ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : GMM25

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

คอสตาริกา
อันดับ 4 รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เพลย์ออฟต่างโซน ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
EAFF E-1 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1

คอสตาริกา
เพลย์ออฟบอลโลก ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เกาหลีใต้ 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ไนจีเรีย 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ สเปน 0-7

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
ญี่ปุ่น ชนะ 4
เสมอ 1

 

สภาพทีม
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันแล้ว และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

ชัยชนะในเกมแรกยังหมายถึงว่า ถ้า ญี่ปุ่น เดินหน้าชนะได้ต่อเนื่องในเกมนี้ พวกเขาจะจ่อเข้ารอบน็อกเอาต์เต็มที โดยเฉพาะถ้าในคู่ดึก สเปน-เยอรมนี จบด้วยผลเสมอ หรือ สเปน ชนะได้ ญี่ปุ่น ก็จะเข้ารอบทันทีด้วย และเหลือแค่ชิงแชมป์กลุ่มกับ สเปน เท่านั้น

 

สภาพทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ มีปัญหาเล็กน้อยที่ความฟิตของ ฮิโรกิ ซากาอิ ซึ่งเจ็บจากเกมแรก แต่หากเล่นไม่ไหวก็มีตัวแทนตำแหน่งอยู่แล้วอย่าง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ จากอาร์เซน่อล

 

ในราย ทาคุมะ อาซาโนะ โดยปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว แต่ด้วยผลงานการลงสำรองไปพังประตูดับ เยอรมนี ก็ทำให้อาจได้รางวัลพิเศษ ได้ลงตัวจริงบ้าง เขี่ย ทาคุมิ มินามิโนะ ไปนั่งสำรอง

 

คอสตาริกา
ทีมกล้วยหอมจากคอนคาเคฟ ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 6 และหนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ต้องออกแรงใช่ย่อยในการผ่านรอบเพลย์ออฟต่างทวีปกับ นิวซีแลนด์ และเบียดชนะสุดหวิว 1-0

 

มาในฐานะม้านอกสายตา แต่ ณ ตอนนี้ดูจะเป็นม้าป่วยกระเสาะกระแสะไปเสีย กับการที่ลงเล่นเกมแรกแพ้ สเปน แบบไร้ทางสู้ 0-7 ดังนั้นถ้าแพ้เกมนี้อีก ตกรอบแรกทันที

 

ในการทำทีมของ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ คอสตาริกายังมาด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ อย่าง เคย์เลอร์ นาวาส, ไบรอัน โอเวียโด้, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, กัปตันทีม ไบรอัน รุยซ์ และ โจเอล แคมป์เบลล์ ที่รวมตัวกันมาตั้งแต่บอลโลก 2014 แล้ว

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ทาคุมะ อาซาโนะ
กลายเป็นประเด็นว่า อาร์เซน่อล ทำเพชรเม็ดงามชิ้นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร ภายหลัง อาซาโนะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสำรองไปพังประตูชัยปลิดชีพ เยอรมนี 2-1 เมื่อวันก่อน กระนั้นก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า อาซาโนะ ย้ายมากรุงลอนดอนตั้งแต่อายุแค่ 22 และโดนปฏิเสธเวิร์คเพอร์มิตด้วย จนที่สุดแล้วหลังจากส่งยืมหลายรอบก็ต้องปล่อยขาดไปอย่างเสียมิได้ ตอนนี้อยู่กับ โบคุ่ม ในเยอรมนี และลงเล่นทีมชาติ 38 นัด ซัด 8 ประตู

 

คอสตาริกา : โจเอล แคมป์เบลล์
ดังมานาน สร้างชื่อมาจนถึงจุดพีคแล้วก็ดร็อปลงไปจนแฟนบอลแทบจะลืมหน้ากันแล้ว แต่แท้ที่จริง อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลรายนี้เพิ่งจะอายุ 30 ถ้วนเท่านั้นเอง โดยตอนที่เป็นแข้งปืนโต เขาอายุแค่ 22-23 เท่านั้น จากนั้นก็ย้ายออกไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันอยู่กับ คลับ เลออน ในเม็กซิโก และยังคงเฝ้ารับใช้ชาติอยู่ต่อไป เล่นแล้ว 120 นัด ซัด 25 ประตู หนึ่งในนั้นก็คือประตูสำคัญดับ นิวซีแลนด์ จนพาให้ คอสตาริกา มาเล่นฟุตบอลโลก 2022

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, โค อิตาคุระ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ – กาคุ ชิบาซากิ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ทาคุมะ อาซาโนะ
คอสตาริกา (4-4-2, กุนซือ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ) เคย์เลอร์ นาวาส – ไบรอัน โอเวียโด้, ออสการ์ ดูอาร์เต้, ฟรานซิสโก้ กัลโว, คาร์ลอส มาร์ติเนซ – เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, เยวิสัน เบนเน็ตเต้ – โจเอล แคมป์เบลล์, อันโธนี่ คอนเตรราส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 5 ครั้ง ญี่ปุ่น ไม่เคยแพ้ โดยชนะแบบยิงได้ 3 ประตูโดยตลอด ล่าสุดอุ่นเครื่องปี 2018 ญี่ปุ่นชนะ 3-0
• ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะคุมทีมชาติญี่ปุ่นเป็นนัดที่ 60 ในเกมนี้ โดยที่ผ่านมา ชนะ 40 เสมอ 8 แพ้ 11
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู
• คอสตาริกา แพ้แค่ 2 นัดจากการเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 2) แต่หนึ่งในนั้นก็คือการโดน สเปน กราดยิง 7-0
• คอสตาริกาชุดนี้ มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไปมากถึง 11 คน สูงวัยสุดคือ ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีมวัย 37

 

ความน่าจะเป็น
คอสตาริกา อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมต่อกรกับใครทั้งสิ้นจากฟอร์มที่เป็นในนัดแรกกับ สเปน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะตื่นหรือยังกับเกม 2 นัดนี้ ที่จะเจอคู่แข่งคุณภาพดร็อปลงมาเล็กน้อย กระนั้นถ้ายังสะลึมสะลือ ก็คงไม่รอดเงื้อมมือซามูไรแต่อย่างใด

 

ผลที่คาด : ญี่ปุ่น ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน
02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสอง : อาร์เจนติน่า vs เม็กซิโก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : NBT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อาร์เจนติน่า
อันดับ 2 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 0 ยิงได้ 27 เสีย 8

เม็กซิโก
อันดับ 2 รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 8

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อาร์เจนติน่า
อุ่นเครื่อง ชนะ เอสโตเนีย 5-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จาไมก้า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2

เม็กซิโก
อุ่นเครื่อง ชนะ เปรู 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ โคลอมเบีย 2-3
อุ่นเครื่อง ชนะ อิรัก 4-0
อุ่นเครื่อง แพ้ สวีเดน 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โปแลนด์ 0-0

 

ผลการพบกัน : 35 นัด
อาร์เจนติน่า ชนะ 16
เสมอ 14
เม็กซิโก ชนะ 5

 

สภาพทีม
อาร์เจนติน่า
มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ด้วยทรงที่ดีเป็นที่สุด ยืนสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำมันตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

เมื่อเริ่มด้วยความพ่ายแพ้ ทำให้ อาร์เจนฯ หลังพิงฝาหน้าติดเชือกแล้ว ไม่สามารถแพ้ได้อีก หากพลาดท่าซ้ำสองขึ้นมา ก็บอกลาฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย

 

ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อย ไม่นับพวกที่ถอนไปก่อนบอลโลกมา โดยต้องเช็กสภาพของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เซนเตอร์แบ็กจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกมแรกไม่พร้อมจนต้องใช้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยืนกับ คริสเตียน โรเมโร่

 

ระบบจะยังคงเดิม 4-4-2 หรือ 4-2-2-2 เกมรุก อเลฮานโดร โกเมซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย ทำเกมสนับสนุนคู่หน้า ลิโอเนล เมสซี่ – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

เม็กซิโก
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาด้วยการเป็นรองแชมป์โซนคอนคาเคฟ และเริ่มต้นด้วยผลเสมอ โปแลนด์ 0-0 กิเยร์โม่ โอชัว ช่วยทีมไว้ด้วยการเซฟจุดโทษของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

 

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ โค้ชอาร์เจนไตน์ของทัพจังโก้ สภาพทีมดีขึ้นเมื่อ ราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าตัวความหวังจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฟิตพร้อมคืนตัวจริงแล้ว โดยจะนำเกมรุกในระบบ 4-3-3 เคียงข้าง เออร์วิ่ง โลซาโน่ กับ อเล็กซิส เวก้า

 

กระนั้นทีมชุดนี้ไม่มีตัวดังอย่าง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นันเดซ หรือ เฮซุส มานูเอล โคโรน่า ติดมาด้วย โดยรายหลังฟื้นฟิตไม่ทันเล่นบอลโลก

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่
กับการมาฟุตบอลโลกหนสุดท้าย ไม่มีอะไรต้องกั๊กหรือต้องยั้งไว้อีกแล้วสำหรับ เมสซี่ ที่จะใส่สุดเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 11 ประตูจากการเล่นทีมชาติแค่ 5 เกมหลัง ขออย่างเดียวคือแค่ว่าขุนพลรอบๆ ข้างอย่าช็อตไปดื้อๆ เหมือนเกมกับ ซาอุฯ ก็พอ ที่เหลือ เมสซี่ จัดให้เอง

