Match prediction

แคเมอรูน vs เซอร์เบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

แคเมอรูน vs เซอร์เบีย : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี : แคเมอรูน vs เซอร์เบีย
จันทร์ 28 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อัล จานู้บ สเตเดี้ยม, อัล วัครา
ถ่ายทอดสด : Amarin TV

 

ผลงานรอบคัดเลือก
แคเมอรูน
ชนะ แอลจีเรีย รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกแพ้ 0-1
นัดสองชนะ 1-0, ต่อเวลาชนะ 2-1, เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน

เซอร์เบีย
แชมป์กลุุ่มเอ โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 18 เสีย 9

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
แคเมอรูน
อุ่นเครื่อง แพ้ อุซเบกิสถาน 0-2
อุ่นเครื่อง แพ้ เกาหลีใต้ 0-1
อุ่นเครื่อง เสมอ จาไมก้า 1-1
อุ่นเครื่อง เสมอ ปานามา 1-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1

เซอร์เบีย
เนชั่นส์ ลีก เสมอ สโลวีเนีย 2-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สวีเดน 4-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ นอร์เวย์ 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ บาห์เรน 5-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ บราซิล 0-2

 

ผลการพบกัน : 1 นัด
อุ่นเครื่อง 2010 เซอร์เบีย ชนะ 4-3

 

สภาพทีม
แคเมอรูน
เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 มาได้อย่างลุ้นระทึก แพ้ แอลจีเรีย ในรอบ 3 นัดแรก ก่อนนัดสองยิง แอลจีเรีย คืน 1-0 ใน 90 นาที จากนั้นต่อเวลาพิเศษโดนยิงตีเสมอ 1-1 น.118 แต่สุดท้ายทดเจ็บ 120+4 มาได้ประตูชัย 2-1 ซึ่งช่วยให้พวกเขาเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน จากผลเสมอ 2-2 หลังต่อเวลา

 

อย่างไรก็ตาม 5 เกมหลังสุดไม่ชนะใครเลย รวมถึงนัดแรกของกลุ่มที่แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1

 

ทีมหมอผีในการทำทีมของ ริโกแบร์ ซง อดีตกองหลังคนดังของ ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม, กาลาตาซาราย ฯลฯ ไม่มีปัญหาเรื่องขุมกำลัง โดยสามารถใช้ชุดที่ดีที่สุดได้ ในระบบเปิดหน้าแลก 4-3-3 แผงรุกวาง คาร์ล โตโก เอคัมบี้ กับ บริย็อง เอ็มเบโม่ ขนาบข้างหอกเป้า เอริก มักซิม ชูโป-โมติง

 

เซอร์เบีย
มาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยทรงที่ดีเลย ยึดแชมป์กลุ่มแบบไม่แพ้ใครเลยในรอบคัดเลือก กระนั้นดูเหมือนแผนการที่ใช้ในเกมแรกจะไม่เวิร์ค แพ้ บราซิล 0-2 แบบที่น่าโดนยิงมากกว่านั้นเยอะ

 

ดราแกน สตอยโควิช อดีตดาวเตะคนดังที่เข้ามาทำทีมช่วงปี 2021 เป็นต้นมา มีปัญหาอยู่ที่แค่ ฟิลิป คอสติช วิงแบ็กจากยูเวนตุส บาดเจ็บจนไม่ได้เล่นเกมแรก และต้องเช็กฟิตสำหรับเกมนี้

 

ส่วนในราย อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของชาติ หายเจ็บข้อเท้าลงเล่นกับ บราซิล ไปแล้ว ดังนั้นจะพร้อมลงสนามตามปกติ

 

ตัวความหวัง
แคเมอรูน : เอริก มักซิม ชูโป-โมติง
กองหน้าที่ว่ากันว่าดวงแข็งที่สุดคนหนึ่งของวงการ จากหอกทื่อๆ ไม่ค่อยมีชั้นเชิงสมัยอยู่ สโต๊ค ซิตี้ ใครจะเชื่อว่าหลังจากนั้นได้เข้าร่วมทีมยักษ์ใหญ่ทั้งกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิค แถมครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมาก็เล่นดีเสียด้วย ยิงไป 11 ลูก จนถูกโยงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าจะมาคว้าตัวไปตอนตลาดเปิด ส่วนในทีมชาติ กองหน้าก้านยาววัย 33 เล่นมาแล้ว 70 นัด ยิง 19 ประตู

 

เซอร์เบีย : อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
หนึ่งในหัวหอกฝีเท้าดีที่ถูกมองว่าควรยกระดับตัวเองไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่า ฟูแล่ม ได้แล้ว พิสูจน์ตัวเองในฟุตบอลอังกฤษได้เป็นอย่างดีตลอด 2-3 ปีหลัง โดยเฉพาะซีซั่นก่อนที่กระหน่ำ 43 ประตูจนคว้าดาวซัลโวอีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะสอยอีก 9 ลูกในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ความสูงใหญ่ดุดันในลูกกลางอากาศของ มิโตรวิช สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ทุกคู่แข่งที่ต้องเจอ รวมถึงตอนนี้ก็ยังนั่งแท่นดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติเซอร์เบีย ด้วยสถิติน่าสะพรึงถึง 50 ประตูจากการเล่น 77 นัด

 

11 ตัวจริงที่คาด
แคเมอรูน (4-3-3, กุนซือ ริโกแบร์ ซง) อันเดร โอนาน่า – นูฮู โตโล่, นิโกลัส เอ็นคูลู, ชอง-ชาร์ลส์ คาสเตลเล็ตโต้, คอลลินส์ ฟาย – มาร์ติน ฮอนกลา, ซามูเอล กูเอ้ต์, ฟร้องค์ ซัมโบ-อองกิสซ่า – คาร์ล โตโก-เอคัมบี้, บริยอง เอ็มเบโม่, เอริก มักซิม ชูโป-โมติง
เซอร์เบีย (3-4-1-2, กุนซือ ดราแกน สตอยโควิช) วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช – นิโกล่า มิเลนโควิช, มิลอส เวลจ์โควิช, สตราฮินย่า พาฟโลวิช – ฟิลิป มลาเดโนวิช, ซาซ่า ลูคิช, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช, อันดริย่า ซิฟโควิช – ดูซาน ทาดิช – ดูซาน วลาโฮวิช, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• เคยเจอกันมาแค่หนเดียว เกมลับแข้งเมื่อ 12 ปีก่อน เซอร์เบีย ชนะ 4-3 ส่วน เอริก มักซิม ชูโป-โมติง ยิงได้หนึ่งเม็ด
• เกมแรก เซอร์เบีย โดน บราซิล ลุยเข้าใส่พร้อมสร้างโอกาสยิงได้มากถึง 24 ครั้ง สองในนั้นมีทั้งชนเสาและชนคาน
• แคเมอรูน ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดกันแล้ว เป็นเสมอ 2 แพ้ 3
• แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ ยืนแท่นอันดับ 3 ดาวซัลโวสูงสุดของชาติ 33 ประตู เทียบเท่า แพทริค เอ็มโบม่า โดยตามหลังเบอร์ 2 โรเจอร์ มิลล่า (43) สิบลูก และเบอร์ 1 ซามูแอล เอโต้ (56) อยู่ 23 ประตู
• อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ยิง 50 ลูกจากการเล่นทีมชาติ 77 นัด หรือคิดเฉลี่ยเกมละ 0.65 ประตู

 

ความน่าจะเป็น
อย่างที่บอกว่า ดูเหมือน ดราแกน สตอยโควิช จะวางแผนมาผิดไปนิด กับการใช้ 3 เซนเตอร์แบ็กไปชนกับ 3 กองหน้าบราซิลตรงๆ โดยไม่มีตัวช่วยคอยซ้อนคอยรอง จนสุดท้ายก็แพ้สบาย แต่นั่นก็คือบทเรียนสำคัญที่จะทำให้พวกเขาไม่พลาดอีกในเกมนี้ โดยเฉพาะว่าคุณภาพในทีมก็ดูเหนือกว่าด้วย น่าจะเบียดชนะไปได้ในที่สุด

 

ผลที่คาด : เซอร์เบีย ชนะ 1-0

 

โปรแกรมถัดไป
ศุกร์ 2 ธันวาคม 2565
02.00 — แคเมอรูน vs บราซิล
02.00 — เซอร์เบีย vs สวิตเซอร์แลนด์

สเปน กระทิงดุเปิดศึกยักษ์ชนยักษ์กับเยอรมนี ที่อินทรีเหล็กแพ้ ถึงตกรอบฟุตบอลโลก 2022

สเปน กระทิงดุเปิดศึกยักษ์ชนยักษ์กับเยอรมนี ที่อินทรีเหล็กแพ้ ถึงตกรอบฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม อี สเปน – เยอรมนี

วันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: Nation TV/ True Sports 2

สเปน ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

กระทิงดุ สเปน จะไปได้ไกลแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของสเปนและเยอรมนี

ศึกรุ่นเฮฟวี่เวตของฟุตบอลโลก 2022 เมื่อสเปนที่ถล่มคอสตาริก้ามายับเยิน 7-0 ทำสถิติชนะมากที่สุดในฟุตบอลโลกสำหรับทีมแดนกระทิงดุ เจอกับอินทรีเหล็กปีกหัก ที่โดนซามูไรญี่ปุ่นเชือดนิ่ม ๆ แบบพลิกเกมและพลิกล็อค 2-1 ที่หากลูกทีมของฮันซี่ ฟลิค ไม่สามารถเอาชนะเกมนี้ได้ เส้นทางฟุตบอลโลกของพวกเขาก็น่าจะจบลงตรงนี้

ประตูจากดานี่ โอลโม่, มาร์โค อเซนซิโอ และเฟอร์ราน ตอร์เรส ทำให้ยอดถล่มประตูของสเปนในฟุตบอลโลก ผ่านหลักร้อย และจบเกมกับคอสตาริก้าแค่เวลา 30 นาทีของครึ่งแรก เมื่อนำทีมจากคอนคาแคฟไปแล้ว 3-0 ก่อนที่ครึ่งหลังกระทิงดุจะขวิดคอสตาริก้าดับอนาถด้วยอีก 4 ประตู ทำสถิติครองบอลในเกมนี้ถึง 81.9% มากที่สุดนับตั้งแต่มีการจับสถิติในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกปี 1966 ยิ่งไปกว่านั้นคอสตาริก้ายังไม่มีโอกาสสับไกใส่สเปนเลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นการออกสตาร์ตฟุตบอลโลกที่หรูยิ่งกว่าหรูของสเปน ภายใต้การทำทีมของลุยส์ เอ็นริเก้ และหากพวกเขาเอาชนะเยอรมนีได้ น่าจะทำให้สเปนที่ถูกมองว่าเป็นทีมแกร่ง แต่ยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะคว้าแชมป์โลกหนนี้ พูดถึงอีกครั้งในฐานะตัวเต็งแชมป์อีกราย

