แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ ‘เมสซี่’ แต่แข้งฟ้าขาว ‘ทุกคน’ ล้วนสำคัญ!

เปิดขุมกำลัง อาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลก 2022

ในเรื่องเล่าแชมป์โลกแต่ละสมัยของ อาร์เจนติน่า น่าแปลกไม่น้อยที่จะมี “พระเอก” เป็นเสมือนผู้นำทีมไปสู่ความสำเร็จ — ที่ให้บังเอิญว่า ต่างก็สวมเสื้อหมายเลข 10 ด้วยกันทั้งหมดเสียด้วย

 

1978 มาริโอ เคมเปส
1986 ดีเอโก้ มาราโดน่า
และ 2022 ลิโอเนล เมสซี่

 

แต่เอาเข้าจริง อาจ “ช็อตฟีล” ไปหน่อยที่ต้องบอกว่า… ฟุตบอล ไม่ใช่ “กีฬาชายเดี่ยว” แต่อย่างใด

 

ตราบใดที่ เมสซี่ ไม่อาจยิงประตูเสร็จแล้วคว้าถุงมือโกล์มาเฝ้าเสาได้ ก็เลิกพูดเสียทีว่า อาร์เจนติน่า ประสบความสำเร็จได้เพราะ เมสซี่ เพียงคนเดียว

 

เพราะไม่ใช่แค่ เมสซี่ แต่แข้งฟ้าขาว “ทุกคน” อีก 25 นักเตะ ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ก็ล้วนแต่มีความสำคัญ มีประโยชน์และส่งอิทธิพลจากการเล่นในตำแหน่งของตัวเอง

 

ดังนั้น ฟุตบอลโลก 2022 จึงไม่ใช่ “ฟุตบอลโลกของเมสซี่”

 

แต่คือฟุตบอลโลกของ “ทีมชาติอาร์เจนติน่า”

 

และว่ากันถึงที่สุด ก็คงเป็นของชาวอาร์เจนไตน์…ทุกชีวิต!

 

 

ผู้รักษาประตู
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!1. ฟรังโก้ อาร์มานี่
ลงสนาม : 0
รวมนาที : 0
เสียประตู : 0
ถ้าจะมีใครไม่สำคัญในทีมชุดแชมป์โลกชุดนี้ ก็ ฟรังโก้ อาร์มานี่ นี่แหละ (ฮา) โดยนายประตูวัย 36 จาก ริเวอร์เพลท มาเข้าร่วมฟุตบอลโลก 2022 ในฐานะมือสองรองจาก เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ซึ่งโชคไม่ดีที่ทัวร์นาเมนต์นี้ อาร์เจนติน่า ไม่มีเกมในลักษณะ “ไม่ซีเรียส” อยู่เลย ทำให้โอกาสลงสนามทั้งหมดเป็นของมือหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!12. เคโรนิโม่ รุลลี่
ลงสนาม : 0
รวมนาที : 0
เสียประตู : 0
หนักกว่ามือสองอย่าง ฟรังโก้ อาร์มานี่ ก็คือมือสามอย่าง เคโรนิโม่ รุลลี่ จอมหนึบวัย 30 จาก บียาร์เรอัล ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่ว่าไว้ในท่อนขยายของ อาร์มานี่ ว่า อาร์เจนติน่า ไม่มีเกมขำๆ แต่อย่างใด ส่งผลให้ทั้งมือสองและมือสาม ได้แค่ร่วมซ้อมและรอสแตนด์บายข้างสนามเท่านั้น

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!23. เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริงทั้งหมด)
รวมนาที : 690
เสียประตู : 8
เซฟประตู : 6
สร้างชื่อทั้งในฐานะมือหนึ่งแชมป์โลก, จอมเซฟจุดโทษ และตัวตึงค่ายฟ้าขาว เจ้าของรางวัลนายประตูยอดเยี่ยม Golden Glove โดยแม้จะเสียประตูไปไม่น้อย 8 ลูกจาก 7 นัด แต่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ในวัย 30 (แล้ว) จาก แอสตัน วิลล่า ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือยอดนายทวารคนหนึ่งของวงการ ซึ่งนอกจากการเซฟจุดโทษของทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ คิงสลี่ย์ โกม็อง ในช่วงดวลเป้า (สองรอบ) แล้ว ก็ยังเซฟช็อตสำคัญมากๆ จากการยิงของ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ หอกสำรองฝรั่งเศส ในช่วงทดเจ็บ 120+3 ของการต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้ อาร์เจนติน่า ยื้อไปได้จนถึงดวลเป้า ไม่เช่นนั้นฟ้าขาวก็คงต้องรอแชมป์โลกไปอีก 4 ปีเป็นอย่างน้อย

 

 

 

กองหลัง
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!2. ฮวน ฟอยธ์
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 5
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กองหลังสารพัดประโยชน์จาก บียาร์เรอัล ได้ลงสนามในฟุตบอลโลก 2022 แค่ 5 นาทีสุดท้ายของเกมที่ อาร์เจนติน่า ยิง โครเอเชีย ขาดลอยไปแล้ว 3-0 ในรอบตัดเชือก แต่ด้วยวัยแค่ 24 จึงยังถือว่ามีอนาคตอีกยาวไกลในทีมฟ้าขาว

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!3. นิโกลัส ตายาฟิโก้
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 3 สำรอง 3)
รวมนาที : 373
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แบ็กซ้ายวัย 30 จาก โอลิมปิก ลียง ออกสตาร์ทตัวจริงในนัดแรก แต่ผลแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างช็อกโลก 1-2 ก็ทำให้เขาโดนลงโทษอย่างกลายๆ ด้วยการโดนดร็อปจากทีมตัวจริงในเกมถัดๆ มา จนกระทั่งคืนสู่ 11 คนแรกอีกครั้งได้ในรอบตัดเชือกกับ โครเอเชีย ภายหลัง มาร์กอส อคุนย่า ติดโทษแบน แต่แม้รายหลังจะพ้นโทษพร้อมเล่นนัดชิง ก็ยังเป็นโอกาสของ ตายาฟิโก้ ได้ยืนตัวจริงต่ออย่างเซอร์ไพรส์ในนัดชิงแชมป์กับ ฝรั่งเศส

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!4. กอนซาโล่ มอนเทียล
ลงสนาม : 4 (ตัวจริง 1 สำรอง 3)
รวมนาที : 118
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หนึ่งในโจ๊กเกอร์ที่ ลิโอเนล สคาโลนี่ ให้ความไว้วางใจเป็นพิเศษสำหรับความนิ่งแน่นอนของการยิงจุดโทษ เมื่อแม้ว่าแบ็กขวาวัย 25 จากเซบีย่า จะได้เล่นตัวจริงแค่นัดเดียวกับ เม็กซิโก (2-0) แต่เมื่อเกมยืดเยื้อถึงดวลเป้าแล้ว มอนเทียล ก็จะถูกส่งลงไปเป็นมือสังหารเสมอ และยิงได้อย่างเฉียบขาดเข้าเป้าทั้งเกมชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-3 และชนะ ฝรั่งเศส 4-2 (แต่ก็โดนจับแฮนด์บอล เสียจุดโทษลูก 3-3)

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!6. เคร์มัน เปซเซลล่า
ลงสนาม : 3 (ตัวจริง 0 สำรอง 3)
รวมนาที : 60
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
เซนเตอร์แบ็กตัวสำรองวัย 31 จาก เรอัล เบติส ถูกส่งลงท้ายเกมแทนเพื่อนทั้ง 3 นัดของการเล่นฟุตบอลโลก 2022 ได้แก่รอบแรกที่ชนะ โปแลนด์ 2-0 (12 นาที), รอบ 8 ทีมชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 (43 นาที) และนัดชิง ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 ก็ได้ลงไปช่วยอุดเกมรับเฮือกท้าย นาที 116

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!8. มาร์กอส อคุนย่า
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 4 สำรอง 2)
รวมนาที : 373
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แบ็กซ้ายประสบการณ์สูงวัย 31 จากเซบีย่า เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นสำรองของ นิโกลัส ตายาฟิโก้ แต่ก็ก้าวขึ้นไปเป็นตัวจริงแทนที่ ตายาฟิโก้ ตั้งแต่นัดชนะ เม็กซิโก 2-0 เป็นต้นไป จนกระทั่งรอบ 8 ทีมที่มาโดนใบเหลืองเพิ่ม ทำให้ติดแบนอดเล่นรอบตัดเชือก จนกลายเป็นว่าต้องหลุดเป็นสำรองไปเสียในนัดชิงกับ ฝรั่งเศส เพียงแต่ก็ยังถูกเปลี่ยนลงไปช่วยเสริมเกมรับแทน อังเคล ดิ มาเรีย ในนาที 64

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!13. คริสเตียน โรเมโร่
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 6 สำรอง 1)
รวมนาที : 547
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แม้จะเข้าๆ ออกๆ ไม่ได้เป็นตัวจริงถาวรของ สเปอร์ส แต่กับทีมชาติแล้ว เซนเตอร์แบ็กวัย 24 จัดเป็นคนสำคัญในแผงหลัง เป็นตัวยืนมาตั้งแต่ โคปา อเมริกา 2021 ระดับติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ ต่อมาในฟุตบอลโลก 2022 ก็เป็นตัวจริงถึง 6 จาก 7 นัดที่ อาร์เจนติน่า ลงสนาม รวมถึงก็เป็นตัวจริงแบบอยู่ครบเกม 120 นาทีของนัดชิงชนะเลิศ

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!19. นิโกลัส โอตาเมนดี้
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 7 สำรอง 0)
รวมนาที : 690
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 1
ทั้งที่ขวบวัยปาไป 34 ย่าง 35 และหลบไปสังกัดทีมเกรดรองอย่าง เบนฟิก้า แล้ว แต่ปรากฏว่า โอตาเมนดี้ แทรกลงตัวจริงในทีมของ สคาโลนี่ อย่างเซอร์ไพรส์ แถมสร้างสถิติน่าสะพรึงอย่างการลงเป็น 11 คนแรกครบถ้วนทั้ง 7 นัดและเล่นครบทุกนาทีของทั้ง 7 แมตช์ ไม่ถูกถอดออกแม้แต่ครั้งเดียว จนมีเพียง โอตาเมนดี้, เมสซี่ และนายประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เท่านั้น ที่ลงเล่นครบทั้ง 690 นาทีที่กาตาร์ ของทีมฟ้าขาว

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!25. ลิซานโดร มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 2 สำรอง 3)
รวมนาที : 303
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
สร้างชื่อเป็นปราการหลังจอมแกร่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา แต่กับทีมชาติแล้ว ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวเลือกที่ 3 รองจากทั้ง นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ คริสเตียน โรเมโร่ จนในเวิลด์คัพหนนี้ได้เล่นตัวจริงแค่ 2 นัด เกมรอบแรกกับ เม็กซิโก และลงเป็นหนึ่งใน 3 เซนเตอร์แบ็กนัดชนะ เนเธอร์แลนด์ รอบ 8 ทีม

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!26. นาอูเอล โมลิน่า
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 6 สำรอง 1)
รวมนาที : 567
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
มีเส้นทางค้าแข้งพุ่งขึ้นดุจดั่งพลุไฟ เมื่อแบ็กขวาวัย 24 เพิ่งจะย้ายจาก อูดิเนเซ่ ไป แอตเลติโก มาดริด ซีซั่นนี้เอง รวมถึงก็เพิ่งเริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีก่อนเท่านั้น แต่ไม่มีใครหยุดอยู่จนกลายเป็นแบ็กขวาตัวเลือกแรกของ สคาโลนี่ ไปแล้ว ในฟุตบอลโลก 2022 ก็ลงตัวจริง 6 นัด สำรองหนเดียวนัดพบ เม็กซิโก และมี 1 ประตูในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ รวมถึง 1 แอสซิสต์กับ โปแลนด์ ด้วย

 

 

 

 

 

กองกลาง
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!5. เลอันโดร ปาเรเดส
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 2 สำรอง 3)
รวมนาที : 225
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
อันที่จริง กลางรับวัย 28 จาก ยูเวนตุส เป็นคนที่ติดทีมชาติมาเยอะที่สุด (45 นัด) ในบรรดามิดฟิลด์ที่ สคาโลนี่ เลือกมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงทัวร์นาเมนต์ก็ดันหลุดออกจาก 11 คนแรกไปเสีย เหตุผลอาจมาจากเกมแรกกับ ซาอุฯ ที่ ปาเรเดส ได้เล่นตัวจริงแต่เล่นไม่ค่อยดี ปิดเกมคู่แข่งไม่อยู่ โดนทะลวง 2 ประตูจนโดนถอดออกหลังจากนั้น แล้วก็หายหน้าไป ค่อยกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งตอนตัดเชือกกับ โครเอเชีย

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!7. โรดริโก้ เด ปอล
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 7 สำรอง 0)
รวมนาที : 599
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
โรดริโก้ “เดอะ บอดี้การ์ด” เด ปอล องครักษ์พิทักษ์เมสซี่ จัดเป็นหนึ่งในคีย์แมนชุดแชมป์โลกของทัพฟ้าขาว ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่างรุกก็ดีรับก็ได้ ขับเคลื่อนแดนกลางด้วยพลังแรงสูง แม้จะไม่มีทั้งประตูและแอสซิสต์ แต่มิดฟิลด์เชื้อสายอิตาลีวัย 28 จาก แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่หลุดจากทีมเลยแม้แต่นัดเดียว และมีนาทีในสนามเป็นรองแค่ 3 คนที่ได้ลงทุกนาที (เอมี่ มาร์ติเนซ, โอตาเมนดี้, เมสซี่) เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!14. เอเซเกล ปาลาซิออส
ลงสนาม : 3 (ตัวจริง 0 สำรอง 3)
รวมนาที : 50
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กลางรับตัวเลือกรองลงไปจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาฟุตบอลโลกในฐานะอะไหล่สำรองของพี่ๆ ส่งผลให้ได้เล่นแค่ 3 เกม (เม็กซิโก, ออสเตรเลีย, โครเอเชีย) เป็นตัวสำรองช่วงท้ายทั้งหมด และมีนาทีในสนามแค่ 50 นาทีเท่านั้น

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!16. ติอาโก้ อัลมาด้า
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 7
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มิดฟิลด์หนุ่มน้อยวัย 21 เด็กสุดในทีมแชมป์โลกชุดนี้ (อ่อนเดือนกว่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ) ได้มาฟุตบอลโลก 2022 อย่างส้มหล่น โดยถูกเรียกมาแทนตัวเจ็บอย่าง ฮัวกิน กอร์เรอา ซึ่งดาวรุ่งจาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ทีมในสหรัฐฯ ก็ได้สัมผัสเกมที่กาตาร์แค่ 7 นาทีถ้วน จากการลงสำรองท้ายเกมกับ โปแลนด์ ซึ่งนับเป็นการเล่นชุดใหญ่เกมที่ 3 เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!17. อเลฮานโดร โกเมซ
ลงสนาม : 2 (ตัวจริง 2 สำรอง 0)
รวมนาที : 107
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
ตัวรุกสูงวัย (34) จาก เซบีย่า เพิ่งจะมาติดทีมชาติอาร์เจนติน่าสม่ำเสมอก็ในช่วงที่มี สคาโลนี่ ทำทีมนี่เอง แต่ก็มีรอยด่างตรงที่ประตูสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปไกลถึงท้ายซีซั่นก่อนทีเดียว ส่วนที่กาตาร์ “ปาปู้” โกเมซ ได้เล่นตัวจริง 2 เกม กับ ซาอุฯ และ ออสเตรเลีย แต่ก็ไม่มีผลงานอะไรเท่าไหร่ โดนถอดออกต้นครึ่งหลังทั้งสองนัด

 