 

เม็กซิโก : เออร์วิ่ง โลซาโน่
หนึ่งในคนที่ทัพจังโก้อันตรายต้องพึ่งพาในเกมรุก คือ เออร์วิ่ง “ชัคกี้” โลซาโน่ ตัวรุกสารพัดประโยชน์วัย 27 จากนาโปลี ซึ่งที่จริงถูกจับตามองตั้งแต่ฟุตบอลโลกหนที่แล้วที่รัสเซีย โชคร้ายที่ไปไม่ได้ไกลนักเมื่อต้องเจอ บราซิล ในรอบ 8 ทีม โดย โลซาโน่ เล่นทีมชาติไปแล้ว 61 นัด ซัด 16 ประตู แต่ที่แรงกว่าคือฟอร์มกับต้นสังกัด นาโปลี ที่ยิง 4 ลูกจาก 19 เกมในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (4-4-2, กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นาอูเอล โมลิน่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส ตายาฟิโก้ – อเลฮานโดร โกเมซ, โรดริโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, อังเคล ดิ มาเรีย – ลิโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก (4-3-3, กุนซือ เคราร์โด้ มาร์ติโน่) กิเยร์โม่ โอชัว – เฮซุส กายาร์โด้, เซซ่าร์ มอนเตส, เอ็กตอร์ โมเรโน่, ฮอร์เก้ ซานเชซ – เอ็กตอร์ เอร์เรร่า, เอ๊ดสัน อัลวาเรซ, อันเดรส กวาร์ดาโด้ – อเล็กซิส เวก้า, ราอูล ฮิมิเนซ, เออร์วิ่ง โลซาโน่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้พบกันมากถึง 35 ครั้ง เริ่มครั้งแรกตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1930 มาเลยทีเดียว
• 18 ครั้งหลังที่พบกัน (ตั้งแต่ 1991) อาร์เจนติน่า แพ้ เม็กซิโก ครั้งเดียวเท่านั้น (0-1 โคปา อเมริกา 2004) นอกนั้น อาร์เจนฯ ชนะ 12 เสมอ 5
• อาร์เจนฯ ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 36 เกม ไม่อาจเทียบเท่าสถิติโลก 37 นัดของ อิตาลี 2018-2021 ได้
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติมากถึง 12 ประตูในปีนี้
• อันเดรส กวาร์ดราโด้ กัปตันทีมวัย 36 ของเม็กซิโก ลงเล่นทีมชาติมาแล้วถึง 178 นัด และฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นสมัยที่ 5 เช่นเดียวกับ กิเยร์โม่ โอชัว (132 เกม)

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะพลาดท่ามาในเกมแรก แต่การเจอกับทีมของหวานที่คุ้นเคยอย่าง เม็กซิโก ไม่เคยใช่ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า อาร์เจนติน่า ต้องใส่สุดตัว เน้นทุกเม็ด เมื่อไม่อาจพลาดพลั้งซ้ำสองได้อีกแล้ว เชื่อว่า เมสซี่ และชาวคณะฟ้าขาวจะเจาะ กิเยร์โม่ โอชัว เข้า และไม่ใช่แค่ลูกเดียวด้วย

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 3-1

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี : ฝรั่งเศส vs เดนมาร์ก
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : สเตเดี้ยม 974, โดฮา
ถ่ายทอดสด : ทีสปอร์ต 7

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ฝรั่งเศส
แชมป์กลุ่มดี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 3

เดนมาร์ก
แชมป์กลุ่มเอฟ โซนยุโรป
แข่ง 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 30 เสีย 3

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ฝรั่งเศส
เนชั่นส์ ลีก เสมอ ออสเตรีย 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เดนมาร์ก 0-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ ออสเตรเลีย 4-1

เดนมาร์ก
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 0-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โครเอเชีย 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ ตูนิเซีย 0-0

 

ผลการพบกัน : 16 นัด
ฝรั่งเศส ชนะ 8
เสมอ 2
เดนมาร์ก ชนะ 6

 

สภาพทีม
ฝรั่งเศส
เริ่มต้นเส้นทางป้องกันแชมป์โลกได้อย่างสวยงาม แม้โดน ออสเตรเลีย ยิงนำ แต่ก็เร่งเครื่องรัวแซงจนชนะขาด 4-1 ด้วยประตูจาก อาเดรียง ราบิโอต์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ 2 ประตูของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

อย่างไรก็ตาม ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ยังคงโดนปัญหาลูกทีมบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ถัดจากที่เสีย โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ไมค์ เมนยอง, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เพรสแนล คิมเพ็มเบ้, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, คาริม เบนเซม่า ล่าสุดก็เป็น ลูคัส เอร์นันเดซ แบ็กซ้ายเบอร์แรกที่เจ็บจากเกมกับ ออสเตรเลีย และต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ไปทันที

 

ประเด็นก็คือ เมื่อเริ่มเล่นเกมแรกไปแล้ว เดส์ชองส์ ก็ไม่อาจเรียกใครมาเสริมเพิ่มเติมได้อีก ดังนั้น ฝรั่งเศส จะต้องไปต่อจนจบรายการด้วยขุมกำลังนักเตะ 24 คนเท่านั้น

 

นอกจากนั้น สภาพร่างกายของ ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเรื่องต้องจับตา หลังจากเกมแรกต้องเปลี่ยนไปใช้คู่ขาใหม่ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ลงตัวจริง

 

สำหรับแนวรุกค่อนข้างลงตัวแล้ว ในระบบ 4-2-3-1 คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, อุสมัน เดมเบเล่ สอดประสานหลังหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

 

เดนมาร์ก
ทั้งที่มาด้วยผลงานชั้นยอดในรอบคัดเลือก รวมถึง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปีก็ทำได้ดี แต่การเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลเสมอตัวแทนแอฟริกาอย่าง ตูนิเซีย 0-0 ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องน่าพอใจ

 

แง่ดีเพียงอย่างเดียวคือการทำคลีนชีตได้อีกครั้ง ไม่เสียประตูเป็นเกมที่ 3 จาก 4 แมตช์หลังสุด

 

ทว่า แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ก็ต้องเสียคนสำคัญในแดนกลางอย่าง โธมัส เดอลานีย์ มิดฟิลด์จากเซบีย่า ถอนตัวไปเรียบร้อยแล้ว หลังเจ็บขาจากเกมพบ ตูนิเซีย และต้องพักแข้งนานนับเดือน

 

ระบบคงเดิมที่ 3-5-2 โดยคาดว่าจะส่ง มาเธียส เยนเซ่น ลงมาแทน เดอลานีย์ เพื่อให้ คริสเตียน เอริคเซ่น เน้นเกมรุกจากตรงกลาง ขณะที่แดนหน้าก็มีสิทธิ์เปลี่ยน มาร์ติน เบรธเวท อาจได้จับคู่กับ อันเดรียส คอร์เนเลียส ผู้ซึ่งยิง 2 ประตูใส่ ฝรั่งเศส ในรายการเนชั่นส์ ลีก

 

ตัวความหวัง
ฝรั่งเศส : คีลิยัน เอ็มบัปเป้
ต้องกลายเป็นผู้นำเกมรุกเบอร์ 1 ของทัพตราไก่ในฟุตบอลโลก 2022 แทนที่เจ้าของบัลลงดอร์อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ถอนตัวไป แต่ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิของ เอ็มบัปเป้ ในวัย 23 ก็ดูพร้อมเต็มที่แล้วในการสวมบทบาทนี้ ภายหลังเริ่มเล่นทีมชาติมาตั้งแต่ยังละอ่อน ถึงตรงนี้เล่นไปแล้ว 60 เกม ยิง 29 ประตู และเป็นหนึ่งในตัวเก็งคว้ารางวัลดาวซัลโวบอลโลกงวดนี้ ภายหลังยิงรัวๆ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาตลอดหลายปี ซีซั่นนี้ก็มีแล้ว 19 ประตู

 

เดนมาร์ก : คริสเตียน เอริคเซ่น
มีฉากชีวิตตลอดปีหลังๆ เหมือนในนิยาย ล้มฟุบหมดสติกลางสนามจนอยู่บนเส้นของความเป็นความตายในยูโร 2020 และถูกคาดหมายว่าจะต้องเลิกเล่นไปแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวกลับมากลายเป็นคีย์แมนแดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ เดนมาร์ก โดยตรง จากการที่คลาสบอลของ เอริคเซ่น จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรปอย่างสบาย แถมยังมีสถิติสวยๆ ของการพังประตูในนามทีมชาติ ที่กดไปแล้ว 39 ลูก (จาก 117 นัด) เป็นดาวซัลโวสูงสุดในทีมชุดนี้ ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางล้วนๆ

 