ขณะที่เยอรมนีจบเกมครึ่งแรกเหนือญี่ปุ่นด้วยสกอร์ 1-0 จากลูกโทษของอิลกาย กุนโดกัน รวมถึงมีโอกาสพังประตูญี่ปุ่นอีกมากมายหลายครั้ง จนถึงช่วงต้นครึ่งหลังแต่ก็ทำไม่สำเร็จ และก็เป็นญี่ปุ่น ที่ทำประตูยิง 2 ลูกรวดแซงนำจากนักเตะที่เล่นในบุนเดสลีก้า ริตสุ โดอัน จากไฟร์บวร์ก และทาคุมะ อะซาโนะ จากวีเอฟแอล โบคุ่ม

เยอรมนีที่รั้งอันดับ 10 ในการจัดอันดับของฟีฟ่า เพิ่งชนะไปแค่ 2 นัดจาก 9 นัดหลัง และด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทำให้เกมระหว่างอินทรีเหล็กกับสเปน ความกดดันถาโถมใส่ฝั่งแชมป์ 5 สมัยมหาศาล โดยเฉพาะถ้าเกมระหว่างญี่ปุ่นและคอสตาริก้า ที่เล่นกันก่อนจบลงด้วยการที่ทีมญี่ปุ่นมีแต้ม เยอรมนีมีแค่ตัวเลือกเดียวคือชนะสเปน หากต้องการผ่านเข้ารอบ 16 ทีม และไม่ตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2 ครั้งรวดติดต่อกันเป็นครั้งแรก

ขณะที่สเปนสถานการณ์ดูจะผ่อนคลายกว่า แต่กับการเจอกับทีมใหญ่ของยุโรป คำถามเป็นเรื่องของรูปเกมมากว่า ว่าทีมกระทิงดุจะทำได้เหมือนในเกมกับคอสตาริก้าได้ไหม ส่วนเรื่องของผลการแข่งขัน หากสเปนขวิดเยอรมนีสำเร็จ พวกเขาจะผ่านเข้ารอบทันที และเพื่อความมั่นใจ ในเกมสุดท้ายที่เจอกันเมื่อพฤศจิกายน 2020 ซึ่งเป็นเกมยูเอฟ่า เนชั่นส์ ลีก สเปนถล่มเยอรมันไป 6-0

หลังจากคว้าแชมป์โลกในปี 2010 สเปนถือว่าทำได้ไม่ดีในฟุตบอลโลกสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะตกรอบแรกในปี 2014 และตกรอบ 16 ทีมในปี 2018 และหากจะทำได้ดีกว่าสองครั้งล่าสุด พวกเขาต้องเริ่มจากการเข้ารอบ 16 ทีมให้ได้

ทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลยูโร 2020

แม้จะเข้ารอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ แต่ก็จบแค่รอบนี้ ในยูโร 2020 ที่เยอรมนีต้องกู้ชื่อมาให้ได้ในฟุตบอลโลก 2020 (ภาพ: www.sportsadda.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของสเปนและเยอรมนี

สเปนไม่น่าจะเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมแรกมากนัก แดนหน้า ตอร์เรส, อเซนซิโอ และโอลโม่ จะยังเป็นสามหัวหอก ส่วนแดนกลาง กาบี้ ได้หนูวัย 18 ที่ทำประตูประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลก ยังได้เล่นร่วมกับกับเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลน่า เปดรี้กับแซร์จิโอ บุสเก็ตส์ อายเมอริก ลาปอร์ตที่ได้คู่เซนเตอร์สุดเซอร์ไพรส์เป็นโรดรี้ เพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะเป็นคู่ที่ถูกเลือกมากกว่า เปา ตอร์เรสกับอีริก การ์เซีย อเลฆานโดร บัลเด้ ดาวเตะวัย 19 ที่ถูกเรียกมาแทนโฆเซ่ กายาในช่วงท้าย ลงเล่นทีมชาตินัดแรกไปแล้ว เมื่อลุกจากม้านั่งสำรองลงสนามในเกมคอสตาริก้า และเกมนี้ก็น่าจะเริ่มต้นที่เดิม ขณะที่จอร์ดี้ อัลบาจะเป็น 11 คนแรกในตำแหน่งแบ็คซ้าย

เยอรมนี เลรอย ซาเน่ ที่พลาดเกมกับญี่ปุ่นเพราะเจ็บเข่า ยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ แต่ข่าวดีคือ เขากลับมาลงซ้อมได้แล้ว ฟลิคอาจจะไม่เปลี่ยนเป็นผู้เล่นมากนักในเกมนี้ นิคลาส ซูเล, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค และเดวิด รวม จะยืนเป็นแนวรับหน้ามานูเอล นอยเออร์ ในแดนกลาง กุนโดแกนน่าจะได้ลงคู่กับโจชัว คิมมิชเหมือนนัดแรก และหากทำประตูได้ เขาจะกลายเป็นนักเตะเยอรมนีคนแรก ที่ทำประตูใน 2 นัดแรกของฟุตบอลโลกได้ นับตั้งแต่มิโรสลาฟ โคลเซ่ในปี 2002 ไค ฮาเแวร์ตซ์ ที่เล่นไม่ดีนักในแดนหน้า อาจจะถูกแทนที่โดย คาริม อะเดเยมี่, นิคลาส ฟูลล์ครัก และยูสซูฟา มูโคโค

สเปน กระทิงดุเปิดศึกยักษ์ชนยักษ์กับเยอรมนี ที่อินทรีเหล็กแพ้ ถึงตกรอบฟุตบอลโลก 2022

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของสเปนและเยอรมนี

สเปน ระบบ 4-3-3: ซิมง; คาร์บาฆาล, ลาปอร์ต, โรดรี้, อัลบา; เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี้; เฟอร์ราน ตอร์เรส, อเซนซิโอ, โอลโม่
เยอรมนี 4-2-3-1: นอยเออร์; เคห์เรอร์, รือดิเกอร์, ชล็อตเทอร์เบ็ค, รวม; กุนโดกัน, คิมมิช; กนาร์บี้, มุลเลอร์, มูเซียล่า; ฮาแวร์ตซ์

จามาล มุสเซียลา นักเตะดาวรุ่งของเยอรมัน

จามาล มุสเซียลา เลือกเล่นได้ทั้งให้ทีมชาติอังกฤษ และเยอรมัน แต่ท้ายที่สุดเขายอมเป็นอินทรีเหล็ก มากกว่าสิงโตคำราม (ภาพ: Getty Image)

สถานการณ์ของเกมระหว่างสเปนและเยอรมนี

ไม่ว่าจะในสภาพทีมปัจจุบัน หรือว่าจากสถิติในอดีต สถานการณ์ของเยอรมนีไม่สู้ดีนัก เมื่อพวกเขาชนะสเปนได้แค่นัดเดียว จากการพบกัน 7 ครั้งในช่วง 19 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นเกมกระชับมิตรเมื่อพฤศจิกายน 2014 โดยเฉือนกระทิงดุไป 1-0 และสำหรับเกมที่เป็นการแข่งขันพวกเขาเอาชนะสเปนครั้งสุดท้ายก็ในยูโร 1988 ด้วยสกอร์ 2-0

และในเกมนี้ โอกาสที่เยอรมนีจะชนะก็มีน้อยเหลือเกิน เมื่อเพิ่มเติมด้วยสภาพผู้เล่น

สเปนชนะ 2-0

เรื่องน่าอ่าน:
1. 
ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ

2. ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี ใครจะรอด ใครจะตาย ในกลุ่มนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย
3. พลิกตำนานศึกดวลลูกโทษที่จุดโทษ ในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ชาติไหนคือราชาแห่งระยะ 12 หลา
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะแบ่งแต้มกับทีมพลังหนุ่ม วิ่ง-สู้-ฟัด แคนาดา ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอฟ

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะแบ่งแต้มกับทีมพลังหนุ่ม วิ่ง-สู้-ฟัด แคนาดา ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอฟ

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม เอฟ โครเอเชีย – แคนาดา

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 23:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: True4U/ Ch3/ True Sports 2

โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022

รองแชมป์เก่า เดินทางมากาตาร์พร้อมกับข่วงโรยราเต็มที่ของเหล่าซูเปอร์สตาร์ (ภาพ: Russian Presidential Press and Information Office/CC)

สถานการณ์ของโครเอเชียและแคนาดา

รองแชมป์เก่า โครเอเชีย ที่มากาตาร์ด้วยการใช้นักเตะรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่ผสมผสานกัน โดยมีลูก้า โมดริชเป็นแกนหลัก ภายใต้การคุมทีมของซลัตโก้ ดาลิก ออกตัวในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเสมอกับโมร็อกโก และทำให้พวกเขาต้องเก็บชัยชนะให้ได้ในนัดที่สองของทีมเพื่อโอกาสเข้ารอบ เมื่อเกมนัดสุดท้ายต้องไปเจอกับเบลเยี่ยม ทีมแกร่งจากยุโรป เจ้าของตำแหน่งอันดับสามของฟุตบอลโลกหนที่ผ่านมา โดยคู่ต่อสู้ที่พวกเขาต้องรับมือก็คือ แคนาดา ที่แสดงให้เห็นถึงพลังในตัวตั้งแต่นัดแรก เมื่อกดดันเบลเยี่ยมได้ตลอดทั้งเกม แต่ด้วยประสบการณ์ และความเขี้ยวของปีศาจแดงแห่งยุโรป ทำให้พวกเขาไม่สามารถเก็บแต้มได้แม้แต่คะแนนเดียว แม้จะกระหน่ำยิงเบลเยี่ยมไปถึง 22 ครั้ง แต่เรียกประตูไม่ได้เลย กระทั่งลูกจุดโทษอัลฟอนโซ เดวิส ก็ถูกติโบร์ คูร์ตัวส์ เซฟเอาไว้ได้

และหากแคนาดาเก็บแต้มไม่ได้ในนัดนี้ นัดสุดท้ายที่พวกเขาจะเจอกับโมร็อกโกคือ นัดเก็บประสบการณ์ ก่อนจะได้เป็นเจ้าภาพร่วมในอีก 4 ปีข้างหน้า

แคนาดา ฟุตบอลโลก 2022

เจ้าภาพฟุตบอลโลกหนต่อไป จะสร้างชื่อให้โลกรับรู้ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2022 เลยหรือไม่ (ภาพ: Canada Soccer / Martin Bazyl)

