมฟ้าขาวชุดนี้สั่งสมมา พังลงตรงหน้าในเกมนี้ก็คงได้ และทำให้พวกเขาต้องหาทางพลิกสถานการณ์ กู้หน้าให้ได้ ที่ไม่ใช่แค่เก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลือ หากยังต้องเกิดขึ้นด้วยฟอร์มการเล่นสวย ๆ ในเวลาเดียวกัน และด่านแรกที่พวกเขาต้องจัดการให้ได้ก็คือ เม็กซิโก

ทีมจังโก้เปิดฟุตบอลโลกหนนี้ไม่ได้สวยงามเช่นครั้งก่อน ที่ล้มแชมป์เก่าเยอรมนีได้สำเร็จ แถมเกือบ ๆ จะแพ้ด้วยซ้ำหากนายทวาร กีแยร์โม โอชัวเซฟลูกจุดโทษของเลวานดอฟสกี้ไม่ได้ แดนหน้าของทีมในปีนี้คุกคามคู่ต่อสู้ไม่ได้เนื้อได้หนังเช่นที่ทีมชุดก่อน ๆ เคยทำได้ และในสภาพที่ตัวเองก็ต้องการแต้ม เพื่อผ่านเข้ารอบ ในกลุ่มที่สถานการณ์ยังดูคลุมเครือ ยังไม่รู้ว่าใครที่จะไปยืนในรอบ 16 ทีมสำเร็จ กระทั่งซาอุดิอาระเบียเอง หากพ่ายโปแลนด์ขึ้นมา ทุกอย่างก็เหมือนถูกรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง การเจอกับเสือบาดเจ็บ “หนัก” อย่าง อาร์เจนติน่า ในตอนนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมเลยจริง ๆ สำหรับทีมที่ผูกปีแพ้ทีมฟ้าขาว อย่าง เม็กซิโก

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

เรื่องดีเรื่องหนึ่งหลังการออกสตาร์ตที่น่าผิดหวังก็คือ อาร์เจนติน่าไม่มีรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีนักเตะที่อยู่ในสภาพฟื้นฟูร่างกายให้ต้องเป็นห่วง โดยเปาโล ดีบาล่า จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับแนวรุกให้สคาโลนี่ได้เลือกใช้งาน โดยที่เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเจล ดิ มาเรีย และเมสซี่ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

ในเกมเสมอโปแลนด์ มาร์ติโน่เลือกใช้บริการเฮนรี่ มาร์ติน ก่อนราอูล ฮิมิเนซ​ โดยให้โอกาสกองหน้าจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 20 นาทีสุดท้ายของเกม ด้วยสภาพร่างกายที่กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังได้รับบาดเจ็บก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ไม่นาน ฮิมิเนซน่าจะเป็นตัวเลือกแรกของมาร์ติโน่ในเกมนี้ ซึ่งจะกลายเป็นการลงเล่นตัวจริงในเกมที่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, ปาเรเดส; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ; เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก ระบบ 4-3-3: โอชัว; ซานเชซ, มอนเตส, โมเรโน่, กัญญาร์โด้; ชาเวซ, เอ็ดสัน อัลวาเรซ, เอร์เรร่า; โลซาโน่, ฮิมิเนซ, เวก้า

กิแยร์โม โอชัว จังโก้อันตราย ฟุตบอลโลก 2022

กับการที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ของเขา ทำให้โอชัวคือเสียงแห่งประสบการณ์ของทีมจังโก้อันตรายชุดนี้ (ภาพ: REUTERS/Matthew Childs)