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!18. กีโด้ โรดริเกซ
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 1 สำรอง 0)
รวมนาที : 56
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
กลางรับร่างโย่งวัย 28 จาก เรอัล เบติส เป็นตัวจริงชุดแชมป์ โคปา อเมริกา กลางปีที่แล้ว แต่หลุดลงเป็นสำรองของชุดแชมป์โลก ได้เล่นแค่เกมเดียว (ลงตัวจริง) นัดชนะ เม็กซิโก 2-0 ก่อนโดนถอดออกกลางครึ่งหลัง กระนั้นก็เหมือนเป็นการค้นพบของทัวร์นาเมนต์เหมือนกัน เมื่อตัวที่ลงแทนคือ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ผู้ซึ่งกลายเป็นดาวเด่นในที่สุด

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!20. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 6 สำรอง 0)
รวมนาที : 550
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
มิดฟิลด์จาก ไบรท์ตัน ได้ของขวัญวันเกิด (24 ธ.ค.) อายุครบ 24 ปีระดับพรีเมี่ยมอย่างเหรียญทองและโทรฟี่แชมป์โลก ภายหลังลูกชายของ คาร์ลอส “โคโล่” แม็ค อัลลิสเตอร์ อดีตตัวทีมชาติอาร์เจนติน่า 3 นัด (โบคา จูเนียร์ส 1992-1996) จัดเป็นหนึ่งในความเซอร์ไพรส์ของทีมแชมป์โลก ด้วยการที่ก่อนทัวร์นาเมนต์ อเล็กซิส เพิ่งติดธงชุดใหญ่มาแค่ 7 เกมเท่านั้น แต่ก็ถูกเลือกจาก สคาโลนี่ ให้ลงตัวจริงในฟุตบอลโลก 2022 นับตั้งแต่รอบแรกนัดสอง กับ เม็กซิโก เป็นต้นไป (มียิง 1 ลูกกับ โปแลนด์) จนกระทั่งถึงเกมชิงชนะเลิศ

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!24. เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 5 สำรอง 2)
รวมนาที : 564
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
หลังจากถูกส่งลงสำรองครึ่งชั่วโมงท้ายของเกมกับ เม็กซิโก แล้วสร้างผลงานได้ทันที ยิง 1 ประตูปิดกล่องให้ อาร์เจนติน่า กำชัย 2-0 ก็กลายเป็นเหมือนการค้นพบสุดสำคัญของ สคาโลนี่ ที่หลังจากนั้นก็ส่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 จาก เบนฟิก้า ลงตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และ เฟร์นานเดซ ทำอีก 1 แอสซิสต์นัดชนะ โปแลนด์ ก่อนจะช่วยให้ฟ้าขาวไปถึงฝั่งฝัน จนสุดท้ายก็ได้รับคัดเลือกให้คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของรายการ FIFA Young Player Award ไปครอง

 

 

 

 

 

กองหน้า
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!9. ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ลงสนาม : 7 (ตัวจริง 5 สำรอง 2)
รวมนาที : 464
ประตู : 4
แอสซิสต์ : 0
ที่จริง ผู้คนก็พอรู้อยู่แล้วว่า ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ไม่ธรรมดา จากการจิ้มเลือกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ และก็มีผลงานยิง 7 ประตูในช่วงครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่าเจ้าหนุ่มวัย 22 จะระเบิดเถิดเทิงได้ขั้นนี้ เริ่มจากฉกชิงตัวจริงมาจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แล้วก็ยึดเอาไว้แบบยาวๆ จนถึงแชมป์โลก โดยมีผลงานชิ้นโบว์แดงที่การซัด 2 ตุงในเกมสยบ โครเอเชีย 3-0 รอบตัดเชือก รวมสอยไป 4 ประตูในฟุตบอลโลกครั้งแรกของตัวเอง

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!11. อังเคล ดิ มาเรีย
ลงสนาม : 5 (ตัวจริง 4 สำรอง 1)
รวมนาที : 288
ประตู : 1
แอสซิสต์ : 1
น้อยแต่มาก… เกือบจะเป็นสุดยอดโจ๊กเกอร์แห่งฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเรียกจุดโทษ 1 และยิงประตูเองอีก 1 นำ อาร์เจนติน่า ฉีกสกอร์นำ ฝรั่งเศส 2-0 ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ด คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จนเจียนอยู่เจียนไปและต้องเสียน้ำตาบนม้านั่งสำรองหลายรอบ ซึ่งที่จริง ในวัยย่าง 35 และสภาพร่างกายไม่ได้ฟิตปั๋งเหมือนตอนรุ่งๆ ดิ มาเรีย ก็คงมาเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็มีแชมป์โลกติดมือเข้าจนได้

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!15. อังเคล กอร์เรอา
ลงสนาม : 1 (ตัวจริง 0 สำรอง 1)
รวมนาที : 5
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มาลุยฟุตบอลโลก 2022 แบบที่ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากอยู่แล้ว ด้วยการเป็นมวยแทนของ นิโก้ กอนซาเลซ ที่เจ็บจนต้องถอนตัวไปก่อนทัวร์นาเมนต์ และกองหน้ากึ่งปีกวัย 27 จาก แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่ได้ขออะไรมากนอกจากให้ทีมประสบความสำเร็จ โดยที่เขาได้ลงสำรอง 5 นาทีท้ายของเกมกับ โครเอเชีย ภายหลังสกอร์ขาดไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!21. เปาโล ดีบาล่า
ลงสนาม : 2 (ตัวจริง 0 สำรอง 2)
รวมนาที : 18
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หวิดจะกลายเป็นผู้แพ้ในทีมผู้ชนะ จากการที่หัวหอกเพียบดีกรี (12 แชมป์สมัยอยู่ ยูเวนตุส, ติดทีมแห่งปี เซเรีย อา 4 รอบ) อย่าง ดีบาล่า ไม่ถูกเลือกจาก สคาโลนี่ ให้ได้ลงสนามเลย ด้วยเหตุผลเรียบๆ ง่ายๆ (แต่เจ็บปวด) ว่า ในสายตาของโค้ชอย่างเขา มีตัวเลือกที่ดีกว่าให้ใช้งาน แต่ในที่สุดแล้วก็ยังได้ลงสำรองในเกมกับ โครเอเชีย และ ฝรั่งเศส โดยที่ยังไว้ลายด้วยการสังหารจุดโทษเข้าอย่างไม่พลาดในช่วงดวลเป้าชี้ขาด จึงนับว่ามีส่วนสำคัญกับการเป็นแชมป์โลกครั้งนี้ด้วย

 

 

 

 

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!22. เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
ลงสนาม : 6 (ตัวจริง 2 สำรอง 4)
รวมนาที : 241
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
มาลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่หน 3 (แต่บอลโลกครั้งแรก) ของตัวเองด้วยสถานะตัวจริง และมีสถิติดีด้วยในการรับใช้ชาติ (21 ประตูจาก 40 นัด) แต่เกือบๆ จะกลายเป็น Flop of the Tournament ไปเสีย ด้วย 2 ประตูที่ถูกยกเลิกด้วยวีเออาร์เกมเปิดหัวกับ ซาอุฯ ที่ดูจะส่งผลกับความมั่นใจโดยตรง จนเล่นได้อย่างย่้ำแย่ในเกมถัดๆ มา (โดนดร็อปสำรองตั้งแต่เกมกับ โปแลนด์ เป็นต้นไป) โดยเฉพาะนัดชนะ ออสเตรเลีย 2-1 ที่มีโอกาสถ่างสกอร์หลายหนแต่พลาดไปหมด และสุดท้ายไม่มีประตูเลยในเส้นทางสู่แชมป์โลก อย่างไรก็ตาม ถือว่า เลาตาโร่ ยังเล่นได้อย่างวูบวาบในนัดชิง อย่างน้อยมีส่วนร่วมกับประตูนำ 3-2 ที่เขาส่องติดเซฟ อูโก้ โยริส ก่อนบอลมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงเข้าไป

 

 

 

ตัวละครลับ
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!เซร์คิโอ อเกวโร่
อดีตดาวยิงวัย 34 อาศัยช่วงว่างๆ ภายหลังต้องเลิกเล่นอาชีพไปแบบช็อกวงการด้วยปัญหาหัวใจ เดินทางไปสมทบกับแคมป์ทีมชาติอาร์เจนตินาที่ประเทศกาตาร์ โดยในช่วงแรกมีปัญหาไม่ได้อนุมัติบัตรผ่านจากฝ่ายจัดฯ แต่ในที่สุดก็ได้ไฟเขียวและอยู่ยาวมาจนจบรายการ โดยเป็นเสมือนสตาฟฟ์โค้ชอย่างไม่เป็นทางการ ให้คำปรึกษาน้องๆ โดยเฉพาะบรรดากองหน้า และเมื่อทีมได้แชมป์โลกก็สวมเสื้อเบอร์ 19 ซึ่งเคยใส่ลุยบอลโลก 2018 ไปร่วมฉลองอย่างออกนอกหน้าที่กลางสนาม

 

 

 

 

 

 

 

 

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง…กุนซือ
แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!ลิโอเนล สคาโลนี่
ที่จริง นี่คือเพื่อนรุ่นพี่ร่วมทีมของ เมสซี่ ในชุดที่ อาร์เจนติน่า ลงเตะฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เพียงแต่ว่าแบ็กขวา/ปีกขวา (สร้างชื่อกับ ลา กอรุนญ่า, เวสต์แฮม, ลาซิโอ) อย่าง สคาโลนี่ ก็ได้เล่นแค่เกมเดียวในทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่ให้หลังมาอีก 9 ปี (2015) เขาจะแขวนสตั๊ดกับ อตาลันต้า

 

หนึ่งปีหลังจากนั้น สคาโลนี่ ได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้ช่วยของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่เซบีย่า และเมื่อเจ้านายใหญ่ขยับไปรับงานคุมทีมชาติ สคาโลนี่ ก็ติดสอยห้อยตามไปช่วยงาน ซัมเปาลี เช่นกัน

 

ครั้นเมื่อ อาร์เจนติน่า ล้มเหลวกับฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซัมเปาลี ถูกเด้งพ้นไป สคาโลนี่ ก็ยังคงได้จับงานกับทีมชาติต่อ–ในฐานะกุนซือรักษาการร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และถัดมาก็ขึ้นคุมเดี่ยวๆ หลังจากนั้นไม่นาน

 

เอาเข้าจริง การนั่งเก้าอี้แบบ “ไร้ดีกรี” ไม่เคยคุมสโมสรใดมาก่อนเลย ทำให้ สคาโลนี่ ถูกปรามาสถึงฝีมือไว้เยอะ เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกเสียงครหาก็เปลี่ยนเป็นเสียงปรบมือ และดังสนั่นหวั่นไหวเสียด้วย

 

สคาโลนี่ กลายเป็น “คนที่ใช่” ของ อาร์เจนติน่า ไปเสียเฉยๆ ด้วยผลงานประจักษ์ชัดอย่างแชมป์โคปา อเมริกา 2021 แถมจากแมตช์สู่แมตช์ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี อาร์เจนติน่า ของ สคาโลนี่ ก็กลายเป็นเบอร์ 2 “สถิติโลก” ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 36 นัดทีเดียว

 

ต่อเมื่อแพ้ ซาอุดีอาระเบีย อย่างพลิกล็อก 1-2 ในเกมเปิดหัวฟุตบอลโลก 2022 แล้ว หลังจากนั้น อาร์เจนติน่า ในมือกุนซือหนุ่มวัย 44 ก็ไม่แพ้ใครอีก…จนกระทั่งผงาดครองแชมป์โลกที่รอคอยมา 36 ปี

 

นั่นเท่ากับว่า สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 43 นัดหลังสุด!

 

43 นัดล่า
ชนะ 29
เสมอ 13
แพ้แค่ 1 เกมถ้วน

 

ที่สำคัญ จากโค้ชมือใหม่หัดขับ ไม่ค่อยประสีประสาแท็กติกอะไรในช่วงแรกๆ คงถือได้ว่า สคาโลนี่ เป็นหนึ่งใน “จอมแท็กติก” ของวงการ และการตัดสินใจเลือกบางสิ่งของเขาก็มักได้ผล “ถูกต้อง” เสียด้วย

 

ไม่ว่าจะ
• เปลี่ยนทีม 5 ตำแหน่งจากเกมแพ้ ซาอุฯ จนชนะ เม็กซิโก 2-0
• เลือกใช้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ เป็นตัวจริงต่อเนื่อง
• วางเด็ก 21 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เป็นแกนกลาง
• ถอดและดร็อป เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลังผ่านไปเกมครึ่ง เปิดทางให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงไปสร้างชื่อ
• หย่อน 3 เซนเตอร์แบ็กลงไปรับมือ เนเธอร์แลนด์ แล้วยันอยู่จน 7 นาทีท้าย (ค่อยมาโดน 2 เม็ดหลังจากนั้น แต่ก็ยังชนะดวลจุดโทษ)
• ปรับระบบมาเน้นรุกอีกครั้งในรอบตัดเชือก แล้วก็อัด โครเอเชีย ขาด 3-0
• ใช้เสือเฒ่าอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ในนัดชิง เพื่อปั่นป่วนเกมรับฝั่งขวาของ ฝรั่งเศส โดยเฉพาะ และ ดิ มาเรีย ก็ทำงานได้อย่างสุดยอด เรียกจุดโทษ 1 ยิงเอง 1

 

การเลือกตัวและการวางหมากเหล่านี้ของ สคาโลนี่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญสู่แชมป์โลกของ อาร์เจนติน่า

 

ฉะนั้น ก็อาจพูดได้ว่า ถ้าไม่ได้โค้ชคนนี้ เมสซี่ ก็อาจไปไม่ถึงแชมป์โลก

 

เช่นกัน หากปราศจากจิ๊กซอว์ทั้ง 24-25 ชิ้นที่เหลือ–นอกจากชิ้นใหญ่สุดอย่าง เมสซี่ แล้ว ก็คงไม่มีทางที่ อาร์เจนติน่า จะไปถึงเส้นชัยได้

 

ฉะนั้น แน่นอนที่สุด แชมป์โลกครั้งนี้ที่อยู่มือฟ้าขาว เครดิตต้องเป็นของ “ทุกคน” — ในฐานะของ “ทีม”

 

ไกด์เถื่อน

 

แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 : ไม่ใช่แค่ 'เมสซี่' แต่แข้งฟ้าขาว 'ทุกคน' ล้วนสำคัญ!