สถานการณ์ผู้เล่นของโครเอเชียและแคนาดา

ดาลิกอาจจะไม่มีนิโคล่า วลาซิก ที่มีอาการเจ็บน่องจากเกมกับโมร็อกโก แต่คู่หูในกองหน้ามาร์โก ลิวาจา ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา จนทำให้พลาดเกมไปหลายนัดในระดับสโมสร ที่ลงเล่นในครึ่งหลัง น่าจะได้โอกาส นอกจากนี้ยังมี มาริโอ พาซาลิซ, มิสลาฟ ออร์ซิซ ที่พร้อมลงเล่นในแนวรุก ขณะที่อันเดรจ ครามาริซ น่าจะได้สตาร์ทเป็นตัวจริง โดยมาร์โก ลิวาจาเป็นคู่แข่งในการแย่งตำแหน่ง

ทีมตราหมากรุกไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม ลอฟโร มาเจอร์ กองกลางจากเรนส์ น่าจะเตรียมพร้อมอยู่ในม้านั่งสำรอง ส่วนลูก้า โมดริซ, มาร์เซโล บรอโซวิซ และมาเตโอ โควาซิซ จะได้สตาร์ตัวจริงเหมือนเดิม

แคนาดายังต้องเช็คอาการอัลฟอนโซ เดวิส ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขา ส่วนสตีเฟน ยูสตาควิโอ และมิลาน บอร์ญาน ผู้รักษาประตู ที่ยังไม่ฟิตตั้งแต่นัดแรก น่าจะลงเล่นได้ ไคล์ ลาริน ที่ลงมาแล้วสร้างโอกาสทำประตูได้หลายครั้งในเกมกับเบลเยี่ยม ก็พร้อมเป็น 11 คนแรก ดาวเตะวัย 39 อติยา ฮัตชินสัน หากได้ลงเล่น ก็จะกลายเป็นผู้เล่นคนแรกของแคนาดาที่เล่นทีมชาติถึง 100 นัด แต่หากต้องพักหรือสตาร์ตจากม้านั่งสำรอง ก็มีอิสมาเอล โคน และโจนาธาน โอโซริโอ เป็นตัวแตนด์บาย นอกจากเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บแล้ว ปัญหาอีกอย่างของแคนาดาคือรูปแบบการเล่น ที่ดูจะใช้พละกำลังมากจนเกินไป ที่พอมาถึงเกมที่สองแล้ว พวกเขาอาจยืนระยะได้ไม่นานเช่นที่เคยทำได้ในนัดแรก

โครเอเชีย รองแชมป์เก่า จะแบ่งแต้มกับทีมพลังหนุ่ม วิ่ง-สู้-ฟัด แคนาดา ในฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม เอฟ

ลูก้า โมดริช ดาวเตะที่ดีที่สุดของโครเอเชีย รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของโครเอเชียและแคนาดา

โครเอเชีย ระบบ 4-3-3: ลิวาโควิซ; จูราโนวิซก, ลอฟเรน, กวาดิโอล, โซซ่า; โมดริซ, บรอโซวิซ, โควาซิซ; พาซาลิซ, ครามาริซ, เปริซิซ
แคนาดา ระบบ 3-4-3: บอร์ยาน; จอห์นสตัน, วิโตเรีย, มิลเลอร์; ลาร์ยี, ยูสตาควิโอ, ฮัตชินสัน, เดวิส; บูคานัน, เดวิด, ฮอยเล็ตต์

อัลฟอนโซ เดวีส์ นักเตะดาวรุ่งของแคนาดา

อัลฟอนโซ เดวีส์ ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งของแคนาดาเท่านั้น แต่อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของชาตินี้ด้วย (ภาพ: Getty Image)

สถานการณ์ของเกมระหว่างโครเอเชียและแคนาดา

ด้วยคะแนนเดียวในมือ จากการเสมอในนัดแรก ที่ทีมมีโอกาสยิงประตูทีมจากแอฟริกาไม่มากนัก ทำให้เกมนัดนี้ของโครเอเชีย แม้ชนะก็ไม่ได้หมายความว่า จะได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม เพียงแค่ทำให้มีโอกาสในการเข้ารอบมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญพวกเขาดูจะพึ่งพาลูก้า โมดริซอย่างมาก ในแบบที่ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ของโครเอเชียรายนี้เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วก็ว่าได้ ทั้งรับ – รุก วิ่งพล่านไปทั่วสนามด้วยวัย 37 ปี ที่บางที หากไม่มีใครมาแบ่งเบาภาระของเขา จุดเด่นก็อาจกลายเป็นจุดอ่อน เมื่อแคนาดาที่เป็นทีมพลังหนุ่มบดใส่หัวใจสำคัญของทีมจนเล่นไม่ออก

จากฟอร์มการเล่นที่แสดงออกมาในนัดแรก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับแคนาดาที่เก็บแต้มไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่เป็นทีมที่ยิงประตูมากเป็นอันดับ 3 จากเกมนัดแรกของทุกกลุ่ม ด้วยสถิติ 22 ครั้ง แต่มีแค่ 3 ครั้งเท่านั้นที่เข้ากรอบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่คมพอในแดนหน้า และอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้เล่นฟุตบอลโลก 2022 เพียง 3 นัด ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่า แนวรุกของแคนาดาจะทำได้ดีกว่าในนัดแรกหรือไม่ เพราะโครเอเชีย แม้จะมาพร้อมกับตำแหน่งรองแชมป์โลกในกระเป๋า แต่พวกเขาก็ไม่แกร่งเท่ากับที่เคยเป็นเมื่อ 4ปีก่อน และด้วยการเล่นที่บดขยี้คู่ต่อสู้แทบจะตลอดทั้งเกม น่าจะเป็นของแสลงสำหรับโครเอเชียไม่น้อย

แต่ด้วยความเก๋า ที่ไม่ต่างไปจากเบลเยี่ยม ขอแค่โอกาสไม่กี่ครั้ง ทีมตราหมากรุกน่าจะเก็บชัยเหนือเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ได้แบบฉิวเฉียด โดยที่โอกาสจมเกมด้วยการเสมอกันไป ก็มีไม่น้อย

โครเอเชียชนะ 1-0 หรือ 2-1 ในแบบที่มีโอกาสเสมอกันแบบมีสกอร์

เรื่องน่าอ่าน:
1. กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา

2. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
3. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
4. แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

เบลเยี่ยม จะคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการปราบทีมจากแอฟริกา – โมร็อกโก

เบลเยี่ยม จะคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการปราบทีมจากแอฟริกา – โมร็อกโก

ทำนายผล เกมนัดที่ 3 ของกลุ่ม เอฟ เบลเยี่ยม– โมร็อกโก

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 20:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: 9MCOT/ True Sports 2

เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

ทีมยุคทองของเบลเยี่ยม อาจจะมีฟุตบอลโลก 2022 เป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเองหนสุดท้าย (ภาพ: Twitter @BelRedDevils)

สถานการณ์ของเบลเยี่ยมและโมร็อกโก

ปีศาจแดงแห่งยุโรป คว้าชัยนัดแรกมาได้แบบหืดจับ ด้วยการเฉือนหวิวแคนาดา 1-0 ในเกมที่เควิน เดอบรอยน์ ยอมรับว่า แคนาดาเป็นทีมที่ดีกว่า เช่นเดียวกับโค้ชของทีมโรเบอร์โต้ มาร์ติเนซ และกับคู่ต่อสู้ในนัดที่ 2 อย่างโมร็อกโก ก็ไม่ใช่คู่แข่งที่จัดการได้ง่ายเช่นกัน เมื่อดูฟอร์มการเล่นในนัดแรก ที่ทีมจากแอฟริกา รับมือรองแชมป์เก่า โครเอเชียได้เป็นอย่างดี และแบ่งแต้มได้สำเร็จจากผลเสมอ 0-0 โดยเล่นได้ไม่ต่างไปจากทีมในยุโรป ทีมเวิร์กแน่น มีความแข็งแกร่งของร่างกาย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เมื่อดูรายชื่อสโมสรที่นักเตะเหล่านี้ สังกัดอยู่ และคราวนี้ก็เป็นที่ 3 จากฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ที่ต้องโมร็อกโกต้องเผชิญ

เบลเยี่ยม จะคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการปราบทีมจากแอฟริกา – โมร็อกโก

โมร็อกโก ที่เป็นชาติแรกของแอฟริกาใต้ ที่ผ่านรอบแรกฟุตบอลโลกได้สำเร็จ (ภาพ: www.moroccoworldnews.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของเบลเยี่ยมและโมร็อกโก

โรเมลู ลูกากู ที่นั่งชมเกมเบลเยี่ยมเอาชนะแคนาดาไปได้หวุดหวิด 1-0 โดยนั่งดูเกมจากอัฒจันทร์ ซึ่งบางทีการทีทีมต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักกว่าจะได้แต้มอย่างที่ต้องการ โดยอาศัยความเก๋า และประสบการณ์มาช่วยอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะขาดกองหน้าที่จบสกอร์ได้เด็ดขาดอย่างเขาก็เป็นได้ แต่ทีมปีศาจแดงแห่งยุโรป ก็น่าจะยังไม่สามารถใช้งานเขาได้ในนัดนี้ แม้ดาวยิงจากอินเตอร์ มิลานจะกลับมาลงซ้อมเดี่ยวได้แล้ว หลังรับบาดเจ็บกล้ามเนื้อ แต่คงจะเสี่ยงเกินไปหากให้เขาลงเล่นในนัดนี้ โดยสภาพความฟิตยังไม่เต็มร้อย อย่างเร็วที่สุดที่ลูกากูจะลงเล่นคงเป็นเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก ที่ต้องเจอกับโครเอเชีย และนั้นหมายความว่า บัตชัวยี่ที่ทำหมูหกอยู่หลายครั้งในเกมนัดแรกจะได้ทำหน้าที่แทนต่อไป โดยมีโลอิส โอเพนด้าจาก ล็องส์ ในลีก เอิง เป็นอีกตัวเลือก เช่นที่แสดงให้เห็นในครึ่งหลังของเกมนัดแรก นอกจากนี้มาร์ติเนซยังมี ลีอันโดร ทรอสซาร์ดให้ใช้บริการอีกคน ซึ่งฟอร์มในนัดเจอแคนาดา ที่เขาลุกจากม้านั่งสำรองในครึ่งหลัง ถือว่าทำได้ดี แต่ดาวเด่นจากไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน น่าจะเป็นตัวสำรองอดทนให้กัปตันทีมเอเด็น อาซาร์ดต่อไป ในหลาย ๆ ตำแหน่งน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากนัดแรกมากนัก แต่โธมัส มูนิเยร์ กับอามาดู โอนาน่า น่าจะมีโอกาสได้ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คและกองกลางตามลำดับ