สถานการณ์ของเกมระหว่างอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

หากจะบอกว่า เม็กซิโกคือลูกไล่ของอาร์เจนติน่าคงไม่ผิด เมื่อดูจากสถิติเก่า ๆ โดย 7 นัดหลังสุดที่เจอกัน ทีมฟ้าขาวไม่เคยแพ้เลย และชนะไปถึง 6 นัด โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ให้กับทีมจังโก้อันตราย ก็โน่นปี 2004 กับการที่แพ้เกมเปิดหัว และสถิติไม่แพ้ใครยาวนานถึง 36 นัดจบลง ถือเป็นคราวเคราะห์ของเม็กซิโกก็ว่าได้ ที่ต้องเจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งต้องระเบิดความมุ่งมั่น ความอัดอั้นทุกอย่างในตัวใส่ทีมไหนสักทีม แล้วนอกจากจะไม่แพ้ใครมา 36 นัดแล้ว ภายใต้การคุมทีมของสคาโลนี่ทีมฟ้าขาวยังไม่เคยแพ้ใครติดต่อกันเลย

แล้วกับการที่ต้องการทั้งคะแนน ทั้งกู้ชื่อของตัวเองกลับมา อาร์เจนติน่าคงต้องใส่เต็มที่ และน่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ก่อนจะไปวัดกับโปแลนด์ในนัดสุดท้าย

อาร์เจนติน่าจะชนะจังโก้อันตราย โดยน่าจะยิงได้ถึง 3 ประตู ที่ต้องมาลุ้นกันว่า เม็กซิโกจะเจาะทีมฟ้าขาวได้กี่ประตู

เรื่องน่าอ่าน
1. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

2. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
3. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022
5. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสอง : อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : NBT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

เม็กซิโก
อันดับ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ เอสโตเนีย 5-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2

เม็กซิโก
อุ่นเครื่อง ชนะ เปรู 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 2-3
อุ่นเครื่อง ชนะ อิรัก 4-0
อุ่นเครื่อง แพ้ สวีเดน 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โปแลนด์ 0-0

 

ผลการพบกัน : 35 นัด
อาร์เจนติน่า ชนะ 16
เสมอ 14
เม็กซิโก ชนะ 5

 

สภาพทีม
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำมันตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

เมื่อเริ่มด้วยความพ่ายแพ้ ทำให้ อาร์เจนฯ หลังพิงฝาหน้าติดเชือกแล้ว ไม่สามารถแพ้ได้อีก หากพลาดท่าซ้ำสองขึ้นมา ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อย ไม่นับพวกที่ถอนไปก่อนบอลโลกมา โดยต้องเช็กสภาพของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เซนเตอร์แบ็กจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกมแรกไม่พร้อมจนต้องใช้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยืนกับ คริสเตียน โรเมโร่

 

ระบบจะยังคงเดิม 4-4-2 หรือ 4-2-2-2 เกมรุก อเลฮานโดร โกเมซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย ทำเกมสนับสนุนคู่หน้า ลิโอเนล เมสซี่ – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

เม็กซิโก
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาด้วยการเป็นรองแชมป์โซนคอนคาเคฟ และเริ่มต้นด้วยผลเสมอ โปแลนด์ 0-0 กิเยร์โม่ โอชัว ช่วยทีมไว้ด้วยการเซฟจุดโทษของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ โค้ชอาร์เจนไตน์ของทัพจังโก้ สภาพทีมดีขึ้นเมื่อ ราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าตัวความหวังจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฟิตพร้อมคืนตัวจริงแล้ว โดยจะนำเกมรุกในระบบ 4-3-3 เคียงข้าง เออร์วิ่ง โลซาโน่ กับ อเล็กซิส เวก้า

 

กระนั้นทีมชุดนี้ไม่มีตัวดังอย่าง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นันเดซ หรือ เฮซุส มานูเอล โคโรน่า ติดมาด้วย โดยรายหลังฟื้นฟิตไม่ทันเล่นบอลโลก

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 11 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 5 เกมหลัง ขออย่างเดียวคือแค่ว่าขุนพลรอบๆ ข้างอย่าช็อตไปดื้อๆ เหมือนเกมกับ ซาอุฯ ก็พอ ที่เหลือ เมสซี่ จัดให้เอง

 