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA
fbref.com

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter
GettyImages

 

เรื่องน่าอ่าน
แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022 …!?!
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : อาร์เจนติน่า เสมอ ฝรั่งเศส 3-3, ดวลจุดโทษ อาร์เจนติน่า ชนะ 4-2

 

“บ้าบอเป็นที่สุด” ใครบางคนหล่นนิยามถึงเกมนี้ไว้

 

แม้จะพอคาดเดาได้ถึงผลเสมอ แต่ก็ยากจะมีใครคาดคิดว่าตัวเลขสกอร์บอร์ดจะขยับขึ้นพรวดๆ แบบนี้ และต้องตัดสินกันแบบเอาอกแตะเส้นชัยในท้ายที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะว่า ฝรั่งเศส มีรูปเกมที่แย่ น่าส่ายหัวเป็นที่สุดถึงกว่า 70 นาที

 

นี่คือเกมประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

 

นัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 เกมที่ทำให้โลกได้รู้ซึ้งอีกครั้งว่า “ฟุตบอล” มันโคตรจะดราม่าและลุ้นระทึกกว่าหนังฮอลลีวู้ดเป็นไหนๆ…

 

เกมชิงแชมป์โลกที่ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ทีมฟ้าขาวในการดูแลของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ที่แพ้แค่เกมเดียวจาก 42 นัดหลัง จัดเต็มกำลังทัพลงแต่ปรับระบบจาก 4-1-3-2 มาเป็น 4-3-3 เมื่อได้ อังเคล ดิ มาเรีย ฟิตคืนตัวจริงมาเดิมเกมรุกร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ส่วนตรงกลาง เลอันโดร ปาเรเดส โดนดร็อป และแบ็กซ้ายยังยึด นิโกลัส ตายาฟิโก้ ลงต่อแม้ มาร์กอส อคุนย่า จะพ้นแบนแล้วก็ตาม

 

ฝั่งแชมป์เก่าของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ที่เข้าชิงบอลโลกถึง 4 จาก 7 ทัวร์นาเมนต์หลัง มาด้วย 11 คนแรกชุดเดิมทั้งสิ้น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บติดตัว พร้อมกับที่ อาเดรียง ราบิโอต์ และ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ หายป่วยกลับคืนตำแหน่ง เช่นเดียวกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ ลงตามเดิม

 

เริ่มเกมขึ้น 5 นาที อาร์เจนติน่า ได้ทักทายก่อนจากลูกส่องไกลเต็มข้อของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ บอลพุ่งแรงเข้าหากรอบประตู แต่ก็เข้าซอง อูโก้ โยริส แบบไม่กระฉอก

 

ช่วงสิบนาทีแรกเป็น อาร์เจนติน่า ที่ครองบอลลุยเข้าใส่ก่อน โดยช่วงนาทีที่ 9 เกมต้องหยุดลงชั่วครู่ หลัง คริสเตียน โรเมโร่ เข้าปะทะแบบทิ่มศอกใส่กลางลำตัว อูโก้ โยริส จนนายด่านตราไก่ล้มลงไปกอง แต่ปฐมพยาบาลแล้วก็เล่นต่อได้ตามปกติ

 

นาที 20 เพิ่งเป็นโอกาสแรกของ ฝรั่งเศส จากฟรีคิกข้างเขตโทษ อองตวน กรีซมันน์ เปิดให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โถมโขกที่เสาไกลข้ามคานไป แต่ก็มีเสียงนกหวีดเป่าฟาวล์หัวหอกตราไก่ดังขึ้นมาด้วย

 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

แต่เพียงนาทีเดียวถัดมา ฝรั่งเศส ก็งานเข้าเสียดื้อๆ อังเคล ดิ มาเรีย ล็อกหลบ อุสมัน เดมเบเล่ ที่สุดเส้นหลังซ้ายแล้วโดน เดมเบเล่ ตามมารวบจากด้านหลัง ผู้ตัดสิน ซิมอน มาร์ซิเนี้ยค จากโปแลนด์ เป่าจุดโทษทันทีอย่างมั่นใจ และ ลิโอเนล เมสซี่ ก็รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าเสียบเสาอย่างมั่นใจเช่นกัน ส่ง อาร์เจนติน่า ขึ้นนำ 1-0 เร็วในนาทีที่ 23 ซึ่งก็ทำให้ เมสซี่ ขึ้นนำดาวซัลโวแล้วที่ 6 ประตู

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

จากนั้น ฝรั่งเศส พยายามตั้งเกมสู้ แต่ยังไม่ทันได้มีโอกาสยิงครั้งแรกสกอร์ก็ขยับขึ้นเป็น 2-0 ของ อาร์เจนติน่า เสียแล้วในนาที 37 จังหวะสวนเร็ว เมสซี่ แปะออกขวาให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ทิ่มขึ้นหน้าให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ปาดต่อไปเสาไกลถึง อังเคล ดิ มาเรีย ยิงไม่จับสวนตัว โยริส เข้าไปอย่างเฉียบคม ฟ้าขาวทิ้ง 2-0 ตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

โดนไปสองเม็ด เดส์ชองส์ ปรับเกมส่งสำรองกองหน้า 2 คนรวดทันทีในนาที 41 ถอดทั้ง ชิรูด์ กับ เดมเบเล่ ออกให้ มาร์คุส ตูราม กับ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ลงไปแทน หวังแก้คืนให้เร็วที่สุด

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ท้ายครึ่งแรกและทดเจ็บ 7 นาที ฝรั่งเศส เกมกระเตื้องขึ้นบ้างแต่ก็ยังหาโอกาสเจาะแนวรับฟ้าขาวไปลุ้นสกอร์ไม่ได้ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ แทบไม่ได้ออกจอ จนสิ้นครึ่งแรกลงไปที่ อาร์เจนติน่า นำห่าง 2-0 ขึ้นแท่นรอชูถ้วยแชมป์โลกตั้งแต่ตรงนี้

 

ต่อครึ่งหลังยังไม่มีเปลี่ยนตัวเพิ่ม เกมของ ฝรั่งเศส ไม่ได้ดีขึ้นหรือคุมสถานการณ์อะไรมากมาย รวมถึงว่าไม่ได้สร้างอันตรายอะไรให้ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ต้องหนักใจหรือออกแรงเซฟไว้ด้วย ตัวความหวังสูงสุดอย่าง เอ็มบัปเป้ ยังเงียบฉี่ บางจังหวะมีจ่ายติดเองก็มี

 

ครบชั่วโมง ฝรั่งเศส ยังมีโอกาสจบเป็นศูนย์ ผิดกับ อาร์เจนติน่า ที่ลุยขึ้นไปได้เสียว 2-3 หน จนนาที 64 สคาโลนี่ ขยับส่งสำรองลงคนแรก มาร์กอส อคุนย่า ลงไปเติมเกมรับแทน ดิ มาเรีย

 

นาที 68 ฝรั่งเศส ได้จบหนแรกจากเตะมุม ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ โขกโดนไม่ดีหลุดกรอบไปไม่ใกล้เคียง และต่อมาอีกสามนาที เอ็มบัปเป้ สบโอกาสส่องด้วยซ้าย ข้ามคานไป เป็นจังหวะซัดแรกของเขาในเกมนี้

 

จากนั้น เดส์ชองส์ เปลี่ยนเพิ่มอีกสอง คิงสลี่ย์ โกม็อง กับ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ลงแทน อองตวน กรีซมันน์ กับ เตโอ เอร์นันเดซ ตามลำดับ

 

แต่แล้วจากเกมที่ดูไม่มีอะไร ฝรั่งเศส ก็มาได้จุดโทษคืนบ้างในนาที 79 เมื่อ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ไปเหนี่ยว ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ล้มลง ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษคืนให้ตราไก่ ซึ่งก็เป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กดเสียบมุมไม่พลาด ไล่มากระชั้น 1-2 และเป็นเม็ดที่ 6 เท่ากับ เมสซี่ 

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

แล้วก็กลายเป็นว่า ฝรั่งเศส กลับสู่เกมได้ทันทีด้วยประตูตีเสมอ 2-2 ในอีกสองนาทีให้หลัง คิงสลี่ย์ โกม็อง เบียดชนะแย่งบอลจาก เมสซี่ ได้ที่ฝั่งขวา แล้วถ่ายให้ ราบิโอต์ เคาะขึ้นหน้า เอ็มบัปเป้ โขกทำชิ่งกับ มาร์คุส ตูราม จนทะลุขึ้นทางซ้ายแล้วล้มตัวยิงวอลเลย์เร็วจังหวะเดียว บอลพุ่งผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ เข้าเสาไกลพอดิบพอดี ฝรั่งเศส กลับสู่เกมด้วยประตูที่ 7 ของ เอ็มบัปเป้ ในรายการนี้

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ถึงทดเจ็บ 90+4 ฝรั่งเศส หวิดแซงนำด้วยจากจังหวะซัดของ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ติดเซฟ มาร์ติเนซ ที่เสาแรก ขณะที่ อาร์เจนติน่า ก็มีลุ้นตอน 90+7 เมสซี่ ใส่เต็มข้อด้วยซ้าย ติดปลายมือ อูโก้ โยริส นิดเดียว ส่งผลให้ 90 นาทีจบลงอย่างสนุก 2-2 และต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อตัดสิน

 

เข้าช่วงต่อเวลา สคาโลนี่ ถอด นาอูเอล โมลิน่า ออกให้ กอนซาโล่ มอนเทียล ลงคุมเกมรับริมเส้นขวาแทน และรูปเกมกลายเป็นเหมือนช่วงครึ่งชั่วโมงท้าย ที่ ฝรั่งเศส ครองบอลคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า ขาดก็แต่จังหวะลุ้นสกอร์เหมาะๆ

 

เข้าครึ่งหลังต่อเวลาได้แว้บเดียว นาที 109 กลายเป็น อาร์เจนติน่า นำอีกหน 3-2 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แทงให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หลุดเข้าทางขวาไปส่องเต็มแรงติดเซฟ โยริส แต่บอลเด้งมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงข้ามเส้นประตูเข้าไปแม้มี ชูลส์ กุนเด้ ควักออกมาก็ตาม และเช็กวีเออาร์แล้วไม่ล้ำหน้า อาร์เจนติน่า เฮสนั่น 3-2

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

อย่างไรก็ตาม อีกอึดใจเดียวถัดมา นาที 116 ฝรั่งเศสก็มาได้จุดโทษที่สอง เอ็มบัปเป้ ยิงไปชนแขน กอนซาโล่ มอนเทียล ผู้ตัดสินชี้จุดโทษแฮนด์บอล ซึ่งก็เป็น เอ็มบัปเป้ คว้าลูกมาสังหารเองอย่างมั่นใจเบียดเสาเข้าไปแบบไม่เผื่อให้ลุ้น ตีเสมอ 3-3 เป็นแฮตทริกพร้อมลูกที่ 8 ของ เอ็มบัปเป้

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ทดเจ็บต่อเวลา 120+3 ตราไก่เกือบแซงเข้าป้าย ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ หลุดเข้าส่องเน้นๆ ติดซูเปอร์เซฟ เอมี่ มาร์ติเนซ ไม่น่าเชื่อ และฟ้าขาวสวนไปก็ถึงจบ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้โหม่งในจุดอันตรายแต่โดนไม่ดีจนหลุดกรอบไปเอง สุดท้าย 120 นาทีจบอย่างสุดตื่นเต้น 3-3 ต้องชี้ขาดแชมป์โลกด้วยการดวลจุดโทษ

 

ถึงจุดโทษ อูโก้ โยริส เสี่ยงทายชนะเลือกยิงก่อน
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงเข้าไปแม้ มาร์ติเนซ จะพุ่งถึงแต่ปัดไม่ออก 1-0
ลิโอเนล เมสซี่ กดเรียดเข้าไปโดยที่ โยริส มาไม่ถึงแค่เสี้ยววินาที 1-1
คิงสลี่ย์ โกม็อง ซัดติดเซฟ มาร์ติเนซ เต็มๆ 1-1
เปาโล ดีบาล่า ส่องด้วยซ้ายเข้ากลางประตู 1-2
ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ตะบันหลุดเสาไปเอง 1-2
เลอันโดร ปาเรเดส กดเสียบมุมไม่พลาด 1-3
ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงเสยแสกกลาง 2-3
และ กอนซาโล่ มอนเทียล สังหารนำชัยเข้ามุมประตู 4-2

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

อาร์เจนติน่า ชนะดวลจุดโทษ 4-2 ครองแชมป์โลกสมัย 3 ที่ห่างหายมา 36 ปี หรือตั้งแต่ 1986 และ ลิโอเนล เมสซี่ ไปถึงโทรฟี่แชมป์โลกที่ตามหามาทั้งชีวิต ในเกมสุดท้ายที่ลงเล่นฟุตบอลโลกสำหรับตัวเขา

 

สำหรับ ฝรั่งเศส มีรางวัลปลอบใจแค่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้รองเท้าทองคำ ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 จากการซัดไป 8 ประตูด้วยกัน

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-3-3) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นิโกลัส ตายาฟิโก้ (เปาโล ดีบาล่า 120), นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า (กอนซาโล่ มอนเทียล 91) – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรดริโก้ เด ปอล (เลอันโดร ปาเรเดส 102), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เคร์มัน เปซเซลล่า 116) – อังเคล ดิ มาเรีย (มาร์กอส อคุนย่า 64), ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 102), ลิโอเนล เมสซี่
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ (เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า 71), ราฟาแอล วาราน (อิบราฮิมา โกนาเต้ 113), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ชูลส์ กุนเด้ (อักเซล ดิซาซี่ 120) – อาเดรียง ราบิโอต์ (ยุสซูฟ โฟฟาน่า 96), ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่ (มาร์คุส ตูราม 41), อองตวน กรีซมันน์ (คิงสลี่ย์ โกม็อง 71), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ 41)

 

 

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ลงเตะฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวน 7 นัด เมสซี่ คว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ 5 หน ที่เหลือเป็นของ โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส (ของซาอุฯ) นัดแพ้ซาอุฯ กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นัดชนะโปแลนด์
• 5 แมนออฟเดอะแมตช์ ยังสูงสุดในฟุตบอลโลก 2022 รองจากนั้นคือ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ 3
• เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติ 17 ประตูจากการลงสนามแค่ 11 นัดหลัง เป็นในฟุตบอลโลก 2022 เจ็ดประตู
• เมสซี่ ยึดสถิติดาวซัลโวสูงสุดของอาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก แทนที่ กาเบรียล บาติสตูต้า ด้วยการยิงไป 13 ประตู
• เมสซี่ เป็นคนที่ 9 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และบัลลง ดอร์ ได้ในเส้นทางอาชีพ ร่วมกับ ตำนานอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน, แกร์ด มุลเลอร์, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า

 

• เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ “ครบทุกรอบ” ตั้งแต่รอบแรกยันนัดชิง ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
• เมสซี่ ได้แชมป์โลกในการเล่นเกมอาชีพนัดที่ 1,003 ของตัวเอง แบ่งเป็น 778 กับบาร์เซโลน่า, 172 กับอาร์เจนติน่า และ 53 กับเปแอสเช
• เมสซี่ ทำสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย สูงสุดเป็นจำนวน 26 เกม ตั้งแต่ 2006 – 2022 เหนือกว่า โลธ่าร์ มัทเธอุส 25, มิโรสลาฟ โคลเซ่ 24, เปาโล มัลดินี่ 23 และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 22

 

• ลิโอเนล สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 43 นัดหลังสุด (รวมทำทีม 57 นัด ชนะ 37 เสมอ 15 แพ้ 5)
• สคาโลนี่ เป็นกุนซือแชมป์โลกที่วัยอ่อนเยาว์สุด 44 ปี 216 วัน
• ที่จริง งานทำทีมอาร์เจนติน่า ก็คืองานใหญ่จ๊อบแรกสุดของ สคาโลนี่ หลังแขวนสตั๊ดกับ อตาลันต้า ปี 2015 แล้วมาเป็นผู้ช่วยของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ทั้งที่ เซบีย่า และในทีมชาติอาร์เจนติน่า (ฟุตบอลโลก 2018) รวมถึงเคยได้คุมอาร์เจนฯ เยาวชนยู-20 มาก่อนเท่านั้น

 

• อังเคล ดิ มาเรีย เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถยิงประตูได้ทั้งในนัดชิงโคปา อเมริกา และฟุตบอลโลก
• ตอนหมดครึ่งแรก อาร์เจนติน่า ข่มขาดด้วยโอกาสยิงรวม 6:0 และยิงตรงกรอบ 3:0 รวมถึงเตะมุม 2:0 ด้วย
• ตลอด 120 นาที อาร์เจนติน่า สร้างโอกาสยิงรวม 20 ครั้ง ตรงกรอบ 10 ส่วน ฝรั่งเศส 10/5

 

• อาร์เจนติน่า หยุดสถิติแย่ๆ อย่างการแพ้นัดชิงบอลโลกไว้ที่ 2 หนติด 1990 กับ 2014
• อาร์เจนติน่า เป็นรายที่ 2 ที่แพ้เกมแรกแล้วครองแชมป์ในท้ายที่สุด ถัดจาก สเปน 2010
• อาร์เจนติน่า ตอกย้ำการเป็นราชาดวลเป้า King of penalty shoot-outs ด้วยการชนะดวลจุดโทษเป็นครั้งที่ 6 เหนือกว่าทุกทีมในโลก และเคยแพ้มาแค่หนเดียวเท่านั้น
3-2 ยูโกสลาเวีย, 8 ทีม 1990
4-3 อิตาลี, ตัดเชือก 1990
4-3 อังกฤษ, 16 ทีม 1998
4-2 เนเธอร์แลนด์, ตัดเชือก 2014
4-3 เนเธอร์แลนด์, 8 ทีม 2022
4-2 ฝรั่งเศส, ชิงชนะเลิศ 2022
(แพ้ เยอรมนี 2-4, 8 ทีม 2006)