11 ตัวจริงที่คาด
ฝรั่งเศส (4-2-3-1, กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์) อูโก้ โยริส – เตโอ เอร์นันเดซ, อิบราฮิมา โกนาเต้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เบนชาแม็ง ปาวาร์ – อาเดรียง ราบิโอต์, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ – อุสมัน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
เดนมาร์ก (3-5-2, กุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมันด์) แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น – โยอาคิม เมห์เล่, มาเธียส เยนเซ่น, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, คริสเตียน เอริคเซ่น, ราสมุน คริสเตนเซ่น – มาร์ติน เบรธเวท, อันเดรียส คอร์เนเลียส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เจอกันมามากถึง 16 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะมากก็จริงที่ 8 นัด (เดนมาร์ก 6) แต่สองนัดหลังที่พบกัน เดนมาร์ก ชนะไปกลับ 2-1 และ 2-0
• บรรดาตัวเลือกกองกลางของฝรั่งเศส มีเพียง อาเดรียง ราบิโอต์ ที่รับใช้ทีมชาติชุดใหญ่เกิน 15 นัด (30 นัด 3 ประตู) นอกนั้นอีก 5 ชอยส์ล้วนแต่เล่นทีมชาติไม่เกิน 15 เกม แถม 4 คนในนั้นยังเล่นมาแค่ 5-6 นัดด้วย
• คาริม เบนเซม่า ไม่อยู่ แต่ที่เหลืออย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (29), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (51), อองตวน กรีซมันน์ (42) ถล่มประตูในนามทีมชาติได้รวมกันถึง 122 ลูก
• โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ฝรั่งเศส เทียบเท่ากับ เธียร์รี่ อองรี แล้ว จากนี้ยิงได้อีกไม่ว่ากี่ประตู ก็จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำแบบเดี่ยวๆ ทั้งสิ้น

 

ความน่าจะเป็น
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ เดนมาร์ก คือได้แค่ผลเสมอจาก ตูนิเซีย ในนัดแรก เนื่องจากแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างข่ม ฝรั่งเศส ตลอดช่วงหลัง แต่นั่นคงไม่สำคัญมากไปกว่าการเผชิญหน้ากันจริงในเกมตรงหน้า และ ฝรั่งเศส ก็แสดงให้เห็นถึงความหิวกระหายที่ดีเยี่ยมด้วยในเกมแรก มีเกมรุกที่จัดจ้านดีเหลือเกิน ซึ่ง เดนมาร์ก เมื่อต้องเจอคู่แข่งที่รุกร้อนแรงประเภทนี้เมื่อไหร่ ก็ไปไม่เป็นเมื่อนั้น

 

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส
22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดสอง : โปแลนด์ vs ซาอุดีอาระเบีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โปแลนด์
ชนะเพลย์ออฟเหนือ สวีเดน
(ชนะบายเหนือ รัสเซีย, ชนะ สวีเดน 2-0)

ซาอุดีอาระเบีย
แชมป์กลุ่มบี รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 12 เสีย 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โปแลนด์
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เบลเยียม 0-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เม็กซิโก 0-0

ซาอุดีอาระเบีย
อุ่นเครื่อง เสมอ ฮอนดูรัส 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1
อุ่นเครื่อง แพ้ โครเอเชีย 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 ขนะ อาร์เจนติน่า 2-1

 

ผลการพบกัน (4 นัด)
อุ่นเครื่อง 1994 โปแลนด์ ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 1994 โปแลนด์ ชนะ 2-0
อุ่นเครื่อง 1994 โปแลนด์ ชนะ 2-1
อุ่นเครื่อง 2006 โปแลนด์ ชนะ 2-1

 

สภาพทีม
โปแลนด์
เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเซอร์ไพรส์ในช่วงปลายปีที่แล้วกับการที่ เปาโล ซูซ่า โค้ชชาวโปรตุเกส ตัดสินใจสละเก้าอี้ไปรับตำแหน่งกับ พัลไมรัส ก่อนที่ เชสลาฟ มิชนีวิซ อดีตกุนซือลีเกีย วอร์ซอว์ และทีมชาติชุดยู-21 จะเข้ามาสานงานต่อ

 

สำหรับเกมแรกในฟุตบอลโลก 2022 หวิดจะเอาชนะ เม็กซิโก ได้ แต่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดันพลาดจุดโทษ จนลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0

 

เกมนี้ เชสลาฟ มิชนีวิซ ยังคงมีขุมกำลังสมบูรณ์พร้อมให้เลือก ซึ่งก็จะนำทีมโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นเคยในระบบ 4-1-4-1

 

ซาอุดีอาระเบีย
สร้างเซอร์ไพรส์พลิกล็อกช็อกโลก ด้วยการแซงชนะเต็งแชมป์ อาร์เจนติน่า 2-1 ในเกมนัดเปิดกลุ่ม ทำให้อยู่ในจุดที่ดีทีเดียวสำหรับการเข้ารอบ แม้ยังต้องดูผลกันนัดต่อนัดก็ตาม

 

แอร์กเว่ เรอนาร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของซาอุฯ มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มขึ้นบางจุด ใช้งาน ยาเซอร์ อัล ชาห์รานี่ ไม่ได้ หลังกรามหักมาจากเกมแรก ซึ่งก็มีโอกาสสูงที่จะปิดฉากทัวร์นาเมนต์ไปก่อนเพื่อนโดยปริยาย ขณะที่ ซัลมาน อัล ฟาราจ ก็เจ็บมาเช่นกัน แต่ยังพอมีสิทธิ์เรียกฟิตทัน

 

ระบบและรูปแบบการเล่นยังเน้นเพลย์เซฟ 4-4-1-1 วาง ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ไปขึ้นเกมรุกทางซ้าย ส่วนหน้าเป้าทิ้ง ซาเลห์ อัล เชห์รี ค้ำไว้รายเดียว

 

ตัวความหวัง
โปแลนด์ : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริง โปแลนด์ จะไปได้ไกลขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของเขาเป็นสำคัญ เลวานดอฟสกี้ ครองรางวัลนักเตะแห่งปีของชนชาติโปแลนด์มาแล้วถึง 10 สมัยจากระยะ 11 ปีหลัง และกดไปแล้ว 76 ประตูในนามทีมชาติ ยิ่งกว่านั้นคือการย้ายมาเล่นในลีกใหม่กับ บาร์เซโลน่า หัวหอกวัย 34 ก็ยังยิงสลุตเหมือนเคย กดแล้ว 18 ลูกจากการเล่นแค่ 19 นัด ส่วนนัดแรก ถ้าจุดโทษของเขาไม่โดน กิเยร์โม่ โอชัว ขวางไว้ โปแลนด็ก็คงเริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ด้วยชัยชนะไปแล้ว

 

ซาอุดีอาระเบีย : ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี
ในจำนวน 26 สมาชิกชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 ของซาอุฯ ที่เป็นนักเตะในประเทศทั้งหมด ไม่มีออกค้าแข้งต่างแดนแม้แต่รายเดียวนั้น ตัวที่โดดเด่นที่สุดของพวกเขาคือ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี ตัวรุกเจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 นักเตะจาก อัล-ฮิลาล ในทีมชุดนี้ โดยดาวเตะวัย 31 ค้าแข้งกับต้นสังกัดมาตั้งแต่เป็นเยาวชน ปัจจุบันลงเล่นไปแล้วกว่า 300 นัด และลงสนามให้ทีมชาติซาอุฯ 72 นัด ซัดไป 18 ประตู หนึ่งในนั้นเป็นประตูชัยสยบ อาร์เจนติน่า นั่นเอง

 

11 ตัวจริงที่คาด
โปแลนด์ (4-1-4-1, กุนซือ เชสลาฟ มิชนีวิซ) วอยเชียค เชสนี่ – บาร์ตอสซ์ เบเรซินสกี้, คามิล กลิค, ยาคุบ กีวิยอร์, แม็ตตี้ แคช – เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค – นิโกล่า ซาเลฟสกี้, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้, ดาเมี่ยน ซีมานสกี้, ยาคุบ คามินสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ซาอุดีอาระเบีย (4-1-4-1, กุนซือ แอร์กเว่ เรอนาร์) โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส – โมฮัมเหม็ด อัล บูเรียค, ฮัสซัน ทัมบัคที, อาลี อัล-บูไลฮี, ซาอุด อับดุลฮามิด – อับดูเลลาห์ อัล มัลกี – ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี, โมฮัมเหม็ด คันโน, นาวาฟ อัล อาบิด, เฟราส อัล บริคาน – ซาเลห์ อัล เชห์รี

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 4 ครั้ง โปแลนด์ ชนะรวด
• เกมชนะ อาร์เจนติน่า นัดแรก ซาอุฯ ยิงตรงกรอบ 2 ครั้งได้ 2 ประตู
• โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงแค่ 2 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 7 นัดรอบปี 2022 แต่กดให้ บาร์เซโลน่า ไปถึง 18 ลูกจาก 19 เกม
• อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กับ คริสซ์ตอฟ ปิออนเท็ค ยิงให้ทีมชาติ 16 และ 11 ประตูตามลำดับ
• ซาเลห์ อัล-เชห์รี กองหน้าจาก อัล-ฮิลาล มีสถิติยิง 11 ลูกจากการเล่นทีมชาติแค่ 21 นัด

 

ความน่าจะเป็น
แม้จะสยบ อาร์เจนติน่า อย่างสุดยอด แต่ก็ห้ามลืมว่าพวกเขามีโชคดวงส่งเสริมพอสมควร หากองศาของการดักล้ำหน้าเบี่ยงทิศไปสักนิด อาร์เจนฯ อาจฉีกหนี 2-3 เม็ดไปแล้วก็เป็นได้ และเมื่อต้องเจอตัวแทนยุโรปอย่าง โปแลนด์ ที่ไม่ได้เน้นเกมบุกเป็นพายุ แต่เล่นไปตามกระแสเกม แถมมีดาวยิงระดับโลกอย่าง เลวานดอฟสกี้ ที่แดนหน้า ก็น่าห่วงแทนทีมเศรษฐีน้ำมันว่าจะเครื่องสะดุดเข้าให้