เม็กซิโก : เออร์วิ่ง โลซาโน่
หนึ่งในคนที่ทัพจังโก้อันตรายต้องพึ่งพาในเกมรุก คือ เออร์วิ่ง “ชัคกี้” โลซาโน่ ตัวรุกสารพัดประโยชน์วัย 27 จากนาโปลี ซึ่งที่จริงถูกจับตามองตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนที่แล้วที่รัสเซีย โชคร้ายที่ไปไม่ได้ไกลนักเมื่อต้องเจอ บราซิล ในรอบ 8 ทีม โดย โลซาโน่ เล่นทีมชาติไปแล้ว 61 นัด ซัด 16 ประตู แต่ที่แรงกว่าคือฟอร์มกับต้นสังกัด นาโปลี ที่ยิง 4 ลูกจาก 19 เกมในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-4-2, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส ตายาฟิโก้ – อเลฮานโดร โกเมซ, โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อังเคล ดิ มาเรีย – ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก (4-3-3, กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่) กิเยร์โม่ โอชัว – เฮซุส กายาร์โด้, เซซ่าร์ มอนเตส, เอ็กตอร์ โมเรโน่, ฮอร์เก้ ซานเชซ – เอ็กตอร์ เอร์เรร่า, เอ๊ดสัน อัลวาเรซ, อันเดรส กวาร์ดาโด้ – อเล็กซิส เวก้า, ราอูล ฮิมิเนซ, เออร์วิ่ง โลซาโน่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันมากถึง 35 ครั้ง เริ่มครั้งแรกตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1930 มาเลยทีเดียว
• 18 ครั้งหลังที่พบกัน (ตั้งแต่ 1991) อาร์เจนติน่า แพ้ เม็กซิโก ครั้งเดียวเท่านั้น (0-1 โคปา อเมริกา 2004) นอกนั้น อาร์เจนฯ ชนะ 12 เสมอ 5
• อาร์เจนฯ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 36 เกม ไม่อาจเทียบเท่าสถิติโลก 37 นัดของ อิตาลี 2018-2021 ได้
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 12 ประตูในปีนี้
• อันเดรส กวาร์ดราโด้ กัปตันทีมวัย 36 ของเม็กซิโก ลงเล่นทีมชาติมาแล้วถึง 178 นัด และฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นสมัยที่ 5 เช่นเดียวกับ กิเยร์โม่ โอชัว (132 เกม)

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะพลาดท่ามาในเกมแรก แต่การเจอกับทีมของหวานที่คุ้นเคยอย่าง เม็กซิโก ไม่เคยใช่ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า อาร์เจนติน่า ต้องใส่สุดตัว เน้นทุกเม็ด เมื่อไม่อาจพลาดพลั้งซ้ำสองได้อีกแล้ว เชื่อว่า เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาวจะเจาะ กิเยร์โม่ โอชัว เข้า และไม่ใช่แค่ลูกเดียวด้วย

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า จะผ่านอินทรีทะเลทราย ซาอุดิอาระเบีย ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบสบาย ๆ

อาร์เจนติน่า จะผ่านอินทรีทะเลทราย ซาอุดิอาระเบีย ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบสบาย ๆ

ทำนายผลฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

 

ชาติเอเชีย - ซาอุดิ อาระเบีย

ซาอุดิ อาระเบีย เข้ารอบฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีญี่ปุ่น กับออสเตรเลีย ร่วมกลุ่ม (ภาพ: SSAF/Facebook)

เกมในกลุ่ม ซี วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) True4U/ True Sports 2: แน่นอนว่า สายตาของผู้ชมเกมนัดนี้ ย่อมจับจ้องไปที่ลิโอเนล เมสซี่ ที่จะลงเล่นฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ห้า และน่าจะเป็นสมัยสุดท้ายให้กับตัวเอง โดยที่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ระดับชาติมาได้สารพัดขาดก็เพียงถ้วยฟุตบอลโลกเท่านั้น และกับการเจอทีมจากเอเชีย ซาอุดิอาระเบีย น่าจะเป็นการออกสตาร์ตที่สวยหรูของเมสซี่และผองเพื่อน เมื่อดูแล้ว อินทรีทะเลทราย ที่นักเตะส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นลีกจากในประเทศ ดูไม่มีอะไรจะสู้ทีมฟ้าขาวได้เลย นอกจากเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงของกาตาร์ ที่น่าจะทำให้ได้เสียงเชียร์มากเป็นพิเศษ (หรือเปล่า?)