 

• ฝรั่งเศส เป็นเพียงทีมที่ 2 ที่ตามหลัง 0-2 ในนัดชิงชนะเลิศ แล้วกลับมาได้ ถัดจาก เยอรมนี ที่ทำไว้สองหนในปี 1954 และ 1986
• คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำแฮตทริกในนัดชิงชนะเลิศเป็นคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ถัดจาก เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ ของอังกฤษ 1966
• เอ็มบัปเป้ คว้าดาวซัลโวด้วยการยิงไป 8 ประตู สูงสุดนับแต่ โรนัลโด้ (บราซิล) 2002
• ออเรเลียง ชูอาเมนี่ วิ่งรวม 15.8 กม. ในเกมนี้ ก่อนมายิงจุดโทษและซัดออกไปเอง
• อูโก้ โยริส กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากสุด ที่จำนวน 20 นัด เหนือ มานูเอล นอยเออร์ 19 และ เซปป์ ไมเออร์ 18

แชมป์โลกสุดดราม่า! อาร์เจนติน่า ชนะดวลเป้า ฝรั่งเศส ผงาดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

 

ปากคำหลังเกม อาร์เจนติน่า ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส
ลิโอเนล สคาโลนี่ : “ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ผมอาจรู้สึกตื่นเต้นน้อยกว่าวันอื่นๆ แต่วันนี้ผมได้รับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่”
“ทีมชุดนี้ทำให้ผมภาคภูมิใจเป็นที่สุด ความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นของพวกเขา ผมอยากบอกทุกคนว่ามีความสุขให้เต็มที่ เพราะนี่คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์”

 

ลิโอเนล เมสซี่ : “นี่คือแชมป์ที่ขาดหายไปของผม ตอนนี้ผมได้มาครองแล้ว มันบ้ามากๆ ตอนนี้ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะกลับไปฉลองแชมป์ที่ประเทศของผม เพื่อพบเจอกับความบ้าคลั่งของที่นั่น”
“เราเจอกับความยากลำบากมากมาย วันนี้คุณต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่บ้าคลั่งมาก การคว้าแชมป์โลกเป็นความฝันของเด็กๆ ทุกคน นี่คือแชมป์สำหรับประชาชนชาวอาร์เจนไตน์”

 

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ : “ที่จริง เราเอาเกมมาอยู่ในการควบคุมได้แล้ว แต่ทีมของเรากลับถูกกำหนดให้ต้องเจอกับความยากลำบากอย่างแสนสาหัส ฝรั่งเศสเกือบทำประตูชัยได้เช่นกัน แต่ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรามาอยู่ตรงนี้”
“ฟุตบอลโลกเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันถึงมาตลอด ตอนนี้ผมไม่มีคำพูดมาอธิบายถึงความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นกับผมในเวลานี้ได้เลย”

 

ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ : “เราไม่ได้พลิกสถานการณ์ (ในช่วง 70 นาทีแรก) ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่างตลอด 4 วันที่ผ่านมา อาการป่วยและจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมด้วย”

 

อูโก้ โยริส : “เราตอบสนองได้ดีมาก มันเกือบจะเหมือนการแข่งขันชกมวย เราแลกกันหมัดต่อหมัด สิ่งเดียวที่เราเสียใจคงเป็นผลงานในครึ่งแรก แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเราก็ยังไม่ยอมแพ้ เราเชื่อมั่นไปจนจบ มันเป็นการตัดสินผู้ชนะจากการดวลจุดโทษ”
“มันเป็นเรื่องเจ็บปวดเสมอเมื่อต้องมาอยู่อีกฝั่ง (ของผู้ชนะ) แต่เราทุ่มเททุกอย่างลงไปในรายการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการแข่งขัน มันเป็นการแข่งขันที่ยาวนานนับเดือน”
“ในรอบชิงชนะเลิศ เราสามารถตามหลัง 0-2 ได้ แต่เรายังคงเชื่อมั่นไปจนจบ เราสามารถพลิกสถานการณ์ แต่มันกลับไม่มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะโอกาสในนาที 120 (ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ยิงติดเซฟ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ) ซึ่งน่าจะทำให้เราพลิกนำ 4-3”
“มันคือฟุตบอล เราต้องยินดีกับอาร์เจนติน่าที่ประสบความสำเร็จในรายการที่ยอดเยี่ยม รอบชิงชนะเลิศที่ยอดเยี่ยม”

 

ราฟาแอล วาราน : “แน่นอน เราผิดหวังกันมาก เราทุ่มเทกันเต็มที่แล้ว เราเจอกับอุปสรรคมากมายตลอดที่ลงเล่นรายการนี้ เราไม่เคยเอามาเป็นข้ออ้างหรือยอมแพ้ เราไม่ได้อยู่ในเกมนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ท้ายสุดเราน่าจะชนะ ผมภูมิใจกับกลุ่มนี้และการเป็นคนฝรั่งเศสมาก”
“เราจะรักษาความภาคภูมิใจนี้ไว้ มัน (การตามหลัง 0-2) เกิดขึ้นรวดเร็วมาก หลังจากนั้นสภาพร่างกายเราดีขึ้นกว่าเดิม เราดันกลับและเชื่อมั่นไปจนจบเกม เราเกือบจะเปลี่ยนเกมได้แล้วหลังจากมีการออกตัวที่แย่”
“มันเป็นการเดินทางที่คดเคี้ยว แต่ทีมนี้มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความห้าวหาญ นั่นทำให้เรากลับมาสู่เกม เราผิดหวังแต่มีความภาคภูมิใจในตัวเองมาก”

 

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 3-3 (4-2) ฝรั่งเศส
• 6 ประตูที่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ กาตาร์ 2022 กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำประตูกันได้มากที่สุด 172 ลูก ทำลายสถิติของ ฟร้องซ์ 98 และ บราซิล 2014 ที่มียิงกัน 171 ประตู
• ดาวบนโลโก้ทีมชาติอาร์เจนติน่า จะเพิ่มขึ้นเป็นดวงที่ 3 ตามจำนวนแชมป์โลกที่ได้มา 3 สมัย
• ลิโอเนล เมสซี่ ยืนยันยังไม่มีแผนอำลาทีมชาติในเร็วๆ นี้ แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่า ต่อให้ลากยาวขนาดไหนก็ไปไม่ถึงฟุตบอลโลกครั้งหน้า 2026 ที่สหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา

• ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เผยจะขอตัดสินอนาคต อยู่หรือไปจากทีมชาติฝรั่งเศส หลังผ่านช่วงปีใหม่นี้ไปแล้ว ภายหลังคุมมาตั้งแต่ 2012 ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่มา 5 ครั้ง

 

ทำเนียบแชมป์โลก ตลอดหน้าประวัติศาสตร์
1930 อุรุกวัย
1934 อิตาลี
1938 อิตาลี
1950 อุรุกวัย
1954 เยอรมนีตะวันตก
1958 บราซิล
1962 บราซิล
1966 อังกฤษ
1970 บราซิล
1974 เยอรมนีตะวันตก
1978 อาร์เจนติน่า
1982 อิตาลี
1986 อาร์เจนติน่า
1990 เยอรมนีตะวันตก
1994 บราซิล
1998 ฝรั่งเศส
2002 บราซิล
2006 อิตาลี
2010 สเปน
2014 เยอรมนี
2018 ฝรั่งเศส
2022 อาร์เจนติน่า

 

ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022
8 ประตู : คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)
7 ประตู : ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
4 ประตู : ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (อาร์เจนติน่า), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ฝรั่งเศส)
3 ประตู : ริชาร์ลิซอน (บราซิล), บูกาโย่ ซาก้า (อังกฤษ), มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ), อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน), เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์), โคดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์), กอนซาโล่ รามอส (โปรตุเกส)

 

รางวัลต่างๆ ของฟุตบอลโลก 2022
นักเตะยอดเยี่ยม
Golden Ball – ลิโอเนล เมสซี่
Silver Ball – คีลิยัน เอ็มบัปเป้
Bronze Ball – ลูก้า โมดริช

 

ดาวซัลโว
Golden Boot – คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (8 ประตู 2 แอสซิสต์)
Silver Boot – ลิโอเนล เมสซี่ (7 ประตู 3 แอสซิสต์)
Bronze Boot – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (4 ประตู 0 แอสซิสต์)

 

ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม Golden Glove – เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม FIFA Young Player Award – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
แฟร์เพลย์ FIFA Fair Play Trophy – ทีมชาติอังกฤษ

 

ไกด์เถื่อน

 

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs ฝรั่งเศส : ใครจะครองบัลลังก์แห่ง ฟุตบอลโลก 2022 …!?!
โครเอเชีย ปราบ โมร็อกโก 2-1 ซิวอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

บทสรุปรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 : อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย

เดินทางมาถึงคู่แรกของรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022 ในช่วงดึกคืนวันอังคาร 13 ธ.ค. ท่ามกลางการจับตาของคอบอลทั่วทั้งโลก

 

แน่อยู่แล้วว่า อาร์เจนติน่า เป็นฝ่ายเหนือกว่า โครเอเชีย

 

แต่บางฝ่าย–โดยเฉพาะคนโครแอตและกองเชียร์ตาหมากรุก ก็ยังเชื่อว่า ภายหลังชนะดวลจุดโทษมา 2 รอบติด ก็ “มีลุ้น” จะเฮต่อเนื่องเป็นรอบ 3 ไม่ว่า อาร์เจนติน่า จะเต็งมาจากไหนก็เถอะ

 

อย่างน้อยก็ ลูก้า โมดริช คนนึง – “ผมว่าเรา (โครเอเชีย) มีดีเอ็นเอแบบเดียวกันกับ เรอัล มาดริด ที่ไม่ยอมแพ้และสู้จนวินาทีสุดท้ายของเกม เราพร้อมกับทุกสถานการณ์ เพราะเราเตรียมตัวมาดี และผมคิดว่ามันจะเพียงพอที่ทำให้เราเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ”

 

กระนั้น สิ่งที่ปรากฏขึ้นจริง ณ ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ก็กลายเป็นว่า โครเอเชีย สิ้นท่า ไม่เหลือลายรองแชมป์เก่า

 

มาถึงตัดเชือกบอลโลก 3 หน…ร่วงที่รอบนี้ 2 ครั้ง

 

แม้ทรงจะไม่ถึงกับแบ๊ด แต่ก็แซดอย่างบ่อยเหมือนกันแฮะ…

 

แมตช์ตัดสินใครจะเช้าชิงแชมป์โลก ใครจะได้แค่ชิงเหรียญทองแดงปลอบใจ ระหว่าง อาร์เจนติน่า กับ โครเอเชีย เริ่มต้นขึ้นพร้อมการปรับหมากอีกครั้งของ ลิโอเนล สคาโลนี่ ที่เปลี่ยนระบบใช้ 4-1-3-2 หรือ 4-4-2 อัดแดนกลางแน่นด้วย 4 มิดฟิลด์ ต่างไปจากนัดก่อน (ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์) ที่ใช้ 5-3-2 ลงสู้ ด้าน ซลัตโก้ ดาลิช มาด้วยทีมเดิม นำโดย 3 แผงกลางตัวท็อป ลูก้า โมดริช – มาเตโอ โควาซิช – มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

15 นาทีแรกเกมยังตึงๆ ต่างฝ่ายต่างดูเชิงกันก่อน ทำให้ไม่มีโอกาสจบสกอร์แม้แต่ครั้งเดียว โครเอเชีย ครองเกมดีกว่าเล็กน้อย แต่ยังหาโอกาสเหมาะๆ ในการเข้าทำไม่สำเร็จ

 

นาที 25 เป็นโอกาสจบแรกของเกม เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ลองส่องปั่นโค้งๆ ด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้าหาเสาและไม่ผ่านมือ โดมินิก ลิวาโควิช ที่แม้จะตะปบไม่อยู่แต่ก็ไม่มีดาบสองจากทีมฟ้าขาว

 

นาทีถัดมา โครเอเชีย ต่อเกมสวนขึ้นไปได้สวยจน อันเดรจ์ ครามาริช โดนชนล้มเป็นฟรีคิกเยื้องขวาระยะ 30 หลา แต่ ลูก้า โมดริช เลือกเปิดขึ้นหน้าโดนโขกสกัดออกมาไม่มีอะไร

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

แต่แล้วจู่ๆ นาที 32 ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญเมื่อ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ได้บอลตักข้ามแผงหลังมาให้ทะลุเข้าเขตโทษแล้วแตะหนี โดมินิก ลิวาโควิช ก่อนโดนชนล้ม ผู้ตัดสินชี้จุดโทษแบบไม่เช็กวีเออาร์ แถมให้ใบเหลืองนายประตูโครแอต ซึ่งก็เป็น ลิโอเนล เมสซี่ นั่นเองที่หยิบบอลมาสังหารด้วยซ้ายเสยเพดานตาข่ายอย่างเฉียบคม อาร์เจนติน่า ขยับนำ 1-0 ในนาที 34 เป็นประตูที่ 5 ของ เมสซี่ ส่งให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้

 

ทั้งนี้ มาริโอ มานด์ซูคิช อดีตดาวยิงโครเอเชีย ที่มาในฐานะสตาฟฟ์โค้ชทีมหมากรุก โดนใบแดงไล่ออกไปจากข้างสนามด้วย ข้อหาประท้วงหนัก

 

แล้วเมื่อตั้งเกมเล่นกันใหม่ สกอร์ก็ไหลขึ้น 2-0 เสียดื้อๆ อีก จากจังหวะเตะมุมของโครเอเชียเองที่โดนสวนเร็ว ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กระชากลุยเดี่ยวขึ้นหน้ามาจนจุดอันตราย ปรากฏว่าทั้ง โยซิป ยูราโนวิช และ บอร์นา โซซ่า กลับสกัดบอลแป้กๆ งัดไม่ออก สุดท้ายยังคงเข้าทาง อัลวาเรซ ดีดผ่าน ลิวาโควิช เข้าไปง่ายๆ 2-0 ในนาที 39

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

สกอร์ยังเกือบขยับเป็น 3-0 ด้วยในจังหวะเตะมุมนาที 43 บอลเปิดมาตรงกลางเข้าหัว อัลวาเรซ โขกเปลี่ยนทางจังๆ ส่งลูกกำลังจะข้ามเส้น ลิวาโควิช ยังแสดงปฏิกิริยาชั้นยอดสปริงตัวปัดพ้นไปได้อย่างหวุดหวิด

 

จากนั้นครึ่งแรกจบลงไปแบบงงๆ โครเอเชีย ตามหลัง อาร์เจนติน่า 0-2 ทั้งที่ก็ไม่ได้เล่นเป็นรองอะไรนักตลอดครึ่งเวลา

 

ต่อครึ่งหลัง ซลัตโก้ ดาลิช ปรับส่งสำรอง 2 รายรวดทันที นิโกล่า วลาซิช กับ มิสลาฟ ออร์ซิช ลงไปแทน มาริโอ ปาซาลิช กับ บอร์นา โซซ่า ที่มีส่วนผิดพลาดในประตูที่สอง ไม่เท่านั้น เล่นไป 5 นาทีก็เสริมกองหน้า บรูโน่ เพ็ตโควิช ลงมาแทนกลางรับ มาร์เซโล่ โบรโซวิช

 