 

ผลที่คาด : โปแลนด์ ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
02.00 — โปแลนด์ vs อาร์เจนติน่า
02.00 — ซาอุดีอาระเบีย vs เม็กซิโก

ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสอง : ตูนิเซีย vs ออสเตรเลีย
เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ตูนิเซีย
ชนะ มาลี รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกชนะ 1-0 นัดสองเสมอ 0-0

ออสเตรเลีย
ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 รอบ 4 โซนเอเชีย (รอบเพลย์ออฟ)
ชนะจุดโทษ เปรู 5-4 (หลังเสมอ 0-0) รอบเพลย์ออฟต่างทวีป

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ตูนิเซีย
กิริน คัพ ชนะ ญี่ปุ่น 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ โคโมรอส 1-0
อุ่นเครื่อง แพ้ บราซิล 1-5
อุ่นเครื่อง ชนะ อิหร่าน 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เดนมาร์ก 0-0

ออสเตรเลีย
คัดบอลโลก ชนะ ยูเออี 2-1
คัดบอลโลก เสมอ เปรู 0-0 / ชนะจุดโทษ 5-4
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ นิวซีแลนด์ 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ฝรั่งเศส 1-4

 

ผลการพบกัน (2 นัด)
อุ่นเครื่อง 1997 ตูนิเซีย 0-3 ออสเตรเลีย
คอนเฟดฯ คัพ 2005 ออสเตรเลีย 0-2 ตูนิเซีย

 

สภาพทีม
ตูนิเซีย
มาแบบไม่มีใครตั้งความหวัง แต่นัดแรกถือว่าทำได้ดีทีเดียว ยันเสมอ เดนมาร์ก 0-0 แบบที่มีโอกาสจะยิงชนะได้ด้วย

 

กุนซือ จาเลล คาดรี้ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บเพิ่มเติม สามารถใช้ชุดที่ดีที่สุดได้ แต่ก็คาดว่าอาจมีการปรับบางตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสด เช่น วาห์บี คาซรี่ กลางรุกจากมงต์เปลลิเยร์ มีโอกาสแทรกลงตัวจริง

 

ระบบยึด 3-4-2-1 แบบเกมแรก แนวรุกวาง วาห์บี คาซรี่ กับ ยุสเซฟ เอ็มซาคนี่ ปั้นเกมหลังหอกเป้า อิสซาม เชบาลี

 

ออสเตรเลีย
ฝั่งทัพจิงโจ้ กว่าจะได้เข้ารอบสุดท้ายมา ต้องเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็นเตะเพลย์ออฟถึง 2 รอบ และกว่าจะโค่นคู่แข่งต่างทวีปอย่าง เปรู ได้ (หลังเสมอ 0-0) ก็ต้องลุ้นหนักถึงจะได้เฮจากการดวลจุดโทษ

 

ส่วนเกมแรกของฟุตบอลโลก 2022 โชคไม่ดีที่เจอของแข็งอย่างแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ตั้งแต่แรก แม้จะขึ้นนำก่อนแต่ก็โดนจ้วงยับหลังจากนั้น จนแพ้ขาด 1-4

 

สภาพทีมของ เกรแฮม อาร์โนลด์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเช่นกัน โดยจะยึดระบบ 4-1-4-1 เอาไว้เป็นหลัก แล้วค่อยแก้สถานการณ์หรือโถมเกมบุกในระหว่างเกม

 

อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียชุดนี้ไม่ค่อยจะมีสตาร์ในทีมนักแล้ว ตัวที่เล่นในยุโรปก็มีจำกัด เช่น อาจ์ดิน ฮรุสติช (เวโรน่า), อารอน มอย (เซลติก), แจ๊คสัน เออร์ไวน์ (ซังต์ เพาลี), ฟราน คาราซิช (เบรสชา), ไบลี่ย์ ไรท์ (ซันเดอร์แลนด์) หรือ แฮร์รี่ ซุตตาร์ (สโต๊ค)

 

ตัวความหวัง
ตูนิเซีย : ฮันนิบาล เมจ์บรี้
เจ้าหนูหัวฟูวัยเพียง 19 ได้มาฟุตบอลโลก 2022 อย่างเซอร์ไพรส์ในขณะที่รุ่นพี่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนทำได้แค่ดูบอลโลกอยู่บ้าน ซึ่งก็เนื่องมาจากฟอร์มที่น่าประทับใจในการไปเล่นยืมตัวกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ตลอดครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา ที่ได้ลงสนาม 15 นัด มีส่วนช่วยทีมยืนกลางตาราง ทั้งนี้ เมจ์บรี้ เคยเล่นทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชนมาแล้ว แต่ก็ตัดสินใจคว้าโอกาสลงเล่นกับตูนิเซียชุดใหญ่มาตั้งแต่กลางปี 2021 และเกมแรกก็ได้ลงสำรองสัมผัสบรรยากาศฟุตบอลโลกไปแล้วด้วย

 

ออสเตรเลีย : แม็ทธิว เลคกี้
ตัวรุกประสบการณ์สูงวัย 31 ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 74 นัด ยิงแล้ว 13 ประตู ผ่านรายการใหญ่มาแล้วทั้งฟุตบอลโลก 2 รอบ 2014 กับ 2018, เอเชียน คัพ 2 หน และคอนเฟดฯ คัพ อีกหนึ่ง เวลานี้อยู่ในสังกัด เมลเบิร์น ซิตี้ ภายหลังโกอินเตอร์ไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน อยู่นานนับสิบปี กับทั้งกลัดบัค, เอฟเอสเฟา แฟร้งค์เฟิร์ต, อิงโกลชตัดท์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน จนนับเป็นดาวเด่นเบอร์ใหญ่สุดของทัพจิงโจ้ชุดนี้

 

11 ตัวจริงที่คาด
ตูนิเซีย (3-4-2-1, กุนซือ จาเลล คาดรี้) อายเมน ดาห์เมน – มอนตาสซาร์ ทาลบี้, ยาสซีน เมริอาห์, ดีแลน บรอนน์ – อาลี อับดี, เอสซ่า ไลดูนี่, เอลเยส ชกิรี่, โมฮาเหม็ด ดราเกอร์ – ยุสเซฟ เอ็มซาคนี่, วาห์บี คาซรี่ – อิสซาม เชบาลี
ออสเตรเลีย (4-1-4-1, กุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์) แม็ต ไรอัน – เนธาเนียล แอตกินสัน, แฮร์รี่ ซุตตาร์, ไค โรว์เลส, อาซิซ เบฮิช – อารอน มอย – เคร็ก กู๊ดวิน, ไรลี่ย์ แม็คกรี, แจ๊คสัน เออร์ไวน์, แม็ทธิว เลคกี้ – มิตเชลล์ ดุ๊ค

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เคยพบกันมาสองครั้ง เมื่อค่อนข้างนานมาแล้ว และต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันได้
• เจอกันล่าสุดในคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2005 หรือตั้ง 17 ปีมาแล้ว
• แม็ทธิว เลคกี้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของออสเตรเลียชุดนี้ แม้จะยิงได้แค่ 13 ประตูเท่านั้นก็ตาม
• วาห์บี คาซรี่ ยิงในทีมชาติไปแล้ว 24 ประตู (72 นัด)

 

ความน่าจะเป็น
พอฟัดพอเหวี่ยงกันเมื่อเทียบกันระหว่างสองทีม แต่ดูไปแล้ว ตูนิเซีย ก็ดูมีทรงมากกว่าจากเกมแรก โดยเฉพาะหลังบ้านที่ดูแข็งกว่า พึ่งได้มากกว่า ขณะที่ ออสเตรเลีย ทรงไม่สวยมาตั้งแต่คัดเลือกแล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากกว่าที่ ตูนิเซีย จะเข้าวิน

 

ผลที่คาด : ตูนิเซีย ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
พุธ 30 พฤศจิกายน 2565
22.00 — ตูนิเซีย vs ฝรั่งเศส
22.00 — ออสเตรเลีย vs เดนมาร์ก

อังกฤษ vs สหรัฐอเมริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

อังกฤษ vs สหรัฐอเมริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี : อังกฤษ vs สหรัฐอเมริกา
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : อัล เบยท์ สเตเดี้ยม, อัล คอร์
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
อังกฤษ
แชมป์กลุ่มไอ โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 8 เสมอ 2 ยิง 39 เสีย 3

สหรัฐอเมริกา
อันดับ 3 โซนคอนคาเคฟ
แข่ง 14 ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 3 ยิงได้ 21 เสีย 10

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
อังกฤษ
เนชั่นส์ ลีก เสมอ อิตาลี 0-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮังการี 0-4
เนชั่นส์ ลีก แพ้ อิตาลี 0-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เยอรมนี 3-3
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ อิหร่าน 6-2

สหรัฐอเมริกา
อุ่นเครื่อง ชนะ เกรนาด้า 5-0
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เอล ซัลวาดอร์ 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ญี่ปุ่น 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ เวลส์ 1-1

 

ผลการพบกัน : 11 นัด
อังกฤษ ชนะ 8
เสมอ 1
สหรัฐอเมริกา ชนะ 2

 

สภาพทีม
อังกฤษ
เปิดฉากฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างเร้าใจ ทะลวง อิหร่าน 6-2 แก้ตัวจากที่ไม่ชนะใครเลยตลอดทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อกลางปี