ทางฝั่งโมร็อกโก กองกลางคนสำคัญ ซอนฟาน อัมราบัต น่าจะได้ลงเล่น แต่ต้องระวังตัวเมื่อมีใบเหลืองติดมาจากเกมเจอโครเอเชีย โดยวาลิด เรกรากุย น่าจะให้ลงเล่นเป็น 11 ตัวแรกเหมือนนัดที่แล้ว เช่นเดียวกับ ยาสมีน บอนอ ผู้รักษาประตูจากเซบีญ่า ที่อยู่หลังแนวรับซึ่งประกอบด้วย อาชราฟ ฮาคิมี่, โรเมน ซาอิสส์ และนาเยฟ อาเกิร์ด แต่นูสแซร์ มาซราอุย แบ็คจากบาเยิร์น มิวนิก ที่ถูกหามออกในชั่วโมงสุดท้ายเกมระหว่างโมร็อกโกกับโครเอเชีย หลังสะโพกกระแทกพื้น ที่รายงานอาการบาดเจ็บในตอนแรก ระบุว่าไม่ร้ายแรงมากอย่างที่คิด อาจจะฟื้นตัวลงเล่นไม่ทันนัดนี้ ซึ่งต้องรอเช็คสถานการณ์ก่อนลงเตะอีกที ถ้าลงเล่นไม่ได้โอกาสจะเป็นของยาเฮีย อัตติยาต-อัลลาห์ อับเดลฮามิด ซาบิรี่ ก็ไม่น่าจะลงเล่นได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ อับเดสซามาด เอซซาลซูลี่ ก็มีบาดเจ็บโคนขาหลัง

เอเด็น อาซาร์ เบลเยี่ยม ฟุตบอลโลก 2022

กลายเป็นนักเตะตัวรองของสโมสรไปแล้ว ซึ่งผิดจากทีมชาติ และเช็คความเยี่ยมยอดของอาซาร์ได้ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: AFP)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของเบลเยี่ยมและโมร็อกโก

เบลเยี่ยม ระบบ 3-4-2-1: คูร์ตัวส์; เดนดองเคอร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเก้น; มูนิเยร์, วิตเซล, ตีเลอมองส์, คาสแตงน์; เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์ด; บัตชัวยี่
โมร็อกโก ระบบ 4-3-3: บอนอ; ฮาคิมี่, อาเกิร์ด, ซาอิสส์, อัลลาห์; อูนาฮี, อัมราบัต, อามัลลาห์; ซีเย็ก, เอ็น-เนย์สรี่, บูฟอล

สถานการณ์ของเกมระหว่างเบลเยี่ยมและโมร็อกโก

ในเกมฟุตบอลโลก 8 นัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม สถิติของเบลเยี่ยมถือว่าทำได้ดีมาก เมื่อเก็บชัยได้ทั้งหมด ซึ่งเท่ากับที่ทีมเต็ง 1 ของฟุตบอลโลกในครั้งนี้ บราซิลทำได้ และที่ยิ่งไปกว่านั้น เบลเยี่ยมไม่เคยแพ้ก่อนรอบน็อคเอาต์ นับตั้งแต่พ่ายให้ซาอุดิอาระเบียในปี 1994 แต่จากที่เห็นในนัดแรกของฟุตบอลโลกครั้งนี้ เบลเยี่ยมที่ทีม “ยุคทอง” น่าจะเดินทางมาถึงบั้นปลายแล้ว ต้องเหนื่อยนักกว่าจะเก็ยชัยชนะได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกเขายังต้องหาจุดลงตัวในเกม หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ แต่ด้วยผู้เล่นระดับท็อป ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์มากมาย เบลเยี่ยมน่าจะทำได้ดีกว่านัดแรก แต่จากที่เห็นแม้สถานการณ์จะถูกกดดันแค่ไหน ขอแค่โอกาสเพียงครั้งหรือสองครั้ง เท่านั้นก็พอแล้วสำหรับปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่ด้วยความเหนียวแน่นของโมร็อกโก พวกเขาจะต้องใช้โอกาสที่มีให้คุ้มค่าที่สุด และน่าจะเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้ง

ปีศาจแดงเฉือนโมร็อกโก 1-0 หรืออาจจะยิงเพิ่มได้อีกสักประตู

เรื่องน่าอ่าน:
1. กลุ่ม เอฟ ในฟุตบอลโลก 2022 โอกาสพิสูจน์ตัวเองของเบลเยี่ยม ทีมยุคทองที่เริ่มโรยรา และรองแชมป์ชรา
2. ใครจะอยู่ใครจะไป พระกาฬในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์จะเป็นใคร
3. นักเตะดาวรุ่งคนไหนจะเป็นซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ในฟุตบอลโลก 2022
4. แฟชั่นฟุตบอลโลก 2022 แบรนด์ไหนครองตลาด มีไหมชาติที่ไม่ทำเสื้อทีมใหม่ในโอกาสนี้

ซามูไร ญี่ปุ่น จะเชือดคอสตา ริก้า คว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022

ซามูไร ญี่ปุ่น จะเชือดคอสตา ริก้า คว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022

ทำนายผล เกมนัดที่ 3 ของกลุ่ม อี ญี่ปุ่น – คอสตาริก้า

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: GMM25 / True Sports 2

ชาติเอเชีย - ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นทีมจากเอเชีย ที่ทำได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกหนที่แล้ว (ภาพ: AFP-JIJI)

สถานการณ์ของญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

ญี่ปุ่นทีมจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่พลิกนรกเอาชนะเยอรมนีได้ในนัดแรก จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2022 ทันที หากคว้าชัยเหนือคอสตาริก้าสำเร็จ ขณะที่ทีมจากอเมริกากลาง หากยังอยากมีลุ้นในนัดสุดท้าย การแบ่งแต้มกับญี่ปุ่น ย่อมไม่ใช่ผลดีอย่างแน่นอน หลังจากพ่ายสเปนยับเยิน 7-0

ซึ่งถือเป็นการเจอกันของทีมที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก แต่เป็นคนละขั้ว เพราะชัยชนะของญี่ปุ่น คือ ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ เป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ แต่กับคอสตาริก้า ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เช่นกัน แต่เป็นเรื่องของความพ่ายแพ้ เมื่อกลายเป็นความพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุดของชาติในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คอสตาริก้าไม่มีโอกาสยิงประตูเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอดทั้งเกม ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์นี้กับพวกเขาก็คือ ปี 1990 ที่เจอกับบราซิล

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมก่อนนัดนี้ ญี่ปุ่นดวลแข้งกับคอสตาริก้ามาแล้ว 5 เกม โดยซามูไรจัดการคอสตาริก้าไปได้ถึง 5 นัด และทีมจากโซนคอนคาแคฟ ทำได้ดีที่สุดเพียงเสมอนัดเดียว

คอสตาริก้า ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

คอสตาริก้ามาฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเล่นเพลย์ออฟชนะนิว ซีแลนด์ (ภาพ: www.concacaf.com)

สถานการณ์ผู้เล่นของญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

ในเกมชนะเยอรมนี 2-1 ญี่ปุ่นจบเกมด้วยระบบที่แตกต่างไปจากหลังจบครึ่งแรก ที่พวกเขาถูกอินทรีเหล็กนำอยู่ 1-0 อย่างมาก เช่นเดียวกับบทบาทของผู้เล่น โดยเมื่อจบเกมทีมของโค้ชฮาจิเมะ โมริยาสุ จบด้วยการใช้ปีกเล่นเป็นวิงแบ็คทั้งสองฝั่ง และเล่นกองหน้าสามคนโดยมีกองกลางตัวกลางคอยสนับสนุนอีกสองคน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือคนทำประตูให้กับทีม ในเกมพบคอสตาริก้าเพื่อชิงที่นั่งในรอบน็อคเอาต์ ญี่ปุ่นน่าจะเล่นแตกต่างไป เพราะคงจะไม่เล่นเกมรุกแบบสุดตัวตั้งแต่แรก โมริยาสุน่าจะวางเซนเตอร์แบ็ค 3 ตัว ซึ่งสามารถจัดการกับเกมรุกทางด้านกว้างของเยอรมนีมาแล้วหลังพักครึ่ง ขณะที่ทาคุมะ อาซาโนะ ที่ถูกเรียกมาติดทีม แม้จะได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เดือนกันยายน โดยถูกมองว่าอาจจะไม่ได้ลงช่วยทีมตั้งแต่นัดแรก แต่ก็ถูกส่งลงสนามในครึ่งหลังและกลายเป็นฮีโร่ของทีม น่าจะได้สตาร์ตเป็น 11 ตัวแรก โดยแทนที่ไดเซน มาเอดะ ส่วนฮิโรกิ ซากาอิ ที่ต้องออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บเมื่อเหลือเวลาอีกแค่ 15 นาที ยังต้องรอเช็คอาการ ซึ่งถ้าลงไม่ได้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ จะเป็นตัวเลือกตามตำแหน่ง ถึงแม้กองหลังจากอาร์เซน่อลจะมากาตาร์พร้อมกับอาการบาดเจ็บ และยังต้องทดสอบสภาพความฟิต ยูโตะ นากาโมโต้ กองหลังวัย 36 ปีที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังของนัดแรก น่าจะฟิตลงเล่นนัดนี้ในตำแหน่งแบ็คซ้าย

ลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ น่าจะไม่มีปัญหาผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ แต่ปัญหาก็คือ จะมีผู้เล่น 11 คนแรกในเกมที่พ่ายกระทิงดุ ที่ต้องเจอกับการผ่านบอลไปมาของฝ่ายตรงข้ามถึง 1,045 ครั้ง ได้ลงสนามในนัดนี้ โดยคาดกันว่า ในแดนหลัง เคนดัลล์ วัตสัน น่าจะออกสตาร์ตแทน คาร์ลอส มาร์ติเนซ ไบรอัน รุยซ์ และอัลวาโร ซาโมร่า ก็น่าจะได้ลงเล่น เช่นเดียวกับโจล แคมป์เบลล์ที่จะได้เล่นร่วมกับแอนโธนี่ คอนเตราสในแนวรุก ที่นอกจากการปรับเปลี่ยนผู้เล่นแล้ว ทีมก็ต้องเล่นให้ดีกว่าที่แสดงให้เห็นในนัดแรก

ญี่ปุ่น ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี

ญี่ปุ่นไม่น่าจะทำได้แบบเดียวกับฟุตบอลโลกครั้งก่อน ในฟุตบอลโลก 2022 (ภาพ: REUTERS/Jaimi Joy)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