เกมของ โครเอเชีย ยกระดับขึ้นทันตา เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่แบบพับสนามในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ปัญหาก็คือยังคงสร้างโอกาสจะแจ้งไม่สำเร็จ ทั้งยังเป็น อาร์เจนติน่า ด้วยที่เกือบได้เฮหนสาม จังหวะสวนนาที 58 เมสซี่ ทำชิ่งกับเพื่อนจนทะลุเข้าไปทางซ้ายแล้วกดกะยัดเสาแรก ไม่ผ่านเซฟ ลิวาโควิช

 

ผ่านนาที 62 ลิโอเนล สคาโลนี่ กะเอาชัวร์แล้วด้วยการส่ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงไปอุดเกมรับ พร้อมปรับระบบเป็น 3 เซนเตอร์แบ็ก 5-3-2 แม้จนป่านนี้ โครเอเชีย ยังยิงไม่ตรงกรอบเลยสักครั้งก็ตาม

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

แล้วถึงนาที 69 เกมก็ปิดสนิท ด้วยสกอร์ 3-0 ของอาร์เจนติน่า เมสซี่ เลี้ยงเลาะที่สุดเส้นหลังขวาโดยที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เอาไม่อยู่ เมสซี่ จ่ายเข้าไปให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กดด้วยขวาส่งลูกผ่าน ลิวาโควิช เข้าไปไม่เหลือซาก 3-0 ด้วยสองเม็ดของกองหน้าจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

นาที 73 โครเอเชีย ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ อีวาน เปริซิช ยิงเข้าข้อส่งลูกเข้าหาโคนเสา แต่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ก็ล้มดักไว้อยู่แล้ว เป็นการยิงตรงกรอบหนแรกของทีมตาหมากรุกเกมนี้

 

ล่วงเข้าสิบนาทีท้าย โครเอเชีย พยายามเปิดเกมแลกหมัดสุดกำลัง แต่ก็ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาไม่เข้าถึงจุดตายฟ้าขาวจริงๆ จังๆ สุดท้ายเกมจบลง อาร์เจนติน่า ชนะขาด 3-0 ล้างแค้นคืนอย่างเบ็ดเสร็จจากฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งโครเอเชียเอาชนะพวกเขาด้วยสกอร์นี้ในรอบแรก

 

สำหรับ อาร์เจนติน่า เข้าไปรอชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 เป็นทีมแรก โดยต้องรอดูว่าระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โมร็อกโก ใครจะตามเข้ามาช่วงชิงโทรฟี่ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ กับพวกเขา

 

รายชื่อผู้เล่นและสถิติที่สำคัญ
อาร์เจนติน่า (4-1-3-2) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นิโกลัส ตายาฟิโก้, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า (ฮวน ฟอยธ์ 86) – เลอันโดร ปาเรเดส (ลิซานโดร มาร์ติเนซ 62) – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (อังเคล กอร์เรอา 86), เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, โรดริโก้ เด ปอล (เอเซเกล ปาลาซิออส 74) – ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ (เปาโล ดีบาล่า 74), ลิโอเนล เมสซี่
โครเอเชีย (4-3-3) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า (มิสลาฟ ออร์ซิช 46), ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช (บรูโน่ เพ็ตโควิช 50), ลูก้า โมดริช (ลอฟโร มาเยอร์ 81) – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช (มาร์โก ลิวาย่า 72), มาริโอ ปาซาลิช (นิโกล่า วลาซิช 46)

 

• ที่จริง ครึ่งแรก โครเอเชีย จ่ายบอลได้มากกว่าด้วย 298:182 ครั้ง แต่ไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบเลย ส่วน อาร์เจนฯ ยิงเข้ากรอบ 4 ครั้งได้มา 2 ประตู
• ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงประตูที่ 4 ในเวิลด์คัพหนนี้ และเป็นเม็ดที่ 7 จากการเล่นทีมชาติ 18 นัด
• หลายฝ่ายมองว่า จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมคือจุดโทษที่ ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ เป่าให้กับ อาร์เจนติน่า ในจังหวะที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ชนเข้ากับ โดมินิค ลิวาโควิช ซึ่งผู้ตัดสินบางคนอาจปล่อยผ่าน
แกรี่ เนวิลล์ : “มันไม่มีทางเป็นจุดโทษได้เลย”
เอียน ไรท์ : “พวกเขาไม่เช็ควีเออาร์ ผมไม่เข้าใจว่าทำไม สำหรับผมมันไม่ใช่จุดโทษ”
รอย คีน : “ผมเห็นด้วยกับพวกเขา มันไม่ใช่จุดโทษสำหรับผม”

 

• โครเอเชีย ร่วงรอบตัดเชือกด้วยการแพ้เป็นนัดแรกของการเล่นฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงแพ้เกมแรกหลังไม่แพ้ใครมา 11 เกมซ้อน
• โครเอเชีย ยังต้องเฝ้าฝันถึงแชมป์โลกต่อไป ถัดจากการเป็นอันดับสาม ฟร้องซ์ 98, รองแชมป์โลก 2018 และอันดับ 3-4 กาตาร์ 2022
• นี่คือความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดของ โครเอเชีย ในการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ถัดจากที่แพ้ บราซิล กับ เม็กซิโก 1-3 ในรอบแรกของปี 2014 และแพ้ ฝรั่งเศส 2-4 นัดชิงปี 2018

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

• แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่
• อาร์เจนติน่า ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 เป็นนัดที่ 6 เมสซี่ คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ไปซะ 4 เกม
• เมสซี่ กดประตูที่ 5 ขึ้นนำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ พร้อมกับทำ 3 แอสซิสต์ สูงสุดเทียบเท่า อองตวน กรีซมันน์, แฮร์รี่ เคน, บรูโน่ แฟร์นันเดส
• เมสซี่ ยิงรวมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเพิ่มเป็น 11 ประตู แซงหน้า กาเบรียล บาติสตูต้า ในการเป็นนักเตะอาร์เจนไตน์ยิงได้มากสุดในบอลโลก
• เมสซี่ ทำแอสซิสต์มากสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลกเทียบเท่า ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่ 8 แอสซิสต์
• เมสซี่ มีส่วนร่วมกับถึง 19 ประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (11 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์) เป็นสถิติมากสุดเท่ากับ มิโรสลาฟ โคลเซ่, โรนัลโด้ และ แกร์ด มุลเลอร์ นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในปี 1966 เป็นต้นมา

• เมสซี่ ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นนัดที่ 25 เป็นสถิติมากสุดเทียบเท่า โลธ่าร์ มัทเธอุส ตำนานแข้งทีมชาติเยอรมนี
• เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ “ทั้งยิงทั้งจ่าย” (ประตู+แอสซิสต์) ในนัดเดียวเป็นจำนวน 4 นัด โดยนัดแรกทำได้ในเกมพบ เซอร์เบีย ฟุตบอลโลก 2006 ส่วน 3 นัดเป็นฟุตบอลโลกหนนี้ที่พบ เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์ และ โครเอเชีย
• เมสซี่ ยิงหรือจ่ายในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 13 นัด เป็นสถิติมากสุดเท่ากับ โรนัลโด้ ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิล
• เมสซี่ ได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากที่สุดตลอดกาลในฟุตบอลโลก ที่จำนวน 10 นัด โดยทำไปแล้ว 4 ครั้งที่กาตาร์

• เมสซี่ ยิงประตูในทีมชาติ 16 ลูกในปี 2022 (13 นัด) มากกว่าที่เคยยิงได้ในแต่ละปี ตลอดเส้นทางค้าแข้ง
• เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติ 15 ประตูจากการลงสนาม 10 นัดหลัง
• 3 จาก 5 ประตูในฟุตบอลโลก 2022 ของ เมสซี่ เป็นจุดโทษ
• เมสซี่ เป็นนักเตะสูงอายุที่สุด (35) ที่สามารถยิงได้ถึง 5 ประตูในฟุตบอลโลกสมัยเดียว
• ในฟุตบอลโลก 2022 จนถึงตอนนี้ เมสซี่…
โอกาสยิงรวม 27
ยิงตรงกรอบ 14
ประตู 5
แอสซิสต์ 3
สร้างโอกาสจบ 18
สร้างโอกาสจากโอเพ่นเพลย์ 14
เลี้ยงผ่าน 36

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

 

ปากคำหลังเกม อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย
ลิโอเนล เมสซี่ : “เราไม่คาดคิดว่าจะพ่ายต่อ ซาอุดีอาระเบีย มันคือบททดสอบอันสาหัสสำหรับทั้งทีม แต่เราก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเราแข็งแกร่งกันขนาดไหน เราเอาชนะได้ในนัดที่เหลือ และมันก็ยากมากๆ เพราะทุกนัดคือนัดชิงชนะเลิศ หากเราไม่ชนะ ทุกอย่างก็คงยุ่งยากสำหรับเรา”
“เราลงเล่นนัดชิงห้านัด (ในทัวร์นาเมนต์นี้) และสามารถเอาชนะได้หมด ผมหวังว่าจะชนะเหมือนเดิมในนัดชิงชนะเลิศ เราเชื่อมั่น แต่ก็รู้ด้วยว่าเราสามารถทำได้ในฐานะทีม”

 

ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ : “เราคู่ควรกับสิ่งนี้ เรามีเกมที่สุดยอดมากๆ เราเข้าชิงชนะเลิศกันแล้ว และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ครอบครัวของผมคงคลั่งมาก เหมือนกับทั้งประเทศ เรามีความสุขมากกับผลงานของเรา แต่เราก็ต้องการมากกว่านี้อีก”

 

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ : “มหัศจรรย์มาก เราคิดไว้แต่แรกว่ามันจะเป็นเกมที่ยาก แต่เรารู้วิธีปิดเกม สองนัดที่ผ่านมาเราเสียประตูในช่วงท้าย ผมดีใจที่เราปิดเกมได้ในวันนี้”
“เมสซี่ ไม่มีการทำอะไรผิดพลาดเลยในทัวร์นาเมนต์นี้ ยิ่งเขาสูงวัยขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเจ๋งเป้งขึ้นเท่านั้น ฟอร์มของเขามันเหนือจริงมาก”

 

ซลัตโก้ ดาลิช : “เราเล่นได้ดีตลอดครึ่งชั่วโมงแรก แต่เรายังไม่นิ่งพอในจังหวะของเรา เราเสียประตูที่น่ากังขามากๆ เริ่มจากจังหวะเตะมุมที่มีปฏิกิริยาของผู้เล่นผม แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร จากนั้นก็เป็นจุดโทษ เอาตามตรงมันค่อนข้างเบาและง่ายเกินไป เราพยายามกลับมาให้ได้และก็เสียประตูที่สอง เราครองบอลได้ แต่ไม่ได้สร้างโอกาสจะแจ้ง”
“จุดโทษทำให้ทิศทางของเกมเปลี่ยนไปเลย พวกเขาเป็นฝ่ายได้คอนโทรลเกม และการครองบอลก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเรา”

 

ก้าวเดียวถึงแชมป์โลก! อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

สืบเนื่องจากผลสกอร์ อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย
• อาร์เจนติน่า เข้าไปรอชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่ผ่านมา ชนะ 2 แพ้ 3 ในเกมชิงดำ
1930 แพ้ อุรุกวัย 2-4
1978 ชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-1
1986 ชนะ เยอรมนีตะวันตก 3-2
1990 แพ้ เยอรมนีตะวันตก 0-1
2014 แพ้ เยอรมนี 0-1

 

• อาร์เจนติน่า สานต่อสถิติสุดยอด “ชนะรอบตัดเชือกทุกครั้ง” ในฟุตบอลโลก ยกเว้นปี 1978 ที่ระบบการแข่งขันไม่ได้มีรอบตัดเชือก
1930 ชนะ สหรัฐอเมริกา 6-1
1986 ชนะ เบลเยียม 2-0
1990 ชนะจุดโทษ อิตาลี 4-3
2014 ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2
2022 ชนะ โครเอเชีย 3-0

 

• ลิโอเนล สคาโลนี่ ทำให้ อาร์เจนติน่า มีผลงานแพ้แค่เกมเดียวใน 42 นัดหลังสุด และยิงประตูอย่างน้อย 2 ลูกมาเป็นเกมที่ 5 ติดต่อกัน

 

• ซลัตโก้ ดาลิช ยืนยันจะนั่งเก้าอี้คุม โครเอเชีย ต่อไปจนถึงหมดสัญญา หลังจบยูโร 2024 ที่เยอรมนี ภายหลังทำทีมมาตั้งแต่ปี 2017 (ชนะ 69 เสมอ 33 แพ้ 18) แต่ก็เปรยว่าแข้งสูงวัยชุดนี้บางคน คงไม่ได้ไปต่ออีกแล้ว

 

• อาร์เจนติน่า ทำให้รอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 11 ทัวร์นาเมนต์หลัง หรือ 40 ปีหลังสุด (21 แมตช์) มีการชนะแบบ “ยิงขาด” เพิ่มขึ้นอีกนัด ถัดจากเกมประวัติศาสตร์ที่ เยอรมนี กำราบ บราซิล 7-1 ในเวิลด์คัพ 2014 บนดินแดนแซมบ้าเอง นอกนั้นอีก 80% ออกสกอร์เฉือน หรือจบเสมอกันแล้วต้องต่อเวลา หรือกระทั่งดวลจุดโทษชี้ขาด

 

ไกด์เถื่อน

อ้างอิง
wikipedia
FIFA

ภาพประกอบ
FIFA
Twitter

 

เรื่องน่าอ่าน
อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022
8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [2]
8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 เกมต่อเกม ใครอยู่ใครไป! [1]
และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI
ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่… ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่…

อดใจรอกันอีกแค่เดี๋ยวเดียว สิ่งที่โลกลูกหนังเฝ้าคอยกันมา 4 ปีอย่าง “ฟุตบอลโลก 2022” ก็จะถึงเวลาโรมรันกันแล้ว และโดยไม่ต้องพึ่งแม่หมอพ่อเดา เราก็ทราบผล “แชมป์โลก” ล่วงหน้าเรียบร้อย…ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์สุดอัจฉริยะ!