เส้นทางก่อนการเจอกันของ อาร์เจนติน่า – ซาอุดิอาระเบีย

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

ทีมฟ้าขาวมาฟุตบอลโลก 2022 เดินทางมากาตาร์ พร้อมกับสถิติไม่แพ้ใคร 35 นัดรวด และกับเกม 5 นัดก่อนเดินทางมากาตาร์ก็ชนะแบบยิงประตูระเนระนาด และไม่เสียประตูเลย แม้จะไม่เจอกับคู่แข่งแข็ง ๆ สักเท่าไหร่ก็ตามที ยกเว้นอิตาลี แชมป์ยูโร 2020 ที่ตกรถไฟฟุตบอลโลก 2022 เฉย ซึ่งเมสซี่และผองเพื่อนก็สยบได้สบาย ๆ 3-0

ซาอุดิอาระเบีย อาจจะดูดีในรอบคัดเลือก โดยเฉพาะการเป็นที่หนึ่งในกลุ่มที่มีตัวเก็งอย่าง ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แต่ฟุตบอลโลกคือความแตกต่าง ทีมที่เจอคืออีกระดับ และจากเกมอุ่นเครื่องก่อนถึงฟุตบอลโลก 5 นัดสุดท้าย ทีมอินทรีทะเลทรายเสมอไป 3 แพ้ 1 ชนะ 1 โดยเจอคู่แข่งที่ไม่ได้แข็งมากนัก อย่าง อัลบาเนีย, ฮอนดูรัส, ปานามา ที่กินกันไม่ลง และชนะไอซ์แลนด์ แล้วมาแพ้ทีมที่เรียกได้ว่า “ของจริง” โครเอเชีย 1-0 ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบียต่างเจอกับฮอนดูรัสทั้งคู่ แต่ขณะที่ทีมจากเอเชียทำได้แค่เสมอ ทีมฟ้าขาวขย่มไป 3-0 ที่ด้วยชื่อชั้น ด้วยฟอร์มการเล่น เชื่อว่าเฮิร์ฟ เรนาร์ด โค้ชของซาอุดิอาระเบีย ไม่น่าคิดไปไกลนักสำหรับนัดนี้ แพ้ให้น้อยที่สุด หรือเก็บแต้มได้คือที่สุดแล้ว โดยอาจจะมองว่าเป็นเกมติวเข้มระดับสุด ๆ ของทีม เพื่อไปหวังแต้มจากนัดอื่น ส่วนอาร์เจนติน่า ก็อาจมองว่าเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ต้องเน้นผล

แล้วอย่าลืมว่า ซาอุดิอาระเบีย เคยมีประสบการณ์อันเลวร้ายกับการลงสนามนัดแรกในฟุตบอลโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะพ่ายเยอรมนียับ 8-0 ในปี 2002 และโดนเจ้าภาพรัสเซียถล่ม 5-0 ในปี 2018

ความพร้อมของนักเตะอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย

คริสเตียน โรเมโร่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

คริสเตียน โรเมโร่ นายใหญ่ในแผงหลังของทีมฟ้าขาว (ภาพ: Alexandre Schneider/Getty Images)