ญี่ปุ่น ระบบ 3-4-3: กอนดะ; อิตาคูระ, โยชิดะ, โทมิยาสุ; ซากาอิ, เอ็นโดะ, ทานากะ, นากาโมโต้; จุนอิจิ อิโต, อาซาโนะ, คามาดะ
คอสตาริก้า ระบบ 5-4-1: นาวาส; ฟูลเลอร์, ดูอาร์เต้, วัตสัน, คัลโว, โอวีโด้; แคมป์เบลล์, เทเฮด้า, อกีเลร่า, ซาโมร่า; คอนเตราส

สถานการณ์ของเกมระหว่างญี่ปุ่นและคอสตาริก้า

การพ่ายแพ้ยับเยินต่อสเปน ซัวเรซออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ส่งผลต่อสภาพจิตใจของลูกทีมมาก และกลัวว่าลูกทีมจะขวัญหนีดีฝ่อไปเลย โดยจากสถิติที่ผ่าน ๆ มาในฟุตบอลโลก มี 10 ทีมที่เคยพ่ายแพ้โดยถูกยิงถึง 7 ประตู และมีถึง 8 ทีมที่ในนัดต่อมาก็ยังพ่ายแพ้ซ้ำ ทำให้บางทีการกลับมาของคอสตาริก้า อาจจะต้องเป็นเรื่องของปาฏิหาริย์ ซึ่งหากดูกันที่เรื่องของสภาพจิตใจแล้ว นี่คือการพบกันของทีมที่ฝ่ายหนึ่งหดหู่สุดขีด และอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสภาพฮึกเหิมสุดฤทธิ์

งานนี้ญี่ปุ่นก็มีโอกาสอันดีมาก ๆ ที่จะซ้ำคู่แข่งที่กำลังบอบช้ำ เพื่อทำสถิติเข้าไปสู่รอบที่ 2 ของฟุตบอลโลก 2 หนติดต่อกัน

ญี่ปุ่นน่าจะกำชัยได้ ด้วยกสอร์อย่างน้อย 2-0

เรื่องน่าอ่าน
1. 
ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม อี เมื่อกระทิงดุ ท้าชนอินทรีเหล็ก ใครจะเป็นที่หนึ่งในสาย
2. ทีมชาติ เยอรมนี เปิดเบื้องหน้า เบื้องหลังของทีมในฟุตบอลโลก 2022 ให้สัมผัสแบบจัดเต็ม ในสารคดีชุด ‘All Or Nothing’ ทางแอมะซอน ไพรม์ วิดีโอ
3. ฟุตบอลโลกในอนาคต เมื่อเอเชียมีสิทธิ์ 8+1 ทีม โอกาสของทีมชาติไทยอยู่ตรงไหน ?
4. ฟุตบอลโลก 2022 ของ 6 ชาติเอเชีย พวกเขาจะผ่านเข้ารอบสองได้กี่ทีม ?

สเปน vs เยอรมนี : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

สเปน vs เยอรมนี : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : สเปน vs เยอรมนี
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 02.00 น.
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม, อัล คอร์
ถ่ายทอดสด : Nation TV

 

ผลงานรอบคัดเลือก
สเปน
แชมป์กลุ่มบี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 15 เสีย 5

เยอรมนี
แชมป์กลุ่มเจ โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 36 เสีย 4

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
สเปน
เนชั่นส์ ลีก ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-0
เนชั่นส์ ลีก แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 1-2
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปรตุเกส 1-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์แดน 3-1
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ คอสตาริกา 7-0

เยอรมนี
เนชั่นส์ ลีก ชนะ อิตาลี 5-2
เนชั่นส์ ลีก แพ้ ฮังการี 0-1
เนชั่นส์ ลีก เสมอ อังกฤษ 3-3
อุ่นเครื่อง ชนะ โอมาน 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ ญี่ปุ่น 1-2

 

ผลการพบกัน : 25 นัด
สเปน ชนะ 8
เสมอ 8
เยอรมนี ชนะ 9

 

สภาพทีม
สเปน
หลุยส์ เอ็นริเก้ พากระทิงดุเจ้าของแชมป์โลก 1 สมัยเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลงานค่อนข้างดี รวมถึงในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก็ครองแชมป์กลุ่ม ได้ไปต่อในรอบชิงแชมป์ ปีหน้า

 

จากนั้นเมื่อเริ่มเกมแรก ก็ทำได้ดีเกินความคาดหมาย กราดยิง คอสตาริกา ดับอนาถสภาพดูไม่ได้ 7-0 เฟร์ราน ตอร์เรส ซัดสอง ที่เหลือช่วยกันยิงอีก 5 คน

 

เอ็นริเก้ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บเพิ่มเติม และด้วยทีมที่เล่นกันดีอยู่แล้ว ทำให้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง ระบบ 4-3-3 ประตูเป็น อูไน ซิมอน แดนกลางบาร์ซ่าเหมาทั้ง เปดรี้, บุสเก็ตส์, กาบี ส่วนแนวรุก ดานี่ โอลโม่ จะเล่นร่วมกับ เฟร์ราน ตอร์เรส และ มาร์โก อเซนซิโอ

 

สำหรับตัวที่ เอ็นริเก้ ไม่เลือกมาบอลโลกอย่าง ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด), เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), เซร์คิโอ รามอส (เปแอสเช), อินยิโก้ มาร์ติเนซ (บิลเบา), มาร์กอส อลอนโซ่ (บาร์เซโลน่า), ติอาโก้ อัลกันตาร่า (ลิเวอร์พูล), ซาอูล ญีเกซ (แอตฯ มาดริด), อิสโก้ (เซบีย่า), โรดริโก้ โมเรโน่ (ลีดส์), มิเกล โอยาร์ซาบัล (โซเซียดัด) หรือ ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า) ไม่เป็นประเด็นแล้วเมื่อทีมกระทิงเล่นได้อย่างสุดยอดในเกมแรก

 

เยอรมนี
ตัวแทนยุโรปรายแรกที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 หมายมั่นปั้นมือเต็มที่จะมาแก้ตัวจากการตกรอบแรกอย่างสุดช็อคในครั้งก่อน แต่ปรากฏว่า แพ้พลิกล็อกช็อกโลกต่อ ญี่ปุ่น 1-2 ทั้งที่ยิงนำไปก่อน

 

สำหรับความพร้อม ฮันซี่ ฟลิค ต้องเช็กอาการของ เลรอย ซาเน่ ที่ไม่ได้เล่นเกมแรก นอกนั้นไม่มี มาร์โก รอยส์ กับ ติโม แวร์เนอร์ อยู่ตั้งแต่แรก หลังทั้งคู่บาดเจ็บจนไม่พร้อมเล่นบอลโลก นอกนั้น ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, โรบิน โกเซนส์ โดนมองข้ามไปไม่เรียกมาติดธง

 

ระบบยึด 4-2-3-1 แต่คาดว่าจะปรับบางจุดจากเกมแรก นิคลาส ซูเล่ ที่โดนตำหนิออกสื่อ น่าหลุดไป ส่วนแนวรุกให้ จามาล มูเซียล่า, แซร์จ นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์ คอยสนับสนุนหอกเป้า ไค ฮาแวร์ตซ์

 

ตัวความหวัง
สเปน : เฟร์ราน ตอร์เรส
ตัวรุกวัย 22 ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับไปบ้านเกิดกับ บาร์เซโลน่า ด้วยราคาแพง 55 ล้านยูโร แต่กลับเล่นไม่ค่อยออก สร้างผลงานไม่ค่อยได้จนโดยตำหนิพอสมควร ครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านมาลงสนาม 18 นัด ยิง 5 ประตู กระนั้นในทีมชาติ จัดเป็นคีย์แมนของ หลุยส์ เอ็นริเก้ และโชว์ของได้ตั้งแต่เกมแรกที่กด 2 เม็ดใส่ คอสตาริกา จนมีสถิติรับใช้ชาติสวยเลย ยิง 15 ประตูจาก 32 นัด

 

เยอรมนี : จามาล มูเซียล่า
ถูกคาดหมายตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนว่าจะกลายมาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งที่สุดแล้วเจ้าหนูเชื้อสายอังกฤษวัย 19 ก็ทำได้อย่างที่หลายฝ่ายมอง โดยแม้จะเพิ่งยิงไปได้แค่ลูกเดียว แต่ก็ได้สัมผัสเกมระดับชาติมาแล้วถึง 20 นัด และมีตำแหน่งตัวจริงในการทำทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ด้วย โดยเฉพาะเมื่อซีซั่นนี้กำลังเข้าฝัก กดไปแล้ว 12 ประตูจากการเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค 22 เกม

 

11 ตัวจริงที่คาด
สเปน (4-3-3, กุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้) อูไน ซิมอน – จอร์ดี้ อัลบา, อายเมอริก ลาป๊อร์กต์, โรดรี้, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า – เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี – ดานี่ โอลโม่, มาร์โก อเซนซิโอ, เฟร์ราน ตอร์เรส
เยอรมนี (4-2-3-1, กุนซือ ฮันซี่ ฟลิค) มานูเอล นอยเออร์ – ดาวิด เราม์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค, ติโล เคห์เรอร์ – อิลคาย กุนโดกัน, โยชัว คิมมิช – จามาล มูเซียล่า, แซร์จ นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์ – ไค ฮาแวร์ตซ์

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาบ่อยถึง 25 นัด เยอรมนีชนะมากกว่าเล็กน้อย ที่ 9:8 นัด
• แต่เจอกันล่าสุดใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ปลายปี 2020 สเปน ทะลวง 6-0 เฟร์ราน ตอร์เรส แฮตทริก
• สเปน แพ้แค่นัดเดียวจากการเล่น 12 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 9 เสมอ 2 แพ้ 1)
• สเปน ชุดนี้ มีแค่ 2 คนที่ยิงประตูในทีมชาติได้เกิน 10 ลูก คือ อัลบาโร่ โมราต้า (28) กับ เฟร์ราน ตอร์เรส (15)
• โธมัส มุลเลอร์ กดไปแล้ว 44 ประตูในทีมชาติ แต่ยิงแค่ 2 ลูกเท่านั้นจาก 9 เกมหลังสุด

 

ความน่าจะเป็น
แม้ฟอร์มจะต่างกันมากในเกมแรก แต่ เยอรมนี เข้าตาจนแล้ว จะพลาดอีกไม่ได้ จึงต้องเน้นเต็มที่และไม่ใช้โอกาสเปลืองเหมือนเกมแรกอีก ซึ่งอันที่จริง คุณภาพโดยรวมของสองฝั่งก็ไม่ต่างกันมาก เผลอๆ จะมีความเป็นไปได้ที่ เยอรมนี จะฟื้นกำชัยเอาด้วย แต่ก็ด้วยเครดิตที่ สเปน ทำมา ดังนั้นผลเสมอกันจึงอาจเหมาะสุดกับทั้งสอง

 

ผลที่คาด : เสมอ 2-2

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน
02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