 

เดินทางเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนกันแล้ว ซึ่งหมายถึงว่าอีกเพียงไม่กี่วันกี่คืนเท่านั้น เสียงนกหวีดแรกแห่ง ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ก็จะดังขึ้น

 

20 พฤศจิกายน ลากยาวไปจนเกือบหนึ่งเดือนเต็ม 18 ธันวาคม ที่โลกลูกหนังจะหยุดหมุน เพื่อเว้นวรรคและเป็นสักขีพยานของการช่วงชิงแชมป์รายการที่สำคัญที่สุดของเมืองมนุษย์

 

และก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จริงจะมาถึง เราก็ทราบผลบทสรุปของ กาตาร์ 2022 เรียบร้อยแล้ว… ผ่านการทำนายประมวลผลคิดวิเคราะห์แยกแยะของ “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” ในการดูแลของ บีซีเอ รีเสิร์ช (BCA Research) สถาบันวิเคราะห์การลงทุนระดับโลก แห่งประเทศแคนาดา

 

บทวิเคราะห์นี้มีชื่ออันแสนยาวเหยียดว่า “The Most Important Of All Unimportant Forecasts 2nd Edition: 2022 FIFA World Cup ซึ่งเป็นการประมวลผลสถิติตัวเลขหลากหลาย เช่น ผลการแข่งขัน 192 นัดของรอบแรก กับสกอร์ของอีก 64 เกมรอบน็อกเอาต์ ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่ 2006 – 2018, อายุอานามของนักเตะแต่ละทีม จนถึง “ค่าพลัง” ความเร็วและค่าเฉลี่ย Team Average Player Rating ที่ปรากฏอยู่ในเกมฟุตบอลเลื่องชื่ออย่าง FIFA (อันมาจากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ชั้นหนึ่งแล้วจากค่ายเจ้าของเกม EA Sport)

 

ข้อมูลทั้งหมดที่มี จะถูกแปลงเป็นสมการยากๆ เช่น yi* = χi’β + ϵi หรือ Pr(yi = win | χi, β, γ) = 1 – ϕ(γ2 – χi’ β) อันจะถูกส่งต่อเข้าสู่ซูเปอร์คอมพิเตอร์อัจฉริยะ เพื่อแปลงผลให้ออกมาจนได้ข้อสรุป

 

“สี่ปีก่อน เราได้เผลผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2018 เอาไว้ นั่นคือครั้งแรกที่เราได้ลองทำนายผลฟุตบอลโลกกันเป็นครั้งแรก” BCA Research ระบุ “มาตอนนี้ เราได้พัฒนาแบบจำลองเชิงปริมาณขึ้นอีก เพื่อคาดการณ์การแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก”

 

“นอกจากแง่ของเกมกีฬาแล้ว เราเราหวังว่ารายงานชิ้นนี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากความผันผวนของตลาดสินทรัพย์, ความตกต่ำอย่างรุนแรงของ ธนาคารกลาง, อัตราเงินเฟ้อที่สูงในรอบหลายสิบปี จนถึงกระทั่งสงครามในยูเครน”

 

สำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ผลจากการประมวลคิดวิเคราะห์แยกแยะของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ออกมาว่า “แทบไม่มีเซอร์ไพรส์” บรรดาทีมใหญ่พาเหรดเข้าน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด ไม่มีชาติหัวแถวรายไหนที่หลุดออกจากรอบแรก รวมถึงแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่ยุติ “อาถรรพ์แชมป์เก่า” ลงได้ — แม้จะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มดี ตามหลังของแสลงส่วนตัวอย่าง เดนมาร์ก ก็ตาม

 

ส่วนกลุ่มรวมตัวขาโหด “Group of Death” อย่างกลุ่มอี ที่ประกอบด้วย สเปน, เยอรมนี, คอสตาริกา และ ญี่ปุ่น นั้น ก็เป็น 2 ยักษ์ใหญ่ทวีปยุโรปที่กอดคอเข้ารอบไปด้วยกัน ปล่อยให้ทีมกล้วยหอมจอมซนและ “ซามูไรบลู” สิ้นสุดการผจญภัยในฟุตบอลโลก 2022 ที่เพียงรอบแรก

 

ขณะที่ทีมขวัญใจมหาชน สิงโตคำราม อังกฤษ ไม่เจอปัญหาใดทั้งสิ้นในการผ่านรอบแรก “แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม และ บูกาโย่ ซาก้า อยู่ในฟอร์มที่ดีมากตั้งแต่ซีซั่นนี้เริ่มขึ้น และคุณภาพโดยรวมของคนอื่นๆ จะช่วยให้ อังกฤษ ครองแชมป์กลุ่มอย่างไม่ลำบาก”

 

และแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ก็ได้แก่... ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

ผลวิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2022 โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ BCA Research

รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ : กาตาร์, เอกวาดอร์, เซเนกัล, เนเธอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เนเธอร์แลนด์ 2. เซเนกัล

 

กลุ่มบี : อังกฤษ, อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา, เวลส์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อังกฤษ 2. สหรัฐอเมริกา

 

กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า, ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก, โปแลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. อาร์เจนติน่า 2. เม็กซิโก

 

กลุ่มดี : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, ตูนิเซีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เดนมาร์ก 2. ฝรั่งเศส

 

กลุ่มอี : สเปน, คอสตาริกา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. สเปน 2. เยอรมนี

 

กลุ่มเอฟ : เบลเยียม, แคนาดา, โมร็อกโก, โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. เบลเยียม 2. โครเอเชีย

 

กลุ่มจี : บราซิล, เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. บราซิล 2. สวิตเซอร์แลนด์

 

กลุ่มเอช : โปรตุเกส, กาน่า, อุรุกวัย, เกาหลีใต้
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : 1. โปรตุเกส 2. อุรุกวัย

 

 

รอบ 16 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – สหรัฐอเมริกา
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เนเธอร์แลนด์
แม้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เมื่อหนึ่งในตัวเต็งอย่าง เนเธอร์แลนด์ ได้คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็น สหรัฐอเมริกา ที่คู่นี้ไม่เคยได้เจอกันในทัวร์นาเมนต์เป็นทางการมาก่อนเลย (เจอในนัดลับแข้ง 5 ครั้ง) ซึ่งผลก็เป็น “อัศวินสีส้ม” กำชัยได้ตามคาด

 

อาร์เจนติน่า – ฝรั่งเศส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์การเจอกันเมื่อครั้งก่อน รัสเซีย 2018 คราวนั้น ฝรั่งเศส สอนเชิงถล่มเอาชนะ อาร์เจนติน่า สี่เม็ด กระนั้นมาคราวนี้ อาร์เจนติน่า ชำระแค้นได้สำเร็จ ด้วยความลงตัวและคุณภาพที่ชัดกว่าแชมป์เก่า “ฝรั่งเศสมีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากเกินไป โดยเฉพาะในแดนกลาง นี่คือจุดสำคัญทำให้ อาร์เจนติน่า ฉกฉวยความได้เปรียบ”

 

สเปน – โครเอเชีย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : สเปน
เพิ่งงัดกันมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 และต้องยืดเยื้อกันถึงต่อเวลา สเปน ถึงเอาชนะได้ 5-3 ภายหลังเสมอสุดเดือด 3-3 ใน 90 นาที มาครั้งนี้ในบอลโลกที่กาตาร์ ไม่เดือดปุดขนาดนั้น และยังคงเป็น สเปน คว้าชัยได้ไปต่อรอบ 8 ทีม

 

บราซิล – อุรุกวัย
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
ไม่มีอะไรพลิกโผสำหรับการตัดกันเองของ 2 ตัวแทนจากอเมริกาใต้ หลังจากการพบกันช่วงหลัง ก็เป็น “ลา เซเลเซา” ที่กินขาดอยู่แล้ว — ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บราซิล ไม่แพ้ อุรุกวัย มา 20 ปีเข้าไปแล้ว (ชนะรวด 4 เกมหลัง) และเกมนี้ก็ออกทรงเดิมเช่นเคย

 

อังกฤษ – เซเนกัล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
อาจต้องระแวดระวังหน่อยกับพลังรุกของ ซาดิโอ มาเน่ และความหนักแน่นในเกมรับของ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ แฮร์รี่ เคน และพลพรรคสิงโตคำราม ก็ยังกรีธาทัพผ่าน เซเนกัล ได้อย่างไร้ปัญหา

 

เดนมาร์ก – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เม็กซิโก
ทั้งที่อุตส่าห์คว้าแชมป์กลุ่มมาครองได้เหนือ ฝรั่งเศส แต่เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว โคนมเดนมาร์กของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็กลับเครื่องสะดุดเพลาหักสลักหายฯ ไปเสียดื้อๆ แพ้พลิกล็อกต่อ เม็กซิโก จนร่วงตกรอบ หมดลายม้ามืดที่หลายฝ่ายคาดหมาย เป็นทัพจังโก้อันตรายที่ได้ไปต่อในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

 

เบลเยียม – เยอรมนี
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : เยอรมนี
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ของรอบ 16 ทีม เบลเยียม ลงสนามไปด้วยความหวังตั้งใจจะคว้าชัยชนะเพื่อส่งต่อ “ยุคทอง” ของตัวเองไปให้ไกลที่สุด ทว่า เยอรมนี ก็เป็นคู่แข่งที่หนักหนาสาหัสเกินไปเสียแล้ว บทสรุปคือยุคทองปีศาจแดงฯ (เดอ บรอยน์, ลูกากู, อาซาร์, กูร์กตัวส์ ฯลฯ) ต้องจากลาฟุตบอลโลกหนนี้ไปโดยไม่ประสบความสำเร็จอีกตามเคย

 

โปรตุเกส – สวิตเซอร์แลนด์
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เจอกันรัวๆ ในช่วงหลัง รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี ซึ่งต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันได้ในบ้าน มาคราวนี้ที่สนามกลางต่างแดน ก็เป็น โปรตุเกส ของ โรนัลโด้ และชาวคณะ ที่ได้ไปต่อ

 

 

รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ – อาร์เจนติน่า
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
รีแมตช์เกมสุดคลาสสิกจาก ฟร้องซ์ 98 ที่มีลูกยิงของ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ เป็นช็อตตัดสินเกมอันสุดตรึงตราตรึงใจ ซึ่ง อาร์เจนติน่า ก็ต้องรอคอยมาถึง 24 ปี ถึงจะสามารถชำระแค้นได้เป็นผลสำเร็จ ลิโอเนล เมสซี่ ดีเกินกว่าที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะต้านทานอยู่

 

สเปน – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
อีกหนึ่งซูเปอร์แมตช์ของรายการ สเปน กับ บราซิล โคจรมาเจอกันเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ทศวรรษหลัง ปรากฏเป็น เนย์มาร์, กาเบรียล เชซุส, วินิซิอุส, อันโตนี่, กาเซมิโร่, เฟร็ด ได้ชูธงชาติฉลองชัย

 

อังกฤษ – เม็กซิโก
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อังกฤษ
รอบที่แล้ว เซเนกัล มารอบนี้ เม็กซิโก ซึ่งล้วนแต่เป็นรอง อังกฤษ ในหลากหลายแง่มุม สุดท้ายก็เป็นสิงโตคำรามของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่คว้าชัยต่อเนื่อง ลุยไปถึงรอบตัดเชือก กาตาร์ 2022

 

เยอรมนี – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
ผ่านเกมสุดโหดกับ สเปน ในรอบแรก ต่อด้วยกับ เบลเยียม ในรอบสอง ส่งผลให้ “อินทรีเหล็ก” ออกลูกยุบในตัวเอง พลังลด ร่างกายล้า จนที่สุดแล้ว โปรตุเกส ก็เบียดกำชัยได้อย่างสนุกตื่นเต้น ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 2022

 

 

รอบรองชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – บราซิล
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
“ซูเปอร์กลาซิโก้” ฉะกันทีไร โลกต้องหยุดหมุนเพื่อเฝ้ามองเมื่อนั้น และแน่นอนกับคราวนี้ที่มีเดิมพันใหญ่ถึงขั้น “ตั๋วเข้าชิงบอลโลก” ให้ได้แย่งชิง และเกมก็ดุเดือดขั้นสุดจนแทบจะยกพวกตีกันเสียให้รู้ดำรู้แดง ซึ่งสุดท้ายก็เป็น อาร์เจนติน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ฝากรอยแค้นใหญ่เอาไว้ให้กับ บราซิล ด้วยชัยชนะ–และการได้เข้าชิงฟุตบอลโลก

 

อังกฤษ – โปรตุเกส
ทีมเข้ารอบ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : โปรตุเกส
เกมสุดคู่คี่สูสีในแง่ของศักดิ์ของศรี การปะทะกันของ 2 ทีมหัวแถวทวีปยุโรปที่เคยมีประวัติฟาดฟันกันมาพอท้วมๆ สิ่งที่น่าสนใจคือภายหลัง อังกฤษ ผ่านทีมรองบ่อนอย่าง เซเนกัล และ เม็กซิโก มาได้ ก็ถึงคราวต้องหยุดความฝันเอาไว้เท่านี้เมื่อต้องเจอของแข็งจริงจังอย่างทัพฝอยทอง แต่ว่าเกมลากยาวถึงดวลจุดโทษ และ โปรตุเกส เฉือนหวิว “ทั้งสองทีมจะยิงได้ โดยที่ โปรตุเกส มีโอกาส 56% ในการเข้ารอบ และ อังกฤษ จะเข้าสู่การดวลจุดโทษแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก พวกเขาชนะแค่หนเดียวจากการดวลเป้า 4 ครั้งในฟุตบอลโลก”

 

 

นัดชิงอันดับ 3
บราซิล – อังกฤษ
ผู้ชนะ โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : บราซิล
เกมปลอบใจที่ไม่ใคร่จะมีใครสนใจสักเท่าไร อังกฤษ มาถึงตรงนี้เป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน ภายหลังแพ้ เบลเยียม 0-2 ในนัดชิงที่สามที่รัสเซีย และก็ยังคงซ้ำรอยกับหนนี้ ที่ บราซิล กำชัย ได้เหรียญทองแดงไปครอง

 

 

นัดชิงชนะเลิศ
อาร์เจนติน่า – โปรตุเกส
แชมป์โลก โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ : อาร์เจนติน่า
สุดยอดเกม “แมตช์ในฝัน” ที่โลกจับตา นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อันเป็นเกมสั่งลา เวิลด์ คัพ ของ 2 เสือเฒ่า ลิโอเนล เมสซี่ (35) กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (37) ผู้ชนะจะไปถึงฝั่งฝันที่ตามหามานานตลอดเส้นทางอาชีพ และยังจะได้เลิกเล่นไปพร้อมดีกรี “แชมป์โลก” ติดตัว

 

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คำนวณผลเกมชิงดำนัดนี้ออกมาว่า “ยืดเยื้อ” กินกันไม่ลงทั้งใน 90 และ 120 นาที จนสุดท้าย ต้องตัดสินแชมป์กันด้วยการดวลจุดโทษ — ซึ่งไม่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 (อิตาลี ชนะดวลเป้าเหนือ ฝรั่งเศส)

 

และผลสุดท้าย… เมสซี่ คือผู้ชนะ อาร์เจนติน่า ผงาดครองแชมป์โลกสมัยที่ 3 และหนแรกนับจากปี 1986

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI 1986

 

“อันที่จริง การเลือกระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ มันก็เหมือนการต้องเลือกระหว่าง โมสาร์ท กับ บีโธเฟ่น หรือไม่ก็ ดา วินชี่ กับ ไมเคิ่ลแอนเจโล่”

 

“แต่ภายหลังการวิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เราเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างแห่งฟุตบอลโลก 2022 เสร็จสิ้นลง อาร์เจนติน่า และ ลิโอเนล เมสซี่ จะเป็นผู้ได้ชูถ้วยแชมป์โลกขึ้นที่กาตาร์” BCA Research ทิ้งท้าย

 

ทำนายผลบอลโลกด้วย AI

 

…ทั้งนี้ทั้งนั้น การคำนวณต่อฟุตบอลโลก 2022 ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ว่า ก็เหมือนเช่นเคยว่าเป็นการวิเคราะห์ด้วยสถิติตัวเลข โดยขาดไปซึ่งสิ่งสำคัญอย่าง “ความพลิกล็อก” และ “เหนือคาด” อันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลเสมอมา

 

ดังนั้น บทสรุปที่ว่า เมสซี่ จะมาชิงแชมป์โลกกับ โรนัลโด้ และผู้ได้ชูโทรฟี่คือ เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว ในท้ายที่สุด ก็คงเชื่อถือไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์

 

เอาเป็นว่า อดใจรออีกเดี๋ยว อีกไม่กี่สิบวันก็ได้เห็นของจริง

 

เผลอๆ ทั้ง อาร์เจนติน่า ทั้ง โปรตุเกส อาจตกรอบแรกพร้อมกันทั้งคู่ก็ได้…ใครจะรู้!

