อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ : อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย

อังคาร 13 ธันวาคม 2565, 02.00 น.
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม, ลูเซล
ถ่ายทอดสด : True4U

 

ผลการพบกัน : 5 นัด
อุ่นเครื่อง 1994 เสมอ 0-0
ฟุตบอลโลก 1998 อาร์เจนติน่า ชนะ 1-0
อุ่นเครื่อง 2006 โครเอเชีย ชนะ 3-2
อุ่นเครื่อง 2014 อาร์เจนติน่า ชนะ 2-1
ฟุตบอลโลก 2018 โครเอเชีย ชนะ 3-0

 

ผลงานในฟุตบอลโลก 2022
อาร์เจนติน่า

รอบแบ่งกลุ่ม แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เม็กซิโก 2-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ โปแลนด์ 2-0
รอบ 16 ทีม ชนะ ออสเตรเลีย 2-1
รอบ 8 ทีม เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2, ชนะจุดโทษ 4-3

โครเอเชีย

รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ โมร็อกโก 0-0
รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ แคนาดา 4-1
รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ เบลเยียม 0-0
รอบ 16 ทีม เสมอ ญี่ปุ่น 1-1, ชนะจุดโทษ 3-1
รอบ 8 ทีม เสมอ บราซิล 1-1, ชนะจุดโทษ 4-2

ความพร้อมก่อนเตะ
อาร์เจนติน่า

 

มาตามหาแชมป์โลกสมัย 3 ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ด้วยทรงสวยหรูเป็นที่สุด สร้างสถิติไร้พ่ายยาวนาน 36 นัด แต่ปรากฏว่าสะดุดล้มหัวทิ่มหัวตำตั้งแต่เกมแรก ยิงนำ ซาอุดีอาระเบีย ไปก่อนตอนต้นเกม สุดท้ายพลิกพ่าย 1-2

 

ทว่าเกม 2 อาร์เจนฯ ก็ฮึดขึ้น ยิง เม็กซิโก 2-0 ตามด้วยเกมปิดกลุ่ม สยบ โปแลนด์ 2-0 ขณะที่รอบ 16 ทีม เหนื่อยหน่อยในการเจอจิงโจ้หลังพิงฝา แต่ก็ยังตรึงสกอร์ชนะ 2-1 ได้สำเร็จ รวมถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แม้โดน เนเธอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 2-2 ทดเจ็บ 90+11 แต่ก็ยังมีคุณภาพมากพอจะเอาชนะในช่วงดวลจุดโทษ

 

มาถึงเกมรอบตัดเชือกนัดนี้ หมายความว่า อาร์เจนติน่า ขอชนะอีกแค่ 2 เกมซ้อนเท่านั้น ไม่ว่าจะชนะในเวลาหรือ 120 นาที หรือดวลจุดโทษซ้ำอีก ก็จะถึงฝั่งฝันแชมป์โลกสมัย 3 ที่รอมาอย่างเนิ่นนานตั้งแต่ปี 1986 มาแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ลิโอเนล สคาโลนี่ มีปัญหาสภาพทีมพอสมควร คราวนี้แผลเกิดขึ้นที่หลังบ้านบ้าง เมื่อทั้ง มาร์กอส อคุนย่า และ กอนซาโล่ มอนเทียล 2 ฟูลแบ็กที่มีส่วนสำคัญกับทีมฟ้าขาวมาตลอดทัวร์นาเมนต์ ต้องติดโทษแบนพร้อมกัน ไม่สามารถลงเล่นเกมนี้ได้

 

ส่วน 3 แนวรุก ที่ก่อนหน้านี้ อังเคล ดิ มาเรีย เจ็บต้นขา, อเลฮานโดร โกเมซ เจ็บข้อเท้า และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เจ็บข้อเท้าเช่นกัน ทั้งหมดจะพร้อมเป็นตัวเลือก หลังฟิตกลับมาได้ตั้งแต่รอบที่แล้ว

 