โครเอเชีย vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

โครเอเชีย vs แคนาดา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : โครเอเชีย vs แคนาดา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 23.00 น.
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลงานรอบคัดเลือก
โครเอเชีย
แชมป์กลุ่มเอช โซนยุโรป
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 21 เสีย 4

แคนาดา
แชมป์รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เตะ 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ยิงได้ 23 เสีย 7

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
โครเอเชีย
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เดนมาร์ก 2-1
เนชั่นส์ ลีก ชนะ ออสเตรีย 3-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0

แคนาดา
อุ่นเครื่อง ชนะ กาตาร์ 2-0
อุ่นเครื่อง แพ้ อุรุกวัย 0-2
อุ่นเครื่อง เสมอ บาห์เรน 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ ญี่ปุ่น 2-1
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ เบลเยียม 0-1

 

ผลการพบกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อน

 

สภาพทีม
โครเอเชีย
ชนะมาติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0

 

ซลัตโก้ ดาลิช ไม่มีปัญหาตัวผู้เล่นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากที่นายทวาร ลอฟเร่ คาลินิช เจ็บอยู่ก่อนแล้วจนหลุดโผไปตั้งแต่ก่อนประกาศรายชื่อ รวมถึงตัวที่ถูกกาทิ้งอย่าง ดูเย่ กาเลต้า-คาร์ หรือ โยซิป เบรคาโล่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับทีม

 

คาดว่าระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าดัน อีวาน เปริซิช ไปเดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ นิโกล่า วลาซิช

 

แคนาดา
ทัพเมเปิ้ลได้กลับมาโชว์ตัวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง หลังหายหน้าไปตั้งแต่ได้เล่นหนแรกเมื่อปี 1986 ก่อนจะแพ้ เบลเยียม แบบหวิวๆ 0-1 ในเกมเปิดหัวของฟุตบอลโลก 2022

 

แต่มาคราวนี้ถือว่า แคนาดา น่าเกรงขามทีเดียว ด้วยการผงาดแชมป์ของรอบ 3 โซนคอนคาเคฟ เหนือขั้วอำนาจเก่าทั้ง เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา

 

แคนาดา คุมทีมโดย จอห์น เฮิร์ดแมน โค้ชชาวอังกฤษ ที่ขยับจากทีมชาติฝ่ายหญิง (2011-2018) มารับงานนี้ และในทีมมีดาวเด่นอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวิส (บาเยิร์น), โจนาธาน เดวิด (ลีลล์), ไคล์ ลาริน (คลับ บรูช), สตีเฟ่น ยุสตากิโต้ (ปอร์โต้) เป็นแกนนำ

 

เฮิร์ดแมน ไม่มีปัญหาในการจัดทีมเกมนี้เช่นกัน โดยจะวางระบบเปิดหน้าแลก 3-4-3 อัลฟอนโซ่ เดวิส ขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ส่วนสามกองหน้าเป็น โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน และ จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์

 

ตัวความหวัง
โครเอเชีย : อีวาน เปริซิช
แม้การเป็นลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนต้ ที่สเปอร์ส เปริซิช จะถูกใช้งานเป็นวิงแบ็กฝั่งซ้าย แต่กับการรับใช้ชาติแล้ว เขาคือปีกซ้ายที่มีหน้าที่เล่นเกมรุกเต็มอัตรา หรือจะเรียกว่ากองหน้าไปเลยก็ไม่ผิด ทั้งนี้สิ่งที่เราเห็นกันมาตลอดกับ สเปอร์ส รวมถึง อินเตอร์ มิลาน คือ เปริซิช แค่ต้องปรับความคมให้เพิ่มมากขึ้นอีกนิด สกอร์จะไหลมาเทมามากกว่าที่เป็น แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็นำดาวซัลโวของทีมชุดนี้อยู่แล้ว หลังยิงไป 32 ลูก

 

แคนาดา : อัลฟอนโซ่ เดวิส
นักเตะที่ดีที่สุดในยุคนี้ของ แคนาดา หรือกระทั่งอาจจะดีที่สุดตลอดกาล โตมากับ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ก่อนที่มหาอำนาจบอลเยอรมันอย่าง บาเยิร์น มิวนิค จะทุ่มเงินเป็นสถิติ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมโบนัสเสริม) คว้าตัวไปปั้นต่อตอนที่ เดวิส อายุได้แค่ 17-18 เท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีคำว่าผิดหวังเมื่อเจ้าหนูเชื้อสายกาน่าพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดด เป็นตัวหลักให้กับทัพเสือใต้มาแล้วเป็นปีที่ 4 พร้อมกระแสยกย่องว่าเป็น “แบ็กซ้ายเบอร์ 1 โลก” จากบางฝ่าย ที่สำคัญ ยังสารพัดประโยชน์ เล่นได้หมดทางกราบซ้ายด้วย

 

11 ตัวจริงที่คาด
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, นิโกล่า วลาซิช
แคนาดา (3-4-3, กุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน) มิลาน บอร์ยาน – คามาล มิลเลอร์, สตีเว่น วิตอเรีย, อลิสแตร์ จอห์นสตัน – อัลฟอนโซ่ เดวิส, สตีเฟ่น ยุสตาคิโอ, อติบา ฮัทชินสัน, ริชี่ ลาร์เยีย – จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, โจนาธาน เดวิด, ทาจอน บัคคาแนน

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ โครเอเชีย เคยเล่นกับทีมโซนคอนคาเคฟมา 3 หนในฟุตบอลโลก ชนะ 1 แพ้ 2
• โครเอเชีย มีถึง 3 คนที่เล่นทีมชาติทะลุร้อยนัด คือ ลูก้า โมดริช (156), อีวาน เปริซิช (117) และ โดมากอย วิด้า (100)
• ดาวซัลโวชุดนี้ของ โครเอเชีย เป็นวิงแบ็กอย่าง อีวาน เปริซิช ที่กดไป 32 ประตู
• อติบา ฮัทชินสัน กัปตันแคนาดา อ่อนกว่ากุนซือ จอห์น เฮิร์ดแมน แค่ 7-8 ปี
• ไคล์ ลาริน ยิงในทีมชาติ 25 ประตู ส่วน โจนาธาน เดวิด 22 ลูก

 

ความน่าจะเป็น
ตามหน้าเสื่อ โครเอเชีย เหนือกว่า แต่ก็ยังไม่อาจมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะชนะแน่ๆ เมื่อ แคนาดา ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หมู เล่นงาน เบลเยียม ได้ชนิดโอนไปเอนมา แต่สุดท้ายกลับแพ้ (แบบไม่น่าแพ้) ดังนั้น ก็จะไม่ใช่งานง่ายๆ ของ โครเอเชีย เช่นกัน โอกาสเสมอมี โอกาสที่โครเอเชียจะชนะก็มี แต่เต็มที่จะแค่ออกเฉือน

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม
22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

เบลเยียม vs โมร็อกโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

เบลเยียม vs โมร็อกโก : ตรวจความพร้อมรอบแรก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ : เบลเยียม vs โมร็อกโก
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 20.00 น.
สนาม : อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม, โดฮา
ถ่ายทอดสด : 9MCOT

 

ผลงานรอบคัดเลือก
เบลเยียม
แชมป์กลุ่มอี โซนยุโรป
เตะ 8 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 25 เสีย 6

โมร็อกโก
ชนะ ดีอาร์ คองโก รอบ 3 โซนแอฟริกา
นัดแรกเสมอ 1-1, นัดสองชนะ 4-1

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
เบลเยียม
เนชั่นส์ ลีก ชนะ โปแลนด์ 1-0
เนชั่นส์ ลีก ชนะ เวลส์ 2-1
เนชั่นส์ ลีก แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1
อุ่นเครื่อง แพ้ อียิปต์ 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ แคนาดา 1-0

โมร็อกโก
คัด AFCON ชนะ ไลบีเรีย 2-0
อุ่นเครื่อง ชนะ ชิลี 2-0
อุ่นเครื่อง เสมอ ปารากวัย 0-0
อุ่นเครื่อง ชนะ จอร์เจีย 3-0
ฟุตบอลโลก 2022 เสมอ โครเอเชีย 0-0

 

ผลการพบกัน (3 นัด)
ฟุตบอลโลก 1994 เบลเยียม ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 1999 เบลเยียม ชนะ 4-0
อุ่นเครื่อง 2008 โมร็อกโก ชนะ 4-1

 

สภาพทีม
เบลเยียม
ผ่านเข้ารอบแบบไร้พ่ายจากรอบคัดเลือกโซนยุโรป และเกมแรกก็เบียดชนะ แคนาดา 1-0 จากประตูโทนของ มิชี่ บัตชูอายี่

 

โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสแปนิชของทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป ถูกคาดหมายว่าจะคุมทีมในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้เป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้าย ภายหลังอยู่บนเก้าอี้มาพักใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 และร่วมสร้างยุคทองให้ เบลเยียม เต็มไปด้วยนักเตะระดับคุณภาพ แต่กลับมีร่องรอยตำหนิตรงที่ไม่มีแชมป์รายการใดติดมือเป็นชิ้นเป็นอัน ดีที่สุดคือเป็นอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

 

สำหรับความพร้อมของ เบลเยียม ในเกมนี้ มาร์ติเนซ ยังคงไม่สามารถใช้งาน โรเมลู ลูกากู ดาวยิงเบอร์หนึ่งเจ้าของสถิติ 68 ประตูในนามทีมชาติ ได้ หลังจากหัวหอกอินเตอร์ มิลาน เจ็บต้นขาจนไม่ได้เล่นมาตั้งแต่สิ้นเดือน ต.ค.