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
BCA Research
FourFourTwo
DohaNews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
ShutterStock
Bulgaria Posts English
MassLive
AFP

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"

ลิโอเนล เมสซี่ : “ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม”

เพราะทุกสิ่งบนโลก ล้วนแต่มีตอนจบเป็นของตัวเอง ก็ยืนยันป็นที่เรียเบร้อยว่า ลิโอเนล เมสซี่ จะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็น เวิลด์ คัพ ครั้งสุดท้าย ในเส้นทางเลี่ยมทองของตัวเขาเอง

 

อย่างที่ทราบกันดี อาร์เจนติน่า เป็นแชมป์โลก 2 สมัย ท่ามกลางการมงว่าพวกเขาควรได้มากสมัยกว่านี้ เมื่อพิจารณาจาก “ขุมสมบัติ” ที่พวกเขามี — ขุมสมบัติอย่างสุดยอดนักเตะในทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะ ดีเอโก้ มาราโดน่า, เคลาดิโอ คานิกเกีย, กาเบรียล บาติสตูต้า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, เฟร์นานโด เรดอนโด้, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, มาร์ติน ปาแลร์โม่, เอร์นัน เครสโป, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ ซามูเอล ฯลฯ หรือล่วงเลยมาในยุค ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ฯลฯ

 

สำคัญสุดคือ ลิโอเนล เมสซี่ นี่คือดาวเตะที่ “เก่งกาจที่สุดในโลก” ยุคนี้สมัยนี้

 

แต่ก็เป็นเรื่องตลกร้ายอีกเช่นกัน ว่าแข้งระดับ เมสซี่ ผู้ซึ่งครองแชมป์นับสิบนับร้อยรายการกับทั้ง บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลับไม่เคยได้สัมผัสกับโทรฟี่แชมป์โลกมาก่อนเลยสักครั้ง

 

ไปย้อนดูกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เมสซี่ ในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านๆ มา

 

ก่อนจะร่วมเป็นสักขีพยานกับฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของ เมสซี่ ที่กาตาร์…

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2006 : เปิดซิงในวัย 18
ลงสนาม : 3 นัด
ยิง : 1 ประตู
ในวันวัยยังเข้าผับไม่ได้ และที่จริงก็เพิ่งขยับขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ บาร์เซโลน่า แค่ปีกว่าๆ (ไม่น่าลืมกัน…) เมสซี่ ได้รับหมายเรียกจาก โฮเซ่ เปเกร์มัน ให้เข้ารายงานตัวกับทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่เป็นครั้งแรกตอนกลางปี 2005 และเขาถูกส่งลงสำรองนัดพบ ฮังการี ทันที–และโดนใบแดงทันทีในเพียง 2 นาทีแรก จากจังหวะพยายามกระชากหนีกองหลังที่ดึงเสื้อเขา แล้วผู้ตัดสินมองว่า เมสซี่ ตั้งใจสับศอกใส่คู่แข่ง

 

หนึ่งปีให้หลัง เปเกร์มัน ไม่พลาดจะใส่ชื่อเจ้าหนูเมสซี่ ไปฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี โดยเป็นหนึ่งในตัวเลือกศูนย์หน้าร่วมกับ เอร์นัน เครสโป, ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า, คาร์ลอส เตเวซ, โรดริโก้ ปาลาซิโอ และ ฮูลิโฮ ริคาร์โด้ ครูซ

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นดาวรุ่งอายุ 18 เมสซี่ จึงไม่มีตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติเวลานั้น เช่นกันกับที่ อาร์เจนติน่า ไม่ได้มีทัวร์นาเมนต์ที่น่าประทับใจอะไรนัก ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย พ่ายจุดโทษ เยอรมนี 2-4 โดยที่ เมสซี่ ไม่ได้ถูกใช้งานในเกมนี้ หลังจากมี 1 ประตูจากการลงสำรองมาขยี้ เซอร์เบีย-มอนเตเนโกร 6-0 ในรอบแรก

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2010 : กับเจ้านายชื่อ มาราโดน่า
ลงสนาม : 5 นัด
ยิง : 0 ประตู
น่าลืมเลือน… นิยามได้ว่า “น่าลืมเลือน” สำหรับฟุตบอลโลกคราวนี้ของ เมสซี่ เมื่อทั้งที่มีกุนซือระดับคนในตำนานอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า (ผู้ล่วงลับ) เป็นเจ้านายและที่ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งอันที่จริง ลางหายนะก็เริ่มตั้งเค้ามาตั้งแต่รอบคัดเลือก เมื่อ อาร์เจนติน่า ในกำมือของ “เสือเตี้ย” แพ้ถึง 6 นัด ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำจนถึงเกมสุดท้าย ก่อนจะผ่านเข้ารอบได้ด้วยการเป็นอันดับ 4 เหนือตำแหน่งเพลย์ออฟแค่ 4 แต้ม

 

สำหรับในรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้, ทั้งที่ เมสซี่ กำลังเบ่งบานกับบาร์ซ่า และเพิ่งพาอาร์เจนฯ ครองแชมป์โอลิมปิก 2008 มา, ฟ้าขาวก็ล้มเหลวอย่างรุนแรง แม้จะผ่านรอบแรกแบบชนะรวด 3 เกมซ้อน แต่ที่สุดแล้วก็ไปแพ้ เยอรมนี ในรอบ 8 ทีม ขาดลอยถึง 0-4 ขณะที่ เมสซี่ ซึ่งถูกจับเล่นตำแหน่งหน้าต่ำ หลังคู่หัวหอกนั้น ไม่มีสกอร์เลยสักลูกตลอดทัวร์นาเมนต์

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2014 : แค่เอื้อมเท่านั้น
ลงสนาม : 7 นัด
ยิง : 4 ประตู
พลิกชะตาจาก 4 ปีก่อนเป็นมาทำได้ดีมากถึงดีที่สุดในรอบหลายสิบปี ถัดจากการเข้าถึงชิงฟุตบอลโลก 1990 ช่วงเวลาที่ มาราโดน่า อายุ 30 ถ้วน และ เมสซี่ เพิ่ง 3 ขวบ

 

แต่ถึงจะดีที่สุด…ก็ยังไปไม่ถึงแชมป์อยู่ดี

 

เมสซี่ งัดฟอร์มสุดยอดออกมาโชว์ที่บราซิลได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ยิง 4 ประตูจาก 3 เกมรอบแรก พร้อมมีส่วนสำคัญพาทีมของ อเลฮานโดร ซาเบย่า (ล่วงลับเช่นกัน) ชนะรวด 3 นัด

 

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ กลับกระสุนหมด หยุดยิงเมื่อสิ้นสุดรอบแรก ในขณะที่ อาร์เจนติน่า ยังกรุยทางต่อไปได้เรื่อยๆ

 

ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 รอบ 16 ทีม
ชนะ เบลเยียม 1-0 รอบ 8 ทีม
ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2 รอบตัดเชือก

 

จนนัดชิงชนะเลิศที่เจ้าภาพ บราซิล ไม่มาตามนัด–กลายเป็น เยอรมนี มาแทน… อาร์เจนติน่า ก็บอก “ชิกหายเลี้ยว” เมื่ออินทรีเหล็กคือ “ของแสลง” โดยตรงของฟ้าขาวมาหลายปีดีดัก ที่สุดแล้วก็เป็น เยอรมนี เบียดชนะ 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยที่ เมสซี่ เล่นไม่ออกเท่าที่ควรจะเป็น

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2018 : ตัวประกอบอย่างฟ้า-ขาว
ลงสนาม : 4 นัด
ยิง : 1 ประตู
จากที่พลิกชะตาความล้มเหลวในปี 2010 มาถึงชิงชนะเลิศในปี 2014 อาร์เจนติน่า ก็กลับไปฟุบอย่างน่าผิดหวังเสียอีกรอบสำหรับ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ภายใต้การทำทีมของ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี

 

กระเสือกกระสนกันตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่สองเกมแรกไม่ชนะใคร — เสมอ ไอซ์แลนด์ 1-1 ตามด้วยแพ้ โครเอเชีย 0-3 จนชัยชนะเกมสุดท้ายเหนือ ไนจีเรีย (เมสซี่ยิงลูกแรก) 2-1 ดีพอจะทำให้ อาร์เจนติน่า คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม เข้ารอบน็อกเอาต์อย่างฉิวเฉียด

 

แต่เมื่อรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมมาถึง อาร์เจนฯ โคจรมาเจอกับ ฝรั่งเศส ก็จบเห่ในพริบตา สกอร์อาจออกเบียดที่ 4-3 แต่ในระหว่างเกม ฝรั่งเศส ฉีกสกอร์นำห่างถึง 4-2 (คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สองเม็ด) แล้วค่อยมาโดนบีบตอนทดเจ็บเท่านั้นเอง

 

 

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ : "ฟุตบอลโลก 2022 คือครั้งสุดท้ายของผม"ฟุตบอลโลก 2022 : The Final Countdown
ยิง 9 ประตูใน 3 เกมหลัง
รอบคัดเลือกและเกมอุ่นเครื่อง
อันที่จริงก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อะไร กับการเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 5 (สูงสุดเทียบเท่า อันโตนิโอ การ์บาฮัล, โลธาร์ มัทเธอุส, ราฟาเอล มาร์เกซ รวมถึงน่าจะมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกคน) แล้วมันจะเป็นครั้งสุดท้ายของดาวเตะวัย 35 อย่าง ลิโอเนล เมสซี่

 

โดยไม่ปล่อยให้กะเก็งกันเอาเอง เมสซี่ ให้สัมภาษณ์กับช่องทีวีอาร์เจนติน่า ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ฟุตบอลโลก 2022 คือบทสรุปของเขากับ เวิลด์ คัพ (อาจมีไปต่ออีกนิดกับทีมชาติ แต่จะไม่อยู่ถึงบอลโลก 2026 แน่) “นี่จะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของผม อย่างแน่นอน ผมตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว”

 

“ผมกำลังนับถอยหลังเพื่อถึงวันที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในแง่หนึ่ง ผมแทบรอไม่ไหวให้มันมาถึง แต่เวลาเดียวกัน ผมก็ปรารถนาอย่างแรงกล้าให้ อาร์เจนติน่า มีทัวร์นาเมนต์ที่ดี”

 

หลายฝ่ายมองว่า อาร์เจนติน่า มีโอกาสดีสำหรับการขึ้นบัลลังก์แชมป์อีกสมัยที่กาตาร์ เมื่อ ลิโอเนล สคาโลนี่ กำลังทำทีมแล่นฉิว เป็นอันดับ 2 ของสถิติโลกไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 35 นัด

 

เรื่องนี้ เมสซี่ คอมเมนต์ว่า “ผมไม่รู้หรอกว่าเราเป็นตัวเต็งคว้าแชมป์รึเปล่า แต่อาร์เจนติน่าเองก็เป็นหนึ่งในทีมที่ลุ้นแชมป์มาตลอดอยู่แล้ว เพราะประวัติศาสตร์ของเรา เพราะสิ่งที่รายการนี้มีความหมายต่อเรา ส่วนตัวผมคิดว่ายังมีบางทีมที่อยู่เหนือเราในตอนนี้ แต่เราก็ใกล้กับพวกเขามาก”

 

“เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดี มีกลุ่มนักเตะที่แข็งแกร่ง แต่ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้ในฟุตบอลโลก”

 

สำหรับซีซั่นนี้ เมสซี่ ดูกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยการยิงไป 8 ประตู แอสซิสต์อีก 8 ครั้ง จากการเล่น 13 เกมทุกรายการ ส่วนในทีมชาติก็อย่างที่ว่า — สามเกมหลังล่อไป 9 ประตู

 

“ข้อเท็จจริงคือ ใช่ ผมอยู่ในจุดที่ดีเช่นกัน ผมผ่านช่วงปรีซีซั่นอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากไม่ได้ทำแบบนี้มาในปีก่อน ด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันทำให้ผมเริ่มต้นได้ช้า และมันทำให้ขาดๆ เกินๆ ไม่ค่อยลงตัวเมื่อทัวร์นาเมนต์มาถึง แถมเมื่อผมกลับมาจากการเล่นทีมชาติ ก็บาดเจ็บเพิ่มอีกด้วย”

 

“แต่ปรีซีซั่นหนล่าสุดนี้ มันสำคัญมากที่ได้เริ่มต้นในทิศทางที่ต่างไป ผมสามารถมุ่งหน้าสู่การแข่งขันของปีนี้ได้ด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง ด้วยความคิดที่แตกต่าง และมีแรงกระตุ้นที่ดี”

 

ไม่นานเกินรอ… ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ อาร์เจนติน่า จะอยู่ร่วมสายกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์

 

เราคงได้เห็นกัน ว่าฟ้าขาวที่กำลังมาดีๆ จะก้าวไปได้ไกลขนาดไหน

 

และคนพิเศษอย่าง เมสซี่ จะปิดตำนานฟุตบอลโลกของเขาลงแบบใด

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

 

อ้างอิง
AS
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Daily Sabah
Barca Universal

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022…?

เห็นเงียบๆ แต่ก็ไร้พ่ายมาเรียบสำหรับ อาร์เจนติน่า ที่ถึงตอนนี้ เข้าใกล้การทำลายสถิติโลกไปทุกขณะ และมันจะสมบูรณ์แบบสุดๆ ไปเลยหากสถิติถูกทำลายลง…พร้อมมีโทรฟี่ “แชมป์โลก” เป็นรางวัลตอบแทน

 

ทั้งที่เคยมีสุดยอดดาวเตะอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า, เคลาดิโอ คานิกเกีย, กาเบรียล บาติสตูต้า, ฮวน โรมัน ริเกลเม่, เฟร์นานโด เรดอนโด้, ดีเอโก้ ซิเมโอเน่, มาร์ติน ปาแลร์โม่, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ ซามูเอล ฯลฯ หรือล่วงเลยมาในยุค ลิโอเนล เมสซี่, กอนซาโล่ อิกวาอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ฯลฯ

 

แต่จะว่า “ลุงภัพ” -แอ่แฮ่- “อาภัพ” ก็อาจได้ เมื่อ อาร์เจนติน่า มีวาสนาไปถึงบัลลังก์แชมป์โลกมาได้แค่ 2 สมัยเท่านั้น

 

ใช่ที่ “เคยไปถึงมาแล้ว” ไม่เหมือน เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส หรือบรรดาทีมในเอเชีย-แอฟริกา ที่ได้แต่ชะเง้อชะแง้แลมอง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว — เทียบกับ บราซิล (5 สมัย) เทียบกับ อิตาลี (4) หรือ เยอรมนี (4) ทุกเสียงต่างลงความเห็นว่า อาร์เจนติน่า โชคร้ายพอตัวที่ได้แชมป์โลกมาแค่ 2 ครั้ง — และมันนานมาแล้วตั้งแต่ 1978 กับ 1986

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?ถ้ายังไม่ชัดพอ ก็ต้องบอกว่าแชมป์โลกหนสุดท้ายของพวกเขา ต้องย้อนไป 36 ปีที่แล้วโน่น!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประเด็นสำคัญก็คือ การต้องอกหักรักคุด พลาดท่าเสียทีในนัดชิงชนะเลิศให้กับอริต่างทวีปอย่าง เยอรมนี นั่นเอง

 

ฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี อาร์เจนติน่า ของ คาร์ลอส บิลาร์โด้ และยอดขุนพลอย่าง มาราโดน่า เข้าถึงนัดชิงดำด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าจะ “ป้องกันแชมป์” ให้จงได้ แต่ปรากฏว่า เยอรมนีตะวันตก ของ ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (และยอดแข้งอย่าง โลธ่าร์ มัทเธอุส, รูดี้ โฟลเลอร์, เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, เคล้าส์ เอาเกนธาเลอร์ ฯลฯ) มาดีและแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ ตลอดเกมเป็นอินทรีเหล็กที่กดเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งก็มาได้จุดโทษเอาช่วงท้าย 5 นาทีก่อนจบ และ อันเดรียส เบรห์เม่ สังหารนำชัยให้ เยอรมนี 1-0 (โดยที่ในระหว่างเกม เปโดร มอนซอน ของอาร์เจนฯ เสียบหนักจนโดนใบแดง น.65 นับเป็นคนแรกที่โดนไล่ออกในนัดชิงบอลโลก)

 

ขึ้นไทม์แมชีนมาสู่อีก 24 ปีให้หลัง ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โชคชะตาขีดเส้นให้ อาร์เจนติน่า (คุมโดย อเลฮานโดร ซาเบย่า / มีนักเตะอย่าง เมสซี่, อิกวาอิน, มาสเคราโน่, เอเซเกล ลาเวซซี่, เซร์คิโอ อเกวโร่, มาร์กอส โรโฮ) ได้โคจรมาชิงแชมป์โลกกับ เยอรมนี (โยอัคคิม เลิฟ / มิโรสลาฟ โคลเซ่, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, โทนี่ โครส, ฟิลิปป์ ลาห์ม, มานูเอล นอยเออร์) เข้าอีกหน