ภายหลังปรับใช้ระบบสามเซนเตอร์แบ็กเพื่อเน้นเพลย์เซฟในเกมกับ เนเธอร์แลนด์ ก็เชื่อว่า สคาโลนี่ จะไม่ประมาท โครเอเชีย และยึดหมากนี้เอาไว้ต่อ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้ลงมาถมเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ คริสเตียน โรเมโร่ ส่วนตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายที่ อคุนย่า ติดแบน จะเป็น นิโกลัส ตายาฟิโก้ ลงแทน

 

ดังนั้นเกมรุกจึงจะมาแบบ 2 กองหน้าอีกครั้ง ใช้ ลิโอเนล เมสซี่ กับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เข้าทำ โดยมี เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย เป็นกำลังเสริม

 

ทั้งนี้ เปาโล ดีบาล่า สตาร์จากโรม่า ที่มาร่วมแคมป์หลังหายบาดเจ็บ ยังไม่ได้สัมผัสเกมบอลโลกเลยสักนาที เมื่อไม่ถูก สคาโลนี่ ใช้งานเลยตลอด 4 เกมที่ผ่านมา

 

โครเอเชีย

ชนะติดต่อกัน 5 เกมซ้อนในช่วงเตรียมทีม ก่อนจะเปิดฟุตบอลโลก 2022 แบบหนืดเล็กๆ ได้ผลเสมอจาก โมร็อกโก 0-0 ก่อนเร่งเครื่องกราดยิง แคนาดา 4-1 แล้วก็กลับไปหนืดอีกครั้ง เสมอ เบลเยียม 0-0 เพียงแต่ผลเสมอ เบลเยียม ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังมาจากบ้าน เมื่อเป็นแต้มที่ทำให้ได้เข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง

 

จากนั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ โดมินิค ลิวาโควิช เป็นฮีโร่ เซฟจุดโทษ ญี่ปุ่น 3 ครั้ง จนชนะการดวลเป้า 3-1 ภายหลังเสมอ 1-1 ใน 120 นาที ไม่ต่างกันกับรอบ 8 ทีม ที่ลงเอยเสมอ บราซิล 1-1 และต้องดวลจุดโทษตัดสิน ก่อนได้ ลิวาโควิช เซฟลูกยิงของ โรดรีโก้ โกเอส กับ มาร์กินญอส ซัดชนเสาประตู จน โครเอเชีย ชนะ บราซิล 4-2

 

มาถึงเกมชี้ชะตาเข้าชิงหรือแค่ชิงที่ 3 นัดนี้ ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือตาหมากรุก ไม่มีปัญหาใหญ่ สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดได้ ยกเว้นต้องเช็กฟิต โยซิป สตานิซิช ดาวรุ่งจากบาเยิร์น มิวนิค ที่เจ็บกล้ามเนื้อ เพียงแต่ก็เป็นสำรองในทีมชุดนี้อยู่แล้ว

 

ส่วนทาง บอร์นา โซซ่า จากสตุ๊ตการ์ท ที่ก่อนหน้านี้มีอาการป่วย ฟิตกลับมาลงตัวจริงในเกมกับ บราซิล ไปก่อนแล้ว เกมนี้สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง

 

ระบบจะยึด 4-3-3 ตามเดิม และ 11 คนแรกก็ไม่น่าเปลี่ยนจากรอบก่อนๆ แดนกลางอัดแน่นด้วยตัวเก่งอย่าง มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ส่วนข้างหน้าใช้ อีวาน เปริซิช เดินเกมรุกร่วมกับ อันเดรจ์ ครามาริช และ บรูโน่ เพ็ตโควิช

 

ตัวความหวัง
อาร์เจนติน่า : ลิโอเนล เมสซี่

กับการมาบอลโลกหนสุดท้าย เห็นได้ชัดว่า เมสซี่ ทุ่มเทสุดกำลังในแทบทุกเกม และยังพร้อมออกงิ้วใส่คู่แข่งด้วยเพื่อไล่ล่าแชมป์โลกเป็นการสั่งลา ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ ดาวเตะวัย 35 กำลังเข้าฝักดีเสียด้วยในซีซั่นนี้ ยิง 12 ประตูให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ 14 ประตูจากการลงสนามแค่ 9 นัดหลัง ในบอลโลกครั้งนี้ก็กดไปแล้ว 4 เม็ด อยู่ในเส้นทางการช่วงชิงรองเท้าทองคำดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 เต็มตัว และที่สำคัญกว่ารองเท้าทองคำ ก็คือแชมป์โลกที่ตามหามาทั้งชีวิตนั่นเอง