 

การขาด ลูกากู ทำให้หน้าเป้าจะเป็นโอกาสต่อเนื่องของ มิชี่ บัตซูอายี่ โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เอแด็น อาซาร์ เป็นตัวปั้นเกมสนับสนุน

 

โมร็อกโก
มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตัวกุนซือ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งไปเมื่อกลางปี หรือก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะมาถึงแค่ไม่กี่เดือน โดยเป็น วาลิด เรกรากี อดีตนายใหญ่ อัล-ดูฮาอิล และ วีดัด คาซาบลังก้า มาเสียบแทน

 

แต่ โมร็อกโก ก็อยู่ในทรงที่ดีทีเดียว ชนะ 4 จาก 6 เกมหลังสุด และแพ้เกมเดียวเท่านั้นจาก 9 แมตช์หลัง รวมเกมแรกที่ยันเสมอ โครเอเชีย 0-0

 

อย่างไรก็ตาม เรกรากี มีตัวเจ็บเยอะทีเดียว ทั้ง นูสแซร์ มาซราอุย แบ็กจากบาเยิร์น มิวนิค, อับเดลฮามิด ซาบิรี่ กองกลางจากซามพ์โดเรีย และ อับเดสซาหมัด เอซซาลซูลี่ กองหน้าโอซาซูน่า ไม่พร้อมเล่น

 

แต่ขุนพลตัวหลักอย่าง ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ หรือ อัชราฟ ฮาคิมี่ พร้อมรบตามปกติทั้งหมด

 

ตัวความหวัง
เบลเยียม : เควิน เดอ บรอยน์
สร้างชื่อขึ้นเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก และมาตรฐานสูงๆ ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมในซีซั่นนี้ ที่ยิง 3 ประตู แอสซิสต์อีกถึง 13 กับการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 19 นัด สำหรับในทีมชาติ (94 นัด 25 ประตู) เดอ บรอยน์ ก็ถือเป็นทีเด็ดทีขาดที่ทุกคู่แข่งต้องระวังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะลูกจ่ายคมๆ หรือการชงเองกินเองที่มิดฟิลด์วัย 31 พร้อมจัดให้ได้หมด

 

โมร็อกโก : ฮาคิม ซีเย็ค & อัชราฟ ฮาคิมี่
ฮาคิม ซีเย็ค เลิกเล่นทีมชาติไปช่วงหนึ่งเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัวกับโค้ชเก่า วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช ซึ่งพอมีการเปลี่ยนเป็น วาลิด เรกรากี แล้วก็กลับสู่สารบบทีมชาติดังเดิม โดยแม้จะเจอปัญหาเข้าๆ ออกๆ จากทีมเชลซี แต่ก็คือตัวยืนของทีมชาติ มีผลงานยิง 18 ประตูจาก 44 เกม ด้าน ฮาคิมี่ พัฒนาตัวเองไปจนอยู่ในระดับแบ็กขวาตัวท็อปของวงการแล้ว พร้อมกับบางเสียงยกว่าเป็นเบอร์ 1 โลกยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 54 เกมทีมชาติ

 

11 ตัวจริงที่คาด
เบลเยียม (3-4-2-1, กุนซือ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ) ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ยาน แฟร์ตองเก้น, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ – ยานนิค การ์รัสโก้, อักเซล วิตเซล, ยูรี่ ตีเลมันส์, ทิโมธี คาสตันเย่ – เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ – มิชี่ บัตชูอายี่
โมร็อกโก (4-2-3-1, กุนซือ วาลิด เรกรากี) ยาสซีน บูนู – นยาห์ย่า อัตติอัต-อัลลาห์, นาเยฟ อาแกร์ด, โรแม็ง ไซส์, อัชราฟ ฮาคิมี่ – อัซเซดีน อูนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต – ฮาคิม ซีเย็ค, โซฟียาน บูฟาล, เซลิม อมัลลาห์ – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมาแค่ 3 ครั้ง หนึ่งในนั้นเป็นเกมฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐฯ เบลเยียม เฉือนชนะ 1-0
• เจอกันล่าสุดปี 2008 โมร็อกโก ถลุง 4-1 ซึ่งบางคนอย่าง ยาน แฟร์ตองเก้น หรือ อักเซล วิตเซล อยู่ในทีมวันนั้นด้วย
• เบลเยียม ชนะเกมฟุตบอลโลก 7 จาก 8 นัดหลัง
• โมร็อกโก ไม่ชนะเกมฟุตบอลโลกถึง 10 จาก 11 แมตช์ล่าสุด
• โมร็อกโกชุดนี้มีเด็กอายุ 18 ด้วย อย่าง บิลาล เอล คานนุส กองกลางดาวรุ่งเชื้อสายเบลเยียมจาก เกงค์ ซึ่งไม่เคยเล่นชุดใหญ่มาก่อน

 

ความน่าจะเป็น
ห้ามประมาทเป็นเด็ดขาดสำหรับ เบลเยียม เมื่อนอกจากฟอร์มของพวกเขาเองจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดแล้ว ยังมีปัญหาสภาพทีม อีกทั้ง โมร็อกโก เองก็มีทีเด็ดทีขาดสร้างอันตรายได้อยู่ แม้ความเป็นไปได้อาจมีโอกาสที่ เบลเยียม จะชนะมากกว่า แต่จะไม่ยิงขาด และมีมุมที่ โมร็อกโก จะดึงแต้มได้ด้วย

 

ผลที่คาด : เบลเยียม ชนะ 1-0, เสมอ 1-1

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
22.00 — โครเอเชีย vs เบลเยียม
22.00 — แคนาดา vs โมร็อกโก

 

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา : ตรวจความพร้อมรอบแรก นัดสอง ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี : ญี่ปุ่น vs คอสตาริกา
อาทิตย์ 27 พฤศจิกายน 2565, 17.00 น.
สนาม : อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม, อัล รายยาน
ถ่ายทอดสด : GMM25

 

ผลงานรอบคัดเลือก
ญี่ปุ่น
อันดับ 2 กลุ่มบี รอบ 3 โซนเอเชีย
เตะ 10 ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 12 เสีย 4

คอสตาริกา
อันดับ 4 รอบ 3 โซนคอนคาเคฟ
เพลย์ออฟต่างโซน ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0

 

ฟอร์ม 5 เกมหลังสุด
ญี่ปุ่น
EAFF E-1 ชนะ เกาหลีใต้ 3-0
กิริน คัพ ชนะ สหรัฐอเมริกา 2-0
กิริน คัพ เสมอ เอกวาดอร์ 0-0
อุ่นเครื่อง แพ้ แคนาดา 1-2
ฟุตบอลโลก 2022 ชนะ เยอรมนี 2-1

คอสตาริกา
เพลย์ออฟบอลโลก ชนะ นิวซีแลนด์ 1-0
อุ่นเครื่อง เสมอ เกาหลีใต้ 2-2
อุ่นเครื่อง ชนะ อุซเบกิสถาน 2-1
อุ่นเครื่อง ชนะ ไนจีเรีย 2-0
ฟุตบอลโลก 2022 แพ้ สเปน 0-7

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
ญี่ปุ่น ชนะ 4
เสมอ 1

 

สภาพทีม
ญี่ปุ่น
ทัพซามูไรสีน้ำเงินผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันแล้ว และสร้างผลงานโลกตะลึงเอาไว้ตั้งแต่เกมแรก ด้วยการยิงแซงชนะทีมระดับโลกอย่าง เยอรมนี เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย 2-1

 

ชัยชนะในเกมแรกยังหมายถึงว่า ถ้า ญี่ปุ่น เดินหน้าชนะได้ต่อเนื่องในเกมนี้ พวกเขาจะจ่อเข้ารอบน็อกเอาต์เต็มที โดยเฉพาะถ้าในคู่ดึก สเปน-เยอรมนี จบด้วยผลเสมอ หรือ สเปน ชนะได้ ญี่ปุ่น ก็จะเข้ารอบทันทีด้วย และเหลือแค่ชิงแชมป์กลุ่มกับ สเปน เท่านั้น

 

สภาพทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ มีปัญหาเล็กน้อยที่ความฟิตของ ฮิโรกิ ซากาอิ ซึ่งเจ็บจากเกมแรก แต่หากเล่นไม่ไหวก็มีตัวแทนตำแหน่งอยู่แล้วอย่าง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ จากอาร์เซน่อล

 

ในราย ทาคุมะ อาซาโนะ โดยปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว แต่ด้วยผลงานการลงสำรองไปพังประตูดับ เยอรมนี ก็ทำให้อาจได้รางวัลพิเศษ ได้ลงตัวจริงบ้าง เขี่ย ทาคุมิ มินามิโนะ ไปนั่งสำรอง

 

คอสตาริกา
ทีมกล้วยหอมจากคอนคาเคฟ ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 6 และหนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ต้องออกแรงใช่ย่อยในการผ่านรอบเพลย์ออฟต่างทวีปกับ นิวซีแลนด์ และเบียดชนะสุดหวิว 1-0

 

มาในฐานะม้านอกสายตา แต่ ณ ตอนนี้ดูจะเป็นม้าป่วยกระเสาะกระแสะไปเสีย กับการที่ลงเล่นเกมแรกแพ้ สเปน แบบไร้ทางสู้ 0-7 ดังนั้นถ้าแพ้เกมนี้อีก ตกรอบแรกทันที

 

ในการทำทีมของ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ คอสตาริกายังมาด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ อย่าง เคย์เลอร์ นาวาส, ไบรอัน โอเวียโด้, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, กัปตันทีม ไบรอัน รุยซ์ และ โจเอล แคมป์เบลล์ ที่รวมตัวกันมาตั้งแต่บอลโลก 2014 แล้ว

 

ตัวความหวัง
ญี่ปุ่น : ทาคุมะ อาซาโนะ
กลายเป็นประเด็นว่า อาร์เซน่อล ทำเพชรเม็ดงามชิ้นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร ภายหลัง อาซาโนะ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสำรองไปพังประตูชัยปลิดชีพ เยอรมนี 2-1 เมื่อวันก่อน กระนั้นก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า อาซาโนะ ย้ายมากรุงลอนดอนตั้งแต่อายุแค่ 22 และโดนปฏิเสธเวิร์คเพอร์มิตด้วย จนที่สุดแล้วหลังจากส่งยืมหลายรอบก็ต้องปล่อยขาดไปอย่างเสียมิได้ ตอนนี้อยู่กับ โบคุ่ม ในเยอรมนี และลงเล่นทีมชาติ 38 นัด ซัด 8 ประตู

 

คอสตาริกา : โจเอล แคมป์เบลล์
ดังมานาน สร้างชื่อมาจนถึงจุดพีคแล้วก็ดร็อปลงไปจนแฟนบอลแทบจะลืมหน้ากันแล้ว แต่แท้ที่จริง อดีตกองหน้าอาร์เซน่อลรายนี้เพิ่งจะอายุ 30 ถ้วนเท่านั้นเอง โดยตอนที่เป็นแข้งปืนโต เขาอายุแค่ 22-23 เท่านั้น จากนั้นก็ย้ายออกไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันอยู่กับ คลับ เลออน ในเม็กซิโก และยังคงเฝ้ารับใช้ชาติอยู่ต่อไป เล่นแล้ว 120 นัด ซัด 25 ประตู หนึ่งในนั้นก็คือประตูสำคัญดับ นิวซีแลนด์ จนพาให้ คอสตาริกา มาเล่นฟุตบอลโลก 2022

 