 

กระนั้น เกมชนะ อิหร่าน ก็ต้องสังเวยด้วยอาการบาดเจ็บของ 2 คีย์แมน อย่างกัปตันทีม แฮร์รี่ เคน และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งต้องเช็กสภาพด้วยกันทั้งคู่ แม้รายหลังจะยืนยันว่าไม่มีอะไรมาก แค่รู้สึกป่วยขึ้นมาจนต้องออกเท่านั้น

 

เวลาเดียวกัน แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังจะไม่ได้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่มีปัญหาบริเวณโคนขาหนีบ กลับมา รวมถึง เจมส์ แมดดิสัน ก็ต้องแยกซ้อมด้วยอีกคน

 

หากว่า เคน กับ แม็กไกวร์ ฟิตพร้อม 11 คนแรกก็น่าจะไม่เปลี่ยนเลย ในระบบ 4-3-3 เคน นำเกมรุกร่วมกับ บูกาโย่ ซาก้า และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

 

สหรัฐอเมริกา
ทีมพญาอินทรี สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 แบบมีแต้ม เสมอกับ เวลส์ 1-1

 

เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์ ไม่มีตัวเจ็บให้ต้องเป็นกังวล แค่ต้องเช็กฟิตสมาชิกบางรายก่อนเกม เช่น เวสตัน แม็คเคนนี่, ลูก้า เด ลา ตอร์เร่, ยูนุส มูซาห์ แต่ก็คาดว่าแทบทั้งหมดจะพร้อมเป็นตัวเลือก

 

ระบบจะใช้ 4-3-3 ข้างหน้าวาง คริสเตียน พูลิซิช, ทิโมธี เวอาห์ และ จอช ซาร์เจนท์ เข้าทำ

 

ตัวความหวัง
อังกฤษ : จู๊ด เบลลิงแฮม
ระเบิดฟอร์มได้อย่างไฉไล และเป็นคนโขกประตูนำ อิหร่าน 1-0 ด้วย ซึ่งเป็นฟอร์มที่ดีต่อเนื่องจากการเล่นให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยเจ้าหนูจอมทัพวัย 19 เป็นข่าวฮือฮาตั้งแต่ที่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ขายออกแล้วรีไทร์เบอร์เสื้อให้เป็นเกียรติอย่างเอิกเกริก ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ผลงานของ เบลลิงแฮม ก็บอกว่ามันคือการลงทุนชั้นยอดอีกหนึ่งดีลของดอร์ทมุนด์ และเป็นอนาคตใหม่ที่น่าจับตามากๆ ของอังกฤษ ชนิดว่าบางกูรูยกว่าเป็นร่างฟิวชั่นของ เจอร์ราร์ด + แลมพาร์ด ทีเดียว

สหรัฐอเมริกา : ทิโมธี เวอาห์
หัวหอกวัย 22 ลูกชายตำนานแข้งไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ สามารถเล่นให้ทีมชาติได้ทั้ง สหรัฐอเมริกา, ไลบีเรีย, จาไมก้า และฝรั่งเศส แต่เขาก็เลือกรับใช้ทัพพญาอินทรีมาตั้งแต่ชุดเยาวชนแล้ว ถึงตรงนี้เล่น 26 นัด ยิง 4 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิงใส่ เวลส์ เป็นสกอร์ 1-0 ในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 เท่ากับความมั่นใจกำลังเข้าที่ หลังจากไม่ค่อยได้เล่นกับ ลีลล์ ในซีซั่นนี้

 

11 ตัวจริงที่คาด
อังกฤษ (4-3-3, กุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต) จอร์แดน พิคฟอร์ด – ลุค ชอว์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, คีแรน ทริปเปียร์ – เมสัน เมาท์, ดีแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร์รี่ เคน, บูกาโย่ ซาก้า
สหรัฐอเมริกา (4-3-3, กุนซือ เกร๊ก เบอร์ฮัลเตอร์) แม็ตต์ เทอร์เนอร์ – แซร์จินโย่ เดสท์, ทิม รีม, วอล์คเกอร์ ซิมเมอร์แมน, แอนโทนี่ โรบินสัน – เวสตัน แม็คเคนนี่, ไทเลอร์ อดัมส์, ยูนุส มูซาห์ – ทิโมธี เวอาห์, จอช ซาร์เจนท์, คริสเตียน พูลิซิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันในฟุตบอลโลก 2010 และลงเอยด้วยผลเสมอเซอร์ไพรส์ 1-1
• ล่าสุดเจอกันปี 2018 เกมลับแข้งที่เวมบลีย์ อังกฤษ ยิงขาด 3-0
• อังกฤษ สองเกมหลัง เสียไปถึง 5 ประตู แต่ก็ยิงได้ 9 ลูก
• คัลลั่ม วิลสัน เล่นทีมชาติ 5 นัดมี 1 ประตู ซึ่งก็คือการยิงใส่ สหรัฐฯ เมื่อปี 2018
• แฮร์รี่ เคน ขออีกแค่ 3 ลูกเพื่อแซง เวย์น รูนี่ย์ (53) ขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดของชาติ หลังกดไปแล้ว 51 ประตู

 

ความน่าจะเป็น
อังกฤษ กำลังขึ้นหม้อและมั่นใจอย่างยิ่งภายหลังรัว อิหร่าน มาครึ่งโหลในเกมแรก ขณะที่ สหรัฐอเมริกา แม้จะมีแต้มจาก เวลส์ แต่ก็ไม่ได้เล่นดีอะไรนัก เท่ากับระดับฟอร์มการเล่นของสองฝั่งต่างกันมาก ยิ่งถ้า อังกฤษ เจาะเข้าได้เร็วเท่าไหร่ สกอร์ยิ่งไหลขึ้นเท่านั้น

 

ผลที่คาด : อังกฤษ ชนะ 3-0

 

โปรแกรมถัดไป
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565
02.00 — เวลส์ vs อังกฤษ
02.00 — อิหร่าน vs สหรัฐอเมริกา

เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์ : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ : เนเธอร์แลนด์ vs เอกวาดอร์
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : พีพีทีวี

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เนเธอร์แลนด์
แชมป์กลุ่มจี โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 33 เสีย 8

เอกวาดอร์
อันดับ 4 โซนอเมริกาใต้
ลงสนาม 18 ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 6

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เนเธอร์แลนด์
เนชั่นส์ ลีก เสมอ โปแลนด์ 2-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 3-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 2-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เบลเยียม 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เซเนกัล 2-0

เอกวาดอร์
อุ่นเครื่อง ชนะ เคป เวิร์ด 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ญี่ปุ่น 0-0
อุ่นเครื่อง เสมอ อิรัก 0-0
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ กาตาร์ 2-0

 

ผลการพบกัน (2 นัด)
อุ่นเครื่อง 2006 เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2014 เสมอ 1-1

 

สภาพทีม
เนเธอร์แลนด์
หลุยส์ ฟาน กัล เรียกตัว 26 คนสุดท้ายมาโดยมองข้ามดาวดังไปหลายราย ช่น ดอนเยลล์ มาเลน ของดอร์ทมุนด์, อาร์โนต์ ดันยูม่า ของบียาร์เรอัล, ไรอัน กราเวนเบิร์ช ของบาเยิร์น, ฮานส์ ฮาเตบัวร์ ของอตาลันต้า, สเวน บ็อตมัน ของนิวคาสเซิ่ล ไม่นับรวมคีย์แมนแดนกลางอย่าง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ที่เจ็บหนักพักยาวหลังย้ายไป โรม่า ได้ไม่กี่วัน

 

แต่แม้กระนั้น ทัพอัศวินสีส้มก็ยังออกสตาร์ทในฟุตบอลโลก 2022 ได้อย่างยอดเยี่ยม สยบ เซเนกัล 2-0 ด้วยสองประตูในช่วงห้านาทีสุดท้าย

 

สภาพทีมของ ฟาน กัล ยังมีปัญหาเล็กๆ ตรงที่ เมมฟิส เดอปาย ดาวซัลโว 42 ประตูของทีมชุดนี้ เจ็บแฮมสตริงติดพัน เช่นเดียวกับ มาร์เทน เดอ รอน แต่ว่าทั้งคู่ก็ลงสำรองเกมแรกได้มาแล้ว ดังนั้นเกมนี้มีโอกาสที่จะแทรกลงตัวจริงได้ โดยเฉพาะในราย เดอปาย

 

สำหรับนายประตู จะยังคงเป็น อันดรีส น็อพเพิร์ต จอมหนึบวัย 28 จากฮีเรนวีน ที่เกมก่อนเพิ่งลงประเดิมทีมชาติ และเล่นได้อย่างน่าพอใจ

 

เอกวาดอร์
สร้างผลงานน่าประทับใจ เข้าป้ายเป็นอันดับ 4 ในรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ และก็เริ่มต้นฟุตบอลโลก 2022 ได้แจ๋วด้วย สยบเจ้าภาพ กาตาร์ นิ่มแข้ง 2-0 จากการเหมาซัดของเสือเฒ่า เอนเนร์ วาเลนเซีย

 

แต่กุนซือ กุสตาโว่ อัลฟาโร่ ก็ต้องเช็กสภาพของ วาเลนเซีย ก่อนเกมนี้ว่าถึงระดับ 100% หรือไม่ ภายหลังเจ็บจนต้องออกจากสนามในช่วงท้ายเกมของนัดแรก