 

โครเอเชีย : ลูก้า โมดริช

อะไรจะฟิตได้ขนาดนี้ ฟิตเปรี๊ยะจนเริ่มมีการแซวกันว่า นักเตะชื่อ ลูก้า โมดริช ที่จริงแล้วไม่ใช่แข้งตัวเก็๋าวัย 37 แต่คือเด็กอายุ 17 ปลอมตัวมา อย่างเกมล่าสุดกับ บราซิล เล่นครบ 120 นาทีไม่พอ ยังเป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษ อีกทั้งก็ยังโชว์ฟอร์มเหนือชั้นในแทบทุกเกม สมกับการเป็นเจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ 2018 เป็นหัวใจสำคัญของการกำหนดจังหวะเกมช้าเร็ว การขึ้นบอลในแดนกลาง ไปจนถึงมีประโยชน์ทั้งรุกรับ แม้สถิติพังประตูในทีมชาติจะไม่ได้มากนัก 23 ลูกจาก 160 นัดก็ตาม

 

11 ตัวจริงที่คาด
อาร์เจนติน่า (5-3-2 กุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่) เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – นิโกลัส ตายาฟิโก้, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, นาอูเอล โมลิน่า – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ลิโอเนล เมสซี่
โครเอเชีย (4-3-3, กุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช) โดมินิก ลิวาโควิช – บอร์นา โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เดยัน ลอฟเรน, โยซิป ยูราโนวิช – มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช – อีวาน เปริซิช, อันเดรจ์ ครามาริช, บรูโน่ เพ็ตโควิช

 

สถิติที่เกี่ยวข้องกับเกม อาร์เจนติน่า ปะทะ โครเอเชีย

• หลังจากเสมอแบบไร้สกอร์ในปี 1994 ก็ผลัดกันแพ้ชนะมาคนละ 2 ครั้ง
• พบกันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 หน ก็ผลัดกันแพ้ชนะเช่นกัน
• ล่าสุดในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โครเอเชีย ทำเซอร์ไพรส์ยิงขาดถึง 3-0 ด้วยมีจุดเปลี่ยนกับลูก 1-0 ที่ วิลลี่ กาบาเยโร่ เตะเปิดเข้าทาง อันเต้ เรบิช ยิงเข้าไปง่ายๆ ก่อนท้ายเกม ลูก้า โมดริช และ อีวาน ราคิติช จะมาบวกเพิ่มปิดเกมที่ 3-0

• แม้จะถูกหยุดสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 36 นัด แต่การแพ้ ซาอุดีอาระเบีย ก็เป็นความพ่ายแพ้นัดเดียวเท่านั้นจาก 41 เกมหลังสุดของ อาร์เจนติน่า
• อาร์เจนติน่า ยิงประตูคู่แข่งเกมละ 2 ลูก มา 4 เกมซ้อน
• ลิโอเนล สคาโลนี่ พาทีมแพ้เกมเดียวจาก 41 นัดหลังสุด (รวมทำทีม 55 นัด ชนะ 36 เสมอ 14 แพ้ 5)
• ถ้าได้ลงเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ จะเล่นทีมชาติเป็นเกมที่ 171, อังเคล ดิ มาเรีย 129, นิโกลัส โอตาเมนดี้ 99, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ 46
• ลิโอเนล เมสซี่ จะเล่นเกมอาชีพนัดที่ 1,002 ของตัวเอง แบ่งเป็น 778 กับบาร์เซโลน่า, 171 กับอาร์เจนฯ และ 53 กับเปแอสเช
• ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้ทีมชาติ 14 ประตูจากการลงสนามแค่ 9 นัดหลัง