สถานการณ์ทุกอย่างดูราบรื่น แม้จะมีการส่งนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บ โจอาควิน คอร์เรอา กับนิโคลาส กอนซาเลซ กลับบ้าน แล้วเรียกตัวธิอาโก้ อัลเมด้า และอังเจล คอร์เรอา มาเข้าแคมป์ด่วน ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่แน่ ๆ สภาพของลิโอเนล เมสซี่ ที่เป็นหัวใจของทีมอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ และนักเตะคนอื่น ๆ เป็นตัวสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ที่สำคัญ โค้ชลิโอเนล สคาโลนี่สามารถหลอมรวมจิตใจผู้เล่นทั้งทีมเป็นหนึ่งเดียวกันสำเร็จ และเอาชนะใจแฟน ๆ ได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี โดยผู้เล่นที่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมีแค่คริสเตียน โรเมโร่ ที่เจ็บหลัง กับอังเจล ดิ มาเรีย แต่ก็น่าฟิตลงเล่นทัน

ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี อินทรีทะเลทราย ซาอุดิ อาระเบีย ฟุตบอลโลก 2022

ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ผู้เล่นเจ้าของพรสวรรค์ในระดับที่เยี่ยมยอด หลังเปิดตัวในทีมอินทรีทะเลทรายชุดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน (ภาพ: www.the-afc.com)

ซาอุดิอาระเบีย นอกจากจะดูห่างชั้นกว่าในเรื่องชื่อชั้น ฟอร์มการเล่นแล้ว ยังต้องลุ้นซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวเก่งของทีมที่เข้ารับการผ่าตัดเล็ก จะฟื้นตัวแล้วฟิตพอลงเล่นได้หรือเปล่า แต่ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของอาร์เจนติน่าและซาอุดิอาระเบีย

อาร์เจนตินา ระบบ 4-3-3: อีมี่ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, เปเรเดส, โกเมซ; เมสซี่, เลาตาโร มาร์ติเนซ, ดิมาเรีย
ซาอุดิอาระเบีย ระบบ 4-3-3: โอไวส์; กาหนาม, อัมรี, บูไลไฮ, ชารานี่; นาเจ, ชาราหิลี, ฟาราจ; ดอว์ซารี่, บูไรคาน, บาเฮบรี

ผลการแข่งขันระหว่างอาร์เจนติน่ากับซาอุดิอาระเบีย

แม้จะเล่น 4-3-3 แต่นัดนี้เชื่อว่า อินทรีทะเลทรายน่าจะเล่นรับลึกกว่าปกติ และศูนย์หน้าของทีมก็ต้องใช้โอกาสที่มีไม่เปลือง เพื่อให้ทีมสร้างผลการแข่งขันที่ช็อคโลกได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวผู้เล่นของซาอุดิอาระเบียเอง คือผู้เล่นจากลีกในประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องประสบการณ์น่าจะอยู่คนละชั้นกับฟ้าขาว และต่อให้รับเหนียว เล่นลึกขนาดไหน ความสามารถเฉพาะตัวที่เหนือกว่าของบรรดาผู้เล่นอาร์เจนติน่า สามารถสร้างความแตกต่างได้มหาศาล ทั้งการใช้ความสามารถเฉพาะตัวบุกเข้าไปทำประตู หรือเรียกลูกโทษ ที่มีตัวเตะลูกนิ่งชั้นดีอยู่ในทีมมากมาย และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ เมสซี่

แม้ทีมใหญ่ ๆ มักจะเจอทีมเล็ก ๆ ปัดแข้งปัดขาเสมอในนัดแรกของฟุตบอลโลก แต่ไม่น่าใช่อาร์เจนติน่า และพวกเขาน่าจะผ่านซาอุดิอาระเบียไปได้ แบบขย่มอยู่ข้างเดียว โดยชนะในแบบเกมศูนย์ และถ้ายิงได้ไม่ถึง 3 ประตู ก็ถือว่าน่าผิดหวัง 

เรื่องน่าอ่าน
1. 
กลุ่ม ซี ในฟุตบอลโลก 2020 กลุ่มของเมสซี่ และโอกาสเก็บประสบการณ์อันดีของซาอุดิอาระเบีย
2. ห้าอัศวินฟ้าขาว ดาวเตะความหวังของอาร์เจนติน่าในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
3. ห้านักเตะอินทรีทะเลทราย – ซาอุดิอาระเบีย ที่น่าจับตาในฟุตบอลโลก 2022
4. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
5. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022