 

ไลน์อัพจะยึดชุดเดิมที่ลงเล่นเกมแรก แต่หากว่า วาเลนเซีย ไม่พร้อม จะเป็น มิชาเอล เอสตราด้า เสียบแทน

 

ตัวความหวัง
เนเธอร์แลนด์ : โคดี้ กัคโป
ตอบแทนความไว้ใจจากเจ้านายได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยลูกโขก 1-0 ใส่เซเนกัล ทำให้เป็นประตูที่ 4 จากการเล่นทีมชาติ 10 นัด โดยตัวรุกวัย 23 จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ถูกพูดถึงผ่านหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากฟอร์มสุดแจมที่ร่ายให้กับต้นสังกัด ซีซั่นก่อนยิง 21 ประตู ซีซั่นนี้กดแล้ว 13 ลูก และมีสิทธิ์แจ้งเกิดเต็มตัวได้ในฟุตบอลโลก 2022

 

เอกวาดอร์ : เอนเนร์ วาเลนเซีย
เสือเฒ่าวัย 33 ที่คงมาสั่งลาฟุตบอลโลกหนนี้เป็นครั้งสุดท้าย ยังคงเป็นทีเด็ดของเกมรุก เอกวาดอร์ อยู่เสมอ และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมด้วยการกดไป 15 ประตูให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในช่วงครึ่งซีซั่นที่ผ่านมา ยืนเด่นเป็นผู้นำดาวซัลโวของซูเปอร์ลีก ตุรกี ก่อนจะสานต่อความร้อนแรงด้วยการซัด 2 เม็ดใส่เจ้าภาพ กาตาร์ ในเกมแรก

 

11 ตัวจริงที่คาด
เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2, กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล) อันดรีส น็อพเพิร์ต – มัทไธส์ เดอ ลิกท์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์, ดาลี่ย์ บลินด์ – โคดี้ กัคโป – สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, เมมฟิส เดอปาย
เอกวาดอร์ (4-4-1-1, กุนซือ กุสตาโว่ อัลฟาโร่) อเล็กซานเดร์ โดมิงเกซ – เปร์วิส เอสตูปินยาน, เฟลิกซ์ ตอร์เรส, ปิเอโร่ อินคาปี้, โรเบิร์ต อาร์บอเลด้า – โรมาริโอ อิบาร์ร่า, มอยเซส ไกเซโด้, คาร์ลอส กรวยโซ่, อันเคโล่ เปรเซียโด้ – เยเรมี่ ซาร์เมียนโต้ – เอนเนร์ วาเลนเซีย

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เนเธอร์แลนด์ ชนะ 12 จาก 15 แมตช์หลัง
• เนเธอร์แลนด์ ยังไม่เสียประตูมา 3 นัดซ้อน และยิงได้ 5 ลูก
• เมมฟิส เดอปาย ยิงในทีมชาติไปถึง 42 ประตู เหลืออีกแค่ 8 ลูกจะเท่าสถิติสูงสุดของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
• เอนเนร์ วาเลนเซีย เคยผ่านฟุตบอลโลก 2014 มาแล้ว และยิงรวม 3 ประตู ใส่สวิตเซอร์แลนด์ (1) กับฮอนดูรัส (2) ก่อนจะมาบวกกาตาร์เพิ่ม 2 เม็ด

 

ความน่าจะเป็น
ชนะมาทั้งคู่ อยู่ในฟอร์มที่ดีและมั่นใจสูงด้วยกันทั้งสอง กระนั้นอันที่จริงในเกมแรก เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่ได้เล่นดีมากนัก หวิดเสมออยู่แล้วก่อนได้สองเม็ดรวดท้ายเกม ดังนั้นถ้า เอกวาดอร์ มาแบบเน้นๆ เก็บทุกเม็ดและไม่พลาดเอง ก็มีสิทธิ์คิดดึงแต้มได้ แม้จะลุ้นถึงชนะลำบากก็ตาม

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1, เนเธอร์แลนด์ ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565
22.00 — เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์
22.00 — เอกวาดอร์ vs เซเนกัล

กาตาร์ vs เซเนกัล : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

กาตาร์ vs เซเนกัล : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ : กาตาร์ vs เซเนกัล
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม, โดฮา
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
กาตาร์
ไม่ต้องเล่นรอบคัดเลือก ในฐานะชาติเจ้าภาพ

เซเนกัล
ชนะจุดโทษ อียิปต์ 3-1 รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกแพ้ 0-1, นัดสองชนะ 1-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
กาตาร์
อุ่นเครื่อง ชนะ กัวเตมาลา 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ฮอนดูรัส 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ปานามา 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ อัลเบเนีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เอกวาดอร์ 0-2

เซเนกัล
โคซาฟา คัพ แพ้ แซมเบีย 3-4
โคซาฟา คัพ เสมอ โมซัมบิก 1-1, ชนะจุดโทษ 4-2
อุ่นเครื่อง ชนะ โบลิเวีย 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ อิหร่าน 1-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อนเลย

 

สภาพทีม
กาตาร์
เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 อย่าง กาตาร์ เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้อย่างน่าผิดหวัง แพ้ต่อ เซเนกัล 0-2 ชนิดรูปเกมสู้ไม่ได้ และหวิดจะโดนมากกว่าสองเม็ดด้วย

 

แง่ดีอย่างเดียวของ เฟลิกซ์ ซานเชซ โค้ชชาวสแปนิช คือไม่มีปัญหาใหญ่ให้น่าเป็นกังวล สามารถใช้งานนักเตะชุดที่ดีที่สุดได้

 

ซานเชซ จะยังคงมาในระบบ 3-5-2 ฝากความหวังไว้ที่คู่กองหน้า อัลโมเอซ อาลี กับ อัคราม อาฟิฟ ที่ยิงรวมกัน 68 ประตู ในการรับใช้กาตาร์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

เซเนกัล
เจอข่าวร้ายก่อนเตะนัดแรกแค่ 3-4 วัน กับการที่ต้องเสีย ซาดิโอ มาเน่ ยอดหัวหอกคนสำคัญจาก บาเยิร์น มิวนิค ถอนตัวไปจากฟุตบอลโลก เนื่องจากต้องเข้าผ่าตัดเข่าและต้องพักยาว

 

การขาด มาเน่ ทำให้เกมรุกของ เซเนกัล ลดพิษสงลงไปอย่างชัดเจน จนเกมแรกแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-2 แม้จะยื้อไม่เสียประตูแรกจนเกือบ 5 นาทีสุดท้ายก็ตาม

 

การขาด มาเน่ ทำให้โอกาสตกเป็นของ บูลาย เดีย กองหน้าจากซาแลร์นิตาน่า ในการลงเดินเกมรุกร่วมกับ อิสไมล่า ซาร์ และ เกรแป็ง ดิยัตต้า

 

แต่หลังจากเกมแรก ก็มีที่เจ็บเพิ่มคือ ชีคู คูยาเต้ กับ อับดู ดิยัลโล่ ดังนั้น อาลิยู ซิสเซ่ จึงต้องปรับทัพบางตำแหน่ง แม้แกนหลักอย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูเชลซี กับ คาลิดู คูลิบาลี่ ปราการหลังจากเชลซีเช่นกัน จะยังอยู่ก็ตาม

 

ตัวความหวัง
กาตาร์ : อัลโมเอซ อาลี
กองหน้าวัยเพียง 26 ปีจาก อัล-ดูฮาอิล ตัวแปลงสัญชาติจากซูดาน เคยเล่นในสเปนช่วงสั้นๆ กับ กุลตูรัล เลโอเนซ่า แม้ตัวไม่ได้สูงใหญ่นัก (180 ซ.ม.) แต่มีจุดเด่นที่ความเร็วและใช้โอกาสไม่เปลือง จนทำสถิติน่าสะพรึงเอาไว้ในทีมชาติ (เริ่มต้นติดธงตั้งแต่ปี 2016) ด้วยการยิงไปถึง 42 ประตูจากการลงสนาม 86 นัด พ่วงด้วยดีกรีดาวซัลโว 4 ประตูในคอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2021 กับดาวซัลโว 9 ลูกในเอเชียน คัพ 2019 ด้วย

 

เซเนกัล : อิสไมล่า ซาร์
เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ ไม่อยู่ คนที่ เซเนกัล ต้องพึ่งพาในเกมรุก คงเป็น อิสไมล่า ซาร์ ปีกวัยรุ่นจาก วัตฟอร์ด ที่รับใช้ชาติไปแล้ว 49 นัด ซัด 10 ประตูด้วยกัน โดย ซาร์ ย้ายจาก แรนส์ มาสร้างชื่อในอังกฤษตั้งแต่ปี 2019 และที่ผ่านมาได้โชว์ฟอร์มในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 2 ซีซั่น ยิงรวม 11 ประตู ซึ่งความวูบวาบและคุณสมบัติต่างๆ อันพึงมีของตัวริมเส้นจาก ซาร์ ก็ทำให้เขาถูกเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล รวมทั้งทีมอื่นๆ มาแล้ว

 