 

ใครจะไปคิดว่าสกอร์จะออกซ้ำเดิม ไม่มีผิดเพี้ยน

 

90 นาทีในมาราคาน่าสิ้นสุดที่ 0-0 โดยที่ต่างฝ่ายต่างพลาดโอกาสทองที่จะขึ้นนำไปฝั่งละหนสองหน กระทั่งครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ น.113 มาริโอ เกิทเซ่ ก็สบโอกาสทะลุเข้าฝั่งซ้ายเขตโทษไปตวัดยิงผ่าน เซร์คิโอ โรเมโร่ เข้าซุกก้นตาข่าย เป็นประตูโทนที่เบิกโทรฟี่แชมป์ฟุตบอลโลกให้กับ เยอรมนี เป็นสมัยที่ 4

 

นอกจากการแพ้ เยอรมนี สองหนในนัดชิงดำแล้ว ก็เช่นกันกับการฟอร์มหลุดเอาในเกมตัดสินนัดสำคัญ–ในระบบน็อกเอาต์ของ เวิลด์ คัพ

 

ไม่นับ 2002 เวิลด์คัพฉบับเอเชีย ที่ อาร์เจนติน่า ฟอร์มหลุดถึงขั้นตกรอบแรก นอกนั้น ทีมฟ้าขาวล้วนหลุดออกจากบอลโลกในรอบน็อกเอาต์ทั้งสิ้น

 

1994 ที่สหรัฐอเมริกา ร่วงรอบ 16 ทีม แพ้ โรมาเนีย (จอร์จี้ ฮาจี้) 2-3
1998 ที่ฝรั่งเศส ร่วงรอบ 8 ทีม แพ้ เนเธอร์แลนด์ (เดนนิส เบิร์กแคมป์) 1-2
2006 ที่เยอรมนี หลุดที่ 8 ทีม แพ้ เยอรมนี (เจ้าเก่า) ในการดวลจุดโทษ 2-4
2010 ที่แอฟริกาใต้ ยังคงตก 8 ทีมซ้ำ แพ้ เยอรมนี (อีกแล้วจ้า) ขาดลอย 0-4
มาล่าสุด 2018 ที่รัสเซีย ก็หล่นเร็วแค่รอบ 16 ทีม แพ้ ฝรั่งเศส (คีลิยัน เอ็มบัปเป้) 3-4

 

กระนั้น มาคราวนี้ ท่านว่า อะไรๆ อาจต่างไปจากเดิม

 

ถึงเวลาแล้วที่ อาร์เจนติน่า จะคว้าแชมป์โลกสมัยสาม…!?!

 

ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสร้างทีมชุดแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลาของ ลิโอเนล สคาโลนี่ และการ (ว่ากันว่า) ควรถึงเวลาอันสมควรเสียทีที่สุดยอดดาวเตะจากต่างดาวอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จะผงาดบัลลังก์แชมป์โลก พาตัวเองไปถึงฝันอันสูงสุดก่อนอำลาทีมชาติ และรวมถึงบอกลาเส้นทางค้าแข้งไปในอนาคตอันใกล้ด้วย

 

สำหรับ สคาโลนี่ อันที่จริง โค้ชหนุ่มวัย 44 รายนี้ถูกปรามาสถึงฝีไม้ลายมือไว้ไม่น้อย เมื่อเขาไม่เคยได้จับงานคุมทีมสโมสรใดใดมาก่อนเลย — หากยังพอจำกันได้ นี่คือกองหลังฝีเท้าพอไปวัดไปวาได้อยู่ในยุคต้น 2000 โดยสร้างชื่อกับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า รวมถึงมีช่วงที่มาแวะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ ลาซิโอ อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะแขวนสตั๊ดเลิกเล่นกับ อตาลันต้า ในปี 2015 (นี่เองนะ) ส่วนในทีมชาติ เคยสวมชุดฟ้าขาวลงสนามแค่ 7 นัดในระหว่างปี 2003-2006

 

แต่ก็นั่นแหละ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญวาสนาท่านว่าคงลำบาก

 

จากการเป็นมือขวา ผู้ช่วยกุนซือ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่เซบีย่า สคาโลนี่ ถูกหอบหิ้วจากเจ้านายมารับงานกับทีมชาติอาร์เจนติน่าต่อในช่วงปี 2017 ซึ่งเมื่อ อาร์เจนติน่า ล้มเหลวกับฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซัมเปาลี ถูกเด้งพ้นไป สคาโลนี่ กลับยังคงได้จับงานกับทีมชาติต่อ–ในฐานะกุนซือรักษาการ ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และขึ้นคุมเดี่ยวๆ หลังจากนั้น

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?อย่างที่ว่า การนั่งเก้าอี้แบบ “ไร้ดีกรี” ทำให้ สคาโลนี่ ถูกปรามาสถึงฝีมือไว้เยอะ เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกเสียงครหาก็เงียบลง

 

สคาโลนี่ กลายเป็น “คนที่ใช่” ของ อาร์เจนติน่า ไปเสียเฉยๆ ด้วยผลงานประจักษ์ชัดตลอดหลายปีหลัง โดยเฉพาะใน โคปา อเมริกา 2021 ซึ่งทัพ “ลา อัลบิเซเลสเต้” เดินหน้าสังหารคู่แข่งแบบไม่มีแผ่ว จนนัดชิงก็ปราบเจ้าภาพ บราซิล 1-0 ด้วยประตูโทนของ อังเคล ดิ มาเรีย ฉลองแชมป์ทวีปอเมริกาใต้กลางมาราคาน่า

 

ไปถึงเส้นชัย โคปา อเมริกา และยังต่อเนื่องด้วยรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ที่ อาร์เจนติน่า ก้าวเท้าได้อย่างเข้มแข็ง อาจไม่ได้หวือหวายิงกระจายเหมือน บราซิล แต่เรื่อยๆ มาเรียงๆ และไร้พ่าย เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 การันตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย

 

จากแมตช์สู่แมตช์ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนมาวันนี้ อาร์เจนติน่า ของ สคาโลนี่ กลายเป็นเบอร์ 2 “สถิติโลก” ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในบรรดาทีมชาติ เป็นจำนวน 35 นัด นับรวม 2 เกมลับแข้งล่าสุดในเดือนนี้ ที่ฟ้าขาวผ่าน ฮอนดูรัส กับ จาไมก้า ด้วยสกอร์เดียวกัน 3-0

 

สถิติไร้พ่าย 35 นัดของอาร์เจนติน่า
1. ชนะ ชิลี 2-1 / โคปา อเมริกา 2019
2. เสมอ ชิลี 0-0 / กระชับมิตร
3. ชนะ เม็กซิโก 4-0 / กระชับมิตร
4. เสมอ เยอรมนี 2-2 / กระชับมิตร
5. ชนะ เอกวาดอร์ 6-1 / กระชับมิตร
6. ชนะ บราซิล 1-0 / กระชับมิตร
7. เสมอ อุรุกวัย 2-2 / กระชับมิตร
8. ชนะ เอกวาดอร์ 1-0 / คัดบอลโลก 2022
9. ชนะ โบลิเวีย 2-1 / คัดบอลโลก 2022
10. เสมอ ปารากวัย 1-1 / คัดบอลโลก 2022
11. ชนะ เปรู 2-0 / คัดบอลโลก 2022
12. เสมอ ชิลี 1-1 / คัดบอลโลก 2022
13. เสมอ โคลอมเบีย 2-2 / คัดบอลโลก 2022
14. เสมอ ชิลี 1-1 / โคปา อเมริกา 2021
15. ชนะ อุรุกวัย 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
16. ชนะ ปารากวัย 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
17. ชนะ โบลิเวีย 4-1 / โคปา อเมริกา 2021
18. ชนะ เอกวาดอร์ 3-0 / โคปา อเมริกา 2021
19. เสมอ โคลอมเบีย 1-1 (ชนะจุดโทษ 3-2) / โคปา อเมริกา 2021
20. ชนะ บราซิล 1-0 / โคปา อเมริกา 2021
21. ชนะ เวเนซุเอล่า 3-1 / คัดบอลโลก 2022
22. ชนะ โบลิเวีย 3-0 / คัดบอลโลก 2022
23. เสมอ ปารากวัย 0-0 / คัดบอลโลก 2022
24. ชนะ อุรุกวัย 3-0 / คัดบอลโลก 2022
25. ชนะ เปรู 1-0 / คัดบอลโลก 2022
26. ชนะ อุรุกวัย 1-0 / คัดบอลโลก 2022
27. เสมอ บราซิล 0-0 / คัดบอลโลก 2022
28. ชนะ ชิลี 2-1 / คัดบอลโลก 2022
29. ชนะ โคลอมเบีย 1-0 / คัดบอลโลก 2022
30. ชนะ เวเนซุเอล่า 3-0 / คัดบอลโลก 2022
31. เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 / คัดบอลโลก 2022
32. ชนะ อิตาลี 3-0 / ชิงแชมป์ Finalissima
33. ชนะ เอสโตเนีย 5-0 / กระชับมิตร
34. ชนะ ฮอนดูรัส 3-0 / กระชับมิตร
35. ชนะ จาไมก้า 3-0 / กระชับมิตร

 

35 นัดของการไร้พ่าย ไม่ต้องสงสัยว่าเครดิตต้องเป็นของ สคาโลนี่ พร้อมๆ กันกับเสียงปรบมือที่ขุนพลฟ้าขาวทุกรายคู่ควรจะได้รับ

 

ทั้งความเหนียวแน่นหนึบของนายประตูมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ
แผงหลังที่เข้าเท่าเข้าทีมิใช่เบา ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยืนคู่ คริสเตียน โรเมโร่ โดยมี นาอูเอล โมลิน่า กับ นิโกลัส ตายาฟิโก้ ขนาบข้าง
แดนกลางที่แข็งโป้ก ลงตัวทั้งบู๊บุ๋น – โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, โจวานี่ โล เซลโซ่
เกมรุกที่มีตัวเลือกเยอะ และพึ่งพาได้แทบทุกคน – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เปาโล ดีบาล่า, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ฮัวกิน กอร์เรอา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมาพีคอีกครั้งในนามทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่

 

ถึงเวลา อาร์เจนติน่า มุ่งสู่แชมป์ฟุตบอลโลก 2022...?ยิงคนเดียว 5 ประตูในเกมถลุง เอสโตเนีย 5-0
เบิ้ลสองใส่ ฮอนดูรัส ในชัยชนะ 3-0
ลงสำรองไปเบิ้ลอีกสองใส่ จาไมก้า จนชนะขาด 3-0
เท่ากับ 3 นัดหลังในการรับใช้ชาติ พ่อกดไป 9 ประตู

 

 

 

 

 

 

คำถามคือ ถ้า เมสซี่ พีคถึงขีดสุดอยู่แบบนี้ในฟุตบอลโลก 2022 อะไรจะเกิดขึ้นกันล่ะ?

 

อย่างไรก็ตาม สถิติที่ อาร์เจนติน่า ทำไว้ ยังไปไม่ถึง “สถิติโลก” ที่จารึกไว้เมื่อไม่นานนี้โดย อิตาลี ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ซึ่งทัพอัซซูร์รี่สร้างสถิติไร้พ่ายยาวนานถึง 37 นัด กินเวลาครอบคลุม ยูโร 2020 ที่พวกเขาครองแชมป์ทวีปยุโรปได้อย่างยิ่งใหญ่ (ก่อนจะตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 ไปแบบตกตะลึงกันทั้งบาง)

 

ทำเนียบทีมชาติไร้พ่ายยาวนานที่สุด
37 นัด (ชนะ 30 เสมอ 7) อิตาลี 2018-2021
35 (26-9) อาร์เจนติน่า 2019-2022 (ยังไปได้ต่อ)
35 (26-9) แอลจีเรีย 2018-2022
35 (32-3) สเปน 2007-2009
35 (28-7) บราซิล 1993-1996
31 (21-10) อาร์เจนติน่า 1991-1993
30 (22-8) ฝรั่งเศส 1994-1996
30 (24-6) อิตาลี 1935-1939

 

อย่างไรก็ตามซ้อนอย่างไรก็ตาม อาร์เจนติน่า ก็ขอไปต่ออีกแค่ 3 นัดเท่านั้นเพื่อทำลายสถิติ นั่นหมายถึง สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในเพียง “ไม่ทันพ้นรอบแรก” ฟุตบอลโลก 2022 ที่ อาร์เจนติน่า มีคิวต้องดวลกับ ซาอุดีอาระเบีย, เม็กซิโก และ โปแลนด์ ตามลำดับ

 

อีกทั้ง อิตาลี ยังทำเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า การทำลายสถิติเรื่องนี้ สามารถเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กันกับการผงาดแชมป์ทวีปได้ ดังนั้นถ้า อาร์เจนติน่า คิดจะเดินตามรอย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปแต่ประการใด

 

ยังเริ่มมีการมองกันแล้วว่า มันอาจเกิด “ดรีมแมตช์” ขึ้นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 ที่ Lusail Iconic Stadium

 

นั่นเพราะ อาร์เจนติน่า ของ เมสซี่ และชาวคณะ ฝังตัวอยู่ในกลุ่มซี หรือ “สายบน”

 

ในขณะที่ โปรตุเกส ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในกลุ่มเอช หรือ “สายล่าง”

 

หากต่างฝ่ายต่างจบที่แชมป์กลุ่ม หรือรองแชมป์กลุ่มของตัวเอง เหมือนๆ กัน (ไม่ว่าจะเป็นที่ 1 หรือ 2 ขอแค่เหมือนกัน อย่าต่าง) คู่นี้ก็จะไม่เจอกันในรอบน็อกเอาต์…จนกระทั่ง นัดชิงชนะเลิศ!

 

นั่นคือถ้า อาร์เจนติน่า ยึดแชมป์กลุ่มซี ได้ตามคาด และเวลาเดียวกัน โปรตุเกส ก็ไม่พลาดจบที่แชมป์กลุ่มเอช จากนั้นต่างฝ่ายต่างเอาชนะคู่แข่งได้ทีละรอบๆ แบบไม่มีสะดุดในเกมน็อกเอาต์

 

นัดชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ธ.ค. ก็จะเป็นการดวลกันของ อาร์เจนติน่า กับ โปรตุเกส

 

แน่นอน เมสซี่ ก็จะมาจับไม้จับมือแลกธงกับ โรนัลโด้ ที่กลางสนาม ก่อนสาดแข้งกันให้ยับในอีก 90 หรือ 120 นาที++ หลังจากนั้น (หากว่าไม่เจ็บไม่แบนกันทั้งคู่ด้วยนะ)

 

และด้วยอายุอานาม 35 ของเมสซี่ กับ 37 ของโรนัลโด้ นั่นยังหมายถึงว่า นัดชิงชนะเลิศ (ในฝัน) นี้อาจเป็น “เกมสุดท้าย” ในการรับใช้ชาติของทั้งคู่

 

เกมสุดท้าย ที่มีเดิมพันเป็นโทรฟี่แชมป์โลก

 

คลาสสิกเป็นบ้าเป็นบอ!

 

 

 

ไกด์เถื่อน

 

 

อ้างอิง
Sportingnews
WIKIPEDIA

ภาพประกอบ
Trend Detail News
Complete Sports
Twitter

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ งานอำลายอดนักเตะคนไหนบ้าง นอกจากโรนัลโด้และเมสซี่

ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อาจไม่ใช่ฟุตบอลโลกหนสุดท้ายสำหรับคริสเตียโน โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี่ เท่านั้น และนี่คือดาวเตะระดับหัวแถวของโลก ที่ฟุตบอลโลกหนนี้ อาจจะเป็นการปิดฉากฟุตบอลโลกสำหรับพวกเขา