• ลิโอเนล เมสซี่ เกิด 24 มิ.ย. 1987 หรือหนึ่งปีให้หลังจากแชมป์โลกหนสุดท้ายของชาติบ้านเกิด ส่วนคนที่เกิดในปีแชมป์โลกพอดีคือ ฟรังโก้ อาร์มานี่ ประตูมือสอง เกิด 16 ต.ค. 1986
• ด้าน ลิโอเนล สคาโลนี่ กุนซือทีมฟ้าขาว เกิด 16 พ.ค. 1978 หรือแค่เดือนเดียวก่อน อาร์เจนติน่า ยุค มาริโอ เคมเปส, ออสซี่ อาร์ดิเลส, ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า ครองแชมป์โลกสมัยแรก ฟุตบอลโลก 1978 ในบ้านตัวเอง

• อาร์เจนติน่า พกสุดยอดสถิติมาด้วยอย่างการที่ “ชนะรอบตัดเชือกทุกครั้ง” ในฟุตบอลโลก ยกเว้นปี 1978 ที่ระบบการแข่งขันไม่ได้มีรอบตัดเชือก แต่นำเอาแชมป์ของรอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2 เข้าไปชิงชนะเลิศกัน (และ อาร์เจนติน่า ต่อเวลาชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-1 ครองแชมป์โลกสมัยแรก)
1930 ชนะ สหรัฐอเมริกา 6-1 / นัดชิงแพ้ อุรุกวัย 2-4
1986 ชนะ เบลเยียม 2-0 / นัดชิงชนะ เยอรมนีตะวันตก 3-2
1990 ชนะจุดโทษ อิตาลี 4-3 / นัดชิงแพ้ เยอรมนีตะวันตก 0-1
2014 ชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-2 / นัดชิงแพ้ เยอรมนี 0-1

• โครเอเชีย ไม่แพ้ใครมาแล้ว 11 เกมซ้อน เป็นชนะ 6 เสมอ 5
• โดมินิค ลิวาโควิช เซฟจุดโทษไปแล้ว 4 ครั้งในบอลโลกหนนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของการเล่นฟุตบอลโลก 1 สมัย เท่ากับ ดานิเยล ซูบาซิช รุ่นพี่โครแอต (2018) และ เซร์คิโอ กอยโคเชีย ของอาร์เจนติน่า (1990)
• ลิวาโควิช ยังทำสถิติเซฟมากสุดในเกมเดียวของฟุตบอลโลก 2022 รวม 11 ครั้ง สูงสุดในรอบ 8 ปี หรือตั้งแต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ทำไว้ 15 เซฟ นัดที่ สหรัฐอเมริกา แพ้ เบลเยียม 1-2 ในรอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2014

• โครเอเชีย เป็นทีมแรกที่ชนะดวลจุดโทษ 4 นัดรวดในฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีม – ชนะ เดนมาร์ก 3-2
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีม – ชนะ รัสเซีย 4-3
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม – ชนะ ญี่ปุ่น 3-1
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีม – ชนะ บราซิล 4-2
• โครเอเชีย เข้าถึงตัดเชือกฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งสองหนที่ผ่านมา จบอันดับสาม (1998) และเป็นรองแชมป์ (2018)
• โครเอเชีย ชนะเกม 90 นาทีในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แค่ “นัดเดียวถ้วน” (4-1 แคนาดา) นอกนั้นเสมอหมด (4 นัด) แต่มาถึงตัดเชือกแล้ว

• มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นในฟุตบอลโลก 5 ทัวร์นาเมนต์หลัง (10 แมตช์) ที่เกิดการยิงกันแบบ “ขาดลอย” ในรอบตัดเชือก ซึ่งก็คือ เกมที่ เยอรมนี มอบฝันร้ายให้ บราซิล 7-1 เมื่อปี 2014 นอกนั้นถ้าไม่เสมอกันก็ชนะแบบเฉือนเม็ดเดียว
ฟุตบอลโลก 2002 เยอรมนี 1-0 เกาหลีใต้, บราซิล 1-0 ตุรกี
ฟุตบอลโลก 2006 เยอรมนี 0-0 อิตาลี (อิตาลี ต่อเวลาชนะ 2-0), โปรตุเกส 0-1 ฝรั่งเศส
ฟุตบอลโลก 2010 อุรุกวัย 2-3 เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี 0-1 สเปน
ฟุตบอลโลก 2014 บราซิล 1-7 เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ 0-0 อาร์เจนติน่า (อาร์เจนฯ ชนะจุดโทษ 4-2)
ฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศส 1-0 เบลเยียม, โครเอเชีย 1-1 อังกฤษ (โครเอเชีย ต่อเวลาชนะ 2-1)

 

ทรรศนะกูรู
คริส ซัตตัน, บีบีซี : อาร์เจนติน่า ชนะ 1-0
“ต้องยอมซูฮกให้กับ โครเอเชีย เลย เพราะที่จริงผมกาชื่อพวกเขาทิ้งไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง และก็ต้องยอมรับแต่โดยดีว่าผมมองพวกเขาผิดไป พวกเขาเป็นทีมที่ออร์แกไนซ์กันได้ดีมาก ลูก้า โมดริช ในวัย 37 ยังยอดเยี่ยม พวกเขาเก็บบอลได้ คอนโทรลเกมได้ มีความยืดหยุ่นสูง”
“ดังนั้นนี่จะเป็นเกมยากมากๆ ของ อาร์เจนติน่า แต่ผมก็เชื่อว่า อาร์เจนติน่า จะลงเล่นแบบไม่ประมาท และรู้อยู่แล้วว่าจะเจออะไรจากคู่แข่ง มันอาจจะเป็นโอกาส 50-50 ในการหาผู้ชนะ แต่ก็คงไม่ผิดบาปเกินไปนักถ้าผมจะให้หัวใจนำมากกว่าหัวสมอง และผมจะเลือกให้ เมสซี่ ทะลุเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศ”
“ผมพูดเสมอมาว่า ดีเอโก้ มาราโดน่า คือนักเตะหมายเลขหนึ่ง และเขาครองแชมป์โลกในปี 1986 เส้นทางมหัศจรรย์ของ เมสซี่ ถูกตีตราจากบางคนว่าไม่สมบูรณ์ เมื่อเขายังไปไม่ถึงแชมป์โลก แต่ตอนนี้เขาเหลือแค่ 2 นัดเพื่อทำมันให้เป็นจริง และผมก็อยากเห็นมันเกิดขึ้น”
“ใช่ นี่ยังหมายความว่าผมกาชื่อ โครเอเชีย ทิ้งไปจากฟุตบอลโลก 2022 อีกครั้ง และเชื่อผมสิ ถ้าเกมต้องถึงช่วงดวลจุดโทษ มันก็จะเป็น โครเอเชีย อีกนั่นแหละที่ชนะ”

 

ความน่าจะเป็น
เลิกคิดเรื่องยิงถล่มขาดลอยกันได้ เมื่อ 90% ของรอบตัดเชือกช่วงหลายปีหลังออกเฉือนๆ หรือไม่ก็เจ๊ากัน สำหรับเกมนี้ ก็แน่นอนเช่นกันว่าคู่คี่สูสี มีโอกาสชนะพอๆ กัน แต่เงื่อนไขสำคัญอยู่ที่ อาร์เจนติน่า ว่าจะสามารถปิดจุดอ่อนของตัวเองอย่างการ “แผ่วปลาย” ได้หรือไม่ หลังจากสองรอบที่ผ่านมาโดนเจาะตอนท้ายตลอด แต่ก็เชื่อว่าเมื่อมาถึงตรงนี้ พวกเขาคงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไปต่อนัดชิงดำให้ได้

 

ผลที่คาด : อาร์เจนติน่า ชนะ 1-0

 

อาร์เจนติน่า vs โครเอเชีย : ตัวต่อตัว ตัดเชือก ฟุตบอลโลก 2022
0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น