11 ตัวจริงที่คาด
กาตาร์ (3-5-2, กุนซือ เฟลิกซ์ ซานเชซ) ซาอัด อัล เชเอ็บ – อับเดลการิม ฮัสซัน, บัสซัม อัล-ราวี, บูอาเล็ม คูคี่ – โฮมัม อาห์เหม็ด, คาริม บูเดียฟ, ฮัสซัน อัล-ไฮดอส, อับดุลลาซิช ฮาเต็ม, โร-โร่ – อัลโมเอซ อาลี, อัคราม อาฟิฟ
เซเนกัล (4-3-3, กุนซือ อาลิยู ซิสเซ่) เอดูอาร์ เมนดี้ – ยุสซูฟ ซาบาลี่, ปาเป้ อาบู ซิสเซ่, คาลิดู คูลิบาลี่, อิสมาอิล จาค็อบส์ – ปาเป้ มาตาร์ ซาร์, นัมปาลิส เมนดี้, อิดริสซ่า กาน่า เกย์ – อิสไมล่า ซาร์, บูลาย เดีย, เกรแป็ง ดิยัตต้า

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• คู่นี้ไม่เคยพบกันมาก่อนเลยแม้กระทั่งเกมลับแข้ง
• รวมเกมลับแข้งแบบไม่เป็นทางการ กาตาร์ ลงสนามในปี 2022 ไปมากถึง 22 นัด มากที่สุดในบรรดาทีมชาติ โดยได้ผลชนะ 10 เสมอ 8 และแพ้ 4
• นอกจากเป็นดาวซัลโว คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2021 (4 ประตู) กับเอเชียน คัพ 2019 (9 ประตู) แล้ว อัลโมเอซ อาลี ยังติดทีมยอดเยี่ยมในทั้งสองรายการ โดยเฉพาะยังได้รางวัลนักเตะดีเด่น Best Player ของ เอเชียน คัพ ครั้งนั้นด้วย
• อิสไมล่า ซาร์ กับ ฟามาร่า ดีดิอู ยิงในทีมชาติรวมกัน 20 ประตู (คนละ 10 พอดี)

 

ความน่าจะเป็น
เกมของสองทีมที่พลาดพลั้งมาในเกมแรก หมายถึงว่าหลังพิงเชือกแล้ว ถ้าใครแพ้อีกตกรอบเลยทันที ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เซเนกัล ที่แม้จะไม่มี มาเน่ ก็ยังดูดีมีภาษีน่าเชียร์มากกว่าเจ้าภาพ อย่างน้อยหนึ่งเม็ดต้องมี

 

ผลที่คาด : เซเนกัล ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565
22.00 — เนเธอร์แลนด์ vs กาตาร์
22.00 — เอกวาดอร์ vs เซเนกัล

เวลส์ vs อิหร่าน : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เวลส์ vs อิหร่าน : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี : เวลส์ vs อิหร่าน
ศุกร์ 25 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : ทรูโฟร์ยู

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เวลส์
ชนะเพลย์ออฟ โซนยุโรป สายเอ
ชนะ ออสเตรีย 2-1, ชนะ ยูเครน 1-0

อิหร่าน
แชมป์กลุ่มเอ รอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิง 15 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เวลส์
เนชั่นส์ ลีก เสมอ เบลเยียม 1-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 2-3
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เบลเยียม 1-2
เนชั่นส์ ลีก แพ้ โปแลนด์ 0-1
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ สหรัฐอเมริกา 1-1

อิหร่าน
อุ่นเครื่อง แพ้ แอลจีเรีย 1-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุรุกวัย 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เซเนกัล 1-1
อุ่นเครื่อง ชนะ นิคารากัว 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ อังกฤษ 2-6

 

ผลการพบกัน (1 นัด)
อุ่นเครื่อง 1978 อิหร่าน 0-1 เวลส์

 

สภาพทีม
เวลส์
มังกรแดงของ โรเบิร์ต เพจ ไล่ตามตีเสมอ สหรัฐอเมริกา 1-1 ในเกมแรกของกลุ่ม เท่ากับไม่ดีไม่แย่ และมี 1 แต้มในมือ ยังได้ลุ้นเข้ารอบต่อไปอยู่

 

เพจ มีปัญหาสภาพทีมเล็กน้อย โดยยังไม่อาจใช้งาน โจ อัลเลน มิดฟิลด์ตัวเก๋าจาก สวอนซี ซิตี้ ที่ไม่ได้เล่นมาพักใหญ่ รวมถึงเกมกับ สหรัฐฯ ได้ โดยจะคืนสนามอย่างเร็วในเกม 3 กับ อังกฤษ

 

แฮร์รี่ วิลสัน กับ อีธาน อัมปาดู ก็บาดเจ็บเล็กๆ จากเกมแรก แต่ไม่ได้หนักหนา นัดนี้มีสิทธิ์ได้เล่นต่อ

 

สำหรับ แกเร็ธ เบล ตัวความหวังจาก แอลเอ เอฟซี อยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์พร้อมลุย จากที่นัดแรกก็ลั่นไกจากจุดโทษ ทวงแต้มเข้ากระเป๋ามาแล้ว

 

การจัดทีมจะปรับบางจุดจากเกมแรก เช่นให้ คีเฟอร์ มัวร์ หอกร่างโย่ง 196 ซ.ม. จากบอร์นมัธ ลงตัวจริงบ้างหลังลงไปปั่นป่วน สหรัฐฯ ได้ดีทีเดียว

 

อิหร่าน
ทั้งที่ทรงดีในช่วงปรีบอลโลก เตะ 5 นัดแพ้แค่เกมเดียว แต่เมื่อฟุตบอลโลก 2022 มาถึงจริงแล้วก็ออกทะเล โดน อังกฤษ ถล่มยับ 6-2 เท่ากับจะหลุดแพ้อีกไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นก็จองตั๋วกลับบ้านได้เลย

 

คาร์ลอส เคยรอซ ยังเจอปัญหาใหญ่ที่ตำแหน่งนายทวาร เมื่อมือหนึ่ง อาลีเรซ่า เบรันวานด์ เจ้าของสถิติโลกขว้างบอลไกลที่สุด เจ็บหนักจากเกมแรก แม้ยังไม่มีรายงานว่าถอนตัวออกจากแคมป์ แต่เกมนี้ฟื้นตัวไม่ทันแน่นอน

 

ส่วนอีกตัวความหวัง ซาร์ดาร์ อัซมูน ตัวรุกจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ลงสำรองกับ อังกฤษ ได้ไปแล้ว เกมนี้น่าจะพร้อมคืนทัพตัวจริง โดยจะลงในแดนกลาง เป็นตัวสนับสนุนหอกเป้า เมห์ดี้ ทาเรมี่ ที่ยิงสิงโตคำรามมา 2 เม็ด

 

ตัวความหวัง
เวลส์ : แกเร็ธ เบล
แม้ เวลส์ จะผลงานไม่ค่อยเข้าตาในช่วงหลัง แต่ เบล ก็ยิงได้ถึง 3 ประตูในรอบเพลย์ออฟชิงตั๋วมาบอลโลก รวมถึงเกมชิงชนะเลิศ เอ็มแอลเอส คัพ เมื่อต้นเดือน ก็ฝืนเจ็บลงสำรองไปโขกประตูช่วย แอลเอ เอฟซี ตีเสมอ ฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน ตอนทดเจ็บ ก่อนชนะดวลจุดโทษจนครองแชมป์ซีซั่น 2022 เรียกว่าถ้าฟิตเต็มถัง ระดับฝีเท้าของ เบล ก็ยังพึ่งพาได้เสมอ เช่นเกมแรกที่สังหารจุดโทษอย่างเยือกเย็นใส่ สหรัฐอเมริกา

 

อิหร่าน : ซาร์ดาร์ อัซมูน
พูดได้ว่า อัซมูน คือนักเตะที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันของ อิหร่าน ภายหลังปักหลักโชว์ฟอร์มในลีกรัสเซียมาอย่างยาวนาน ก็ได้ย้ายสู่ลีกชั้นนำอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมนี ไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น กลางซีซั่นที่แล้ว เพียงแต่กองหน้าวัย 27 ก็ยังอยู่ในระยะปรับตัว ลงหลักปักฐานได้ไม่ดีนัก ซีซั่นก่อนมียิง 1 ลูก ซีซั่นนี้ยังยิงไม่ได้ กระนั้น ก็มีสถิติพังตาข่าย 41 ประตูในนามทีมชาติ

 

11 ตัวจริงที่คาด
เวลส์ (3-4-3, กุนซือ โรเบิร์ต เพจ) เวย์น เฮนเนสซี่ย์ – คริส เมแฟม, โจ โรดอน, เบน เดวิส – คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, โจ มอร์เรลล์, อารอน แรมซี่ย์, นีโก้ วิลเลี่ยมส์ – แกเร็ธ เบล, คีเฟอร์ มัวร์, แดเนี่ยล เจมส์
อิหร่าน (4-5-1, กุนซือ คาร์ลอส เคยรอซ) ฮอสเซน ฮอสไซนี่ – ซาเด็กห์ โมฮาร์รามี่, มอร์เตซา ปูราลีกานจี, มาจี๊ด ฮอสไซนี่, มิลัด โมฮัมมาดี้ – อาลีเรซ่า จาฮานบัคช์, อาหมัด นูรอลลาฮี, ซาอิด เอซาโตลาอี, ซาร์ดาร์ อัซมูน, วาฮิด อมิรี่ – เมห์ดี้ ทาเรมี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันครั้งเดียวถ้วนเมื่อปี 1978 ซึ่งหมายถึงไม่ได้เจอกันมา 44 ปีแล้ว
• เวลส์ ไม่ชนะใครมา 6 เกมซ้อนแล้ว รวมถึงเกมแรกในบอลโลกที่เสมอ สหรัฐฯ 1-1
• อิหร่าน ยังไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบแรก จากการเข้ารอบสุดท้ายมา 5 ครั้งก่อนหน้านี้ (1978, 1998, 2006, 2014, 2018)
• เมห์ดี้ ทาเรมี่ ยิงอังกฤษ 2 ประตู สะสมยอดเพิ่มเป็น 30 ลูกในการรับใช้ชาติ 61 นัด