11 ตัวจริงที่คาด
ญี่ปุ่น (4-2-3-1, กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ) ชูอิจิ กอนดะ – ยูโตะ นางาโตโมะ, มายะ โยชิดะ, โค อิตาคุระ, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ – กาคุ ชิบาซากิ, ฮิเดมาสะ โมริตะ – ทาเคฟุสะ คุโบะ, ไดอิจิ คามาดะ, จุนยะ อิโตะ – ทาคุมะ อาซาโนะ
คอสตาริกา (4-4-2, กุนซือ หลุยส์ แฟร์นันโด ซัวเรซ) เคย์เลอร์ นาวาส – ไบรอัน โอเวียโด้, ออสการ์ ดูอาร์เต้, ฟรานซิสโก้ กัลโว, คาร์ลอส มาร์ติเนซ – เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฮด้า, เยวิสัน เบนเน็ตเต้ – โจเอล แคมป์เบลล์, อันโธนี่ คอนเตรราส

 

สถิติที่เกี่ยวข้อง
• พบกันมา 5 ครั้ง ญี่ปุ่น ไม่เคยแพ้ โดยชนะแบบยิงได้ 3 ประตูโดยตลอด ล่าสุดอุ่นเครื่องปี 2018 ญี่ปุ่นชนะ 3-0
• ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะคุมทีมชาติญี่ปุ่นเป็นนัดที่ 60 ในเกมนี้ โดยที่ผ่านมา ชนะ 40 เสมอ 8 แพ้ 11
• ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นดาวซัลโวของญี่ปุ่นในชุดนี้ ด้วยการยิงไปแล้ว 17 ประตู
• คอสตาริกา แพ้แค่ 2 นัดจากการเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 2) แต่หนึ่งในนั้นก็คือการโดน สเปน กราดยิง 7-0
• คอสตาริกาชุดนี้ มีนักเตะอายุ 30 ขึ้นไปมากถึง 11 คน สูงวัยสุดคือ ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีมวัย 37

 

ความน่าจะเป็น
คอสตาริกา อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมต่อกรกับใครทั้งสิ้นจากฟอร์มที่เป็นในนัดแรกกับ สเปน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะตื่นหรือยังกับเกม 2 นัดนี้ ที่จะเจอคู่แข่งคุณภาพดร็อปลงมาเล็กน้อย กระนั้นถ้ายังสะลึมสะลือ ก็คงไม่รอดเงื้อมมือซามูไรแต่อย่างใด

 

ผลที่คาด : ญี่ปุ่น ชนะ 1-0, 2-0

 

โปรแกรมถัดไป
พฤหัสบดี 1 ธันวาคม 2565
02.00 — ญี่ปุ่น vs สเปน
02.00 — คอสตาริกา vs เยอรมนี

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

อาร์เจนติน่า จะเริ่มเก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ด้วยการเอาชนะจังโก้ เม็กซิโก

ทำนายผล เกมนัดที่ 4 ของกลุ่ม ซี อาร์เจนติน่า – เม็กซิโก

วันที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ถ่ายทอดทาง: NBT/ True Sports 2

อาร์เจนติน่า ทีมวางในกลุ่ม ซี ของฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า น่าจะคว้าแชมป์กลุ่ม ซี ได้สบาย ๆ (ภาพ: Getty Images)

สถานการณ์ของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่าจะลงเล่นนัดที่สองในฟุตบอลโลก 2022 หลังเปิดตัวด้วยการพ่ายแพ้สุดช็อค ต่อซาอุดิอาระเบีย ที่กระทั่งลิโอเนล เมสซี่ ถึงกับออกปากว่า “พวกเราตายสนิท” โดยโค้ชลิโอเนล สคาโลนี่ มีเวลา 4 วันในการฟื้นสภาพจิตใจลูกทีม ที่นอกจากจะเก็บแต้มไม่ได้แล้ว พวกเขายังสูญเสียสถิติลงเล่น 36 นัดไม่เคยแพ้ใคร ที่หากผ่านซาอุดิอาระเบียได้ อาร์เจนติน่าจะมีลุ้นทำสถิติใหม่เหนือทีมชาติอิตาลีได้เลย หากจะบอกว่า หลาย ๆ อย่างที่ทีมฟ้าขาวชุดนี้สั่งสมมา พังลงตรงหน้าในเกมนี้ก็คงได้ และทำให้พวกเขาต้องหาทางพลิกสถานการณ์ กู้หน้าให้ได้ ที่ไม่ใช่แค่เก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลือ หากยังต้องเกิดขึ้นด้วยฟอร์มการเล่นสวย ๆ ในเวลาเดียวกัน และด่านแรกที่พวกเขาต้องจัดการให้ได้ก็คือ เม็กซิโก

ทีมจังโก้เปิดฟุตบอลโลกหนนี้ไม่ได้สวยงามเช่นครั้งก่อน ที่ล้มแชมป์เก่าเยอรมนีได้สำเร็จ แถมเกือบ ๆ จะแพ้ด้วยซ้ำหากนายทวาร กีแยร์โม โอชัวเซฟลูกจุดโทษของเลวานดอฟสกี้ไม่ได้ แดนหน้าของทีมในปีนี้คุกคามคู่ต่อสู้ไม่ได้เนื้อได้หนังเช่นที่ทีมชุดก่อน ๆ เคยทำได้ และในสภาพที่ตัวเองก็ต้องการแต้ม เพื่อผ่านเข้ารอบ ในกลุ่มที่สถานการณ์ยังดูคลุมเครือ ยังไม่รู้ว่าใครที่จะไปยืนในรอบ 16 ทีมสำเร็จ กระทั่งซาอุดิอาระเบียเอง หากพ่ายโปแลนด์ขึ้นมา ทุกอย่างก็เหมือนถูกรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง การเจอกับเสือบาดเจ็บ “หนัก” อย่าง อาร์เจนติน่า ในตอนนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมเลยจริง ๆ สำหรับทีมที่ผูกปีแพ้ทีมฟ้าขาว อย่าง เม็กซิโก

เม็กซิโก กลุ่ม ซี ฟุตบอลโลก 2022

จังโก้อันตราย เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นหนแปดติดต่อกัน (ภาพ: www.elfutbolero.us)

สถานการณ์ผู้เล่นของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

เรื่องดีเรื่องหนึ่งหลังการออกสตาร์ตที่น่าผิดหวังก็คือ อาร์เจนติน่าไม่มีรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และไม่มีนักเตะที่อยู่ในสภาพฟื้นฟูร่างกายให้ต้องเป็นห่วง โดยเปาโล ดีบาล่า จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับแนวรุกให้สคาโลนี่ได้เลือกใช้งาน โดยที่เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, อังเจล ดิ มาเรีย และเมสซี่ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

ในเกมเสมอโปแลนด์ มาร์ติโน่เลือกใช้บริการเฮนรี่ มาร์ติน ก่อนราอูล ฮิมิเนซ​ โดยให้โอกาสกองหน้าจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 20 นาทีสุดท้ายของเกม ด้วยสภาพร่างกายที่กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังได้รับบาดเจ็บก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ไม่นาน ฮิมิเนซน่าจะเป็นตัวเลือกแรกของมาร์ติโน่ในเกมนี้ ซึ่งจะกลายเป็นการลงเล่นตัวจริงในเกมที่เป็นการแข่งขันครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ลิโอเนล เมสซี่ ฟ้าขาว ฟุตบอลโลก 2022

แชมป์ฟุตบอลโลกคือแชมป์เดียวที่เมสซี่ยังคว้ามาไม่ได้ ที่ใกล้ที่สุดก็คือ รองแชมป์เมื่อปี 2014 (ภาพ: AFP)

นักเตะที่น่าจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงของอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

อาร์เจนติน่า ระบบ 4-3-3: อีมิลิโอ มาร์ติเนซ; โมลิน่า, โรเมโร่, โอตาเม็นดี้, อะคูญ่า; เดอ ปอล, ปาเรเดส; ดิ มาเรีย, เมสซี่, อัลวาเรซ; เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
เม็กซิโก ระบบ 4-3-3: โอชัว; ซานเชซ, มอนเตส, โมเรโน่, กัญญาร์โด้; ชาเวซ, เอ็ดสัน อัลวาเรซ, เอร์เรร่า; โลซาโน่, ฮิมิเนซ, เวก้า

กิแยร์โม โอชัว จังโก้อันตราย ฟุตบอลโลก 2022

กับการที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ของเขา ทำให้โอชัวคือเสียงแห่งประสบการณ์ของทีมจังโก้อันตรายชุดนี้ (ภาพ: REUTERS/Matthew Childs)

สถานการณ์ของเกมระหว่างอาร์เจนติน่าและเม็กซิโก

หากจะบอกว่า เม็กซิโกคือลูกไล่ของอาร์เจนติน่าคงไม่ผิด เมื่อดูจากสถิติเก่า ๆ โดย 7 นัดหลังสุดที่เจอกัน ทีมฟ้าขาวไม่เคยแพ้เลย และชนะไปถึง 6 นัด โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ให้กับทีมจังโก้อันตราย ก็โน่นปี 2004 กับการที่แพ้เกมเปิดหัว และสถิติไม่แพ้ใครยาวนานถึง 36 นัดจบลง ถือเป็นคราวเคราะห์ของเม็กซิโกก็ว่าได้ ที่ต้องเจอกับอาร์เจนติน่า ซึ่งต้องระเบิดความมุ่งมั่น ความอัดอั้นทุกอย่างในตัวใส่ทีมไหนสักทีม แล้วนอกจากจะไม่แพ้ใครมา 36 นัดแล้ว ภายใต้การคุมทีมของสคาโลนี่ทีมฟ้าขาวยังไม่เคยแพ้ใครติดต่อกันเลย

แล้วกับการที่ต้องการทั้งคะแนน ทั้งกู้ชื่อของตัวเองกลับมา อาร์เจนติน่าคงต้องใส่เต็มที่ และน่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ก่อนจะไปวัดกับโปแลนด์ในนัดสุดท้าย

อาร์เจนติน่าจะชนะจังโก้อันตราย โดยน่าจะยิงได้ถึง 3 ประตู ที่ต้องมาลุ้นกันว่า เม็กซิโกจะเจาะทีมฟ้าขาวได้กี่ประตู

เรื่องน่าอ่าน
1. กลุ่ม ดี ฟุตบอลโลก 2022 เช็กชะตาแชมป์เก่าตราไก่ เวลาของโคนม? ใครจะเป็นทีมแจกแต้มของกลุ่มนี้

2. นักเตะตราไก่ ที่จะทำให้แชมป์โลกไม่เจออาถรรพ์แชมป์เก่าในฟุตบอลโลก 2022
3. โปแลนด์กับห้าผู้เล่นคนสำคัญ ที่จะทำให้พวกเขาพ้นสภาพทีมแกร่งแค่รอบคัดเลือก ในฟุตบอลโลก 2022
4. ห้าจังโก้อันตราย ที่จะพาเม็กซิโกไปไกล ในฟุตบอลโลก 2022
5. นักเตะแดนจิงโจ้ ความหวังพาออสเตรเลียไปให้ไกลในฟุตบอลโลก 2022