 

ความน่าจะเป็น
ทรงของ อิหร่าน ดูค่อนข้างแย่ในเกมแรก แต่ก็มีดีที่เกมรุกค่อนข้างเฉียบ ในขณะที่ เวลส์ แม้จะมีแต้มมา แต่ก็ใช่ว่าจะเล่นได้ดีอะไร หากว่า อิหร่าน อุดหลังบ้านได้ดีขึ้นและเล่นแบบไม่สั่น ก็มีโอกาสในการแชร์แต้ม ไม่ว่าจะ 0-0 หรือ 1-1 ก็ตาม

 

ผลที่คาด : เสมอ 0-0

 

โปรแกรมถัดไป
อังคาร 29 พฤศจิกายน 2565
02.00 — เวลส์ vs อังกฤษ
02.00 — อิหร่าน vs สหรัฐอเมริกา

บราซิล vs เซอร์เบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

บราซิล vs เซอร์เบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี : บราซิล vs เซอร์เบีย
พฤหัสบดี 24 พฤศจิกายน 2565, .00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : CH8

 

ผลงานรอบคัดเลือก
บราซิล
แชมป์โซนอเมริกาใต้
เตะ 17 ชนะ 14 เสมอ 3 แพ้ 0 ยิงได้ 40 เสีย 5

เซอร์เบีย
แชมป์กลุุ่มเอ โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 9

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
บราซิล
คัดบอลโลก ชนะ โบลิเวีย 4-0
อุ่นเครื่อง ชนะ เกาหลีใต้ 5-1
กิริน คัพ ชนะ ญี่ปุ่น 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ กาน่า 3-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ตูนิเซีย 5-1

เซอร์เบีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สวีเดน 1-0
เนชั่นส์ ลีก เสมอ สโลวีเนีย 2-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สวีเดน 4-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ นอร์เวย์ 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ บาห์เรน 5-1

 

ผลการพบกัน (2 นัด)
อุ่นเครื่อง 2014 บราซิล ชนะ 1-0
บอลโลก 2018 บราซิล ชนะ 2-0

 

สภาพทีม
บราซิล
แชมป์โลก 5 สมัยและแชมป์รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาแบบไร้พ่าย เตะ 17 ชนะ 14 เสมอ 3 โดยที่เสียไปเพียง 5 ประตูเท่านั้น 17 แมตช์

 

บราซิล ของ ตีเต้ ยังอยู่ในฟอร์มที่ดีต่อเนื่อง ชนะติดต่อกันมา 7 เกมรวดแล้ว รวมเกมอุ่นเครื่องในช่วงหลัง

 

สภาพทีมของ ตีเต้ ไม่ได้มีปัญหาสำคัญ มีแค่ อันโตนี่ ปีกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ็บเล็กๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มีตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติอยู่แล้ว

 

การจัดทีมจะมาเดิมๆ ในระบบ 4-2-3-1 ที่ยึดไว้ตลอดช่วงหลัง เกมรุกวาง เนย์มาร์ เป็นศูนย์กลาง ขนาบข้างด้วย วินิซิอุส จูเนียร์ กับ ราฟินญ่า โดยมี ริชาร์ลิซอน ค้ำหอกเป้า

 

เซอร์เบีย
มาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยทรงที่ดีไม่แพ้กัน ยึดแชมป์กลุ่มแบบไม่แพ้ใครเลยในรอบคัดเลือก และเขี่ย โปรตุเกส ไปต่อในรอบเพลย์ออฟ และช่วงหลังก็กำลังเข้าฝัก ชนะ 5 จาก 6 เกมหลัง

 

อย่างไรก็ตาม ดราแกน สตอยโควิช อดีตดาวเตะคนดังที่เข้ามาทำทีมช่วงปี 2021 เป็นต้นมา มีปัญหาสำคัญอยู่ที่สภาพความฟิตของ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของชาติ เจ็บข้อเท้าติดพันในช่วงหลัง

 

หากฟื้นฟิตทันเวลา มิโตรวิช จะลงล่าตาข่ายตามปกติ แต่หากไม่พร้อม จะเป็น ลูก้า โยวิช จับคู่หัวหอกกับ ดูซาน วลาโฮวิช แทน

 

ตัวความหวัง
บราซิล : เนย์มาร์
คงพูดไม่ได้ว่า เนย์มาร์ คือทุกสิ่งทุกอย่างในเกมรุกบราซิล แต่ที่ใกล้เคียงกว่าคือ เนย์มาร์ เป็น “ผู้นำ” เกมรุกแซมบ้า เป็นจุดศูนย์กลางของการขึ้นเกมในตำแหน่งหน้าต่ำหรือมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งประเด็นสำคัญคือ ในวัย 30 เนย์มาร์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอจะโละทิ้งความเป็น “ไอ้ขี้พุ่ง” หรือ “จอมแอ็กติ้ง” กลิ้ง 38 ตลบ อย่างที่เคยเป็นแล้ว และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมทั้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ยิง 15 ลูกในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมา และกดไป 5 เม็ดจากการรับใช้ชาติ 5 เกมหลังสุด

 

เซอร์เบีย : อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
หนึ่งในหัวหอกฝีเท้าดีที่กำลังถูกมองว่าควรยกระดับตัวเองไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่า ฟูแล่ม ได้แล้ว พิสูจน์ตัวเองในฟุตบอลอังกฤษได้เป็นอย่างดีตลอด 2-3 ปีหลัง โดยเฉพาะซีซั่นก่อนที่กระหน่ำ 43 ประตูจนคว้าดาวซัลโวอีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะสอยอีก 9 ลูกในการเล่นพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ความสูงใหญ่ดุดันในลูกกลางอากาศของเขาสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ทุกคู่แข่งที่ต้องเจอ รวมถึงตอนนี้ก็ยังนั่งแท่นดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติเซอร์เบีย ด้วยสถิติน่าสะพรึงถึง 50 ประตูจากการเล่น 76 นัด

 

11 ตัวจริงที่คาด
บราซิล (4-2-3-1, กุนซือ ตีเต้) อลิสซอน เบ็คเกอร์ – อเล็กซ์ ซานโดร, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินญอส, ดานี่ อัลเวส – เฟร็ด, กาเซมิโร่ – วินิซิอุส จูเนียร์, เนย์มาร์, ราฟินญ่า – ริชาร์ลิซอน
เซอร์เบีย (3-4-1-2, กุนซือ ดราแกน สตอยโควิช) วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช – นิโกล่า มิเลนโควิช, สเตฟาน มิโตรวิช, สตราฮินย่า พาฟโลวิช – ฟิลิป คอสติช, เนมานย่า กูเดลจ์, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, อันดริย่า ซิฟโควิช – ดูซาน ทาดิช – ดูซาน วลาโฮวิช, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เพิ่งเจอกันมาในฟุตบอลโลกหนก่อน 2018 ที่รัสเซีย บราซิล กินนิ่ม 2-0 เปาลินโญ่ กับ ติอาโก้ ซิลวา จัดคนละเม็ด
• บราซิล ชนะรวดมา 7 เกมทุกรายการ และในจำนวนนี้ ทำคลีนชีตได้ถึง 5 นัด
• สองนัดหลัง บราซิล ยิงคู่แข่ง 8 ลูก ริชาร์ลิซอน ซัด 3, ราฟินญ่า 2, เนย์มาร์ 1 ประตู
• เซอร์เบีย ไม่แพ้ใครมาแล้ว 6 นัดติด เป็นชนะ 5 เสมอ 1
• อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ยิง 50 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 76 นัด หรือคิดเฉลี่ยเกมละ 0.65 ประตู

 

ความน่าจะเป็น
จัดเป็นหนึ่งในม้ามืดที่น่าจับตาของฟุตบอลโลก 2022 สำหรับ เซอร์เบีย เพียงแต่มาตรฐานของ บราซิล ก็ดูจะอยู่เลยขึ้นไปอีกระดับ ขุมกำลังที่ทัพแซมบ้ามีสามารถเล่นงาน เซอร์เบีย ได้ทั้งบรรดาตัวจริงและตัวสำรอง ดังนั้นชัยชนะของ บราซิล จึงมีความเป็นไปได้มากกว่าอย่างอื่น แค่ต้องระวังอาวุธเด็ดของเซิร์บอย่าง มิโตรวิช ไว้หน่อย ว่าอาจเล่นงานบราซิลเข้าได้สักประตู

 

ผลที่คาด : บราซิล ชนะ 2-1

 

โปรแกรมถัดไป
บราซิล
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 — 23.00 — บราซิล vs สวิตเซอร์แลนด์
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 — 02.00 — แคเมอรูน vs บราซิล

เซอร์เบีย
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565 — 17.00 — แคเมอรูน vs เซอร์เบีย
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565 — 02.00 — เซอร์เบีย vs สวิตเซอร์แลนด์